Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1454-1455

 ตอนที่ 1454 ไปขอขมาพี่ข้าซะ

โดย

Ink Stone_Fantasy

หลินซิ่งร่นถอยทำให้ฉินเจิ้งอยู่ในตำแหน่งถูกโจมตีจากทุกด้านรอบทิศไปโดยปริยาย


แรงคุกคามผนวกกับความเร็วเกินบรรยายของเย่หยวนแทบทำเอาเขาเหนื่อยจัดเจียนตาย


“บิดาคนนี้จะสู้กับเจ้าเอง!”


ฉินเจิ้งหาได้ใส่ใจที่หลินซิ่งหนีออกไปแบบนั้น เพราะยามนี้เขาไม่มีเวลามามัวสนใจอย่างอื่น


เขายอมแพ้ต่อกรงเล็บรัตติกาลสังหารแล้ว โดยฉินเจิ้งมุ่งเน้นขุมพลังที่หลงเหลือเพื่อแรงชีวิตกับเย่หยวน!


พลังโจมตีเต็มสูบของเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าขั้นสุด หาใช่สิ่งที่เย่หยวนจะสามารถต้านรับได้ไหว


“กุ้ยหยุน!”


เย่หยวนเปล่งเสียงร้องลั่นเรียกหา กุ้ยหยุนเข้าใจได้ในทันที


กรงเล็บรัตติกาลสังหารเพิ่มความเร็วเป็นทวีเท่า ปลดปล่อยออกไปเพื่อแยกเย่หยวนกับฉินเจิ้งออกจากกัน


แต่นี่ยังไม่จบแค่นั้น สองเท้าเย่หยวนก้าวย่างกระตุกวูบ ขณะที่กรงเล็บรัตติกาลสังหารของกุ้ยหยุนปลดปล่อยออกไปเป็นคำรบสอง


บูมมม!


การโจมตีของฉินเจิ้งกระแทกชนกับกรงเล็บโดยตรง แรงระเบิดที่ก่อเกิดส่งผลให้ร่างเย่หยวนถูกซัดกระเด็นออกไปพร้อมกระอักพ่นเลือดสดออกมาคำโต


“จันทร์…สลาย!”


หยิบยืมกรงเล็บรัตติกาลสังหารมาคอยคุ้มกัน เปิดจังหวะให้เย่หยวนสำแดงใช้จันทร์สลายออกไป


การปะทะชนระหว่างฉินเจิ้งกับกุ้ยหยุนส่งแรงผลักมหาศาล ถีบส่งร่างของเย่หยวน ผนวกกับจันทร์สลายที่ปลดปล่อยออกมาในขณะเดียวกัน ยิ่งส่งเสริมเพิ่มความเร็วของเย่หยวนจนถึงขีดสุด!


เบื้องหน้าทุกคนในตอนนี้เสมือนภาพฉากเบลเป็นเงาซ้อน ทันทีทันใดร่างของเย่หยวนพลันอันตรธานหายสิ้นจากจุดที่ยืนอยู่!


หลิวซิ่งทะยานหนีออกไปไกลกว่าสองร้อยฉื่อ ทว่าทันใดนั้นนางพลันรู้สึกได้ถึงจิตสังหารแห่งดาบที่พุ่งตรงมาจากด้านหลัง ถึงขั้นขนลุกซู่วยันหนังศีรษะทั่วร่างของนาง


เร็วเกินไป!


ตอนนี้หลินซิ่งเร่งหันขวับไปหาเย่หยวน ทว่ากลับไม่มีเวลาผนึกพลังสร้างปราการป้องกันแต่อย่างใด


ระยะสองร้อยฉื่อถือว่าใกล้ชิดเพียงขยับนิ้วต่อหน้าความเร็วของเย่หยวน


ซวบ!


ดาบพิชิตมารฟ้าเสียบทะลวงเข้าไปยังบริเวณช่องท้องของหลินซิ่งโดยตรง!


“อ๊ากกก!!”


หลินซิ่งกรีดร้องเสียงหลงสุดเวทนาจับใจ แกนทะเลจิตวิญญาณของนางถูกทำลายไม่เหลือ พลังปราณเทวะจำนวนมหาศาลไหลบ่าออกมาอย่างบ้าคลั่ง


ในช่วงเวลาขณะนี้เอง พลันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหลายฉากเหลือเกิน จนผู้คนมิอาจตอบสนองได้ทันแล้ว


ปฏิกิริยาของเย่หยวนไวแสงเปลี่ยนสีปรับเร็วมาก แม้จะบาดเจ็บหนักแต่ก็ยังประยุกต์กระบวนท่าได้ตามสถานการณ์แม้ถูกโจมตี!


บาดแผลระดับแค่นี้แน่นอนว่าหาได้ร้ายแรงอันใดเลยสำหรับหลินซิ่ง ทว่าตอนนี้นางกลายเป็นคนพิการไปโดยปริยายแล้ว


ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของหลินซิ่งถูกทำลายไม่เหลือดี ในเวลานี้นางไม่สามารถระดมใช้พลังปราณเทวะได้อีกต่อไป


“พร๊วดด!”


อาการบาดเจ็บของเย่หยวนไม่สามารถระงับทนต่อได้ไหว ยามนี้เขากระอักพ่นโลหิตออกมาไม่หยุดยั้ง


เลือดสดสีแดงย้อนเสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาในทันที


ทว่าปัจจุบันนี้ เย่หยวนเปรียบเสมือนเทพสงครามผู้กระหายเลือด ทำคนโดยรอบทั้งหวาดกลัวและเลื่อมใสในเวลาเดียวกัน


ใช้เวลาเพียงเศษเสี้ยวชั่วยาม เย่หยวนสามารถสังหารสามคนและทำให้พิการได้หนึ่งคน


หากไม่เห็นด้วยตาตนเองคงทำใจยากที่จะเชื่อว่า เซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าสามารถสร้างผลงานอันน่าทึ่งขนาดนี้ได้จริงๆ


พวกเขามิอาจสรรหาคำใดมาพรรณนาความเหลือเชื่อนี้ได้เลย


“เย่หยวน! ข้า…ข้าจะฆ่าเจ้า! เจ้า…เจ้ากล้าทำลายการบ่มเพาะพลังของข้าจริงๆ!”


บนถนนทั้งสามสายมีเพียงเสียงกรีดร้องโหยหวนสุดน่าสังเวชของหลินซิ่งเท่านั้นที่ดังขึ้น


ในขณะที่อีกด้านเป็นศึกสัประยุทธ์เดือดระหว่างกุ้ยหยุนและฉินเจิ้ง


การปะทะก่อนหน้าได้สร้างบาดแผลสาหัสให้แก่กุ้ยหยุนเช่นกัน แต่ตอนนี้หากต้องรับมือกับฉินเจิ้งที่สาหัสกว่า พลังเท่านี้นับว่าเพียงพอแล้ว


เย่หยวนเดินโซซัดโซเซตรงไปตรงหน้าหลินซิ่ง เมื่อนางเห็นอีกฝ่ายเดินตรงเข้ามา นางโกรธจัดดวงตาคู่นั้นแทบจะพ่นไฟออกมาได้


“เย่หยวน! เจ้าต้องตายอย่างสยดสยองเกินจินตนาการ! ข้าขอสาปแช่งเจ้า…”


เพี๊ยะ!!


เสียงตบหน้าดังกระหึ่ม ร่างของหลินซิ่งที่นอนกองกับพื้นพลันกระเด็นอีกรอบ


หลินซิ่งในปัจจุบันไร้ซึ่งพลังปราณเทวะมาคอยปกป้องร่างกาย เช่นนั้นนางจะทนต่อฝ่ามือตบของเย่หยวนได้อย่างไร? โดยไปครั้งเดียว หน้าของนางก็บวมปูดเป็นหัวหมูในทันที


สายตาที่จับจ้องของเย่หยวนปราศจากความเมตตาเห็นใจใดๆ แต่นั่นเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหาร


คล้อยหลังถูกตบหน้าอย่างแรง หลินซิ่งก็ดูเชื่องขึ้นในทันใด


ในที่สุดนางก็รู้แล้วว่า ยามนี้นางหาใช่อัจฉริยะฟ้าประทานอันน่าภาคภูมิอีกต่อไป แต่กลับกลายมาเป็นคนพิการเฉกเช่นเดียวกับเจ้าท้วม


หลิวซิ่งยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่ปูดบวมและช้อนสายตามองเย่หยวนทั้งน้ำตา ยามนี้ทั่วร่างสั่นเทาอย่างหนักด้วยความหวาดกลัวที่มีต่อเย่หยวน


ในสายตาของหลินซิ่งในปัจจุบัน เย่หยวนคือฆาตกรใจเหี้ยมที่ฆ่าคนได้ทุกเมื่อ


และเย่หยวนคนนี้ปราศจากความเห็นใจแต่อย่างใด


“ไป! ไปขอโทษพี่ชายข้าซะ!”


จากนั้นเย่หยวนก็กระชากคอเสื้อของนางขึ้น และลากร่างของหลิวซิ่งไปทั้งแบบนั้น


บูมมม!


ในอีกด้าน ฉินเจิ้งถูกกรงเล็บรัตติกาลสังหารกระหน่ำใส่ไม่หยุดหย่อน สภาพยามนี้เรียกได้ว่าตายยิ่งกว่าตาย


ณ ปัจจุบันเหล่าศิษย์ชั้นในระดับแนวหน้าทั้งห้าแห่งสถานศึกษาหวูเมิ่ง ตายสี่และพิการอีกหนึ่ง


และศึกสัประยุทธ์ครั้งนี้ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งในสี่ชั่วยามเท่านั้น


ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วเกินไป จนตระกูลฉินและสถานศึกษาหวูเมิ่งยังไม่ทันรับรู้ด้วยซ้ำ


“ไป!”


กุ้ยหยุนกลับเข้าไปยังไข่มุกสยบวิญญาณเพื่อพักฟื้นพลัง ในขณะที่เขายังคงลากร่างของหลิวซิ่งเดินกลับไป


บนท้องถนนยามนี้ทุกคนกลับสบตากันไปมาเปี่ยมล้นความตื่นตกใจ


การต่อสู้ในวันนี้ได้ทำลายความเข้าใจเก่าๆของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง


“ข้า…ตอนนี้ข้าคงฝันไปกระมัง! เรื่องเช่นนี้เป็นความจริงหรือนี่! อาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าสามารถทำได้ขนาดนี้เชียว!”


“แข็งแกร่งเกินไป! พวกเขาล้วนเป็นศิษย์ชั้นในระดับแนวหน้าของสถานศึกษา แต่กลับถูกเย่หยวนฆ่าทิ้งภายในเวลาไม่กี่นาที!”


“พลังการต่อสู้ของเย่หยวนไม่เพียงแต่ทรงพลังอย่างมากเท่านั้น แต่สัญชาตญาณการต่อสู้ของเขายังเฉียบคมมาก สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี พบเจอคู่ต่อสู้ประเภทนี้น่ากลัวที่สุดแล้ว!”


“ศึกในคราวนี้เกินพอแล้วที่จะถูกเขียนลงบนหน้าประวัติศาสตร์! หากไม่เห็นด้วยตาตนเองคงคิดว่าปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาแน่นอน!”


“แต่เย่หยวนก็ถือได้ว่าสร้างปัญหาระดับวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษาหวู่เมิ่งหรือตระกูลฉิน พวกเขาไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแน่! อาจทำให้ท่านเจ้าเมืองออกโรงด้วยตัวเอง!”



เมื่อฉินเทียนหนานได้ยินข่าวนี้ เขาพลันเคาะหูไปมาทันที สงสัยว่าตัวเองได้ยินอะไรผิดไปหรือไม่?


“ไร้สาระ! มองข้ามฉินเจิ้งกับฉินเป่ยไปได้เลย หลินซิ่งเป็นถึงศิษย์ชั้นในอันดับสองรองจากฉินเทียน ความแข็งแกร่งของเย่หยวนจะไปอยู่ในระดับเดียวกับนางได้อย่างไร? ไอ้บัดซบเย่หยวนทำให้นางพิการ? ไร้สาระสิ้นดี!”


ทว่าสีหน้าการแสดงออกของผู้ใต้บัญชาคนนั้นปราศจากเจตนาโกหกโดยสิ้นเชิง


“ท่านประมุขตระกูล แม้ว่าผู้ใต้บัญชาคนนี้จะใจหาญกล้า แต่ข้าไม่มีทางสร้างเรื่องหรือปั้นน้ำเป็นตัวเช่นนี้แน่นอน! เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัย มีผู้พบเห็นเป็นพยานเป็นผู้คนทั่วทั้งเมือง ยามนี้ลือลั่นไปทั่วทุกมุม!”


เมื่อได้ฟังเช่นนั้น กล้ามเนื้อทั่วใบหน้าฉินเทียนหนานพลันกระตุกไม่หยุด หัวใจเขาคล้ายว่าถูกมีดคมกริบกรีดแทงเข้าไป


แม้ว่าฉินเจิ้งกับฉินเป่ยจะมิได้เก่งกาจเท่าฉินเทียน แต่ความสามารถของพวกเขายังเหนือชั้นกว่าผู้คนในระดับเดียวกันอย่างชัดเจน และในอนาคตต่อไปพวกเขาล้วนเป็นเสาหลักของตระกูลฉิน


ทว่าตอนนี้พวกเขากลับถูกเย่หยวนฆ่าทิ้งจนเกลี้ยง!


ฉินเทียนหนานพลันรู้สึกหวาดกลัวภายในใจ เรื่องราวที่เคยยั่วยุเย่หยวนไป บัดนี้กลับตามสนองตระกูลฉินแล้ว


ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ฉินเทียนเป็นตายร้ายดีอย่างไรกลับไม่ทราบ ส่วนสมาชิกชั้นสูงของตระกูลฉินก็ถูกกำจัดสิ้นซาก ผลกระทบเช่นนี้รุนแรงเกินตระกูลฉินจะทนรับไหว


ฉินเทียนหนานโกรธจัด เขาเอ่ยถามน้ำเสียงเยียบเย็นขึ้นว่า


“ตอนนี้เย่หยวนอยู่ที่ไหน?”


ผู้ใต้บัญชากล่าวว่า


“เย่หยวนทำให้หลินซิ่งพิการและจับนางไปขังไว้ในหอมหาสมบัติ สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดน่าจะเกี่ยวข้องกับเซี่ยะจิ้งอวี๋”


ในฐานะที่เป็นประมุขตระกูลฉิน เรื่องราวของเซี่ยะจิ้งอวี๋ เขาเองย่อมเคยได้ยินโดยธรรมชาติ


ตอนนี้เขาคิดแค่ว่าเย่หยวนต้องตายไปแล้วแน่นอน จึงอนุมัติให้ลงมือกับเจ้าท้วม


แม้นี่จะดูเป็นการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างเยาวชน แต่ฉินเทียนหนานก็รู้สึกสะใจแทน คล้ายได้ระบายความแค้นออกไปบ้าง


ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาเองก็กำลังคิดเรื่องงานแต่งระหว่างหลินซิ่งกับฉินเทียนพอดี


แต่เขากลับไม่คิดเลยว่า เรื่องเล็กๆ เพียงแค่นี้กลับสร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงได้ขนาดนี้จริงๆ!


หลังจากผู้ใต้บัญชาจากไป ฉินเทียนหนานพลันกัดฟันแน่นด้วยความโกรธจัด


“ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ข้าไร้ซึ่งทางเลือกอื่นนอกจากเชิญท่านพ่อออกโรง!”


ตอนที่ 1455 สำนึกผิด

โดย

Ink Stone_Fantasy

ตุบบ!


เย่หยวนเตะส่งร่างหลินซิ่งกลิ้งกระเด็นลงพื้น ก่อนจะจับลากนางให้อยู่ในท่าคุกเข่า


เบื้องหน้าคนที่นอนอยู่บนเตียงมิใช่ใครอื่นนอกเสียจากเจ้าท้วม เซี่ยะจิ้งอวี๋


“พี่ข้า น้องคนนี้ช่วยแก้แค้นให้ท่านได้สำเร็จแล้ว แม้นข้าต้องทิ้งชีวิต อย่างไรเสียพวกมันก็ต้องอยู่ไม่เป็นสุข! พวกมันทำลายทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ในขณะที่ข้าทำลายทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของนังนี่ไปแล้ว! ข้าพานังนี่มาให้มาขอขมาต่อท่าน ชีวิตหรือความตายอย่างไรท่านจงตัดสินด้วยตนเอง!”


เย่หยวนเค้นเสียงเย็นสะท้านเอ่ยกล่าวทีละคำ


อาการบาดเจ็บของเย่หยวนในขณะนี้ไม่เบาเลย แต่นี่หาใช่เวลามานั่งห่วงอาการบาดเจ็บของตน


เขาทราบดีว่าหลังศึกสัประยุทธ์ครั้งใหญ่นี้ คลื่นมวลหนักจักต้องถาโถมเข้าใส่ตำหนักเจ้าเมืองหลวงในไม่ช้าก็เร็ว


ตอนนี้เหลือเวลาไม่มากแล้ว!


หลินซิ่งในปัจจุบันยังเหลือร่องรอยเทพธิดาอันน่าภาคภูมิได้อย่างไร?


นางในตอนนี้ผมเพากระเซอะกระเซิง เสื้อผ้าขาดหลุดรลุ่ยเปื้อนดินเปื้อนทราย ใบหน้าครึ่งหนึ่งบวมช้ำเป็นหัวหมู บริเวณหน้าท้องมีคราบเลือดที่แห้งแล้วสีดำแดงแลดูสยดสยอง


ที่สำคัญที่สุดคือ ความภาคภูมิใจทั้งหมดของนางถูกเย่หยวนทำลายจนหมดสิ้นแล้ว!


เย่หยวนไร้ซึ่งความเมตตาใดๆ ต่อหญิงสาวตรงหน้าเลย ในสายตาของเขานางเป็นเพียงอสรพิษร้าย


“แต่…แต่…”


หลินซิ่งกล่าวน้ำเสียงสั่นคลอนด้วยความกลัว


สีหน้าเย่หยวนมืดทมิฬลง พร้อมสะกดเจ้าท้วมที่อยู่บนเตียงเล็กน้อย


ภาพฉากอันน่าอัศจรรย์พลันบังเกิด จู่ๆ เจ้าท้วมก็ลืมตาตื่นขึ้น


หลินซิ่งที่เห็นแบบนั้นอดตะลึงมิได้ หากย้อนกลับไป เจ้าท้วมนอนสยบไม่ได้สติอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น


จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ตอนนี้เจ้าท้วมจะรอดชีวิตมาได้


เย่หยวนเพียงสะกิดอีกฝ่ายแค่สองสามที เจ้าท้วมก็ตื่นขึ้นมา?


อันที่จริงนี่ต้องยกความดีความชอบให้แก่โอสถเม็ดก่อนหน้าที่ให้กินไป เพียงว่าเจ้าท้วมยังหายใจติดขัดอยู่กลางอก จึงเป็นสาเหตุให้เขายังไม่ได้สติขึ้นมา


เพียงสะกิดให้เจ้าท้วมหายใจได้ราบรื่นขึ้น เขาก็ตื่นขึ้นมาอย่างแช่มช้า


“เจ้าท้วม! พี่ข้า! น้องคนนี้ช่วยล้างแค้นในเจ้าได้แล้ว! นอกเหนือจากหลินซิ่ง ที่เหลืออีกสี่คนล้วนถูกฆ่าสับเป็นเนื้อบดโดยสิ้น! ส่วนนังบ้านี่พิการไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้อีกชั่วชีวิต! ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ท่านจัดการ!”


เซี่ยะจิ้งอวี๋ยังคงอ่อนแออย่างมากในเวลานี้ ปฏิกิริยาของเขาค่อนข้างเฉื่อยชาอย่างเห็นได้ชัด


เมื่อได้ยินคำกล่าวของเย่หยวน นัยน์ตาสีเทาที่เลื่อนลอยพลันค่อยๆฟื้นเปล่งประกายขึ้น


ดวงตากลมโตค่อยๆเหลือบมองไปที่ใบหน้าของหลินซิ่ง


ในอดีต แรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเจ้าท้วมเพื่อสอบเข้าสถานศึกษาหวูเมิ่งก็คือ หลินซิ่ง


หลายปีที่ผ่านมา เขาฝึกปรือบ่มเพาะพลังอย่างหนัก ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ตนเองเป็นชายที่คู่ควรกับหลินซิ่ง เรื่องนี้มีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้


ทว่าแท้จริงแล้ว หญิงสาวนางนี้กลับเล่นตลกกับความรู้สึกของเขาโดยไร้ซึ่งความเมตตาใดๆ พร้อมเหยียบย่ำความรู้สึกที่เขามีให้จมดินมิดลงพื้น


หลินซิ่งเหยียบย้ำความภาคภูมิใจทั้งหมดของเขา จนกลายเป็นชายไร้ค่าคนหนึ่ง


อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เมื่อเขาตื่นขึ้นอีกครั้ง เทพธิดาอันน่าภาคภูมินางนี้กลับกลายมาเป็นหญิงสาวพิการไร้ค่าที่กำลังคุกเข่าตรงหน้าเขา


นี่รู้สึกดั่งว่าตัวเขากำลังฝันไป


เขาปรารถนาภาพฉากเช่นนี้เพียงใดกลับไม่มีใครทราบ!


เจ้าท้วมยามนี้ถึงกับพูดไม่ออก แต่เขาก็ทราบดีอยู่ภายในใจว่า น้องชายสหายรักของเขากำลังหยิบเศษซากชิ้นส่วนที่มีชื่อว่าศักดิ์ศรีของเขาขึ้นจากพื้นและนำมาประกอบใหม่อีกครั้ง!


เมื่อหลินซิ่งเห็นเจ้าท้วมตื่นขึ้นมา นางก็รีบตะเกียกตะกายกอดร่างของเจ้าท้วม พลางเอ่ยทั้งน้ำตาว่า


“อวี๋น้อยของข้า ทั้งหมดเป็นความผิดของซิ่งเอ๋อเอง! ตอนนั้นซิ่งเอ๋อถูกภูตผีเข้าสิง จึงเป็นสาเหตุที่ทำเรื่องบ้าๆเหล่านั้นไป! ในใจข้า…ในใจของข้ามีเจ้าอยู่ตลอด! อวี๋น้อย…พรุ่งนี้พวกเรามาแต่งงานกันเถอะ!”


หลินซิ่งทราบดีว่า ความหวังเดียวที่เหลืออยู่หากนางต้องการมีชีวิตต่อไปคือ การแต่งงานกับเจ้าท้วม


เซี่ยะจิ้งอวี๋ชอบพอนางมาก็หลายปีแล้ว ความรู้สึกที่ฝังลึกอยู่ในใจมันไม่มีทางลบเลือนออกไปได้ง่ายๆ


เย่หยวนมองนางด้วยสายตาสุดน่ารังเกียจ เขาอยากตบปากนางในตายในฝ่ามือเดียว


แต่เขากลับทำเช่นนั้นมิได้ เพราะให้เกียรติในการตัดสินใจของเจ้าท้วมเป็นหลัก ดังนั้นเขาจึงอดทนและไม่ปริปากเอ่ยอันใด


ในช่วงเวลานี้เอง ในที่สุดเจ้าท้วมก็รู้สึกฟื้นตัว


“ทำให้…นาง…หุบปากซะ”


เจ้าท้วมเอ่ยเสียงโรยรินดั่งยุง วาจาเพียงคำที่เปล่งออกมาก็ทำเอาเขาหมดแรงแล้ว


แน่นอนว่าประโยคนี้เขากล่าวกับเย่หยวน


เย่หยวนขมวดคิ้วถักหนาและเอ่ยกล่าวน้ำเสียงเหยียบเย็นขึ้นว่า


“พี่ข้าบอกให้เจ้าหุบปาก ได้ยินหรือไม่?”


สีหน้าการแสดงออกของหลินซิ่งเปลี่ยนไปทันที และไม่กล่าวส่งเสียงใดๆอีกต่อไป


เจ้าท้วมหอบตระหนี่คล้ายเหนื่อยจัดพักใหญ่ และรวบรวมพลังเอ่ยปากอีกครั้งว่า


“ข้ารู้…อยู่แล้วว่า…เจ้าต้องกลับ…มาช่วยข้า…แก้แค้น ฮ่า…ฮ่า…ข้าคิดว่าตาย…แน่ๆ”


เจ้าท้วมมีแรงกล่าวได้แค่ทีละคำสองคำ เห็นได้ชัดว่าสภาพของเขาในขณะนี้เลวร้ายถึงขีดสุด


เย่หยวนกล่าวท่าทีเคร่งขรึมว่า


“มีข้าอยู่ ต่อให้ท่านอยากตาย ข้าก็ไม่ปล่อยให้ตายแน่นอน! เมื่อหายดีแล้ว มาร่ำสุราสักครากันเถอะ!”


ดวงตาของเจ้าท้วมขุ่นมัวไร้แววประกาย เขาทราบดีว่า ต่อให้ตนหายดีกลับมาเดินได้ แต่เขาก็เป็นเพียงคนพิการคนหนึ่งเท่านั้น


เมื่อทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายลง เขาจึงไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้อีกต่อไปแล้วชั่วชีวิต


เช่นนั้น…ชีวิตต่อไปในภายภาคหน้ายังมีความหมายอันใด?


ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าท้วมถูกทำลาย แตกต่างจากสถานการณ์ที่เย่หยวนเคยประสบโดยสิ้นเชิง ครั้งนั้นทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนเพียงเสียหายหนักเท่านั้น


หลังจากที่ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายลง ต่อให้มีโอสถที่อุดมไปด้วยเต๋าสุดแกร่งกล้าเพียงใด แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้เขาฟื้นตัวได้เช่นกัน


เย่หยวนกัดฟันแน่นกล่าวว่า


“เจ้าท้วม ท่านเชื่อใจข้าหรือไม่?”


เจ้าท้วมตัวแข็งค้างอยู่พักหนึ่งก่อนพยักหน้าตอบเล็กน้อย


เย่หยวนกล่าวต่อว่า


“ดี! เช่นนั้นวันนี้ น้องคนนี้ขอสัญญากับท่าน ข้าจะหาวิธีทำให้ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของท่านกลับมาใช้งานได้ดังเดิมในสักวัน!”


เจ้าท้วมมองไปทางเย่หยวนด้วยความประหลาดใจ ภายในใจเต็มไปด้วยคำถาม


มิใช่แค่เขาเท่านั้น แววดูถูกเหยียดหยามพลันสาดสะท้อนออกมาจากในดวงตาของหลินซิ่งเช่นกัน นางรู้สึกว่า เย่หยวนอวดอ้างคุยโม้เกินไป


ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายไปแล้ว เช่นนั้นจะซ่อมแซมให้ใช้งานได้อย่างไร?


ยิ่งไปกว่านั้นเย่หยวนจะรอดชีวิตจากวันนี้และต่อไปได้หรือไม่ เรื่องนี้กลับมิทราบ!


เขาฆ่าสมาชิกตระกูลฉินไปถึงสี่คน มีหรือที่ตระกูชลฉินจะนิ่งเฉย?


“ข้าเชื่อเจ้า!”


เจ้าท้วมยังคงกล่าวตอบน้ำเสียงจริงจัง


เขาทราบดีว่าเย่หยวนกำลังปลอบใจเขาเท่านั้น เพื่อให้เขากลับมามีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอีกครั้ง


แม้การปลอบจะดูเกินจริงไปมาก แต่นั้นก็ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจนัก


เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวว่า


“แล้วในจัดการกับนังนี่อย่างไร?”


เจ้าท้วมเหลือบมองหน้าหลินซิ่งเล็กน้อยและเอ่ยกล่าวพลางถอนหายใจว่า


“ข้า…ไม่อยาก…เจอนางอีกแล้ว!”


ทั่วร่างกายของนางสั่นสะท้าน สีหน้าเผยถึงความอิ่มเอมปีติใจ


ต่อวาจาประโยคนี้ของเจ้าท้วม นางทราบทันทีว่า อีกฝ่ายยังมีจิตเมตตาไว้ชีวิตนาง


แม่ตอนนี้นางจะพิการ แต่ก็ยังดีกว่าต้องตายไป


เย่หยวนถอนหายใจเล็กน้อยพลางคิดกับตนเองไปว่า เจ้าท้วมใจดีเกินไปหน่อย


ความรู้สึกชอบกว่าหลายปีคงไม่ง่ายที่จะปล่อยทิ้งไปในท้ายที่สุด


“ไสหัวไป!”


เย่หยวนตะโกนไล่ตะเพิดนาง


“แน่นอน แน่นอน ข้า…ข้าจะรีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”


หลินซิ่งคลานเข่าตะเกียกตะกายออกจากเรือนพักทันที


เย่หยวนถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า


“ตอนนี้ร่างกายของเจ้ายังอ่อนแอมาก พักผ่อนให้มากเถอะ”


เจ้าท้วมพยักหน้าเล็กน้อย เขาเหนื่อยมามากแล้ว


เย่หยวนประคองร่างเขาให้นอนลง จากนั้นเจ้าท้วมก็หลับไป


หลินซิ่งตะเกียกตะกายออกไปจากหอมหาสมบัติโดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บใดๆ นางวิ่งและวิ่งหนีออกมาอย่างเร่งรีบ นางต้องหารออกจากสถานที่สุดเลวร้ายนี้โดยไวที่สุด


ซึ่งเบื้องหน้าทัพศึกตระกูลฉินก็มาถึงประจันหน้าหอมหาสมบัติแล้วเช่นกัน หลินซิ่งที่เห็นดังนั้นก็ระเบิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและกล่าวว่า


“ฮ่าๆๆ เย่หยวน วันนี้เจ้าได้ตายแน่!”


แต่ทันใดนั้นเสียงชืดเย็นพลันดังขึ้นจากด้านหลังของนาง


“ไม่ว่าข้าจะตายหรือไม่อย่าได้กังวล แต่เจ้าได้ตายแน่นอน!”


“พร๊วดดด!”


หลินซิ่งยังไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ ศีรษะของนางก็ถูกฝ่ามือเย่หยวนตบใส่จนระเบิดเป็นเลือดกลิ่นคาวฟุ้งกระจายพัดหายไปกับสายลม…


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)