Super God Gene 3086-3087

 ตอนที่ 3086 ขุนนางเลือดพระเจ้า


 


พลังอันร้อนแรงพลุ่งพล่านอยู่ภายในร่างกายของหานเซิ่น มันทําให้ความร้อนในตัวของเขาเพิ่มสูงขึ้น


 


“พลังนี้ ดูเหมือนจะกําลังเปลี่ยนแปลงยืนในร่างกายของเรา…”


 


หานเซิ่นรู้สึกว่าเซลล์ในร่างกายกําลังถูกคุกคามโดยความร้อน เขากําลังประสบกับความเปลี่ยนแปลงประหลาดบางอย่าง


 


“คุณได้รับยืนเทพมังกรโลหิต โลหิตชีพจรเทพสปิริตมังกรโลหิตถูกเปิดออก”


 


เสียงประกาศดังขึ้นในสมองของหานเซิ่น มันทําให้เขารู้สึกตกใจ


 


หานเซิ่นเช็คข้อมูลและค้นพบว่ามันมีสิ่งที่เรียกว่าโลหิตชีพจรเทพสปิริตโผล่ขึ้นมา


 


“เทพมังกรโลหิต: โลหิตชีพจรเทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่น”


 


“นี่คือยืนเทพสปิริตอย่างนั้นหรอ?”หานเซิ่นไม่อยากจะเชื่อ


 


ในตอนที่หานเซิ่นอยู่ในจักรวาลจีโน ถึงแม้เขาจะฆ่าเทพสปิริตและได้ยืนของพวกเขามา แต่พวกมันก็เป็นแค่สิ่งประจําตัวพระเจ้าเท่านั้น เขาไม่สามารถดูดซับพวกมันเข้าไปได้


 


หานเซิ่นคิดมาโดยตลอดว่าขั้นทรูก็อตนั้นคงจะเป็นขั้นสุดท้ายที่มนุษย์จะวิวัฒนาการไปได้ แต่ทว่าตอนนี้เขากําลังดูดขับโลหิตชีพจรเทพสปิริตเข้าไปนี้มันไม่ปกติ


 


“นี่คือยืนของเทพสปิริตจริงๆ? หรือว่าเป็นแคโลหิตชีพจรเทพสปิริตที่มนุษย์ของโลกนี้ได้จากวิหารพระเจ้ากัน?” หานเซิ่นมองไปที่ฟอสซิลมังกรด้วยความสงสัย หินยังคงอยู่ที่เดิม แต่กระดูกมังกรได้หายไปแล้ว


 


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงตะโกนของบอลด์กายดังมาจากด้านนอก เขาจึงรีบออกจากหลุมเพื่อช่วยชีวิตของบอลด์กาย


 


ถึงบอลด์กายจะค่อนข้างน่ารําคาญ แต่เขาก็ไม่ใช่คนเลวอะไร หานเซิ่นจึงไม่อยากเห็นบอลด์กายตายต่อหน้าของเขา ที่สําคัญยิ่งไปกว่านั้นหานเซิ่นไม่ต้องการให้กงซูจินได้ในสิ่งที่ต้องการ


 


หานเซิ่นบดขยี้มีดโคลด์โกลด์และมองไปที่กงซูจินก่อนที่จะพูดว่า


 


“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้เรียนรู้บทเรียนจากความตายของโหลวจิ๋ว”


 


ในตอนที่กงซูจินได้ยินหานเซิ่นพูดถึงโหลวจิ๋ว สายตาของเขาก็ดูอาฆาตขึ้นมา แต่สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาพูดอย่างเย็นชา


 


“ฆ่าพวกเขาให้หมด แต่อย่าปล่อยให้พวกเขาตายเร็วจนเกินไป”


 


เหล่าผู้ใช้ยืนเรซนับสิบรับคําสั่ง พลังต่างๆนาๆถูกปล่อยออกไปใส่หานเซิ่นและบอลด์กาย ในชั่วพริบตาทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยสายฟ้า สายลม และเปลวไฟ แสงสีต่างๆนั้นถูกปล่อยลงมาใส่พวกเขา


 


สีหน้าของหานเซิ่นยังคงสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง เขาแค่ก้าวออกไปข้างหน้า แต่มันเป็นอะไรที่แปลกมากๆ มันทําให้ผู้คนมองไม่เห็นตําแหน่งที่เขาก้าวออกไป ขณะเดียวกันหมัดของเขาก็ถูกชกออกไป


 


หมัดของหานเซิ่นปลดปล่อยลมปราณมังกรสีม่วงออกไป มันปะทะกับพลังของเหล่ายืนเรซนับสิบและส่งพวกเขากระเด็นออกไป


 


ผู้ใช้ยืนเรซบางคนหัวกะโหลกแตกร้าว ขณะที่บางคนหน้าอกยุบลงไป ผู้ใช้ยืนเรซบางคนถึงกับตัวระเบิด ผู้ใช้ยืนเรซนับสิบถูกฆ่าตาในชั่วพริบตาจากผู้ใช้ยืนเรซนับสิบ มีเพียงแค่สามคนที่รอดชีวิต แต่ถึงจะอย่างนั้นกระดูกแขนและขาของพวกเขาก็แตกหัก พวกเขากลิ้งไปมาบนพื้นพร้อมกับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด


 


หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าพลังของโลหิตชีพจรเทพสปิริตมังกรโลหิตจะทรงพลังถึงขนาดนั้น แม้ แต่เขาเองก็ยังรู้สึกแปลกใจ


 


พลังหมัดของเขานั้นรุนแรงอย่างมาก มันเทียบได้กับพลังของเทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่น มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้มีแคโลหิตชีพจรของเทพสปิริตแต่เขาเป็นเทพสปิริตซะเอง


 


บอลดกายอ้าปากค้างขณะที่เขามองดูสิ่งที่เกิดขึ้น หานเซิ่นเป็นเหมือนกับเทพสปิริตที่จุติลงมาจากท้องฟ้า


 


ใบหน้าของกงซูจินซีดเผือก หานเซิ่นฆ่าเหล่าผู้ใช้ยืนเรซนับสิบที่รวมร่างกับยืนเรซระดับราชันได้ในหมัดเดียว แม้แต่เขาที่มียีนเรซระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถทําอะไรแบบนั้นได้


 


“รวมร่างกับเทพสปิริต เขาถูกเลือกโดยพระเจ้า


 


ขุนนางเลือดพระเจ้าที่แท้จริง…”


 


สีหน้าของฮว่าหนองเยว่เปลี่ยนไป เขารีบพากงซูจินหนีไป พวกเขาเคลื่อนที่ไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า


 


ฮว่าหนองเยวรู้ดีว่าขุนนางเลือดพระเจ้านั้นน่ากลัวขนาดไหน บุคคลที่ทรงพลังถึงขนาดรวมร่างกับเทพสปิริตได้นั้นไม่ใช่บางสิ่งที่พวกเขาจะต่อกรได้


 


ขุนนางเลือดพระเจ้าแต่ละคนนั้นเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งมากๆ พวกเขามักจะเป็นผู้นําหรือไม่ก็ผู้พิทักษ์ของอาณาจักร


 


ราชาของแต่ละอาณาจักรต่างก็เป็นบุคคลที่ถูกเลือกโดยพระเจ้า พวกเขาสามารถรวมร่างกับเทพสปิริตได้ ถึงขุนนางแบบนั้นจะมีอยู่ในทุกอาณาจักร แต่มันก็มีจํานวนอยู่ไม่มากนัก เพราะยังไงซะมันก็ไม่ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนจะถูกเลือกโดยเทพสปิริต


 


ขุนนางเลือดพระเจ้านั้นสามารถต่อสู้ร่วมกับเทพสปิริตได้ ด้วยเหตุนั้นแม้แต่ขุนนางเลือดพระเจ้าขั้นต่ําที่สุดก็มีพลังเหนือกว่าที่มนุษย์ทั่วๆไปจะมีได้


 


ใบหน้าของกงซูจินซีดเผือกในจังหวะที่เขาได้ยินคําว่า “ขุนนางเลือดพระเจ้า”


 


ถึงตระกูลกงซูจะมีผู้คนอยู่มากมาย แต่มันก็ไม่มีใครคนไหนที่กล้าล่วงเกินขุนนางเลือดพระเจ้า


 


“เป็นไปไม่ได้ เขาเป็นแค่คนบ้านนอกที่มาจากเมืองเล็กๆ เขาจะเป็นขุนนางเลือดพระเจ้าได้ยังไง….” กงซูจึงตกตะลึง


 


“พวกเจ้าจะไปไหน?” ร่างกายของหานเซิ่นห่อหุ้มด้วยลมปราณมังกรที่ดูเหมือนกับหมอกสีม่วง ทันทีที่เขาเริ่มเคลื่อนไหว เขาก็หายตัวไปปรากฏอยู่ด้านหลังของฮว่าหนองเยว่และกงซูจินอย่างกะทันหัน


 


ฮว่าหนองเยว่ใช้มือผลักกงซูจินออกไป ขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มปลดปล่อยสายฟ้าออกมา เส้นผมของเขาตั้งตรง ขณะที่หมอกสีแดงเข้าปกคลุมร่างกายของเขาราวกับว่าเขาเป็นเทพปีศาจ เขามีออร่าที่ดูเหมือนกับว่าสามารถทําลายจักรวาลนี้ได้ เขาชกหมัดออกไปใส่หานเซิ่น


 


หานเซิ่นชกหมัดออกไปปะทะกับหมัดของคู่ต่อสู้ ลมปราณมังกรสีม่วงของเขาทําลายสายฟ้าของฮว่าหนองเยวได้อย่างง่ายดาย


 


ในตอนที่ร่างกายของฮว่าหนองเยว่ถูกลมปราณมังกรสีม่วงเข้า เขาก็เปลี่ยนกลีบดอกไม้ที่แตกกระจายออกไป เขาเหมือนกับดอกซากุระที่ถูกพัดไปทุกหนทุกแห่ง หลังจากนั้นดอกไม้ก็กลับมารวมกันและกลายร่างเป็นฮว่าหนองเยว่อีกครั้งหนึ่ง แต่ใบหน้าของเขาดูซีดไป เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่งและเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถหลบพลังของโลหิตชีพจรเทพสปิริตมังกรโลหิตได้พ้น


 


เมื่อเห็นแบบนั้น กงซูจินก็ถูกครอบงําด้วยความหวาดกลัว เขารู้ดีว่าฮว่าหนองเยว่นั้น แข็งแกร่งขนาดไหน แต่ฮว่าหนองเยว่ก็ยังเกือบตายด้วยหมัดเดียว ตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่าหานเซิ่นจะต้องเป็นขุนนางเลือดพระเจ้าตัวจริงเสียงจริง


 


กงซูจินพยายามจะบินหนีไปให้เร็วที่สุด แต่ถึงเขาจะรวดเร็วแค่ไหน มันก็ไม่ได้รวดเร็วเหมือนอย่างโลหิตชีพจรเทพสปิริตมังกรโลหิตของหานเซิ่น


 


หานเซิ่นถีบพื้นเพื่อส่งตัวออกไป เขาไปปรากฏตัวด้านหลังของกงซูจินและชกหมัดที่ห่อหุ้มด้วยลมปราณมังกรสีม่วงออกไป


 


ปัง!


 


ในจังหวะที่หมัดของหานเซิ่นกําลังจะถูกเข้าที่ด้านหลังของกงซูจิน มันก็มีเงาของนกกระเรียนปรากฏขึ้นมา เงาของนกกระเรียงนั้นกางปีกออกเพื่อปกป้องร่างกายของกงซูจินเอาไว้


 


ลมปราณมังกรสีม่วงของหานเซิ่นปะทะเข้ากับนกกระเรียน และทําให้เงาของนกกระเรียกนั้นแตกสลายไป แต่ในขณะเดียวกันลมปราณมังกรสีม่วงก็ได้ถูกหยุดเอาไว้


 


มีเสียงแตกร้าวของอะไรบางอย่างดังขึ้นมา ทันใดนั้นสร้อยคอที่อยู่บนอกของกงซูจินก็ระเบิดออกและมีควันพุ่งออกมา มันแสดงใบหน้าของชายแก่ผมขาวคนหนึ่ง


 


“ข้าคือกงซูจอ ไม่สําคัญว่าลูกชายของข้าจะล่วงเกินเจ้ายังไง ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบผลกรรมที่เขาก่อเอง ได้โปรดปล่อยลูกชายของข้าไป”


 


เงาของชายแก่คนนั้นก็คือกงซูจื่อที่มีชื่อเสียงของอาณาจักรฉิน


ตอนที่ 3087 ในที่สุดก็ได้ไข่ยีน


 


“รับผิดชอบ? เจ้าจะรับผิดชอบยังไง?” หานเซิ่นมองไปที่เงาของกงซูจื่อด้วยสายตาเย็นชา


 


กงซูจื่อพูด “ถ้าเจ้ายอมปล่อยลูกชายของข้าไป ข้าจะมอบเงินหรือไข่ยีนให้กับเจ้า หรือถ้าเจ้าต้องการเป็นเจ้าเมือง ข้าก็จะช่วยเหลือเจ้าในเรื่องนั้นเช่นกัน”


 


“น่าเสียดายที่เงินซื้อชีวิตไม่ได้” หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา


 


“ถ้าพวกเจ้าต้องการจะฆ่าใครสักคน พวกเจ้าก็ควรเตรียมใจที่จะถูกฆ่าเช่นกัน” ลมปราณมังกรสีม่วงพลุ่งพล่านบนร่างกายของหานเซิ่น มันดูเหมือนกับภูเขาไฟที่กําลังปะทุ


 


ในตอนแรกกงซูจินคิดว่าอาจจะมีโอกาสรอด แต่หลังจากที่ได้ยินหานเซิ่น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาพยายามกระพือปีกเพื่อบินหนีไป


กงจื่อขึ้นเสียง “ถ้าเจ้าฆ่าลูกชายของข้า ข้ากงซูจื่อจะไม่หยุดจนกว่าจะข้าจะฆ่าเจ้าได้สําเร็จ!”


 


ตูม!


 


ก่อนที่กงซูจื่อจะพูดจบ ลมปราณมังกรสีม่วงที่น่ากลัวก็ตรงเข้าไปหากงซูจิน และทําให้ทั้งกงซูจินและเงาของกงซูจื่อแหลกสลายไป


 


หานเซิ่นไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขาบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้าเหมือนกับมังกรเพื่อไล่ตามฮว่าหนองเยว่ที่กําลังหนี ถึงแม้ฮว่าหนองเยว่จะรวดเร็วมากๆ แต่เขาก็ไม่รวดเร็วไปกว่าหานเซิ่น เมื่อเห็นหมอกสีม่วงเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ฮว่าหนองเยว่ก็กัดฟันและกางพัดออก เขาพัดมันออกไปในทิศทางของหานเซิ่น


 


ทันใดนั้นก็เกิดลมที่รุนแรงเหมือนกับพายุไต้ฝุ่นขึ้นมาลมนั้นดึงดูดทั้งก้อนหินและต้นไม้จํานวนมากเข้ามาใส่หานเซิ่น


 


แต่ลมปราณมังกรสีม่วงของหานเซิ่นนั้นดูไร้เทียมทาน มันปัดเป่าก้อนหิน ต้นไม้และใต้ฝุ่นออกไป ก่อนที่พวกมันจะมีโอกาสเข้ามาถึงตัวของหานเซิ่น ไม่มีอะไรที่หยุดพลังของโลหิตชีพจร เทพสปิริตมังกรโลหิตได้


 


Pang!


 


ร่างกายของฮว่าหนองเยว่แตกสลายกลายเป็นกลีบดอกไม้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลีบดอกไม้ไม่สามารถปลิวหนีไปได้ พวกมันถูกละลายภายในลมปราณมังกรสีม่วง กลีบดอกไม้ที่เหลือรอดบางส่วนหล่นลงไปบนพัดที่ตกลงไปบนพื้น พวกมันหายเข้าไปในพัด


 


หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขาบินลงไปบนพื้นและหยิบพัดนั่นขึ้นมา พัดนั้นดูเหมือนจะทําขึ้นมาจากกระดูกดําและกระดาษขาว บนพัดมีรูปต้นซากุระอยู่กลีบดอกซากุระจํานวนมากกําลังร่วงลงมาจากต้นไม้


 


ขณะที่พวกมันหล่นลงมา ชายรูปงามที่ดูเหมือนจะกําลังชมดอกซากุระอยู่ใต้ต้นไม้ก็มีเลือดไหลออกมาจากริมฝีปาก


 


“เจ้านี้เข้าไปในภาพวาดได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจ คนที่อยู่ในภาพวาดนั้น เห็นได้ชัดว่าคือฮว่าหนองเยว่


 


“ถ้าเจ้าทําลายพัดนั่น เจ้าจะฆ่าเขาได้ เขาทําแบบนี้กับเจ้า เจ้าจะปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไปได้ยังไง”


 


มีเสียงผู้หญิงกระซิบที่ข้างหูของหานเซิ่น มันทําให้เขาอยากจะลงมือฆ่าฮว่าหนองเยว่


 


ขณะที่มองชายที่อยู่บนพัด จู่ๆหานเซิ่นก็ปิดพัดลง เขาไม่ได้ทําลายมัน เขาหันกลับไปด้านหลัง แต่เขาไม่เห็นผู้หญิงคนไหนอยู่ด้านหลังของเขา


 


“บิ๊กสกายเดม่อน เจ้ายังตามข้ามาอีกอย่างนั้นหรอ?”


 


หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา เมื่อครู่นี้เขารู้สึกได้ถึงความปรารถนาที่จะฆ่า เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนพยายามสะกดจิตใจของเขา ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยของเขา เขาจะทําตามหัวใจของตัวเอง


 


“ฮ่า! ฮ่า! เจ้ายังไม่ตาย ข้าก็ยังไม่ตาย อย่างนั้นพวกเราจะแยกจากกันได้ยังไง? พายุฝนในฤดูหนาว หิมะในฤดูร้อน พวกเราตกหลุมรักกันและกัน ไม่มีอะไรแยกพวกเราออกจากกันได้”


 


หานเซิ่นรู้สึกว่าบิ๊กสกายเดม่อนกอดเขาจากด้านหลัง และเธอใช้เสียงที่ฟังดูอ่อนหวานกระซิบข้างหูของเขา


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกว่าบิ๊กสกายเดม่อนใช้ลิ้นเลียหูของเขา แต่ในตอนที่เขาหันกลับไปเขาไม่เห็นบิ๊กสกายเดม่อนรอบๆตัวของเขา


 


“เจ้ารวมร่างกับชีพจรพระเจ้า นี่กลายเป็นอะไรที่น่าสนใจขึ้นมา ร่างกายและหัวใจของเจ้าเป็นบางสิ่งที่ข้าจะเอามาเป็นของตัวเอง”


 


บิ๊กสกายเดม่อนปรากฏตัวข้างๆหานเซิ่นอีกครั้งพร้อมกับพูดด้วยเสียงที่ยั่วยวน ก่อนที่เธอจะหายตัวไปอีก เธอเป็นเหมือนกับผี


 


หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขามีโลหิตชีพจรเทพสปิริตมังกรโลหิตที่มอบพลังของเทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่นให้กับเขาอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถหาได้ว่าตัวจริงของบิ๊กสกายเดม่อนนั้นอยู่ที่ไหน


 


“ยืนเรซแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัย แต่เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเวิลด์คิงก็อตของฉินซิว เขาก็คิดว่ามันพอจะเป็นไปได้อยู่


 


“น้องหาน นี่เจ้าเป็นขุนนางเลือดพระเจ้าหรอเนี่ย” บอลต์กายวิ่งเข้ามาด้วยความดีใจ เขาเดินวนรอบตัวหานเซิ่นราวกับว่าเขากําลังมองชมสัตว์ในสวนสัตว์


 


หานเซิ่นมองไปที่บอลต์กายและถาม “เจ้าเห็นอะไรไหม?”


 


“ไม่ ข้าไม่เห็นอะไร” บอลด์กายรีบตอบ “พวกเราไม่เคยพบกับคนของตระกูลกงซูที่นี่”


 


หานเซิ่นรู้ว่าบอลต์กายนั้นเข้าใจผิด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงได้รับคําตอบที่ต้องการ ดูเหมือนว่าบอลด์กายจะมองไม่เห็นบิ๊กสกายเดม่อน ดังนั้นบิกสกายเดม่อนที่ปรากฏตัวข้างๆเขาต้องไม่ใช่ร่างจริงๆ เธอคงจะใช้พลังบางอย่างเพื่อพูดกับเขา


 


หานเซิ่นหยุดใช้พลังโลหิตชีพจรเทพสปิริตมังกรโลหิตและคิด ร่างจริงของบิ๊กสกายเดม่อน อยู่ที่ไหนกัน?”


 


“น้องหานลืมเรื่องนั้นไปก่อน ผนึกของปรากฏการณ์ประหลาด มังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้านั้นเพิ่งจะถูกทําลายไป ตอนนี้พวกเราไปเอาไข่ยีนที่อยู่ข้างล่างนั่นได้อย่างปลอดภัย เจ้าพักเบรกก่อน เดี๋ยวข้าจะไปขุดมันขึ้นมาเอง” บอลด์กายพูดก่อนที่จะกระโดดลงไปในหลุม


 


หานเซิ่นปล่อยให้บอลด์กายเป็นคนขุดมันขึ้นมา ขณะที่เขาตรวจเช็คพัดที่กําลังถืออยู่ในมือ


 


ด้ามของพัดนั้นเป็นสีดํา มันดูเหมือนกับสิ่งที่ทําขึ้นมาจากกระดูกของตัวอะไรบางอย่าง ตัวพัดเป็นสีขาวเหมือนกับหิมะ มันอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นจนน่าตกใจ หานเซิ่นไม่รู้ว่าเนื้อแท้ของมันคืออะไรกันแน่


 


แต่สิ่งที่หานเซิ่นรู้ก็คือคนที่อยู่บนพัดนั้นต้องเป็นฮว่าหนองเยว่อย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามยังไง เขาก็ไม่สามารถใช้งานพัดได้ เขาไม่เข้าใจว่ามันทํางานยังไง


 


“ข้าพบมันแล้ว… ข้าพบไข่ยืนแล้ว…” เสียงที่ฟังดูดีใจมากๆของบอลด์กายดังมาจากภายในหลุม


 


หานเซิ่นเดินเข้าไปหาหลุมและมองเห็นบอลด์กายกําลังถือไข่ยืนที่มีขนาดเท่ากับลูกฟุตบอลอยู่ในมือ เขากระโดดกลับขึ้นมาด้วยความดีใจ


 


ไข่ยืนนั้นกลมโตและเรืองแสงสีม่วงออกมา สัญลักษณ์ประหลาดบางอย่างส่องสว่างทั่วผิวของเปลือกไข่ ซึ่งทําให้มันดูค่อนข้างลึกลับ


 


“ข้าไม่เคยเห็นไข่ยืนแบบนี้มาก่อนเลย ถึงแม้ข้าจะบอกไม่ได้ว่ามันอยู่ในระดับไหน แต่มันก่อให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดมังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้าขึ้น ด้วยเหตุนั้นมันต้องเป็นไข่ยนที่ดีมากๆอย่างไม่ต้องสงสัย


 


บอลต์กายมอบไข่ยืนให้กับหานเซิ่นด้วยความดีใจ “ตอนนี้เจ้าช่วยชีวิตข้าเอาไว้ถึงสองครั้ง ไข่ยีนใบนี้คงจะตอบแทนบุญคุณได้ไม่หมด ดังนั้นมันเป็นหน้าที่ของข้าที่จะตอบแทนเจ้าเพิ่มอีก”


 


หานเซิ่นไม่ต้องการจะสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเย็นชาว่า


 


“พวกเขามาตามล่าข้า ดังนั้นเจ้าไม่จําเป็นต้องตอบแทน ตอนนี้พวกเราไม่ได้ติดค้างอะไรกันอีกแล้ว”


 


“ข้ายังคงติดค้างเจ้า” บอลด์กายคัดค้าน “ข้าจะตอบแทนทุกคนที่ข้าติดหนี้บุญคุณด้วย”


 


“นั่นเป็นเรื่องของเจ้า แต่ตอนนี้ข้ามีบางสิ่งที่ต้องไปทํา มันเป็นเรื่องที่ต้องทําเป็นการส่วนตัว ดังนั้นข้าขอให้เจ้าหยุดตามข้ามา”


 


หานเซิ่นไม่ต้องการไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ เขาเพิ่งจะฆ่ากงซูจินไป ดังนั้นกงซูจื่อไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่ เขาไม่ต้องการให้คนอื่นต้องมาโดนลูกหลงไปด้วย


 


“ก็ได้ เจ้าไปทําธุระของเจ้า ข้าจะไปตามหาเจ้าในภายหลัง” ครั้งนี้บอลด์กายยอมจากไปแต่โดยดี


 


หานเซิ่นประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นว่าอีกฝ่ายยอมจากไปง่ายๆแบบนั้น เขามองดูบอลด์กายจากไป หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ไข่ยืนในมือ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)