Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1990-1993

 ตอนที่ 1990 ปลดปล่อยต้าวหวัง!

โดย

Ink Stone_Fantasy

ณ วังต้องห้ามในเมืองหลวง!


มีหลุมขนาดใหญ่บนท้องฟ้ากำลังเปล่งแสงเบาบาง ศีรษะขนาดร้อยฟุตลอยอยู่ท่ามกลางภูเขาทั้งแปดด้านล่าง ศีรษะกำลังลอยอยู่ในอากาศอย่างนิ่งๆ


ทว่าตาขวากลับเปิดออกและมีแสงเล็กน้อย มันขุ่นมัวและแสงยังเหมือนวังวนที่หมุนอยู่ในตาขวา


เพียงแต่แสงที่หมุนวนอยู่นั้น ข้างในมีร่างเงาเลือนลาง ร่างเงานี้คือหวังหลิน!


ตาขวาของบรรพชนเทพเสมือนโลกอีกแห่ง หวังหลินลอยอยู่ในโลกอันมืดมิด ที่นี่ว่างเปล่าและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย


เส้นผมหวังหลินสลับเปลี่ยนระหว่างสีขาวและดำอย่างรวดเร็ว เขาดูเหมือนไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง ดวงตายังคงหลับใหล


ภายในร่าง แสงสีทองกำลังหายไปอย่างช้าๆ ราวกับมันเจาะทะลุผิวหนัง แสงสีทองหมองหม่นลงจนหายไปได้ทุกเมื่อ หวังหลินดูสงบนิ่งอยู่ในแสงสีทองนี้ราวกับเขาหลับและไม่รู้สึกอะไร


ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แสงสีทองในร่างหวังหลินยิ่งเจิดจ้าและแผ่กระจายออกไปข้างนอกมากขึ้น ภายในร่างกายมีทั้งการสืบทอดและการครอบงำ การข่มและการต่อต้าน!


มองด้านนอกหวังหลินดูปกติ ข้างในร่างมีก้อนแสงสีทองซึ่งมีพลังอำนาจของบรรพชนเทพและแผ่กระจายแสงสีทองผ่านร่างหวังหลิน มันกำลังเปลี่ยนแปลงร่างเนื้อ โลหิตและกระดูกให้เหมาะสมต่อการคงอยู่ของแสงสีทอง


แสงสีทองมีความจองหองยิ่ง มันเปล่งกลิ่นอายที่สามารถควบคุมได้ทุกชีวิตและสามารถทำให้คนบ้าคลั่ง กลิ่นอายนี้ทรงพลังมากพอจนแม้แต่ราชครูก็ไม่สามารถครอบงำได้ การสืบทอดครั้งนี้มีอำนาจมากเสียจนทำให้หวังหลินเปลี่ยนกลายเป็นคนบ้าเสียสติ!


แสงสีทองอันจองหองได้เข้าทำลายทุกอย่างที่ทำให้หวังหลินเกิดการต่อต้าน มันครอบงำสองแขนและครอบคลุมทั้งร่างกาย


ทว่ามีส่วนหนึ่งในร่างหวังหลินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แม้แสงสีทองจะรุกล้ำไปมากแค่ไหน มันคือตำแหน่งที่มีโลหิตวิญญาณของบรรพชนโบราณตั้งอยู่!


โลหิตวิญญาณของบรรพชนโบราณมีระดับเดียวกับการสืบทอดจากบรรพชนเทพ ดังนั้นแสงสีทองจึงไม่สามารถก้าวล่วงไปได้มากนัก ทว่าโลหิตวิญญาณไม่ได้มีมากมาย มันจึงไม่สามารถแผ่กระจายออกไปต่อต้านได้ ทำให้สองฝั่งไม่แตะต้องกันเอง


‘หลังจากแสงสีทองครอบงำร่างเขาไปแล้ว ข้าสามารถครอบงำวิญญาณเขาและทำให้มันแตกสลาย จากนั้นข้าก็จะควบคุมร่างของเขาได้อย่างสมบูรณ์!’ ความคิดของราชครูดังขึ้นมาในร่างหวังหลิน


ร่างกายของราชครูตายไปแล้วตอนนี้เขาจึงเป็นเพียงเศษสัมผัสวิญญาณในร่างหวังหลิน เขาตระหนักไว้แล้วว่าการครอบงำร่างหวังหลินไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจึงใช้ระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพเป็นตัวล่อ เป้าหมายก็เพื่อหยิบยืมพลังการสืบทอดนี้เพื่อลบล้างการดิ้นรนของหวังหลิน ทำให้ร่างหวังหลินมีระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพและจากนั้นเขาก็จะครอบงำได้โดยไม่มีอันตราย


แสงสีทองเกาะกุมทุกส่วนในร่างหวังหลินยกเว้นจุดที่มีโลหิตวิญญาณอยู่และส่วนสมอง แสงสีทองจากร่างหวังหลินนั้นส่องสว่างจนเห็นได้จากภายนอก หากมองตาขวาตรงศีรษะบรรพชนเทพก็จะเห็นแสงสีทองเบาบางได้ชัดเจน


เพียงแค่แสงสีทองแผ่กระจายออกมา ราวกับศีรษะบรรพชนเทพมีพลังชีวิต!


‘ร่างหวังหลินคนนี้ประหลาดยิ่ง มันมีกลิ่นอายของบรรพบนโบราณ กลิ่นอายที่ไม่สามารถลบล้างออกไปได้…แต่มันสามารถผนึกได้ ดังนั้นมันจึงไม่แทรกแซงแผนการของข้า!’ ราชครูคิดกับตัวเอง จากนั้นแสงสีทองในร่างหวังหลินรวมกันรอบโลหิตวิญญาณ แม้จะไม่สามารถลบโลหิตวิญญาณออกไปได้ มันก็ไม่สามารถขัดขวางแผนการครอบงำร่างของราชครูได้อีกแล้ว


‘ข้าครอบงำร่างกายไปแล้ว ถัดไปคือส่วนศีรษะ เมื่อข้าครอบงำศีรษะได้ ข้าก็จะครอบงำวิญญาณเขาได้!’ ราชครูตื่นเต้นมาก หลังจากผนึกโลหิตวิญญาณ เขาสัมผัสถึงแสงสีทองแผ่กระจายเป็นระลอกคลื่นเข้าหาลำคอหวังหลิน


ร่างหวังหลินสั่นสะท้าน จากนั้นแสงสีทองเต็มไปทั่วศีรษะและไหลออกมาจากรูขุมขน


แสงสีทองแผ่กระจายผ่านศีรษะและใช้พลังอันเหนือล้ำของมันเข้ากวาดล้างการป้องกันทุกอย่างที่หวังหลินวางเอาไว้ มันครอบครองส่วนร่างกายและศีรษะของหวังหลินอย่างสมบูรณ์!


จากนั้นแสงสีทองก็เปล่งประกายเจิดจ้า ทำให้ดวงตาของศีรษะบรรพชนเทพเรืองแสง


“ครอบงำวิญญาณ!!” ราชครูปรากฏขึ้นทันทีและยืมพลังแสงสีทองที่กำลังครอบงำร่างหวังหลินมาใช้ค้นวิญญาณ!


ครู่ต่อมาเขาสัมผัสได้ถึงความผันผวนในร่างหวังหลิน จึงมุ่งเข้าไปด้วยความตื่นเต้น


“ทุกสิ่งที่มีตัวตนสามารถกลายเป็นความว่างเปล่าได้เพราะดำรงอยู่! วิญญาณ จงว่างเปล่า!” เพียงราชครูเอ่ยเสียงดังกึกก้อง วิญญาณหวังหลินก็สูญสลายไปและลบล้างตัวตน


‘เอ๋ ช่างเปราะบาง ไม่มีแม้แต่ความทรงจำเหลืออยู่…น่าจะเป็นเพราะแสงจากการสืบทอดรุนแรงเกินไป วิญญาณหวังหลินก็อ่อนแอมาก เพียงแตะก็แตกสลาย!’


พอไม่มีวิญญาณ ร่างกายจึงเหมือนร่างศพ จังหวะนั้นราชครูแผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกมาข้างในแสงสีทองเพื่อควบคุมร่างหวังหลิน


หวังหลินพลันลืมตา แสงสีทองจากแววตากำลังแพรวพราวยิ่งขึ้น!


กระนั้นหวังหลินในตอนนี้ไม่ได้มีสติของตัวเอง แต่เป็นของราชครู!


‘ได้ผล!! หวังหลินที่ดูเจ้าเล่ห์ตั้งแต่แรกและมักจะทำให้ข้าสงสัยอยู่ตลอด เขาไม่ร่วมมือกับข้าเลย แต่ในตอนนี้ด้วยพลังของการสืบทอดบรรพชนเทพ ก็ยังโดนข้าครอบงำไปได้!’


‘ร่างกายนี้แข็งแกร่งมาก!! แม้จะมีพลังเพลิงนรกานต์เพิ่มขึ้นก็ยังหลอมได้อีก!!’ ราชครูเต็มไปด้วยความตื่นเต้นหลังจากครอบครองร่างหวังหลินและกำหมัด


‘น่าเสียดายที่การสืบทอดไม่สมบูรณ์ แต่นี่แค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น ขึ้นตอนที่สองเมื่อทำมันสำเร็จ เผ่าพันธุ์ของข้าจะไม่กลายเป็นทาสรับใช้ของบรรพชนเทพอีกแล้วและจะได้รับอิสระ!!’


‘ข้ารอคอยวันนี้มานานมาก ไม่มีสิ่งใดในโลกคุ้มค่ามากกว่าการได้เป็นอิสระ!’


‘เพื่อเผ่าของข้าแล้ว แม้ข้าจะถูกทำลาย ข้าก็จะขอยอมทำทุกอย่าง!!’ ราชครูมีแววตาตื่นเต้นแต่ก็โศกเศร้าไปด้วย เขาเห็นตั้งแต่อดีตแล้วว่าคนในเผ่าทุกคนล้วนมีชะตากรรมที่กำหนดมาตั้งแต่เกิด


‘หวังหลิน…อย่ากล่าวหาข้าเลย…’ ราชครูถอนหายใจแต่แววตาเปล่งประกายเจิดจ้าและเกิดความมุ่งมั่น เขาไม่ได้ออกไปจากตาขวาของบรรพชนเทพแต่ยังอยู่ข้างใน ยกสองแขนขึ้นมาสร้างผนึก แสงสีทองในร่างกายเปลี่ยนไปมากมาย!


แสงสีทองรอบร่างกายเพิ่มขึ้นสิบเท่า ร้อยเท่า พันเท่า หมื่นเท่า ราวกับไฟลุกลามและทำให้ระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพในร่างหวังหลินระเบิดออกอย่างรวดเร็ว!


ด้วยแสงสีทองหมื่นเท่านี้ ร่างหวังหลินเสมือนดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องสว่างขึ้นมาในโลกอันมืดมิดของตาขวา ดวงตาตอนนี้ไม่มืดสนิทอีกต่อไป!


แสงในตาขวาของบรรพชนเทพกำลังส่องสว่างเจิดจ้าเข้าห่อหุ้มวังต้องห้าม!


ราวกับกะโหลกได้รับการฟื้นคืนชีพ!


“ตาซ้าย!!” ราชครูสร้างผนึกและเริ่มร่ายวิชาอันซับซ้อน


บรรพชนเทพลืมตาซ้ายขึ้นมา มันขุ่นมัวและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายซึ่งแตกต่างจากตาขวาอย่างสิ้นเชิงที่ตอนนี้มีทั้งแสงและพลังชีวิต!


นาทีที่ลืมตาซ้าย พลังดึงดูดรุนแรงพุ่งเข้าหาท้องฟ้าไปยังตำแหน่งที่มีหลุมปรากฏขึ้น!


ขณะเดียวกันเกิดเสียงแตกร้าวดังกึกก้อง ด้านนอกบ่อน้ำ เหลียนต้าวเฟยพลันถูกดึงลงไปในบ่อน้ำโลหิต!


โซ่ตรวนที่ดึงรั้งร่างไว้อยู่ถูกดึงจนถึงขีดสุดจนเกิดเสียงแตกร้าวและไม่สามารถทนรับไหว!


ความจริงแล้วพลังดึงดูดนี้ไม่ได้ดึงโซ่ตรวนแต่เป็นร่างเหลียนต้าวเฟยที่ผูกมัดอยู่ เหลียนต้าวเฟยถูกดึงตรงเข้าหาบ่อน้ำโลหิต พออยู่ระยะสิบฟุต โซ่ตรวนซึ่งไม่ได้ยาวมากพอและเป็นโซ่ที่หวังหลินทำลายได้ยากยิ่งก็พลันแตกสลาย!


โซ่ตรวนที่เหลืออยู่หกสายพลันแตกสลายไปทั้งหมด!


หลังจากนั้นร่างของเหลียนต้าวเฟยได้ถูกดูดเข้าไปในบ่อโลหิต เขาเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีทองและทะยานตรงเข้าหาตาซ้ายของบรรพชนเทพ!


พริบตาเดียวร่างเหลียนต้าวเฟยก็เข้ามาใกล้และถูกดูดเข้าไปในตาซ้ายเหมือนหวังหลิน!


จังหวะนี้เองร่างพร่ามัวของเหลียนต้าวเฟยจึงปรากฏขึ้นในตาซ้าย ร่างกายเปล่งแสงสีทองอันทรงพลังจนทะลุออกมา ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของบรรพชนเทพเปิดออกและเปล่งแสงสีทองมหาศาลดุจฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ!


“บรรพชนเทพ พูด!! ปลดปล่อยผนึกของเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง!!” ราชครูกรีดร้องอย่างตื่นเต้นแต่ไม่ได้สังเกตว่าส่วนที่ซ่อนในร่างกายมีวิญญาณของหวังหลินเฝ้าดูทุกอย่างจากลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าอย่างเย็นเยียบ


เพียงราชครูเอ่ยปาก บรรพชนเทพอ้าปากอย่างช้าๆ เสียงเก่าแก่คล้ายกับเสียงของราชครูเอ่ยดังออกมา!


“ปลดปล่อย…ต้าว…หวัง…”


…………………………………………


ตอนที่ 1991 ความมั่นใจของจักรพรรดิเทพ!

โดย

Ink Stone_Fantasy

‘แผนของเขาเป็นแบบนี้เอง! เขาพูดไว้ว่าต้องการให้ข้าสืบทอดระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพเพื่อให้กลายเป็นบรรพชนเทพคนที่สองและปลดปล่อยผนึกของเผ่าพันธุ์’


‘เดิมทีข้าไม่เชื่อจึงไม่ได้ต่อต้านตอนที่ถูกดูดเข้าไปในตาขวา ข้าซ่อนวิญญาณไว้ในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าและใช้วิญญาณหลอมเพื่อหลอกเขาจนได้เห็นแผนการที่วางเอาไว้’


‘แผนเป็นแบบนี้เอง!’ หวังหลินมองดูทุกอย่างและรู้สึกชื่นชมราชครูที่ครอบงำร่างเขา


‘เขาจะให้ร่างกายข้าได้รับการสืบทอดของบรรพชนเทพ จากนั้นเหลียนต้าวเฟยและข้าจะกลายเป็นดวงตาให้บรรพชนเทพ ทำให้ศีรษะของบรรพชนเทพมีพลังชีวิตและไม่อยู่ในสภาพเสียชีวิต พลังอำนาจที่เป็นของบรรพชนเทพจะตื่นขึ้นมา จากนั้นขณะที่อยู่ในตาขวา เขาจะใช้วิธีการบางอย่างเพื่อทำให้บรรพชนเทพพูดออกมา!’


‘ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถปลดปล่อยผนึกของทั้งเผ่าได้อย่างสมบูรณ์! อีกทั้งผนึกนี้ก็เป็นเขตอาคมรูปแบบหนึ่งและเป็นสิ่งที่กฎแห่งแผ่นดินเซียนดารายอมรับ ความจริงการปลดปล่อยผนึกหมายถึงการหลอกลวงกฎ!’


‘เพราะคนสร้างกฎได้ตายไปแล้วและทำตามสิ่งที่วางเอาไว้ ด้วยวิธีของราชครู เขาอาจจะทำได้สำเร็จจริงๆ!’ หวังหลินไม่เคยคิดถึงการปลดปล่อยผนึกด้วยวิธีประหลาดเช่นนี้ หลังจากรู้เห็นแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความฉลาดของราชครู


‘แต่ว่า…เขาใช่ราชครูจริงหรือไม่…’ หวังหลินขบคิด ศีรษะของบรรพชนเทพกำลังจะพูดจบ


“…เผ่า…ทั้ง…หมด…ผนึก…” แววตาของบรรพชนเทพกำลังเปล่งประกาย ส่วนปากเคลื่อนไหวอย่างยากลำบาก ขณะที่กำลังจะพูดคำสุดท้าย ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึงขึ้น!!


เสียงหัวเราะดังออกมาจากหลุมในท้องฟ้า โลหิตสีทองหนึ่งหยดร่วงหล่นลงมา ขณะที่ศีรษะของบรรพชนเทพกำลังจะเอ่ยคำสุดท้าย หยดโลหิตสีทองได้กระทบใส่ศีรษะบรรพชนเทพ!


จากนั้นศีรษะก็สั่นเทา โลหิตสีทองแผ่กระจายปกคลุมทั่วทั้งศีรษะ รวมถึงปากและกลืนคำสุดท้ายไป!


ราชครูที่ได้ควบคุมร่างหวังหลินพลันร้องคำราม เขาต้องการพุ่งออกไปแต่ก็ถูกโลหิตสีทองขัดขวาง!


นาทีนั้นศีรษะของบรรพชนเทพก็เปลี่ยนไปครั้งใหญ่ ดูราวกับศีรษะที่หล่อขึ้นมาจากทอง!!


ราชครูร้องคำราม “เหลียนต้าวเจิน!!!”


เสียงหัวเราะของจักรพรรดิเทพดังกึกก้องในท้องฟ้าและเขาได้ก้าวเดินออกมาจากหลุม จากนั้นร่อนลงมาบนศีรษะของบรรพชนเทพ!


ขณะเดียวกันมหาชั้นฟ้าชวงจื่อได้ไล่ตามเข้ามาในหลุม สองสาวน้อยมีใบหน้าซีดขาวแต่ก็เคร่งเครียดยิ่ง เมื่อเข้ามาข้างในได้แล้วจึงหรี่ตาลงตอนที่ได้เห็นศีรษะด้านล่างจักรพรรดิเทพ


“ราชครู แผนการของเจ้าล้ำลึกยิ่ง! เจ้ารู้ว่าข้าเตรียมการกับต้าวเฟยให้ใช้วิชาคืนสู่ต้นกำเนิดบรรพชนมานาน เจ้าเองยังรู้ว่าเมิ่งต้าวเป็นตัวช่วยที่ทำให้ต้าวเฟยสำเร็จขึ้นอีก!”


“ในมุมมองเจ้า เมิ่งต้าวใช้เพื่อทนรับความเจ็บปวดของการสืบทอดเท่านั้น เพราะเต๋าของเขาคือความจองหอง เจ้าคิดว่าข้าล่อหวังหลินมาที่นี่เพื่อทำให้เมิ่งต้าวบ้าคลั่งได้นานขึ้นและเพิ่มโอกาสสำเร็จให้ต้าวเฟย!”


“เจ้าปล่อยให้ข้าล่อหวังหลินมาที่นี่และข้าก็ยอมให้เจ้าทำตามอำเภอใจ เจ้าคิดจริงๆหรือว่าจะซ่อนสายตาจากข้าไปได้!?” จักรพรรดิเทพยิ้มและมีใบหน้าเย่อหยิ่ง สายตาดูเหมือนไม่มีสิ่งใดในโลกจะหลบพ้นไปได้!


“ตอนนั้นเจ้าต้องการให้ข้าสังหารหวังหลิน เจ้าคิดจริงหรือว่าเจ้าเข้าใจข้าดีแล้ว? ยิ่งเจ้าต้องการฆ่าเขามากเท่าไร ข้ายิ่งสงสัยมากเท่านั้น? เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือเรื่องที่หวังหลินเป็นเป้าหมายในการครอบงำของเจ้ามากที่สุด?”


“แต่ข้าไม่ได้สังหารเขา ข้าเตรียมเขามาแทนเจ้า!” จักรพรรดิเทพยิ้มและมองไปที่ศีรษะของบรรพชนเทพ คำพูดเต็มไปด้วยความมั่นใจ!


ความมั่นใจนี้ดุจสามารถควบคุมทุกสิ่งในกำมือ!


“เพราะข้าสามารถควบคุมทุกอย่างได้ ข้าจึงล่อลวงหวังหลินมาที่เมืองหลวงและมาวังหลวงตามที่เจ้าต้องการ!”


“ข้าต้องการให้เจ้าหลอกตัวเอง!”


“เจ้าต้องการถ่ายโอนการสืบทอดของเมิ่งต้าวไปที่หวังหลินและยึดครองร่างเขา ดังนั้นจึงล่อเขามาที่นี่ให้กลายเป็นตาขวาของบรรพชนเทพ”


“เจ้ากระทั่งทำนายว่าหวังหลินจะขอความช่วยเหลือจากมหาชั้นฟ้าชวงจื่อเพื่อช่วยต้าวเฟย เพื่อที่จะได้รั้งข้าไว้สักพัก เจ้าใช้โอกาสที่ข้ากำลังใช้วิชากับต้าวเฟยเพื่อเปลี่ยนเขาเข้าไปในตาซ้าย!”


“จากนั้นก็ใช้วิชาพิเศษของเผ่าต้าวหวังเพื่อทำให้บรรพชนเทพพูดปลดปล่อยผนึกของเผ่าพันธุ์เจ้า เจ้าคิดว่าทั้งหมดนี้ข้าไม่รู้เลยหรือ?” จักรพรรดิเทพหัวเราะ


มหาชั้นฟ้าชวงจื่อมีท่าทีเคร่งเครียดและไม่ลงมือวู่วาม สองสาวน้อยจ้องมองศีรษะของบรรพชนเทพด้วยจิตใจหวาดกลัวอันหาได้ยาก!!


ไม่ใช่แค่เล็กน้อยแต่หวาดกลัวรุนแรง!


ภายในตาขวาของบรรพชนเทพ ราชครูที่ได้ครอบครองร่างหวังหลินกำลังซีดเซียว เขาไม่คิดว่าจักรพรรดิเทพจะรู้เรื่องทั้งหมดนี้เหมือนอยู่ในฝ่ามือ!!


แต่หวังหลินที่ซ่อนตัวอยู่ในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้านั้นมีท่าทีสงบนิ่ง หากเขาต้องการก็สามารถยึดครองร่างกลับไปได้ทุกเมื่อแต่ก็ไม่ทำ


‘เรื่องนี้น่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย…คนผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นราชครู แต่เขาใช่ราชครูตัวจริงหรือไม่…หากไม่ใช่ เช่นนั้นเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร? เรื่องนี้น่าสนใจ…’ หวังหลินซ่อนวิญญาณต่อและไม่ลงมือวู่วาม เขาเฝ้าดูต่อไป


จักรพรรดิเทพยิ้มอย่างภูมิใจอยู่เหนือศีรษะของบรรพชนเทพ


“ราชครู ข้ามองทะลุแผนของเจ้าออกทั้งหมด แต่เจ้ามองเห็นแผนการของข้ามากแค่ไหนเล่า?”


“เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้าจะปล่อยให้ต้าวเฟยได้รับการสืบทอดจากบรรพชนเทพ?”


“เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้าต้องการให้หวังหลินมาที่วังใต้ดินเพื่อกระตุ้นเมิ่งต้าวได้นานกว่านี้?”


“ข้าจะบอกเจ้าให้ฟังในวันนี้ว่าเจ้ามันคิดผิด! การคาดการณ์ทุกอย่างของเจ้าล้วนผิดอย่างสิ้นเชิง! ไม่มีใครในโลกสามารถมองแผนของข้าออก เจ้าทำไม่ได้ หวังหลินทำไม่ได้ ไม่มีมหาชั้นฟ้าคนใดมองออก!”


“แผนการของข้าคือศีรษะของบรรพชนเทพ! ศีรษะนี้เสียชีวิตมานานหลายปีและไม่สามารถชุบชีวิตได้ มันสามารถกลายเป็นภูเขากดทับเหล่าดวงวิญญาณ 72 ดวงของเผ่าเทพได้เท่านั้น!”


“แต่มันคือสมบัติของบรรพชนเทพและยังทำให้ข้าได้รับการบ่มเพาะที่สมบูรณ์ของบรรพชนเทพโดยไม่ได้รับอันตรายอันใด!”


“ข้าจะได้มาโดยไม่ต้องสืบทอด!”


“แต่บรรพชนเทพตายและร่างกายถูกใครบางคนแยกออกเป็นชิ้นๆ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสังหาร แม้แต่ตอนนี้ก็ค้นพบแต่ส่วนศีรษะเท่านั้น ศีรษะที่ตายไปแล้ว!”


“ข้าคิดอยู่นานและไม่สามารถฟื้นคืนส่วนศีรษะได้ แต่ข้าได้ค้นพบความหวังในตัวเจ้า ข้าให้เจ้าจดจำและรับใช้ข้าเพื่อหาหนทางที่จะทำให้ศีรษะของบรรพชนเทพฟื้นขึ้นและกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!”


“ดีมาก เจ้าทำได้ดีมาก!” จักรพรรดิเทพหัวเราะและยกเท้าขวา จากนั้นเหยียบไปบนศีรษะ ส่งแสงสีทองห่อหุ้มบรรพชนเทพ


“เพียงเท่านี้ข้าก็เป็นมหาชั้นฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุด! ชวงจื่อ เจ้ากล้าต่อสู้กับจักรพรรดิผู้นี้อีกครั้งหรือไม่?” จักรพรรดิเทพดูมั่นใจในตัวเองและพุ่งเข้าหาชวงจื่อพร้อมกับศีรษะด้านล่าง


สองสาวน้อยกัดฟันแน่น ดวงอาทิตย์สีม่วงปรากฏขึ้นด้านหลัง มันส่องแสงสว่างกลายเป็นกระบี่สีม่วงสองเล่มพุ่งเข้าหาจักรพรรดิเทพ


กระบี่สีม่วงสองเล่มผสานกันและเข้าประชิดในพริบตา จักรพรรดิเทพสะบัดแขนขวา ดวงตาศีรษะบรรพชนเทพเปล่งประกายเจิดจ้า


แสงกระบี่ม่วงเข้าปะทะกับแสงสีทองจนแตกสลายกลายเป็นระลอกคลื่นบังคับให้มหาชั้นฟ้าชวงจื่อต้องล่าถอย


จักรพรรดิเทพยิ้ม ศีรษะบรรพชนเทพส่องสว่าง เขายื่นแขนขวาออกไปในอากาศเปล่า ปรากฏวิหคสีทองขึ้นในฝ่ามือ


จากนั้นโยนมันให้บินไปหามหาชั้นฟ้าชวงจื่อ!


มหาชั้นฟ้าชวงจื่อล่าถอย สองสาวน้อยเคร่งเครียด ทั้งสองทะยานขึ้นไปและผสานเข้ากับดวงอาทิตย์สีม่วงโดยไม่ลังเล ร่างทั้งสองคล้ายกับควันและจากนั้นเปลี่ยนกลายเป็นหญิงสาวงดงามอายุราวยี่สิบ!


นางสวมชุดสีม่วง ดวงตาโกรธเกรี้ยว ยกเรียวแขนเนียนละเอียดขึ้นมา ทั่วโลกหล้ากลายเป็นสีม่วง!


“ส่งหวังหลินมาและข้าจะจากไปทันที ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ถ้าไม่เช่นนั้น…สำนักตะวันม่วงจะเป็นปฏิปักษ์กับเมืองหลวง!” แม้แต่วังด้านบนยังเต็มไปด้วยสีม่วงรวมไปถึงท้องฟ้า แสงสีม่วงห่อหุ้มทุกตารางนิ้วบนพื้นดินจนปกคลุมทั่วทั้งเมือง!


ขณะเดียวกันภายในท้องฟ้าเหนือเมืองหลวง อุกกาบาตสีม่วงขนาดยักษ์เทียบเท่ากับขนาดเมืองหลวงครึ่งส่วนได้ปรากฏขึ้นในท้องฟ้า มันเปล่งแรงกดดันอันทรงพลังลงมา บนพื้นเกิดรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนและเหล่าเซียนทุกคนต่างก็ใช้วิธีการหลายอย่างเพื่อหนีไปจากที่นี่


จักรพรรดิเทพจ้องมองมหาชั้นฟ้าชวงจื่อที่ผสานร่างกัน แสงสีทองจากศีรษะบรรพชนเทพด้านล่างกำลังแข็งกล้ามากขึ้นและต่อต้านกับแสงสีม่วง แสงสีทองนี้มีพลังอำนาจของบรรพชนเทพ ส่วนแสงสีม่วงพยายามดิ้นรนและถูกบังคับให้ถอยอย่างช้าๆ


“หากบรรพชนเทพไม่ลืมตาและข้าควบคุมมันไม่ได้ ข้าอาจจะยอมอ่อนข้อให้เมื่อเผชิญกับวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้า…แต่ตอนนี้มันไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก!” จักรพรรดิเทพเต็มไปด้วยความมั่นใจ


แต่วินาทีนั้นเสียงเก่าแก่ดังกึกก้องขึ้นในวังต้องห้าม


“หากข้าเข้าร่วมวงด้วย จะพอหรือไม่?” เพียงเท่านั้นมหาชั้นฟ้าจิ่วตี้ได้ก้าวออกมาจากหลุมในท้องฟ้า ด้านหลังมีผู้สูงส่งชั้นฟ้าไฮ่จื่อติดตามมา


……………………………………………………


ตอนที่ 1992 มหาชั้นฟ้าทั้งห้า!

โดย

Ink Stone_Fantasy

การปรากฏตัวของมหาชั้นฟ้าจิ่วตี้ไม่ได้ทำให้จักรพรรดิเทพประหลาดใจ เขายังคงยืนอยู่บนศีรษะของบรรพชนเทพอย่างมั่นใจและมองดูจิ่วตี้ก้าวเดินออกมา!


“จิ่วตี้! เจ้ามาจริงๆ!” จักรพรรดิเทพยิ้ม


มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้จ้องมองจักรพรรดิเทพด้วยท่าทีเคร่งขรึม เขาเพ่งสมาธิไปที่ศีรษะของบรรพชนเทพและเผยท่าทางอันซับซ้อน


“ศีรษะของบรรพชนเทพ…ข้าเองก็เคยติดตามบรรพชนเทพ นับเวลานี้ก็ผ่านมานานหลายปี…เหลียนต้าวเจิน ข้าได้เจอจักรพรรดิเทพหลายต่อหลายรุ่น แต่เจ้าถือว่าเป็นคนที่ใจกล้าที่สุด!”


“เจ้าใช้สิ่งที่ราชครูต้องการเพื่อให้ได้ศีรษะของบรรพชนเทพมา หากมีเวลามากพอเจ้าก็อาจดูดซับศีรษะของบรรพชนเทพเข้าไปในร่างกายได้ เมื่อนั้นเจ้าก็คงจะได้เป็นมหาชั้นฟ้าอันดับหนึ่งในเผ่าเทพจริงๆ!”


“แต่ตอนนี้เจ้าจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว!” จิ่วตี้เอ่ยขึ้นและก้าวออกมา เพียงเท่านั้นหญิงสาวที่เกิดขึ้นจากการผสานร่างของมหาชั้นฟ้าชวงจื่อพลันปกคลุมร่างด้วยแสงสีม่วงและก้าวเข้าหาจักรพรรดิเทพเช่นกัน!


มหาชั้นฟ้าทั้งสามเริ่มการต่อสู้อันดุเดือดภายในวังต้องห้ามแห่งนี้!


จักรพรรดิเทพยังคงมั่นใจเมื่อเผชิญหน้ากับจิ่วตี้และชวงจื่อ เขายกแขนขึ้นมาประทับใส่ศีรษะด้านล่าง


“แปดสุดขั้ว เต๋าเพลิงสุดขั้ว!”


เพียงเท่านั้นแสงสีทองที่ปกคลุมร่างจักรพรรดิเทพก็ได้แผ่กระจายออกไปทั่วศีรษะ และแล้วศีรษะก็อ้าปากเอ่ยเสียงของบรรพชนเทพ!


“แปด…สุด…ขั้ว…เต๋า…เพลิง…สุด…ขั้ว!”


แม้แต่ละคำจะติดขัดแต่ก็สมบูรณ์ หลังจากนั้นควันสีเขียวเก้าสายมีความหนาสิบฟุตปรากฏขึ้นมา มันล้อมรอบจักรพรรดิเทพและศีรษะถึงเก้าครั้งก่อนจะทะยานไปยังจิ่วตี้และชวงจื่อ


เสียงดังสนั่นกึกก้องในวังต้องห้าม หวังหลินยังคงซ่อนอยู่ในร่างกาย เขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นข้างนอกได้ชัดเจน


หวังหลินไม่ได้ลงมืออย่างวู่วามเนื่องเพราะการเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ เขายังคงรอคอย! หวังหลินไม่คิดว่าทุกอย่างจะง่ายดาย การปรากฏตัวของจิ่วตี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่บางอย่าง!


ก่อนที่หวังหลินจะเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่ เขาจะไม่ยอมออกมา!


มหาชั้นฟ้าชวงจื่อหน้าซีดพลางมีแสงสีม่วงปกคลุมร่างกายและล่าถอยไปหลายก้าว จิ่วตี้เองก็ถอยร่นไปด้วยเช่นกัน


สิ่งที่พวกเขาเพิ่งเผชิญไม่ใช่จักรพรรดิเทพแต่เป็นบรรพชนเทพ! การโจมตีจากบรรพชนเทพบังคับให้ทั้งสองต้องถอยไปแม้จะร่วมมือผสานพลังกัน!


จิ่วตี้ดวงตาส่องสว่างและเอ่ยขึ้น “มันไม่ใช่พลังสมบูรณ์ นี่แค่ราวหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น!” ภายในร่างเกิดเสียงปะทุ ใบหน้าแก่ชราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นชายวัยกลางคน!


เขาดูหล่อเหลาและเปล่งกลิ่นอายแห่งจักรพรรดิ! จิ่วตี้คงสภาพเป็นชายชราตลอดทั้งปีและเมื่อระเบิดระดับบ่มเพาะเท่านั้นจึงจะทำให้รูปร่างหน้าตาเขาเปลี่ยนไปแบบนี้


“พูดก็พูดเถอะ จิ่วตี้นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นเจ้าสภาพนี้ แต่ว่าเจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!” จักรพรรดิเทพยิ้มและนั่งลงบนศีรษะของบรรพชนเทพอย่างเรียบง่าย สองมือกดทับลงบนศีรษะ


“ด้วยโลหิตของข้า ขออัญเชิญจิตวิญญาณบรรพชน!” จักรพรรดิเทพกัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกไป


วินาทีนั้นศีรษะบรรพชนเทพก็สั่นเทาและปรากฏแสงสีทองมหึมา แสงสีทองควบแน่นเป็นร่างเงาสีทองขนาดยักษ์สวมเสื้อคลุมทรงอำนาจบารมี นั่นคือบรรพชนเทพ!


ศีรษะเป็นของจริง ร่างกายเป็นภาพมายา วินาทีนั้นดวงตาก็เปล่งประกายและยกแขนขวาขึ้นไปในอากาศ ปรากฏกระบี่สีทองขนาดยักษ์ขึ้นมา พร้อมกันนั้นร่างเงาของบรรพชนเทพได้คว้าเอาไว้


กระบี่ของบรรพชนเทพ!


วินาทีที่กระบี่ปรากฏขึ้น หวังหลินได้ยินเสียงบางอย่างกำลังเรียกหา


“ตอนนั้นเพียงหนึ่งกระบี่ วิญญาณต่างแดนหลายดวงถูกฟาดฟัน เหลือเพียงแต่พวกที่มีคุณสมบัติจึงจะถูกผนึกลงไปในแคว้น ตอนนี้เจ้าสองคนท้าทายอำนาจบรรพชนเทพ เจ้ายังไม่ถอยไปเมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่เล่มนี้อีกหรือ?!” จักรพรรดิเทพเอ่ยเสียงดังกึกก้องพลางยกกระบี่สีทองขึ้นมาโบกสะบัดใส่มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้และชวงจื่อ!


เสียงกระบี่เงียบสงัดแต่โลกเปลี่ยนสีสันทำให้เหมือนอากาศกำลังถูกผ่าครึ่ง มหาชั้นฟ้าจิ่วตี้มีท่าทีเปลี่ยนไป สองมือสร้างผนึกปรากฏดวงอาทิตย์สีขาวขึ้นมาเคียงคู่กับดวงอาทิตย์สีม่วง สุนัขสีขาวพุ่งทะยานออกมาจากดวงอาทิตย์สีขาวและส่งเสียงหอนใส่กระบี่ทอง!


ขณะเดียวกันมหาชั้นฟ้าชวงจื่อก็สร้างผนึกให้แสงสีม่วงปกคลุมทั่วบริเวณ ไม้ไผ่ม่วงปรากฏขึ้นด้านหลังของนางและเปลี่ยนกลายเป็นป่าไผ่สีม่วงทันที ไม้ไผ่ทั้งหมดลอยขึ้นสู่อากาศและพุ่งเข้าหากระบี่ทอง


“ต้าวยี่ หวู่เฟิง หากเจ้าสองคนไม่ลงมือ แล้วจะรอไปถึงเมื่อไร!!” จิ่วตี้ร้องคำรามพลางให้สุนัขขาวพุ่งออกไป ด้านซ้ายและขวาของจักรพรรดิเทพเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น


โลกด้านซ้ายของจักรพรรดิเทพยังคงไม่มีอะไรเคลื่อนไหว ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดลงและมหาชั้นฟ้าต้าวยี่ก้าวเดินออกมา เขายกแขนขวาขึ้นไปที่จักรพรรดิเทพ ทุกสิ่งทุกอย่างดูสงบนิ่งแต่นั่นเป็นตัวแทนเต๋าของต้าวยี่!


เต๋าของเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นหนึ่ง เพียงหนึ่งดัชนีก็สามารถปลดปล่อยพลังสูงสุดของเขาได้แล้ว!


ทางด้านขวาของจักรพรรดิเทพ สายลมโหมกระหน่ำ ก้อนเมฆพัดปลิว มหาชั้นฟ้าหวู่เฟิงก้าวเดินออกมา เขาโยนกำปั้นเข้าหาจักรพรรดิเทพโดยไม่ลังเล


มหาชั้นฟ้าหวู่เฟิงเป็นคนที่ผ่านตำหนักระดับสิบหกในบททดสอบชั้นฟ้าได้ เขาเป็นคนที่แสวงหาศิลปะการต่อสู้และบรรลุเต๋าผ่านศาสตร์แขนงนี้ได้อย่างสมบูรณ์ กำปั้นนี้จึงมีพลังแห่งศรัทธาอันสูงสุดของตัวเองด้วย!


มหาชั้นฟ้าทั้งสี่โจมตีพร้อมกัน!!


หวังหลินมองดูภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นในดวงตาขวาของบรรพชนเทพ ความคิดจิตใจสั่นเทา เขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นระหว่างทางมาวังหลวง แม้กระทั่งต้าวยี่และหวู่เฟิงก็ยังปรากฏตัว!


เมื่อทั้งสองคนปรากฏตัว หวังหลินจึงเข้าใจว่าทุกอย่างที่นี่เหมือนตารางหมากรุกและเขาเป็นแค่เบี้ยในตารางหมากเท่านั้น แม้แต่เหล่ามหาชั้นฟ้ายังเป็นแค่ตัวหมาก เช่นนั้นแล้วฝั่งหนึ่งที่เป็นจักรพรรดิ กระนั้นอีกฝั่งคือใครกัน?


กระบี่สีทองเข้าปะทะกับชวงจื่อ ต้าวยี่ หวู่เฟิงและจิ่วตี้ เกิดเป็นเสียงดังสนั่นกึกก้อง ต้าวยี่กระเด็นถอยมา หวู่เฟิงถอยกลับด้วยใบหน้าซีดเผือดและมีเสียงดังปะทุขึ้นในร่างกาย


ชวงจื่อและจิ่วตี้มีระดับบ่มเพาะสูงกว่าต้าวยี่และหวู่เฟิง ถึงแบบนั้นก็ยังถูกกระบี่ทองบังคับให้ถอยกลับมา


แม้ทั้งสี่คนจะล่าถอย การผสานพลังโจมตีก็ไม่ใช่ของธรรมดา นอกจากคนผู้นั้นเป็นคนในเผ่าโบราณก็ไม่มีใครสามารถต้านทานพลังของมหาชั้นฟ้าสี่คนพร้อมกันได้!


คงไม่ต้องพูดถึงว่านี่เป็นเพียงภาพมายาที่มีพลังที่แท้จริงของบรรพชนเทพแค่หนึ่งในสิบส่วน กระบี่จึงแตกสลายเปลี่ยนกลายเป็นเศษเสี้ยวนับไม่ถ้วนตกลงสู่พื้นดิน


ขณะเดียวกันร่างเงาของบรรพชนเทพก็หายไปด้วยจนเหลือเพียงแค่ส่วนศีรษะ ร่างกายของจักรพรรดิเทพกำลังสั่นเทาและมีโลหิตไหลจากมุมปาก เขาหันมามองต้าวยี่และหวู่เฟิง!


จิ่วตี้มองจักรพรรดิเทพและพูดขึ้น “หากข้าไม่พอ เช่นนั้นจักรรพรรดิเทพคิดว่าหากเพิ่มต้าวยี่และหวู่เฟิงจะพอหรือไม่!?”


จักรพรรดิเทพมีสีหน้ามืดมนและเอ่ยปาก “พวกเจ้าสี่คนต้องการให้ข้าทำอะไรกันแน่!?”


เป้าหมายของมหาชั้นฟ้าชวงจื่อนั้นชัดเจน นางจ้องมองจักรพรรดิเทพและพูดขึ้น “ปลดปล่อยหวังหลิน! แล้วข้าจะไป!”


จิ่วตี้มองดูศีรษะของบรรพชนเทพและเอ่ยขึ้น “ข้าหวังว่าจักรพรรดิเทพจะปิดผนึกกะโหลกสำหรับข่มวิญญาณ 72 ดวงของเผ่าเทพอีกครั้ง กะโหลกนี้สำคัญต่อเผ่าเทพมากและไม่ใช่สิ่งที่จักรพรรดิเทพควรจะมี!”


“ความคิดข้าเหมือนกับของจิ่วตี้! จักรพรรดิเทพควรรักษาสมดุลพลังอำนาจระหว่างเราทั้งห้าคนเหมือนก่อนหน้านี้ ต้องไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง!” ต้าวยี่มีท่าทีมืดมน เขามองศีรษะบรรพชนเทพที่อยู่ด้านล่างจักรพรรดิเทพด้วยความหวาดหวั่น


หวู่เฟิงขบคิดและพูดขึ้น “ข้าก็ต้องการเช่นนั้น!”


จักรพรรดิเทพเริ่มหัวเราะอย่างเย็นเยียบ เขายกแขนขึ้นมาจนท่าทีของต้าวยี่และหวู่เฟิงเปลี่ยนไป เขาเอามือประทับหน้าอกตัวเอง พ่นโลหิตสีทองออกมาจากปาก ดวงตาของบรรพชนเทพเผยแสงสีทองมหึมาและอ้าปากปลดปล่อยแสงสีทองมากมาย แม้แต่หูและจมูกยังมีแสงสีทองมหาศาล


แสงสีทองแผ่กระจายออกมาจนกลายเป็นคลื่นสีทอง ทำให้มหาชั้นฟ้าทั้งสี่คนมีท่าทีเปลี่ยนไปและล่าถอยกันหมด


ขณะที่ถอยร่น จักรพรรดิเทพเผยสีหน้าดุดัน ถึงตอนนี้เขาไม่ยอมถอยง่ายๆ แล้ว เขาอยากระเบิดพลังของศีรษะบรรพชนเทพให้มากที่สุดเพื่อที่คนอื่นไม่สามารถเข้าใกล้ได้สักพัก จากนั้นก็จะใช้เวลานี้ฝืนดูดซับพลังของบรรพชนเทพ เมื่อเขาทำสำเร็จจะไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนแม้แต่การเผชิญหน้ากับมหาชั้นฟ้าทั้งสี่ก็ตาม!


เพียงแสงสีทองส่องสว่าง มหาชั้นฟ้ากดฝ่ามือบนศีรษะและดูดซับ ทว่าเขาไม่สามารถดูดซับแสงอันใดได้ราวกับมีผนึกครอบศีรษะไว้หนึ่งชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เขาดูดซับพลังของศีรษะ


‘นี่มันผนึกเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง ราชครูบัดซบนั่น ตอนที่มันทำให้บรรพชนเทพพูดขึ้นมา ได้ใช้วิญญาณของตัวเองและทิ้งร่องรอยผนึกเผ่าพันธุ์ต้าวหวังเอาไว้!’


‘แต่ผนึกนี้ไม่สามารถหยุดยั้งข้าได้! ข้าเป็นจักรพรรดิเทพ ปกติข้าอาจไม่สามารถปลดปล่อยมันได้ แต่การที่ข้าควบคุมศีรษะของบรรพชนเทพเอาไว้ ข้าจึงทำได้!’


‘แม้ข้าจะปลดปล่อยผนึกของเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ราชครูตายไปแล้วและไม่สามารถทำอะไรได้อีก!’ จักรพรรดิเทพกำลังคิดอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ตอนนี้ล้วนเร่งรีบและเขาไม่มีเวลาคิดมากเกินไป!


………………………………………………….


ตอนที่ 1993 ราชครูตัวจริง!

โดย

Ink Stone_Fantasy

มหาชั้นฟ้าทั้งสี่พยายามทะลวงผ่านแสงสีทองจนเกิดเป็นเสียงดังสนั่นกึกก้อง ตอนนี้เวลาเป็นสิ่งสำคัญและจักรพรรดิเทพก็ไม่ยอมเสียเวลามากเกินไป!


หากเขาไม่สามารถฝืนบังคับให้ดูดซับพลังอำนาจของบรรพชนเทพได้ก่อนที่มหาชั้นฟ้าทั้งสี่จะทะลวงผ่านแสงสีทองมาได้ ทุกอย่างที่ทำลงไปจะสูญเปล่า


เขาไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ตอนนี้มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เขากำลังจะสำเร็จและไม่ยอมให้เกิดเรื่องผิดพลาด!


‘แม้แต่ราชครูก็ไม่สามารถมองแผนการของข้าออก จิ่วตี้เข้ามาได้เพราะอยู่ใกล้เมืองหลวง แต่ต้าวยี่และหวู่เฟิงมารวดเร็วยิ่งนัก!’


จักรพรรดิเทพกัดฟันและชี้นิ้วไปที่ศีรษะด้านล่าง วินาทีที่ดัชนีสัมผัสกับศีรษะมันจึงพังทลายกลายเป็นก้อนเลือดเนื้อ


“ด้วยโลหิตและร่างเนื้อในฐานะลูกหลานของบรรพชนเทพ จงเปิดกฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราเพื่อปลดปล่อยผนึกชั่วนิรันดร์แห่งเผ่าต้าวหวัง!!” บรรพชนเทพร้องคำราม ดัชนีที่เหลืออยู่ของเขาพังทลาย ซึ่งไม่ใช่แค่นิ้วมือแม้แต่ฝ่ามือก็แตกสลายไปด้วยกัน


การแตกสลายดำเนินต่อไปจนกระทั่งจักรพรรดิเทพกล่าวจบ แขนขวาของเขาได้หายไปครึ่งท่อน


โลหิตสีทองจำนวนมากแผ่กระจายและก่อเกิดอักขระรูนเบื้องหน้า อักขระรูนนี้ได้เผาไหม้กลายเป็นฝุ่นผง!


วินาทีที่อักขระรูนสีทองเผาไหม้จนหมดสิ้น ราชครูที่กำลังครอบครองร่างหวังหลินจึงเกิดอาการสั่นเทา ผนึกที่ได้จองจำเผ่าต้าวหวังเอาไว้มานานหลายชั่วอายุคนพลันหายไป


เมื่อผนึกถูกปลดปล่อย ราชครูอดกลั้นน้ำตาแห่งความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ นี่คือเป้าหมายในชีวิตของเขา เขาใช้ทุกอย่างเพื่อปลดปล่อยผนึกนี้เพื่อที่เผ่าพันธุ์ของเขาจะได้หนีรอดไปจากการถูกกำหนดชะตาตั้งแต่เกิด!


วินาทีที่ผนึกปลดปล่อยออกมา พลังจากจักรพรรดิเทพจึงพุ่งเข้าไปในร่างหวังหลินและลบล้างตัวตนของราชครูอย่างง่ายดาย!


นี่คือไพ่ตายของจักรพรรดิเทพ เขาไม่ยอมปล่อยให้ราชครูมีชีวิตอยู่ต่อไปหลังจากคลายผนึก ดังนั้นในจังหวะที่ปลดปล่อยผนึกจึงเป็นตอนที่ราชครูต้องตาย


ทว่าขณะที่ราชครูกำลังจะตาย ความทรงจำส่วนหนึ่งที่ถูกปิดผนึกเอาไว้มานานก็ตื่นขึ้น


เขาจำได้เลือนลางว่าเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง หลังจากสืบเชื้อสายมาหลายปีก็แทบจะสูญพันธุ์กันหมดแล้ว เขาจำได้ว่าตั้งแต่เขาเกิดมีคนในเผ่ารวมถึงเขาอยู่เพียงแค่สามคนเท่านั้น


เขาไม่รู้ว่าใครคือพ่อแม่และไม่มีใครบอกเขา เขารู้แต่เพียงว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง…นอกจากเขาแล้วก็ได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งและทารกหญิงอีกคนเท่านั้น


แม่และน้องสาวทั้งสองคนคือญาติพี่น้อง!


เขาจำได้ว่าหญิงสาวผู้นั้นคือราชครูรุ่นก่อนและตัวเขาเองก็ไม่ใช่ราชครู ราชครูตัวจริงคือทารกหญิง


เขาไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของทารกหญิงและไม่นานนักนางได้หายตัวไป ตัวเขาถูกหญิงสาวรับเอาไว้และส่งต่อวิชาของราชครูให้


ตัวเขาค่อยๆ เติบโตขึ้นและความทรงจำได้ถูกปิดผนึก เขายังคิดว่าตัวเองคือราชครู เมื่อเติบโตขึ้น หญิงสาวก็ได้ตายไปไป จากนั้นเขาก็กลายเป็นหนุ่ม ภายในความทรงจำมีสมาชิกเผ่าหลายคนกำลังหลับใหล ภารกิจของเขาคือการปลดปล่อยโชคชะตาของคนในเผ่าที่กำลังหลับใหลอยู่ทั้งหมด


เขายังเชื่อว่ามีสมาชิกเผ่าอีกหลายคนที่ยังอยู่…แต่ตอนที่ความทรงจำเดิมได้ตื่นขึ้น เขาจำได้ว่านอกจากทารกหญิงที่หายตัวไป เหลือตัวเขาเพียงคนเดียวในเผ่าเท่านั้น…


‘มิน่าเล่าจักรพรรดิเทพถึงกล้าปลดปล่อยผนึก…เพราะจักรพรรดิเทพรู้ว่าข้าเหลือเพียงคนเดียวในเผ่าต้าวหวัง…ตราบใดที่ข้าตาย แม้จะปลดปล่อยผนึกแล้วก็ไม่เป็นไร’


‘เช่นนั้นแล้วข้าก็ไม่ใช่ราชครู…แล้ว…ข้าเป็นคนของเผ่าต้าวหวัง…ข้า…ตอนนี้ผนึกได้ปลดปล่อยแล้ว ทารกหญิงที่หายตัวไปน่าจะเป็นราชครูตัวจริง นางอยู่ที่ไหน นางเป็นใครกัน…’ เขาคิดว่าตัวเองคือราชครูตลอดเวลาและยอมใช้ทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือเผ่าพันธุ์ของตัวเอง ตอนนี้เขาล้มเหลว ความทรงจำถูกปลดปล่อยและความคิดเขาค่อยๆ หายไป


แม้แต่ตอนตาย เขาก็ยังไม่รู้ว่าใครคือราชครูตัวจริง…


แต่ถึงจะตาย เขาก็ไม่กล่าวโทษอะไรเลย เขาเข้าใจดีว่าบางทีสิ่งนี้คือภารกิจของเขา เพื่อปกป้องราชครูตัวจริงและปลดปล่อยผนึกของเผ่าพันธุ์ นี่คือภารกิจที่เขาถูกลิขิตไว้ตั้งแต่เกิด


ขณะที่เขาตาย พลังจากจักรพรรดิเทพได้กวาดผ่านร่างของหวังหลิน จากนั้นเมื่อมั่นใจว่าไม่มีวิญญาณผันผวนอันใดเหลืออยู่แล้ว มันได้ตรวจดูอีกครั้งและจากไป


กระนั้นจักรพรรดิเทพก็ไม่ได้สังเกตเห็นลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าในร่างหวังหลิน หรือกระทั่งวิญญาณของหวังหลินในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเลย!


หลังจากปลดปล่อยผนึกของเผ่าพันธุ์ต้าวหวังไปแล้ว จักรพรรดิเทพจึงเกิดอาการตื่นเต้น เขายังคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม เขายังมีความมั่นใจและรีบดูดซับพลังอำนาจของศีรษะบรรพชนเทพ!


สายใยสีทองโผล่ออกมาจากรูขุมขนบนศีรษะบรรพชนเทพและเข้าสู่ร่างจักรพรรดิเทพ ทำให้ระดับบ่มเพาะของจักรพรรดิเทพเพิ่มพูนขึ้นทันที


จักรพรรดิเทพเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่เขาไม่ได้เห็นว่าห่างออกไปไกล ตอนที่ปลดปล่อยผนึกของเผ่าต้าวหวัง ผู้สูงส่งชั้นฟ้าไฮ่จื่อกำลังตัวสั่นอย่างรุนแรง


ไฮ่จื่อมีสายตาสับสนและดิ้นรน ความทรงจำหนึ่งกำลังตื่นขึ้นมา พอผนึกของเผ่าพันธุ์ต้าวหวังหายไป ต้นกำเนิดพลังจึงตื่นขึ้นในร่างกาย!


พลังงานนี้มาจากเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง มันเป็นของราชครูตัวจริงแห่งเผ่าเทพ!!


สายตาค่อยๆ เปล่งประกายสดใส นางยกแขนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ชี้ไปที่ศีรษะของบรรพชนเทพที่กำลังส่องสว่าง!


“ทุกสิ่งทุกอย่างดำรงอยู่เพราะมันสามารถสูญเสียไปได้ นี่คือความตาย…”


“สรรพสิ่งทั้งหลายที่ตายไปเพราะความคิดของผู้มีชีวิตกลับเป็นความว่างเปล่า นี่คือเต๋า…”


“เผ่าพันธุ์ต้าวหวังสามารถใช้ความคิดของผู้มีชีวิต ใช้ตัวตนของความตาย ใช้การไล่ตามความหวัง ใช้พลังงานของชีวิตหลังความตายมาสร้างเพลิงนรกานต์ ด้วยสิ่งนี้…เราจึงเปลี่ยนเต๋ากลายเป็นความตายเพื่อปลดปล่อยสิ่งที่มีตัวตนดำเนินต่อไป และปล่อยให้ความตาย…กลับเป็นความว่างเปล่า!” ไฮ่จื่อพึมพำพลางชี้ไปที่ศีรษะ แสงสีทองทุกเส้นหดตัวกลับเข้าไปในศีรษะของบรรพชนเทพ


เมื่อแสงสีทองหายไป ศีรษะของบรรพชนเทพข้างในแสงสีทองจึงเผยออกมา!


ศีรษะของบรรพชนเทพได้สูญเสียแสงสีทองทั้งหมดและค่อยๆ หลับตาลง มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายอีกครั้งและสูญเสียพลังในการเหาะเหิน จึงร่วงลงสู่พื้นดิน


นี่คือการขัดขวางการดูดซับกลิ่นอายสีทองของจักรพรรดิเทพ ตอนนี้ต้นกำเนิดกลิ่นอายได้หายไปแล้ว แสงสีทองที่กระจัดกระจายจากร่างจักรพรรดิเทพได้กลับเข้าสู่ศีรษะของบรรพชนเทพ


การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้จักรพรรดิเทพตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อและมองขึ้นไปทันที เขาเห็นว่าเป็นผู้สูงส่งชั้นฟ้าไฮ่จื่อ!


“นี่…นี่มันเป็นไปไม่ได้!! ราชครูตายไปแล้ว เจ้าไม่ใช่เผ่าพันธุ์ต้าวหวัง เจ้ามีพลังของราชครูได้อย่างไร!?” จักรพรรดิเทพแทบเป็นบ้า เขาไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองกำลังเห็นอะไรอยู่ เขาไม่กล้าเชื่อและไม่ยอมเชื่อ!


“เจ้าไม่ใช่คนของเผ่าพันธุ์ต้าวหวังแน่นอน!! ด้วยผนึกของบรรพชนเทพ เผ่าพันธุ์ต้าวหวังไม่สามารถออกไปจากวังหลวงได้…เจ้าไม่ตาย เจ้าเป็นใคร!?” จักรพรรดิเทพหน้าซีด เขาคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างและไม่มีใครรู้แผนของตัวเอง จึงเต็มไปด้วยความมั่นใจ


ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผน มีเพียงต้าวยี่และหวู่เฟิงที่ปรากฏขึ้นฉับพลันจนทำให้แผนการของเขาเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม!


เพียงแต่ตอนที่เขากำลังดูดซับพลังจากศีรษะบรรพชนเทพได้สำเร็จเพื่อที่จะได้กลายเป็นบรรพชนเทพคนที่สอง เขากลับพบว่าทุกสิ่งไม่ได้เป็นไปตามที่คิด เขาตกอยู่ในแผนการของคนอื่น!


“ข้าคือ…ราชครู…” ไฮ่จื่อพูดขึ้นด้วยท่าทีอันสับสน ความทรงจำของนางตื่นขึ้นพร้อมกับความทรงจำของมารดาและมรดกที่ตกทอดมาจากราชครูรุ่นก่อนทั้งหมด


“คนที่ตายผู้นั้น นอกจากข้าแล้วเขาเป็นคนสุดท้ายของเผ่าพันธุ์บนแผ่นดินเซียนดารา…” ไฮ่จื่อถอนหายใจ


“บัดซบ นี่มันอะไรกัน? เป็นไปไม่ได้ หากเจ้าคือราชครูตัวจริง เจ้าออกไปจากเมืองหลวงได้อย่างไร?! จิ่วตี้ บอกข้ามา!” จักรพรรดิเทพสูดหายใจลึก เขาคือมหาชั้นฟ้าและแม้ว่ากำลังจะบ้าคลั่ง แต่ก็ยังฝืนตัวเองให้สงบอารมณ์ได้!


“แผนการนี้ถูกสร้างขึ้นจากอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์ เขาทำสิ่งที่เหมือนแยกตัวออกมาจากเผ่าพันธุ์ตัวเองโดยไม่มีความลังเล เขาพยายามหลายวิธีทางจนกระทั่งออกจากที่นี่ได้สำเร็จและสร้างสำนักมหาวิญญาณขึ้นมา…”


“แม้เขาจะตายไปแล้วก็ได้ส่งต่อแผนการมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขายังค้นพบกุญแจสำคัญของแผนการนี้ด้วย คือคนที่มีชื่อว่าหวังหลิน! เซียนจากโลกถ้ำ…มีเพียงร่างกายเขาที่เหมาะสมต่อการครอบงำของเผ่าพันธุ์ข้า เพื่อให้แผนการนี้ออกมาสมบูรณ์แบบ…”


“ส่วนคำถามที่ว่าทำไมข้าถึงสามารถออกไปนอกเมืองหลวงได้…นั่นเพราะวิญญาณข้าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าต้าวหวัง แต่ร่างกายข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินเซียนดารา…” ไฮ่จื่อพูดขึ้นเบาๆ


จิ่วตี้ขบคิดและจากนั้นค่อยๆพูดขึ้น “จักรพรรดิเทพ นางคือลูกสาวข้า!”


“เหตุผลที่ข้าสามารถมีอายุขัยได้นานขนาดนี้และยังได้กลายเป็นมหาชั้นฟ้าก็เพราะความช่วยเหลือจากเผ่าพันธุ์ต้าวหวัง!”


“เผ่าพันธุ์ต้าวหวังเตรียมการเรื่องนี้มานาน กระทั่งทำนายการปรากฏตัวของหวังหลินเอาไว้ จากนั้นแผนการก็เริ่มขึ้น!” จิ่วตี้สงบนิ่งมองจักรพรรดิเทพที่กำลังตกตะลึงกับความจริงตรงหน้า


หวังหลินได้ยินเสียงจากในศีรษะบรรพชนเทพเช่นกัน ขณะที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจจิ่วตี้และไฮ่จื่อ วิญญาณหวังหลินจึงผุดออกมาจากลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า เข้าควบคุมร่างกาย!


‘ความจริงเป็นแบบนี้เอง!!’ แววตาหวังหลินเปล่งประกายเจิดจ้า!


……………………………………………………..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)