Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 2032-2033

 ตอนที่ 2032 เต็มไปด้วยความโกรธแค้น (11)

โดย

Ink Stone_Fantasy

ภายนอกราชวัง ทางเดินโลหิตด้านนอกเหลือคนเพียงแค่พันคน ทุกคนมองเข้ามาด้วยความหวาดกลัว


ตอนที่หวังหลินก้าวเข้าไปในวัง จักรพรรดิเต๋าถึงกับหน้าซีด ก้าวถอยโดยไม่รู้ตัวและจ้องมองหวังหลิน


“หวังหลิน หากข้าตาย นางก็จะตาย! เจ้ากล้าสังหารข้า!? ข้ามีมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวปกป้อง ไม่มีใครในโลกนี้สามารถสังหารจักรพรรดิโบราณได้!!”


หวังหลินไม่สนคำพูดของจักรพรรดิเต๋าและไม่สนพ่อของจักรพรรดิเต๋าเช่นกัน เขามองไปที่ซ่งจื่อคนเดียว การมองนางที่ทำให้เกิดความรู้สึกคุ้นเคย ทำให้ความบ้าคลั่งของหวังหลินลดลง หวังหลินก้าวเข้าหากลิ่นอายที่เขาไล่ตามมาเป็นพันปี


แต่ในชั่วจังหวะนั้นมีร่างเงาปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังหลิน พวกมันเหมือนควันและพุ่งทะยานเข้าหา


หวังหลินเหมือนตาบอด ในสายตาเขามีเพียงแค่ซ่งจื่ออยู่เท่านั้น เพียงแค่ก้าวเดินออกไปข้างหน้า พลันเกิดเสียงปะทุ ร่างที่อยู่ในเงาจึงถูกบังคับให้ออกจากที่ซ่อน พวกมันกระอักโลหิต รอยแตกร้าวกระจายไปทั่วร่างก่อนจะสูญสลายไป


พริบตาเดียวร่างนับสิบปรากฏเบื้องหน้าหวังหลิน แต่ไม่มีใครรอดชีวิตไปได้ หวังหลินยืนอยู่เบื้องหน้าซ่งที่จื่อกำลังสับสน


นางมองขึ้นมาที่หวังหลินและอ้าปากจะพูดบางอย่าง แต่นางลืมคำพูดตัวเองไป นางมองหน้าหวังหลินที่ไม่คุ้นตาแต่ก็แฝงความคุ้นเคย สายตาเริ่มสั่นราวกับความทรงจำกำลังจะตื่น


“เขาเป็นใคร…นางเป็นใคร…ข้าเป็นใคร…หากข้าเป็นนาง แล้วใครคือป้าจางและน้องตง…” นางดูราวกับตกอยู่ในความเจ็บปวดพลางกุมศีรษะและสั่นเทา


หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาทั้งที่หัวใจเจ็บปวดและชี้ไปด้านหลัง เสียงกรีดร้องหนึ่งดังขึ้นมาเนื่องจากมีร่างเงาต้องการใช้โอกาสนี้ลอบโจมตี แต่ก่อนที่มันจะได้เผยตัวเอง หวังหลินชี้นิ้วไปที่กะโหลกของเงาและเงานั้นได้ตายทันที


หวังหลินมองผู้หญิงตรงหน้าและพูดขึ้นเบาๆ “อย่ากลัวไปเลย…ข้าไม่รู้ว่าป้าจางและน้องตงเป็นใคร แต่ข้ารู้ว่าเจ้าคือลี่มู่หวาน เจ้าคือภรรยาข้าที่ข้าได้ค้นหามาเป็นพันปี!!”


พอนางได้ยินคำว่า “ลี่มู่หวาน” นางรู้สึกถึงเสียงกระซิบอันเจ็บปวดและรู้สึกราวกับกระจกแตกอยู่ในใจ ชื่อนี้มีพลังประหลาด นางรู้สึกคุ้นเคยในวิญญาณราวกับเป็นชื่อที่แท้จริง!


“ลี่มู่หวาน…ลี่มู่หวาน…ซ่งจื่อ…ข้า….ข้าเป็นใครกันแน่…” เพราะเกิดความเจ็บปวดจากภายใน หยาดน้ำตาจึงเริ่มไหลลงบนแก้ม


จักรพรรดิเต๋าเผยสายตาดุดัน ขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหว กลับได้ยินเสียงหายใจเย็นเยียบของหวังหลิน


เสียงลมหายใจเย็นเยียบคล้ายประกายสายฟ้าจนจักรพรรดิเต๋าส่งเสียงร้องโหยหวน โลหิตไหลออกจากรูขุมขนและถอยไปหลายก้าว หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่กลางหน้าผากของนาง จากนั้นโลหิตวิญญาณหนึ่งหยดในร่างหวังหลินเข้าไปในตัวนางผ่านนิ้วของหวังหลิน นาทีนั้นนางก็เริ่มสั่นเทา


เส้นด้ายสายหนึ่งที่ไม่ได้เป็นของโลกนี้พลันปรากฏอยู่บนหน้าผากของนาง มันเชื่อมต่อกับจักรพรรดิเต๋าที่อยู่ด้านหลังนางด้วยเช่นกัน


หวังหลินยกแขนซ้ายและฟันฉับใส่เส้นด้ายโดยไม่ลังเล


เส้นด้ายขาดครึ่งในทันที


นาทีนั้นจักรพรรดิเต๋ากระอักโลหิตคำโต ดูน่าเวทนาและมีแววตาหวาดกลัว


“เป็นไปไม่ได้!! ตราประทับขังวิญญาณบรรพชนไม่สามารถตัดขาดแบบนี้ได้ นี่เป็นวิชาลับของราชวงศ์ มีเพียงมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวที่สามารถลบมัน…” จักรพรรดิเต๋าร้องเสียงแหลมแต่ไม่กล้าเข้าใกล้หวังหลินและถอยร่นต่อไป


หวังหลินไม่ให้ความสนใจต่อจักรพรรดิเต๋า เขามองซ่งจื่อที่เจ็บปวด ลูบเรือนผมนางอย่างแผ่วเบา


“ไม่ต้องกลัว…ข้าจะพาเจ้าไปสังหาร…” หวังหลินพูดประโยคที่เคยพูดเมื่อหลายพันปีก่อน


พอนางได้ยินเช่นนี้ อาการสั่นเทาจึงหยุดลงและมีแววตาดิ้นรนยิ่งกว่าก่อนหลายเท่า ซึ่งรุนแรงยิ่งกว่าตอนที่นางได้ยินคำว่า “ลี่มู่หวาน” ไปเสียอีก


ราวกับประโยคนี้สำคัญยิ่งกว่าชื่อของตัวเอง ราวกับเป็นจุดเริ่มต้นของความรักนับพันปี…


เสียงดังสนั่นกึกก้องอยู่ในใจ ประโยคนี้ดังต่อเนื่องและหมุนวนอยู่ในความทรงจำอันเลือนลาง


นางเคยฝันอยู่ครั้งหนึ่งและได้ยินประโยคนั้น เสียงนั้นคงอยู่ในใจนางตลอดเวลาและนางก็พยายามค้นหาน้ำเสียงนั้น แต่ไม่ว่าพยายามแค่ไหนก็นึกไม่ออกหรือจำไม่ได้


จนกระทั่งนางได้ยินหวังหลินพึมพำว่า “หวานเอ๋อร์” ในงานเลี้ยง ซึ่งทำให้จิตใจนางสั่นไหวและรู้สึกถึงความคุ้นเคยอย่างรุนแรง แต่นางก็ยังจำไม่ได้จนกระทั่งตอนคำว่า “ลี่มู่หวาน” ดังออกมา นางเพียงแค่สั่นเทาแต่นึกไม่ได้ กระนั้นหลังจากได้ยินว่า “ข้าจะพาเจ้าไปสังหาร” ประโยคนี้ทับซ้อนกับคำพูดจากความทรงจำ!


นางจำขึ้นได้เลือนลาง จำได้ว่าเสียงจากในความฝันดังออกมาจากคนตรงหน้านางผู้นี้ นางจำได้ถึงทะเลปิศาจ นางยืนอยู่ตรงหน้าถ้ำด้วยใบหน้าซีดขาวแต่คุ้มกันถ้ำอย่างหนักแน่น


นางจำได้ว่ามีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่ด้านหลังกำลังหลอมพลังของเม็ดยาเพื่อสร้างแกนลมปราณ!!


นางจำได้ว่าตอนที่นางเหน็ดเหนื่อยและไม่สามารถหยุดยั้งเซียนปิศาจจากการถล่มถ้ำได้แล้ว ขณะที่เสียงหัวเราะแต่ละคนดังกึกก้อง นางรู้สึกตกอยู่ในหน้าอกอันอบอุ่น จากนั้นนางได้ยินเสียงเย็นเยียบแต่ทำให้หัวใจนางรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดเป็นครั้งแรก


“ไม่ต้องกลัว…ข้าจะพาเจ้าไปสังหารพวกมัน!”


ร่างของนางสั่นเทาและมีหยาดน้ำตาไหลลงจากดวงตา แววตาสับสนส่วนใหญ่ได้หายไป นางมองหวังหลิน มองตรงใบหน้าที่คุ้นเคยยิ่งขึ้น


“หวัง…หลิน…” น้ำเสียงของนางแหบพร่า ราวกับไม่ได้พูดมานาน แต่สิ่งที่นางพูดกลับทำให้จิตใจหวังหลินสั่นสะท้านราวกับสายฟ้านับล้านระเบิดอยู่ข้างใน


หวังหลินตื่นเต้นและหัวเราะใส่ท้องฟ้าพร้อมกับเข้าไปกอดนาง เขาหันกลับมามองจักรพรรดิเต๋าและผู้เป็นพ่อที่กำลังตื่นตระหนก ทว่าจักรพรรดิเต๋าไม่เหมือนผู้เป็นพ่อ ทั้งยังสงบนิ่ง


พอหวังหลินมองเข้ามา จักรพรรดิเต๋าเห็นจิตสังหารของหวังหลินอย่างชัดเจน จิตใจจึงตกลงไปถึงตาตุ่ม


“ข้าคือจักรพรรดิเต๋า มีการปกป้องจากมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว เขาไม่สามารถสังหารข้าได้!!” จักรพรรดิเต๋าล่าถอยอีกครั้ง แววตาหวังหลินเป็นประกาย เขาต้องการสังหารคนผู้นี้เพราะเกลียดชังฝังลึกถึงกระดูก หวังหลินกอดลี่มู่หวานพลางพุ่งเข้าหาจักรพรรดิเต๋าไปด้วย


เขาเข้าประชิดในทันที สายตาเต็มไปด้วยจิตสังหารดุดัน ยกแขนขวาขึ้นมากระแทกใส่จักรพรรดิเต๋า!


“มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว ช่วยข้าด้วย!!” จักรพรรดิเต๋ากรีดร้อง


แต่ขณะที่ฝ่ามือหวังหลินตกลงมา เสียงดังสนั่นกึกก้อง มีแสงสีม่วงกะพริบรอบจักรพรรดิเต๋าและทำให้ฝ่ามือของหวังหลินกระเด็นออกไป


พอจักรพรรดิเต๋าเห็นแสงสีม่วง เขาเริ่มหัวเราะทันที แววตาตื่นตระหนกหายไปและเปลี่ยนกลายเป็นความสงบนิ่ง จ้องมองหวังหลินอย่างดุดัน


“ข้าเป็นจักรพรรดิเต๋า ข้าเป็นลูกหลานของบรรพชนโบราณ เจ้าจะสังหารข้าได้อย่างไร? ในโลกนี้ไม่มีใครสังหารข้าได้!” จักรพรรดิเต๋าสะบัดแขนเสื้อและคำรามใส่คนด้านนอกวัง


“เหล่าผู้คนอาณาเขตเต๋าทั้งหมด สังหารคนผู้นี้ ใครที่กล้าขัดคำสั่งจะถือว่าเป็นคนทรยศ!” เพียงคำพูดเขาดังออกมา เหล่าคนนับหมื่นรอบลานกว้างแม้แต่คนที่มาถึงล้วนได้ยินทั้งหมด ทุกคนมองมาที่วังหลวงและพุ่งเข้ามาดุจก้อนเมฆสีดำมหึมา


หวังหลินมีแววตาเป็นประกายจิตสังหารและยกมือขึ้นอีกครั้งเข้ากระแทกใส่จักรพรรดิเต๋า แสงสีม่วงกะพริบวาบอีกรอบเข้าต่อต้านการโจมตีของหวังหลิน


เป็นผลให้จักรพรรดิเต๋าหัวเราะโอหังยิ่งกว่าเดิม กระทั่งไม่หลบเลี่ยง


“เจ้ามีสิทธิอะไรมาสังหารข้า? หวังหลิน เจ้ามันก็แค่มดปลวดในโลกถ้ำ ตอนนี้คนของอาณาเขตเต๋าของข้านับแสนคนกำลังเข้ามา ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะหนีรอดไปได้อย่างไร!! เจ้ากำลังจะตาย และเมื่อเจ้าตาย ข้าจะเล่นกับนางและปล่อยนางตายไปกับเจ้าด้วย!!” จักรพรรดิเต๋าหัวเราะเยาะ


“ข้าไม่สามารถสังหารเจ้าได้…” เรือนผมหวังหลินพริ้วไหวโดยไร้แรงลม ดวงตะวันมหาชั้นฟ้าปรากฏขึ้นด้านหลัง เปล่งแสงสีขาวและดำในเวลาเดียวกัน โลหิตวิญญาณข้างในร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นาทีนี้เองบทเพลงแห่งสายลมปรากฏขึ้นออกมาจากร่างกาย!


เสียงสายฟ้าดังสนั่นกึกก้อง มันคือบทเพลงสายฟ้า!


ก้อนเมฆปั่นป่วนไปกับสายลมและสายฟ้า ก่อเกิดเป็นเสียงขลุ่ยสายลม!


สายฝนตกลงมาเช่นกัน กลายเป็นเสียงสายฝน! จากนั้นเสียงฟ้าและเสียงดินปรากฏขึ้นมา ต่อด้วยเสียงจากร่างกายหวังหลิน เป็นเสียงที่เจ็ด


เสียงที่แปดเป็นเสียงจากอวัยวะภายใน ส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่ววังหลวงอย่างมิอาจอธิบายเป็นคำพูดได้!


“ในโลกนี้ นอกจากมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวแล้วมีอีกคนที่สามารถสังหารเจ้าได้…นั่นคือบรรพชนโบราณ!” หวังหลินเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงดังกึกก้อง โลหิตวิญญาณปลดปล่อยเสียงเพลงบทที่เก้า!!


บทเพลงที่เก้าคือบทเพลงสายโลหิต เมื่อเสียงนี้ดังออกมา ดวงตาหวังหลินกลายเป็นสีเงินเปล่งสัมผัสแห่งตัวตนอันสูงสุด!


เบื้องหลังหวังหลิน เหนือวังขึ้นไปปรากฏร่างเงาขนาดยักษ์ ร่างเงานี้เอามือไว้ด้านหลัง มองดูท้องฟ้าด้วยความดูถูก รูปลักษณ์ของมันเหมือนกันกับรูปปั้นบรรพชนโบราณที่อยู่ในเมือง!!


“บรรพชน…บรรพชนโบราณ!!” ทุกคนในลานกว้าง ในวังหลวงและทุกคนในเมืองต่างสั่นไหวเมื่อเห็นร่างเงานี้ พวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัวจากเสียงดังก้องกังวาน


“เราเหล่าลูกหลานขอคารวะบรรพชนโบราณ!” ไม่รู้ว่าใครคุกเข่าเป็นคนแรก แต่พริบตาเดียวมีคนนับแสนในลานกว้างและในวังคุกเข่าลงทันที


…………………………………………………..


ตอนที่ 2033 การตายของจักรพรรดิ!

โดย

Ink Stone_Fantasy

เก้าบทเพลงปรากฏขึ้นในคราเดียว นี่เป็นสิ่งที่มีแต่ในตำนานและข่าวลือเท่านั้น แต่วินาทีนี้เสียงเพลงทั้งเก้ากำลังดังกึกก้องอยู่ในวังหลวงอาณาเขตเต๋า!


เหล่าผู้คนมากมายเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคุกเข่าลงให้แก่ร่างเงาบรรพชนโบราณ


พ่อของจักรพรรดิเต๋าผู้สูญเสียแขนไปหนึ่งข้างกำลังตกตะลึงและคุกเข่าลงอย่างไม่ลังเลด้วย ร่างกายสั่นไหวแต่ในใจไม่ตื่นเต้น กลับมีความหวาดหวั่นและหวาดกลัวถึงขีดสุดแทน


‘ร่างเงาบรรพชนถูกคนผู้นี้อัญเชิญออกมา…เขาสามารถเล่นบทเพลงทั้งเก้าได้ นี่…นี่…แม้แต่ราชวงศ์ก็ไม่มีใครสามารถทำเช่นนี้ได้ เป็นไปได้ว่าเขา…เขามีสายโลหิตบริสุทธิ์ยิ่งกว่าของราชวงศ์?!’


ซวนลั่วยืนอยู่ตรงนั้นและมองร่างเงาบรรพชนโบราณด้วยสายตาเคารพ เขาไม่ได้คุกเข่าแต่คำนับฝ่ามือและโค้งให้แก่ร่างเงา


จักรพรรดิเต๋าตกตะลึงและมีแววตาไม่เชื่อ คล้ายกับบ้าคลั่งไปแล้วและถอยไปจนอยู่นอกวัง มองขึ้นไปเห็นร่างใหญ่ยักษ์ที่อยู่ในท้องฟ้า


พอเขาเห็นร่างนั้น จักรพรรดิเต๋าสั่นเทาและจิตใจสั่นสะท้านอย่างรุนแรง


“เป็นไปไม่ได้!!” เขาร้องเสียงหลง จากนั้นถอยออกไปจนตัวเองอยู่บนลานกว้าง


“ข้าคือบุตรแห่งสวรรค์ ข้าเป็นจักรพรรดิเต๋า ข้าเป็นลูกหลานของบรรพชนโบราณ!!” จักรพรรดิเต๋าหน้าซีด จิตใจเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เขาไม่สามารถยอมรับความจริงข้อนี้ได้ เขาไม่สามารถอดทนต่อเรื่องแบบนี้ได้ จึงชี้ไปที่ร่างเงาและส่งเสียงร้องโหยหวน


ทุกคนที่ลานกว้างนอกจากซวนลั่วได้คุกเข่าอยู่ตรงนั้น แม้แต่คนของอีกสองอาณาเขตคุกเข่าอยู่เช่นกัน มีเพียงจักรพรรดิเต๋าที่กำลังยืนอยู่ ชี้นิ้วไปที่ร่างเงาบรรพชนโบราณราวกับคนบ้าและส่งเสียงร้อง


“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นเรื่องโกหก!! นี่มันภาพมายาที่สร้างขึ้นมา มันไม่ใช่ความจริง ข้าสิลูกหลานตัวจริง ข้ามีสายโลหิตที่ควรทำให้เจ้าปรากฏตัว ข้าคือจักรพรรดิเต๋า!!”


“พวกเจ้าทั้งหมดยืนขึ้น พวกเจ้าตาบอดไปแล้วหรือ? นี่มันเรื่องหลอกลวง ยืนขึ้นสิ!!” จักรพรรดิเต๋าร้องคำรามต่อไปอย่างบ้าคลั่งใส่คนรอบๆ คนที่กำลังคุกเข่าและแสดงความเคารพ ดูเหมือนสิ่งนี้ทำให้เขาหวาดกลัวและกดดันอย่างมหาศาล ราวกับบังคับให้เขายอมรับว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง


แต่ไม่ว่าเขาจะร้องคำรามเสียงแหบแค่ไหน ไม่มีใครให้ความสนใจ ทุกคนตกตะลึงกับร่างเงาบรรพชนโบราณ ไม่มีใครกล้าลุกขึ้น


สำหรับเผ่าโบราณแล้ว พลังอำนาจราชวงศ์ถือเป็นตัวตนอันสูงสุด เหตุผลที่พวกเขารู้สึกเกรงขามต่อพลังราชวงศ์ขนาดนี้เป็นเพราะผู้สร้าง บรรพชนโบราณได้สร้างอาณาเขตทั้งสามขึ้นมาและเป็นคนที่เผ่าโบราณอุทิศตนให้จากก้นบึ้งจิตใจ!!


ในใจแต่ละคนนั้น บรรพชนเทพคือตัวตนอันสูงสุด!


“ขุนพลราชา ขุนพลอมตะ ลุกขึ้นมา พวกเจ้ามองไม่ออกหรือว่านี่เป็นเรื่องโกหก? นี่มันเรื่องหลอกลวง นี่มันเรื่องโกหก!!!” บรรพชนเต๋าสั่นเทาและพุ่งเข้าใส่หนึ่งใน 18 ขุนพลราชาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังเตะใส่ด้วย


ทั่วทั้งลานกว้างเงียบสงัด มีเพียงจักรพรรดิเต๋าที่ทำเสียงเอะอะแต่ไม่มีใครมอง


“โกหก…ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก…” แววตาจักรพรรดิเต๋าถูกครอบงำไปด้วยความกลัว มองร่างเงาในท้องฟ้าพลางร่างกายสั่นเทา เขาเกิดอาการประสาท ในยามนี้หวังหลินที่กำลังกอดซ่งจื่อได้ก้าวเดินออกมาจากวัง


เขายืนอยู่ตรงประตูวังและมองไปด้านนอก เห็นทุกคนกำลังคุกเข่า จากนั้นทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมซ่งจื่อในอ้อมแขน


วินาทีที่เขาปรากฏตัว ร่างเงาบรรพชนโบราณคล้ายกับทับซ้อนกับเขาและเปล่งแรงกดดันมิอาจอธิบายออกมาได้ แรงกดดันนี้ทำให้พื้นปฐพีสั่นเทา ท้องฟ้าเปลี่ยนสีสัน ทุกคนที่กำลังคุกเข่าด้านล่างเริ่มสั่นเทา


หวังหลินก้มศีรษะ ดวงตาสีเงินมองจักรพรรดิเต๋าอย่างไร้ปรานีและไม่แยแส ขณะเดียวกันร่างเงาบรรพชนโบราณได้ก้มศีรษะลงมองจักรพรรดิเต๋าด้วยสายตาสีเงินแบบเดียวกัน


เสียงคำรามของจักรพรรดิเต๋าพลันหยุดลงตอนที่ร่างเงามองเข้ามา เขาล่าถอยพลางขบฟัน จากนั้นเริ่มคำรามขึ้นอีกครั้ง


“ข้าคือลูกหลานท่าน ข้าไม่ได้ทรยศเผ่าโบราณ ท่านสังหารข้าไม่ได้!”


หวังหลินนิ่งเงียบและยกแขนขวาขึ้น ร่างเงาบรรพชนโบราณยกแขนขวาขึ้นเช่นกัน เพียงหวังหลินชี้ไปที่จักรพรรดิเต๋า แขนยักษ์ในท้องฟ้าชี้ไปที่จักรพรรดิเต๋าด้วย


“เย่ต้าว…ข้าจะยืมแขนของบรรพชนโบราณเพื่อมอบความตายให้เจ้า!!” นี่เป็นครั้งแรกที่หวังหลินพูดขึ้นตั้งแต่บรรพชนโบราณปรากฏ หลังจากพูดจบ แสงสีเงินกะพริบวาบลอยออกมาจากแขนขวาและมุ่งตรงเข้าสู่จักรพรรดิเต๋า


ใบหน้าจักรพรรดิเต๋าเปลี่ยนเป็นซีดเผือดและส่งเสียงร้องไห้ “ไม่!!”


“มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว ช่วยด้วย!!! ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย!! บรรพชน ช่วยข้าด้วย!! ราชครู ช่วยข้าด้วย!!!” จักรพรรดิเต๋าร้องคำรามด้วยความหวาดกลัว


ขณะที่เขาร่ำร้องแก่บรรพชน ลึกลงไปใต้ดินในวังหลวง มีโลงศพสีม่วงในห้องลับที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง


มีหญิงชรานอนอยู่ในโลงศพ นางดูเหมือนโครงกระดูกแต่สวมชุดคลุมสูงศักดิ์ ดวงตาพลันเปิดขึ้น เผยความหวาดกลัวและลังเล แต่นางไม่ได้ออกมา


บนพื้นดินนั้น ขณะที่แสงสีเงินเข้ามาใกล้ พลันปรากฏแสงสีม่วงรอบตัวจักรพรรดิเต๋า ทว่าในทันทีที่แสงสีเงินสัมผัสกับแสงสีม่วง แสงสีม่วงพลันแตกสลาย แสงสีเงินแทงทะลุเข้ามาถึงกลางหน้าผากของจักรพรรดิเต๋า


ศีรษะจักรพรรดิเต๋าระเบิดกลายเป็นกองโลหิต ร่างกายเริ่มแตกสลาย ทั้งร่างพังทลายเป็นเศษเสี้ยวนับไม่ถ้วน และเศษเหล่านั้นพังทลายต่อไปจนไม่เหลืออะไรเลย


แม้แต่ดวงวิญญาณยังถูกแสงสีเงินเผาทำลายและถูกลบล้างไม่เหลือชิ้นดี จักรพรรดิโบราณผู้หนึ่งได้ถูกสังหารในวังของตัวเองเบื้องหน้าสายตาของประชาชน!


พ่อของจักรพรรดิเต๋ากำลังคุกเข่าอยู่ในวังเกิดอาการสั่นเทาตอนที่จักรพรรดิเต๋าเรียกหา เขาพยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่กล้าช่วยลูกตัวเอง ทั้งยังไม่มีวิธีช่วยชีวิตจักรพรรดิเต๋าจากร่างเงาของบรรพชนโบราณอีกด้วย


หลังจากนั้น หวังหลินหน้าซีดเล็กน้อย ร่างเงาบรรพชนโบราณค่อยๆ หายไปก่อนจะหายไปหมด หวังหลินมองดูเส้นขอบฟ้า มองดูภูเขาอันอ้างว้างด้านนอกเมืองหลวง


คนที่นำวิญญาณของหวานเอ๋อร์มาไม่ใช่จักรพรรดิเต๋า แต่เป็นร่างที่ปกคลุมด้วยแสงสีรุ่งที่หวังหลินเห็นในหินหยกจากสำนักมหาวิญญาณ เป็นราชครูของจักรพรรดิเต๋าอันลึกลับ!!


ราชครูเป็นคนที่นำเศษวิญญาณของลี่มู่หวานมาและมอบให้จักรพรรดิเต๋า ทั้งยังเป็นเขาที่บอกจักรพรรดิว่าให้หาคนที่สามารถผสานกับวิญญาณให้ได้


ราชครูอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด จักรพรรดิเต๋าเป็นแค่หมากตัวหนึ่งในแผนการของราชครู


หวังหลินสังเกตเรื่องนี้ได้ตั้งแต่ที่เห็นเรื่องราวในหินหยก แต่เขาระงับเอาไว้ตลอดเวลาและโกรธเกรี้ยวอยู่เต็มที!


พอจักรพรรดิเต๋าตายไป หวังหลินกำลังจะเห็นผู้วางแผนเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด ว่าจะเป็นคนที่เขาคาดคิดหรือไม่ จะเป็นคน…ผู้นั้นหรือไม่!


หวังหลินไม่สามารถใช้สัมผัสวิญญาณเพื่อค้นหาราชครูอาณาเขตเต๋าผู้ลึกลับคนนี้ได้ อย่างไรก็ตามตอนที่เขาอัญเชิญร่างเงาบรรพชนโบราณและสังหารจักรพรรดิเต๋าไป กลิ่นอายแห่งความตายจากจักรพรรดิเต๋าได้ถูกพื้นดินดูดซึมและมุ่งตรงเข้าสู่ภูเขาอันอ้างว้างห่างออกไปไกล


ตอนที่ร่างเงาบรรพชนโบราณยังอยู่ เขายังรู้สึกว่ามีค่ายกลขนาดใหญ่อยู่ในภูเขาลูกนั้น หวังหลินมองเห็นร่างเลือนลางที่อยู่ใจกลางค่ายกลได้ด้วย!


หวังหลินไม่ต้องเดาและมั่นใจว่าคนผู้นี้คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ราชครูอาณาเขตเต๋าผู้ลึกลับ!


พอเห็นร่างเงาบรรพชนโบราณกำลังหายไป แววตาหวังหลินเป็นประกายแสงสีเงินและยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่ภูเขา!


เพียงเขาชี้ วิชาที่ทรงพลังที่สุดของบรรพชนโบราณที่เขาเห็นในหินหยกขององค์ชายจี้ตูได้ปรากฏขึ้นในใจ!


ร่างเงาบรรพชนโบราณยกแขนขวาขึ้นมาชี้ออกไปเช่นกันก่อนจะหายไป ทว่าวิชาที่ใช้ออกมานั้นสมบูรณ์แล้ว!


ณ ด้านนอกเมืองลอยฟ้า อากาศรอบภูเขารกร้างคล้ายกับแยกออกมาคนละโลกและถูกบีบในทันที


ทว่าแสงสิบสีปรากฏขึ้นรอบภูเขาและเริ่มต่อต้านการโจมตีของหวังหลิน


แม้แต่ในวังหลวงยังได้ยินเสียงอึกทึก ภูเขาเกิดรอยแตกร้าวขนาดใหญ่และถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน เผยค่ายกลขนาดยักษ์ข้างใน!


แต่พลังอำนาจของดัชนีบรรพชนโบราณแสงสิบสีสลายไป ทั้งสองหายไปกันทั้งคู่


หวังหลินหรี่ตาแคบ สะบัดแขนเสื้อและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปพร้อมกับซ่งจื่อ ส่วนวิญญาณจักรพรรดิเทพและศีรษะบรรพชนเทพ เขาเก็บพวกมันไปนานแล้ว


ทว่าขณะที่กำลังจะจากไป เสียงคำรามหนึ่งดังออกมาจากใต้วัง


“บาปแห่งการสังหารจักรพรรดิเป็นเรื่องที่ไม่อาจยกโทษได้ เจ้าต้องทิ้งวิญญาณจักรพรรดิเทพและศีรษะบรรพชนเทพไว้เบื้องหลัง!”


………………………………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)