Reincarnation Of The Strongest Sword God 2926
ตอนที่ 2926 การหลอมมานา
เมืองหินโบราณ คฤหาสน์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง ห้องเก็บสมบัติประจำเมือง
เมื่อเสวี่ยเหวินโหรวก้าวเข้าไปในห้องเก็บสมบัติประจำเมือง เธอก็แทบจะจำห้องนี้ไม่ได้ ตอนที่พวกเขายึดเมืองหินโบราณได้ ห้องเก็บสมบัติประจำเมืองก็เต็มไปด้วยแร่หายากสำหรับสายอาชีพทุกสาย กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ของวิหารเทพปีศาจได้กวาดล้างดินแดนของอาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆไปมากมาย แถมพวกมันยังทำการปล้นสะดมทั่วทั้งอาณาจักรเพอร์เพิลธอร์นอีกด้วย โดยในขณะที่กองทัพกำลังปล้นสะดมอยู่นั้น จักรพรรดิอสูรก็ใช้เหล่ามอนสเตอร์ขนย้ายทรัพยากรทั้งหมดไปยังห้องเก็บสมบัติประจำเมืองของเมืองหินโบราณ โดยที่แร่หายากที่ถูกรวบรวมมาทั้งหมดนั้นมีมากมายจนเธอมองไม่เห็นผนังห้อง แต่ในขณะนี้มันกลับเหลือเพียงไม่กี่ร้อยกองเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าสงครามโลกที่ผ่านมานั้นมีราคาสูงมากเพียงใด และนี่ก็นับเป็นเหตุผลหลักๆเลยที่หลายๆกิลด์มักจะหลีกเลี่ยงสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสงครามนั้นมีผลตอบแทนที่เล็กน้อยหรือมีโอกาสสำเร็จต่ำ
ประการแรก สมาชิกกิลด์จะถูกใช้เป็นแนวหน้าแทนการไปบุกดันเจี้ยน ทำให้รายได้กิลด์ลดลง
นอกจากนี้กิลด์ยังต้องจัดหาทรัพยากรอันมีค่าจำนวนมากให้กับสมาชิกอีกด้วย เช่น ม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์, โพชั่น, อาหาร แถมยังรวมไปถึงอุปกรณ์สิ้นเปลืองอีกด้วย อย่างเช่น วงเวทย์, Armour Kits และอุปกรณเวทย์มนตร์ นอกเหนือจากนี้เหล่าสมาชิกกิลด์ที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนนั้น เมื่อตายลงในสงคราม พวกเขาก็จะต้องได้รับค่าชดเชยสำหรับการสูญเสียเลเวลและได้รับอาวุธกับอุปกรณ์ใหม่จากคลังกิลด์ด้วย
แม้ว่าสภาสิบแปดปีกมักจะไม่ส่งกองกำลังออกไปต่อสู้ที่แนวหน้าของสนามรบมากนัก และในหลายๆครั้งก็กิลด์ก็ชนะสงครามได้ด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้น 5 กับผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังเทียบเท่ากับขั้นห้า พร้อมกับอาวุธสงครามจำนวนมหาศาล แต่แม้จะมีสถิติที่น่าทึ่งเช่นนี้ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตของสภาสิบแปดปีกก็ยังคงมากกว่าหนึ่งล้านคนเลยทีเดียว เพราะกองทัพจากโลกอื่นนั้นมีความแข็งแกร่งและจำนวนคนโดยเฉลี่ยแล้วสูงกว่ามาก นี่ยังไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่กองทัพจากโลกอื่นนั้นมาพร้อมกับ NPC ครึ่งเทพขั้นห้า ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษจำนวนสิบกว่าคนด้วย โดยเพื่อที่จะจัดการกับ NPC เหล่านี้ให้ได้นั้น สภาสิบแปดปีกต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญขั้น 5 ของตัวเอง จำนวนสามถึงสี่คนรุมเลยทีเดียวจึงจะสามารถจัดการได้
จำนวนสมาชิกของสภาสิบแปดปีกที่ตายลงไปมีจำนวนมากกว่าผู้เล่นจากโลกอื่นหลายเท่า ด้วยเหตุนี้เองมันจึงทำให้การฟื้นฟู และทดแทนทรัพยากรของกิลเป็นไปได้อย่างเชื่องช้ามากๆ หากเทียบกับอัตราเดิม แต่หากสภาสิบแปดปีกสามารถทำลายกองทัพโลกอื่นได้แบบเบ็ดเสร็จ พวกเขาก็จะสามารถเก็บรวบรวมอาวุธ กับอุปกรณ์ที่ดรอปจากผู้เล่นที่ตายได้ ซึ่งมันจะสามารถทดแทนความสูญเสียได้ทันที อย่างไรก็ตามเรื่องนี้พูดง่ายกว่าทำ เพราะในท้ายที่สุดพวกเขาสามารถทำได้อย่างมากที่สุดแค่ทำให้กองทัพโลกอื่นถอยกลับไปเท่านั้น
ความสูญเสียที่สภาสิบแปดปีกต้องเสียไปกับอุปกรณ์สิ้นเปลือง การชดเชย และอาวุธสงครามที่หาย หรือถูกทำลายไป มันสูงจนน่าตกใจเลยทีเดียว แต่สิ่งที่กระทบกับการเงิน และการคลังของกิลที่สุดก็คือ คำสั่งรวบรวมคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ของซือเฟิงนั่นเอง หากไม่ใช่เพราะมีกิลด์อื่นๆมาใช้บริการเช่าเรือเหาะชางเล่ยระดับเหล็กลึกลับกับหุ่นกลผู้พิทักษ์อสูรไฟแล้วละก็ สภาสิบแปดปีกอาจถึงคราวล้มละลายเป็นแน่
ในคลังกิลตอนนี้แทนที่จะมีกองภูเขาคริสตัลเจ็ดลูมินารี่จำนวนสี่แสนชิ้น แต่มันกลับมีเพียงกองเล็กๆจำนวนสองหมื่นห้าพันชิ้นเท่านั้น
สิ่งนี้ทำให้เสวี่ยเหวินโหรวรู้สึกปวดใจอย่างมาก
สำหรับซือเฟิง เขาทำแค่เพียงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเดินไปยังกองคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่แล้วหยิบมันขึ้นมาหนึ่งชิ้น โดยมันมีขนาดเท่ากำปั้นคน ซึ่งเทียบเท่ากับคริสตัลเจ็ดลูมินารี่หนึ่งหน่วย
อีกด้านหนึ่งสายตาของเสวี่ยเหวินโหรวจับจ้องมองซือเฟิงด้วยความสงสัย
หลังจากนั้นไม่นานซือเฟิงก็ได้หลับตาลง และพยายามเพ่งจิตไปที่การรับรู้มานาของตนเองจนกระทั่งสามารถสัมผัสกับมานาภายในคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ได้ หลังจากที่เขาเข้าใจข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในคริสตัลมรดกของเทพโบราณแล้ว เขาก็เข้าใจหลักการทำงานของมานาที่อยู่ในคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ทั้งหมด และยังเชี่ยวชาญการสร้างร่างเทพที่แข็งแกร่งอีกด้วย
แถมตอนนี้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตของเขาก็อยู่ในขั้นสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตแล้ว ซึ่งมันทำให้เขาสามารถคิด และประมวลผลได้เร็วกว่าแต่ก่อนถึงสิบเท่า และยังมีความสามารถในการควบคุมมานาจากคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ได้ดั่งใจนึก
คริสตัลเจ็ดลูมินารี่มีความแข็งจนไม่มีอะไรเทียบได้ มันจึงเป็นวัตถุดิบที่สมบูรณ์แบบในการสร้างมานา ตัวคริสตัลเต็มไปด้วยมานาบริสุทธิ์และหนาแน่นมาก ทั้งยังมีความสามารถในเปลี่ยนแปลงมานาที่อยู่รอบๆได้อีกด้วย คริสตัลเจ็ดลูมินารี่ประกอบด้วยมานาทั้งเจ็ดชนิด สี่ธาตุหลัก: ดิน น้ำ ลม ไฟ และสามองค์ประกอบสูงสุด: ภาพลวงตา มิติ และเวลา ขณะที่คริสตัลธาตุอื่นๆจะมีเพียงธาตุเดียว และความจริงที่ว่าคริสตัลเจ็ดลูมินารี่มีการเหนี่ยวนำมานาที่เหนือกว่า มันจึงเป็นวัตถุดิบที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างมานา
ชายหนุ่มดูสงบนิ่ง แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าคริสตัลในมือกำลังส่องแสง
ในตอนที่เสวี่ยเหวินโหรวก้าวขึ้นมาเป็นพวกขั้นห้านั้น เธอสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองไปได้ 388 เปอเซ็นต์ ความสามารถในการรับรู้มานาที่โดดเด่น สอดคล้องกับขอบเขตเหนือโดเมนของเธอ ซึ่งสามารถรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มานากำลังรั่วไหลออกมาจากคริสตัล แต่มันไม่ใช่ออร่าปกติของมานาเจ็ดสี ไม่สิ มานานี้ประกอบด้วยอนุภาคเล็กๆของแต่ละธาตุ นั่นหมายความว่ามานานั้นถูกสกัดออกมาด้วยวิธิการพิเศษ มานาที่อยู่ในคริสตัลเจ็ดลูมินารี่มักจะอยู่นิ่งๆ สงบๆ
ขณะที่เธอกำลังรับรู้มานาอันสมบูรณ์แบบในคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ เธอสัมผัสได้ถึงมานาทั้งเจ็ดธาตุกำลังปั่นป่วนอยู่ พวกมันกำลังหมุนวน แยกออก หลอมรวม ปะทะ และผสมผสานกัน ดูวุ่นวายมาก และมันน่าทึ่งมากที่คริสตัลยังไม่แตกร้าว หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกงุนงงเมื่อมองเห็นรูปแบบอันวุ่นวายของมานา
มานาที่กำลังปั่นป่วนอยู่นั้นไม่ได้เกิดขึ้นเองหากแต่เกิดจากการทำงานร่วมกันของวงเวทย์เป็นพันชุดที่จารึกเป็นขนาดเล็ก ภายในโครงข่ายมานาที่หนาแน่น เมื่อมานาบางธาตุถูกขับออกไปจากคริสตัล มานาธาตุที่เหลือก็จะก่อตัวเป็นอักษรรูนขนาดเล็กมากๆ แล้วเชื่อมโยงต่อกันจนกลายเป็นวงเวทย์
นี่คือการหลอมมานาหรือเปล่า?
เสวี่ยเหวินโหรวเคยแอบดูแบบร่างมานาพิเศษของอัลบา เกรย์ ช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียง แต่ตอนนั้นเธอเพิ่งจะอยู่ขั้น2 และยังไม่ได้สร้างร่างมานาขั้น3 จึงแทบไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับมานาเลย แค่หนึ่งประโยคในแบบร่างมานาพิเศษที่ซับซ้อน เธอก็ยังไม่เข้าใจเลย แต่การได้เห็นซือเฟิงบรรจุวงเวทย์ลงไปในโครงข่ายมานาทำให้เธอนึกถึงแบบร่างมานาพิเศษขึ้นมา
และพูดกันตามตรงแม้แต่เมลานโคลิคสไมล์กับครีมโกโก้ หัวหน้าช่างตีเหล็กของบริษัทการค้าแสงเทียนที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ช่างตีเหล็กขั้นสูงก็ยังงุนงงกับแบบร่างมานาพิเศษนี้
ทว่าซือเฟิงกับสามารถแสดงสิ่งที่เรียกว่าการหลอมมานาออกมาได้อย่างง่ายดาย! เขาไม่ใช้เครื่องมือมานาใดๆ ใช้เพียงร่างมานาเพื่อควบคุมมานาเท่านั้น!
ด้านของซือเฟิงนั้นก็ยังคงหลับตาอยู่ด้วยท่าทางสงบนิ่งราวกับกำลังทำสมาธิอยู่ เพราะการจะควบคุมมานาภายในคริสตัลในระดับที่แม่นยำต้องอาศัยพลังของสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตอันเข้มข้น นอกจากนี้ยังต้องมีความเข้าใจในคำแนะนำของมรดกของเทพโบราณอย่างถ่องแท้อีกด้วย เมื่อรวบรวมปัจจัยหลายอย่างเข้าด้วยกัน ประกอบกับร่างเทพขั้นสูงและขอบเขตโดเมนขั้นสูง ทำให้เขาสามารถหลอมมานาขึ้นมาได้ หากขาดข้อใดข้อหนึ่งจากสี่ข้อนี้ การจะหลอมมานาโดยไม่ใช้ตัวช่วยจะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น
ในเวลาอึดใจต่อมา เมื่อคริสตัลที่กำลังเรืองแสงค่อยๆจางลง มานาธาตุต่างๆก็ค่อยๆหยุดหลั่งไหลออกจากคริสตัล ออร่าเจ็ดสีในคริสตัลถูกแทนที่ด้วยวงเวทย์ที่เชื่อมต่อกันเป็นวงกต ซึ่งสร้างขึ้นมาได้ด้วยการรับรู้มานาของคนคนหนึ่งเท่านั้น
เสวี่ยเหวินโหรวอ้าปากค้าง ขณะที่เธอมองซือเฟิงอยู่เงียบๆ เธอเพิ่งเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ท้าทายสามัญสำนึก ….
เงาของวงเวทย์สีส้มที่สะท้อนนัยน์ตาของซือเฟิงขณะมองคริสตัลในมือ เขาเผยรอยยิ้มออกมาแล้วเอ่ยว่า ….
“รับไว้สิ เสวี่ยเหวินโหรว” เขาโยนคริสตัลมาให้เธอ สายตาอันเย็นชาของเสวี่ยเหวินโหรวแฝงด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจ้องมองไปที่คริสตัลซึ่งไม่ใช่คริสตัลเจ็ดลูมินารี่แล้ว แต่เป็นคริสตัลหลากสีที่จารึกด้วยวงเวทย์มานาเชื่อมต่อกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันดูคุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง
หรือว่าจะเป็น?
เธอเปิดใช้งานสกิลตรวจสอบของตัวเองทันที และเนื่องจากซือเฟิงเป็นผู้สร้างคริสตัลมันจึงไม่มีแถบโหลดสำหรับการประเมินไอเทม ดังนั้นข้อมูลของมันจึงปรากฏขึ้นมาทันที
[มรดกเทคนิคการทำลายล้างศักดิ์สิทธิ์](ไอเทมใช้แล้วหมดไป)
มรดกเทคนิคนี้มีข้อมูลของเทคนิคมานาการทำลายล้างศักสิทธิ์อยู่ภายในเมื่อเปิดใช้งาน ผู้ใช้จะได้รับคำแนะนำเทคนิคเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง : ดาบที่หนึ่ง ไลท์ชาโดว์, ดาบที่สอง โฮลี่ดีวอร์, และดาบที่สาม การทำลายล้างศักดิ์สิทธิ์ คำแนะนำภายในเทคนิคมรดกการทำลายล้างศักดิ์สิทธิ์นั้นสมบูรณ์แล้ว แต่จะสลายไปภายในหนึ่งวัน เทคนิคการทำลายล้างศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างขึ้นโดยนักบุญสวรรค์น้ำเงิน และถูกส่งต่อไปยังจักรพรรดิดาบซือเฟิง เทคนิคนี้ได้รับการดัดแปลงจากเทพโบราณซือเฟิง โดยผสมผสานหลักการของกฎแห่งมานาและกฎแห่งการทำลายล้าง
ไม่สามารถใช้ซ้ำได้
ใช้ได้ครั้งเดียว
ค่าเปิดใช้งาน: คริสตัลเวทย์ 100 ชิ้น
จำนวนการใช้งานปัจจุบัน: 0
ระบบ: คริสตัลความทรงจำนี้ไม่เสถียรเป็นอย่างยิ่ง สามารถคงอยู่ได้เพียงหนึ่งวันเท่านั้นก่อนจะหายไป
เมื่อเสวี่ยเหวินโหรวเห็นข้อมูลที่ปรากฏขึ้น เธอก็รู้สึกตกตะลึงและงุนงงอย่างมาก การที่ NPCสามารถสร้างคริสตัลความทรงจำได้นั้นเป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไป แต่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าผู้เล่นสามารถสร้างคริสตัลความทรงจำได้ด้วย และนี่ไม่ใช่แค่ความทรงจำธรรมดา แต่มันเป็นความรู้เทคนิคที่ได้จากระบบหลักของ God domain เลยนะ !!!
คริสตัลนี้จะทำงานเหมือนกับมรดกคำแนะนำของนักบุญแห่งดาบขั้นห้า ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ นี่ไม่ใช่มรดกร่างมานา หากแต่เป็นมรดกเทคนิค เทคนิคมานาที่มีชื่อเสียงของซือเฟิง การทำลายล้างศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ในตลาด แต่หากให้ประมาณคร่าวๆมันก็สามารถจะนำไปแลกกับอุปกรณ์สวมใส่สักชิ้นที่เป็นระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานได้แน่นอน
การที่ซือเฟิงสามารถถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดลงในคริสตัลความทรงจำได้นับเป็นข่าวดีสำหรับสมาชิกแกนหลักของสภาสิบแปดปีกเป็นอย่างมาก เพราะเขาถือเป็นคนที่มีความรู้มากที่สุดในสภาสิบแปดปีกแล้ว จนกระทั่งมันมีข่าวลือด้วยซ้ำว่าเขามีญาณหยั่งรู้ และด้วยหน้าที่ กับความรับผิดชอบมากมายในฐานะหัวหน้ากิลด์ ทำให้เขาไม่มีเวลามาสอนเหล่าแกนหลัก แต่เมื่อเขาสามารถถ่ายทอดคำแนะนำลงในคริสตัลความทรงจำได้ เทคนิคและความเข้าใจในกฎแห่งมานาของทุกคนจะทะยานสูงขึ้นอย่างแน่นอน!
คริสตัลความทรงจำของซือเฟิงอาจจะไม่เสถียรและคงอยู่ได้เพียงหนึ่งวันเท่านั้น แต่มันก็จะไม่ส่งผลอะไรหากใช้มันในทันที ข้อเสียนี้เพียงส่งผลต่อการขายคำแนะนำมรดกเท่านั้น อีกทั้งพวกเขาก็ไม่ได้วางแผนจะขายเป็นอย่างแรกอยู่แล้ว อีกทั้งนี่มันยังเป็นครั้งแรกที่ซือเฟิงสร้างคริสตัลความทรงจำขึ้นมา และมันก็ยังสามารถปรับปรุงมันได้อีก
เสวี่ยเหวินโหรวอยู่ในขั้น 6 แล้ว ไม่ต้องการมรดกร่างมานาอีกต่อไป ดังนั้นมรดกเทคนิคมานาแบบนี้นี้จึงนับเป็นสิ่งที่เธอต้องการเพื่อเพิ่มพลัง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอสนใจในคำอธิบายนั้น
“เทพโบราณหรอ?” เสวี่ยเหวินโหรวพึมพำกับตัวเองพร้อมกับหันไปมองซือเฟิง เธอรู้ว่าเขาเป็นเทพขั้น 6 แต่ทำไมเขาถึงกลายเป็นเทพโบราณไปได้ล่ะ? เธอเคยได้ยินคำนี้อยู่ แต่ก็เข้าใจว่ามันหมายถึงเทพแก่ๆเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อดูข้อมูลอีกครั้ง เธอก็พลันนึกขึ้นได้ว่าเธอเข้าใจผิดไปมากแค่ไหน เทพโบราณต่างจากเทพธรรมดาก็ตรงที่ว่า เทพโบราณมีคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตสูงกว่ามาก!
ซือเฟิงหยิบคริสตัลเจ็ดลูมินารี่ขึ้นมาอีกหนึ่งชิ้น แต่ครั้งนี้เขาถือมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ขมวดคิ้วและใส่พลังลงไปอย่างเห็นได้ชัด
นี่.…
ทันใดนั้นเสวี่ยเหวินโหรวก็รู้สึกตัวสั่นและกรีดร้องในใจ เธอเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น จากนั้นซือเฟิงก็ปลดปล่อยคลื่นพลังและแรงกดดันทางจิตออกมา ทั่วทั้งห้องพลันมืดลงในขณะที่ตัวเขาสว่างขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ แม้แต่มิติก็ยังแตกออกเป็นทางยาวเนื่องจากไม่สามารถทนรับพลังของเขาได้ อักษรรูนโบราณที่สลักอยู่บนผนังของคฤหาสน์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองก็ส่องสว่างและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พวกมันพยายามรักษาตัวอาคารไว้ด้วยขณะที่ออร่าก็กลืนกินแกนวงเวทย์
ออร่าของซือเฟิงทรงพลังมากจนทำให้ผู้เล่นและ NPC ในเมืองหินโบราณต่างวิ่งวุ่นตกอยู่ในความโกลาหล ผู้เล่นหลายแสนคนล้มลงภายใต้แรงกดดัน พร้อมๆกับที่การเคลื่อนไหวและการหายใจก็หยุดชะงัก
“อะ…อะไรน่ะ…ทำไมถึง…ขยับ…ไม่ได้”
“ร่างกายของเรา… แข็งค้าง…หายใจ…ไม่ออก”
“ระ..แรงกดดัน?!”
ไม่ว่าผู้เล่นเหล่านี้จะเลเวลอะไร ขั้นอะไร ก็ไม่มีใครหนีพ้นแรงกดดันนี้ได้
แม้แต่เสวี่ยเหวินโหรวก็ยังมีใบหน้าที่ขาวซีดภายใต้แรงกดดันนี้ ร่างกายขั้น 6 ของเธอไม่อาจเคลื่อนไหวและหยุดนิ่งอยู่กับที่ แรงกดดันนี้ไม่ได้เกิดจากแรงกดดันทางจิต แต่มันเกิดขึ้นจากความต่างชั้นกันของพลัง ไม่สิ นี่คือแรงกดดันทางกายภาพล้วนๆ เพราะความแตกต่างของคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิต
ออร่า Divine Might! คือออร่าและพลังที่เป็นเอกลักษณ์ของเทพ
ในขณะที่เหล่าทวยเทพได้ละทิ้ง God Domain ไปแล้ว แม้แต่ร่องรอยออร่าของ Divine Might ก็ยังหายากมาก ออร่าของเทพแข็งแกร่งมากจนทำให้สภาพแวดล้อมเสียหาย พลังงานที่เหลือก็ยังทรงพลังเสียจนยากจะขจัดด้วยแม่น้ำแห่งกาลเวลา วิหารโบราณ, เทวสถาน, แท่นบูชา, วัด, และสิ่งก่อสร้างบางแห่ง ที่เหล่าเทพเคยใช้งาน อย่างเช่น หอคอยพิเศษที่ยังคงมีร่องรอยของออร่า Divine Might หลงเหลืออยู่ นอกจากนี้ของหรือไอเทมบางอย่างที่ลือกันว่าเหล่าเทพเคยใช้ ก็ยังมีออร่าของ Divine Might หลงเหลืออยู่ด้วยเช่นกัน
ผู้เล่นทั่วไปมักจะรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อเจอกับออร่านี้ และต่อให้ออร่า Divine Mightเจือจางลงไปมากแล้ว มันก็จะยังคงมีแรงกดดันอยู่ มันทำให้รู้สึกเหมือนกำลังจมอยู่ในโลหะเหลวหนืด รู้สึกหมดแรง ถูกยับยั้งการเคลื่อนไหว แม้กระทั่งการหายใจยังติดขัดอีกด้วย ต่อให้เป็นผู้เล่นขั้น 5 ก็ยังรู้สึกไร้พลังต่อกร มีผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยสัมผัสกับมัน แต่คนที่รู้สึก ‘พอใจ’ จะไม่มีวันลืมความรู้สึกนี้เลย พลังของออร่า Divine Might นั้นช่างน่าขนลุก ทรงพลังและบริสุทธิ์เสียจนมีผู้เล่นขั้น 6 เพียงน้อยคนเท่านั้นที่จะใช้พลังนี้ได้
เสวี่ยเหวินโหรวเคยเห็นพลังของออร่า Divine Might ในห้วงมิติที่ปั่นป่วน (โลกที่เสวี่ยเหวินโหรวกับอควาโรสหลงเข้าไป) ทุกๆร้อยฉากเธอจะเผชิญหน้ากับกึ่งเทพขั้น5 และทุกๆห้าร้อยฉากเธอก็จะพบกับเทพขั้น 6 แน่นอนว่าเธอแทบจะตายในทันทีและก็ได้สัมผัสกับแรงกดดันเหล่านั้นด้วยเช่นกัน แต่ออร่าที่แผ่ออกมาจากซือเฟิงกลับเป็นพลังออร่า Divine Might ที่บริสุทธิ์ที่สุดที่เธอเคยเห็น
นี่คือพลังของเทพโบราณหรอ?
เสวี่ยเหวินโหรวมองไปยังซือเฟิงด้วยความแปลกใจ พลังออร่า Divine Might ที่ซือเฟิงปล่อยออกมาค่อยๆจางหายไปและมิติที่อยู่รอบๆตัวเขาก็ซ่อมแซมตัวเองอย่างช้าๆ แต่ร่องรอยของออร่าได้แฝงเข้าไปอยู่ในคลังกิลแล้ว และยังรู้สึกทรงพลังยิ่งกว่าหอคอยสี่เทพเจ้าเสียอีก
แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงมีแรงกดดันจาก Divine Might อยู่ ซึ่งนั่นก็คือคริสตัลในมือซือเฟิงนั่นเอง คริสตัลนั้นไม่ใช่คริสตัลเจ็ดลูมินารี่อีกต่อไป ตอนนี้มันกลายเป็นคริสตัลสีขาวใสและมีพลังออร่า Divine Might แผ่ออกมาด้วย
“นะ…นั่น นั่นคือ…”เสวี่ยเหวินโหรวอึกอักพูดไม่ออก
คริสตัลนี่มันคือสิ่งที่ทุกคนต่างต้องการ แม้แต่เธอก็ยังต้องการใช้มันเพื่ออัพเกรดเกราะเจ็ดลูมินารี่ด้วย แล้วซือเฟิงแค่สร้างมันขึ้นมาง่ายๆเนี่ยนะ?
นี่คือพลังที่แท้จริงของขั้น 6 งั้นหรอ?
เสวี่ยเหวินโหรวตกตะลึง จากนั้นซือเฟิงก็นำหัวใจคริสตัลออกมาจากกระเป๋าของเขา แล้วให้มันดูดซับพลังจากคริสตัลก่อนจะส่งต่อหัวใจคริสตัลนี้ให้กับเสวี่ยเหวินโหรว ซึ่งเธอเองก็รีบรับมันมา และตรวจสอบทันที
[หัวใจที่เสียหายของออกัสตัส](วัสดุระดับดีไวน์อาร์ติแฟคที่อ่อนแอ)
คือหัวใจของออกัสตัสผู้เป็นเทพบาร์บาเรียนและผลึกพลังงานนิรันดร์ เมื่อออกัสตัสตายลง แอ็ทล็อคเทพมารได้รักษาหัวใจและทำการดัดแปลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อเปิดใช้งาน อักขระเวทย์จะถูกสลักบนหัวใจ ผู้ใช้จะได้รับพลังงานนิรันดร์เข้มข้นเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ใช้เวลา 3 เดือนในการฟื้นฟูวงเวทย์ จึงจะเปิดใช้งานได้อีกครั้ง
การฟื้นฟูพลังงานนิรันดร์ของวงเวทย์สามารถทำได้โดยใช้คริสตัลเทพเจ้าจำนวน 1 ชิ้น
“เสวี่ยเหวินโหรว การทดสอบของเธอจะเริ่มในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้านะ” ซือเฟิงหัวเราะเล็กน้อยแล้วพูดอีกว่า “สำหรับฉัน ฉันยังต้องทำการทดสอบอะไรอีกหน่อย ดังนั้นฉันจะออกไปข้างนอกสักครู่”
เมื่อพูดจบซือเฟิงก็ล็อกเอาท์ออกไปจาก God Domain ทันที
“…..” เสวี่ยเหวินโหรวมองไปยังที่ที่ซือเฟิงเคยยืนอยู่ด้วยความโกรธเคือง
“จะทดสอบอะไรอีกเนี่ย?” เธอบ่นกับตัวเอง จากนั้นก็มองไปยังมรดกเทคนิคการทำลายล้างศักดิ์สิทธิ์ในมือซ้าย และหัวใจที่เสียหายของออกัสตัสในมือขวา
“นะ…นี่ เขาคาดหวังให้ฉันเชี่ยวชาญการทำลายล้างศักดิ์สิทธิ์ภายในเวลาสามชั่วโมงงั้นหรอ?” เสวี่ยเหวินโหรวถึงกับเบิกตากว้าง ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามเธอก็จะเข้าใจเมื่อพิจารณาจากความสามารถของซือเฟิง ไม่มีทางที่เขาจะไม่คาดหวัง คนที่มีพรสวรรค์ในระดับท้าทายสวรรค์เช่นนี้ย่อมต้องมีความคาดหวังสูงมากแน่นอน
“เริ่มฝึกตอนนี้เลยดีกว่า …ฉันไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง…” เสวี่ยเหวินโหรวถอนหายใจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น