ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 2263-2280
ตอนที่ 2263 เรื่องในอดีตเมื่อสิบปีก่อน
เหยียนหมิงซุ่นหันไปสำรวจเฮ่อเหลียนเช่อที่กำลังเศร้าสร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า เลิกคิ้วเอ่ยถาม “นายกำลังคิดจะเสียสละตัวเองหันมาสร้างคุณธรรมหรือไง?”
เฮ่อเหลียนเช่อแค่นเสียงหึ “ในพจนานุกรมของฉันไม่มีคำว่าคุณธรรมอยู่หรอก ทุกคนทางตะวันตกเฉียงใต้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน ฉันแค่หวังว่าซูหานและเสี่ยวเป่าจะมีชีวิตที่ดีก็เท่านั้น”
และหนิงเฉินเซวียนพ่อของเขาด้วย เขาหวังว่าพ่อจะมีชีวิตที่เป็นสุขเช่นกัน
ในเมื่อหนิงเฉินเซวียนให้ชีวิตเขา งั้นก็ถือว่า…เขาชดใช้คืนให้ก็แล้วกัน!
“นายยังไร้เดียงสาเกินไป ด้วยความบ้าคลั่งของพ่อนาย นายคิดว่าแค่กำลังของนายเพียงลำพังจะทำลายได้หมดงั้นเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงหัวเราะเยาะ
“แก้ไปทีละขั้นเถอะ ถ้าฉันจัดการคนเดียวไม่ได้ งั้นคงทำได้แค่ให้นายตายไปพร้อมกับฉันแล้วล่ะ…” เฮ่อเหลียนเช่อพูดล้อเล่นหน้านิ่ง
ชนวนระเบิดจะต้องถูกทำลาย ถ้าเขาจัดการคนเดียวไม่ได้ งั้นก็ต้องสองคน!
ถึงอย่างไรเสียก็เลือกจะรับภารกิจนี้แล้ว ฉะนั้นก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดกลับไป เตรียมตัวตายได้เลย!
ในรถเงียบลงอีกครั้ง พร้อมบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความเศร้าสร้อย…
หางตาของเฮ่อเหลียนเช่อเหลือบไปเห็นฉิวฉิวและฉาฉาอีกมุมหนึ่งของรถ เขาเลิกคิ้วด้วยความสนใจ ความทรงจำเกี่ยวกับเจ้าสองแสบนี้ยังคงเด่นชัดอยู่ในความทรงจำของเขา!
สิบปีก่อนที่สโมสรอันดับหนึ่ง ตอนนั้นเขายังไม่รู้จักเหมยซูหานและไม่กลัวใครหน้าไหนเรียกลมเรียกฟ้าได้ด้วยซ้ำ พอตอนนี้คิดย้อนกลับไปในช่วงหลายปีนั้นเขายังรู้สึกเหลือเชื่ออยู่เลย คน ๆนั้นจะเป็นเขาไปได้อย่างไรกัน?
ตอนแรกเขารู้สึกชอบลูกสาวของเฝิงไห่ถังเพื่อนของจ้าวเหมย ผู้หญิงที่แยกแยะเพศไม่ออกคนนั้น ตอนนั้นเขารู้สึกถูกใจมากและคิดจะรวดพาตัวจ้าวเหมยไปด้วย เพียงแต่ว่าคืนนั้นแผนของเขาพลาดล้มไม่เป็นท่า
แต่ดันเสียเปรียบโดนสัตว์ร้ายตัวแสบสองตัวตรงหน้ากัดเข้าให้จนตัวแข็งทื่ออยู่สองชั่วโมง
รสชาตินั้นช่างสุดยอดไปเลย…แม้กระทั่งฉี่ยังไม่มีแรงจะปล่อยออกมาด้วยซ้ำ กระเพาะปัสสาวะแทบแตกอยู่แล้ว!
พอนึกถึงอดีตอันขมขื่นเฮ่อเหลียนเช่อก็สีหน้าหม่นลงในชั่วขณะ จ้องฉิวฉิวและฉาฉาซึ่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอย่างเย็นชา เขาอยากจะบีบเจ้าพวกนี้ให้ตายเสียเดี๋ยวนี้เลย!
เฮ่อเหลียนเช่อเหลือบมองเหยียนหมิงซุ่นที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ ทันใดนั้นก็พบว่าหน้าด้านข้างของเจ้าหมอนี่คุ้นตานัก เมื่อก่อนเคยเห็นแต่ด้านหน้าของเจ้าหมอนี่ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นใบหน้าด้านข้าง!
แต่ทำไมเขาถึงจำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ!
มีภาพปรากฏขึ้นมาในหัวของเฮ่อเหลียนเช่อแวบหนึ่ง เขานึกถึงคนลึกลับที่ช่วยจ้าวเหมยและเซียวเซ่อในกลางดึกเมื่อสิบปีก่อน ถึงแม้จะเป็นยามท้องฟ้ามืดมิดแต่เขากลับมองเห็นอย่างชัดเจน เหยียนหมิงซุ่นก็คือชายลึกลับคนนั้นไม่ใช่หรือไง!
โธ่เอ้ย!
สมองหมูอย่างเขาต้องใช้เวลาถึงสิบปีถึงจะนึกออก!
“เหยียนหมิงซุ่น…สิบปีก่อนที่สโมสรอันดับหนึ่งคนที่เตะเป้ากางเกงฉันก็คือนายใช่ไหม?” เฮ่อเหลียนเช่อถามขึ้นมาลอย ๆ แต่ทว่าน้ำเสียงกลับมั่นใจเป็นอย่างมาก
พอนึกขึ้นมาได้เขาก็หัวเสียทันที อย่างมากช่วงเวลานั้นเหยียนหมิงซุ่นก็น่าจะอายุสิบแปดสิบเก้าเองมั้ง แต่ลงมือเตะได้เหี้ยมโหดและรุนแรงมาก แถมยังจงใจเตะเข้ากลางเป้าของเขาอีก แต่ในเวลานั้นเขาถูกพิษของเจ้าสัตว์สองตัวนี้เข้าให้จนขยับตัวไม่ได้จึงทำได้แค่ทนไป!
เหยียนหมิงซุ่นตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าจู่ ๆเฮ่อเหลียนเช่อจะพูดถึงเรื่องในอดีตขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธ “ใช่ ตอนนั้นนายสมควรโดนเตะ!”
กล้าคิดมิดีมิร้ายกับเหมยเหมย ไม่เตะจนสูญพันธุ์ก็ถือเฮ่อเหลียนเช่อโชคดีมากแล้ว!
เฮ่อเหลียนเช่อแค่นเสียงใส่ พลันรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาจึงไม่กล้าโต้แย้งอะไร
รถแล่นเข้าสู่ชายแดนภูเขาสือว่านอย่างรวดเร็ว ต้นไม้หนาแน่นเขียวชอุ่ม อากาศสดชื่นเป็นอย่างมาก ไม่มีผู้คนเหยียบย่างเข้ามามากนัก แถมยังได้ยินเสียงนกร้องเป็นครั้งคราวอีกด้วย
“จะเข้าไปจากตรงไหน?” เฮ่อเหลียนเช่อหยิบกระเป๋าเตรียมจะขึ้นเขา
“ตรงนี้คือทางเข้า และยังต้องเดินต่ออีกหกชั่วโมง”
เหยียนหมิงซุ่นแบกกระเป๋าขึ้นสะพายหลัง เพราะขับรถเข้าไปข้างในไม่ได้จึงทำได้แค่เดินเข้าไปเท่านั้น ใช้เวลาเดินหกชั่วโมงในระยะเส้นทางภูเขาสำหรับพวกเขาแล้วง่ายยิ่งกว่าการเดินเล่นเสียอีก
ฉิวฉิวก็พาฉาฉาลงจากรถเช่นกัน พวกมันปีนขึ้นต้นไม้อย่างรวดเร็วแล้วเรียกกระรอกทั้งหมดที่อยู่ในละแวกนั้น
…………………………………………..
ตอนที่ 2264 สวรรค์ของงูพิษ
อันที่จริงภูเขาสือว่านไม่นับว่าเป็นภูเขาแต่เป็นยอดเขานับไม่ถ้วนเชื่อมต่อกันก่อตัวเรียงเป็นยาวหลายพันไมล์ ภูเขาสือว่านเป็นเพียงคำเรียกรวม ๆหมายถึงยอดเขาที่มีมากมายหลายแสนลูกและมีพื้นที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
ภูเขาสูงชันแทรกตัวเต็มพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ในภูเขาปกคลุมด้วยต้นไม้สูงใหญ่หนาแน่นจนบดบังผืนป่าจนมืดมิด เดินเล่นบนภูเขาในตอนกลางวันกลับเหมือนเดินเล่นในยามค่ำคืนมองเห็นทางไม่ค่อยชัดนัก
ถึงแม้ว่าเหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อต่างก็มีความสามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนแต่พวกเขาก็ยังคงเปิดไฟฉาย หมวกบนหัวมีแสงไฟเจิดจ้าแถมยังสะดวกมากด้วย
ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกันแล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วคงที่ และใช้มีดพกพาตัดเถาวัลย์ที่ขวางทางเป็นครั้งคราว รวมถึงสัตว์แมลงมีพิษที่มาเกะกะขวางทางมากขึ้นอีกด้วย…
“โธ่เอ้ย…หากยังเข้ามาอีกฉันจะย่างพวกแกซะ…”
เฮ่อเหลียนเช่อไล่งูพิษที่ต้องการโจมตีเขานับครั้งไม่ถ้วนออกไป เหมือนว่าบนภูเขาอันกว้างใหญ่แห่งนี้กำลังทดสอบความกล้าหาญและฝีมือของเขา แต่เขาไม่กล้าฆ่างูพิษซี้ซั้วเพราะงูเป็นสัตว์ที่มีความพยาบาทมาก และภูเขาก็เป็นอาณาเขตของพวกมัน ใครจะรู้ว่างูที่เขาฆ่ามีภูมิหลังเป็นมาเช่นไรบ้าง หากเพื่อนฝูงของพวกมันมาแก้แค้นเอาคืนเขาคงไม่มีเวลามาจัดการพวกมันหรอก!
ทางด้านเหยียนหมิงซุ่นกลับผ่อนคลายสบายมากเพราะเขาแค่ตัดเถาวัลย์ที่ขวางทางเท่านั้น งูและแมลงที่น่าขยะแขยงเหล่านั้นได้แต่มองเขาจากที่ไกล ๆสามเมตร ดังนั้นพวกมันจึงพุ่งเป้าไปทางเฮ่อเหลียนเช่อที่อยู่ด้านหลังเหยียนหมิงซุ่นแทน
ไม่เพียงแต่งูพิษหลากสีหลายชนิด แต่ยังมีแมลงมีพิษหลายชนิดที่ระคายเคืองต่อผิว เฮ่อเหลียนเช่อปัดจนมือไม้พันกันเป็นระวิง รำคาญใจแทบแย่
“…แปลกจัง ทำไมแมลงพวกนี้ไม่ไปรุมนายเลยล่ะ? ทั้ง ๆที่นายก็อยู่ด้านหน้า…เหยียนหมิงซุ่น นายแอบซ่อนยาไล่แมลงเอาไว้ใช่ไหม…”
ในที่สุดเฮ่อเหลียนเช่อก็ค้นพบถึงสิ่งผิดปกติ แถมยังนึกว่าเหยียนหมิงซุ่นแอบทำอะไรลับหลังจึงรู้สึกขุ่นเคืองใจ
เหยียนหมิงซุ่นหันกลับมาและหัวเราะเบา ๆ “เมื่อกี้พวกเราก็ทายาอยู่ด้วยกัน ตาข้างไหนของนายที่เห็นฉันซ่อนยาเอาไว้ล่ะ ทั้ง ๆที่นายไม่ได้เรื่องแท้ ๆ ขนาดแมลงยังตอมนายไม่หยุดเลย!”
“ฉันจะฆ่าพวกมัน…”
ฉับพลันเฮ่อเหลียนเช่อก็นึกขึ้นมาได้ ก่อนเข้ามาพวกเขาทายาด้วยกันแถมยังเป็นยาตัวเดียวกันทุกประการ ผ่านไปครึ่งทางแล้วก็ไม่เห็นเหยียนหมิงซุ่นจะใช้ยาตัวอื่น ฉะนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะแอบซ่อนยาเอาไว้ หรือว่าเขาจะเป็นที่โปรดปรานของพวกแมลงจริง ๆนะ?
ความโมโหพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เฮ่อเหลียนเช่อฟาดฟันพวกมันด้วยมือเดียว เขาคิดจะฟันงูพิษออกเป็นสองท่อนแต่เหยียนหมิงซุ่นมาห้ามไว้ก่อน “งูพิษมีมากขนาดนี้นายฆ่าทิ้งได้หมดเหรอ? ถึงอย่างไรเสียพวกมันก็กัดนายไม่ได้แล้วจะไปสนใจพวกมันทำไม!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่เข้าใจเลยจริง ๆ พวกเขาห่อตัวมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้แต่ปลิงยังเข้าไปไม่ได้เลย งูพิษก็แค่ดูแล้วน่ารังเกียจเท่านั้น กัดก็กัดไม่ได้แล้วจะจริงจังไปทำไม
“ไม่ล่ะ…ฉันเห็นพวกมันแล้วรู้สึกรำคาญ…”
“ตอนนี้พวกเราเป็นฝ่ายบุกเข้ามาในอาณาเขตของพวกมันถือว่าเป็นแขกนะ นายมีสติหน่อย อย่าทำตัวเป็นเจ้าบ้านเสียเองสิ!”
เหยียนหมิงซุ่นถลึงตาใส่เขา เวลาแบบนี้ยังจะทำตัวงอแงไร้สาระอีก ไม่ใช่ผู้หญิงเสียหน่อย!
เฮ่อเหลียนเช่อมีสีหน้าละอายใจอยู่บ้างแต่อดกลั้นเอาไว้อยู่ ผู้ชายตัวใหญ่กลัวแมลงมันดูอ้อนแอ้นไปหน่อยจริง ๆแหละ
แต่เขาไม่กลัววิญญาณชั่วร้าย ไม่กลัวสัตว์ร้าย ยกเว้นก็แต่พวกสัตว์จำพวกนี้เท่านั้น หนึ่งหรือสองตัวยังพอไหวแต่ถ้ามากกว่านี้เขาทนไม่ไหวหรอก
ภายใต้การพูดโน้มน้าวของเหยียนหมิงซุ่น สุดท้ายเฮ่อเหลียนเช่อก็ไม่ได้ฆ่างูพิษและปล่อยพวกมันไป เขาแค่ปัดไล่พวกมันเท่านั้น จนหลัง ๆมีงูพิษน้อยลงมาก น่าจะเห็นว่าเฮ่อเหลียนเช่อไม่มีรังสีอาฆาตแล้วจึงแค่แลบลิ้นและมองดูจากบนต้นไม้ ไม่โจมตีเขาอีกต่อไป
ตอนนี้เป็นฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่งูพิษและแมลงในป่าฝนเขตร้อนชุกชุมมากที่สุด เพราะว่าที่นี่ไม่ค่อยมีผู้คนเหยียบย่างเข้ามามากนัก งูพิษมีศัตรูทางธรรมชาติน้อยลง ป่าฝนที่หนาแน่นแห่งนี้ได้กลายเป็นสวรรค์ของพวกงูพิษ ต้นไม้ทุกต้นเต็มไปด้วยงูพิษซึ่งมันชวนให้ขนหัวลุกเหลือเกิน
พอไม่มีงูพิษโจมตีเฮ่อเหลียนเช่อก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย เวลานี้เขาค้นพบว่าฉิวฉิวและฉาฉาไม่อยู่แล้วจึงเตือนด้วยความหวังดีว่า “เจ้าสัตว์สองตัวของเมียนายหนีหายไปแล้ว!”
ตอนที่ 2265 ไปหาตัวช่วย
เหยียนหมิงซุ่นกลับไม่ได้สนใจอะไรแล้วเอ่ยเสียงเรียบนิ่งว่า “เดี๋ยวพวกมันก็ตามมาเอง ไม่เป็นไร”
เจ้าตัวเล็กสองตัวนี้ไม่ใช่สัตว์ธรรมดา ป่าคือโลกของพวกเขา ต่อให้เขาและเฮ่อเหลียนเช่อเป็นอะไรไป สองตัวแสบนั้นก็จะยังสบายดี ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล
และตอนนี้เขาก็พอจะเดาได้แล้วว่าเจตนาที่เหมยเหมยตั้งใจให้เขาเอาฉิวฉิวและฉาฉามาด้วย ถ้าเขาเดาไม่ผิด การเดินทางไปที่ฐานลับแห่งนี้เจ้าตัวเล็กทั้งสองน่าจะช่วยได้มาก
ฉิวฉิวกระโดดโหนตัวไปมาบนต้นไม้ที่หนาแน่นรวดเร็วปานสายฟ้า เมื่อก่อนมันเคยอาศัยอยู่ที่ภูเขาสือว่านแห่งนี้อยู่ช่วงหนึ่ง สร้างสัมพันธ์กับเหล่าพ้องเพื่อนก็ไม่น้อย แถมยังมีกระรอกเพศเมียที่หน้าตาสะสวยอีกมากมายด้วย เป็นหนึ่งช่วงชีวิตที่ยาวนานแสนสุขสำหรับช่วงชีวิตการเป็นกระรอกของมันเลยทีเดียว
ดังนั้นพอได้กลับมายังดินแดนอันคุ้นเคย ฉิวฉิวก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษ กระโดดโลดเต้นไปมาอย่างมีความสุข
ฉาฉาเองก็เลื้อยตัวไปตามต้นไม้ด้วยความว่องไวไม่ช้าไปกว่าฉิวฉิวเลย ตัวสีเขียวเข้มดูใหญ่ขึ้นเพราะดูดซับพลังงานจากเหยียนหมิงต๋ามาแล้วถึงสองครั้ง มันดูดซับเข้าไปมากจนตัวใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแน่นอนว่าความแข็งแกร่งก็ต้องมากขึ้นด้วยแต่ยังห่างการบรรลุขั้นอีกมากโข
ดังนั้นพอมันได้ยินฉิวฉิวพูดว่ามีโอกาสอันดีสามารถทำให้มันเลื่อนขั้นอีกได้แต่อาจจะลำบากไปสักหน่อย ฉาฉาก็เลือกมาอย่างไม่ลังเลใจเลยสักนิด
ตอนเล็ก ๆพ่อกับแม่เคยพูดว่าความใฝ่ฝันอันสูงสุดของงูอย่างพวกมันคือกลายเป็นมังกร เพียงแต่ช่วงสองสามร้อยปีที่ผ่านมาปราณบริสุทธิ์หายากขึ้นเรื่อย ๆจึงไม่มีใครทำสำเร็จ พ่อแม่ของมันก็ล้มเหลวเช่นกัน จนสุดท้ายก็ถูกฟ้าผ่ากลืนหายไป เหลือแค่มันเอาชีวิตรอดมาได้เพียงลำพัง
จนได้มาพบกับเจ้านายและพี่ฉิว!
ถ้าหากมันทำไม่สำเร็จผลลัพธ์สุดท้ายก็จะเหมือนพ่อแม่ของมัน เขาคงไม่ได้แก่ตายไปตามกาลเวลาแต่จะถูกกลืนเข้าไปในสายฟ้าต่างหาก
ฉะนั้นเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
ดังนั้นมันจะพลาดโอกาสนี้ไปไม่ได้
“พี่ฉิว พวกเราจะไปทำไม?” ฉาฉาถามอย่างสงสัย
“ไปหาตัวช่วยมาช่วยนายไง!”
ฉิวฉิวอธิบายอย่างเรียบง่าย โชคดีที่ภูเขาสือว่านมีปราณบริสุทธิ์ค่อนข้างเข้มข้นจึงมีสัตว์พิเศษมากมายโดยเฉพาะพวกงูซึ่งมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ตราบใดที่พวกเขาสามารถมารวมตัวกันได้มากพอ ฉาฉาและเจ้านายก็จะไม่ตกอยู่ในอันตรายแล้ว
ฉาฉาแลบลิ้นฟ่อ ๆอย่างน่าเอ็นดู มันไม่ได้ถามอะไรอีกแล้วรีบตามหลังฉิวฉิวไป มันกระโดดขึ้นกลางอากาศบ้างเป็นครั้งคราวเหมือนริบบิ้นสีเขียวเข้มยังไงอย่างนั้น งูพิษละแวกนั้นที่มีขนาดใหญ่กว่าพวกมันทั้งสองหลายเท่าต่างก็ไม่กล้าเข้าใกล้
ในไม่ช้าพวกมันก็มาถึงส่วนลึกของภูเขาซึ่งมีต้นไม้สูงใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ลำต้นใหญ่เหมือนบ้านหลังหนึ่งก็ไม่ปาน ทั้งยังมีต้นไม้เล็กมากมายรายล้อมรอบต้นไม้ใหญ่นี้อย่างแน่นหนา
จากต้นไม้ต้นเดียวกลายเป็นป่าผืนใหญ่!
และยังกลายเป็นอาณาจักรของเหล่าสัตว์ทั้งหลายด้วย
การมาเยือนของพวกฉิวฉิวทำให้สัตว์น้อยใหญ่บนต้นไม้วิ่งกันชุลมุนและมองพวกมันจากระยะไกลด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทั้งยังมีพวกงูพิษจำนวนมากห้อยตัวอยู่บนกิ่งไม้เงยหน้าขึ้นมาพร้อมแลบลิ้นฟ่อ ๆ
“ตาแก่…รีบออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้นะ!” ฉิวฉิววิ่งพุ่งตัวไปที่ต้นไม้ร้องเสียงแหลมสูงขึ้นมา ถึงเสียงจะดังไม่มากนักแต่ก็แปรสสภาพเป็นคลื่นเสียงบาง ๆพุ่งตรงไปที่ยอดไม้
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเสียงใบไม้ขยับดังขึ้นราวกับมีอะไรคลานอยู่บนต้นไม้ต้นใหญ่ สัตว์ตัวเล็ก ๆที่อยากรู้อยากเห็นเหล่านั้นต่างแตกกระเจิงหนีหายไปในทันที และพวกงูพิษที่เงยหน้าเมื่อครู่กลับงุดหน้าลงด้วยท่าทีเคารพนบน้อมเหมือนว่าพวกมันกำลังต้อนรับแขกคนสำคัญ
ต้นไม้สูงมากจริง ๆ หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดผู้ลึกลับก็ปรากฏตัวสักที——
มันคืองูหลามยักษ์ยาวเกือบยี่สิบเมตรที่ลำตัวหนายิ่งกว่าถังน้ำเสียอีก หัวงูขนาดใหญ่ที่ทำให้อกสั่นขวัญเสียได้เลย และยังมีเกล็ดที่ส่องแสงวาววับบนลำตัวอีก ดูแล้วไม่มีส่วนไหนที่ไม่น่ากลัวเลยสักจุด
…………………………………………..
ตอนที่ 2266 ความเสี่ยงและโอกาสมักอยู่ด้วยกัน
ฉิวฉิวและฉาฉากลับไม่มีท่าทีผิดปกติอะไร ตัวหนึ่งคือกลับมาพบปะเพื่อนเก่า ส่วนอีกตัวหนึ่งกลับเป็นราชาแห่งเผ่างู แล้วจะกลัวไปทำไม?
“อาลัยอาวรณ์จนต้องกลับมาหรือไง? มาหาฉันมีอะไร…เอ๊ะ…คารวะฝ่าบาท!”
พองูหลามได้พบเพื่อนเก่าก็มีความสุขแต่ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของราชางูได้อย่างรวดเร็วจึงหันไปทางฉาฉา แล้วกล่าวทักทายด้วยความเคารพ
ทั้ง ๆที่ตัวของฉาฉาทั้งเล็กทั้งผอมบาง แถมยังมีขนาดเล็กกว่าเกล็ดของงูหลามเสียอีกแต่งูหลามกลับไม่กล้าทำตัวกำเริบเสิบสานต่อหน้าเขาเลยสักนิด
ฉิวฉิวเป็นคนใจร้อนจึงพูดตัดบทงูหลาม “พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย ตาแก่ ฉันรู้ว่าอายุขัยของแกใกล้ถึงฝั่งเต็มทีแล้ว ถ้าหากแกยังไม่กลายเป็นมังกร แกจะมีชีวิตมากสุดอีกแค่หนึ่งร้อยปีเท่านั้น”
งูหลามไม่พอใจแล้ว “แล้วมันจะทำไม ฉันอยู่มาเกือบพันปีแล้ว ใช้ชีวิตเพียงพอแล้ว”
“ช่างมันงั้นเหรอ หากแกไม่สนใจจริง ๆแล้วทำไมแกถึงให้ลูกหลานเสาะหายาวิเศษทั่วทุกสารทิศมาให้แกล่ะ? ฉันเคยบอกแกนานแล้วว่ายาวิเศษพวกนั้นมันใช้การไม่ได้ ไม่ว่าแกจะกินมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์หรอก” ฉิวฉิวแฉคำโกหกของงูหลามอย่างไม่ไว้หน้าเลยสักนิด
งูหลามทนไม่ไหวอีกต่อไป คร้านจะสนใจเจ้ากระรอกอัปลักษณ์ตัวนี้อีกแล้ว
“ตอนนี้ฉันมีโอกาสอันดี ขอแค่แกอดทนก็จะสามารถกลายเป็นมังกรได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากทนไม่ไหวแกก็จะเป็นแค่เถ้ากระดูกกองหนึ่งเท่านั้น แกอยากลองไหมล่ะ?” ฉิวฉิวบอกจุดประสงค์ของมันไป
มันรู้ว่าตาแก่นี่ต้องหวั่นไหวแน่นอน
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ามันแล้วว่าตาแก่นี่ปรารถนาจะเป็นมังกรมากแค่ไหน!
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ——
“โอกาสอะไร? แกไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?” งูหลามถาม
ฉิวฉิวพุ่งตัวขึ้นไปบนหัวของงูหลามแล้วเล่าเรื่องระเบิดปรมาณูที่ฐานลับคร่าว ๆให้ฟัง “มั่นใจได้ ฉันไม่โกหกแกแน่นอน แต่ว่าอาศัยแค่แกตัวเดียวทำไม่สำเร็จแน่นอน แกต้องเรียกลูก ๆหลาน ๆมาให้เยอะ ๆ ฉันต้องไปหาพ้องเพื่อนคนอื่น ๆด้วย รวบรวมแรงกำลังของเหล่าเผ่าสัตว์อสูรในภูเขาสือว่านมาให้หมด บางทีอาจจะมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นก็ได้”
อยู่ดี ๆงูหลามก็ยิ้มเยาะ “ไม่ใช่ว่าแกจะให้พวกเราไปตายเป็นเพื่อนฝ่าบาทหรอกใช่ไหม?”
ฉิวฉิวเองก็กล่าวพร้อมยิ้มเยาะเช่นกัน “น้องชายของฉันเอาตัวรอดเพียงลำพังไม่ได้ก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าพวกแกจะไม่ได้ผลประโยชน์สักหน่อย ถ้าหากพลาดโอกาสนี้ไปพวกแกก็รอความตายอยู่บนภูเขานี้แล้วกัน!”
งูหลามจมอยู่กับความคิด สิ่งที่เจ้ากระรอกอัปลักษณ์นี้พูดก็เข้าท่าอยู่เหมือนกัน
โอกาสและความเสี่ยงมักอยู่ด้วยกัน เขาจะเลือกมีชีวิตยืนยาวต่อไปอีกร้อยปีอย่างสงบ?
หรือว่าจะเอาชีวิตตัวเองกับลูก ๆหลาน ๆหลายพันตัวร่วมกันต่อสู้เพื่อเดิมพันกับสิ่งนี้?
ถ้าสำเร็จก็กลายเป็นมังกร ถ้าหากล้มเหลวก็กลายเป็นเถ้ากระดูก…
เป็นการเลือกที่ยากมากจริง ๆ!
ฉิวฉิวไม่รอมันอีกต่อไป “แกค่อย ๆคิด ฉันจะไปเผ่าหมาป่าและเผ่าจิ้งจอกก่อน ถ้าแกคิดได้เมื่อไรก็แค่เดินตรงไปทางนี้ ฉันจะรอแกอยู่ที่ปลายทาง และจะรอมากสุดแค่สองวันเท่านั้น!”
พูดจบฉิวฉิวก็เรียกฉาฉาออกเดินทาง ยามคับขันเช่นนี้ไม่ควรเสียเวลา
งูหลามเหม่อมองทิศทางที่ฉิวฉิวกำลังจะไปพลางครุ่นคิด ดวงตาที่ใหญ่กว่าปากชามเปล่งประกาย…เวลาผ่านไปนาน…จู่ ๆงูหลามก็เงยหน้าขึ้นสูงแล้วส่งสัญญาณถึงเผ่างูหลามของพวกเขา
ไม่นานงูยักษ์นับไม่ถ้วนก็มารุมล้อมมัน แต่ละตัวทับซ้อนกันจนกลายเป็นกองพะเนินเลื้อยปีนป่ายกันไปมาบ้างเป็นครั้งคราว ถ้าเฮ่อเหลียนเช่อมาเห็นเขาคงรู้สึกแย่น่าดู
งูหลามเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังชัดเจนอย่างไม่คิดปิดบัง ถ้าบำเพ็ญตนไม่พอชีวิตก็จะต้องดับสูญ แม้กระทั่งตัวมันเองก็ไม่มั่นใจว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาได้
แต่งูทุกตัวกลับไม่คิดลังเลเลยแม้แต่น้อยต่างมุ่งไปข้างหน้าอย่างเชื่อมั่น
“ท่านทวด เพื่อนมนุษย์ของกระรอกตัวนั้นไม่เลวเลย เขาไม่คิดจะทำร้ายพวกเราเลยสักนิด ดูท่าน่าจะไม่ได้โกหกนะ!” งูพิษหลากสีตัวหนึ่งแลบลิ้นพูด ในป่าไม่มีความลับ ทันทีที่เฮ่อเหลียนเช่อและเหยียนหมิงซุ่นเข้าป่ามาพวกมันก็ติดตามทุกความเคลื่อนไหว
งูหลามรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อยจึงเงยหน้าขึ้นและสั่งว่า “ออกเดินทางกัน!”
ในเวลาเพียงชั่วครู่เหล่าลูกหลานที่ถูกเลือกโดยงูหลามนับหมื่นตัวต่างพากันเลื้อยมุ่งไปข้างหน้า สัตว์ตัวอื่น ๆทุกหนแห่งต่างหลบหลีกอยู่ห่าง ๆ
ตอนที่ 2267 ราชาแห่งป่ารวมตัวกัน
ในเวลาเดียวกันเผ่าหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่ที่นำโดยราชาหมาป่าขาวเคลื่อนทัพไปทางฐานลับ
ด้านข้างมีกลุ่มสุนัขจิ้งจอกซึ่งขนาดตัวไม่แพ้หมาป่าเคลื่อนตัวมุ่งไปข้างหน้าภายใต้การนำของราชาจิ้งจอกเช่นกัน
บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ในป่าต่างพากันแตกตื่น ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆราชาแห่งป่าเหล่านี้ถึงได้มารวมตัวกัน แล้วยังรักใคร่กลมเกลียวกันขนาดนี้ด้วย
พวกมันจะไปไหนกันงั้นหรือ?
ทั้งหมดนี้เป็นพ้องเพื่อนที่ฉิวฉิวหามาเพื่อช่วยแบ่งเบาฉาฉา ภูเขาสือว่านเต็มไปด้วยปราณบริสุทธิ์ดังนั้นจึงมีสัตว์วิเศษมากมาย ไม่อย่างนั้นฉิวฉิวคงไม่กล้าปล่อยให้ฉาฉามาเสี่ยงแน่
อย่างน้อยก็ถือว่าฉิวฉิวบอกกล่าวก่อนชัดเจนแล้ว อยากมาก็มาไม่อยากมาก็ไม่ต้องฝืน
แต่กลับไม่มีใครปฏิเสธ ถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านี้แปดถึงเก้าในสิบจะต้องกลายเป็นเถ้าธุลี แต่พวกมันก็ยังมาโดยไม่ลังเลใจเลยสักนิด
ต่อให้จะมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะประสบความสำเร็จแต่พวกมันก็ยังอยากจะลองดูสักตั้ง
อย่างมากสุดก็แค่ตาย!
เหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อกำลังเดินอย่างมุมานะ พวกเขาเดินมาแล้วสี่ชั่วโมงและยังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมง เนื่องจากไม่มีการโจมตีจากงูพิษความเร็วของพวกเขาจึงเร็วขึ้นมาก
“เฮ้ นายสังเกตไหมว่างูน้อยลงมาก”
ทั้งสองพักผ่อนอยู่ริมธารน้ำแต่ไม่มีใครกล้าดื่มน้ำที่ดูใสสะอาดแห่งนี้ น้ำพวกนี้เต็มไปด้วยปรสิตจึงดื่มไม่ได้ เฮ่อเหลียนเช่อหยิบกระติกน้ำทหารออกมา หลังจากดื่มน้ำไปสองสามแก้วจึงพบสิ่งผิดปกติ
เหยียนหมิงซุ่นเองก็รู้สึกว่ามันแปลก ๆ ก่อนหน้านี้ต้นไม้เกือบทุกต้นเต็มไปด้วยงูพิษ ตามหลักแล้วหากยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไรก็น่าจะยิ่งมีงูพิษและสัตว์ร้ายอื่น ๆมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่งูพิษเท่านั้นที่หายไป แม้แต่ลิงก็ยังไม่เห็นสักตัว เขารู้สึกราวกับว่าเข้ามาในป่าปลอมยังไงอย่างนั้น
“แปลกพิกลแฮะ…”
เฮ่อเหลียนเช่อลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายเกร็งไปทุกสัดส่วนแล้วมองไปรอบ ๆอย่างระแวดระวัง
เหยียนหมิงซุ่นก็ทำเช่นเดียวกัน เขาและเฮ่อเหลียนเช่อหันหลังชนกัน ศัตรูคู่อาฆาตในวันวานบัดนี้กลับมอบแผ่นหลังที่อ่อนแอที่สุดของตัวเองมอบให้อีกฝ่ายดูแล
“ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใด ๆ…เกิดอะไรขึ้นกันแน่…”
ทั้งสองคนสังเกตการณ์อยู่นานแต่ก็ไม่มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
ฉับพลันก็ปรากฏแสงสีขาวพุ่งเข้ามานั่นก็คือฉิวฉิวที่หายไปหลายชั่วโมงนั้นเอง มันพุ่งไปที่ไหล่ของเหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงร้องเรียกเขาอยู่หลายครั้งแล้วชี้ไปข้างหน้า
จากนั้นก็มีแสงสีฟ้าพุ่งเข้ามาหาซึ่งก็คือฉาฉานั่นเอง มันพุ่งไปที่ข้อมือของเหยียนหมิงซุ่นแล้วขดตัวอัตโนมัติ เฮ่อเหลียนเช่อเม้มริมฝีปาก เอางูมาสวมเป็นกำไลคงบ้าไปแล้วมั้งเนี่ย!
พอเหยียนหมิงซุ่นเห็นฉิวฉิวก็ใจเย็นลง จากนั้นเขาก็พอจะเดาได้ว่าที่ป่าเงียบสงบมากขนาดนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับที่ฉิวฉิวหายไปหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขาเก็บมีดทหารกลับเข้าไปแล้วหันไปพยักหน้าให้เฮ่อเหลียนเช่อ “ไปต่อ!”
“สัตว์ตัวน้อยสองตัวนี้ที่ภรรยานายเลี้ยงน่าจะมีภูมิหลังอะไรบ้างอย่างใช่ไหม?” แน่นอนว่าเฮ่อเหลียนเช่อก็นึกเหตุผลนี้ขึ้นมาได้จึงถามหยั่งเชิงและถามด้วมความใคร่รู้ขึ้นมา
“ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย ทำไมนายถึงได้กลายเป็นคนน่ารำคาญเหมือนพวกผู้หญิงไปได้นะ!” เหยียนหมิงซุ่นพูดประชดประชันอย่างเย็นชา เฮ่อเหลียนเช่อมีสีหน้าโมโหแล้วเดินตามหลังมาอย่างเกรี้ยวโกรธ
สัตว์ตัวน้อยทั้งสองนี้ต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาแน่นอน บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับยาวิเศษในมือของเหยียนหมิงซุ่นก็ได้ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาแค่อยากทำลายชนวนระเบิดเพื่อทำให้เหมยซูหานและเสี่ยวเป่าใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ฟ้ามืดลงแล้ว ในป่าก็ยิ่งมืดมิดจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้าง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงฐานลลบสักที
ภายใต้การปกคลุมของความมืดยามค่ำคืน ฐานลับและความมืดจึงหลอมรวมเป็นหนึ่งอันเดียวกัน แถมยังมีต้นไม้ใหญ่ขวางไว้อยู่ เข้าดึงรั้วตาข่ายเหล็กยาวขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายบุกเข้ามา
“ตรงนี้แหละ กินอะไรสักหน่อยก่อนแล้วค่อยเข้าไป” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงต่ำ
เฮ่อเหลียนเช่อพยักหน้าแล้วหยิบขนมปังกรอบอัดลมออกมาทานกับน้ำเปล่าพร้อมกับสังเกตภูมิศาสตร์รอบด้านเป็นระยะ ๆ
ฉิวฉิวกลับดึงผมของเหยียนหมิงซุ่นแล้วส่งเสียงร้องจี๊ด ๆ ตัวช่วยที่มันเรียกมายังไม่ถึงเลยจะเข้าไปทำไม!
…………………………………………..
ตอนที่ 2268 ฟังคำสั่งของฉิวฉิว
ทันใดนั้นผมของเหยียนหมิงซุ่นก็ถูกฉิวฉิวกระชากจนยุ่งเหยิงไปหมด น่าอายชะมัด เฮ่อเหลียนเช่อหัวเราะชอบใจบนความทุกข์ของคนอื่น ที่แท้ขนมปังกรอบรสจืดก็กลายเป็นของรสชาติอร่อยได้เช่นกัน
“ฉิวฉิวแกลงมาเลยนะ!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่กล้าลงมือกับฉิวฉิวจึงได้แต่ส่งเสียงตำหนิอย่างเย็นชาแต่ฉิวฉิวกลับไม่กลัวเขา แถมยังดึงแรงขึ้นเรื่อย ๆจนหนังศีรษะเจ็บไปหมด เหยียนหมิงซุ่นต้องดึงหางเจ้าตัวเล็กลงมาแล้วมองมันอย่างเอือมระอา
“อีกเดี๋ยวพวกเราจะเข้าไปนะ ส่วนแกและฉาฉารออยู่ข้างนอก ถ้าหากว่าพวกเราไม่ออกมา แกก็พาฉาฉากลับไปหาเจ้านายของแก แล้วดูแลเจ้านายแกแทนฉันด้วยตกลงไหม?”
เหยียนหมิงซุ่นสั่งกำชับด้วยท่าทีเคร่งขรึม เขารู้ว่าฉิวฉิวจะต้องฟังเข้าใจแน่นอน หากมีเจ้าตัวเล็กสองตัวนี้คอยอยู่ดูแลเหมยเหมยเขาก็วางใจแล้ว!
ฉิวฉิวกลอกตามองบนแล้วพุ่งไปตรงหน้าเหยียนหมิงซุ่น ขาทั้งสองไขว้กันเป็นรูปกากบาททำท่าทางปฏิเสธ เฮ่อเหลียนเช่อเห็นเช่นนั้นก็นึกขำจึงพูดหยอกเย้าว่า “เจ้าสัตว์ตัวน้อยนี่ช่างฉลาดดีจริง ๆ มันไม่ยอมให้นายเข้าไป”
เหยียนหมิงซุ่นถลึงตาใส่เขา ไร้สาระ เขาไม่ได้ตาบอดเสียหน่อยถึงจะมองไม่ออก!
ฉิวฉิวชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วชี้ไปที่ฐานลับเพื่อเปรียบเทียบพร้อมส่งเสียงร้องอยู่หลายครั้ง เหยียนหมิงซุ่นเหมือนจะเข้าใจจึงนั่งยอง ๆกระซิบถามข้างหูฉิวฉิว “นายอยากให้รุ่งสางก่อนแล้วพวกเราค่อยเข้าไปใช่ไหม?”
“จี๊ด ๆ…”
ฉิวฉิวพยักหน้าอย่างแรง เฮ้อ…ไอคิวของนายผู้ชายแทบไม่ต่างกับนายผู้หญิงเลย มันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!
“ฉิวฉิว เวลาของฉันมีไม่มากคงรอจนฟ้าสว่างไม่ได้หรอกนะ” เหยียนหมิงซุ่นคิดจะอธิบายแต่กลับโดนฝ่ามือของฉิวฉิวปิดปากเอาไว้เพราะไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของเขา
การแสดงออกบนใบหน้าของฉิวฉิวก็จริงจังมากเช่นกัน ถ้านายผู้ชายเข้าไปตอนนี้คงไม่รอดกลับมาแน่นอน มันจะปล่อยให้นายหญิงเป็นม่ายไม่ได้!
เฮ่อเหลียนเช่อเร่งอย่างหมดความอดทน “จะเข้าไม่เข้า? หากยังเสียเวลาแบบนี้ฟ้าจะสว่างแล้วนะ!”
เหยียนหมิงซุ่นคิดไตร่ตรองดูแล้วมองฉิวฉิวอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็ตัดสินใจว่า “รอตอนรุ่งสางก่อนแล้วค่อยเข้าไป เราจะพักผ่อนที่นี่ก่อน!”
“โธ่เอ๊ย…เหยียนหมิงซุ่นนายเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าสัตว์ตัวน้อยนี่จริง ๆเหรอเนี่ย…นายมันไม่มีสมองหรือไง!”
เฮ่อเหลียนเช่อถลึงตาใส่เหยียนหมิงซุ่นที่นั่งลงบนพื้นแล้วหลับตาลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ เจ้าสัตว์ตัวน้อยไม่ให้เข้าไป เขาก็ไม่เข้าไปจริง ๆ นี่ถึงขั้นเชื่อฟังขนาดนี้เชียวหรือ?
ฉิวฉิวเองก็ไฟโทสะปะทุขึ้นมาแล้วเหมือนกัน คำก็สัตว์ตัวน้อยสองคำก็สัตว์ตัวน้อย โธ่เอ๊ย…ทำเหมือนกับว่าคุณชายฉิวอย่างมันตายไปแล้วเลยไม่เห็นหัวกันเลยงั้นสิ?
มันกระโดดพุ่งตัวไปตรงหน้าเฮ่อเหลียนเช่อแล้วฟาดอุ้งเท้าใส่เข้าให้จนเฮ่อเหลียนเช่อล้มลงอย่างรุนแรงโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นฉิวฉิวก็นั่งลงบนหน้าของเฮ่อเหลียนเช่อแล้วถูก้นไปมาอยู่หลายครั้งจนมีกลิ่นเหนือคำบรรยายออกมา นั่นจึงทำให้เฮ่อเหลียนเช่อแทบจะสำรอกอาหารเมื่อสามวันก่อนออกมา
“…ฉันจะฆ่าแกให้ตายเลยเจ้าสัตว์เดรัจฉานเอ๊ย…”
เฮ่อเหลียนเช่อลงมือว่องไวปานสายฟ้า เขาคิดจะจับฉิวฉิวที่ก่อเรื่องแล้วคิดหนีมา เหยียนหมิงซุ่นยื่นมือออกไปคว้าฉิวฉิวมาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับส่งสายตาดูถูกเฮ่อเหลียนเช่อ
“รีบนอนเถอะ ไม่แน่พรุ่งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่นายได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้นะ!”
เหยียนหมิงซุ่นหลับตาลงไม่สนใจเฮ่อเหลียนเช่ออีก เขากำลังรอ ฉิวฉิวไม่ให้เขาเข้าไปตอนนี้ ดังนั้นจะต้องมีหนทางแน่นอน
พอฟ้าสว่างก็คงรู้กันแล้ว
********
เมืองหลวง
หลังจากเหยียนหมิงซุ่นจากไปเหมยเหมยก็จิตใจฟุ้งซ่าน กินไม่ได้ นั่งไม่ได้ ยืนไม่ได้ จะเดินก็ไม่ได้ ตอนกลางคืนจะนอนก็นอนไม่หลับ แค่เพียงหลับตาก็จะฝันว่าเกิดเรื่องเลวร้ายกับเหยียนหมิงซุ่นอยู่ตลอด
ทั้ง ๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าฉิวฉิวก็อยู่ด้วย เหยียนหมิงซุ่นคงไม่ตายแน่ ๆแต่เธอก็ยังคงกังวลใจอยู่ดี
กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่แม้แต่ฉิวฉิวก็มิอาจควบคุม ไม่เพียงแต่กังวลใจว่าเหยียนหมิงซุ่นจะไม่กลับมาแต่กลัวว่าแม้แต่ฉิวฉิวกับฉาฉาก็จะกลับมาไม่ได้เหมือนกัน…
พอมีแต่ความกังวลใจและวิตกกังวลเหมยเหมยจึงไม่กล้าหลับตา คางที่เคยโค้งมนบัดนี้ก็แหลมขึ้นอย่างรวดเร็ว เบ้าตาลึกโบ๋ลงไป
ทั้ง ๆที่เพิ่งห่างจากวันที่เหยียนหมิงซุ่นไปแค่วันเดียวเท่านั้น
ตอนที่ 2269 กังวลหวาดกลัว
วันถัดมาเมืองหลวงยังคงเป็นวันท้องฟ้าสดใส ตอนเช้าตรู่แบบนี้ดวงอาทิตย์ยังคงส่องแสงอย่างร้อนแรงบนพื้นโลก ร้อนจนต้องตะโกนร้องอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ร้อนจนเหมือนว่าจะเป็นวาระสุดท้ายของชีวิตเพื่อบรรลุความฝันการเป็นนักร้องให้แก่พวกเขา
เหมยเหมยนอนไม่หลับทั้งคืน หลับตาลงได้แค่ครู่เดียวก็ลืมตาขึ้นมาใหม่ เธอลุกจากเตียงเดินวนไปรอบ ๆ จากนั้นก็เอนหลังนอนลงบนเตียงต่อแค่ไม่กี่นาทีเป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเบ้าตาดำคล้ำจมลึกลงไป
“คุณหนู จะกินมากกินน้อยคุณหนูก็กินหน่อยเถอะค่ะ ไม่อย่างนั้นคุณชายหมิงกลับมาเห็นคุณหนูเป็นแบบนี้เขาคงปวดใจแย่เลย” ป้าฟางเกลี้ยกล่อมเธอ ตั้งแต่เหยียนหมิงซุ่นจากไปคุณหนูก็กินข้าวแค่ไม่กี่คำ จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยแล้วแบบนี้จะไหวได้เช่นไร?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าในท้องยังมีลูกน้อยอยู่ด้วยนะ!
“ฉันกินไม่ลงเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่หมิงซุ่นเป็นอย่างไรบ้าง…”
เหมยเหมยกินโจ๊กไปสองสามคำก็อิ่มแล้ว อาหารที่เคยอร่อยในอดีต ตอนนี้ไม่สามารถดึงดูดใจเธอได้เลยสักนิด
“คุณหนูกินอีกหน่อยเถอะ ถึงคุณหนูจะไม่ได้คิดถึงสุขภาพร่างกายของตัวเองแต่ก็ต้องคิดถึงลูกในท้องหน่อย หากคุณหนูไม่กิน สารอาหารของทารกน้อยจะเพียงพอได้อย่างไร?” ป้าฟางเกลี้ยกล่อมอย่างอดทน
เหมยเหมยสะดุ้งโหยง สีหน้าเปลี่ยน จากนั้นก็ยื่นมือไปลูบท้องน้อยเบา ๆพลันรู้สึกละอายใจอย่างถึงที่สุด
ทำไมเธอถึงได้ลืมลูกไปได้นะ?
“ลูกรัก แม่ขอโทษนะที่ทำให้ลูกต้องหิว!”
เหมยเหมยก้มหัวและพึมพำขอโทษ หลายวันมานี้เธอไม่สนใจลูกเลย เธอช่างเป็นแม่ที่ไร้ความรับผิดชอบเสียจริง
“ฉันจะกินอีกสักหน่อยแล้วกัน” เหมยเหมยสูดหายใจแล้วบังคับให้ตัวเองฝืนทานโจ๊กเข้าไป ปอกเปลือกไข่ต้มอีกหนึ่งฟอง เธอจ้องแน่นิ่งแล้วเคี้ยวราวกับมีความแค้นกับอาหารยังไงอย่างนั้น
กินโจ๊กหมดไปหนึ่งชามกับไข่ต้มอีกหนึ่งฟอง เหมยเหมยก็หยิบเสี่ยวหลงเปามาอีกเข่ง เธอทานเหมือนเป็นมนุษย์เครื่องจักรเพราะทานเพื่อบำรุงสารอาหารเท่านั้นไม่ใช่เพราะความอร่อยเพลิดเพลิน
ป้าฟางถอนหายใจ แล้วหันตัวหลบมาซับน้ำตาที่หางตา ในใจรู้สึกเศร้าเหลือเกิน
เดิมทีคุณชายหมิงและคุณหนูควรจะมีชีวิตที่มีความสุขแล้ว ชีวิตที่แม้แต่เทพเทวดายังต้องอิจฉา แถมตอนนี้ยังมีลูกอีกมันช่างดีมากแค่ไหน แต่กลับต้องไปตามล่าตาแก่บ้าอย่างหนิงเฉินเซวียนนั่น ทำให้คุณชายหมิงต้องเสี่ยงอันตรายร้ายแรง
หากคุณชายหมิงมีอันเป็นไป คุณหนูก็ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว เธอจะทุกข์ใจมากแค่ไหนนะ!
เฮ้อ!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เหมยซูหานเป็นคนโทรมา
“เหมยเหมย อาเช่อและเหยียนหมิงซุ่นไปฐานลับทางตะวันตกเฉียงใต้ใช่ไหม?” น้ำเสียงของเหมยซูหานร้อนใจเป็นอย่างมาก
ตอนที่เฮ่อเหลียนเช่อไปไม่พูดอะไรสักคำ เขาพูดแค่ว่าจะไปทำธุระสำคัญ แถมยังขอให้เขาพาเสี่ยวเป่าไปต่างประเทศสักพัก แล้ววันหลังค่อยตามไปหาพวกเขาที่ต่างประเทศ
เหมยซูหานซักไซ้อยู่นาน เฮ่อเหลียนเช่อก็ไม่ได้บอกว่าจะไปทำธุระอะไร แค่บอกว่าจะไปกับเหยียนหมิงซุ่นแต่ไม่มีอันตรายใด ๆแน่นอน
เขาอยู่บ้านยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นอนไม่หลับทั้งคืนเช่นกันจึงอดไม่ได้ที่จะโทรถามเหมยเหมย
“เฮ่อเหลียนเช่อเขาไปกับพี่หมิงซุ่นด้วยเหรอ?” เหมยเหมยก็แปลกใจมากเช่นกัน เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้บอกเธอเรื่องที่เฮ่อเหลียนเช่อจะไปด้วย
“ใช่ เขาบอกว่าจะไปทำเรื่องที่สำคัญมากกับเหยียนหมิงซุ่น เหมยเหมย มันคือเรื่องอะไรเหรอ เธอต้องรู้แน่ ๆใช่ไหม?” เหมยซูหานร้อนใจดั่งไฟที่แผดเผา
เหมยเหมยถอนหายใจ “ใช่ ฉันรู้…พวกเขาไปภูเขาสือว่าน เตรียมที่จะไปทำลายจุดชนวนระเบิดที่ฐานลับ…”
“ทำลายจุดชนวนระเบิดที่ฐานลับ? เป็นไปได้อย่างไรกัน…” เหมยซูหานตกใจยกใหญ่ กุมหน้าอกไว้แน่น ปวดใจจนแทบหายใจไม่ออก
อะไรคือวันหลังจะไปหาเขาและเสี่ยวเป่าที่ต่างประเทศ?
ทั้ง ๆที่เตรียมจะไปตามยต่างหาก!
ต่อให้โทรศัพท์กั้นไว้แต่เหมยเหมยก็รับรู้ถึงความเศร้าใจของปลายสายได้อย่างชัดเจน เธอรู้สึกราวกับว่ามันเกิดขึ้นกับตัวเอง ดวงตาแดงก่ำ เธอคิดจะพูดปลอบใจอยู่สองสามประโยคแต่ปลายสายกลับมีเสียงดังสนั่นดังขึ้นมาซะก่อน
“ตึงโครม”
จากนั้นก็ไม่มีเสียงใดอีก…
…………………………………………..
ตอนที่ 2270 โดนลักพาตัวแล้ว
“เหมยซูหาน…นายเป็นอะไร…ฮัลโหล…”
เหมยเหมยส่งเสียงเรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดทั้งสิ้น เหลือเพียงเสียงตู้ด ๆดังลอยผ่านปลายสายมา เธอขมวดคิ้วแน่น ใจดิ่งวูบ
เกิดเรื่องแล้ว!
เสี่ยวเป่าก็ต้องพลอยโดนไปด้วยแน่นอน!
“ป้าฟาง ฉันจะไปดูสักหน่อยนะ!”
เหมยเหมยพูดพร้อมกับเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วก็ไม่รู้ว่ามีคนลักพาตัวเหมยซูหานไปหรือว่าเหมยซูหานป่วยกะทันหันขึ้นมา…
ถ้าหากเป็นอย่างหลังก็ดี เฮ่อเหลียนเช่อคงต้องทิ้งคนไว้ที่บ้านไม่น้อย เหมยซูหานจะไม่เป็นอะไรมากแน่นอน
แต่ถ้าหากว่าเป็นอย่างแรก งั้นก็จะหมายความว่าคนที่เฮ่อเหลียนเช่อทิ้งไว้น่าจะเกิดเรื่องเข้าแล้ว เหมยซูหานและเสี่ยวเป่าก็คงตกอยู่ในอันตราย
แต่ในเมืองหลวงจะมีใครที่กล้าบุกเข้าไปในบ้านของเฮ่อเหลียนเช่อเพื่อลักพาตัวคนของเขาไปกันได้นะ?
เหมยเหมยคิดไม่ออกแต่เธอก็ไม่กล้าชักช้าและเร่งป้าฟางไม่หยุด ลุงเหลาไม่วางใจจึงเรียกเพื่อนอีกสองสามคนไปด้วยแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่บ้านพักของเหมยซูหาน
เดิมทีเหมยซูหานอาศัยอยู่ในเมือง แต่เนื่องจากเสี่ยวเป่าชอบเล่นกับสัตว์เขาจึงย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ในแถบชานเมืองเพราะที่นั่นเลี้ยงสัตว์ไว้มากมาย ต่อให้เสี่ยวเป่าจะไม่สามารถสื่อสารกับคนได้ตามปกติแต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาไม่รู้สึกเหงาแน่นอน
เดิมทีประตูบ้านควรมียามเฝ้าอยู่แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครสักคน เหมยเหมยแอบร้องในใจว่าแย่แล้ว ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับพวกเขาแน่นอน
ลุงเหลาพาพวกพ้องเข้าบ้านไปอย่างระมัดระวังแล้วให้เหมยเหมยและป้าฟางรออยู่ข้างนอก หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ออกมา
“คุณหนู ในบ้านไม่มีคนอยู่เลย”
ในบ้านหลังใหญ่โตไม่มีใครอยู่ในบ้านสักคน มันเงียบและว่างเปล่าเสียจนน่ากลัว มีเพียงสัตว์เลี้ยงที่วิ่งไปมาอยู่ในสวนหลังบ้านซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่เหลืออยู่ภายในบ้านหลังนี้ แม้แต่เสี่ยวเป่าก็ไม่อยู่
“เสี่ยวเป่า…เหมยซูหาน…พวกนายอยู่ไหม…”
เหมยเหมยรีบพุ่งตัวเข้าไปข้างในแล้วตะโกนร้องเรียกอย่างร้อนใจแต่ก็ไม่มีใครตอบรับ ในห้องนั่งเล่นเละเทะข้าวของกระจัดกระจาย โทรศัพท์ตกลงบนพื้น โต๊ะชาก็โดนขยับจนเอียงซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนชนมัน
“คุณหนู พวกเขาโดนลักพาตัวไปแล้ว…” ลุงเหลาพูดอย่างใจเย็น พร้อมกับสังเกตห้องนั่งเล่นอย่างระมัดระวังเพื่อต้องการหาเบาะแสบางอย่าง
“ใครกันนะ?”
“ผมจะให้พรรคพวกช่วยตามสืบดูครับ” ลุงเหลาก็รู้สึกว่ามันแปลกพิกล คนที่กล้ามาลักพาตัวถึงในอาณาบริเวณของเฮ่อเหลียนเช่อได้ถือว่าใจกล้าไม่เบา เขาจะต้องสืบหาให้ได้
“คุณหนู คุณหนูกลับบ้านไปก่อนเถอะ ถ้ามีข่าวคราวอะไรลุงจะรีบรายงานคุณหนูทันทีเลย” ลุงเหลาพูดเกลี้ยกล่อม
เหมยเหมยถอนหายใจ เธอรู้ว่าตัวเองอยู่ต่อไปก็ช่วยอะไรไม่ได้แถมยังจะทำให้ลุงเหลาและคนอื่น ๆเสียสมาธิไปด้วย แต่เพิ่งจะเดินไปถึงประตูเธอก็หันตัวกลับวิ่งไปทางสวนหลังบ้านกะทันหัน ป้าฟางร้อนใจรีบวิ่งตามเธอไป “คุณหนูอย่าวิ่ง พวกเราค่อย ๆเดินกันเถอะ ระวังลูกในท้องด้วยสิ“
เหมยเหมยลดความเร็วลงแต่ก็รีบเดินไปที่สวนหลังบ้านอย่างรวดเร็ว เธอเห็นหนูตัวเล็กวิ่งผ่านห้องนั่งเล่นเมื่อครู่ ตอนแรกเธอไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอความคิดเริ่มทำงานเลยนึกถึงตัวตนของเสี่ยวเป่าขึ้นมาได้
เสี่ยวเป่าสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ ไม่แน่ว่าเสี่ยวเป่าอาจจะส่งหนูตัวนี้มาเพื่อสืบข่าวคราวก็เป็นได้?
ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียหน่อย
เหมยเหมยมาที่สวนหลังบ้านอีกครั้งพร้อมกับความหวังอันริบหรี่ สนามหญ้ากว้างใหญ่ได้สร้างบ้านไว้หนึ่งหลังซึ่งได้กั้นเป็นห้องเล็กห้องน้อยเพื่อเป็นที่พักอาศัยให้กับเหล่าสัตว์ตัวน้อยของเสี่ยวเป่า เวลานี้พวกมันต่างอยู่ในนั้นกันอย่างเงียบ ๆ ไม่ออกมาเดินเพ่นพ่านชุลมุนวุ่นวายเหมือนในยามปกติ
สวนหลังบ้านแห่งนี้เงียบสงบเกินไป
เหมยเหมยพลันรู้สึกแปลกพิกลเลยอยากเดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ฉับพลันก็มีผู้ชายตัวเล็ก ๆสกปรกมอมแมมคลานออกมาจากคอกสุนัขวิ่งโซซัดโซเซมาทางเหมยเหมย เขาก็คือเสี่ยวเป่านั่นเอง
“เสี่ยวเป่า…หนูไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ…”
เหมยเหมยกอดเขาแน่นโดยไม่คิดรังเกียจสิ่งสกปรกบนตัวเจ้าหนูน้อยนี่เลยสักนิดพลันถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
ตอนที่ 2271 จะจุดชนวนระเบิดก่อนกำหนดหรือไม่
“ยิวยิว (คุณอา) …คุณปู่…คนนิสัยไม่ดี”
เสี่ยวเป่ายังไม่สามารถพูดเป็นประโยคได้จึงพูดตะกุกตะกักออกเสียงไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่เหมยเหมยก็ดีใจแทบแย่แล้ว
“เสี่ยวเป่าพูดได้แล้วเหรอ? เสี่ยวเป่าเก่งจังเลย…หนูพูดอีกรอบได้ไหม อาโง่เกินไปเลยฟังไม่ค่อยเข้าใจเลย…”
“คุณปู่นิสัยไม่ดี…ยิวยิว…”
เสี่ยวเป่าตะโกนขึ้นมาอีกสองสามคำด้วยความร้อนใจ พอเห็นเหมยเหมยยังคงไม่เข้าใจเขาจึงกำมือเธอลากไปที่โทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นด้วยความเร่งรีบ เสี่ยวเป่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วแสร้งทำเป็นโทรออกแล้ววางลงอีกครั้ง กำหมัดเล็ก ๆแน่นแล้วทุบแรง ๆอยู่สองสามครั้งพร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ตอนนี้เหมยเหมยเข้าใจแล้ว เสี่ยวเป่ากำลังแสดงฉากที่เหมยซูหานถูกลักพาตัวไป เจ้าตัวเล็กช่างฉลาดจริง ๆ
“คุณปู่นิสัยไม่ดี…ยิวยิว…”
เสี่ยวเป่าพูดอีกหนึ่งประโยค เหมยเหมยใจเต้นระส่ำแล้วถามว่า “คุณปู่เป็นคนพาคุณอาไปใช่ไหม?”
“อืม…”
เสี่ยวเป่าโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอกแล้วพยักหน้าแรง ๆ มือที่ดึงเหมยเหมยไว้เหมือนอยากจะพาออกไป ข้างหลังเขามีสุนัขตัวใหญ่สามตัวสูงกว่าเสี่ยวเป่า ตัวหนึ่งพันธุ์ชาเป่ย อีกตัวคือพันธุ์พิทบูล และอีกตัวคือพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด พวกมันทั้งหมดเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเสี่ยวเป่า
“ไปช่วย…ยิวยิว…”
เสี่ยวเป่าเดินไปพลางพูดไป คุณอาโดนคุณปู่นิสัยไม่ดีลักพาตัวไปแล้ว เขาต้องไปช่วยคุณอากลับมา
ที่แท้คนที่ลักพาตัวเหมยซูหานไปก็คือหนิงเฉินเซวียน หลังจากเฮ่อเหลียนเช่อจากไป ยิ่งตาแก่บ้านี่คิดทบทวนดูก็ยิ่งรู้สึกมันทะแม่ง ๆ เขารู้สึกแปลกใจที่จู่ ๆเฮ่อเหลียนเช่อแวะไปหา เขาจึงแวะมาหาด้วยตัวเองเพื่ออยากถามกันให้รู้เรื่อง
ทว่าเฮ่อเหลียนเช่อไม่อยู่บ้านแต่เขากลับได้ยินเหมยซูหานคุยโทรศัพท์ เมื่อได้ยินว่าเฮ่อเหลียนเช่อไปฐานลับกับเหยียนหมิงซุ่น หนิงเฉินเซวียนก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นจึงระงับอารมณ์โกรธไว้ไม่อยู่
ที่แท้ลูกชายตัวดีของเขาก็กำลังจะหักหลังเขา!
ทั้งหมดเป็นเพราะเหมยซูหานยุให้ทำ!
หนิงเฉินเซวียนที่โมโหจนควบคุมตัวเองไม่อยู่จึงลักพาตัวเหมยซูหานไป เดิมทีเขาก็อยากพาทายาทอย่างเสี่ยวเป่าไปด้วยแต่เสี่ยวเป่าได้รับสัญญาณเตือนจากสัตว์ตั้งแต่แรกจึงแอบซ่อนตัวเสียก่อน หนิงเฉินเซวียนหาอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่พบ เขาไม่กล้าอยู่ข้างนอกนานนานจึงรีบจากไป ด้วยเหตุนี้เสี่ยวเป่าจึงหนีรอดมาได้
แต่เหมยเหมยกลับคิดมากไปกว่านั้น สิ่งที่เหมยซูหานพูดในตอนนั้นหนิงเฉินเซวียนต้องได้ยินแน่นอน จากนั้นคงเดาได้แน่นอนว่าเหยียนหมิงซุ่นไปที่ฐานลับทำไม
ถ้าหาก——
“ลุงเหลา หนิงเฉินเซวียนรู้แล้วว่าพี่หมิงซุ่นไปที่ฐานลับ เขาจะจุดชนวนระเบิดก่อนเวลาไหม?”
นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่เหมยเหมยกังวลที่สุด
ลุงเหลาเองก็กังวลเหมือนกัน หนิงเฉินเซวียนบ้าไปแล้ว เขาไม่สนใจชีวิตของลูกชายตัวเองแน่นอน ไม่แน่บางทีมันอาจจะระเบิดก่อนได้ ถ้าเป็นแบบนั้นคุณชายหมิงจะอันตรายมาก!
“ผมจะหาวิธีติดต่อคุณชายหมิงแล้วส่งคนไปตามหาหนิงเฉินเซวียน”
ทางที่ดีที่สุดควรรีบไปควบคุมตัวตาแก่บ้านั่นก่อนที่จะคลุ้มคลั่งไปมากกว่านี้ แบบนั้นถึงจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ถ้าไม่อย่างนั้นโลกจะตกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย!
เหมยเหมยพาเสี่ยวเป่าที่ไม่ค่อยเต็มใจนักกลับบ้าน จากนั้นก็ให้ป้าฟางทำความสะอาด สุนัขทั้งสามก็ตามมาเดินวนเวียนรอบตัวเสี่ยวเป่าอยู่พักหนึ่งเหมือนกับทหารอารักขาผู้จงรักภักดียังไงอย่างนั้น
แต่เสี่ยวเป่ากลับไม่พอใจมาก เกี๊ยวที่ปกติชอบทานก็ไม่อยากทานเลยสักนิด เขาก้มศีรษะต่ำลงด้วยความหดหู่ไม่มีชีวิตชีวา
“น้าส่งคนไปตามหาคุณอาแล้ว คุณอาจะกลับมาในเร็ว ๆนี้แน่นอน หากคุณอากลับมาแล้วรู้ว่าเสี่ยวเป่าไม่ยอมทานข้าว คุณอาต้องไม่พอใจแน่นอนเลย”
เหมยเหมยพูดโน้มน้าวเสียงอ่อนเสียงหวาน เสี่ยวเป่าก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟังพร้อมคว้าช้อนเล็ก ๆขึ้นมาตักทาน แถมยังป้อนเหมยเหมยบ้างสองสามคำเป็นพัก ๆ “คุณน้ากิน…ผอม…”
เหมยเหมยแสบจมูก พยายามฝืนกลั้นน้ำตาเอาไว้ เธอกับเสี่ยวเป่าแบ่งกันกินเกี๊ยวชามใหญ่คนละคำจนหมด ทำเอาป้าฟางถอนหายใจอย่างโล่งอก มีเสี่ยวเป่าอยู่ที่บ้านก็เป็นเรื่องดีเหมือนกันเธอจะได้มีที่พักพิงใจ
ลุงเหลากลับมาตอนเที่ยง เขาหาหนิงเฉินเซวียนในถ้ำไม่พบ ที่นั่นวางเปล่าไม่มีใครสักคน
…………………………………………..
ตอนที่ 2272 สังหารหมู่
“ในถ้ำไม่มีใครอยู่เลยเหรอ? หนิงเฉินเซวียนจะไปไหนได้…”
เหมยเหมยรู้สึกงงงวยมาก ปกติแล้วถ้ำนั้นควรจะเป็นที่ซ่อนสุดท้ายของหนิงเฉินเซวียน หรือว่ายังมีที่ไหนที่ตาแก่บ้านั่นไปแต่พวกเรายังไม่ได้หากันนะ?
เสี่ยวเป่าหูผึ่ง หาคุณปู่นิสัยไม่ดีไม่เจองั้นเหรอ?
งั้นเขาจะไปหาเอง!
เสี่ยวเป่าดึงเสื้อของเหมยเหมยอยากจะเดินออกไปข้างนอก เขาไปถามเพื่อนทางโน้นเอาก็ได้
ลุงเหลาห้ามพวกเขาไว้ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เมื่อครู่ตอนที่พวกเขารีบไปบ้านตระกูลหนิงต่างก็พากันตกใจยกใหญ่เพราะคาวเลือดในสวนหลังบ้าน ถึงแม้ว่าเขาจะผ่านประสบการณ์ในสงครามมาอย่างโชกโชนแต่เขาก็ไม่สามารถทนดูการสังหารหมู่ในสวนหลังบ้านได้
ม้าเหล่านั้นของหนิงเฉินเซวียนที่ปกติแล้วถูกดูแลอย่างสมบัติล้ำค่าในตอนนี้ตายจนเกลี้ยง เลือดเปื้อนสนามหญ้าไปทั่วไม่มีเหลือรอดสักตัว
ลุงเหลากระซิบข้างหูเหมยเหมย เหมยเหมยหน้าถอดสี หัวใจพุ่งมาถึงลำคอ “พระเจ้า…เขาเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ…ไม่มีความเป็นมนุษย์อีกต่อไปแล้ว…”
ยามปกติเขารักม้ายิ่งกว่าชีวิต หากพนักงานคนไหนดูแลม้าไม่ดี หนิงเฉินเซวียนจะต้องลงโทษพนักงานคนนั้นอย่างแน่นอน บางคนถึงกับตายเพราะดูแลม้าไม่ดีด้วยซ้ำ!
คนที่เกือบจะดูแลม้าเสมือนลูกชายตัวเองอย่างเขาเวลานี้กลับสังหารพวกมันเองกับมือ เขากระทำการเหี้ยมโหดขนาดนี้ได้อย่างไร?
ถึงแม้ว่าเสี่ยวเป่าจะไม่ได้ยินคำพูดของลุงเหลาแต่เขาเป็นคนละเอียดรอบคอบ ดูจากท่าทีของเหมยเหมยเจ้าตัวเล็กก็พอจะเดาได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ขาสั้น ๆของเจ้าตัวเล็กวิ่งออกไปข้างนอก ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเพื่อนของเขาแน่นอน!
เดิมทีเหมยเหมยอยากจะห้ามเสี่ยวเป่าไว้ แต่พอเห็นหยดน้ำตาบนใบหน้าของเจ้าตัวเล็กหัวใจของเธอก็อ่อนยวบจึงไปบ้านตระกูลหนิงพร้อมกับเสี่ยวเป่า ทว่าแค่เดินเข้าไปในบ้านกลิ่นคาวเลือดก็โชยออกมาจนน่าขยะแขยง
เจ้าตัวเล็กเพิ่มความเร็วฝีเท้าวิ่งตรงไปที่สวนหลังบ้าน ตรงนั้นมีลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นกำลังทำความสะอาดศพม้าอยู่ แต่ทำความสะอาดไปได้แค่ครึ่งเดียวจึงมีสภาพที่แย่อยู่
“ฮือ…ฮวาฮวา…ไป๋ไป๋…”
เสี่ยวเป่าปล่อยโฮออกมา ปากก็ส่งเสียงเรียกชื่อที่เขาตั้งให้กับม้าเหล่านี้ไปด้วย เพื่อนแต่ละตัวของเขาต่างก็มีชื่อกันหมด เพราะในใจของเขาเพื่อนเหล่านี้ต่างก็มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
โศกนาฏกรรมในสวนหลังบ้านเกินจินตนาการของเหมยเหมยไปมาก เดิมทีเธอคิดว่าหนิงเฉินเซวียนคงจะแค่ยิงเพื่อฆ่าม้าเหล่านี้ทิ้งเท่านั้น แต่ที่ไหนได้หนิงเฉินเซวียนกลับฆ่าพวกมันอย่างโหดเหี้ยม เขาไม่เพียงแต่สับหัวม้าเท่านั้นแต่ยังแยกร่างควักลำไส้ออกมาหมด…
โหดร้ายป่าเถื่อนเหลือเกิน!
เหมยเหมยปิดตาของเสี่ยวเป่าอย่างรวดเร็ว ภาพน่าหดหู่เช่นนี้ไม่เหมาะที่จะให้เด็กเห็น โดยเฉพาะพวกม้าที่เป็นเพื่อนของเสี่ยวเป่า หัวใจอันบริสุทธิ์ของเขาไม่อาจทนต่อสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจเช่นนี้ได้
“คนนิสัยไม่ดี…”
เสี่ยวเป่าร้องไห้จนเหนื่อยหอบสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมอกของเหมยเหมยเป็นพัก ๆ มองดูแล้วช่างน่าปวดใจเหลือเกิน
“ไม่ร้องนะ…เสี่ยวเป่าไม่ต้องร้องแล้ว…พวกเราไปตามหาคุณอาก่อนดีไหม…” เหมยเหมยยิ่งรู้สึกเกลียดหนิงเฉินเซวียนเข้ากระดูกดำ ม้าไม่มีความผิดอะไรแต่กลับมาระบายความโกรธกับม้าที่น่าสงสารเหล่านี้ เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก!
เสี่ยวเป่าหยุดร้องไห้แล้วปาดน้ำตา ดวงหน้าเล็กดูเคร่งขรึมขึ้น เขาวิ่งไปทางต้นการบูรต้นใหญ่ข้าง ๆแล้วเงยหน้าแหงนมองอยู่นาน จากนั้นนกกระจอกตัวน้อยก็บินลงมา
ผ่านไปครู่หนึ่งเสี่ยวเป่าก็กลับมา ใบหน้าเล็ก ๆนั้นดูเศร้าสร้อยมากเพราะนกกระจอกน้อยไม่รู้ว่าหนิงเฉินเซวียนหายไปไหน เจ้านกกระจอกตัวน้อยตกใจไม่น้อยจนพูดจาฟังไม่รู้เรื่อง
เหมยเหมยก็ไม่ได้คาดหวังว่าเสี่ยวเป่าจะสามารถตามหาหนิงเฉินเซวียนพบ ถึงอย่างไรเสียตาแก่บ้านี่ก็ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้ว เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของเหมยซูหานมากกว่า ตอนนี้ตกอยู่ในมือของหนิงเฉินเซวียนกลัวว่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี
แต่โชคดีที่เสี่ยวเป่าไม่เป็นอะไร อย่างน้อยในความโชคร้ายก็ยังมีเรื่องดี ๆอยู่!
ป้าฟางพาพวกเขากลับบ้าน ลุงเหลาพยายามตามหาหนิงเฉินเซวียนและหาวิธีรายงานเหยียนหมิงซุ่น เวลาคับขันมากจึงต้องทำทุกอย่างแข่งกับเวลา
ตอนที่ 2273 ติดต่อเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้
ภูเขาสือว่านพระอาทิตย์จะขึ้นช้ากว่าที่อื่นเล็กน้อย แสงแดดรุ่งอรุณส่องผ่านใบไม้ที่หนาแน่น เหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อตื่นขึ้นมาในเวลาเดียวพร้อมกัน
พวกเขาทั้งคู่นอนพิงต้นไม้ใหญ่พักผ่อนทั้งคืน ความแข็งแกร่งทางกายภาพถูกเติมเต็มพร้อมพลังสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
“ตอนนี้เข้าไปได้แล้วมั้ง หากยังไม่เข้าไปอีก ตะวันจะส่องก้นแล้วนะ”
เฮ่อเหลียนเช่อเด็ดใบไม้เล็ก ๆรูปร่างกลมมนจากต้นไม้พุ่มเตี้ยมาสองสามใบแล้วยื่นส่งให้เหยียนหมิงซุ่น จากนั้นทั้งสองก็เอาเข้าปากเคี้ยว กลิ่นของใบไม้ชนิดนี้หอมสดชื่นมาก นอกจากนี้ยังสามารถฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย ตอนปฏิบัติภารกิจในป่าพวกเขาจะเคี้ยวใบไม้เหล่านี้แทนการบ้วนปากเพื่อประหยัดน้ำ
“หาอะไรกินก่อนแล้วกัน…ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบร้อน”
เหยียนหมิงซุ่นหยิบขนมปังกรอบอัดถุงออกมาส่งให้เฮ่อเหลียนเช่อ อันที่จริงในตัวฉิวฉิวมีของอร่อยมากมายแต่เขาเอาออกมาไม่ได้ เฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้จะตบตาหลอกง่ายดายขนาดนั้น
ฉิวฉิวปีนขึ้นต้นไม้เพื่อแบ่งปันอาหารมื้อใหญ่กับฉาฉาแล้วทอดมองไปด้านนอกเป็นพัก ๆ ตอนที่มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจากระยะไม่ใกล้ไม่ไกลก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
มากันแล้วจริง ๆ!
ฉิวฉิวกระโดดไม่กี่ทีก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเหล่าสัตว์ทั้งหลายที่มารวมตัวกัน ยามปกติพวกมันเป็นคู่แข่งกันแต่ในเวลานี้กลับปรองดองกันเป็นพิเศษ เพียงแต่งูที่รวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นเหล่านั้นทำเอาคนเห็นต่างพากันขนลุกซู่กันถ้วนหน้า
ฉิวฉิวไม่ได้ให้พวกมันเข้าไป บอกแค่ให้พวกมันรออยู่ข้างนอก เมื่อถึงเวลามันจะส่งสัญญาณเรียก
เหล่าสัตว์ทั้งหลายต่างอยู่ภายใต้คำสั่งของผู้นำตัวเองด้วยความเงียบสงบ ในอากาศมีกลิ่นเฉพาะตัวของสัตว์เหล่านี้แผ่กระจายออกมา
ฉิวฉิวมองสัตว์พวกนี้ที่อัดเบียดเสียดด้วยความสงสาร พวกมันทั้งหมดมาเพื่อตายแท้ ๆ ตัวที่รอดคงมีไม่เกินห้าตัวหรืออาจจะน้อยกว่านั้นแน่นอน
เฮ้อ!
เฮ่อเหลียนเช่อกินขนมปังกรอบอัดถุงเสร็จก็ทำจมูกฟุดฟิด เอ่ยอย่างสงสัยว่า “ทำไมเหม็นขนาดนี้ เหยียนหมิงซุ่นนายได้กลิ่นไหม?”
ประสาทสัมผัสการรับกลิ่นของเหยียนหมิงซุ่นไวกว่าเขาเยอะ แน่นอนว่าเขาได้กลิ่นนานแล้ว เขาเองก็งงงวยมากเช่นกัน เขาได้กลิ่นเหมือนสุนัขจิ้งจอก แล้วก็ยังมีกลิ่นเหมือนงู…
แปลกมาก!
ฉิวฉิวพุ่งลงมาจากต้นไม้แล้วชี้ไปที่ฐานลับ ทำท่าทางสื่อว่าพวกเขาเข้าไปด้านในได้แล้ว
เหยียนหมิงซุ่นกินขนมปังกรอบอัดถุงไปอีกสองสามคำตามด้วยน้ำเปล่าไปอีกหนึ่งอึก จากนั้นก็เตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจ
ภายในฐานลับเงียบมาก การป้องกันไม่หนาแน่นซึ่งอาจจะเป็นเพราะอยู่ในป่าลึก ดังนั้นหนิงเฉินเซวียนจึงไม่กังวลว่าจะมีคนนอกบุกเข้ามาจึงจัดคนคุ้มกันเอาไว้ไม่มาก
“ฉันไปทางนี้ นายไปทางนั้น แล้วมาเจอกันที่นี่ในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า”
เหยียนหมิงซุ่นทำมือสื่อสาร เฮ่อเหลียนเช่อก็ทำมือโอเคกลับเพื่อตอบรับ ทั้งสองแยกย้ายกันอย่างรวดเร็ว หนึ่งคนไปทางทิศตะวันออก ส่วนอีกคนไปทางทิศตะวันตก ในไม่ช้าก็หายวับไปไม่เห็นเงาพวกเขาแล้ว แน่นอนว่าฉิวฉิวและฉาฉาก็ตามติดเหยียนหมิงซุ่นไปด้วย
ลุงเหลาที่อยู่เมืองหลวงก็คิดหาวิธีนับไม่ถ้วนแต่ก็ติดต่อเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ ด้านในป่าทึบไม่มีสัญญาณเลย เครื่องบินก็บินเข้าไปไม่ได้เช่นกัน เขาทำได้แค่ส่งคนเดินเข้าป่าไปตามหาแต่ก็ใช่ว่าจะทันเสมอไป
“ติดต่อไม่ได้เหรอ…พี่หมิงซุ่นเข้าฐานลับไปแล้วหรือเปล่า…ลุงเหลา ลุงรีบไปจับตาดูความเคลื่อนไหวทางนั้นว่ามีการระเบิดเกิดขึ้นไหม…”
เหมยเหมยพูดคำว่าระเบิดด้วยความยากลำบาก หากฐานลับปรมาณูระเบิด อะไรจะเกิดขึ้น…
เธอไม่กล้าคิดเรื่องนี้แต่เธอก็อดคิดไม่ได้…
หัวใจของเหมยเหมยบีบแน่นราวกับมีมือมาบีบไว้ ไม่ได้เจ็บปวดแต่รู้สึกหายใจไม่ออก ในที่สุดเธอก็เข้าใจรสชาติของคำว่า ’เป็นห่วงจับใจ’ มันเป็นเช่นไร
ตาแก่บ้าหนิงเฉินเซวียนหายตัวไป เหยียนหมิงซุ่นก็ติดต่อไม่ได้อีก ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
เหมยเหมยรู้สึกราวกับฟ้าจะถล่มลงมาแต่ไม่มีที่ให้หลบหนี
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เหยียนซินหย่าที่เพิ่งกลับมาจากการไปทำงานต่างเมืองโทรมาหาเพราะเป็นห่วงสุขภาพของเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินได้นอนหลับสบายดีจะตายไป แม่ไม่ต้องมาหรอกอากาศร้อนขนาดนี้ แม่พักผ่อนอยู่บ้านนั่นแหละ อีกสองสามวันหนูจะกลับบ้านไปหาแม่นะ”
เหมยเหมยพยายามฝืนยิ้มแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วห้ามไม่ให้เหยียนซินหย่ามาหา
สารรูปของเธอตอนนี้จะให้เหยียนซินหย่าเห็นไม่ได้ ให้เธอร้อนใจคนเดียวพอแล้ว
…………………………………………..
ตอนที่ 2274 คงจะดีหากมีใครสักคนอยู่ร่วมทนทุกข์ด้วยกัน
เหยียนซินหย่าฟังน้ำเสียงที่ผิดปกติของเหมยเหมยออก แม่มักรู้จักลูกสาวดีกว่าใคร แค่เธอฟังน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าเหมยเหมยกำลังปิดบังอะไรเธออยู่และคงเป็นเรื่องที่ไม่ดีอีกด้วย
เธอวางสายโทรศัพท์โดยไม่ได้เอะอะโวยวายอะไร แล้วรีบออกไปข้างนอกโดยไม่คิดจะพักผ่อน
เหมยเหมยวางสายพร้อมถอนหายใจ แต่เธอยังไม่ทันได้นั่งคุณย่าหยางก็โทรมาถามไถ่ด้วยความห่วงใย เธอใช้เวลานานกว่าจะพูดเอาใจหญิงชราได้
โชคดีที่หญิงชราโน้มน้าวใจง่ายเหมยเหมยจึงไม่ได้เปลืองน้ำลายมากนักแต่ก็พูดจนปากแห้งกันเลยทีเดียว ฉับพลันในใจก็ยิ่งโศกเศร้ามากกว่าเดิม เธอต้องการใครสักคนมาแบ่งเบาความทุกข์ทรมานนี้เหลือเกิน
“ศาสตราจารย์เหยียนมาแล้วเหรอคะ…คุณหนูอยู่ในบ้านค่ะ…”
เสียงของป้าฟางดังแว่วเข้ามา เหมยเหมยตกตะลึงรีบปาดน้ำตาทิ้งแล้วพยายามฝืนยิ้ม จากนั้นก็มองเหยียนซินหย่าที่กำลังเดินเข้ามา
“ทำไมแม่ถึงมานี่ได้ล่ะ หนูให้แม่พักผ่อนอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ!”
พอเหยียนซินหย่าเห็นหน้าตาซีดเซียวของลูกสาวขอบตาก็แดงก่ำ “ลูกเป็นแบบนี้แล้วยังจะปิดบังแม่อีก ลูกดูตัวเองสิว่าผอมจนหนังติดกระดูกแล้ว ผอมกว่าก่อนท้องอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เหมยเหมยเสแสร้งต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว หยาดน้ำตารินไหลอาบแก้ม จากนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเหยียนซินหย่าแล้วปล่อยโฮออกมา
“ไม่ต้องร้องนะ…แม่อยู่นี่แล้ว ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีพ่อคอยดันไว้ให้ พวกเราไม่ต้องกลัว…” เหยียนซินหย่าเองก็เริ่มขอบตาแดง เธอลูบหลังเหมยเหมยอย่างแผ่วเบา
เสี่ยวเป่าที่เพิ่งกลับมาจากการไปเล่นในสวนหลังบ้าน พอเขาเห็นเหมยเหมยร้องไห้อย่างปวดใจก็รีบวิ่งเข้ามาหยิบเอาของสุดรักสุดหวงส่งให้เหมยเหมย พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสซื่อว่า “คุณน้า…อย่าร้องนะ…หนอน ๆ…”
เหมยเหมยฟังไม่เข้าใจว่าเสี่ยวเป่าพูดอะไร เธอแค่เอื้อมมือไปรับสิ่งที่เขามอบให้โดยไม่รู้ตัว แต่เพิ่งจะรับมาก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มเย็น ๆเล็กน้อย…จึงก้มหน้าลงมอง…
“อ๊าก…”
เหมยเหมยสะบัดทิ้งด้วยความตกใจจนลืมแม้กระทั่งร้องไห้ ใบหน้างดงามซีดไร้เลือดฝาด หนอนสีเขียวตัวอวบอ้วนดิ้นไปมาบนพื้น เหมยเหมยรู้สึกหนังศีรษะชาไปหมดแล้ว
คนที่ตกใจไม่น้อยอีกคนก็คือเหยียนซินหย่า แต่ว่าเธอยังคงยืนอยู่ตรงหน้าเหมยเหมยได้อย่างกล้าหาญพลางพูดปลอบใจว่า “ไม่ต้องกลัว…แค่หนอนผีเสื้อ มันไม่กัดคนหรอก”
เหมยเหมยลูบแขนด้วยความขยะแขยง บนแขนมีตุ่มขนลุกขนพองขึ้นเต็มไปหมด ผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับความกลัวสัตว์ตัวนุ่มนิ่มพวกนี้จากส่วนลึกของจิตวิญญาณ ไม่เกี่ยวหรอกว่ามันจะกัดหรือไม่กัด
“เสี่ยวเป่า…รีบเอาหนอนออกไปเลยนะ…” เหมยเหมยพยายามที่จะระงับความคิดตีก้นของเจ้าตัวเล็กไว้ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแอบเตือนตัวเองว่า
เธอคือผู้ใหญ่ ไม่ควรจะถือสาอะไรกับเด็กน้อย!
แต่ว่า…อยากจะตีก้นเล็ก ๆนั้นจริง ๆเลย!
เสี่ยวเป่าเบะปากด้วยความน้อยใจ จากนั้นก็เก็บหนอนสุดที่รักของเขาขึ้นมาจากพื้น กว่าเขาจะหาของสุดรักสุดหวงนี้เจอมันไม่ง่ายเลยนะ เขาเก็บใส่กระเป๋าเพราะอยากเลี้ยงเอาไว้เล่นด้วยกัน
เหมยเหมยมองจนไฟแทบลุกออกมาจากดวงตาอยู่แล้ว นี่ยังจะเก็บหนอนที่น่าขยะแขยงใส่กระเป๋าอีก ถ้าหากนั่งยอง ๆหรือว่าโดนทับขึ้นมา หนอนตัวอวบอ้วนนุ่มนิ่มของหนอนผีเสื้อก็คงระเบิดเละ…
ภาพนั้นยากเกินที่จะจินตนาการ เพียงแค่คิดก็อยากจะอ้วกแล้ว!
“เสี่ยวเป่าส่งหนอนคืนกลับบ้านดีไหม หากหนอนต้องแยกจากพ่อแม่ไปคงเสียใจน่าดูเลย…” เหมยเหมยพยายามอดกลั้นต่ออาการคลื่นไส้ไว้และหาเหตุผลมาพูดคุยกับเสี่ยวเป่า ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าการกลับบ้านที่ดีที่สุดสำหรับหนอนผีเสื้อก็คือเป็นอาหารอันโอชะให้ฝูงไก่ที่ป้าฟางเลี้ยงไว้ก็ตามที
เสี่ยวเป่าขบคิดสักพักก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่สวนหลังบ้านพร้อมกับหนอนแล้ววิ่งกลับมาอีกครั้ง พร้อมแบมือสีขาวนุ่มทั้งสองข้างให้เหมยเหมยดู
“เด็กดี…”
เหมยเหมยขอให้ป้าฟางพาเสี่ยวเป่าไปล้างมือ จากนั้นก็ทานของว่าง พอโดนเสี่ยวเป่าก่อกวนก็ทำให้ความเศร้าของเธอจางลงไปบ้าง เธอไม่ได้ปวดใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
เหยียนซินหย่าถามเธออีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น เหมยเหมยไม่ได้เล่าให้ฟังหมดทุกอย่าง เธอไม่ต้องการให้คนในครอบครัวมากังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่พี่หมิงซุ่นไปทำธุระ หนูอยู่บ้านคนเดียวเลยรู้สึกไม่ดี…”
เหยียนซินหย่าถอนหายใจ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ช่วงตั้งครรภ์ผู้หญิงมักมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย เธอก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกันเลยไม่นึกสงสัยอะไร
“คุณหนู…โฉ่วโฉ่วมา…” ป้าฟางรีบพุ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ตอนที่ 2275 โฉ่วโฉ่วแจ้งข่าว
ข้างนอกมีเสียงร้องที่คุ้นเคยดังแว่วเข้ามา เหมยเหมยฟังออกว่าเป็นเสียงของโฉ่วโฉ่วจึงรู้สึกแปลกใจมาก ๆ โฉ่วโฉ่วน่าจะอยู่ในสวนฟาร์มไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงได้มาโผล่ที่นี่ได้ล่ะ?
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสวนฟาร์มไม่ได้อยู่ใกล้กับที่พักของเหมยเหมย ขนาดขับรถยังใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมงเลย!
อีกอย่างต้องผ่านถนนมาอีกตั้งหลายสาย การที่โฉ่วโฉ่วมาเองแบบนี้ช่างน่างงงวยเสียจริง
“โฉ่วโฉ่ว…เกิดอะไรขึ้น?”
เหมยเหมยวิ่งออกไป โฉ่วโฉ่วอยู่ข้างนอกประตู ขนสีดำเข้มเปล่งประกายท่ามกลางแสงแดดพร้อมประกายน้ำวาววับเลือนราง นอกจากนี้ยังมีกลิ่นเลือดจาง ๆอีกด้วย มันถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายที่ตามมาดูเรื่องสนุก ๆด้วยความตื่นเต้นพร้อมชี้มือชี้ไม้มาที่มัน
“โฉ่วโฉ่วแกได้รับบาดเจ็บเหรอ…”
เหมยเหมยเดินเข้าไปใกล้ถึงได้ค้นพบว่ามีแผลยาวที่หลังของโฉ่วโฉ่ว ดูเหมือนว่ามันจะถูกฟันด้วยอาวุธมีคม เลือดยังคงไหลอยู่จึงทำให้แผงคอเปียกชุ่มไปหมด
แต่โฉ่วโฉ่วกลับไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง มันคุกเข่าลงเพราะต้องการให้เหมยเหมยขึ้นนั่งบนตัวมัน
ทั้งตาแก่อ้วนและภรรยาของมันถูกคนเลวพาตัวไปแล้ว หากเจ้านายไม่ไปช่วยตาแก่อ้วนและภรรยาของมันต้องตายแน่นอน
“แน่นอนว่าจะต้องเกิดเรื่องที่สวนฟาร์มแล้วแน่นอน คุณหนู ผมจะไปโทรศัพท์เดี๋ยวนี้แหละ” ลุงเหลาที่เดินตามออกมาด้วยก็สีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ โฉ่วโฉ่วเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเฮ่อเหลียนชิง ในสวนฟาร์มจะมีใครกล้าทำร้ายมันได้?
แต่ตอนนี้กลับได้รับบาดเจ็บ แสดงว่าที่สวนฟาร์มจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแล้วแน่นอน เฮ่อเหลียนชิงคงเผชิญกับเรื่องร้ายอยู่
เหมยเหมยปวดศีรษะเป็นอย่างมาก ทางด้านเหยียนหมิงซุ่นก็ติดต่อไม่ได้ ตอนแรกเธอคิดว่าจะไปปรึกษาหารือเฮ่อเหลียนชิงในวันพรุ่งนี้ แต่ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับตาแก่นี่ด้วยอีกคน นอกจากตาแก่บ้าหนิงเฉินเซวียนแล้วใครจะไปลักพาตัวตาแก่พิการนั่นกัน!
“คนสารเลวชาติชั่ว…”
เหมยเหมยสบถคำหยาบออกมาด้วยความเกลียดชัง ถ้าหนิงเฉินเซวียนอยู่ตรงหน้า เธอคงสับตาแก่นี้เป็นชิ้น ๆจนตายไปแล้ว!
“คุณหนู ทางด้านสวนฟาร์มบอกว่านายท่านพาโฉ่วโฉ่วและม้าเซ็กเธาว์ไปแข่งที่สนามม้า คนที่ไปกับนายท่านไม่ใช่เสี่ยวเมิ่ง แต่เป็นคนที่มาใหม่ไม่กี่คน…”
ลุงเหลาเองก็รู้สึกไม่ดีนัก ปกติเสี่ยวเมิ่งอยู่กับท่านทุกวันมานานกว่าสิบปีไม่เคยอยู่ห่างเฮ่อเหลียนชิงเลยแม้แต่วินาทีเดียว แค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวที่ไม่ได้ติดตามไปก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว ตอนคุยกันทางโทรศัพท์เมื่อครู่เสี่ยวเมิ่งเสียใจมากจนแทบอยากฆ่าตัวเองทิ้ง
ใครจะรู้ว่าตาแก่หนิงจะคลุ้มคลั่งกำเริบเสิบสานกล้าปรากฏตัวตอนกลางวันแสก ๆขนาดนี้
“เขาก็จริง ๆเลยนะ…เวลาแบบนี้จะออกไปทำไมกัน…”
เหมยเหมอดไม่ได้ที่จะตำหนิ ขาสองข้างเป็นอัมพาตก็ยังนั่งอยู่นิ่ง ๆไม่เป็น ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ ยังไม่รู้เลยว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาได้ไหม!
เธอหยิบยาออกมาป้อนให้โฉ่วโฉ่วสองสามเม็ดและช่วยทายารักษาบาดแผลให้ โชคดีที่บาดเจ็บแค่ผิวภายนอกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เสี่ยวเปาวิ่งออกมา พอเขาเห็นโฉ่วโฉ่วดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันทีจึงรีบวิ่งมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของหั่วหั่ว
แต่พอเขาถามได้ความก็ต้องร้อนใจอีกครั้ง คาดไม่ถึงเลยว่าหั่วหั่วก็โดนตาแก่นิสัยไม่ดีจับตัวไปเช่นกัน ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!
“…ช่วยหั่วหั่ว…”
เสี่ยวเป่าลากเหมยเหมยไปช่วยเพื่อนของเขาและเหมยซูหาน เหมยเหมยก็ร้อนใจเช่นกันแต่เธอไม่รู้ว่าเฮ่อเหลียนชิงโดนลักพาตัวไปที่ไหน แล้วจะไปช่วยที่ไหนล่ะ?
“…รู้…”
เจ้าตัวเล็กมองท่าทีสับสนข้องใจของเหมยเหมยออกจึงพูดพลางชี้ไปที่โฉ่วโฉ่ว ครั้งนี้เหมยเหมยฟังเข้าใจอย่างรวดเร็ว เธอกระซิบถามข้างหูของเสี่ยวเป่าว่า “โฉ่วโฉ่วรู้ว่าคนเลวอยู่ที่ไหนใช่ไหม?”
“อืม…” เสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างแรง
********
หนิงเฉินเซวียนมองเฮ่อเหลียนชิงที่ยังสลบไสลไม่ได้สติ หัวเราะเยาะออกมาหลายครั้ง ในดวงตามีความลำพองใจ
เวลากระต่ายปลิ้นปล้อนหนียังรู้จักหาที่หลบหลาย ๆที่ ฉะนั้นเขาจะแพ้สัตว์เดรัจฉานได้เช่นไร?
แน่นอนว่าต้องมีที่ซ่อนตัวมากกว่าหนึ่งที่สิ
ในเมื่อเฮ่อเหลียนเช่อทรยศหักหลังเขา งั้นเขาก็จะไม่รับลูกชายคนนี้อีกต่อไป ตัวเองรนหาที่ตายเองก็อย่าโทษว่าเขาโหดเหี้ยมแล้วกัน!
หนิงเฉินเซวียนไม่ได้กังวลเรื่องระเบิดที่ฐานลับเลยเพราะไม่มีใครสามารถเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นได้ ต่อให้เข้าไปได้แต่ก็คงเอาชีวิตรอดกลับมาไม่ได้อยู่ดี เขาไม่เชื่อหรอกว่าเหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อจะไม่กลัวตาย!
…………………………………………..
ตอนที่ 2276 สวิตช์อยู่ใกล้แค่เอื้อม
เฮ่อเหลียนชิงค่อย ๆได้สติฟื้นขึ้นมา เขากำลังคุยโวโอ้อวดอยู่ที่สนามม้ากับคนอื่น แต่ไหนเลยจะคิดว่าหนิงเฉินเซวียนตาแก่สารเลวนี่จะกล้าปรากฏตัว และที่น่าโมโหก็คือเขาโดนตาแก่สารเลวนี่ห่อตัวเป็นเกี๊ยวเลย
ที่แท้คนมาใหม่ก็ไร้ประโยชน์จริง ๆ!
“ฟื้นแล้วเหรอ…”
เสียงอันเยือกเย็นของหนิงเฉินเซวียนเหมือนดังออกมาจากถ้ำน้ำแข็งก็ไม่ปาน ทั้งยังแฝงด้วยความลำพองใจอยู่บ้าง กวาดตาสำรวจเฮ่อเหลียนชิงอย่างละเอียดจากมุมสูง
“ตาแก่หนิงสารเลว…”
เฮ่อเหลียนชิงเพิ่งสบถด่าไปแส้เส้นหนึ่งก็สะบัดฟาดลงมา เจ็บจนเขาแทบหน้ามืดเหงื่อเย็นไหลซึมออกมา
“ใกล้จะตายอยู่แล้วยังพูดจาไร้สาระอยู่ได้…เหอะ…” ในมือของหนิงเฉินเซวียนถือแส้ที่ทำจากลวดเหล็กอัลลอยด์ผสมแบบพิเศษไว้อยู่ดูไม่ค่อยเข้าตานัก แต่ถ้าฟาดลงบนตัวใครแล้วก็สามารถทำให้ผิวหนังแตกจนเห็นเนื้อ ปวดแสบเข้ากระดูกได้เลยทีเดียว!
ถึงแม้ว่าเฮ่อเหลียนชิงจะเคยเข้าร่วมในการปฏิวัติและยังมีประสบการณ์ผ่านสงครามมาอย่างโชกโชน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโค้ชในตำนานของทหารหน่วยรบพิเศษด้วย แต่ถ้าพูดกันตามจริงแล้วเจ้าหมอนี่ไม่เคยได้รับความทุกข์ทรมานใดมากนัก ชีวิตอยู่ดีกินดีตั้งแต่เด็ก อาหารมีให้กินไม่มีเบื่อ กางเกงในทำจากผ้าไหมที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากที่สุด เฮ่อเหลียนชิงก็สามารถทำให้ชีวิตของตัวเองสะดวกสบายกว่าคนอื่น ๆได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถูกลงโทษ เพราะนี่เป็นครั้งแรก!
หนิงเฉินเซวียนรู้จักเขาดีดังนั้นจึงตัดสินใจว่าก่อนฆ่าเฮ่อเหลียนชิงจะทรมานเขาอย่างหนักหน่วงเสียก่อน จนกระทั่งเขาร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้ หรือแม้แต่ร้องเรียกให้สวรรค์ฟ้าดินช่วยก็ไม่ได้…
ถึงขนาดกล้าลักพาตัวเสี่ยวซีของเขาไป ต่อให้ต้องตกนรกสิบแปดขุมแช่อยู่ในกระทะทองแดงก็ไม่สามารถทลายความเกลียดชังของเขาลงได้
ดังนั้น…เขาจะใช้วิธีของตัวเขาเองทรมานคนน่ารังเกียจอย่างหมอนี่อย่างเหี้ยมโหด!
ต่อหน้าเสี่ยวซี!
“หนิงเฉินเซวียนแกเลิกพูดจาปั้นน้ำเป็นตัวได้แล้ว ใครกันแน่ที่ใกล้ตาย? เหอะ แกกำลังทำสิ่งที่ผิดขัดต่อจริยธรรมของมนุษย์ พระเจ้าจะต้องส่งเทพแห่งสายฟ้ามาจัดการแกแน่…” เฮ่อเหลียนชิงพยายามฝืนความเจ็บปวดพร้อมตำหนิเสียงเย็น
ในใจของเขารู้ดี หากตกอยู่ในเงื้อมมือของหนิงเฉินเซวียนในเวลาที่บ้าคลั่งเช่นนี้ ชีวิตน้อย ๆของเขาก็ยากที่จะรักษาเอาไว้ได้
ถึงแม้จะทำใจไม่ได้อยู่บ้าง
แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการซื้อเวลาให้เหยียนหมิงซุ่น หนิงเฉินเซวียนกลายเป็นหมาบ้ากัดคนมั่วซั่วไปทั่วแล้วและไม่รู้ว่าเขาจะโทรสั่งทหารพลีชีพที่ฐานลับให้จุดชนวนระเบิดเมื่อไร
ดังนั้นต่อให้เขาต้องตายก็ต้องถ่วงเวลาให้ได้มากที่สุด ถือว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำเพื่อประชาชนอีกนับร้อยชีวิตก็แล้วกัน!
อย่างน้อยหลังความตายก็ยังมีคุณงามความดีประดับไว้อยู่บ้าง ดื่มด่ำกับความเคารพนับถือของมวลมนุษย์บนโลกนี้ ความรู้สึกแบบนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว!
พอเฮ่อเหลียนชิงคิดแบบนี้แล้วก็พลันรู้สึกว่าความตายไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ถึงอย่างไรเสียเขาก็สมควรตายนานแล้ว ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านเขาแอบหนีพญายมราชมาซึ่งถือว่ามากพอแล้ว!
แต่เขาต้องการให้หนิงเฉินเซวียนตายต่อหน้าเขาเช่นกัน!
ไม่อย่างนั้นเขาคงนอนตายตาไม่หลับ!
หนิงเฉินเซวียนระเบิดเสียงหัวเราะบ้าคลั่งอย่างชอบใจ “ฉันกำลังจะตายงั้นเหรอ…ฮ่า ๆ…เฮ่อเหลียนชิงแกดูให้ดีสิ นั่นมันอะไร…ขอแค่ฉันกดเบา ๆทางฐานลับก็จะได้รับคำสั่งพร้อมระเบิดภายในสามวินาทีเลยล่ะ…”
เขาชี้ไปที่กล่องเหล็กเล็ก ๆที่ฝาเปิดไว้อยู่ไม่ไกลจนเผยให้เห็นปุ่มสีแดงด้านใน มันเหมือนกับปุ่มหยุดฉุกเฉินบนเครื่องจักร แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่…
นี่คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คนนับร้อยในทิศตะวันตกเฉียงใต้และชีวิตของเหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อ
แค่หนิงเฉินเซวียนกดลงไปสัญญาณก็จะถูกส่งไปยังฐานลับที่ภูเขาสือว่าน ทหารพลีชีพที่รออยู่ก็จะจุดชนวนทันทีที่ได้รับสัญญาณ หลังจากนั้นก็จะระเบิด…
เขาน่าจะรู้สึกว่าเฮ่อเหลียนชิงเป็นปลาตายบนเขียงของเขาที่ไม่สามารถกระโดดหนีไปไหนได้แล้ว หนิงเฉินเซวียนบอกความลับของเขาอย่างลำพองใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง!
หัวใจของเฮ่อเหลียนชิงเต้นแรงเพราะสวิตช์อยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอแค่เขาสามารถตัดการเชื่อมต่อได้ ถ้าอย่างนั้นคำสั่งของหนิงเฉินเซวียนก็คงไม่ถูกปล่อยออกไป
ชนวนระเบิดที่ฐานลับก็ยิ่งมีโอกาสที่จะไม่เกิดขึ้นมากขึ้นอีก!
เฮ่อเหลียนชิงยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น แต่พอมองไปที่ขาทั้งสองข้างที่ไร้ความรู้สึกแล้วก็รู้สึกขัดใจเหลือเกิน เขาจะต้องคิดหาหนทางดี ๆถึงจะได้!
ตอนที่ 2277 หนี้บัญชีเก่า
หนิงเฉินเซวียนมองไปที่เฮ่อเหลียนชิงอย่างดูถูกเหยียดหยาม “แกคิดจะทำลายสวิตช์งั้นเหรอ? ฮ่า ๆ พึ่งพาสองขาที่ไร้ประโยชน์ของแกงั้นเหรอ? คลานยังช้ากว่าหอยทากอีก แกว่าถ้าแกไม่ใช่ของไร้ประโยชน์แล้วเป็นอะไรล่ะ?”
เขาสะบัดแส้ฟาดในทุกประโยค ในไม่ช้าบนตัวเฮ่อเหลียนชิงก็เต็มไปด้วยเลือด เขาแอบหลุดปริเสียงออกมาไม่กี่ครั้งเท่านั้น สาบานต่อให้ตายก็จะไม่ร้องขอความเมตตาเด็ดขาด
“คนไร้ประโยชน์อย่างแกยังกล้าฉวยโอกาสตอนฉันไม่อยู่บ้านล่อลวงเสี่ยวซีงั้นสิ? เหอะ… ทำไมฉันไม่วางยาแกให้ตายไปตั้งแต่แรกนะ แต่ไม่เป็นไรเพราะยังไม่สายเกินไปที่จะฆ่าแก ผู้ชายที่อยู่เคียงข้างเสี่ยวซีได้ตลอดไปมีแค่ฉันเท่านั้น! พอฉันกลายเป็นฮ่องเต้ เสี่ยวซีก็จะกลายเป็นฮองเฮาของฉัน ส่วนแกก็จะกลายเป็นซากศพใต้ดินที่โดนแมลงกัดแทะ…”
ท่าทางการแสดงออกของหนิงเฉินเซวียนดูล่องลอยมากราวกับติดอยู่ในโลกในจินตนาการของตัวเอง ดวงตาเหม่อลอยและคลุ้มคลั่ง ปากก็เอาแต่พึมพำชื่อของเสี่ยวซีจนลืมฟาดแส้เฮ่อเหลียนชิง
เฮ่อเหลียนชิงถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมขยับร่างกายอันหนักอึ้งอย่างยากลำบาก เขาทำลายฝันกลางวันของหนิงเฉินเซวียนด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “เสี่ยวซีตายไปแล้ว และแกก็ไม่สามารถเป็นฮ่องเต้ได้!”
“ไร้สาระ…เสี่ยวซียังไม่ตาย เธอก็แค่หลับไป อีกไม่นานฉันก็จะปลุกเธอขึ้นมาปกครองใต้หล้าแห่งนี้ไปด้วยกัน…คนปกติธรรมดาอย่างแกจะเข้าใจอะไร!”
หนิงเฉินเซวียนสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่จนฟาดแส้ไปหลายที
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้สมองที่พร่าเบลอของเฮ่อเหลียนชิงได้สติขึ้นมาบ้าง เขาจับช่องโหว่ในคำพูดของหนิงเฉินเซวียนได้จึงพลันหัวใจเต้นแรงถามอย่างไม่แน่ใจว่า “แกไม่ได้ฝังเสี่ยวซีงั้นเหรอ?”
ปีนั้นเสี่ยวซีตายในอ้อมแขนของเขา เขาปวดใจทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุดแล้วเตรียมจะไปซื้อไม้หนานมู่ทองคำเพื่อเอามาทำเป็นโลงศพให้เสี่ยวซี แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะร่างของเสี่ยวซีหายไป ในเวลานั้นผู้ต้องสงสัยคนแรกของเขาก็คือหนิงเฉินเซวียนและเจ้าหมอนี่ก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน เขาบอกแค่ว่าเขาเผาเสี่ยวซีไปแล้วและจะนำกลับไปฝังที่บ้านเกิด
เฮ่อเหลียนชิงและเขาทะเลาะกันใหญ่โต แต่ในเมื่อเผาไปแล้วไม่ว่าเขาจะโกรธแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนนั้นเขาค่อนข้างเกลียดเสี่ยวซีเพราะผู้หญิงคนนี้ทรยศเขา
เดิมทีเขากะจะฆ่าเสี่ยวซีแต่ยังไม่ทันได้ลงมือสุดท้ายเสี่ยวซีก็ชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน กว่าเขาจะไปถึงร่างกายของเสี่ยวซีก็อาบไปด้วยเลือดและกำลังจะตาย ตอนท้ายเธอพูดเพียงประโยคเดียวว่า ‘ฉันขอโทษ’ จากนั้นก็ปิดตาอันกลมโตที่น่าหลงใหลคู่นั้นลง
“เสี่ยวซีเธอยังไม่ตาย ทำไมต้องฝัง? ฉันจะอยู่กับเธอตลอดไป และแก…ไม่มีทางเป็นเจ้าของเสี่ยวซีได้ตลอดกาล!”
หนิงเฉินเซวียนหัวเราะแปลก ๆ เสียงหัวเราะชวนให้ขนลุกซู่ทีเดียว
เฮ่อเหลียนชิงก่นด่าในใจว่าโรคจิตพลางลอบกวาดตาไปรอบ ๆเพื่อมองหาเสี่ยวซี
ตามความเข้าใจของเขาที่มีต่อหนิงเฉินเซวียน ตาแก่โรคจิตวิปริตนี่จะต้องเอาเสี่ยวซีไว้ข้างกาย หากคิดจะรักษาร่างกายไม่ให้เน่าเปื่อยหลายสิบปี งั้นก็มีเพียงหยกเย็นหมื่นปีที่จะช่วยรักษาไม่ให้ร่างกายเน่าเปื่อยเหมือนก่อนตาย
พอนึกถึงหญิงงามคนนั้น ขนาดตายยังไม่สงบสุขเลย หัวใจของเฮ่อเหลียนชิงก็พลันเจ็บแปลบขึ้นมาพร้อมด่าทอด้วยความโกรธแค้นว่า “แม้กระทั่งคนตายแกยังไม่ยอมปล่อย หนิงเฉินเซวียนแกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? เสี่ยวซีไม่ได้รักแกเลย แล้วก็ไม่ได้อยากอยู่กับแกด้วย…”
“เพ้อเจ้อ…คนที่เสี่ยวซีรักที่สุดก็คือฉัน เธอยังมีลูกกับฉันแต่ไม่ได้มีกับแก…ฮ่า ๆ เฮ่อเหลียนชิงแกกำลังอิจฉาล่ะสิ ฉันรู้ว่าแกอิจฉาเพราะว่าแกไม่ได้รับความรักจากเสี่ยวซี…”
หนิงเฉินเซวียนตะโกนออกมาด้วยความโกรธอล้วฟาดแส้ใส่เฮ่อเหลียนชิง ในไม่ช้าตัวเขาก็เต็มไปด้วยเลือด!
“แกมันก็แค่เจ้าโง่ที่หลอกตัวเอง…เสี่ยวซีไม่ได้รักใครทั้งนั้นแหละ เธอไม่รักแกแล้วก็ไม่ได้รักฉัน ฉันก็เป็นแค่เครื่องมือที่เธอใช้เพื่อหลบหนีจากพันธนาการของแกก็เท่านั้น แกทำให้เธอกลัวและรังเกียจ หนิงเฉินเซวียนแกรู้ไหมว่าเรื่องที่เสี่ยวซีเสียใจที่สุดคืออะไร?”
เฮ่อเหลียนชิงเอื้อมมือไปเช็ดเลือดที่มุมปากพลางหัวเราะอย่างเย้ยหยัน จากนั้นก็มองไปที่หนิงเฉินเซวียนอย่างดูถูก พูดทีละคำชัด ๆว่า “สิ่งที่เสี่ยวซีเสียใจที่สุดในชีวิตก็คือการที่เธอเกิดมาในตระกูลหนิง และเป็นน้องสาวของแกหนิงเฉินเซวียน!”
…………………………………………..
ตอนที่ 2278 ไปหาระเบิด
พอเฮ่อเหลียนชิงนึกถึงหญิงงามคนนั้น หลังจากความจริงเรื่องของเฮ่อเหลียนเช่อถูกเปิดเผยออกมาเธอก็พูดกับเขาประโยคหนึ่งว่า
“ถ้าหากชาติหน้ามีจริง ฉันอยากเกิดเป็นสาวชาวนาธรรมดา ๆทำงานหนักในทุ่งนาตลอดชีวิต และไม่อยากเป็นน้องสาวของหนิงเฉินเซวียนด้วย!”
หนิงเฉินเซวียนสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ คำพูดของเฮ่อเหลียนชิงทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่น่าปวดใจเหล่านั้น หัวใจรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงยังไงอย่างนั้น…เจ็บปวดเหลือเกิน!
“พูดจาซี้ซั้ว เสี่ยวซีรักฉัน เธอยังคลอดอาเช่อมาให้ฉันด้วย…”
“เฮ่อเหลียนเช่อกำเนิดออกมาอย่างไร? หนิงเฉินเซวียนแกก็รู้อยู่แก่ใจดีไม่ใช่เหรอ? แกฉวยโอกาสตอนที่ฉันออกจากบ้านขู่บังคับเสี่ยวซีจนเธอท้อง เสี่ยวซีไม่กล้าเล่าสถานการณ์ให้ฉันฟัง ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ใช้ชีวิตอยู่ในความกลัวและโทษตัวเองจนเป็นภาวะซึมเศร้า ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่เธอฆ่าตัวตาย…”
เฮ่อเหลียนชิงโกรธแค้นอย่างถึงที่สุด เขาเกลียดหนิงเฉินเซวียนแต่ก็เกลียดตัวเองด้วยเช่นกัน
ถ้าหากตอนนั้นเขาแสดงความห่วงใยเสี่ยวซีสักหน่อย บางทีเธอคงไม่ฆ่าตัวตายและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจนถึงตอนนี้
แต่ตอนนั้นเขายังเด็กและใจร้อนจึงรับไม่ได้ที่เพื่อนและภรรยาทรยศหักหลังเขา เขาเกลียดเสี่ยวซีที่ใช้เขาเป็นเครื่องมือหลบหนีการคุกคามของหนิงเฉินเซวียน นั่นจึงทำให้เขาปฏิบัติต่อเสี่ยวซีอย่างเย็นชาเป็นเวลานาน…
เขาผิดไปแล้ว!
เฮ่อเหลียนชิงที่ตกอยู่ในภวังค์และตำหนิตัวเองอยู่จึงไม่ทันสังเกตความตื่นตระหนกที่พาดผ่านดวงตาของหนิงเฉินเซวียน
********
เสี่ยวเมิ่งที่ใจร้อนดั่งไฟแผดเผาก็มาถึงในไม่ช้า เขาได้ยินเหมยเหมยบอกว่าโฉ่วโฉ่วรู้ว่าจะหาตัวหนิงเฉินเซวียนได้จากที่ใด ฉับพลันเขาก็พาลูกน้องไปช่วยเฮ่อเหลียนชิงทันที
“เวลาไม่คอยท่า ตาแก่บ้านั่นเกลียดนายท่านเข้ากระดูกดำ หากชักช้ากลัวว่านายท่านจะตกอยู่ในอันตรายได้!”
เสี่ยวเมิ่งหัวเสียเป็นอย่างมากเพราะเอวของเขาเจ็บออดแอด หลายวันมานี้อาการปวดกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว เฮ่อเหลียนชิงเห็นใจเขาจึงไม่ยอมให้เขาติดตามไปด้วยแล้วพาแค่บอดี้การ์ดที่มาใหม่ไม่กี่คนติดตามไปที่สนามแข่งม้าด้วยเท่านั้น เขานึกว่าหนิงเฉินเซวียนแอบซ่อนตัวอยู่เพราะงั้นนายท่านคงไม่ตกอยู่ในอันตรายจึงไม่ดึงดันที่จะติดตามไป
แต่ไหนเลยจะรู้ว่าแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวที่ไม่ได้ติดตามกลับกลายเป็นเรื่องไปได้
หากนายท่านมีอันเป็นไป ต่อให้เขาตายเป็นพันเป็นหมื่นครั้งก็ยากที่จะหลุดพ้นความผิดนี้ไปได้!
เหมยเหมยเองก็อยากจะตามไปด้วยแต่เธอรู้ว่าไปก็ช่วยอะไรไม่ได้จึงยอมอยู่บ้านแล้วให้เสี่ยวเมิ่งพาเสี่ยวเป่าและโฉ่วโฉ่วไป
“ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหมยเหมยลูกพูดกับแม่มาให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลยนะ…” เหยียนซินหย่ารู้สึกถึงบรรยากาศความตึงเครียด แม้แต่คนเก่งอย่างเฮ่อเหลียนชิงยังถูกลักพาตัวไป ถ้าอย่างนั้นที่อยู่ดี ๆเหมยเหมยร้องไห้เมื่อครู่ก็ไม่ใช่เพราะคิดถึงเหยียนหมิงซุ่นอย่างแน่นอน
ต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วแน่นอน!
เมื่อต้องเผชิญกับคำถามซ้ำ ๆของเหยียนซินหย่าเหมยเหมยจึงไม่สามารถปิดบังต่อไปได้อีก เธอเลยเล่าเรื่องฐานลับและหนิงเฉินเซวียนให้ฟังพร้อมน้ำตาที่ไหลรินลงมาอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
น้ำตาที่ไหลรินของเธอหลายวันมานี้มากกว่าหลายปีก่อน ๆรวมกันเสียอีก เธอเกลียดความอ่อนแอของตัวเองแต่เธอก็ควบคุมมันไม่อยู่เหมือนกัน
“พระเจ้า…บ้าไปแล้ว…ตาแก่บ้านี่คิดจะทำอะไรกันนะ…เหมยเหมยทำไมลูกไม่บอกแม่ให้เร็วกว่านี้ ยัยหนูที่น่าสงสารเอ๊ย…”
เหยียนซินหย่าโอบกอดเหมยเหมยไว้ในอ้อมแขนอย่างปวดใจ หลายวันมานี้ไม่รู้ว่าลูกสาวของเธอผ่านมันมาได้อย่างไร?
ต้องทนทุกข์อยู่คนเดียวแถมยังท้องอีกต่างหาก!
“แม่ไม่กลับบ้านแล้ว แม่จะอยู่กับลูกจนกว่าเหยียนหมิงซุ่นจะกลับมา” เหยียนซินหย่าโทรหาผู้ช่วยทันทีเพื่อบอกให้ช่วยเลื่อนตารางงานออกไปทั้งหมด สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือสุขภาพของลูกสาว เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
เหมยเหมยรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง ถึงแม้เหยียนซินหย่าจะช่วยอะไรไม่ได้แต่อย่างน้อยก็มีคนอยู่เคียงข้าง เธอก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานใจขนาดนั้นแล้ว!
ณ ภูเขาสือว่าน
เหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อตรวจค้นละแวกรอบ ๆฐานลับรอบหนึ่งพร้อมทั้งจัดการเจ้าหน้าที่ประจำฐานไปด้วย แต่กลับล้มเหลวในการค้นหาสวิตช์ระเบิด หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงพวกเขาทั้งสองก็มาเจอกัน
“ล่าช้าไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ฉันกลัวว่าหนิงเฉินเซวียนจะกดระเบิดก่อนเวลา เอาแบบนี้แล้วกันพวกเราไปหาระเบิดมากันเถอะ!”
เหยียนหมิงซุ่นตัดสินใจทำตามแผนสำรอง ในเมื่อหาสวิตช์ไม่พบงั้นเราก็ไปหาระเบิด แค่ไม่มีมันต่อให้ระเบิดขึ้นมาก็ไม่ต้องกลัวอะไร!
ตอนที่ 2279 ราบรื่นเกินไปแล้ว
“ได้ แยกย้ายกันไปหาแล้วกัน”
เฮ่อเหลียนเช่อพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งสองแยกย้ายกันอีกครั้ง คนที่เฝ้าฐานลับถูกพวกเขาฆ่าทิ้งไปหมดแล้ว ทุกอย่างจึงเงียบสงัด ทั้งสองเหมือนเข้าไปในดินแดนที่ไร้ผู้คน
ระเบิดหาได้ไม่ยากเพราะมันเป็นฐานลับปรมาณู หนิงเฉินเซวียนจึงไม่ได้ฝังระเบิดไว้รอบ ๆฐานแต่ฝังไว้ใกล้สถานีรับแรงกระแทกไม่น้อยและฝังลึกมากด้วย แถมยังเทปูนซีเมนต์ทับไว้อีกชั้น
”บ้าเอ้ย…แล้วนี่จะขุดอย่างไร?”
เฮ่อเหลียนเช่อโมโหอย่างมาก ปูนซีเมนต์หนาขนาดนี้ต่อให้เขาจะเกิดมาพร้อมกับพละกำลังมหาศาลก็ยังต้องขุดอยู่หลายวัน เวลามีไม่มากพอ
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่นพลางก่นด่าหนิงเฉินเซวียนหน้าเนื้อใจเสือในใจ คาดไม่ถึงว่าจะฝังระเบิดเอาไว้แบบนี้ เขาไม่ได้คิดหาทางหนีทีไล่เผื่อเอาไว้ด้วย
นี่เขาทุ่มสุดตัววางเดินพันหมดหน้าตักเลยนะ!
“ไปที่ฐานดูว่ามีเครื่องมือไหม ต่อให้ขุดไม่ได้ก็ต้องขุด!”
เหยียนหมิงซุ่นรีบวิ่งไปที่ฐานลับแล้วแสร้งทำเป็นว่าหาที่ขุดพบที่ฐาน แต่ในความเป็นจริงเขาให้ฉิวฉิวหยิบออกมาให้ โชคดีที่เขาเตรียมพร้อมมาเต็มที่
“อันนี้ไม่เลว ลุยเลย!”
เฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้สงสัยอะไร หลังจากได้รับที่ขุดมาก็เริ่มลงมือขุดปูนซีเมนต์ เหยียนหมิงซุ่นก็อยู่ข้างหลังไม่ไกล ทั้งสองมีพละกำลังไม่น้อยจึงขุดในระดับความเร็วที่ไม่แย่เลย
“อันที่จริงมันไม่ได้หนามาก ตามอัตราความเร็วแบบนี้พวกเราน่าจะขุดปูนแผ่นนี้ออกมาได้ภายในอีกสามชั่วโมง” เฮ่อเหลียนเช่อมองอย่างลำพองใจ ทันใดนั้นความหวังของชีวิตก็ถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง
หากทำลายระเบิดได้ ถ้าอย่างนั้นฐานลับก็จะไม่ระเบิด งั้นเขาก็จะสามารถไปอยู่ต่างประเทศกับเหมยซูหานและเสี่ยวเป่าได้สิ
“หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว เร็วเข้า!”
เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงเย็นชา เขาสาดน้ำใส่สว่านเพื่อลดอุณหภูมิ สว่านทำงานเป็นเวลานานจึงร้อนจนสามารถย่างเนื้อได้แล้ว
ทั้งสองใส่สุดแรง พวกเขาใช้เวลาไม่ถึงสามชั่วโมงปูนซีเมนต์บริเวณรอบ ๆนั้นก็ถูกขุดจนหมด จากนั้นก็เอาพลั่วทหารขุดดินอย่างระมัดระวัง ในที่สุดก็เห็นระเบิด พวกเขาสบตากันอย่างตื่นเต้น กลั้นลมหายใจ ไม่กล้าประมาทเลินเล่อเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว
“ตัดชนวนระเบิด แล้วรื้อระเบิดพวกนี้ซะ”
เหยียนหมิงซุ่นพูดไปพลางมองหาตัวชนวนไป เขาและเฮ่อเหลียนเช่อได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการกู้ระเบิดมาโดยเฉพาะ ในไม่ช้าพวกเขาก็เจอชนวนระเบิด จากนั้นจึงตัดเป็นชิ้น ๆแล้วรื้อระเบิดออกมาอย่างระมัดระวัง
“ทำไมถึงได้ราบรื่นขนาดนี้…นายรู้สึกว่ามันราบรื่นเกินไปไหม?”
เฮ่อเหลียนเช่อไม่ค่อยกล้าที่จะเชื่อผลลัพธ์นี้สักเท่าไร ตอนมาเขาเตรียมพร้อมที่จะเสียสละชีวิตมาเต็มที่ แต่ตอนนี้มันกลับง่ายดายเสียจนเหมือนฝันยังไงอย่างนั้นเลย
“ทะแม่ง ๆชอบกล…พวกเราหาอีก!”
เหยียนหมิงซุ่นก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นเดียวกัน หนิงเฉินเซวียนตั้งใจวางกลไกสวิตช์ไว้เป็นอย่างดี ถ้าเช่นนั้นจะทำลายได้ง่ายดายขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?
แสดงว่าจะต้องมีอุบายอย่างอื่นซ่อนอยู่อีกแน่ ๆ!
เหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อต่างไม่รู้ว่ามีห้องปิดตายห้องหนึ่งในฐานลับ ในนั้นมีชายคนหนึ่งนั่งปกปิดใบหน้าพร้อมด้วยอาวุธครบครัน ที่นั่นมีเพียงท่อเชื่อมต่อถังออกซิเจนและเสียงหายใจอันหนักหน่วงที่มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยิน
เขาเป็นทหารพลีชีพที่หนิงเฉินเซวียนส่งมา สองวันก่อนเขาได้รับคำสั่งจากหนิงเฉินเซวียนให้เข้าไปในห้องปิดตายแห่งนี้ หลังจากนั้นก็ให้คนที่ฐานลับใช้ปูนซีเมนต์ปิดผนึกทางเข้าออกทั้งหมดที่นี่
ไม่มีอากาศ ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร มีเพียงรังสีที่สามารถฆ่าคนได้และความมืดไร้ที่สิ้นสุด
โดยทั่วไปภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้รับน้ำและอาหาร มนุษย์เราจะสามารถอยู่รอดได้ไม่เกินสามวัน ถึงแม้ว่าทหารพลีชีพคนนี้จะได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษแต่ก็มิอาจยืนหยัดได้นานและไม่มีทางทนได้เกินสี่วันแน่นอน
ทหารพลีชีพยืนหยัดมาเป็นเวลาสองวันแล้ว อย่างมากเขาคงยืนหยัดได้อีกแค่สองวันเพราะออกซิเจนมีเหลือเพียงแค่นั้น ในเมื่อเข้ามาในห้องปิดตายแห่งนี้แล้วก็คงไม่มีทางรอดกลับไปแน่นอน
อีกสองวันหลังจากนี้ต่อให้หนิงเฉินเซวียนจะไม่ได้ออกคำสั่ง เขาก็ต้องกดสวิตช์อยู่ดี
…………………………………………..
ตอนที่ 2280 ทำลายสวิตช์
หนิงเฉินเซวียนไม่ร้อนใจเลยสักนิด เขามั่นใจว่าแผนของเขาไม่มีทางพลาด ต่อให้พวกเหยียนหมิงซุ่นหาห้องลับปิดตายนั่นเจอก็ไม่มีทางเข้าไปได้
เขายกข้อมือขึ้นดูเวลา ตอนนี้เหลือเวลาอีกยี่สิบชั่วโมงสี่สิบนาทีเจ็ดวินาที…ฮ่า ๆ…ชัยชนะอยู่ตรงหน้าแล้ว
“เฮ่อเหลียนชิง แกรู้ไหม? ต่อให้นายใหญ่จะยอมยกตำแหน่งให้ ฉันก็จะไม่ให้คนหยุดระเบิดฐานลับนั้นแน่นอน ทางตะวันตกเฉียงใต้…ชะตาลิขิตให้ถูกยึดครองดินแดนแล้ว!” หนิงเฉินเซวียนลำพองใจเป็นอย่างมาก
ทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นบ้านเกิดของเขาและเป็นต้นตระกูลของตระกูลหนิง ในอดีตความรุ่งเรืองถูกสร้างขึ้น ณ ดินแดนนั้น แต่ตอนนี้เขา…กลับจะทำลายผืนดินนั้น
เพราะว่า——
ตระกูลหนิงจะอยู่ในกำมือของเขาแล้วก้าวสู่ความรุ่งโรจน์ใหม่อีกครั้ง!
พวกที่ทรยศต่อบรรพบุรุษพวกนั้นไม่สมควรเป็นคนของตระกูลหนิง เขาอยากจะทำลายพวกนั้นให้เละมานานแล้ว!
ตอนนี้นับว่าสบโอกาสพอดี
“หนิงเฉินเซวียนแกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? ทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นดินแดนของบรรพบุรุษของแก ที่นั่นยังมีคนตระกูลหนิงอีกหลายร้อยคน แกอยากให้พวกเขาตายกันหมดงั้นเหรอ?” เฮ่อเหลียนชิงสบถด่าออกมา ความเจ็บปวดภายในร่างกายทำให้เขาสูญเสียพลังงานไปมากแต่ก็ยังพยายามยืนหยัดไว้อยู่
“พวกเขาไม่ใช่คนในตระกูลฉัน พวกเขาเป็นคนทรยศ ตายไปก็ดีแล้วนี่!”
หนิงเฉินเซวียนแค่นเสียงเย็นชาแล้วฟาดแส้ใส่อีกหลายที เฮ่อเหลียนชิงเจ็บจนสบถด่าบุพการีแต่เขาขยับขาทั้งสองข้างไม่ได้จึงทำได้แค่ทนรับไป
โชคดีที่หนิงเฉินเซวียนเดินออกไปแต่ก็ไม่รู้ว่าออกไปทำอะไร ห้องโถงด้านหน้าเหลือแค่เฮ่อเหลียนชิงเพียงลำพัง หนิงเฉินเซวียนวางใจในตัวเขามาก กล่องสวิตช์เปิดอ้ากว้างวางไว้หน้าประตู เฮ่อเหลียนชิงรู้สึกดีใจมาก เขาต้องหาทางทำลายสวิตช์นั่นเสีย
แต่ขาของเขาไม่มีปัญญาจะขยับได้เลย!
เฮ่อเหลียนชิงกัดฟันและใช้มือยันพื้นขยับตัวไปอย่างช้า ๆ จุดที่คลานผ่านจะมีเลือดสีแดงวาดลากผ่านซึ่งเป็นภาพที่น่าสยดสยองไม่น้อยเลย
“โอ๊ย…”
มีเสียงครวญครางดังมาจากด้านหลัง เฮ่อเหลียนชิงหันไปอย่างระมัดระวัง ถามเสียงต่ำว่า “ใคร?”
เหมยซูหานค่อย ๆได้สติขึ้นมาอย่างช้า ๆ หลังจากที่เขาถูกหนิงเฉินเซวียนจับตัวมาก็ถูกทรมานอย่างหนักและโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเฮ่อเหลียนชิงเสียอีก บนร่างกายมีบาดแผลเหวอะวะเต็มไปหมดจนตอนนี้ถึงเพิ่งได้สติฟื้นขึ้นมา
ขาข้างหนึ่งของเขาหัก บนใบหน้าของเขาโดนมีดกรีดนับไม่ถ้วน ช่างน่าอนาถเหลือเกิน
หนิงเฉินเซวียนเชื่อว่าเหมยซูหานเป็นคนยุแหย่ให้เฮ่อเหลียนเช่อเอาใจออกห่างจากเขาจึงเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากให้เหมยซูหานตายง่าย ๆแต่อยากให้ทรมานแล้วตายอย่างช้า ๆเพื่อสร้างความพอใจให้แก่สภาวะจิตใจที่วิปริตของเขา และคลายความแค้นลงได้
เหมยซูหานก็คาดไม่ถึงว่าที่นี่ยังจะมีคนอยู่อีก เขาถามเสียงแหบแห้งว่า “ผมคือเหมยซูหาน คุณเป็นใคร?”
“นายเป็นชายชู้ของเฮ่อเหลียนเช่อไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงโดนจับมาด้วยล่ะ?” เฮ่อเหลียนชิงประหลาดใจไม่เบา ดูเหมือนว่าตาแก่สารเลวหนิงเฉินเซวียนจะฆ่าทุกคนที่เขาไม่พอใจ
เหมยซูหานฟังเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเฮ่อเหลียนชิงออก เขาพยายามที่จะยืนขึ้นแล้วเดินโซซัดโซเซมาด้านข้างของเฮ่อเหลียนชิง พอเฮ่อเหลียนชิงเห็นเหมยซูหานที่ผิวหนังเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะเลือดอาบไปทั้งร่างก็อดสะดุ้งตกใจไม่ได้
บ้าเอ้ย!
ตาแก่หนิงสารเลวมันบ้าไปแล้วจริง ๆ!
เขากลั้นใจมองเหมยซูหานอีกครั้งแล้วชี้ไปที่กล่องสวิตช์ “นายเห็นกล่องนั้นไหม? นายเดินไปหาเส้นวงจรแล้วทำลายทิ้งซะ นั่นคือสวิตช์ระเบิดฐานลับ”
เหมยซูหานใจเต้นระส่ำ ยังไม่ทันพูดจบก็เดินไปแล้ว ขอแค่ทำลายสวิตช์นั้นทิ้งอาเช่อก็จะไม่ตาย!
เฮ่อเหลียนชิงก็คลานตามไปด้วย ต้องฉวยโอกาสก่อนที่หนิงเฉินเซวียนจะกลับมารีบหาวงจรและทำลายมันซะ!
“ฉันหาเจอแล้ว แต่ไม่มีกรรไกร…ไม่ต้องใช้กรรไกรแล้ว ฉันจะใช้ฟันกัด!”
เส้นวงจรของสวิตช์ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเหมยซูหานจึงหาพบอย่างรวดเร็ว เขารีบกัดสายสัญญาณวงจรโดยไม่ต้องคิด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เรียนพวกไฟฟ้ามาเฉพาะด้านแต่ก็ยังเข้าใจความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าอยู่ ดังนั้นจึงหาสายสัญญาณของปุ่มควบคุมได้อย่างรวดเร็ว
สายสัญญาณไม่หนาจนเกินไป เหมยซูหานไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักก็กัดขาดได้ แต่ทว่าเขายังไม่ทันดีใจหนิงเฉินเซวียนก็กลับมาแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น