War sovereign Soaring The Heavens 1576-1578

ตอนที่ 1576

 

เข้าใจผิด?


 


“เจ้าแข็งแกร่งนัก ทั้งมีเขตแดนเถาไม้แห้งเหี่ยว…เจ้าสมควรเป็นกู่มี่!”


 


ตอนนี้เองร่างมังกรเทพยาดาสีเขียว 5 กรงเล็บที่ถูกซัดร่วงตกฟ้า พยายามลอยร่างกลับขึ้นไปในอากาศ ทว่ายามที่มันมองไปยังร่างชายชราผอมแห้งในชุดคลุมลมดำอีกครั้งในแววตายังเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว


 


“ชิงเหยียน พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ! ข้ามิเชื่อว่ากระทั่งพวกเราร่วมมือกันแล้วยังเอาชนะกู่มี่ผู้นี้มิได้!!”


 


กู่มี่ไม่ทันได้ตอบคำอะไรชิงเหยียน กลับมีเสียงหนึ่งลั่นดังขึ้นมาเสียก่อน ยังเป็นเสียงของสตรีที่ชราแล้ว!


 


หลังจากนั้นไม่ทันไรก็ปรากฏร่างสตรีชราในชุดคลุมสีเทา ลอยมาหยุดข้างร่างมังกรเขียว สองตาของนางยังจับจ้องมองมาที่กู่มี่เขม็ง


 


นางไม่รั้งรออะไร และไม่ทันที่ใครจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาในร่างมนุษย์ได้ชัด นางก็หวนคืนสู่รูปลักษณ์มังกรเทพยาดาสีม่วง 5 กรงเล็บ ที่ตัวมหึมายาวหลายร้อยหมี่เสียก่อน!


 


นอกจากนี้ความยาวของลำตัวนาง เห็นได้ชัดว่ายังยาวกว่าชิงเหยียนเสียอีก!


 


ต้องทราบด้วยว่าในเผ่าพันธุ์มังกรนั้น ยิ่งขนาดตัวใหญ่และมีลำตัวยาวเท่าใด ยิ่งหมายถึงมีพลังความแข็งแกร่งสูงส่ง!


 


“นั่นอาวุโสสื่อชิง!”


 


“ในเผ่าพันธุ์มังกรเราพลังฝีมือของอาวุโสสื่อชิงนั้นเป็นที่สองรองจากอาวุโสเฉวี่ยฉาน ที่เป็นมังกรโลหิต 5 กรงเล็บ…หากอาวุโสสื่อชิงร่วมมือกับอาวุโสชิงเหยียนย่อมเอาชนะอีกฝ่ายได้แน่!”


 


“กู่มี่แห่งตำหนักเมฆาครามนับว่าร้ายกาจนัก! แต่หากมันคิดเอาชนะการร่วมมือกันระหว่างอาวุโสชิงเหยียนกับอาวุโสสื่อชิงนับว่าไม่มีทาง!”


 


……


 


หลังจากการปรากฏตัวของมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บอีกตัว คนในเผ่าพันธุ์มังกรกลายเป็นตื่นเต้นคึกคักเปี่ยมล้นไปด้วยความฮึกเหิมทันที ทั้งหมดเฝ้าจับจ้องมองเรื่องราวกลางหาวอย่างใจจดจ่อด้วยกลัวจะพลาดชมดูสิ่งดีๆ


 


มังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บ 2 ตัวกลุ้มรุมกู่มี่แห่งตำหนักเมฆาคราม! เรื่องนี้ไม่ได้มีให้ดูชมกันง่ายๆ!!


 


ส่วนอีกด้านนั้น ทางกู่มี่เมื่อเห็นมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บโผล่มาอีกตัว สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย


 


“เหอะ!”


 


และในขณะที่คนของเผ่าพันธุ์มังกรกำลังคาดหวังจะได้ดูการต่อสู้ระหว่างกู่มี่กับผู้อาวุโสมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บทั้ง 2 ต้วนหรูเฟิงพลันแค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง!


 


ทว่าเพียงหนึ่งคำที่สบถออกนี้ ทำให้เผ่าพันธุ์มังกรทั้งหมดรู้สึกหนาวสะท้านจับไขสันหลัง!


 


และวินาทีต่อมาพวกมันก็ได้แลเห็นฉากที่จะต้องจดจำไปจนวันตาย!


 


ต่างเห็นว่า ชายวัยกลางคนที่มาพร้อมกู่มี่ เพียงยกมือขึ้นอย่างไร้เรื่องราวเท่านั้น แต่ความว่างเหนือฟ้าทั้งมวลคล้ายจะล่มสลาย กระทั่งพื้นที่มิติยังคล้ายจะปริแตกออก!


 


เปรี๊ยง!!


 


ทันใดนั้นเสียงหนึ่งพลันดังสนั่นลั่นมาปานฟ้าระเบิด! ทั้งเผ่าพันธุ์มังกรไม่อาจมองได้ทันจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าร่างมังกรอาวุโสทั้ง 2 กลับเสมือนถูกพลังมหาศาลขุมหนึ่งซัดกระเด็นปลิดปลิวไปทางขุนเขาลูกหนึ่งอย่างไม่อาจต่อต้าน!!


 


ตูม!! ครืนนน ครืนนน!!


 


ขุนเขาลูกนั้นมิอาจทานทนรับได้ไหว จึงถล่มทลายลงมาทันใด! แผ่นดินไหวครั้งใหญ่อุบัติขึ้นอีกครา ฝุ่นธุลีคละคลุ้งปลิวว่อนย้อมฟ้าให้หมองเทา!!


 


“อั๊คค!!”


 


ยิ่งชิงเหยียนที่แต่เดิมก็บาดเจ็บเป็นทุนอาการของมันยิ่งสาหัสนัก โลหิตกระอักออกปากเป็นลิ่มก้อนแล้วก้อนเล่าอย่างไม่อาจห้าม!


 


ส่วนมังกรเทพยาดาสีม่วงที่พึ่งมาใหม่ ก็ไม่ได้มีสภาพดีไปกว่ากัน


 


“ทะ…ท่านคือจ้าวตำหนักเมฆาคราม!?”


 


เมื่อเห็นชายชราที่คาดว่าน่าจะเป็นกู่มี่ให้ความเคารพชายวัยกลางคนผู้นี้และลอยร่างประกบด้านหลังอย่างเรียบๆร้อยๆ มังกรเทพยาดาสีม่วง 5 กรงเล็บได้แต่เผยแววตาหวาดหวั่น กล่าวถามออกมาเสียงสั่น


 


ในสายตาของนางมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้กู่มี่ยินดีติดสอยห้อยตามด้วยความเคารพแบบนี้


 


ถึงแม้นางเองก็ไม่ทราบต้นสายปลายเหตุแต่นางสัมผัสได้ชัดว่า…การมาเยือนเผ่ามังกรของจ้าวตำหนักเมฆาครามนี้สมควรร้ายมากกว่าดี…!


 


“หากกล้าขยับวุ่นวายอะไรต่อหน้าข้าอีก ตาย!”


 


ใบหน้าของต้วนหรูเฟิงยังคงสงบไร้อารมณ์ อย่างไรก็ตามยามมองไปยังมังกรเทพยาดาสีม่วง 5 กรงเล็บ ในลูกตาเผยประกายเย็นยะเยือกชวนให้ใจของมังกรเทพยาดาสีม่วงสะท้านเต้นไปไม่เป็นจังหวะ นางไม่กล้าสงสัยในวาจาของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย จึงนอนหมอบฟุบอยู่บนพื้นแน่นิ่งแต่โดยดี


 


“จะ…จ้าวตำหนักเมฆาคราม!?”


 


ได้ยินคำของมังกรเทพยาดาสีม่วง 5 กรงเล็บ มังกรเทพยาดาสีเขียว ชิงเหยียนที่บาดเจ็บสาหัสยิ่งหน้าซีดไปกันใหญ่!


 


จ้าวตำหนักเมฆาคราม! เสียงคำร่ำลือกล่าวกันหนาหู..ว่ามีพลังอำนาจทัดเทียมกับผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรของพวกมัน!


 


ทว่ามันกลับกล้าเผชิญหน้ากับตัวตนระดับนั้นด้วยท่าทางถือดี?


 


จังหวะนี้มันอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความอับอาย ใคร่เอาหน้ามุดแทรกปฐพีหนีหายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด!


 


“จะ…จ้าวตำหนักเมฆาคราม!!”


 


ตอนนี้สีหน้าของเผ่าพันธุ์มังกรทั้งมวลที่ออกมาติดตามสถานการณ์วุ่นวายก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที!


 


ถึงแม้หลายคนจะเป็นสมาชิกรุ่นเยาว์ในเผ่าพันธุ์มังกร และไม่ค่อยได้ออกไปยังโลกภายนอก แต่พวกมันก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ของตำหนักเมฆาครามมาก่อน… นั่นคือขุมพลังที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเผ่าพันธุ์มังกรของพวกมันทั้งเผ่าพันธุ์!


 


และนายเหนือผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองตำหนักเมฆาครามนั้น ก็คือตัวตนที่มีพลังอำนาจทัดเทียมกับผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรของพวกมัน!!


 


พอตระหนักได้ถึงความจริง ว่าตอนนี้พวกมันกำลังพบพานกับตัวตนอันใด สองขาของพวกมันรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ยังเริ่มสั่นไหวไปแทบยืนไม่อยู่!


 


มังกรเทพยาดา 4 กรงเล็บที่กล่าววาจาเสียงดังปลุกเร้าก่อนหน้าทั้งหมด ตอนนี้ล้วนเงียบกริบ สงบปากสงบคำไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจแรง!


 


ล้อกันเล่นหรือไร!


 


ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าของพวกมันยามนี้คือจ้าวตำหนักเมฆาคราม!


 


ต่อให้อีกฝ่ายฆ่าพวกมันทิ้งด้วยความไม่สบอารมณ์ เผ่าพันธุ์มังกรก็ไม่มีวันเรียกร้องหาความเป็นธรรมอะไรให้พวกมันเด็ดขาด!


 


ทันทีที่ต้วนหรูเฟิงลงมือสยบมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บทั้ง 2 ตัวจนหมอบแน่นิ่งไป เผ่าพันธุ์มังกรที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจทั้งหมด ก็กลับกลายเป็นเรียบๆร้อยๆ ราวเด็กน้อยแสนเชื่อฟัง ไม่กล้าหืออืออะไรอีก…


 


ด้วยเหตุนี้ต้วนหรูเฟิงจึงเดินทางเข้าไปยังส่วนลึกของเผ่ามังกรอย่างสะดวก


 


“เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตจนเสียงดังเอิกเกริกเพียงนี้ ไฉนท่านผู้นำยังมิออกมาอีก!”


 


“ไม่เพียงแต่ท่านผู้นำ…กระทั่งผู้อาวุโสมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บคนอื่นๆ ก็มิได้ออกมาเลย”


 


……


 


สมาชิกในเผ่าพันธุ์มังกรเริ่มหวั่นใจ ด้วยไม่ทราบว่านี่มันเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นกันแน่ หรือวันนี้จะถึงวาระของเผ่าพันธุ์มังกรแล้ว?


 


เพราะพวกมันย่อมตระหนักได้ ว่าจ้าวตำหนักเมฆาครามไม่ได้มาดี!


 


แถมตอนนี้ผู้อาวุโสอันเป็นมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บที่เหลือของพวกมัน ที่เป็นดั่งเสาหลักผู้พิทักษ์เผ่าพันธุ์มังกร ยังไม่แม้แต่จะออกมาช่วยเหลือ! ทั้งหมดจึงหวาดกลัวเสียขวัญ ใจตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก!!


 


“พวกเจ้าอย่าพึ่งตื่นตระหนกกระวนกระวายใจไป…เหล่าผู้อาวุโสและท่านผู้นำ ต้องกำลังหารือกันเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์อยู่เป็นแน่!”


 


เมื่อเห็นว่าต้วนหรูเฟิงกับกู่มี่ลอยร่างหายไปจากสายตาแล้ว อาวุโสของเผ่าพันธุ์มังกรที่สงบปากเมื่อครู่ ก็เร่งกล่าวปลอบขวัญรุ่นเยาว์ในเผ่าพันธุ์ทันที


 


“ถึงแม้ต้วนหรูเฟิง จ้าวตำหนักเมฆาครามผู้นั้นจักร้ายกาจ แต่ข้าเชื่อว่าด้วยพลังฝีมือของท่านผู้นำ ก็มิจำเป็นต้องกลัวมันแต่อย่างไร! เช่นนั้นพวกเจ้าวางใจได้เรื่องที่พวกเจ้ากลัวไม่มีวันเกิดขึ้น!!”


 


มังกรเทพยาดาสีม่วง 5 กรงเล็บ สื่อชิงหวนคืนสู่รูปลักษณ์มนุษย์ของนาง..หญิงชรา เร่งกล่าวออกด้วยน้ำเสียงมั่นใจปลอบขวัญทั้งหมดอีกคน


 


ด้วยมีคำของอาวุโส 4 กรงเล็บ และวาจามั่นใจของอาวุโส 5 กรงเล็บ คนเผ่าพันธุ์มังกรที่กำลังตื่นตระหนก ก็พอได้สงบใจลงบ้าง


 


“ข้าเจอตัวมันแล้ว!”


 


ในขณะที่มุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของเผ่าพันธุ์มังกร ในที่สุดกู่มี่ที่แผ่สำนึกเทวะออกไปเป็นวงกว้าง ก็พบเจอตัวตี้จิ่วเสียที!


 


มันยังพบว่า ตี้จิ่ว กำลังปิดด่านบ่มเพาะพลังอยู่!


 


อาจเป็นเพราะตี้จิ่วมันปิดด่านบ่มเพาะพลังอยู่ จึงไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร และไม่ได้ปรากฏตัวออกมาตอนเกิดเรื่องวุ่นวาย


 


ตี้จิ่วนั้นกล่าวไปน่าสงสารไม่น้อย เพราะตอนนี้มันกำลังบ่มเพาะพลังถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออันสำคัญ แต่อยู่ดีๆมันก็ถูกสำนึกเทวะแผ่พุ่งมาตรวจสอบ จนเสียสมาธิ!


 


ถึงแม้ว่ามันจะเป็นมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ และมีสายเลือดสูงส่งในเผ่าพันธุ์มังกร แต่อย่างไรมันก็ยังไม่เติบโตเต็มที่ พลังอำนาจของมันยังนับว่าอ่อนด้อยกว่ามังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บตัวอื่นๆ กระทั่งอ่อนด้อยกว่าชิงเหยียนด้วยซ้ำ…และกระทั่งชิงเหยียนยังไม่อาจรับมือกู่มี่ไหว ตี้จิ่วย่อมไม่มีปัญญาต้านทานกู่มี่แม้แต่น้อย!


 


“อาวุโสกู่มี่ นี่ท่านมาได้อย่างไร แล้วไฉนทำกับข้าแบบนี้!?”


 


ตี้จิ่วที่ถูกขัดจังหวะในช่วงสำคัญ ย่อมตื่นจากภวังค์บ่มเพาะด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แต่เมื่อมันเห็นว่าผู้ที่รบกวนมันกลับเป็นกู่มี่ มันก็ได้แต่พยายามระงับโทสะเอาไว้ กล่าวถามออกไปเสียงเข้ม


 


“เจ้าตัวดี! เจ้ายังไม่รู้อีกหรือว่าทำบัดซบอะไรลงไป!!”


 


กู่มี่แค่นคำเย็นชาออกไป ก่อนที่จะตบหน้าตี้จิ่วฉาดๆ ซ้ายทีขวาทีจนหน้ามันบวมเป็นหัวหมู กระทั่งแววตายังเลื่อนลอยไปพักหนึ่ง…


 


“กู่มี่!!”


 


ด้วยความที่มันเองก็เป็นถึงมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ มันย่อมเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรี พออยู่ดีๆมาถูกกู่มี่ตบเอาๆอย่างไม่รู้เรื่องราว มันย่อมหัวร้อนขั้นสุด จังหวะนี้มันไม่สนว่ากู่มี่จะร้ายกาจปานใด เร่งคืนร่างที่แท้จริงแล้วสู้กับกู่มี่สุดใจ!


 


อนิจจาด้วยพลังของมันก็เสมือนเอาไข่ไปกระทบหินแท้ๆ…ไม่อาจทำอะไรกู่มี่ได้เลย สุดท้ายก็ถูกกู่มี่ทุบตีกระทืบจนย่ำแย่สาหัส…


 


หลังจากที่กู่มี่ทุบตีจนตี้จิ่วจนปางตาย ร่างตี้จิ่วก็หวนคืนสู่รูปลักษณ์มนุษย์อีกครั้ง ยังถูกกู่มี่ใช้พลังสะกดหอบหิ้วมาราวหมูหมา ลากคอมาส่งมอบให้ต้วนหรูเฟิง!


 


ในระหว่างนี้ตี้จิ่วไม่ได้สิ้นสติไปแต่อย่างไร มันได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนต่อความอัปยศอดสู ได้แต่ถลึงตามองอย่างคับแค้น!


 


เกิดมาชั่วชีวิตมันไม่เคยถูกใครทุบตีทำร้ายจนสิ้นสภาพเช่นนี้มาก่อนเลย!


 


มันลอบสาบานในใจเป็นมั่นเหมาะ! ถ้าชีวิตนี้มันไม่อาจฆ่ากู่มี่ล้างอัปยศให้ตัวได้ มันไม่ขอเป็นมังกร!!


 


“เจ้าน่ะเหรอ ตี้จิ่ว?”


 


ต้วนหรูเฟิงมองร่างอนาถาปานสุนัขใกล้ตายในมือกู่มี่ พร้อมถามออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา


 


“เจ้าเป็นใคร!?”


 


หลังถูกกู่มี่ควบคุมตัวไว้ ตี้จิ่วก็พยายามสะกดกลั้นอารมณ์เต็มที่ ทว่ามาถูกใครก็ไม่รู้กล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาทั้งมองมาราวกับมันไม่ได้เป็นตัวอะไร มันก็ไม่อาจระงับโทสะในใจไหว โพล่งถามออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด ปานจะระเบิดอารมณ์คับแค้นทั้งมวลใส่ต้วนหรูเฟิง


 


ผัวะ!!


 


และเมื่อตี้จิ่วโพล่งคำถามนี้ออกมา ก็คล้ายจุดชนวนอารมณ์! กู่มี่ที่เคารพต้วนหรูเฟิงยิ่งกว่าสิ่งใด มีโมโหจนมือสะบัดฟาดไปปานฟ้าผ่าตบหน้าตี้จิ่วอย่างแรงจนฟันกรามร่วงกระเด็น “เจ้ามันช่างกล้านักนะตี้จิ่ว! ถึงขั้นกล้าโอหังหยาบคายใส่ท่านจ้าวตำหนักเมฆาคราม! เจ้าเบื่อชีวิตสุนัขของเจ้ามากหรือไร!?”


 


“จะ..จ้าวตำหนักเมฆาครามหรือ!?”


 


เป็นอีกครั้งที่กู่มี่ตบหน้ามันดังฉาด ทำให้ใจตี้จิ่วรู้สึกคับแค้นอับอายนัก ทว่ามันไม่ทันจะตอบโต้อะไรพอได้ฟังคำที่กู่มี่ตวาดออกมา หน้ามันก็เสียไปทันที!


 


จ้าวตำหนักเมฆาครามคือตัวตนที่เทียบเท่าผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรของมัน!


 


ไม่ต้องกล่าวถึงพลังฝีมือของตี้จิ่วในตอนนี้ แต่ต่อให้เติบโตเต็มที่ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่มือของจ้าวตำหนักเมฆาครามได้!!


 


และสิ่งที่สำคัญที่สุด มันเคยได้ยินวีรกรรมอันน่าทึ่งของจ้าวตำหนกเมฆาครามผู้นี้มาแล้ว มันรู้ดีว่าจ้าวตำหนักเมฆาครามผู้นี้ทรงพลังแข็งกล้าอย่างแท้จริง พลังฝีมือนับว่าเหนือกว่าจ้าวตำหนักเมฆาครามคนก่อนหลายขุม!


 


อีกทั้งยังกล่าวกันหนาหูว่าจ้าวตำหนักเมฆาครามคนใหม่ ยังมีอายุไม่ถึง 100 ปีด้วยซ้ำ!!


 


อายุยังไม่ถึง 100 ปี แต่มีพลังฝีมือทัดเทียมกับผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร…นี่มันตัวตนอันใด? ตี้จิ่วไหนเลยจะไม่รู้เรื่องนี้!!


 


“ทะ…ท่านจ้าวตำหนัก ท่านมาหาข้าหรือ?”


 


สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบอารมณ์ ตี้จิ่วกล่าวถามออกไปอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงผิดหูผิดตา


 


หลังจากทีแลเห็นแววตาเย็นเยียบของจ้าวตำหนักเมฆาคราม ใจตี้จิ่วก็หนาวสะท้านขึ้นมาทันใด นอกจากนี้มันทราบแล้วว่าไฉนกู่มี่ถึงได้มีโมโหนัก และอีกฝ่ายกลับแลดูเรียบๆร้อยๆยามอยู่ใกล้ชายวัยกลางคนผู้นี้ ที่แท้คือจ้าวตำหนักเมฆาครามนี่เอง…


 


อย่างไรก็ตามมันอดไม่ได้ที่จะแปลกใจอย่างหนัก เพราะเท่าที่มันจำได้…ตัวมันไม่เคยไปมีเรื่องราวบาดหมางหรือสร้างความไม่พอใจอะไรให้จ้าวตำหนักเมฆาครามมาก่อนเลย แล้วไฉนจ้าวตำหนักเมฆาครามถึงได้มองมันราวกับศัตรูที่ต้องฆ่าให้ตายแบบนี้ได้?


 


“ทะ…ท่านจ้าวตำหนัก…ระหว่างเราใช่มีเรื่องเข้าใจผิดอันใดกันหรือไม่?”


 


เมื่อเห็นว่าต้วนหรูเฟิงยังไม่กล่าวคำอะไร ตี้จิ่วยิ่งกระวนกระวายใจกล่าวถามออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ


 


กับ กู่มี่ มันไม่กลัว


 


เพราะหากให้เวลามันได้เติบโต พลังฝีมือมันย่อมก้าวข้ามกู่มี่ไปได้แน่ๆ อย่างคำที่ว่า “ลูกผู้ชาย ล้างแค้นสิบปีไม่สาย”


 


อย่างไรก็ตามหากเป็นจ้าวตำหนักเมฆาคราม มันไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย!


 


“เรื่องเข้าใจผิด?”


 


ต้วนหรูเฟิงหัวเราะเยาะ “เจ้าเกือบฆ่าลูกชายคนเดียวของข้า…เจ้ายังกล้าถามว่ามีเรื่องเข้าใจผิด?”


 


เปรี๊ยง!!


 


วาจาเฉยเมยของต้วนหรูเฟิงยามเข้าหูตี้จิ่ว ยังรู้สึกเสมือนดังก้องปานฟ้าร้อง มันถึงกับตกตะลึงจนขวัญหนีดีฝ่อ!

 

 

 


ตอนที่ 1577

 

ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร ตี้ชาน!


 


ถ้อยคำดังกล่าวของต้วนหรูเฟิง ประหนึ่งอัสนีสวรรค์ผ่าเปรี้ยงลงมากลางหัวตี้จิ่วไม่มีผิด!


 


หลังจากที่ตะลึงงันอื้ออึงไปปานถูกฟ้าผ่า ไม่นานตี้จิ่วค่อยคืนสติ เร่งมองถามต้วนหรูเฟิงออกมาอีกครั้งด้วยรอยยิ้มขื่นขม “ท่านจ้าวตำหนัก ท่านเข้าใจอันใดผิดไปหรือไม่? ข้ามิเคยพบลูกชายของท่านสักครั้ง ไหนเลยจะไปเกือบฆ่าเขาได้?”


 


ตอนนี้ในใจตี้จิ่วรู้สึกคับแค้นทั้งน้อยใจนัก ประหนึ่งมันเป็นเด็กสาวตัวน้อยที่ถูกผู้คนฉวยโอกาสลวนลามมาอย่างไรอย่างนั้น


 


ชายวัยกลางคนเบื้องหน้ามันคือจ้าวตำหนักเมฆาครามอันทรงพลังในแดนดิน! อำนาจของอีกฝ่ายไม่ได้ด้อยไปกว่าเผ่าพันธุ์มังกรของพวกมันเลย ทั้งพลังฝีมือของจ้าวตำหนักยังไม่ได้ด้อยกว่าผู้นำเผ่าพันธ์มังกรของพวกมันด้วยซ้ำ!!


 


ต่อให้มันมีความกล้ามากกว่านี้อีก 100 เท่ามันก็ไม่กล้าไปล่วงเกินตัวตนระดับนี้!


 


“ดูเหมือนว่าหากเจ้าไม่เห็นแม่น้ำหวงเหอ ใจยังไม่ยอมรับความตาย?”


 


ต้วนหรูเฟิงกล่าวเย้ยหยันออกมาเสียงเย็น ไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม หากแต่ยิ่งมาแววตายิ่งคมกล้าน่ากลัว


 


“ตี้จิ่ว ถ่างหูของเจ้าฟังไว้เสียให้ดี…ต้วนหลิงเทียน คือจ้าวตำหนักน้อยของตำหนักเมฆาครามเรา!”


 


กู่มี่กล่าวออกเสียงเข้ม ในแววตายังเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน!


 


ต้วนหลิงเทียน!


 


วาจานี้ของกู่มี่ประหนึ่งหินใหญ่ร่วงลงสระก่อเกิดระลอกคลื่นนับพัน พาลให้ตี้จิ่วตกตะลึงพรึงเพริดไปอีกครั้ง!


 


นามต้วนหลิงเทียนนี้ หาใช่นามที่ไม่คุ้นหูของมันไม่!!


 


เมื่อคิดถึงความพ่ายแพ้และความเจ็บใจที่ถูกต้วนหลิงเทียนหลอกต้มวันนั้น มันยังโมโหจนแทบกระอักเลือด!


 


นอกจากนี้มันยังสงสัยว่าต้วนหลิงเทียน สมควรเป็นผู้ที่ฆ่าบุตรชายมัน!


 


ดังนั้นมันจึงมองต้วนหลิงเทียนเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของมัน!


 


ตั้งแต่ต้นจนจบมันไม่เคยเห็นต้วนหลิงเทียนอยู่ในสายตาสักครั้ง เพราะในสายตาของมันต้วนหลิงเทียนก็แค่มดตัวกระจ้อย เพียงมนุษย์อ่อนแอจากทวีปมนุษย์อันกันดารเท่านั้น!!


 


ประสบการณ์เฉียดตาย เพราะถูกต้วนหลิงเทียนหลอกในวันนั้น มันเก็บเอามาฝันร้ายแทบทุกคืน! มันจึงอยากให้ต้วนหลิงเทียนตายยิ่งกว่าอะไร! ยังอยากจะจับอีกฝ่ายมาสับให้เป็นพันชิ้นเผาให้เป็นเถ้าถ่านไม่เหลือศพให้กลบฝัง!!


 


“อาวุโสกู่ใช่เข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่? ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า…ตำหนักเมฆาครามของพวกท่านเป็นขุมพลังที่เทียบได้กับเผ่าพันธุ์มังกรของพวกเรา แต่ต้วนหลิงเทียนนั่นเป็นแค่คนที่มาจากทวีปมนุษย์ห่างไกล ไหนเลยยังเกี่ยวพันกับตำหนักเมฆาครามได้?”


 


สูดลมหายใจเข้าลึกๆครั้งหนึ่ง ตี้จิ่วพยายามกล่าวอธิบายออกมา


 


“ตี้จิ่ว เรื่องนี้เกรงว่าเจ้าจะยังไม่รู้…ไม่ใช่แค่จ้าวตำหนักน้อยจะมาจากทวีปมนุษย์ กระทั่งท่านจ้าวตำหนักเมฆาครามของข้าก็มาจากทวีปมนุษย์เช่นกัน!”


 


กู่มี่ที่เห็นตี้จิ่วยังดื้อรั้นไม่ยอมรับ พลันแสยะยิ้มกล่าวออก


 


และวาจานี้ของกู่มี่ ยังทำลายความหวังสุดท้ายในใจของตี้จิ่วลงเสียสิ้น ทำให้สีหน้าตี้จิ่วแปรเปลี่ยนไปทันควัน ยังเต็มไปด้วยความหวาดผวาพรั่นกลัว!


 


ต้วนหลิงเทียนที่มันคับแค้นแสนเกลียดอยากฆ่าให้ตาย เป็นนายน้อยของตำหนักเมฆาครามจริงๆ?!


 


เรื่องพรรค์นี้มันเป็นไปได้ยังไง!?


 


กระทั่งตอนนี้ใจตี้จิ่วยังไม่อาจยอมรับได้ แม้จะได้ฟังคำยืนยันแล้วก็ตาม


 


“เจ้าเกือบฆ่าบุตรชายคนเดียวของข้าตาย หากข้ายังเฉยไม่ทำอะไร ข้าก็ไม่คู่ควรเป็นบิดา!”


 


ต้วนหรูเฟิงจับจ้องมองตี้จิ่วด้วยสายตาเย็นชา น้ำเสียงแม้เรียบเฉยหากแต่ยะเยือกปานจะแช่ร่างผู้คนให้เป็นน้ำแข็ง “อย่างไรก็ตามข้าไม่คิดจะรังแกเจ้า…ข้าจักระงับพลังฝึกปรือให้อยู่ในด่านพลังเดียวกันกับเจ้า หากเจ้าสามารถรับข้าได้ถึง 10 กระบวนท่า ข้าจะเมตตาไว้ชีวิตเจ้า!!”


 


วาจาต้วนหรูเฟิงแฝงไว้ด้วยความมั่นใจในพลังฝีมือเต็มเปี่ยม!


 


ลดด่านพลังให้ทัดเทียมกัน?


 


10 กระบวนท่า?


 


ตี้จิ่วที่คิดว่ามันต้องประสบคราวเคราะห์ใหญ่หลวงแน่แล้ว พอได้ยินวาจานี้ของต้วนหรูเฟิง สองตามันพลันทอแสงสว่างวาบขึ้นมาทันที!


 


ในสายตาของมันยามประมือกับตัวตนที่อยู่ในขอบเขตพลังเดียวกัน มันมั่นใจเต็ม 10 ส่วนว่าต้องคว้าชัยได้แน่!


 


อนิจจาภาพฝันสวยหรูแต่ความเป็นจริงกลับโหดร้ายเหลือเกิน!


 


ต้วนหรูเฟิงไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาๆ!


 


ถึงแม้ว่าตี้จิ่วจะลงมือด้วยพลังทั้งหมดในร่างมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บ แต่ก็แทบไม่อาจรับต้วนหรูเฟิงได้ครบ 8 กระบวนท่า!


 


และกระบวนท่าที่ 9 ของต้วนหรูเฟิงก็ดับความหวังทั้งมวลของตี้จิ่ว ซัดทำร้ายเสียจนพลังในร่างแทบสาบสูญไม่เหลือหลอแม้กระทั่งพลังจะเหินบินก็ไม่มี หวนคืนสู่ร่างมนุษย์ หล่นร่วงตกฟ้าไปนอนหมดสภาพอยู่บนพื้นอย่างไร้หนทางต่อกร ไม่เหลือความสง่างามน่าเกรงขามของมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บแม้แต่นิดเดียว


 


“ไม่จริง! เป็นไปไม่ได้!!”


 


ตี้จิ่วที่บาดเจ็บสาหัสได้แต่พยายามฝืนยกหัวขึ้นมามองต้วนหรูเฟิงด้วยสายตายากยอมรับ


 


มันมั่นใจได้เต็มสิบส่วนว่าต้วนหรูเฟิงลดพลังให้ทัดเทียมกับมันแล้วจริงๆ กระทั่งพลังที่อีกฝ่ายใช้ออกคล้ายจงใจออมรั้งให้ด้อยกว่ามันด้วยซ้ำ!


 


แต่ถึงกระนั้นยามเผชิญหน้ากับต้วนหรูเฟิง มันรู้สึกเสมือนถูกมัดมือเท้า ไม่อาจรับมือต้านทานอันใดได้เลย ได้แต่ถูกทุบตีฝ่ายเดียว!


 


กล่าวอีกอย่างมันไม่มีแม้แต่โอกาสจะโจมตีสวนกลับสักครั้ง!


 


ในสายตาของมันตอนนี้ ต้วนหรูเฟิงประหนึ่งขุนเขาสูงใหญ่ที่ชั่วชีวิตนี้มันไม่มีวันก้าวข้ามไปได้!


 


อีกทั้งทุกกระบวนท่าของต้วนหรูเฟิง ให้สภาวะประหนึ่งเคลื่อนได้กระทั่งขุนเขาลำน้ำ สร้างแรงกดดันให้มันมากมายสุดจะนับ…อีกทั้งแรงกดดันนี้ไม่ได้มาจากภายนอกถ่ายเดียว ยังเป็นแรงกดดันที่บีบคั้นสะกดใจให้สิ้นหนทาง ทำให้ตอนนี้จิตใจมันแทบพังทลายลงเพราะความสิ้นหวังแล้ว!


 


มาตอนนี้ในที่สุดมันก็ได้รับทราบถึงความน่าสะพรึงกลัวที่เล่าขานกันของจ้าวตำหนักเมฆาคราม!


 


‘กระทั่งลดพลั่งให้ทัดเทียม ไม่สิยังด้อยกว่าข้าด้วยซ้ำ…แล้วหากไม่ยับยั้งพลังฝึกปรือ ข้ายังต่างอันใดกับมดให้มันบี้ยีได้ตามใจ! บัดซบ! กระทั่งตาแก่ผู้นำยังไม่อาจทำให้ข้ารู้สึกสิ้นหวังได้ขนาดนี้…’


 


ตอนนี้ใจตี้จิ่วมีเพียงความตื่นตะลึงต่อพลังฝีมือของต้วนหรูเฟิง ยังลืมเลือนวาจาก่อนหน้าที่ต้วนหรูเฟิงกล่าวออกไปหมดสิ้น


 


อย่างไรก็ตามเมื่อต้วนหรูเฟิงเริ่มโรยตัวลงมาจากฟ้า ตี้จิ่วก็นึกถึงวาจาก่อนหน้าของต้วนหรูเฟิงได้ หน้ามันเปลี่ยนสีเร่งกล่าวออกไปอย่างไม่ยินยอม


 


“ท่านจ้าวตำหนักต้วน! ข้ายอมรับว่าข้าเกือบฆ่าต้วนหลิงเทียน…แต่เหตุผลที่ข้าทำเช่นนั้น เพราะต้วนหลิงเทียนได้ฆ่าบุตรชายเพียงคนเดียวของข้า! ท่านก็เป็นพ่อคน ท่านสมควรเข้าใจข้าดีกว่าใคร!!”


 


เผชิญกับห้วงเวลาแห่งความเป็นตาย ตี้จิ่วได้แต่ร่ำร้องออกมาอย่างคับแค้น ยังกล่าวดังเสียจนแทบจะเป็นการคำรามอยู่รอมร่อ “บุตรชายข้าตี้จิ่วไร้สำคัญหรือไร! ลูกท่านฆ่าลูกชายข้าทั้งคน! หรือข้าไม่สามารถล้างแค้นให้ลูกชายคนเดียวของข้าได้! ข้าขอไถ่ถามท่านความยุติธรรมอยู่ที่ใด!!”


 


“ความยุติธรรม?”


 


ได้ยินวาจาของตี้จิ่ว ต้วนหรูเฟิงกล่าวเย้ยหยันออกมา “ตี้จิ่ว…อายุของข้า เกรงว่ายังไม่ถึง 1 ใน 10 ของเจ้า! ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเราถือพลังฝีมือเป็นที่สุด ชนะเป็นจ้าวแพ้เป็นโจร! เจ้ายังจะร่ำร้องหาความยุติธรรมอุบาทว์อะไร! หรือเจ้าเลอะเลือนจนไม่ทราบเรื่องนี้!?”


 


“และหากเจ้าจะไถ่ถามหาความยุติธรรมอุบาทว์ของเจ้าจริงๆ เช่นนั้นให้ข้าถามเจ้ากลับสักคำ! คนบริสุทธิ์ในนิกายหลิงเทียนของลูกฆ่า รวมทั้งครอบครัวนับหมื่นพันบนเกาะป้านเยว่ทำผิดอะไร! วันนั้นความยุติธรรมอุบาทว์ของเจ้าสาบสูญไปที่ใด!?”


 


“หากเจ้าคิดไถ่ถามหาความยุติธรรมเช่นนั้นข้าจะบอกเจ้า…ข้าต้วนหรูเฟิงคือความยุติธรรม!!”


 


ต้วนหรูเฟิงยากนักที่จะกล่าววาจาออกมายืดยาวขนาดนี้…บางทีอาจเป็นเพราะตี้จิ่วกำลังจะตกตายหรือมีเหตุผลกลใดก็มิอาจทราบได้…


 


หากแต่เมื่อกล่าววาจานี้ออกมากลิ่นอายพลังทั่วร่างของต้วนหรูเฟิงก็แปรเปลี่ยนไปทันใด


 


ยามนี้บรรยากาศทั่วอาณาบริเวณทั้งแผ่นฟ้าพสุธาพลันแปรเปลี่ยน! มันสั่นสะเทือนเลือนลั่นราวกับจุดจบของโลกหล้ากำลังจะมาถึง!!


 


ทันใดนั้นไอพลังทมิฬดั่งเพลิงนรกพลันแผ่พุ่งออกมาท่วมกายต้วนหรูเฟิง เปลวไฟสีดำอันน่ากลัวปานจะติดพรึ่บลุกใหม้ในบรรยากาศ ราวกับจะผลาญเผาแผ่นฟ้าให้มอดม้วย!


 


ครืนนน!!


 


ไม่นานไอพลังดั่งเพลิงทมิซของต้วนหรูเฟิงก็แผ่ปกคลุมไปครึ่งฟ้า ไม่ว่าจะเป็นตัวต้วนหรูเฟิงเอง กู่มี่ที่อยู่ด้านหลัง หรือกระทั่งตี้จิ่ว ล้วนจมจ่อมอยู่ในความมืดมิดจากไอพลังทมิฬของต้วนหรูเฟิงหมดสิ้น!


 


และทันทีที่เพลิงทมิฬนี้ปะทุออกมา กลิ่นอายพลังอันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งทำลายล้างก็ท้วมท้นออกมาสะกดข่มในบรรยากาศ กระทั่งเผ่าพันธุ์มังกรทั้งเผ่าพันธุ์ที่อยู่ห่างไกลจากพื้นที่ส่วนนี้ยังตระหนักได้ถึงกลิ่นอายทำลายล้างอันบ้าคลั่งดังกล่าว!


 


พริบตานี้คนของเผ่าพันธุ์มังกรที่พลังฝึกปรือไม่บรรลุถึงเซียน ล้วนไม่เหลือเรี่ยวแรงกระทั่งทรงตัวยืนหยัด! ทรุดร่างลงไปตั่วสั่นงันงก ยังหน้าซีดเซียวโลหิตเริ่มกระอักออกปาก ที่อ่อนด้อยหน่อยก็โลหิตทะลักออกทวารทั้ง 7!


 


พวกมันนับว่าโชคดีแล้วที่อยู่ห่างไกล!


 


ตี้จิ่วที่อยู่ ณ จุดศูนย์กลางของพลังตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ ลมหายใจแทบหมดสิ้นเต็มที!


 


ในสายตาของกู่มี่ ตี้จิ่วนั้นมันต้องตายคาที่แน่แท้หากจ้าวตำหนักผู้ร้ายกาจของมันคิดลงมือ


 


อย่างไรก็ตามต้วนหรูเฟิงกลับยังไม่ลงมือเสียที คล้ายไม่คิดฆ่าตี้จิ่วอย่างไรอย่างนั้น คนขมวดคิ้วครู่หนึ่งค่อยกล่าวออกมาเสียงเย็น “ตี้ชาน เจ้ายังไม่โผล่หัวออกมาอีก!!”


 


ตี้ชาน!


 


เมื่อกู่มี่ได้ยินวาจาเรียกหาของต้วนหรูเฟิง ใจมันสะท้านไปทันใด!


 


นามตี้ชานไม่ใช่นามแปลกใหม่ไม่คุ้นเคยกับมันแต่อย่างไร…เพราะนั่นเป็นนามของผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรคนปัจจุบัน!


 


หากจะถามว่าในเผ่าพันธุ์มังกร มันกู่มี่หวาดกลัวผู้ใดมากที่สุด ย่อมเป็นตี้ชานอย่างไม่ต้องสงสัย


 


ตี้ชานนั้น ด้วยฐานะของผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร อีกฝ่ายย่อมมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกับจ้าวตำหนักของมัน ไม่ใช่ตัวตนที่มันกู่มี่จะเทียบได้!


 


ยามเมื่อไอพลังดั่งเพลิงทมิฬท่วมท้นออกมาปานจะถมเต็มความว่าง ย้อมชโลมกลางวันให้มืดมิดประดุจกลางคืน และตี้จิ่วที่กำลังจะถูกแรงกดดันพลังอันหนักอึ้งกดทับจนตาย! พริบตานั้นเองก็มีม่านพลังสีทองหนึ่งปรากฏออกมาจากความว่างฉาบคลุมช่วยชีวิตเอาไว้มันได้ทันท่วงที! หากมองไปยังม่านพลังสีทองที่ห่อหุ้มฉาบคลุม คล้ายจะเกิดจากมังกรพลังสีทองตัวเล็กๆแหวกว่ายเวียนวนไปมาด้วยความเร็วสูงล้ำ!!


 


และตอนนี้เองในม่านพลังสีทองดังกล่าวนอกจากตี้จิ่วแล้ว ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใด แต่กลับมีชายชราแลดูแข็งแกร่งยืนอยู่ในนั้นเพิ่มมาอีกคน!


 


ชายชราดังกล่าวมาในชุดคลุมสีทอง เพียงยืนอยู่เฉยๆก็ให้สภาวะประหนึ่งหอคอยสูงตระหง่าน มันยืนหยัดด้านหน้าตี้จิ่ว เร่งเร้าพลังทั่วกายแผ่แรงกดดันอันน่ากลัวสวนกลับออกมา!


 


แน่นอนว่าแรงกดดันดังกล่าวไม่อาจทำอะไรต้วนหรูเฟิงได้แม้แต่เศษเสี้ยว


 


อย่างไรก็ตามกู่มี่ที่อยู่เยื้องไปด้านหลังต้วนหรูเฟิงย่อมไม่อาจทานรับได้อย่างไร้เรื่องราว ใบหน้าของมันเคร่งขรึมทั้งซีดลงอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกว่ากำลังพยายามฝืนต้านทานสุดกำลัง!


 


แรงกดดันที่ปะทะต้านทานกันของตัวตนระดับนี้ เป็นเรื่องหนักหนาสำหรับมันนัก!!


 


และชายชราที่สามารถยืนหยัดแผ่พลังกดดันต้านทานต้วนหรูเฟิงได้ ย่อมเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร ตี้ชาน!


 


ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!


 


……


 


ทันใดนั้นเองร่าง 5 ร่างพลันพุ่งมาฉับไวไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังตี้ชาน ในบรรดา 5 ร่างดังกล่าวมีชิงเหยียนมังกรเทพยาดาสีเขียว 5 กรงเล็บ สื่อชิงมังกรเทพยาดาสีม่วง 5 กรงเล็บ ที่ถูกต้วนหรูเฟิงสยบในฝ่ามือเดียว รวมทั้งเฉวียฉานมังกรโลหิต 5 กรงเล็บ ตอนนี้พวกมันยืนรายล้อมบังหน้าตี้จิ่วเอาไว้ดั่งดาวล้อมเดือน!


 


5 ร่างที่มาใหม่นอกจากชิงเหยียน สื่อชิง รวมถึง เฉวี่ยฉานแล้ว ยังมีชายชราหน้าใหม่ปรากฏตัวออกมาอีก 2 คน


 


เพียงตรวจสอบจากกลิ่นอายพลังที่ทั้ง 2 คนแผ่ออกมาช่วยตี้ชานต้านทานแรงกดดันพลังของต้วนหรูเฟิง ก็บ่งบอกให้รู้ชัด ว่าแม้พลังฝีมือพวกมันไม่อาจทัดเทียมเฉวี่ยฉาน แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสื่อชิง!


 


พวกมันคือ 2 ใน 3 ที่เหลืออยู่ของมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บในเผ่าพันธุ์มังกร!


 


ในเผ่าพันธุ์มังกรนั้นจะมีมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บดำรงอยู่ 9 ตัวเสมอ!


 


และในยุคสมัยนี้ เนื่องจากการดำรงอยู่ของตี้ยง ที่เป็นมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บทว่าเป็นมังกรมาร ทำให้ในเผ่าพันธุ์มังกรคงเหลือมังกรเทพยดา 5 กรงเล็บอยู่แค่ 8 ตัว!


 


และตอนนี้นอกจากมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บอีก 1 ตัวที่ไม่ได้อยู่ในเผ่าพันธุ์มังกร นับว่ามังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บเท่าที่เหลืออยู่ในเผ่าทั้งหมด 7 จาก 8 ตัวรวมไปถึงผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร ได้ออกมาเผชิญหน้ากับต้วนหรูเฟิงครบหมดสิ้น!!


 


อย่างไรก็ตามแม้จะเผชิญหน้ากับมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บทั้ง 7 ตัวของเผ่าพันธุ์มังกร หน้าต้วนหรูเฟิงยังไม่เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว


 


คล้ายตอนนี้มันไม่ได้เผชิญหน้ากับมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บ 7 ตัว แต่เผชิญหน้ากับคนธรรมดา 7 คน!


 


“ท่านจ้าวตำหนักต้วน ท่านไม่เพียงจะบุกรุกมายังเผ่าพันธุ์มังกรของข้า…แต่ท่านยังคิดจะฆ่าผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรรุ่นต่อไปของเผ่าพันธุ์มังกรข้าด้วยหรือ…หรือท่านคิดว่าในเผ่าพันธุ์มังกรของข้าไร้ยอดฝีมือที่สามารถต้านทานท่านได้แล้ว?”


 


หนึ่งใน 2 มังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บที่พึ่งปรากฏตัวออกมา พลันก้าวออกมาก้าวหนึ่ง จับจ้องมองไปยังต้วนหรูเฟิงด้วยสายตาเย็นชา กล่าวถามออกมาเสียงเข้ม


 


“เจ้านับเป็นตัวอะไรถึงได้หาญกล้ากล่าววาจากับท่านจ้าวตำหนักของข้าด้วยน้ำเสียงเช่นนี้?”


 


ในขณะที่ต้วนหรูเฟิงยังคงเฉยเมยไร้แยแส กู่มี่พลันก้าวออกมามองจ้องอีกฝ่ายตาเขม็ง ตะคอกกล่าวออกไปเสียงเย็น!

 

 

 


ตอนที่ 1578

 

ความจริงเปิดเผย


 


“กู่มี่ ที่นี่คือเผ่าพันธุ์มังกร! มิใช่ตำหนักเมฆาครามของเจ้า!!”


 


ชายชราที่กล่าวเมื่อครู่ถึงกับหน้าแดงก่ำจากคำของกู่มี่ มันหันมองกู่มี่ตาขวาง กล่าวออกเสียงเข้ม


 


“ถอยกลับมา”


 


และในขณะที่กู่มี่คิดกล่าวอะไรออกมาอีกครั้ง เสียงตี้ชานพลันดังขึ้นเสียก่อน


 


แม้ชายชราเมื่อครู่จะเป็นมังกรเทยาดา 5 กรงเล็บเช่นกัน แต่มันก็ไม่กล้าจะข้ามหน้าข้ามตาตี้ชาน จึงถอยกลับมาแต่โดยดี


 


หากแต่มันยังคงมองกู่มี่ตาขวาง แววตายังเผยประกายเย็นเยียบ


 


“อะไร? อยากลองกับข้ารึ?”


 


เห็นประกายเย็นเยียบในแววตาชายชรา กู่มี่พลันหัวร่อออกมาค่อยกล่าว “มิใช่ว่าข้าดูแคลนอะไรเจ้า…ทว่าในเผ่าพันธุ์มังกรของเจ้า มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่ทำให้ข้ายำเกรง แน่นอนว่าเจ้ามิได้เป็น 1 ในนั้น!”


 


ชายชราได้ยินคำนี้ของกู่มี่ยิ่งมาหน้าก็ยิ่งแดงก่ำไปด้วยโทสะ แต่มันก็พูดไม่ออก!


 


เพราะเรื่องนี้มันไม่อาจปฏิเสธได้


 


ถึงแม้มันจะถลึงตามองกู่มี่อย่างเอาเรื่อง แต่มันรู้ดีว่ามันไม่ใช่คู่มือของกู่มี่


 


ในเผ่าพันธุ์มังกรของพวกมันมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่สยบกู่มี่ได้ และมีอีก 1 คนเท่านั้นที่สามารถยันกับกู่มี่ได้อย่างทัดเทียม…ส่วนที่เหลือรวมถึงมัน ไม่ใช่คู่มือกู่มี่เลย


 


เมื่อเห็นว่าชายชราเงียบปากสงบวาจาไปแล้ว กู่มี่พลันถอยร่นไปยืนหลังต้วนหรูเฟิงอย่างเรียบๆร้อยๆ


 


“ท่านจ้าวตำหนักต้วน มิทราบว่าตี้จิ่วไปทำอันใดให้ท่านขุ่นขึ้งใจกัน?”


 


ตี้ชานมองถามต้วนหลิงเทียนอย่างใจเย็น คล้ายอารมณ์ของมันไม่ได้ขุ่นมัวแม้แต่น้อยที่ต้วนหรูเฟิงเกือบฆ่าตี้จิ่วตาย


 


“ตี้ชาน…จะเป็นอย่างไรหากมีคนคิดฆ่าบุตรชายคนเดียวของเจ้า?”


 


ต้วนหรูเฟิงหัวเราะประชดออกมาเบาๆ


 


“หืม!?”


 


ได้ยินคำนี้ของต้วนหรูเฟิง ตี้ชานอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เพราะมันพึ่งมาจึงไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไร


 


จังหวะนี้มันอดไม่ได้ที่จะหันมองไปยังตี้จิ่ว


 


“ลูกชายของจ้าวตำหนักต้วน…คือต้วนหลิงเทียน”


 


ตี้จิ่วรู้สึกโชคดีนักที่รอดตายมาได้ ตอนนี้ใบหน้ามันผ่อนคลายลงไม่น้อยเมื่อเห็นตี้ชานและเหล่าอาวุโสมารวมตัวกัน แต่อย่างไรเสียยามตอบคำถามตี้ชาน น้ำเสียงสีหน้ามันก็เผยความขื่นขมไม่น้อย


 


ถึงแม้ว่ามันไม่อาจสลายความแค้นที่มีต่อต้วนหลิงเทียนได้ แต่พอรู้ว่าบิดาของต้วนหลิงเทียนคือต้วนหรูเฟิงผู้เป็นถึงจ้าวตำหนักเมฆาคราม มันก็รู้ดีว่ามันไม่อาจตอแยตำหนักเมฆาครามได้! เพราะนั่นแทบไม่ต่างอะไรกับตั๊กแตนคิดหยุดรถม้า!!


 


“ต้วนหลิงเทียน?”


 


ได้ยินคำตอบของตี้จิ่ว ตี้ชานอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วยู่ย่น


 


แน่นอนว่านามนี้ไม่ใช่นามแปลกหูสำหรับมันแต่อย่างไร เพราะนี่คือนามของคนที่ตี้จิ่วขอแรงมันให้ช่วยออกตามหา เพราะนั่นคือผู้ที่น่าจะเป็นฆาตกรฆ่าตี้ยง!


 


มันเองก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าชายหนุ่มจากทวีปมนุษย์ที่ฆ่าบุตรชายตี้จิ่ว จะเป็นบุตรชายของต้วนหรูเฟิงผู้เป็นจ้าวตำหนักเมฆาครามไปได้!


 


ถึงแม้ต้วนหรูเฟิงจะเป็นจ้าวตำหนักเมฆาครามที่มีอายุน้อยกว่ามันมาก แต่มันก็รู้ดีถึงความน่ากลัวของต้วนหรูเฟิง…จ้าวตำหนักเมฆาครามคนที่แล้วก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่ามันเลย ทว่ากลับต้องตายด้วยน้ำมือของต้วนหรูเฟิง!


 


และนั่นทำให้ต้วนหรูเฟิงสามารถใช้พลังอำนาจ ปกครองตำหนักเมฆาครามได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด!


 


ถึงแม้มันจะยังไม่เคยปะทะกับต้วนหรูเฟิงสักครั้ง แต่มันรู้ดีแก่ใจว่ามันไม่อาจเอาชนะต้วนหรูเฟิงได้!


 


“ตี้ชาน…วันนี้ตราบใดที่มันตาย ข้าจะจากไปโดยดี”


 


ต้วนหรูเฟิงกล่าวออกเสียงเรียบ ในวาจาแฝงเร้นไว้ด้วยความเด็ดขาดไม่เหลือพื้นที่ให้ต่อรอง!


 


ได้ยินคำของต้วนหรูเฟิง เฉวียฉาน ชิงเหยียน และอาวุโสคนอื่นๆของเผ่าพันธุ์มังกรหน้าเปลี่ยนสีไปทันที สุดท้ายเป็นเฉวี่ยฉานที่ก้าวออกมาพร้อมถาม “จ้าวตำหนักต้วน ข้าสงสัยนักว่าตี้จิ่วไปทำอันใดให้ท่านมิพอใจนักหนา ถึงต้องคิดฆ่าฟันกันเช่นนี้?”


 


“เฉวี่ยฉาน ข้าจักเตือนเจ้าด้วยความหวังดี…อยู่ให้ห่างเรื่องนี้เสีย!”


 


เมื่อเห็นว่าต้วนหรูเฟิงไม่สนใจจะตอบคำถามเฉวี่ยฉาน เป็นกู่มี่ที่กล่าวตอบเฉวี่ยฉานออกมาแทน “ตี้จิ่วของเผ่าพันธุ์มังกรเจ้า! แม้วันนี้มันต้องตายด้วยน้ำมือท่านจ้าวตำหนักของข้าก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว! เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันเกือบสังหารท่านจ้าวตำหนักน้อย บุตรชายคนเดียวของท่านจ้าวตำหนัก?!”


 


“อะไรนะ!”


 


วาจานี้ของกู่มี่ไม่เพียงทำให้เฉวี่ยฉานตะลึง กระทั่งอาวุโสคนอื่นๆ ยกเว้นตี้จิ่วกับตี้ชานที่รู้แต่แรกยังอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก


 


จังหวะนี้พวกมันหันขวับมาจับจ้องตี้จิ่วที่นอนหมดสภาพด้านหลังอย่างพร้อมเพรียง


 


“ตี้จิ่ว! เรื่องนี้จริง!?”


 


เฉวี่ยฉานกล่าวถามเสียงเข้ม


 


เมื่อเห็นว่าตี้จิ่วไม่ปฏิเสธเพียงก้มหน้าลงไป อาวุโสทั้งหลายถึงกับหน้าคล้ำดำลง! เห็นชัดว่ากำลังโมโหตี้จิ่วนักที่ชักนำเภทภัยมาสู่เผ่าพันธุ์มังกร!!


 


ถึงแม้พวกมันจะคิดว่าคราวนี้ตี้จิ่วนับเป็นคนบาป แต่จะอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นเผ่าพันธุ์มังกร แน่นอนว่าด้วยฐานะอาวุโสของเผ่าพันธุ์ทั้งยังเป็นมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บ พวกมันย่อมให้ความสำคัญสูงสุดกับพวกพ้องและสายเลือด


 


“กู่มี่ เรื่องนี้ใช่มีอันใดเข้าใจผิดกันหรือไม่?”


 


เฉวี่ยฉานหันกลับมามองกู่มี่ ค่อยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง


 


“เข้าใจผิด?”


 


กู่มี่ได้ฟังก็กล่าวเยาะเย้ยออกมาเสียงดัง “หากจะไถ่ถามว่าเข้าใจผิดหรือไม่ เกรงว่าเป็นพวกเจ้าเผ่าพันธุ์มังกรล้วนกำลังเข้าใจผิด! ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่นายน้อยของข้าลงมือสังหารบุตรชายของตี้จิ่วจริงหรือไม่ ต่อให้นายน้อยข้าทำจริง แต่นั่นก็ถือเป็นการคลี่คลายภัยพิบัติให้เผ่าพันธุ์มังกรของพวกเจ้าด้วยซ้ำ! หรือพวกเจ้าจะบอกข้าว่า…พวกเจ้าอยากให้มังกรมาร 5 กรงเล็บที่เต็มไปด้วยความคับแค้นเติบโต?”


 


มังกรมาร 5 กรงเล็บ!


 


ทันทีที่วาจานี้ของกู่มี่ลั่นดังออกมาจากปาก สีหน้าตี้จิ่วก็เปลี่ยนไปมหันต์ มันไม่คิดเลยว่าตี้จิ่วจะเปิดเผยความจริงออกมาแบบนี้!


 


มังกรมาร 5 กรงเล็บนั่นเป็นตัวตนต้องห้ามของเผ่าพันธุ์มังกร!


 


ตอนนั้นยามที่ตี้ยงบุตรชายของมันคลอดออกมา…ก็ได้รับโทษประหารทันที! เพราะตัวตนอย่างมังกรมาร 5 กรงเล็บ เป็นดั่งหายนะของเผ่าพันธุ์มังกร! ไม่อาจเลี้ยงไว้ได้!!


 


ถึงแม้ตี้จิ่วจะลอบใช้กลอุบายบางประการช่วยเหลือชีวิตตี้ยงมาได้ แต่มันก็ไม่กล้าให้ตี้ยงเติบโตในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า มันจึงลอบส่งตี้ยงไปยังเกาะป้านเยว่ใกล้ๆทวีปเมฆาล่อง!


 


และมีเพียงตัวมันเท่านั้นที่ล่วงรู้เรื่องนี้


 


ถึงแม้หลายคนในเผ่าพันธุ์มังกรจะสงสัยว่าตี้ยงอาจจะยังไม่ตาย เพราะมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บตัวที่ 9 กลับไม่ถือกำเนิดออกมาเสียที แต่พวกมันก็ไร้หลักฐานไร้ข้อพิสูจน์ด้วยไม่อาจหาตัวตี้ยงพบ!


 


ทว่ามาวันนี้กู่มี่กลับเปิดเผยความจริงดังกล่าวออกมา ทำให้ในใจมันบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้น!


 


ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร ตี้ชาน จับจ้องมองกู่มี่อย่างสงบ หากแต่ในแววตาเผยประกายเย็นเยียบไม่น้อย เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้รู้สึกยินดีเลย ที่กู่มี่เปิดโปงเรื่องมังกรมาร 5 กรงเล็บออกมา


 


“อะไร? หรือที่แท้พวกเจ้าก็มิได้รู้เลยว่าบุตรชายของตี้จิ่วที่เรียกว่าตี้ยงอันเป็นมังกรมาร 5 กรงเล็บนั่น ยังมีชีวิตรอดอยู่มาหลายปี?”


 


อย่างไรก็ตามด้วยมีต้วนหรูเฟิงอยู่ กู่มี่ย่อมไม่หวาดกลัวตี้ชานแต่อย่างใด ยังคงกล่าวเย้ยเยาะออกมาด้วยน้ำเสียงขบขัน “เผ่าพันธุ์มังกรของพวกเจ้า กล่าวไปสมควรขอบคุณนายน้อยข้าด้วยซ้ำ! มังกรมาร 5 กรงเล็บนั่นมันรอดพ้นจากความตายไปได้หลายปีก่อนย่อมมีความแค้นต่อพวกเจ้าเต็มหัวใจ…แต่สุดท้ายมันก็ถูกนายน้อยของข้าฆ่าตาย! หาไม่แล้ววันใดที่มันเติบโตขึ้นมาล่ะก็… พวกเจ้าคงยังมิได้ลืมเลือนคำสอนของบรรพบุรุษพวกเจ้าใช่หรือไม่?”


 


คำสอนที่เป็นดั่งกฏที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดของบรรพพบุรุษเผ่าพันธุ์มังกรก็คือ…ต้องสังหารมังกรมาร 5 กรงเล็บตั้งแต่แรกเกิด เพื่อป้องกันหายนะในภายภาคหน้า!


 


“ตี้จิ่ว! ที่แท้ตอนนั้นบุตรชายเจ้ายังมิตายจริงๆ!!”


 


ใบหน้าสื่อชิงมืดคล้ำลงปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก


 


สีหน้าอาวุโสที่เหลือก็ไม่ค่อยจะสู้ดีเช่นกัน


 


“จึกๆๆ..ดูเหมือนพวกเจ้าจักหน้ามืดตามัวกันมานานปี มิรู้ความอันใดเลยจริงๆ”


 


กู่มี่ส่ายหัวไปมาพร้อมเดาะลิ้นค่อยกล่าว “เช่นนั้นข้าคิดว่าพวกเจ้าเองก็คงมิรู้เรื่องนี้ ว่าต้วนหลิงเทียนที่พวกเจ้าเผ่าพันธุ์มังกรค้นหากันให้ควั่กอย่างไร้เหตุผล ก็คือผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อเผ่าพันธุ์มังกรของพวกเจ้า! นายน้อยตำหนักเมฆาครามของข้า!!”


 


วาจานี้ของกู่มี่ดังศรที่พุ่งไปปักกลางใจของอาวุโสเผ่าพันธุ์มังกรก็ไม่ปาน!


 


เมื่อเร็วๆนี้คนของเผ่าพันธุ์มังกรได้ถูกส่งออกไปตามล่าหาตัวชายหนุ่มนามต้วนหลิงเทียนจริงๆ แต่พวกมันหลงคิดว่าเป็นผู้นำที่ต้องการตัว ไม่ใช่ตี้จิ่ว


 


ตอนนี้เองเฉวี่ยฉานและอาวุโสเผ่าพันธุ์มังกรที่เหลือพลันหันขวับไปมองตี้ชาน สายตาทั้งหลายเผยความสับสนไม่เข้าใจ และรอการยืนยันจากตี้ชาน


 


ตี้ชานพลันพยักหน้ารับเบาๆ


 


เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วตี้ชานรู้ดีว่าไม่อาจปิดบังได้อีก


 


ทันใดนั้นใบหน้าเฉวียฉานและอาวุโสมังกรที่เหลือ ก็กลายเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ หันไปมองตี้จิ่วด้วยสายตาเอาเรื่อง เพราะมันเป็นตัวชักนำเภทภัยมาสู่เผ่ามังกรแล้วจริง!


 


การที่จ้าวตำหนักเมฆาครามบุกมาฆ่าตี้จิ่ว นับว่าไม่ได้ไร้เหตุผล!!


 


เรื่องนี้เผ่าพันธุ์มังกรล้วนจุกอยู่ในอก! ไร้คำจะกล่าวแล้วจริงๆ!!


 


ในขณะที่ต้วนหรูเฟิงกำลังเผชิญหน้ากับ มังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บทั้ง 7 ตัวของเผ่าพันธุ์มังกรนั้นเอง..


 


ทางด้านเมืองหลวงของประเทศฝูเฟิง ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็เริ่มออกเดินทางพร้อมซือถูหังคุณชายใหญ่แห่งตระกูลซือถู และซือถูโฮ่วผู้อาวุโสสูงของตระกูลซือถู มุ่งหน้าไปยังนิกายอัคคีล่องลอย เพื่อท้าทายศิษย์ของนิกายอัคคีล่องลอยผู้ที่อยู่ในอันดับที่ 23 ของรายนามนภา แม่นางเฟิ่ง!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)