Super God Gene 3078-3079

 ตอนที่ 3078 เลือดในคฤหาสน์ตระกูลกงซู


 


โหลวจิ่วรู้สึกตกใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าคนที่จับคอของเขาก็คือหานเซิ่น เขาเห็นว่าร่างกายของหานเซิ่นพลุ่งพล่านไปด้วยลมปราณสีม่วง


 


โหลวจิ่วต้องการจะเรียกยืนเรซออกมาเพื่อรวมร่าง แต่เขาต้องตกใจเมื่อพบว่าการเชื่อมต่อกับโลหิตชีพจรเทพสปิริตของเขาถูกตัดขาด เขาไม่สามารถเรียกยีนเรซออกมาได้


 


หานเซิ่นจ้องไปที่โหลวจิ่วและถามอย่างเย็นชา “เจ้าอยากจะตายแบบไหน?”


จู่ๆโหลวจิ่วก็รู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา เขาเชื่อว่าคงจะต้องถูกฆ่าตายแน่ๆ หานเซิ่นบีบคอของเขาแรงขึ้นเรื่อยๆ และโหลวจิ่วรู้สึกว่าเขาไม่สามารถหายใจได้ มันเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่คิดแม้แต่จะถามคําถามอะไรเขา


 


โหลวจิ่วไม่สามารถใช้ยีนเรซได้ ดังนั้นโหลวจิ่วไม่มีหวังที่จะตอบโต้อะไรได้ เขาพยายามจะแกะมือของหานเซิ่นที่กําลังบีบคอของเขา เขารีบพูดออกมาว่า


 


“ข้าแค่ถูกจ้างมาทํางานนี้ เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าใครที่สั่งให้ข้ามาทําแบบนี้กับเจ้า?”


 


“ข้าจะไปจัดการกับกงซูจินที่หลัง” หานเซิ่นพูดอย่างมั่นใจ แต่จริงๆแล้วเขาแค่ลองทด สอบโหลวจิ่ว ตั้งแต่เขามาถึงที่นี่เขาพบคนเพียงแค่สองคนเท่านั้น ตอนนี้เมื่อมีใครบางคนต้องการจะฆ่าเขา มันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่หานเซิ่นจะคาดเดาได้ว่าคนๆนั้นต้องเป็นกงซูจิน เมื่อเห็นว่าสีหน้าของโหลวจิ่วเปลี่ยนไป หานเซิ่นก็รู้ว่าการคาดเดาของตัวเองนั้นถูกต้อง


 


“ที่นี่คือเมืองกําแพงหยก ถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้าจะหนีไปไหนได้” โหลวจิ่วพยายามที่จะพูดออกมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ


 


“จริงอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่โหลวจิ่วอย่างเย็นชา เขาออกแรงมากขึ้นและทําให้โหลวจิ่วไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ใบหน้าของเขาดูเหมือนกับท้องของหมู


 


แต่ทว่าหานเซิ่นไม่ได้หักคอของอีกฝ่ายโดยตรง เขาอ้าปากและปล่อยลมหายใจที่เหมือนกับควันสีดําออกมา เมื่อโหลวจิ่วเห็นควันสีดํานั้น ดวงตาของเขาก็ดูตกใจ ราวกับว่าเขาเห็นบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ ที่หานเซิ่นปล่อยออกมานั้นไม่ใช่ควันสีดําแต่มัน เป็นแมลงกินอวัยวะ


 


แมลงกินอวัยวะเหล่านั้นเดิมที่เป็นของเขา แต่ตอนนี้โหลวจิ่วไม่สามารถสัมผัสถึงพวกมันได้ แมลงกินอวัยวะเหล่านั้นกําลังปลดปล่อยควันสีม่วงออกมาและพวกมันตรงเข้าไปในปากของเขา


 


โหลวจิ่วพยายามจะดิ้นรน แต่หานเซิ่นจับคอของเขาเอาไว้แน่น ทําให้เขาไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ เขาทําได้แค่มองดูแมลงกินอวัยวะเข้าไปในปากของเขา


 


หานเซิ่นรอคอยจนกระทั่งแมลงกินอวัยวะทั้งหมดเข้าไปในร่างกายของโหลวจิ่ว ก่อนที่จะปล่อยมือออกจากคอของอีกฝ่าย หลังจากนั้นเขาก็มองที่โหลวจิ่วราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นแมลงสกปรกที่กําลังนอนตายอยู่บนพื้นและพูดขึ้นว่า


 


“แมลงกินอวัยวะพวกนี้เป็นของเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะชอบพวกมัน”


 


โหลวจิ่วพยายามจะเชื่อมต่อกับแมลงกินอวัยวะ แต่เขาไม่สามารถทําได้ แมลงกินอวัยวะนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา


 


“อ้า!” โหลวจิ่วรู้สึกราวกับว่าอวัยวะภายในของเขาถูกทิ่มแลงด้วยเข็มนับพันเล่ม เขากุมท้องของตัวเองและส่งเสียงกรีดร้อง ใบหน้าของเขาซีดเผือกและเขาก็กระอักเลือดออกมา


 


โหลวจิ่วพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้นและเริ่มจะวิ่งหนีไป ขณะที่มือข้างหนึ่งกุมท้อง เขาต้องการจะมีชีวิตต่อไป เขาไม่ต้องการตายอยู่ที่นี่ เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับการที่อวัยวะภาย ในของเขากําลังถูกกัดกินโดยแมลงกินอวัยวะและความเจ็บปวดจากการตายโดยอะไรแบบนั้น โหลวจิ่วก็ต้องการเพียงแค่วิ่งหนีไปให้เร็วที่สุด


 


โหลวจิ่วทุกทรมานจากการถูกกัดกินโดยแมลงกินอวัยวะ ขณะที่เขาวิ่งกลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลกงซู เขากระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง


 


หานเซิ่นมองดูโหลวจิ่ววิ่งหนีไปโดยที่ไม่ได้พยายามหยุดเอาไว้ ก่อนหน้านี้หานเซิ่นคิดว่าสีหน้าของโหลวจิ่วอาจจะเป็นการแสแสร้ง แต่ในจังหวะความเป็นความตาย ไม่สําคัญว่าจิตใจของคนนั้นๆจะเข้มแข็งขนาดไหน มันก็มักจะมีจุดอ่อนเผยออกมาให้เห็น แถมโหลวจิ่วก็ไม่ใช่คนที่มีจิตใจที่เข้มแข็งอะไร


 


ในจักรวาลนี้มนุษย์ไม่ได้พึ่งพาร่างกายของพวกเขา พวกเขาจะพึ่งพาพลังจากยีนเรซ ด้วยเหตุนั้นมนุษย์ส่วนใหญ่ในจักรวาลนี้จึงไม่ได้มีจิตใจที่เข้มแข็ง


 


โหลวจิ่ววิ่งกลับไปจนถึงคฤหาสน์ของตระกูลกงซู ในตอนที่การ์ดเห็นใบหน้าของโหลวจิ่ว เขาก็รู้สึกตกใจ เขาเข้าไปช่วยพยุงโหลวจิ่วเอาไว้และถามขึ้นว่า “มิสเตอร์โหลว เกิดอะไรขึ้น?”


 


“พา… พาข้าไปพบมิสเตอร์จิน” ทุกครั้งที่โหลวจิ่วเปิดปาก เลือดสีดําก็กระอักออกมา มันมี เนื้อบางส่วนปะปนอยู่ด้วย


 


ยามพยุงโหลวจิ่วเข้าไปข้างใน ไม่ไกลไปจากคฤหาสน์ของกงซู หานเซิ่นมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากตรอกของเมือง เขายิ้มอย่างชั่วร้าย


 


“นายน้อย! มิสเตอร์โหลวกลับมาแล้ว”


 


กงซูจินกําลังมองดูผู้คนเต้นระบําอยู่ในสวน ในตอนที่เขาได้ยินเสียงเรียกของยาม ก่อนที่เขาจะพูดอะไร โหลวจิ่วก็เดินโซเซเข้ามาในสวน


 


กงซูจินขมวดคิ้ว เขารู้สึกไม่พอใจ การกระทําของโหลวจิ่วถือเป็นอะไรที่เสียมารยาท แต่ ในตอนที่เขาเห็นใบหน้าของโหลวจิ่ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาเห็นโหลวจิ่วเข้ามาในสวนด้วย ร่างกายที่สั่นรัว ใบหน้าของเขาซีดเผือกและเบ้าตาของเขาก็เป็นสีดํา เขาดูเหมือนกับซอมบี้


 


“นาย…น้อย.. ช่วย…ช่วย…” โหลวจิ่วเดินโซเซเข้าไปหากงซูจินเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ในตอนที่เขาอยู่ห่างออกไปเก้าฟุต ปากของเขาก็กระอักเลือดสีดําออกมา ร่างกายของเขาล้มไป ข้างหน้า ดวงตาของเขาหลุดออกมาจากเบ้า ขณะที่มือของเขาพยายามยื่นออกไปในทิศทางของกงซูจินเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่พลังชีวิตของเขาดับลงไปซะก่อน


 


กงซูจินทั้งตกใจและโกรธที่ได้เห็นโหลวจิ่วตายต่อหน้าต่อตา


หานเซิ่นกลับไปที่โรงแรม เขาเห็นเจียงปู้กู่และมิสเตอร์หยางรอคอยเขาอยู่ในห้องนั่งเล่น เขาเดินเข้าไปและถามขึ้นว่า


 


“มันมีทางไหนที่พวกเราจะหลีกเลี่ยงจากการถูกทําร้ายโดยยีนเรซได้ไหม?”


 


ตัวหานเซิ่นเองไม่ได้หวาดกลัวว่าแมลงกินอวัยวะจะทําร้ายอะไรเขา แต่เขากลัวว่ามันจะทําร้ายผู้คนรอบกายของเขา โชคดีที่ครั้งนี้เจียงปู้กู่อยู่ที่นี้ด้วย แต่ถ้าเกิดว่าครั้งต่อเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ล่ะ?


 


ครั้งนี้เป็นแมลงกินอวัยวะ แต่ครั้งต่อไปมันอาจจะเป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่า มันมีโอกาสที่แม้แต่ร่างกายของเขาก็ไม่จะสามารถป้องกันได้


 


มิสเตอร์หยางเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “มันมียืนเรชอยู่ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าลิสเซิน มันตรวจจับยีนเรซได้ ถ้ามียืนเรซเข้ามาใกล้นายท่านลิสเซินก็จะตรวจพบมันในทันที แต่ลิสเซินเป็นยีนเรซที่มีอยู่แค่ในตํานาน มันไม่เคยมีใครได้เห็นมันมาก่อน มันพอจะมียีนเรซที่มีพลังคล้ายๆกันอยู่ แต่ถ้าระดับของพวกมันต่ำจนเกินไป พวกมันก็จะสัมผัสได้แค่ยีนเรซที่มีระดับต่ำเหมือนกันเท่านั้น แถมพวกมันยังเป็นยีนเรซที่หาได้ยากมากๆ”


 


หานเซิ่นมองไปที่เจียงปู้กู่และพยักหน้า “ยีนเรซประเภทนั้นหายากจริงๆนั่นแหละ และถ้าระดับของพวกมันต่ำเกินไป พวกมันก็จะไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร ผู้ใช้ยีนเรชทั่วๆไปนั้นมักจะใช้แลมกราสบัก แต่อย่างเต็มที่แลมป์กราสบักที่มีระดับไวเคานต์จะตรวจจับได้แค่ยืนเรซระดับเอิร์ลเท่านั้น และความสามารถในการตรวจจับยีนเรซธาตุน้ำของพวกมันยังต่ำมากๆ ด้วยเหตุนั้นถึงแม้ นายน้อยจะมีแลมป์กราสบักอยู่นายน้อยก็ตรวจจับแมลงกินอวัยวะระดับมาร์ควิสไม่ได้อยู่ดี”


 


หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เจียงปู้กู่ก็พูดต่อไปว่า “แต่มันมียีนเรซอยู่ชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสัมผัสสิ่งต่าง ถึงแม้มันจะเป็นแค่ระดับราชัน แต่ถ้ามียีนเรซระดับเทพเจ้าเข้ามาใกล้ มันก็จะ สัมผัสถึงยืนเรซนั้นได้ เพียงแต่ว่าไข่ยืนของยีนเรซชนิดนี้หาได้ยาก เท่าที่ข้ารู้ ร้านของหลูสือพอจะมีพวกมันอยู่บ้าง แต่พวกมันล้วนเป็นยีนเรซที่ตัวเต็มวัยแล้ว พวกเราจึงได้แต่ซื้อมันไปไว้ตามบ้านเท่านั้น ดังนั้นประโยชน์ของพวกมันจึงค่อนข้างจํากัด”


ตอนที่ 3079 เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์


 


หานเซิ่นรู้สึกสนใจขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น “ยีนเรซนั่นถูกเรียกว่าอะไร?”


 


เจียงปู้กู่คิดอยู่ชั่วครู่และพูด “ข้าจําได้ว่ามันถูกเรียกว่าเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ มันเป็นยีนเรซที่อาศัยอยู่ที่แม่น้ำโฮลไลท์ มันเป็นยีนเรซที่เป็นระดับราชันตั้งแต่กําเนิด แต่พลังของมันไม่ได้ แข็งแกร่งอะไรมากนัก แม้แต่ยีนเรซระดับดยุกก็กินพวกมันได้ แต่มันเป็นยืนเรซที่มีการสัมผัสที่ดีมากๆ ก่อนที่ยืนเรซอื่นจะเข้าใกล้พวกมันได้ พวกมันก็หนีไปก่อนแล้วมันจึงเป็นเรื่องยากมากๆที่จะจับพวกมันได้ และไข่ยีนของเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ก็เป็นอะไรที่หายากแบบสุดๆ เท่าที่ข้ารู้ ภายในเมืองกําแพงหยกนั้นมีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ไม่เกินห้าตัว และสามตัวเป็นของราชวงศ์ มันเป็นเรื่องยากที่นายน้อยจะได้ไข่ยืนของเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์มา”


 


หานเซิ่นตัดสินใจว่าเขาจะซื้อเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์มาสักตัวหนึ่ง สําหรับหานเซิ่นแล้วการที่พวกมันโตเต็มวัยแล้วไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไร ด้วยการที่มีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์คอยตรวจจับยืนเรซต่างๆ เขาและคนอื่นๆก็จะปลอดภัยมากขึ้น


 


หานเซิ่นไม่ถามอะไรอีก ถ้าร้านของหลูสือมีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์อยู่ เราก็แค่ต้องมาซื้อมันมาสักตัว


 


“มิสเตอร์เจียง ในบรรดายีนเรซระดับท็อป มันมียีนเรซไหนที่มีเลือดสีฟ้าไหม?”


 


ตั้งแต่ที่หานเซิ่นมาถึงจักรวาลแห่งนี้ เขาก็ได้รู้ว่ามนุษย์ทั่วๆไปนั้นไม่ได้ฝึกฝนร่างกาย และเลือดของพวกเขาก็เป็นสีแดง


 


แต่ร่างกายของฉันซิวมีเลือดสีฟ้า มันจึงมีโอกาสที่นั้นจะเป็นผลจากการที่เขารวมร่างกับยีนเรซชนิดหนึ่ง บางทีนั้นอาจจะไม่ใช่เลือดจริงๆของเขา


 


เจียงปู้กู่คิดอยู่ชั่วครู่และตอบ “มันมียีนเรซอยู่หลายชนิดที่มีเลือดสีฟ้า แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคงจะต้องเป็นเวิลด์คิงก็อตของราชาองค์แรกของอาณาจักรฉินอย่างไม่ต้องสงสัยยืนเรซของราชาองค์แรกนั้นเป็นยีนเรซที่เหนือกว่ายีนเรซระดับเทพเจ้าไหนๆ น่าเสียดายที่เวิลด์คิงก็อตนั้นได้ หายไปพร้อมกับราชาองค์แรก ไม่อย่างนั้นละก็อาณาจักรฉันก็คงจะไม่ตกต่ําหลังจากที่ราชาองค์แรกหายตัวไป”


หานเซิ่นรีบถาม “ยีนเรซนั่นเป็นยีนเรซแบบไหนกัน?”


 


“เวิลด์คิงก็อตเป็นสิ่งมีชีวิตในตํานานที่ควบคุมโลกใบนี้” เจียงปู้กู่พูด


 


“แต่เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ผ่านมานานแล้ว จึงไม่มีใครบอกได้ว่ามันมีรูปลักษณ์เป็นยังไง จากข้อมูลที่หลงเหลืออยู่มันควรจะเป็นยืนเรซร่างมนุษย์ที่หายาก”


 


หานเซิ่นถามเฉียงเกี่ยวกับยีนเรซอีกหลายคําถาม ถึงมิสเตอร์หยางจะรอบรู้เกี่ยวกับยีนเรซเช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รอบรู้เท่ากับเจียงปู้กู่ มิสเตอร์หยางนั้นจะรู้เพียงแค่ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ขณะที่เจียงปู้กู่จะรู้เกี่ยวกับยืนเรซระดับสูงที่มิสเตอร์หยางเข้าถึงไม่ได้ เขาช่วยให้หานเซิ่นได้เข้าใจเกี่ยวกับพลังของยืนเรซในโลกใบนี้มากขึ้นกว่าเดิม


 


ในสายตาของเจียงปู้กู่ โฮลี่เหวินไวท์เดียร์ถือเป็นยืนเรซระดับพื้นฐานเท่านั้น สําหรับผู้ใช้ยีนเรซทั่วๆไปแล้ว มันอาจจะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ แต่สําหรับผู้ใช้ยีนเรซระดับท็อปมันไม่ได้ถือว่าเป็นยีนเรซพิเศษอะไร


 


ยืนเรซที่เป็นสิ่งมีชีวิตในตํานานอย่างเวิลด์คิงก็อตนั้นเป็นสิ่งที่แต่ละอาณาจักรมี พวกมันเป็นสิ่งที่สืบทอดต่อกันมาในแต่ละอาณาจักร ซึ่งพวกมันทําให้หานเซิ่นรู้สึกว่าเขาต้องระวังตัวเอาไว้


 


“ดูเหมือนว่าโลกใบนี้จะไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เราคิดเอาไว้ เรื่องราวเกี่ยวกับฉินซิวนั้นเป็นอะไรที่ประหลาด ถ้าเลือดสีฟ้าเป็นเลือดของเวิลด์คิงก็อต แล้วคนที่ตายไปในวันนั้น มันใช่ฉินซิวจริงๆอย่างนั้นหรอ?” ในภายในหัวหานเซิ่นเริ่มจะมีคําถามผุดขึ้นมามากมาย


 


หลังจากที่พูดคุยกับเจียงปู้กู่เสร็จแล้ว หานเซิ่นก็เดินทางไปที่ร้านของหมูสือ เขาได้ล่วงเกินกงซูจินไปเรียบร้อยแล้ว และเขาคงจะต้องต่อสู้กับอีกฝ่ายในเร็วๆนี้ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจําเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม


 


ก่อนที่หานเซิ่นจะมีโอกาสได้ฆ่ากงซูจิน เขาจําเป็นต้องทําให้แน่ใจว่าเขา มิสเตอร์หยางและคนอื่นๆจะปลอดภัย ด้วยเหตุนั้นเขาจําเป็นต้องมีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์


ถึงแม้กงซูจินไม่คิดจะทําอะไรพวกเขา มันก็ต้องมีคนอื่นที่พยายามจะทําร้ายพวกเขาอีกในอนาคตข้างหน้า ดังนั้นการมียีนเรซประเภทนี้จึงเป็นสิ่งที่จําเป็น ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็อาจจะประสบกับภัยอันตรายโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว


 


ร้านของหลูสือนั้นเป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรฉิน พวกเขาทํากิจการไปทั่วทั้งจักรวาล และมีร้านสาขาอยู่ตามเมืองใหญ่ต่างๆมากมาย ไข่ยีนและยีนเรซนั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในธุรกิจของพวกเขา


 


ร้านของหลูสือนั้นไม่มีการสั่งซื้อออนไลน์ ผู้คนต้องมาที่ร้านด้วยตัวเองถ้า ต้องการจะซื้อของจากพวกเขา ถึงอย่างนั้นร้านของหลูสือก็ยังคงเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรฉิน พวกเขามียีนเรซและไข่ยีนนานาชนิดและคุณภาพของพวกมันก็เหนือกว่าร้านค้าเล็กๆส่วนใหญ่


 


ในตอนที่หานเซิ่นไปถึงร้านหมูสือ เขาก็บอกคนของที่นั่นว่าเขาต้องการจะซื้อเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ แต่ราคาที่ได้รับทําให้เขาต้องประหลาดใจ เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์แต่ละตัวมีราคาตัวละสามล้านฉิน ราคานั่นเทียบได้กับไข่ยืนระดับเทพเจ้า และนี่เป็นแค่ยืนเรซที่ถูกจับมาในตอนที่โตแล้ว ซึ่งสามารถนํามาใช้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงเท่านั้น


 


คนดูแลร้านอธิบายสิ่งต่างๆให้หานเซิ่นฟังอย่างใจเย็น เขาบอกกับหานเซิ่นว่าถึงแม้เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์จะเป็นแค่ระดับราชัน แต่มันหาได้ยากมากๆ ด้วยความสามารถพิเศษของมัน เศรษฐีมากมายต่างก็ต้องการจะซื้อเพียวไลท์ชาลาแมนเดอร์สักตัวไปเป็นของตัวเองด้วยเหตุนั้น ราคาของมันจึงแพงมากๆ


 


ถึงตัวที่จับมาในตอนที่โตแล้วจะไม่สามารถนําติดตัวออกไปข้างนอกได้ แต่มันก็สามารถใช้เพื่อเฝ้าบ้านได้ ถ้าเกิดมียีนเรซตัวไหนต้องการจะบุกรุกเข้ามา มันก็จะตรวจจับได้ในทันที ซึ่งเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากๆ เศรษฐีจึงชอบที่จะมีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ติดบ้านเอาไว้


 


“แม้แต่จะซื้อเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์สักตัวหนึ่งเรายังทําไม่ได้”


 


หานเซิ่นรู้สึกหดหูเล็กน้อย เขานับเงินทั้งหมดที่มีและพบว่าเขาไม่สามารถแม้แต่จะซื้อเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ที่ตัวเต็มวัยได้ เพราะฉะนั้นไข่ยีนยิ่งไปต้องพูดถึง


“ถ้าเราซื้อพวกมันไม่ได้ เราก็คงจะต้องไปที่แม่น้ำโฮไลท์เพื่อจับเพียวไลท์ซาลาแมน เดอร์ด้วยตัวเอง”


 


หานเซิ่นกลับไปที่โรงแรม และหาข้อมูลเกี่ยวกับแม่น้ำโฮไลท์และเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ การจะจับเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ


 


แม่น้ำโฮไลท์นั้นอยู่บนดาวคู่หย่างที่หานเซิ่นเคยไป แต่หุบเขาไนท์ครายที่เขาไปเยือน ในครั้งก่อนนั้นเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไม่มียีนเรซระดับสูงอาศัยอยู่


 


แต่แม่น้ำโฮลี่ไลท์นั้นต่างออกไป มันเป็นดินแดนที่ถูกเรียกว่าเป็นพื้นที่มรณะของดาวคู่หย่าง ตัวแม่น้ำโฮลี่ไลท์นั้นเป็นชีพจรพระเจ้าลี้ลับที่ให้กําเนิดยืนเรซที่น่ากลัวขึ้นมาตลอดหลายพันปี ยีนเรซระดับเทพเจ้านั้นจะถูกพบเห็นอยู่บ่อยครั้งในบริเวณแม่น้ำโฮลี่ไลท์ แม้แต่ยอดฝีมือระดับท็อปของอาณาจักรฉินหลายคนก็ไม่กล้าจะเดินทางไปที่แม่น้ำโฮลี่ไลท์


 


เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์นั้นจะปรากฏที่ในแม่น้ำโฮลี่ไลท์ ถึงพวกมันเป็นยีนเรซที่สะเทินน้ํำสะเทินบก แต่พวกมันจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในแม่น้ำ นอกจากนั้นเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ยังสามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของยีนเรซอื่น ดังนั้นถ้ามนุษย์ใช้ยีนเรซเพื่อเข้าไปจับตัวพวกมัน เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ก็จะหนีลึกลงไปในแม่น้ำโฮลี่ไลท์ แต่ถ้ามนุษย์ไม่รวมร่างกับยีนเรซในตอนที่ไปที่แม่น้ำโฮลี่ไลท์มันก็ไม่ต่างอะไรจากการไปรนหาที่ตายด้วยเหตุนั้นการจับตัวเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์จึงเป็นอะไรที่ยากมากๆ


 


แต่ทว่าความยากแบบนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสําหรับหานเซิ่น เขาจึงตัดสินใจจะไปที่แม่น้ำโฮลี่ไลท์ ก่อนที่จะออกเดินทองหานเซิ่นก็ไปเตือนมิสเตอร์หยางและคนอื่นๆ


ไม่ให้ออกไปนอกโรงแรมจนกระทั่งเขากลับมา เขายังขอให้เจียงปู้กู่ช่วยดูแลคนอื่นๆ


 


ที่นี่คือเมืองกําแพงหยก แม้แต่กงซูจินก็ไม่สามารถฆ่าคนอื่นตามใจชอบได้ เขาจําเป็นต้องใช้ยีนเรซเพื่อลอบสังหารพวกเขาอย่างลับๆ แต่ด้วยการที่มีเจียงปู้กู่อยู่ที่นี้ด้วย มันเป็นเรื่องยากที่จะทําแบบนั้นได้


 


ตราบใดที่มิสเตอร์หยางและคนอื่นไม่ได้ออกไปจากโรมแรงและอยู่ภายใต้การดูแลของเจียงปู้กู่ พวกเขาก็คงจะไม่เป็นอะไร


แถมเป้าหมายหลักของกงซูจินคือหานเซิ่น ขณะที่หานเซิ่นไม่อยู่ กงซูจินก็จะไม่ทําร้า ยมิสเตอร์หยางและคนอื่นๆ


 


หลังจากที่หานเซิ่นออกจากโรมแรง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกําลังถูกสะกดรอยตาม ถึงอย่า งนั้นเขาก็ไปที่ดาวคู่หย่างตามแผนเดิม แต่ข่าวนั้นไปถึงหูของกงซูจินอย่างรวดเร็ว


 


กงซูจินดูอาฆาตขณะที่เขาพูดขึ้นว่า “ดีมาก”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)