Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1704-1705
ตอนที่ 1704 หักขาแล้วโยนทิ้ง!
“บอด? เฮอะ! เจ้าสิตาบอด!”
เจียนหยู่นั้นโกรธแค้นทันทีที่ได้ยินคำนั้น เพราะอยู่ดีๆ ไอ้เจ้าหมอนี่ก็แช่งให้เขาตาบอด!
แต่จริงๆ แล้วเย่หยวนไม่ได้แช่งใครทั้งสิ้น แต่เรื่องที่ว่าศาสตร์ของเจียนหยู่นั่นอ่อนแอจนไปเกินไปนั้นก็เป็นเรื่องจริง
เพราะหากมันเป็นเจียนเจิ้นเทา หากเขาหันมาตั้งใจมองเย่หยวนเมื่อใดตาของเขาก็จะบอดลงไปทันที
แต่เป็นเพราะชายคนนี้มันไม่มีความสามารถมากพอจึงไม่รู้สถานการณ์ที่แท้จริง ทำให้มันเป็นเหมือนว่าเย่หยวนนั้นไม่ติดอันดับใดๆ
พ่อของเด็กสาวคนนั้นเองก็ไม่ต่างกัน
เย่หยวนหันไปมองและโบกมือไล่ “นายน้อยคนนี้จะดูดวง หากพวกเจ้าอยากดูด้วยก็ไปรอต่อแถว อย่าได้ส่งเสียงรบกวนวุ่นวาย หากไม่ได้มาดูก็ไปไกลๆ อย่าได้มาเต้นแร้งเต้นกาสร้างความรำคาญแถวนี้”
เจียนหยู่หรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินและถาม “เด็กน้อย มาที่เจ้ามาดูดวงที่นี่มันเท่ากับฝ่าฝืนข้อห้ามของข้า! เจ้ากล้าจะต่อต้านตระกูลเจียนเรารึ?”
เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็แทบกลั้นขำไม่อยู่ “ข้อห้าม? จะบอกว่าเจ้าห้ามไม่ให้ข้ามาดูดวงที่นี่อย่างนั้นรึ?”
เจียนหยู่หรี่ตาแคบลงก่อนจะหันไปมองที่เด็กสาวแทน “เสี่ยวหรานเจ้า…เจ้าลองบอกมันหน่อยสิว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร?”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นทันทีก่อนจะหันไปหาเด็กสาว
หรานเอ๋อนั้นดูเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่ตื่นกลัว สีหน้าของนางนั้นซีดเผือด ทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นต้องรู้สึกอยากปกป้องดูแลทันทีที่ได้เห็น
เมื่อเห็นว่าเย่หยวนกำลังมองมาด้วยความสงสัย หรานเอ๋อก็บอกด้วยเสียงสั่นๆ “นายท่าน ข้า…ขอโทษ มันเป็นความผิดหรานเอ๋อเองที่ทำร้ายท่าน! ท่าน…ท่านรีบหลบหนีไปเถอะ ไม่เช่นนั้น…ไม่เช่นนั้นพวกมันจะหักขาท่าน! นายน้อยเจียนหยู่นั้นมาเตือนเราพ่อลูกก่อนหน้านี้ว่าหากมีใครมาดูดวงรับคำทำนายจากเรา เขาจะหักขามันผู้นั้นทิ้ง!”
เจียนหยู่มองดูด้วยรอยยิ้มเยาะ “ได้ยินไหมเด็กน้อย? อย่าได้มาโทษว่านายน้อยผู้นี้เลย หากอยากโทษใครก็ไปโทษเสี่ยวหรานนู่น! เอา จัดการ ไปหักขาไอ้เด็กน้อยคนนี้ให้ข้าหน่อย!”
เหล่าลูกน้อยทั้งหลายของเขายกมือยกไม้ขึ้นมาทำท่าทางพร้อมหาเรื่องเต็มที่ก่อนจะเข้ามาล้อมพวกเขาไว้
คนรอบๆ ที่เห็นภาพนั้นได้แต่แสดงสีหน้าสุดเอือมระอาออกมา
“เฮ้อ เด็กคนนี้มันโชคร้ายจริงๆ ดันเผลอไปทำให้จอมมารเจียนหยู่โกรธเช่นนี้ได้”
“เสี่ยวหรานเองก็น่าสงสารเสียจริงๆ ทั้งพ่อทั้งลูกต่างถูกผลักให้เข้าตาจนเช่นนั้น!”
“ใครไปทำให้จอมมารอย่างเจียนหยู่มาต้องตาเด็กน้อยเสี่ยวหรานคนนี้กัน? พวกเขาไปทำบาปกรรมใดมาหนอ?!”
…
ดูท่าแล้วคนรอบๆ เองก็คงเกรงกลัวเจียนหยู่คนนี้อยู่ไม่น้อย
ตอนนั้นเองที่จู่ๆ ก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งออกมาตรงเข้าหาเจียนหยู่!
“เจียนหยู่ ข้าจางห่าวเทียนขอสู้กับเจ้าให้มันตายกันไปข้าง ต่อให้ต้องตายข้าก็ไม่ยกเสี่ยวหรานให้คนอย่างเจ้า!”
นี่เป็นการโจมตีที่แสนฉับพลัน ทุกคนไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นทำให้เจียนหยู่หน้าเสียไปไม่น้อย
ปัง!
จู่ๆ ก็มีอีกร่างเดินออกมารับหน้าเจียนหยู่ไว้ และต่อยส่งร่างของจางห่าวเทียนจนลอยกระเด็น
จางห่าวเทียนลงไปนอนกองกับพื้นโดยมีเลือดหลั่งไหลออกมาไม่หยุด
จางห่าวเทียนนั้นเป็นเพียงแค่นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาว แถมยังขาเสียไปข้าง
ลูกน้องคนเจียนหยู่แต่ละคนนั้นอย่างน้อยๆ ก็มีพลังบ่มเพาะอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาว มีหรือที่จางห่าวเทียนจะยังสู้ได้?
เมื่อเย่หยวนได้เห็นเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นรวมๆ กับคำพูดที่คุยกัน ตอนนี้เขาจึงพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว
เจียนหยู่คนนี้คงเกิดชอบพอในหน้าตาจางเสี่ยวหรานและอยากได้ตัวนางไป แต่ทั้งจางห่าวเทียนและจางเสี่ยวหรานกลับไม่คิดที่จะยอมง่ายๆ
เพราะเช่นนั้นเจียนหยู่จึงได้พยายามผลักไม่ให้พ่อลูกคู่นี้ได้เปิดร้าน แถมยังไม่หยุดที่จะระรานพวกเขาด้วยการตั้งกฎโง่ๆ อย่างการหักขาทุกคนที่เข้ามารับคำทำนาย
เมื่อพ่อลูกคู่นี้ไม่มีปัญญาจะหาเลี้ยงชีพ สุดท้ายพวกเขาก็ต้องยอมจำนน
แน่นอนว่าจางเสี่ยวหรานนั้นไม่คิดที่จะยอมรับมัน นางจึงใช้โอกาสที่เจียนหยู่ไม่อยู่ในการดึงเย่หยวนเข้าร้านมารับการทำนาย
นางแค่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเจียนหยู่นั้นได้ปล่อยกำลังคนจับตาดูไว้ตลอด เมื่อเย่หยวนนั่งลง เขาก็รู้ได้ทันที
เย่หยวนจึงถูกดึงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในครั้งนี้อย่างไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้นเช่นนี้
“จางห่าวเทียน เจ้ารนหาที่ตายเสียแล้ว! พวกเจ้าไปจัดการหักขาไอ้เด็กคนนี้ให้ข้า จากนั้นก็อุ้มทั้งพ่อทั้งลูกคู่นี้ไปให้ข้าด้วย!” เจียนหยู่ตะโกนอย่างโกรธแค้น
“ขอรับ!” เหล่าลูกน้องทั้งหลายต่างรับคำสั่งและมุ่งหน้าเข้ามาหาเย่หยวนราวกับหมาบ้าที่จ้องจะกัดเหยื่อ
เย่หยวนจึงบอก “เทียนปิง จัดการพวกมันทั้งหมดแล้วเอาไปโยนทิ้งที!”
“ขอรับนายใหญ่!”
หนิงเทียนปิงตอบกลับไปและปล่อยคลื่นพลังของยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวออกมาจนทำให้หน้าของคนที่อยู่รอบๆ ต้องเปลี่ยนสี
ตอนที่เข้าเมืองมาเย่หยวนไม่อยากจะทำตัวเด่นนัก เขาจึงได้บอกให้หนิงเทียนปิงปกปิดคลื่นพลังไว้
เจียนหยู่นั้นได้เห็นว่าพลังของหนิงเทียนปิงนั้นไม่ได้เก่งกาจมากมาย จึงกล้าที่จะวางตัวกร่างได้ขนาดนี้
เขาแค่นึกไม่ถึงว่าจริงๆ แล้วหนิงเทียนปิงจะเป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวด้วยอายุเพียงเท่านี้!
หลายปีที่ผ่านมานี้พลังบ่มเพาะของหนิงเทียนปิงนั้นเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดตามการพัฒนาของเย่หยวนมา ตอนนี้เขาได้บรรลุผ่านขึ้นมาเป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และเมื่อเขาลงมือ มีหรือที่เหล่านักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นต้นเหล่านี้จะรับมือได้?
เสียงร่ำร้องอันโหยหวนดังก้องไปทั่วบริเวณ ตอนนี้ถนนทั้งเส้นมีสภาพที่สุดแสนจะเละเทะ
หนิงเทียนปิงนั้นไม่ได้สังหารใครลง เขาแค่หักขาของพวกนั้นทั้งหลายลงก็เท่านั้น
เหล่าคนรับใช้ของตระกูลจึงได้แต่นอนกองลงกับพื้นเช่นนั้นอย่างไม่มีทางขัดขืน ได้แต่ร่ำไห้อย่างไม่มีหยุด
เหล่าผู้คนที่มองดูอยู่ไกลๆ ได้แต่ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า
“เด็กคนนี้มันเป็นใครมาจากไหนกัน? ถึงกับจะยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวเป็นผู้ติดตามได้!”
“ตลกเสียจริงๆ เด็กคนนี้มันไม่มีอนาคตใดๆ และเป็นได้แค่ขยะ แต่กลับมีผู้ติดตามเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาว!”
“คงเพราะทั้งเขาและตระกูลของเขาไม่รู้ถึงเรื่องนี้แหละมั้ง? การมาถึงเมืองจักรพรรดิเลิศประกายในวันนี้คนทำให้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเปิดเผยออกมา”
…
ระหว่างที่พวกเขาชื่นชมพลังฝีมือของหนิงเทียนปิงไป เหล่าหมอดูคนอื่นๆ ก็ได้แต่สงสัยในตัวเย่หยวนมากขึ้นกว่าเก่า
หลายๆ คนพยายามใช้ปราณเทวะของตัวเองเพื่อเพ่งมองดูชะตาเย่หยวน แต่ก็พบเพียงแค่ว่ามันเป็นชะตาที่แห้งเหี่ยวไม่มีสัญญาณของคลื่นใดๆ เลยแม้แต่น้อย
ไม่ติดอันดับ!
“นายใหญ่ แล้วเจ้าหมอนี่เอายังไงดี?” หนิงเทียนปิงหันไปถามอย่างสบายๆ
เจียนหยู่นั้นมีใบหน้าที่ไร้สีเลือดสนิท เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะเดินมาสะดุดก้อนเหล็กเข้าแบบนี้!
“เจ้ากล้าแตะต้องนายน้อยผู้นี้หรือ? ข้านั้นคือสมาชิกตระกูลเจียนนะ! หากเจ้ากล้าแตะต้องข้ามันก็เท่ากับว่าเจ้ายืนเหยียบหัวตระกูลเจียน! เจ้าคิดถึงผลที่จะตามมาเองเถอะ!” แม้ว่าเจียนหยู่จะกลัว แต่เมื่อนึกถึงกำลังของตระกูลแล้วเขาก็เกิดใจชื่นขึ้นมาได้บ้าง
และแน่นอนว่าตอนนี้เมื่อหนิงเทียนปิงได้ยินเขาก็แสดงสีหน้าลังเลออกมาอย่างทันที
เพราะยังไงเสียที่พวกเขามากันวันนี้ก็เพื่อจะขอความช่วยเหลือจากตระกูลเจียน หากไปทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจก่อนก็คงเก็บกวาดกันยากแน่ๆ
เจียนหยู่ได้เห็นสีหน้านั้นจึงรีบหันไปหาหนิงเทียนปิงอีกครั้ง “เด็กน้อย เจ้านั้นมีพลังฝีมือไม่เลว ตามข้าคนนี้ไปวันข้างหน้าจะมีอนาคตมากกว่าเจ้าขยะนั้นเยอะ! ข้าจะบอกให้ตรงๆ เลยนะ เจ้าเด็กคนนั้นมันเป็นขยะอย่างที่ไม่สามารถวัดค่าอันดับความขยะได้ด้วยซ้ำ!”
เมื่อหนิงเทียนปิงได้ยินเขาก็มีสีหน้าแปลกๆ
หากนายใหญ่ของเขาเป็นขยะ โลกใบนี้มันก็คงเป็นได้เป็นถังอุจจาระแล้ว
เขาได้แต่หัวเราะกับความคิดของตัวเอง “เจ้าโง่ เพราะศาสตร์การดูรัศมีของเจ้ามันยังไม่ถึงขั้น! รอให้เจ้าฝึกฝนมาใหม่และดูนายใหญ่ข้าอีกทีเถอะ เจ้าจะได้รู้ว่าทำไมเขาถึงบอกว่า เพราะเจ้ายังตาไม่บอด!”
ตอนนั้นเองเย่หยวนก็แทรกขึ้น “รออะไรอีก? หักขามันแล้วเอาไปโยนทิ้ง! อย่าให้มันได้ทำตัวเสียงดังน่ารำคาญ!”
เจียนหยู่หน้าถอดสีทันทีเมื่อได้ยิน “เจ้า…เจ้ากล้าเรอะ? เจ้า…เจ้าต้องเตรียมตัวรับผลที่จะตามมาด้วย! คนที่กล้าแตะต้องตระกูลเจียนไม่มีทางได้ตายดีแน่!”
เย่หยวนหัวเราะ “ด้วยพลังแค่นี้ของเจ้าก็กล้าเรียกตัวเองเป็นตัวแทนตระกูลเจียนแล้ว? งั้นตระกูลเจียนมันก็คงไม่เท่าไหร่หรอก! เทียนปิง จัดการ!”
“ขอรับนายใหญ่!”
ด้วยคำสั่งของเย่หยวน หนิงเทียนปิงก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและตวัดมือลงหักขาของเจียนหยู่จนแบนราบทันที
“อ้า! เด็กน้อย เจ้าจะต้องเสียใจ! อ้า!” เสียงร้องของเจียนหยู่ดังก้องไปทั่วถนนอย่างน่าสมเพช
ตอนที่ 1705 รอมันมา!
“สู้ได้ดี!”
“สวยงามมาก!”
“ในที่สุดก็มีคนสั่งสอนเจ้าสัตว์ร้ายนี่สักที!”
“ถึงความโกรธแค้นนี้จะจางลงแต่ด้วยนิสัยของเจ้าเจียนหยู่นั่น มันต้องหาทางมาเอาคืนแน่!”
“พี่ชายของมัน เจียนปิงนั้นเป็นสมาชิกของศาลามายาล้ำ พลังฝีมือของเขาจึงสูงส่งไม่น้อยเลย!”
…
เมื่อทุกคนเห็นว่าขาของเจียนหยู่หักลงแล้วจริงๆ พวกเขาทั้งหลายก็ต่างรู้สึกสดชื่นในใจ จนต้องตะโกนโห่ร้องชื่นชมออกมาอย่างไม่หยุด
เจียนหยู่ผู้นี้ ปกติแล้วเป็นคนที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง ทำตัวกร่างข่มขู่ผู้คนมานานหลายต่อหลายปี
วันนี้ในที่สุดก็มีใครที่กล้าจะสั่งสอนมันปรากฏตัวขึ้น
แต่เรื่องของเรื่องก็คือนั่นทำให้พวกเขายิ่งเป็นห่วงเย่หยวนหนักกว่าเก่า
เพราะยังไงเสีย ตระกูลเจียนก็เป็นตระกูลใหญ่ที่ห้ามไปมีเรื่องด้วย
“นายท่าน นี่มันเป็นความผิดของเสี่ยวหรานทั้งสิ้น ข้าขอโทษด้วย! ท่านรีบๆ ไปเถอะ! เจียนหยู่นั่นมีอำนาจมากมันไม่ปล่อยท่านไว้แบบนี้แน่ๆ” จางเสี่ยวหรานพยายามประคองจางห่าวเทียนด้วยสภาพทุลักทุเล
เย่หยวนไม่ได้พูดอะไรกลับไป แต่เขาเดินเข้าไปยังด้านหน้าของจางห่าวเทียนแทนและหยิบเม็ดโอสถออกมาให้
การโจมตีที่เขารับไม่เมื่อสักครู่นี้รุนแรงไม่น้อย อาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้จึงไม่น้อยและเจ็บจนพูดไม่ได้ไปแล้ว
เย่หยวนมองดูเสี่ยวหรานและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้านั้นอยากแต่งงานไปเป็นเมียน้อยนางบำเรอของเจียนหยู่หรือไม่?”
จางเสี่ยวหรานส่ายหัวออกมาอย่างรุนแรง “ต่อให้ตายข้าก็ไม่แต่งกับมัน!”
เย่หยวนยิ้มตอบ “เอาล่ะ งั้นก็รอมันมากัน”
จางเสี่ยวหรานหน้าถอดสีทันทีและโบกมือปัดอย่างไม่มีทีท่าจะหยุด “ไม่ๆๆ นายท่านต้องรีบหนีสิ! พี่ชายของเจียนหยู่นั้นเป็นคนของศาลามายาล้ำเลยนะ”
เย่หยวนตื่นตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น และตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม “คนของศาลามายาล้ำ? งั้นก็พอดีเลย ข้าเองก็กำลังหาทางไปศาลามายาล้ำอยู่”
เมื่อคนรอบๆ ได้ยินคำพูดนั้นของเย่หยวนพวกเขาทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมา
เด็กคนนี้มันอารมณ์ร้อนเกินไป เขาไม่รู้เลยว่าศาลามายาล้ำนั่นคืออะไร เป็นสัญลักษณ์แบบไหนในเมืองจักรพรรดิเลิศประกาย!
“นายท่านผู้นี้ เป็นเฒ่าคนนี้เองที่ได้ลากเจ้าเข้ามายุ่งเกี่ยว ท่านจงรีบไปเถอะ ท่านอย่าได้ไปลบหลู่ศาลามายาล้ำเลย! อย่างมากที่สุดเฒ่าคนนี้ก็แค่สู้กับพวกมันจนตัวตายเท่านั้น!” จางห่าวเทียนบอก
จางเสี่ยวหรานเองก็มีท่าทางตื่นตะลึง เพราะตอนนี้นางได้เห็นแล้วว่าสภาพของจางห่าวเทียนที่ดูย่ำแย่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนกลับมามีพลังและแทบจะหายดีแล้ว!
โอสถนี้มันจะวิเศษเกินไปแล้วใช่ไหม?
เย่หยวนยิ้มตอบ “ผู้เฒ่า ขาของท่านคงโดนพิษหมาป่าพิษราบมากระมัง?”
จางห่าวเทียนเงียบนิ่งไปทันที เวลานี้มันยังใช่เวลามาห่วงเรื่องขาของเขาอีกหรือ?
แต่ว่าเขาก็ยังพยักหน้ารับออกมา “ใช่แล้ว ตอนนั้นเราสองสามีภรรยาเดินทางพาลูกน้อยเกิดใหม่ เสี่ยวหรานของเรากลับมายังเมืองจักรพรรดิเลิศประกาย แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะไปเจอหมาป่าพิษราบเข้าระหว่างทาง แม่ของเสี่ยวหรานไม่ลังเลที่จะสละร่างของนางเป็นอาหารให้พวกมันเพื่อถ่วงเวลาให้เราสองพ่อลูกหนีออกมาได้ แต่ทว่าสุดท้ายขาของเฒ่าคนนี้ก็ยังถูกมันกัดเข้า เฮ้อ คนที่ควรตายไปตอนนั้นน่าจะเป็นเฒ่าคนนี้มากกว่าแท้ๆ ใครจะไปคิด…”
พูดถึงตรงนี้จางห่าวเทียนก็ดูจะนึกได้ถึงความทรงจำอันขมขื่นเมื่อวันวานจนน้ำตาไหลลงมานองหน้า
“ท่านพ่อ อย่าได้โทษว่าตัวเองอีกเลย นี่มันมิใช่ความผิดของท่านเลย!” จางเสี่ยวหรานเองก็มีน้ำตานองหน้าไม่แพ้กัน
เย่หยวนเองก็ไม่คิดว่าพ่อลูกคู่นี้จะได้เจอเรื่องราวที่แสนน่าเศร้าแบบนี้มา
แต่ว่าเรื่องราวเช่นนี้มันนับได้ว่าเป็นปกติของชีวิตเหล่านักยุทธ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเก่งกาจมีความสามารถท้าทายสวรรค์เหมือนที่เย่หยวนมี
นักยุทธส่วนมากนั้นได้แต่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากที่จุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร
พิษของหมาป่าพิษราบนั้นเป็นพิษที่แสนรุนแรงและยากแก่การรักษามากๆ
เพราะฉะนั้นร่างกายของจางห่าวเทียนจึงแก่ตัวลงเร็วกว่าปกติไม่น้อย
แถมขาของเขาก็ยังใช้งานไม่ได้อีกเพราะพิษที่ยังคั่งค้าง
เย่หยวนนั้นได้แต่ถอนหายใจออกมา “งั้นข้าจะรักษาให้แล้วกัน”
จางห่าวเทียนยิ้มออกมาอย่างขื่นขม “เหตุผลที่เราสองพ่อลูกต้องมีสภาพน่าสมเพชเช่นนี้ก็เพราะว่าขาของเฒ่าคนนี้แหละ เวลาหลายปีมานี้เฒ่าคนนี้เสาะหายาวิเศษหมอเทวดามามากมาย แต่ก็ไม่มีสิ่งใดจะรักษาขานี้ได้เลย”
เย่หยวนยิ้มออกมา “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ใดๆ หรอก แค่ใช้เข็มทิ่มๆ แทงๆ ก็พอแล้ว”
พูดจบเย่หยวนก็นำเข็มเงินออกมาวางเตรียมและเริ่มทำการทิ่มมันลงบนขาของเกือบขาดของจางห่าวเทียน
“เด็กน้อย อย่าได้อวดอ้างตัวเองอีกเลย ขาของเฒ่าจางนั้นแม้แต่อาจารย์หลี่ซิวชิงท่านยังรักษาไม่ได้ แล้วเจ้าเนี่ยนะ?”
“จริงๆ เลย จะอวดอ้างอะไรไม่ได้วางแผนไว้สักนิด! หากมันง่ายดายปานนั้นแล้ว เฒ่าจางคงไม่มานั่งลำบากตั้งหลายต่อหลายปีเปล่าๆ เช่นนี้หรอกใช่ไหม?”
“อืม เด็กสมัยนี้ เจ้ารีบๆ ไปก่อนเถอะ อีกไม่นานหากเจียนปิงมาถึงเจ้าคงไม่สามารถไปไหนได้แม้จะอยากแล้ว”
…
เย่หยวนพูดออกมาง่ายๆ และนั่นทำให้ทุกผู้คนต่างคิดว่าเขาอวดอ้างตน
หลายปีมานี้จางห่าวเทียนใช้เงินเก็บที่มีทั้งชีวิตไปกับการรักษา และสุดท้ายผลของมันก็คือประคองอาการไม่ให้แย่ลงได้เท่านั้น
ถึงจะเป็นอย่างนั้นพิษและอาการบาดเจ็บมันก็ยังกัดกินร่างกายของเขา
แต่ไม่นานสีหน้าของทุกคนก็ต้องเปลี่ยนไป
ขาของจางห่าวเทียนทีแทบขาดนั้นกลับมามีเลือดสีดำไหลพุ่งอกมา ส่งกลิ่นที่เหม็นหึ่งอย่างรุนแรงแสดงถึงความเป็นเลือดเสียติดพิษที่คั่งค้างมานานปี
เย่หยวนใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองหลอมกลั่นมันใหม่ทั้งหมด
ภายใต้สายตาอันตื่นตะลึงของทุกผู้คน ขาที่แทบขาดของจางห่าวเทียนก็ค่อยๆ กลับมาฟื้นฟูได้อีกครั้ง!
“หายจริง! เด็กคนนี้มันช่างมีฝีมือที่มากล้ำเหลือ!”
“ช่างเป็นมือวิเศษหมอเทวดาแท้! พิษในร่างที่แม้แต่อาจารย์หลี่ซิวชิงท่านยังรักษาไม่ได้ แต่เขากลับรักษามันได้!”
“ไม่นึกเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้แท้จริงแล้วมันจะเป็นนักหลอมโอสถ ไม่แปลกใจเลยที่จะมียอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวเป็นผู้ติดตาม!”
…
คนรอบๆ ได้แต่ส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ
อาจารย์หลี่ซิวชิงนั้นเป็นนักหลอมโอสถที่มีชื่อมาก พลังฝีมือของเขานั้นไม่ธรรมดา
แต่พิษในร่างของจางห่าวเทียนนั้น แม้แต่อาจารย์หลี่ซิวชิงคนนั้นก็ยังรักษาไม่หาย มันจึงเรียกได้ว่าถูกตราประทับความตายกดปิดไว้แล้ว
ไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กหนุ่มไร้ที่มาคนนี้จะสามารถรักษาจางห่าวเทียนให้หายได้ง่ายๆ เช่นนี้
จางห่าวเทียนได้แต่อ้าปากค้าง สายตาจับจ้องขาของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ
ตั้งแต่กลับมาจากไปหาอาจารย์หลี่ซิวชิง เขาก็เตรียมใจพร้อมรับไว้แล้วว่าชีวิตนี้คงไม่สามารถลุกขึ้นยืนบนสองขาได้อีก
แต่ใครจะไปคิดว่าเย่หยวนจะรักษาหายได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้!
เย่หยวนหยิบโอสถออกมาอีกเม็ดและยื่นมันให้แก่จางห่าวเทียน “กินโอสถขับพิษนี่เถิด มันคงช่วยทำให้พิษที่ตกค้างในร่างท่านทั้งหมดถูกขับออกมาได้ ไหนท่านลองยืนหน่อย”
จางห่าวเทียนรับโอสถมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะพยายามลุกขึ้นด้วยน้ำตาที่นองไหลลงมาเต็มหน้าอีกครั้ง “นายท่าน…ท่านได้ช่วยชีวิตจางห่าวเทียนผู้นี้ไว้จริงๆ! โอสถทั้งสองเม็ดนี้มันราคาเท่าไหร่กัน เฒ่าคนนี้…ต่อให้ต้องแลกชีวิตข้าก็จะหาเงินมาจ่ายให้ได้”
เย่หยวนยิ้มตอบ “โอสถเหล่านี้นับมันเป็นค่าทำนายของท่านก็แล้วกัน”
“ใครมันกล้าหักขาน้องข้า ออกมา!” ตอนนั้นเองที่เสียงอันเย็นเยือกดังก้องมา
สีหน้าของทุกผู้คนเปลี่ยนไปทันที
“เจียนปิงมา! มาเร็วแท้!”
“เจียนปิงนั้นก็เป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาว คงมีอะไรสนุกๆ ให้ดูแล้ว”
“ได้ยินว่าเจียนปิงนั้นมีสายเลือดที่บริสุทธิ์มาก วรยุทธวิญญาณลับโกลาหลของเขาเองก็ฝึกฝนมาอย่างดีด้วย”
…
ฝูงชนที่มองดูแตกออกเป็นแถวทันที ก่อนจะเปิดทางให้ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินผ่านเข้ามา
ชายหนุ่มคนนี้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเจียนหยู่ คงเป็นเจียนปิงไม่ผิดแน่
ที่ด้านข้างเจียนหยู่ก็กำลังนั่งอยู่ เมื่อเขาได้เห็นเย่หยวนเขาก็ตะโกนลั่น “ท่านพี่ ไอ้เด็กคนนี้แหละ! ขยะที่ไม่ติดอันดับแต่กลับกล้ามาหักขาข้า ท่านต้องแก้แค้นมันให้ข้านะ! โอ้ย เจ็บ!”
“ไม่ติดอันดับ?”
เจียนปิงนั้นขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินก่อนจะหันไปมองเย่หยวนอย่างสงสัย ไม่ติดอันดับแล้วจะมีปัญญาบ่มเพาะมาถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าได้รึ?
ที่สำคัญ ตราบเท่าที่พวกเขานั้นเป็นนักยุทธ พวกเขาย่อมต้องมีสีชะตาใดติดตัวบ้าง
ไม่ติดอันดับ แล้วเจ้าเด็กคนนี้มันรอดชีวิตมาจนป่านนี้ได้อย่างไร?
คนตระกูลเจียนนั้นมีนิสัยชอบส่องดูชะตากรรมคนอื่นเป็นธรรมดา
และคนที่ไม่ติดอันดับนั้นเรียกได้ว่าหายากมาก!
ด้วยความสงสัยที่เปี่ยมใจ เจียนปิงจึงอดไม่ได้ที่รวบรวมปราณเทวะของตัวเองขึ้นมาและจ้องมองไปยังเย่หยวน…
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น