True Martial World พิภพเทพยุทธ์ 1121-1122

บทที่ 1121 จิตสังหารที่เร่งเอาชีวิต

โดย

Ink Stone_Fantasy

“มือของข้า!” ดวงตาหมัวเสวี่ยแดงก่ำ กรงเล็บปีศาจของเขาที่เป็นดังสมบัติถูกอี้อวิ๋นฟันขาดเช่นนี้! กระบี่เมื่อครู่เหมือนมีอานุภาพฟ้าดิน ปราณโลหิตของเขามิอาจต้านทานแม้แต่น้อย!


อี้อวิ๋นเพิ่งเข้าสู่ระดับวังวิถีไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?


ตอนนี้อี้อวิ๋นถือกระบี่เดินมาทางหมัวเสวี่ยช้าๆ


“อี้อวิ๋น!” หมัวเสวี่ยมองอี้อวิ๋นอย่างโกรธแค้น ใบหน้าเขาบิดเบี้ยวพร้อมกับร้องคำราม เลือดลมในร่างโหมซัดสาด รูขุมขนมีเลือดซึมไม่หยุด พลังโลหิตอันเข้มข้นวนเวียนรอบตัวประหนึ่งกลายเป็นเสื้อเกราะโลหิตชั้นหนึ่งบนร่างเขา


ความเจ็บปวดจากมือที่ขาดทำให้เขาอยากกินเนื้อดื่มเลือดอี้อวิ๋นเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้!


ตอนนี้หมัวเสวี่ยถูกบีบเข้าทางตัน เขากัดฟันแล้วเผ่าแก่นโลหิต! เขาต้องเอาชนะอี้อวิ๋นภายในเวลาที่สั้นที่สุด ให้อี้อวิ๋นจ่ายราคาแสนสาหัสให้กับการกระทำของตัวเอง


ผู้อาวุโสจีอยู่นอกมิติกักขังรู้สึกถึงพลังโลหิตอันน่ากลัวนี้เช่นกัน ไม่ต้องพูดถึงการถูกหมัวเสวี่ยโจมตี แค่ยืนอยู่ข้างหมัวเสวี่ยสักพักก็จะค่อยๆ ถูกดูดเลือดลมจนแห้งเหือด


เขารีบเปิดใช้ปราณเกราะเพื่อปกป้องหลิงเสียเอ๋อร์


“ตายเสียเอะ!” หมัวเสวี่ยพุ่งเข้ามา เขาฆ่าคนมานับไม่ถ้วน แม้อี้อวิ๋นจะแข็งแกร่ง แต่ตลอดชีวิตที่เขาฝึกยุทธ์มาก็เจออันตรายถึงชีวิตมาไม่รู้กี่ครั้งและรอดมาได้ เขาไม่เชื่อว่าครั้งนี้เขาจะไม่รอด


พลังโลหิตอันรุนแรงรวมตัวบนร่างหมัวเสวี่ยจนเขามีความเร็วดุจสายฟ้า อานุภาพรุนแรงดุจอุกกาบาต เสียงปราณอันแหลมคมเหมือนจะทะลุผ่านแก้วหู ทั่วทั้งมิติสั่นสะเทือน!


ตอนนี้อี้อวิ๋นที่กำลังถือกระบี่เดินมาทางหมัวเสวี่ยมีพลังเพิ่มขึ้นบนร่างไม่หยุด


กงล้อหมื่นมารเกิดดับหมุนอยู่ใต้เท้าเขาเรื่อยๆ กลิ่นอายของกฎมหาวิถีสูงสุดทำให้ทุกย่างก้าวของอี้อวิ๋นสอดคล้องกับการโคจรของฟ้าดินและอาทิตย์พระจันทร์ มันให้ความรู้สึกลึกล้ำอย่างหนึ่ง


อี้อวิ๋นเหมือนผสานเข้าสู่มิติเวลาแห่งนี้ แววตาเขาเย็นยะเยือก พลังปราณทั่วร่างและมิติที่เขากับหมัวเสวี่ยอยู่ลุกไหม้ขึ้นมาดั่งเปลวไฟ


เมื่อพลังเขาพุ่งถึงขีดสุด หมัวเสวี่ยก็พุ่งมาถึงตรงหน้าเช่นกัน ตอนนี้อี้อวิ๋นลงกระบี่แล้ว!


หนึ่งกระบี่แทงออกไป แสงสว่างรุ่งโรจน์!


เปลวไฟทั้งหมดพัดม้วนกลับมารวมบนปลายกระบี่ของอี้อวิ๋นในชั่ววินาทีนี้แล้วกลายเป็นลูกไฟลูกเล็กๆ


เปลวไฟนี้ไม่ใช่สีแดงแต่เป็นสีเทา กลางเปลวไฟคือกงล้อหมื่นมารเกิดดับที่รวมไว้ซึ่งกฎแห่งการทำลายล้างและโกลาหล!


กระบี่นี้ทะลุผ่านมิติเวลามาแทงเข้าใส่หมัวเสวี่ยภายในชั่วพริบตา!


“อี้อวิ๋น ถ้ายังขืนบังคับข้าอีก ข้าก็จะให้เราทั้งสองพินาศด้วยกัน!” หมัวเสวี่ยคำราม ทั่วร่างมีกลิ่นอายอันน่ากลัวปะทุขึ้นอย่างฉับพลัน พลังเลือดลมรวมตัวเป็นใบหน้าขนาดยักษ์กลางอากาศที่อ้าปากกลืนมาทางอี้อวิ๋น ขณะเดียวกันเสื้อเกราะบนร่างหมัวเสวี่ยก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้น


เสื้อเกราะโลหิตมารนี้สร้างขึ้นจากพลังเลือดลมของเหล่าจอมยุทธ์ที่หมัวเสวี่ยเคยฆ่ามา มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งจนน่ากลัว


ฉึก!


สีหน้าอี้อวิ๋นนิ่งสงบ เปลวไฟสีเทาพร้อมด้วยกระบี่หักหยางบริสุทธิ์แทงเข้าสู่ใบหน้าโลหิต


ตูม ตูม ตูม!


มีเสียงร้องแหลมนับไม่ถ้วนดังออกมาจากใบหน้าโลหิต ใบหน้าโลหิตขนาดยักษ์ถูกพลังความร้อนอันน่ากลัวเผาจนระเหยเป็นไอ


ไม่ว่าใบหน้าโลหิตนี้จะร้ายกาจเพียงใด แต่มันจะต้านเชื้อเพลิงเทพมารและกฎแห่งการทำลายล้างได้หรือ?


หนึ่งกระบี่ทำลายใบหน้าโลหิต คมกระบี่ของอี้อวิ๋นแทงต่อไปที่หมัวเสวี่ย กระบี่นี้มีอานุภาพที่ไม่อาจต้านทาน สีหน้าหมัวเสวี่ยเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงแต่ก็ไม่หลบเลี่ยงได้แล้ว


ฉึก!


ปราณมารคุ้มครองร่างฉีกขาด กระบี่หยางบริสุทธิ์แทงตรงเข้าไปที่กายเนื้อของหมัวเสวี่ย โลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนทั่วร่างแตกกระจายแล้วร่วงตกสู่พื้นอย่างแรง เขาเบิกตามองหน้าอกตัวเองอย่างไม่เชื่อ


“เกราะ…เกราะโลหิตมารของข้า…”


ชุดเกราะของเขาไม่มีแรงต้านทานแม้แต่น้อยเมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่ของอี้อวิ๋น


อี้อวิ๋นมาถึงตรงหน้าหมัวเสวี่ยด้วยสีหน้านิ่งเรียบแล้วตวัดกระบี่ออกไป


ฉัวะ!


โลหิตสายหนึ่งสาดกระเซ็น


ใบหน้าอี้อวิ๋นซีดเซียวเล็กน้อย เขาเองก็ใช้กระบี่เมื่อครู่ได้ไม่ง่ายนัก!


แต่ในที่สุดเขาก็สังหารหมัวเสวี่ยสำเร็จ!


ทั่วทั้งตำหนักศิลาตกอยู่ในความเงียบทันที!


“คุณชายอี้สังหารบุคคลสำคัญของวังวิถีเจ็ดดาราได้จริงๆ…” หัวใจผู้อาวุโสจีเต้นอย่างรุนแรง เขามองเงาร่างที่ยืนที่กระบี่ ปลายกระบี่เขามีเลือดหยดลง กงล้อหมื่นมารเกิดดับยังคงหมุนตัว แม้เขาจะทำแค่ยืนอยู่ที่นั่นเฉยๆ แต่ปราณสังหารบนร่างก็ทำให้ผู้อาวุโสจีกับสาวใช้สองนางที่อยู่ห่างหลายสิบจั้งต้องหายใจไม่ออก


หลิ่วหรูอี้กับหมัวซายิ่งรู้สึกยากที่จะเชื่อ


หมัวเสวี่ยถูกฆ่าตาย!


ตอนนี้อี้อวิ๋นหันมามองหมัวซาอย่างเย็นชา


“คนต่อไปคือเจ้า”


เสียงเขาเป็นดังยันต์เร่งชีวิต เป็นดังคำสั่งของเทพมาร!


อี้อวิ๋นเพิ่งเข้าสู่ระดับวังวิถี ฝึกยุทธ์มาแค่หกสิบปี เดิมทีหมัวซาไม่มีทางกลัวเด็กรุ่นเยาว์เช่นนี้ แต่ตอนนี้เขากลับกลัวอย่างควบคุมไม่ได้!


เขากลับหมัวเสวี่ยมีระดับยุทธ์เท่ากัน วิชาที่เรียนรู้ฝึกฝนก็เหมือนกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน!


เห็นกระบวนการที่หมัวเสวี่ยถูกกระบี่สังหารก็เหมือนเห็นวิธีตายของตัวเองล่วงหน้า!


หากไม่ใช่เพราะค่ายกลบ้านี่ก็คงไม่เป็นเช่นนี้ หากเขากับหมัวเสวี่ยร่วมมือกันก็สังหารอี้อวิ๋นได้แน่นอน!


“ศิษย์น้องหลิ่ว เจ้ารีบทำลายมิติกักขังนี่แล้วร่วมกันสังหารอี้อวิ๋นด้วยกันกับข้า!” หมัวซารีบตะโกน


ไม่ต้องให้หมัวซาพูดหลิ่วหรูอี้ก็กำลังฟาดแส้เพื่อทำลายกำแพงมิตินี้อยู่แล้ว หมัวเสวี่ยถูกสังหาร พลังของอี้อวิ๋นทำให้หลิ่วหรูอี้ตัวสั่น นางไม่อาจนั่งมองหมัวซาถูกฆ่าอยู่เฉยๆ


แต่ไม่ว่าหลิ่วหรูอี้จะฟาดแส้เพื่อโจมตีกำแพงมิตินี้อย่างไรก็ทำลายไม่ได้!


หลิ่วหรูอี้เห็นแล้วว่าค่ายกลนี้อยู่บนเส้นขอบของการล่มสลาย ทว่าพลังที่เหลือของมันกลับเพียงพอที่จะต้านทานนางได้ระยะหนึ่งแล้ว


“พังลงสิ!”


หลิ่วหรูอี้ร้อนใจ ศีรษะนางเต็มไปด้วยเหงื่อ ถ้าพวกเขาสามคนร่วมมือกันก็ย่อมไม่กลัวอี้อวิ๋น แต่เมื่อถูกแยกจัดการทีละคนก็อนาถแน่นอน


วิธีของอี้อวิ๋นเด็ดขาดและเหี้ยมโหด! หากเป็นก่อนหน้านี้นางก็คงไม่มีทางคิดว่าตัวเองจะกลัวเด็กที่เพิ่งขึ้นระดับวังวิถี แต่ตอนนี้อี้อวิ๋นกับเป็นดั่งเทพสังหาร


เพียงแค่เห็นเขาสังหารหมัวเสวี่ยก็ทำให้ตระหนักถึงปราณสังหารที่เข้มข้นดุจนรกโลกันตร์ แค่เห็นก็สั่นไปทั้งร่าง!


ตอนนี้อี้อวิ๋นเดินมาถึงในมิติกักขังของหมัวซา เขาไม่หยุดพักแม้แต่อึดใจเดียว ลงกระบี่ทันที!


หมัวซาเผาแก่นโลหิตทันทีอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาทุ่มพลังทั้งหมดตั้งแต่เริ่ม!


แต่ตอนนี้ลำแสงกระบี่ของอี้อวิ๋นกลับเกิดความเปลี่ยนแปลง


กระบี่แทงออกไป เวลาของกระบี่เหมือนจะถูกบิดเบือน ขณะเดียวกลางเปลวไฟสีเทาก็มีไอเย็นปรากฏ


วิถีมิติเวลากับหยินหยางปรากฏขึ้นในกระบวนท่ากระบี่ของอี้อวิ๋นพร้อมกัน


“แสงฟ้าทะลุอาทิตย์ทำลายจันทร์โลหิต วิญญาณน้ำแข็งโดดเดี่ยวผนึกเหวเทพ! ตาย!”


ลำแสงกระบี่มาถึงเบื้องหน้าหมัวซาภายในชั่วพริบตา จุดที่ลำแสงกระบี่มาถึงเหมือนดั่งมีนรกน้ำแข็งมาเยือน!


กระบี่นี้ยังไม่ทันมาถึงอี้อวิ๋นก็ฟันกระบี่อีกครั้ง


จิตสังหารอันเย็นยะเยือกปกคลุมหมัวซาทันที


ฉัวะๆๆ!


ลำแสงกระบี่นับไม่ถ้วนร่วงลงมาจนพื้นดินเกิดร่องลึกที่แทบจะแยกถ้ำแห่งนี้ออกจากกัน


กลางร่องลึกนี้มีหมัวซาที่ยืนหน้าซีดอยู่กับที่ ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล


เขามองอี้อวิ๋นอย่างเหลือเชื่อ อี้อวิ๋นผู้นี้ผ่านการต่อสู้กับหมัวเสวี่ยมา เมื่อมาสู้กับเขาก็ยังจะมีปราณกระบี่ที่รุนแรงกว่าเดิม!


“ศะ…ศิษย์น้องหลิ่ว…” หมัวซาฝากฝังความหวังสุดท้ายไว้กับหลิ่วหรูอี้ที่กำลังทำลายค่ายกล


“เลิกเปลืองแรงเถอะ” สีหน้าอี้อวิ๋นเย็นยะเยือก “อย่างไรพวกเจ้าสองคนก็ต้องตาย”


ขณะที่อี้อวิ๋นพูดก็นำกระบี่หักหยางบริสุทธิ์มาเฉือนลงบนข้อมือตัวเอง โลหิตสายหนึ่งติดอยู่ที่คมกระบี่


เผาแก่นโลหิตเพื่อสังหารรองประมุขสองคน พลังปราณในร่างอี้อวิ๋นก็ถูกใช้ไปอย่างหนัก เขาไม่อาจให้การต่อสู้นี้ยืดเยื้อได้อีก


เมื่อค่ายกลฟ้าดินอันทรุดโทรมนี้พังลงจริงๆ จนหลิ่วหรูอี้กับหมัวซาได้ร่วมมือกัน เช่นนั้นคนที่จะตกอยู่ในอันตรายก็คือเขาเอง


เขาใช้แก่นโลหิตตัวเองมาสังเวยแด่กระบี่ กระบี่หักหยางบริสุทธิ์ส่งเสียงร้อง!


ฟึ่บ!


เขตแดนวิถีแห่งการทำลายล้างพุ่งพรวดขึ้น ลำแสงกระบี่กลืนกินฟ้าดิน อี้อวิ๋นไม่ออมแรงกับกระบี่นี้แม้แต่น้อย!


หมัวซาระเบิดเสียงคำราม เขาโจมตีครั้งสุดท้าย แต่เงากรงเล็บทั่วฟ้าที่เขาส่งออกมาถูกกระบี่ของอี้อวิ๋นทำลายลงหมด!


ลำแสงกระบี่บินวน พวกมันฉีกปราณคุ้มครองร่างของหมัวซาออก แม้แต่กำแพงมิติของค่ายกลฟ้าดินนี้ก็สั่นอย่างรุนแรงไปด้วย


“ตาย!”


อี้อวิ๋นแทงกระบี่เข้าใส่หัวใจหมัวซา ทั่วตัวหมัวซามีแต่เลือด ร่างเขาร่วงตกสู่พื้นเหมือนถุงโลหิตที่รั่ว ดวงตามองอากาศอย่างหมดแรงและไม่ยอม จากนั้นลมหายใจก็หยุดลง


อี้อวิ๋นร่อนลงบนพื้น ใบหน้าเขาแดงอย่างผิดปกติ


แปะ แปะ!


โลหิตหยดลงพื้นไปตามแนวกระบี่ที่ทำมุมเอียงกับพื้นแล้วค่อยๆ ขยายออก โลหิตสีแดงสดเสียดแทงสายตา…


“คนสุดท้าย…เจ้า!”


อี้อวิ๋นสงบพลังปราณอันวุ่นวายในร่างแล้วหันหน้าไปชี้กระบี่หักหยางบริสุทธิ์ใส่หลิ่วหรูอี้


ตอนนี้ทั่วร่างอี้อวิ๋นเต็มไปด้วยเลือด ปราณสังหารพุ่งขึ้นฟ้าเหมือนเทพมารจากนรก!


หลิ่วหรูอี้มองศพที่ไม่สมบูรณ์ของหมัวซาหมัวเสวี่ยแล้วมองอี้อวิ๋นอย่างหน้าซีด


ชีวิตนี้นางไม่เคยเจออะไรน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน พวกเขาที่เป็นรองประมุขของวังวิถีเจ็ดดารามาถูกขังในมิติและสังหารทีละคน!


ความรู้สึกที่นั่งรอความตายนี้ช่างไม่ดีเอาเสียเลย


……………………………………………………………………………………………………..



บทที่ 1122 ค่ายกลพังทลาย

โดย

Ink Stone_Fantasy

อี้อวิ๋นเดินไปหาหลิ่วหรูอี้ช้าๆ ฝีเท้าเขาเป็นดังกลองเร่งชีวิตในสายตาหลิ่วหรูอี้


เซี่ยว!


ในร่างอี้อวิ๋นมีเสียงอีกาทองดังออกมา กระบี่หักในมือร้องอย่างกระหายเลือดเช่นกัน ปราณสังหารที่รวมตัวหนาแน่นทำให้หลิ่วหรูอี้หายใจไม่ออก


“ช้าก่อน!” หลิ่วหรูอี้ร้องขึ้นอย่างฉับพลัน “อี้อวิ๋น เจ้ากับข้าต้องสู้ตัดสินเป็นตายเท่านั้นหรือ? ในฐานะที่ข้าเป็นรองประมุขของวังวิถีเจ็ดดาราก็ใช่ว่าจะไม่วิธีทุ่มชีวิต แต่วิธีเช่นนั้นจะทำให้แก่นโลหิตข้าเสียหายอย่างหนักหรืออาจถึงขั้นต้นกำเนิดเสียหาย ข้าไม่อยากใช้นัก แต่หากเจ้าบีบข้าถึงทางตัน เช่นนั้นข้าคงต้องใช้”


สีหน้าอี้อวิ๋นไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ฝีเท้าก็ไม่หยุดลงแต่อย่างใด เขายังคงเดินเข้าใกล้หลิ่วหรูอี้ช้าๆ


หลิ่วหรูอี้ยากที่จะปิดบังความกลัวในแววตา นางรีบพูดว่า “อี้อวิ๋น พวกเราเจรจากันได้ วังวิถีเจ็ดดาราของข้ามีมรดกลึกล้ำ หากเจ้าปล่อยข้าไปสักครั้ง เช่นนั้นข้าก็จะให้เรื่องในอดีตแล้วกันไป ทั้งยังจะมอบโอสถชั้นดีและคู่หลับนอนที่งดงามให้เจ้าเลือกตามใจชอบ แต่หากเจ้าฆ่าข้า เช่นนั้นวังวิถีเจ็ดดาราก็จะแก้แค้นให้ข้าแน่นอน พวกเขาไม่เพียงแต่จะฆ่าเจ้า แต่ยังจะสังหารทุกคนในสำนักกระบี่สระใส”


หลิ่วหรูอี้ยกเรื่องสำนักกระบี่สระใสมาพูด ทว่าอี้อวิ๋นกลับไม่หวั่นไหว หัวใจกระบี่รวมตัวในร่าง พลังพุ่งถึงขีดสุด


หลิ่วหรูอี้ลนลานมาก ทันใดนั้นนางก็มองไปทางหลิงเสียเอ๋อร์แล้วพูดว่า “อี้อวิ๋น เจ้าอยากช่วยเด็กหญิงคนนั้นไม่ใช่หรือ? แม้ตอนนี้นางจะใกล้แตกสลายแต่ข้าก็มีวิชาลับเลี้ยงวิญญาณที่ช่วยรักษาจิตนางได้ อย่างน้อยก็รักษาให้อยู่ได้สองสามแสนปี”


หากหลิ่วหรูอี้ไม่พูดถึงหลิงเสียเอ๋อร์ก็คงดี จิตสังหารทั่วร่างอี้อวิ๋นปะทุออกเหมือนภูเขาไฟระเบิดเมื่อนางพูดถึงหลิงเสียเอ๋อร์ ลำแสงกระบี่ส่งเสียงพร้อมแทงไปที่หลิ่วหรูอี้


“ตายซะ!” อี้อวิ๋นคำราม


ขอความเมตตา เอาผลประโยชน์มาล่อ ทั้งยังนำหลิงเสียเอ๋อร์มาต่อรอง ทั้งหมดล้วนเสียแรงเปล่า ยังไงอี้อวิ๋นก็จะฆ่าหลิ่วหรูอี้!


“ข้าจะเสี่ยงตายกับเจ้า!” หลิ่วหรูอี้ร้องเสียงแหลม นางเผาแก่นโลหิตท่ามกลางความสิ้นหวังนี้ แส้เส้นยาวตวัดออกไป ท่ามกลางพลังอันน่ากลัวมีรอยแยกสีดำนับไม่ถ้วนปรากฏกลางอากาศ


กระบี่แห่งการสร้างและทำลายล้าง!


อี้อวิ๋นเองก็ทุ่มเททุกอย่างเช่นกัน ตอนนี้เขาเหลือพลังปราณไม่มาก ต้องใช้พลังเลือดลมเช่นกัน


กลางลำแสงกระบี่เต็มไปด้วยปราณโลหิต พลังแห่งกฎรวมตัวที่ปลายกระบี่ ตอนนี้หัวใจกระบี่ของเขาคือการฆ่า!


ตูม!


ทั้งตำหนักศิลากลายเป็นเศษหินนับไม่ถ้วนทันที!


ผู้อาวุโสจีถอยหลังหลายก้าว แม้จะมีกำแพงมิติกั้นแต่เขาก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ เขารีบใช้ปราณเกราะมาปกป้องหลิงเสียเอ๋อร์


การต่อสู้ของอี้อวิ๋นกับหลิ่วหรูอี้ทำให้ผืนดินอดที่จะสั่นสะเทือนไม่ได้ ลำแสงพลังอันจ้าตาเหมือนจะทะลุสิ่งกีดขวางทั้งหมด


กระทั่งเมื่อผ่านไปสิบชั่วอึดใจ เงาแส้กับลำแสงกระบี่ก็สงบลง พายุพลังสงบอย่างสมบูรณ์ ผู้อาวุโสจีเบิกตามองเข้าไปในมิติกักขังก็เห็นแค่อี้อวิ๋นที่ยืนอยู่ ตรงหน้าเขามีรอยกระบี่ขนาดยักษ์ปรากฏ รอยกระบี่นี้ทะลุผ่านพื้นดินใต้ดินไปหลายร้อยจั้ง กลางรอยกระบี่มีเปลวไฟแผดเผาผืนดิน แค่มองรอยกระบี่อันน่ากลัวนี้เพียงแวบเดียวก็ใจสั่นสะท้าน!


เมื่อเขามองไปที่กลางรอยกระบี่ก็เห็นเงาร่างคนผู้หนึ่งยืนอยู่ คนผู้นี้มีโลหิตทั่วร่าง ชุดชาววังที่เคยงดงามและทรงผมอันประณีตกลับกลายมาเหมือนคนสติไม่ดี ดูแล้วสะบักสะบอมน่าเวทนา ใบหน้านางย่นเข้าด้วยกันเหมือนยายเฒ่าเพราะเผาแก่นโลหิต


กระบี่นี้ของอี้อวิ๋นมีกฎแห่งกาลเวลาและกฎแห่งการร่วงโรยแฝงอยู่ มันดูดเอาพลังชีวิตทั้งหมดของหลิ่วหรูอี้


หลิ่วหรูอี้มองอี้อวิ๋นด้วยรอยยิ้มน่าอนาถ “อี้อวิ๋น…วังวิถีเจ็ดดารา…จะฆ่าเจ้าแน่นอน จากนั้นก็สังหารสำนักกระบี่สระใสทั้งสำนัก…”


อี้อวิ๋นหัวเราะเยาะ “ไม่ต้องให้พวกเจ้าลำบากขนาดนั้น วันหน้าข้าจะไปวังวิถีเจ็ดดาราด้วยตัวเองแล้วฆ่าคนของพวกเจ้าไม่ให้เหลือ!”


ดวงตาหลิ่วหรูอี้เบิกกว้าง โลหิตสีดำไหลออกจากมุมปากอันแห้งผาก นางหมดลมหายใจอยู่ใต้ดินแห่งนี้


อี้อวิ๋นลดกระบี่ลง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ใบหน้ามีสีโลหิตอย่างผิดปกติ


เขาเผาแก่นโลหิตและสังหารคนติดต่อกันสามคน! นี่เป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่งสำหรับอี้อวิ๋นที่เพิ่งเข้าระดับวังวิถีและยังไม่ตีระดับในมั่นคงดี


อี้อวิ๋นสงบลงหายใจลงแล้วเดินไปตรงหน้าพวกผู้อาวุโสจี เขามองหลิงเสียเอ๋อร์ที่หลับอยู่ในอ้อมอกซินเอ๋อร์กับเยวี่ยเอ๋อร์ที่อยู่กลางปราณเกราะ


การต่อสู้มีมิติกั้นเอาไว้ คลื่นลูกหลงที่หลุดออกมามีผู้อาวุโสจีคอยต้าน ดวงตาหลิงเสียเอ๋อร์ปิดแน่นเหมือนกำลังหลับสบาย แต่ร่างกายนางโปร่งแสงเหมือนผ้าบางๆ ประหนึ่งว่าเป็นภาพลวงตา…


“ข้าฆ่าคนที่ทำร้ายเจ้าหมดแล้ว” อี้อวิ๋นพูดเสียงเบา


ตูม ตูม ตูม!


ทั้งโลกใต้ดินกำลังสั่นสะเทือน ก้อนหินคอยร่วงหล่นจากด้านบนไม่หยุด มิติกักขังเริ่มพังทลาย


อี้อวิ๋นเงยหน้ามองรอบด้านแล้วพูดว่า “ค่ายกลนี้จะพังแล้ว”


พลังของค่ายกลฟ้าดินหมดลงอย่างสมบูรณ์ การสั่นสะเทือนที่เกิดจากการพังทลายของค่ายกลจะทำให้โลกใต้ดินนี้ถูกกลบฝังอย่างสมบูรณ์ ถ้ำพำนักของเทพโอสถก็จะถูกฝังเช่นกัน


“โฮก!”


ท่ามกลางเสียงที่ดังสนั่นมีเสียงคำรามของสิ่งมีชีวิตร่างคนดังปะปน


“พวกเจ้าเข้าไปในเจดีย์เถอะ ที่นี่อันตรายเกินไป” อี้อวิ๋นนำเจดีย์เทพจุติออกมา


“เช่นนั้นแม่นางคนนี้ล่ะ” ซินเอ๋อร์ถาม


หลิงเสียเอ๋อร์อ่อนแอเกินไป อ่อนแอจนแทบไม่อาจรับแรงมิติจากค่ายกลส่งข้ามและคลื่นพลังมิติของเจดีย์เทพจุติ


“ข้าดูแลนางเอง” อี้อวิ๋นอุ้มหลิงเสียเอ๋อร์เอาไว้


หินก้อนยักษ์อีกก้อนร่วงลงมา พวกผู้อาวุโสจีทั้งสามคนรีบเข้าสู่เจดีย์เทพจุติ หลังจากที่อี้อวิ๋นเก็บเจดีย์เทพจุติก็อุ้มหลิงเสียเอ๋อร์บินกลับเข้าสู่หม้อโอสถของเทพโอสถ


เขากลับมายังข้างทะเลสาบ อี้อวิ๋นเก็บม้วนกระดาษที่เทพโอสถทิ้งไว้


ฉัวะ


สังสารวัฏภูมิกลางทะเลสาบแตกออกเช่นกัน ทั้งทะเลสาบพัดม้วนขึ้น


อี้อวิ๋นถือกระบี่ไว้ในมือ กระบี่ฟันลงใต้ทะเลสาบ ขณะเดียวกันก็ยืนตัวขึ้น เขาพาหลิงเสียเอ๋อร์พุ่งลงสู่ใต้ทะเลสาบพร้อมกัน


ตูมตูมตูม!


ลำแสงกระบี่โถมลงข้างล่างไม่หยุด มันฟันลงบนหินอันแข็งแรงใต้ทะเลสาบ ฟันลงลงถึงใต้ดินลึก


หินหลอมสีแดงเข้มโหมซัดสาด คลื่นความร้อนอันน่ากลัวเผาทุกอย่างรอบด้านไม่หยุด นอกจากหินที่กลายเป็นผลึกแก้วก็ไม่มีอะไรอยู่รอดได้อีก


อี้อวิ๋นร่อนลงข้างบ่อหินหลอมเล็กๆ หินหลอมในบ่อนี้เปลี่ยนเป็นสีทองเข้ม กฎแห่งหยางบริสุทธิ์รุนแรงมาก มันปะทะใส่ปราณคุ้มครองร่างของอี้อวิ๋นไม่หยุด


อี้อวิ๋นไม่ลังเลอีกต่อไปเมื่อรู้สึกถึงคลื่นพลังจากเชื้อเพลิงเทพมารในร่าง เขาวางร่างวิญญาณของหลิงเสียเอ๋อร์ลงบนหินที่อยู่ด้านข้างก้อนหนึ่ง


หินก้อนนี้โดนเผาจนสีแดงโปร่งแสง มันส่องสะท้อนร่างของหลิงเสียเอ๋อร์ ภายนอกร่างนางมีพลังปราณของอี้อวิ๋นห่อหุ้ม กฎแห่งหยางบริสุทธิ์เหล่านี้ผ่านการทำให้อ่อนแอลงและกรองจากปราณเกราะของอี้อวิ๋นจนกลายเป็เหมือนสายลมที่นุ่มนวลอบอุ่น มันคอยหล่อเลี้ยงร่างวิญญาณของหลิงเสียเอ๋อร์อย่างอ่อนโยน


“กฎแห่งหยางบริสุทธิ์ของที่นี่เหมาะกับการหล่อเลี้ยงเจ้าพอดี เสียเอ๋อร์ ข้าจะทำให้เจ้าฟื้นคืนมาให้ได้” อี้อวิ๋นพูดเสียงต่ำ แม้ก่อนหน้านี้หลิ่วหรูอี้จะบอกว่านางช่วยหลิงเสียเอ๋อร์ได้ แต่ถึงกระนั้นอี้อวิ๋นก็ยังคงฆ่านางอยู่ดี สาเหตุเป็นเพราะหนึ่ง เขาไม่เชื่อคำของหลิ่วหรูอี้ สอง อี้อวิ๋นมั่นใจว่าเขาจะช่วยหลิงเสียเอ๋อร์ได้


……………………………………………………………………………………………….

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)