War sovereign Soaring The Heavens 1892-1895

 ตอนที่ 1,892 : แท่นบูชาเต่าทมิฬ!


 


“ผู้เฒ่าเติ้ง ฆ่าพวกมันให้หมด!”


 


ได้ยินคำสั่งของนายน้อยสันดารเสีย สีหน้าท่าทีต้วนหลิงเทียนกับพวกทั้ง 3 กลายเป็นมืดดำลงทันใด ทั้งหมดไม่คิดเลยว่านายน้อยสันดารเสียผู้นี้จะจิตใจอำมหิตนัก เพียงข้อพิพาทเล็กๆเท่านี้กระทั่งมันยังไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆด้วยซ้ำ แต่กลับคิดฆ่าพวกเขาทั้งหมดแล้ว!


 


พอต้วนหลิงเทียนมองไปยังนายน้อยสันดารเสียอีกครั้ง ลูกตายังเผยประกายเรืองวูบขึ้นมา


 


ตอนนี้ปราณสุริยันแรกกำเนิดเริ่มโคจรหมุนวนทั่วร่าง! พร้อมเร่งเร้าขุมพลังมังกรและแปลงกายเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บได้ทุกเมื่อ!!


 


กระทั่งยังคิดใช้ออกด้วยกระบี่นิลสวรรค์แล้ว!


 


แน่นอนว่าถึงแม้จะมีพลังอำนาจของกระบี่นิลสวรรค์ เขาก็ยังไม่มั่นใจนักว่าจะจัดการชายชราที่สมควรอยู่ในขอบเขตเซียนนภาได้!


 


เพราะสุดท้ายแล้วกระบี่นิลสวรรค์ก็ใช้ปราณสุริยันแรกกำเนิดของเขาเป็นขุมพลังขับเคลื่อน การแปลงกายเป็นนังรบมังกรไม่ได้เพิ่มพูนพลังอำนาจของกระบี่นิลสวรรค์แต่อย่างใด…


 


อย่างมากเขาก็ทำได้แค่พึ่งพาปฐมเวทย์กลืนกินเท่านั้น!


 


‘หากอาศัยปฐมเวทย์กลินกิน ปราณสุริยันแรกกำเนิดในร่างสมควรเพิ่มพูนแตะขอบเขตเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญชั่วคราว หากไอ้แก่นี่เป็นแค่เซียนนภาขั้นต้น…ด้วยกระบี่นิลสวรรรค์ต้องฆ่ามันได้แน่!แต่ถ้ามันเป็นถึงเซียนนภาขั้นกลาง โอกาสที่จะฆ่ามันได้อย่างดีก็มีแค่ 3 ส่วนเท่านั้น…และหากมันเป็นเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญหรือเหนือกว่านั้น…คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฆ่ามัน!’


 


ชั่วพริบตานี้ในใจต้วนหลิงเทียนครุ่นคิดไตร่ตรองเรื่องราวไปมากมาย


 


‘แต่ไม่ว่าจะยังไง…เจ้านั่นมันต้องตาย!’


 


ต้วนหลิงเทียนกลอกตามองไปยังนายน้อยสันดารเสียอีกครั้ง ในแววตาเผยรังสีสังหารอำมหิตวูบวาบ


 


ถึงแม้ไม่รู้ว่ายามชายชรานั่นลงมือเข่นฆ่าเข้ามา แล้วเขาจะฆ่ามันด้วยกระบี่นิลสวรรค์ได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยๆเขามั่นใจว่าต้องลงมือต่อนายน้อยนั่นสำเร็จ! กระทั่งอาจจะใช้มันเป็นยันต์กันตายให้พวกเขา!!


 


จังหวะนี้ในใจต้วนหลิงเทียนเริ่มปรากฏความคิดอำมหิตขึ้นมาบ้างแล้ว


 


“นายน้อย…ยามนี้พวกเราอยู่ใกล้แท่นบูชาจตุรลักษณ์ของลัทธิบูชาไฟ…”


 


เผชิญหน้ากับคำสั่งของนายน้อยสันดารเสีย ชายชราขมวดคิ้วยู่ย่นเล็กน้อยหากแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือเคลื่อนไหวใดๆ เพียงเลือกที่จะส่งเสียงกล่าวถึงหูอีกฝ่าย


 


ในฐานะตัวตนขอบเขตเซียนนภาคนหนึ่ง สายตาของมันย่อมคมกล้ามิใช่ชั่ว สามารถแลเห็นคนของแท่นบูชาจตุรลักษณ์ไกลตา ที่คล้ายกำลังเคลื่อนไหวมาระงับเหตุทะเลาะวิวาทตรงนี้ด้วยความเร็วสูง!


 


แท่นบูชาจตุรลักษณ์ ลัทธิบูชาไฟ!


 


ได้ยินเสียงกล่าวเตือนของชายชรา ความหวาดกลัวยำเกรงเผยให้เห็นในแววตาของนายน้อยสันดารเสียทันที พักหนึ่งมันค่อยหันมาว่ายตามองต้วนหลิงเทียนกับพวกด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง กล่าวเสียดสีออกเสียงดัง “เฮอะ! นับว่าพวกตัวบ้านนอกเจ้าโชคดีไป!หากที่นี่มิใช่หน้าเขตแท่นบูชาจตุรลักษณ์ วันนี้พวกเจ้าได้ตายแน่!!”


 


“อ้อ! นอกจากนี้ข้าจะกล่าวเตือนให้พวกบ้านนอกเจ้าสักครา ไสหัวกลับไป! ล้มเลิกความคิดเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟไปเสีย…หาไม่แล้วข้า ‘หยางหวู่’ จักละเล่นกับพวกเจ้าจนพวกเจ้าร่ำร้องขอความตาย!”


 


หลังทิ้งวาจาขู่ข่มอำมหิตไว้แล้ว นายน้อยสันดารเสียที่เรียกหาตัวเองว่าหยางหวู่ กับชายชราที่ยืนคุ้มกันมันดั่งเขาตระหง่านก็พากันเหินร่างข้ามเขาเบื้องหน้า เข้าสู่พื้นที่แท่นบูชาจตุรลักษณ์


 


ขณะเดียวกันด้านต้วนหลิงเทียนก ลี่ และจูลู่ฉี ก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ด้วยรอดพ้นเภทภัยแล้ว…


 


หากแต่ใบหน้าเผยความยินดีที่รอดตายของกู่ลี่กลับคงอยู่แค่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่มันจะหันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงจริงจัง “น้องหลิงเทียน…เจ้าคิดว่าข้าควรกลับไปอยู่ที่ภูมิภาคเบื้องล่างหรือไม่?”


 


“หืม?”


 


ต้วนหลิงเทียนพอได้ยิน ก็ละสายตาคมกล้าจากแผ่นหลังหยางหวู่และชายชรา หันมามองกู่ลี่พร้อมโค้งคิ้วกล่าวถามด้วยสงสัยทันที “ไฉนพี่กู่กล่าวเช่นนั้นเล่า?”


 


“ตอนแรกข้าหลงคิดไปว่าพรสวรรค์ของข้านับว่าไม่ใช่ชั่วแล้ว…ทว่าหลังจากพวกเราขึ้นมาถึงภูมิภาคเบื้องบน ไม่ทันไรพวกเราก็ถูกผู้คนจับตัวบังคับราวข้าทาส มาตอนนี้กระทั่งนายน้อยสันดารเสียไม่เอาถ่านคนหนึ่ง…กลับมีพลังฝีมือเหนือล้ำกว่าข้า! หรือข้าสมควรกลับไปยังภูมิภาคเบื้องล่างแล้วรับตำแหน่งจ้าวตำหนักฟ้าลี้ลับแทนดี…?”


 


กู่ลี่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม มันรู้สึกว่าภูมิภาคเบื้องบนช่างเต็มไปด้วยภยันตรายรอบด้านนัก


 


“พี่กู่ เจ้าหยางหวู่นั่นมันกล้าทำตัวยโสโอหังแม้จะเป็นด้านหน้าแท่นบูชาจตุรลักษณ์แบบนี้ มันสมควรมีดีไม่น้อย…ข้าเกรงว่าตระกูลที่อยู่เบื้องหลังของมันจะไม่ใช่ชนชั้นธรรมดา! เช่นนั้นท่านก็อย่าได้คิดเอาตัวไปเปรียบเทียบกับมันแล้ว! ทรัพยากรบ่มเพาะที่มันได้รับสมควรเหนือล้ำกว่าท่านอย่างเทียบกันไม่ติด ยิ่งไปกว่านั้นท่านเองก็น่าจะรู้ ว่าจริงมันเองก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหนือท่านมากมายอะไรขนาดนั้น…”


 


ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ค่อยกล่าวปลอบ


 


“เฮ่สหาย! น้องชายผู้นี้กล่าวถูกแล้ว หยางหวู่นั่นมันเป็นถึงบุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับที่ 5 แห่งวังอุดรไพศาล อันเป็นขุมพลังชั้น 1 ของภูมิภาคตะวันตกแห่งนี้! มันนับว่าคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดโดยแท้ ยากที่คนธรรมดาไร้ภูมิหลังยิ่งใหญ่จะทัดเทียมกับมันได้”


 


ตอนนี้เองในกลุ่มคนที่ชมดูเรื่องราวอยู่ห่างๆ พลันมีผู้หวังดีกล่าวแทรกขึ้นมา


 


“มิผิด และหากข้าเป็นพวกเจ้า ข้าจะยอมแพ้เรื่องเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟรอบนี้ไปเสีย…อย่างที่เจ้าหยางหวู่นั่นมันกล่าวเอาไว้ ไม่เพียงแต่พอมันเข้าไปในลัทธิบูชาไฟได้จะมีชนชั้นอาวุโสคอยคุ้มครอง กระทั่งศิษย์มือดีในนิกายที่เห็นว่าเป็นพี่ชายของมัน ยังได้เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟในฐานะศิษย์ที่โดดเด่นแล้ว! นั่นหมายความว่าพี่ชายคนนี้ของมันยังสมควรมีพลังฝีมือสูงกว่าชายชราที่คุ้มกันมันเมื่อครู่เสียอีก…”


 


ไม่นานก็มีผู้หวังดีคนอื่นกล่าวบอกพวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ออกมา


 


“แล้วที่สำคัญที่พวกเจ้าหืรอกันก่อนหน้าพวกเจ้าคงต้องผิดหวังแล้วล่ะ…เพราะมิใช่ว่าพวกเจ้าจะเลือกเข้าร่วมกับแท่นบูชาอันใดก็ได้! พวกเจ้าอาจจะถูกจับแยกและถูกส่งไปเข้าร่วมแท่นบูชาตามแต่อาวุโสจะจัดให้ บางทีหากพวกเจ้าทั้ง 3 มีโชคอาจถูกส่งไปอยู่แท่นบูชาเดียวกัน แต่ถ้าไร้โชคพวกเจ้าทั้ง 3 อาจจะอยู่กันคนละแท่นบูชาก็เป็นได้!”


 


พอได้ยินวาจาชี้แนะประโยคนี้ ในที่สุดพวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ก็เข้าใจแล้ว ว่าไฉนอยู่ๆหยางหวู่ถึงมาเรียกหาพวกเขาว่าตัวบ้านนอก…


 


อย่างไรก็ตามในเมื่อเรื่องราวมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เรื่องนั้นก็ไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป…


 


ครู่ต่อมาพื้นที่ตรงนี้ก็เหลือแต่พวกต้วนหลิงเทียนเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆต่างก็ทยอยกันเหินร่างข้ามเขาไปหมดแล้ว


 


มองออกไปไกลตา คนของแท่นบูชาจตุรลักษณ์ที่คล้ายจะมุ่งหน้ามาตรงนี้ก่อนหน้า ทั้งหมดก็ได้ย้อนกลับไปเรียบร้อยแล้ว ท่าทางพวกมันจะทราบว่าที่นี่ไร้เรื่องราวใดๆให้จัดการอีกต่อไป…


 


“ที่แท้มันเป็นลูกคนใหญ่คนโตของขุมพลังชั้น 1 บนนี้นี่เอง…ไม่คิดเลยว่าข้าจะสงสัยตัวเองเพราะนายน้อยสันดารเสียพรรค์นี้ได้ ให้ตายเถอะน่าสมเพชชะมัด…”


 


กู่ลี่หัวเราะพร้อมกล่าวถล่มตัวเองออกมา หากทว่าตอนนี้แววตาของมันกลับมาทอประกายคมกล้าอีกครั้ง!


 


ตราบใดที่มันเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟได้ มันมั่นใจว่าจะก้าวข้ามหยางหวู่กระทั่งเป็นฝ่ายย่ำเหยียบหยางหวู่ได้ในเวลาอันสั้น!


 


เพราะสุดท้ายแล้วหยางหวู่ก็เสมือนเกิดมาพร้อมกองเงินกองทอง ด่านพลังฝึกปรือก็เหนือกว่ามันแค่ไม่เท่าไหร่! ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันและมีทรัพยากรเท่าเทียมมันไม่แพ้แน่!!


 


“น้องหลิงเทียนจ้าววังจู…ไป! พวกเราไปแท่นบูชาจตุรลักษณ์กันเถอะ!!”


 


หลังจากนั้นกู่ลี่ก็เร่งชักชวนต้วนหลิงเทียนและจูลู่ฉี ก่อนที่จะเหินร่างทะยานนำขึ้นเขาไปก่อนใครอย่างคึกคักราวถูกฉีดเลือดไก่…


 


ตอนนี้ใจกู่ลี่เพียงมุ่งหวังเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟให้ได้โดยไว กระเหี้ยนกระหือรืออยากได้ทรัพยากรบ่มเพาะของลัทธิบูชาไฟมาใช้ เพื่อเพิ่มพูนพลังฝึกปรือให้เร็วที่สุด!


 


เช่นนั้นแล้วมันถึงจะสามารถไล่ตามหยางหวู่กระทั่งก้าวข้ามอีกฝ่ายได้!


 


ตอนนี้การไล่ตามหยางหวู่ให้ทันและก้าวข้ามอีกฝ่ายไปให้ได้ คือเป้าหมายแรกของมันหลังฮึดสู้!


 


กู่ลี่คิดอ่านอะไร แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมเข้าใจดี


 


อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะเหินร่างตามกู่ลี่ไป เขาพลันหันไปมองกล่าวกับจูลู่ฉีก่อนว่า “จ้าววังจู…การมาลัทธิบูชาไฟครั้งนี้กลับมีอันตรายมากกว่าที่คาดไว้ หรือว่าท่าน…”


 


“ทำไม? หรือพวกเจ้าคนหนุ่มคิดว่าสหายชราเช่นข้าจะขลาดกลัวเรื่องราวพรรค์นี้?”


 


จูลู่ฉีกล่าวขัดตัดบทต้วนหลิงเทียนออกมา ด้วยรู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนคิดจะบอกอะไร…ไม่พ้นคิดแนะนำให้มันล่าถอยจากไป หลังกล่าวเตือนถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นเมื่อเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟ…


 


และทันทีที่กล่าวจบคำ จูลู่ฉีก็ไม่รอฟังคำตอบอะไรต้วนหลิงเทียน เพียงเหินร่างตามกู่ลี่ไปทันที


 


ต้วนหลิงเทียนได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ ก่อนที่จะไล่ตามทั้งคู่ไปติดๆ


 


“ที่นี่คือ แท่นบูชาเต่าทมิฬของแท่นบูชาจตุรลักษณ์งั้นหรือ?”


 


เมื่อข้ามผ่านเขาลูกใหญ่มาแล้ว สิ่งแรกที่เข้าสู่สายตาของต้วนหลิงเทียนก็คือ อาคารปลูกสร้างใหญ่โต…


 


และเมือมองไปยังด้านบนของอาคารปลูกสร้างเหล่านี้ ก็ล้วนมีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมาทุกหลัง


 


อีกทั้งเปลวเพลิงเหล่านี้ยังถูกจัดเรียงเอาไว้เป็นพิเศษ มองไปกลับเป็นรูปร่างของเต่าทมิฬ!


 


แท่นบูชาจตุรลักษณ์ของลัทธิบูชาไฟนั้นจะทำการคัดเลือกศิษย์ทุกๆ 3 ปี…และคราวนี้ก็ถึงรอบของแท่นบูชาเต่าทมิฬเป็นเจ้าภาพจัดงานประเมินคัดเลือกศิษย์


 


แน่นอนว่าเป็นเพียงเจ้าภาพผู้จัดงานเท่านั้น…


 


เพราะทุกฝ่ายก็มาเข้าร่วมในงานนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแท่นบูชาหงส์เพลิง แท่นบูชาพยัคฆ์ขาวและแท่นบูชามังกรครามต่างส่งคนมาทำการประเมินเหล่าศิษย์ร่วมกับแท่นบูชาเต่าทมิฬเช่นกัน


 


เมื่อพวกมันต้องตาพึงใจผู้เข้าร่วมทดสอบคนใดพวกมันก็จะชักชวนไปยังแท่นบูชาของพวกมัน!ตราบใดที่คนผู้นั้นผ่านบททดสอบและตอบรับ ก็จะกลายเป็นศิษย์ในแท่นบูชาของพวกมันทันที!!


 


หาไม่แล้วก็ต้องถูกกำจัดออก!


 


ด้วยเหตุนี้ทุกผู้คนจึงมารวมตัวกันที่แท่นบูชาเต่าทมิฬ…


 


“คนเยอะจริงๆ…”


 


หลังจากที่พวกต้วนหลิงเทียนมาถึงแท่นบูชาเต่าทมิฬแล้ว สิ่งแรกที่แลเห็นเลยก็คือทะเลผู้คน! ต้วนหลิงเทียนว่ายตานับคร่าวๆก็เห็นทีจะมีไม่ต่ำกว่าพันคน!!


 


ท่ามกลางผู้คนนับพัน กลุ่มของพวกเขาก็แลดูธรรมดาๆลงไปถนัดตา


 


อย่างไรก็ตามแม้จะแลดูธรรมดาๆ แต่ก็มีบางคนสังเกตเห็นพวกเขา


 


“จึกๆๆ…ดูเหมือนพวกตัวบ้านนอกเจ้าจะไม่ย้อมแพ้จนกว่าจะสูญสิ้นความหวังทั้งหมดงั้นสินะ? แต่ที่จริงข้าหวังว่าพวกเจ้าจะพยายามให้มากเข้าจนผ่านการประเมินของแท่นบูชาจตุรลักษณ์ได้สำเร็จ…”


 


“คราวนี้พวกเจ้าก็ไม่ขาดคุณสมบัติเป็นหินรองเท้าของข้านายน้อย! และนายน้อยผู้นี้จะค่อยๆละเล่นกับพวกเจ้าให้สาสมใจ ค่อยๆละเมียดละไมฆ่าพวกเจ้าให้ตายอย่างช้าๆ!!”


 


ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่หยางหวู่พร้อมชายชราได้มาปรากฏตัวเบื้องหน้าสายตาพวกต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง


 


วาจาที่มันพ่นกล่าวออกยังคงหยิ่งยะโสและถือดีเช่นเคย


 


และยามมันกล่าวถึงท้ายประโยค แววตามันยังเผยรังสีอำมหิต! เต็มไปด้วยจิตฆ่าฟันปานจะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คน!!


 


หน้ากู่ลี่จมลงทันใด


 


แววตาจูลู่ฉีก็เผยประกายเยียบเย็น


 


“คนบ้า!”


 


ต้วนหลิงเทียนเพียงเหลือบมองหยางหวู่ด้วยสายตาเฉยเมย ค่อยๆกล่าวออกอย่างไม่รีบไม่ร้อน


 


วาจายังเสียงดังฟังชัดไม่คิดไว้หน้าผู้คน!


 


ได้ยินคำ ‘คนบ้า’ ของต้วนหลิงเทียน ไม่ว่าจะกู่ลี่หรือจูลู่ฉีก็รู้สึกลมหายใจขาดห้วงโดยพลัน คิ้วยังขมวดเป็นปม ใจกังวลถึงความปลอดภัยต้วนหลิงเทียนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้


 


ทันใดนั้นทั้ง 2 ก็ขยับร่างไปยืนใกล้ๆต้วนหลิงเทียน และมองไปยังชายชราด้านหลังหยางหวู่ด้วยสายตาน่ากลัว


 


แน่นอนว่าทันทีที่คำกล่าวต้วนหลิงเทียนดังขึ้น สีหน้าชายชราก็ลดลงเล็กน้อย แววตายังเผยประกายแหลมคมออกมา


 


“เจ้า…เจ้ากล้าเรียกข้าว่า คนบ้างั้นเหรอ?”


 


ตอนนี้เองหยางหวู่ที่ถูกต้วนหลิงเทียนเรียกหาว่า ‘คนบ้า’ จนตะลึง ในที่สุดก็คืนสติ มันหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาทำราวกับเห็นผี!


 


ตั้งแต่มันเกิดมา นับว่านี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่มีคนเรียกมันว่า ‘คนบ้า’ ต่อหน้าต่อตามันแบบนี้!


 


“เจ้า…เจ้ามันวอนตาย!”


 


หลังจากตะลึง โทสะหยางหวู่ก็เริ่มพุ่งปรี๊ด มองต้วนหลิงเทียนตาขวาง รังสีสังหารยังแทบจะยิงพุ่งออกจากลูกตาทิ่มใส่ต้วนหลิงเทียน! ทั่วร่างของมันเริ่มปรากฏสนามพลังปะทุออกครืนๆ บังเกิดเป็นคลื่นลมพัดไปกระทบต้วนหลิงเทียนเบาๆ!!


 


ชายชราที่อยู่ด้านหลังหยางหวู่ ก็มองจี้ไปยังกู่ลี่และจูลู่ฉีเขม็ง กลิ่นอายพลังยังเพ่งเล็งจี้ไปที่ทั้งคู่ไม่วาง หมายจำกัดการเคลื่อนไหว ไม่ให้ลงมือ


 


สำหรับต้วนหลิงเทียนนั้น ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตาหรือกลิ่นอายพลังชีวิตยังนับว่าเยาว์วัยนัก! มันจึงไม่คิดว่าเด็กน้อยพรรค์นี้จะเป็นคู่มือนายน้อยของมันได้…


 


ด้านต้วนหลิงเทียนเมื่อสัมผัสได้ถึงการเร่งเร้าพลังทั้งจิตมุ่งร้ายจากหยางหวู่ที่จดจ้องมาที่เขาคล้ายกำลังจะลงมือ มุมปากเขาพลันแสยะยิ้มเย็นเยือกออกมาบางๆ


 


“บังอาจ!”


 


ทว่าทันใดนั้นเองพลันมีเสียงสนั่นปานอัสนีลั่นกึกก้องไปทั่วแท่นบูชาเต่าทมิฬ พาลให้ฉากเรื่องราวสงบลงชั่วคราว


 


พร้อมกันนั้น พลันมีพลังน่ากลัวขุมหนึ่งอุบัติขึ้นในความว่างระหว่างต้วนหลิงเทียนกับหยางหวู่! ทั้งยังปะทุระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน!!


ตอนที่ 1,893 : อาวุโสเพลิงเงิน!


 


ปงงง!!


 


มวลพลังที่อยู่ๆก็อุบัติขึ้นระหว่างต้วนหลิงเทียนและหยางหวู่นั้นน่ากลัวนัก หากทว่ากลับอ่อนโยนมากเช่นกัน อย่างน้อยก็อ่อนโยนต่อต้วนหลิงเทียนที่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษ!


 


เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนแม้จะตกใจ แต่ด้วยความที่ไม่ได้เร่งเร้าพลังต่อสู้อะไรแต่แรก ร่างเขาก็เพียงถูกพลังอ่อนโยนดังกล่าวหอบจนตัวปลิวไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น…


 


ส่วนหยางหวู่นั้น ด้วยอารามบันดาลโทสะ ทั้งปะทุพลังลงมือเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราดพอดี ร่างมันจึงพุ่งสวนกระแทกกับมวลพลังปะทุเข้าอย่างจัง! ทำให้ถูกพลังสะท้อนจากการระเบิดปะทุแรงเป็นพิเศษ คนกระเด็นปลิดปลิวออกไปไกลไม่น้อย…!!


 


“อั๊ค!!”


 


อวัยวะภายในของมันยังถูกพลังสะท้อนดังกล่าวทำร้ายไม่น้อย เลือดลมปั่นป่วนกระทั่งตีกลับกระอักออกปาก!


 


เลือดสีแดงฉานกระอักพ่นออกมาเป็นสาย แพร่กระจายไปในอากาศ มองไปดั่งกุหลาบแดงคล้ำเจียนดำกำลังเบ่งบานพร่างพราวก็ไม่ปาน


 


“นายน้อย!!”


 


ชายชราซึ่งแต่เดิมยืนอยู่ด้านหลังหยางหวู่ ตอนนี้มันไม่ได้จับจ้องมองไปยังร่างกู่ลี่และจูลู่ฉีอีกต่อไป เร่งเหินร่างออกไปฉับไวประคองรับหยางหวู่เอาไว้ไม่ให้ร่วงกระแทกพื้นบาดเจ็บหนัก!


 


ฟุ่บ!


 


ทันใดนั้นเองภายใต้สายตาของหลายๆคน พลันปรากฏร่างชราสูงใหญ่คนหนึ่งขึ้นไม่ไกล


 


เป็นชายชราที่มาในชุดคลุมผ้าแพรปักลาย ลายที่ปักมองไปคล้ายจะเป็นเปลวเพลิงที่ก่อร่างเป็นเต่าทมิฬ! ด้วยชุดเครื่องแต่งกายแลดูภูมิฐานกอปรทั้งร่างกายที่สูงใหญ่ของมัน ยามมองกลับให้ความรู้สึกเสมือนหอคอยแกร่ง ตั้งตระหง่านท่ามกลางฟ้าดิน!


 


“โอ! เป็นอาวุโสระดับเพลิงเงิน!”


 


ทันใดนั้นเองแว่วเสียงสูดลมหายใจเข้าดังขึ้นไปทั่ว เสียงกล่าวกระซิบยังปะทุดังขึ้นระงม


 


เสื้อคลุมผ้าแพรสีขาวปักลายของชายชราผู้นี้นับว่าแลดูหรูหราทั้งงดงามนัก! และด้วยความที่เปลวเพลิงรูปเต่าทมิฬของมันปักด้วยด้ายสีเงินวาวประกาย ทำให้แลดูโดดเด่นเป็นพิเศษ!


 


และนี่คือเอกลักษณ์เฉพาะของ อาวุโสเพลิงเงิน!


 


ในลัทธิบูชาไฟนั้น ผู้อาวุโสจะถูกแบ่งออกเป็น 3ระดับ อันได้แก่ อาวุโสเพลิงทองแดง  อาวุโสเพลิงเงิน และอาวุโสเพลิงทอง!


 


ทั้ง 3 ระดับนั้น อาวุโสเพลิงทองนับว่ามีระดับสูงสุด และเป็นชนชั้นผู้ออกคำสั่งของลัทธิบูชาไฟ!


 


แท่นบูชาเต่าทมิฬนั้นมีอาวุโสเพลิงทองเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนผู้นั้นก็คือจ้าวแท่น! จากจุดนี้บ่งบอกให้รู้ว่าอาวุโสเพลิงทองมีฐานะสูงขนาดไหนและมีความสำคัญกับลัทธิบูชาไฟอย่างไร!!


 


รองลงมาจากอาวุโสระดับเพลิงทองก็จะเป็นอาวุโสเพลิงเงิน


 


ในแท่นบูชาเต่าทมิฬนั้น มีอาวุโสเพลิงเงินรวมทั้งสิ้น 5 คน ทั้งหมดยังนับเป็นชนชั้นยอดฝีมือที่ด่านพลังฝึกปรือบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์แล้วทั้งสิ้น กระทั่งยังเป็นยอดฝีมือที่ติดอยู่ใน 300 อันดับแรกของรายนามยอดเซียน!


 


ในลัทธิบูชาไฟแห่งนี้ หากผู้ใดคิดยกระดับเป็นอาวุโสเพลิงเงิน ก็มีเงื่อนไขเพียงสองประการเท่านั้น


 


ก่อนอื่นเลยก็คือ จำต้องมีความจงรักภักดีต่อลัทธิบูชาไฟ!


 


ประการที่สองก็คือจำต้องเป็นยอดฝีมือที่ติด 300อันดับแรกในรายนามยอดเซียน!!


 


เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดก็คือข้อสอง!!


 


เรื่องนี้เผยให้เห็นว่าอาวุโสเพลิงเงินมีพลังฝีมือกล้าแข็งปานใด


 


“จากรูปร่างของอาวุโสเพลิงเงินที่สูงใหญ่ทั้งกำยำผู้นี้…หากข้าจดจำมิผิดพลาด อาวุโสท่านนี้สมควรเป็นอาวุโส เถิงชาน แห่งแท่นบูชาเต่าทมิฬ!!”


 


ชายวัยกลางคนที่แต่งกายคล้ายบัณฑิตคงแก่เรียนผู้หนึ่งกล่าวออก


 


อาวุโสเถิงชาน!


 


ทันใดนั้นหลายคนอดไม่ได้ที่จะกล่าวกระซิบกระซาบออกมาว่า “อาวุโสเถิงชานหรือ…ยอดฝีมือลำดับที่ 173 ในรายนามยอดเซียนผู้นั้น! ในบรรดา 5 อาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬ พลังฝีมือนับว่าอยู่ในลำดับที่ 3!!”


 


“ข้าไม่คิดฝันเลยว่าอาวุโสเถิงชานจะถึงกับลงมือด้วยตัวเอง…คราวนี้เจ้าบ้า 2 คนนั่นซวยแน่!”


 


“อารมณ์ของอาวุโสเถิงชานร้อนทั้งนิสัยเด็ดขาดเพียงใดยังมีใครไม่รู้…เจ้าบ้า 2 ตัวนั่นมันกล้าตีกันในแท่นบูชาเต่าทมิฬ นับว่าหาเรื่องตายแท้ๆ!!”


 



 


ขณะที่ผู้คนกล่าวซุบซิบกัน ทั้งหลายก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนและหยางหวู่ด้วยสายตาเวทนา


 


“หืม? ช้าก่อน! พวกเจ้าดูเจ้าหนุ่มชุดสำอางค์นั่นให้ดีๆ…นั่นมิใช่ลูกชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาลรึไง?”


 


ไม่นานก็มีคนจดจำหยางหวู่ได้


 


บุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล!


 


ทันใดนั้นสายตาของใครหลายๆคนก็หันไปจับจ้องมองพินิจร่างหยางหวู่ทันที บางคนที่เคยเห็นหยางหวู่ออกงานมาก่อนก็จดจำได้ทันที “มิผิด เป็นมันจริงๆ! หยางหวู่ บุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล!!”


 


“ข้าได้ยินมาว่าอาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาล หยางชง เป็นสหายอันดีกับ อาวุโสหลี่อัน…อาวุโสเพลิงเงินลำดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬที่มีพลังฝีมือเหนือกว่าอาวุโสเถิงชานเสียอีก! ไอ้หยา! ดูเหมือนว่าวันนี้เจ้านั่นที่คิดต่อยตีกับหยางหวู่จะถึงคราวชะตาขาดแล้วจริงๆ!!”


 


หลายคนเริ่มหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเวทนาสงสาร


 


ต้วนหลิงเทียนเองพอได้ยินเสียงกระซิบรอบๆ คิ้วก็อดไม่ได้ที่จะขมวดยู่ย่นเป็นปม!


 


สีหน้ากู่ลี่กับจูลู่ฉีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง


 


ในสายตาของพวกมัน อาวุโสระดับเพลิงเงินนามเถิงชานผู้นี้ ไม่พ้นต้องเข้าข้างอาวุโสหลี่อันเป็นแน่!


 


กอปรกับความจริงที่ว่าอาวุโสหลี่อันเป็นสหายอันดีของบิดาหยางหวู่ เช่นนั้นแล้วไม่พ้นเถิงชานต้องไว้หน้าอาวุโสหลี่อันอยู่หลายส่วน และคิดถือหางเข้าข้างหยางหวู่ทำร้ายต้วนหลิงเทียนแน่นอน!


 


“กลับกล้าริเริ่มทะเลาะวิวาทในเขตแท่นบูชาเต่าทมิฬ เจ้านับว่ากล้าหาญชาญชัยนัก!”


 


แต่ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเถิงชาน อาวุโสเพลิงเงินคนนี้จะเข้าข้างหยางหวู่เพราะเห็นแก่หน้าอาวุโสหลี่อัน อาวุโสเถิงชานกลับหันไปกล่าวตำหนิหยางหวู่ต่อหน้าต่อตาทุกคนในแท่นบูชาเต่าทมิฬ!!


 


นอกจากคำกล่าวตำหนิเสียงดังแล้ว ในน้ำเสียงยังแฝงเร้นไปด้วยพลังกดดันอันน่าเกรงขามขุมหนึ่ง!มวลพลังดังกล่าวถล่มกระแทกร่างหยางหวู่อย่างแรงอีกครั้ง! พาลให้หยางหวู่จำต้องกระอักโลหิตออกมาอีกครา หน้ายังซีดลงปานกระดาษ!!


 


ทันใดนั้นแววตาของหยางหวู่อดไม่ได้ที่จะเผยความตื่นตระหนกออกมา


 


เถิงชานผู้นี้กลับไม่ไว้หน้าอาวุโสหลี่อันเลยหรือ?


 


หรืออีกฝ่ายไม่ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบจากผู้คนโดยรอบกันแน่ ถึงไม่รู้จักตัวตนของมัน?


 


โอ! อา!


 


ในขณะเดียวกัน ทางด้านผู้คนที่ชมเรื่องราวอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะสับสน


 


ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครคิดใครฝันมาก่อนเลยว่า…อาวุโสเถิงชานจะลงมือกับหยางหวู่! เพราะนี่นับเป็นเรื่องราวที่อยู่เหนือความคาดหมายนัก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกัน อาวุโสเถิงชานไฉนลงมือทำร้ายหยางหวู่เล่า หรือมิรู้ความเป็นมาของหยางหวู่?”


 


“อาวุโสเถิงชานสมควรไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเราแน่แท้ จึงไม่รู้ว่าหยางหวู่เป็นผู้ใด หาไม่แล้วถึงแม้จะไม่รู้จักหยางหวู่จริงๆ…แต่ก็ยังต้องไว้หน้าอาวุโสหลี่อันที่เป็นสหายอันดีกับบิดาหยางหวู่อยู่บ้าง”


 



 


ผู้คนกระซิบกระซาบกันพักหนึ่งก็เห็นพ้องต้องกันว่าสมควรเป็นเช่นนี้


 


ต้วนหลิงเทียน กู่ลี่ และจูลู่ฉีก็เข้าใจตามนั้น


 


“เรียนอาวุโสเถิงชาน! นี่คือนายน้อยของข้า ‘หยางหวู่’ นายน้อยยังเป็นบุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล!”


 


ชายชราที่ติดตามมาคุ้มกันหยางหวู่ย่อมคิดเหมือนกันกับทุกคน ว่าเถิงชานไม่ทันได้ยินฐานะหยางหวู่ จึงเร่งกล่าวเตือนออกไปทันที


 


“อาวุโสหลี่อันแห่งแท่นบูชาเต่าทมิฬของท่าน ก็นับเป็นสหายอันดีกับอาวุโสลำดับ 5 ของพวกเรา…ข้าแน่ใจว่าเรื่องนี้ท่านเองก็สมควรเคยได้ยินมาบ้างแล้วกระมัง…อาวุโสเถิงชาน”


 


กล่าวถึงจุดนี้น้ำเสียงชายชรายังเน้นหนักขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยกลัวว่าเถิงชานจะยังไม่ล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาวุโสลำดับที่ 5 ของมันกับหลี่อัน อาวุโสเพลิงเงินลำดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ


 


“แล้วจะอย่างไร?”


 


อย่างไรก็ตาม นับว่าทำให้ผู้คนประหลาดใจกันยกใหญ่อีกครั้ง! เพราะสีหน้าของอาวุโสเถิงชานกลับไม่แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อยถึงจะเผชิญหน้ากับคำกล่าวย้ำเตือนของชายชรา! ยังหันไปมองกล่าวด้วยทีท่าเฉยเมยอีกว่า “กฏของแท่นบูชาเต่าทมิฬล้วนมีผลบังคับใช้กับทุกผู้คน! มิว่าเจ้าจะเป็นใครมาจากที่ใด…กระทั่งต่อให้เป็นบุตรของสหายสนิทอาวุโสหลี่อันหากกล้าฝ่าฝืนกฏของแท่นบูชาเต่าทมิฬ ข้าก็ไม่คิดปราณีละเว้น!”


 


ความซื่อตรงไม่โอนอ่อนของเถิงชาน พาลให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะตกใจ!


 


“อาวุโสเถิงชานผู้นี้ ดูเหมือนจะเป็นคนดี…”


 


กู่ลี่กล่าวออกเสียงเบา ใจที่ขึงตึงพอได้ผ่อนคลายลงบ้าง


 


จูลีฉีพยักหน้าเห็นด้วย


 


ต้วนหลิงเทียนที่มองไปยังร่างเถิงชาน ในแววตาไม่เหลือความหวาดระวังอีกต่อไป หากแต่เผยความชื่นชมออกมาแทน


 


ไม่ต้องอะไรให้มาก อาศัยแค่ความเที่ยงธรรมตัดสินเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมานี้ของอาวุโสเถิงชาน ก็มากพอจะได้รับความเคารพจากเขาแล้ว


 


“อาวุโสเถิงชานกล่าวได้ถูกต้อง!”


 


ตอนนี้เองพลันมีเสียงชราอีกหนึ่งเสียงดังขึ้น!


 


ภายใต้สายตาสนใจใคร่รู้ของทุกผู้คน พลันปรากฏร่างชราหนึ่งขึ้นมาอีกคน


 


ชายชราผู้นี้สวมใส่ชุดคลุมรูปแบบเดียวกันกับอาวุโสเถิงชาน…มันเป็นอาวุโสเพลิงเงินเช่นกัน!


 


“ท่านลุงหลี่อัน!”


 


ลูกตาของหยางหวู่ถึงกับทอประกายวาวโรจน์ขึ้นมาโดยพลัน ยังร่ำร้องทักชายชราออกมาเสียงดังด้วยความดีใจ


 


ทันใดนั้นทุกคนที่ได้ยินก็ตระหนักได้โดยพลัน!


 


อาวุโสเพลิงเงินผู้มาใหม่คนนี้ ที่แท้ก็คืออาวุโสเพลิงเงิน หลี่อัน!


 


แถมหลี่อันผู้นี้ ยังเป็นอาวุโสเพลิงเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในแท่นบูชาเต่าทมิฬ!


 


หลี่อันผู้มาหใม่ยังมีสีหน้าสงบ ไม่อาจแลเห็นโทสะหรือความไม่พอใจอันใดบนใบหน้าของมันได้เลย และแม้จะได้ยินคำร้องทักจากหยางหวู่ มันก็ทำเพียงหันไปพยักหน้าตอบรับอย่างเฉยชาเท่านั้น หลังจากนั้นมันก็ไม่ได้สนใจอะไรหยางหวู่อีก…


 


เห็นฉากดังกล่าวหยางหวู่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว


 


ในอดีตท่านลุงหลี่อัน…หาได้เคยเย็นชากับมันเช่นนี้ไม่!


 


“เสี่ยวหวู่เจ้าอย่าได้กังวลไป…ลุงหลี่อันคนนี้ต้องจัดการเรื่องราวให้เจ้าพอใจแน่!”


 


ทว่าในขณะที่หยางหวู่กำลังรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อยนั้นเอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหูของมัน และไม่ใช่เสียงของใครที่ไหน เป็นลุงหลี่อันของมันนั่นเอง!


 


ทันใดนั้นเสมือนเมฆหมอกในใจของมันถูกสายลมพัดปัดเป่าจนมลายหายไป กลายเป็นความตื่นเต้นเข้ามาแทนที


 


สุดท้ายลุงหลี่อันก็ยังเข้าข้างมัน!


 


“อาวุโสเถิงชาน ดั่งคำกล่าวที่ว่า ‘ตบมือข้างเดียวไม่ดัง’ …ในเมื่อท่านลงมือทำโทษหยางหวู่แล้ว อีกคนที่ก่อเรื่องก็สมควรได้รับการลงโทษเช่นกัน”


 


หลี่อันมองเถิงชาน ค่อยกล่าวออกเสียงเรียบ


 


และเมื่อกล่าวจบคำ มันก็หันมามองต้วนหลิงเทียนทันที


 


ทว่าสายตาที่ใช้มองนี้ของมันกลับทอประกายเยียบเย็นเต็มไปด้วยจิตสังหาร พาลต้วนหลิงเทียนรู้สึกราวกับถูกอสรพิษจับจ้อง หน้าต้วนหลิงเทียนถึงกับเปลี่ยนสีไปทันที


 


‘อะไร? หลี่อันมันคิดฆ่าข้า!?’


 


มาตอนนี้ต้วนหลิงเทียนพลันตระหนักได้ว่าเขาไร้เดียงสาปานใด เมื่อครู่กลับหลงคิดไปได้ ว่าหลี่อันจะเที่ยงธรรมเหมือนเถิงชานไปได้ หลังได้ยินวาจาของมันประโยคแรก!


 


อย่างไรก็ตามตัดสินจากทีท่าแววตาของมันในตอนนี้ น่ากลัวว่าหลี่อันหาได้มีนิสัยเหมือนเถิงชานไม่!


 


“อาวุโสหลี่อัน เมื่อครู่มีเพียงหยางหวู่เท่านั้นที่ลงมือ!”


 


เถิงชานขมวดคิ้วกล่าวค้านทันที มันไม่คิดลงมืออะไรกับต้วนหลิงเทียนแม้จะได้ยินคำของหลี่อัน


 


มวลพลังที่มันใช้ออกเพื่อขัดขวางต้วนหลิงเทียนกับหยางหวู่นั้น ยังมีประโยชน์นอกเหนือจากการระงับการต่อสู้อีกประการหนึ่ง…นั่นคือสามารถหาตัวคนผิดหรือผู้ที่เป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อนได้!


 


เพราะผู้ใดก็ตามที่เร่งเร้าพลังต่อสู้ลงมือ ย่อมถูกพลังสะท้อนจากการปะทุระเบิดของพลังมัน! หากไม่เร่งเร้าพลังแข็งขืนก็ไม่เกิดเรื่องอะไร!!


 


ในเมื่อตอนนี้มีเพียงหยางหวู่คนเดียวเท่านั้นที่บาดเจ็บ แต่ต้วนหลิงเทียนยังคงปลอดภัยไร้เรื่องราว นั่นหมายความว่าก่อนหน้านี้เป็นหยางหวู่คนเดียวที่เร่งเร้าพลังลงมือ ละเมิดกฏของแท่นบูชาเต่าทมิฬ!


 


ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่คิดจะลงโทษอะไรต้วนหลิงเทียน…


 


“อาวุโสเถิงชาน ข้าได้กล่าวออกไปแล้ว…ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ในเมื่อท่านไม่คิดลงโทษมัน เช่นนั้นก็ปล่อยให้ข้าทำแทนเถอะ!”


 


สีหน้าหลี่อันแปรเปลี่ยนเป็นอำมหิตทันใดหลังได้ยินคำของเถิงชาน มันยังยกมือขึ้นสะบัดตบไปทางต้วนหลิงเทียนทันที!


 


ปงง!!


 


ทันใดนั้นความว่างเปล่าพลันสะท้านสะเทือน มวลพลังสุดไพศาลน่ากลัวขุมหนึ่งพลันปะทุระเบิดออกในฉับพลัน! แผ่พุ่งทำลายไปยังต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด!!


 


ห้วงเวลาชั่วพริบตาปานอัสนีแลบลั่น ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเพียงว่าตัวหายใจไม่ออก! เนื่องเพราะมวลพลังที่ถล่มซัดลงจากเบื้องบนยังแผ่พุ่งไอพลังขุมหนึ่งสะกดเพ่งเล็งมาที่เขาเขม็ง! พาลให้เขายากจะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอะไรได้!!


 


‘ไม่!’


 


ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กลงโดยพลัน ใบหน้าฉายชัดถึงความไม่เต็มใจ!


 


เพราะเขามั่นใจเต็มสิบส่วน ว่าหากมวลพลังขุมนี้กระแทกเข้าร่างล่ะก็…เขาได้ตายคาที่แน่!!


ตอนที่ 1,894 : ประลองเป็นตาย…อีกแล้ว!


 


ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วดั่งประกายอัสนีแลบลั่น!


 


ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่อาจคาดคิดได้จริงๆ! ว่าอยู่ๆอาวุโสหลี่อันจะซัดกระบวนท่าสังหารหมายฆ่าต้วนหลิงเทียนแบบนี้!!


 


“อาวุโสหลี่อัน!”


 


กระทั่งอาวุโสเถิงชานเองก็ไม่คิดฝัน ว่าหลี่อันจะโหดเหี้ยมขนาดนี้! สีหน้ามันเปลี่ยนไปทันใด เร่งลงมือเพื่อขัดขวางหลี่อันทันที!!


 


อย่างไรก็ตาม แต่เดิมพลังฝีมือของมันก็อ่อนด้อยกว่าหลี่อันอยู่แล้ว


 


ยิ่งมาเป็นหลี่อันเป็นผู้ลงมือก่อนอีก…


 


ดังนั้นถึงแม้มันจะตอบสนองฉับไวเร่งลงมือช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนอย่างเร็วที่สุด แต่พลังที่มันปะทุซัดออกไป…ก็ทำได้แค่ไล่หลังคลื่นพลังฝ่ามือของหลี่อันแล้วบ่อนทำลายไปได้ราวๆ 5 ส่วนเท่านั้น! มวลพลังที่เหลือกว่าครึ่งยังคงถล่มลงใส่ต้วนหลิงเทียน!!


 


ปงงง!!


 


ถึงแม้ว่าพลังสังหารจะลดทอนลงไปครึ่งหนึ่ง หากแต่ยังเป็นอันตรายถึงตายสำหรับต้วนหลิงเทียน!และทันทีที่มวลพลังดังกล่าวซัดกระแทกเข้าร่าง ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดอันยากจะทานทนทันที!!


 


ความเจ็บปวดนี้ยังทำให้สติเขาพร่าเลือน เจียนสลบอยู่รอมร่อ!


 


‘ไม่…หลับไม่ได้! ข้าวูบหลับไปไม่ได้เด็ดขาด!!’


 


ต้วนหลิงเทียนพยายามประคองสติฝืนทนเอาไว้สุดตัว ทำให้แม้จะต้องพบพานกับความเจ็บปวดราวถูกกระชากหัวใจฉีกอกเขาก็ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ไม่สลบ!


 


หลังจากสามารถประคองสติเอาไว้ได้จนจบ และแม้ร่างล้มลงไปนอนสิ้นท่าบนพื้น แต่ต้วนหลิงเทียนก็รู้ดี…ว่าตอนนี้เขารอดแล้ว


 


ปราณสุริยันแรกกำเนิดรีบโคจรไหลเวียนไปทั่วร่างฟื้นฟูรักษาอาการบาดเจ็บทันที หลังผ่านไปไม่กี่ลมหายใจต้วนหลิงเทียนที่เหงื่อโชกโทรมกายก็ค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองเถิงชานด้วยสายตาสำนึกบุญคุณ สองมือป้องประสานกล่าวว่า “ขอบคุณอาวุโสเถิงชานที่ยื่นมือเข้าช่วย!”


 


‘ยังไม่ตาย?’


 


เห็นต้วนหลิงเทียนยังรอดชีวิตอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นหลี่อันผู้ลงมือ หรือเถิงชานที่ช่วยเหลือก็ตื่นตระหนกตกใจไม่น้อย!


 


‘เป็นไปได้ยังไง!?’


 


หน้าหลี่อันคล้ายมีคำเหลือเชื่อเขียนไว้กลางหน้าผาก เพราะมันรู้ดีที่สุดว่าเมื่อครู่มันลงมือหนักเบาเพียงใด!


 


พลังฝ่ามือที่มันซัดออกไปเมื่อครู่ ต่อให้พลังอานุภาพลดทอนลงไปครึ่งหนึ่งเพราะเถิงชาน แต่ก็มากพอจะป่นร่างผู้ฝึกตนที่มีพลังฝึกปรือต่ำต้อยกว่าขอบเขตเซียนสวรรค์ให้ตกตายหมดสิ้น!


 


ทว่าชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องล่างกลับยังไม่ตาย!


 


เรื่องนี้ทำให้มันรู้สึกเหลือเชื่อถึงที่สุด!


 


หลี่อันไม่อยากจะเชื่อ ด้านเถิงชานเองก็รู้สึกยากจะเชื่อเช่นกัน!


 


ถึงแม้มันจะลงมือช่วยเหลือได้ทัน หากแต่ก็เป็นการช่วยทำลายพลังไปได้แค่ 5 ส่วนเท่านั้น! แต่พลังฝ่ามือที่เหลือ 5 ส่วนนั่นของหลี่อัน…คิดฆ่าผู้ฝึกตนมนุษย์ที่ด่านพลังฝึกปรือต่ำกว่าเซียนสวรรค์ยังมากพอ!!


 


‘หรือ…มันมิใช่มนุษย์?’


 


หลี่อันกับเถิงชานพอคืนสติก็เร่งแผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบร่างกายต้วนหลิงเทียนทันที เพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายที่แท้เป็นมนุษย์หรือตัวอะไรกันแน่


 


เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์ใต้ขอบเขตพลังฝึกปรือเซียนสวรรค์จะมีชีวิตรอดจากการพลังฝ่ามือเมื่อครู่ได้!


 


ทว่าจากสำนึกเทวะที่แผ่ไปตรวจสอบ ผลก็บอกชัดเจนว่าต้วนหลิงเทียนเป็นมนุษย์แน่นอน!


 


‘กลับเป็นมนุษย์จริงๆ แต่ไฉนร่างกายมันถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้เล่า?!’


 


ไม่นานผลลัพธ์ก็กระจ่าง ต้วนหลิงเทียนเป็นมนุษย์จริงๆ


 


อย่างไรก็ตามขณะสำรวจพวกมันก็พบว่าร่างกายของต้วนหลิงเทียนกลับแข็งแกร่งผิดมนุษย์มนานักยังมากพอจะเทียบได้กับร่างกายของสัตว์ร้ายหรือสัตว์เซียนระดับแนวหน้าด้วยซ้ำ!


 


ในสายตาของพวกมัน เรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อเหลือเกิน!


 


หากแต่ความเป็นจริงตั้งโทนโท่อยู่เบื้องหน้าตำตาพวกมันไม่เชื่อก็คงไม่ได้!


 


ครู่ต่อมาพวกมันก็ทำได้แค่อิจฉา ‘วาสนา’ ที่ต้วนหลิงเทียนเคยพบพานในอดีตเท่านั้น


 


หากไม่พบพานวาสนาปาฏิหาริย์อันใดมา หาไม่แล้วร่างกายคงไม่อาจแข็งแกร่งได้ขนาดนี้!


 


‘หากร่างกายของข้าอ่อนแอกว่านี้แค่เล็กน้อย ข้าได้ตายคาที่แน่!’


 


ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนเองก็รู้เรื่องนี้ชัดเจน!


 


กล่าวได้ว่าวันนี้ที่ทำให้เขารอดตายมาได้ กว่าครึ่งล้วนต้องขอบคุณร่างกายที่แข็งแกร่ง!


 


เมื่อครู่ในห้วงเวลาคับขันเป็นตาย เขาถูกไอพลังของหลี่อันสะกดกักเอาไว้ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายได้ กระทั่งปราณสุริยันแรกกำเนิดในร่าง เขาก็ไม่อาจโคจร!


 


ภายใต้สถานการณ์ดั่งถูกมัดมือมัดเท้าเช่นนั้น เขาไม่อาจแปลงกายเป็นนักรบมังกรได้เลย…


 


อย่างไรก็ตามถึงแม้เขาจะยังไม่ตาย แต่ตอนนี้อาการของเขาก็นับว่าบาดเจ็บสาหัสนัก หรืออย่างน้อยๆ ก็บาดเจ็บหนักกว่าหยางหวู่หลายขุม!


 


“ฝ่ามือของอาวุโสหลี่อันช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก! หากมิใช่เพราะอาวุโสเถิงชานยื่นมือเข้าช่วย เจ้านั่นมันตายแน่!”


 


“มิผิด ดูจากอาการบาดเจ็บของมันตอนนี้ ก็บอกให้รู้ว่าฝ่ามือของอาวุโสหลี่อันรุนแรงเพียงใด…แม้อาวุโสเถิงชานจะยื่นมือเข้าช่วยสลายพลังไปหลายส่วน แต่อาศัยพลังที่เหลือ ก็ซัดมันเกือบเดี้ยง!”


 


“สุดท้ายอาวุโสหลี่อันก็เข้าข้างหยางหวู่ไม่น้อย…แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ จะอย่างไรหยางหวู่ก็เป็นบุตรชายของสหายสนิททั้งคน…”


 



 


ผู้คนที่คืนสติ ก็เริ่มพูดคุยกันดังระงม ความเงียบบริเวณแท่นบูชาเต่าทมิฬหายไปไม่มีเหลือ


 


และตอนนี้ ยามทุกคนมองไปที่หลี่อันอีกครั้ง ในแววตายังเผยความหวาดกลัวออกมา


 


ตอนที่หลี่อันปรากฏกายครั้งแรก ทุกผู้คนคิดว่ามันเป็นคนซื่อตรงวางตัวเป็นกลาง


 


แต่ทว่าการกระทำต่อมาของหลี่อัน ก็ปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นมาทันที…ว่าไม่ใช่อาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬทุกคน จะมีนิสัยซื่อตรงอย่างอาวุโสเถิงชาน!!


 


‘มารดาของมัน…สารเลวหลี่อันทำข้าเกือบตาย! ตัวอุบาทว์นี่ข้าไม่เคยมีเรื่องราวอะไรกับมันแท้ๆ แต่มันอาศัยเรื่องบาดหมางเล็กน้อยระหว่างข้ากับหยางหวู่ กลับคิดลงมือทำร้ายข้าจนตาย!’


 


ต้วนหลิงเทียนหันหน้าไปมองร่างหลี่อันอีกครั้ง ในแววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น


 


เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาอาฆาตจากต้วนหลิงเทียน หลี่อันเพียงเหลือบมองต้วนหลิงเทียนผ่านๆ จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก


 


ถึงแม้ร่างกายต้วนหลิงเทียนจะแข็งแกร่งเหนือคนธรรมดา แต่ในสายตาของมันต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่ต่างอะไรจากมดที่มันจะเหยียบให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้


 


และต้วนหลิงเทียนคงตกตายไปแล้วด้วยซ้ำ หากเถิงชานไม่ยื่นมือเข้ามาสอด


 


“หลี่อัน…”


 


เมื่อเห็นหลี่อันไม่ได้แยแสอะไรในชีวิตเขาแม้แต่น้อย ต้วนหลิงเทียนที่เดิมก็โกรธแค้นอยู่แล้ว พลันบังเกิดความเคียดแค้นชิงชังหลี่อันเข้ากระดูกดำ!


 


หากตอนนี้พลังฝึกปรือเขาเหนือกว่าหลี่อันล่ะก็ แม้จะเสี่ยงกับการล่วงเกินลัทธิบูชาไฟและถูกตามล่า เขาก็จะลงมือฆ่าหลี่อันทันที แล้วค่อยรีบหลบหนีไปแปลงโฉมเสีย!


 


อย่างไรก็ตามตอนนี้ต่อให้เขาใช้ออกด้วยทุกสิ่ง ลงมือยิงกระบวนท่าสังหารด้วยกระบี่นิลสวรรค์ เขาก็ไม่อาจฆ่าหลี่อันได้…


 


เช่นนั้นแล้วเขาทำได้แค่อดทน…กล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้!


 


ลูกผู้ชายล้างแค้นสิบปีไม่สาย! ขุนเขาเขียวยังอยู่ใยต้องกลัวไร้ฟืนไฟ!!


 


“น้องหลิงเทียน เจ้าเป็นอันใดมากหรือไม่?!”


 


ตอนนี้เองกู่ลี่ที่พึ่งคืนสติ ก็เร่งถามขณะมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเป็นกังวล


 


ก่อนหน้านี้มันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนจริงๆ ว่าหลี่อันจะหน้าด้านลงมืออย่างไร้ยางอายถึงเพียงนี้! คิดฆ่าต้วนหลิงเทียนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมลัทธิบูชาไฟด้วยซ้ำ!!


 


จูลู่ฉีเองก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเป็นห่วงเช่นกัน แม้จะไม่ได้กล่าวอะไรออกมาก็ตาม


 


“อาวุโสหลี่อัน ข้าคิดว่าความผิดเล็กน้อยเพียงเท่านี้ของเจ้าหนูนั่น ยังไม่สมควรต้องโทษตายมิใช่หรือ?”


 


เถิงชานมองถามหลี่อันด้วยสีหน้าอึมครึม วาจายังเยียบเย็นราวกับจะเค้นความให้ได้


 


“ข้าก็รู้ว่าความผิดยังไม่ถึงโทษตาย…เมื่อครู่ข้าก็แค่พลั้งมือออกแรงมากไปเล็กน้อยเท่านั้น แล้วที่สำคัญมันก็ยังมิตายไม่ใช่หรือไร?”


 


เผชิญหน้ากับเถิงชานที่จี้ถามมาด้วยทีท่าแข็งกร้าว หลี่อันเพียงกล่าวตอบไปอย่างไม่แยแส


 


ได้ยินคำตอบนี้ของหลี่อัน เถิงชานถึงกับไร้คำจะกล่าวไปพักหนึ่ง


 


คนอื่นๆที่ได้ยินเองก็รู้สึกหมดคำจะพูดเช่นกัน ไม่คิดเลยว่าหลี่อันจะกล่าวออกมาตรงๆ อย่างหน้าด้านๆแบบนี้


 


‘พลังมือ? ข้ายังไม่ตาย?’


 


หน้าต้วนหลิงเทียนเริ่มมืดคล้ำดำลงราวจะคั้นได้น้ำหมึก เขาเองก็ไม่คิดเลยว่าหลี่อันมันจะหนังหน้าหนา กล่าวตอบบอกปัดมาอย่างไร้ยางอายได้ขนาดนี้ เห็นกันอยู่ชัดๆว่ามันคิดฆ่าเขา แต่มันกล้าทำไม่กล้ารับ!


 


“เอาล่ะ ในเมื่อพวกเจ้าสองคนต่างก็ถูกลงโทษกันไปแล้วทั้งคู่…เช่นนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ก็เลิกแล้วต่อกันเถอะ”


 


หลี่อันเหลือบมองต้วนหลิงเทียนผ่านๆอีกครั้ง ค่อยหันไปมองหยางหวู่ที่กำลังขมวดคิ้วเพราะได้ยินคำของมัน


 


ทว่าวินาทีต่อมาเมื่อเสียงที่ส่งผ่านปราณของมันดังขึ้นในหูหยางหวู่ คิ้วที่ยู่ย่นเป็นปมก็คลี่คลายลงทันที มันยังรีบหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสองตาลุกวาว!


 


“อาวุโสเถิงชาน ท่านยังมีความเห็นอันใดอีกหรือไม่?”


 


หลี่อันมองถามเถิงชานอีกครั้ง


 


เถิงชานก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ในเมื่ออีกฝ่ายมาซะขนาดนี้แล้ว มันยังจะทำอะไรได้อีก?


 


นอกจากนี้มันเองก็ถือว่าได้ลงโทษคนทำผิดไปแล้ว


 


“อาวุโสหลี่อัน!”


 


แต่ในขณะที่เถิงชานส่ายหัวไปมานั้นเอง หยางหวู่พลันหันมองไปยังหลี่อันและรีบกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังทันที “วันนี้ข้าคิดท้าประลองเป็นตายเพื่อชำระแค้นกับคนๆหนึ่ง…ข้าหวังว่าอาวุโสหลี่อันจะช่วยเป็นสักขีพยานในการประลองเป็นตายให้ข้า! ขณะที่ข้ากำลังประลองเป็นตายกับมัน!!”


 


ประลองเป็นตาย!


 


ได้ยินวาจากล่าวเสียงดังของหยางหวู่ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหันมองไปทางต้วนหลิงเทียนอย่างอัตโนมัติ


 


จากนั้นไม่นานสายตาของทุกคนก็มองสลับไปมาระหว่างหยางหวู่กับต้วนหลิงเทียน


 


พวกมันล้วนเห็นกันชัดถนัดตา ว่าหยางหวู่ที่บาดเจ็บก่อนหน้า ตอนนี้อาการดีขึ้นจนแทบจะหายดีแล้ว ส่วนต้วนหลิงเทียนกระทั่งยืนยังจะไม่รอด…


 


“มารดามันเถอะ…หยางหวู่ผู้นี้ช่างไร้ยางอายได้อุบาทว์ยิ่ง”


 


จังหวะนี้หลายคนอดไม่ได้ที่จะกระซิบออกมาด้วยความรังเกียจ


 


เรียกว่าหากคำก่นด่าบริภาษฆ่าคนได้ ให้หยางหวู่มีสิบชีวิตก็คงไม่พอตาย!


 


อยู่ๆหยางหวู่ก็กล่าวร้องขอให้หลี่อันเป็นสักขีพยานในการประลองเป็นตายแบบนี้…ไม่ต้องบอกพวกมันก็รู้ว่าเป้าหมายของหยางหวู่ ก็คือต้วนหลิงเทียนที่ถูกหลี่อันซัดจนจะตายแหล่มิตายแหล่…!


 


“ไร้ยางอาย! ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!!”


 


“อย่าได้บอกข้าว่าหยางหวู่มันกล้าคิดฆ่าคนอย่างหน้าด้านๆ ท้าประลองเป็นตายอย่างอยุติธรรมเช่นนี้จริงๆ?”


 


“พวกเจ้าอย่าพึ่งกังวลไป! เรื่องราวยังไม่ใช่ว่าจะแน่…ถึงแม้หยางหวู่มันคิดท้าประลองเป็นตายจริง แต่มันก็ต้องรอฟังคำตอบรับของอีกฝ่ายก่อน! หากเจ้านั่นปฏิเสธคำท้าของมันอย่าว่าแต่หยางหวู่เลย กระทั่งอาวุโสหลี่อันก็ไม่อาจแตะต้องเจ้าหนุ่มชุดม่วงได้!!”


 


……


 


คนที่มารวมตัวในพื้นที่แท่นบูชาเต่าทมิฬหลายคน ไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะบ้าจี้รับคำท้าประลองเป็นตายจากหยางหวู่!


 


ในสายตาของพวกมัน


 


ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ยามสมบูรณ์พร้อมต้วนหลิงเทียนจะเป็นคู่ต่อสู้หยางหวู่ได้หรือไม่ มาตอนนี้ต้วนหลิงเทียนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนยืนแทบไม่อยู่ ย่อมไม่มีวันตอบรับคำท้าของหยางหวู่เด็ดขาด เว้นแต่จะเบื่อชีวิตคิดหาที่ตายเอง…


 


“หืม? คิดให้ข้าเป็นสักขีพยานงั้นหรือ? ย่อมได้!”


 


หลี่อันกล่าวคำตอบรับอย่างเห็นด้วยทันที “ว่าแต่เจ้าคิดท้าทายผู้ใดประลองเป็นตายเล่า?”


 


ขณะที่หลี่อันกล่าวถาม หยางหวู่ก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนทันที “ไอ้สวะ! เจ้ากล้าประลองเป็นตายกับข้า หยางหวู่ หรือไม่?”


 


ถึงแม้หลายคนจะเดาได้แต่แรกว่าคนที่หยางหวู่คิดท้าประลองเป็นตายไม่พ้นต้วนหลิงเทียน แต่ไม่คิดเลยว่ามันยังจะใช้วาจาด่าทอผู้อื่นว่า ‘สวะ’ เพื่อยั่วโมโหให้ต้วนหลิงเทียนรับคำท้าแบบนี้…


 


จังหวะนี้พวกมันอดไม่ได้ที่จะก่นด่าออกมาดังๆแล้วจริงๆ “หน้าด้านนัก! เจ้าหยางหวู่นี่มันไม่มียางอายเลยรึยังไง?!”


 


“ใต้หล้าไฉนมีตัวหน้าหนาไร้ยางอายพรรค์นี้ได้?”


 


“วิชาป้องกันสำนักใดกัน ถึงทำให้หนังหน้ามันทนทานปานฝาบ้านเช่นนี้?”


 


หลายคนเลือกจะด่าทอตรงๆ หลายคนเลือกจะกล่าวเสียดสี แต่ทั้งหมดล้วนพุ่งเป้าไปที่หยางหวู่ทั้งสิ้น


 


“น้องหลิงเทียนเจ้ามิต้องไปฟังวาจาเหลวไหลของมัน! ตัวอุบาทว์พรรค์นี้มันก็ได้แต่กล้าท้าประลองเป็นตายกับเจ้ายามเจ้าบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น!”


 


กู่ลี่เร่งกล่าวเตือนต้วนหลิงเทียนทันที


 


“เจ้ารีบรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าก่อนเถอะ…อาการบาดเจ็บของเจ้ามิจำเป็นต้องหายดี เพียงฟื้นฟูให้มีเรี่ยวแรงกลับมาไม่กี่ส่วน เจ้าคิดฆ่ามันก็นับว่าง่ายดายไม่ต่างตัดหญ้าฆ่าไก่!”


 


จู้ลู่ฉีกล่าว


 


ทว่าทันใดนั้นเองภายใต้สายตาของทุกคน ต้วนหลิงเทียนที่ถูกกล่าวท้าพลันหยีตาลงพร้อมหันไปมองหยางหวู่ กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยชาว่า “เจ้าท้าข้าประลองเป็นตายงั้นเหรอ?”


ตอนที่ 1,895 : คนบ้าในหมู่คนบ้า!


 


“มิผิด!”


 


หยางหวู่พยักหน้ารับอย่างมั่นมาด มันเชิดหน้าเหลือบมองต้วนหลิงเทียนด้วยท่าทีครอบงำทำราวกับเจ้าชีวิตมองข้าทาสใต้อาณัติ…


 


“แน่นอนว่าเจ้าสามารถกล่าวคำปฏิเสธได้…เพราะจะอย่างไรเจ้ากับสหายก็ล้วนแล้วแต่เป็นสัดใส่ข้าวที่ใช้การมิได้ทั้งสิ้น!”


 


ขณะกล่าวหยางหวู่ยังว่ายตามองไปยังกู่ลี่และจูลู่ฉีด้วยสายตาเหยีดหยามดูแคลน


 


จังหวะนี้สีหน้ากู่ลี่กับจูลู่ฉีก็ถึงกับดำทะมึนขึ้นมาทันใด!


 


แต่พวกมันรู้ดีว่าหยางหวู่จงใจกล่าวแบบนี้เพื่อยั่วโมโหต้วนหลิงเทียน เช่นนั้นพวกมันจึงไม่คิดตอบโต้อะไรอีกฝ่าย ด้วยกลัวว่าจะยิ่งสุมไฟโทสะในใจต้วนหลิงเทียนให้ลุกโหมไปกันใหญ่!


 


หากต้วนหลิงเทียนไม่บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ พวกมันไม่สงสัยเลยว่าต้วนหลิงเทียนลำบากเพียงพลิกฝ่ามือก็ฆ่าหยางหวู่ได้แน่ๆ!


 


อย่างไรก็ตามสภาพต้วนหลิงเทียนในปัจจุบันแม้จะยังไม่ตายแต่ก็เรียกว่าเจียนตายเต็มที! กระทั่งกู่ลี่ยังเชื่อมั่นว่า…ด้วยสภาพของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้มันเองก็เอาชนะได้ง่ายๆ!


 


แล้วจะนับประสาอะไรกับหยางหวู่ ที่พลังฝีมือเหนือกว่ากู่ลี่!


 


“ประลองเป็นตาย…”


 


ประลองเป็นตายไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรสำหรับต้วนหลิงเทียน


 


กระทั่งจนถึงทุกวันนี้เขาผ่านการประลองเป็นตายมาแล้วกี่ครั้ง เขาเองก็จำไม่ได้เสียแล้ว…


 


อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้วนหลิงเทียนยังคงยืนอยู่ตรงนี้ เช่นนั้นก็เห็นได้ชัดเจน…


 


ว่าการประลองเป็นตายทั้งหมดที่ผ่านมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผู้ที่ตกตายล้วนเป็นคู่ต่อสู้ทั้งสิ้น!


 


และในวันนี้ก็เป็นหยางหวู่ บุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล อันเป็นขุมพลังชั้น 1 ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า กำลังท้าประลองเป็นตายกับเขาในแท่นบูชาเต่าทมิฬแห่งนี้ โดยไหว้วานให้ หลี่อัน อาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬเป็นสักขีพยาน!


 


“สุดท้ายเจ้ามันก็เศษสวะจริงๆ! เพียงแค่ตอบมาว่ากลัวไม่กล้าสู้ก็เท่านั้น ยังจะลีลาท่ามากทำอะไร?”


 


หยางหวู่ยังคงมองเหยียดกล่าวหยามต้วนหลิงเทียนไม่เลิก “อย่าได้บอกข้าเชียว ว่าที่เจ้าลีลาไม่ตอบ…เพราะเจ้ากำลังรวบรวมความกล้าอันน้อยนิดของเจ้าอยู่?”


 


“เจอกับสิ่งที่เทียบไม่ได้แม้แต่ขยะ…เจ้าคิดว่าข้าจะปฏิเสธคำท้ารึไง?”


 


ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็กล่าวตอบออกมา


 


ยังมีอะไรเลวร้ายยิ่งกว่าขยะอีกหรือ?


 


ได้ยินคำกล่าวนี้ของต้วนหลิงเทียน ใจทุกคนอดไม่ได้ที่จะสะท้านไปทันที!


 


เพราะจากวาจานี้ของต้วนหลิงเทียน ไม่ใช่ว่าเป็นการยอมรับคำท้าประลองเป็นตายจากหยางหวู่กลายๆแล้วหรือไร?


 


“ให้ตาย…เจ้าหนูนั่นมันบ้าไปแล้ว!”


 


ทันใดนั้นหลายคนอดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน ด้วยรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนเสียสติไปแล้ว


 


“หรือพลังฝีมือของเจ้าหนูนั่นมันร้ายกาจถึงขั้น ต่อให้บาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ก็ยังมั่นใจว่าจะฆ่าหยางหวู่ได้?”


 


นอกจากนี้ยังมีคนคิดต่าง ที่มองเรื่องราวในแง่ดีกล่าวถามออกมาลอยๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น


 


ทว่าครู่ต่อมาใบหน้าของพวกมันก็บิดเบี้ยวราวเคี้ยวยาขม “อะ…อริยะเซียนขั้นสูงสุด นี่มันบ้าอะไรกัน!?”


 


“เหอะๆ…ข้าเองก็พบว่าพลังฝึกปรือของมันคืออริยะเซียนขั้นสูงสุดเช่นกัน! สวรรค์…หรือนี่ที่แท้เจ้านั่นมันหัวร้อนจนไม่แยแสชีวิตแล้ว?”


 


“อริยะเซียนขั้นสูงสุดที่บาดเจ็บเจียนตายจนยืนไม่ค่อยจะไหว คิดรับคำท้าประลองเป็นตายจากเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญที่สภาพร่างกายเจียนฟื้นฟูจนหายดีจริงๆ?”


 


“อยู่ดีไม่ว่าดี หาที่ตายแท้ๆ…”


 


……


 


พริบตาด่านพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนก็ถูกผู้คนตรวจสอบจนปรุ


 


แน่นอนว่ายังมีหลายคนที่ใบหน้ายังคงเฉยเมยไม่ได้ออกอาการอะไร เพราะล่วงรู้ว่าพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนอยู่ในขอบเขตอริยะเซียนขั้นสูงสุดแต่แรก


 


คนเหล่านี้นอกจากกู่ลี่กับจูลู่ฉีแล้ว ก็ยังมี หยางหวู่ หลี่อัน และเถิงชาน!


 


ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงกู่ลี่กับจูลู่ฉี ในฐานะสหายของต้วนหลิงเทียนพวกมันรู้เรื่องนี้นานแล้ว


 


สำหรับหยางหวู่นั้นมันพึ่งรู้หลังจากที่หลี่อันบอก…


 


ส่วนหลี่อันกับเถิงชานนั้น ทั้งคู่ได้ค้นพบพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนตั้งแต่ตอนที่พวกมันแผ่สำนึกเทวะไปตรวจสอบต้วนหลิงเทียนว่าเป็นมนุษย์จริงๆแล้วหรือไม่…


 


และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้หลี่อันส่งเสียงผ่านปราณไปถึงหูหลี่อัน โดยชี้แนะให้หลี่อันกล่าวท้าประลองเป็นตายกับต้วนหลิงเทียนเสีย! เพราะหากอีกฝ่ายรับก็ตาย…ไม่รับก็เสียเกียรติ! เรียกว่าหาหนทางให้หยางหวู่จบเรื่องราวในวันนี้อย่างผู้ชนะ…อย่างน้อยๆก็เป็นผู้ชนะในสายตามัน!!


 


และด้วยวิธีนี้ วันหน้ามันจะได้สู้หน้ากล่าวคำกับสหายสนิทได้อย่างสบายใจ


 


กล่าวให้ชัดทั้งหมดเป็นเพราะการจัดแจงของหลี่อันคนเดียว ถึงทำให้เรื่องราวบานปลายมาถึงขนาดนี้


 


“น้องหลิงเทียน!”


 


“ต้วนหลิงเทียน!”


 


ใบหน้ากู่ลี่กับจูลู่ฉีเผยความตกตะลึงออกมาทันทีหลังได้ยินคำกล่าว พวกมันยังหันไปขมวดคิ้วมองต้วนหลิงเทียนอย่างตื่นตระหนก แต่ในขณะที่พวกมันกำลังจะเปิดปากเพื่อกล่าวห้ามปรามต้วนหลิงเทียนไม่ให้วู่วามนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวออกขัดคำของพวกมันเสียก่อน “ไม่ต้องห่วงข้าไม่เป็นไร แถมข้ายังมั่นใจนัก! พี่กู่…หรือท่านไม่เคยเห็นข้าประลองเป็นตายกับผู้อื่น?”


 


“ตอนนั้นที่ข้ายังอยู่ในตำหนักฟ้าลี้ลับ ไม่ใช่ว่าจ้าวคุนของสกุลจ้าวก็ตกตายคามือข้าอย่างตัวโง่งมรึไง?แล้วตอนนั้นมีใครดูดีข้าบ้าง?”


 


วาจาของต้วนหลิงเทียนที่กล่าว มากล้นไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม


 


“น้องหลิงเทียน…แต่สภาพร่างกายเจ้าตอนนี้…”


 


กู่ลี่คิดกล่าวเตือนต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ว่าตอนนี้ร่างกายไม่ได้สมบูรณ์พร้อม ทว่ากลับถูกต้วนหลิงเทียนกล่าวขัดอีกครั้ง “กับอีกแค่ฆ่าหยางหวู่ เท่านี้ก็เกินพอ!”


 


สุดท้ายกู่ลี่กับจูลู่ฉีก็ไม่คิดจะเซ้าซี้อะไรอีก เลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวต้วนหลิงเทียนแทน


 


แน่นอนว่าพวกมันก็เหลือทางให้เลือกทางเดียวเท่านั้น


 


เพราะพวกมันเห็นชัดว่าต้วนหลิงเทียนได้ตัดสินใจไปแล้ว เกรงว่าให้เอาม้าทั้งฝูงมาลากฉุดก็ไม่อยู่…


 


“ท่านผู้อาวุโสเถิงชานข้าหวังว่าท่านจะช่วยเป็นสักขีพยานในการประลองระหว่างข้ากับหยางหวู่…หาไม่แล้วข้ากลัวว่าจะมีสุนัขเฒ่าบางตัวที่ทนเห็น ‘ตัวบัดซบกระทั่งเทียบกับขยะยังไม่ได้’ กำลังจะถูกข้าฆ่าตายแล้วอดไม่ได้ที่จะสอดมือเข้ามาวุ่นวาย!!”


 


ในขณะที่คนส่วนใหญ่คิดว่าต้วนหลิงเทียนเสียสติไปแล้ว ต้วนหลิงเทียนพลันมองเถิงชานด้วยสายตาจริงจัง กล่าวออกเสียงดังฟังชัด!


 


จังหวะนี้ผู้คนโดยรอบถึงกับเงียบกริบ!


 


สุนัขเฒ่า?


 


ตัวบัดซบกระทั่งเทียบกับขยะยังไม่ได้?


 


จังหวะนี้สายตาแปลกๆของทุกผู้คนพลันหันไปมองสลับระหว่างหลี่อันกับหยางหวู่ทันที


 


หลายคนอดไม่ได้ที่จะลอบยกนิ้วโป้งให้ต้วนหลิงเทียนอย่างลับๆ!


 


ไม่เป็นไรที่จะเรียกหาหยางหวู่เช่นนั้น แต่ต้วนหลิงเทียนผู้นี้แม้แต่ หลี่อัน อาวุโสเพลิงเงินลำดับที่ 1แห่งแท่นบูชาเต่าทมิฬยังกล้ากล่าวเสียดสี! จังหวะนี้พวกมันไม่เพียงคิดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนบ้าธรรมดาแต่ยังเป็นคนบ้าในหมู่คนบ้าอีกที!!


 


ลูกตาหลี่อันถึงกับฉายแววเยียบเย็นออกมาโดนพลัน แม้มันจะรู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนกำลังเสียดสีมันแต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยชื่อแซ่ของมันออกมาตรงๆ และเลือกจะกล่าวเรียกหาออกมาแบบนั้น มันก็ไม่อาจเล่นงานอะไรอีกฝ่ายได้…


 


มิฉะนั้น ไม่ใช่มันยอมรับว่าตัวเองเป็นสุนัขเฒ่าหรือไร?


 


“ไม่ต้องห่วงไปเจ้าสวะ…หลังเจ้าตายข้าจะสับศพเจ้าให้แหลกเป็นหมื่นชิ้นแน่นอน!”


 


หยางหวู่หันไปจ้องต้วนหลิงเทียนตาเขม็ง แววตาของมันยังเต็มไปด้วยประกายเย็นชา ยังคมกล้าราวกับมีดดาบเปี่ยมไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน ปานจะหั่นสับร่างต้วนหลิงเทียนให้เป็นพันหมื่นชิ้น!


 


“เจ้าตัดสินใจดีแล้ว?”


 


เถิงชานกล่าวถามออกมาเสียงเข้ม


 


มันเองก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของหยางหวู่ได้ ถึงแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตามที เพราะอย่างไรพลังฝึกปรือก็มีเพียงอริยะเซียนขั้นสูงสุดเท่านั้น…


 


ทว่าหยางหวู่นั่นกลับบรรลุด่านพลังเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญแล้ว!


 


“ใช่!”


 


ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า “ข้าหวังว่าผู้อาวุโสเถิงชาน จะเป็นสักขีพยานในการประลองเป็นตาย และทำให้การประลองครั้งนี้ดำเนินไปอย่างยุติธรรมไม่ลำเอียง”


 


“เจ้าสามารถมั่นใจได้เลย ว่าเจ้าจะได้ประมือกับคู่ต่อสู้ตัวต่อตัวอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม! ในแท่นบูชาเต่าทมิฬแห่งนี้มิมีมือที่สามคนใดสามารถสอดมือเข้ามาแทรกแซงได้…เว้นแต่มันผู้นั้นจะคิดแข็งข้อต่อต้านแท่นบูชาจตุรลักษณ์รวมถึงลัทธิบูชาไฟ!!”


 


เถิงชานกล่าววาจารับประกันออกมาเป็นมั่นเหมาะ กระทั่งยังจงใจกล่าวออกเสียงดังหมายให้บางคนฟังให้ชัดๆ!


 


เพราะตัวมันเองก็ยังเต็มไปด้วยความขุ่นข้องใจ เรื่องที่หลี่อันอยู่ดีๆก็ถือวิสาสะลงมือด้วยเจตนาฆ่าฟันต่อต้วนหลิงเทียน!


 


ในแท่นบูชาเต่าทมิฬหรือแท่นบูชาจตุรลักษณ์อื่นๆ ไม่มีใครได้รับอนุญาติให้ก่อเรื่อง! หากผู้ใดละเมิดจำต้องถูกลงทัณฑ์!!


 


เหมือนกับที่หยางหวู่โดนไปก่อนหน้า


 


อย่างไรก็ตามหากเป็นการท้าประลองเป็นตาย แท่นบูชาเต่าทมิฬจะเป็นผู้รับรองและให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย!


 


นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เถิงชานจงใจกล่าวออกเช่นนั้น


 


“เจ้าเรียกว่าอะไร?”


 


เถิงชานมองถามต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะเริ่มดำเนินการประลองเป็นตาย


 


ถึงแม้มันจะไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับชายหนุ่มผู้นี้สักเท่าไหร่ แต่อาศัยเพียงความกล้าที่ชายหนุ่มคนนี้เผยออก ยังถึงขั้นกล้ากล่าววาจาเสียดสีหลี่อันว่า ‘สุนัขเฒ่า’ ต่อหน้าผู้คน ก็มากพอให้มันรู้สึกดีกับชายหนุ่มคนนี้แล้ว…


 


หากเลือกได้มันก็ไม่อยากให้ชายหนุ่มผู้นี้ตายตก


 


อนิจจาแต่เรื่องราวกับเลยเถิดบานปลายมาถึงจุดนี้… ก็นับว่าอยู่นอกเหนือความควบคุมของมันสืบไป!


 


“ต้วนหลิงเทียน!”


 


ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้ม


 


“ชื่อดี!”


 


สองตาเถิงชานส่องสว่างขึ้นมา ปากกล่าวชื่นชม


 


ถึงแม้ว่าข่าวตราผนึกมารที่ปรากฏขึ้นอีกครั้งจะแพร่มาถึงภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเรียบร้อย กระทั่งทุกคนรู้ว่าผู้ที่เคยถือครองตราผนึกมารเรียกว่าต้วนหลิงเทียน…


 


อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องปกตินักที่ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าจะมีคนที่มีชื่อแซ่เหมือนกัน…


 


ดังนั้นต้วนหลิงเทียนจึงกล่าวบอกชื่อจริงออกไป โดยไม่ได้คิดอะไรมากมาย…


 


นอกจากนี้ต่อให้ทุกคนจะรู้ว่าเขาคือต้วนหลิงเทียนที่เคยมีตราผนึกมารไว้ในครอบครองมันก็เท่านั้น เพราะคงไม่มีใครมาวุ่นวายอะไรกับเขาอีกต่อไป!อย่างไรเสียทุกคนก็รู้กันหมดแล้วว่าตอนนี้ตราผนึกมารอยู่ในมือของเซี่ยจง อาวุโสของลัทธิอารามทมิฬ!!


 


และก่อนที่จะมายังลัทธิบูชาไฟ ต้วนหลิงเทียนก็ได้ปลอมแปลงรูปโฉมอีกครั้งด้วยทักษะลับแปลงโฉม ถึงแม้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่อย่างน้อยๆก็มีหน้าตาต่างกันไปเป็นคนละคน


 


ถึงขั้นที่อย่างน้อยๆญาติสนิทมิตรสหายเขาก็จดจำไม่ได้ จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่ออะไรให้วุ่นวายอีก


 


ดังนั้นพอเถิงชานกล่าวถามชื่อ เขาก็ตอบชื่อแซ่ที่แท้จริงออกไปตามตรงอย่างไม่ยี่หระ


 


“ข้าว่าข้าเองก็เจอคนบ้าเสียสติมาแล้วไม่น้อย แต่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆที่เห็นคนบ้าเกินเยียวยาถึงขั้นนี้!”


 


“นั่นสิ เจ้าต้วนหลิงเทียนนี่นับว่าเป็นคนบ้าในหมู่คนบ้าโดยแท้! ทุกคนรู้กันดีว่าหากมันรับคำท้าประลองเป็นตายหยางหวู่มันได้ตายแน่ แต่แทนทีจะหาทางหลบเลี่ยงมันยังจะมีอารมณ์กล่าวขอให้อาวุโสเถิงชานเป็นสักขีพยานไปอีก…”


 


“บางทีมันอาจถูกวาจาหยางหวู่บีบคั้น จนไม่อาจยอมทนเสียหน้าได้อีกต่อไป…”


 



 


หลายคนเริ่มกระซิบกระซาบกัน


 


ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะร้องขอให้อาวุโสเถิงชานเป็นสักขีพยานอีกคน แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าเขาจะฆ่าหยางหวู่ได้!


 


หลี่อันกับหยางหวู่ก็รู้สึกแบบเดียวกัน


 


ตัวตนที่มีพลังฝึกปรือเพียงอริยะเซียนขั้นสูงสุด อย่าว่าแต่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส ต่อให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์พร้อมก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับมือเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญได้!


 


“สวะล้วนเป็นสวะวันยังค่ำ…จนถึงตอนนี้ยังจะทำเป็นมีลับลมคมในไม่เลิก!”


 


หยางหวู่มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเหยียดหยาม กล่าวคำเสียดสีออกมาพร้อมแสยะยิ้มเย็นเยือก


 


“ลงมือเถอะ!”


 


อย่างไรก็ตามเผชิญหน้ากับวาจาปรามาสดูแคลนหยันหยามของหยางหวู่ ต้วนหลิงเทียนคร้านต่อปากต่อคำอะไรกับมันอีก เพียงมองกล่าวด้วยสายตาเย็นชาไม่แยแส


 


“ในเมื่อเจ้ารีบร้อนด่วนตายนัก ข้าจะให้เจ้าได้ตายสมหวัง!!”


 


เมื่อเห็นว่าถึงขนาดนี้แล้วต้วนหลิงเทียนยังคงสงบอยู่ได้ ไม่เผยความหวาดกลัวอะไรออกมาตามที่มันจินตนาการเอาไว้ หยางหวู่ก็มีโมโหไม่น้อย หลังจากแผดเสียงกล่าวตะคอกจบคำ พลังขุมใหญ่ก็ระเบิดปะทุออกมาทั่วร่าง คนพุ่งไปดั่งลูกเกาทัณฑ์พ้นคันศร บึ่งทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนทันที!


 


“เพียงอริยะเซียนขั้นสูงสุด แต่หาญกล้ารับคำท้าประลองเป็นตายจากคุณชายรองของข้า! ตัวโง่งมแห่งยุค!!”


 


ชายชราที่ติดตามหยางหวู่และยืนประกบอยู่ด้านหลังที่เงียบมาตั้งแต่แรก มองต้วนหลิงเทียนพร้อมกล่าวออกมาด้วยสายตาที่ทำราวกับกำลังมองคนตาย


 


“น้องหลิงเทียน!”


 


“ต้วนหลิงเทียน!”


 


แม้จะสัมผัสได้ถึงความมั่นใจเต็มเปี่ยมของต้วนหลิงเทียน แต่พอได้เห็นสีหน้าที่ยังคงซีดเซียวไร้สีเลือด รวมถึงร่างกายที่ส่ายโงนเงนราวกับจะพังทลายล้มลงได้ทุกเวลาของต้วนหลิงเทียน ใจของกู่ลี่กับจูลู่ฉีก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสมือนถูกบีบรัด ให้อึดอัด ไม่สบายใจนัก!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)