Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1914-1915
ตอนที่ 1914
ต่อต้านราชโองการ?
โดย
Ink Stone_Fantasy
ขณะที่มังกรสมุทรทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเข้าหาหวังหลิน ลำแสงสีทองสายหนึ่งจากแคว้นกระทิงสวรรค์ได้มาถึงแคว้นมารเขียว ลำแสงนี้ทะยานด้วยความเร็วยิ่งกว่าผู้สูงส่งวิบากดับสูญ ด้วยความเร็วนี้คงใช้เวลาไม่นานก็จะถึงสำนักเต๋ามาร!
ภายในเกาะกลางที่ห่อหุ้มด้วยแสงสีเหลืองเข้ม จ้าวสำนักเต๋ามารจ้องมองเบื้องบน ดวงตามองทะลุออกไปและเห็นทุกอย่างด้านนอก
‘มังกรสมุทรที่ท่านบรรพชนทิ้งเอาไว้ หากข้าต้องการฆ่ามันคงต้องใช้ความพยายามอย่างมหาศาลและอาจไม่สำเร็จ แม้หวังหลินจะสังหารผู้อาวุโสเฟิ่งที่สังเวยพลังชีวิตตัวเองบรรลุผู้สูงส่งชั้นทองได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ยังมีช่องว่างระหว่างเขากับผู้สูงส่งชั้นทองของจริง!’
‘เขาสังหารผู้อาวุโสเฟิ่งได้ แต่ไม่สามารถผนึกมังกรสมุทรในระยะเวลาสั้นๆ ได้แน่!! ด้วยการถ่วงเวลาของมังกรสมุทร บรรพชนจะต้องได้รับข่าวอย่างแน่นอน!’ จ้าวสำนักเต๋ามารไม่กล้าออกไปไหนแต่ก็เกลียดชังหวังหลินเข้ากระดูกดำ เขาอยากกลืนกินหวังหลินไม่ให้เหลือ
ขณะที่กัดฟันและคาดหวัง แขนขวากลับสั่นเทา จ้าวสำนักเต๋ามารมองแขนตัวเองและมีควันสีเขียวปรากฏขึ้น แบ่งออกเป็นเจ็ดสายและเข้าไปในทวาร
จ้าวสำนักเต๋ามารถึงกับตัวสั่นและหลับตา ไม่นานนักเขาจึงลืมตาขึ้นมาด้วยความปิติยินดี จากนั้นเริ่มหัวเราะเสียงดัง
‘สำเร็จ! จักรพรรดิเทพส่งราชโองการมาแล้ว มีถึงสามเรื่องและหนึ่งในนั้นกำลังตรงมาที่สำนักเต๋ามาร โองการนั่นต้องมอบมาให้ข้า!’ จ้าวสำนักเต๋ามารหัวเราะและเผยความตื่นเต้นจนปิดไว้ไม่มิด
‘หวังหลิน เจ้าต้องการสังหารข้า? เจ้าต้องการสังหารเต๋าของสำนักเต๋ามาร? บรรพชนจะมาถึงในอีกไม่นานและเมื่อเขามาแล้ว เจ้าจะต้องตายแน่นอน ราชโองการก็กำลังมาแล้ว เมื่อผู้ส่งสาส์นมาที่นี่ เจ้าจะสังหารข้าได้อย่างไร?!’
‘หากเจ้าสังหารข้า เช่นนั้นถือว่าเจ้าสังหารคนที่น้อมรับราชโองการ นั่นเป็นความผิดมหันต์!!’ จ้าวสำนักเต๋ามารมีความสุขยิ่งนัก
ภายนอกแสงสีเหลืองเข้ม มังกรสมุทรจ้องมองหวังหลิน ร่างกายใหญ่ยักษ์เปล่งแรงกดดันอันน่าตกตะลึงจนสั่นคลอนโลกได้ทั้งใบ เหล่าผู้สูงส่งชั้นทองยังต้องสั่นเทาและไม่กล้าสู้ด้วย!!
เสียงคำรามดังรุนแรงจนสั่นสะท้านถึงดวงวิญญาณ!
หวังหลินจ้องมองมังกรสมุทรที่กำลังเข้ามาใกล้ด้วยท่าทีเย็นชา เขาไม่เคยเห็นอสูรแบบนี้มาก่อนและรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายน่าขนลุกออกมาจากมัน
นี่คือพลังของผู้สูงส่งชั้นทองซึ่งมีอำนาจพอให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีสัน ท้องฟ้าที่กำลังสดใสกลับมืดมนราวกับมีก้อนเมฆเต็มไปหมด
‘อสูรระดับผู้สูงส่งชั้นทอง…’ หวังหลินดวงตาเปล่งประกายและเผยแสงสีทองลี้ลับ เปล่งเจตนาต่อสู้ชัดเจน
ระดับบ่มเพาะของหวังหลินระเบิดออกมาเต็มที่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทุ่มสุดตัวตั้งแต่ได้รับโชควาสนามาจากอารามแมงป่องมารเขียว!!
หวังหลินปลดปล่อยระดับบ่มเพาะขั้นวิบากดับสูญและร่างบัญชาโบราณ หากไม่นับเรื่องการสวมเกราะวิญญาณ นี่คือจุดบ่มเพาะที่สูงที่สุดของเขาภายในระยะเวลาเกือบสามพันปี!!
เรือนผมสีขาวยืดยาวออกไปหลายเท่าจนมากกว่าความสูงของร่างกาย มันพริ้วอยู่ในอากาศและจับคู่กับเสื้อผ้าสีขาว หวังหลินดูราวกับถูกแสงสีขาวเยือกเย็นห่อหุ้มเอาไว้!
พอเส้นผมยาวผ่านปลายเท้าไป หวังหลินยกแขนและชี้มาที่มังกรสมุทร!
“แยกราตรี!”
โลกใบนี้เกิดเสียงดังสนั่น รอบด้านเปลี่ยนกลายเป็นทะเลไร้ขอบเขต จากนั้นเกิดเสียงคำราม ท้องฟ้ามืดสนิท
ดวงอาทิตย์กำลังทอแสงแพรวพราวขึ้นบนขอบทะเล ร่างมังกรสมุทรถึงกับสั่นสะท้านและเผยแววตาหวาดกลัว
มันสัมผัสได้ชัดเจนว่าเซียนผู้นี้กำลังใช้วิชาที่ทำให้มันหวาดกลัวเกินกว่าจินตนาการ มันรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปตอนที่มันยังอ่อนแอมาก มันจดจำถึงความหวาดกลัวตอนที่เผชิญกับอำนาจแห่งสวรรค์ได้อย่างแท้จริง
ดวงอาทิตย์ที่กำลังทอแสงเผยเป็นร่างหวังหลิน เขาคือดวงอาทิตย์และก้าวออกมาจากแสงสว่างเจิดจ้า พลังแห่งศรัทธาอันแข็งแกร่งแผ่กระจายออกมาจากร่างกาย
พลังแห่งศรัทธานี้ห่อหุ้มทั่วบริเวณและทำให้ร่างมังกรสมุทรสั่นสะเทือนรุนแรง เจ้ามังกรไม่กล้าเข้าใกล้และถอยอย่างบ้าคลั่ง
แม้มันจะแข็งแกร่งเท่าผู้สูงส่งชั้นทอง มันก็ยังกลัวตาย ไม่ว่าจะหนีรวดเร็วแค่ไหนก็หนีไม่พ้นท้องฟ้าอันมืดมนและพลังฉีกกระชากความมืดมิด
ขณะที่แสงดวงอาทิตย์ได้ทำลายความมืดมิดไปทีละชั้นและเข้าหาเจ้ามังกรสมุทร มันรู้สึกว่ากำลังจะถูกฉีกกระชากไปพร้อมกับความมืด!
กลิ่นอายแห่งความตายห่อหุ้มรอบร่างมังกรสมุทร มันส่งเสียงคำรามและสั่นเทา ความเจ็บปวดผุดออกมาจากทั่วร่าง กำลังฉีกกระชากความมืดกำลังทำลายร่างกายของมัน
ความเจ็บปวดรุนแรงนี้แม้แต่ร่างกายหยาบอันแข็งแกร่งและระดับบ่มเพาะแบบผู้สูงส่งชั้นทองก็ไม่สามารถทนไหว มันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวังราวกับฝันร้ายที่ไม่มีวันตื่น
“ยอมจำนนหรือตาย!” ขณะทีร่างมันกำลังจะแตกสลายและตายไป ความเจ็บปวดแล่นผ่านทั่วร่าง ผลักดันให้มันเข้าใกล้ความตายถึงขีดสุด น้ำเสียงทรงพลังเต็มไปด้วยศรัทธาได้เปล่งสะท้อนออกมา
วินาทีนั้นเจ้ามังกรสมุทรพยายามลืมตาที่พร่ามัวจากแสงของดวงอาทิตย์ มันเห็นหวังหลินก้าวออกมาจากดวงอาทิตย์และจากนั้นจึงตกอยู่ในภวังค์ทันที
“มหาชั้นฟ้า…” ในดวงตามังกรสมุทร แสงอาทิตย์ที่กำลังส่องเบื้องหลังหวังหลินเสมือนดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ดวงที่เจ็ดของแผ่นดินเซียนดารา!!
ร่างที่อยู่ใต้ดวงอาทิตย์ พลังศรัทธาอันทรงพลัง นั่นคือมหาชั้นฟ้า!!
เจ้านายของมัน บรรพชนของสำนักเต๋ามารเป็นเพียงผู้สูงส่งชั้นฟ้า และตอนนี้หวังหลินเป็นเหมือนมหาชั้นฟ้า มันกำลังตกอยู่ในภวังค์ แม้ยามตายก็ไม่อยากยอมก้มหัวให้คนอื่น เพราะมันมีศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่วินาทีนี้มันสั่นเทาและยอมหมอบลงโดยไม่มีเงื่อนไข
“ยอมจำนน!” นาทีที่มันปลดปล่อยข้อความนี้ออกมาจากจิตใจ ผนึกของเจ้านายคนเก่าพลันแตกสลายทันที อสูรระดับผู้สูงส่งชั้นทองไม่สามารถถูกควบคุมได้ตามปกติแล้ว มันต้องใช้กลิ่นอายมหาศาลเพื่อให้ยอมรับใช้
นอกจากเหล่ามหาชั้นฟ้าแล้ว คนอื่นไม่สามารถทำให้อสูรเทพแบบนี้กลายเป็นทาสรับใช้ได้ พวกเขาทำได้แค่รักษาความสัมพันธ์ให้เท่ากัน มังกรและเจ้านายคนก่อนก็เป็นเช่นนี้
แต่ตอนนี้มันได้ยอมจำนน กลิ่นอายวิญญาณสีเขียวโผล่ออกมาจากเศียรมังกรสมุทร หวังหลินคว้ากลิ่นอายวิญญาณนี้เอาไว้ทันที
แม้แต่เจ้านายคนก่อนของมังกรสมุทรก็ไม่สามารถได้รับกลิ่นอายวิญญาณนี้ได้ แต่ด้วยภวังค์และความรู้แจ้ง เจ้ามังกรกลับมอบกลิ่นอายวิญญาณให้แก่หวังหลิน!
การควบคุมกลิ่นอายวิญญาณได้หมายความว่าควบคุมได้ทั้งชีวิตและความตายของมัน!
เมื่อหวังหลินควบคุมกลิ่นอายวิญญาณได้ ความมืดมิดจึงหายไป ทะเลและดวงอาทิตย์รอบด้านแตกสลาย ทุกอย่างกลับคืนมาเป็นปกติ พื้นดินยังเป็นเศษซากสำนักเต๋ามาร ท้องฟ้ายังคงกระจ่างใส
ทว่าจ้าวสำนักเต๋ามารภายในแสงสีเหลืองเข้มกลับเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ร่างกายสั่นสะท้าน
‘ไม่…ไม่มีทาง!! มังกรสมุทรนั่นเป็นของบรรพชน มัน…มันยอมจำนนแก่หวังหลินจริงๆ!!’ จ้าวสำนักเต๋ามารเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาไม่เพียงตกตะลึงที่เจ้ามังกรยอมจำนนแก่หวังหลินแต่ยังตกตะลึงวิชาแยกราตรีที่หวังหลินใช้ด้วยระดับบ่มเพาะเต็มกำลัง!!
‘วิชาแห่งศรัทธา!! นั่นมันวิชาแห่งศรัทธา!!’ ข้าคิดว่ามังกรสมุทรสามารถถ่วงเวลาได้แต่ไม่คิดว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ เพียงชั่วเวลาสั้นๆ หวังหลินได้ใช้วิชาแห่งศรัทธาและทำให้เจ้ามังกรสมุทรยอมจำนน!!
ความหวาดกลัวไร้ขอบเขตพวยพุ่งขึ้นในใจของจ้าวสำนักเต๋ามาร เขากัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกไปโดยไม่ลังเล โลหิตเปลี่ยนเป็นหมอกโลหิตและเข้าสู่ม่านแสงสีเขียวเพื่อเติมพลังงานให้แก่ม่านแสง
‘ข้าไม่ยอมปล่อยเขาให้เข้ามาข้างในได้! ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ ข้าปล่อยเข้ามาไม่ได้!! เวลา ข้าต้องการเวลา อีกไม่นานบรรพชนจะมาที่นี่แล้ว รวมถึงราชโองการได้ เวลา ข้าต้องการเวลา!!’ จ้าวสำนักเต๋ามารดูเหมือนบ้าคลั่งไปแล้ว ฝ่ามือสร้างผนึกอย่างรวดเร็วและส่งเข้าสู่ม่านพลังรอบเกาะ
ขณะที่ม่านแสงกะพริบวูบวาบและถูกเติมพลังเรื่อยๆ หวังหลินก้าวทะยานมาข้างหน้า เจ้ามังกรสมุทรตามมา มันมองหวังหลินด้วยความเคารพและหวาดกลัว
หวังหลินยกแขนขวาขึ้นใกล้ม่านแสง แววตาเย็นเยียบและส่งกำปั้นออกไป
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!!
ม่านแสงที่จ้าวสำนักเติมพลังเข้าไปสามารถอยู่ได้เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นก่อนจะแตกสลายเป็นเศษเสี้ยว สิ่งก่อสร้างทั้งหมดรอบเกาะถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน เผยให้เห็นจ้าวสำนักเต๋ามารที่กำลังจนมุม!
หวังหลินมองจ้าวสำนักเต๋ามารอย่างเย็นชา เขาพุ่งทะยานพร้อมกับชกกำปั้นออกไปโดยไม่ลังเล จ้าวสำนักล่าถอยอย่างบ้าคลั่ง ฝ่ามือสร้างผนึกอย่างต่อเนื่องแต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านและกระอักโลหิต เขาบาดเจ็บสาหัสและถูกพลังตีกลับ
“หวังหลิน เจ้ากล้าสังหารข้า!? บรรพชนของสำนักเต๋ามารคือเซียนระดับผู้สูงส่งชั้นฟ้า หากเจ้าสังหารข้า เจ้าจะต้องตายอย่างทรมาน!!”
หวังหลินไม่พูดมาก ก้าวทะยานและกำลังจะส่งกำปั้นออกไป!
วินาทีนั้นลำแสงสีทองสายหนึ่งเข้ามาถึงด้วยความเร็วเหนือจินตนาการและห่อหุ้มบริเวณนี้เอาไว้! ข้างในแสงมีร่างสีทองยืนอยู่!
“ท่านผู้ส่งสาส์นแห่งจักรพรรดิเทพ ราชโองการอยู่นี่แล้ว หวังหลิน ข้าอยากจะเห็นเสียจริงว่าเจ้ายังกล้าสังหารข้าหรือไม่!! เจ้ากล้าต่อต้านราชโองการ!?” จ้าวสำนักเต๋ามารที่เดิมทีสิ้นหวังไปแล้วแต่กลับตื่นเต้นทันที
ตอนที่ 1915
ทัศนวิสัยมืดลง!
โดย
Ink Stone_Fantasy
แสงสีทองในท้องฟ้ากำลังแพรวพราวและส่องสว่างขึ้นในสำนักเต๋ามาร ร่างสีทองนั้นไม่ได้มองลงมาเพียงแต่สะบัดแขนและปรากฏราชโองการ
“สำนักเต๋ามาร จงน้อมรับราชโองการ!”
จ้าวสำนักเต๋ามารเต็มไปด้วยสายตาตื่นเต้นเกินบรรยายและประหลาดใจมาก เขาหยุดล่าถอยและคำนับฝ่ามือไปยังท้องฟ้า ขณะที่กำลังจะพูดขึ้นมา แววตาตื่นเต้นกลับหายไปและถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว
เพราะหวังหลินไม่ได้มองร่างสีทองในท้องฟ้าเลย ทั้งยังไม่สนใจราชโองการ เขาไม่หยุดชะงักและเข้าประชิดจ้าวสำนักเต๋ามารในพริบตา ยกแขนขวาขึ้นและกระแทกลงไป!
เสียงกำปั้นกระแทกดังกึกก้องสนั่นฟ้า หวังหลินระเบิดระดับบ่มเพาะจนกลายเป็นพลังที่ทำให้ผู้สูงส่งชั้นทองทุกคนต้องหวาดกลัว
สังหารคนใต้อำนาจราชโองการ!
จ้าวสำนักเต๋ามารจิตใจสั่นไหวและล่าถอย เขากระตุ้นระดับบ่มเพาะเต็มที่ ร่างเงามารจำนวนหนึ่งโผล่ขึ้นมาป้องกัน
หวังหลินชกกำปั้นทำลายร่างเงามารจนแตกสลายเสียงดังสนั่น กำปั้นร่อนลงใส่หน้าอกของจ้าวสำนักเต๋ามารตามกันติดๆ
จ้าวสำนักเต๋ามารสั่นสะท้านและกระอักโลหิต อาการบาดเจ็บย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม เขากระเด็นถอยหลังและเกิดความหวาดกลัว สายฟ้าแผ่กระจายออกมาจากร่าง ก่อเกิดก้อนสายฟ้านับไม่ถ้วนพุ่งโจมตีหวังหลิน
ขณะเดียวกัน ร่างสีทองที่ถูกแสงห่อหุ้มได้หันมามองหวังหลินอย่างเย็นชา เขาถือราชโองการในมือและส่งเสียงคำรามเต็มไปด้วยอำนาจ
“สังหารคนเบื้องหน้าราชโองการ เจ้ากล้าดีอย่างไร! ยังไม่ถอยไปอีก?”
หวังหลินไม่สนใจร่างสีทองอย่างสิ้นเชิง ก้าวทะยานเข้าหาจ้าวสำนักเต๋ามารที่กำลังบาดเจ็บสาหัส ไม่สนแม้แต่ก้อนสายฟ้า!
“หากข้าต้องการฆ่าคน ไม่มีใครจะช่วยมันได้!” หวังหลินยกแขนขึ้นอีกครั้งและส่งกำปั้นที่สามออกไป!
ก้อนสายฟ้าทั้งหมดพังทลายเสียงดังกึกก้อง แม้จ้าวสำนักเต๋ามารจะเป็นผู้สูงส่งชั้นทอง เขายังส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน กระเด็นถอยหลังและกระอักโลหิตอีกครั้ง แววตาหวาดกลัวสุดขีด
“ราชโองการอยู่นี่แล้ว หากเจ้าสังหารข้า เจ้าจะตายแน่นอน!” จ้าวสำนักเต๋ามารดูน่าสังเวช หมอกโลหิตพุ่งออกมาจากปาก คลื่นกระแทกจากกำปั้นหวังหลินกำลังฉีกร่างเขาและแทบหมดเรี่ยวแรง
ระดับบ่มเพาะของเขาเทียบกับหวังหลินไม่ได้เลย!
“เจ้ากล้าสังหารคนเบื้องหน้าราชโองการ? โอหังนัก ข้าเป็นถึงผู้ส่งสาส์นแห่งราชวงศ์เพื่อมาประกาศราชโองการ การไม่ยอมถอยนั่นหมายถึงการต่อต้านราชโองการ!” ร่างสีทองเห็นหวังหลิน เขาคำรามก่อนจะพุ่งเข้าหาทันที!
ร่างสีทองปลดปล่อยแสงสีทองออกมา เปลี่ยนกลายเป็มม่านทองลอยเข้าหาหวังหลิน
พลังปราณสวรรค์หนาแน่นโผล่ออกมาจากม่านทองพร้อมกับสัมผัสอันสูงส่ง
พอจ้าวสำนักเต๋ามารเห็นแบบนี้ราวกับเจอหนทางรอดชีวิต เขาสร้างผนึกขึ้นมาปรากฏวังวนกลางหน้าผาก มีดบินสีดำเก้าเล่มทะยานเข้าหาหวังหลิน
“ไปซะ!” แววตาหวังหลินเย็นเยียบ ร้องคำรามและสะบัดแขนใส่ผู้ส่งสาส์นที่กำลังเข้ามา
เพียงเท่านี้โลกก็เปลี่ยนสีสันและปรากฏประทับฝ่ามือยักษ์ นำพาพลังอำนาจของมันทะยานเข้าใส่ผู้ส่งสาส์น
ประทับฝ่ามือยักษ์ปะทะกับม่านแสงสีทอง ม่านแสงพังทลายในทันที ทำให้ฝ่ามือเข้าสัมผัสผู้ส่งสาส์น
เสียงกระแทกดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ผู้ส่งสาส์นกระอักโลหิตและกระเด็นไปถึงพันฟุต เขาพยายามหยุดลงจนกระอักโลหิตอีกรอบ มองหวังหลินด้วยแววตาไม่เชื่อ
“ระดับ…ผู้สูงส่งชั้นฟ้า!!”
หวังหลินบังคับให้ผู้ส่งสาส์นถอยกลับไปได้เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือ เขาระเบิดระดับบ่มเพาะและปรากฏสายลมทมิฬขึ้นรอบร่าง ปะทะกับมีดบินเก้าเล่ม เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วและมีดบินทั้งหมดพังทลาย
หวังหลินก้าวเท้าและเคลื่อนไปใกล้จ้าวสำนักเต๋ามารอีกครั้ง อีกฝ่ายเต็มไปด้วยสายตาหวาดกลัวเมื่อเห็นหวังหลินยกแขนขึ้นกระแทกใส่หน้าอกเขา
ตึง!
ท่าทางของจ้าวสำนักทื่อลง กลิ่นอายแห่งความตายผุดขึ้นมา เขาถูกหวังหลินกระแทกจนกระเด็นไป หวังหลินติดตามมาดุจเกาทัณฑ์และโยนกำปั้นใส่อีกครั้ง
ร้อยปีก่อน ฉากเหตุการณ์ศีรษะมนุษย์ลอยเข้าหาหวังหลินที่พยายามหลบหนีพลันปรากฏขึ้นในใจ! คราวนี้เขาไม่ได้ออกกำปั้นแต่เป็นอ้าปากและสูดหายใจเข้าไป!
“ตาย!” ร่างของจ้าวสำนักเต๋ามารเกิดการพังทลาย วิญญาณดั้งเดิมกรีดร้องพลางหลบหนี
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอารามแมงป่องเขียวและจิตใจอันยืนหยัด แววตาหวังหลินผุดจิตสังหารขึ้นมา
การกลืนกินครั้งนี้คล้ายกับเกิดเป็นพลังดึงดูดไร้ก้นบึ้ง วิญญาณดั้งเดิมของจ้าวสำนักเต๋ามารส่งเสียงโหยหวนอย่างสิ้นหวังก่อนตาย
“บรรพชน ช่วยด้วย!”
“ท่านผู้ส่งสาส์น ช่วยด้วย!!”
ผู้ส่งสาส์นที่กำลังถือราชโองการมีท่าทีเปลี่ยนไปมหาศาล เขากัดฟันแน่นและพุ่งลงมาเพื่อจะหยุดหวังหลินไม่ให้กลืนกินจ้าวสำนักเต๋ามารอีกครั้ง
“หวังหลิน หากเจ้าสังหารเขา ข้าไม่สามารถเปิดราชโองการได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะแบกรับไหว มันเป็นการต่อต้านอำนาจแห่งเหล่าเทพ เจ้าต้องการก่อกบฎทั้งเผ่าเทพเลยหรือ!?!”
นี่นับเป็นครั้งแรกที่ผู้ส่งสาส์นแห่งราชวงศ์ได้มาส่งราชโองการ เขาไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้ ในฐานะผู้ส่งสาส์นแล้วเขาเคยเจอเซียนทรงพลังมากมายในแคว้นกลาง แต่ไม่มีใครโอหังแบบหวังหลินจนกล้าสังหารคนต่อหน้าราชโองการเช่นนี้!!
“เจ้าตายแน่ หากเจ้าทำแบบนี้ เจ้าตายแน่!” ผู้ส่งสาส์นโกรธเกรี้ยวมากและร้องคำราม แสงสีทองเปล่งออกมาจากร่าง เปลี่ยนกลายเป็นประทับสีทองห่อหุ้มร่างกาย เขากระแทกเข้าใส่หวังหลินที่กำลังกลืนกินจ้าวสำนักเต๋ามาร!
วินาทีนี้วิญญาณของจ้าวสำนักเต๋ามารถูกหวังหลินดึงเข้ามาในระยะพันฟุตแล้ว เขาไม่สามารถเป็นอิสระได้และได้แต่ส่งเสียงโหยหวนอย่างสิ้นหวัง
การกระทำของผู้ส่งสาส์นได้ทำให้จ้าวสำนักเต๋ามารพยายามดิ้นรนอีกครั้ง หากต้องการรอดชีวิต จะต้องยืมพลังภายนอกเพื่อหลบหนี!
ประทับสีทองเข้าใกล้และล้อมรอบหวังหลินในทันที ขณะที่มันกำลังกระทบไป หวังหลินเผยแววตาเย็นเยียบ เขาหันกลับมาด้วยแววตาเปล่งประกายสีทองมหึมา!
แสงสีทองนี้มีเศษกระบี่ของบรรพชนเทพและมีพลังสะกดข่มฟ้าดิน วินาทีนี้พลังนั้นระเบิดออกมาจากแสงสีทองในดวงตาหวังหลิน
“ไปซะ! หากเจ้าพยายามหยุดข้าอีกครั้ง ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ตำแหน่งอะไร วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า!” ประทับสีทองปลดปล่อยเสียงคล้ายกำลังแตกสลายภายใต้สายตาหวังหลิน พลังที่มองไม่เห็นเข้ากระแทกใส่ประทับสีทองจนทำให้มันไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้
จิตใจของผู้ส่งสาส์นถึงกับสั่นสะเทือนตอนที่ได้สัมผัสพลังจากดวงตาหวังหลิน ท่าทีของเขาเปลี่ยนไป หนังศีรษะด้านชา ร่างกายสั่นจากพลังอำนาจนั้น!
สายตาแบบนี้ ความสูงส่งแบบนี้ พลังข่มเหงแบบนี้เป็นสิ่งที่เขาสัมผัสได้จากจักรพรรดิเทพเท่านั้น แม้หวังหลินจะเทียบกับจักรพรรดิเทพไม่ได้ แต่วินาทีนี้ผู้ส่งสาส์นรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเทพ!
ถึงไม่กล้าถอยก็ต้องยอมถอย จ้าวสำนักเต๋ามารเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอีกครั้ง เฝ้าดูวิญญาณดั้งเดิมถูกดึงเข้าไปในระยะสามร้อยฟุต พอเห็นว่ากำลังจะโดนกลืนกิน ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง!
“หากเจ้าต้องการสังหารข้า ก็จงถูกฝังไปกับข้าด้วยเลย! ท่านผู้ส่งสาส์น ข้ายอมรับราชโองการ ข้าอยากฟังราชโองการแม้ข้าจะตายก็ตาม!!” เขาไม่ได้เลือกระเบิดตัวเองแต่เลือกที่จะปล่อยให้ผู้ส่งสาส์นเปิดราชโองการ ซึ่งจะทำให้หวังหลินโดนลงโทษจากการสังหารเขา เขากำลังจะใช้ความตายของตัวเองให้หวังหลินทนทุกข์ในอนาคต!!
ขณะที่ส่งเสียงร้องออกไป วิญญาณดั้งเดิมอยู่ห่างจากหวังหลินไม่ถึงสิบฟุต มันเปลี่ยนกลายเป็นแสงน่ากลัวและกำลังโดนหวังหลินกลืนกิน
“มาตายด้วยกัน!”
ภารกิจของผู้ส่งสาส์นคือการถ่ายทอดราชโองการ ตอนนี้คนที่กำลังจะรับราชโองการได้บอกรับแล้ว เขาจึงเปิดออกมาโดยไม่ลังเล เอ่ยเสียงดังกึกก้องในเวลาเดียกวัน
“สายโลหิตเทพคงอยู่มาเนิ่นนานนับตั้งแต่ยุคโบราณ จ้าวสำนักเต๋ามารแห่งแคว้นมารเขียวกล้าท้าทายต่ออำนาจแห่งราชวงศ์ เขาวางแผนกับทาสรับใช้ของมารเขียวเข้าต่อต้านราชวงศ์ หากยังมีชีวิตอยู่จงทำลายเขาไปพร้อมกับสำนักเต๋ามารเบื้องหน้าราชโองการนี้!!”
“หากเขาตายและถูกสังหารจากคนชื่อหวังหลิน เช่นนั้นหวังหลินจงยอมรับราชโองการ จงมาที่แคว้นกลาง ข้ารู้เรื่องที่เจ้าช่วยต้าวเฟยแล้ว และข้ายังไม่ได้ตอบแทน!!”
ขณะที่ผู้ส่งสาส์นอ่านราชโองการ หน้าผากมีเหงื่อท่วม ก่อนที่เขาจะได้พบคนที่จะรับราชโองการ เขาไม่สามารถเปิดมันอ่านก่อนได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นราชโองการ หลังจากได้อ่านจึงเกิดความตกตะลึง
หากเขาเป็นแบบนี้คงไม่ต้องพูดถึงจ้าวสำนักเต๋ามาร หลังจากถูกหวังหลินกลืนกินไปหมด พอได้ยินราชโองการทั้งหมด ทัศนวิสัยก็มืดลง…
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น