Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 2064-2065
ตอนที่ 2064 ก้าวย่ำสวรรค์!
โดย
Ink Stone_Fantasy
เหล่ามหาชั้นฟ้าทั้งหมดบนแผ่นดินเซียนดาราล้วนตกตะลึง ลำแสงเจ็ดสายพุ่งทะยานเข้าหาทะเลอันกว้างใหญ่จากหลายทิศทาง ลำแสงสามสายที่มาจากเผ่าโบราณนั้นรวดเร็วยิ่ง
ทางด้านของเผ่าเทพต่างพุ่งเข้าหาอย่างเงียบงัน กระนั้นด้วยความเร็วของแต่ละคนคงต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือนเพื่อมาถึงพื้นที่ต่อสู้
เนื่องจากแผ่นดินเซียนดารากว้างใหญ่เกินไปและพวกเขาไม่ได้มีระดับบ่มเพาะเดียวกับหวังหลินหรือกุ้ยต้าว
ใจกลางสายน้ำอันกว้างใหญ่ที่ซึ่งพายุกำลังโหมกระหน่ำ เสียงดังสนั่นกึกก้องทั้งสองฝั่ง ก้อนสายหมอกนับไม่ถ้วนพลันระเบิดรอบตัวหวังหลินและหายไป หวังหลินมีโลหิตย้อมที่มุมปาก เขากระเด็นกลับไปหลายฟุต แสงรอบตัวพังทลายลง
สายหมอกรอบตัวกุ้ยต้าวแตกสลายไปอย่างสิ้นเชิงและส่งเสียงกรีดร้อง มันหายไปพร้อมกับอสูรหมอกอย่างรวดเร็ว จากนั้นใบหน้าของกุ้ยต้าวจึงเผยออกมา
หวังหลินอยู่ห่างไปหลายพันฟุต กุ้ยต้าวเอ่ยขึ้นช้าๆ “เพื่อให้เห็นรูปโฉมของข้า เจ้าถึงกับยอมให้ตัวเองบาดเจ็บ…” สายหมอกรอบตัวเขาบางบางและเหลืออยู่ไม่กี่สาย
“ในเมื่อเจ้าอยากเห็น เช่นนั้นเจ้าก็จะได้เห็น…เจ้าเป็นคนแรกที่จะได้เห็นรูปลักษณ์ของข้าในรอบหลายปี…” ร่างของกุ้ยต้าวผอมบางและสวมชุดคลุมสีขาว ทว่าแขนเสื้อข้างขวาหายไป เรือนผมสีเทาและใช้สายตามองมาที่หวังหลิน
หวังหลินมองมาที่กุ้ยต้าวเช่นกัน พอสายหมอกรอบใบหน้าสลายไปแล้วในที่สุดก็ได้เห็นว่ามหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวหน้าตาเช่นไร เขาไม่ประหลาดใจและถอนหายใจยาวเหยียด
“เป็นเจ้าจริงๆ!”
กุ้ยต้าวเงียบลง
หวังหลินมองใบหน้าที่คุ้นเคยเบื้องหน้าและพูดออกมา “ข้าควรเรียกเจ้าว่าบรรพชนโบราณหรือกุ้ยต้าวดี?”
กุ้ยต้าวดูเหมือนรูปปั้นบรรพชนโบราณในเมืองหลวงทั้งสามแห่งจริงๆ!!
“หรือพูดให้ถูก รูปปั้นในเมืองหลวงถูกสร้างขึ้นตามรูปลักษณ์ของเจ้า!” หวังหลินมองกุ้ยต้าวที่เปล่งกลิ่นอายเก่าแก่
กุ้ยต้าวเผยใบหน้าเศร้าและพูดขึ้น “ข้าคือกุ้ยต้าว…และเป็นบรรพชนโบราณเช่นกัน”
“ข้าได้รับความทรงจำส่วนหนึ่งของบรรพชนโบราณและเจตจำนง…เพื่อปกป้องคุ้มครองเผ่าโบราณ รวมถึงลูกหลานของตระกูลราชวงศ์…รูปลักษณ์ของข้าค่อยๆ เปลี่ยนไปหลังจากดูดซับความทรงจำและเจตจำนงมา…” กุ้ยต้าวพูดเสียงต่ำ
“เจ้าออกมาไกลที่สุดได้น่าจะเป็นที่นี่! ลือกันว่าเจ้าสังหารมหาชั้นฟ้าในเผ่าเทพแต่นั่นควรเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด น่าจะเป็นพวกนั้นรุกรานใจกลางทะเลแห่งนี้ในอดีต ดังนั้นเจ้าเลยสังหารพวกเขา” ความคิดหวังหลินเต็มไปด้วยความกระจ่าง เขาได้รับคำตอบที่ตั้งคำถามเอาไว้หลายอย่าง
เขาสับสนก็เพราะด้วยระดับบ่มเพาะของกุ้ยต้าว เขาสามารถทำลายล้างเผ่าเทพได้ง่ายๆ เพื่อไม่ให้มีเหล่าเทพเหลือรอด แต่หลังจากผ่านมานานหลายปีเผ่าเทพก็ยังคงอยู่
“เจ้าได้รับความทรงจำและเจตจำนงของบรรพชนโบราณ เจ้าน่าจะได้รับเขตอาคมบางอย่างมาพร้อมกับการสืบทอด” หวังหลินมองกุ้ยต้าวและถอนหายใจ
“ตอนที่ข้าเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ ข้าสัมผัสได้ถึงเขตอาคม…ข้าไม่สามารถออกไปจากเผ่าโบราณไกลเกินไปและเมื่อข้าออกไป พลังทั้งหมดของข้าจะหายไป…” กุ้ยต้าวสงบนิ่ง ไม่เผยท่าทีขมขื่นหรือไร้อำนาจ
“ทำไมเจ้าต้องการหยุดข้าไม่ให้ออกไป?” หวังหลินถามคำถามนี้อีกครั้ง
กุ้ยต้าวส่ายศีรษะ แทนที่จะตอบคำถาม เขาพึมพำกับตัวเอง “หลังจากข้าได้ความทรงจำของบรรพชนโบราณมา ข้าค่อยๆ รู้สึกถึงบางอย่างตลอดหลายปี…มีอยู่ไม่กี่อย่างที่…ข้าไม่เข้าใจ ข้าไม่เชื่อ แต่มันเป็นเรื่องจริง” กุ้ยต้าวถอนหายใจพลางมองบนพื้นและมองไปทางเผ่าโบราณ
“บางทีมันก็จริง บางทีมันก็แค่ภาพมายา…” สายตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่
“มาสู้กันเถอะ หากเจ้าชนะข้า ข้าจะไม่มีพลังอำนาจพอที่จะหยุดเจ้าและเจ้าจะไปจากที่นี่ได้! ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ได้ใช้พลังเต็มที่และคราวนี้ข้าจะไม่ออมมืออีกแล้ว!”
“ข้ามีพลังที่แข็งแกร่งที่สุดสองวิชา หนึ่งคือพิภพโบราณ ในความทรงจำของบรรพชนโบราณ เขาถือกำเนิดมาจากมิติว่าง เขาเชื่อมาเสมอว่าดวงตาของเขาสามารถกลายเป็นดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ โลหิตสามารถเปลี่ยนกลายเป็นแม่น้ำและผืนทะเล กระดูกสามารถเปลี่ยนเป็นภูเขา ฝ่ามือรวมกันค้ำจุนท้องฟ้า ร่างกายเปลี่ยนเป็นผืนปฐพี”
“ด้วยความคิดและความศรัทธาของเขา จึงใช้พลังชีวิตของตัวเองเพื่อสร้างวิชานี้ขึ้นมา พิภพโบราณ!”
“ข้าไม่เคยใช้วิชานี้มาก่อนตั้งแต่ได้รับการสืบทอด…วันนี้จะเป็นครั้งแรก…” กุ้ยต้าวพูดช้าๆ พลางมองมาที่หวังหลิน
หวังหลินครุ่นคิดและสายตาประสานกับกุ้ยต้าว
“ในอารามบรรพชนของอาณาเขตฉี ข้าเห็นร่างหนึ่งและร่างนั้นก้าวขึ้นไปย่ำสวรรค์ การก้าวนั้นสั่นคลอนข้าอย่างมหาศาล ในสะพานที่ห้า ข้าตกอยู่ในภวังค์ที่เหมือนไปเกิดใหม่ ข้าไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่นอกจากเรื่องการเข้าใจเต๋าแปดสุดขั้วแล้ว สิ่งที่ข้าเข้าใจมากที่สุดคือการก้าวนั้น…”
“เดิมทีข้าไม่สามารถก้าวข้ามผ่านสะพานที่ห้าไปได้ แต่ด้วยการก้าวแบบนั้น ข้าจึงข้ามผ่านมันไปได้”
“การก้าวนี้ ข้าจะเรียกมันว่า ก้าวย่ำสวรรค์!” เพียงหวังหลินพึมพำ สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ในเมื่อการต่อสู้นี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาก็จะสู้จนจบ
หลังจากได้ยินว่าหวังหลินข้ามผ่านสะพานที่ห้า กุ้ยต้าวขบคิดชั่วขณะ จากนั้นยกแขนขึ้นมาโบกสะบัด “หากเจ้าสามารถต้านทานวิชานี้ได้ ถือว่าเจ้ามีคุณสมบัติพอที่ข้าใช้เวลานานหลายปีเพื่อศึกษา สวรรค์หนึ่งเต๋า!”
เสียงสะบัดแขน ละอองแสงนับไม่ถ้วนรวมกันอยู่ด้านหลัง ต่อมามีเงาแสงหนึ่งปรากฏขึ้น
เงาแสงโอบล้อมไปด้วยแสงไฟและมองไม่เห็นรูปร่างของมันชัดเจน ทว่าหลังจากเงานี้ปรากฏขึ้นมามันได้อ้าปากและสูดเข้าไป พลังในโลกจำนวนมากถูกดึงเข้าปากมันอย่างรวดเร็วจนพื้นที่ระยะหลายล้านลี้ถูกสูดหายไป ครอบคลุมแม้แต่ทะเลอันกว้างใหญ่ทั้งหมด
พลังในโลกอันมากมายไร้ขอบเขตถูกดูดซับ ร่างเงาแสงขยายตัวออก พลังนี้ขยายไปหาทั้งเผ่าเทพและเผ่าโบราณ
ณ พื้นที่ใกล้ทะเลทางฝั่งของเผ่าเทพ เหล่ามหาชั้นฟ้าทั้งสี่คนได้หยุดตรงนั้น พวกเขาทอดสายตามองออกไปและรู้สึกเหมือนกำลังหมดสติ
เช่นเดียวกันกับฝั่งโบราณที่มีซ่งเทียนและคนอื่น พวกเขารู้สึกว่ามีพลังแข็งแกร่งกำลังดึงพลังในโลกเข้าไปทางทะเลกว้างใหญ่
ใจกลางทะเลนั้นเงาแสงขยายออกไปอย่างรวดเร็วพลางดูดซับพลังไปด้วย มันสูงมากกว่าแสนฟุตและยังเติบโตไปเรื่อยๆ เพียงไม่กี่นาทีหวังหลินก็ไม่เห็นร่างท่อนบนของมันได้แล้ว เขามองเห็นแต่เพียงขาของมันเท่านั้น!
หวังหลินอ้าปากค้าง เขาไม่รู้ว่าเงาแสงนี้จะสูงได้แค่ไหนแต่จินตนาการว่าหากมองจากนอกแผ่นดินเซียนดารา มันคงเป็นยักษ์ที่ยืนอยู่ตรงนี้!
สูงเสียดฟ้าทะลุสวรรค์!
“บรรพชนโบราณ…” หวังหลินมองดูเงาแสงขยายตัวออกไปเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่ามันจะใหญ่ได้อีกแค่ไหน บางทีหากให้พลังงานของมันเพียงพอ คงกลายเป็นเหมือนดาราจักรดวงดาว…
มันคงขยายต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพลังทั้งหมดบนแผ่นดินเซียนดาราถูกดูดซับ ทว่าเพียงแค่ขนาดตอนนี้ก็ส่งแรงกดดันเกินอธิบายให้หวังหลินได้มากแล้ว
“พิภพโบราณ…” หวังหลินมองท้องฟ้าและแผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไป เขารู้สึกถึงเหตุการณ์อันแปลกประหลาด
ดวงตาของร่างเงาแสงพลันเปลี่ยนไป ข้างหนึ่งกลายเป็นดวงตะวันส่องแสง ข้างหนึ่งกลายเป็นดวงจันทร์ โลหิตที่ไหลออกมาค่อยๆ กลายเป็นสายน้ำและท้องทะเล
มันยกแขนขึ้นเปลี่ยนกลายเป็นท้องฟ้าสีคราม ร่างกายร่วงลงมากลายเป็นผืนปฐพี จากนั้นกระดูกกลายเป็นเทือกเขามากมาย
เพียงหวังหลินมองดูทั้งหมดนี้ เขาจึงสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดรุนแรงจากดวงตา ราวกับพลังมหาศาลต้องการแยกดวงตาหวังหลินให้ข้างหนึ่งเป็นดวงอาทิตย์และอีกข้างเป็นดวงจันทร์!
สองมือสั่นเทาและดูเหมือนยกขึ้นไปบนอากาศให้กลายเป็นท้องฟ้า ร่างกายถูกดึงด้วยพลังแปลกประหลาดให้กลายเป็นผืนปฐพี
นี่คือวิชาแห่งศรัทธา!
วิชาทรงพลังยิ่งจากพลังศรัทธาของคนที่บรรลุระดับสามารถเปลี่ยนแปลงโลก กาลเวลาและมิติทุกอย่างที่มันห่อหุ้ม!
ภายใต้ศรัทธานี้ หวังหลินทำได้เพียงสูดหายใจลึกและค่อยๆ หลับตาลง เขาไม่ขบคิดถึงวิธีการทำลายวิชานี้แต่ก็หลับตาลง ร่างหนึ่งบนยอดเขาที่มีหิมะสีรุ้งร่วงหล่นลงมาและกอดร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในใจหวังหลิน ร่างนั้นร้องคำรามให้กับท้องฟ้าและก้าวทะยานขึ้นไป!
การก้าวนี้ปรากฏขึ้นในความคิดเขานับครั้งไม่ถ้วน หวังหลินยกเท้าขวาขึ้นมาช้าๆ และก้าวเข้าหาโลกที่ถูกสร้างขึ้นจากวิชาของบรรพชนโบราณ
ด้วยการก้าวครั้งนี้ หวังหลินเกิดภาพมายาว่าเขากำลังกอดร่างหนึ่งและร้องคำรามใส่ท้องฟ้า ในใจปรากฏสัมผัสแห่งความเศร้าโศกมิอาจอธิบายได้ ราวกับหัวใจเขากำลังโดนควักออกไป…
ราวกับเขาได้ลืมเลือนว่ากำลังต่อสู้กับกุ้ยต้าวและกำลังกลับโลกถ้ำ สิ่งเดียวในความคิดตอนนี้คือความเศร้า สิ้นหวังและโกรธเกรี้ยวเกินพรรณนา!
ความโกรธนี้ทำให้เท้าหวังหลินพลันร่อนลงพื้น!
ก้าวย่ำสวรรค์!
……………………………………
ตอนที่ 2065 เก้าบทเพลงและสามสัญญาณที่สมบูรณ์!
โดย
Ink Stone_Fantasy
ด้วยการก้าวครั้งนี้ ความโกรธเกรี้ยวของหวังหลินปะทุออกมาผ่านเท้าขวาและกระหน่ำเข้าใส่โลก วินาทีนี้เองหวังหลินบรรลุระดับที่มิอาจจินตนาการถึงขณะที่เขาย่ำไปบนสวรรค์
ทั้งโลกคล้ายอยู่ใต้ฝ่าเท้า ทุกชีวิตต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้า ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณ์อันใด ทุกอย่างต้องถูกทำลายด้วยการเหยียบย่ำครั้งนี้
รอยแตกร้าวจำนวนมากปรากฏขึ้นในท้องฟ้าและกลายเป็นเศษเสี้ยวแตกกระจายนับไม่ถ้วนจนทำให้ท้องฟ้าหายไป!
ท้องฟ้าพังทลาย!
เพียงเท้าขวาหวังหลินเหยียบลงไปและเงยหน้าขึ้นมา พื้นดินจึงแตกสลาย!
ดวงตะวันและดวงจันทร์หายไป แม่น้ำและท้องทะเลจางหาย ท้องฟ้าและพื้นดินที่สร้างจากภิภพโบราณล้วนพังทลาย
กุ้ยต้าวร่างสั่นเทาและกระอักโลหิต เขาเซถอยหลังไปร้อยก้าวก่อนจะหยุดลงได้ ใบหน้าซีดเผือดเป็นครั้งแรก
‘ขั้นย่ำสวรรค์!! นี่มันขั้นย่ำสวรรค์ที่สมบูรณ์!!’ เขามองหวังหลินด้วยความตกตะลึง ราวกับพลังอันน่าหวาดกลัวกำลังตื่นขึ้น
เพียงหวังหลินยืนอยู่ตรงนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นภาพมายา เขาหลับตาอยู่นานก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ความโศกเศร้ายังคงเหลืออยู่ สายตามองท้องฟ้าอยู่นาน
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป กุ้ยต้าวมองหวังหลินด้วยสายตาอันซับซ้อนและเอ่ยถามขึ้น “เจ้าข้ามผ่านสะพานแห่งใด?”
“สะพานที่เจ็ด จากนั้นข้าก็ล้มเหลวในสะพานที่แปด” หวังหลินหลับตาลงราวกับต้องการเก็บความเศร้าเอาไว้
“สะพานที่เจ็ด…” กุ้ยต้าวยิ้มอย่างขมขื่นและมองหวังหลินอย่างล้ำลึก เห็นได้ชัดว่าในการก้าวครั้งนั้นเขาสัมผัสได้ถึงเจตนาแห่งการย่ำสวรรค์ ซึ่งเจตนานี้แสดงออกถึงศรัทธาขั้นสูงสุด
ด้วยระดับบ่มเพาะในปัจจุบันของหวังหลินจึงไม่สามารถใช้ก้าวนั้นได้
“บางทีข้าอาจจะไม่สามารถทำให้เจ้าอยู่ต่อได้จริงๆ…” กุ้ยต้าวสูดหายใจลึก สายตาที่ซับซ้อนพลันเปลี่ยนไปเป็นความมุ่งมั่น “แต่ข้าไม่ยอมล้มเลิกแบบนี้ ข้าใช้ทั้งชีวิตเพื่อศึกษาพิภพหนึ่งเต๋า!”
“ข้าเรียกมันว่า ‘พิภพหนึ่งเต๋า’ เพราะมันสร้างขึ้นจากความศรัทธาของข้าในเผ่าโบราณ ข้าอาจไม่แข็งแกร่งเท่าบรรพชนโบราณ แต่ศรัทธาของข้าแตกต่างจากเขา!”
“เขาศรัทธาว่าสามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นโลกได้ และเพราะศรัทธานี้ข้าจึงไม่สามารถทิ้งเผ่าโบราณไปได้ บางทีในความคิดของบรรพชนโบราณ แผ่นดินของเหล่าเทพไม่ใช่แผ่นดินที่สร้างขึ้นจากเขา แต่เป็นที่ที่เขาเกลียดชัง”
“ศรัทธาของข้าคือการเชื่อว่าท้องฟ้าไม่สามารถปิดบังดวงตาข้าได้ พื้นดินนั้นไม่สามารถหยุดยั้งร่างกายของข้าได้ ดวงตะวันและดวงจันทร์คู่นั้นและทั่วทั้งแผ่นดินเซียนดาราไม่สามารถหยุดยั้งหัวใจข้าได้!”
“ด้วยพิภพหนึ่งเต๋า หัวใจข้าคือเต๋า เต๋าของข้าเหยียบย่ำสวรรค์ สวรรค์กลายเป็นบันไดให้ปีนขึ้นไป ข้าเหยียบย่ำสวรรค์เพื่อเห็นความจริง!!” หลังจากกุ้ยต้าวพูดออกมา เขาสะบัดแขนใส่ท้องฟ้า
ท้องฟ้าสั่นสะเทือน วังวนยักษ์ห่อหุ้มทะเลอันกว้างใหญ่ราวกับจุดจบของโลก กุ้ยต้าวชี้นิ้วไปที่หวังหลิน
“เจ้าคือสวรรค์!” เสียงกุ้ยต้าวดังกึกก้องดุจสายฟ้าและส่งพลังแห่งศรัทธารุนแรงออกมา เพียงแค่ชี้ออกไปจึงมีระลอกคลื่นเกิดขึ้นรอบตัวหวังหลิน หวังหลินรู้สึกถึงบางอย่างจึงมองขึ้นไปเห็นเท้าขนาดยักษ์ปรากฏออกมาจากวังวนและกำลังเหยียบมาที่เขา!
ผ่านมาสองร้อยปี หวังหลินเผชิญกับวิกฤติความเป็นความตายอีกครั้ง คนที่อยู่ระดับครึ่งก้าวสู่ขั้นย่ำสวรรค์ช่างทรงพลังจนน่าตกตะลึงอยู่แล้ว หวังหลินเข้าใจขั้นย่ำสวรรค์จากร่างที่เขาเห็น ส่วนกุ้ยต้าวใช้ปัญญาอันหลักแหลมของตัวเองและพลังศรัทธาที่มีหลายปีเพื่อรู้แจ้งเต๋าย่ำสวรรค์ของตนเอง!
‘สรรพสิ่งต้องการเหยียบย่ำสวรรค์ สิ่งเหล่านั้นมิอาจสำเร็จโดยไร้ศรัทธา ไร้เจตจำนง…’ นี่คือสิ่งที่สลักเอาไว้เบื้องหน้าสะพานที่แปดและหวังหลินก็ได้เห็นตอนที่เขาเข้าไปในครั้งที่สอง
ขณะนี้ขณะที่มองกุ้ยต้าว ประโยคนี้จึงปรากฏขึ้นในใจ หวังหลินพลันเข้าใจบางอย่างว่าทุกอย่างในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ แม้แต่จิตวิญญาณ ทุกสิ่งล้วนมีเจตจำนงที่จะย่ำสวรรค์
เหมือนกับตอนที่เขาตอบคำถามสามคำถามของลี่เฉียนเหมยในโลกถ้ำ โลกนั้นเป็นวงกลมและด้านนอกวงกลมก็เป็นวงกลมอีกวง…
“มีเพียงไม่กี่คนที่พิเศษตั้งแต่เกิด…สรรพสิ่งในโลกต่างก็ปรารถนาให้เป็นสิ่งพิเศษ ปรารถนาอิสระเพื่อที่จะไม่ถูกคนอื่นควบคุม กฎในโลกนี้คือวงกลม ในโลกแห่งการบ่มเพาะผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อ ผู้แข็งแกร่งก็คือวงกลม และทั้งโลกใบนี้ก็คือกรงที่เหมือนวงกลม…”
“ท้องฟ้าที่สดใสและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาราก็เป็นวงกลมเช่นกัน!”
“ก้าวเดินออกจากวงกลมของเขา ก้าวเดินออกจากวงกลมอีกวงจนกระทั่งเจ้าย่ำสวรรค์ ก้าวไปท่ามกลางสรรพสิ่งจนไม่มีอะไรปิดบังสายตาเจ้าและไม่สับสนอีกต่อไป…นี่คือความหมายที่แท้จริงของ ‘ก้าวเดินสู่เส้นทางแห่งเต๋าที่แท้จริง’ ที่ปรากฏในแผ่นจารึกเต๋า!!”
หวังหลินพึมพำพร้อมกับมองเท้าขนาดยักษ์ที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้า เขาค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ เกิดความรู้แจ้ง!
‘ชีวิตและความตาย เวรกรรม จริงเท็จ…’
‘หากชีวิตและความตายเป็นเชือก ชีวิตและความตายมากมายคงเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม เหล่าวงกลมมากมายเหล่านี้คงกลายเป็นตาข่ายและตาข่ายนั้นคงเป็นเวรกรรม ตาข่ายเวรกรรมคงใช้จับตัวเองในสายธารแห่งการเกิดใหม่ สายธารแห่งการเกิดใหม่มีจริงและเท็จ มีเพียงดวงตาคู่เดียวที่สามารถมองเห็นความจริงเท็จจนสามารถโยนตาข่ายเพื่อไปค้นหาความจริงออกมาได้’
‘หลังจากข้ารู้แจ้งแก่นแท้จริงเท็จในสำนักตงหลินเมื่อหลายร้อยปีก่อน ข้าสัมผัสได้ถึงแก่นแท้แห่งการเกิดใหม่ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้ายังไม่เข้าใจว่าการเกิดใหม่คืออะไร…’
‘การเกิดใหม่คืออะไร? เดิมทีข้าคิดว่ามันคือกฎที่ควบคุมชีวิตหลังความตาย จนกระทั่งราชครูอาณาเขตเต๋าปรากฏตัวขึ้นมา ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร เขาได้เปิดเผยความจริงของการชุบชีวิตหวานเอ๋อร์ ข้าจำเป็นต้องใช้พลังแห่งการเกิดใหม่ในแดนเทพบรรพกาล…’
‘ณ ตอนนั้นข้าสงสัย ว่าพลังแห่งการเกิดใหม่คืออะไร? ข้าคิดว่ามันคือกฎหนึ่งในโลกนี้…’
‘ในที่สุดข้าก็เข้าใจ…การเกิดใหม่คือสวรรค์! ข้าจะใช้มือของข้าเพื่อโยนตาข่ายแห่งเวรกรรมออกไปสู่สวรรค์เพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง!!’
‘นี่คือ…ความหมายใช่หรือไม่…’ ความคิดหวังหลินกำลังสั่นคลอน ความคิดทั้งหมดนี้ปรากฏขึ้นในพริบตาและครอบครองจิตใจเขาทั้งหมด
ตอนนี้หวังหลินเข้าใจแล้ว!
ภายในร่างกาย มีก้อนควันอีกก้อนหนึ่งปรากฏขึ้นข้างๆ กับแก่นแท้นามธรรมทั้งสาม ก้อนควันนี้คือแก่นแท้แห่งการเกิดใหม่ที่เขารู้แจ้ง!
‘เป็นแบบนี้เอง…’ หวังหลินขบคิดพร้อมกับที่เท้าขนาดยักษ์อยู่เหนือศีรษะ ตอนนี้มันห่างจากเขาอยู่เพียงพันฟุต ทว่าจังหวะนั้นมีพลังที่มีเสียงแปลกประหลาดทะลวงเข้ามาและดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
มันคือเสียงแห่งสายลม!
นับว่าเป็นครั้งแรกของเก้าบทเพลงที่หลังจากปรากฏขึ้นมา เหล่าเพลงทั้งเก้าก็ตามกันมาด้วยนั่นคือท้องฟ้า พื้นดิน สายลม สายฟ้า ก้อนเมฆ สายฝน อวัยวะภายใน ร่างกายและในที่สุดก็โลหิต!
เสียงเพลงดังกึกก้องรุนแรงจากสวรรค์ ดังออกมาจากร่างกายและจากโลกใบนี้
เท้าที่กำลังตกลงมาดูเหมือนเชื่องช้าลงไปเมื่ออยู่ใต้อิทธิพลของเก้าบทเพลง เสียงเพลงอัศจรรย์นี้กำลังดังกึกก้องไปทั่วโลกอย่างที่อธิบายไม่ได้
เพียงเก้าบทเพลงกำลังดำเนินไป สัญญาณหนึ่งปรากฏขึ้นมาในท้องฟ้า
ท้องฟ้าสีทอง ปฐพีสีดำ!
ราวกับเป็นภาพมายาแต่พวกมันปรากฏขึ้นเด่นชัดเบื้องหน้าหวังหลิน จิตใจกุ้ยต้าวสั่นเทาที่เห็นสิ่งนี้
ต่อจากสัญญาณแรกจึงเป็นสายตาหวังหลินที่เผยแสงสีเงิน แสงส่องประกายกว้างไกลและเป็นสัญญาณที่สอง!
เก้าบทเพลงสามสัญญาณที่ปรากฏขึ้นบนร่างหวังหลินตอนที่อยู่บนภูเขากุ้ยต้าวนั้นไม่สมบูรณ์ ขาดหายไปหนึ่งสัญญาณและหนึ่งบทเพลง!
ภายในวังอาณาเขตเต๋า พวกมันปรากฏขึ้นเป็นครั้งที่สอง มีเก้าบทเพลงแต่ขาดสัญญาณไปหนึ่ง
ณ ตอนนี้ใจกลางทะเลกว้างใหญ่ ภายใต้โลกหนึ่งเต๋าของมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว เก้าบทเพลงสามสัญญาณได้ปรากฏขึ้นเป็นครั้งที่สาม!
ทว่าครั้งที่สามยังมีแค่เก้าบทเพลงและขาดสัญญาณที่สามไป ราวกับมีบางอย่างหายไปและเหมือนเป็นชิ้นส่วนสำคัญ!
หวังหลินเงยศีรษะขึ้นมา สิ่งที่เขามองไม่ใช่ฝ่าเท้ายักษ์ที่เหมือนถูกหยุดห่างออกไปพันฟุต แต่สายตาเขามองทะลุวิชานี้ออกไปและมองไปยังความว่างเปล่าที่อยู่เหนือท้องฟ้า
นาทีนั้นความคิดจึงกระจ่างชัด ราวกับเข้าใจว่าทำอะไรหายไป
“ร่างอวตารมิติว่าง จุติลงมาผสานกับข้า!” สิ่งที่เขาขาดหายไปคือการถือกำเนิดจากมิติว่างและได้รับการยอมรับจากมิติว่างเหมือนบรรพชนเทพและบรรพชนโบราณ
ภายในมิติว่างของแผ่นดินเซียนดาราซึ่งเต็มไปด้วยกฎ มีก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ข้างในมีร่างที่นั่งอยู่ตรงนี้มาแล้วเกือบพันปี
ตอนนี้เขาดูเหมือนได้ยินเสียงเรียกและลืมตาขึ้นมา ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า รูปลักษณ์หน้าตาเหมือนหวังหลินไม่มีผิดเพี้ยน เขาคือร่างอวตารในมิติว่าง
เพียงลืมตาขึ้นมา ก้อนหินที่เขาอยู่พลันแตกกระจายไปทั่วทิศทางราวกับเศษเปลือกไข่ ร่างนั้นยืนขึ้นและก้าวเท้าก่อนจะเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
บนแผ่นดินเซียนดารา ในทะเลอันกว้างใหญ่ใกล้พายุ เพียงเสียงของหวังหลินดังกึกก้อง คนผู้หนึ่งก้าวเดินออกมาจากวังวนในท้องฟ้า
คนผู้นี้ก้าวครั้งที่สาม กุ้ยต้าวมองเขาก้าวเดินไปหาหวังหลินด้วยความตกตะลึง จากนั้นร่างกายทับซ้อนและผสานกัน
วินาทีนี้เองหวังหลินจึงส่งเสียงคำรามใส่ท้องฟ้า เสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ เสียงดังกึกก้องจนเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดฟังดูเหมือนเสียงทารกกำลังร้องไห้!
เสียงทารกร้องไห้ดังกึกก้องในท้องทะเลและเข้าสู่เผ่าโบราณ แผ่กระจายไปยังเมืองหลวงทั้งสามอาณาเขต รูปปั้นบรรพชนโบราณทั้งสามแห่งเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมา
มันแผ่กระจายสู่เผ่าเทพเช่นกันและรูปปั้นบรรพชนเทพในเมืองหลวงเกิดรอยแตกร้าวเช่นกัน
พลังอันไร้ขีดจำกัดระเบิดออกมาจากบนพื้นปฐพีของเผ่าโบราณและเปลี่ยนกลายเป็นร่างหนึ่ง ร่างนี้คือบรรพชนโบราณ!
ภายในเผ่าเทพ พลังมหาศาลระเบิดออกมาจากพื้นดิน ควบแน่นกลายเป็นร่างที่สอง ร่างนี้คือบรรพชนเทพ
ทั้งสองร่างนี้คนทั่วไปไม่อาจมองเห็น มีเพียงมหาชั้นฟ้าที่สัมผัสได้
ภายในท้องทะเลกว้างใหญ่ ร่างที่สามพลันปรากฏขึ้น ร่างนี้เหนือกว่าทั้งบรรพชนโบราณและบรรพชนเทพ พลันพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า!
“เก้าบทเพลงสามสัญญาณ…สัญญาณที่สามคือเสียงร้องทารก…” กุ้ยต้าวพึมพำกับตัวเอง
…………………………………………………..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น