ตอนที่ 760: กุญแจสู่ขอบฟ้า

ตอนที่ 760: กุญแจสู่ขอบฟ้า 

ความว่างเปล่าสีคราม

นั่นคือสิ่งแรกที่หลงเทียนซิงรับรู้หลังจากก้าวข้ามธรณีประตูมิติ ร่างกายของเขาเหมือนถูกยืดออกจนยาวเหยียดแล้วบิดเป็นเกลียวตามกระแสเวลาที่บิดเบี้ยว 

เสียงกัมปนาทของการพังทลายของวิหารใต้พิภพเงียบหายไปในทันที ถูกแทนที่ด้วยเสียงหวีดหวิวแหลมสูงราวกับเสียงกรีดร้องของวิญญาณนับล้านที่วนเวียนอยู่ในห้วงมิติ

ความรู้สึกไร้น้ำหนักทำให้เขารู้สึกคลื่นเหียน แต่สิ่งที่หนักอึ้งที่สุดกลับไม่ใช่ร่างกาย หากแต่เป็นก้อนเนื้อในอกข้างซ้าย และวัตถุแข็งเย็นเฉียบในมือขวา... "ขลุ่ยหยก" ของน้องชาย

"อึก..."

เสียงร้องของสือโถวดังขึ้นด้านหลัง ช่วยเรียกสติของหลงเทียนซิงกลับมา แสงสีฟ้าครามที่โอบล้อมพวกเขาเริ่มจางลง เริ่มเผยให้เห็นปลายทางที่ขาวโพลนจนแสบตา

ตุบ! ตุบ! ตุบ!

ร่างของพวกเขาทั้งห้าพุ่งหลุดออกมาจากรอยแยกมิติกลางอากาศ ก่อนที่จะร่วงลงกระแทกพื้นน้ำแข็งแข็งกระด้างอย่างรุนแรง แรงกระแทกทำให้ให้หิมะฟุ้งกระจายขึ้นมาบดบังทัศนวิสัย

"แค๊กๆ... ทุ... ทุกคนปลอดภัยไหม?" เสี่ยวเยี่ยนไอโขลกๆ พยายามยันกายลุกขึ้นมา แต่นางก็ต้องชะงักเมื่อลมหายใจที่พ่นออกมากำลับกลายเป็นไอสีขาวที่หนาทึบ

วูบบบบบบ—!!!

แต่ทันทีที่ตั้งหลักได้ พายุหิมะอันบ้าคลั่งก็โหมกระหน่ำใส่พวกเขาราวกับต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความพิโรธ ความหนาวเย็นที่นี่ไม่ใช่ความหนาวตามธรรมชาติ 

แต่มันคือ "ความหนาวเหน็บระดับจิตวิญญาณ" ที่สามารถแช่แข็งเลือดในกายของผู้ฝึกตนระดับสูงได้ภายในไม่กี่ลมหายใจ

"หนาว... หนาวมากไปแล้ว!" หลิวชิงอีที่บาดเจ็บอยู่เดิมหน้าซีดเผือด ริมฝีปากเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ

ร่างกายสั่น กึกๆๆๆ จนควบคุมไม่ได้

"ที่นี่มัน... ขั้วโลกเหนือ..." เย่วหลิงเสวี่ยกัดฟันแน่น นางรีบประสานมือทั้งสองข้าง 

"ทุกคนรวมกลุ่มกัน! เร็วเข้า!"

"ค่ายกลอัคคีนิรันดร์ ม่านเพลิงเก้าสุริยัน!"

เย่วหลิงเสวี่ยกระทืบเท้าลงบนพื้นน้ำแข็ง เปลวเพลิงสีส้มสว่างพุ่งออกมาจากร่างของนาง ไม่ใช่แค่เปลวไฟปกติธรรมดา แต่มันคือเปลวไฟแก่นแท้จากศาสตร์แห่งแก่นแท้และพลังลมปราณบริสุทธิ์ 

เปลวไฟนั้นไม่ได้แผดเผาเพื่อนพ้อง แต่กลับก่อตัวเป็นโดมแสงสีส้มสว่างครอบคลุมร่างของพวกเขาทั้งห้าเอาไว้ ป้องกันลมหนาวและพายุหิมะที่บ้าคลั่งอยู่ภายนอก

อุณหภูมิภายในม่านพลังค่อยๆ อุ่นขึ้น แต่กลับกัน สีหน้าของเย่วหลิงเสวี่ยกลับไม่สู้ดีนัก

"ประตูมิตินั้น..." นางชี้ไปด้านหลัง

หลงเทียนซิงหันขวับไปมอง รอยแยกมิติสีฟ้าครามที่พวกเขาผ่านเข้ามา บัดนี้กำลังหดตัวลงอย่างรวดเร็ว และภาพสุดท้ายที่เขามองเห็นผ่านรอยแยกนั้น คือกลุ่มควันฝุ่นสีดำทมึนจากการถล่มของนครใต้พิภพ ก่อนที่แสงสีฟ้าจะกระพริบดับไป

ป็อป!

ความเชื่อมโยงสุดท้ายระหว่างพวกเขากับหลงเฟย... ขาดสะบั้นลงอย่างสมบูรณ์

ความเงียบงันเข้าปกคลุมกลุ่มคนทั้งห้า มีเพียงเสียงหวีดหวิวของลมพายุภายนอกม่านพลัง

หลงเทียนซิงทรุดเข่าลงบนพื้นน้ำแข็ง ในมือกำขลุ่ยหยกแน่นจนสั่นระริก

"หลงเฟย..." สือโถวเอ่ยเสียงแผ่ว ดวงตาแดงก่ำ

"เขาเลือกแล้ว..." หลงเทียนซิงตอบเสียงแหบพร่า 

"เขาเลือกที่จะเสียสละตัวเอง... เพื่อให้พวกเรามายืนอยู่ ณ ที่นี้"

เขาค่อยๆ ยกขลุ่ยหยกขึ้นมาแนบแก้ม สัมผัสที่ไออุ่นเมื่อครู่ ตอนนี้เริ่มเย็นชืดลงตามสภาพอากาศ แต่กับหลงเทียนซิง มันยังคงบรรจุความทรงจำของน้องชายเอาไว้ทุกอณู

"ท่านพี่...

เย่วหลิงเสวี่ยวางมือบนไหล่ของสามี นางรู้ดีว่า... คำปลอบโยนใดๆ ก็ไร้ความหมายในยามนี้ 

นางทำได้เพียงกระชับ "หม้อหลอมศักดิ์สิทธิ์" ที่ผูกติดไว้ข้างเอวให้แน่นขึ้น เพื่อย้ำเตือนเขาว่าความหวังยังไม่ดับสูญ

หลงเทียนซิงสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามที่จะข่มกลั้นความเจ็บปวดปานหัวใจถูกควักออกไป เขาค่อยๆ ยันกายลุกขึ้น ดวงตาสีอำพันที่เคยเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เริ่มแสดงให้เห็นถึงความแข็งกร้าว

"พวกเราต้องไปต่อ..." เขาพูดพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ 

"เฟยเอ๋อบอกว่าที่นี่คือทางลัดเข้าสู่ฐานทัพผู้สังเกตการณ์... ถ้าอย่างนั้น เราก็น่าจะอยู่ใกล้เป้าหมายไม่ไกลแล้ว"

"ชิงอี เจ้ายังไหวไหม?" หลิงเสวี่ยหันไปถามด้วยความเป็นห่วง

"ข้า... ดีขึ้นแล้ว ขอบใจ" หลิวชิงอีพยักหน้า

นางพยายามที่จะเพ่งสายตามองฝ่าพายุหิมะออกไป ด้วยทักษะเนตรอาคม แม้ทัศนวิสัยจะย่ำแย่แค่ไหน นางก็เริ่มเห็นเค้าลางของบางสิ่งบางอย่าง

"ทิศเหนือ..." หลิวชิงอีชี้นิ้วออกไป 

เสียงของนางยังสั่นเครืออยู่เล็กน้อยจากความตื่นตระหนก 

"ทุกคน... ดูนั่นสิ"

พายุหิมะเริ่มทุเลาลงเล็กน้อย เผยให้เห็นเส้นขอบฟ้าที่ไกลลิบๆ

ภาพที่ปรากฏแก่สายตาได้ทำเอาทุกคนตะลึงงัน

บนท้องฟ้าสีเทาหม่นเหนือทุ่งน้ำแข็งขั้วโลก กลับมี "รอยแยกมิติสีม่วงเข้ม" ขนาดมหึมาพาดผ่านราวกับแผลเป็นบนใบหน้าของท้องฟ้า มันไม่ใช่ประตูมิติเล็กๆ แบบที่หลงเฟยสร้าง แต่กลับเป็นรอยฉีกขาดที่กว้างใหญ่ไพศาล 

กระแสพลังงานสีม่วงดำไหลล้นทะลักออกมาจากรอยแยกนั้น ย้อมเมฆหมอกรอบๆ ให้กลายเป็นสีแห่งความตาย

และท่ามกลางรอยแยกนั้น... วัตถุโลหะรูปทรงประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังบินว่อนอยู่

พวกมันไม่มีปีก ไม่มีการกระพือแบบสัตว์ มีผิวโลหะสีเงินด้านสะท้อนแสงประหลาด และขับเคลื่อนด้วยแกนพลังปราณที่ปล่อยแสงสีฟ้าจางๆ พวกมันบินวนไปมารอบๆ รอยแยกมิติ ราวกับฝูงผึ้งที่กำลังปกป้องรัง

"นั่นมัน... กองทัพของกลุ่มผู้สังเกตการณ์?" สือโถวอ้าปากค้าง 

"พวกมันมีเยอะขนาดนี้เชียวรึ? แถมยัง... ดูล้ำยุคกว่าศัสตราวุธใดๆ ในตอนนี้"

"รอยแยกสีม่วงนั่น..." เย่วหลิงเสวี่ยหรี่ตามอง 

"ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย... กลิ่นอายแบบเดียวกับ 'เงามีชีวิต' แต่เข้มข้นกว่าหลายเท่า"

หลงเทียนซิงจ้องมองภาพนั้นเขม็งตึง ไฟแค้นในเริ่มลุกโชนขึ้นมาแทนที่ความหนาวเหน็บ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมน้องชายถึงต้องสละชีพเพื่อส่งพวกเขามาที่นี่

ถ้ารอยแยกนี้ขยายตัวสมบูรณ์... ถ้ากองทัพนาวาปราณเหล่านี้เคลื่อนพลออกไป... โลกนี้คงถึงกาลปวสาน ไม่มีสำนักใด ไม่มีผู้ฝึกตนคนไหน ที่จะต้านทานพลังระดับนี้ได้

"พวกมันกำลังเตรียมการบุกระลอกสุดท้าย" หลงเทียนซิงเอ่ยเสียงเย็น ราวกับประกาศิตมัจจุราช

เขาก้มลงมองขลุ่ยหยกในมืออีกครั้ง นิ้วโป้งลูบไล้ผิวสัมผัสเรียบลื่นของมัน ก่อนที่จะเหน็บมันเข้าที่เอวของเขาในตำแหน่งเดียวกับที่หลงเฟยเคยพกพา 

จากนั้นเขาก็ดึง "กระบี่มังกรคำรณ" ออกมาจากฝัก

เสียงโลหะเสียดสีดัง เคร้ง ก้องกังวานไปทั่วทุ่งน้ำแข็ง

"เฟยเอ๋อได้เปิดทางให้เราแล้ว... ดังนั้น ส่วนที่เหลือ คือหน้าที่ของพวกเรา"

หลงเทียนซิงหันกลับมามองสหายร่วมเป็นตายตายกันทุกคน แววตาของเขาไม่มีความลังเลหลงเหลืออยู่อีกต่อไป มีแต่เพียงความมุ่งมั่นที่จะเผาผลาญศัตรูให้วอดสิ้น

"เป้าหมายของพวกเราอยู่ตรงหน้าแล้ว...

เขาเงยหน้ามองขึ้นไปที่จุดสูงสุดของรอยแยกสีม่วง

"ต้นกำเนิดของความว่างเปล่า"

"ไปกันเถอะ... ไปคิดบัญชีกับมัน ทวงคืนทุกอย่างที่มันพรากไปจากเรา!"

สิ้นเสียงประกาศกร้าว หลงเทียนซิงก็ก้าวเดินนำฝ่าพายุหิมะ มุ่งตรงสู่รอยแยกมิติที่น่าสะพรึงกลัวนั้น โดยมีภรรยาและสหายทั้งสามตามไปติดๆ 

เงาของพวกเขาทอดยาวไปบนพื้นหิมะ ดูเล็กจ้อยเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของภัยคุกคามเบื้องหน้า

แต่กลับเด็ดเดี่ยวอย่างน่าประหลาด


ในขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไป

ณ จุดที่สูงขึ้นไปเหนือทุ่งน้ำแข็ง ขึ้นไปยังใจกลางของ "รอยแยกมิติสีม่วง"

ภายในความมืดมิดอันไร้ก้นบึ้งของรอยแยกนั้น 

กลับปรากฏ "ดวงตายักษ์" สีแดงฉานคู่หนึ่งที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา 

มันจ้องมองลงมายังจุดเล็กๆ ห้าจุดที่กำลังเคลื่อนที่อยู่บนพื้นโลก

มุมปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคมในเงามืด แสยะยิ้มที่น่าขยะแขยง

"หนูสกปรก... เล็ดลอดเข้ามาจนได้สินะ"

เสียงกระซิบนั้นดังก้องไปทั่ว ทำให้นาวาปราณของผู้สังเกตการณ์สามลำที่บินลาดตระเวนอยู่ใกล้ๆ หยุดชะงัก ก่อนจะหักเลี้ยวเปลี่ยนทิศทาง... 

หัวเรือหันตรงดิ่งลงมายังตำแหน่งของหลงเทียนซิงและพรรคพวก 

พร้อมกับปากกระบอกปืนใหญ่ที่เริ่มปลดปล่อยอณูพลังงานแสงสีม่วง!

 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)