Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1650-1653

 ตอนที่ 1650 ตัวตนอันยิ่งใหญ่

ทั้งเมืองนั้นโกลาหลไปหมด!


เพราะในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์กลับมีร้านโอสถเล็กๆ ที่ขายแต่โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมาเปิดขึ้น


เรื่องในครานี้มันเหมือนไฟลามทุ่ม เผาไหม้คนทั้งเมืองหลวงไปอย่างรวดเร็ว


ที่หน้าร้านขายโอสถของเย่หยวนในตอนนี้มีแถวต่อยาวอย่างที่ไม่มีสิ้นสุดอยู่


ในจำนวนคนที่มาต่อนั้น ส่วนมากจะเป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้า


เพราะแม้โอสถนี้มันจะดีแค่ไหน แต่เหล่านักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญญาพอจะจ่ายผลึกปราณเทวะออกมาเป็นร้อยล้าน


ต่อให้มันเป็นโอสถที่หาง่ายที่สุด พวกเขาก็ยังไม่มีผลึกปราณเทวะพอจะซื้อมันได้


ที่ปลายแถว มีคนๆ หนึ่งบ่นขึ้น “แถวยาวฉิบ นี่ต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่กันเนี่ย?!”


จนอีกคนตอบขึ้น “งั้นเจ้าจะทำยังไง? เถ้าแก่คนนั้นเขาบอกว่าหากใครลัดแถวจะไม่ขายโอสถให้! กลุ่มเครือข่ายสวรรค์นั้นเป็นสถานที่ภายใต้การดูแลของ สามขั้วอำนาจใหญ่ เจ้ากล้าจะก่อเรื่องใดๆ ไหมล่ะ?”


“แต่แถวยาวขนาดนี้ ไม่ว่าเถ้าแก่คนนั้นจะมีโอสถขั้นเทวะโมฆะมากมายเพียงใดมันก็อาจจะขายหมดได้เหมือนกัน!”


“ข้าได้ยินมาว่าหากใครมีศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวจะสามารถเข้าไปแลกซื้อโอสถได้ทันที น่าเสียดายที่ข้านั้นไม่มีมันสักชิ้น เฮ้อ!”



ตอนนี้ชื่อเสียงของร้านขายโอสถนั้นโด่งดังมากและเย่หยวนก็ได้ประกาศออกมาว่าหากใครมีศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวจะสามารถเข้ามาแลกซื้อโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะได้โดยไม่ต้องรอ


ในเวลาแค่ครึ่งวันเย่หยวนได้ศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวมาแล้วถึง สามชิ้น


แน่นอนว่าเขาก็ต้องแลกมันกับโอสถราคาแพงออกไปเช่นกัน


ในเวลาครึ่งวันมานี้ เย่หยวนได้ขายโอสถไปแล้วมากกว่า หนึ่งร้อยเม็ด ทำให้กระเป๋าเงินของเขากลับมาตุงอีกครั้ง


เพราะในเวลาแค่ครึ่งวันนี้เขาทำเงินไปได้มากกว่าหมื่นล้านแล้ว


หากหักมันกับค่าต้นทุนในการหลอม เย่หยวนก็ได้กำไรมาแล้วราว เจ็ดพันถึงแปดพันล้าน


ตอนนี้โอสถที่เย่หยวนขายนั้นส่วนมากจะเป็นโอสถระดับต่ำ


เพราะคนที่จะหยิบผลึกปราณเทวะออกมาจ่ายเป็นพันล้านเพื่อแลกกับโอสถระดับความยากสูงๆ นั้นมันมีไม่มาก


“เอาล่ะ วันนี้พอเท่านี้ เก็บร้าน! ใครที่ยังอยากได้โอสถอีกให้มารอวันพรุ่งนี้แต่เช้า”


ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว เย่หยวนจึงออกคำสั่งไล่ลูกค้าทันที


เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนต่างก็แตกตื่นทันควัน


“ไม่นะ! ข้าอุตส่าห์มาถึงหน้าแถวได้แล้วทั้งที ทำไมเข้าถึงคิดจะเก็บร้านหนีไปดื้อๆ อย่างนี้เล่า?”


“ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย? ใครมันทำการค้าอย่างเจ้ากัน?”


“นี่เด็กน้อย! พ่อเจ้าคนนี้รอในแถวมานับครึ่งวัน แต่ตอนนี้เจ้ากลับบอกว่าจะเก็บร้าน? หากเจ้ากล้าไปก็ลองสิ ข้าจะจัดการเจ้าลงตรงนี้เลย!”


เย่หยวนหันไปมองนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นและตอบกลับไป “ดีมาก ข้าจำหน้าเจ้าได้แล้ว เจ้าลืมเรื่องที่จะซื้อโอสถจากร้านข้าไปได้เลย ต่อให้เจ้ามีเงินเป็นภูเขาข้าก็ไม่ขายให้!”


นั่นทำให้นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นตอบกลับมาอย่างโกรธเคือง “ได้สิ หากเจ้ากล้า! ถ้าเจ้ามีปัญญาจะอยู่รอดล่ะก็นะ อย่าได้คิดออกจากกลุ่มเครือข่ายสวรรค์เชียว ไม่เช่นนั้นข้าจะจับเจ้าหักขาทิ้งเสีย!”


และจู่ๆ ก็มีคลื่นพลังอันรุนแรงกระแทกตัวเขาก่อนจะพูดขึ้น “อะไรนะ? เจ้าคิดจะทำร้ายน้องเย่รึ?”


ใบหน้าของนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นเปลี่ยนทีทันที ตอนนี้เขาหน้าเสียจนกู่ไม่กลับแล้ว


เพราะคลื่นพลังนี้มันถูกปล่อยออกมาจากนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาว มันจะเป็นใครไปได้นอกจากหนิงเทียนปิง?


“ข้า… ฮ่าฮ่า ล้อเล่น ข้าจะไปกล้าทำอะไรเถ้าแก่ได้อย่างไร?”


ยอมแพ้ในเสี้ยววินาที!


นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นคิดว่าเย่หยวนนั้นตัวคนเดียว ใครจะไปรู้ว่าเขามีนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวคอยช่วยเหลือ?


“ดีแล้วที่เจ้าไม่กล้า มิเช่นนั้น… เจ้าคงไม่ได้มีชีวิตไปเห็นตะวันอีก! เฮอะ!” หนิงเทียนปิงหัวเราะเย้ย


คนๆ นั้นเหงื่อไหลท่วมกายก่อนจะบอกว่าเขาไม่คิดทำอะไรจริงๆ ดูท่าแล้วคงกลัวจนขี้หดตดหาย


หนิงเทียนปิงเดินมาหาเย่หยวนและยื่นแหวนให้ “น้องเย่ นี่คือวัตถุดิบสมุนไพรที่ท่านสั่งมา ข้าไปหาซื้อมันมาจนครบแล้ว!”


เย่หยวนนั้นมอบรายชื่อยาวเหยียดให้หนิงเทียนปิง จึงทำให้หนิงเทียนปิงต้องใช้เวลาทั้งวัน พลิกเมืองทั้งเมืองเพื่อหาซื้อยาสมุนไพรเหล่านั้นมาจนครบ


ตอนนั้นเขายังไม่ได้กลับมาดูร้านและได้ยินว่ามีร้านขายโอสถชื่อดังในพริบตาเกิดขึ้นในเมือง ทำให้ผู้คนแตกตื่นไปทั่ว


เมื่อได้กลับมาดูเองมันก็ช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาจริงๆ


เมื่อก่อนนายใหญ่ของเขาไม่เคยต้องสนใจเรื่องเงินทอง แต่คราวนี้เมื่อเขาต้องการมันจริงๆ เขาก็ได้ทำให้เมืองทั้งเมืองต้องสั่นสะเทือน


เย่หยวนนั้นรับยาสมุนไพรมาและพยักหน้ารับ “ขอบคุณมาก ไปหาที่พักกันก่อนเถอะ วันพรุ่งนี้เราต้องกลับมาตั้งร้านใหม่”


เย่หยวนพาหนิงเทียนปิงจากไป ทำให้ทุกคนที่เหลือได้แต่มองหน้ากันไปมา


ไปอย่างนี้เลย?


อะไรวะ?!


สำหรับนักยุทธแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเวลาแค่วันสองวัน ต่อให้ไม่นอนพักเป็นปีมันก็ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่


เพราะฉะนั้นกลุ่มเครือข่ายสวรรค์นี้จึงเปิดทำการตลอด ยี่สิบสี่ชั่วโมง


แม้ตอนกลางคืนจะมีคนเบาบางตากว่า แต่มันก็ยังมากอยู่ดี


และเมื่อค่าเช่าแผงถูกจ่ายไปแล้ว มีหรือที่พ่อค้าแม่ขายจะยังเสียเวลาไปหาที่พักผ่อนได้?


แบบนั้นมันจะไม่เท่ากับเสียผลึกปราณเทวะไปเปล่าๆ หรือ?


แต่… ค่าเช่าแผงระดับสุดท้ายมันแค่วันละหนึ่งแสนผลึกปราณเทวะ มันไม่พอที่จะเทียบกับโอสถสักเม็ดของเถ้าแก่คนนั้นด้วยซ้ำ


“เออ แยกย้าย! วันพรุ่งนี้ค่อยมาต่อแถวใหม่แต่เช้า!”


“จริงๆ เลย มีเงินแต่ซื้อไม่ได้แบบนี้!”


“เฮอะ เฮอะ เจ้าคิดว่ายังไงเล่า? โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะนั้นมันไม่ใช่ของที่ต้องกังวลว่าจะขายไม่ออก ต่อให้เขาขายมันแค่วันละ สองชั่วโมงเราก็ต้องรออย่างใจเย็นเท่านั้น!”



ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับไปทำธุระของตัวเองต่อ หลังจากเย่หยวนจากไปกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ก็กลับมาเข้าสู่สภาวะปกติในที่สุด


ระหว่างทางหนิงเทียนปิงถามขึ้น “อ่า… นายใหญ่ วันนี้ขายได้เยอะแค่ไหนกัน?”


เย่หยวนเงียบไปนิดก่อนจะตอบ “จากที่คำนวณดูน่าจะประมาณ หนึ่งหมื่นเจ็ดพันถึงหนึ่งหมื่นแปดพันล้าน”


หนิงเทียนปิงอ้าปากกว้างทันทีที่ได้ยิน “ร-เร็ว! นายใหญ่ท่านช่างยิ่งใหญ่จริงๆ เปิดร้านขายแค่วันเดียวแต่กลับขายได้เกือบเท่าเงินที่ตระกูลหนิงทั้งตระกูลหาได้ในรอบปี!”


แม้ว่าหนิงเทียนปิงจะเตรียมใจมามากแค่ไหน แต่เขาก็ยังทนทานรับไม่ได้อยู่ดีเมื่อต้องมาเจอตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างเย่หยวน


ตระกูลหนิงนั้นเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองจักรพรรดิ แต่รายได้รายปีของพวกเขาเองก็แค่ประมาณ สองหมื่นล้านหน่อยๆ


แต่เย่หยวนเปิดร้านแค่วันเดียวกลับได้เงินมากเกือบเท่ารายได้ทั้งปีของตระกูลหนิง มันบ้าจนเกินรับได้จริงๆ


เขารู้ดีว่าเย่หยวนคิดจะเปิดร้าน สิบวัน หลังจากเวลา สิบวันนั้นมันจะไม่ได้ผลึกปราณเทวะถึงสองแสนล้านเลยหรือ?


สองแสนล้าน…


ช่างเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เสียจริงๆ


ยิ่งหนิงเทียนปิงคิด เขาก็ยิ่งตื่นตกใจมากขึ้น เขาไม่เคยรู้เลยว่าการหาเงินมันจะง่ายดายขนาดนี้


นายใหญ่คนนี้ของเขามันเครื่องปั๊มเงินดีๆ นี่เอง!


เย่หยวนเหมือนจะอ่านความคิดของเขาได้เลยพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคิดอะไรของเจ้าอยู่? โอสถเหล่านี้มันเป็นของที่ข้าใช้เวลาหลายร้อยปีหลอมสะสมมา ข้าแค่นำมันออกมาขายในคราเดียวมันถึงทำแบบนี้ได้ หากให้ข้าค่อยๆ หลอมมันไปต่อให้ทำอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดพัก มันก็ไม่มีทางจะได้เงินมามากมายอย่างรวดเร็วขนาดนี้แน่ๆ”


หนิงเทียนปิงยิ้มแห้งๆ ออกมา “ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็ยังสุดยอด! นี่เพราะเป็นนายใหญ่ถึงทำอะไรแบบนี้ได้ หากเป็นคนอื่น ภายใต้สถานการณ์นี้พวกเขาคงได้แต่นั่งสิ้นหวัง!”


คนทั้งสองเดินออกมาจากกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ได้ไม่กี่ก้าวก็เจอเข้ากับคนสามกลุ่มเดินเข้ามาหาจากสามทิศทาง


หนึ่งในนั้นเป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาว!


ไม่ต้องถามเลยว่าพวกเขาเป็นใคร คนเหล่านี้ย่อมถูกส่งมาจาก สามขั้วอำนาจใหญ่เป็นแน่


ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวที่ด้านขวายกมือขึ้นมาคารวะเย่หยวน “น้องเย่ ผู้นำพันธมิตรเราขอเชิญท่านไปเยี่ยมเยือน!”


ที่ด้านหลังของเขาคนนี้มีเจาเจี้ยนอยู่ แต่ไม่มีร่องรอยของซูถิง ดูท่านางคงเข้าสาการเก็บตัวแล้ว


ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวคนตรงกลางหันไปมองฝั่งพันธมิตรดาบดวงดาว “ตู้หมิงเหลียง เจ้ากล้าตัดหน้าแย่งคนจากคฤหาสน์จวนเจ้าเมืองของเรา?”


ตอนนี้ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวทางซ้ายก็เปิดปากขึ้นบ้าง “น้องเย่ คฤหาสน์สายรุ้งโลหิตของเราขอเชิญท่านไปยังพูดคุยกันยังคฤหาสน์ของเรา!”


ตอนที่ 1651 มองไม่ออก

“อย่ามาล้อเล่นน่า! พวกเจ้าคฤหาสน์จวนเจ้าเมืองคิดว่าพวกเราเป็นใคร? พ่อเจ้านี่แหละจะแย่งคนไปจากเจ้า! มูดงเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรได้? หลิวฮั่นเจ้าเองก็ไปไกลๆ ข้าเสียไม่เช่นนั้นข้าจะบีบเจ้าให้ตายคามือเสีย!” ตู้หมิงเหลียงหัวเราะลั่น


“ตู้หมิงเหลียง เจ้าจะบังคับขู่เข็ญคนมากเกินไปแล้ว! ไปหรือไม่ก็ไม่ใช่เจ้าเสียหน่อยที่ต้องตัดสิน ใช่ไหม?” หลิวฮั่นตอบ


“พวกเจ้าหลบไปไกลๆ คฤหาสน์จวนเจ้าเมืองเราเป็นผู้ชอบธรรม แน่นอนว่าน้องเย่หยวนผู้นี้ต้องไปที่คฤหาสน์จวนเจ้าเมืองกับข้าก่อน!” มูดงบอก


มูดงนั้นมาจากคฤหาสน์จวนเจ้าเมือง ส่วนหลิวฮั่นนั้นเป็นคนส่งสารจากคฤหาสน์สายรุ้งโลหิต


เมื่อคนทั้งสามมาเจอหน้ากันพวกเขาก็เริ่มทะเลาะกันทันที พร้อมด้วยท่าทางเตรียมปะทะคารมเต็มที่


แม้ว่าทั้งสามอำนาจจะร่วมมือกันในการสร้างกลุ่มเครือข่ายสวรรค์ขึ้น แต่การแย่งชิงอำนาจของทั้งสามมันก็ไม่ได้เบาบางเลย


ในเมืองหลวงเช่นนี้ แม้แต่คฤหาสน์จวนเจ้าเมืองก็ไม่มีปัญญาพอที่จะจัดการสองขั้วอำนาจใหญ่ที่เหลือ ทำให้เกิดการปะทะกันไปทั่วอย่างที่เห็น


อีกสองขั้นอำนาจนั้นไม่ได้มีความเคารพใดๆ ต่อคฤหาสน์จวนเจ้าเมืองแม้แต่น้อย


และด้วยการปรากฏตัวในครั้งนี้ของเย่หยวน ทั้งสามขั้วอำนาจจึงอยากจะสร้างสายสัมพันธ์กับเขาไว้


เพราะเมืองหลวงลาภสายน้ำนั้นเป็นสถานที่ที่อ่อนไหวง่าย มีการต่อสู้ปะทะและมีการผูกมิตรกันอยู่ตลอด


การที่เย่หยวนหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะได้มากมายขนาดนี้แถมยังมีหนิงเทียนปิงที่เป็นถึงนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวเป็นคนคุ้มกัน มันแน่นอนอยู่แล้วที่พวกเขาทั้งหลายจะเกิดสงสัยในตัวตนของเย่หยวน


ทั้งสามอำนาจจึงมาหาเย่หยวน เพื่อตรวจสอบดูเรื่องราว


เพราะต่อให้หนิงเทียนปิงจะเรียกเย่หยวนว่าน้อง แต่ท่าทางเคารพอย่างสุดตัวนั้นมันก็ไม่สามารถปกปิดไว้ได้เลย ผู้คนที่ตาดีหน่อยย่อมมองออก


ที่สำคัญยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าอายุน้อยอย่างหนิงเทียนปิง มันคงมีแต่ค่ายสำนักยักษ์ใหญ่เท่านั้นที่จะเลี้ยงดูเขามาได้


นั่นทำให้ตัวตนของเย่หยวนยิ่งดูยิ่งใหญ่กว่าเก่า


นอกจากนั้นมีหรือที่ค่ายสำนักธรรมดาๆ ใดๆ จะเลี้ยงดูยอดฝีมือในด้านโอสถได้แบบนี้?


นั่นทำให้ทั้งสามขั้นอำนาจต่างแสดงออกอย่างสุภาพต่อเย่หยวน


เพราะหากพวกเขาไม่ใส่ใจตัวตนที่แท้จริงของเย่หยวน มีหรือที่ยอดอำนาจทั้งสามจะพูดสุภาพกับเย่หยวนได้ถึงขนาดนี้? พวกเขาคงเลือกที่จะจับๆ ให้มันจบๆ ไปนานแล้ว


ระหว่างที่คนทั้งสามยังเถียงกันไม่หยุด เย่หยวนก็พูดขึ้นแทรก “ข้าบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าข้าจะไปด้วย? พวกเจ้ากลับไปเถอะ ข้ายังต้องหลอมโอสถต่อในช่วงกลางคืน ไม่มีเวลาไปเยี่ยมใครทั้งนั้น! หากอยากซื้อโอสถก็มาแต่เช้าพรุ่งนี้ หากไม่ซื้อก็ไปเถอะ เสียเวลาข้าเปล่า!”


พูดจบเย่หยวนก็เดินอ้อมคนทั้งสามไปอย่างไม่คิดจะสนใจใดๆ อีก


คนทั้งสามจึงได้แต่หันไปมองเย่หยวนด้วยดวงตาที่เหม่อลอย แต่ไม่มีใครคิดที่จะหยุดเขาเลย


ยิ่งเย่หยวนทำตัวแบบนี้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ผู้คนคาดเดาภูมิหลังของเขาไม่ออกมากเท่านั้น ทำให้คนอื่นๆ คิดว่าตัวตนเบื้องหลังของเขามันยิ่งใหญ่กว่าเก่า


พลังของเขาพร้อมกับท่าทางอวดดีนั้นมันมากพอที่จะทำให้สามขั้วอำนาจไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม


เย่หยวนมาที่เมืองหลวงลาภสายน้ำในครั้งนี้มันเป็นแค่การเดินทางผ่านไม่ได้คิดจะอยู่ให้นาน เขาจึงไม่คิดที่จะไปมีสัมพันธ์ใดๆ กับกองกำลังท้องถิ่น


ที่สำคัญในสถานที่แบบนี้ ทั้งสามขั้นอำนาจเองก็คงเป็นพวกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ไม่ผิดแน่ ต่อให้เขาเข้าไปหามันก็จะมีแต่เสียกับเสีย


นั่นทำให้เย่หยวนเลือกที่จะไม่สนใจพวกเขาไปเลย!


เหล่ายอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวทั้งสามคนไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม ปล่อยให้เย่หยวนเดินหายลับจากไป


เมื่อนักยุทธรอบๆ ได้เห็นภาพนั้น พวกเขาต่างตกตะลึงจนตาแทบถลนออกจากเบ้า


เพราะสามขั้วอำนาจที่ปกครองเมืองหลวงลาภสายน้ำอย่างเด็ดขาดนั้นเป็นตัวตนที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย


ว่ากันว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังทั้งสามฝ่ายนั้นมันยิ่งใหญ่กว่าเสียอีก ไม่ใช่แค่ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าเจ็ดดาว


เพราะสุดท้ายเมืองหลวงลาภสายน้ำมันก็เป็นเหมือนขนมชิ้นใหญ่ที่มีคนอยากลิ้นรสไม่น้อย


แต่แม้จะเป็นสามยอดอำนาจนั้น พวกเขากลับไม่กล้าต่อต้านเด็กน้อยอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนหนึ่ง!


คนฉลาดๆ จะมองสถานการณ์ออกทันที แต่คนโง่ๆ ก็ได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่แทบถลน


ผู้นำทั้งสามขั้นอำนาจนั้นได้กำชับพวกเขาไว้อย่างดีก่อนจะมาว่า ห้ามไปทำอะไรเย่หยวน


สุดท้ายเย่หยวนจึงไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย


คนทั้งสามหันมามองหน้ากัน และได้รับรู้ว่าการถกเถียงเมื่อครู่มันช่างไร้สาระสุดท้ายจึงแยกย้ายกันไป



ตอนนี้ที่พันธมิตรดาบดวงดาว ผู้นำพันธมิตรหลี่ซิงที่ได้ยินคำรายงานของตู้หมิงเหลียงไม่ได้แสดงท่าทีแปลกใจใดๆ ออกมาเลย


“ผู้นำพันธมิตร เด็กคนนี้มันอวดดีเสียจริงๆ หากไม่ใช่เพราะคำสั่งที่ท่านย้ำกำชับไว้ข้าคงได้ถลกหนังของมันออกมาแล้ว!” ตู้หมิงเหลียงกล่าวอย่างขุ่นเคือง


เพราะพลังฝีมือของเขานั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นถึงอันดับสองของพันธมิตรดาบดวงดาว ปกติผู้คนต้องก้มหัวเคารพเขา แต่วันนี้เขากลับถูกเด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนหนึ่งเมินใส่ มีหรือที่เขาจะยังทนไม่โกรธไปได้?


หลี่ซิงหรี่ตาลง “แหม หมิงเหลียง เจ้าคิดว่าความอวดดีของเด็กคนนั้นมันถูกปลอมแปลงขึ้นมารึ?”


ตู้หมิงเหลียงส่ายหัว “ไม่มีทาง! เกิดมาข้ายังไม่เคยเห็นเด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนไหนกล้าทำตัวอวดดีขนาดนั้น มันไม่คิดสนใจพวกเราทั้งสามคนเลยแม้แต่น้อย! ข้า เฒ่าตู้คนนี้ติดตามท่านมานานหลายปี ข้าเองก็พอมีตาอยู่บ้าง ที่สำคัญตอนนั้นหลิวฮั่นและมูดงเองก็อยู่ ต่อให้มันจะตบตาข้าได้ แต่มันคงไม่มีทางตบตาพวกเราได้พร้อมๆ กันสามคนหรอก”


หลี่ซิงพยักหน้ารับ “งั้นก็คงจริงแล้ว! มันมีแต่คนที่อยู่กลางดงยอดฝีมือระดับสูงมาเท่านั้นที่จะกล้าทำตัวแบบนี้ต่อหน้ายอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาว ภูมิหลังของเด็กคนนี้มันคงไม่ธรรมดาแน่ๆ ช่างเถอะ หากเขาไม่มาก็ไม่ต้องมา แค่ไม่ให้ไปกับอีก สองพวกก็พอแล้ว”


ตู้หมิงเหลียงจึงถาม “งั้น… ก็จบแค่นี้? เขาว่ากันว่าเด็กคนนั้นมันสามารถหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะความยากระดับ เก้าได้ท่าน หากเราเอามันมาใช้งานได้… เราก็น่าจะจัดการอีกสองพวกได้อย่างไม่ยากเย็นนี่?”


หลี่ซิงได้แต่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน “จัดการอีกสองพวก? ลืมไปได้เลย! หากมีใครสักคนในพวกเราทั้งสามล้มลง เมืองหลวงลาภสายน้ำคงได้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่! อีกสองค่ายสำนักเองก็ไม่ได้รอดมาได้จนทุกวันนี้ด้วยโชคเสียหน่อย! ตั้งหลายปีมานี้เฒ่าตู้เจ้ามองมันไม่ออกเลยรึ?”


ตู้หมิงเหลียงนั้นเป็นแค่นักยุทธคนหนึ่ง เขาไม่เข้าใจเรื่องสงครามอำนาจมากมายนัก


เบื้องหลังพันธมิตรดาบดวงดาวนั้นมีอำนาจยิ่งใหญ่แบบไหนหนุนอยู่ มีเพียงแค่หลี่ซิงคนเดียวเท่านั้นที่รู้


เมื่อตู้หมิงเหลียงได้ยินแบบนั้นเขาเองก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาไม่น้อย


หลี่ซิงยิ้มขึ้น “อย่าได้มองแค่ว่าพวกเราทั้งสามฝ่ายเข่นฆ่าสังหารกันเท่านั้น ในความเป็นจริงพวกเราทั้งสามนั้นค่อยรักษาสมดุลด้วยกันมาตลอด เมื่อใดก็ตามที่สมดุลนี้ถูกทำลายลง เรื่องที่ตามมามันคงยิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาจะคาดการณ์ได้! เพราะฉะนั้นต่อให้เด็กคนนี้จะเป็นสัตว์ประหลาดแค่ไหน เขาก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเอามาใช้งานได้! ยอดฝีมือด้านโอสถที่เก่งกาจขนาดนี้ย่อมถูกเลี้ยงดูมาโดยยอดขุมกำลัง และคงมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์จากความสามารถของเขา”


หยุดไปพักหนึ่งหลี่ซิงก็กล่าวขึ้นต่อ “หากให้ข้าเดา เด็กคนนี้คงเป็นยอดศิษย์อัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิสักแห่ง ที่เขาออกมาคราวนี้ก็เพื่อจะฝึกฝนตัว เด็กอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวคนนั้นเองก็มิใช่สิ่งที่ค่ายสำนักทั่วๆ ไปจะเลี้ยงดูได้! ที่สำคัญนี่มันอาจจะเป็นแค่ฉากหน้าและยอดฝีมือจริงๆ ของพวกเขากำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในเมือง! ประตูกดสวรรค์โบราณเองก็กำลังจะเปิดออกแล้วด้วย เราอย่าเพิ่งหาเรื่องใส่ตัวเลยจะดีกว่า!”


ยิ่งตู้หมิงเหลียงฟัง เขาก็ยิ่งตื่นตระหนกขึ้นในใจ เป็นตอนนี้ที่เขาได้รู้ว่าจริงๆ แล้วสถานการณ์ในเมืองมันหนักหนากว่าที่เขาคาดคิดไปมาก


ภาพคล้ายๆ กันนี้เองก็เกิดขึ้นในที่พักของสองขั้นอำนาจที่เหลือเช่นกัน


เรื่องตัวตนของเย่หยวนนั้น พวกเขาต่างได้แต่สงสัยกันอย่างสุดใจ


ส่วนเย่หยวนในตอนนี้ได้หาที่พักและเริ่มเข้าไปทำการหลอมโอสถข้ามคืน


เหล่าโอสถที่มีระดับความยากสูงนั้นย่อมีคนที่มีปัญญาจะซื้อน้อย


การจ่ายผลึกปราณเทวะนับพันล้านออกมา แม้แต่ยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าก็ไม่สามารถจะจ่ายมันออกมาได้ง่ายๆ


เพราะฉะนั้นสมุนไพรที่เย่หยวนสั่งให้หนิงเทียนปิงซื้อมาส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นของที่ไว้ใช้หลอมโอสถระดับความยากต่ำๆ


ตอนนี้เหลือเวลาอีก เก้าวัน มันมากพอที่จะให้เขาใช้หาเงินได้


ตอนที่ 1652 นับเงินจนเมื่อยมือ

“ว่าไง ตู้หมิงเหลียง มาแต่เช้าเลยนะ!”


ในเช้าวันถัดมามูดงรีบมุ่งหน้ามายังกลุ่มเครือข่ายสวรรค์แต่กลับพบว่าตู้หมิงเหลียงได้มารออยู่ที่หน้าแถวก่อนแล้ว


เขาโบกมือไล่นักยุทธด้านหลังตู้หมิงเหลียงไปและเข้ามาลัดแถวในทันที


แต่ไม่มีใครกล้าบ่นว่าใดๆ


เพราะนี่คือนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาว แถมยังมีขั้วอำนาจใหญ่หนุนหลัง มีใครบ้างเล่าที่อยากรนหาที่ตาย?


เพราะสุดท้ายกฎมันก็ถูกเขียนขึ้นด้วยมือของ สามขั้วอำนาจใหญ่เอง!


ตู้หมิงเหลียงหันมามองมูดงและกล่าวขึ้น “เจ้าเองก็ไม่เช้าไม่เบาเลยนี่? ข้าว่าอีกไม่นานหลิวฮั่นก็คงมาเหมือนกันใช่ไหม? เพราะยังไงนี่ก็เป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะ ใครจะยังยอมทนอยู่เฉยได้?”


มูดงพยักหน้ารับและถอนหายใจยาว “หากข้าได้พบเจอกับเถ้าแก่เย่หลายหมื่นปีก่อนมันจะดีสักแค่ไหนกัน? เขาจะช่วยลดเวลาฝึกฝนบ่มเพาะอันยากลำบากของข้าไปได้มากขนาดไหนกันนะ?!”


“เนอะ! ตอนนี้โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามมันไม่ได้มีประโยชน์กับเรามากมายแล้ว น่าเสียดายจริงๆ” หลิวฮั่นที่เพิ่งมาถึงพูดขึ้นแทรก


นักยุทธผู้นั้นที่ต่อแถวอยู่หลังตู้หมิงเหลียงแทบจะอยากร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตาออกมา เขาได้แต่เว้นที่ว่างด้านหน้าตัวเองให้แก่ผู้มาใหม่อีกครั้ง


แต่ว่าเรื่องมันยังไม่จบเท่านั้น


เพราะนอกจาก สามขั้วอำนาจแล้วมันก็ยังมีคนตามมาต่อแถวอีกมากมาย พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลาง


และแน่นอนว่าพวกเขาเองก็เป็นคนจากค่ายสำนักกองกำลังใหญ่ในเมือง


น่าสงสารคนๆ นั้นจริงๆ เพราะเขานั้นอยู่ต่อแถวตั้งแต่เมื่อคืนแต่แค่ไม่กี่นาทีมานี้เขากลับต้องเสียคิวไปแล้วกว่า ยี่สิบคิว


ตอนนี้แถวนั้นมันจัดกันตามลำดับพลังอำนาจที่ผู้คนในเมืองนี้มี


ตอนนี้เจ้าของร้านแผงนี้ยังมาไม่ถึง ร้านของเขายังคงว่างเปล่าแต่ทุกคนต่างมารอกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยรอการมาถึงของเถ้าแก่


ไม่นานนักเย่หยวนก็พาหนิงเทียนปิงมาถึงกลุ่มเครือข่ายสวรรค์


เมื่อได้เห็นการมาถึงของเย่หยวน พวกเขาทั้งหลายต่างก็แสดงสีหน้าท่าทางตื่นเต้นออกมา


เมื่อวานนี้มีคนมากมายที่ได้ซื้อโอสถไป แน่นอนว่าข่าวเรื่องนี้มันจึงกระจายไปทั่ว


โอสถของเย่หยวนนั้นสมชื่อว่าเป็นขั้นเทวะโมฆะ ในคืนที่ผ่านมามีนักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าหลายต่อหลายคนบรรลุสู่ระดับต่อไป


นั่นทำให้ทุกผู้คนต่างสนใจในร้านขายโอสถของเย่หยวนมากกว่าเก่า


เพราะยังไงเสียหากเทียบกับอาณาจักรราชันพระเจ้า นักยุทธที่ยังอยู่ในอาณาจักรบรรพชนพระเจ้ามันก็มีมากกว่า


หลังจากจัดแจงร้านแล้ว เย่หยวนก็หันมามองตู้หมิงเหลียง “เริ่มเลยแล้วกัน เจ้าอยากได้โอสถใด?”


ตู้หมิงเหลียงนั้นค่อยๆ พูดอกมาอย่างระมัดระวังด้วยรอยยิ้ม “น้องเย่หยวน โอสถระดับความยากเก้า ที่ท่านขายนี่มีอะไรบ้าง? มีโอสถสุริยันจักรวาลหรือไม่?”


เย่หยวนพยักหน้า “มีสิ! แต่สมุนไพรที่ใช้หลอมโอสถสุริยันจักรวาลนั้นมันหายากมาก ข้าจึงมีอยู่กับตัวแค่ สองเม็ดในตอนนี้”


แต่แค่นั้นมันก็มากพอจะทำให้ตู้หมิงเหลียงแทบกระโดนตัวลอย “เยี่ยม! งั้นข้าขอโอสถสุริยันจักรวาลสองเม็ด! และก็เอาโอสถมหาปราณอีก ยี่สิบเม็ด…”


ตู้หมิงเหลียงบอกชื่อของโอสถมากมายออกมาในคราเดียว มันครอบคลุมทุกระดับความยาก


เหล่านักยุทธที่อยู่ด้านหลังได้ยินเช่นนั้นพวกเขาจึงแทบล้มลงด้วยความตกใจ


เพราะมันเยอะมากจริงๆ


หากให้นับราคาแล้วมันคงไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านแน่ๆ


แต่มูดงและหลิวฮั่นกลับไม่คิดจะอยู่เฉย มูดงกล่าวขึ้น “ตู้หมิงเหลียง อยากได้โลภมากจนน่าเกลียดนัก! เจ้าคิดว่ามีแค่พันธมิตรดาบดวงดาวของเจ้าหรืออย่างไรที่มีเงิน?”


แต่ตู้หมิงเหลียงก็ยิ้มตอบกลับไป “อยากโทษก็ไปโทษตัวเองที่ไม่ยอมมาเช้าๆ สิ! หากเจ้ามาก่อนเจ้าเองก็คงคิดจะซื้อโอสถสุริยันจักรวาลทั้งสองเม็ดเช่นกันใช่ไหมเล่า?”


มูดงหัวเราะออกมา “อย่ามาอ้าง! วันนี้เจ้าต้องเหลือไว้ให้พ่อเจ้าคนนี้ด้วยเม็ดหนึ่ง! ไม่เช่นนั้นคงได้แสดงฝีมือกันตรงนี้แล้ว!”


ตู้หมิงเหลียงจึงตอบกลับไป “งั้นก็เข้ามา คิดว่าข้ากลัวเจ้ามากเรอะ?”


ภาพตรงหน้านั้นแสนจะอันตราย แค่การเถียงกันของคนทั้งสองมันก็ทำให้เกิดกระแสลมขึ้นมาแล้ว


แต่ก็คงโทษพวกเขาไม่ได้ เพราะยังไงเสียโอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะมันก็คือตัวแทนของอาณาจักรราชันพระเจ้า มีหรือที่จะมีใครไม่อยากได้มัน?


แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับขมวดคิ้วแน่นกับภาพตรงหน้า “ได้ๆ ก่อเรื่องกันให้สาแก่ใจแล้วข้าจะไม่ขายโอสถให้ใครทั้งสิ้น!”


ได้ยินคำพูดนั้นจากปากเย่หยวน คนทั้งสามจึงเงียบปากลงทันที


ภาพนี้ทำให้คนที่อยู่ด้านหลังได้แต่มองหน้าเย่หยวนด้วยความตกตะลึง


เถ้าแก่เย่คนนี้เป็นใครมาจากไหนถึงได้กล้าพูดจาแบบนั้นต่อหน้ายอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวเช่นนั้น? แถมอีกฝ่ายยังไม่กล้าทำอะไรเลยด้วย!


เย่หยวนหยุดไปนิดหน่อยก่อนจะพูดขึ้นต่อ “หากเข้าสามารถหายาสมุทรไพรมาให้ข้าได้ ข้าก็ช่วยพวกเจ้าหลอมได้ ส่วนเรื่องค่าหลอม… สักสองพันล้านก็พอแล้ว”


เมื่อมูดงและหลิวฮั่นได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ตื่นเต้นดีใจในทันที


การหาชุดสมุนไพรมาสักสองชุดนั้นมันไม่ได้ยากเย็นมากมายสำหรับค่ายสำนักของพวกเขา


ส่วนเรื่องผลึกปราณเทวะ พวกเขาไม่ได้สนใจมันเลยแม้สักนิด


ทั้งสามค่ายสำนักนั้นอยู่ในเมืองหลวงลาภสายน้ำมานาน มีรากฐานที่มั่นคง เงินแค่ไม่กี่พันล้านนั้นหาใช่เรื่องใหญ่เลยไม่


สุดท้ายตู้หมิงเหลียงก็ซื้อโอสถไปจนครบ รวมๆ ทั้งหมดเขาจ่ายผลึกปราณเทวะออกมาถึง หนึ่งหมื่นสองพันล้าน


“น้องเย่หยวน นี่หนึ่งหมื่นสองพันล้านผลึกปราณเทวะตามที่ตกลง นับได้เลย” ตู้หมิงเหลียงยื่นแหวนให้เย่หยวนด้วยท่าทางแสนสุภาพ


มูดงและหลิวฮั่นเองก็ไม่ยอมแพ้ ต่างฝ่ายต่างซื้อโอสถกันไปกว่าคนละหมื่นล้าน


หนิงเทียนปิงที่อยู่ข้างๆ ได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยตากลมโต


เงิน… เงินมันไหลมาตามสายน้ำหรือ?


หรือว่าเมื่อวานนี้จะเป็นแค่การขายเล็กๆ กัน? และวันนี้เป็นการเปิดร้านของจริง?


ทั้งสามขั้วอำนาจใหญ่จ่ายเงินออกมามากถึงสามหมื่นล้าน!


ส่วนที่ด้านหลังก็ยังมีคนอีกมากมายรอคอยในแถว


แม้ว่าค่ายสำนักที่เหลือจะไม่ใช่ค่ายสำนักใหญ่เหมือนสามขั้วอำนาจ แต่พวกเขาเองก็เป็นเหล่าผู้คนที่ไม่เคยขาดแคลนเรื่องเงินๆ ทองๆ เช่นกัน


ในวันนี้หนิงเทียนปิงได้ใช้เวลามากมายไปกับการนับจำนวนผลึกปราณเทวะจนหัวเริ่มหมุน


นี่สินะคือสิ่งที่เรียกว่านับเงินจนเมื่อยมือ!


เมื่อสิ้นวันลง หนิงเทียนปิงก็ได้นับรวมๆ แล้วว่าพวกเขาได้ผลึกปราณเทวะมากว่าหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นล้าน


ในวันเดียวกลับได้มาถึงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นล้าน!


หนิงเทียนปิงรู้สึกว่าหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เรื่องราวแบบนี้มันมีในโลกด้วยหรือ?


แต่ทว่ามันยังไม่จบแค่นั้น


ในวันต่อมาเหล่าร้านรวงที่ขายยาสมุนไพรได้ถูกสามขั้วอำนาจใหญ่เข้ากว้านซื้อ


ขั้วอำนาจใหญ่ทั้งสามได้รวมสมุนไพรส่วนของโอสถ เจ็ดเม็ด และนำมันมาให้เย่หยวนหลอมเป็นโอสถสุริยันจักรวาล


แน่นอนว่าภายในหมูมวลโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม ทั้งหมด โอสถสุริยันจักรวาลนั้นเป็นของที่ชื่อดังที่สุดและใช้งานได้ดีที่สุด


สิบวันผ่านไปในพริบตา ในวันที่สิบ หนิงเทียนปิงได้รับรู้อย่างแท้จริงถึงพลังในการหาเงินของเย่หยวน


“ฮ่าฮ่าฮ่า… นายใหญ่นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว! เวลาสั้นๆ แค่ สิบวันเท่านั้นแต่เรากลับสามารถหาเงินได้มากกว่าสี่แสนล้าน! มากกว่าสี่แสนล้าน!”


สุดท้ายหนิงเทียนปิงก็รู้สึกดีใจตัวลอยจนแทบบ้า


กำไรในการขายโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมันจะมากมายเกินไปแล้ว


เหมือนอย่างโอสถสุริยันจักรวาล แม้ว่าตัวสมุนไพรที่ใช้หลอมจะหายาก แต่ถึงจะยังไงราคามันก็ไม่เกิน เจ็ดร้อยถึงแปดร้อยล้านเท่านั้น


แต่เมื่อเย่หยวนทำการหลอมมันออกมา ราคาของมันกลับพุ่งไปถึงสามพันล้าน!


โอสถสุริยันจักรวาลเม็ดหนึ่งมีค่าเพิ่มมาเกือบสองพันล้านในคราเดียว


แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่เย่หยวน ยอดคนเหนือมนุษย์อย่างเขาเท่านั้นที่จะทำเงินได้มากมายขนาดนี้ได้


หากเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นผู้อาวุโสใหญ่ซวนอี้หรือผู้อาวุโสที่สองหรงซู พวกเขาก็ไม่มีทางเลยที่จะทำได้ถึงขนาดนี้!


เพราะพวกเขาไม่สามารถหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะได้!


ไม่ต้องพูดถึงขั้นเทวะโมฆะเสียด้วยซ้ำ แม้แต่ขั้นเทวะม่วงพวกเขาก็ไม่มีปัญญาที่จะหลอมมันได้


เพราะฉะนั้นผลกำไรที่ได้มาจากการหลอมจึงไม่มีทางมากมายมหาศาลขนาดนี้


เย่หยวนยิ้มออกมาเบาๆ “หลายวันมานี้ข้าเองก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดเหมือนกัน มันยังมีเวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงการประมูล เรามาใช้เวลาช่วงนี้เดินดูในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์เถอะ เห็นอะไรดีๆ คราวนี้เราจะซื้อมันมาให้หมด”


ตอนที่ 1653 เหรียญตราสูงสุด

มีเงินนี่มันดีจริง ๆ


ในเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เย่หยวนและหนิงเทียนปิงได้ทำแค่เรื่องเดียว นั่นคือซื้อ ซื้อ และก็ซื้อ!


ตอนนี้เย่หยวนยังไม่สามารถที่จะหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ได้ตัวเขาจึงทำได้แค่ซื้อยาสมุนไพรและสมบัติธรรมชาติให้หนิงเทียนปิงไปพลาง ๆ


หนิงเทียนปิงนั้นได้บ่มเพาะจนตอนนี้มาถึงช่วงสุดของอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวแล้ว ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ช่วงคอขวดก่อนขึ้นอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาว


แต่เมื่อไม่มีความช่วยเหลือจากเย่หยวน ตัวเขาเองลำพังก็ไม่สามารถที่จะบรรลุคอขวดนี้ไปได้ง่าย ๆ


ทั้งสมบัติธรรมชาติและสมุนไพรต่าง ๆ นั้นมันยังไม่ถูกหลอมเป็นโอสถ จึงไม่สามารถช่วยเขาได้มากมายเท่าใดนัก


เพราะหากซื้อสมุนไพรมากินแล้วบรรลุคอขวดได้ ก็คงไม่มีใครคิดสนใจเหล่านักหลอมโอสถแล้ว


อาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวขึ้นสู่สี่ดาวนั้นเป็นคอขวดที่ยากไม่น้อย หากเขาอยากจะบรรลุคอขวดนี้ไปให้ได้โดยไม่พึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอก ต่อให้หนิงเทียนปิงจะมีพรสวรรค์ที่มากมายแค่ไหน มันก็คงต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย ๆ เป็นพันปี


แต่หนิงเทียนปิงก็ไม่ได้เร่งรีบใด ๆ ขนาดนั้น เพราะแค่ความเร็วการบ่มเพาะที่เขาขึ้นมาสู่ระดับสามดาวได้ตอนนี้มันก็รวดเร็วจนเกินกว่าจะมีใครตามทันแล้ว


เรื่องทั้งหมดนี้ย่อมต้องขอบคุณเย่หยวน หนิงเทียนปิงพอใจกับตัวเองในตอนนี้มาก ๆ


ด้วยผลึกปราณเทวะในมือตอนนี้เย่หยวนจึงเริ่มที่จะซื้อสมุนไพรระดับสี่หายากต่าง ๆ เพื่อจะได้นำมันไปศึกษา


แต่ความจริงในเรื่องการศึกษาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่นั้น เย่หยวนได้เริ่มทำมันมานานมากแล้ว


ด้วยศิลาจารึกบัลลังก์พิภพที่เขามี มันจึงทำให้เขามีเวลามากกว่าคนอื่น ๆ นับสิบเท่า


เวลาสามร้อยปีที่ผ่านมาในโลกภายนอก เย่หยวนกลับได้ใช้เวลาไปแล้วกว่าสองพันปี


ในเวลากว่าสองพันปีนี้ มันก็ไม่มีทางเลยที่เย่หยวนจะใช้เวลาทั้งหมดเสียไปกับการหาทางบรรลุอาณาจักรเพียงอย่างเดียว


การศึกษาวิจัยโอสถจึงได้กลายมาเป็นเป้าหมายที่สองของเย่หยวน


ตอนนี้เย่หยวนนั้นมีพื้นฐานที่หนักแน่นมาก ต่อให้ไม่มีการแนะนำของหวู่เฉินเขาก็สามารถที่จะเข้าใจโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ได้ไม่น้อย


แต่เมื่อได้รับการแนะนำจากหวู่เฉินด้วย การพัฒนาของเขามันจึงยิ่งก้าวกระโดด


หากตอนนี้เขาสามารถบรรลุขึ้นอาณาจักรราชันพระเจ้าได้ เขาคงสามารถที่จะหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ความยากหกถึงเจ็ดได้ในทันทีอย่างง่ายดาย


แต่ว่าช่องว่างในพลังระหว่างอาณาจักรพระเจ้านั้นมันยิ่งใหญ่เกินไป เขาไม่สามารถกระโดดข้ามอาณาจักรเพื่อทำการหลอมโอสถได้เหมือนสมัยยังอยู่ในอาณาจักรมนุษย์


มีแต่ต้องรอให้เย่หยวนบรรลุอาณาจักรอาณาจักรราชันพระเจ้าเท่านั้นเขาถึงจะสามารถหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์สี่ ได้


สมบัติธรรมชาติระดับสี่นั้นมันแพงไม่น้อย แต่ละชิ้นราคาขึ้นไปถึงหลักร้อยล้านผลึกปราณเทวะได้ง่าย ๆ


ในเวลาห้าวันนี้ พวกเขาทั้งสองได้ใช้เงินไปแล้วกว่าหนึ่งแสนล้าน!


“ฮ่าฮ่าฮ่า นายใหญ่ ความรู้สึกในการใช้เงินแบบนี้มันรู้สึกดีสุด ๆ ไปเลย! ข้าเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านถึงได้บ่มเพาะพลังได้เร็วนัก!” หนิงเทียนปิงหัวเราะลั่น


หนิงเทียนปิงนั้นเคยเชื่อว่าตัวเองเป็นเด็กร่ำรวยในเมืองใหญ่ แต่เวลาไม่กี่วันมานี้เขาเพิ่งจะได้รู้ตัวว่าตัวเองมันแค่เด็กจน ๆ บ้านนอกคนหนึ่ง!


อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าใช้เงินเหมือนเป็นน้ำ?


นี่ต่างหากล่ะคือการใช้เงินเหมือนเป็นน้ำอย่างแท้จริง!


การใช้จ่ายนับแสนล้านในเวลาแค่ห้าวัน มีใครที่ไหนจะกล้าทำแบบนี้อีก?


สำหรับเย่หยวนแล้ว ผลึกปราณเทวะนั้นมันเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่จะใช้ในการเพิ่มความแข็งแกร่ง


อย่างที่เขาว่ากัน เงินนั้นไม่ตายก็ยังหาใหม่ได้ และสำหรับเย่หยวนแล้วการหาเงินมันไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย


เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เมื่อก่อนข้านั้นเคยซื้อแต่สมุนไพรระดับสามเลยไม่รู้สึกอะไรมากมาย แต่ตอนนี้หลังจากได้ลองซื้อสมุนไพรระดับสี่ดูแล้ว ข้าถึงได้รู้ว่า ‘แพง’ มันเป็นยังไง หากข้าคิดซื้อทุกอย่างที่อยากจริง ๆ สี่แสนล้านมันก็คงไม่พอที่จะจ่าย”


เย่หยวนนั้นต้องการที่จะร่วมงานประมูล เขาจึงไม่ได้ปล่อยตัวเองซื้อทุกอย่างตามที่อยากได้จริง ๆ


เมื่อใดก็ตามที่เขาขึ้นไปสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้ เงินสี่แสนล้านแค่นี้มันจะไร้ค่าไปเลยสำหรับเขา


แค่จะเอามาซื้อวัตถุดิบหลอมโอสถระดับสี่กลับไปศึกษามันก็ยังไม่น่าจะพอ


เพราะตอนที่เย่หยวนเริ่มศึกษาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามนั้นเขาใช้ผลึกปราณเทวะไปหลายหมื่นล้าน


และเงินจำนวนนั้นแม้แต่นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าก็ยังไม่มีปัญญาจะใช้จ่ายมัน ไม่ต้องพูดถึงอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าเลย


คนทั้งสองตอนี้กำลังนั่งคุยเล่นกันอยู่ในที่พักก่อนที่ตู้หมิงเหลียงจะมาถึง


“คารวะเถ้าแก่เย่!” ตู้หมิงเหลียงนั้นมีท่าทางเคารพเย่หยวนมาก ถึงขั้นเปลี่ยนคำเรียกชื่อไปเลยทีเดียว


ท่าทางแสนเคารพแบบนี้มันมิใช่ท่าทางที่จะแสร้งทำได้เลย


โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะที่เย่หยวนหลอมนั้น ทางพันธมิตรดาบดวงดาวได้ทำการคัดเลือกศิษย์ที่มีความสามารถดีเข้ามากินมัน แล้วผลที่ได้มันกลับน่าประทับใจจนพูดไม่ออก!


เมื่อก่อนนั้น พวกเขาทั้งหลายเคยได้ยินแค่ชื่อโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะแต่ไม่เคยได้เห็นมันมาก่อน พวกเขาจึงไม่รู้เลยว่าผลของโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมันจะดีได้แค่ไหน


แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายได้เห็นพลังที่แท้จริงของโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะแล้ว


เขาเขี้ยนนั้นเป็นหนึ่งในศิษย์ที่ได้รับการคัดเลือกใก้กินโอสถสุริยันจักรวาลเม็ดนั้นเข้าไป และนั่นทำให้เขาสามารถบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้ในเวลาแค่สามวัน!


ความเร็วในการบรรลุนี้มันเหนือล้ำคำบรรยายใด ๆ


ที่สำคัญตัวเจาเจี้ยนเองยังบอกว่าผลของโอสถยังไม่หมดลง มันคงต้องใช้เวลาอีกนานแสนนานในการดูดซับมันให้หมด


หากไม่มีเรื่องใด ๆ เกิดขึ้นเสียก่อน ผลของมันน่าจะอยู่ไปได้อีกราวหนึ่งร้อยปี!


ถึงตอนนั้นการจะบรรลุขึ้นอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย


ผลโอสถระดับนี้ มีหรือที่หลี่ซิงและตู้หมิงเหลียงจะไม่ตื่นตะลึง?


ส่วนโอสถชนิดอื่น ๆ ที่พวกเขาได้มามันก็ให้ผลที่วิเศษไม่แพ้กัน


ทำให้ตอนนี้ตู้หมิงเหลียงคารวะเคารพต่อเย่หยวนอย่างสุดใจ ตอนนี้เขายิ่งมั่นใจว่าหลี่ซิงคงคาดเดาไม่ผิดนัก


เย่หยวนผู้นี้ต้องเป็นยอดศิษย์จากยอดกองกำลังค่ายสำนักใดสักแห่งแน่ ๆ พวกเขาไม่มีทางที่จะกล้าไปหาเรื่องเขาเลย!


และที่สำคัญคือพวกเขาไม่มีเหตุผลใด ๆ ให้ต้องหาเรื่องเลยด้วย!


เย่หยวนพยักหน้าและถามขึ้นอย่างผ่อนคลาย “แล้วเจ้ามามีธุระใดรึ?”


ตู้หมิงเหลียง “เถ้าแก่เย่ ผู้นำพันธมิตรของข้านั้นได้ยินมาว่าท่านต้องการจะเข้าร่วมงานประมูลของเมืองหลวงลาภสายน้ำ ผู้นำพันธมิตรจึงได้สั่งการให้ข้านำเหรียญตราสูงสุดนี้มามอบให้ท่าน ท่านสามารถใช้มันเพื่อเข้าร่วมการประมูลในเขตที่นั่งสูงสุดได้ นอกจากนี้พันธมิตรดาบดวงดาวของเรายังจะยกค่านายหน้าให้เถ้าแก่ห้าเปอร์เซ็นต์ด้วย! เหรียญตรานี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดเก้าเหรียญ และพันธมิตรดาบดวงดาวมีอยู่สามเหรียญ นี่คือหนึ่งในเหรียญทั้งสามนั้น!”


เย่หยวนนั้นประหลาดใจไม่น้อย เพราะการยกค่านายหน้าให้ห้าเปอร์เซ็นต์มันก็เท่ากับว่าพวกเขาลดราคาประมูลห้าเปอร์เซ็นต์


มันเป็นการกระทำที่เห็นได้ยากมากในงานประมูล


เพราะว่าของที่นำมาขึ้นการประมูลนั้นไม่ได้เป็นของที่สามขั้วอำนาจจัดหามาเอง พวกมันทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นของที่นักยุทธนำมาฝากขายในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์จนได้ขึ้นสู่เวทีประมูล


กลุ่มเครือข่ายสวรรค์นั้นเป็นเจ้าภาพจัดงานประมูล พวกเขาจึงคิดค่านายหน้าในการขายเพื่อเป็นค่าจัดการงาน


แต่การยกค่านายหน้าให้ห้าเปอร์เซ็นต์มันก็เท่ากับว่าทางกลุ่มเครือข่ายสวรรค์จะได้กำไรน้อยลง นั่นทำให้เย่หยวนประหลาดใจกับเรื่องนี้มาก


แน่นอนว่าเหล่าคนที่เข้าร่วมงานประมูลนั้นคงไม่สนใจผลึกปราณเทวะแค่ไม่กี่ร้อยล้านนี้หรอก


ที่สำคัญที่สุดคือสิ่งนี้มันเป็นสัญลักษณ์แสดงฐานะ!


ตอนนี้มันมีจำนวนกองกำลังค่ายสำนักตั้งอยู่เมืองนี้มากมายมหาศาล บ้างก็เป็นกองกำลังภายนอกทำให้แม้แต่ 3 ขั้วอำนาจใหญ่ก็อยู่ไม่สุขนัก


การที่พวกเขาทำเหรียญตราสูงสุดนี้ออกมาแค่เก้าเหรียญมันก็หมายความถึงคุณค่าที่สูงส่ง


แต่เย่หยวนก็ไม่ได้สนใจและรับมันมาเฉย ๆ “ได้ ข้าจะรับมันไว้ ขอฝากคำขอบคุณไปถึงท่านผู้นำพันธมิตรด้วย!”


ตู้หมิงเหลียงรีบตอบกลับมา “ไม่เลย ๆ เถ้าแก่เย่นั้นช่วยเหลือพันธมิตรดาบดวงดาวเราไว้มาก เรื่องนี้มันเป็นเพียงแค่คำขอบคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเราเท่านั้น”


เย่หยวนพยักหน้ายอมรับมันไว้


เพราะเมื่อได้รู้ถึงความน่ากลัวของผลจากโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะ พันธมิตรดาบดวงดาวก็รู้ได้ทันทีว่าโอสถแบบนั้นในราคาแค่หมื่นล้านกว่า ๆ นั้นมันแสนจะถูก!


ตอนนี้หากโอสถเหล่านั้นขึ้นเวทีประมูล อย่าว่าแต่สามพันล้าน ต่อให้เป็นหกหรือเจ็ดพันล้านมันก็เป็นไปได้ ทุกคนคงต่อสู้กันเพื่อมันอย่างเลือดตาแทบกระเด็น


เพราะโอสถแค่เม็ดเดียวกลับสามารถสร้างยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวขึ้นมาได้ มันไม่มีอะไรจะคุ้มค่าไปกว่านั้นแล้ว!


ที่สำคัญทางพันธมิตรดาบดวงดาวยังเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดด้วย เพราะพวกเขาทั้งหลายเป็นกลุ่มคนแรกที่ได้ซื้อโอสถนั้นมาก่อนสองเม็ด


หลังจากนั้นพวกเขาก็หายาสมุนไพรจบครบและกลับไปหาเย่หยวนอีกครั้งเพื่อหลอมอีกสองเม็ด สุดท้ายพวกเขาจึงได้มาทั้งหมดสี่เม็ด มากกว่าขั้วอำนาจอื่น


แค่ส่วนลดห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมันเรียกได้ว่าไม่เสียหายใด ๆ เลย


เมื่อมูดงเห็นตู้หมิงเหลียงเขาก็ได้แต่ทำหน้าไม่พอใจ


โดยเจ้าหมอนี่มาตัดหน้าอีกแล้ว!


คราวนี้พันธมิตรดาบดวงดาวนั้นได้ไปมากจริง ๆ


มูดงและตู้หมิงเหลียงนั้นมีเป้าหมายเดียวกัน พวกเขามาที่นี่เพื่อมอบเหรียญตราสูงสุด


แถมประโยชน์ที่ให้ก็ยังเหมือนกัน ด้วยส่วนลดค่านายหน้าห้าเปอร์เซ็นต์


ไม่นานจากนั้นหลิวฮั่นก็มาถึงด้วย


นับรวม ๆ แล้วตอนนี้เย่หยวนมีส่วนลดถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ติดตัว


หากนับรวม ๆ ส่วนลดที่ทั้งสามขั้วอำนาจให้มา มันก็ไม่น้อยเลยทีเดียว


จากเหรียญตราสูงสุดทั้งเก้ามันมาอยู่ในมือเย่หยวนแล้วสาม!


ของที่ราคาหมื่นล้านก็จะได้รับส่วนลดถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้าน จะเรียกมันว่าไม่จริงจังก็คงไม่ได้แล้ว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)