Super God Gene 3027-3030
ตอนที่ 3027 สายเลือดย้อนกลับ
หานจิงจื่อได้มอบจีโนฟลูอิดให้กับหานเซิ่น ซึ่งมันทำให้เลือดสีฟ้าภายในตัวของเขาสงบลง แต่ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นเริ่มใช้วิชาโลหิตชีพจรอีกครั้ง พลังของเลือดสีฟ้าในตัวของเขาก็ระเบิดออกมา
เกือบจะในเวลาเดียวกันรอยสักแมวเก้าชีวิตบนหลังของหานเซิ่นก็ปรากฎขึ้นมาอีกครั้ว
“นี่เจ้ากำลังจะทำอะไร?” หานหยี่เฟยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม! ในตอนนี้เจ้ายังควบคุมเลือดสีฟ้าไม่ได้ ถึงแม้เจ้าจะฝืนใช้พลังของเลือดสีฟ้า เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเจ้าจะเอาชนะคนที่มีเลือดสีฟ้าตั้งแต่กำเนิดได้น่ะ?”
หานเซิ่นรู้ว่าหานหยี่เฟยนั้นพูดถูก ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นเลือดสีฟ้าของเขาหรือจักรพรรดิมนุษย์ ยังไงพวกมันก็มีต้นกำเนิดมาจากฉินซิว การใช้พลังของเลือดสีฟ้าต่อหน้าฉินซิวนั้นก็เหมือนกับการแกว่งมีดต่อหน้ากวนอู
แต่ตอนนี้หานเซิ่นไม่มีทางเลือกอื่น เขาไม่สามารถทนดูอยู่เฉยๆ ขณะที่เสี่ยวฮวาลูกชายของเขาตกอยู่ในอันตรายได้ เสี่ยวฮวาเป็นครอบครัวของเขา สำหรับเขาแล้วครอบครัวนั้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาตั้งคำถามว่าจะทำได้หรือไม่
ในตอนที่วิชาโลหิตชีพจรถูกใช้ พลังของยีนเลือดสีฟ้าและรอยสักแมวเก้าชีวิตก็ระเบิดออกมา มันทำให้วิชาโลหิตชีพจรเกิดการแปรปรวนและเกือบจะสูญเสียการควบคุม
ในจังหวะนั้นออร่าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป ลมปราณโลหิตของเขาเริ่มจะเคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้าม
วิชาจีโนนี้คือวิชาโลหิตชีพจรในรูปแบบกลับตาลปัตร มันคือวิชาที่ถูกเรียกว่าคัมภีร์นภาอำพัน ก่อนหน้านี้หานเซิ่นไม่กล้าจะใช้มันเพราะเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เขาใช้มัน แต่ยังไงซะร่างกายของเขาก็กำลังถูกควบคุมโดยพลังของเลือดสีฟ้าและรอยสักแมวเก้าชีวิต มันจึงอยู่ในสภาวะที่ซับซ้อนเกินไป ถ้าลมปราณโลหิตของเขาเกิดไหลย้อนกลับและทำให้พลังทั้งสามปะทะกัน มันก็อาจจะทำลายร่างกายของเขา
แต่ตอนนี้หานเซิ่นไม่สนใจเรื่องแบบนั้นอีกต่อไป ลำพังแค่พลังของเลือดสีฟ้านั้นไม่สามารถเอาชนะฉินซิวได้ ด้วยเหตุนั้นตราบใดที่มันมีหวังหานเซิ่นก็จำเป็นต้องลองดู
ในตอนที่ลมปราณโลหิตกลับตาลปัตร พลังของเลือดสีฟ้าก็กลับตาลปัตรด้วยเช่นกัน มันไหลไปในทิศทางตรงกันข้าม สีฟ้าที่ประหลาดของมันเริ่มจะดูอ่อนลงและค่อยๆเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง
รอยสักแมวเก้าชีวิตบนหลังของเขาสว่างขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับว่ามันได้รับพลังเสริมจากเทพ มันเปลี่ยนเป็นแสงแห่งเทพที่ปกคลุมร่างกายทั้งร่างของหานเซิ่น
“นี่เป็นไปได้ยังไง? นี่หมายความว่าพลังของแมวเก้าชีวิตคือพลังกลับตาลปัตรของวิชาโลหิตชีพจรอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นรู้สึกได้ว่าพลังของรอยสักแมวเก้าชีวิตนั้นเริ่มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ มันเกือบที่จะทำให้เลือดสีฟ้าในตัวของเขากลายเป็นเลือดสีแดงโดยสมบูรณ์
ทันใดนั้นก็มีเงาของอะไรบางอย่างก้าวเดินบนหิมะและค่อยๆเดินเข้ามาหาหานเซิ่น
เมื่อหานเซิ่นเห็นเงานั่น ดวงตาของเขาก็ดูเย็นชาขึ้นมาในทันที เขาถามขึ้นว่า “นี่เจ้ายังกล้าแสดงตัวต่อหน้าข้าอีกอย่างนั้นหรอ?”
“แมวเก้าชีวิต?” หานหยี่เฟยดูตกใจ ถึงเธอจะได้ยินว่าแมวเก้าชีวิตนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ แต่การได้เห็นมันในตอนนี้ก็ยังเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจอยู่ดี
เพราะยังไงซะเธอก็ได้เห็นแมวเก้าชีวิตตายต่อหน้าต่อตาตัวเอง แม้แต่เธอก็ไม่สามารถทำให้สิ่งที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้ ดังนั้นเธอจึงมองไปที่แมวเก้าชีวิตด้วยจิตใจของนักวิจัย เธออยากรู้ว่าฉินซิวใช้วิธีการอะไรในการชุบชีวิตแมวเก้าชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
“ข้าต้องขอโทษในสิ่งที่ทำกับตระกูลหาน และข้าขอโทษเกี่ยวกับเรื่องของเสี่ยวฮวา ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่าข้า ตอนนี้เจ้าเชิญลงมือได้เลย”
เฒ่าแมวเดินเข้ามาหาหานเซิ่นอย่างช้าๆ มันดูใจเย็นอย่างมาก
“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นชกหมัดออกไปใส่แมวเก้าชีวิตที่ตอนนี้อยู่ไม่ไกลจากเขา
ปัง!
หมัดนั้นไม่ได้ถูกเสริมพลังด้วยวิชาจีโน แต่ลำพังแค่พละกำลังของร่างกายของหานเซิ่นก็เพียงพอจะทำให้หมัดนั้นบดขยี้ใบหน้าของแมวเก้าชีวิต มันถูกส่งกระเด็นออกไปชนเข้าไปภูเขาน้ำแข็ง และทำให้ภูเขาน้ำแข็งถล่มลงมา
แมวเก้าชีวิตพาตัวเองออกมาจากกองน้ำแข็ง ปากของมันมีเลือดไหลออกมา แต่ใบหน้าของมันยังคงดูใจเย็น มันเดินกลับเข้ามาหาหานเซิ่นและพูด
“ทุกคนรู้ว่าข้าเป็นหนึ่งในสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเซเคร็ด แต่พวกเขาไม่ได้รู้ว่าความจริงแล้วสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงแค่ตัวทดลองเท่านั้น เมื่อลองพิจารณาดู ข้าเป็นคนที่ประสบความทุกข์มากที่สุด ถึงข้าจะตายไป แต่ฉินซิวก็ยังนำข้ากลับขึ้นมาจากขุมนรก ข้าไม่อาจหนีจากชะตากรรมอันน่าเศร้าของสิ่งมีชีวิตที่ถูกควบคุมโดยเขาได้”
“ถ้ามันเป็นแบบนั้น ทำไมเจ้าถึงยืนกรานที่จะทำร้ายเสี่ยวฮวา?”
หานเซิ่นมองไปที่แมวเก้าชีวิตอย่างเย็นชา หมัดของเขากำแน่นและพร้อมที่จะชกใส่มันอีกครั้ง
เฒ่าแมวส่ายหัว “ถึงข้าจะไม่เลือกเสี่ยวฮวา มนุษย์คนอื่นก็จะถูกเลือกอยู่ดี และคนๆนั้นจำเป็นต้องมาจากตระกูลหาน ข้าเลือกเสี่ยวฮวาก็จริง แต่ข้าได้เหลือความหวังเอาไว้ให้กับตระกูลหาน นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการ”
“เจ้าหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นถามพรัอมกับขมวดคิ้ว
“คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ข้ารู้ดีว่าเลือดของเสี่ยวฮวานั้นมาจากเจ้า ถึงเลือดของเขาจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ลูกอีกคนของเจ้าหลิงเอ๋อนั้นมีเลือดสีสมบูรณ์แบบ เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงไม่เลือกหลิงเอ๋อ แต่ไปเลือกเสี่ยวฮวาแทน?” แมวเก้าชีวิตไม่ได้เข้ามาใกล้หานเซิ่นเกินกว่าสามสิบฟุตก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงนั้น
“นั่นเป็นเพราะว่าหลิงเอ๋อเกิดช้าเกินไป” หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา
“เจ้าไม่เลือกนางก็เพราะว่าฉินซิวรอนานขนาดนั้นไม่ได้”
เฒ่าแมวส่ายหัว “ถ้าฉินซิวได้เห็นหลิงเอ๋อ ข้ากลัวว่าถึงเขาจะต้องรอคอยไปอีกสิบล้านปี เขาก็ยินดีที่จะรอ การรอคอยอีกแค่ไม่กี่ปียิ่งไม่ต้องพูดถึง”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เฒ่าแมวก็พูดต่อ “ยีนของเสี่ยวฮวานั้นถือว่าดี แต่มันไม่ได้สมบูรณ์แบบ นั่นหมายความว่าฉินซิวที่ใช้ร่างกายนั้นเพื่อกำเนิดขึ้นใหม่ก็จะไม่สมบูรณ์แบบเช่นเดียวกัน แบบนั้นพวกเราก็มีโอกาส นี่คือโอกาสสุดท้ายของพวกเรา”
หานเซิ่นไม่เชื่อแมวเก้าชีวิต เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าเจ้าไม่มอบเสี่ยวฮวาให้กับเขา เขาก็คงจะไม่เกิดขึ้นมาใหม่ตั้งแต่แรก”
“ที่เจ้าคิดแบบนั้น ก็เพราะเจ้ายังไม่รู้จักฉินซิว ถ้าเขาต้องการจะทำบางสิ่งให้สำเร็จ เขาจะมีแผนสำรองอยู่เป็นจำนวนมาก ถึงข้าจะไม่พาตัวเสี่ยวฮวาไปให้กับเขา เขาก็จะหาทางอื่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แทนที่พวกเราจะรอคอยให้เขาได้ร่างกายที่สมบูรณ์แบบมา สู้พวกเรามอบร่างกายที่ใกล้เคียงจนดูเหมือนกับว่าสมบูรณ์เพื่อทำให้เขาหลงกลไม่ดีกว่าหรอกหรอ” เฒ่าแมวพูด
“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่ออย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองแมวเก้าชีวิตอย่างเย็นชา
“เจ้าไม่จำเป็นต้องเชื่อข้า เจ้าแค่ทำตามความปรารถนาของตัวเองก็พอ” เฒ่าแมวพูดด้วยรอยยิ้ม
“ความปรารถนาของข้าคือการฆ่าเจ้ากับฉินซิว” หานเซิ่นพูดขณะที่จ้องไปที่แมวเก้าชีวิต
เฒ่าแมวยิ้มออกมา “เจ้าแค่ต้องทำความปรารถนาที่สองด้วยตัวเอง ส่วนความปรารถนาแรก ข้าจะทำให้กับเจ้าเอง”
หลังจากนั้นร่างกายของแมวเก้าชีวิตก็ลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีแดง เมื่อมองดูดีๆแล้ว มันไม่ใช่เปลวไฟ แต่มันเป็นพลังชีวิตที่ออกมาจากร่างกายของแมวเก้าชีวิต
หานเซิ่นและหานหยี่เฟยตกใจ พวกเขาไม่รู้ว่ามันต้องการทำอะไร การขับพลังชีวิตของตัวเองทิ้งแบบนั้นเท่ากับเป็นการทำร้ายตัวเอง มันเจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกถลกหนังทั้งเป็น
ตอนที่ 3028 เปลี่ยนแผน
หลังจากที่แมวเก้าชีวิตขับพลังชีวิตออกมา พลังชีวิตก็ถูกดึงออกไปโดยแม่เหล็ก มันเข้าไปหาร่างกายของหานเซิ่นและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิชาโลหิตชีพจรที่กลับตาลปัตรหรือก็คือคัมภีร์นภาอำพัน มันทำให้ร่างกายของหานเซิ่นทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
“ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้?” หานเซิ่นมองดูพลังชีวิตที่รั่วไหลออกมาจากแมวเก้าชีวิต เขาสังเกตเห็นว่าร่างกายของมันตกอยู่ในสภาพย่ำแย่และใบหน้าของมันก็เริ่มดูไม่ค่อยดี
ถึงอย่างนั้นแมวเก้าชีวิตก็ยังดูใจเย็นมากๆ “ข้าตายไปแล้วครั้งหนึ่งจากการทดลองเพื่อสร้างสปิริตศักดิ์สิทธิ์ ฉินซิวใช้เลือดของเขาเพื่อชุบชีวิตข้าขึ้นมา ด้วยการทำแบบนั้นข้าจึงกลายเป็นหุ่นเชิดของเขา ตลอดช่วงเวลาหลายปี ข้าพยายามต่อสู้กับเลือดสีฟ้า แต่ข้าหลุดออกจากการควบคุมของมันไม่ได้ ถึงแม้ข้าจะค้นพบวิชาที่ทำให้เลือดสีฟ้ากลับตาลปัตร แต่มันก็ยังทำให้ข้าหลุดจากการควบคุมอย่างสมบูรณ์ไม่ได้อยู่ดี หลังจากนั้นข้าจึงเข้าใจว่าตัวเองได้ตายไปนานแล้ว วิญญาณของข้าถูกทำลาย ฉินซิวซ่อมแซมวิญญาณของข้าด้วยการใส่วิญญาณของเขาเข้าไปในตัวข้า ด้วยเหตุนั้นไม่ว่ายังไงข้าก็ไม่มีทางหนีจากการควบคุมของเขาได้”
“แต่วิชาการกลับตาลปัตรเลือดสีฟ้าที่ข้าคิดค้นขึ้นมานั้นยับยั้งเลือดสีฟ้าของเขาได้ ข้าตั้งใจจะมอบมันให้กับหลิงเอ๋อ เพราะนางมีร่างกายที่สมบูรณ์แบบ มันมีโอกาศที่นางจะเอาชนะฉินซิวได้”
หลังจากพูดทั้งหมดนี้ใบหน้าของแมวเก้าชีวิตก็เริ่มดูแปลกๆ “บอกตามตรงเจ้ากับจักรพรรดิมนุษย์นั้นเหมือนกัน พวกเจ้าทั้งคู่ดึงดูดความสนใจของข้าอยู่ระยะหนึ่ง แต่ที่สุดแล้วข้าไม่ได้เลือกพวกเจ้า เนื่องจากข้าไม่คิดว่าพวกเจ้านั้นสมบูรณ์พอ พวกเจ้าทั้งคู่มีข้อบกพร่องและคงจะโค่นล้มฉินซิวไม่ได้”
เปลวไฟสีแดงที่ออกมาจากตัวของแมวเก้าชีวิตเริ่มมัวลงไป พลังชีวิตของมันกำลังจะหมดลงในอีกไม่ช้า
ใบหน้าของแมวเก้าชีวิตดูย่ำแย่ “ข้าอยากจะขอโทษเสี่ยวฮวา เขาปฏิบัติกับข้าเหมือนกับครอบครัว แต่ข้าผลักเขาลงไปสู่นรก ความตายนั้นไม่เพียงพอที่จะชดใช้บาปที่ข้าได้ก่อเอาไว้ ตอนนี้ข้าจะมอบพลังชีวิตของตัวเองให้กับเจ้า จงใช้พลังชีวิตของข้าเอาชนะฉินซิวและช่วยเสี่ยวฮวา ข้ารู้ว่ามันจะเป็นเรื่องยาก แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จ”
หลังจากนั้นแมวเก้าชีวิตก็เงยหน้าขึ้นไปมองฉินซิวและเสี่ยวฮวา ใบหน้าของมันดูซับซ้อน มันดูรู้สึกผิดแต่ขณะเดียวกันมันก็ดูแน่วแน่
“เสี่ยวฮวาเองก็คงจะเชื่อว่าเจ้ามีความสามารถพอที่จะทำมันได้สำเร็จ”
เฒ่าแมวพูด เปลวเพลิงสีแดงเริ่มจะเรืองแสงอย่างสว่างไสว มันเหมือนกับแสงเฮือกสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะดับ เปลวเพลิงสีแดงออกจากร่างกายของมันและเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น
หลังจากที่เปลวเพลิงสีแดงลุกโชนอย่างสว่างไสวเป็นครั้งสุดท้าย มันก็ค่อยๆมัวลงและเผยให้เห็นร่างของแมวเก้าชีวิตที่กลายเป็นเถ้าถ่าน และปลิวไปกลับสายลม
หานเซิ่นมีสีหน้าที่ซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไง ในตอนแรกเขาเกลียดชังแมวเก้าชีวิตที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องแยกจากกัน และทำให้เสี่ยวฮวากลายเป็นร่างให้ฉินซิวเข้าสิง
แต่ตอนนี้หานเซิ่นไม่ได้เกลียดชังมันจากใจจริง ถึงแม้แมวเก้าชีวิตจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ หานเซิ่นก็เข้าใจสิ่งที่มันต้องการจะบอก
เดิมทีแมวเก้าชีวิตตั้งใจจะรอจนกระทั่งหลิงเอ๋อเติบโตขึ้นและให้หลิงเอ๋อเป็นคนที่เอาชนะฉินซิวที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้ามันรอนานขนาดนั้น เสี่ยวฮวาก็คงจะไม่รอด ด้วยเหตุนั้นมันจึงตัดสินใจที่จะสละชีวิตของตัวเองและเลือกหานเซิ่นที่มันเคยมองข้ามไป
มันไม่ใช่เพราะว่าพลังของหานเซิ่นทำให้มันประทับใจ แต่เป็นเพราะว่าแมวเก้าชีวิตไม่ต้องการเห็นเสี่ยวฮวาตกอยู่ในการควบคุมของฉินซิวโดยสมบูรณ์ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มันเปลี่ยนแผนที่คิดเอาไว้
“ถึงแม้จะปราศจากชีวิตของเจ้า ข้าก็ต้องช่วยเสี่ยวฮวาให้ได้ ทำไมเจ้าไม่ไปสู่สุคติ?” หานเซิ่นเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เลือดสีแดงในร่างกายของเขากำลังเดือด พลังมหาศาลอัดแน่นภายในตัวของเขา
ในตอนที่รอยสักแมวเก้าชีวิตสว่างไสวถึงขีดสุด พวกมันก็กลายเป็นจุดแสงและเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น รอยสักเลือดค่อยๆจางหายไป มันละลายเข้าไปในกระแสของคัมภีร์นภาอำพัน
ปราสาทพระเจ้ากำลังพังทลาย วิหารพระเจ้ามากมายแยกตัวออกมา ทั้งจักรวาลตกอยู่ในความโกลาหล ทุกเผ่าพันธุ์กำลังประสบกับหายนะ ไม่มีใครในจักรวาลที่สามารถหาผืนดินที่สงบได้
ตูม!
วิหารพระเจ้าที่ยังไม่หลุดออกมาจากปราสาทพระเจ้าเริ่มจะเรืองแสงขึ้นมา มันเหมือนกับการปะทุของภูเขาไฟ มันเหมือนกับว่าเหล่าเทพสปิริตนั้นกำลังจะออกมาจากวิหารของพวกเขา
แต่ในจังหวะนั้นพระเจ้าพูดขึ้นมา “เทพสปิริตทั้งหมดมีหน้าที่ของตัวเอง ปราสาทพระเจ้าอาจจะถูกทำลาย แต่รากฐานของจักรวาลนั้นจะถูกทำลายไม่ได้”
“ข้ายินดีที่จะอยู่และตายร่วมกับท่าน!” เสียงร้องอันเศร้าโศกดังออกมาจากวิหารพระเจ้าต่างๆ มันสั่นสะเทือนทั้งท้องฟ้า
พระเจ้ายิ้มออกมาก่อนที่ร่างกายจะล้มลงไป แต่ทันใดนั้นก็มีเงาแสงของร่างกายศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นมาจากด้านหลัง เขารับหว่านเอ๋อที่หมดสติเอาไว้
“ความรับผิดชอบอยู่กับข้า คนอื่นไม่เกี่ยว” ขณะที่พระเจ้าพูด แสงศักดิ์สิทธิ์ของเขาส่องแสงอย่างสว่างไสว มันเข้าปกคลุมทั้งปราสาทพระเจ้าที่กำลังแตกร้าว วิหารพระเจ้าทั้งหมดถูกแยกตัวออกจากจีโนฮอลล์ พวกมันกระจัดกระจายไปทั่วจักรวาล ตอนนี้ปราสาทพระเจ้ามีเหลืออยู่แค่เพียงจีโนฮอลล์เท่านั้น
“ในอดีตร่างกายของข้าถูกโลกใบนี้ปฏิเสธ เจ้าถึงเอาชนะข้าได้” ฉินซิวพูดพร้อมกับถอนหายใจ
“ตอนนี้เมื่อร่างกายได้รับการยอมรับ เจ้าก็ทำอะไรไม่ได้อีก มันเป็นอะไรที่น่าเศร้า นี่น่ะหรอกฎที่เจ้าต้องการจะปกป้อง?”
พระเจ้าหัวเราะ เขาดันหว่านเอ๋อที่อยู่ในมือออกไป หว่านเอ๋อที่ห่อหุ้มด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์บินออกไปจากจีโนฮอลล์และตรงไปที่ปราสาทนภา
หลังจากนั้นพระเจ้าก็หันกลับมามองฉินซิวและพูด “ใช่ นี่คือกฎที่ข้าต้องรักษาเอาไว้ ข้าจะปกป้องมันไปตลอด”
“ขอโทษด้วย แต่ข้าต้องทำลายกฎของเจ้า”
ฉินซิวดูจริงจัง เขาเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าพระเจ้า ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างกันแค่สามฟุตเท่านั้น พวกเขาจ้องหน้ากัน ขณะที่พลังที่น่ากลัวของพวกเขาปะทะกัน
ตูม! ตูม! ตูม!
ทั้งจีโนฮอลล์สั่นไหวอย่างรุนแรง มันเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมและเริ่มลดต่ำลงเหมือนกับว่ามันกำลังจะหล่นลงมา
ในเวลานี้ทั่วทั้งจักรวาลกำลังแปรปรวน หายนะเกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง มันดูเหมือนกับจุดจบของโลกใบนี้
“จีโนฮอลล์กำลังตกลงมา” จักรพรรดิมนุษย์พูดด้วยความตื่นเต้น
แต่ทว่าสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ทั่วจักรวาลกำลังตื่นกลัว มันไม่รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตมากเท่าไหร่ที่ได้รับผลกระทบจากหายนะที่กำลังเกิดขึ้น พวกเขาพยายามดิ้นรนเพื่อจะเอาตัวรอด แต่พวกเขาส่วนใหญ่ถูกกลืนกินโดยหายนะ
ภูเขาถล่มลงมา แม่น้ำเข้าท่วม ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์กลับตาลปัตร มันเหมือนกับว่าโลกใบนี้กำลังพังทลาย
“ไม่ได้การ… จีโนฮอลล์นั้นเชื่อมต่อกับจักรวาลนี้ พวกเราจะปล่อยให้เขาทำลายจีโนฮอลล์ไม่ได้!”
ผู้นำปราสาทนภาผ่ามิติของอวกาศ เขาต้องการจะไปที่จีโนฮอลล์ แต่ในตอนที่เขาทำแบบนั้นและพยายามจะชกใส่ฉินซิว จีโนฮอลล์ก็เรืองแสงแห่งเทพออกมา และพลังประหลาดนั้นก็ส่งผู้นำปราสาทนภากระเด็นออกไป
พลังของจีโนฮอลล์ที่ควรจะปกป้องจีโนฮอลล์นั้นกำลังปกป้องคนที่กำลังทำลายมัน
มียอดฝีมือหลายคนที่คิดเหมือนกับผู้นำปราสาทนภา แต่พวกเขาถูกหยุดเอาไว้โดยพลังของจีโนฮอลล์ พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในอาณาเขตของจีโนฮอลล์ได้ นอกจากนั้นการโจมตีของพวกเขายังส่งผลให้จีโนฮอลล์ร่วงลงมาเร็วยิ่งกว่าเดิม
ในตอนที่เหล่ายอดฝีมือไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี มีเปลวเพลิงที่ดูเหมือนเลือดพุ่งเข้าหาจีโนฮอลล์ มันไม่ได้ถูกส่งกระเด็นออกไปโดยพลังของจีโนฮอลล์เหมือนกับคนอื่น มันเข้าไปในอาณาเขตของจีโนฮอลล์และตกลงไปบนลานกว้างของจีโนฮอลล์
ตอนที่ 3029 สู้กับฉินซิว
“หานเซิ่น!” ทุกคนรู้สึกตกใจเมื่อเห็นว่าลูกไฟสีแดงที่พุ่งเข้าไปในจีโนฮอลล์นั้นก็คือหานเซิ่น
หานเซิ่นยืนอยู่ไม่ไกลจากจีโนฮอลล์ ขณะที่เขามองไปที่ฉินซิว
ฉินซิวเห็นหานเซิ่นและพูดอย่างเย็นชา “ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าควรมา”
เมื่อหานเซิ่นได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เขาก็รู้ว่าวิญญาณของฉินซิวที่อยู่ในสวนศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่ตาเห็น ถึงแม้จะเป็นแค่วิญญาณของฉินซิว แต่เห็นได้ชัดว่าฉินซิวจดจำหานเซิ่นได้
“ข้าไม่ได้อยากมาที่นี่ แต่เจ้าทำบางสิ่งที่ทำให้ข้าต้องมา” หานเซิ่นพูดขณะที่มองไปที่ฉินซิว
“ทำอะไร?” ฉินซิวยังคงต่อสู้กับพระเจ้า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงมีแรงที่จะพูดกับหานเซิ่น มันไม่มีความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเขา มันดูเหมือนกับว่าเขายังคงมีพลังอีกเหลือเฟือ
“ออกมาจากร่างกายนั้น มันไม่ได้เป็นของเจ้า” หานเซิ่นพูด
ฉินซิวหันมามองหานเซิ่นและถาม “ร่างกายนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า?”
“เขาคือลูกชายของข้า” หานเซิ่นพูด ไม่ใช่แค่ฉินซิวเท่านั้นที่ตกใจกับเรื่องนี้ ยอดฝีมือคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกของจีโนฮอลล์ก็มีปฏิกิริยาที่เหมือนๆกัน
ไม่มีใครคาดคิดว่าร่างกายที่ฉินซิวเกิดขึ้นมาใหม่นี้จะเป็นลูกชายของหานเซิ่น มันทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
ฉินซิวหัวเราะออกมา “ดีมาก เฒ่าแมว! เป็นแผนการที่ดีมาก! ไม่แปลกใจเลยที่เขามอบร่างกายนี้ให้กับข้า ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าเป็นเจ้า แม้แต่ข้าก็ต้องระมัดระวัง”
ผู้นำปราสาทนภาและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมองหน้ากัน พวกเขาสามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังตกใจ ฉินซิวนั้นไม่หวาดกลัวที่จะเผชิญหน้ากับเทพสปิริตที่เหนือกว่าเทพสปิริตขั้นรีบูท
แต่ตอนนี้เขากลับพูดอะไรแบบนี้ และดูเหมือนมันจะไม่ใช่การพูดล้อเล่น
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมฉินซิวถึงต้องเกรงกลัวหานเซิ่น ถึงแม้หานเซิ่นจะมีพลังเลือดสีฟ้าและเอาชนะพระเจ้าชั่วพริบตาได้ แต่มันก็ยังไม่สมเหตุสมผลอยู่ดี ยังไงซะเลือดสีฟ้าก็มีต้นกำเนิดมาจากฉินซิว
ฉินซิวพูด “ถึงแม้ข้าจะรู้สึกผิด แต่ข้าคงจะมอบร่างกายนี้ให้กับเจ้าไม่ได้ ถ้าเจ้าคิดว่าใช้หว่านเอ๋อมาข่มขู่ข้าล่ะก็ เจ้าก็คิดผิดแล้ว”
“คนๆนั้นที่เจ้าพูดถึงไม่ใช่หว่านเอ๋อหรือยังไง?” หานเซิ่นต้องการจะใช้หว่านเอ๋อเพื่อแลกเปลี่ยนกับเสี่ยวฮวา แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าฉินซิวจะพูดตัดหน้าขึ้นมาซะก่อน
“เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ข้าทำทุกอย่างเพื่อหว่านเอ๋อ แต่ข้ารู้ดีว่าถ้าไม่ทำลายจีโนฮอลล์ ถึงแม้หว่านเอ๋อจะมีชีวิตอยู่ต่อไป มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
ฉินซิวยิ้มและพูดต่อ “แถมข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนที่จะลงมือทำบางสิ่งที่โหดร้ายกับเด็กสาวผู้บริสุทธิ์ได้”
“บางทีข้าอาจจะเป็นเหมือนอย่างเจ้าที่ยินดีจะทำความผิดทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของคนๆหนึ่ง” หานเซิ่นตอบอย่างเย็นชา
ฉินซิวยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะทำร้ายหว่านเอ๋อ นั่นก็เพราะว่านางคือชีวิตของข้า ถ้าไม่มีนาง ข้าก็คงจะมีชีวิตต่อไปไม่ได้ ถ้าข้ามีชีวิตต่อไปไม่ได้ ร่างกายนี้ก็จะต้องตายไปด้วย”
“นั่นหมายความว่าเจ้าและข้าจำเป็นต้องต่อสู้กัน” หานเซิ่นรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคุยกันต่อไปอีก ในเมื่อการแลกเปลี่ยนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“ไม่มีใครหยุดข้าจากการทำลายจีโนฮอลล์ได้ นั่นรวมถึงเจ้าด้วย แต่เพื่อเป็นรางวัลที่เจ้าดูแลหว่านเอ๋อ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า” ฉินซิวพูด
“แต่ข้าจะฆ่าเจ้า” หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา
ฉินซิวหัวเราะอีกครั้ง “ข้าไม่ได้ดูถูกเจ้า แต่ร่างกายของเจ้ามีเลือดของข้าไหลอยู่ในตัว เจ้าเป็นเหมือนกับร่างโคลนของข้า เจ้าคิดหรือว่าร่างโคลนจะเหนือกว่าร่างจริงได้น่ะ?”
“นั่นก็ไม่แน่เสมอไป” หานเซิ่นเริ่มใช้วิชาโลหิตชีพจร ทำให้ร่างกายทั้งร่างของเขาเรืองสีฟ้าออกมา
“เจ้าจะใช้พลังของข้าต่อสู้กับข้าอย่างนั้นหรอ? เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”
ฉินซิวพูดอย่างเย็นชา ลวดลายสีฟ้าเรืองแสงทั่วชุดเกราะของเขา เขาไม่ได้หันมาต่อสู้กับหานเซิ่น เขายังคงต่อสู้กับพระเจ้า มันเหมือนกับว่าหานเซิ่นไม่คู่ควรต่อความสนใจของเขา
แสงสีฟ้าบนตัวของหานเซิ่นเพิ่มพลังขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มเดินเข้าไปหาฉินซิว โมเมนตัมของเขาเพิ่มสูงขึ้นทุกย่างก้าว เขาดูเหมือนกับเทพสงครามที่เตรียมพร้อมจะต่อสู้กับท้องฟ้า
ฉินซิวถาม “เจ้าฝึกใช้ยีนเลือดสีฟ้าจนได้ถึงระดับนั้นเลยหรอเนี่ย? นั่นเป็นอะไรที่น่าตกใจมากๆ เมื่อเทียบกับข้าเมื่อก่อนแล้ว มันก็ถือว่าไม่เลวเลย แต่ข้าในตอนนี้ไม่เหมือนกับข้าคนก่อน แถมพลังนั่นก็เป็นของข้า ไม่มีใครใช้พลังนั่นทำร้ายข้าได้”
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาชกหมัดออกไปใส่ฉินซิว แสงสีฟ้าที่น่ากลัวจนสามารถฉีกกฎของโลกและทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ พุ่งตรงออกไปหาฉินซิว
พลังของเลือดสีฟ้านั้นอยู่เหนือกฎของจักรวาล มันเป็นพลังที่สร้างความเสียหายกับกฎของจักรวาลได้มากที่สุด หมัดที่หานเซิ่นชกออกไปนั้นสามารถทำลายได้แม้แต่ระบบจักรวาลขนาดใหญ่ แม้แต่เทพสปิริตอย่างพระเจ้าชั่วพริบตาก็จะถูกฆ่าตายในหมัดเดียว
แต่ถึงแม้จะต้องเผชิญหน้ากับพลังที่น่ากลัวขนาดนั้น ฉินซิวก็ไม่คิดจะหลบ เขาไม่แม้แต่จะหันมาป้องกัน เขาปล่อยให้แสงสีฟ้าที่น่ากลัวพุ่งเข้ามาถูกหลังของเขา
มันเหมือนกับหิมะที่ถูกละลายโดยดวงอาทิตย์ ในจังหวะที่แสงสีฟ้าไปถึงแผ่นหลังของฉินซิว มันก็ละลายเข้าไปในชุดเกราะโดยไม่สร้างความเสียหายแม้แต่นิดเดียว ลวดลายสีฟ้าบนชุดเกราะสว่างไสวขึ้น และมันดูเหมือนจะทำให้ร่างกายของฉินซิวแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
“ข้าบอกแล้วยังไงว่าพลังนั้นทำร้ายข้าได้” ฉินซิวพูดอย่างเย็นชา
ภายนอกจีโนฮอลล์สีหน้าของยอดฝีมือมากมายเปลี่ยนไป ฉินซิวนั้นน่ากลัวกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้ ถึงแม้พวกเขาไม่เชื่อว่าหานเซิ่นจะเอาชนะฉินซิวได้ แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าหานเซิ่นจะพ่ายแพ้อย่างหมดท่า นอกจากหานเซิ่นจะทำร้ายฉินซิวไม่ได้แล้ว เขายังทำให้พลังของฉินซิวเพิ่มสูงขึ้นอีก
“จริงอย่างนั้นหรอ?” ใบหน้าของหานเซิ่นยังคงสงบนิ่ง เขารวบรวมพลังและชกหมัดใส่ฉินซิวอีกครั้ง
ครั้งนี้แสงบนหมัดของเขากลายเป็นสีแดง มันแตกต่างไปจากสีฟ้า มันนตรงกันข้ามกัน
ฉินซิวขมวดคิ้ว ความไม่แน่ใจปรากฎในดวงตาของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาไม่คิดจะล้มเลิกการทำลายจีโนฮอลล์ เขายกแขนขึ้นและชกหมัดออกไปปะทะกับหมัดของหานเซิ่น
เมื่อพลังแสงสีขาวและฟ้าปะทะกับพลังสีแดงของหานเซิ่น สีแดงที่เหมือนกับเลือดก็เข้าไปย้อมสีฟ้าและสีขาว ในเวลาชั่วพริบตาชุดเกราะของฉินซิวก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
“นี่เป็นไปได้ยังไง? นี่เจ้ากลับตาลปัตรพลังเลือดสีฟ้า!”
ดวงตาของฉินซิวเบิกกว้าง ร่างกายของเขาเริ่มวิวัฒนาการย้อนกลับ พลังของเขาเบาบางลงไป
พระเจ้าใช้โอกาสนั้นเพื่อสวนกลับ แสงแห่งเทพของเขาเรืองแสงย่างสว่างไสว เขาส่งฉินซิวกระเด็นออกไป
ปัง!
ร่างกายของฉินซิวยังคงวิวัฒนาการถอยหลังไปเรื่อยๆ ลวดลายสีฟ้าบนชุดเกราะของเขามัวลงไป แม้แต่แสงสีฟ้าในดวงตาของเขาก็เช่นเดียวกัน
ตอนที่ 3030 ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลก
ทั้งระดับพลังของเทพสปิริตและระดับพลังร่างกายของฉินซิวลดลงอย่างรวดเร็ว ถึงแม้เขาจะรวมเข้ากับสันหลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่น แต่ระดับพลังของเขาในตอนนี้ลดลงต่ำกว่าเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์แล้ว แถมเขายังคงตกต่ำลงเรื่อยๆ
ระดับร่างกายของเสี่ยวฮวาเองก็ลดต่ำลงเช่นกัน ขั้นทรูก็อตลดลงมาเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายและลดลงมาเป็นขั้นลาร์วา… มันลดลงไปเรื่อยๆ
ผู้นำปราสาทนภาและยอดฝีมือคนอื่นทั้งตกใจและดีใจ หานเซิ่นมีสมญานามว่าก็อดฟาเธอร์หาน แต่ไม่มีใครเชื่อว่าเขามีพลังที่จะเอาชนะฉินซิว
เมื่อระดับเทพสปิริตของฉินซิวตกลงมาอยู่ที่ขั้นดิแซสเตอร์ จีโนฮอลล์ก็ไม่ได้ปกป้องร่างกายของเขาอีกต่อไป ผู้นำปราสาทนภาและยอดฝีมือคนอื่นนั้นไม่ลังเล พวกเขาใช้พลังที่รุนแรงที่สุดของตัวเองเพื่อจะกำจัดภัยใหญ่หลวงที่สุดของจักรวาลนี้
พลังต่างๆนาๆที่สามารถทำลายทั้งท้องฟ้าและผืนดินพุ่งเข้ามา พวกมันทั้งหมดกำลังจะฆ่าฉินซิว แต่ทันใดนั้นก็มีเงาของใครคนบางคนแว็บขึ้นมาและฉินซิวก็หายตัวไป อวกาศบริเวณที่ฉินซิวเคยอยู่ถูกทำลายด้วยพลังที่น่ากลัวจนเกิดเป็นหลุมดำขึ้น
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮตะโกน “หานเซิ่น นี่เจ้ากำลังจะทำอะไร? ถ้าเจ้าไม่ฆ่าเขาในตอนนี้ เขาจะ…”
ทุกคนเห็นหานเซิ่นใช้มือข้างหนึ่งจับตัวฉินซิว ขณะที่เขาปรากฎตัวที่อีกด้านของอวกาศ
พวกเขาเข้าใจอย่างรวดเร็วว่ามันเป็นเพราะฉินซิวเข้าสิงร่างกายลูกชายของหานเซิ่น หานเซิ่นนั้นจะไม่ปล่อยให้ลูกชายของเขาถูกฆ่าตาย
“หานเซิ่น ฉินซิวเป็นปีศาจร้ายที่ต้องการจะทำลายจักรวาล พวกเราจะมอบโอกาสให้กับเขาไม่ได้ ฆ่าเขาในตอนนี้ซะ ไม่อย่างนั้นมันจะมีผลที่ตามมา” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูด
หานเซิ่นตอบอย่างเย็นชา “ข้าไม่สนใจว่าฉินซิวต้องการอะไร แต่ลูกชายของข้าต้องไม่ตาย”
หานเซิ่นมองฉินซิวที่ร่างกายกำลังวิวัฒนาการย้อนกลับและพูด
“ฉินซิว ออกมาจากร่างกายลูกชายของข้า ข้าไม่สนใจอะไรมากกว่านั้น ข้าไม่สนแม้แต่ชีวิตของเจ้า”
ดวงตาของฉินซิวดูเย็นชาอย่างมาก ถึงเขาจะหนีไปไม่ได้ เนื่องจากถูกหานเซิ่นจับตัวเอาไว้ แต่เขายังคงหัวเราะออกมา
“หานเซิ่น ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะกลับตาลปัตรพลังของยีนเลือดสีฟ้า นั่นเป็นไอเดียที่ฉลาดมากๆ ข้าไม่เคยลองทำมันมาก่อน ดังนั้นมันจึงทำให้ข้าประหลาดใจ”
“หยุดพูดจาไร้สาระ! ออกมาจากร่างกายลูกชายของข้าซะ!”
หานเซิ่นจับตัวฉินซิวเอาไว้และใช้พลังของคัมภีร์นภาอำพันใส่เขาต่อไปเรื่อยๆ เขาทำให้แน่ใจว่าร่างกายของฉินซิวจะวิวัฒนาการถอยหลังไปเรื่อยๆ
ฉินซิวหัวเราะเหมือนกับคนบ้า มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินที่หานเซิ่นพูด เขาพูดกับตัวเองว่า “ข้าควรจะเดาออกว่ามันจะเป็นแบบนี้ นั่นดีมากๆ ข้าดีใจจริงๆ”
หานเซิ่นต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นก็มีพลังลึกลับออกมาจากร่างกายของฉินซิว ในดวงตาของเขาที่เคยเป็นฟ้าเริ่มจะมีแสงสีแดงเกิดขึ้น ลวดลายสีฟ้าบนชุดเกราะของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง แสงนั่นน่ากลัวยิ่งกว่าตอนที่มันเป็นสีฟ้า มันเหมือนกับว่าร่างกายทั้งร่างของเขาลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีแดง
แม้แต่ปีกแสงที่อยู่ด้านหลัก็ยังเปลี่ยนเป็นสีแดง มันย้อมทั้งอวกาศเป็นสีแดง พลังของหานเซิ่นและฉินซิวปะทะกันเกิดเป็นคลื่นกระแทกที่รุนแรง ฉินซิวหลุดจากการจับกุมของหานเซิ่นได้สำเร็จ
เมื่อผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและคนอื่นๆเห็นแบบนั้น พวกเขาก็รู้สึกตกใจอย่างที่สุด ทุกคนสามารถบอกได้ว่าฉินซิวนั้นเรียนรู้พลังที่สามารถทำให้ระดับของคู่ต่อสู้ลดต่ำลงมาจากหานเซิ่น
แค่ในอดีตฉินซิวก็ถือว่าไร้เทียมทานแล้ว ตอนนี้เมื่อเขามีพลังของหานเซิ่น มันจะไม่ทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวังได้ยังไง?
ฉินซิวระเบิดพลังออกมา ระดับเทพสปิริตและระดับร่างกายของเขาเริ่มฟื้นฟูกลับมา ผู้นำเวรี่ไฮคำรามออกมาในทันที เขาผลักดันเวรี่ไฮเซ้นส์จนถึงขีดสุด ร่างกายทั้งร่างของเขารวมเป็นหนึ่งกับจักรวาล ในขณะเดียวกันเขาตะโกนขึ้นว่า “พวกเราต้องฆ่าเขาก่อนที่เขาจะฟื้นตัว!”
ยอดฝีมือมากมายไม่ลังเล พวกเขาทุกคนใช้พลังที่รุนแรงที่สุดเพื่อโจมตีฉินซิว
ตูม!
ฉินซิวมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคำราม คลื่นกระแทกสีแดงระเบิดออกจากตัวของเขา มันทำลายพลังที่ถูกใช้โดยผู้นำเวรี่ไฮและยอดฝีมือคนอื่นๆ ที่น่าตกใจที่สุดก็คือผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและคนอื่นๆสังเกตได้ว่าร่างกายของพวกเขากำลังวิวัฒนาการย้อนกลับ พวกเขาลดลงมาอยู่ขั้นบัตเตอร์ฟลายและยังคงวิวัฒนาการถอยหลังไปเรื่อยๆ นอกจากหานเซิ่นแล้วไม่มีใครหนีจากพลังนั้นได้
“มันจบสิ้นแล้ว” ผู้อาวุโสคนหนึ่งของเวรี่ไฮพูด ใบหน้าของเขาซีดเผือก เขาดูสิ้นหวัง
มันไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น ยอดฝีมือจากทั้งจักรวาลต่างก็รู้ว่ามันจบสิ้นแล้ว ฉินซิวนั้นเรียนรู้พลังของหานเซิ่น ไม่เพียงแค่นั้นเขายังใช้มันได้ดียิ่งกว่าซะอีก
“ขอบคุณเจ้ามาก หานเซิ่น ถ้าไม่มีเจ้า ข้าก็คงจะไม่เคยคาดคิดว่าพลังยีนเลือดสีฟ้าจะใช้แบบนี้ได้” ฉินซิวพูด ร่างกายของเขาลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีฟ้าอีกครั้ง ขณะที่เขาเริ่มกลับเข้าไปหาจีโนฮอลล์
“ข้าไม่ใช่คนที่คิดมันขึ้นมา” หานเซิ่นพูดขณะที่จ้องมองไปที่ฉินซิว
“ข้ารู้” ฉินซิวพูดพร้อมกับพยักหน้า “ถ้าข้าคาดเดาได้ถูกต้อง นี่เป็นความคิดของเฒ่าแมว แต่เจ้าเป็นคนที่ใช้มัน ดังนั่นนี่ถือเป็นความสำเร็จของข้า”
“หยุดเข้ามาขวางทางข้า เจ้ารู้ดีว่าด้วยพลังของเจ้า เจ้าไม่มีทางหยุดข้าได้ ข้าจะทำลายจีโนฮอลล์ การที่มันถูกทำลายนั้นจะเป็นประโยชน์กับเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นผู้นำของโลกใบนี้ ข้าจะทำให้เจ้ายิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า” ฉินซิวพูด
“ออกมาจากร่างกายของเสี่ยวฮวา ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะทำอะไร” หานเซิ่นพูดอย่างจริงจัง
“ถ้าเจ้ายืนกรานที่จะหยุดข้าให้ได้ ก็อย่าโทษว่าข้าลืมบุญคุณที่เจ้าช่วยดูแลหว่านเอ๋อ” ฉินซิวพูด ร่างกายของเขาระเบิดด้วยเพลิงสีเลือด เขาเทเลพอร์ตมาหาหานเซิ่นและพยายามจับที่อก
หานเซิ่นรวบรวมพลังของคัมภีร์นภาอำพันอีกครั้งและชกออกไปใส่ฉินซิว ในจังหวะที่พลังสีเลือดทั้งสองปะทะกัน หานเซิ่นสังเกตได้ว่าพลังคัมภีร์นภาอำพันเข้าไปในตัวของฉินซิวและทำให้ฉินซิวมีพลังมากขึ้นกว่าเดิม
ฉินซิวจับหมัดของหานเซิ่นเอาไว้และพูดอย่างใจเย็น
“เจ้าน่ะแข็งแกร่งมากๆ ข้ายอมรับในเรื่องนั้น แต่พลังของเจ้ามีต้นกำเนิดมาจากข้า ไม่ว่าเจ้าจะพยายามมากสักแค่ไหน เจ้าก็เหนือกว่าข้าไม่ได้ ในจักรวาลนี้นอกจากข้าไม่มีใครที่ควบคุมพลังนี้ได้อย่างแท้จริง เจ้ารู้ไหมว่ามันเป็นเพราะอะไร?”
“เป็นเพราะอะไร?” หานเซิ่นต้องการจะสลัดมือของฉินซิวออกไป แต่ร่างกายของเขาไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง มันเหมือนกับว่าพลังของเขาถูกดูดด้วยแม่เหล็กและไหลเข้าไปหาฉินซิว
“มันเป็นเพราะว่าข้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้” ฉินซิวพูด
“พลังของข้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ แต่เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ถึงแม้ร่างกายของเจ้าจะมียีนเลือดสีฟ้าอยู่ เจ้าก็ไม่มีควบคุมพลังที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ได้ เฒ่าแมวใช้ความพยายามมากมายถึงขนาดที่ยอมตายโดยฝากความหวังเอาไว้กับเจ้า แต่เขาไม่เคยเข้าใจว่าแผนการของเขานั้นไม่มีโอกาสสำเร็จ แผนการของเขามันล้มเหลวตั้งแต่แรกแล้ว”
ฉินซิวใช้มืออีกข้างหนึ่งเอื้อมไปแตะหน้าผากของหานเซิ่น หานเซิ่นรู้สึกว่าทะเลจิตสั่นไหวและสูญเสียการควบคุมหอคอยแห่งโชคชะตาที่อยู่ภายใน มันบินออกมาจากทะเลจิตและไปอยู่ในมือของฉินซิว
หอคอยแห่งโชคชะตาถูกทำลายและสิ่งที่อยู่ภายในก็หลุดออกมา ซึ่งรวมถึงหว่านเอ๋อด้วย ฉินซิวใช้มือข้างหนึ่งรับร่างกายของเธอเอาไว้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น