War sovereign Soaring The Heavens 1924-1930

 ตอนที่ 1,924 : ไม่จำเป็น!


 


“แก้แค้น?”


 


กู่หลงชะงักไปวูบหนึ่งเมื่อได้ยินคำของกู่ชุน จากนั่นก็ผลักร่างกู่ชุนที่สวมกอดอยู่ออกไปเบาๆ ค่อยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงขึงขัง “เสี่ยวชุน ที่แท้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าหายไปแล้วจริงๆหรือ?”


 


“เป็นความจริงท่านพี่ รากวิญญาณของข้าหายไปแล้วจริงๆ”


 


ได้ยินคำถามของกู่หลง กู่ชุนกล่าวตอบออกไปเสียงอ่อย สีหน้าท่าทางของมันยังคล้ายเจ็บปวดสุดแสน


 


“พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าอยู่ดีๆมันหายไปได้อย่างไรกัน? แล้ว…เจ้าบอกให้ข้าล้างแค้น? ล้างแค้นอะไร?”


 


กู่หลงขมวดคิ้วเป็นปม แลดูสับสนไม่น้อย


 


จากที่อาวุโสเพลิงทองแดงกล่าว เห็นว่ากระทั่งน้องชายของมันเองก็ไม่รู้ว่าพรสวรรค์รากวิญญาณหายไปได้อย่างไรไม่ใช่หรือ?


 


หากเป็นแบบนั้นทำไมอีกฝ่ายถึงบอกให้มันล้างแค้นเล่า?


 


ล้างแค้นผู้ใด?


 


“ท่านพี่ ข้าสงสัยว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของข้าจะถูกทำลายด้วยน้ำมือของต้วนหลิงเทียน! อย่างไรก็ตามข้าไร้ซึ่งหลักฐานอันใดชี้ชัด เช่นนั้นข้าจึงไม่มั่นใจเต็มสิบส่วนว่าเป็นมันกระทำ…อย่างไรก็ตามหากมันไม่ใช่ผู้ลงมือ ข้าก็ไม่อาจนึกออกได้จริงๆว่าไฉนรากวิญญาณของข้าอยู่ดีๆมันถึงได้ถึงหายไปแบบนี้…”


 


เผชิญกับคำถามของกู่หลง กุ่ชุนก็เริ่มเล่าเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างมันกับต้วนหลิงเทียนออกไปทั้งหมด กระทั่งเล่าถึงจุดน่าสงสัยที่ต้วนหลิงเทียนกระทำออกมาหมดสิ้น


 


“ข้าคิดว่ามันเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง! กระทั่งข้ายังมีลางสังหรณ์อย่างแรงกล้าในเรื่องนี้! ตอนนี้พรสวรรค์รากวิญญาณของข้าหายไปแล้วแท้ๆ แต่ข้ากลับไม่อาจจัดการมันได้!”


 


กล่าวจบกู่ชุนก็กำหมัดแน่น


 


“เปิดกางเขตแดนเพื่อปิดกั้นสายตาผู้คนงั้นเหรอ…ฟังจากที่เจ้าเล่ามา 9 ใน 10 ส่วนล้วนเป็นเพราะมันที่ทำให้รากวิญญาณของเจ้าหายไป”


 


ลูกตากู่หลงเผยประกายเย็นชาออกมา หลังนิ่งคิดไตร่ตรองไปพักหนึ่ง “มันสมควรสำเร็จทักษะอันน่าเหลือเชื่อบางประการที่สามารถทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณโดยมิทำลายดวงจิตของผู้อื่นได้…”


 


“ทว่าในสายตาของคนทั่วไป ถึงแม้จะเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ก็ยังเป็นมิได้ที่จะทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของใครโดยไม่ทำร้ายดวงจิตของคนๆนั้น! เช่นนั้นตั้งแต่ต้นจนจบจึงมิมีผู้ใดคลางแคลงสงสัยมัน!!”


 


ท้ายประโยค ขณะกล่าวกู่หลงยังเผยจิตสังหารเย็นเยียบออกมา จนบรรยากาศรอบกายคล้ายจะเย็นลงทันตา


 


หากต้วนหลิงเทียนมาอยู่ที่นี่แล้วได้ยินคำของกู่หลง เกรงว่าคงมีหวาดเสียวกันบ้าง


 


ถึงแม้ว่ากู่หลงอาจจะไม่ได้เดาถูกทั้งหมด แต่ก็มีเค้าความจริงอยู่หลายส่วน!


 


“ฟังท่านพี่แล้วข้าก็คิดว่ามันสมควรเป็นเช่นนั้นจริงๆ! อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนที่แล้ว พอต้องเผชิญหน้ากับการสาบานต่อทัณฑ์อัสนีข้ากลับหวาดกลัวที่จะเดิมพัน…ข้ากลัวว่าหากมันไม่ได้ทำจริงๆ ข้าจะถูกฟ้าพิฆาตตายตก! ท่านพี่ข้าใช่คนขี้ขลาดหรือไม่ ท่านคงผิดหวังในตัวข้าแล้วใช่ไหม?”


 


ต่อหน้ากู่หลง กู่ชุนก็เป็นเหมือน ‘เด็กน้อย’ คนหนึ่ง


 


“เสี่ยวชุน เจ้ามิได้ขี้ขลาด ในกรณีที่ไม่มั่นใจการที่เจ้าระวังตัวและเลือกทำเช่นนั้นย่อมสมควรแล้ว…เสี่ยวชุนเจ้าทำดีแล้ว!”


 


กู่หลงส่ายหัวไปมาทันทีหลังได้ยินคำกู่ชุน


 


ทว่าชั่วพริบตานั้นลึกลงไปในลูกตาพลันทอประกายเรืองวูบขึ้นมาด้วยอำมหิต คล้ายอยากจะฆ่าใครสักคนให้ตาย!


 


แน่นอนว่าเป้าหมายความอำมหิตนี้ไม่ได้เพ่งเล็งไปที่กู่ชุน


 


มันมุ่งเป้าไปที่ ‘ต้วนหลิงเทียน’ ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน!


 


“ท่านพี่…ข้าอยากให้ต้วนหลิงเทียนมันตาย!!”


 


การมาถึงของกู่หลง ก็เสมือนแสงสว่างที่ส่องสาดมาปัดเป่าความมืดครึ้มอึมครึมในใจเพราะความทุกข์ตรมของกู่ชุน ลูกตามันบัดนี้ไม่เหลือความเศร้าซึมคงมีแต่ประกายเย็นชามากจิตสังหาร ใบหน้ายังถมึงทึงปานอสุราเคืองแค้น ราวกับต้วนหลิงเทียนไปฆ่าบิดาถล่มมารดาของมันมาอย่างไรอย่างนั้น!


 


“เสี่ยวชุนเจ้าไม่ต้องห่วงไป มันไม่ได้ตายดีแน่!”


 


ตอนนี้เองกู่หลงได้นำชุดที่อาวุโสเพลิงทองแดงให้มาก่อนหน้าขึ้นมาเปลี่ยน กระบี่ยาวพร้อมฝักในมือก็ถูกนำไปสะพายไว้ที่หลัง


 


การสวมชุดเครื่องแต่งกายของศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬเช่นนี้ นั่นหมายความว่าตัวมันก็ถือเป็นศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬแล้ว


 


กล่าวให้ชัดก็คือศิษย์ของลัทธิบูชาไฟ!


 


“พี่ใหญ่ แต่กฏของลัทธิบูชาไฟเคร่งครัดยิ่งนัก พวกเรามิอาจลงมือฆ่าต้วนหลิงเทียนที่นี่จนเป็นที่ละเมิดกฏของลัทธิบูชาไฟได้! คงไม่คุ้มที่พวกเราจะเอาอนาคตไปแลกกับชีวิตสวะของมัน”


 


หลังสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับอารมณ์คราหนึ่ง กู่ชุนพลันกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเฉยเมย


 


“เรื่องนั้นไม่จำเป็น!”


 


อย่างไรก็ตามกู่หลงที่ได้ยินคำของกู่ชุนชัดเจน กลับกล่าวปฏิเสธออกมาทันที


 


หลังจากได้เห็นสีหน้างุนงงและมองมาด้วยสายตาว่างเปล่าไม่เข้าใจของกู่ชุน กู่หลงพลันกล่าวอธิบายออกไปอย่างไม่รีบไม่ร้อนทันที “เสี่ยวชุน เจ้าอย่าได้ลืมไปว่าพี่ชายของเจ้าผู้นี้มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน…ต่อให้ข้าจะละเมิดกฏของลัทธิบูชาไฟเข่นฆ่าต้วนหลิงเทียนนั่นไป แต่เจ้าคิดจริงๆหรือว่าลัทธิบูชาไฟจะเลือกให้พี่ชายเจ้าคนนี้ชดใช้ด้วยชีวิตจริงๆ? ชดใช้ชีวิตให้ศิษย์ดาษๆที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลือง?”


 


“แน่นอนว่าไม่!”


 


กู่ชุนได้ฟังก็ส่ายหัวไปมาทันที


 


ล้อกันเล่นหรือไร!


 


ศิษย์อัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน ไหนเลยจะยกไปเทียบกับศิษย์ธรรมดาที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณเพียงแค่สีเหลืองได้?!


 


ถึงแม้คนแรกจะฆ่าคนหลังไปเสีย แต่ลัทธิบูชาไฟที่นิยมผู้อัจฉริยะมากที่สุด เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายอัจฉริยะเช่นนี้ อย่างดีก็ลงโทษให้หนักหน่อยเท่านั้น!


 


เพราะอย่างไรเสียอัจฉริยะระดับนี้ยามเติบโตขึ้นไป วันหน้าก็คงมิพ้นต้องกลายเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์แน่แท้ ตำแหน่งผู้อาวุโสเพลิงเงินนั้นเป็นที่แน่นอนว่าต้องได้รับแน่ๆ กระทั่งอาจจะได้เป็นถึงผู้อาวุโสเพลิงทอง!


 


ถึงตอนนี้ในบรรดาผู้อาวุโสเพลิงทองของลัทธิบูชาไฟ จะมีเพียง 3 คนเท่านั้นที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินก็ตาม


 


แต่ลัทธิบูชาไฟจะเลือกทำลายอัจฉริยะที่มีโอกาสจะได้เป็นอาวุโสเพลิงเงินหรือเพลิงทองในอนาคตไป เพื่อเห็นแก่ศิษย์สามัญที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลืองที่ไร้วันบรรลุขอบเขตเซียนสวรรค์งั้นหรือ?


 


เรื่องเช่นนี้ลัทธิบูชาไฟมิอาจหักใจกระทำได้!


 


“และหากข้ามิได้สวมใส่ชุดของศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ เรื่องราวจักแตกต่างออกไปแล้ว…เพราะเกิดข้าฆ่ามันในฐานะคนนอก น่ากลัวว่าลัทธิบูชาไฟจักไม่สนใจอันใดทั้งสิ้น และจำต้องเชือดไก่ให้ลิงดูเพื่อรักษาหน้าตาศักดิ์ศรีไม่ผิดแน่…แบบนั้นข้าก็ต้องตายสถานเดียว!”


 


“ทว่าตอนนี้ข้าสวมใส่ชุดศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ ถึงแม้จะฆ่าเจ้าต้วนหลิงเทียนอะไรนั่นไป แต่ลัทธิบูชาไฟย่อมมองว่านี่เป็นเรื่องราวความขัดแย้งภายในบ้าน…”


 


กู่หลงกล่าวออกชัดถ้อยชัดคำ “ตราบใดที่ข้าแสดงคุณค่าของข้าให้ลัทธิบูชาไฟเห็น ลัทธิบูชาไฟย่อมมิมีทางเอาชีวิตข้าเพื่อชดใช้ชีวิตต้วนหลิงเทียนนั่น…อย่างดีข้าก็แค่ถูกกักขังรับทัณฑ์ทรมานไม่กี่สิบกี่ร้อยปี!”


 


กู่หลงเต็มไปด้วยความมั่นใจในเรื่องนี้นัก


 


“เสี่ยวชุน…เจ้าต้วนหลิงเทียนอันใดนั่น มันพักอยู่บ้านชั้น 3 หลังใด?”


 


กล่าวออกอีกครั้ง กู่หลงพลันเหินลอยขึ้นไปบนฟ้า พร้อมว่ายตามองสำรวจไปยังบ้านชั้น 3 นับพันรอบๆ


 


“หืม? นี่เจ้านั่นมันเป็นศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬของพวกเราด้วยงั้นเรอะ?”


 


ถึงแม้ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬจะไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างกู่หลงกับกู่ชุน แต่พวกมันย่อมตระหนักได้ว่าทั้งคู่สมควรสนิทสนมกันไม่น้อย


 


นอกจากนี้อยู่ๆกู่หลงนั่นกลับเปลี่ยนไปสมชุดศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬของพวกมันต่อหน้าต่อตา!


 


“แปลกจัง ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย…”


 


“อ่าว นั่นมันมิได้แค่มาหาสหายที่แท่นบูชาไฟเต่าทมิฬเราหรอกเหรอ? ข้าพึ่งเห็นอาวุโสเพลิงทองแดงพามันมาส่ง!”


 


“หืม? เจ้าว่ามันพึ่งมาถึงหรือ? หรือจะเป็นศิษย์ที่พึ่งเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟเราเป็นพิเศษ…แต่เห็นว่ามีเพียงผู้ที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินขึ้นไปเท่านั้นนี่นา ถึงจะได้รับอภิสิทธิ์เช่นนี้!”


 


“หรือว่า…เจ้าหมอนั่นมันจะเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน?”


 



 


ในขณะที่ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬกล่าวถึงจุดนี้ สายตาที่มองไปยังร่างคนแปลกหน้าก็เผยประกายลุกวาวร้อนแรงขึ้นมา


 


หลังกู่หลงลอยร่างขึ้นฟ้ามาได้สักพัก เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬพลันขมวดคิ้วออกมา เพราะทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ท่วมท้นอบอวลอยู่รอบกาย!


 


“จิตสังหารนั่นมัน…นี่เจ้านั่นมันคิดจะทำอะไรกันแน่?”


 


ศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬหลายคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสะท้านจับใจ เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอำมหิตนี้ของกู่หลง


 


“ท่านพี่ เป็นบ้านหลังนั้น”


 


ในขณะที่ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬกำลังสงสัย เสียงของกู่ชุนพลันดังขึ้น


 


ขณะเดียวกันพวกมันก็เห็นกู่ชุนเหินร่างลอยตามขึ้นไป ก่อนที่จะชี้ไปยังบ้านพักชั้น 3 หลังหนึ่งแล้วเหินร่างนำออกไปทันที


 


“เฮ่ย! บ้านพักชั้น 3 หลังนั้น มิใช่หลังที่ต้วนหลิงเทียนพักอยู่หรอกเหรอ!?”


 


ทันใดนั้นมีศิษย์หลายคนที่จดจำได้ว่าบ้านพักชั้น 3 ที่กู่ชุนชี้มันเป็นบ้านพักของใคร…พวกมันย่อมตระหนักได้ทันทีว่าที่แท้นี่มันเรื่องราวอะไร เจตนาฆ่าฟันของกู่หลงนั้นที่แท้ก็มุ่งเป้าไปที่ต้วนหลิงเทียน!


 


“เดี๋ยวนะ…เมื่อครู่กู่ชุนเรียกเจ้านั่นว่าท่านพี่หรือ?”


 


“งั้นเจ้านั่นก็เป็นพี่ชายกู่ชุนงั้นสิ?”


 


……


 


ไม่นานความสนใจของเหล่าศิษย์ก็ไปหยุดอยู่ที่คำ ‘ท่านพี่’ ที่กู่ชุนใช้เรียกกู่หลง และเรื่องนี้นับว่าทำให้พวกมันฮือฮากันไม่น้อย


 


ไม่ว่าพวกมันจะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร แต่พวกมันก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าที่แท้อีกฝ่ายจะเป็นพี่ชายของกู่ชุน!


 


ในขณะเดียวกัน บ้านพักชั้น 3 หลังที่กู่ชุนชี้ไปนั้น อยู่ๆก็มีร่างหนึ่งเปิดประตูออกมาก่อนจะเหินลอยขึ้นไปในอากาศ…เป็น ‘ต้วนหลิงเทียน’ ที่พึ่งออกจากชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ


 


“ผู้เฒ่าหั่วบอกว่า…มีคนคิดร้ายกับข้าอยู่ข้างนอก”


 


ก่อนหน้านี้ต้วนหลิงเทียนได้ยินคำแจ้งเตือนของผู้เฒ่าหั่ว เขาจึงหยุดพักบ่มเพาะและออกจากเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติทันที


 


เมื่อออกจากเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติมาแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เปิดประตูบ้านออกมาทันที


 


และทนทีที่เขาออกมา เขาก็สัมผัสได้ชัดเจนว่ามีดวงตาเยียบเย็นคู่หนึ่งทอดมองมาจากบนฟ้าหล่นลงที่ร่างของเขา ทั้งดวงตาทั้ง 2 คู่ยังเปี่ยมล้นไปด้วยจิตฆ่าฟัน!


 


“เป็นกู่ชุนกับหลี่อันอีกแล้วหรือ?”


 


นี่เป็นความคาดเดาของต้วนหลิงเทียน ก่อนที่เขาจะแหงนหน้าขึ้นมอง


 


และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไป เขาก็พบเจ้าของสายตา 2 คู่ที่ว่า


 


หนึ่งในนั้นคือกู่ชุนที่เขาคุ้นหน้าดี ทว่าอีกคนกลับไม่ใช่หลี่อัน แต่เป็นศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ


 


และตอนนี้จิตสังหารของศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬดักล่าว ก็ละออกจากบ้านพักชั้น 3 ของเขา และเบนเป้ามาที่เขาโดยตรง


 


เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของมันก็คือเขาเอง!


 


“มันเป็นใครกัน?”


 


หลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสงสัยเมื่อเห็นศิษย์คนดังกล่าวลอยร่างข้างๆกู่ชุน


 


“ท่านพี่ มันคือต้วนหลิงเทียน!”


 


ขณะนั้นเองต้วนหลิงเทียนพลันได้ยินเสียงเปี่ยมโทสะแค้นของกู่ชุนกล่าวกับชายวัยกลางคนที่สะพายกระบี่ยาวไว้ด้านหลัง


 


“หืม? พี่ชายของกู่ชุนงั้นรึ?”


 


จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนพลันเข้าใจ


 


ที่แท้ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬคนนี้ก็เป็นพี่ชายของกู่ชุนนี่เอง ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะคิดร้ายต่อเขา


 


“ว่าแต่…กู่ชุนมันมีพี่ชายเป็นศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬด้วย?“


 


ต้วนหลิงเทียนคิดว่าพี่ชายคนนี้ของกู่ชุนเป็นศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬแต่แรก เขาไม่ได้นึกถึงเรื่องที่พี่ชายอีกฝ่ายจะพึ่งมาถึงลัทธิบูชาไฟวันนี้สดๆร้อนๆ


 


ยิ่งไม่ได้คาดคิดว่าพี่ชายของกู่ชุนจะเป็นถึงอัจฉริยะ ผู้มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน!


 


“เจ้าน่ะหรือคือต้วนหลิงเทียน?”


 


แทบจะทันทีที่วาจากู่ชุนดังจบคำ สองตาของกู่หลงก็มองเขม็งไปยังต้วนหลิงเทียนทันที กล่าวถามออกมาเสียงต่ำเยียบเย็น


 


“เป็นข้าเอง แล้วเจ้ามีปัญหาอะไร?”


 


ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่คิดสุภาพอะไรอีกเมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารจากกู่หลง จึงกล่าวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงไม่แยแส


 


“โอหังดีนี่!”


 


ใบหน้ากู่หลงลดต่ำลงทันใด กล่าวเย้ยเยาะคำหนึ่ง มือพลันสะบัดชักกระบี่ที่สะพายไว้ด้านหลังออกมาฉับไวปานสายฟ้าฟาด ค่อยกล่าวออกมาด้วยเสียงดังอำมหิต “ให้ข้าดูว่าเจ้ามีฝีมือมากพอให้โอหังเช่นนี้หรือไม่!”


ตอนที่ 1,925 : กู่หลงลงมืออย่างอุกอาจ!


 


ฟั่บ!! วู้มมม!!!


 


เสียงตวัดกระบี่กรีดอากาศฉับไวดังขึ้น อีกทั้งหลังกู่หลงชักกระบี่ยาวออกมาตวัดฟันแล้ว พลันบังกิดรังสีกระบี่สะบั้นดั่งเสี้ยวจันทร์แหวกฟ้าผ่าอากาศ เข่นฆ่าสังหารไปที่ต้วนหลิงเทียนอย่างเร็วรี่!


 


ชั่วเวลาเพียงเสี้ยวพริบตา รังสีกระบี่สะบั้นเสี้ยวจันทร์ก็ดั่งลัดฟ้า มันพุ่งผ่านระยะหลายร้อยหมี่มาเจียนบรรลุถึงต้วนหลิงเทียนด้วยพลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัว!


 


ยามรังสีพลังสะบั้นนี้พุ่งลงมา เสียงแหวกฝ่าอากาศฉับไวแหลมเล็ก แทบจะเสียดแก้วหูผู้คนจนทะลุ!


 


ซูด! อา! สวรรค์!


 



 


หน้าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬมากมายถึงกับเปลี่ยนสีไปโดยพลัน ด้วยไม่คิดเลยว่าพี่ชายของกู่ชุนมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง กลับกล้าลงมือจู่โจมใส่ต้วนหลิงเทียนด้วยกระบวนเปี่ยมจิตสังหารหมายฆ่าคน! โดยไม่สนใจกฏห้ามฆ่าฟันกันของลัทธิบูชาไฟทันทีแบบนี้!!


 


นี่มันกำลังรนหาที่ตายรึยังไง?!


 


ในห้วงเวลาชั่วพริบตาดั่งอัสนีวาบฟ้านั้น ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬต่างมีความคิดนี้ผุดขึ้นในหัว


 


เพราะการฆ่าใครสักคนในลัทธิบูชาไฟ เป็นดั่งอาญาโทษ ยังมีความผิดสาหัสนัก!


 


วูบ!


 


จังหวะนี้ไม่ใช่แค่สีหน้าของเหล่าศิษย์โดยรอบเท่านั้นที่เปลี่ยนสี กระทั่งหน้าต้วนหลิงเทียนยังอึมครึมขึ้นมาทันควัน


 


ด้วยเขาไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆว่าอยู่ๆ พี่ชายกู่ชุนนี่จะลงมือซัดรังสีกระบี่ใส่เขาแบบนี้!


 


ยิ่งไปกว่านั้น จากรังสีพลังที่เปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหาร ก็เผยให้เห็นชัดว่ามันคิดฆ่าเขาจริงๆ!


 


“ปีกอีกาทองคำ!”


 


เผชิญหน้ากับรังสีพลังสังหารที่ลัดฟ้ามาฉับไวของชายวัยกลางคนไกลตา ต้วนหลิงเทียนพลันคำรามออกเสียงดัง ทั่นใดนั้นพลังเซียนสุริยันพลันโคจรไหลเชี่ยวดั่งน้ำหลาก แล่นทะลักผ่านชีพจรเซียน 99 สาย บรรลุถึงช่องพลังทั่วร่างในเสี้ยวพริบตา!


 


พลังเซียนสุริยันที่ทะลักออกมาท่วมร่างขุมหนึ่ง พลันควบรวมก่อเกิดเป็นปีกเพลิงขนาดมหึมาคู่ใหญ่กลางแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียน!


 


เป็นเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวระดับสูงที่ต้วนหลิงเทียนเชี่ยวชาญ ปีกอีกาทองคำ!


 


ปง!!


 


ปีกอีกาคู่ใหญ่แรกปรากฏ พลันสะบัดกระพืออย่างแรงจนบังเกิดเสียงแตกระเบิดของอากาศ ปานฟ้าผ่า!


 


ฟู่มม!!


 


พร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น ร่างต้วนหลิงเทียนพลันพุ่งทะยานออกไปปานลูกกระสุน หลีกหลบรังสีกระบี่สังหารปานเสี้ยวจันทร์ที่ร่วงลงจากฟ้าได้อย่างเฉียดฉิว!


 


แม้ต้วนหลิงเทียนจะมีความเร็วที่เพิ่มพูนขึ้นอย่ามหาศาลด้วยเวทย์พลังชั้นสูงอย่างปีกอีกาทองคำ หากแต่รังสีพลังสะบั้นเมื่อครู่กลับทำให้เขาต้องใจสั่นไม่น้อย…สิ่งนี้พาลให้เขาตระหนักได้ถึงเรื่องราวประการหนึ่ง…


 


พี่ชายของกู่ชุนคนนี้ ต่อให้ยังไม่บรรลุถึงขอบเขตเซียนนภา แต่อย่างต่ำๆก็ต้องบรรลุถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุดไปแล้วแน่!


 


หาไม่แล้วกับอีกแค่รังสีกระบี่สังหารที่คล้ายอีกฝ่ายซัดออกมาอย่างไร้เรื่องราวเมื่อครู่ คงไม่ฉับไวจนทำให้เขารู้สึกหวาดเสียวขึ้นมาอยู่บ้างแบบนี้!!


 


เปรี๊ยงงงง!! ตึงง!! โครมมม!!


 


ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนรู้สึกหวั่นใจเมื่อคาดเดาพลังฝึกปรือของพี่ชายกู่ชุนออก เสียงระเบิดดังสนั่นพลันดังขึ้นจากด้านหลังอีกครั้ง ราวกับมีบางสิ่งถูกระเบิดจนพังทลาย


 


เป็นบ้านพักชั้น 3 ของเขาที่ถูกรังสีสังหารปานเสี้ยวจันทร์นั่นซัดทำลายจนเป็นซากปรักหักพังไปเสียแล้ว…


 


ทุกเรื่องราวบังเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น


 


ตั้งแต่ที่กู่หลงชักกระบี่ตวัดซัดคลื่นพลังกระบี่สังหารใส่ต้วนหลิงเทียน ตลอดจนต้วนหลิงเทียนปะทุพลังใช้ออกด้วยเวทย์พลังปีกอีกาทองคำหลีกหลบไปได้อย่างเฉียดฉิว สุดท้ายบ้านชั้น 3 เจ้ากรรมจึงรับเคราะห์จนพังทลาย…


 


กว่าที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬจะดึงสติกลับเข้าตัวได้ บ้านพักชั้น 3 ของต้วนหลิงเทียนก็กลายเป็นซากไปเสียแล้ว


 


“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน!”


 


“ใครมันทำเสียงดัง รบกวนบิดา! เอ่อ…เกิดอันใดขึ้นกัน?”


 



 


การระเบิดของพลังกระบี่กู่หลงไม่ได้เบาแม้แต่น้อย นั่นทำให้ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่ปิดด่านบ่มเพาะอยู่ในบ้านชั้น 3 ละแวกใกล้เคียงถึงกับเดินออกมาจากที่พักด้วยความหัวเสียทันที แต่พอพวกมันได้เห็นภาพเหตุการณ์เบื้องหน้าก็อดไม่ได้ที่จะสับสนงุนงง..


 


หลังจากที่พวกมันออกมาได้ไม่นาน พวกมันก็เริ่มถามไถ่สหายที่ชมดูเรื่องราวอยู่ก่อน จนได้รับทราบความเป็นมาของเรื่องราว


 


“พี่ชายของกู่ชุนงั้นเหรอ? มันเป็นศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬของพวกเราด้วย?”


 


เมื่อเห็นผู้ที่ซัดพลังหมายลงมือสังหารต้วนหลิงเทียน ศิษย์ที่พึ่งออกจากบ้านอดไม่ได้ที่จะมองกู่หลงด้วยสงสัย “แล้วนี่มันไมสนใจกฏเกณฑ์ของลัทธิบูชาไฟเลยรึไง?”


 


“นั่นน่ะสิ นี่มันไม่กลัวโทษประหารตามกฏลัทธิบูชาไฟรึไง ถึงได้คิดลงมือสังหารต้วนหลิงเทียนอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้?”


 


……


 


เหล่าศิษย์ที่พึ่งออกมาจากบ้านพักเริ่มไถ่ถามออกมา พวกมันทั้งตกใจและสงสัยนัก


 


การที่พี่ชายขอกู่ชุนไม่สนกฎ นับว่าทำให้พวกมันตกใจแล้วจริงๆ!


 


“พี่ชายกู่ชุน ไม่กลัวตายจริงๆหรือ?”


 


เป็นกลุ่มศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่อยู่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก มองกู่หลงอีกครั้งทั้งกล่าวออกมาอย่างเลื่อนลอย


 


เพราะไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็ไม่เข้าใจว่าไฉนกู่หลงผู้นี้ถึงไม่กลัวตาย…


 


อะไรกันแน่ที่ทำให้อีกฝ่ายกล้าลงมือโดยไม่สนกฏเกณฑ์ของลัทธิบูชาไฟแบบนี้


 


“ไม่น่าแปลกใจเลยที่น้องชายข้าไม่อาจทำอะไรเจ้าได้…พลังฝีมือของเจ้านับว่าไม่เบาเลยทีเดียว! น่าเสียดายที่เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า กู่หลง อาศัยพลังฝีมือเพียงเท่านี้ของเจ้ายังไม่คู่ควรให้กล่าวถึง! รังสีกระบี่เมื่อครู่ข้าเพียงแค่ลงมือชิมลางเท่านั้น!”


 


ขณะกล่าวออก กู่หลงก็ใช้สายตาเยียบเย็นปานจะแช่แข็งร่างผู้คนมองจ้องต้วนหลิงเทียน กล่าวออกด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อไปเจ้าอย่าได้หวังว่าจะมีโชคอีก!”


 


“กู่หลง?”


 


“มันเรียกว่ากู่หลงหรือ? แล้วมันเป็นใครกัน…ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน?”


 


“แท่นบูชาเต่าทมิฬเรามีศิษย์คนนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?”


 


“เห็นว่า…เจ้านี่ถูกอาวุโสเพลิงทองแดงพามาส่งด้วยตัวเองวันนี้หยกๆ ทั้งทีท่าของอาวุโสเพลิงทองแดงยังแลดูสุภาพกับมันด้วย?”


 


“มิใช่ว่าเป็นศิษย์ใหม่ที่พึ่งเข้าร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬของพวกเราวันนี้หรอกนะ?”


 



 


ในขณะที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬคนที่พึ่งออกจากบานพักมาสนทนาซุบซิบกัน สองตาก็มองจ้องไปยังร่างกู่หลงไม่วาง


 


พวกมันบางคนก็เริ่มคาดเดาอะไรบางอย่างได้แล้ว “หากมันพึ่งเข้าร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬเราในวันนี้จริงๆ…เช่นนั้นมิใช่ว่ามันคืออัจฉริยะที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินหรอกเหรอ!?”


 


“อาจเป็นได้!”


 


“ใช่แล้ว! ในลัทธิบชาไฟของพวกเรา มีเพียงผู้ที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณตั้งแต่สีน้ำเงินขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะเข้าร่วมได้ตลอดเวลา…เช่นนั้น 9 ใน 10 ส่วน กู่หลงคนนี้ก็คือผู้ที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินขึ้นไป!”


 


“รากวิญญาณสีน้ำเงินหรือ…หมายความว่ามีโอกาสสูงลิบที่จะทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์น่ะสิ! หากกู่หลงคนนี้เป็นคนที่มีรากวิญญาณสีน้ำเงินจริง มันก็มิใช่คนธรรมดาแล้ว วันหน้ามีโอกาสสูงนักที่จะกลายเป็นอาวุโสเพลิงเงิน กระทั่งอาจเป็นได้ถึงอาวุโสเพลิงทอง!”


 


“ถูกต้อง หากมันเป็นผู้ที่มีรากวิญญาณสีน้ำเงินจริงๆ และยังฝึกปรือต่อไปไม่ละทิ้ง วันหน้าต้องกลายเป็นอาวุโสเพลิงเงินได้แน่ กระทั่งเผลอๆอาจจะเป็นได้ถึงอาวุโสเพลิงทองขึ้นมาจริงๆ!!”


 



 


เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นระงมอีกครั้ง ทั้งหมดเข้าใจตรงกัน


 


ว่ากู่หลงคนนี้สมควรเป็นอัจฉริยะที่มีรากวิญญาณสีน้ำเงิน!


 


“หากรากวิญญาณของมันเป็นสีน้ำเงินจริงๆ เช่นนั้นเหตุการณ์ตรงหน้าพวกเราก็อธิบายได้ง่ายแล้ว…มันคิดพึ่งพาอาศัยพรสวรรค์รากวิญญาณของตัวเอง จึงกล้าเพิกเฉยกฏของลัทธิบูชาไฟ! เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้มันฆ่าต้วนหลิงเทียนไปจริงๆ ลัทธิบูชาไฟก็ไม่อาจหักใจลงดาบประหารเพื่อให้มันชดใช้ชีวิตของต้วนหลิงเทียนได้ลงคอ!”


 


ทันใดนั้นศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬคนหนึ่งพลันกล่าวความจริงข้อนี้ออกมา


 


และหลังจากที่วาจาดังกล่าวดังขึ้น ศิษย์โดยรอบก็พยักหน้าเข้าใจทั้งเห็นด้วยทันที


 


“มิผิด! อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินคือตัวตนที่จะกลายเป็นดั่งขุมกำลังหลักของลัทธิบูชาไฟเรา…สำหรับต้วนหลิงเทียนที่มีเพียงรากวิญญาณสีเหลือง แม้จะถูกคนที่มีรากวิญญาณสีน้ำเงินฆ่าตาย ลัทธิบูชาไฟต่อให้เคร่งกฏเพียงใดก็มิอาจหักใจเสียสละอัจฉริยะระดับนี้ได้ลงคอ อย่างมากสุดก็เพียงลงโทษสถานหนักแต่ไม่เอาชีวิตเท่านั้น!!”


 


“เช่นนั้นกล่าวได้ว่า…ต่อให้กู่หลงฆ่าต้วนหลิงเทียนทิ้งไปวันนี้ มันก็ไม่ถึงตายงั้นสิ?”


 


“จากทฤษฎีแล้วสมควรเป็นเช่นนั้น”


 


“ฮัยยา เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนก็เหมือนจะโชคร้ายเสียแล้ว”


 



 


เสียงกระซิบของเหล่าศิษย์โดยรอบแน่นอนว่าต้องดังเข้าหูต้วนหลิงเทียนเป็นธรรมดา แน่นอนว่าย่อมทำให้สีหน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปอยู่บ้าง


 


กล่าวให้ชัดคือต้วนหลิงเทียนกำลังตกตะลึง!


 


“เฮ่! พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้า…เป็นรากวิญญาณสีน้ำเงินจริงหรือ!?”


 


ขณะเดียวกัน สองตาต้วนหลิงเทียนก็หันไปจับจ้องมองถามกู่หลงด้วยความวาดหวังทันที!


 


หากตอนนี้มีใครพยายามสังเกตแววตาต้วนหลิงเทียนอย่างละเอียดล่ะก็…


 


จะพบว่าตอนนี้ลึกลงไปในแววตาทั้งคู่ของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ มันกำลังส่องประกายวับวาวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น!!


 


“ฮ่าๆๆๆ…ต้วนหลิงเทียนหนอต้วนหลิงเทียน พอได้รู้ว่าพี่ชายของข้ามีรากวิญญาณสีน้ำเงิน เจ้าก็รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วหรือไร!?”


 


กู่หลงยังไม่ทันตอบคำอะไร เป็นกู่ชุนที่ระเบิดเสียงหัวเราะดังร่า กล่าวเย้ยต้วนหลิงเทียนออกมาอย่างสะใจยินดี


 


ขณะเดียวกันมันยังส่งเสียงถึงต้วนหลิงเทียนเป็นการส่วนตัว “ต้วนหลิงเทียนเอ๋ย! วันนี้ต่อให้พี่ชายข้าละเมิดกฏด้วยการฆ่าเจ้าทิ้งเสีย แต่ลัทธิบูชาไฟสมควรหลับตาข้างหนึ่งละเว้นโทษประหารเป็นกักขังทรมานสถานหนักแทน เพราะพี่ชายข้ามีรากวิญญาณสีน้ำเงิน!”


 


“อนิจจาโลกหล้าไร้ซึ่งโอสถรักษาอาการเสียใจ…หากเจ้าจะโทษก็จงโทษที่กล้าทำร้ายข้าเถอะ!!”


 


เสียงที่ส่งไปท้ายประโยคของกู่ชุน ยังแสดงถึงความยินดี ใบหน้าฉีกยิ้มร่ามากล้นไปด้วยความภาคภูมิใจ


 


อย่างไรก็ตามยิ้มร่าบนหน้ามันจำต้องชะงักค้างลงในเวลาไม่นาน เพราะมันพบว่าแต่ต้นจนจบหน้าต้วนหลิงเทียนกลับไม่แม้แต่จะเปลี่ยนสีอะไร กระทั่งไม่แม้แต่จะหันมองมาที่มันด้วยซ้ำ!


 


สองตาต้วนหลิงเทียนกลับจับจ้องมองไปยังลูกพี่ลูกน้องของมัน กู่หลง ไม่วางตา!!


 


‘รากวิญญาณสีน้ำเงินงั้นหรือ! ดี…ดีมาก! ให้มันได้ยังงี้สิ!!’


 


คงไม่มีใครเข้าใจอารมณ์ของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้แน่นอน เพราะตอนนี้เขาไม่ได้หวาดกลัวอะไร กลับกันเขารู้สึกตื่นเต้นยินดีจนถึงขีดสุด! เพราะกู่หลงกลับมีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน!!


 


รากวิญญาณสีน้ำเงินเชียวนะ!


 


‘หากข้ากลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินนั่นของมันได้ ต่อให้พลังจะสูญหายไปในกระบวนการกลืนกินกว่าครึ่ง อย่างน้อยๆรากวิญญาณของข้าก็ต้องสามารถเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันทีแน่!!’


 


ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ทำไมไฉนต้วนหลิงเทียนถึงมองกู่หลงด้วยสายตาไม่คล้ายมองผู้คนแต่กำลังมองชมสมบัติเช่นนี้!


 


ที่แท้ในใจเขากำลังคิดถึงเรื่องการกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่หลงอยู่!


 


ตั้งแต่วินาทีที่กู่หลงตัดสินใจฆ่าเขาเพื่อกู่ชุน…เขากับมันก็ไม่มีวันอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้อีก และความแค้นนี้คงไม่มีวันสิ้นสุด…เช่นนั้นการกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่หลงย่อมไม่ทำให้เขารู้สึกผิด กลับกันยังกลายเป็นตื่นเต้นยินดีสุดแสน!!


 


‘ตอนนี้เจ้ากู่หลงอะไรนี่…พลังฝึกปรือสมควรอยู่แค่จุดสูงสุดของขอบเขตเซียนปฐพีงั้นสินะ…’


 


ตระหนักได้ถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็เปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจ


 


หากเป็นผู้ฝึกตนที่อยู่ในขอบเขตเซียนนภาขั้นต้นล่ะก็ เขายังสามารถฆ่าได้โดยใช้กระบี่นิลสวรรค์และพลังทั้งหมด…


 


หากแต่เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในขอบเขตเซียนนภาขั้นกลางขึ้นไปล่ะก็ ตอนนี้ต่อให้เขาลงมือด้วยพลังทั้งหมดใช้ออกด้วยทุกสิ่ง แต่เกรงว่าจะไม่อาจฆ่าอีกฝ่ายได้…


 


“เสี่ยวชุน ไฉนเจ้าต้องไปเปลืองน้ำลายเสวนากับมันด้วย”


 


กู่หลงกล่าวคำเย้ยหยันออกมา แววตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนยิ่งมายิ่งเย็นลงทุกขณะ “ต้วนหลิงเทียนถึงแม้ข้าจักมิรู้ว่าเจ้าใช้กลวิธีอันใดถึงได้ทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของน้องชายข้าได้…แต่นั่นหาได้สำคัญอีกต่อไปไม่! วันนี้จะอย่างไรเจ้าก็ต้องตาย!!”


 


กล่าวจบคำ ร่างกู่หลงก็จี้กระบี่บึ่งทะยานเข้าหาต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วปานดอกศรทะลวงฟ้า!


 


หาได้เหมือนกับการลงมือด้วยรังสีกระบี่สะบั้นก่อนหน้านี้ไม่ เพราะยามนี้กู่หลงได้ลงมือจริงจัง อาคมเซียนนับร้อยในกระบี่เปิดใช้งานพร้อมเพรียง พาลให้ตัวกระบี่เผยประกายคมกล้าหาใดเปรียบ มวลพลังอันร้ายกาจผนึกฉาบไปจนตัวกระบี่ราวกับจะมีอำนาจแยกฟ้า!!


 


“อะไร! ต้วนหลิงเทียนเป็นผู้ทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่ชุน?”


 


และวาจานี้ของกู่หลงย่อมทำให้ศิษย์หลายคนตะลึงไม่น้อย


 


เพราะเท่าที่พวกมันทราบ


 


เรื่องพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่ชุนถูกทำลาย ไม่ใช่ว่าจะได้ข้อสรุปกันไปแล้วหรือว่าไม่ใช่ต้วนหลิงเทียนที่เป็นผู้ลงมือ?


 


หนึ่งเดือนที่แล้วกู่ชุนก็พาหลี่อันมาหาความถึงหน้าบ้านต้วนหลิงเทียนเพื่อลงโทษต้วนหลิงเทียน ทว่าสุดท้ายความจริงก็ได้ถูกเปิดเผยจนกระจ่างว่าเป็นการคิดใส่ความ!


ตอนที่ 1,926 : ลงมือเต็มกำลัง!


 


ผู้คนทั้งหลายยังไม่ทันรู้ตัว อยู่ๆก็เห็นร่างกู่หลงพุ่งทะยานออกไปฉับไวปานสายฟ้าเสียแล้ว!


 


“เฮ่ย! กู่หลงนั่นมันเป็นเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!!”  กู่หลงพึ่งพุ่งร่างออกไปได้ไม่ทันไร ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่มีพลังฝีมือสูงหลายคนก็สามารถระบุพลังฝึกปรือของมันได้ทันที!


 


“ให้ตายเถอะ เซียนปฐพีขั้นสูงสุด! ต้วนหลิงเทียนดูเหมือนจะยังพึ่งเป็นเซียนปฐพีขั้นต้นเท่านั้น…ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะใช้เวทย์พลังประหลาดเพิ่มพูนพลังฝึกปรือได้ แต่น่ากลัวพลังสูงสุดคงมิอาจต้านทานเซียนปฐพีขั้นสูงสุดได้แน่!!”


 


“หากอาวุโสไม่เร่งออกหน้าระงับเหตุ เห็นทีต้วนหลิงเทียนคงได้จบสิ้นกันเท่านี้!”


 


“ด้วยพลังของกู่หลงตอนนี้คิดฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายทันทีย่อมมิใช่เรื่องยาก…ต่อให้อาวุโสจะออกหน้าระงับเหตุจริง แต่ข้ากลัวว่ามันจะสายเกินไป ต้วนหลิงเทียนคงตายไปซะก่อน!”


 


“เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนก็ถือว่าต้องตายเปล่าแล้วสิ! จะอย่างไรกู่หลงมันก็มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน ถึงแม้มันจะละเมิดกฏของลัทธิบูชาไฟจริง แต่มันคงไม่ถึงกับโดนโทษตาย อย่างดีก็แค่ถูกกักขังและรับทัณฑ์ทรมาน!”


 


“ไม่ผิด! อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินในลัทธิบูชาไฟเรายังมีไม่ถึงร้อยคนด้วยซ้ำ…ตัวตนเช่นนี้เป็นดั่งขุมกำลังหลักในวันหน้า คุณค่าย่อมมิใช่อะไรที่ศิษย์รากวิญญาณสีเหลืองจะเทียบได้!”


 



 


ในขณะเดียวกันกับที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬกระซิบกระซาบกล่าวออก สายตาของพวกมันก็มองจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยความสงสาร


 


วู้มมม!!


 


อาจเป็นเพราะกลัวอาวุโสของแท่นบูชาเต่าทมิฬสอดมือเข้าแทรกจริงๆ กู่หลงจึงไม่คิดออมรั้งยั้งมืออะไร มันยังรีบควบรวมพลังสร้างเขตแดนโดยเร็วที่สุด


 


สนามพลังที่ถูกควบสร้างจาก พลังเซียน นั้นย่อมต่างจากเขตแดนที่ถูกสร้างขึ้นจาก ปราณแรกกำเนิด หลายส่วน มันมีพลังอำนาจเหนือกว่ากันอย่างมาก


 


พริบตาที่เขตแดนของกู่หลงปรากฏออก กลิ่นอายพลังเสียดแทงคมกล้าพลันแผ่ซ่านปะทุออกไปโดยรอบ!


 


หากมองให้ดีจะพบว่าเขตแดนของกู่หลงกลับเป็นทิวทัศน์หนึ่ง!


 


และในทิวทัศน์ดังกล่าวกลับมีกระบี่ปักเสียบเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสันเนิน ผื้นดิน แท่นหิน! แถมกระบี่เหล่านี้ยังปะปนกันไประหว่างกระบี่ใหม่ กระบี่เก่าที่บ้างผุพังบ้างยังมีสนิมเกาะ!


 


เรียกว่าฉากดังกล่าวมองไปคล้าย สุสานกระบี่ ก็ไม่ปาน!


 


นี่คือเขตแดน สุสานพันกระบี่ ของกู่หลง!


 


‘เขตแดนนี่ ว่าไปก็มีส่วนคล้ายกับเขตแดนหมื่นกระบี่ของข้าอยู่บ้าง…แต่ตอนนี้มั่นใจได้เต็มสิบส่วนแล้วว่าเจ้ากู่หลง มันยังเป็นแค่เซียนปฐพีขั้นสูงสุดเท่านั้น!’


 


เมื่อเห็นกู่หลงระเบิดพลังสังหารพุ่งเข่นฆ่าเข้ามา พลังเซียนสุริยันทั่วร่างต้วนหลิงเทียนก็โคจรหมุนคว้างเร็วรี่ ไหลเวียนตามต้นแบบเวทย์พลังปฐมเวทย์กลืนกินทันที!


 


เพราะหากไม่ใช้ปฐมเวทย์กลืนกินล่ะก็…ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู่หลงเลย!!


 


เพราะสุดท้ายแล้วตอนนี้พลังฝึกปรือของเขาก็พึ่งเป็นแค่เซียนมนุษย์ขั้นต้น! ต่อให้พลังเซียนสุริยันจะเด่นล้ำมีอำนาจเหนือ แต่ก็ทำให้พลังของเขาทัดเทียมได้กับผู้ฝึกตนด่านพลังเซียนปฐพีขั้นต้นเท่านั้น!!


 


ยังนับว่าห่างไกลนัก หากจะเทียบกับกู่หลงที่เป็นเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!


 


ช่องว่างดังกล่าวเขาจึงต้องใช้ ปฐมเวทย์กลืนกินมาถมกลบ!


 


‘จะอย่างไรข้าเองก็ต้องรีบลงมือฆ่ามันให้เร็วที่สุดแล้วกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของมันให้ได้! หากอาวุโสแท่นบูชาเต่าทมิฬมาถึงก่อนก็คงต้องเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย! มันต้องตายตอนนี้!!’


 


ฉุกคิดถึงจุดนี้พลังเซียนสุริยันของต้วนหลิงเทียนก็ปะทุใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกินทันที!


 


พริบตานั้นเอง โดยมีต้วนหลิงเทียนเป็นจุดศูนย์กลาง ความว่างเปล่าโดยรอบพลันสะเทือนสะท้าน วังวนหนึ่งอุบัติขึ้น วังวนดังกล่าวยังหมุนเร็วขึ้นและเร็วขึ้นทุกวินาที สุดท้ายก็คล้ายจะเป็นวังวนที่มีอำนาจดูดกลืนมหาศาล!!


 


มิผิด เป็นวังวนพลังดูดกลืนของปฐมเวทย์กลืนกิน!


 


และทันทีที่วังวนดูดกลืนดังกล่าวปรากฏขึ้น พลังวิญญาณฟ้าดินรอบกายต้วนหลิงเทียน ก็กรูกันเข้าร่างต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ สุดท้ายรอบกายก็เสมือนกลายเป็นสุญญากาศพลังในชั่วพริบตา!!


 


“เฮอะ! นั่นน่ะเหรอเวทย์พลังที่ใช้จัดการน้องข้า! ข้าจะให้เจ้าได้สำนึกจนวันตาย ว่าต่อหน้าพลังอำนาจที่เหนือชั้นกว่า เวทย์พลังของเจ้ามันก็แค่ปาหี่หลอกเด็ก!!”


 


เมื่อต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกิน กู่หลงย่อมตระหนักได้ทันที หากแต่มันเพียงยิ้มหยันดูแคลนออกไปเท่านั้น


 


เพราะอย่างไรก็แค่ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้น!


 


แต่มันเป็นถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!


 


ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เวทย์พลังของอีกฝ่ายไม่น่าจะเป็นเวทย์พลังขั้นสูงเลย…แต่ต่อให้เป็นมันก็เท่านั้น!


 


เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้จะเป็นเวทย์พลังขั้นสูง อานุภาพจะร้ายกาจหรืออ่อนด้อยก็ขึ้นอยู่กับพลังฝึกปรือของผู้ใช้!


 


หากพลังฝึกปรือของผู้ใช้อ่อนแอ อานุภาพของเวทย์พลังที่ใช้ออกก็ย่อมต้องอ่อนแอตามไปด้วยเป็นธรรมชาติ


 


ด้วยเหตุนี้กู่หลงจึงไม่กลัวปฐมเวทย์กลืนกินที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกแม้แต่น้อย


 


“ต้วนหลิงเทียนยามเจ้าเดินไปยังยมโลกก็จงจดจำใส่กะโหลกของเจ้าเอาไว้เสียให้ดี…วันนี้ผู้ที่สังหารเจ้าคือข้า กู่หลง!!”


 


ภายใต้สายตาของทุกคน กู่หลงที่ทะยานร่างเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนปานดอกศรพลันคำรามออกมาด้วยอำมหิต!


 


ทันใดนั้นเอง ก็คล้ายความเร็วของมันจะปะทุสูงขึ้นในชั่วพริบตา!!


 


ขณะเดียวกันกระบี่ยาวในมือของมัน ที่ฉาบไว้ด้วยแสงพลังอาคมเซียนนับร้อย ก็เปล่งรังสีกระบี่คมกล้าแผ่พุ่งออกไปรอบกายของมันไม่หยุด!


 


ความเร็วในการแผ่พุ่งออกไปยังเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ!


 


วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!


 


……


 


หากผู้ใดสัมผัสให้ดี จะพบว่าทุกคราที่รังสกระบี่ปะทุออกมาจากกระบี่ พลังกระบี่ที่ห้อมล้อมปกคลุมไปทั่วร่างของกู่หลงก็เพิ่มพูนสูงขึ้นไปด้วย!


 


หลังจากนั้นมวลพลังก็ควบรวมอัดแน่นจนคล้ายจะปะทุระเบิดออก!


 


“นิ…นี่มันเวทย์พลัง ประทับจิตเก้าทบ!”


 


ตอนนี้เองมีศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬบางคนที่จดจำเวทย์พลังที่กู่หลงใช้ออกได้พลันโพล่งกล่าวออกมาเสียดัง


 


“ประทับจิตเก้าทบ? ข้าเองก็เคยได้ยิน…มันเป็นเวทย์พลังระดับกลาง! อย่างไรก็ตามเห็นว่าแม้มันจะเป็นเวทย์พลังระดับกลาง แต่ในบรรดาเวทย์พลังระดับกลางด้วยกันมันจัดว่าเป็นแนวหน้า”


 


“ดูเหมือนกู่หลงจะแตกฉานประทับจิตเก้าทบมิใช่น้อย…ตอนนี้มันประทับได้ 8 ทบแล้ว!”


 


“พรสวรรค์เด่นล้ำ ไหวพริบปฏิภาณสูงส่ง…กู่หลงนี่นับเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่ง!”


 



 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬเห็นแล้วก็อดชื่นชมออกมาไม่ได้


 


เวทย์พลัง ประทับจิตเก้าทบนั้เป็นเวทย์พลังระดับกลางที่ค่อนไปทางสูง มีพลังอำนาจทับซ้อนพลังของผู้ใช้ไปเป็นทบๆ


 


และตอนนี้หากมองให้ละเอียดจะพบว่าทั่วร่างของกู่หลงนั้น


 


มีรังสีพลังกระบี่คมกล้าทับซ้อนกันอยู่ถึง 8 ทบ ขาดอีกเพียงแค่ทบเดียวก็จะครบ 9 ทบแล้ว!


 


“ยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดกลับใช้ออกด้วยเวทย์พลังสายจู่โจมระดับกลาง ประทับจิต 9 ทบ เพื่อจัดการกับผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้น…ดูเหมือนว่ากู่หลงเองก็กังวลไม่น้อย ท่าทางมันจะกลัวผู้อาวุโสมาถึงก่อนที่มันจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้จริงๆ!”


 


“ถึงแม้ว่าเวทย์พลังประหลาดของต้วนหลิงเทียนนั่น ข้าดูแล้วมันก็มิน่าจะใช่เวทย์พลังธรรมดาๆ…แต่พลังฝึกปรือของผู้แซ่ต้วนยังต่ำเกินไป แม้เวทย์พลังหนุนเสริมนั่นจักเป็นระดับสูง ก็มิอาจเป็นคู่มือให้กู่หลงได้”


 


“นั่นสิ จะอย่างไรด่านพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนก็ยังพึ่งเป็นเซียนปฐพีขั้นต้นเท่านั้น”


 


……


 


ไม่มีใครมองต้วนหลิงเทียนในแง่ดีสักคน ทั้งหมดคิดว่าคราวนี้ต้วนหลิงเทียนถึงวาระตายตกแน่แล้ว!


 


อย่างไรก็ตามฟังจากวาจาของทุกคน คล้ายทั้งหมดคิดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้นกันหมดทั้งสิ้น


 


ไม่รู้ว่าหากพวกมันทราบว่าที่แท้พลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนยังเป็นเพียงเซียนมนุษย์ขั้นต้น พวกมันจะทำหน้าอย่างไร…


 


พวกมันหาได้รู้ด้วยซ้ำว่าเวทย์พลังประหลาดที่ต้วนหลิงเทียนใช้ในสายตาของพวกมัน ที่แท้จะเป็นเวทย์พลังชั้นสูงในหมู่เวทย์พลังชั้นสูงอีกที!


 


ปฐมเวทย์กลืนกินนั้น สามารถดูดกลืนพลังทั้งหมดในอาณาบริเวณโดยรอบมาเสริมสร้างพลังให้แก่ผู้ใช้


 


ถึงแม้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนจะมีความชำนาญในการใช้ปฐมเวทย์กลืนกินไม่น้อย หากแต่ความสำเร็จของเขายังมิอาจเทียบได้กับชายชราอันเป็นบททดสอบสุดท้ายในพื้นที่สืบทอดมรดกเวทย์พลัง…ขาดอีกเล็กน้อยเท่านั้น!


 


ตอนนี้ด้วยพลังเซียนสุริยันในกาย ทำให้พลังรบเขาเทียบได้กับเซียนปฐพีขั้นต้น พอได้พลังหนุนเสริมจากปฐมเวทย์กลืนกิน มันก็พุ่งขึ้นไปทัดเทียมได้กับเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญทันที!


 


ห่างจากเซียนปฐพีขั้นสูงสุดเพียงแค่ก้าวเดียว!!


 


“รัศมีพลังที่ร้ายกาจนัก!”


 


ในขณะที่ร่างกู่หลงทะยานมาฉับไวเจียนบรรลุถึงร่างต้วนหลิงเทียน ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็เสร็จสิ้นกระบวนการดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบ และพลังเซียนสุริยันของเขาก็ทวีพลังอำนาจไปทัดเทียมได้กับขอบเขตเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญเรียบร้อย!


 


และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกเหมือนทั่วร่างอัดแน่นไปด้วยพลัง เจียนระเบิด!


 


เป็นครั้งแรกที่ตัวเขารู้สึกว่าร่างกายเปี่ยมล้นไปด้วยพลังมหาศาลเช่นนี้!


 


“นะ…นั่นมัน!”


 


และทันทีที่กลิ่นอายพลังดังกล่าวระเบิดออกมา เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬจำต้องอื้ออึงกันยกใหญ่แล้ว เพราะพวกมันย่อมสัมผัสได้ถึงระดับพลังของต้วนหลิงเทียนที่อยู่ๆก็เปลี่ยนไปในฉับพลัน!


 


“กลิ่นอายพลังนั่นมันมิใช่เซียนปฐพีขั้นต้นแล้ว! นี่มันกลิ่นอายพลังของยอดฝีมือเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญชัดๆ!!”


 


“สวรรค์ช่วย! เวทย์พลังของต้วนหลิงเทียนที่แท้เป็นเวทย์พลังอันใดกันแน่! ไฉนถึงได้ยกระดับพลังฝึกปรือได้ถึง 2 ขีดขั้นเลยเล่า?!”


 


“สมควรเป็นเวทยพลังหนุนเสริมมิผิดแน่! ยังคล้ายกับเวทย์พลังสายสนับสนุนประจำแท่นบูชามังกรครามนัก! และเวทย์พลังนั่นเห็นว่าก็เป็นรูปแบบดั้งเดิมของเวทย์พลั้งคุ้มคลั่งประจำเผ่ามังกร แม้จะคงอยู่ไม่นานแถมผลกระทบที่ได้รับก็มิน้อย แต่ยามสำแดงผลก็ร้ายกาจนัก!!”


 


“เช่นนั้นหมายความว่าพลังของต้วนหลิงเทียนจะเพิ่มพูนสูงขึ้นแค่มินาน…หลังจากนั้นระดับพลังฝึกปรือก็จะถดถอย กลายเป็นตกอยู่ในสภาวะอ่อนแองั้นสิ?!”


 


……


 


คราวนี้พอได้เห็นกันชัดๆ ไม่นานทุกคนก็สามารถระบุได้แน่ชัดแล้ว ว่าเวทย์พลังของต้วนหลิงเทียนสมควรมีลักษณะเดียวกับเวทย์พลังหนุนเสริมจำพวก เพิ่มพลังฝึกปรือในช่วงระยะเวลาหนึ่ง


 


เวทย์พลังนี้ก็คล้ายคลึงกับเวทย์พลังหนุนเสริมมังกรคุ้มคลั่ง ประจำแท่นบูชามังกรคราม


 


เนื่องจากเวทย์พลังหนุนเสริมมังกรคุ้มคลั่งประจำแท่นบูชามังกรครามมีผลกระทบร้ายแรง เช่นนั้นศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬโดยรอบก็เห็นว่าเวทย์พลังนี้ของต้วนหลิงเทียนสมควรมีผลข้างเคียงดุจเดียวกัน


 


“เวทย์พลังสนับสนุน? ในชั่วระยะเวลาหนึ่งสามารถยกระดับเจ้าที่เป็นเพียงเซียนปฐพีขั้นต้นให้บรรลุถึงเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญ?”


 


กู่หลงมองกล่าวด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน


 


ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะยกระดับพลังฝึกปรือจนเทียบได้กับเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญแล้วยังไง?


 


ขอโทษที แต่ตัวมันเป็นถึงสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!


 


“ตายเสีย!!”


 


เสียงคำรามสนั่นปานอัสนีกึกก้องของกู่หลง พาลให้ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยกว่ามันรู้สึกแก้วหูสะท้านสะเทือนอยู่บ้าง


 


ขณะเดียวกันเขตแดนสุสานพันกระบี่ของกู่หลงที่ลอยล่องติดตามมารอบกายก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลง ตอนนี้กระบี่ทั้งหมดคล้ายมีชีวิตพุ่งทะยานขึ้นมาตั้งลำก่อตัว ก่อนที่จะพุ่งออกไปจู่โจมสังหารพร้อมกันกับกระบี่ร้อยอาคมเซียนของกู่หลง ดั่งห่าพิรุณ…!


 


ผิดก็แค่ห่าพิรุณคราวนี้ไม่ได้ร่วงหล่นจากฟ้า หากแต่พุ่งขวางฟ้าไปหาต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้าย!


 


ตอนนี้เรียกว่าไม่เพียงแต่กระบี่ที่ฉาบไว้ด้วยอาคมเซียนนับร้อยในมือ พร้อมด้วยรังสีพลังกระบี่น่ากลัวจากเวทย์พลัง ประทับจิตเก้าทบกอปรทั้งห่าพิรุณกระบี่นับพัน ยังมีคลื่นพลังกระบี่ขุมหนึ่งที่ปลดปล่อยออกมาจากกระบี่ร้อยอาคมเซียนของกู่หลงอีกด้วย!


 


เป็นวรยุทธ์เซียนสายกระบี่ระดับนภาโดดเด่น ที่กู่หลงฝึกปรือจนบรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิ!!


ตอนที่ 1,927 : ข้าไม่เล่นกับเจ้าแล้ว!


 


“ตายเสีย!!”


 


เมื่อเสียงคำรามด้วยอำมหิตของกู่หลังดังก้องออกมา เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับหยุดหายใจอย่างพร้อมเพรียง! สองตาจับจ้องมองชมเรื่องราวเบื้องหน้าอย่างลุ้นระทึก!!


 


ห่าพลังสังหารที่โถมถันเข้าไปนั้น เป้าหมายของมันก็ร่างชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ลอยร่างอยู่เพียงลำดัง..


 


มองไกลๆร่างชายหนุ่มคล้ายอ่อนแอบอบบางจนแทบมิอาจต้านลม


 


“ปีกอีกาทองคำ!”


 


เมื่อเห็นห่าพลังกระบี่สังหารที่โถมถันเข้ามาด้วยความเร็วเหนือล้ำของกู่หลง ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะตื่นตัว เร่งกล่าวพึมพำออกมาเสียงเข้มทันที


 


และทันใดนั้นเองพลังงานทั่วร่างที่ปะทุเดือดพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรงเพราะปฐมเวทย์กลืนกิน ก็ทะลักไหลไปควบรวมก่อเกิดปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่งที่กลางหลัง! ปีกคู่นี้มหึมากว่าปีกคู่ก่อนหน้านัก และมองไปคล้ายเปลวเพลิงจะลุกโชติช่วงกว่ากันหลายขุม!!


 


ทว่าสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมันเกิดขึ้นหลากจากปีกนี้ปรากฏขึ้นต่างหาก!


 


ปีกมหึมาอันลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงดังกล่าว พลันสะบัดกระพือลงมาปานฟ้าผ่า!!


 


ทันใดนั้นเอง


 


ฟุ่บ! ปง! ปง! ปง! ปง!


 



 


ชั่วพริบตาที่ปีกสะบัดลงมา มวลอากาศคล้ายม้วนตลบถูกบีบอัดจนแตกระเบิด! ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นลั่นขึ้นไม่หยุด!!


 


และในเวลาเดียวกันนั้น ร่างต้วนหลิงเทียนแต่เดิมที่ลอยล่องอยู่ท่ามกลางสายตาของผู้คน ก็พุ่งทะยานเหินร่างออกไปไกลด้วยความเร็วอัศจรรย์ที่เหนือล้ำกว่าก่อนหน้าอย่างทาบไม่ติด! หลีกหลบทุกกระบวนท่าสังหารที่กู่หลงซัดออกพ้นทุกท่า!!


 


อนิจจาห่าพลังกระบี่ และรังสีพลังสังหารจากการลงมือของกู่หลงที่จู่โจมได้เพียงสายลม ก็มิได้สิ้นไร้พลังสภาวะอะไร! ยังคงพุ่งเข่นฆ่าสังหารไปต่ออย่างไม่หยุดยั้ง!!


 


และทิศทางที่ห่าพลังสังหารพุ่งไป…ก็มีศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬหลายร้อยคนลอยร่างชมดูเรื่องราวอยู่!!


 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬกลุ่มนั้นหน้าเปลี่ยนสีทันที เมื่อเห็นว่ากระบวนท่าสังหารของกู่หลงกำลังพุ่งจี้เข้าหาตัว! พวกมันเร่งหลบกันจ้าละหวั่น! วงแตกทันควัน!!


 


อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ต้วนหลิงเทียนสามารถพุ่งร่างหลีกหลบได้อย่างหมดจด พลังสภาวะของกระบวนท่าจึงมิได้ถูกลดทอนลงมาแม้แต่น้อย ต่างเข่นฆ่าสังหารมาได้ไวเกินกว่าที่พวกมันจะคิดคาดคำนวณได้!


 


ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!


 



 


และเมื่อห่าพิรุณกระบี่กวาดผ่านไป ก็มีเหล่าศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬที่พลังฝีมืออ่อนด้อยที่สุด 10 คน ที่หลบไม่ทัน สังเวยชีวิตภายใต้sห่าพลังดังกล่าว


 


เศษซากร่างทั้งเลือดเนื้ออวัยวะกระจัดกระจายไปทั่วน่านฟ้า พาลให้ทุกสายตาตกตะลึงกันไปเป็นแถบ!


 


ซูด! ซูด! ซูด! ซูด!


 



 


เห็นฉากสังหารนองเลือดดังกล่าว เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬหลายคนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ แผ่นหลังบางคนถึงกับโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อกาฬเย็นฉ่ำ! ใจรู้สึกโชคดีนักที่ไม่ไปลอยร่างอยู่จุดนั้น!!


 


“เหอๆ…โชคดีนักที่ข้าเลือกจะย้ายมาอยู่ตรงนี้แต่แรก หาไม่แล้วข้าคงต้องพลอยเป็นคนตายไปด้วย!”


 


เหล่าศิษย์ที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยหลายคน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดีในใจ


 


“เป็นไปมิได้!!”


 


วินาทีต่อมา เสียงไม่เชื่อหนึ่งก็สนั่นลั่นขึ้นก้องฟ้า!


 


เป็นเสียงของ กู่หลง เอง!


 


กู่หลงตอนนี้กำลังมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาไม่เข้าใจ อีกฝ่ายกลับสามารถหลีกหลบกระบวนท่าสังหารทั้งหมดที่มันลงมือเต็มกำลังได้ กระทั่งตอนนี้ยังหลีกหนีไปไกลห่างนัก! แววตาที่ใช้มองปีกเพลิงคู่มหึมาที่อยู่กลางหลังต้วนหลิงเทียนยังฉายความยำเกรงขึ้นมาหลายส่วน!!


 


หากตอนนี้มันยังไม่รู้อีกล่ะก็ ว่าเวทย์พลังที่ต้วนหลิงเทียนสำแดงออกเมื่อครู่เป็นเวทย์พังระดับสูง เห็นทีชีวิตที่อยู่มาหลายปีคงอยู่อย่างเสียเปล่าไร้ค่าเยี่ยงชีวิตสุนัขแล้ว!


 


ซูด! ซูด! ซูด! ซูด!


 



 


เมื่อสายตาของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ เบนมาตกยังร่างต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง เสียงสูดหายใจเข้าพลันระงมขึ้นอีกครา!


 


ก่อนหน้านี้พวกมันสูดหายใจเฮือก เพราะหวาดผวากับการตกตายของสหายเหล่าศิษย์นับสิบๆ


 


แต่ตอนนี้ทุกคนอดสูดใจเข้าด้วยความตกใจเสียไม่ได้ เมื่อเห็นเวทย์พลังท่าร่างของต้วนหลิงเทียน!


 


“ช่างเป็นเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวที่น่ากลัวนัก!”


 


“ด้วยพลังฝึกปรือเพียงเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญ ทว่าเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวรูปปีกไฟนั่น กลับทำให้ต้วนหลิงเทียนสามารถปะทุความเร็วหลบกระบวนท่าสังหารของกู่หลงได้อย่างง่ายดาย…เวทย์พลังนั่นของต้วนหลิงเทียนสมควรเป็นเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวระดับสูงเต็มสิบส่วน! กระทั่งต้วนหลิงเทียนยังต้องแตกฉานถึงขั้นตอนไร้ตำหนิแล้วเป็นแน่ หาไม่แล้วคงไม่รวดเร็วฉับไวถึงเพียงนั้น!!”


 


“เวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวระดับสูงนี่ เกรงว่ายังเหนือกว่าเวทย์พลังประจำแท่นนกไฟเสียอีก!!”


 


“ปีกเพลิงที่กำลังลุกไหม้นั่นข้ามองแล้วราวกับมันเป็นปีกของต้วนหลิงเทียนจริงๆ…ทำเอาปีกเพลิงที่เกิดจากเวทย์พลังประจำแท่นบูชานกไฟมองไปคล้ายปีกไก่ไหม้ไฟไปเลยทีเดียว!!”


 


“นั่นสิ เวทย์พลังนี้ของต้วนหลิงเทียนนับว่าเหนือกว่าเวทย์พลังประจำแท่นบูชานกไฟจริงๆ!”


 


“สมควรเป็นเวทย์พลังชั้นสูงมิผิดแน่ ไม่แปลกที่จะเหนือกว่าเวทย์พลังประจำแท่นบูชานกไฟ!!”


 



 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทยอยกันคืนสติมาทีละคนๆ เมื่อรู้สึกตัวทุกคนก็โพล่งคำออกมาด้วยความตกใจ ต่างถูกเวทย์พลังนี้ของต้วนหลิงเทียนสร้างความตกตะลึงให้ครั้งใหญ่แล้วจริงๆ!


 


นั่นเพราะความเร็วของปีกอีกาทองคำมันรวดเร็วเกินไป!!


 


“ให้ตายเถอะ! ด้วยเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวนั่น ต้วนหลิงเทียนเหมือนจะรวดเร็วเหนือกว่ากู่หลงเสียอีก…ในการปะทะกันครั้งนี้ ต้วนหลิงเทียนอยู่ในสถานะไร้พ่ายแล้ว!!”


 


“อยู่ในสถานะไร้พ่ายงั้นหรือ? เจ้าใช่ฝันไปหรือไม่! อย่าได้ลืมว่าที่ต้วนหลิงเทียนสามารถมีพลังระดับเดียวกับยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญได้…เป็นเพราะอาศัยเวทย์พลังหนุนเสริม! และเวทย์พลังหนุนเสริมประจำแท่นบูชามังกรครามเองก็มิอาจคงสภาพไว้ได้นาน หลังจากนั้นระดับพลังในร่างมิเพียงจะถดถอยคืนกลับดังเดิม ไม่แน่ว่าอาจจะตกลงไปด้วยซ้ำ!”


 


“หากเป็นข้าล่ะก็ ตอนนี้ข้าจะรีบหนีไปให้ไกลจากกู่หลงมากที่สุด เพราะเป็นไปมิได้เลยที่กู่หลงจะติดตามไล่ทัน!”


 


“อืม! หากผู้แซ่ต้วนยังอยากมีชีวิตรอดเห็นทีก็คงต้องกระทำเช่นนั้นอย่างมิอาจเลี่ยง…”


 


……


 


ไม่นานเหล่าศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ ก็เห็นพ้องต้องกันว่าต้วนหลิงเทียนน่าจะรีบหนีกู่หลง โดยอาศัยพลังอำนาจของเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวนั่นแน่นอน


 


กู่หลงเองก็ย่อมตระหนักได้ถึงเรื่องราวที่ว่าด้วยเช่นกัน! และเรื่องนี้ก็ทำให้สีหน้าของมันเปลี่ยนไปทันที!


 


เพราะหากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริง เห็นทีวันนี้มันคงไม่อาจฆ่าต้วนหลิงเทียนได้แล้ว!


 


ไม่จริงหน่า! ไฉนเป็นเช่นนี้ไปได้!?”


 


ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้สีหน้ากู่ชุนที่ลอยร่างอยู่ไกลห่างมันบิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก! แววตาเผยความไม่เชื่อทั้งไม่ยินยอมพร้อมใจถึงขีดสุด!!


 


“มันกลับถือครองเวทย์พลังร้ายกาจเช่นนี้ได้อย่างไรตั้งสองสาย…! เห็นกันชัดๆว่ามันก็แค่ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้นเท่านั้น!!”


 


เห็นภาพเรื่องราวเบื้องหน้า กู่ชุนได้แต่คำรามร้องร่ำออกมาด้วยความไม่พอใจ ขณะที่ปากตะโกนปาวๆ ในใจยังรู้สึกอิจฉาจับจิต!


 


“หรือวันนี้…เรื่องฆ่ามันจะทำไม่ได้แล้วจริงๆ?”


 


กู่ชุนเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม


 


“รีบหนีงั้นเหรอ?”


 


ต้วนหลิงเทียนแน่นอนว่ายอมได้ยินเสียงซุบซิบโดยรอบของเหล่าศิษย์เช่นกัน


 


ทว่าได้ฟังความพวกนี้เขาอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มเย้ยออกมาบางๆ


 


เขาน่ะหรือจะรีบหนี?


 


ถึงแม้ว่าพลังอำนาจที่เพิ่มพูนขึ้นจากปฐมเวทย์กลืนกินจะอยู่ได้ไม่นานมาก แต่ก็ยังนับว่านานเกินพอหากคิดจะใช้ฆ่ากู่หลง!!


 


‘พรสวรรค์รากวิญญาณสีนำเงินของมัน วันนี้ต้องเป็นของข้า!!’


 


ต้วนหลิงเทียนมองจ้องกู่หลงเขม็งด้วยสองตาที่ลุกวาวไปด้วยความโลภ!


 


เพราะสำหรับเขาแล้ว พรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินของกู่หลง คือตัวตัดสินที่จะทำให้พรสวรรค์รากวิญญาณของเขายกระดับไปสู่สีเขียว!!


 


ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!


 



 


เสียงแตกระเบิดอากาศดังสนั่นลั่นเป็นชุด บางสิ่งเคลื่อนไหวฉับไวเหนือเสียงพุ่งทะลุฟ้าแหวกอากาศ! เป็นต้วนหลิงเทียนที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรเร่งรุดหลบหนี ทว่าไม่เพียงคนไม่หนี…ยังเป็นฝ่ายจี้เข้าหากู่หลงด้วยความเร็วสูงสุดเสียอย่างนั้น!!


 


“เฮ่ย! ต้วนหลิงเทียนมันไม่รีบหนีไปรึไง! นั่นยังคิดจะทำบ้าอันใดกันอีก!?”


 


เห็นฉากดังกล่าวเหล่าศิษย์ทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะตะลึง


 


“ฮึ่ม! สบโอกาสดีๆเช่นนี้กลับไม่เร่งรุดหลบหนี เรียกว่าสวรรค์มีทางไม่ยอมเดิน นรกไร้ประตูยังจะมุดไฟ! นับว่ามันเบื่อชีวิตแล้วจริงๆ! พวกเจ้าเห็นไม่ชัดกันหรือไร? ต้วนหลิงเทียนมันพุ่งเข้าใส่กู่หลงแบบนี้ หมายลงมือเอาคืนกู่หลงชัดๆ ท่าทางจะบังเกิดความคิดฆ่าฟันกู่หลงขึ้นมาแล้ว!!”


 


“ฆ่ากู่หลง? ความเร็วของต้วนหลิงเทียนยามนี้อาจว่องไวเหนือกว่าก็จริง…แต่นั่นก็เพียงมีเปรียบในแง่ความเร็วเท่านั้น นอกเสียจากต้วนหลิงเทียนนั่น จักมีเวทย์พลังสายจู่โมระดับสูงอันใดอยู่อีก…หาไม่แล้วเกรงว่าคงยากจะฝ่าม่านพลังคลุมกายของกู่หลงได้!”


 


“มิผิด! หากกู่หลงชำนาญเวทย์พลังสายป้องกันอันใด แม้จะเป็นเพียงเวทย์พลังระดับกลาง ยามเมื่อเปิดใช้ออกด้วยพลังของเซียนปฐพีขั้นสูงสุด อาศัยพลังอำนาจของต้วนหลิงเทียนที่เทียบได้กับยอดฝีมือเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญ คงยากที่จะฝ่าการป้องกันดังกล่าวเข้าไประคายผิวกู่หลงได้!!”


 


“ยังต้องถึงเวทย์พลังสายป้องกันรึไร? อาศัยแค่วรยุทธ์เซียนระดับนภาทั่วไปก็เอาอยู่แล้ว!!”


 


……


 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬกล่าวออกความเห็นกันอีกครั้ง พวกมันยังมองว่าต้วนหลิงเทียนแส่หาเรื่องแล้วจริงๆ!


 


เพราะจะอย่างไรหลังจากนี้อีกไม่นาน พลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนก็จะถดถอยลงมาดังเดิม! กระทั่งอาจจะถูกผลข้างเคียงจนถดถอยลงกว่าเดิมด้วยซ้ำ!!


 


ถึงตอนนั้นแล้ว ต้วนหลิงเทียนที่ไร้เวทย์พลังหนุนเสริม ก็ไม่ต่างใดจากปลาบนเขียง ทำได้แค่รอให้กู่หลงแล่สับฆ่าแกงตามใจชอบ!!


 


“ไม่หนีงั้นเหรอ? หรือมันยังมีเวทย์พลังสายจู่โจมชั้นสูงอยู่อีก?”


 


เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนเป็นฝ่ายปรี่เข้าหามันแทน สีหน้ากู่หลงพลันเคร่งขรึมขึ้นมาทันใด


 


มันเองก็ไม่ใช่ว่าจะเชี่ยวชาญเวทย์พลังสายป้องกันอะไร!


 


หากต้วนหลิงเทียนเกิดเชี่ยวชาญเวทย์พลังสายจู่โจมระดับสูงอะไรอีกสักอย่างจริงๆล่ะก็ คราวนี้มันไม่เพียงขโมยไก่ไม่สำเร็จ ยังต้องเสียข้าวสารไปอีกกำมือแน่แล้ว! กระทั่งมิวายได้ถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตายแน่!!


 


‘เรื่องพรรค์นั้นเป็นไม่ได้! ด้วยพลังฝึกปรือเท่านี้ของมันทั้งพรสวรรค์แต่กำเนิด เพียงสามารถแตกฉานเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวระดับสูงกับเวทย์พลังสายสนับสนุนที่น่าจักเป็นระดับสูงเช่นกันนั่นก็มากเกินไปแล้ว…มันมิมีทางแตกฉานเวทย์พลังสายจู่โจมระดับสูงอีกสายหรอก!”


 


กู่หลงที่ฉุกคิดได้ถึงจุดนี้ก็ลอบโล่งใจขึ้นมามาก


 


‘ข้าเพียงแค่ต้องมุ่งเน้นป้องกันตัวไปสักพักหนึ่ง…ตราบใดที่เวทย์พลังหนุนเสริมของมันสิ้นสุดระยะเวลาแสดงผลแล้วล่ะก็…ยามนั้นคิดฆ่ามันก็คงง่ายดายไม่ต่างใดจากบดบี้ยีมด!!’


 


กู่หลงยิ่งคิดก็ยิ่งมั่นใจ


 


ชั่วพริบตา ร่างต้วนหลิงเทียนก็บรรลุถึงเบื้องหน้ากู่หลง


 


กู่หลงเองก็มิได้งอมืองอเท้ายืนรอเฉยๆ ถึงแม้รู้ดีว่าการจู่โจมคงมันคงยากจะแตะต้องถูกตัวต้วนหลิงเทียน มันก็ยังคงระเบิดกระบวนท่าจู่โจมสวนกลับไป!


 


แน่นอนว่าทุกการโจมตีของมันที่ซัดออก ล้วนถูกต้วนหลิงเทียนหลีกหลบได้อย่างง่ายดาย! คนเพียงอาศัยการเคลื่อนไหวแผ่วพริ้วกายขวาซ้ายเอนแอ่นเพียงเล็กน้อย ก็สามารถหลบกระบี่ด้วยระยะห่างเพียงเส้นขนกั้น!


 


ตอนนี้ระดับพลังในร่างของต้วนหลิงเทียนมันมีอำนาจทัดเทียมกับเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญ และเมื่อใช้ขุมพลังทัดเทียมเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญไปขับเคลื่อนเวทย์พลังปีกอีกาทองคำ เช่นนั้นความเร็วที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกจึงบรรลุถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นต้น!!


 


ด้วยอาศัยความเร็วนี้ สามารถกล่าวได้เต็มปากว่า เขาอยู่ยงคงกระพันใต้ขอบเขตเซียนนภาแล้วจริงๆ!


 


และเป็นธรรมดาที่ความเร็วดังกล่าว จะบดขยี้ความเร็วของเซียนปฐพีขั้นสูงสุดได้อย่างขาดลอย! กระทั่งสามารถแสดงชั้นเชิงหลีกหลบอย่างเหนือชั้นได้ไม่ยากเย็น!!


 


วูบ! วูบ! วูบ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ!


 


……


 


ต้วนหลิงเทียนที่สามารถหลีกหลบกระบวนท่าของกู่หลงได้ไม่ยากเย็น ก็พยายามตวัดกระบี่ฟันสวนออกไปยังจุดบอดกระบวนท่ากู่หลงไม่หยุดยั้ง และกระบี่ที่เขาตวัดฟันออกไปแต่ละกระบี่ก็ล้วนบรรจุพลังอำนาจของเคล็ดความขั้นที่ 2 ของยอดใจกระบี่เอาไว้ พลังทำลายดังกล่าวก็เทียบได้กับวรยุทธ์เซียนระดับนภาดั้งเดิมทั่วๆไป!


 


อย่างไรก็ตามพลังกระบี่เพียงเท่านี้ ต่อหน้ากู่หลงย่อมไม่คู่ควรกล่าวถึง


 


ส่วนวรยุทธ์เซียนสายป้องกันที่กู่หลงใช้ออกเพื่อต้านทานรับกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนฟันฟาดออกมาไม่หยุดนั้น มันเป็นเพียงวรยุทธ์เซียนสายป้องกันระดับนภาสามัญเท่านั้น และถึงแม้มันจะยังไม่ได้ฝึกปรือจนบรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิ ทว่าด้วยอาศัยพลังเซียนของด่านพลังเซียนปฐพีขั้นสูงสุด ม่านพลังีท่เปิดกางคลุมตัวก็สามารถต้านทานกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนฟันมาได้ไม่ยากเย็น!!


 


เห็นเรื่องราวดำเนินไปในลักษณะนี้ ใจของกู่หลงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา!


 


เพราะตราบใดที่ระยะเวลาแสดงผลของเวทย์พลังสายสนับสนุนที่ต้วนหลิงเทียนเรียกใช้หมดไปล่ะก็…ถึงตอนนั้นมันคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนก็ง่ายดายนัก!!


 


“ต้วนหลิงเทียน คราวนี้นับว่าเจ้ารนหาที่ตายแล้วจริงๆ…!!”


 


กู่ชุนที่ลอยล่องอยู่ไกลห่าง บัดนี้บนใบหน้าเริ่มเผยรอยยิ้มออกมาอย่างอำมหิตแล้ว


 


“พอทีข้าเบื่อจะเล่นกับเจ้าแล้ว….”


 


ในขณะที่ทุกคนกำลังเห็นพ้องต้องกันว่า ต้วนหลิงเทียนคงไร้หนทางฆ่ากู่หลงได้แล้วแน่ๆ ต้วนหลิงเทียนพลันเปิดปากกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมยแผ่วเบาราวกระซิบ…หากทว่าเสียงนี้ก็ดังพอให้กู่หลงได้ยิน!


 


อีกทั้งแม้เสียงกล่าวจะเบาเพียงใด แต่สำหรับกู่หลงแล้วมันกลับสนั่นก้องดังปานฟ้าลั่นในหู!!


 


ยังทำให้หน้าของมันเปลี่ยนสีไปโดยพลัน!


 


‘มัน…มันยังซุกซ่อนพลังฝีมือเอาไว้งั้นเหรอ!?’


 


ใจกู่หลงบังเกิดความคิดดังกล่าวผุดวาบขึ้นมาก่อนอื่นใด!


 


และพริบตาต่อมา มันก็แลเห็นได้ชัดเจน ว่าอาณาบริเวณรอบกายต้วนหลิงเทียนกินรัศมี 100 หมี่พลันบังเกิดความเปลี่ยนแปลง ความว่างเริ่มสะเทือน มวลอากาศสั่นไหว ไอพลังพลังควบรวมจับตัวเพาะสร้างสนามพลังขึ้นมาในชั่วพริบตา!!


 


สนามพลังทรงกลมสีทองผุดโผล่ขึ้นมาในเวลาดั่งละอองไฟวูบวาบ ยังกลืนร่างกู่หลงลงไปในนั้น ปิดกั้นทุกสายตาของผู้คนด้านนอก!!


 


“แค่เขตแดนเพียงเท่านี้?”


 


พอได้เห็นเขตแดนหมื่นกระบี่ของต้วนหลิงเทียนควบแน่นก่อเกิดแล้วเสร็จ ความหวั่นกลัวในใจของกู่หลงก็มลายหายไปทันใด ความรู้สึกดูแคลนหวนคืนกลับมาอีกครั้ง…


ตอนที่ 1,928 : กลืนกินรากวิญญาณสีน้ำเงิน!!


 


หลังเขตแดนหมื่นกระบี่ของต้วนหลิงเทียนปรากฏขึ้นไม่ทันไร กู่หลงพลันตระหนักได้ทันทีว่า


 


ถึงแม้เขตแดนของต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจทรงพลังยิ่งกว่าเขตแดนของมัน หากทว่าอีกฝ่ายควบรวมเขตแดนขึ้นจากพลังเซียนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญ จึงทำให้อานุภาพเขตแดนอีกฝ่ายทัดเทียมกับเขตแดนสุสานพันกระบี่ของมัน!


 


“เฮอะ! เจ้าคิดว่าอาศัยเพียงเปิดใช้เขตแดนนี้ของเจ้า แล้วคิดว่าจะมีปัญญาทะลวงฝ่าการป้องกันของข้าได้หรือไร ช่างไร้เดียงสานัก!”


 


มองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สีหน้าแววตาของกู่หลงกลายเป็นดูแคลนหยันหยามไม่น้อย


 


เพราะถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะเปิดใช้เขตแดน แต่ก็ไม่มีทางที่จะทำลายม่านพลังป้องกันของมันได้!


 


เรื่องนี้มันมั่นใจมาก!


 


“ข้าไม่ได้คิดใช้เขตแดนเพื่อจัดการเจ้า….”


 


เมื่อพบว่าตอนนี้ เขตแดนหมื่นกระบี่ของเขา ได้บดบังสายตาของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬเป็นที่เรียบร้อย ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองกล่าวกับกู่หลงด้วยทีท่าไร้แยแส


 


และวาจานี้พอดังเข้าหูกู่หลง ก็เป็นดั่งอัสนียามแล้งที่ฟาดผ่าลงมาโดยไร้ซึ่งการตั้งเค้ามาก่อน พาลให้สีหน้ากู่หลงแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดจริงจังทันที ลึกลงไปในแววตายังเผยความหวาดกลัวประการหนึ่ง


 


“อย่าได้เสแสร้งทำเป็นแน่!”


 


สูดลมหายใจเข้าลึกๆคำหนึ่งเพื่อสะกดอาการหวั่นใจ กู่หลงพลันคำรามออกมา


 


“เสแสร้งทำเป็นแน่?”


 


ได้ยินคำของกู่หลง ต้วนหลิงเทียนเพียงส่ายหัวไปมาพร้อมยกยิ้ม และทีท่าปลอดโปร่งขบขันนี้ ยิ่งทำให้ใจของกู่หลงดิ่งลงทันใด


 


ทว่าพอดึงสติกลับมาอยู่กับตัวได้อีกครั้ง กู่หลงก็รู้สึกอับอายนักที่เสียอาการไปเพราะอีกฝ่าย! เร่งจู่โจมออกไปด้วยโทสะทันที!!


 


“เซียนอมตะข้ามภพ!” ร่างต้วนหลิงเทียนโจนทะยานขึ้นไปบนฟ้าสูง! พลังอำนาจของปีกอีกาทองคำเปล่งออกถึงขีดสุด! คนทั้งคนคล้ายสลายหายไปในอากาศว่างเปล่าต่อหน้าต่อตากู่หลง!!


 


“อะไร!?”


 


เห็นฉากนี้จิตใต้สำนึกของกู่หลงพลันร้องเตือนถึงอันตราจ้า มันไม่อาจแลเห็นจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนกำลังทำอะไร!


 


และเมื่อต้วนหลิงเทียนพุ่งทะยานขึ้นไปเขตแดนหมื่นกระบี่ย่อมติดตามไปดั่งเงาเช่นกัน


 


กระทั่งเมื่อต้วนหลิงเทียนวูบร่างหายไป เขตแดนหมื่นกระบี่ก็คล้ายจะอันตรธานหายไปเช่นกัน!


 


จังหวะนี้ร่างของกู่หลงพลันปรากฏสู่สายตาของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬอีกครั้ง


 


“ต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ ใช่เหินร่างทะยานขึ้นฟ้าไปหรือไม่? คิดหนีแล้ว?”


 


“หรือผลหนุนเสริมของเวทย์พลังนั่นกำลังจะหมดไป?”


 


“อาจเป็นได้!”


 


……


 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่พอเห็นร่างต้วนหลิงเทียนพุ่งหายขึ้นฟ้าไปรางๆ กล่าวออกมาทำลายความเงียบสงบที่เกิดขึ้นก่อนหน้า


 


“ผลของเวทย์พลังหนุนเสริมมันกำลังจะหมดไปงั้นรึ!?”


 


กู่หลงถึงกับตกอยู่ในภาวะตะลึงอึ้งเหวอหลังได้ยินคำกล่าวโดยรอบของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ มันนิ่งไปพักหนึ่งสองตาค่อยลุกวาวขึ้นมาคล้ายรู้แจ้งบางสิ่ง!


 


“สารเลวเอ๊ย! ข้ากลับหลงกลัวไปได้!!”


 


กู่หลงรู้สึกเจ็บใจไม่น้อย พอคิดถึงเรื่องที่ก่อนหน้ามันเผลอหวาดกลัวอีกฝ่ายไป!


 


พริบตาต่อมามันก็ควบแน่นพลังกว่า 7 ส่วนลงขา ก่อนจะกระทืบอากาศอย่างแรงส่งร่างพุ่งทะยานขึ้นฟ้าไปปานลูกเกาทัณฑ์พ้นคันศร!


 


“ต้วนหลิงเทียน! ตอนนี้ความเร็วของเจ้าเหนือกว่าข้า! แต่ทันทีที่ผลของเวทย์พลังเจ้าหมดลงเมื่อใดถึงยามนั้นเจ้าจักเอาอันใดมาสู้ข้า? คราวนี้เจ้าตายแน่!!”


 


พุ่งทะยานบึ่งขึ้นฟ้าไปด้วยความเร็วสูง ใบหน้ากู่หลงเผยรอยยิ้มร่าอย่างลิงโลด ด้วยคิดว่าอีกไม่นานต้วนหลิงเทียนคงต้องถึงแก่กรรมคามือมันแน่!


 


ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!


 


อย่างไรก็ตาม แทบจะพร้อมกันกับที่ร่างกู่หลงพุ่งทะยานขึ้นพ้นหมู่เมฆ พลันปรากฏเสียงกระบี่แหวกฟ้าดังหวีดหวิวจี้เข้ามาจากทุกทิศทาง!


 


และเมื่อศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬได้ยินเสียงกระบี่แหวกฟ้าดังขึ้นพร้อมๆกันกับกู่หลงนั้นเอง พวกมันก็เห็นว่าปรากฏบอลแสงสีทองทรงกลมสว่างเจิดจ้ากินรัศมีร้อยหมี่คลุมครอบร่างกู่หลงเอาไว้ จนยากจะมองเห็นคนได้อีกต่อไป!


 


“หยุดมือ!!”


 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬไม่ทันทราบว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นกันแน่ พลันมีเสียงคำรามออกด้วยความดุร้ายมีอำนาจสะกดข่มหนึ่งดังขึ้น


 


ฟังจากเสียงแล้วคล้ายคนตะโกนกล่าวอยู่ไกลจากพวกมันมาก แต่พวกมันก็พอจะตระหนักกันได้ว่าเป็นเสียงใคร!


 


‘ฉิบ อาวุโสประจำแท่นบูชาเต่าทมิฬมากันแล้ว!’ ต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในเขตแดนหมื่นกระบี่ สีหน้าเขาถึงกับเปลี่ยนไปทันที เร่งส่งเสียงกล่าวถึงอาวุโสหั่วอย่างไม่กล้ารอช้า! “ผู้เฒ่าหั่ว ช่วยข้ากลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของมันที!”


 


ยามนี้เบื้องหน้าปรากฏกระบี่พลังมีสภาพสีทองเล่มหนึ่ง เสียบร่างไร้ชีวิตเอาไว้…


 


กล่าวให้ชัดร่างไร้ชีวิตดังกล่าวก็คือกู่หลง…


 


และตอนนี้ร่างกู่หลังยังคงเบิกตาโพลงมองจ้องมาที่เขา


 


ตามจุดสำคัญถึงตายของมันปรากฏหลุมโลหิตที่ยังคงมีโลหิตอุ่นๆไหลจ๊อกออกมา ซึ่งนี่เป็นบาดแผลที่ต้วนหลิงเทียนใช้เวทย์พลังจู่โจมสายกระบี่ขั้นสูง เซียนอมตะข้ามภพจู่โจมสังหารมัน!


 


ตอนนี้เซียนอมตะข้ามภพของเขายังพึ่งสร้างร่างแยกอวตารได้แค่ 2 ร่างเท่านั้น


 


อย่างไรก็ตาม เซียนอมตะข้ามภพที่สำเร็จขั้นเบื้องต้น ยามเมื่อผสานกับพลังของเคล็ดยอดใจกระบี่ขั้นที่ 2 เงากระบี่สัมพันธ์ใจ ต้วนหลิงเทียนก็สามารถทะลวงฝ่าม่านพลังคลุมกายจากวรยุทธ์เซียนสายป้องกันกู่หลงได้ดั่งเจาะเต้าหู้! กระทั่งวินาทีสุดท้ายก่อนตายตก กู่หลงยังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ!


 


กระบวนการสังหารทั้งหมดยังราบรื่นดั่งเมฆเคลื่อนคล้อยธารารินไหล!


 


น่าเสียดายก็แต่…


 


ด้วยความที่เขตแดนหมื่นกระบี่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทัศนวิสัยของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬถูกปิดกั้น พวกมันจึงอดเห็นฉากสังหารที่ 3 กระบี่ของต้วนหลิงเทียนแทงทะลวงจุดตายกู่หลง!


 


“พรสวรรค์รากวิญญาณของมันเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงิน….”


 


เมื่อต้วนหลิงเทียนส่งเสียงเรียกผู้เฒ่าหั่ว สำนึกเทวะของผู้เฒ่าหั่วก็แผ่พุ่งออกมาทันที พริบตาก็ทะลวงเข้าไปในดวงจิตของกู่หลงจนค้นพบรากวิญญาณของมันได้อย่างง่ายดาย


 


โดยปกติแล้ว ผู้เฒ่าหั่วมักให้ความสนใจกับเรื่องราวภายนอกเจดีย์น้อยมากเพราะเห็นแก่ความเป็นส่วนตัวของต้วนหลิงเทียน ดังนั้นจึงพึ่งได้รับทราบเอาก็ตอนนี้ว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่หลงเป็นสีน้ำเงิน


 


“ผู้เฒ่าหั่ว รบกวนท่านชักนำสำนึกเทวะของข้าไปสัมผัสถึงพรสวรรค์รากวิญญาณมันที…ข้าจะกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของมันก่อนที่อาวุโสของแท่นบูชาเต่าทมิฬจะมาถึง! ตอนนี้มันตายแล้ว ดวงจิตของมันก็กำลังจะแตกสลายหายไปเพื่อหวนคืนสู่สวรรค์และโลก…ถึงตอนนั้นพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินของมันไม่พ้นต้องหายไปด้วย! นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของข้า!!”


 


ทันทีที่สำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนชำแรกเข้าไปรอในดวงจิตของกู่หลง เขาก็รีบกล่าวกระตุ้นเตือนผู้เฒ่าหั่วอย่างร้อนใจ


 


ขณะกล่าวคำกระตุ้นเตือนผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนยังพุ่งมือขวาไปจับกระหม่อมกู่หลงเพื่อเตรียมความพร้อม กระทั่งเริ่มโคจรพลังใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกินรอเอาไว้ทันที!


 


“อืม!”


 


สัมผัสได้ถึงความกังวลร้อนใจของต้วนหลิงเทียน ผู้เฒ่าหั่วก็ไม่กล้าเพิกเฉย เร่งลากจูงสำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนด้วยสำนึกเทวะของตัวอย่างฉับไว ไม่ทันไรก็ไปพาไปถึงจุดที่พรสวรรค์รากวิญญาณกู่หลงตั้งอยู่! “พรสวรรค์รากวิญญาณของมันอยู่ตรงนี้ และด้วยความที่มันมีพรสวรรค์สูงกว่าครั้งนั้น พลังวิญญาณฟ้าดินที่กระเพื่อมย่อมมากกว่า…เจ้าสมควรสัมผัสถึงมันได้มิยาก”


 


“ข้าหาเจอแล้ว!!”


 


และแทบจะทันทีที่สิ้นคำกล่าวของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่หลงเรียบร้อย!


 


เป็นดั่งที่ผู้เฒ่าหั่วกล่าวไว้ไม่มีผิด ด้วยความที่พรสวรรค์รากวิญญาณของกู่หลงเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงิน ความผันผวนของพลังวิญญาณฟ้าดินรอบๆรากวิญญาณจึงเข้มข้นหนาแน่นกว่าของกู่ชุนมาก ทำให้ต้วนหลิงเทียนสามารถสัมผัสเจอได้เร็วกว่าครั้งกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่ชุนหลายส่วน กระทั่งยังพบเจอแทบจะทันที จึงรีบเพ่งเล็งมันเอาไว้!!


 


หลังจากเพ่งเล็งไปที่พรสวรรค์รากวิญญาณของกู่หลงได้แล้ว เรื่องราวหลังจากนั้นก็เป็นอะไรที่ง่ายดายนัก!


 


มีคำกล่าวที่ว่า ‘ครั้งแรกแปลกหน้า ครั้งสองคุ้นเคย’ นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่ต้วนหลิงเทียนกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณแบบนี้ ทุกการกระทำจึงไหลลื่นประหนึ่งคุ้นเคยดี!


 


เขายังควบคุมพลังได้อย่างยอดเยี่ยม ปลดปล่อยวังวนพลังดูดกลืนของปฐมเวทย์กลืนกิน และจัดการดูดกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณของกู่หลงได้ในพริบตา!


 


‘ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารอบนี้ข้าจะคล่องขนาดนี้…แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายพลังของพรสวรรค์รากวิญญาณกู่หลงเองก็สลายหายไปมาก…’


 


ลอบระบายลมหายใจอย่างทอดถอนคราหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของพรสวรรค์รากวิญญาณของเขา เพราะตอนนี้ความไวต่อสัมผัสพลังวิญญาณฟ้าดินมันสูงขึ้น!


 


“ตอนนี้พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้า เปลี่ยนจากสีเหลืองเข้มกลายเป็นสีเขียวเข้มแล้ว!”


 


พอดีกันกับที่เสียงเตือนต้วนหลิงเทียนของผู้เฒ่าหั่วดังขึ้น


 


“อย่างที่ข้าคิดไว้เลย…”


 


สำหรับผลลัพธ์นี้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้แปลกใจอะไร


 


พรสวรรค์รากวิญญาณของกู่หลงจะอย่างไรก็เป็น รากวิญญาณสีน้ำเงิน…ถึงแม้พลังจะสูญหายไปในระหว่างกระบวนการกลืนกิน หากแต่ก็ยังเป็นดั่งขนมเปี๊ยะจากฟ้า ช่วยให้พรสวรรค์รากวิญญาณของเขา เปลี่ยนจากรากวิญญาณสีเหลืองเข้มเป็นสีเขียวเข้มได้สำเร็จ!


 


“หยุดมือ!!”


 


และในตอนนี้เอง เสียงคำรามพลันดังกึกก้องในอากาศอีกครั้ง ดึงสติต้วนหลิงเทียนให้กลับคืน เขาเร่งคลายเขตแดนหมื่นกระบี่ของเขาทันที


 


และหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนคลายเขตแดนหมื่นกระบี่เรียบร้อยแล้ว เขาก็พบว่ามีร่างชรา 2 ร่างกำลังมุ่งหน้ามายังที่เขตพักของเหล่าศิษย์เต่าทมิฬด้วยความเร็วสูง หนึ่งเหินนำหนึ่งติดตามอยู่ด้านหลัง!


 


มองไปยังชุดคลุมของชายชราทั้ง 2 คนก็เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ล้วนเป็นอาวุโสเพลิงเงิน


 


และหนึ่งในนั้นก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับต้วนหลิงเทียน


 


หากเป็นสถานการณ์ปกติ เหล่าศิษย์ที่อยู่ ณ ที่นี้คงต้องคารวะทักทายทั้งคู่อย่างมากมารยาทแล้ว…


 


อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สายตาของพวกมันกลับจับจ้องขึ้นไปบนฟ้าสูง…


 


เมื่อสนามพลังสีทองประหลาดเจิดจ้าสลายหายไป สองตาพวกมันก็กลับมาเห็นภาพเรื่องราวอีกครั้ง มองไปก็มีร่างชายหนุ่มคนหนึ่งเหินลอยอยู่อย่างสงบไร้เรื่องราว


 


ถัดออกมาไม่ห่างก็เป็นร่างไร้ชีวิตหนึ่ง ที่กำลังร่วงหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกหล้า! ไม่ทันไรก็ตกลงไปกระแทกพื้นกลับกลายเป็นซากเนื้อเลอะเลือน…


 


ตุบบบ!!


 


เสียงตกกระแทกพื้นยังประหนึ่งเสียงฆ้อนที่ดังกังวานในใจของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬโดยรอบ เมื่อทุกคนสามารถดึงสติกลับเข้าเนื้อเข้าตัวได้สำเร็จ สีหน้าต่างก็อดเผยความหวาดกลัวออกมาเสียไม่ได้!


 


“นิ…นี่มัน เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”


 


“กู่หลง…กู่หลงตกตายแล้ว? มันเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดมิใช่หรือ?”


 


“เซียนปฐพีขั้นสูงสุดกลับตกตายคามือเซียนปฐพีขั้นต้น…มีผู้ใดบอกข้าพเจ้าได้บ้าง ว่าเมื่อครู่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่!?”


 


“นี่ข้าใช่กำลังฝันไปอยู่หรือไม่?”


 



 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬได้แต่ตะลึงลานไปแล้วจริงๆ ฉากเรื่องราวที่เคยเงียบสงัดพลันกระหึ่มขึ้นมาด้วยเสียงตกใจ ไม่อยากจะเชื่อ


 


สวรรค์!


 


นี่พวกมันได้มาเป็นพยานเรื่องอะไรกันแน่!


 


ผู้ฝึกตนอัจฉริยะด่านพลังเซียนปฐพีขั้นสูงสุดที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน…กลับตกตายด้วยน้ำมือของผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้นที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณแค่สีเหลือง!


 


หากพวกมันไม่ได้มาเห็นเรื่องราวกับตา เกรงว่าใครมาเล่าให้ฟัง ต่อให้ยืนกรานให้ตายถึงขั้นหัวเด็ดตีนขาดพวกมันก็ไม่เชื่อ!


 


“ท่านพี่!!”


 


เสียงหดหู่อันเปี่ยมล้นไปด้วยความโศกเศร้าหนึ่งพลันดังขึ้น ร่างหนึ่งเหินพุ่งไปหยุดเหนือร่างเลอะเลือนของกู่หลง สองตาที่มองไปยังร่างไร้ชีวิตที่แหลกเหลวบนพื้นสั่นไหวพร่ามัวนัก…


 


มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าลูกพี่ลูกน้องที่มันยึดถือว่าเป็นผู้ปลดปล่อยมันจากความแค้น…กลับตกตายเสียแล้ว!


 


ยังมาตายคามือคู่แค้นของมัน!


 


“ไม่จริง…เป็นไปไม่ได้!!”


 


หลังมองร่างกู่หลงไปได้อีกพักหนึ่ง จิตใจของกู่ชุนคล้ายไม่อาจยอมรับความจริงได้อีกต่อไป ตะโกนกล่าวออกมาอย่างไม่เชื่อ “เจ้าไม่ใช่ท่านพี่ของข้า! เจ้ามิใช่ท่านพี่ของข้า!! เจ้ามันไร้ประโยชน์…ท่านพี่ของข้าเก่งกล้ามากสามารถ มิใช่ตัวไร้ประโยชน์เช่นเจ้า!!”


 


“หืม? มันคือลูกพี่ลูกน้องของเจ้าที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน?”


 


ครู่ต่อมาพลันมีร่างชราหนึ่งปรากฏตัวขึ้นข้างๆ กู่ชุน สองตาทอดมองลงไปยังร่างของกู่หลงอย่างเฉยเมย ถามออกเสียงเข้ม


 


และการปรากฏตัวของชายชราผู้นี้ ทำให้กู่ชุนที่คล้ายจะสติแตก สามารถดึงสติให้กลับมารู้สึกตัวได้อีกครั้ง


 


“ท่านอาจารย์!!”


 


กู่ชุนเร่งคุกเข่าลงกลางอากาศทันที ยังก้มหัวโค้งลงไปงกๆคล้ายจะมุดหลุมอากาศ กล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า “ท่านอาจารย์ ลูกพี่ลูกน้องของข้าสิ้นไร้วาสนากับท่านเสียแล้ว! ท่านพี่มิมีวาสนากับท่านแล้ว!!”


ตอนที่ 1,929 : อาวุโสคุมกฏแห่งหอคุมกฏ!


 


ชายชราที่ปรากฏตัวขึ้นข้างๆกู่ชุนนั้นมิใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหลี่อัน อาวุโสเพลิงเงินอันดับหนึ่งของแท่นบูชาเต่าทมิฬ และยังเป็นอาจารย์ของกู่ชุนเช่นกัน


 


เดิมทีเหตุผลที่มันยินยอมรับกู่ชุนเป็นศิษย์ เนื่องเพราะกู่ชุนให้สัญญาว่าเมื่อลูกพี่ลูกน้องที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินมาถึง กู่ชุนจะให้อีกฝ่ายมากราบคารวะมันเป็นอาจารย์…


 


อาจกล่าวได้ว่าเพราะเห็นแก่หน้าของลูกพี่ลูกน้องกู่ชุน หลี่อันถึงได้ยินยอมลดมาตรฐานของตัวเองรับกู่ชุนไว้เป็นศิษย์!


 


วันนี้พอมันได้รับแจ้งจากอาวุโสเพลิงทองแดงว่าลูกพี่ลูกน้องของกู่ชุนมาถึงลัทธิบูชาไฟแล้ว กระทั่งยังมาถึงแท่นบูชาเต่าทมิฬเรียบร้อย มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดี แทบรอให้อีกฝ่ายมาทำพิธียกน้ำชาคารวะอาจารย์ไม่ไหว!


 


แต่ใครจะไปคิดไปฝัน ว่ารอแล้วรอเล่าคนไม่มา ที่มาไม่ใช่คน…เป็นข่าวน่าตื่นตกใจ!!


 


ลูกพี่ลูกน้องของกู่ชุน ที่มีนามว่ากู่หลงนั้น กลับไม่แยแสกฏของลัทธิบูชาไฟ กล้าจู่โจมลงมือต่อต้วนหลิงเทียนที่บ้านพัก กระทั่งยังลงมือด้วยเจตนาฆ่าฟัน!!


 


ได้ยินข่าวนี้หลี่อันแม้ตกใจแต่ก็ไม่ได้ห่วงอะไร


 


กู่หลงจะอย่างไรก็เป็นถึงอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน ถึงแม้จะฆ่าต้วนหลิงเทียนทิ้งไปจริงๆในลัทธิบูชาไฟ แต่อย่างดีมันก็แค่ถูกลงโทษให้เป็นพิธีเท่านั้น!


 


ต้วนหลิงเทียนเป็นแค่ศิษย์ดาษๆที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลือง คุณค่าย่อมน้อยกว่ากู่หลงมาก!


 


แน่นอนว่าตราบใดที่ยังอยู่ในลัทธิบูชาไฟสืบไป วันหน้ากู่หลงผู้นี้อย่างน้อยๆ ก็คงได้เป็นอาวุโสเพลิงเงินแน่นอน…


 


แต่อย่างไรก็ตามตัวมันเองก็เป็นถึงผู้อาวุโสเพลิงเงิน มันก็ถือว่าแบกหน้าตาของลัทธิบูชาไฟไว้บนบ่า ไหนเลยจะกระทำตัวไร้ศีลธรรม เพิกเฉยต่อเรื่องราว ของว่าที่ศิษย์ที่ได้ลงมือฆ่าคนไปแบบนี้ได้…!


 


หาไม่แล้วคงได้สร้างความเสื่อมเสียให้ลัทธิบูชาไฟแน่นอน…และนั่นเป็นราคาที่มันไม่อาจจะชดใช้ได้ไหว!


 


ด้วยเหตุนี้ถึงแม้หลี่อันจะมีฐานะเป็นอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬและมีอำนาจเพียงใด และต่อให้มันจะแค้นต้วนหลิงเทียนและอยากฆ่าให้ตายมากเพียงใด มันก็ไม่อาจลงมือฆ่าต้วนหลิงเทียนเพื่อพิพากษาโทษอีกฝ่ายตามอำเภอใจได้!!


 


มิฉะนั้นต้วนหลิงเทียนคงได้ตกตายไปแต่แรกแล้ว คงไม่อาจมีลมหายใจได้จนถึงตอนนี้!


 


แต่อย่างไรเสียแม้หลี่อันจะไม่ห่วงความปลอดภัยของกู่หลง แต่มันก็จำต้องออกหน้า…ส่วนอาวุโสอีกคนที่มาด้วยนั้นก็เป็นอาวุโสเพลิงเงินเช่นเดียวกับมัน ยังเป็นคนของแท่นบูชาเต่าทมิฬเช่นเดียวกันอีกด้วย แน่นอนว่าสมควรปฏิบัติกับกู่หลงด้วยดีถึงแม้จะฆ่าต้วนหลิงเทียนไปก็ตาม!


 


ตั้งแต่ต้นจนจบมันไม่เคยสงสัยเลยว่ากู่หลงจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้หรือไม่…


 


ในสายตาของมัน เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย


 


กู่ชุนได้กล่าวบอกมันเอาไว้เนิ่นนานแล้ว ว่าพลังฝึกปรือของกู่หลงนั้นบรรลุถึงจุดสูงสุดขอบเขตเซียนปฐพี เจียนทะลวงถึงขอบเขตเซียนนภาเต็มที…คิดฆ่าผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้น ยังไม่ใช่ง่ายดายดั่งตัดหญ้าฆ่าไก่หรือไร?


 


“ตายแล้ว…มันกลับตกตายแล้ว”


 


อนิจจาหลี่อันไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าทันทีที่มันมาถึงเขตที่พักของศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ ศพที่มันเห็นจะไม่ใช่ศพของต้วนหลิงเทียน แต่เป็นศพของกู่หลง ผู้ที่จะเป็นศิษย์ของมันแทน…


 


กู่หลง…อัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน


 


ด้วยเหตุนี้ถึงแม้มันจะไม่เคยพบเคยเจอกู่หลงมาก่อน แต่ในใจของหลี่อันก็ให้ความสำคัญกับกู่หลงเอาไว้มาก เรียกว่ายังมากมายกว่ากู่ชุนอย่างไม่เห็นฝุ่น!


 


ด้วยเหตุนี้ ในใจของมันถึงได้เต็มไปด้วยโทสะนัก!!


 


ว่าที่ศิษย์อัจฉริยะของมันที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินกลับถูกสังหารตกตายไปแบบนี้!!


 


“ต้วนหลิงเทียน! เจ้ากลับกล้าสังหารศิษย์ร่วมลัทธิเดียวกันงั้นเหรอ!!”


 


ครู่ต่อมาลูกตาของหลี่อันก็แผ่พุ่งรังสีอำมหิตเย็นเยือก ยังเงยหน้าขึ้นไปมองต้วนหลิงเทียนที่ลอยตัวอยู่บนฟ้าสูงอย่างเอาเรื่อง!!


 


ในตอนนี้มันแทบอยากจะลงมือสฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตาย ยังอยากจะป่นร่างอีกฝ่ายให้แหลกจนไร้ศพไว้กลบฝังด้วยซ้ำ!!


 


อนิจจามันไม่อาจกระทำตามอำเภอใจได้


 


ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนมีฐานะเป็นศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ ซึ่งนับเป็นศิษย์ของลัทธิบูชาไฟแล้ว ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นฆาตกรฆ่าศิษย์ร่วมลัทธิจริงและมีโทษถึงประหาร ทว่าผู้ที่จะพิพากษาลงโทษอีกฝ่ายได้ก็มีแต่ผู้อาวุโสของหอคุมกฏเท่านั้น!!


 


ถึงแม้หลี่อันจะเป็นถึงอาวุโสเพลิงเงินอันดับ 1 แห่งแท่นบูชาเต่าทมิฬ แต่มันก็ไม่มีอำนาจลงทัณฑ์ผู้ใด!


 


อย่างไรก็ตาม แต่นี่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่อาจใส่ไฟเพิ่มโทษให้ต้วนหลิงเทียนได้!


 


“ฆ่าศิษย์ร่วมลัทธิเดียวกันงั้นเหรอ?”


 


ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะอึ้งเมื่อได้ยินวาจาดุร้ายเอาเรื่องของหลี่อัน ทว่าต่อมาก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น!


 


“เจ้าหัวเราะอะไร!!”


 


หน้าหลี่อันจมลงทันใด แววตายังเปี่ยมล้นไปด้วยเจตนาฆ่าฟันวูบวาบปานจะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คน!


 


“พอดีข้าหัวเราะอาวุโสเพลิงเงินโง่งมบางคน ที่หน้ามืดตามัวไม่รู้แยกแยะผิดชอบให้แน่ชัด! ดีแต่กล่าวเหลวไหลไปวันๆน่ะ!!”


 


ต้วนหลิงเทียนที่หัวเราะอยู่พลันหยุดลง ก่อนที่จะมองกล่าวกับหลี่อันด้วยรอยยิ้มเยาะ


 


“เจ้า!!”


 


หลี่อันย่อมรู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนกำลังด่าว่ามัน อนิจจาแต่ต้วนหลิงเทียนไม่ได้เอ่ยชื่อแซ่ของมันออกมาตรงๆ ถึงแม้มันจะมีโมโหปานใดก็ไร้ประโยชน์!


 


หากต้วนหลิงเทียนกล้าเอ่ยชื่อมันออกมาล่ะก็ มันจะใช้โอกาสนี้ลงมือสั่งสอนต้วนหลิงเทียนข้อหาดูหมิ่นผู้อาวุโสเพลิงเงินเสีย!


 


ถึงแม้ว่ามันจะไม่อาจฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายได้อยู่ดี แต่อย่างน้อยๆมันก็จะได้ทุบตีคนระบายโทสะ!


 


ทว่าต้วนหลิงเทียนคล้ายจะอ่านใจมันออก อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะเปิดโอกาสให้มันมีช่องทางเล่นงานได้เลย


 


“เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ พี่น้องเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทุกคนที่อยู่ที่นี่สามารถเป็นพยานให้ข้าได้!”


 


ขณะนั้นเองต้วนหลิงเทียนพลันหันมองไปยังอาวุโสเพลิงเงินที่มาด้วยอีกคนไกลตา ค่อยกล่าวออกมาพร้อมว่ายตามองไปรอบๆ


 


“ข้าต้วนหลิงเทียน เหตุผลที่ลงมือกับกู่หลงนั้น เพราะกู่หลงเป็นฝ่ายลงมือคิดฆ่าข้าก่อน…ตามกฏของลัทธิแล้วสิ่งนี้ถือว่าเป็นการป้องกันตัว ถึงแม้ข้าจะฆ่ามันตายข้าก็ไร้ความผิด!!”


 


“อย่างไรก็ตาม ข้าเป็นคนใจดีคิดให้โอกาสผู้คนเสมอ ถึงแม้ตอนแรกกู่หลงมันคิดจะฆ่าข้า แต่ข้าก็ไม่คิดจะลงมือต่อมันถึงตาย…จนเมื่อมันกล้าลงมือสังหารคนบริสุทธิ์ตกตายไปนับสิบ! และที่มันฆ่าตายไปก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬเหมือนกันกับข้าทั้งสิ้น! ตัวข้าไหนเลยจะทนเห็นศิษย์พี่น้องถูกฆ่าตายอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้ได้ อารามบันดาลโทสะข้าจึงฆ่ามันเสีย! ถือเสียว่าล้างแค้นให้พี่น้องนับสิบที่ตกตายไปเพราะมัน!!”


 


ต้วนหลิงเทียนกล่าววาจาออกมาเสียงดังฟังชัดอย่างชอบธรรม!


 


“ฆ่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬไปนับสิบ?”


 


ได้ยินวาจานี้ของต้วนหลิงเทียน อาวุโสเพลิงเงินที่มาพร้อมกันกับหลี่อัน ใบหน้าอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีไปทันที!


 


ครู่ต่อมาสองตามันก็เบนไปตกยังร่างไร้วิญญาณของกู่หลงบนพื้น ความเย็นเยียบขุมหนึ่งพลันระเบิดออกจากสายตา ราวกับมันอยากจะสับร่างกู่หลงให้แหลกเป็นชิ้นๆ!


 


“อาวุโสกัว อย่าได้ฟังข้อแก้ตัวของมัน!”


 


หลี่อันพลันตะโกนออกมาในเวลาที่เหมาะสม


 


อาวุโสเพลิงเงินที่มาด้วยกันกับหลี่อันนั้น ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอาวุโสเพลิงเงินที่เป็นอาวุโสคุมกฏของหอคุมกฏ! และเป็นผู้ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องราวความถูกต้องที่แท่นบูชาเต่าทมิฬแห่งนี้!!


 


กัวฉงนั้น นอกเหนือจากเป็นอาวุโสคุมกฏประจำแท่นบูชาเต่าทมิฬแล้ว อีกฝ่ายยังเป็นอาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬคนหนึ่งที่เป็นรองก็แต่หลี่อันในแง่ของพลังฝีมือเท่านั้น!


 


อย่างไรก็ตามด้วยอีกฐานะหนึ่งของมันเป็นถึงอาวุโสของหอคุมกฏ ก็ทำให้หลี่อันกริ่งเกรงไว้หน้ามันอยู่ไม่น้อย


 


ยิ่งไปกว่านั้น ถึงจะคิดต่อสู้กันอย่างเอาจริงเอาจังให้รู้ผลชัดเจน ก็ไม่ใช่ว่าหลี่อันจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ง่ายๆ สุดท้ายแม้จะชนะได้แต่เกรงว่ามันก็ต้องจ่ายราคาออกไปไม่น้อย!


 


“อาวุโสหลี่อัน ข้ายังมิได้ชราจนหูตาฝ้าฟางถึงขั้นที่ใครจะมาหลอกแถแก้ตัวอันใดกับข้าได้…ในที่เกิดเหตุมีพยานอยู่มากมาย ไหนเลยข้ายังจะหาความจริงไม่ได้…”


 


กัวฉงเหลือบมองหลี่อันค่อยกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเฉยเมย


 


กัวฉงนั้นในฐานะอาวุโสของหอคุมกฏ แม้หลายคนจะสามารถตั้งคำถามมันในเรื่องอื่นได้ แต่เรื่องเดียวที่ไม่เคยมีใครกล้าตั้งคำถามกับมันก็คือ ความยุติธรรม!


 


เหตุผลที่กัวฉงสามารถกลายเป็นอาวุโสของหอคุมกฏได้นั้น เป็นเพราะตัวมันถือว่ามีความเที่ยงธรรมรู้ผิดชอบชั่วดี! ไม่เคยรังแกใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์อันใด ทว่าหากเป็นคนร้ายผิดจริงมันก็ไม่เคยละเว้น!!


 


ไม่นานกัวฉงก็ได้สอบปากคำพยานโดยรอบจนสามารถเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างกระจ่าง


 


ตอนนี้สีหน้าของมันยังมืดครึ้มลงนัก


 


ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬสิบกว่าคนตกตายไปทั้งอย่างนั้น…


 


หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ตัวมันจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!!


 


เพราะสุดท้ายแล้วกัวฉงก็คือผู้อาวุโสคุมกฏ มีหน้าที่คอยบังคับใช้กฏหมายในแท่นบูชาเต่าทมิฬ ครองอำนาจพิพากษาตัดสินโทษคนแต่เพียงผู้เดียว! ทว่าตอนนี้กลับมีคนกล้าละเมิดกฏครั้งใหญ่ฆ่าผู้คนไปเกินโหล!!


 


“กู่หลงมิเพียงลงมือหมายฆ่าผู้อื่นก่อน ยังลงมือสังหารเหล่าศิษย์ร่วมแท่นบูชาเต่าทมิฬไปทั้งสิ้น 17 คน! โทษนี้ของมันต่อให้ตกตายก็มิอาจชดใช้!!”


 


“ด้านต้วนหลิงเทียนนั้น เห็นชัดว่าลงมือเพื่อป้องกันตัวเอง! จึงไม่มีความผิดโทษฐานฆ่ากู่หลงแต่อย่างใด กระทั่งยังฆ่ากู่หลงหลังจากฆ่าสหายร่วมแท่นไปแล้วถึง 17 คน! ส่วนนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นความดีความชอบ…เช่นนั้นถือว่า ไม่เพียงเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังสมควรได้รับรางวัล!!”


 


“ในลัทธิบูชาไฟของเรา มีการแยกแยะดีชั่วชัดเจนนัก! คนทำดีสมควรได้รับรางวัล คนทำชั่วต้องรับโทษมิมีละเว้น! สำหรับของรางวัลที่ต้วนหลิงเทียนจะได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของจ้าวแท่นบูชาเต่าทมิฬ ที่ข้าจะเป็นผู้ไปแจ้งเรื่องราวเหล่านี้ด้วยตัวเองหลังจากนี้”


 


การตัดสินคดีของกัวฉงนับว่าตรงไปตรงมาและเรียบง่ายนัก


 


กู่หลงกระทำความผิด ที่กระทั่งตายไปก็ไม่อาจชดใช้!


 


ต้วนหลิงเทียน ไม่มีความผิดแถมยังจะได้รางวัล!!


 


ได้ยินคำพิพากษาตัดสินเรื่องราวของกัวฉง เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬโดยรอบอดไม่ได้ที่จะมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอิจฉา


 


นั่นมันรางวัลจากเจ้าแท่นบูชาเลยนะ! ธรรมดาที่ไหน!!


 


การตัดสินพิจารณาคดีของกัวฉงนั้น แม้หลี่อันจะไม่พอใจมากเพียงใด แต่มันก็ทำได้แค่มองดูอยู่ไกลๆอย่างจนหนทาง


 


“อาวุโสกัว! ข้าไม่ยอมรับ!!”


 


ตอนนี้เองกู่ชุนพลันก้าวออกมาตะโกนก้อง ยังมองหน้ากัวฉงด้วยความไม่พอใจ!


 


“ท่านพี่ของข้าหาได้เจตนาฆ่าศิษย์ทั้ง 17 คนเหล่านี้ไม่! ทั้งหมดเป็นเพียงลูกหลงขณะสู้กับต้วนหลิงเทียนเท่านั้น! กระทั่งหากมิใช่เพราะต้วนหลิงเทียนลงมือด้วยความคิดสังหารเช่นกัน ท่านพี่ก็คงไม่ลงมือรุนแรงถึงขั้นพลั้งมือทำคนตายเช่นนี้! แน่นอนว่าจะอย่างไรความผิดของท่านพี่ข้าก็ยังคงมีอยู่ ข้าเองก็รู้ดีว่าตอนนี้กระทั่งท่านพี่ตายไปแล้วก็ยังมิพอชดใช้…แต่เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนได้รับความดีความชอบ ข้าไม่เห็นด้วย!!”


 


ถึงแม้ตอนแรกนั้นกู่ชุนจะตระหนักได้ว่า อย่างไรต้วนหลิงเทียนก็ลงมือด้วยเหตุป้องกันตัว และไม่มีความผิดแน่ๆ…


 


แต่พอกู่ชุนได้ยินคำตัดสินของกัวฉง ว่าต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่จะไม่มีความผิดจริงๆ กระทั่งยังจะได้รับรางวัลจากจ้าวแท่นบูชาเต่าทมิฬเป็นการส่วนตัวอีก สองตาของมันก็แดงฉานขึ้นมาทันใด จึงแสดงความไม่พอใจออกมาในเวลานี้!


 


ทั้งหมดเพียงเพราะต้องการให้กัวฉงยกเลิกรางวัลของต้วนหลิงเทียน!


 


“หากเจ้ามิกล่าวขึ้นมาเอง ข้าก็แทบจะลืมเจ้าไปแล้ว!”


 


ในขณะที่กู่ชุนมองกัวฉงด้วยสายตาไม่ยินยอม ด้านกัวฉงก็หันไปมองตอบด้วยสายตาเย็นชายะเยือก


 


“อาวุโสกัว ท่านกล่าวเช่นนี้หมายความว่าอะไร?”


 


สีหน้ากู่ชุนถึงกับแปรเปลี่ยนไปทันใด กลายเป็นหวาดกลัวไม่น้อย “ขะ…ข้าดูเหมือนจักมิได้ละเมิดกฏอันใด!”


 


“หึ! เจ้าแน่ใจหรือว่าตัวเจ้ามิได้ละเมิดกฏอันใด?”


 


กัวฉงกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะเยาะ “เช่นนั้นให้ข้าไถ่ถามเจ้า…กู่หลง ไฉนถึงได้มาลงมือด้วยเจตนาสังหารต่อต้วนหลิงเทียนได้? เจ้ากล้าสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าหรือไม่ ว่าเรื่องราวในวันนี้เจ้ามิได้เป็นผู้ที่คอยยุยงส่งเสริมให้มันลงมือ! หากเจ้ากล้ากล่าวคำสาบานออกมา วันนี้ข้าจะไม่ถือสาหาความกับเจ้า!!”


 


สิ้นคำกล่าวของกัวฉง สีหน้ากู่ชุนก็มืดคล้ำลงทันใด


 


ครู่ต่อมามันก็อดไม่ได้ที่จะกุลีกุจอหันไปมองร่างหลี่อันที่อยู่ไม่ไกล “ท่านอาจารย์ช่วยข้าด้วย!!”


 


อย่างไรก็ตาม ได้ยินคำร้องขอความช่วยเหลือนี้ของกู่ชัน หลี่อันเพียงเหลือบมองมันด้วยสายตาเฉยเมย ก่อนที่จะเหินร่างจากไปอย่างไร้แยแสทันที


 


และในขณะที่เหินร่างจากไป เสียงเย็นชาไร้อารมณ์ใดๆของหลี่อันก็ดังทิ้งท้ายให้ผู้คนได้ยินกันทั่ว “กู่ชุนละเมิดกฏอย่างมิอาจให้อภัย และนับแต่วันนี้เป็นต้นไป มันมิถือว่าเป็นศิษย์ของข้าหลี่อันอีกต่อไป!!”


 


วาจาประโยคดังกล่าวไม่สั้นไม่ยาว หากแต่เป็นคำสะบั้นไมตรีระหว่างหลี่อันกับกู่ชุนจนหมดสิ้น…


 


เท่าที่หลี่อันห่วง ตอนนี้เมื่อกู่หลงตกตายไปแล้ว มันก็ไม่มีโอกาสได้รับศิษย์อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินอะไร แล้วยังจะเก็บตัวไร้ค่าอย่างกู่ชุนไว้ทำเพื่อ? เมื่อมีโอกาสจึงตัดหางปล่อยวัดอีกฝ่ายทันที…


 


“ไม่นะ! ท่านอาจารย์! ท่านทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้! ท่านทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้!!”


 


กู่ชุนกล่าวออกด้วยใบหน้าซีดเผือด มันที่หวาดกลัวจนลนลาน ก็พยายามจะเหินร่างไล่ตามหลี่อันไปทันที


 


“ฮึ่ม!” ด้วยเสียงพ่นลมสบถเย็นหนึ่งดังขึ้น แม้ไม่ทราบว่ากัวฉงลงมืออย่างไร ทว่ากู่ชุนที่กำลังเร่งรุดไล่ตามหลี่อันไปนั้น พลันถูกอะไรบางอย่างซัดจนหน้าหงาย คนกระเด็นย้อนกลับมาทันที!


ตอนที่ 1,930 : รากวิญญาณสีเขียว!


 


“กู่ชุนยุยงส่งเสริมกู่หลง อันเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมยังผลให้สหายเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ ตกตายไปทั้งสิ้น 17 คน…โทษตายสามารถละเว้นได้เนื่องเพราะมิได้ลงมือเองเป็นการส่วนตัว หากแต่โทษเป็นยังอยู่! นับแต่วันนี้กู่ชุนจักถูกขับไล่ออกจากลัทธิบูชาไฟ และมิได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมลัทธิบูชาไฟตลอดชั่วชีวิต!!”


 


ในขณะที่ใช้พลังซัดขวางกู่ชุน อาวุโสคุมกฏกัวฉงพลันประกาศคำตัดสินโทษของกู่ชุนออกมาเสียงดังฟังชัดให้ทุกผู้คนได้ยินกันทั่ว!


 


ขับไล่ออกจากลัทธิบูชาไฟ ยังห้ามมิให้เข้าร่วมอีกชั่วชีวิต!!


 


ได้ยินคำตัดสินโทษนี้ของกัวฉง สีหน้ากู่ชุนพลันซีดลงปานกระดาษทันตา แววตาฉายชัดออกมาถึงความสิ้นหวังหมดอาลัย


 


หลังจากนั้นพักหนึ่งคล้ายมันคิดอะไรได้ มันเงยหน้าขึ้นมาถลึงตามองต้วนหลิงเทียนด้วยความคับแค้นชิงชังเข้ากระดูกดำ ลึกลงไปในลูกตายังเผยประกายเย็นเยือกอันน่ากลัว


 


ในสายตาของมัน


 


หากไม่ใช่เพราะต้วนหลิงเทียน มันคงไม่มีวันนี้!


 


ตลอดชั่วชีวิตนี้ ต่อให้พลังฝึกปรือของมันไม่มีวันไล่ตามต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป แต่มันจะไม่มีวันเลิกรากับต้วนหลิงเทียน!


 


มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของต้วนหลิงเทียนก็จริง หากแต่คนรอบๆกายต้วนหลิงเทียนเล่า?


 


หลังออกจากลัทธิบูชาไฟ มันจะทำทุกอย่างเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อสืบหาภูมิหลังของต้วนหลิงเทียนมาให้จงได้…มันไม่เชื่อว่าครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหายของต้วนหลิงเทียนทุกคนจะมีพลังฝีมือเหนือกว่าตัวมัน กู่ชุน!!


 


สัมผัสได้ถึงแววตานี้ของกู่ชุน ใจต้วนหลิงเทียนสั่นไหวทันที


 


จากนี้ไปกู่ชุนนั้นกลายเป็นตัวไร้ค่าไปแล้ว เขาย่อมไม่แยแสอะไรมัน


 


หากแต่ในโลกนี้ ถ้าคนที่เกลียดชังคับแค้นเขายังมีลมหายใจอยู่ ใจเขายากจะสงบ..


 


‘แววตาอาฆาตนั่น…หรือมันออกจากลัทธิบูชาไฟไปแล้วข้าลอบตามไปฆ่ามันเพื่อตัดรากถอนโคนดี?’


 


ต้วนหลิงเทียนครุ่นคิดในใจ


 


หากแต่ความคิดนี้ก็ถูกเขาปัดตกไปทันที ‘ไม่ได้ เรื่องนี้เสี่ยงเกินไป! ใครจะไปรู้เกิดข้าลอบตามกู่ชุนออกไป จะไม่กลายเป็นตั๊กแตนจ้องจับจั๊กจั่น ไม่รู้ภัยนกขมิ้นอยู่ด้านหลัง?’


 


พอคิดถึงเรื่องนี้ และมองถึงความเป็นไปได้ที่หลี่อันจะลอบตามไปฆ่าเขา ต้วนหลิงเทียนก็ล้มเลิกความคิดตามไปฆ่ากู่ชุนเพื่อตัดรากถอนโคนทันที


 


แต่ทว่ายามเมื่อต้วนหลิงเทียนมองกัวฉงอีกครั้ง สองตาพลันทอประกายวาบคล้ายนึกอะไรได้ออก!


 


“อาวุโสกัวฉง!”


 


ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนยังเรียกกัวฉงออกมาเสียงดัง


 


“หืม?”


 


กัวฉงที่ได้ยินเสียงเรียกหา ก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนพร้อมถามออกมาทันที “เจ้ามีอันใดรึ?”


 


“อาวุโสกัวฉง ในเมื่อตอนนี้กู่ชุนมันไม่ได้เป็นศิษย์ของลัทธิบูชาไฟอีกต่อไป…เช่นนั้นข้าขอให้อาวุโสกัวฉงฆ่ามันเพื่อข้าได้หรือไม่? หากท่านลงมือฆ่ามันให้ข้า หลังจากนั้นอาวุโสกัวฉงก็ไม่จำเป็นต้องลำบากไปรายงานท่านจ้าวแท่นบูชาเพื่อให้รางวัลอะไรข้าอีกต่อไป…”


 


ต้วนหลิงเทียนกล่าวคำออกมา ยังเป็นเชิงให้อีกฝ่ายตัดสินใจเลือกเอง


 


แลกกับการฆ่ากู่ชุน ต้วนหลิงเทียนยินดีสละรางวัลที่จะได้รับจากจ้าวแท่นบูชาเต่าทมิฬ


 


วูบ!


 


ได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน หน้ากู่ชุนพลันเปลี่ยนสีกลับกลายทันที!


 


มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะต้องการฆ่ามันให้ตายขนาดนี้! ถึงขั้นไม่ลังเลที่จะสละรางวัลของจ้าวแท่นบูชาเต่าทมิฬ!!


 


โอ!


 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่อยู่ในจุดเกิดเหตุอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาฮือฮา ฉากเรื่องราวกลายเป็นวุ่นวายอยู่บ้าง


 


“อะไรกัน! ต้วนหลิงเทียน…เพียงเพื่อฆ่ากู่ชุนแล้ว กลับมิสนของรางวัลจากท่านจ้าวแท่นเลยหรือ?”


 


“ต้วนหลิงเทียนเสียสติไปแล้วหรือไร? ด้วยพลังฝีมือของมัน คิดไล่ตามไปฆ่ากู่ชุนหลังออกนอกเขตลัทธิบูชาไฟไปแล้วนับเป็นเรื่องราวอันง่ายดายนัก…จำเป็นต้องละทิ้งของรางวัลจากจ้าวแท่นบูชา แล้วให้อาวุโสกัวฉงลงมือด้วยหรือ?”


 


“บ้า! มันบ้าไปแล้วแน่ๆ!!”


 


……


 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬหลายคนคิดว่าการที่ต้วนหลิงเทียนทำแบบนี้ น่ากลัวสมงสมองจะไปหมดแล้ว


 


แน่นอนว่ายังมีศิษย์หลายคนที่มองเกมขาด และคาดเดาอะไรได้ออก “หากมองจากเรื่องราวความแค้นระหว่างต้วนหลิงเทียนกับอาวุโสหลี่อัน ต้วนหลิงเทียนสมควรหวั่นเกรงมิน้อย หากมันไล่ตามออกไปฆ่ากู่ชุนนอกเขตลัทธิบูชาไฟแล้วอาวุโสหลี่อันกลายเป็นนกขมิ้นที่ติดตามมาเบื้องหลังล่ะก็ คราวนี้มันมิพ้นต้องตาย…ยังต้องตายอย่างโง่งม!”


 


“อา จริงสิ! หากอาวุโสหลี่อันลงมือหมดจด มิเหลือร่องรอยอันใด เช่นนั้นคนก็ตายเปล่าแล้วจริงๆ!”


 


“ต้วนหลิงเทียนตัดสินใจกระทำเช่นนี้ไม่เพียงละเอียดรอบคอบ ยังต้องกล้าหาญมิใช่น้อย! เพราะสุดท้ายก็มิใช่ทุกคนที่สามารถละทิ้งของรางวัลจากจ้าวแท่นบูชาเต่าทมิฬได้!!”


 


“ไม่ต้องกล่าวแล้ว ครั้งนี้ข้าอดกล่าวชมต้วนหลิงเทียนมิได้จริงๆ!!”


 


……


 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทั้งหลายพอได้ฟังความเรื่องนี้ก็เสมือนได้รู้แจ้ง หลายคนเข้าใจแล้วว่าต้วนหลิงเทียนคิดอ่านอะไร!


 


“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะละทิ้งของรางวัลจากจ้าวแท่นบูชา แลกกับการให้ข้าทำอะไรเช่นนี้?”


 


กัวฉงเองก็คาดเดาความคิดต้วนหลิงเทียนได้ออก จึงกล่าวถามออกมาอีกครั้งเสียงเข้ม


 


“ใช่!”


 


ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับอย่างไร้ลังเล!


 


ของรางวัลจากจ้าวแท่นบูชาเต่าทมิฬงั้นเหรอ?


 


เอาตรงๆเลยเขาไม่คิดว่าจ้าวแท่นบูชาเต่าทมิฬจะให้ในสิ่งที่เขาต้องการได้…


 


เวทย์พลัง?


 


ตอนนี้เขามีไม่ขาดทุกสาย


 


วรยุทธ์เซียน หรือทักษะวิชา?


 


เขามีสำนึกกระบี่อันเลิศล้ำจาก ยอดใจกระบี่ อยู่แล้ว


 


ศาสตราร้อยอาคมเซียน?


 


เขาก็มีอยู่ในครอบครองแล้วเช่นกัน


 


ยันต์เต๋า ทรัพยากร ของใช้อื่นๆ?


 


ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ


 


เขาจึงตัดสินใจได้ทันทีว่าจะละทิ้งของรางวัลอะไรนั่น เพื่อแลกกับความตายของกู่ชุน!


 


“อาวุโสกัว ท่านมิอาจกระทำเช่นนี้ได้! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้นะ…ทำไม่ได้! อย่าทำข้…!!”


 


เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนพยักหน้ายืนยันเป็นมั่นเหมาะ ทั้งกัวฉงเองก็เบนตามามองมันด้วยสายตาเฉยเมยไร้แยแส หน้ากู่ชุนก็ซีดลงไร้สีเลือด แววตาฉายชัดถึงความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง พยายามร่ำร้องออกมาไม่หยุด


 


อนิจจาคำข้าไม่ทันกล่าวจบเสียงมันก็ขาดหายไป…


 


นั่นเพราะกัวฉงยกมือขวาขึ้นอย่างไร้เรื่องราว พลังเซียนขุมหนึ่งผนึกควบแน่นในชั่วพริบตา มือสะบัดพลิกเบาๆ หากแต่บังเกิดพลังบดขยี้ไร้สภาพขุมหนึ่งป่นร่างกู่ชุนจนแหลกเป็นละอองโลหิต ไร้ชิ้นเนื้ออวัยวะอันใดหลงเหลือ…


 


‘ช่างเป็นการลงมือที่ร้ายกาจไร้ร่องรอยนัก…นี่น่ะหรือพลังอำนาจของขอบเขตเซียนสวรรค์’


 


เห็นฉากสังหารดังกล่าวลูกตาต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะหดหยีหลงด้วยความยำเกรง


 


สีหน้าเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬคนอื่นๆ ก็เผยความประหวั่นพรั่นพรึงออกมาไม่ต่าง สายตายามมองกัวฉงอีกครั้งยังกลายเป็นเลื่อมไสนับถือมากขึ้น


 


หลังจากสะสางปัญหาเรื่องราว รวมถึงจัดการศพของกู่หลงเรียบร้อย กัวฉงก็เหินร่างออกจากเขตที่พักของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬไปทันที เรียกว่าพริบตาก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ไปมาไร้ร่องรอยนัก


 


หลังจากที่กัวฉงจากไปแล้ว สายตาของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬก็เบนมาตกยังร่างต้วนหลิงเทียน


 


ตอนนี้พวกมันก็เหลือต้วนหลิงเทียนเป็นความสนใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


 


“ต้วนหลิงเทียนนั่น…ที่แท้กลับยังชำนาญเวทย์พลังร้ายกาจถึงสองชนิด! จะเวทย์พลังเสริมเคลื่อนไหวก็ดีหรือเวทย์พลังหนุนเสริมนั่นก็ยอด!”


 


“พรสวรรค์รากวิญญาณของมันเป็นเพียงรากวิญญาณสีเหลืองเท่านั้น หากแต่โชควาสนากลับดียิ่ง ไม่เพียงพบพานเวทย์พลังร้ายกาจมากมาย กระทั่งยังแตกฉานสำเร็จได้หมดจด…น่าอิจฉายิ่ง!”


 


“ระหว่างเดินทางผจญภัยมันต้องบังเอิญพบพานวาสนาปาฏิหาริย์มาเป็นแน่! โดยเฉพาะเวทย์พลังสายสนับสนุนนั่น กลับสามารถยกระดับพลังฝึกปรือให้เพิ่มพูนขึ้นถึง 2 ขั้นในชั่วระยะเวลาหนึ่ง…ข้ามั่นใจว่า 8 ใน 10 ส่วนสมควรเป็นเวทย์พลังระดับสูง!”


 


“ผู้ฝึกตนที่มีเพียงพรสวรรค์รากวิญญาณสีเหลือง กลับประสบความสำเร็จในการทำความเข้าใจรู้แจ้งเวทย์พลังระดับสูงถึงสองสาย…โชควาสนาเช่นนี้ นับว่าท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก!”


 


“ถึงแม้ดวงมันจักฝืนฟ้า แต่ความสำเร็จของตัวมันเองก็มิใช่ธรรมดา กลับตีความทำความเข้าใจเวทย์พลังได้สำเร็จ! อย่างน้อยๆไหวพริบปฏิภาณมันก็มิด้อยกว่าชนชั้นอัจฉริยะ…กระทั่งหากมองในเรื่องทำความเข้าใจนี้ น่ากลัวว่าจะมิได้ด้อยไปกว่าผู้ใดเลย!!”


 


“กลับมีความสามารถในการตีความเวทย์พลังสูงส่งถึงเพียงนี้…มิทราบว่าเวทย์พลังป้องกันชั้นสูงอย่างปราการเต่าทมิฬประจำแท่นบูชาเรา จะถูกมันเข้าใจได้หรือไม่?”


 


“เรื่องนั้นจะไปได้อย่างไร! อย่าได้ลืมไปว่าเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬของเรามิได้เป็นแค่เวทย์พลังสายป้องกันชั้นสูงธรรมดาๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันยังมีผู้ที่รู้แจ้งมันไม่ถึงสิบคน!!”


 


“เรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้จริงๆ”


 



 


เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬต่างพากันถกเรื่องเวทย์พลังที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออก ทั้งความสามารถในการเข้าใจ แน่นอนว่าส่วนมากจะพูดถึงเวทย์พลัง 2 ชนิดเท่านั้น


 


สำหรับเซียนอมตะข้ามภพนั้น เป็นเพราะต้วนหลิงเทียนเปิดใช้เขตแดนหมื่นกระบี่อยู่ ทุกคนจึงไม่อาจแลเห็นอานุภาพของมันได้


 


หาไม่แล้วพวกมันจะต้องประหลาดใจกันมากกว่านี้


 


อย่างไรก็ตามถึงแม้จะไม่ทันได้เห็นอานุภาพของเซียนอมตะข้ามภพ ทว่ามีหลายคนที่จำได้แม่น ว่าก่อนที่เรื่องราวจะจบสิ้นลง มีเสียงหวีดหวิวของกระบี่ดังขึ้น 3 สาย


 


“ข้าจำได้ว่าก่อนกู่หลงตายตก ข้าได้ยินเสียงแหวกอากาศของกระบี่ดังขึ้น 3 เสียง…กระทั่งหากมองมิผิดศพของกู่หลงเองก็มีหลุมโลหิตที่จุดตายถึง 3 จุด…นั่นสมควรเป็นรอบกระบี่!”


 


“สมควรเป็นวรยุทธ์เซียนสายกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนฝึกปรือไว้แน่…อย่างไรก็ตามมองจากวรยุทธ์เซียนสายป้องกันที่กู่หลงใช้ออก ท่าทางวรยุทธ์กระบี่ของต้วนหลิงเทียนก็มิใช่ต่ำทราม!”


 


“ไม่ต่ำทรามอันใด…ข้าว่าไม่เพียงไม่ใช่แค่ไม่ต่ำทราม ยังเป็นวรยุทธ์กระบี่อันเลิศล้ำชุดหนึ่ง!”


 


“ฮั้ย! น่าเสียดายยิ่งที่ต้วนหลิงเทียนกลับเปิดใช้เขตแดนบดบังสายตาพวกเราเช่นนี้ จึงอดเห็นฉากสังหารที่สำคัญที่สุดไป!”


 



 


ไม่ทันรู้ตัวเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬก็หันเหนความสนใจไปยัง กระบวนท่าสังหารที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกปลิดชีพกู่หลงกันหมด


 


ยิ่งพวกมันถกกันเท่าไหร่ก็คล้ายจะยิ่งสนุกสนานรึอย่างไรไม่ทราบ ที่แน่ๆพวกมันพากันจ้อไม่หยุด


 


เห็นดังนั้นต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ก่อนที่จะเหินร่างลงไปหมายกลับเข้าบ้านพักชั้น 3 เพื่อฝึกฝนต่อ…


 


อย่างไรก็ตามพอโรยตัวลงมาได้ครู่หนึ่ง มองไปที่ตั้งบ้านหลังเดิมที่เคยอยู่สายตาก็แลเห็นแต่ซากปรักหักพัง…มันถูกคลื่นกระบี่ของกู่หลงทำลายจนพินาศหมดสิ้นแล้ว…


 


ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมาอย่างช่วยไม่ได้อีกรอบ ก่อนที่จะเหินร่างไปยังบ้านพักชั้น 3 ที่ว่างอยู่ตรงเกาะลอยข้างๆ และเปิดเข้าไปใช้งานทันทีโดยไม่สนว่าจะมีใครอยู่หรือไม่…


 


หากมีปัญหาหรือข้องใจอะไร ก็มาท้าทายเขาได้!


 


ตราบใดที่เขาสู้แพ้ ผู้ท้าก็จะได้บ้านหลังนี้คืนไปเป็นธรรมดา…


 


เจ้าของบ้านพักชั้น 3 หลังนั้นก็ไม่ใช่คนอื่นไกล เป็นเหล่าศิษย์แท่นบูชามุงที่กำลังจ้อเรื่องกระบวนท่าสุดท้ายของต้วนหลิงเทียนอยู่พอดี พอมันเห็นต้วนหลิงเทียนยึดบ้านมันไปดื้อๆก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมา เพราะมันเองก็มีพลังฝึกปรือเพียงเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญเท่านั้น…


 


“จริงสิ…บ้านพักชั้น 3 ของกู่ชุนนั่นตอนนี้น่าจะว่างอยู่!”


 


ไม่นานมันก็นึกขึ้นได้ และหันไปมองบ้านพักชั้น 3 ของกู่ชุนทันที


 


หลังจากเข้ามาอาศัยบ้านพักชั้น 3 หลังใหม่ ต้วนหลิงเทียนก็จะการที่ทางเพื่อวางตั้งเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติทันที เมื่อวูบร่างเข้าเจดีย์ไปแล้ว ก็ขอแรงผู้เฒ่าหั่วให้ช่วยตรวจสอบสถานการณ์ด้านนอกเป็นพักๆ ก่อนที่จะขึ้นไปยังชั้น 4 ทันที


 


เขาอดไม่ได้ที่จะไปรีบบ่มเพาะพลังด้วยรากวิญญาณใหม่!


 


จากที่ผู้เฒ่าหั่วบอกตอนนี้รากวิญญาณของเขาไม่เพียงเป็นสีเขียวแล้วเท่านั้น ยังเป็นสีเขียวเข้มอีกด้วย!


 


‘ก่อนหน้านี้ข้าได้สัมผัสกับความไวรากวิญญาณยกระดับมาแล้วคร่าวๆ ความเร็วในการดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินนั้นมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่า! ด้วยความเร็วระดับนี้ ราวๆ 3 เดือนข้าสมควรทะลวงถึงเซียนมนุษย์ขั้นกลางได้แน่!’


 


แน่นอนว่าเวลาราวๆ 3 เดือนที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมานั้น หมายถึง 3 เดือนในชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7สมบัติ…


 


ด้านนอกก็เพียง 10 วันเท่านั้น!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)