True Martial World พิภพเทพยุทธ์ 1156-1157

 บทที่ 1156 หลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย

โดย

Ink Stone_Fantasy

รถม้าศึกหยุดลงตรงหน้าทางเข้าห้องหออวิ๋นซิน เจ้าเมืองฉินกับองค์หญิงจิ้งจอกขาวเดินลงจากรถม้า พวกจั่วชิวเฮ่าอวี้พากันทำความเคารพ


“ท่านเจ้าเมืองฉินช่างมีอารมณ์รื่นเริงยิ่ง แค่การเดิมพันของเด็กๆ ก็ยังสนใจมาดู” จั่วชิวปั๋วพูดพร้อมยิ้มบางๆ


“อู๋เสียอยากมาดูสหายของนางน่ะ” เจ้าเมืองฉินกวาดตาไปในฝูงชนจนมาหยุดอยู่ที่อี้อวิ๋น เขาได้ยินเรื่องที่อี้อวิ๋นทำในช่วงไม่กี่วันมานี้เช่นกัน มันทำให้เขาสงสัยในเด็กหนุ่มคนนี้ เขาอยากเห็นผลงานการหลอมโอสถในวันนี้ของอี้อวิ๋นจริงๆ


“มีคนชอบเรื่องสนุกอยู่ไม่น้อยเลย” เจ้าเมืองฉินพูดด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้มีคนมุงเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ


จั่วชิวเฮ่าอวี้กับฮูเหยียนชางเดินเข้ามา ฮูเหยียนชางมององค์หญิงจิ้งจอกขาวแล้วก็ตาเป็นประกาย “แม่นางท่านนี้คือเทพธิดาอู๋เสียสินะขอรับ? ได้ยินชื่อไม่สู้พบหน้าจริงๆ”


ผู้หญิงคนนี้งดงามไร้ที่ติโดยแท้ แม้จะสวมผ้าคลุมหน้า แต่ท่าทีที่ล่องลอยดุจเซียนก็ทำให้จิตใจเฝ้าปรารถนาถึงเช่นกัน


“ข้าคงต้องขอโทษเทพธิดาอู๋เสียด้วยแล้ว แม้อี้อวิ๋นจะเป็นสหายของท่านเทพธิดา แต่ท่านเทพธิดาก็คงถูกเขาหลอกลวง คนผู้นี้ต่ำต้อยไร้ยางอาย ข้าน้อยไม่อาจปล่อยให้เขาหลอกลวงในเมืองสรรพสิ่ง” จั่วชิวเฮ่าอวี้พูดอย่างยึดมั่นในความถูกต้อง


องค์หญิงจิ้งจอกขาวมีปฏิกิริยาเย็นชาราวกับไม่ได้ยิน


ตอนนี้อี้อวิ๋นเดินออกมาจากห้องอวิ๋นซินเช่นกัน เขาไม่สนใจคำใส่ร้ายของจั่วชิวเฮ่าอวี้ ทำแค่โค้งคำนับให้เจ้าเมืองฉิน “ข้าน้อยอี้อวิ๋น คารวะท่านเจ้าเมืองฉินขอรับ”


อี้อวิ๋นรู้สึกขอบคุณเจ้าเมืองฉินเป็นอย่างมาก


“เทพธิดาอู๋เสีย” อี้อวิ๋นยิ้มบางๆ ให้องค์หญิงจิ้งจอกขาว นับว่าเขากับองค์หญิงจิ้งจอกขาวมีวาสนาต่อกันจริงๆ


“ฮ่าฮ่า วันนี้ข้ามาเป็นพยานเจ้า เจ้าหลอมโอสถอย่างสบายใจเถอะ!”


เจ้าเมืองฉินหัวเราะให้อี้อวิ๋นอย่างอ่อนโยน สีหน้าจั่วชิวเฮ่าอวี้จมลงเมื่อเห็นภาพนี้ อี้อวิ๋นมีคุณสมบัติอะไรให้ได้รับความโปรดปรานจากเจ้าเมืองฉินและเทพธิดาอู๋เสียกัน


ส่วนคำพูดเขากลับถูกเพิกเฉยอย่างเย็นชาเหมือนคนโง่


มุมปากเขากระตุกเบาๆ เขาพูดอย่างจงใจจี้จุดเจ็บของอี้อวิ๋นว่า “อี้อวิ๋น ต่งเสี่ยวหวั่นคงยังนอนอยู่ที่นี่สินะ เจ้าหลอมโอสถปลอมหม้อหนึ่งให้เจ้าสำนักคลื่นหยก ตอนนี้ต่งเสี่ยวหวั่นกำลังนอนรอความตายอยู่ในห้องหออวิ๋นซินของเจ้า! วันนี้ข้าจะรักษากฎของเมืองสรรพสิ่งและทวงความยุติธรรมให้ต่งเสี่ยวหวั่น!”


จั่วชิวเฮ่าอวี้พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนฮึกเหิม “หากวันนี้เจ้าหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยล้มเหลว ข้าก็ไม่เพียงแต่ให้เจ้าชดเชยราคาสองเท่า แต่ยังจะตัดมือทั้งสองข้างของเจ้าด้วย เจ้ากล้าหรือไม่!”


จั่วชิวเฮ่าอวี้กังวลเล็กน้อยว่าแม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เสวี่ยอู๋เสียก็อาจช่วยจ่ายหนี้ให้อี้อวิ๋น หากเป็นเช่นนั้นอี้อวิ๋นก็ไม่มีอะไรเสียหาย ตอนนี้จั่วชิวเฮ่าอวี้ยินดีเสียสมุนไพรล้ำค่าเพื่อแลกกับจากทำร้ายอี้อวิ๋น


“เจ้าจะตัดมือข้า เช่นนั้นหากเจ้าแพ้จะทำอย่างไร?” อี้อวิ๋นถามจั่วชิวเฮ่าอวี้กลับ


“หากเจ้าหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยสำเร็จ เช่นนั้นข้าก็จะถอนคำพูดทั้งหมดและจ่ายเงินเพิ่มให้ห้าแสนอักขระ”


จั่วชิวเฮ่าอวี้ส่งเสียงฮึดฮัด เขาไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้


เจ้าเมืองฉินหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของจั่วชิวเฮ่าอวี้ “หากอี้อวิ๋นหลอมล้มเหลวจะถูกตัดมือ แต่หากไม่ล้มเหลวเจ้าก็จะถอยคำพูดและจ่ายเงินเพิ่มให้เล็กน้อย เงื่อนไขเช่นนี้ช่างยุติธรรมยิ่ง”


เจ้าเมืองฉินพูดเรียบๆ ไม่ว่าใครก็ฟังออกว่าเขากำลังถากถาง


สีหน้าจั่วชิวเฮ่าอวี้แข็งทื่อ หากอี้อวิ๋นเป็นคนพูดเขาก็ยังถากถางกลับได้ เพราะตามกฎของเมืองสรรพสิ่งแล้วมือคู่หนึ่งของจอมยุทธ์ระดับวังวิถีมีราคาไม่ถึงห้าแสนอักขระ แต่นี่เจ้าเมืองฉินเป็นคนพูด เขาจะตอบโต้อะไรได้


“ในเมื่อจะพนันด้วยมือของข้า เช่นนั้นก็มีแต่ต้องนำมือของเจ้ามาพนันด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็อย่าละลืมปรมาจารย์โอสถฮูเหยียน ข้ามีมือมีเท้า พนันมือคู่หนึ่งกับเจ้าด้วยเลยแล้วกัน”


ฮูเหยียนชางหน้าซีดเมื่อได้ยินคำพูดของอี้อวิ๋น อี้อวิ๋นคิดจะทำอะไรน่ะ?


“เหอะ! เจ้าก็แค่เด็กที่เหมือนมดตัวหนึ่ง จะหลอมโอสถเก่งแค่ไหนกันเชียว? เจ้ามันคนโกหก วันนี้ข้าจะกระชากหน้ากากเจ้า”


ฮูเหยียนชางพูดด้วยความโมโห


“เจ้านี่พูดไร้สาระมากจริง ข้าถามว่าเจ้าจะเดิมพันหรือไม่?”


อี้อวิ๋นพูดบีบคั้นรัวๆ ทุกคนมองออกมาฮูเหยียนชางเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว ในตอนนี้เองที่จั่วชิวเฮ่าอวี้พูดขึ้นว่า “ข้าจะเดิมพันกับเจ้า”


อาการป่วยของต่งเสี่ยวหวั่นไม่มีทางแสร้งทำ เขามั่นใจว่าอี้อวิ๋นหลอมโอสถชำระร่างไม่สำเร็จ เช่นนั้นจะหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยที่มีความยากสูงกว่าได้อย่างไร


“ดี! หรูเอ๋อร์ เปิดหม้อหลอมโอสถ!”


วัตถุดิบสำหรับหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยมาจากจั่วชิวเฮ่าอวี้ทั้งหมด ทุกอย่างเตรียมมาพร้อมหมดแล้ว


ถนนนอกห้องหออวิ๋นซินมีผู้คนหนาแน่นจนไม่อาจสัญจรไปมาแล้ว พื้นที่ภายในห้องหออวิ๋นซินก็มีจำกัด ตอนนี้จั่วชิวปั๋วจึงนำแผ่นทรงกลมสีดำแผ่นหนึ่งออกมาแล้วพูดว่า “นี่คือแท่นโอสถของข้า พวกเราขึ้นไปกันเถอะ!”


ขณะที่จั่วชิวปั๋วพูดก็โยนแผ่นทรงกลมออกมา แผ่นทรงกลมนี้ปรากฏขึ้นใต้เท้าทุกคน เมื่อมันสัมผัสอากาศก็ขยายใหญ่ขึ้นและห่อหุ้มทุกคนไว้ภายในอย่างรวดเร็ว ทั้งโรงโอสถทั้งท้องถนนรอบๆ สลายหายไปทันที รอบตัวกลายเป็นพื้นที่ที่กว้างขวางมาก พวกอี้อวิ๋นกับเจ้าเมืองฉินยืนอยู่กลางแท่นโอสถ ตรงหน้าอี้อวิ๋นมีแท่นศิลาแท่นหนึ่ง นี่คือแท่นโอสถที่เตรียมไว้ให้เขา


อี้อวิ๋นไม่พูดอะไรมาก เขาโบกมือ หม้อโอสถขนาดเล็กหม้อหนึ่งปรากฏอยู่ในมือพร้อมลอยหมุน


ฮูเหยียนชางหลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่ได้เมื่อเห็นหม้อโอสถของอี้อวิ๋น


เขาไม่ได้หัวเราะเยาะรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายของหม้อโอสถ หม้อโอสถหลายใบดูภายนอกแล้วเก่าทรุดโทรมก็จริง ทว่าแท้จริงคุณภาพกลับไม่ธรรมดา นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่เขาหัวเราะที่ค่ายกลของหม้อโอสถนี้ชำรุดจนเป็นของคุณภาพไม่ดีต่างหาก


ต่อให้หม้อโอสถจะคุณภาพดีอย่างไร หากค่ายกลชำรุดก็คือของที่เสียแล้ว


“เป็นปรมาจารย์โอสถ แต่แค่จะนำของดีออกมาใช้ยังทำไม่ได้ ได้แต่ใช้หม้อโอสถชำรุดที่ค่ายกลเสียหาย ต่อให้โยนหม้อโอสถเช่นนี้มาตรงหน้าข้า ข้าก็คงไม่แม้แต่จะชายตามอง”


ฮูเหยียนชางพูด ทุกคนฟังแล้วก็ตกใจและพากันมองไปที่จั่วชิวปั๋ว


จั่วชิวปั๋วพยักหน้า “ค่ายกลของหม้อโอสถใบนี้เสียหายจริง ดูจากภายนอกแล้วข้าก็มองความพิเศษอะไรไม่ออก ปกติแล้วเมื่อค่ายกลของหม้อโอสถเสียหาย คุณภาพก็จะลดลงมากกว่าเก้าส่วน”


คุณภาพลดลงมากขนาดนี้เชียว?


ทุกคนตะลึงงัน ต่อให้เป็นหม้อโอสถชั้นดีอย่างไรก็คงใช้การไม่ได้แล้วกระมัง


อี้อวิ๋นจะใช้หม้อพังๆ นี้มาหลอมโอสถ?


ในตอนนี้เองที่อี้อวิ๋นเปิดหม้อโอสถออก สองสามวันมานี้เขาปรับตัวเข้ากับหม้อเทพโอสถเรียบร้อยแล้ว ระหว่างเขากับตัวหม้อเหมือนจิตเชื่อมต่อกัน


อี้อวิ๋นคว้าสมุนไพรมาสามต้นและโยนเข้าสู่หม้อเทพโอสถโดยตรง!


แค่เริ่มก็ใช้สมุนไพรสามต้น แม้แต่คนนอกก็ยังรู้ว่าปรมาจารย์โอสถต้องค่อยๆ หลอมตามลำดับขั้นตอน แต่นี่อี้อวิ๋นใช้สมุนไพรสามต้นตั้งแต่เริ่ม เขาไม่กลัวว่ามันจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านหรือ?


‘เชื้อเพลิงเทพมาร!’


จิตใจอี้อวิ๋นจดจ่อ ตอนนี้เสียงโหวกเหวกรอบด้านไม่มีอยู่สำหรับเขาอีกต่อไป ตัวเขาประหนึ่งอยู่กลางมิติอันกว้างไร้ขีดจำกัดและมีเขาเพียงคนเดียว


เชื้อเพลิงเทพมารสองสายถูกส่งเข้าสู่หม้อเทพโอสถเหมือนวิญญาณสีเทาที่ร่ายรำ คอยวนเวียนอยู่รอบสมุนไพร


ก่อนที่อี้อวิ๋นจะใช้โอสถน้ำค้างสวรรค์เลี้ยงวิญญาณ เขาก็ควบคุมเชื้อเพลิงเทพมารได้แค่สายเดียว แต่ตอนนี้เขาควบคุมได้สองสายแล้ว นี่คือพัฒนาการก้าวใหญ่ ด้วยเหตุนี้อี้อวิ๋นจึงกล้าโยนสมุนไพรสามต้นเข้าสู่หม้อในคราเดียว


 …………………………………………………


บทที่ 1157 หลอมโอสถสำเร็จ

โดย

Ink Stone_Fantasy

เมื่อเชื้อเพลิงเทพมารเข้าสู่หม้อเทพโอสถก็ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับหม้อทันที ดูจากภายนอกแล้วหม้อเทพโอสถยังคงเป็นสีเทาไร้มันวาว ไม่เปล่งแสงใดๆ แม้แต่น้อย


แม้หลายคนในที่นี้จะเข้าใจวิชาหลอมโอสถ แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็เคยเห็นคนอื่นหลอม ภาพเหตุการณ์ตรงหน้านี้ต่างจากที่พวกเขารู้มาโดยสิ้นเชิง เวลาปรมาจารย์โอสถคนอื่นหลอมโอสถก็มีแสงเรืองรองกันทั้งนั้น ต่อให้อยู่ห่างมาไกลก็รู้สึกถึงคลื่นพลังฟ้าดินและพลังโอสถที่โหมซัดสาด


แต่กับอี้อวิ๋นแล้วกลับไม่มีปรากฏการณ์อะไรเลย หม้อเทพโอสถอันเก่าแก่ได้ผนึกทุกอย่างไว้ภายใน


ด้วยเหตุนี้บางคนจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอี้อวิ๋นจุดไฟแล้วหรือยัง


“เจ้าเด็กนี่กำลังทำอะไรน่ะ?”


ฮูเหยียนชางขมวดคิ้ว อี้อวิ๋นโยนสมุนไพรสามต้นเข้าไปในคราเดียว แต่ตอนนี้ตัวหม้อกลับไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย


ฮูเหยียนชางส่งการรับรู้ออกไป หม้อโอสถส่วนใหญ่มีความสามารถในการตัดขาดการรับรู้ ฮูเหยียนชางเห็นว่าค่ายกลภายในหม้อใบนี้เสียหาย ความสามารถในการตัดขาดการรับรู้ก็น่าจะอ่อนแอ แต่เมื่อการรับรู้ของเขาสัมผัสเข้าถึงตัวหม้อก็กลับเจ็บที่จิตวิญญาณขึ้นมาประหนึ่งถูกไฟเผา จากนั้นการรับรู้ของเขาก็ถูกกลืนหายไปราวกับจมลงมหาสมุทร


เกิดอะไรขึ้น?


ฮูเหยียนชางมองไปที่จั่วชิวปั๋ว เมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่ายก็รู้ทันทีว่าเขาคงส่งการรับรู้เข้าสู่หม้อโอสถสีเทานั่นไม่ได้เช่นกัน


หม้อโอสถนี้แปลกประหลาด!


ฮูเหยียนชางรู้สึกว่าเขาอาจประเมินหม้อโอสถใบนี้ต่ำไป แม้ค่ายกลภายในจะเสียหาย แต่วัสดุของตัวหม้อกลับไม่ธรรมดา อย่างน้อยที่สุดก็โดดเด่นเรื่องตัดขาดการรับรู้


เวลาผ่านไปอีกสามสิบชั่วอึดใจ อี้อวิ๋นคว้าสมุนไพรมาอีกสองต้นและโยนลงหม้อ


ฮูเหยียนชางตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนี้ ขณะที่ปรมาจารย์โอสถกำลังหลอมสมุนไพรหนึ่งหรือสองสามชนิดก็ไม่มีทางเพิ่มสมุนไพรตัวใหม่เข้าไป ไม่เช่นนั้นเวลาที่สมุนไพรสองชนิดได้รับความร้อนจะไม่เท่ากัน หากควบคุมไม่อยู่ก็จะเกิดเรื่องแน่นอน


จะใส่สมุนไพรตัวใหม่เข้าไปหลอมได้ก็ต่อเมื่อสกัดและดึงพลังในสมุนไพรก่อนหน้านี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว


ตอนนี้อี้อวิ๋นโยนสมุนไพรเป็นครั้งที่สอง นอกเสียจากว่าเขาจะหลอมสมุนไพรก่อนหน้านี้เสร็จแล้ว แต่ตอนนี้เวลาเพิ่งผ่านมาแค่สามสิบอึดใจ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจดึงพลังโอสถในสมุนไพรสามชนิดเสร็จภายในเวลาแค่นี้


การสกัดพลังโอสถคือขั้นตอนที่ยากที่สุด หากฮูเหยียนชางเป็นผู้ลงมือก็จะระวังแล้วระวังอีก ใช้เวลาจำนวนมากไปกับขั้นตอนนี้


“ที่แท้เจ้าเด็กนี่ยังไม่จุดไฟด้วยซ้ำ!”


ฮูเหยียนชางส่งเสียงเย็นๆ หม้อเทพโอสถยังคงนิ่งสงบ แม้บนหม้อจะมีกลิ่นอายของกฎแต่ก็ไม่มีพลังปราณแผ่ออกมาแต่อย่างใด ไม่มีพลังโอสถโหมซัดสาด ทั้งอี้อวิ๋นยังโยนสมุนไพรหลายอย่างเช่นนี้ลงหม้อภายในเวลาอันสั้น ฮูเหยียนชางจึงแน่ใจว่าอี้อวิ๋นยังไม่เริ่มหลอมโอสถ


ไม่เช่นนั้นตอนนี้ก็ต้องระเบิดไปนานแล้ว


แต่อี้อวิ๋นโยนสมุนไพรเข้าไปหลายอย่าง จะให้จุดไฟตอนหลังและหลอมด้วยกันก็เป็นไปไม่ได้ หรือถึงเวลาแล้วจะนำสมุนไพรออกมาใหม่? เช่นนั้นคงน่าขันไม่น้อย


“ปรมาจารย์จั่วชิว นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือ?” เจ้าเมืองฉินไม่เข้าใจเรื่องการหลอมโอสถ


จั่วชิวปั๋วลูบเครา สายตาที่มองหม้อเทพโอสถเป็นประกาย เดิมทีเขาไม่สนใจการหลอมโอสถของเด็กรุ่นเยาว์คนหนึ่งแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เขากลับพบว่าสถานการณ์เหมือนจะต่างจากที่เขาคิด


หากอี้อวิ๋นยังไม่เปิดหม้อหลอม เช่นนั้นกลิ่นอายแห่งกฎที่วนเวียนอยู่รอบหม้อโอสถคืออะไรกัน?


จั่วชิวปั๋วเป็นปรมาจารย์โอสถ จากมุมมองของเขาแล้วกฎเหล่านี้มหัศจรรย์มาก ทั้งยังเป็นรูปแบบที่เขาไม่เข้าใจ


จั่วชิวปั๋วพูดขึ้นหลังจากที่ไตร่ตรองสักพัก “ข้าไม่เคยเห็นวิชาหลอมโอสถที่อี้อวิ๋นใช้มาก่อน น่าจะเป็นวิชาของสำนักโบราณหรือใหม่ก็สำนักเกิดใหม่ วิธีจัดการสมุนไพรมีความแปลกใหม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นสำนักที่พิเศษเพียงใด การจะจัดการสมุนไพรสิบกว่าชนิดภายในคราวเดียวก็เป็นไปไม่ได้”


จั่วชิวปั๋วเพิ่งพูดจบก็เห็นว่าอี้อวิ๋นคว้าสมุนไพรมาโยนลงหม้ออีกครั้ง


แม้จะควบคุมเปลวไฟได้สองสาม ทั้งยังมีการสกัดพลังจากผลึกม่วง แต่เมื่อใช้สมุนไพรมากขึ้น อี้อวิ๋นก็ต้องระมัดระวังเช่นกัน สกัดสมุนไพรทีละต้นเพื่อรับประกันว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด


จั่วชิวปั๋วขมวดคิ้ว อี้อวิ๋นผู้นี้กำลังโยนสมุนไพรต้นแล้วต้นเล่าจริงๆ


ถัดจากสมุนไพรต้นนี้อี้อวิ๋นก็โยนโอสถปีศาจเม็ดหนึ่งเข้าไป การสกัดพลังจากโอสถปีศาจต้องใช้วิชาปรมาจารย์อสูรที่ต่างจากวิชาหลอมโอสถ แต่เรื่องนี้ยิ่งไม่มีปัญหาสำหรับอี้อวิ๋น


เวลาผ่านมาแล้วหนึ่งเค่อ อี้อวิ๋นโยนสมุนไพรทั้งหมดลงสู่หม้อเทพโอสถเรียบร้อยแล้ว


ตอนนี้กลิ่นอายแห่งกฎที่วนเวียนรอบหม้อเทพโอสถรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตัวหม้อเริ่มสั่นเบาๆ


คราวนี้แม้แต่คนที่ไม่เข้าใจการหลอมโอสถก็มองออกว่าอี้อวิ๋นเริ่มหลอมแล้ว


ฮูเหยียนชางเบิกตาโพลง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?


“ปรมาจารย์จั่วชิว เมื่อครู่ท่านบอกว่าไม่มีทางจัดการสมุนไพรมากเช่นนี้ภายในคราเดียวไม่ใช่หรือ เช่นนั้นตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกัน? หรือเมื่อครู่อี้อวิ๋นจะสกัดสมุนไพรพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว?” เจ้าเมืองฉินถาม


จั่วชิวปั๋วมีสีหน้าไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะการสกัดสมุนไพรสิบกว่าชนิดในคราเดียว หรือการที่อี้อวิ๋นจัดการสมุนไพรทั้งหมดเรียบร้อยภายในเวลาอันสั้นก็น่าตกตะลึงทั้งนั้น


“เรื่องนี้…วิถีโอสถลึกล้ำกว้างใหญ่ วิชาหลอมโอสถที่น้องชายผู้นี้ใช้คงเป็นวิชาแบบใหม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่น่าสกัดพลังโอสถได้เร็วขนาดนี้” จั่วชิวปั๋วพูดพร้อมส่ายหน้า


ตอนนี้จั่วชิวเฮ่าอวี้ที่อยู่ด้านข้างไม่อาจสงบสติอารมณ์แล้ว เขาจ้องหม้อโอสถของอี้อวิ๋นตาเขม็งและยื่นมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก


ตอนแรกเขาคิดว่าอี้อวิ๋นจะเป็นที่หัวเราะเยาะของทุกคน คิดไม่ถึงว่าเขาจะเริ่มหลอมโอสถแล้วจริงๆ! อี้อวิ๋นผู้นี้ เขาคงไม่ได้…เข้าใจวิชาหลอมโอสถชั้นสูงจริงๆ หรอกใช่ไหม!


เรื่องนี้เกี่ยวข้องถึงมือทั้งสองข้างและชื่อเสียงของเขา จั่วชิวเฮ่าอวี้จะนิ่งเฉยได้อย่างไร?


ฮูเหยียนชางส่งเสียงเย็นๆ “คุณชายเฮ่าอวี้จะกังวลไปทำไม ก่อนหน้านี้แค่โอสถชำระร่างอี้อวิ๋นยังหลอมไม่ได้ นับประสาอะไรกับโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย ข้าว่าเขาแสร้งทำเป็นลึกลับซับซ้อน ต้องรอดูผลลัพธ์จึงจะรู้!”


องค์หญิงจิ้งจอกขาวหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดของฮูเหยียนชาง นางเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแต่ไม่พูดอะไร


บรรยากาศของพวกจั่วชิวเฮ่าอวี้ตึงเครียดขึ้นมา


ตอนนี้อี้อวิ๋นกำลังส่งพลังปราณเข้าสู่หม้อโอสถไม่หยุด


ใจเขาจดจ่อไม่วอกแวก จิตวิญญาณกับหม้อโอสถราวกับผสานเป็นร่างเดียวกัน สมุนไพร พลังและแก่นโอสถทั้งหมดถูกสกัดออกมาเป็นของเหลวที่เปล่งแสงแวววาว


อี้อวิ๋นขยับความคิด ของเหลวเหล่านี้เริ่มรวมตัวเข้าด้วยกัน


การรวมแก่นโอสถที่แตกต่างกันเข้าด้วยกันเป็นเรื่องยากมาก จำเป็นต้องควบคุมด้วยจิตวิญญาณที่แม่นยำ ตั้งยังต้องตีตราประทับกฎเข้าไป


ขั้นตอนแรกไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอี้อวิ๋นที่มีผลึกม่วง


แต่ขั้นตอนหลังกลับยากขึ้นมาเล็กน้อย แม้แต่อี้อวิ๋นก็ต้องใช้เวลาให้มากพอจึงจะสำเร็จ


เวลาผ่านไปแล้วชั่วยามแล้วชั่วยามเล่า จิตใจอี้อวิ๋นจดจ่อ กลิ่นอายแห่งกฎที่วนเวียนรอบหม้อเทพโอสถรุนแรงมากขึ้นๆ จั่วชิวปั๋วรู้สึกได้รางๆ ว่ากฎอันล้ำลึกเหล่านั้นเริ่มรวมเข้าด้วยกัน มันทำให้เขามีสีหน้าเหลือเชื่อ


“นี่…หรือเขาจะกำลังรวมให้เป็นเม็ดแล้ว? แต่เขาสกัดพลังโอสถในสมุนไพรตั้งแต่เมื่อไรกัน?”


ตอนนั้นอี้อวิ๋นโยนสมุนไพรทั้งหมดลงหม้อภายในเวลาหนึ่งเค่อ จากนั้นก็ไม่ได้นำสมุนไพรออกมาอีก เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการสมุนไพรมากเช่นนี้พร้อมกัน


“รวมเป็นเม็ด? เวลาเพิ่งผ่านมาแค่เจ็ดแปดชั่วยามไม่ใช่หรือ?”


มีคนพูดอย่างสงสัย พวกคนที่ไม่เข้าใจการหลอมโอสถไม่รู้แม้แต่น้อยว่าภายในหม้อโอสถมีภาพเช่นไร แต่พวกเขารู้ว่าการหลอมโอสถที่มีความยากสูงมากอาจต้องใช้เวลาสองสามวัน ตอนนี้เวลาผ่านมาแค่ไม่นาน


ในตอนนี้เองที่พวกเขาได้ยินเสียงดัง ในหม้อโอสถมีแสงเรืองรองอันไร้ที่สิ้นสุดเปล่งออกมา


อักขระกฎทั้งหมดผสานไว้ซึ่งพลังโอสถ มันรวมเข้าด้วยกันเป็นน้ำโอสถหลายหยดที่ผสานพลังนับไม่ถ้วนเอาไว้ จากนั้นน้ำโอสถก็ควบแน่นเป็นเม็ดโอสถ


ตุบ ตุบ ตุบ!


โอสถหกเม็ดที่โปร่งแสงเหมือนน้ำและเปล่งแสงดุจพระอาทิตย์ล่วงตกสู่มืออี้อวิ๋น


แปะ!


จั่วชิวปั๋วลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง


หลอมสำเร็จแล้วจริงๆ!


โอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยมีความยากเพียงนี้แต่กลับหลอมสำเร็จถึงหกเม็ด ต่อให้จั่วชิวปั๋วเป็นผู้ลงมือเองก็ได้แค่เก้าเม็ด ทั้งอี้อวิ๋นก็เป็นแค่เด็กรุ่นเยาว์คนหนึ่ง


จะน่าตื่นตกใจเกินไปแล้ว ปรมาจารย์โอสถในเมืองสรรพสิ่งที่ทำถึงขั้นนี้ได้มีไม่กี่คน ที่สำคัญที่สุดคืออี้อวิ๋นใช้เวลาเพียงเจ็ดแปดชั่วยาม


ไม่ถูก!


หลังจากที่จั่วชิวปั๋วตกตะลึงก็ค้นพบความผิดปกติอย่างฉับพลับ เขาเองก็เคยหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยมาหลายครั้ง เขารู้ว่าสีปกติของโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยคือสีเขียว


หากคุณภาพด้อยและมีสิ่งสกปรกเจือปนก็จะเป็นสีดำเขียวขุ่น หากคุณภาพดีก็จะเป็นสีเขียวมรกตเหมือนหยก


จั่วชิวปั๋วเคยเห็นยอดปราชญ์โอสถคนหนึ่งหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยได้สิบสองเม็ด จำนวนสิบสองเม็ดคือจำนวนสูงสุดของโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย แต่ละเม็ดก็ล้วนเขียวมรกต


นั่นเป็นสีเขียวที่น่าตกตะลึงมาก จั่วชิวปั๋วไม่เคยเห็นโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยที่งดงามเท่านั้นมาก่อน มันสร้างความประทับใจให้เขาเป็นอย่างมาก


ทว่าโอสถในมืออี้อวิ๋นตอนนี้กลับเป็นสีฟ้าน้ำแข็งและเม็ดใสแวววาวประหนึ่งเป็นผลึกน้ำแข็งจริงๆ


นี่ไม่ใช่สีของโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย


ขณะที่จั่วชิวปั๋วกำลังจะเอ่ยปากพูดตอน ในตอนนี้เองที่เขาเห็นว่าอี้อวิ๋นยื่นมือออกไปแตะ พลังหยินบริสุทธิ์กลุ่มหนึ่งรวมตัวเข้ามาและกลายเป็นหยดน้ำสีฟ้าอ่อนกลางอากาศ


อี้อวิ๋นฝึกทั้งหยินหยาง น้ำที่เขารวมขึ้นมาไม่มีสิ่งเจือปนแม้แต่น้อย มันเย็นชุ่มฉ่ำดังน้ำพุบนภูเขาน้ำแข็ง


อี้อวิ๋นโยนโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยลงในน้ำพุ จากนั้นโอสถทั้งหกเม็ดก็ราวกับสลายหายไปในน้ำ


อี้อวิ๋นพยักหน้าเมื่อเห็นภาพนี้ โอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยตกสู่น้ำแล้วมองไม่เห็น เช่นนั้นจึงจะนับว่าได้มาตรฐาน


เขาโบกมืออีกครั้ง โอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยหกเม็ดบินออกมาอยู่ในมือเขา เพราะเพิ่งตกสู่น้ำมา พื้นผิวของตัวโอสถจึงมีหยดน้ำเกาะตัว หยดน้ำเหล่านี้แข็งตัวเป็นเกล็ดสีฟ้าอ่อนอย่างรวดเร็ว ความแวววาวของตัวโอสถทำให้ดูเหมือนอัญมณีอันงดงาม


หลายคนที่ไม่เข้าใจวิชาหลอมโอสถพากันทึ่งในความงามของโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยที่อี้อวิ๋นหลอม ช่างเหมือนฝันจริงๆ


แต่ในตอนนี้เองที่มีเสียงไม่เป็นมิตรดังขึ้น…


“โอสถปลอม! นี่ไม่ใช่โอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย!”


 …………………………………………

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)