War sovereign Soaring The Heavens 3166-3169

ตอนที่ 3166
 
การชิงป้ายหยกสะสมคะแนนมาได้แบบนี้ หมายความว่าหลิวจี๋ไม่อาจทำลายป้ายหยกเพื่อเปิดใช้อาคมส่งตัวออกไปนอกแดนสวรรค์ใต้โบราณได้อีกต่อไป หากจะออกไปด้านนอกก็จำต้องเดินทางกลับไปยังค่ายคฤหาสน์อมตะของตัวเองและเปิดใช้ค่ายกลเท่านั้น…
 
อย่างไรก็ตามหลิวจี๋ตระหนักดี ว่าลำพังแค่ต้วนหลิงเทียนใช้ความลึกซึ้งกักกันกับพลังผีสางบางอย่าง มันก็ไม่มีปัญญาทำลายแล้ว เรื่องจะรอดไปถึงค่ายคฤหาสน์หานชิง เกรงว่าคงทำได้แค่ฝันไปเท่านั้น…
 
ยิ่งไปกว่านั้นต้วนหลิงเทียนก็ร่วมมือกับหว่านชิงชิง ต่อให้อีกฝ่ายจะไม่ขังมันด้วยพลังมิติ มันก็ไม่มีปัญญาหนีไปไหนได้
 
ถึงแม้ความเร็วมันจะสูง แต่ก็มิสูงสู้หว่านชิงชิง!!
 
ซูว!
 
ด้วยเหตุนี้ หลังพบว่าหว่านชิงชิงแย่งป้ายไปแล้ว สีหน้าหลิวจี๋จึงเปลี่ยนไปใหญ่หลวง เสมือนมีไอเย็นแล่นวาบจากปลายเท้าจรดศีรษะ ร่างสะท้านสั่นไปอย่างแรงด้วยความหวาดกลัวจับใจ
 
“ข้าขอแนะนำอะไรเจ้าสักอย่าง…”
 
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองหลิวจี๋ด้วยสายตาเฉยเมย เอ่ยออกเสียงเรียบ “หากชาติหน้ามีจริง ตอนเจ้าคิดจะแก้แค้นใคร…เจ้าสมควรไปหาข้อมูล ‘ศัตรู’ ให้ดีก่อนลงมือ ไม่งั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องแก้แค้น ข้ากลัวเจ้าจะตายโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ…”
 
พอต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ มุมปากก็ยกยิ้มแสยะเยียบเย็น
 
ซัว!!
 
คมมีดมิติสีเทาพุ่งไปฉับไวปานสายฟ้า ปลิดปลงศีรษะหลิวจี๋ที่สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พรากหนึ่งชีวิตของมันไป ทั้งๆที่มันกำลังคิดถึงเรื่องคุกเข่าเพื่อร้องขอความเมตตาอยู่ด้วยซ้ำ…
 
ศีรษะหลิวจี๋ที่ปลิวกระเด็น สองตาของมันเบิกโพลงไปด้วยความหวาดกลัว ปากอ้าออกคล้ายอยากจะพูดอะไรบางอย่าง น่าเสียดายที่คำๆนั้น ไม่อาจเอื้อนเอ่ยได้ตลอดกาล…
 
เมื่อเห็นว่าหลิวจี๋ถูกฆ่าตาย หว่านชิงชิงก็รีบซัดป้ายหยกสะสมคะแนนของหลิวจี๋ในมือไปทางต้วนหลิงเทียนทันที ยังถอยร่างตัวเองออกไปเผื่อไว้อีกด้วย
 
ครู่ต่อมาเมื่อป้ายหยกสะสมคะแนนของหลิวจี๋สลายเป็นธุลี คะแนนในนั้นก็ถูกถ่ายโอนมาให้ต้วนหลิงเทียน
 
“หืม? หลิวจี๋มันมีคะแนนสะสม 60 กว่าแต้มเชียว?”
 
หลังฆ่าหลิวจี๋แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ตรวจสอบคะแนนสะสมในป้ายหยกตัวเอง จึงพบว่าคะแนนของเขาเพิ่มขึ้นมาเป็น 387 แต้ม!
 
เห็นได้ชัดว่าเขาได้คะแนนสะสมจากหลิวเจี๋ยมาถึง 65 แต้ม
 
เพราะเดิมทีเขามีคะแนนสะสมแค่ 322 แต้มเท่านั้น
 
‘หลิวจี๋ผู้นี้ สวรรค์มีทางไม่ยอมเดิน นรกไร้ประตูดันทุรังมุดมาจริงๆ…’
 
หว่านชิงชิงที่มองศพหลิวจี๋ร่วงตกจากฟากฟ้า ลอบกล่าวในใจด้วยความรู้สึกเวทนา…
 
ตลอดทางที่นางร่วมมือกับต้วนหลิงเทียน ทุกคนที่พบเจอนั้น ต้วนหลิงเทียนกับนางไม่ได้เข่นฆ่าใครเลย
 
นอกจากนั้นตอนที่ต้วนหลิงเทียนไปดักหน้าค่ายคฤหาสน์หั่วหลี ก็ไม่ได้ฆ่าใครไปสักคน บ่งบอกให้รู้ว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ฆาตกรฆ่าคนไม่เลือกหน้า
 
ถึงคราวนี้ต้วนหลิงเทียนจะลงมือฆ่าคน แต่นางก็เข้าใจได้ว่าทำไม
 
กระทั่งยังรู้กระจ่างใจดี
 
ว่าวันนี้หากพลังของหลิวจี๋กล้าแข็งเหนือกว่าต้วนหลิงเทียน อีกฝ่ายต้องลงมือกับต้วนหลิงเทียนถึงตายแน่
 
“ไปต่อเถอะ”
 
หลังสะบัดมือเก็บแหวนพื้นที่ของหลิวจี๋มาแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หันไปทักหว่านชิงชิงและชวนอีกฝ่ายออกเดินทางต่อทันที
 
จนถึงตอนนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ได้ใช้เวลาในแดนสวรรค์ใต้โบราณไปทั้งสิ้น 10 วันแล้ว ด้านหว่านชิงชิงก็ปาเข้าไปเกือบ 7 วัน
 
‘หวังว่าก่อนที่หว่านชิงชิงจะถึงกำหนดเวลาต้องออกไป…ข้าจะเจอใครในบรรดา 6 คนนั่น’
 
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจอย่างวาดหวัง
 
ในอีก 3 วันหลังจากนี้ หว่านชิงชิงจะถูกอาคมเคลื่อนย้ายส่งตัวออกจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางแห่งนี้โดยอัตโนมัติ พอถึงตอนนั้นเขาที่ไม่มีหว่านชิงชิงคอยสนับสนุน เกรงว่าถึงเจอ 6 อันดับแรกนั่น ก็คงยากจะจัดการพวกมันได้
 
“ต้วนหลิงเทียน”
 
หลังเหินร่างเดินทางออกมาได้ไม่นาน หว่านชิงชิงก็หันไปมองกล่าวเตือนต้วนหลิงเทียน “ถึงแม้หลิวจี๋จะไม่มีผู้ใดในคฤหาสน์หานชิงคบ…แต่อย่างไรมันก็เป็นศิษย์ฝ่ายในที่มีฝีมือดีคนหนึ่ง คฤหาสน์หานชิงอาจไม่ปล่อยวางเรื่องนี้ง่ายๆ”
 
“ข้าต้วนหลิงเทียนทำอะไร ขอเพียงไม่ผิดต่อใจ ข้าไม่คิดกังวลอะไรทั้งนั้น”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
 
แต่ต้นจนจบเขาไม่หวั่นไหวใดๆทั้งสิ้น ราวกับคฤหาสน์หานชิง ก็ไม่ต่างอะไรจากเสือกระดาษสำหรับเขา
 
หว่านชิงชิงเองก็เห็นได้ชัดเจนว่าต้วนหลิงเทียนไม่กังวลเรื่องนี้จริงๆ ไม่ใช่แค่เสแสร้งทำเป็นนิ่งไปอย่างนั้น
 
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนในสายตาของนาง แลดูสูงส่งทั้งองอาจขึ้นหลายส่วน
 
ในเวลาเดียวกัน
 
บริเวณใกล้ๆจุดตั้งค่ายกลเคลื่อนย้ายของคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งหลาย ทุกคนที่ให้ความสนใจกับความเปลี่ยนแปลงของตารางจัดอันดับแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง ล้วนพบเห็นได้ทันที
 
ว่าต้วนหลิงเทียนที่ร่วมมือกับหว่านชิงชิงและสมควรมอบคะแนนให้หว่านชิงชิงมาสักพักแล้วนั้น อยู่ดีๆจากอันดับที่ 8 ก็พุ่งกลับมาอยู่ในอันดับที่ 7 ดังเดิม!
 
“หืม? อยู่ๆไฉนคะแนนสะสมของต้วนหลิงเทียนพุ่งขึ้นสูงยิ่ง…65 แต้มรึ? มันจัดการใครไปกัน?”
 
“65 แต้ม…หากจำไม่ผิดล่ะก็…นั่นไง! ชัดเจน! พวกเจ้าดูเร็วชื่อของหลิวจี๋หายไปแล้ว!!”
 
“หลิวจี๋? หลิวจี๋อีกแล้วรึ?!”
 
“นั่นสิ…หากข้าจำไม่ผิดเดือนก่อนหลิวจี๋ก็โดนต้วนหลิงเทียนกำจัดออกมาไม่ใช่รึไง?”
 
“ใช่! เดือนก่อนหลิวจี๋โดนต้วนหลิงเทียนจัดการออกมาจริงๆ! เจ้าหลิวจี๋ผู้นี้จะไม่ดวงซวยไปหน่อยรึไง? เจอใครไม่เจอดันไปเจอต้วนหลิงเทียนคนเดิม แถมเพิ่มเติมคือมีหว่านชิงชิงร่วมมือด้วยเสียอย่างนั้น!”
 

 
เรื่องที่หลิวจี๋โดนต้วนหลิงเทียนจัดการออกมาเมื่อเดือนก่อน หลายคนก็ได้ยินมาบ้าง และยังรู้อีกด้วยว่าหลิวจี๋พอโดนจัดการออกมาก็โวยวายไม่ยอมรับ และบอกว่าทั้งหมดเพราะมันประมาทจึงต้วนหลิงเทียนโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว
 
กระทั่งหลิวจี๋ยังลั่นวาจาไว้ว่า เดือนหน้าหากเจอต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง มันจะจัดการต้วนหลิงเทียนเพื่อล้างตา!
 
และเดือนนี้หลิวจี๋ก็ได้เจอกับต้วนหลิงเทียนสมใจหวังจริงๆ
 
อนิจจาจุดจบยังคงเดิมเหมือนเมื่อเดือนก่อน…หลิวจี๋โดนต้วนหลิงเทียนจัดการอีกแล้ว
 
“เฮ่ สหายข้าที่คฤหาสน์หานชิพึ่ติดต่อมาแน่ะ…คราวนี้หลิวจี๋ไม่ใช่แค่โดนต้วนหลิงเทียนกำจัดออกมาเท่านั้นนะ แต่มันยังถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าด้วย!”
 
ไม่นานข่าวเรื่องที่หลิวจี๋ถูกฆ่าตายก็เริ่มแพร่กระจายออกมาจากคฤหาสน์หานชิง
 
และมันก็เป็นคนที่ 2 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง ที่ถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตาย!
 
“หากข้าจำไม่ผิด…ดูเหมือนตอนที่ต้วนหลิงเทียนไปดักหน้าค่ายคฤหาสน์อู่จ้านก็ดี หรือดักหน้าค่ายคฤหาสน์หั่วหลีก็ดี ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ฆ่าผู้ใดเลยใช่หรือไม่?”
 
“ใช่ ไม่ได้ฆ่าผู้ใดเลย…กล่าวได้ว่าก่อนหลิวจี๋ ต้วนหลิงเทียนเข่นฆ่าไปแค่คนเดียวเท่านั้น…แต่เจ้านั้นมันเป็นคนของคฤหาสน์ปี้ชิง อย่างที่รู้ๆกันว่าคนของคฤหาสน์ปี้ชิงกับคนของคฤหาสน์เฉวียนโยวเป็นดั่งน้ำกับไฟ เจอกันในแดนสวรรค์ใต้โบราณเมื่อไหร่ก็จ้องจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง…”
 
“เท่าที่ฟังมาเดือนที่แล้วหลังหลิวจี๋ถูกต้วนหลิงเทียนกำจัดออกไป มันก็แลดูไม่พอใจทั้งแค้นเคืองต้วนหลิงเทียนไม่น้อย มันสมควรเห็นต้วนหลิงเทียนเป็นศัตรู…กระทั่งเป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้!”
 
“เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนอีกรึไง เดือนก่อนต้วนหลิงเทียนแค่กำจัดมันออกมาแต่ไม่ได้ฆ่ามัน แต่เดือนนี้กลับลงมือฆ่าคน…หากไม่ใช่เพราะมันคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนก่อน ต้วนหลิงเทียนจะฆ่ามันทำไม?”
 

 
ถึงแม้คนในคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ต่างๆจะไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับต้วนหลิงเทียนเป็นการส่วนตัว แต่อาศัยการกระทำที่ผ่านมาทั้งหมดของต้วนหลิงเทียน พวกมันก็มองออกได้ไม่ยากว่าต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าคนไม่เลือกหน้า
 
กระทั่งคนของคฤหาสน์หานชิงเอง ยังคิดแบบนี้ด้วยซ้ำ!
 
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็เข่นฆ่า หลิวจี๋ ซึ่งเป็นคนของคฤหาสน์หานชิงพวกมัน หมายความว่าตอนนี้มีเส้นหนึ่งได้ขีดแบ่งเอาไว้แล้ว วันหน้าหากพบเจอกันไม่ว่าจะที่ไหน แม้จะไม่ถึงขั้นต้องล้างแค้นเอาคืน แต่อย่างน้อยๆก็ไม่อาจคุยด้วยใบหน้าแย้มยิ้มมากอัธยาศัยแน่นอน
 
เวลาค่อยๆไหลผ่านไปไม่หยุดยั้ง อันดับและคะแนนสะสมในตารางจัดอันดับเองก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย
 
กระทั่งรายชื่อใน 10 อันดับแรก อย่างอันดับที่ 9 และ 10 ก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง…จะมีก็แต่ 8 รายชื่อแรกเท่านั้นที่ยังไม่บังเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไร ราวกับจะหยั่งรากลงเช่นนี้แล้ว
 
ต้วนหลิงเทียนยังคงอยู่อันดับที่ 7
 
และหว่านชิงชิงก็ยังคงอยู่อันดับที่ 8
 
คะแนนของทั้งคู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามเวลา ถึงแม้อัตราการเพิ่มจะค่อนข้างเชื่องช้า ทว่ายังมีระยะห่างระหว่างอันดับหลังชัดเจน
 
ตอนนี้อันดับที่ 8 กับ 9 ได้ห่างกันถึง 100 กว่าแต้ม ประหนึ่งอยู่กันคนละคุ้งน้ำ
 
และความต่างระหว่างอันดับที่ 6 กับ 7 ก็ต่างกันเกือบ 200 แต้ม ซึ่งเป็นดั่งคนละเวิ้งน้ำเช่นกัน
 
“ต้วนหลิงเทียน อันดับของเจ้ากับคนข้างหน้ามันยิ่งมายิ่งต่างแล้ว…ข้าเองก็อยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางได้อีกแค่วันเดียวเท่านั้น หากพวกเราไม่เจอคนที่อยู่ในอันดับสูงๆของตาราง ข้าเกรงว่าคงยากที่เจ้าจะไล่ตามพวกมันได้ทัน”
 
หว่านชิงชิงกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
 
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าหลิวจี๋ไป วันเวลาได้ล่วงเลยไปอีก 2 วันแล้ว…และตอนนี้หว่านชิงชิงก็ใช้เวลาอยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณมา 9 วันแล้วด้วย!
 
อีก 1 วัน ต่อให้นางจะไม่ถูกกำจัดหรือออกไปเอง นางก็จะต้องถูกส่งตัวออกไปโดยอัตโนมัติอยู่ดี
 
ถึงแม้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมานางกับต้วนหลิงเทียนจะได้พบเจอคนอื่นๆอยู่บ้าง
 
ทว่าคนเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในอันดับต้นๆของตารางจัดอันดับเลย ไม่แม้แต่จะมีใครติดอยู่ใน 50 อันดับแรกด้วยซ้ำ…
 
“ตอนนี้คะแนนสะสมของเจ้าต่างจากอันดับที่ 6 อยู่ 196 แต้ม…”
 
เนื่องจากมีคนคอยส่งข้อมูลรายงานสถานการณ์มาให้หว่านชิงชิงรับทราบอย่างสม่ำเสมอ ทำให้หว่านชิงชิงล่วงรู้ว่าใครมีอันดับเหนือต้วนหลิงเทียน รวมถึงความต่างของคะแนนสะสมด้วย
 
“196 แต้มเชียวหรือ?”
 
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว
 
หลังจากตระเวนหาคนมา 2 วัน คะแนนของเขาจาก 380 กว่าแต้มก็เพิ่มมาเป็น 435 แต้มเท่านั้น…
 
แต่กระนั้นเขายังมีคะแนนต่างจากอันดับที่ 6 เกือบ 200 แต้ม? พวกมันไปทุบตีกำจัดผู้ใดนักหนา ไฉนหาคนเก่งกันนัก?
 
“อย่างไรก็ตามถึงเจ้าจะคะแนนห่างจากอันดับ 6 มาก…แต่ทว่าอันดับ 6 กับอันดับ 5 รวมถึงอีก 4 คนที่เหลือก็ไม่ได้ห่างอะไรกันมากนัก เรียกว่ากระทั่งอันดับ 1 ก็ห่างจากเจ้าแค่ 260 แต้มเท่านั้น”
 
“และ 6 อันดับแรกก็มักจะมีสถานการณ์เช่นนี้เสมอ…ยังเป็นมาหลายปีแล้วด้วย กล่าวได้ว่าในบรรดา 6 คนนั่น ผู้ใดจะได้เป็นอันดับ 1 หรืออันดับที่ 6 ซึ่งถือว่าเป็นอันดับสุดท้ายของพวกมัน ล้วนขึ้นอยู่กับดวงทั้งสิ้น…”
 
หว่านชิงชิงกล่าว
 
“ข้าต่างจากอันดับที่ 6 อยู่ 196 แต้ม? แต่ต่างจากอันดับที่ 1 แค่ 260 แต้ม?”
 
สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองขึ้นวาบหนึ่ง
 
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไปได้ไกลกว่านี้หรือไม่ ก็ล้วนขึ้นอยู่กับโชคอย่างเดียวแล้ว…
 
หากโชคร้ายไม่พบเจอคนที่มีคะแนนสูงๆเลย สุดท้ายเขาก็คงหยุดอยู่ที่อันดับ 7 เท่านั้น
 
“หว่านชิงชิง?”
 
ทว่าในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิงกำลังเหินร่างข้ามเนินเขาแห่งหนึ่ง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นแต่ไกล ฟังแล้วยังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “ถ้าอย่างนั้น…เจ้าก็คือต้วนหลิงเทียนสินะ?”
 
ได้ยินเสียงทักดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิงก็หยุดลง และหันไปมองต้นเสียงทันที
 
ที่นั่นปรากฏร่างหนึ่งกำลังเหินเข้ามาอย่างไม่รีบไม่ร้อน…
 
“ดูเหมือนว่าโชคของพวกเราค่อนข้างดีทีเดียว…ที่เจ้าเห็นก็คือศิษย์หลักของคฤหาสน์หงเอี้ย ซีเหมินฮ่าวซวน!”
 
ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งจะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเท่านั้น เสียงผ่านพลังของหว่านชิงชิงก็ดังขึ้นในหูเขาพอดี!
 
 
 
ตอนที่ 3167
 
ร่างที่พึ่งเหินขึ้นมาจากด้านหลังเนินเขา และมาหยุดลงเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิง ก็กำลังมองสำรวจต้วนหลิงเทียนด้วยความสนใจ
 
ขณะเดียวกัน ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายแผ่สำนึกเทวะออกมากวาดผ่านเขาวาบหนึ่ง ก่อนจะรั้งกลับไปเร็วไว
 
“อายุไม่ถึง 100 ปีจริงๆ…ต้วนหลิงเทียน นี่เจ้าเป็นคนของแดนสวรรค์ใต้จริงๆหรือ?”
 
ชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดจอมยุทธ์สีครามอุทานด้วยความตกใจคราหนึ่ง จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามต้วนหลิงเทียนด้วยความสงสัย
 
“ก็ทำนองนั้น”
 
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยตอบ
 
“ทำนองนั้น?”
 
ชายหนุ่มในชุดจอมยุทธ์สีครามหน้าตาหล่อเหลาผู้นี้ ก็คือศิษย์หลักมือดีของคฤหาสน์หงเอี้ย ซีเหมินฮ่าวซวน เมื่อได้ยินคำตอบคลุมเครือของต้วนหลิงเทียน มันก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
 
ลึกลงไปในแววตา เริ่มฉายให้เห็นสีสันแห่งความอยากรู้ชัดขึ้นเรื่อยๆ
 
“เจ้าตอบให้ละเอียดหน่อยไม่ได้หรือ?”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนเอ่ยถามอย่างจริงจัง
 
“จะให้ข้าตอบอย่างละเอียดก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้…แค่เจ้าทำลายป้ายหยกสะสมคะแนนนั่นเพื่อออกไปก่อน จากนั้นเจ้าก็แค่เดินทางมาหาข้าที่คฤหาสน์เฉวียนโยว แล้วข้าจะเล่าให้เจ้าฟังอย่างละเอียด เป็นไง?”
 
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มอ่อนๆ
 
“นั่นเป็นไปไม่ได้!”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนส่ายหัวไปมาทันที กล่าวตอบอย่างไร้ลังเล “หากเจ้าอยากได้คะแนนสะสมของข้า ก็ต้องดูว่าเจ้ากับหว่านชิงชิงร่วมมือกันแล้วมีพลังสามารถมากพอหรือไม่”
 
ต้วนหลิงเทียนก็แค่ถามออกไปอย่างนั้น เพราะเขารู้ดีว่าซีเหมินฮ่าวซวนไม่มีทางมอบคะแนนสะสมที่ลำบากหามาหลายวันให้เขา เพียงเพราะอยากรู้เรื่องแค่นี้หรอก
 
ดังนั้นพอซีเหมินฮ่าวซวนกล่าวประโยคนี้จบ บรรยากาศก็เริ่มตึงขึ้นเล็กน้อย
 
“ต้วนหลิงเทียน ซีเหมินฮ่าวซวนคนนี้มิได้เชี่ยวชาญกฏแห่งธาตุทั้ง 5 รวมถึงมิใช่กฏน้ำแข็ง สายฟ้า หรือกฏใดๆที่แตกมาจากธาตุทั้ง 5…แน่นอนว่ายังมิใช่กฏสูงสุดทั้ง 4 ประการ”
 
ในขณะที่บรรยกาศเริ่มตึงเครียดขึ้น ก็พอดีกับที่เสียงผ่านพลังของหว่านชิงชิงดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียน
 
“กฏทำลายล้าง?”
 
ได้ยินวาจาผ่านพลังดังกล่าวของหว่านชิงชิง ต้วนหลิงเทียนก็เดาได้ทันทีว่ากฏที่ซีเหมินฮ่าวซวนเชี่ยวชาญ ไม่พ้นต้องเป็นกฏทำลายล้างแน่นอน! เพราะนอกเหนือจากฏแห่งธาตุทั้ง 5 และกฏที่แตกออกมาจากธาตุทั้ง 5 รวมกับกฏสูงสุดทั้ง 4 ประการแล้ว ก็เหลือแค่กฏทำลายล้างเท่านั้น!!
 
กฏทำลายล้าง นับเป็นกฏที่พิเศษมาก
 
มันไม่ได้เกิดขึ้นจากธาตุทั้ง 5 และไม่ใช่กฏสูงสุด 4 ประการ
 
ไม่เหมือนกฏแห่งธาตุทั้ง 5 รวมถึงมีกฏแห่งธาตุทั้ง 5 เป็นฐาน ที่สามารถทำความเข้าใจผ่านวรยุทธ์อมตะและเวทย์พลังได้ มันจำเป็นต้องบังเกิดความตระหนักรู้ด้วยตัวเอง! อย่างไรก็ตามความเร็วในการทำความเข้าใจยังเหนือกว่ากฏสูงสุดทั้ง 4 ประการมาก!!
 
กระทั่งไม่ช้าไปกว่าการทำความเข้าใจกฏแห่งธาตุทั้ง 5 และธาตุอื่นๆเลย
 
ยิ่งไปกว่านั้น ในแง่พลังอานุภาพแล้ว มันถือว่าทรงพลังกว่ากฏแห่งธาตุทั้ง 5 อยู่บ้าง แต่ก็พอๆกับกฏน้ำแข็งและกฏสายฟ้า เรียกว่านอกจากฏสูงสุดแล้ว มีแค่กฏที่พัฒนามาจาก 5 ธาตุเท่านั้นที่เทียบได้
 
อย่างที่ทุกคนก็รู้กันดี
 
กฏสายฟ้ากับกฏน้ำแข็งนั้น ถึงจะไม่ใช่กฏแห่งธาตุทั้ง 5 แต่หากกล่าวโดยต้นกำเนิดแล้ว มันก็ก่อเกิดมาจากธาตุทั้ง 5 เพียงแค่ทรงพลังกว่ากฏแห่งธาตุทั้ง 5…
 
และกฏทำลายล้างก็ทรงพลังพอๆกัน เช่นนั้นมันมีพลังอานุภาพเท่าไหร่ก็พอทราบได้คร่าวๆ
 
‘กฏทำลายล้าง เป็นกฏที่เหล่าผู้เดินในวิถีอมตะทั้งหลายบังเกิดความตระหนักรู้ หลังจดจ่อกับศาสตราชนิดใดชนิดหนึ่งและแสวงหาการโจมตีที่รุนแรงทั้งมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้…’
 
ต้วนหลิงเทียนยังจดจำได้ว่าตอนที่เขาอยู่ในนิกายยอมตะเป้าผู่ เขาก็เคยอ่านเจอเรื่องบันทึกข้อมูลของกฏทำลายล้างในหอตำราฝ่ายใน
 
‘ยกตัวอย่างเช่นมือกระบี่ นักดาบ มือหอก พลอง  ทวน ฯลฯ…ทั้งหมดมุ่งเสาะแสวงหาการโจมตีอันทรงพลังและมีประสิทธิภาพที่สุด และหลังจากฝึกปรือทำความเข้าใจไปถึงระดับหนึ่ง ก็จะมีโอกาสตระหนักรู้ถึงกฏทำลายล้าง กระทั่งเข้าถึงมัน’
 
นึกถึงจุดนี้ สายตาที่ต้วนหลิงเทียนใช้มองซีเหมินฮ่าวซวนก็เคร่งขึ้นเล็กน้อย
 
เพราะสุดท้ายแล้ว ใครก็ตามที่เข้าใจกฏทำลายล้าง บ่งบอกว่าคนผู้นั้นได้ฝึกฝนอาวุธคู่กายจนช่ำชองเป็นที่สุด และยังทุ่มเทมุ่งมั่นให้กับมรรคาศาสตรานั้นๆเป็นอย่างมาก
 
ตัวตนเช่นนี้ ไม่มีใครเหลาะแหละแน่นอน!
 
“ต้วนหลิงเทียน พวกเรามาเดิมพันอะไรกันสักหน่อยดีหรือไม่?”
 
และในขณะที่หว่านชิงชิงกับต้วนหลิงเทียน เดินพลังเตรียมพร้อมประมือกับซีเหมินฮ่าวซวน อยู่ๆซีเหมินฮ่าวซวนก็ปริปากกล่าวคำออกมาอีกครา และกล่าวทำนองคิดชักชวนให้ต้วนหลิงเทียนเดิมพันอะไรบางอย่างกับมัน
 
“เดิมพัน? ยังไง?”
 
สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่ง เอ่ยถามออกไปด้วยความสนใจ
 
“หากวันนี้ข้าเอาชนะเจ้าที่ร่วมมือกับหว่านชิงชิงได้…เจ้าก็บอกความเป็นมาที่แท้จริงของเจ้าให้ข้าฟัง แต่ถ้าข้าเป็นฝ่ายแพ้เจ้า ข้าจะมอบลูกแก้วเงาลอยที่บันทึกการประมือระหว่างผู้ใช้กฏแห่งมิติ 2 คนที่เข้าใจความลึกซึ้งทั้ง 9 ประการของกฏแห่งมิติทั้งคู่ให้เจ้าเป็นไง?”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนพอกล่าวออกมาอีกครั้ง ไม่เพียงจะบอกว่าเดิมพันอะไรและยังไง กระทั่งยังกำหนดสิ่งเดิมพันออกมาเสร็จสรรพวว่าหากมันชนะแล้วต้องการอะไร กลับกันถ้ามันแพ้มันจะให้อะไร
 
‘ลูกแก้วเงาลอยที่บันทึกการประมือระหว่างผู้ใช้กฏแห่งมิติ 2 คนที่เข้าใจความลึกซึ้งทั้ง 9 ประการของกฏแห่งมิติทั้งคู่?’
 
สิ้นคำกล่าวของซีเหมินฮ่าวซวน สองตาต้วนหลิงเทียนก็ฉายแววจ้าขึ้นมาโดยพลัน
 
ลูกแก้วเงาลอยที่อีกฝ่ายกล่าวถึง นับเป็นอะไรที่ตัวเขาตอนนี้ต้องการเป็นที่สุด! เพราะหากได้มา มันก็จะช่วยให้เขาเห็นแนวทางความลึกซึ้งอีก 2 ประการที่เหลือ ทำให้ช่วยเขาตอนทำความเข้าใจพวกมันไม่น้อย!!
 
“ตกลง!”
 
ต้วนหลิงเทียนก็เลยตอบตกลงไปอย่างไร้ลังเล!
 
“ดี! จัดไป!!”
 
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนตอบรับเร็วไว ซีเหมินฮ่าวซวนก็คลี่ยิ้มออกมาด้วยความสมใจ “ต้วนหลิงเทียน…ไม่ว่าวันนี้พวกเจ้าจะแพ้หรือเป็นข้าที่ปราชัย…หลังข้าออกจากแดนสวรรค์ใต้โบราณไปแล้ว ข้าจักไปสนทนาร่ำสุรากับเจ้าที่คฤหาสนืเฉวียนโยวสักครา”
 
“หวังว่าถึงตอนนั้นเจ้าอย่าได้ไม่ต้อนรับข้าซะเล่า…!”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
 
“ข้ายินดีต้อนรับเจ้าแน่นอน”
 
คนที่มีลักษณะเปิดเผยพูดตรง ต้วนหลิงเทียนก็ไม่รังเกียจแต่อย่างไร มองย้อนกลับไปสหายของเขาแต่ละคนน ก็พูดกันตรงๆไม่อ้อมค้อมทั้งนั้น
 
“พวกเจ้าที่ร่วมมือกัน หว่านชิงชิงสมควรทำหน้าที่สนับสนุน คอยถ่วงรั้งพัวพันและพยายามควบคุมข้า ส่วนเจ้าสมควรเป็นคนรับหน้าที่จู่โจมเป็นหลักสินะ…ในเมื่อเป็นแบบนั้นข้าไม่ระวังก็คงไม่ได้ เช่นนั้นข้ามิสู้ไม่เปิดโอกาสให้เจ้าลงมือประเสริฐกว่า!!”
 
ซีเหิมฮ่าวซวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม และพอกล่าวจบคำคนก็ปะทุพลังชิงลงมืออัศจรรย์ปานอัสนีฟาด! ไม่รอให้ต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิงทันใดตั้งตัว!!
 
ปงงงง!! ซู่มมม!!
 
เสียงอากาศแตกระเบิดสนั่นก้องฟ้า สายลมวิปริตปานมหาพายุกวาดซัดไปทั่ว! พริบตาดุจละอองไฟวาบดับ ร่างซีเหมินฮ่าวซวนอันโจนทะยานจี้เข้าใส่ต้วนหลิงเทียนฉับไวปานลูกเกาทัณฑ์พ้นคันศร ก็บรรลุมาเจียนถึงตัวต้วนหลิงเทียนแล้ว!
 
เผชิญหน้ากับซีเหมินฮ่าวซวนที่บึ่งเข้ามาฉับไวปานเส้นสายอัสนีฟาดผ่า ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงแรงกดดันประการหนึ่ง! ราวกับที่โถมเข้ามาไม่ใช่ผู้คน แต่เป็นศาตราวุธอันทรงพลัง!!
 
ฟุ่ฟฟ!
 
ร่างซีเหมินฮ่าวซวนไม่เพียงโจนทะยานเข้ามาฉับไวปานอัสนี ท่วงท่าความเคลื่อนไหวของมันยังลื่นไหลไวว่องปานอสรพิษเปรียว แต่เมื่อบรรลุถึงตัวต้วนหลิงเทียน คนคล้ายกลับกลายเป็นแกร่งกร้าวหาใดเปรียบ!!
 
พริบตาต่อมาไอพลังสีมืดที่ลุกโชนทั่วร่าง ปานเพลิงทมิฬก็เริ่มกระเพื่อม จากนั้นกก่อตัวเป็นกระบี่หนักมหึมาเล่มหนึ่งเร็วไว ใบกระบี่ของมันทั้งกว้างและยาวแทบจะปกคลุมร่างซีเหมินฮ่าวซวนได้มิด!
 
ขวับ!!
 
มือขวาที่กุมกระบี่หนักเล่มเขื่องของซีเหมินฮ่าวซวน ตวัดฟันออกมาฉับไวปานฟ้าผ่า ราวกระบี่เล่มเขื่องในมือไม่ต่างขนนกเบาหวิว เป็นฟันหนักเสมือนเบาอันร้ายกาจ! กลิ่นอายพลังทำลายร้างเริ่มแผ่เข้ามาครอบงำจิตใจต้วนหลิงเทียน!!
 
เรียกว่าหนึ่งกระบี่ที่ฟันฟาดออกมาครานี้ ในสายตาต้วนหลิงเทียนประหนึ่ง มันจะยอมสีสันโลกหล้าให้มืดดำในบัดดล!
 
ยังมีเจตนากระบี่อันแข็งกร้าวน่ากลัวไม่ใช่ชั่ว!
 
ในอดีตตอนอยู่ในระนาบเซียน ต้วนหลิงเทียนที่ได้รับสืบทอดมรดกของฟงชิงหยาง เขาก็นับว่าได้ย่างเท้าในมรรคากระบี่ระดับหนึ่ง ถึงแม้จะไม่อาจเทียบได้กับซีเหมินฮ่าวซวนในตอนนี้ แต่เขาก็รู้ดีว่ามรรคากระบี่ของซีเหมินฮ่าวซวนร้ายกาจขนาดไหน
 
ฟั่ฟฟฟ!!
 
หนึ่งกระบี่ฟาดมา ดั่งจะฟันเฉือนแยกฟ้า ความว่างเปล่ายังคล้ายจะถูกคมกระบี่สะบั้น!
 
กลิ่นอายพลังอันท่วมท้นไปด้วยเจตนากระบี่อันคมกล้าเป็นที่สุด พอตกกระทบใบหน้า ก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเสมือนหนังศีรษะกลายเป็นด้านชา จากนั้นก็เร่งใช้หนึ่งห้วงคิดอาศัยความลึกซึ้งเคลื่อนมิติวูบร่างหลบออกไปทันที!!
 
ครืนนนนน!!
 
ต้วนหลิงเทียนที่วูบร่างหายไปอย่างอัศจรรย์ ก็ไปผุดโผล่ด้านหลังซีเหมินฮ่าวซวน 100 หมี่ ชุดคลุมสีม่วงกระพือสะบัดว้าวุ่น ไอพลังทั่วร่างปะทุออกมาเต็มกำลัง แผ่ออกไปก่อสร้างเขตแดนมิติเร็วไว
 
เมื่อเขตแดนมิติอุบัติขึ้นมา ความว่างเปล่าในอาณาบริเวณกินรัศมี 10 หมี่โดยยึดร่างเขาเป็นจุดศูนย์กลางก็เริ่มกระเพื่อมสั่นไหว คล้ายในความว่างแฝงเร้นไปด้วยพลังผันผวนของห้วงมิติ พร้อมฉีกกระชากป่นทำลายสรรพสิ่งที่ล่วงล้ำเข้ามา
 
“สมแล้วที่ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติของกฏแห่งมิติขึ้นชื่อว่าเป็นความลึกซึ้งที่หนุนเสริมการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ได้พิสดารและลี้ลับที่สุดในสวรรค์และโลก…นับว่ายากรับมือจริงๆ!”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรที่กระบี่ของมันฟันจั่วลมดังขวับ เพราะหากต้วนหลิงเทียนไม่อาจรับได้แม้แต่กระบี่แรกของมัน เช่นนั้นชื่อเสียงที่เลื่องลือก็เป็นเรื่องน่าหัวเราะแล้ว!
 
“เช่นนั้นลองรับกระบี่ข้าดูอีกครา!”
 
กล่าวจบคำทั่วร่างซีเหมินฮ่าวซวนก็เริ่มสั่นไหว รัศมีพลังสีมืดปานเพลิงทมิฬพลันลุกโหมท่วมไปทั่วเรือนกาย!
 
ทันใดนั้นกลิ่นอายพลังน่ากลัวชวนสยองก็เริ่มกำจายออกมาจากร่างซีเหมินฮ่าวซวน!
 
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
 

 
กระบี่หนักเล่มเขื่องโปร่งแสงเริ่มควบรวมก่อเกิดจากพลังทมิฬรอบกายซีเหมินฮ่าวซวนเล่มแล้วเล่มเล่า จากนั้นพวกมันก็เริ่มม้วนวนรอบๆกายซีเหมินฮ่าวซวนเร็วรี่!
 
กระบี่ยิ่งหมุนวนเร็วขึ้นเท่าไร แสงกระบี่ก็ยิ่งสาดส่องเจิดจ้ามากขึ้นเท่านั้น กลิ่นอายพลังปานจะทำลายล้างได้ทุกสิ่งยิ่งมายิ่งแผ่กวาดออกไปทั่วสารทิศ!
 
“ฮึ!!”
 
ในขณะที่ร่างซีเหมินฮ่าวซวนกำลังสั่นไหวเพราะเร่งเร้าพลังสภาวะอยู่นั้น เสียงสบถเย็นชาด้วยความไม่สบอารมณ์หนึ่งพลันดังขึ้น เป็นเสียงของหว่านชิงชิงนั่นเอง!
 
การชิงลงมือจู่โจมในฉับพลันเมื่อครู่ของซีเหมินฮ่าวเฉิน กระทั่งหว่านชิงชิงเองก็แทบตอบสนองไม่ทัน
 
อย่างไรก็ตาม พอหว่านชิงชิงเห็นว่าหลังกระบี่แรกล้มเหลวแล้ว ซีเหมินฮ่าวเฉินที่เร่งเร้าพลังสภาวะเตรียมลงมือออกกระบวนท่าที่ 2 นั้น ยังคงเพ่งเล็งแต่ต้วนหลิงเทียน ทำเหมือนนางไม่มีตัวตนอยู่เลย ใบหน้าหว่านชิงชิงก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาปานมีชั้นน้ำแข็งเคลือบทันที!!
 
ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม! ซู่ม!
 

 
พริบตาต่อมาประหนึ่งมรมสุมลมหนาวห่าใหญ่พัดกวาด เป็นหว่านชิงชิงที่พุ่งร่างด้วยความเร็วสูงปานพายุ ห้อตะบึ้งเข้าใส่ซีเหมินฮ่าวซวนด้วยสภาวะพลังอันเกรี้ยวกราด!
 
วู้ม! วู้ม! วู้ม!
 

 
ในขณะที่ร่างบางของหว่านชิงชิงห้อเหยียดมาฉับไวปานพายุ พลังสีเขียวปานมรกตก็ลุกโชนขึ้นมาท่วมร่าง เป็นพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดที่ผสานเข้ากับพลังธาตุไม้!
 
พริบตาต่อมา
 
ครึ่ก! ครึ่ก! ครึ่ก! ครึ่ก! ครึ่ก! ครึ่ก!
 

 
พลังสีเขียวมรกตที่ลุกโชนท่วมร่างบาง เริ่มควบรวมผนึกแน่น จากไร้สภาพสู่มีสภาพ บังเกิดเถาวัลย์สีเขียวเส้นเขื่องเท่าแขนผู้ใหญ่งอกเงยจากความว่างเปล่านับสิบๆ พุ่งเข้าใส่ซีเหมินฮ่าวซวน ปานจะทิ่มแทงรัดพันผู้คน!!
 
“หว่านชิงชิง เจ้าจับข้าไม่ได้หรอก!”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนเหลือบไปมองเถาวัลย์มหึมาที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางด้วยสายตาเฉยเมย มุมปากยกยิ้มแสยะหยันเบาๆ ทันใดนั้นกระบี่พลังสีดำเล่มหนึ่งที่โคจรหมุนวนอยู่รอบกายเร็วรี่ คล้ายจะมีชีวิตขึ้นมา มันพุ่งทะยานออกไปฉับไวปานมีเจตจำนงเป็นของตัวเอง!
 
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
 

 
พลานุภาพของกระบี่หนักสีดำเล่มเขื่องที่พุ่งออกมาร้ายกาจแทบตายแล้วจริงๆ! ตัวกระบี่ยังไม่บรรลุถึงด้วยซ้ำ อาศัยแค่รังสีกระบีที่แผ่พุ่งนำออกไป ยามปะทะเข้ากับห่าเถาวัลย์เส้นเขื่องที่ทะลวงฟ้าเข้ามานับสิบๆ ก็ป่นปี้จนเถาเขียวทั้งหลายแหลกเป็นผงในบัดดล!!
 
อย่างไรก็ตามหลังเถาวัลย์สีมรกตเส้นเขื่องถูกทำลายไปแล้ว ธุลีละอองพลังสีเขียวที่ซ่านกระเซ็นไปทั่วนั้น คล้ายกลายเป็นแผ่นดินผืนใหม่ ปรากฏเถาวัลย์เขียวเส้นเขื่องอีกชุดงอกเงยออกมาอยย่างอย่างอัศจรรย์ จี้เข้าใส่ซีเหมินฮ่าวซวนสืบต่อ!!
 
“ไร้ประโยชน์!”
 
เห็นฉากเรื่องราวดังกล่าว ซีเหมินฮ่าวซวนก็ไม่ได้ยึดถือเป็นจริงจัง กล่าวเสียงเฉยจบ มือเพียงโบกขึ้นเบาๆ พลังความลึกซึ้งจากกฏทำลายยล้างขุมหนึ่ง ก็เริ่มควบรวมก่อเกิดกระบี่หนักอีกเล่มเบื้องหน้า
 
ฟั่ฟฟฟ!!
 
ซีเหมินฮ่าวซวนคว้ากระบี่หนักเล่มดังกล่าวมาตวัดฟันจากซ้ายไปขวาอย่างไร้เรื่องราว ก็อุบัติเป็นคลื่นพลังกระบี่เกรี้ยวกราดขุมหนึ่งระเบิดกวาดออกไปเป็นวงรอบกาย ถล่มทำลายเถาวัลย์มรกตที่พุ่งแทงออกจากความว่างเปล่าจนแหลกกระจุย!
 
แต่ทันใดนั้นเอง
 
วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!
 

 
รัศมีแสงขจีปานมรกตสดใส พลันสาดส่องลงมาจากฟากฟ้า ประหนึ่งพุทธองค์ที่กำลังประทานพรให้แก่สรรพสัตว์ แสงพลังพร่างพราวช่างงดงามและเอ่อล้นไปด้วยพลังชีวิตนัก!
 
และรัศมีแสงมรกตเจิดจรัสพอสาดส่องลงมาแล้ว จะละอองพลังสีเขียวที่เกิดจากเถาวัลย์ถูกป่นทลายก็ดี หรือเถาวัลย์ที่พึ่งถูกคลื่นกระบี่ป่นปี้จนพินาศก็ดี พวกมันเสมือนได้รับพลังชีวิตห่าใหญ่!
 
ทันใดนั้นละอองพลังธุลีสีเขียวทั้งหลายก็เกาะกลุ่มควบรวมในฉับพลันก่อเกิดเป็นเถาวัย์เส้นเขื่องอีกครา
 
ไม่เว้นเศษเถาวัลย์ที่ถูกคลื่นกระบี่ทำลายล้างสีดำหั่นแหลกเมื่อครู่ บ้างงอกเงย บ้างเชื่อมต่อ สุดท้ายก็คืนสภาพเป็นเถาวัลย์เขียยวเส้นเขื่อง ฟื้นความปราดเปรียวประหนึ่งอสรพิษมีชีวิต!!
 
ครึ่ก! ครึ่ก! ครึ่ก! ครึ่ก! ครึ่ก!
 

 
พริบตามวลเถาวัลย์มหาศาลก็พุ่งไปถักทอสานพันรอบๆกายซีเหมินฮ่าวซวน ไม่ทันไรซีเหมินฮ่าวซวนก็ถูกกรงเถาวัลย์สีมรกตกักขังเอาไว้เสียแล้ว!!
 
 
 
ตอนที่ 3168
 
“เฮอะ! ของเด็กเล่น!”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนที่อยู่ๆก็ถูกขังอยู่ในกรงเถาวัลย์ไม่ได้แลดูร้อนใจอะไรแม้แต่น้อย สีหน้ายังสบายๆผ่อนคลายเหมือนเดิม
 
ถึงแม้หว่านชิงชิงจะล่อหลอกจนลงมือได้สำเร็จดั่งหวัง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้มันมาก
 
เพราะกรงเถาวัลย์นี่ ขอแค่มันลงมือทำลายจริงๆจังๆ น่ากลัวว่าจะต้านทานพลัของมันได้ไม่กี่ลมหายใจด้วยซ้ำ
 
และจากการประเมินของมัน เพื่อสร้างกรงนี้ขึ้นมาหว่านชิงชิงได้ทุ่มพลังไปมหาศาล! กระบวนท่าที่ทุ่มพลังสาหัสขนาดนี้ หากคิดจะใช้ออกอีกครั้งในเวลาสั้นๆ เกรงว่าคงยากกว่าให้ผู้คนธรรมดาปีนขึ้นสวรรค์!!
 
ที่สำคัญหากกรงนี่ถูกทำลาย หว่านชิงชิงก็ต้องถูกพลังสะท้อนจนสาหัส ถึงตอนนั้นมันอาศัยแค่พลิกฝ่ามือก็จัดการหว่านชิงชิงได้โดยง่าย
 
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ซีเหมินฮ่าวซวนกำลังคิดจะเสียเวลา 2-3 ลมหายใจทำลายกรงขังนี่ให้พัง จะได้ไปบู๊กับต้วนหลิงเทียนต่อ สองตามันก็ทอประกายเรืองขึ้นวาบหนึ่ง เพราะมันตระหนักได้ว่าเบื้องหน้าไม่ไกล ปรากฏร่างหนึ่งผุดโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า
 
กรงเถาวัลย์ของหว่านชิงชิง เรียกว่าปิดล้อมมันทุกทิศจนไร้แสงใดเล็ดลอดเข้ามาได้ด้วยซ้ำ ด้านในจึงมืดสนิทไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือทั้ง 5
 
อย่างไรก็ตามไม่ว่าใครหากบ่มเพาะมาถึงขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศแบบซีเหมินฮ่าวซวน ให้มืดมิดแค่ไหน ขอแค่แสงจากพลังที่เรืองรองขึ้นมาบางเบา ก็ทำให้มองเห็นได้ไม่ต่างจากกลางวัน
 
ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้ไม่ต้องใช้ตามอง อาศัยสำนึกเทวะที่แผ่ออกไป ก็สัมผัสได้ทุกสิ่งอย่างแล้ว
 
เช่นนั้นซีเหมินฮ่าวซวนจึงรู้ได้ทันทีว่าใครพึ่งวูบร่างเข้ามา…เป็นต้วนหลิงเทียน นั่นเอง!
 
หากเป็นคนอื่น ถ้าคิดจะเข้ามาหรือออกไปจากกรงของหว่านชิงชิง เกรงว่าต้องใช้พลังทำลายบุกฝ่า ทว่าต้วนหลิงเทียนไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้น ด้วยพลังของความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ เพียงห้วงคิดร่างเขาก็วูบมาโผล่ได้แล้ว…
 
เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!
 

 
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ซีเหมินฮ่าวซวนค้นพบการมาของต้วนหลิงเทียน มันก็สัมผัสได้ทันทีว่าความว่างเปล่าโดยรอบบัดนี้ อัดแน่นไปด้วยมหาศาลขุมหนึ่ง เป็นพลังบิดเบือนฉีกกระชากของห้วงมิติอันแปรปรวน
 
พลังมิติอันแปรปรวนเหล่านี้ แทบไม่ต่างอะไรจากกระบี่แหลมคม เสียงพลังดังฮึงๆดุร้ายอำมหิตนัก!
 
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!  ชิ้ง!
 

 
อย่างไรก็ตามกระบี่หนักเล่มเขื่องมีสภาพเล่มแล้วเล่มเล่า ที่ควบสร้างจากกฏทำลายล้าง อันม้วนวนรอบกายซีเหมินฮ่าวซวนก็ไม่ได้มีไว้ดูเล่น! พลังห้วงมิติที่เคี่ยวกรำเข้ามาจากทุกทิศทาง ได้ถูกคลื่นพลังทำลายล้างที่ปลดปล่อยออกจากวังวนกระบี่รอบตัวซีเหมินฮ่าวซวนต้านทานทำลายตลอดเวลา!!
 
“ดูเหมือนข่าวที่ลือๆกันจะไม่ผิดจริงๆ…ความเร็วเป็นจุดอ่อนของเจ้า”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนตรงๆ “ดูเหมือนเป็นเจ้าตั้งใจให้หว่านชิงชิงขังข้าไว้แบบนี้ เพื่อจำกัดพื้นที่ขของข้า ให้ข้าไม่อาจใช้ความได้เปรียบจากความเร็วได้สินะ…”
 
“ที่แท้จุดประสงค์ของกรงเถาวัลย์นี่ คือบีบให้ข้าปะทะกับเจ้าตรงๆ!”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนย่อมมองความคิดต้วนหลิงเทียนออกทันที
 
“อ่า ตอนนี้หากเจ้าคิดจะทุบป้ายหยกสะสมคะแนนเพื่อหนีออกไปก็ยังไม่สาย…หาไม่แล้วก็ต้องมีหนังถลอกกันบ้าง”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวเสียงเรียบ
 
เมื่อเขาลงมือ ซีเหมินฮ่าวซวนก็ไม่มีเวลามากพอจะหันไปสนใจเรื่องทำลายกรงเถาวัลย์ของหว่านชิงชิงได้แน่นอน…
 
และพลังสะท้อนอันใดที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างเขากับซีเหมินฮ่าวซวน ก็ไม่รุนแรงถึงขั้นจะทำลายกรงเถาวัลย์ของหว่านชิงชิงได้ในเวลาอันสั้น…
 
แน่นอนว่าไม่รุนแรงถึงขั้นทำลายได้ในเวลาอันสั้นเท่านั้น…
 
แต่หากในเวลาสั้นๆเขาไม่อาจเอาชนะซีเหมินฮ่าวซวนได้ จนต้องสู้ปะทะไปยืดเยื้อล่ะก็…กรงเถาวัลย์ของหว่านชิงชิงเองก็ไม่พ้นต้องถูกทำลายเพราะพลังสะท้อนแน่นอน!!
 
หว่านชิงชิงก็ได้บอกเขาไว้แล้ว
 
ว่าหากกรงเถาวัลย์ที่นางทุ่มพลังสร้างแบบนี้ถูกทำลายลงไปล่ะก็ หากคิดจะใช้ออกอีกครั้ง ก็ต้องมีพักฟื้นพลังกันต่ำๆ ครึ่งวันกว่าจะใช้ได้อีก!
 
เขาก็เลยมีแค่โอกาสเดียวเท่านั้น
 
“ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน…คราวนี้เพื่อความปลอดภัย ข้าต้องพึ่งเจ้าอีกแรง!”
 
เพื่อเอาชนะซีเหมินฮ่าวซวนให้เร็วที่สุด ต้วนหลิงเทียนตัดสินใจใช้ทุกสิ่งเพื่อฉะกับอีกฝ่ายตรงๆ เช่นนั้นเขาจึงกล่าวบอกปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน เพื่อใช้พลังของมันอีกแรง
 
“ฮึ่ย!!”
 
ได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินก็พ่นลมขึ้นจมูกอย่างขุ่นขึ้ง “เจ้าหนู…ในที่สุดเจ้าก็นึกถึงข้าแล้วหรือ…ถึงในแง่การโจมตีข้าจะช่วยเหลือเจ้าไม่ได้มากเหมือนทองเทพสุดลี้ลับกับเพลิงเทพโกลาหล แต่อย่างน้อยๆก็เสริมพลังให้เจ้าได้เหมือนเข้าใจความลึกซึ้งบางส่วน”
 
ด้านนอกกรงเถาวัลย์
 
ปง! ปง! ตูม! ตูม!
 

 
เสียงระเบิดชวนสนองดังสนั่นด้านในกรงไม่หยุด หว่านชิงชิงกัดฟันเร่งเร้าพลังชั่วชีวิตถ่ายทอดออกไปไม่หยุด เพื่อคงสภาพกรงเถาวัลย์เอาไว้ เม็ดเหงื่อผุดซึมเต็มหน้าผาก!
 
นั่นเพราะพลังสะท้อนที่ปะทุอยู่ในกรงมันรุนแรงเหลือเกิน
 
ไม่ใชแค่มีดีแค่เสียงดัง แต่พลังยังร้ายกาจเหนือกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้มาก!
 
‘แค่ไม่ถึง 3 ลมหายใจ…ลำพังพลังสะท้อนระหว่างการปะทะของพวกมัน ก็ทำให้ข้าเผชิญแรงกดดันมหาศาลขนาดนี้แล้ว…’
 
‘ต่อให้เป็นซีเหมินฮ่าวซวนใช้พลังเต็มที่เพื่อทำลายกรงอย่างเดียว มันก็ต้องใช้เวลาราวๆ 2-3 ลมหายใจ ถึงจะทำลายกรงเถาวัลย์ของข้าได้’
 
‘แต่ตอนนี้พวกมันไม่ได้ตั้งใจทำลายกรงด้วยซ้ำ!’
 
หลังผ่านไป 4 ลมหายใจ ใบหน้าหว่านชิงชิงก็ซีดปานกระดาษ ไม่ใช่ซีดเพราะบาดเจ็บอะไร แต่ซีดลงเพราะแรงกดดันที่นางรับอยู่มันมากเกินไป!
 
‘หากเป็นแบบนี้ต่อไป…ต่อให้ข้าพยายามให้ตาย ข้าก็ต้านทานได้แค่ 6 ลมหายใจเท่านั้น!’
 
หว่านชิงชิงรู้สึกเป็นกังวลอย่างหนัก
 
บัดนี้นางตระหนักว่า นางดูเบาการประมือระหว่างต้วนหลิงเทียนกับซีเหมินฮ่าวซวนมากเกินไป พลังสะท้อนที่เกิดจากการปะทะกันของทั้งคู่ ไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีเต็มกำลังของซีเหมินฮ่าวซวนที่คิดทำลายกรงเถาวัลย์ของนางโดยตรงเลย
 
และตอนนี้หว่านชิงชิงที่เร่งเร้าพลังทุกหยาดหยดไปรักษากรงเถาวัลย์ นับประสาอะไรจะแผ่สำนึกเทวะไปตรวจสอบเรื่องงราวภายในกรง นางไม่มีเวลาแม้แต่จะส่งเสียงผ่านพลังไปแจ้งต้วนหลิงเทียน ว่านางจะประคองสภาพกรงไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ
 
เนื่องเพราะตอนนี้นางจำต้องทุ่มสมาธิทั้งหมดไปกับการรีดเค้นพลังเพื่อประคองสภาพกรงเถาวัลย์ หากวอกแวกแม้แต่เสี้ยวพริบตา กรงเถาวัลย์ไม่พ้นต้องพังลงทันที!
 
‘ดูเหมือนว่าถึงพวกจักร่วมมือกัน ก็ยังไม่อาจจัดการซีเหมินฮ่าวซวนได้…’
 
ใจหว่านชิงชิงเต็มไปด้วยความขมขื่น
 
เพราะถึงต้วนหลิงเทียนจะแข็งแกร่ง แต่นางก็ไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะสยบซีเหมินฮ่าวซวนได้ในเวลา 6 ลมหายใจ
 
ถึงแม้ซีเหมินฮ่าวซวนไม่อาจใช้ข้อได้เปรียบเรื่องความเร็ว แต่นางประเมินจากพลังของต้วนหลิงเทียนเท่าที่เห็น นางคาดว่าต้องใช้เวลาต่ำๆ 10 ลมหายใจ ต้วนหลิงเทียนถึงจะเอาชนะซีเหมินฮ่าวซวนได้
 
สิ่งนี้ไม่ได้มาจากการประเมินพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนเท่าที่นางเห็นตลอดหลายวันที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ยังรวมกับการประเมินพลังฝีมือของซีเหมินฮ่าวซวนจากข้อมูลที่นางรู้อีกด้วย
 
ในอดีตนางเคยโดนซีเหมินฮ่าวซวนจัดการไปครั้งหนึ่ง นางจึงรู้ดีว่าอีกฝ่ายร้ายกาจแค่ไหน
 
“หืม!?”
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไป 5 ลมหายใจ หว่านชิงชิงก็อดประหลาดใจไม่ได้ เมื่อพบว่า…
 
พลังสะท้อน และคลื่นกระแทกอันน่ากลัวที่ถล่มทำลายภายในกรงเถาวัลย์ของนาง บัดนี้ได้อันตรธานหายไปหมดสิ้น ภายในกรงหวนคืนสู่ความสงบเรียบร้อย…
 
ขณะเดียวกันแรงกดดันหนักอึ้งที่เคี่ยวกรำนางก่อนหน้า ก็อันตรธานหายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน…
 
“ขอบคุณเจ้าที่เมตตา…”
 
และในขณะที่หว่านชิงชิงกำลังจะแผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบเรื่องราวภายในกรงเถาวัลย์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ น้ำเสียงอิดโรยแฝงไว้ด้วยความสำนึกบุญคุณหนึ่งพลันดังขึ้นจากด้านใน…
 
“เสียงนี่มัน…”
 
ได้ยินเสียงดังกล่าว สองตาหว่านชิงชิงก็ฉายแสงจ้าทันที
 
เพราะนางจำได้ว่านั่นมันเสียงของซีเหมินฮ่าวซว!
 
วินาทีต่อมา เพียงหนึ่งห้วงคิดหว่านชิงชิงก็ถอนรั้งพลังสร้างกรงเถาวัลย์คืนกลับ ร่างสองร่างจึงปรากฏให้เห็นในสายตาอีกครั้ง
 
ต้วนหลิงเทียนยังแลดูปลอดภัยดี ชุดคลุมสีม่วงขาดวิ่นบางจุด อย่างไรก็ตามเนื้อตัวกลับไร้รอยแผลอะไร
 
เห็นได้ชัดว่าคนไม่เป็นไร แค่เสื้อผ้าขาดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
 
กลับกัน ซีเหมินฮ่าวซวนตอนนี้ ทั้งร่างกายไม่มีตรงไหนที่ไม่มีแผล รอยแผลยิบย่อยราวกับถูกมีดกรีดเนื้อกระทั่งคล้ายถูกบางอย่างคว้านเต็มไปหมด ที่สำคัญกลางอกนั่น ช่างเป็นแผลลึกอันน่ากลัวชวนสยองนัก!
 
หากมันลึกกว่านี้อีกสักชุ่นเกรงว่าซีเหมินฮ่าวซวนคงไม่รอดแน่!
 
“อย่าลืมเดิมพันระหว่างเราล่ะ…”
 
ต้วนหลิงเทียนหยีตามองซีเหมินฮ่าวซวนเขม็ง พลางกล่าว
 
“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก ข้าจะไปส่งให้ถึงมือเจ้าเลย…”
 
หลังซีเหมินฮ่าวซวนเดินพลังเพื่อฟื้นฟูตัวเองอยู่สักพัก มันก็มองตอบต้วนหลิงเทียน ขณะเดียวกันก็ค่อยๆเรียกป้ายหยกสะสมคะแนนนออกมา
 
และตอนนี้สีหน้าซีเหมินฮ่าวซวนก็ไม่ได้แลดูเจ็บแค้นอะไรเลย ใบหน้ามันเริ่มเต็มไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง คล้ายไม่ถือสาคนที่ทำให้มันเกือบไปเมืองผีเบื้องหน้าแม้แต่น้อย
 
“อ่า ข้าจะรอเจ้า”
 
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า
 
“เจ้าไม่ต้องรอนานแน่นอน…หลังจากที่ข้าออกไป ข้าจะให้ลุงข้าพาไปที่คฤหาสน์เฉวียนโยวทันที…กว่าเจ้าจะออกจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง เผลอๆข้าคงเดินทางไปถึงแล้วด้วยซ้ำ”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนกล่าว
 
มันเป็นศิษย์หลักของคฤหาสน์หงเอี้ย ทั้งยังเป็นคนมากอัธยาศัย เช่นนั้นข้อมูลใดๆในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง ก็มีคนคอยรายงานให้มันรู้ตลอด และหากมีความเปลี่ยนแปลงสำคัญใดๆ มันก็จะได้รับแจ้งทันที
 
ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ตอนแรกที่ต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวในตารางจัดอันดับ มันก็ล่วงรู้ และกะประมาณเวลาได้คร่าวๆ ว่าต้วนหลิงเทียนจะถึงกำหนดต้องออกไปเมื่อไหร่
 
“เอาล่ะ เจ้าเตรียมสุราดีๆรอต้อนรับข้าได้เลย”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนยิ้มกล่าวกับต้วนหลิงเทียนอีกคำ ก่อนจะบดขยี้ป้ายหยกกสะสมคะแนนในมือ
 
และหลังจากที่ซีเหมินฮ่าวซวนถูกอาคมส่งตัวออกไป ต้วนหลิงเทียนก็เร่งสะบัดมือเรียกป้ายหยกสะสมคะแนนของตัวเองออกมาทันที
 
เห็นได้ชัดว่าเขาก็อยากรู้ไม่น้อย ว่าในป้ายเขามีคะแนนสะสมกี่แต้มแล้ว!
 
ซีเหมินฮ่าวซวนเป็น 1 ใน 6 อันดับแรกของแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเดือนนี้ และยังเป็นมาหลายปีแล้ว อันดับ 1 เองก็เคยได้มาหลายครั้ง
 
ก่อนที่เขาจะจัดการซีเหมินฮ่าวซวน เขารู้แค่ซีเหมินฮ่าวซวนอยู่ใน 6 อันดับแรก แต่ไม่รู้ว่าอันดับไหนและมีคะแนนสะสมเท่าไหร่
 
อย่างไรก็ตามเขารู้ดีว่าซีเหมินฮ่าวซวนสมควรมีคะแนนไม่ต่างจากอีก 5 คนมากนัก อย่างน้อยๆก็ต้องมากกว่าเขาเกือบ 200 แต้มแน่นอน
 
“เจ้ามีกี่แต้มแล้วหรือ?”
 
และในปัจจุบันไม่ใช่แค่ต้วนหลิเทียนเท่านั้นที่อยากรู้ว่าเขามีแต้มเท่าไหร่แล้ว กระทั่งหว่านชิงชิงเองก็อดไม่ได้ที่จะมองถามด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
 
“1,207  แต้ม”
 
ต้วนหลิงเทียนสะบัดมือเก็บป้ายหยกสะสมคะแนน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมากล่าวตอบหว่านชิงชิงด้วยรอยยิ้มสดใส
 
นับเป็นครั้งแรกเลยที่หว่านชิงชิงเห็นต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มแบบนี้ นางจึงอื้ออึงไปพักหนึ่ง จนต้วนหลิงเทียนหุบยิ้ม นางค่อยได้สติกลับคืน
 
จังหวะนี้กกระทั่งหว่านชิงชิงเองก็ไม่ทันรู้ตัวเลยว่าพวงแก้มที่มักเต็มไปด้วยความเย็นชาของนาง ก็มีวันขึ้นสีแดงระเรื่อเหมือนกัน
 
“ยินดีกับเจ้าด้วย”
 
หลังได้รับทราบคะแนนของต้วนหลิงเทียน หว่านชิงชิงก็กล่าวคำแสดงความยินดีออกไปทันที “ด้วยคะแนนสะสมของเจ้า อันดับในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางของเจ้าเดือนนี้ ต้องเป็นที่ 1 อย่างไม่ต้องสงสัยเลย…”
 
“ที่สำคัญ…เท่าที่ข้ารู้มา มันเป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว ที่ไม่มีใครทำคะแนนสะสมในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางได้เกิน 1,000 แต้ม”
 
ในสายตาของหว่านชงชิง ด้วยคะแนนดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนต้องได้ที่ 1 แน่นอน
 
“ตอนนี้ข้าว่าคนของคฤหาสน์อมตะทั้งหลายที่อยู่ด้านนอกต้องตกตะลึงกันยกใหญ่…เพราะคงไม่มีใครคิดว่าเจ้าจะสามารถจัดการซีเหมินฮ่าวซวนได้”
 
หว่านชิงชิงคลี่ยิ้มสนุกกสนาน “ยิ่งคฤหาสน์หงเอี้ย ข้าว่าพวกมันต้องตกใจจนตาตั้งแน่…เกรงว่าต่อให้หลับพวกมันยังไม่อาจฝันถึง ว่าซีเหมินฮ่าวซวนที่ไร้คูต่อกรมานานนับสิบปีในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง วันนี้จะถูกเจ้ากำจัด”
 
และเป็นอย่างที่หว่านชิงชิงคิดไว้ไม่มีผิด
 
เมื่อร่างซีเหมินฮ่าวซวนปรากฏตัวในค่ายกลเลื่อนย้ายรับตัวสำหรับผู้ที่บดขยี้ป้ายหยกของคฤหาสน์หงเอี้ย ซึ่งสร้างแยกไว้จากผู้ที่ใช้ค่ายกลในค่ายกลกลับมาหรือครบกำหนดเวลาโดยเฉพาะ ทุกคนที่เห็นก็ตกตะลึงอึ้งไปทั้งสิ้น!
 
จะศิษย์หรืออาวุโสล้วนแล้วแต่ชมดูจนตาลอย นิ่งค้างไปราวเห็นผีกลางวันแสกๆ
 
 
 
ตอนที่ 3169
 
ซีเหมินฮ่าวซวนเป็นศิษย์หลักของคฤหาสน์หงเอี้ย อายุไม่ถึงพันปีก็ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ใต้ขอบเขตราชาอมตะของคฤหาสน์หงเอี้ยแล้ว
 
และต่อให้จะกวาดตามองไปทั่วคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งแดนสวรรค์ใต้ ก็ไม่มีใครที่ด่านพลังต่ำกว่าขอบเขตราชาอมตะ กล้าพูดว่าจะสามารถเอาชนะซีเหมินฮ่าวซวนได้!
 
ทว่าบัดนี้…ซีเหมินฮ่าวซวนได้ถูกกำจัดออกมาแล้วจริงๆ!
 
เรื่องราวอันค้านความเข้าใจแบบนี้ จะไม่ให้ศิษย์และอาวุโสของคฤหาสน์หงเอี้ยตกตะลึงได้อย่างไร?
 
“ศิษย์พี่ซีเหมิน…ท่าน…เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?”
 
“ศิษย์พี่ เป็นผู้ใดกลุ้มรุมท่านกันแน่? หรือ 2 ใน 5 คนนั่นพวกมันร่วมมือกันจัดการท่าน?”
 

 
เห็นซีเหมินฮ่าวซวนถูกกำจัดออกมา เหล่าศิษย์และอาวุโสคฤหาสน์หงเอี้ยทั้งหลาย รู้สึกยากจะยอมรับได้จริงๆ
 
แววตาของพวกมันฉายชัดถึงความไม่อยากจะเชื่อ ราวกับสงสัยคลางแคลงว่า…กำลังฝันไปอยู่หรือไม่!
 
ซีเหมินฮ่าวซวน ถูกกำจัด?
 
ตั้งแต่ที่ซีเหมินฮ่าวซวนกับอีก 5 คนครอง 6 อันดับแรกในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง นี่เป็นการถูกกำจัดออกครั้งแรกเลยจริงๆ
 
“ข้าโดนผู้อื่นกลุ้มรุมมาจริงๆนั่นล่ะ…แต่ไม่ใช่ 5 คนนั่นหรอก”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนที่เผชิญหน้ากับสายตาเหลือเชื่อทั้งสงสัยของเหล่าศิษย์และอาวุโส ก็กล่าวตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสงบ ท่าทางไม่นำพา
 
และในขณะที่กล่าวตอบ สายตาของมันยังหันมองลอดผู้คน ทั้งตัดระยะไกลห่าง ไปหยุดลงยังตารางจัดอันดับ…
 
“ดูเหมือนเดือนนี้เจ้านั่นจะได้อันดับ 1 แน่นอนแล้ว…”
 
เห็นชื่ออันดับ 1 บนตาราง ซีเหมินฮ่าวซวนก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา “ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนไม่ได้เศร้าสลดกับการถูกกำจัดออกมาแม้แต่น้อย ใบหน้าท่าทียังเฉยๆราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 
เหตุไฉนที่มันยังเฉยๆไม่ทุกข์ร้อนอยู่ได้
 
เพราะการที่มันพ่ายแพ้ครั้งนี้ เป็นเพราะถูกต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิงกลุ้มรุม…
 
เป็นธรรมดาว่ามันรู้ว่าสาเหตุหลักที่แพ้ เพราะมันประมาทหว่านชิงชิงมากเกินไป จนปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสขังมันสำเร็จ
 
หากไม่ใช่เพราะมันดูเบานาง ไหนเลยนางจะขังมันง่ายๆแบบนี้….อย่างไรก็ตามมันรู้อีกว่า ต่อให้หว่านชิงชิงไม่ได้ขังมัน แต่เลือกจะรบเร้าพัวพันฉุดรั้งมันให้ถึงที่สุด ไม่พ้นต้วนหลิงเทียนก็ต้องเล่นงานมันได้อยู่ดี
 
“เว้นแต่ความเร็วข้าจะสูงขึ้นจนหว่านชิงชิงตามไม่ทัน…ไม่งั้นพยายามสู้ให้ตายก็ทำอะไรทั้งคู่ไม่ได้”
 
ซีเหมินฮ่าวซวนตระหนักเรื่องราวได้กระจ่างชัด
 
“ต่อให้เป็น 5 คนนั่น หากเจอต้วนหลิงเทียนที่ร่วมมือกับหว่านชิงชิง นอกจากจูเก๋ออวิ๋นฉีที่ยังพอดิ้นรนหลบหนีได้แล้ว…คนอื่นๆไม่ใช่คู่มือทั้งคู่แน่นอน”
 
ด้วยเหตุนี้ซีเหมินฮ่าวซวนจึงไม่ได้สลดอะไรแม้แต่น้อยที่แพ้ต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิง
 
“พวกเจ้าดูเร็ว…อันดับที่ 1 เปลี่ยนไปแล้ว!!”
 
เมื่อเห็นซีเหมินฮ่าวซวนหันไปมองตารางจัดอันดับ บางคนก็หันมองตามไปทันที และปราดเดียวก็พบว่าชื่ออันดับที่ 1 บนตารางจัดอันดับได้เปลี่ยนไป!
 
“อะไร!?”
 
“อันดับ 1 เปลี่ยนหรือ?”
 
“คนที่ได้อันดับ 1 เมื่อครู่ตกไปอยู่ที่ 2 แล้ว…หืม!? ต้วนหลิงเทียน!?”
 

 
เมื่อเหล่าศิษย์และผู้อาวุโสของคฤหาสน์หงเอี้ย พบว่ารายชื่ออันดับ 1 ไม่ใช่ 1 ใน 5 คนที่พวกมันนึกถึง สีหน้าก็เปลี่ยนไปไม่น้อย
 
เพราะผู้ที่ได้อันดับ 1 ตอนนี้ ก็คือศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยว ต้วนหลิงเทียน!
 
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าไฉนศิษย์พี่ซีเหมินถึงอกว่ามิได้ถูก 5 คนนั่นกำจัด…ที่แท้ผู้ลงมือก็คือต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิงนี่เอง!”
 
ศิษย์คฤหาสน์หงเอี้ยคนหนึ่งที่ตระหนักได้ว่าที่แท้เกิดอะไรขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมาเสียงดัง
 
ทันใดนั้นเอง
 
ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!
 

 
เสียงสูดลมหายใจเข้าดึงขึ้นระงม จังหวะนี้เหล่าศิษย์และอาวุโสคฤหาสน์หงเอี้ยอดขนลุกไม่ได้!
 
พวกมันคิดไม่ถึงจริงๆ…
 
ว่าศิษย์หลักคฤหาสน์หงเอี้ยอย่างซีเหมินฮ่าวซวน จะถูกกำจัดด้วยน้ำมือต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยว!
 
“ข้าได้ยินมานานแล้ว ว่าต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิงที่ร่วมมือกัน มีพลังถึงขั้นคุกคาม 6 อันดับแรกได้…แต่ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะเอาชนะศิษย์พี่ซีเหมินได้จริงๆ”
 
“ในเมื่อศิษย์พี่ซีเหมินยังแพ้พ่ายพวกมัน ไม่ได้หมายความว่า…พวกมันก็จัดการอีก 5 คนที่เหลือได้รึไง?”
 
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว! พลังฝีมือของศิษย์พี่หาได้ด้อยกว่า 5 คนนั่นไม่…ในเมื่อต้วนหลิงเทียนกับหว่านชิงชิงร่วมมือกันเอาชนะศิษย์พี่ได้ เช่นนั้นอีก 5 คนพวกมันก็จัดการได้ไม่ยากแน่นอน!”
 

 
เหล่าศิษย์คฤหาสน์หงเอี้ยพูดไปไม่ทันไรก็เห็นพ้องต้องกันเป็นเอกฉันท์ ว่าต้วนหลิงเทียนที่ร่วมมือกับหว่านชิงชิง สามารถจัดการ 5 คนที่เหลือได้หมดแน่นอน!
 
จังหวะนี้พวกมันจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย ที่ศิษย์พี่ซีเหมินฮ่าวซวนของพวกมันโชคร้ายไปเจอดาวมฤตยูคู่นี้เข้า…
 
ในขณะที่คฤหาสน์อมตะหงเอี้ยกำลังสะท้านสะเทือนกับความพ่ายแพ้ของซีเหมินฮ่าวซวน คฤหาสน์อมตะระดับ 6 อื่นก็แตกตื่นหาความสงบไม่เจอเช่นกัน
 
“ต้วนหลิงเทียนนั่น…มันขึ้นไปถึงอันดับ 1 ได้ยังไง!?”
 
“บ้าน่า…เรื่องจริงเหรอเนี่ย?!”
 
“มารดามัน! ต้วนหลิงเทียนนี่มันหลุดมาจากนรกขุมใดกันแน่ พึ่งจะเข้าร่วมแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเดือนที่ 2 มันก็ทะยานฟ้าด้วยการคว้าอันดับ 1 แล้วรึ!?”
 
“ให้ตายเถอะ เรื่องของเรื่องคือคะแนนสะสมมันพุ่งทะลุพันไปแล้ว! เดือนนี้ขอเพียงไม่มีอะไรผิดพลาด มันต้องได้อันดับที่ 1 แน่นอน!”
 
“ยังจะมีเรื่องใดผิดพลาดได้อีก…กงซุนอู๋จี๋ที่ถูกเบียดตกไปอันดับที่ 2 นั่น ยังพึ่งมีแต้มแค่ 700 นิดๆเท่านั้น หากมันจะไล่ให้ทันต้วนหลิงเทียน เว้นเสียแต่มันจะจัดการหว่านชิงชิงได้ ไม่งั้นต่อให้มันจัดการคนอื่นใน 10 อันดับแรกที่เหลือคนไหนนอกจาก 4 คนนั่น มันไม่มีทางไล่ตามต้วนหลิงเทียนได้ทันเลย”
 

 
ผู้คนขอคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ต่างๆ เมื่อเห็นคะแนนสะสมของต้วนหลิงเทียนแล้ว พวกมันก็แทบจะสรุปผลได้ทันทีว่าเดือนนี้ใครจะได้อันดับ 1 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง
 
และหากจะบอกว่าตอนนี้คฤหาสน์อมตะระดับ 6 ทั้งหลายกำลังแตกตื่นกับอันดับของต้วนหลิงเทียนกันยกใหญ่ล่ะก็…
 
เช่นนั้นอาการของผู้คนในคฤหาสน์เฉวียนโยวตอนนี้ คงอธิบายได้อย่างเดียว…คุ้มคลั่ง!!
 
“จ้าวสวรรค์ช่วย! ข้าไม่คิดเลยว่าชาตนี้ข้าจะมีวันได้เห็นศิษย์ในคฤหาส์เฉวียนโยวของพวกเราได้อันดับ 1 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง!!”
 
เหล่าศิษย์และอาวุโสของงคฤหาสน์เฉวียนโยวตอนนี้ แต่ละคนหน้าแดงก่ำ ทุกคนตื่นเต้นยินดีจนไม่รู้จะตื่นเต้นยินดีไปมากกว่านี้ได้อย่างไรแล้ว หลายคนกำหมัดฮึดฮัดด้วยไม่รู้จะแสดงออกอย่างไรเพื่อระบายความดีใจ บางคนยังยืนจ้องตารางจัดอันดับไป น้ำตาไหลพรากไป…
 
เพราะสำหรับพวกมัน สิ่งนี้คือเกียรติยศที่ได้แต่ฝันถึง…
 
ถึงแม้ว่าผู้ที่นำพามาจะเป็นแค่คนนอกที่จ้างมาช่วยก็ตาม…
 
แต่อันดับ 1 ก็คืออันดับ 1!
 
ขุนนางอมตะ 10 ทิศอายุไม่ถึงพันปีของคฤหาสน์เฉวียนโยวพวกมันคว้าอันดับ 1 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณมาได้! นี่คือความจริงที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ!!
 
“มารดาเราช่วย ข้าฝันไปรึเปล่า ต้วนหลิงเทียน ได้อันดับ 1 แล้วจริงๆเหรอ? แถมกงซุนอู๋จี๋ที่ถูกเบียดตกไปที่ 2 ก็มีแค่ 700 แต้ม หากมันคิดจะแซงกลับขึ้นมาเพื่อเป็นอันดับ 1 ก็มีแต่ต้องจัดการอันดับ 7 อย่างหว่านชิงชิงคนเดียวเท่านั้น!”
 
ศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวกล่าวกันอย่างออกรส
 
หว่านชิงชิงก็กระเตื้องขึ้นไปอีกอันดับ เพราะซีเหมินฮ่าวซวนหายไป…
 
กระทั่งหลังจากซีเหมินฮ่าวซวนถูกกำจัดไป คนที่อันดับเลื่อนขึ้นมาไม่ได้มีแค่หว่านชิงชิงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนที่อยู่ใต้หว่านชิงชิงอีก 90 กว่าคนด้วย อันดับของพวกมันเลื่อนขึ้นมาคนละ 1 อันดับทั้งสิ้น!
 
“กำจัดหว่านชิงชิง? ข้าว่าหากไปจริงๆ ไม่พ้นโดนหว่านชิงชิงกับต้วนหลิงเทียนร่วมมือกันกำจัดมากกว่า…หว่านชิงชิงตอนนี้ก็สมควรอยู่กับต้วนหลิงเทียน พวกเจ้าว่ากงซุนอู๋จี๋มันจะกล้าไหม?”
 
ศิษย์คฤหาสน์เฉวียนโยวคนหนึ่งกล่าวแย้งออกมาด้วยน้ำเสียงเสียดสี
 
“ตอนนี้หากไม่อาจกำจัดหว่านชิงชิง ต่อให้กงซุนอู๋จี๋จะไปจัดการอันดับที่ 8 มันก็ไม่มีทางแซงขึ้นเป็นอันดับ 1 ได้ แถมกงซุนอู๋จี๋นั่นมันเหลือเวลาอยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณอีกไม่นานแล้วไม่ใช่รึไง?”
 
“ใช่…ข้าจำได้ว่ามันเข้าไปก่อนซีเหมินฮ่าวซวนด้วยซ้ำ!”
 
“ไม่ผิด มันเป็นคนแรกในบรรดา 6 คนที่เข้าไป คะแนนมันก็เลยนำผู้อื่นอยู่ไงเล่า”
 

 
เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยวมั่นใจว่ากงซุนอู๋จี๋ไม่มีทางเจอใครที่มีคะแนนสะสมมากพอ ก่อนที่จะหมดเวลาแน่นอน
 
“ดูเหมือนอันดับ 1 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณเดือนนี้…คงเป็นต้วนหลิงเทียนแน่นอนแล้ว!”
 
“ฮ่าๆๆๆ…น่ายินดี! ช่างน่ายินดียิ่งนัก!!”
 
“ต้วนหลิงเทียนเป็นวีรบุรุษของคฤหาสน์เฉวียนโยวพวกเราโดยแท้!!”
 

 
ข่าวเรื่องราวดังกล่าวไม่ทันไรก็แพร่กระจายไปทั่วคฤหาสน์เฉวียนโยว สร้างความแตกตื่นฮือฮาให้คฤหาสน์เฉวียนโยวครั้งยิ่งใหญ่แล้วจริงๆ กระทั่งคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องอันดับในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง ยังอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความสนใจขึ้นมา มีศิษย์หลายคนที่ตัดสินใจว่าจะลองเข้าร่วมด้วยซ้ำ
 
ที่สำคัญเลยก็คือ…หลังจากผ่านไปนานนับพันๆปี ในที่สุดคฤหาสน์เฉวียนโยวของพวกมันก็ได้อันดับ 1 อีกครั้ง!
 
แตกต่างจากความสุขความยินดีอันล้นพ้นของคนคฤหาสน์เฉวียนโยว ด้านคฤหาสน์ปี้ชิงตอนนี้ แต่ละคนทำหน้าแขยงราวเคี้ยวข้าวโดนแมลงวัน
 
“โชคดีนักที่เดือนนี้ข้าเข้าไปก่อนและชิงอันดับ 1 มาได้…แต่ไม่รู้ว่า 5 คนนั่นมันจะแซงข้าได้รึเปล่า”
 
ก่อนที่กงซุนอู๋จี๋จะถูกอาคมส่งตัวออกมาจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเพราะครบกำหนดเวลา ก็ไม่ทันมีใครแจ้งมันไปว่าตอนนี้ตัวมันถูกต้วนหลิงเทียนแซงไปแล้ว
 
และมันพึ่งจะปรากฏตัวในค่ายกลเคลื่อนย้ายรับตัวได้ไม่ทันไร สิ่งที่ต้อนรับมันก็คือ วาจาที่กำลังกล่าวถึงการขึ้นสู่อันดับ 1 ของต้วนหลิงเทียน
 
“ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อเลย…ว่าศิษย์พี่กงซุนอู๋จี๋จะถูกเบียดออกจากอันดับที่ 1 แบบนี้!”
 
“บัดซบ! หากต้วนหลิงเทียนของคฤหาสน์เฉวียนโยวนั่นมันไม่ร่วมมือกับหว่านชิงชิง มีหรือมันจะจัดการซีเหมินฮ่าวซวนของคฤหาสน์หงเอี้ยได้? มีหรือจะเบียดศิษย์พี่กงซุนจนตกมาอยู่อันดับ 2 ได้?”
 
“หากคนที่ได้อันดับ 1 เป็นใครใน 5 คนที่เหลือข้าจะไม่สนใจอะไรเลย…แต่พอคนของคฤหาสน์เฉวียนโยวได้ไปเช่นนี้ ข้าหงุดหงิดยิ่ง!
 

 
ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ทั้งหงุดหงิดของสหายศิษย์ร่วมคฤหาสน์ปี้ชิง ทำให้สีหน้ากงซุนอู๋จี๋เปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ทันใด ยังรีบหันมองไปยังตารางจัดอันดับทันที
 
มองไปปราดเดียวก็เห็น…
 
มันตกมาเป็นอันดับ 2 แล้ว…
 
สำหรับคนที่อยู่ในอันดับ 1 แทนที่มัน ก็คือต้วนหลิงเทียนจากคฤหาสน์เฉวียนโยว!
 
ยิ่งไปกว่านั้นต้วนหลิงเทียนยังแซงขึ้นไปอันดับ 1 เพราะได้คะแนนสะสมจากซีเหมินฮ่าวซวน…ทำให้คะแนนสะสมของอีกฝ่ายพุ่งทะลุ 1,000! จนเดือนนี้ไม่น่าจะมีใครสามารถแซงได้อีกแล้ว!!
 
“ต้วน! หลิง! เทียน!”
 
ดวงตากงซุนอู๋จี๋เริ่มฉายแววอำมหิต มากล้นไปด้วยจิตสังหาร!
 
ภายในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง
 
พริบตาก็ผ่านพ้นไปอีกวัน
 
“อีก 1 เค่อข้าก็จะถูกบังคับส่งตัวออกจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางแล้ว”
 
หว่านชิงชิงหันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียน “หลังจากที่ข้าถูกบังคับส่งตัวออกไป เจ้าก็สมควรออกไปเลยเถอะ…ด้วยคะแนนสะสมของเจ้าในตอนนี้ เรื่องอันดับที่ 1 คงไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว”
 
วันสุดท้าย นางกับต้วนหลิงเทียนก็ได้พบเจอผู้คนอีก 2-3 คน และช่วงชิงคะแนนจากอีกฝ่ายมา
 
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนมอบคะแนนให้นางทั้งหมด
 
ด้วยเหตุนี้หากไม่เกิดอะไรผิดพลาดล่ะก็ นางสมควรรักษาอันดับ 7 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณของเดือนนี้เอาไว้ได้ตลอดทั้งเดือน
 
และนี่ยังเป็นผลงานที่ดีที่สุด ตลอดระยะเวลาหลายปีที่นางเข้าร่วมแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง…

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)