Alchemy Emperor of the Divine Dao 1930-1931
ตอนที่ 1930 ผิดรูปแบบ
“เจ้ากล้าดีอย่างไร!” ทันทีที่อสูรเฒ่าเงาโลหิตส่งเสียงคําราม เขาก็ลงมือโจมตีใส่ป้าเยาทันที
เขาไม่ได้กังวลว่าหลิงฮันจะเป็นหรือตาย แต่เขาจําเป็นต้องรู้เสียก่อนว่าหลิงฮันนำยันต์ไม้ท้อผูกชะตาติดตัวมาด้วยหรือไม่
ถ้าหากนําติดตัวมาด้วย ต่อให้หลิงฮันตายไปก็ไม่ใช่เรื่องสําคัญ แต่ถ้าหากหลิงฮันไม่ได้นําติดตัวมาด้วย แล้วยันต์ไม้ท้อผูกชะตายังอยู่ในเมืองวิถีโอสถล่ะก็ จะให้เขาทําอย่างไร?
ยิ่งกว่านั้นอสูรเฒ่าเงาโลหิตก็ยังรู้สึกสงสัยด้วยว่าหลิงฮันมีสมบัติบางอย่างซ่อนเอาไว้ เขาจึงตัดสินใจเอาไว้นานแล้วว่า หลังจากที่ได้รับยันต์ไม้ท้อผูกชะตามา เขาจะสังหารหลิงฮันและแย่งชิงวาสนาทั้งหมดของอีกฝ่ายมาครอง ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ จึงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่เขาจะยอมให้หลิงฮันตายด้วยเงื้อมมือผู้อื่น
“โอ้?” ป้าเยาชะงักเล็กน้อย เฒ่าชราอ่อนแอผู้นี้กล้าโจมตีเขางั้นรึ?
เหอะ ดวงตาของเจ้าเน่าเฟะจนดูไม่ออกรึไงว่าข้าคือใคร?
“รนหาที่ตาย!” ป้าเยาเค้นเสียงคํารามอย่างเย็นชา และผลักฝามือตอบโต้อสูรเฒ่าเงาโลหิต
“ตูมม” คลื่นอัสนีสาดกระจายลากยาวเป็นเส้นแสงราวกับสายธาร ตราประทับแห่งเต๋าอันไร้ที่สิ้นสุดส่องประกายด้วยอํานาจอันน่ายําเกรง
อสูรเฒ่าเงาโลหิตตกตะลึง ถึงแม้เขากับป้าเยาจะเป็นตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้เหมือนกัน แต่พลังของเขากับอีกฝ่ายกลับแตกต่างกับเกินพรรณนา
ครืนน!
การโจมตีที่ทรงพลังส่งผลให้ร่างกายของอสูรเฒ่าเงาโลหิตสั่นสะท้านอย่างรุนแรง หมอกโลหิตสาดกระจายออกมาทั่วร่าง พร้อมกับออร่าของเขาได้ลดลงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
อสูรเฒ่าเงาโลหิตมีพลังบ่มเพาะในระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ขั้นต้นเท่านั้น ในขณะที่ป้าเยามีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ขั้นสมบูรณ์ เพราะงั้นความต่างในพลังของทั้งสองจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจนํามาเทียบชั้นกันได้!
อสูรเฒ่าเงาโลหิตทรุดตัวลงกับพื้นก่อนที่จะฝันพยายามลุกกลับขึ้นมา เส้นผมสีขาวโพลนบนศีรษะของเขาค่อยๆ หลุดร่วงจนพื้นที่กลางศีรษะกลายเป็นว่างเปล่าราวกับคนหัวล้าน
“อั่ก!” ชายชรากระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเส้นผมที่ค่อยๆ หลุดร่วง โลหิตที่ไหลออกมาจากร่างกายของเขาส่องประกายระยิบระยับด้วยอํานาจแห่งอัสนี เนื่องจากการโจมตีของป้าเยารุนแรงจนทะลวงลึกไปถึงไขกระดูกที่อยู่ภายในร่างกายของเขา
ออร่าระดับพลังบ่มเพาะของอสูรเฒ่าเงาโลหิตลดลงฮวบ จากระดับข้าวผ่านต้นกําเนิด แท้ไปยังระดับตําหนักอมตะห้ารากฐาน สีรากฐาน สามรากฐาน จนมาถึงระดับตัดวิญญาณสวรรค์
นี่มันน่าอัศจรรย์เกินไปรึไม่?
แน่นอนว่าไม่เลย ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ขั้นสมบูรณ์มีพลังต่อสู้ที่สามารถสังหารตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ขั้นต้นได้ภายในหนึ่งกระบวนท่า ยิ่งกว่านั้นป้าเยาก็ยังเคยเป็นถึงอดีตผู้สืบทอดของตําหนักเมฆาอัสนีอีกด้วย ยิ่งตอนนี้อสูรเฒ่าเงาโลหิตอยู่ในสภาพบั้นปลายชีวิตด้วยแล้ว พลังต่อสู้ของเขาจึงไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะงั้นมีรึที่จะสามารถต้านทานการโจมตีของป้าเยาได้?
การที่ชายชราไม่ถูกสังหารภายในหนึ่งกระบวนท่า แต่กลายเป็นพลังบ่มเพาะลดอย่างพรวดพราดแทน ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว
พลังบ่มเพาะของอสูรเฒ่าเงาโลหิตลดลงมาถึงระดับตัดวิญญาณหยินขั้นกลางก่อนจะหยุดนิ่ง ซึ่งผลลัพธ์เช่นนี้ทําให้ชายชราตกอยู่ในสภาวะหวาดผวาอย่างถึงที่สุด
จริงอยู่ที่ระดับพลังนั้นสามารถบ่มเพาะใหม่อีกครั้งได้ แต่ด้วยแก่นพลังชีวิตที่ได้รับบาดเจ็บอยู่เช่นนี้ คิดว่าเขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกกี่ร้อย กี่หมื่นปีกัน?
เกรงว่ายังไม่ทันที่พลังบ่มเพาะของเขาจะกลับไปเป็นระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ เขาก็สิ้นชีพไปก่อนนานแล้ว
กล่าวในอีกแง่หนึ่งก็คือ ถึงแม้ป้าเยาจะไม่ได้สังหารอสูรเฒ่าเงาโลหิต แต่โชคชะตาของชายชราก็ถูกกําหนดไว้แล้วว่าต้องตาย
ร่างของอสูรเฒ่าเงาโลหิตสั่นเครือ ระยะเวลาครบรอบหนึ่งร้อยล้านปีกําลังจะมาถึงในไม่ช้าแล้ว ซึ่งเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกแค่ไม่ถึงร้อยปีเท่านั้น เพราะงั้นมีรึที่เขาจะไม่หวาดกลัว?
ป้าเยามองอสูรเฒ่าเงาโลหิตอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะละสายตากลับ ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้เหมือนกัน แต่ในสายตาของเขา อีกฝ่ายก็เป็นได้เพียงขยะไร้ค่า ที่เขาไม่จําเป็นต้องลงมือสังหารเองให้เสียเวลา
“ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าสิ่งใดกันที่เจ้าซ่อนเอาไว้!” ป้าเยากล่าวในขณะที่จดจ้องไปยังหลิงฮัน
ตอนแรกนั้นเขาไม่ได้คิดจะพูดอะไรไร้สาระกับหลิงฮัน และตั้งใจจะสังหารแย่งชิงสมบัติมาในทันที เพราะอย่างไรหากใช้การตรวจสอบผ่านวิญญาณ ก็ไม่มีความลับใดที่สามารถหลบพ้นอยู่แล้ว แต่ในเมื่อการโจมตีของเขาถูกขัดขวางเอาไว้ได้ ความร้อนรนที่มีในตอนแรกจึงลดลง
“แล้วมันทําไม?” หลิงฮันยิ้มอย่างไม่หวั่นเกรง
“ไม่ว่าสิ่งใดจะอยู่ในตัวเจ้า ตอนนี้มันก็เป็นของข้าแล้ว!” ป้าเยากล่าว และแอบปิดกั้นพื้นที่โดยรอบอย่างเงียบเฉียบ หากไม่ใช่ราชานิรันดร์ที่จงใจใช้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบล่ะก็ ไม่มีทางเด็ดขาดที่คนนอกจะรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่
ด้วยเหตุนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างถึงอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
หลิงฮันส่ายหัว “ข้าไม่คิดเช่นนั้นนะ!”
“เจ้าหนู เจ้าคิดว่าที่นี่คือเมืองวิดีโอสถรึไง?” ป้าเยาเค้นเสียง จริงอยู่ที่ว่าที่นี่มีผู้สืบทอดขุมอํานาจราชานิรันดร์อยู่มากมาย แม้แต่สุดยอดอัจฉริยะอย่างเอี๋ยนเซียนลู่ก็อยู่ที่นี้ด้วย เพราะงั้นเขาจึงไม่กล้าสังหารใครสุ่มสี่สุ่มห้า
แต่กับหลิงฮันน่ะรึ?
อีกฝ่ายเป็นเพียงจอมยุทธตัวจ้อยของเมืองวิถีโอสถเท่านั้น ต่อให้เขาสังหารหลิงฮัน และเมืองวิถีโอสถบุกไปเรียกร้องถึงตําหนักเมฆาอัสนี ใครจะทําอะไรเขาได้?
ช่างน่าขันนัก
หลิงฮันยิ้ม “จริงอยู่ที่ที่นี่ไม่ใช่เมืองวิถีโอสถ และอาจารย์ของข้าก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ เพียงแต่ว่า…ใต้ดวงตะวันนี้สิ่งน่าอัศจรรย์นั้นมีอยู่มากมาย!”
“โอ้ อย่างเช่นอะไรล่ะ?” เป้าเยาเอ่ยถามอย่างไม่แยแส พร้อมกับก้าวเดินเข้าหาหลิงฮัน ถึงแม้ความเร็วในการก้าวเดินของเขาจะไม่เร็ว แต่ทุกๆ ฝีก้าวล้วนแต่แฝงไปด้วยอํานาจแห่งเต๋่ที่กดขี่เพราะงั้นจิตใจรู้สึกหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก
อํานาจของตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธระดับโลกียนิพพานจะต้านทานไหว
ป้าเยาจงใจเดินอย่างเชื่องช้า เพราะในเมืองวิดีโอสถก่อนหน้านี้เขาถูกปรมาจารย์จื่อเฉิงขับไล่จนต้องเสียหน้าอย่างแรง ถึงแม้สิ่งที่เขาทําอยู่ในตอนนี้จะไม่สามารถแก้แค้นปรมาจารย์จื่อเฉิงได้ แต่หลิงฮันก็เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ความรู้สึกเจ็บปวดของเขาจึงบรรเทาลงบ้างไม่มากก็น้อย
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
การก้าวเดินแต่ละครั้งของเขา ส่งผลให้สีหน้าของผู้คนมากมายแสดงออกถึงความรู้สึกกระอักกระอ่วน ราวกับจิตใจจะระเบิดออกมา
“ช่างน่ารังเกียจนัก!” ฮูหนิวเกรี้ยวกราดและส่งเสียงคํารามใส่ป้าเยา “นอกจากจะบังอาจปองร้ายหลิงฮันของหนิวแล้ว เจ้ายังทําให้หนิวรู้สึกกระอักกระอ่วนอีก เจ้าต้องตาย!”
แน่นอนว่าป้าเยาไม่เก็บคําข่มขู่ของฮูหนิวมาใส่ใจ เขาทําเพียงยิ้มและมองไปยังฮูหนิวด้วยแววตาชั่วร้ายเล็กน้อย
ในช่วงที่ติดอยู่ในระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้เป็นเวลานาน เขาได้มีงานอดริเรกเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกับบุรุษหรือสตรี
เด็กสาวตรงหน้านี้นอกจากจะงดงามแล้วยังดูบริสุทธิ์มากอีกด้วย ถึงแม้นิสัยของนางจะดูปาเถื่อนอยู่บ้าง แต่มีรึที่เขาจะสน?
“โอ้ ข้าจะตายงั้นรึ?” ป้าเยาส่ายหัว “ข้าไม่เชื่อ!”
“แต่ข้าว่าเจ้าควรเชื่อนะ!” เสียงอันเย็นชาที่แฝงไปด้วยจิตสังหารดังขึ้นด้านหลังป้าเยา
ตอนที่ 1931 ตายอย่างอยุติธรรม
ป้าเยารีบหันหลังอย่างร้อนรนก่อนจะพบเห็นสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่ง พริบตาที่เห็นนาง ขนทั่วร่างของเขาก็ลุกซู่ด้วยความรู้สึกเย็นยะเยือก
เป็นไปได้อย่างไร!
เขาที่เป็นถึงตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดที่ทรงพลังที่สุดภายใต้ระดับราชานิรันดร์ กลับมีใครบางคนสามารถปรากฏตัวด้านหลังเขาได้อย่างไม่คาดฝัน
“เจ้าเป็นใคร?” ป้าเยาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เจ้าคิดว่าตนเองมีคุณสมบัติสงสัยงั้นรึ?” หวี่ไห่หรงกล่าวอย่างเย็นชา
ตัวบัดซบตนนี้กล้าดีอย่างไรถึงได้มาสร้างปัญหากับประมุขหญิงน้อยของนาง? หรือเขาเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว?
“หนิวจะทุบตีมัน!” ฮูหนิวคํารามด้วยท่าทีเดือดดาล “ใครที่กล้าข่มขู่หลิงฮันของหนิว หนิวจะทุบตีคนผู้นั้นให้กลายเป็นหัวหมู แล้วนําไปโยนให้สุนัขกิน!”
หวี่ไห่หรงไม่มีลงมือโจมตีใดๆ และทําเพียงเค้นเสียงเบาๆ ครืนน” แรงกดดันของราชานิรันดร์ถูกปลดปล่อยออกมา ซึ่งส่งผลให้ร่างของป้าเยาแขนขาอ่อนแรง และทรุดตัวลงไปคลานกับพื้นทันที
จะอดีตผู้สืบทอดหรือตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ก็ช่าง ต่อหน้าราชานิรันดร์แล้วป้าเยาก็ไม่ต่างอะไรจากเศษขยะ
เหล่าอัจฉริยะทุกคนรู้สึกกระอักกระอ่วน จริงอยู่ที่ทุกคนในที่นี้ล้วนแต่มีพื้นเพคือขุมอํานาจราชานิรันดร์ แต่การที่จะทําให้ราชานิรันดร์ปรากฏตัวได้นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากราชานิรันดร์คือตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนแห่งเซียน
แถมดูจากท่าทีของฮูหนิวแล้ว ดูเหมือนว่าราชานิรันดร์ผู้นี้จะอยู่ภายใต้คําสั่งของนางเสียด้วย!
เพียงแค่เจ้าออกมาข้างนอก เหตุใดถึงได้เป็นเรื่องใหญ่จนตัวตนระดับราชานิรันดร์ต้องเคลื่อนไหวกัน?
อสูรเฒ่าเงาโลหิตหลงลืมความเจ็บปวดไปเสียสนิท เขาจดจ้องสายตาไปยังฮูหนิวกับหลิงฮันด้วยความรู้สึกสลดเสียใจ อย่างไม่อาจพรรณนาออกมาเป็นคําพูดได้
ที่แท้หลิงฮันก็มีเบื้องหลังที่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้!
ชายชรารู้สึกราวกับสมองกําลังปั่นป่วนกับสิ่งที่เหลือเชื่อนี้
ในเมื่อเจ้ามีเบื้องหลังที่ทรงพลังอยู่แล้ว เจ้าจะมาเป็นผู้สืบทอดของเมืองวิดีโอสถทําไมกัน?
ถึงแม้เมืองวิถีโอสถจะมีอํานาจที่น่ายําเกรง แต่มันก็ไร้เทียมทานเพียงแค่ในหมู่ขุมอํานาจสี่ดาวและเกือบจะเทียบเคียงได้กับชุมอํานาจห้าดาวที่ต่ำที่สุดเท่านั้น
หรือเจ้ากําลังเล่นเป็นหมูกินเสือนั้นรึ?
ถ้าเป็นแบบนั้น ข้าก็ติดกับเจ้าแล้ว!
ฮูหนิวระเบิดอารมณ์ฉุนเฉียวออกมา และไม่แสดงความสุภาพใดๆ แม้แต่น้อย “ตุบ” นางใช้เท้าเตะไปยังใบหน้าของป้าเยาที่กําลังคลานอยู่จนล้มไปนอนกับพื้น ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ” ก่อนจะทําการกระทืบต่ออย่างบ้าคลั่ง
พลังบ่มเพาะของป้าเยาในตอนนี้ถูกหวี่ไห่หรงผนึกเอาไว้ เพราะงั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะตอบโต้กลับ เพียงแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังสามารถใช้เศษเสี้ยวพลังชีวิตที่เหลือได้อยู่ เพราะงั้นไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บจากการกระทืบของฮูหนิวเพียงใด เขาก็สามารถฟื้นฟูบาดแผลได้ในทันที
ตราบใดที่ภายในร่างกายไม่มีถูกรุกรานโดยเจตจํานงยุทธของผู้อื่น ตัวตนระดับนิรันดร์ก็สามารถฟื้นฟูบาดแผลทางร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
ทุกคนรอบข้างต่างมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่กะพริบตา พวกเขาไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า สตรีที่งดงามล่มเมืองจะมีนิสัยที่ป่าเถื่อนได้ขนาดนี้
จนในที่สุดแล้วหวี่ไห่หรงก็ทนดูต่อไปไม่ไหว นางสะบัดมือปลดปล่อยอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของราชานิรันดร์ออกมา “พรึบ” ร่างของป้าเยาแหลกสลายกลายเป็นความว่างเปล่าในพริบตา โดยไม่มีเศษเสี้ยวร่างกายใดๆ หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว
หวี่ไห่หรงไม่ต้องการให้ประมุขหญิงน้อยของตนกลายเป็นอสูรปาเถื่อนในสายตาของผู้อื่น เพราะงั้นนางจึงเลือกที่จะจัดการป้าเยาให้หายไปโดยตรง
สายตาของทุกคนจดจ้องไปยังหวี่ไห่หรงด้วยสีหน้าตกตะลึง อีกฝ่ายคือตัวตนระดับราชานิรันดร์ ซึ่งสมมุติต่อให้นางเป็นเพียงราชานิรันดร์ระดับหนึ่ง ก็ยังถือว่าเป็นตัวตนที่สูงส่งสําหรับพวกเขาอยู่ดี
“คารวะผู้อาวุโส!” เหล่าอัจฉริยะทุกคนโค้งคํานับ แม้แต่เอี๋ยนเซียนลู่เองก็ไม่มีข้อยกเว้น การกระทําเช่นนี้คือการแสดงความเคารพต่อตัวตนที่ทรงพลัง
“ประมุขหญิงน้อย ที่นี้จะกลับกันได้รึยัง?” หวี่ไห่หรงจ้องมองฮูหนิว ประหญิงน้อยของนางต้องการตามหาตัวหลิงฮันราวกับจะเป็นจะตาย ตอนนี้เมื่อพบตัวหลิงฮันแล้ว จึงถึงเวลาที่สมควรจะกลับถิ่นฐานเสียที
“ไม่กลับ!” ฮูหนวกอดรัดหลิงฮันแน่น “หนิวจะไปเล่นกับหลิงฮัน!”
หวี่ไห่หรงกลายเป็นไร้คําพูด ประมุขหญิงน้อยของนางคือคนที่มีตราประทับแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ ของประมุขคนก่อนประทับเอาไว้ในร่างกาย ซึ่งทําให้ประหญิงน้อยมีโอกาสแทบจะสิบส่วนในการบรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าสําเร็จ แต่ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้น อีกฝ่ายกลับไม่มีนิสัยที่ทําให้ดูเหมือนตัวตนที่ยิ่งใหญ่เลยแม้แต่น้อย
โชคยังดีที่ที่นี่คือดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออกที่อ่อนแอ สมบัติที่นางพกติดตัวมาจึงสามารถปกปิดความลับจากเหล่าตัวตนที่ทรงพลังได้ หากระมัดระวังหน่อยคงไม่น่าพบเจอปัญหาอะไร
นางต้องจําใจยอมให้ประมุขหญิงน้อยของตนได้เที่ยวเล่นตามใจ เพราะไม่อย่างไรประมุขหญิงน้อยคงหาเรื่องน่าปวดหัวมาให้นางเพิ่มแน่ๆ
ยิ่งกว่านั้นนางก็มีภารกิจสําคัญอีกอย่างหนึ่งคือการจับตามองหลิงฮันด้วย นางต้องระมัดระวังไม่ให้หลิงฮันทํามิดีมิร้ายอะไรกับประมุขหญิงน้อย
“พี่ชายเอี๋ยน ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวกลับไปเตรียมตัวก่อน” ใครบางคนกล่าวลาเอี๋ยนเซียนลู่
“ข้าก็ด้วย!”
“ข้าเองก็ขอตัว!”
ทุกคนจําเป็นต้องกลับไปยังชุมอํานาจของตนเองเพื่อเตรียมการให้พร้อม เนื่องจากการเดินทางภายในเขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพี่นั้น คงไม่อาจหลีกเลี่ยงการปะทะกับเหล่าอัจฉริยะจากอาณาเขตสวรรค์กว่างสิ่งที่เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวได้
พวกเขาทุกคนโค้งตัวคารวะไปยังหวี่ไห่หรงก่อนจะเดินจากไป
หลิงฮันหันมองไปยังอสูรเฒ่าเงาโลหิตด้วยความรู้สึกเกรี้ยวกราดที่อัดแน่นอยู่ในอก
“เฒ่าชรา เจ้าที่เป็นถึงตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ แต่กลับลงมือกับข้าที่เป็นเพียงจอมยุทธระดับโลกียนิพพาน เจ้าคงไม่มีความละอายใจอยู่เลยสินะ?” เขาก้าวเดินขึ้นหน้าพร้อมกับกล่าว “แต่เดิมข้าตั้งใจว่าจะสังหารเจ้าหลังจากที่บรรลุระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าคงมีชีวิตอยู่ไม่ถึงตอนนั้นแล้วสินะ ถ้าเช่นนั้นก็มาสู้กันตอนนี้เลย!”
ณ เวลานี้อสูรเฒ่าเงาโลหิตกําลังอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมาก อย่างมากที่สุดเขาก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสิบปีหรือร้อยปีเท่านั้น
ระดับตัดวิญญาณหยินงั้นรึ?
สู้ไหว!
พลังต่อสู้ของหลิงฮันในตอนนี้สามารถทัดเทียมได้กับระดับตัดวิญญาณหยางก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าจักรพรรดิเช่นเขาคือจอมยุทธที่สามารถสู้ข้ามระดับได้หรอกรึ?
อสูรเฒ่าเงาโลหิตจ้องมองหลิงฮัน ก่อนจะเผยแววตาโหดเหี้ยม
ในสถานการณ์ที่มีราชานิรันดร์คอยควบคุมอยู่เช่นนี้ ทําให้เขาไม่สามารถต่อรองใดๆ ได้แท้ๆ แต่หลิงฮันกลับเป็นฝ่ายยื่นโอกาสมาให้เขาด้วยตัวเองเสียนี้ สถานการณ์กําลังจะพลิกผัน! เขาจะจับตัวหลิงฮันมาเป็นตัวประกัน และสั่งให้ราชานิรันดร์มอบเม็ดยาล้ำค่าสําหรับฟื้นฟูแก่นพลังชีวิตมา!
หากทําเช่นนี้ เขาก็จะสามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง
เมื่อเกิดความคิดเช่นนี้ ชายชราก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป “ครืนน” เงาสีโลหิตถูกปลดปล่อยออกมาจากด้านหลังของเขา และกระเพื่อมเคลื่อนไหวไปมาราวกับมีชีวิต
จริงอยู่ที่พลังบ่มเพาะของเขาลดลงมามากมายนัก แต่หลิงฮันก็บ้าบินเกินไปจริงๆ ที่คิดจะต่อกับเขาด้วยพลังบ่มเพาะในระดับโลกียนิพพาน ซึ่งมีความแตกต่างกันถึงหนึ่งระดับใหญ่!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น