Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1910-1911
ตอนที่ 1910
หายนะของสำนักเต๋ามาร!
โดย
Ink Stone_Fantasy
การกระทำของหวังหลินดูเหมือนวู่วาม แต่ด้วยระดับพลังของเขาตอนนี้สามารถทำทุกอย่างให้เสร็จได้ในพริบตา หวังหลินก้าวเดินเข้าหาสายหมอกด้วยท่าทีสงบนิ่ง และก้าวเข้าไปในค่ายกลโดยไม่หยุดชะงัก
วินาทีที่เขาเข้าสู่ค่ายกล เกิดเป็นเสียงอึกทึกดังกึกก้องและเข้าสู่สำนักเต๋ามาร
เซียนมากกว่าสามหมื่นคนกำลังบ่มเพาะ พอได้ยินเสียงดังกึกก้องจึงมีท่าทีเปลี่ยนไป พวกเขารีบทะยานออกมามองดูท้องฟ้า
หมอกในท้องฟ้าส่งเสียงดังสนั่นและคล้ายกับมีร่างเงา 18 ร่างล้อมรอบคนผู้หนึ่งเอาไว้ พวกเขาโจมตีจนเกิดเสียงดังสนั่น
“ศัตรูบุก!! เซียนขั้นที่สามทั้งหมด ตั้งค่ายกล!!” น้ำเสียงกระวนกระวายดังออกมาจากภูเขาทางทิศเหนือของสำนัก ไม่นานนักจึงมีก้อนเมฆสีแดงเข้ามาใกล้ที่นี่ ข้างในเป็นชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีแดง
เขาสะบัดแขนเสื้อในทันที ก้อนเมฆสีแดงรอบตัวทะยานเข้าสู่สายหมอกในท้องฟ้า
ขณะเดียวกันมีลำแสงหลายสิบสายทะยานออกมาจากสำนักเต๋ามาร ลำแสงทุกสายคือเซียนขั้นที่สาม
ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด หลังจากปรากฏตัวออกมาจึงเข้าไปในสายหมอกเพื่อจับจองพื้นที่ที่ในค่ายกลและป้องกันไม่ให้คนนอกเข้ามา
หลังจากนั้นไม่นานมีลำแสงสีทองโผล่ออกมาจากทางทิศใต้ของสำนักเต๋ามาร ลำแสงสีทองนี้เปลี่ยนกลายเป็นชายชราอยู่ด้านข้างชายชุดแดง เขามองดูท้องฟ้าอย่างมืดหม่นและเผยแววตาเย็นเยียบ!
“เจ้ากล้าทะลวงเข้ามาในค่ายกลป้องกันสำนักเต๋ามารของข้าเชียวหรือ? ข้าอยากเห็นว่าใครกันมันกล้าดีเดือดเช่นนี้!” จบคำพูดจึงพุ่งทะยานเข้าไปในสายหมอก
ภายในสายหมอก หวังหลินสวมชุดคลุมสีขาวและเดินออกไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เบื้องหน้ามีร่างสิบแปดร่างร้องคำรามพุ่งทะยานเข้าหาเขา แต่ละคนเปล่งกลิ่นอายน่าหวาดกลัว
หวังหลินเผยสายตาเย็นเยียบอยู่ใต้ชุดคลุม เขายกแขนขึ้นมาและสะบัด
“ผ่าสวรรค์!”
ท้องฟ้าสดใสเบื้องบนสำนักเต๋ามารปลดปล่อยเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
รอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในท้องฟ้า แขนยักษ์สองข้างเปิดรอยแยกและโผล่ออกมา แขนทั้งสองนี้มีขนาดใหญ่มากราวกับภูเขาหลายลูกรวมกัน หลังจากนั้นแขนจึงยื่นเข้าหาสายหมอกที่กำลังห่อหุ้มสำนักเต๋ามาร
เดิมทีหมอกนี้ไม่ได้เป็นรูปร่าง แต่หลังจากโดนทั้งสองแขนจับเอาไว้ สายหมอกจึงมีรูปร่างขึ้นมาและหยุดอยู่กับที่
สองแขนยักษ์คว้าจับและฉีกกระชากมันออกไปอย่างโหดเหี้ยม!!
เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณ สายหมอกถูกแบ่งออกเป็นครึ่งส่วนเบื้องบนสำนักเต๋ามาร!!!
สายหมอกถูกผลักออกจากกันทำให้แสงอาทิตย์ส่องกระทบสำนักเต๋ามารโดยไม่มีการป้องกันอะไรอีกแล้ว!
ฉากเหตุการณ์นี้เหล่าเซียนสามหมื่นคนของสำนักเต๋ามารเป็นสักขีพยาน ทั้งหมดจ้องมองอย่างตกตะลึง จิตใจสั่นสะท้านและหวาดกลัวสุดขีด
ตั้งแต่วันที่ค่ายกลถูกสร้างขึ้น ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครโจมตีเลย มันถูกทำลายก่อนหน้านี้มาแล้วหลายครั้งแต่ไม่เคยถูกทำลายด้วยวิธีการที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัวแบบนี้มาก่อน!!
นาทีที่ค่ายกลสายหมอกพังทลาย เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากลุ่มหมอกอีกสองกลุ่ม
เซียนขั้นที่สามหลายสิบคนที่เข้าไปในสายหมอกต่างก็พุ่งออกมาและกระอักโลหิต บางคนร่างกายระเบิดเป็นกองเนื้อ ซึ่งชี้ชัดแล้วว่าไม่สามารถต้านทานพลังของแขนยักษ์ทั้งสองได้!!
ยังมีชายชราชุดทองที่พุ่งเข้าไปในหมอก เขาหนีรอดออกมาได้ด้วยสภาวะย่ำแย่ สายตามองไปยังท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัว
เขารู้ว่าค่ายกลทรงพลังแค่ไหน ค่ายกลนี้สามารถป้องกันผู้สูงส่งชั้นทองได้เต็มกำลัง แต่ตอนนี้มันกลับพังทลายได้ง่ายๆจนเขาเกิดอาการสั่นสะท้าน
“เขา…ระดับบ่มเพาะอะไรกัน!?!”
ขณะที่แสงอาทิตย์ส่องกระทบลงมา ร่างชุดขาวยืนอยู่อย่างเงียบเชียบ สายตาเย็นเยียบซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมกำลังจ้องมองเหล่าเซียนนับสามหมื่นคนที่กำลังตกตะลึง!
ชายชราชุดทองถึงกับตัวสั่นเทาและร้องคำราม “เจ้า…ท่านเป็นใคร?! ทำไมถึงทะลวงเข้ามาในสำนักเต๋ามารและทำลายค่ายกลป้องกันสำนัก?”
“สำนักเต๋ามารของข้าเป็นหนึ่งในเก้าสำนักสิบสามกองกำลังของแผ่นดินทิศตะวันออก เรามีบรรพชนผู้สูงส่งชั้นฟ้า ท่านซ่อนใบหน้าและพุ่งเข้ามาที่นี่ ท่านมีความบาดหมางกับใครกันหรือ!?” นอกจากชายชราแล้ว ชายวัยกลางคนชุดแดงก็ยังจิตใจสั่นไหว แม้เขาจะเป็นเซียนขั้นวิบากดับสูญระดับปลาย แต่ก็ไม่สามารถทะลวงผ่านค่ายกลหมอกนี้ไปได้ อย่าว่าแต่ทำลายเลยด้วยซ้ำ!
หากทั้งสองคนมีอาการแบบนี้ คงไม่ต้องพูดถึงเหล่าเซียนขั้นที่สามนับสิบคนที่เกือบหนีไม่รอด พวกเขามองหวังหลินด้วยสายตาหวาดกลัว
เหล่าเซียนสามหมื่นคนของสำนักเต๋ามารดูเหมือนจะลืมหายใจไปแล้ว พวกเขาจ้องมองท้องฟ้า ร่างกายเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสั่นเทา
“เจ้าลืมข้าหรือ…แต่ข้ายังจำพวกเจ้าได้…” หวังหลินยืนอยู่ในท้องฟ้า กวาดสายตาผ่านฝูงชนด้านล่างก่อนจะส่งสายตาไปยังเกาะแห่งหนึ่งในทะเลสาบห่างออกไป
หลังจากหวังหลินเอ่ยขึ้นมา เขาสะบัดแขนปลดผ้าคลุมใบหน้า เผยให้เห็นเรือนผมสีขาวและใบหน้าเยือกเย็น
“ผ่านมาร้อยปีแล้ว พวกเจ้าน่าจะจำการไล่สังหารใกล้ชายแดนแคว้นเมิ่งตูได้ ตอนนี้จำข้าไม่ได้แล้วหรือ!?”
วินาทีที่หวังหลินปลดผ้าคลุม ชายชราชุดทองถึงกับมีแววตาไม่เชื่อ
“หวังหลิน!!!” เขาจำหวังหลินได้ทันที ใครจะไปลืมเรื่องการสังหารที่เกิดขึ้นในชายแดนของแคว้นเมิ่งตู สำนักเต๋ามารส่งเซียนออกไปจำนวนมากและส่วนใหญ่ถูกหวังหลินสังหาร ถ้าจ้าวสำนักไม่ลงมือในตอนท้าย การจะจับเขาได้คงเป็นเรื่องยากยิ่ง!
“นั่นเขา!!” ชายวัยกลางคนชุดแดงอ้าปากค้างและจำหวังหลินได้ทันที! ตอนนั้นเขาก็เข้าร่วมการไล่ล่าด้วยเช่นกัน เขาเห็นเต็มสองตาว่าหวังหลินทรงพลังแค่ไหนตอนที่บ้าคลั่ง เขาได้เห็นหวังหลินสังหารสหายร่วมสำนักและเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารอันมหึมาคู่นั้น
“หวังหลิน!! นั่นเขา!!”
“ไม่ใช่ว่าเขาถูกจ้าวสำนักจับตัวไปเมื่อร้อยปีก่อนและถูกส่งเข้าอารามแมงป่องแล้วหรือ!? เขาไม่ตาย?!”
“เป็นเขาจริงๆ ตอนนั้นที่ชายแดนแคว้นเมิ่งตู เขาสังหารจนโลหิตไหลเป็นสายน้ำ สำนักเต๋ามารส่งเซียนจำนวนมากออกไป แม้แต่จ้าวสำนักยังลงมือจับเขา!!”
มีเซียนขั้นที่สามอีกหลายสิบคนที่จดจำหวังหลินได้ เหล่าคนที่จำได้คือคนที่เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนั้น!
“ตอนนั้น ข้าบอกว่า…” หวังหลินถอนสายตาและยกแขนขวาขึ้นมา ความเจ็บปวดแล่นออกมาจากแขนและเปล่งกลิ่นอายหยินอันทรงพลัง!
“หากข้าหนีรอดไปได้…” หวังหลินพึมพำ ดาบหยินโผล่ปลายแหลมออกมาจากฝ่ามือ
“ข้าจะทำให้สำนักเต๋ามาร…” ดาบหยินยืดยาวออกมาอย่างรวดเร็ว มันยังไม่จบแค่นั้นและยังขยายออกไปเรื่อยๆ!
“หายไปจากแผ่นดินเซียนดารา ทั้งสำนักจะถูกทำลายและชื่อนี้จะต้องถูกลบออกไป!” ดาบหยินยาวเกือบสามสิบฟุต หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาให้แสงอาทิตย์ส่องกระทบใบดาบจนเปล่งแสงสีขาวเยือกเย็น พลังงานหยินมหึมาเข้าห่อหุ้มหวังหลิน!
หวังหลินพุ่งทะยานเข้าหาเหล่าเซียนด้านล่าง ความเร็วของเขามากกว่าประกายแสง หวังหลินไม่ได้ใช้วิชาอันใด เขาจะใช้ดาบเล่มนี้เพื่อกวาดล้างทั้งสำนัก!
เพื่อสร้างเป็นหอคอยศีรษะมนุษย์!
ชายชราชุดทองมีท่าทีเปลี่ยนไปครั้งใหญ่ เขารู้สึกถึงกลิ่นอายน่าหวาดกลัวออกมาจากร่างหวังหลินและเป็นความรู้สึกที่ทำให้เขาจิตใจสั่นไหว อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถถอยกลับไป ในฐานะเซียนขั้นวิบากดับสูญระดับปลายของสำนักเต๋ามาร เขาไม่สามารถหนีไปจากการต่อสู้นี้ได้!
วินาทีนั้นเขาส่งเสียงคำรามและพุ่งเข้าหาหวังหลินพร้อมกับชายวัยกลางคนชุดแดง ทั้งสองร่วมมือกันเพื่อต่อต้านหวังหลิน!
ด้วยความแข็งแกร่งของหวังหลินในปัจจุบัน เขาไม่จำเป็นต้องสวมเกราะวิญญาณก็คุกคามเซียนขั้นวิบากดับสูญระดับปลายได้แล้ว เพียงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ หวังหลินยกดาบหยินขึ้นมาฟันลงไป!
“ฆ่า!!” เสียงคำรามดังออกมาจากปาก!
“ฆ่า!!” ร่างแก่นแท้ห้าธาตุปรากฏขึ้นด้านหลังและยกดาบหยินขึ้นมาเช่นกัน เป็นครั้งแรกที่มันส่งเสียงคำรามแบบเดียวกับหวังหลิน!
“ฆ่า!!” ด้านหลังร่างแก่นแท้ห้าธาตุเป็นร่างแก่นแท้สายฟ้า ดาบหยินสายฟ้าถูกชูขึ้นในอากาศและส่งเสียงคำรามกึกก้องเป็นครั้งที่สาม!
เสียงคำรามทั้งสามร่างดังกึกก้องจนกลายเป็นคลื่นเสียงน่าตกตะลึง เสียงนี้เข้าไปแทนที่เสียงทุกอย่างในโลกและสั่นคลอนจิตใจของเซียนสำนักเต๋ามารทุกคน ทั้งยังทำให้ทุกคนรวมจุดสนใจมายังร่างใต้แสงอาทิตย์ทั้งสามร่างที่กำลังเข้ามาใกล้!!
ตอนที่ 1911
ศึกสุดท้ายระหว่างสองแคว้น
โดย
Ink Stone_Fantasy
ขณะที่หวังหลินทำลายค่ายกลของสำนักเต๋ามารและยกดาบหยินขึ้นมาอยู่นั้น สงครามในแคว้นกระทิงสวรรค์กำลังมาถึงจุดสำคัญ
สงครามที่กินเวลามากกว่าร้อยปี ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งลุกลามออกไปเรื่อยๆ พื้นที่หลายสิบล้านลี้กลายเป็นพื้นที่สงครามซึ่งส่วนใหญ่เป็นของแคว้นกระทิงสวรรค์
เหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวจำนวนมากข้ามผ่านทะเลโอสถอันว่างเปล่าและเข้าไปยังแคว้นกระทิงสวรรค์ภายใต้การนำของเซียนขั้นที่สามและผู้สูงส่งหลายคน ม่านพลังป้องกันของแคว้นกระทิงสวรรค์พังทลายไปหลายชั้นและถูกไล่สังหารจนถึงแกนกลาง
เหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวมีสองกองทัพ เข้าโอบล้อมสำนักกุ้ยยี่และสำนักมหาวิญญาณเพื่อต่อสู้ในศึกสุดท้าย!
บรรพชนผู้สูงส่งชั้นทองจำนวนสองในสามคนของแคว้นมารเขียวได้รวมกันอยู่ด้านนอกสำนักมหาวิญญาณ
ส่วนทางสำนักกุ้ยยี่ มีผู้สูงส่งหลายคนกำลังนำทัพเซียนจากแคว้นมารเขียวเข้าไล่สังหาร
การรบกินเวลามาร้อยปีแล้วแต่ความรุนแรงของมันเกินกว่าบันทึกในประวัติศาสตร์ เหล่าเซียนจากทั้งสองแคว้นล้วนตายไปนับไม่ถ้วน!
สูญเสียเซียนขั้นที่สาม สูญเสียผู้สูงส่ง และสูญเสียเซียนจำนวนมากมาย
อย่างไรก็ตามช่วงระหว่างสงครามทั้งสองแคว้น มีคนไร้ชื่อเสียงบางคนเปล่งประกายดุจดวงดาวและมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งสองแคว้น หรือคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วก็ยิ่งมีมากขึ้นในสงครามนี้
ทางฝั่งของแคว้นกระทิงสวรรค์ หยุนยี่เฟิงอยู่ในกลุ่มนั้น! เขาสังหารเซียนจากแคว้นมารเขียวจำนวนมาก บรรลุระดับบ่มเพาะอันสูงส่งด้วยวิชาแปดดาบผ่าวิญญาณจนเขามีชื่อเสียงโด่งดัง!
หลายเดือนก่อนเขาออกมาจากอารามแมงป่องและกลับสู่แคว้นกระทิงสวรรค์เพื่อเข้าร่วมในศึกสุดท้าย!
นอกจากเขาแล้วก็ยังมีถังเจียและขอบเมฆาที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นจากเกราะวิญญาณกระทิงสวรรค์!
หลายคนจากสำนักมหาวิญญาณมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นและกลายเป็นแสงเจิดจรัส!
แคว้นมารเขียวเองก็มีเซียนที่โด่งดังขึ้นเช่นเมฆาสูญสิ้นที่หวังหลินสังหารไปสองครั้ง ร่างกายดั้งเดิมของเขายังอยู่ในแคว้นกระทิงสวรรค์ ที่หวังหลินสังหารเป็นเพียงร่างอวตารเท่านั้น
การบ่มเพาะด้านกระบี่ของเมฆาสูญสิ้นช่างอัศจรรย์และทำให้ทุกคนสนใจ นอกจากเมฆาสูญสิ้นแล้วยังมีอีกหลายคนที่โด่งดังขึ้นมาในสงคราม ซึ่งมีเกือบยี่สิบคนที่เป็นหัวเรือหลักในสงคราม!
ราวกับเป้าหมายของสงครามครั้งนี้เพื่อเปล่งประกายเหล่าเซียนเกือบยี่สิบคนเหล่านี้!
สงครามดำเนินต่อไปรอบสำนักมหาวิญญาณและสำนักกุ้ยยี่ เซียนจำนวนสิบคนจากทั้งสองฝั่งปลดปล่อยระดับบ่มเพาะเต็มกำลังราวกับสนามรบคือสนามที่พวกเขาแสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์!
หวังหลินยังคงอยู่ในสำนักเต๋ามาร!
หวังหลินไม่ต้องการเผยตัวเอง เขาเพียงต้องการล้างแค้น แต่การจะทำเรื่องนี้ได้เขาจะต้องเผยแสงของตัวเองออกมา หากใครที่กำลังให้ความสนใจสงครามระหว่างสองแคว้น พวกนั้นคงจะไม่สนใจหวังหลินแน่นอน!
สิ่งที่หวังหลินกำลังทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่เหล่าสิบหกอัจฉริยะจะเทียบได้!
หวังหลินกระโจนขึ้นสู่อากาศ ยกดาบหยินขึ้นมา ด้านหลังมีร่างแก่นแท้ห้าธาตุและร่างแก่นแท้สายฟ้าต่างก็ยกดาบหยินขึ้นมาและฟาดฟันลงใส่เซียนทั้งสองที่กำลังเข้ามา!
ร่างทั้งสามเจิดจรัสอยู่ใต้ดวงอาทิตย์และเข้าประชิดกันในเสี้ยววินาที!
เสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์เข้ามาแทนที่เสียงทุกอย่างในอาณาบริเวณ ดูดกลืนความสนใจของเซียนทั้งสามหมื่นคนด้านล่าง ราวกับเวลาได้หยุดชะงักไปในตอนนี้!
การต่อสู้ครั้งนี้จะทำให้หวังหลินมีชื่อเสียงโด่งดังบนแผ่นดินเซียนดารา ทำให้ชื่อหวังหลินถูกขับขานบนแผ่นดินเซียนดารา!!
ต่อสู้กับผู้สูงส่งขั้นวิบากดับสูญทั้งสองคนด้วยตัวคนเดียวก็มากพอให้ทุกคนตกตะลึงแล้ว! พวกเขายังเป็นผู้สูงส่งที่แท้จริงและถึงแม้อาจจะไม่ได้เป็นผู้สูงส่งชั้นทองแต่ก็ยังน่าหวาดหวั่นจนทุกคนใฝ่ฝัน!!
หนึ่งในสองคนนี้ไม่ว่าคนใดก็ทรงพลังยิ่งกว่าราชันย์เทพสีรุ้งไปแล้ว พวกเขาสามารถสังหารราชันย์เทพสีรุ้งได้ง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
วันนี้ทั้งสองกำลังโจมตีพร้อมกัน เช่นนั้นการต่อสู้นี้จะไม่ทำให้ทุกคนตกตะลึงได้อย่างไร?
ดาบหยินตวัดลงและฟันใส่ชายชราชุดทองในพริบตา พลังหยินปกคลุมดาบเข้าปะทะในทันที!
ชายชราชุดทองส่งเสียงคำราม ฝ่ามือสร้างผนึกและโยนสมบัติทั้งหมดออกไป สมบัติเหล่านี้เปล่งกลิ่นอายทรงพลัง ขณะเดียวกันเขาได้กัดปลายลิ่นพ่นโลหิตออกมา ร่ายวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีในฐานะเซียนขั้นวิบากดับสูญ!
“เต๋าโลหะทองคำ!” สิ้นเสียงคำราม แสงสีทองห่อหุ้มรอบตัวก่อเกิดเป็นม่านพลังป้องกัน เขาดูเหมือนเทพสงครามที่ทุกคนต้องเคารพ!!
“สุดยอดพลังมาร!” เสียงคำรามครั้งที่สองดังออกมาจากแสงสีทอง เกิดเป็นควันสีดำเข้าห่อหุ้มแสงและกลายเป็นเทพมารขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น
เทพมารตนนี้ดูดุร้ายและสวมเกราะสีดำเปล่งกลิ่นอายทำลายล้างราวกับสามารถทำลายโลกได้ทั้งใบ มันกำหมัดขึ้นมาจนส่งเสียงดังปะทุและปะทะกับดาบหยินของหวังหลิน
ดาบหยินของหวังหลินบรรจุระดับบ่มเพาะทั้งหมดของเขาเอาไว้ด้วย ดังนั้นมันจึงผ่ากำปั้นของเทพมารราวกับกำลังตัดกระดาษ
ดาบตัดผ่านสมบัติทั้งหมดโดยไม่มีการต่อต้าน ผ่าแขนของเทพมาร ผ่าร่างของเทพมาร ร่อนลงใส่ร่างสีทองของชายชรา!
แสงสีทองสั่นเทา ชายชราข้างในกระอักโลหิต ใบหน้าซีดเผือดและกวาดกลัวสุดขีด เทพมารรอบร่างเขาถูกดาบของหวังหลินผ่าครึ่งโดยไม่สามารถต่อต้านได้เลย!
เทพมารแตกสลาย แสงสีทองสั่นสะท้าน ร่างแก่นแท้ห้าธาตุของหวังหลินเข้ามาประชิดพร้อมดาบหยินและฟันลงใส่แสงสีทองรอบตัวชายชรา
แสงสีทองสั่นไหวและระเบิดเป็นเสียงกระจกแตกละเอียด แสงกระจัดกระจายเป็นเศษเสี้ยวนับไม่ถ้วน เผยร่างชายชราที่ข้างในที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ความหวาดกลัวและหวั่นเกรงในแววตาของชายชราถูกดาบหยินสายฟ้าเข้ามาแทนที่ ร่างแก่นแท้สายฟ้าของหวังลินฟาดฟันลงไป!
กระบวนท่านี้ดาบหยินสายฟ้าเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ พาดผ่านลำคอของชายชรา ศีรษะถูกตัดขาดพร้อมกับโลหิตสาดกระจาย วิญญาณดั้งเดิมแตกสลายไปทันที!
ผู้สูงส่งวิบากดับสูญตายไปหนึ่งคน!
เหตุการณ์ทั้งหมดรวดเร็วเกินกว่าที่ศิษย์ทั้งสามหมื่นของสำนักเต๋ามารจะตอบสนองได้ทัน ผู้อาวุโสที่พวกเขาเคารพ ผู้มีพลังสูงเสียดฟ้า ได้ถูกตัดศีรษะ ร่างกายแตกสลายเป็นหมอกโลหิต!
วินาทีที่ชายชราเสียชีวิต ชายชุดแดงได้เข้ามาใกล้ ใบหน้าเขาซีดเผือดและหรี่ตาแคบ เขาหวาดกลัวสุดขีดและถอยหนีอย่างบ้าคลั่งโดยไม่ลังเล คราวนี้เขาไม่สนเรื่องสำนักเต๋ามารอีกแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของตัวเอง!
อย่างไรก็ตามจะมาคิดหนีเอาตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว! ความจริงตอนที่หวังหลินผ่าเปิดค่ายกลป้องกันสำนัก การคิดหนีไม่ใช่ตัวเลือกของเซียนที่นี่อีกต่อไป!
หวังหลินหันกลับมา ดวงตาระเบิดแสงสีทองแพรวพราว แสงสีทองนี้มาจากเศษกระบี่ของบรรพชนเทพ แสงสีทองพุ่งทะลุทะลวงเข้าหาชายชุดแดงที่กำลังหนี
แม้ชายชุดแดงจะเป็นถึงผู้สูงส่งวิบากดับสูญ เขาก็ยังถูกดวงตาของหวังหลินสะกดข่ม!
ชายชุดแดงจิตใจสั่นเทาราวกับกระบี่แทงทะลุถึงหัวใจ ขณะเดียวกันหวังหลินได้ยกแขนซ้ายและโบกสะบัด
ท้องฟ้าของสำนักเต๋ามารถึงกับมืดหม่น ฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งปรากฏขึ้นในท้องฟ้าและกระแทกลงมาหายังผืนปฐพี
ฝ่ามือนี้มีถึงเก้านิ้ว!!
เหตุการณ์ถึงกับทำชายชุดแดงต้องส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน เขาหลบหนีอย่างบ้าคลั่งพลางสร้างผนึกและใช้วิชาทุกอย่างที่นึกออก
ขณะเดียวกันเหล่าเซียนสามหมื่นคนด้านล่างต่างก็แตกกระเจิงและหลบหนีเงาฝ่ามือ ทว่าฝ่ามือเก้านิ้วนี้กลับปกคลุมสถานที่เกือบทุกแห่งของสำนักเต๋ามาร!
มันไม่ได้มีแค่ฝ่ามือเดียว ฝ่ามือยักษ์อีกสองข้างตามกันมาติดๆ หนึ่งนั้นมาจากร่างแก่นแท้ห้าธาตุ ส่วนอีกหนึ่งมาจากร่างแก่นแท้สายฟ้า ประทับฝ่ามือทั้งสามเต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้างและเข้าใกล้ชายชุดแดง!
ร่างชายชุดแดงพลันห่อหุ้มตัวเองด้วยหมอกสีแดงจำนวนมาก หมอกนี้เปลี่ยนกลายเป็นฝ่ามือยักษ์สองข้างและยกขึ้นราวกับกำลังค้ำจุนท้องฟ้า!!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น