Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1986-1989
ตอนที่ 1986 เชื่อข้าสักครั้ง!
โดย
Ink Stone_Fantasy
‘ใช่ข้าหรือเมิ่งต้าวหรือไม่…หรือข้าควรพูดว่า ผู้ชนะตัวจริงคือจักรพรรดิเทพหรือราชครู’ หวังหลินขบคิดอย่างสงบนิ่ง อารมณ์ความรู้สึกไม่เปลี่ยนไปตามคำพูดของราชครู
เขามองราชครูที่อยู่เหนือแท่นพิธี คำพูดของเขามีทั้งจริงและโกหก แต่หวังหลินมั่นใจว่าการสืบทอดไม่ใช่เรื่องธรรมดา!
หวังหลินมองราชครูและเอ่ยปาก “ข้ามีเรื่องสงัย ท่านต้องการให้ข้าได้ระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพได้อย่างไร? อีกทั้งบรรพชนเทพต่างก็ลือกันว่าหายตัวไป ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีหรือไม่ การสืบทอดจะเป็นไปได้ด้วยหรือ?”
“เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน แต่จักรพรรดิเทพเตรียมการไว้แล้ว เขาพบว่าเมิ่งต้าวซึ่งไม่มีสายโลหิตบรรพชนเทพยังสามารถกลายเป็นผู้สูงส่งชั้นฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากเจ้าได้ หากเขาได้รับสายโลหิตบรรพชนเทพมา ระดับบ่มเพาะจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า!”
“ความเกลียดชังที่เขามีต่อเจ้าจะครอบงำจิตใจเพื่อให้เขาเหนือกว่า การครอบงำนี้สามารถเพิ่มพลังชีวิตได้อย่างมหาศาลและเพิ่มโอกาสรอดจากความเจ็บปวดได้ถึงสี่ในสิบส่วน ดังนั้นเมื่อเขาสามารถขับเส้นโลหิตของตัวเองออกไปทั้งหมดได้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นเส้นโลหิตของบรรพชนเทพ!”
“ถึงตอนนั้นเขาจะกลายเป็นบรรพชนเทพรุ่นที่สองและจักรพรรดิเทพก็ใช้เวลาหลายปีวางแผนให้เมิ่งต้าว ข้าเองก็ยังไม่รู้ว่าจักรพรรดิเทพได้ทำอะไรถึงมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมเมิ่งต้าวได้เมื่อเขาเปลี่ยนผ่านโดยใช้วิชาคืนสู่ต้นกำเนิดบรรพชนได้สำเร็จ!”
“ข้าพยายามใช้การทำนาย แต่มันล้วนพร่ามัว ข้าพยายามหาเบาะแสจนพบว่าอาจกลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับการครอบงำและหุ่นเชิด! กุญแจสำคัญก็คือบ่อน้ำโลหิตแห่งนี้!” ราชครูชี้ไปที่บ่อน้ำเบื้องหน้าแท่นพิธี
“จักรพรรดิเทพหลายรุ่นรวบรวมโลหิตได้มากพอจนเพิ่มโอกาสใช้วิชาคืนสู่ต้นกำเนิดบรรพชนให้สำเร็จมากขึ้น หากเจ้ายอมตกลง ข้าจะใช้โอกาสนี้เปลี่ยนการสืบทอดให้กลายเป็นเจ้าแทน!”
“เมื่อเจ้าได้พลังนี้มา เจ้าจะกลายเป็นอันดับหนึ่งในเผ่าเทพ สูงล้ำเหนือว่ามหาชั้นฟ้า ถึงตอนนั้นเจ้าก็สามารถช่วยเหลียนต้าวเฟยได้เพียงแค่เอ่ยคำเดียว!” ราชครูเริ่มพูดเร็วขึ้น
หวังหลินถามต่อ “เจ้าต้องการอะไร?”
“ข้ามีเพียงเงื่อนไขเดียว เมื่อเจ้าได้สืบทอดมรดกของบรรพชนเทพและกลายเป็นบรรพชนเทพรุ่นสอง เจ้าสามารถเข้ามาแทนที่บรรพชนเทพและปลดผนึกของเผ่าข้าได้ ปล่อยให้เผ่าพันธุ์ของข้าได้เป็นอิสระ!” ราชครูจ้องมองหวังหลินด้วยสายตาเป็นประกาย
“จากนั้นเผ่าของข้าจะออกไปจากแผ่นดินเซียนดาราและกลับสู่บ้านเกิดของเรา ส่วนเจ้าจะกลายเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดในเผ่าเทพ เจ้าจะสุขสมไปกับพลังอันไร้ที่สิ้นสุดพร้อมกับประกาศความรุ่งโรจน์ของบรรพชนเทพได้อีกครั้ง!”
“หากเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าสาบานไว้เลยว่า หากข้าผิดคำสัญญา ขอให้ข้าโดนทำลาย!” เพียงราชครูพูดประโยคสุดท้าย ประกายแสงควบแน่นในอากาศกลายเป็นผนึกอันซับซ้อน ลอยอยู่ตรงนั้นและหายไป
ราชครูรีบพูด “นี่คือคำสัญญา กฎแห่งแผ่นดินเซียนดาราเป็นพยาน ด้วยระดับบ่มเพาะของเจ้าคงสัมผัสได้อยู่แล้วว่าคำสาบานนี้จริงหรือโกหก!”
หวังหลินขบคิดเงียบๆ
เวลาผ่านไปแต่ละลมหายใจ เป็นครั้งแรกที่ราชครูเริ่มกระวนกระวาย
“หวังหลิน ข้าไม่มีความคิดร้าย ทุกอย่างที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริง ระหว่างเราไม่ได้มีข้อบาดหมางอะไรกัน ดังนั้นข้าจะไม่ทำอันตรายเจ้า ข้าแค่ต้องการต่อสู้เพื่อให้เผ่าพันธุ์เป็นอิสระในอนาคตเท่านั้น”
“เจ้าช่วยข้าได้หรือไม่!!”
“ไม่มีใครต้องการเป็นทาสไปตลอดชีวิต แม้แต่คนรุ่นหลังก็ยังเป็นทาสรับใช้คนอื่น เจ้าจินตนาการออกหรือไม่?! เด็กๆ ต่างก็มีโชคชะตาที่ถูกตัดสินมาตั้งแต่เกิด! เรื่องแบบนี้ดำเนินมานานแล้ว เราต้องต่อสู้ เราต้องการดิ้นรน เราต้องการเป็นอิสระ!”
“แต่เผ่าพันธุ์ของข้าไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อต้าน!! หวังหลิน เจ้าคือความหวังเดียว ช่วยเผ่าพันธุ์ข้าสักครั้ง ช่วยข้าสักครั้ง!!” ราชครูดูจริงใจและเต็มไปด้วยสัมผัสแห่งความเศร้า เขาคำนับฝ่ามือและโค้งตัวแก่หวังหลิน
ทว่าสีหน้าหวังหลินยังคงเย็นชาและไม่เปลี่ยนไปเลย ทั้งยังเผยความโหดเหี้ยม หวังหลินผมดำเป็นตัวแทนของการสังหารและการทำลายล้าง แม้เรื่องนี้จะเศร้ามากขึ้นอีกหลายเท่าเขาก็ไม่สนใจ คงไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะไม่เชื่อคำพูดพวกนั้นง่ายๆ
หวังหลินมองผู้สูงส่งชั้นเทวะเมิ่งต้าวที่กำลังดิ้นรนอยู่ในบ่อน้ำและรู้สึกถึงความบ้าคลั่งกำลังแผ่ออกมาจากร่างกาย
“เขาไม่มีสติ?”
“ความคิดเขาถูกจักรพรรดิเทพลบล้างไปแล้ว ที่เหลืออยู่นั่นคือความเกลียดชังและจิตสังหารที่มีต่อเจ้า!” ราชครูพยักหน้า
จากมุมมองของหวังหลิน ความเกลียดชังนี้ไม่ได้หยั่งลึกมาก พอพิจารณาถึงเต๋าที่เมิ่งต้าวบ่มเพาะ จึงเข้าใจขึ้นเล็กน้อย
เวลาดำเนินไปอย่างช้าๆ ราชครูรอไปสักพักอย่างขมขื่น เขามองท่าทีหวังหลินและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ กัดฟันแน่นและพูดอีกครั้ง
“หากสหายเซียนหวังตกลง ข้าจะมอบเพลิงนรกานต์ทั้งหมดจากทั่วทุกโลกถ้ำบนแผ่นดินเซียนดารา หากสหายเซียนหวังดูดซับได้หมด จะได้รับประโยชน์มหาศาล!”
“ระดับบ่มเพาะ วิชา กระทั่งอายุขัยก็จะได้รับการเปลี่ยนแปลง ผ่านไปสักพักจะมีโอกาสบรรลุขั้นดินแดนสูญสิ้นและทำลายล้าง! ซึ่งเป็นระดับมากพอที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุด!” หลังจากราชครูกล่าวจบ เขายื่นแขนขวาไปที่หน้าผาก ผลึกสีดำขนาดเท่ากำปั้นค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา มันไร้แสงแต่มีกลิ่นอายเพลิงนรกานต์อันทรงพลังแผ่กระจาย
“ของชิ้นนี้คือแก่นของเพลิงนรกานต์ทั้งหมดของทุกโลกถ้ำบนแผ่นดินเซียนดารา ด้วยของชิ้นนี้ ทั้งแผ่นดินจะส่งเพลิงนรกานต์มาให้เจ้าเรื่อยๆ!”
“จักรพรรดิเทพถือกำเนิดขึ้นจากมิติว่างและไม่เหมือนตระกูลข้า เขาไม่สามารถดูดซับมันด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงจำเป็นให้เผ่าข้าถ่ายโอนมาก่อน มีหลายคนในโลกถ้ำที่ดูดซับเพลิงนรกานต์ แต่เพราะมันไม่บริสุทธิ์จึงกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ให้เผ่าของข้าดูดซับ!”
“แต่เจ้านั้นแตกต่าง เจ้าถือกำเนิดในเพลิงนรกานต์ของโลกถ้ำ สำหรับเจ้าแล้วไม่จำเป็นต้องให้เผ่าข้าถ่ายโอนมา วิญญาณและร่างกายของเจ้าสามารถดูดซับได้โดยตรง!!” ราชครูเผยสายตาตั้งมั่นและสะบัดแขน ผลึกสีดำลอยเข้าหาหวังหลิน!
ผลึกสีดำคล้ายกับเจอการต่อต้านเบื้องหน้าหวังหลินและลอยอยู่ตรงนั้น หลังจากนำผลึกออกมา ราชครูดูแก่ขึ้นทันตาเห็น
“มันคือผลึกชีวิตของเผ่าพันธุ์ข้า หลังจากสูญเสียไป ข้าจะไม่สามารถมีชีวิตได้ยืนยาวนัก ข้ามอบมันให้เจ้าเพื่อหวังว่าเจ้าจะเชื่อใจข้า ช่วยให้เผ่าพันธุ์ข้าได้รับอิสระและออกไปจากที่นี่…กลับคืนสู่บ้าน…” ราชครูส่งเสียงแก่มากขึ้น
หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นสะบัดแขนเก็บผลึกไปทันที เขามองดูราชครูและพยักหน้า
“ข้าไม่เข้าใจสัจจะเซียนดาราหรอก ข้ารู้จักแต่สัจจะโลหิต!” หวังหลินยกแขนขึ้นมากัดนิ้ว หยดโลหิตลอยออกมาหนึ่งหยด มันมีกลิ่นอายของหวังหลินและทรงพลังยิ่ง หากมันระเบิดออกเป็นหมอกโลหิตจะคงทำให้คนอื่นบอกไม่ได้ว่าเป็นกลิ่นอายของหวังหลินจริงหรือไม่!
“หากสิ่งที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้าสักครั้ง!” คำพูดหวังหลินเข้าไปในหยดโลหิตและมันเรืองแสงกะพริบ หวังหลินดีดหยดโลหิตและหยุดอยู่เบื้องหน้าราชครู
ราชครูมองดูหยดโลหิตเบื้องหน้าด้วยความตื่นเต้น เขาชี้ไปที่บ่อน้ำที่มีเมิ่งต้าวอยู่และเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณมากสหายเซียน! เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า ข้าอยากขอให้เข้าไปในบ่อเพื่อที่ข้าจะได้ร่ายวิชาขณะที่จักรพรรดิเทพโดนยื้อเอาไว้และเมิ่งต้าวยังไม่ตื่น ข้าจะได้ส่งต่อการสืบทอดไปให้เจ้า!”
“มันจะเกิดการเจ็บปวดและเปลี่ยนแปลงโลหิตเจ้าให้เป็นโลหิตของบรรพชนเทพ ข้าขอให้สหายเซียนไม่ต่อต้าน เมื่อใดที่เจ้าต่อต้าน สิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่า…”
“สหายเซียนหวัง…” ราชครูมีท่าทีเคร่งเครียด เขามองหวังหลินด้วยความขอบคุณอย่างลึกซึ้ง คำนับฝ่ามือและโค้งให้แก่หวังหลินเป็นครั้งที่สอง!
“เผ่าพันธุ์ข้าจะจดจำความเมตตาของสหายเซียนเอาไว้! ข้าขอขอบคุณสหายเซียนแทนพี่น้องในเผ่าทุกคน!”
หวังหลินก้าวเดินเข้าหาบ่อน้ำช้าๆ ด้วยท่าทีเย็นชา พอเข้าไปใกล้จึงหันไปมองราชครูที่ยังเต็มไปด้วยความขอบคุณ หวังหลินมองเห็นกลิ่นอายรอบตัวเขาได้ เหมือนดั่งที่พูดเอาไว้ หลังจากสูญเสียผลึก เขาก็มีเวลาเหลือไม่มาก
หวังหลินกล่าว “ข้าต้องช่วยเหลียนต้าวเฟยก่อน!”
ราชครูเผยรอยยิ้มขื่นพลางมองดูเหลียนต้าวเฟยที่ถูกโซ่ทั้งเก้าเส้นล่ามเอาไว้ เขาส่ายศีรษะและถอนหายใจ
“สหายเซียนหวัง ข้าไม่ได้ต้องการหลอกเจ้า โซ่ตรวนบนร่างเหลียนต้าวเฟยถูกจักรพรรดิเทพมัดเอาไว้ ดังนั้นข้าไม่สามารถถอนออกไปได้ แม้เขากำลังต่อสู้กับมหาชั้นฟ้าชวงจื่ออยู่ เมื่อมันโดนสัมผัส จักรพรรดิเทพก็จะรับรู้ได้ทันที…ข้าไม่สามารถงัดมันออกได้จริงๆ”
“แต่เมื่อเจ้าได้รับพลังของบรรพชนเทพ ทุกสิ่งทุกอย่างจะได้รับการแก้ไข! เชื่อข้าสักครั้ง สหายเซียนเชื่อข้าสักครั้ง ข้าสัญญากับเจ้าด้วยชีวิตและอนาคตของทั้งเผ่าพันธุ์!”
“เชื่อข้า!” ราชครูจริงใจมาก เขาจ่ายด้วยชีวิตเพียงเพื่อให้หวังหลินเชื่อเขาสักครั้ง
หวังหลินมองดูราชครูและขบคิดก่อนจะพยักหน้า เขายกเท้าและก้าวเข้าไปในบ่อน้ำคล้ายโลหิต ทว่าขณะที่เท้าสัมผัสกับบ่อน้ำ เท้าขวาก็สั่นเทาเล็กน้อย
ท่าทีนี้เบามาก คลื่นจากการสัมผัสบ่อน้ำทำให้คนนอกไม่สามารถตรวจจับได้ กลิ่นอายสังหารเส้นหนึ่งแผ่กระจายออกมาจากเท้าขวา
วินาทีที่กลิ่นอายนี้ปรากฏขึ้น มันพุ่งตรงเข้าสู่เมิ่งต้าวที่หลับตาอยู่และเจาะทะลุเข้าไปในร่างกายทันที
ราชครูตื่นเต้นมากตอนที่เห็นหวังหลินก้าวเข้าไปในบ่อน้ำ เขายกแขนขึ้นมาสร้างผนึกและใช้พลังเฮือกสุดท้ายในชีวิตเพื่อใช้วิชาลับ แต่ในวินาทีนั้นทั่วทั้งวังหลวงก็พลันเย็นเยียบ!
เมิ่งต้าวลืมตาตื่น ความรู้สึกงุนงงได้เปลี่ยนกลายเป็นความบ้าคลั่ง ความเย็นแผ่กระจายออกมาจากร่างกาย บ่อน้ำเปลี่ยนกลายเป็นน้ำแข็งทันที!
………………………………………………………
ตอนที่ 1987 กะโหลกเทพเปลี่ยนเป็นภูเขา!
โดย
Ink Stone_Fantasy
กรรร!!
เมิ่งต้าวร้องคำราม ร่างกายยืนขึ้นในน้ำแข็งที่กำลังส่งเสียงแตกร้าว เส้นผมยืดยาวอย่างรวดเร็วจนยาวกว่าร่างกาย
เส้นผมเคลื่อนไหวพลางจ้องมองหวังหลินด้วยจิตสังหารมหึมา!
การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้ราชครูตกตะลึง แต่ก่อนจะทันได้พูดอะไร หวังหลินยกเท้าขวาในจังหวะที่เมิ่งต้าวตื่นและบ่อน้ำโดนแช่แข็ง สายตามองราชครูด้วยจิตสังหารและเย็นเยียบ
“เจ้ากำลังหลอกข้าจริงๆ!”
“นี่…” ขณะที่ราชครูกำลังอธิบาย เมิ่งต้าวร้องคำรามดังกึกก้องจนทั่วทั้งวังหลวงสั่นสะเทือน เขาพุ่งเข้าหาหวังหลินดุจอสูรร้าย!
“หากเจ้าไม่อธิบายเหตุผลที่พอฟังขึ้น เช่นนั้นข้อตกลงของเราก่อนหน้านี้ถือว่าจบกัน!” หวังหลินมีสีหน้ามืดมนและโกรธเกรี้ยว สะบัดแขนขวาใส่เมิ่งต้าวที่กำลังพุ่งเข้ามา
พลังทำลายล้างและการสังหารปรากฏขึ้นมากลายเป็นก้อนเมฆสีดำทะยานเข้าหาเมิ่งต้าว เพียงเข้าใกล้เมิ่งต้าวก็ร้องคำราม สายตาบ้าคลั่งดุเดือด ยกแขนซ้ายขึ้นมาปรากฏควันสีเขียวเก้าสายอยู่รอบนิ้วทั้งห้า จากนั้นมันก็ขยายตัวและทะยานเข้าสู่ก้อนเมฆสีดำ
ควันสีเขียวระเบิดเป็นพลังแก่นแท้เพลิงอันบริสุทธิ์ยิ่งและส่งเสียงดังกึกก้อง แต่ละวงเริ่มเผาไหม้สั่นสะเทือนก้อนเมฆ
ราชครูจ้องมองและเริ่มขบคิด เขาเดาได้ทันทีว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหวังหลินแต่ก็ไม่มั่นใจ บางทีการที่หวังหลินเข้ามาอาจไปกระตุ้นให้เมิ่งต้าวตื่นขึ้นก่อนกำหนด!
เขายกแขนขวาขึ้น แสงก่อเกิดเป็นคนตัวเล็ก ขณะที่มันกำลังโค้งตัวเพื่อทำนาย วงแหวนควันและก้อนเมฆได้ปะทะกันกระแทกเมิ่งต้าวกระเด็นไปหาราชครู
หวังหลินถอยด้วยเช่นกันและมองขึ้นไป เขาจ้องมองเมิ่งต้าวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร พลางก้าวไปข้างหน้า ชุดคลุมสีดำรอบตัวระเบิดกลายเป็นก้อนเมฆทมิฬ หวังหลินพุ่งเข้าเหลียนต้าวเฟยที่ถูกโซ่ตรวนกักขังไว้ทันที
“เจ้าสังหารเขาหรือสะกดเอาไว้ก็ได้ แล้วข้อตกลงของเราจะได้ดำเนินต่อไป!” หวังหลินเอ่ยเสียงดัง โลหิตที่อยู่ในสัจจะโลหิตของหวังหลินเกิดการระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิตบริเวณแท่นพิธีและราชครู
เพียงโลหิตระเบิดขึ้นได้ทำให้ราชครูถูกกลิ่นอายของหวังหลินโอบล้อม กลิ่นอายนี้ทรงพลังมากและหากตรวจจับแค่กลิ่นอายอย่างเดียวคงบอกได้ยากระหว่างของจริงและของปลอม!
หวังหลินในตอนนี้อยู่ในร่างผมดำและซ่อนอยู่ในสายหมอก ดังนั้นจึงซ่อนกลิ่นอายอย่างสิ้นเชิง เมิ่งต้าวที่เสียสติพลันสัมผัสกลิ่นอายจากหมอกโลหิตรอบราชครูได้ มันคือกลิ่นอายที่เขาเกลียดชังเข้ากระดูก!
เขาเปลี่ยนเป้าหมายโดยไม่ลังเล พุ่งทะยานเข้าหาราชครูด้วยสายตาแดงฉาน!
เมิ่งต้าวเข้ามาขัดการทำนาย ราชครูมองสายหมอกโลหิตรอบตัวและไม่ต้องทำนายก็คาดเดาคำตอบได้แล้ว แววตาเปลี่ยนเป็นชั่วร้ายพลางให้คนตัวเล็กในมือทะยานออกไป มันเปลี่ยนกลายเป็นขนาดเท่าคนปกติและชี้ใส่เมิ่งต้าว
ท้ายที่สุดหวังหลินก็ยังไม่เชื่อคำพูดของราชครู เหตุผลที่เขาพูดกับราชครูไปด้วยก็เพื่อหาทางช่วยเหลียนต้าวเฟย พลังอำนาจของราชครูนั้นแปลกประหลาด หากเขาพยายามหยุดหวังหลินจริงๆ หวังหลินคงแบ่งพลังมาช่วยเหลียนต้าวเฟยได้ยากมาก
ดังนั้นอันดับแรกเขาได้ข้อมูลว่าเมิ่งต้าวเสียสติ จากนั้นฉากหน้าก็ใช้สัจจะโลหิตควบแน่นกลิ่นอายของตัวเองไปหาราชครู เขาไม่กังวลว่าราชครูจะสงสัยเพราะการใช้สัจจะโลหิตมันมีกลิ่นอายของเจ้าของโลหิตเป็นปกติอยู่แล้ว
ยิ่งเวลาผ่านไปราชครูเผยความร้อนใจขึ้นหลายเท่า หวังหลินใช้ข้ออ้างเรื่องสัจจะโลหิตเพื่อวางไว้ใกล้ราชครู จากนั้นก็ตกลงโดยไม่มีเวลาให้ราชครูต้องคิดไตร่ตรอง!
เมื่อหวังหลินยอมตกลง ราชครูไม่สงสัยเรื่องโลหิตและไม่เสียเวลาทำนาย เขาเพ่งสมาธิไปที่การเคลื่อนย้ายพลังมาหาหวังหลิน
หวังหลินวางแผนการนี้อย่างสงบนิ่ง เมื่อเมิ่งต้าวถูกเขาปลุกให้ตื่นมา ทั้งหมดก็เข้าที่!
จะด้วยเรื่องการสืบทอดบรรพชนเทพ เรื่องการช่วยเผ่าพันธุ์ของราชครูน่ะหรือ? หวังหลินไม่มีความสนใจเลยแม้แต่น้อย เขาตอนนี้เขาคือหวังหลินผมดำผู้เป็นตัวแทนการสังหารและการทำลายล้าง เขาจะสนใจเรื่องพวกนี้ไปทำไม?
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในหัวตอนที่เขาเปลี่ยนกลายเป็นรูปแบบผมดำก็คือ ช่วยเหลียนต้าวเฟย!
หวังหลินเปลี่ยนกลายเป็นหมอกดำขณะที่ราชครูและเมิ่งต้าวกำลังต่อสู้กัน เขาพุ่งทะยานเข้าหาโซ่ตรวนด้านบน ไม่นานนักหมอกสีดำก็ล้อมรอบโซ่เอาไว้ เขากำลังจะไปช่วยเหลียนต้าวเฟยทว่ามีแสงสีทองโผล่ออกมาจากร่างเหลียนต้าวเฟย แสงสีทองนี้เหมือนกันกับแสงจากรูปปั้นบรรพชนเทพในวังหลวง
ภายใต้แสงสีทองนี้มีพลังอำนาจที่ทำให้จิตใจของเขาสั่นเทา เป็นพลังที่แม้แต่พลังสังหารก็ไม่สามารถต่อต้านได้ มันแผ่กระจายเข้าสัมผัสกับหมอกสีดำจนหมอกเริ่มสลายกลายเป็นเส้นใยและถูกบังคับให้ออกจากร่างหวังหลิน
หวังหลินผมดำห่อหุ้มด้วยควันสีดำสูญสลายเสียงดังฉ่าๆ ความเจ็บปวดทิ่มแทงขึ้นมาจากวิญญาณและห่อหุ้มร่างกายทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปใกล้เหลียนต้าวเฟยได้!
จังหวะที่ถอยไปภายใต้แสงสีทองนี้ เส้นผมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งออกมาได้หลายร้อยฟุต เส้นผมสีดำหายไปและกลายเป็นสีขาว!
พลังนี้บังคับให้หวังหลินเปลี่ยนกลับจากพลังสังหารมาเป็นผมขาว! ถึงเส้นผมนี้จะไม่ได้เป็นสีดำแต่หวังหลินก็ยังถูกแสงสีทองต่อต้านจนต้องกระอักโลหิตและหรี่สายตา เขาจ้องมองโซ่ตรวนรอบเหลียนต้าวเฟยด้วยแววตาตกตะลึง!
‘นี่…นี่มันพลังของสายโลหิตบรรพชนเทพไม่ใช่หรือ? จักรพรรดิเทพเลือกเมิ่งต้าวหรือน้องชายต้าวเฟยกันแน่!?’ หวังหลินล่าถอย ราชครูชี้ไปที่เมิ่งต้าวทำให้ร่างอีกฝ่ายกระเด็นออกไป
แต่เมิ่งต่าวที่กำลังถอยพลันร้องคำราม ผิวหนังแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็ว รอยแผลจำนวนมากผุดขึ้นมาและมีแสงสีทองส่องประกายออกมาจากแผลเหล่านั้น
แสงสีทองที่ห่อหุ้มในร่างกายนี้ไม่ด้อยไปกว่าที่เปลี่ยนหวังหลินเป็นผมขาวเลย!
การปรากฏขึ้นของพลังสายนี้ทำให้หวังหลินเกิดความสงสัยและไม่มั่นใจว่าจักรพรรดิเทพเลือกใครระหว่างเมิ่งต้าวหรือเหลียนต้าวเฟย!
“หวังหลิน เจ้าไปขยับโซ่ตรวน ดังนั้นจักรพรรดิเทพจึงรู้ข่าวแล้ว เขาสามารถเข้ามาได้ทุกเมื่อ รีบมาช่วยข้าสะกดเมิ่งต้าวเสีย เพื่อให้ข้าได้ถ่ายโอนพลังมาให้เจ้า!” ราชครูหน้าซีด เขาเสียผลึกไปจึงมีเวลาไม่มากนัก คำพูดจึงมีความกระวนกระวายและไม่สนเรื่องแผนของหวังหลินก่อนหน้านี้
ร่างเมิ่งต้าวปกคลุมอยู่ในแสงสีทองแต่การเน่าสลายไม่หยุดชะงัก ทั้งยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เศษผิวหนังหลุดลอกและดูเหมือนเขาตกอยู่ในความเจ็บปวดไร้ที่สิ้นสุด ดวงตาพร่าเลือน ส่งเสียงคำรามบ้าคลั่งและพุ่งเข้าหาหวังหลิน
เขาไม่ได้ใช้วิชาอะไร แสงสีทองจากร่างกายเป็นวิชาและสมบัติที่ดีที่สุด หวังหลินรู้สึกเหมือนดวงอาทิตย์กำลังพุ่งเข้ามาเพื่อทำลายล้างเขาให้สิ้นซาก!
หวังหลินมีสีหน้าเปลี่ยนไปและถอยร่นพลางเปิดใช้งานเกราะวิญญาณ ตอนนี้เขากำลังใช้พลังเต็มที่ แขนซ้ายปรากฏแยกตะวัน แขนขวาใช้วิชาบัญชาโบราณไร้เหล่าเทพ!
ทั้งสองคือวิชาที่ทรงพลังที่สุด เขากระหน่ำโจมตีใส่เมิ่งต้าวไปด้วย!
ขณะเดียวกันราชครูก็กระโจนขึ้นไปในอากาศ ทิ้งออกห่างแท่นพิธีเป็นครั้งแรก เขาสะบัดแขนปรากฏร่างสีขาวขึ้นมาเก้าร่าง มันเปลี่ยนกลายเป็นนิ้วทั้งเก้าพุ่งทะยานหาเมิ่งต้าว!
ก่อนที่หวังหลินจะทันได้เห็นผลลัพธ์ เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังออกมาจากนอกวัง ทั่วทั้งบริเวณสั่นสะเทือนรุนแรง ยอดพระราชวังพังทลาย ฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่คล้ายกับทะลุผ่านอากาศตกลงเข้าหา
“ชางซวนต้าว เจ้ากล้าทรยศข้า?!”
ฝ่ามือสีทองมีพลังทำลายล้างของมหาชั้นฟ้า หลังจากปรากฏขึ้นมาจึงดูดซับแสงสีทองจากเมิ่งต้าวและเหลียนต้าวเฟย เมื่อพลังทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน ทั้งพระราชวังก็สั่นสะท้าน!
ราชครูหน้าซีดทันที จากนั้นกรีดร้องออกมา
“หวังหลิน เข้าไปในบ่อน้ำ!!” เขามีเวลาเพียงแค่พูดประโยคนี้ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปในบ่อน้ำด้านล่าง
หวังหลินลังเล แต่ก็กัดฟันแน่นพุ่งเข้าไปในบ่อน้ำ จากนั้นราชครูใช้วิชาบางอย่างทำให้บ่อน้ำเดือด เปลี่ยนเป็นวังวนแล้วจะสลายไป ใต้วังหลวงแห่งนี้มีมิติอีกแห่งซ่อนอยู่!
ท้องฟ้าเป็นสีโลหิตคล้ายกับบ่อโลหิต เวลานี้มีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้า จากนั้นหวังหลินและราชครูก็ร่วงหล่นลงมา ฝ่ามือสีทองและร่างของเมิ่งต้าวตามมาติดๆ
บนพื้นดินมีภูเขาลึกลับเก้าแห่ง!
หนึ่งในนั้นเป็นภูเขาที่ถูกแกะสลักเป็นรูปร่างหัวกะโหลก สายตาของมันมองบนท้องฟ้าและดูเหมือนบรรพชนเทพ!
กะโหลกที่เปลี่ยนกลายเป็นภูเขา!
…………………………………………………….
ตอนที่ 1988 ภูเขาเทพ!
โดย
Ink Stone_Fantasy
หวังหลินที่ตกลงมาจากรอยแตกร้าวบนท้องฟ้ามีท่าทีเคร่งเครียด เขาลอยสู่ยอดเขาหนึ่งในเก้าแห่งและมองขึ้นไป
ราชครูทำเหมือนกับหวังหลิน พริบตาเดียวเขาปรากฏตัวขึ้นบนยอดเขาอีกแห่ง
ฝ่ามือขนาดยักษ์สีทองมาถึงและเข้าบดบังทุกอย่างในท้องฟ้าให้กลายเป็นสีทองราวกับทะเลเพลิง
ทว่าในจังหวะที่ฝ่ามือมาถึง พื้นดินแห่งนี้ก็สั่นสะเทือน ดวงตาของภูเขาที่เหมือนศีรษะบรรพชนเทพได้ส่องสว่าง ฝ่ามือในท้องฟ้าคล้ายกับถูกสายตานี้ดึงดูด มันละลายกลายเป็นสองส่วนและถูกดวงตาสองข้างบนภูเขาดูดซับหายไปในพริบตา!
เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังออกมาจากท้องฟ้า คล้ายกับมาจากจักรพรรดิเทพและส่งผ่านมาหลายชั้น แต่มันค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจักรพรรดิเทพกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่
แต่หลังจากนั้นไม่นานเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวก็หยุดลงและกลายเป็นเสียงเล็กๆ ของสองสาวน้อย บ่งบอกว่าจักรพรรดิเทพถูกมหาชั้นฟ้าชวงจื่อหยุดเอาไว้
ราชครูหน้าซีดและเหนื่อยหอบ เขาดูเหมือนมาถึงจุดสุดท้ายของชีวิตและร้องคำราม “หวังหลิน จักรพรรดิเทพถูกหยุดไปแล้ว แต่เขากำลังรีบมาที่นี่ เราไม่มีเวลามากนัก!! เราต้องร่วมมือกันขัดขวางเมิ่งต้าว!!!”
“หลังจากเรากักขังเขาได้แล้ว ข้าจะใช้วิชาเพื่อถ่ายโอนการสืบทอดให้เจ้า!”
แม้จะไม่มีฝ่ามือสีทองในท้องฟ้า ร่างของเมิ่งต้าวปรากฏขึ้นมา ร่างกายกำลังเน่าสลาย ผิวหนังกำลังหลุดร่วงจนเผยให้เห็นกระดูกสีดำ แต่ร่างก็ยังเปล่งแสงสีทองกัดกร่อนเลือดเนื้อทำให้เขาคำรามด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง
เป็นเพราะราชครูเปิดบ่อน้ำจึงมีรอยแตกร้าวในท้องฟ้าซึ่งทำให้หยดโลหิตจำนวนมากไหลลงมาดุจสายฝน
โลหิตสีแดงร่วงลงบนภูเขาทั้งเก้าและลงไปบนพื้น มันสะสมปริมาณอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เมิ่งต้าวคำรามและมองขึ้นไป สายตามืดมนแต่เต็มไปด้วยจิตสังหารและบ้าคลั่ง เขาจ้องมองหวังหลินและพุ่งเข้าหา เปลี่ยนกลายเป็นร่างเงาเพื่อเข้าไปใกล้ภูเขาที่หวังหลินอยู่ แรงกดดันอันน่าตกตะลึงรั่วไหลออกมา!
หวังหลินหรี่ตาลง วินาทีที่เมิ่งต้าวเข้าประชิด เขาก็ก้าวถอยหลัง จากนั้นปรากฏภาพติดตาขึ้นมา 99 ร่าง
เมิ่งต้าวไม่ได้ใช้วิชาอันใด เขาเพียงแค่เอาศีรษะกระแทกเข้าใส่ภูเขา
พื้นดินสนั่นหวั่นไหว หากเป็นภูเขาอื่นคงพังทลายไปแล้ว ทว่าภูเขาแห่งนี้สั่นสะเทือนรุนแรง ก้อนหินร่วงหล่นแต่ไม่เผยสัญญาณพังทลายอันใด แม้แต่รอยแตกร้าวก็ไม่มีให้เห็น!
จากหวังหลิน 99 ร่างได้ปะทะกับความบ้าคลั่งของเมิ่งต้าวจนแตกสลายไปมากกว่าเจ็ดสิบร่าง ที่เหลือผสานเข้าด้วยกันเปลี่ยนกลายเป็นร่างดั้งเดิม!
เขาถอยด้วยใบหน้าสงบนิ่ง จ้องมองภูเขาด้วยแววตาประหลาดใจ
“นี่มันภูเขาแบบไหนกัน?…ที่นี่มันคือที่ไหน?” หวังหลินถามราชครู!
“มันเรียกว่าเก้าภูเขาเทพซึ่งเป็นรากฐานของเผ่าเทพ พวกมันปกป้องเผ่าเทพและข่มวิญญาณปิดผนึก 72 ดวง ทำให้จักรพรรดิเทพแต่ละรุ่นสามารถสืบทอดตำแหน่งแปดสุดขั้วได้!”
“ที่นี่คือสถานที่ต้องห้ามข้างใต้วังหลวงและเป็นจุดปิดด่านบ่มเพาะที่แท้จริงของบรรพชนเทพ!” ราชครูเอ่ยตอบคำถามโดยไม่ลังเล
“หวังหลิน โจมตี!” ราชครูดวงตาส่องสว่างและพุ่งเข้าหาเมิ่งต้าว แขนขวายื่นออกมาปรากฏร่างคนตัวเล็กที่สร้างจากแสง มันเปลี่ยนขนาดเท่าคนปกติทันทีและพุ่งไปพร้อมกับเขา
“ความว่างเปล่าทุกสิ่งดำเนินไปเพราะมีตัวตน!” คนร่างแสงเบื้องหน้าราชครูก้าวเดินและหายตัวไป มันปรากฏตัวอีกครั้งเบื้องหน้าเมิ่งต้าวและชี้นิ้วใส่
ระลอกคลื่นผุดขึ้นในอากาศรอบเมิ่งต้าว มันกระจายเหมือนโซ่ตรวนและทำให้เมิ่งต้าวหยุดทันที!
หวังหลินแววตาเป็นประกาย แสงสีทองในร่างเมิ่งต้าวแข็งแกร่งเกินไปและหวังหลินเองก็หวาดหวั่น พอเห็นราชครูลงมือหวังหลินจึงลังเลเพียงชั่วครู่ก่อนจะทะยานเข้าหาเมิ่งต้าว
เพียงยกแขนขวาจึงปรากฏวิชาแยกราตรี พื้นดินกลายเป็นน้ำทะล ท้องฟ้ามืดมิด เมื่อเขากลายเป็นดวงอาทิตย์จึงเกิดแสงสว่างปรากฏ มันมีพลังแแห่งศรัทธาอันแข็งแกร่งของหวังหลิน เขาผสานเข้ากับแสงและทะยานเข้าหาเมิ่งต้าว
ขณะเดียวกันราชครูที่มีใบหน้าซีดเซียวพลางกัดปลายลิ้น ใช้พลังชีวิตเฮือกสุดท้านที่เหลืออยู่บังคับตัวเองให้พ่นโลหิตออกมาควบแน่นเป็นชายร่างโลหิต ชายผู้นี้ร้องคำรามใส่ท้องฟ้าและพุ่งหาเมิ่งต้าวด้วยท่าทีดุดัน!
หวังหลินและราชครูโจมตีเมิ่งต้าวพร้อมกันด้วยวิชาที่ทรงพลัง!
เดิมทีเมิ่งต้าวไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่เพราะแสงสีทองในร่างกายมีพลังไร้เทียมทานและสามารถขจัดวิชาได้ทั้งหมด มันทรงพลังมากเสียจนบังคับให้ทุกคนต้องถอยและไม่กล้าเข้าใกล้
ราวกับเปลวเพลิง หากแมงเม่าบินเข้าหาเปลวเพลิง มันก็จะมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน!
ขณะที่ชายร่างโลหิตและแยกราตรีของหวังหลินเข้าใกล้เมิ่งต้าว เขาจึงส่งเสียงคำรามใส่ท้องฟ้า ราวกับความเจ็บปวดมาถึงจุดสูงสุด ร่างกายซึ่งเหี่ยวแห้งไปเกือบหมดพลันสั่นเทาและแตกสลาย!
การแตกสลายครั้งนี้กระจายไปทั้งโลหิตและร่างเนื้อ! ระเบิดออกไปทั่วทุกทิศทาง!
ด้านชายร่างโลหิตพุ่งเข้าหาการระเบิดของเมิ่งต้าว!
เกิดเป็นเสียงปะทุดังสนั่นและเสียงกรีดร้องโหยหวน เลือดเนื้อของเมิ่งต้าวทะลุผ่านชายร่างโลหิตและเขาหายไปก่อนจะทันได้เข้าใกล้เมิ่งต้าวเสียอีก!
พลังอำนาจของบรรพชนเทพอยู่ในเลือดเนื้อของเมิ่งต้าว เทียบได้กับวิชาทุกแขนง หวังหลินสีหน้าเปลี่ยนแปลงและรีบถอย เลือดเนื้อสูญสลายไปภายใต้วิชาแยกราตรีแต่มีบางส่วนยังทะลุผ่านมาได้ ถึงหวังหลินจะหลีกเลี่ยงแต่ก็มีสามส่วนร่อนลงใส่ร่างกาย
บนหน้าอก ขาขวาและแขนซ้าย
ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นออกมาจากร่างกาย แสงสีทองส่องออกมาจากเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นราวกับมันพยายามเผาทำลายร่าง
“ที่เป็นแบบนี้ขึ้นเพราะเขาตื่นก่อนเวลาและไม่ได้ดูดซับโลหิตของบรรพชนเทพได้มากพอ ต่อด้วยเลือดเนื้อก็จะเป็นกระดูกที่เริ่มแตกสลาย หากเขาสามารถต้านทานได้ เมื่อนั้นวิชาคืนสู่ต้นกำเนิดบรรพชนก็จะสมบูรณ์ ร่างกายจะถูกแสงสีทองสร้างขึ้นมาใหม่!”
“หวังหลิน เราไม่สามารถออมมือได้อีกแล้ว เราต้องใช้พลังเต็มที่ เราต้องกักขังเขาก่อนที่จะทำได้สำเร็จหรือไม่ก็ทำให้เขาตาย เพื่อที่ข้าจะถ่ายโอนพลังให้เจ้า!” ราชครูพูดเบาและกระวนกระวาย เขายกแขนขึ้นมาและมีคนตัวเล็กปรากฏบนฝ่ามือ
เขากัดปลายลิ้นอีกครั้ง ร่างกายเน่าสลายคล้ายกำลังจะตาย เขาพ่นโลหิตออกมาเปลี่ยนเป็นชายร่างโลหิต คนตัวเล็กที่เกิดขึ้นจากแสงทั้งหมดพุ่งเข้าสู่ชายร่างโลหิตทำให้เปล่งกลิ่นอายทรงพลังและลืมตาขึ้นมา สายตานี้มีแต่ความสงบนิ่งไร้ความดุร้าย มันพุ่งเข้าหาเมิ่งต้าว
ราชครูร่างสั่นสะท้าน ลมหายใจเหนื่อยหอบ ใบหน้าซีดเซียว ความตายครอบคลุมไปทั่วร่าง
พอเห็นราชครูเป็นเช่นนี้ หวังหลินกัดฟันและเปิดใช้เกราะวิญญาณกระทิงสวรรค์เต็มที่ ระดับบ่มเพาะและระดับบัญชาโบราณผสานเข้าด้วยกัน ส่งกำปั้นเข้าใส่เมิ่งต้าว!
กำปั้นนี้มีพลังสูงสุดของหวังหลิน จากนั้นปรากฏภาพติดตา 99 ร่างทับซ้อนกับร่างดั้งเดิม ส่งกำปั้นเข้าหาเมิ่งต้าว
เมิ่งต้าวร่างสั่นสะท้าน ร่างกายเหมือนเป็นโครงกระดูก เลือดเนื้อที่เหลืออยู่เล็กน้อยพลันระเบิดอีกครั้ง คราวนี้ร่างของเมิ่งต้าวเป็นกระดูกไปทั้งหมด!
กระดูกสีดำสนิทแต่มีแสงสีทองขนาดเท่ากำปั้นเปล่งแสงออกมาจากภายใน มันคือสิ่งที่เขาได้สืบทอดมาจากบรรพชนเทพ!
พลังการระเบิดเลือดเนื้อไม่สามารถหยุดชายร่างโลหิตและวิชาจากเกราะวิญญาณกระทิงสวรรค์ของหวังหลินได้ เพียงเสียงดังสนั่นกึกก้อง เมิ่งต้าวดูเหมือนไม่สามารถได้ยินอะไรได้อีกแล้ว
ทว่าในจังหวะนั้นเสียงคำรามหนึ่งดังออกมาจากร่างโครงกระดูกของเมิ่งต้าว เสียงส่งไปทั่วบริเวณ
“ข้าไม่ยอมแพ้!!”
เพียงสัมผัสวิญญาณดังสนั่นกึกก้อง เปลวเพลิงสีทองสองสายเริ่มเผาไหม้ในเบ้าตา แต่เสี้ยววินาทีต่อมาเปลวเพลิงแสดงสัญญาณมอดดับ บนกระดูกเกิดรอยแตกร้าวและพังทลายไปในพริบตา!
เมื่อกระดูกทั้งหมดพังทลาย คลื่นกระแทกเหนือจินตนาการแผ่กระจายทันทีโดยมีเขาอยู่ตรงกลาง พลังอันแข็งแกร่งนี้ทำให้หวังหลินสัมผัสได้ถึงวิกฤติแห่งความเป็นความตายที่กำลังเข้ามาเยือน!
ห่างออกไปไม่ไกล สายตาหม่นหมองของราชครูกำลังเปล่งประกายแฝงอาการตื่นเต้น เขาใช้พลังสุดท้ายของชีวิตออกไป ดังนั้นร่างกายจึงแตกสลายตามคำสัญญา ขณะเดียวกันแสงน่ากลัวสายหนึ่งได้พุ่งเข้าหาเมิ่งต้าว!!
……………………………………………………..
ตอนที่ 1989 เหลียนหยุนจื่อ!
โดย
Ink Stone_Fantasy
ด้วยแรงกระแทกจากการระเบิด ทำให้กระดูกของเมิ่งต้าวได้พุ่งเข้าหาราชครู แต่ส่วนใหญ่พุ่งไปหาหวังหลิน มองไกลๆ ราวกับปากยักษ์กำลังเข้ากลืนกินหวังหลิน!
แรงกระแทกมีพลังของบรรพชนเทพที่ทำให้หวังหลินสัมผัสได้ถึงวิกฤติความเป็นความตาย หวังหลินไม่สามารถหลบได้และจะต่อต้านก็ยากยิ่ง ทว่าสายตาเผยความมุ่งมั่น ในยามวิกฤตินี้จึงร้องคำรามออกมา
“กระทิงสวรรค์ ทำลายวิญญาณ!!”
เกราะวิญญาณกระทิงสวรรค์ที่อยู่กับหวังหลินมานานหลายปีเกิดการพังทลายลง เศษเสี้ยวได้เปลี่ยนเป็นวังวนรอบตัวหวังหลินและกลายเป็นกระทิงสวรรค์ตัวยักษ์!
การระเบิดกระดูกของเมิ่งต้าวจึงเข้าปะทะกับกระทิงสวรรค์ เสียงการปะทะดังกึกก้องทั่วทั้งพื้นที่
หวังหลินกระอักโลหิตและล่าถอย กระทิงสวรรค์ตัวยักษ์เผยสัญญาณแตกสลายแต่มันก็ยังอยู่ หวังหลินจ้องมองตรงหน้าด้วยสายตาเป็นประกาย เขาเห็นว่าจุดที่เมิ่งต้าวอยู่ได้หายไปและมีก้อนแสงสีทองอยู่ ก้อนแสงนี้เปล่งแสงแพรวพราวและมีร่างเงาคนหนึ่งกำลังก่อตัวอย่างรวดเร็ว
ร่างเงานี้พร่าเลือนแต่เปล่งแรงกดดันอันน่าตกตะลึง มองจากรูปร่างมันดูเหมือนเมิ่งต้าวกำลังก่อร่างขึ้นมาใหม่!
‘ต่อจากเลือดเนื้อก็จะเป็นกระดูก หากเขาสามารถต้านทานได้จะทำให้วิชาคืนสู่ต้นกำเนิดบรรพชนสำเร็จขึ้นมาและร่างกายจะเกิดใหม่จากแสงสีทอง!’ คำพูดก่อนหน้านี้ของราชครูดังกึกก้องในใจ รูม่านตาหดลงและกำลังจะโจมตีแต่ทว่าเสียงของราชครูดังขึ้นในใจหวังหลิน
“หวังหลิน ข้าจะใช้พลังชีวิตเขาเพื่อส่งการสืบทอดให้เจ้า ข้าจะเสียสละตัวเองเพื่อขอให้เจ้าปลดปล่อยผนึกบนเผ่าพันธุ์ข้า!”
“เมิ่งต้าวต้านทานมาได้ถึงจุดนี้แล้วและอดทนต่อความเจ็บปวดจำนวนมากมาได้ สิ่งนี้จะทำให้เจ้าเพิ่มโอกาสสืบทอดได้สำเร็จมากขึ้น!” แสงน่ากลัวของราชครูพุ่งออกมาจากร่างที่พังทลาย น้ำเสียงสงบนิ่งของเขาเตรียมพร้อมตายไปแล้ว
แสงน่ากลัวเข้าใกล้และปะทะกับคลื่นกระแทกจากกระดูกเมิ่งต้าว แสงน่ากลัวทะลุผ่านคลื่นกระแทกและมาถึงตรงจุดร่างสีทองที่กำลังก่อตัว แสงนั้นหมุนวนรอบร่างถึงเจ็ดครั้งและยังคงดำเนินต่อไป
หวังหลินมีแววตาส่องสว่างและไม่ได้ฟังคำพูดของราชครู เขากำหมัดแน่น เกราะวิญญาณที่พังทลายไปแล้วได้บีบอัดอยู่ในมือ พายุรอบตัวหายไป เงากระทิงสวรรค์ที่กำลังแตกสลายได้รวมกันอยู่ในกำปั้นหวังหลิน จากนั้นก็โยนออกไป!
ด้วยกำปั้นนี้ เกราะวิญญาณกระทิงสวรรค์บนร่างหวังหลินจึงแตกกระจาย ทว่ากำปั้นเคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่ง มันนำพาเอาพลังทำลายล้างเข้าใกล้ร่างเงาของราชครูและร่างเงาสีทอง
“ไม่!!!” สัมผัสวิญญาณส่งเสียงออกมาจากแสงน่ากลัว กำปั้นหวังหลินมีพลังส่วนสุดท้ายของเกราะวิญญาณ มันสร้างพลังที่ทะลุทะลวงม่านแสงแปดชั้นและเข้าปะทะกับเงาสีทอง!
“ในเผ่าเทพ เจ้าไม่ใช่คนที่ข้าสามารถเชื่อใจได้!” ไม่ว่าราชครูจะพูดจริงหรือโกหก หวังหลินก็ไม่สนใจ เขารู้แต่ว่าราชครูร่วมมือกับนักฆ่าตอนที่อยู่บนถนน หากร่างอวตารมือสังหารเขาไม่ครอบงำ หวังหลินคงตายไปแล้ว!
ในใจเขาเองก็คาดการณ์ไว้บางส่วน แม้จะไม่มั่นใจว่าจริงหรือไม่ เมื่อมันพิสูจน์ได้แล้ว ทุกอย่างเบื้องหน้าล้วนเป็นเรื่องโกหก!
พลังส่วนสุดท้ายของเกราะวิญญาณเข้าปะทะกับร่างเงาสีทอง เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องทั่วบริเวณ เงาสีทองพังทลายตรงๆ!
ช่วงกระบวนการควบแน่นนี้เองเป็นช่วงที่อ่อนแอที่สุดและเป็นช่วงสำคัญที่ไม่สามารถต้านทานพลังมากมายเกินไปได้ ตอนนี้พอร่างเงาพังทลาย แต่แสงสีทองไม่ได้รับความเสียหายไป มันจึงลอยตรงเข้าสู่ท้องฟ้า
แสงสีทองที่ราชครูสร้างขึ้นมา หลังจากเขาตายก็ไม่ได้หายไปแต่ก่อเกิดเป็นราชครูขึ้นมาใหม่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและเจ็บปวด เขาชี้ไปที่พื้นดิน
“บรรพชนเทพ!! เผ่าพันธุ์ข้าค้นพบศีรษะเจ้า!!”
เพียงราชครูชี้ไปที่พื้นดิน ภูเขาที่ดูเหมือนศีรษะของบรรพชนเทพจึงเกิดการสั่นเทา ก้อนหินจำนวนมากร่วงหล่นลงมา ทั้งภูเขาระเบิดเบื้องหน้าหวังหลินที่ตกตะลึง
แสงสีทองมหึมาโผล่ออกมาจากภูเขา เมื่อภูเขาพังทลายไปจนหมดหวังหลินจึงเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน เขาถึงกับหยุดหายไป ร่ายกายสั่นสะท้าน เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่เชื่อสิ่งที่เห็น!
สิ่งที่อยู่ในภูเขาคือศีรษะขนาดร้อยฟุต หลับตาและมีเรือนผมสีดำ!! วินาทีที่ศีรษะปรากฏขึ้นมา แรงกดดันอันน่าตกตะลึงจึงแผ่กระจาย
หวังหลินสัมผัสได้ว่าร่างกายเขากำลังถูกกดทับ วิญญาณกำลังสูญสลาย!
ศีรษะนั้นมีโลหิตไหลออกมา แต่รูปร่างของมันชัดเจนมาก ตอนที่หวังหลินได้ดูดซับสายเพลิงปฐพีบนแคว้นกระทิงสวรรค์ เขาก็ได้เห็นคนผู้นี้ปิดผนึกกระทิงสวรรค์!
ในบททดสอบชั้นฟ้า เขาได้เห็นร่างเงาของคนผู้นี้! ในวังหลวงเขาก็เห็นรูปปั้น เขาได้ยินเรื่องราวคนผู้นี้ครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา!! แม้กระทั่งได้ยินชื่อแท้จริงในบ่อน้ำตงหลิน!!
เขาเป็นบรรพชนของทั้งเผ่าเทพ เป็นตำนานผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าเทพ!
ครั้งหนึ่งได้ผนึกและข่มวิญญาณต่างแดน 72 ดวงให้กลายเป็น 72 แคว้นในปัจจุบัน!
ทั้งยังสร้างบททดสอบชั้นฟ้า ทิ้งสนามฝึกฝนให้แก่ชนรุ่นหลัง!
เขาคือบรรพชนเทพ เขาคือเหลียนหยุนจื่อ!
ศีรษะของเหลียนหยุนจื่อ!! ศีรษะนี้โผล่ออกมาจากภูเขาที่พังทลายและค่อยๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ รอยแผลบนลำคอไม่สม่ำเสมอกันราวกับมีคนกระชากศีรษะนี้ออกจากร่าง!
โลหิตที่กำลังไหล่ออกมาเป็นสีทอง แต่เพราะผ่านเวลาไปนานเกินไปจึงมีร่องรอยสีม่วง! ใบหน้าไม่มีความเจ็บปวดราวกับเขากำลังหลับไหล
วินาทีที่หวังหลินเห็นศีรษะนี้ จิตใจจึงตกตะลึงดุจสายฟ้ามากมายระเบิดอยู่ในสมอง ทำให้เขาตะลึงอย่างสิ้นเชิง
หวังหลินคาดเดาเรื่องบรรพชนเทพไว้หลายอย่าง ท่ามกลางเผ่าเทพมีเรื่องเล่าบอกถึงการหายไปของบรรพชนเทพไว้หลายเรื่อง!
หวังหลินคิดว่าบรรพชนเทพได้จากแผ่นดินเซียนดาราไป บางทียังคิดว่าบรรพชนเทพปิดด่านบ่มเพาะอยู่ที่ไหนสักแห่งและกระทั่งคิดว่าบรรพชนเทพอาจจะตายไปแล้ว!
พอได้มาเห็นศีรษะของบรรพชนเทพด้วยสองตา ความตกตะลึงและความหวาดกลัวที่เขารู้สึกอยู่ตอนนี้ไม่อาจลดน้อยลงไปได้!
‘ใครสังหารบรรพชนเทพ?’
จิตใจหวังหลินสั่นไหว สิ่งที่เขาเห็นวันนี้ดูเหมือนได้เปิดประตูสู่ยุคอดีตของเผ่าเทพ!! ตอนนั้นได้เกิดอะไรขึ้น?
หากบรรพชนเทพตายไปแล้ว เช่นนั้นบรรพชนโบราณ…
ความคิดหลายอย่างดังขึ้นมาในใจหวังหลิน แสงน่ากลัวซึ่งเป็นราชครูกำลังพ่นลมหายใจหลังจากอัญเชิญศีรษะบรรพชนเทพขึ้นมา เขาหลับตาจากนั้นเอาแขนซ้ายบังตาซ้ายและลืมตาขวา!
ศีรษะของบรรพชนเทพคล้ายกับได้รับผลจากเขาไปด้วย พอเขาลืมตาขวา ศีรษะบรรพชนเทพก็ลืมตาขวาขึ้นเช่นกัน
ตาขวาคล้ายกับหลุม มันไม่มีสี!
นาทีนั้นแสงสีทองได้หยุดชะงักและพุ่งตรงเข้าสู่ศีรษะของบรรพชนเทพ มันหายวับเข้าไปในตาขวาทันที
จากนั้นไม่นานราชครูจึงมองหวังหลินอย่างโกรธเกรี้ยวและชี้มาที่เขา! เขาร่ายวิชาอันซับซ้อนซึ่งหวังหลินไม่สามารถได้ยินชัดเจน
หวังหลินหน้าซีดและถอยร่นโดยไม่ลังเล ทว่าขณะที่ราชครูชี้ไป แสงสีทองมหึมาโผล่ออกมาจากตาขวาบรรพชนเทพ หวังหลินสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลกำลังพุ่งเข้าหาและเขาถูกดึงเข้าสู่ตาขวาของบรรพชนเทพโดยไม่อาจต่อต้านได้!
วินาทีที่ถูกดูดเข้าไปในตาขวา ราชครูได้ถูกแสงน่ากลัวเก้าสายล้อมรอบและพุ่งเข้าตามหลังหวังหลินไป!
“เจ้าไม่ฟังคำแนะนำและแทรกแซงแผนของข้า ตอนนี้แผนการที่มีโอกาสสำเร็จเก้าในสิบส่วนลดลงมาเหลือสามในสิบส่วนเท่านั้น!”
“เจ้าสมควรตาย!! ข้าตั้งใจจะให้เจ้าได้รับมรดกของบรรพชนเทพจริงๆ ข้าอยากใช้พลังของมันเพื่อครอบงำความคิดเจ้า แต่หลังจากข้าเสร็จสิ้นแผนของตัวเอง ข้าจะมอบโอกาสรอดชีวิตให้ เมื่อเจ้าให้คำมั่นสัญญาด้วยวิญญาณ ข้าจะปล่อยให้เจ้ากลายเป็นองครักษ์เพลิงนรกานต์ของเผ่าข้า!”
“แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว!! ทั้งหมดนี้เพราะเจ้าทำตัวเอง!! อย่าหาว่าข้าไม่รักษาสัญญา!”
“ข้ารอมานานเกินไปและไม่สามารถออกไปจากที่นี่ ข้าไม่เจอคนที่เหมาะสมจนกระทั่งได้มาเจอเจ้า ร่างกายเจ้าเหมาะสมกับข้า!!”
“ข้าจะให้เจ้าได้สืบทอดอย่างสมบูรณ์ เมื่อเจ้ามีระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพแล้ว ก็จะเหมือนกับข้าที่ได้ระดับบ่มเพาะของบรรพชนเทพ!”
………………………………………………………
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น