Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1980-1981
ตอนที่ 1980 ไม่ไป!
โดย
Ink Stone_Fantasy
ดัชนีครั้งนี้คือพลังสูงสุดของหวังหลิน ไม่เพียงแต่จะมีร่างอวตารในมิติว่างแต่ยังมีพลังสูงสุดของเกราะวิญญาณ ร่างแก่นแท้ห้าธาตุและร่างแก่นแท้สายฟ้าปรากฏขึ้นมา แม้แต่แก่นแท้นามธรรมทั้งสามยังปรากฏเพื่อกลายเป็นวังวนสามแห่งด้านหลังหวังหลิน!
พลังทุกอย่างเข้าสู่ดัชนี ด้วยค่ายกลที่สร้างจากแสงสีทองและเศษกระบี่ หวังหลินจึงสามารถระเบิดพลังของร่างอวตารในมิติว่างไปถึงขีดสุดได้
หวังหลินต้องการใช้ดัชนีนี้สังหารคนที่อยู่เบื้องหลังดัชนี หวังหลินเป็นคนแบบนี้เสมอ หากมีใครพยายามสังหารเขา เขาก็จะสังหารมันตอบแทน!
สายลมหิมะส่งเสียงดังกึกก้องไปบนถนน ดัชนีที่ปรากฏจากความว่างเปล่าพลันปะทะกับดัชนีของหวังหลินที่เต็มไปด้วยพลังสังหาร!
เมื่อสองดัชนีปะทะกัน พลังบัญชาโบราณของหวังหลินจึงพรั่งพรูออกมา
ภาพติดตา 98 ร่างจากเส้นชีพจรทั้งห้าได้ผสานกันเป็นหนึ่ง และด้วยพลังจากกระทิงสวรรค์จึงกลายเป็นคลื่นกระแทกรอบที่สองเข้าต่อสู้กับดัชนี!
เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วโลกราวกับสายฟ้าในคืนอันมืดมิด ทำให้ไฮ่จื่อที่กำลังวิ่งไปขอความช่วยเหลือต้องหยุดชะงักและไม่สามารถก้าวไปต่อได้
ดัชนีหยุดชั่วขณะและเส้นโลหิตบวมเป่งคล้ายกับไม่สามารถทนต้านดัชนีของหวังหลินได้
แต่นี่ยังไม่จบ ร่างแก่นแท้ห้าธาตุ ร่างแก่นแท้สายฟ้าและแก่นแท้นามธรรมทั้งสามได้กลายเป็นคลื่นกระแทกลูกที่สาม เป็นการโจมตีที่แฝงการรู้แจ้งแห่งเต๋าของหวังหลินตลอดชีวิต!
โลหิตไหลลงมาจากดัชนีของหวังหลิน แต่เขาไม่ถอย ส่งเสียงคำรามและพุ่งต่อไป!
ระลอกคลื่นรอบที่สี่มาจากร่างอวตารของหวังหลินในมิติว่าง พลังนี้มาจากสายตาของหวังหลินและเปลี่ยนกลายเป็นแสงสีทองห่อหุ้มปลายนิ้ว ด้วยเศษดาบหยินรอบด้านสะท้อนแสง ดัชนีของหวังหลินจึงกลายเป็นสีทอง!
ดัชนีทอง!
พลังสูงสุดทำให้อีกดัชนีต้านทานได้ครู่เดียวและพังทลายทันที!
แต่ขณะที่ดัชนีพังทลาย เสียงสงบนิ่งดังกึกก้องขึ้นมา
“เพราะมีพ่ายแพ้ เมื่อเกิดขึ้นใหม่ จึงจะมีตัวตน!”
เพียงคำพูดเหล่านั้นดังออกมา ดัชนีที่พังทลายก็สร้างขึ้นมาใหม่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและปะทะกับดัชนีของหวังหลินอีกครั้ง!
“เพราะมีตัวตน เมื่อพ่ายแพ้จึงกลายเป็นความว่างเปล่า!”
พอสองดัชนีสัมผัสกัน พลังบัญชาโบราณของหวังหลินจึงหายไปราวกับกลายเป็นความว่างเปล่า! นอกจากนี้วิชาที่เขารวบรวมและพลังของกระทิงสวรรค์ยังหายไปด้วยราวกับถูกปัดเป่าออกไป
แม้แต่ร่างแก่นแท้ห้าธาตุและร่างแก่นแท้สายฟ้ายังหายไปด้วยอำนาจของพลังประหลาดนี้ แต่แก่นแท้นามธรรมทั้งสามของเขายังเหลืออยู่
สามแก่นแท้นี้คือแก่นแท้แรกเริ่มของหวังหลิน พวกมันเป็นตัวแทนความรู้ความเข้าใจทั้งชีวิตของหวังหลิน เป็นความเข้าใจชีวิตและความตาย เวรกรรมและจริงเท็จที่ไม่มีพลังใดจะขับไล่ไปได้!
สิ่งที่เหลืออยู่อีกคือแสงสีทองจากร่างอวตารของหวังหลินในมิติว่าง!
โลหิตหวังหลินไหลออกมาจากมุมปาก เพียงเขากระเด็นถอยหลัง จึงสะบัดแขนขวาให้ค่ายกลเศษดาบหยินทะยานเข้าหาดัชนีที่พังทลายไป แต่ดูเหมือนมันกำลังจะก่อตัวขึ้นใหม่เป็นครั้งที่สาม!
เสียงดังสนั่นกึกก้องบนถนน หิมะคล้ายกับหยุดลง ดัชนีที่กำลังจะก่อตัวขึ้นได้พังทลายอีกครั้งแต่มันเผยสัญญาณฟื้นคืนเป็นครั้งที่สี่!
หวังหลินรีบถอยและมาถึงปลายสุดถนน ซึ่งคือสุดขอบผนึก เขาเพียงแค่ต้องทำลายผนึกตรงจุดนี้เพื่อออกไปจากกับดัก!
แต่ขณะที่เข้าไปใกล้กลับมีระลอกคลื่นโผล่ออกมาจากบ้านทั้งสองฝั่งถนนและปรากฏร่างคนขึ้นอีกร้อยร่าง!
ทั้งร้อยร่างล้วนมีสายตาไม่แยแส วินาทีนั้นทุกคนยกแขนขึ้นมาปรากฏคันธนูเล็งมาที่หวังหลิน ทุกคนดึงสายคันธนู ลูกธนูหิมะนับร้อยดอกควบแน่นเข้ามาหา!
แต่ละคนพ่นโลหิตเข้าใส่ลูกธนูของตัวเองตามกันไป จากนั้นร่างกายก็เหี่ยวแห้งราวกับโลหิตนั้นได้ดูดซับพลังชีวิตทั้งหมดไป!
“เซียนไร้ชีวิต!” หวังหลินหรี่ตาแคบลง ทุกคนที่ปรากฏขึ้นในกับดักนี้นอกจากดัชนีก็เป็นเซียนไร้ชีวิต ทุกคนใช้ความตายเป็นค่าใช้จ่ายในการวางกับดัก!
หวังหลินเคยเจอสถานการณ์ย่ำแย่หลายครั้งมาก่อนแต่ไม่มีครั้งไหนที่เป็นแบบนี้ ในทุกครั้งที่ผ่านมาผู้คนมักจะห่วงใยชีวิตของตัวเอง แต่คนพวกนี้ไม่สนใจความตายของตัวเองเลยแม้แต่น้อย!
พริบตาเดียวร่างนับร้อยก็หายไป แม้แต่กระดูกก็ไม่มีเหลือ แต่ตอนที่พวกเขาตาย ลูกธนูถูกปล่อยออกมาเป็นเสียงหวีดหวิวนับร้อย!
ลูกธนูหิมะโลหิตร้อยดอกทะยานเข้ามาหาหวังหลินจากทุกทิศทาง มันเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงร้อยเส้นเข้ามาใกล้จนหวังหลินไม่มีโอกาสหลบหลีก!
หวังหลินร้องคำราม ฝ่ามือสร้างผนึกและผลักออกไป เรือนผมสีขาวพริ้วไหว เสื้อผ้าพัดปลิว ดวงอาทิตย์สีทองปรากฏขึ้นในความมืดด้านหลังหวังหลิน
วินาทีนั้นถนนสายยาวได้หายไป ทั้งโลกกลายเป็นทะเลอันมืดสนิท ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นบนฟากฟ้าปลดปล่อยพลังขับไล่ความมืด!
“แยกราตรี!”
วินาทีที่วิชานี้ปรากฏขึ้นมา ลูกธนูโลหิตนับร้อยดอกคล้ายกับผสานกับความมืดและฉีกกระจายไปพร้อมกัน เสียงดังสนั่นดังกึกก้องอย่างต่อเนื่อง
หวังหลินเอ่ยเสียงดังขึ้นมาด้วยเช่นกัน!
“ข้าเชื่อว่าความมืดมิดทั้งหลายจะถูกทำลายเบื้องหน้าแสงไฟ!”
“ข้าเชื่อว่าตัวตนทุกอย่างจะต้องสูญสิ้นไปภายใต้อาทิตย์ที่กำลังสาดส่อง!”
“ข้าเชื่อว่าความว่างเปล่าและสูญสิ้นทุกอย่างจะไม่สามารถเข้าสู่วัฏจักรการเกิดใหม่ได้!”
ดวงอาทิตย์รอบร่างหวังหลินเปล่งแสงสว่างมากขึ้น ลูกธนูร้อยดอกพังทลาย แม้แต่ดัชนีที่ฟื้นคืนเป็นครั้งที่สามยังปล่อยเสียงซี่ๆ และมีควันสีดำจำนวนมากปรากฏออกมา!
หวังหลินสะบัดแขนร้องคำราม ดวงอาทิตย์กวาดไปข้างหน้าและกระหน่ำโจมตีใส่ทุกอย่างที่ขวางทาง ความมืดหายไป ร่างที่ปรากฏได้พังทลายไปจากการปะทะกับดวงอาทิตย์!
แสงรอบด้านหายไปและกลับคืนสู่ปกติ มันยังเป็นถนนยาวเส้นเดิน สายลมหิมะยังคงปกคลุมพื้นถนน!
แต่บนเสื้อผ้าหวังหลินมีอยู่เจ็ดรู เศษลูกศรเจ็ดดอกที่ไม่ได้สลายไปในดวงอาทิตย์ พวกมันแทงทะลุมาถึงร่างหวังหลิน
โลหิตไหลรินออกจากปากและเขาเดินเซถอยหลัง แขนขวากำหมัดและชกเข้าใส่ขอบถนนที่ถูกผนึก เมื่อกำปั้นร่อนลงไป อากาศรอบถนนยาวจึงเริ่มบิดเบือน
โล่รูปทรงวงแหวนปรากฏขึ้นมาคล้ายถ้วยชามและห่อหุ้มถนนเอาไว้ ก่อนที่ระลอกคลื่นจะหายไป หวังหลินเห็นเซียนชุดดำนับหมื่นคนกำลังนั่งอยู่นอกถนน
เหล่าเซียนชุดดำคล้ายกับเชื่อมต่อกันผ่านพลังรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นพลังประหลาดสำหรับปิดผนึกที่แห่งนี้
“เจ้าจะหนีไปไหนไม่ได้!” เสียงสงบนิ่งดังกึกก้องบนถนน เพียงเท่านั้นดัชนีที่พังทลายไปแล้วจึงปรากฏอีกครา
“เพื่อสังหารเจ้า ข้าจึงต้องส่งพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักออกไป!”
ระลอกคลื่นบนถนนหายไป โลกด้านนอกที่หวังหลินเห็นเริ่มพร่าเลือนจนมองไม่เห็นอะไรในอากาศเมื่อครู่อีก
ทว่าในจังหวะที่ภาพด้านนอกหายไป หวังหลินเห็นว่าคนจำนวนร้อยคนในหมื่นคนนั้นได้กลืนกินเม็ดยา ร่างแต่ละคนพังทลาย วิญญาณดั้งเดิมคล้ายควันลอยเข้าหาถนนเส้นยาวที่ถูกปิดผนึก
ขณะเดียวกันมีร่างเงาพร่าเลือนปรากฏขึ้นในสายลมหิมะ ทุกคนปลดปล่อยระดับบ่มเพาะขั้นผู้สูงส่งชั้นฟ้าและพุ่งหาหวังหลินโดยไม่คิดชีวิต
หวังหลินมีสายตาสงบนิ่งแต่ภายในมีประกายแสงมองทะลุผ่านร่างร้อยคนที่กำลังพุ่งเข้ามา สายตาจับจ้องไปบนดัชนีที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่และลอยอยู่นิ่งๆ ตรงนั้น
‘ในเมื่อพวกเจ้าไม่ต้องการให้ข้าไป เช่นนั้นวันนี้ข้าจะไม่ไปไหน! วิธีที่ดีที่สุดในการต่อกรกับดักแห่งความตายนี้คือสังหารพวกเจ้าทั้งหมด จากนั้นกับดักก็จะถูกทำลาย’ เรือนผมสีขาวของหวังหลินเริ่มยืดยาว ส่วนโคนผมกลายเป็นสีดำราวกับเส้นผมกำลังเปลี่ยนสี!
ภายในแววตาอันสงบนิ่งมีสัมผัสความโหดเหี้ยมอำมหิต เป็นความไม่แยแสในโลกนี้และไม่แฝงอารมณ์ใดเจือปน วินาทีนี้หวังหลินเสมือนเศษน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย!
“เดิมทีข้าไม่ได้ต้องการเดินบนเส้นทางสังหาร แต่เวลานี้พวกเจ้าทุกคน…ต้องเจอกับการสังหารของข้า!” หวังหลินหลับตา ราวกับเทพสงครามจุติลงมา เป็นครั้งแรกที่เขาปล่อยให้ร่างอวตารสายฟ้าสังหารเข้ามาควบคุม!
ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่หวังหลินปลดปล่อยแก่นแท้สังหารและแก่นแท้ต้นกำเนิดแท้จริง ซึ่งทำให้แก่นแท้สังหารและแก่นแท้จุดจบที่แท้จริงปะทุออกมาด้วย!
………………………………………
ตอนที่ 1981 หวังหลินผมดำ!
โดย
Ink Stone_Fantasy
เสียงคำรามแห่งการเข่นฆ่าและการทำลายล้างได้ผสานกันกลายเป็นสายฟ้าสังหารที่ต้องการทำลายทุกชีวิต!
สายฟ้าสังหารมีโครงสร้างของพลังทำลายล้าง ตัวตนของมันคือต้นตอของความมืดมิดในโลกนี้ เป็นทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความตายและการทำลายล้าง
พอหวังหลินลืมตา กลับไร้แสงและมืดสนิท เรือนผมเปลี่ยนกลายเป็นสีดำ!
ผมยาวสีดำและดวงตาสีดำ!
‘ข้าสงสัยจริงว่าด้วยสภาพตอนนี้ข้าจะผ่านตำหนักระดับแรกในบททดสอบชั้นฟ้าได้หรือไม่…’ หวังหลินผุดรอยยิ้มบนมุมปาก หากใครที่เห็นรอยยิ้มนี้คงรู้สึกหนาวเย็น
มันไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความสุข แต่เป็นรอยยิ้มแห่งความอำมหิต!
พอไฮ่จื่อเห็นรอยยิ้มหวังหลิน ทั้งร่างของนางก็หนาวเย็น นางรู้สึกว่าหวังหลินที่นางคุ้นเคยได้เปลี่ยนกลายเป็นคนแปลกหน้าอย่างสิ้นเชิง!
หวังหลินผมดำทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุก ราวกับเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาต ร่างกายของนางสั่นเทาและถอยหลังไปหลายก้าว
ดัชนีที่ปรากฏขึ้นมาในอากาศค่อยๆ ถอนกลับไป ราวกับดวงตาหนึ่งคู่ในอากาศนั้นกำลังตกตะลึง!
‘การสังหารเริ่มต้นแล้ว’ หวังหลินกระโจนขึ้นไปในอากาศ เสียงดังลั่นออกมาจากร่างกาย ประกายสายฟ้าสีดำปรากฏขึ้นรอบตัวหวังหลินนับไม่ถ้วน เขาร้องคำรามใส่ท้องฟ้าและพุ่งทะยานเข้าหาร่างนับร้อยที่กำลังเข้ามา
ร่างนับร้อยเหล่านั้นปกติคงไม่รู้สึกกลัว พวกมันคือเซียนไร้ชีวิตและมีเป้าหมายคือการตายเพื่อทำงานของตัวเองให้เสร็จสิ้น แม้แต่อารมณ์ความรู้สึกยังถูกลบล้างออกไปจนหมด!
แต่วินาทีนี้พอได้ยินเสียงคำรามของหวังหลิน จิตใจแต่ละคนสั่นไหว พวกเขาไม่มีเส้นทางให้ถอยหนีดังนั้นจึงพุ่งเข้าหาไปพร้อมกับพรรคพวก
รอยยิ้มของหวังหลินผมดำเผยความอำมหิต ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เพียงเขาก้าวออกไปข้างหน้าจึงเข้าไปใกล้ผู้คนนับร้อย สะบัดแขนขวาให้สายฟ้าสีดำกลายเป็นตาข่าย
คนหลายสิบด้านหน้าล้วนทำการระเบิดตัวเองจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง พลังการทำลายล้างเข้าปะทะกับตาข่ายสายฟ้า
แต่เรื่องน่าประหลาดก็คือถึงแม้พลังนี้จะสามารถทำลายพื้นที่บริเวณได้ มันกลับเปราะบางเมื่ออยู่เบื้องหน้าตาข่าย ตาขายสายฟ้าแตกกระจายเป็นตาข่ายนับไม่ถ้วนและพุ่งต่อไป
คนที่โดนสายฟ้านี้เข้าสัมผัสจะเกิดอาการสั่นเทา ร่างกายแตกสลาย!
หวังหลินเดินต่อไปดุจสายลม เผชิญหน้ากับคนหลักร้อยจนสายฟ้าแผ่กระจายออกมาจากร่างอย่างต่อเนื่อง ใครที่พุ่งเข้ามาหาเขาล้วนถูกทำลายสิ้น!
หวังหลินเคลื่อนร่างเร็วมาก ปรากฏเบื้องหลังร่างหนึ่งในพริบตา ยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่พลันยิงสายฟ้าสีดำออกไปจนร่างเซียนคนนั้นสั่นสะท้านและเกิดการระเบิด
หวังหลินสังหารอย่างต่อเนื่องราวกับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือไม่รู้สึกเจ็บปวด พลังการทำลายล้างตัวเองเข้ากระหน่ำใส่เขาแต่กลับไม่สามารถทำให้หวังหลินหยุดชะงักได้เลย
เพียงชั่วเวลาสั้นๆ ร่างกว่าครึ่งล้วนตกตกตายด้วยพลังสายฟ้าของหวังหลิน คนที่เหลืออยู่รวมตัวกันกลายเป็นค่ายกลและมีคนหนึ่งร้องออกมา “ค่ายกลผูกมัด!” พื้นดินสั่นสะเทือน พลังงานไหลออกมาจากด้านล้าง คนนับร้อยเปลี่ยนกลายเป็นฝ่ามือยักษ์สีดำและพุ่งตรงมาหาหวังหลิน!
หวังหลินไม่หยุดชะงัก ยกแขนขวาขึ้นมาปรากฏประกายสายฟ้าสีดำนับร้อยสาย พลังทำลายล้างและจิตสังหารข้างในก่อตัวเป็นควันสีดำปกคลุมหวังหลิน จากนั้นก็พุ่งเข้าหาฝ่ามือราวกับอุกกาบาตนับไม่ถ้วน
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!!
ฝ่ามือพลันแตกสลาย คนนับร้อยข้างในตายทุกคน พอหวังหลินก้าวเดินออกมา โลหิตไหลย้อนออกมาจากปาก ทว่าสายตาบ้าคลั่งยิ่งรุนแรงเป็นทวีคูณ ระลอกคลื่นส่งเสียงดังออกมาในอากาศเบื้องหน้า ดัชนีที่หายไปพลันปรากฏขึ้นมาอีกครั้งและชี้กลางหน้าผากหวังหลิน!
“ทุกตัวตนจะกลายเป็นความว่างเปล่า…” เพียงดัชนีมาถึง เสียงลึกลับก็ดังกึกก้อง
ทว่าหวังหลินแหงนหน้ามองขึ้นไป แววตาบ้าคลั่งรุนแรงยิ่งขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะสลายไป
“การทำลายคือการทำให้ทุกอย่างสูญสิ้น ด้วยพลังของเจ้าแค่นี้ กล้ามาทำให้ข้าสูญสิ้น!?” หวังหลินยกแขนขึ้นมาส่งกำปั้นออกไป ระลอกคลื่นจำนวนมากผุดขึ้นมาในอากาศและมีเสียงร้องในลำคอดังออกมา ราวกับมีคนบาดเจ็บ ดัชนีที่กำลังชี้ใส่หวังหลินจึงแตกสลายไปทันที
ขณะที่ดัชนีหายไป ร่างเลือนรางนับพันร่างปรากฏขึ้นมาบนสองฝั่งถนน จากนั้นพวกมันก็พุ่งเข้าหาหวังหลิน!
หวังหลินยังคงมีรอยยิ้มอันโหดเหี้ยมและสายตาบ้าคลั่ง เขาหันกลับมา ผมสีดำยาวมากขึ้นจนแบ่งออกเป็นเส้นมากมายกระจายออกไปทั่วทิศทางเข้าสัมผัสกับร่างที่ใกล้เข้ามา
พอร่างเหล่านั้นถูกผมสีดำสัมผัสจึงตัดสินใจระเบิดตัวเอง กลายเป็นวังวนทำลายล้างล้อมรอบหวังหลิน
หวังหลินกระอักโลหิตจำนวนมาก แต่การโดนกระหน่ำโจมตีนี้กำลังถูกสายฟ้าสังหารรอบตัวเขาต่อต้านเอาไว้
เหล่าร่างนับพันปรากฏขึ้นบนถนนอีกครั้ง ด้านหลังมีอีกพันร่าง พวกมันตั้งใจให้กับดักนี้บรรลุเป้าหมายตามต้องการ!
หวังหลินมีสีหน้าดุดันและร้องคำรามใส่ท้องฟ้า แขนขวาคว้าจับบางอย่างออกมาจากหน้าอก!
“เกราะวิญญาณกระทิงสวรรค์ ออกไป!” เพียงส่งเสียงคำราม แขนขวาดึงเกราะวิญญาณกระทิงสวรรค์ออกมา เขาไม่มีเกราะวิญญาณอยู่บนร่างกายอีกแล้ว
หลังจากโยนเกราะออกไป แววตาบ้าคลั่งของหวังหลินกลับหายไปและเปลี่ยนกลายเป็นสงบนิ่งสุดขั้ว ทว่าใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มอำมหิต
พอสูญเสียเกราะวิญญาณ ระดับบ่มเพาะของหวังหลินผมดำได้ตกลงมา แต่ไอสังหารเพิ่มขึ้นหลายเท่า เพียงไม่กี่ลมหายใจ ไอสีดำรอบตัวหวังหลินก็ควบแน่นขึ้นและพุ่งทะยานเข้าหาคนนับพัน!
การสังหารดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนไฮ่จือจิตใจสั่นเทา หวังหลินดุจเทพปิศาจ ทุกคนที่เขาสังหารจะมีเส้นใยสังหารหนึ่งเส้นโผล่ขึ้นมารอบตัว
ทุกคนที่หวังหลินสังหารทำให้ไฮ่จื่อยิ่งรู้สึกต่อหวังหลินเป็นคนแปลกหน้ามากขึ้น!
ท่ามกลางการสังหารอันบ้าคลั่ง ร่างนับพันถูกฉีกกระจากเพียงชั่วจังหวะ หวังหลินห่อหุ้มไปด้วยสายควันสีดำมากมายจนแทบมองไม่เห็นร่าง
วินาทีนั้นดัชนีที่หายไปจึงปรากฏนอกควันสีดำรอบตัวหวังหลินอีกครั้งและชี้เข้าหาเขาอย่างรุนแรง แต่ก่อนที่ดัชนีจะร่อนลงมาถึง หวังหลินคว้าเอาไว้และดึงออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ
เท่านั้นเองแขนจึงถูกดึงออกมาครึ่งท่อน
“ออกมาหาข้า!” หวังหลินร้องคำรามพลางดึงให้สุด โลกแห่งนี้ส่งเสียงดังสนั่นและแขนก็แตกสลาย เสียงพึมพำดังออกมาจากความว่างเปล่าอีกครั้ง!
“ทุกคนเข้าไปและสังหารมันซะ!” น้ำเสียงปนไปด้วยจิตสังหารดังออกมาจากความว่างเปล่า
วินาทีนั้นมีร่างปรากฏขึ้นบนสองฝั่งถนนอย่างรวดเร็ว กลายเป็นคนจำนวนหลายหมื่นคน ทุกคนไม่สนผู้สูงส่งชั้นฟ้าไฮ่จื่อและพุ่งหาหวังหลิน
หวังหลินผมดำถอยหลังไปสองสามก้าว ตอนนี้ควันสีดำจำนวนมากอยู่รอบตัว แววตาแห่งความตายก่อเกิดเป็นภาพสะท้อนกับรอยยิ้มอำมหิตบนใบหน้า เขายกแขนขึ้นมาและตีใส่หน้าผากตัวเองอย่างรุนแรง!
“ร่างแก่นแท้ห้าธาตุ ออกไป!!” เพียงเท่านั้นร่างหวังหลินก็สั่นเทา ร่างเงาหนึ่งทับซ้อนกับร่างกาย ร่างแก่นแท้ห้าธาตุกระเด็นออกมาจากร่าง!
ร่างแก่นแท้ห้าธาตุกระเด็นไปและมีท่าทีเคร่งขรึม เขาปรากฏตัวข้างไฮ่จื่อและส่งสายตาเข้ามา
หลังจากสูญเสียร่างแก่นแท้ห้าธาตุไป ระดับบ่มเพาะของหวังหลินจึงตกลงมาอีกครั้ง แต่กลิ่นอายสังหารรอบตัวยิ่งบริสุทธิ์มากขึ้น!
“แก่นแท้เขตอาคม ออกไป!”
“แก่นแท้จุดเริ่มต้นแท้จริง ออกไป!!”
“แก่นแท้สายฟ้า ออกไป!!” หวังหลินผมดำคำรามต่อไปจนกระทั่งแก่นแท้หลายอย่างกระเด็นออกไปจากร่างกาย!
เพียงเหล่าคนนับหมื่นเข้ามาใกล้ หวังหลินเงยหน้าขึ้นมา แววตายังคงเหมือนเดิมแต่รอยยิ้มอำมหิตเลือนหายไปจำนวนมาก เขาพุ่งทะยานเข้าหาคนนับหมื่นและเริ่มการสังหาร
ครู่ต่อมาเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง หวังหลินกระเด็นกลับและกระอักโลหิต เขารู้สึกเหมือนร่างกายกำลังแตกสลาย ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถรอดชีวิตจากการโจมตีของคนนับหมื่นได้!
“ชีวิตและความตาย เวรกรรม จริงเท็จ ออกไป!!” หวังหลินผมดำส่งเสียงคำราม ร่างกายสั่นสะท้าน แก่นแท้นามธรรมทั้งสามถูกขับออกไปจากร่างกายด้วย!
วินาทีนี้หวังหลินผมดำเหลือแก่นแท้เพียงแค่สองอย่างเท่านั้น คือแก่นแท้สังหารและแก่นแท้จุดจบแท้จริง! ไม่มีร่างแก่นแท้อื่น เหลือเพียงแต่ร่างดั้งเดิมเท่านั้น!
ควันสีดำรอบตัวพลันหดกลายเป็นชุดคลุมสีดำ เส้นผมสีดำสนิท ดวงตาเต็มไปด้วยไอแห่งความตายและไม่มีเผยรอยยิ้มอีกแล้ว เขาดูเหมือนศูนย์รวมแห่งความตาย!
สายตาที่มองเหล่าคนนับหมื่นที่กำลังพุ่งเข้ามาหาด้วยความสงบนิ่งและหลับตาลง เหล่าคนนับหมื่นสั่นสะท้าน พอหวังหลินลืมตาทุกคนล้วนหายวับไปเบื้องหน้า!
สิ่งที่หายไปยังรวมถึงถนนและบ้านสองข้างทางด้วย พวกเขากลายเป็นฝุ่นผงในประวัติศาสตร์ แม้แต่เกล็ดหิมะยังตกลงมาเปลี่ยนเป็นสีดำ
“ยับยั้งเต๋าแห่งสวรรค์ วิญญาณทั้งหมดใต้อำนาจสวรรค์จะต้องทนทุกข์กับทัณฑ์สวรรค์ ใช้ความเชื่อมั่นของตัวเองเดินผ่านเส้นทางแห่งการทำลายล้างและก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งเต๋าที่แท้จริง” หวังหลินพึมพำพลางยกแขนขวาขึ้นมาคว้าดัชนีที่ปรากฏขึ้นด้านข้าง จากนั้นก็บีบแน่นขึ้น
ดัชนีถูกบดขยี้ไปพร้อมกับเสียงแตกร้าว! เพียงแค่ดึงออกมา ร่างเปล่งแสงสีขาวก็หลุดออกมาจากความว่างเปล่า
“เจ้าไม่ใช่ราชครู” หวังหลินไม่ได้มองร่างเปล่งแสงสีขาว เขาปล่อยแขนและตรงเข้าจับลำคอของร่างนั้นก่อนจะบีบแน่นขึ้นอีกครั้ง
ร่างนั้นสั่นเทาอย่างรุนแรงและแตกสลายทันที
“เจ้า…เจ้าไม่ใช่หวังหลิน!!! เจ้าเป็นใคร?!” ผู้สูงส่งชั้นฟ้าไฮ่จื่อเอ่ยเสียงหวาดกลัวและดังกึกก้องในความเงียบ
หวังหลินผมดำหันกลับมามองไฮ่จื่ออย่างเยือกเย็น จากนั้นก้าวเดินเข้าหา
………………………………………
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น