Super God Gene 3012-3014

 ตอนที่ 3012 เคียงข้างไปตลอดกาล

 

ในตอนที่ดราก้อนเลดี้ถือเครื่องทองแดง มันก็เรืองแสงสีรุ้งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตออกมา หานเซิ่นมองดูด้วยความอิจฉา จีโนฟลูอิดที่อยู่ในเครื่องทองแดงนั้นคงจะทำขึ้นมาจากซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตนับไม่ถ้วน มันเทียบเท่ากับความพยายามของหานเซิ่นหลายปี


 


นอกจากนั้นเหล่าแอนเชี่ยนท์ก็อตทั้งสามร้อยคนยังหยดเลือดของพวกเขาลงไป มันมากพอที่จะทำให้คนๆหนึ่งเลื่อนไปสู่ขั้นทรูก็อต


 


หานเซิ่นคิด ‘นี่พิธีก้าวผ่านวัยของแอนเชี่ยนท์ก็อตฟุ่มเฟื่อยแบบนี้ทุกครั้งเลยอย่างนั้นหรอ?  ฉันเองก็อยากจะเป็นแอนเชี่ยนท์ก็อตบ้าง’


 


ดราก้อนเลดี้ยืนอยู่บนแท่นบูชา เธอถือเครื่องทองแดงด้วยสองมือและยกจีโนฟลูอิดศักดิ์สิทธิ์ขึ้นดื่มในอึกเดียว จีโนฟลูอิดศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังอยู่มหาศาล ในตอนที่มันเข้าไปในร่างกายของดราก้อนเลดี้ ร่างกายของเธอก็เกิดความเปลี่ยนแปลงในทันที


 


มันมีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นมากมายบนแท่นบูชานั้น มันมีทั้งเปลวไฟ สายฟ้า สายลม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ทะเลและท้องฟ้าแว็บขึ้นมา


 


“พลังงานมากมายมหาศาลขนาดนั้น ร่างกายของดราก้อนเลดี้จะทนรับไหวไหมนะ?” หานเซิ่นเริ่มเป็นกังวล


 


“อย่าได้กังวล นางมีสายเลือดของราชาคนก่อน นางจะต้องรับพลังของจีโนฟลูอิดเข้าไปได้แน่”


แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตเดินเข้ามาอยู่ข้างๆหานเซิ่น เขาดูมั่นใจกับผลลัพธ์ที่จะออกมา


 


“นี่พิธีก้าวผ่านวัยของแอนเชี่ยนท์ก็อตฟุ่มเฟือยแบบนี้ทุกครั้งเลยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม


 


แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตส่ายหัว “แน่นอนว่าไม่ นี่เป็นพิธีกรรมที่เก็บไว้สำหรับราชาของแอนเชี่ยนท์ก็อตที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น แม้แต่ในตอนที่เผ่าพันธุ์ของพวกเราปกครองจักรวาล มันก็มีแค่ราชาของแอนเชี่ยนท์ก็อตเท่านั้นที่จะได้รับพิธีกรรมแบบนี้ แถมทุกวันนี้แอนเชี่ยนท์ก็อตก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนอย่างเมื่อก่อน มันถือเป็นเรื่องยากที่จะหาวัตถุดิบสำหรับจีโนฟลูอิดศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ในตอนที่ข้าขึ้นเป็นราชา ข้าก็ไม่ได้รับอะไรแบบนี้ จีโนฟลูอิดศักดิ์สิทธิ์ที่ดราก้อนเลดี้ได้รับนั้นไม่ได้ดีเหมือนอย่างจีโนฟลูอิดศักดิ์สิทธิ์ที่ราชาคนก่อนได้รับ ในอดีตมันมีแอนเชี่ยนท์ก็อตอยู่ครบสามพันคน เมื่อเทียบกันแล้วตอนนี้พวกเรามีเพียงแค่สามร้อยคนเท่านั้น”


 


หานเซิ่นพยักหน้า ถ้าแอนเชี่ยนท์ก็อตทุกคนได้รับอะไรแบบนี้ ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลก็คงจะถูกพวกเขาจับมาทำเป็นจีโนฟลูอิดศักดิ์สิทธิ์จนหมด


 


หานเซิ่นคิด ‘โชคดีที่แอนเชี่ยนท์ก็อตไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอย่างเมื่อก่อน ถ้าแอนเชี่ยนท์ก็อตยังปกครองจักรวาลอยู่ ทุกคนก็คงจะต้องกลายเป็นอาหารของพวกเขา นั่นจะเป็นอะไรที่เลวร้ายกว่าตอนนี้มาก’


 


ดูเหมือนแอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตจะรู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไรอยู่ เขาพูดอย่างใจเย็นว่า


“พวกเราแอนเชี่ยนท์ก็อตนั้นเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ พวกเราจะใช้ทรัพยากรรมแค่เพียงพอสำหรับพวกเราเท่านั้น พวกเราไม่ได้มีเป้าหมายที่จะช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเราไม่ได้เหมือนกับเผ่าพันธุ์อื่นที่โจมตีกันเพื่อสนองความละโมบ การใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองนั้นเป็นอะไรที่เห็นแก่ตัว และหลังจากที่แอนเชี่ยนท์ก็อตตาย พลังงานของพวกเขาก็จะกลับคืนสู่ธรรมชาติ”


 


“เป็นแบบนี้นี่เอง” หานเซิ่นพยักหน้า ถึงพลังของแอนเชี่ยนท์ก็อตในตอนนี้จะไม่สามารถปกครองทั้งจักรวาลได้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะสร้างอาณานิคมขึ้นมา แต่หานเซิ่นก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับดินแดนที่ถูกยึดครองโดยแอนเชี่ยนท์ก็อตมาก่อน ดูเหมือนว่าที่แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตพูดนั้นเป็นความจริง


 


ตูม!


ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากแท่นบูชา ภาพของปรากฎการณ์ประหลาดนั้นเริ่มจางหายไปและเผยให้เห็นร่างของดราก้อนเลดี้


 


ในตอนนี้ร่างกายของดราก้อนเลดี้ถูกห่อหุ้มด้วยชุดเกราะประหลาดและท่วงท่าของเธอก็ดูประหลาดเช่นกัน เธอดูเหมือนกับคนที่กำลังสวดภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันมีกงล้อขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังของเธอ


 


เมื่อหานเซิ่นมองดูดีๆ เขาก็เห็นว่ามันไม่ใช่กงล้อ มันเป็นเครื่องครัวที่เรียงกันเป็นวงกลมเหมือนกับกงล้อต่างหาก มันมีทั้งช้อน ส้อม มีดครัว มีดอีโต้และตะหลิว พวกมันล้วนแต่เป็นเครื่องมือสำหรับทำอาหาร พวกมันกำลังปลดปล่อยออร่าที่ทรงพลังออกมา


 


“ในที่สุดเลือดของราชาคนก่อนก็ตื่นขึ้นมา” แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตพูด


“แต่เนื่องจากนางเป็นลูกผสม เลือดของราชาคนก่อนจึงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นางไม่ควรออกมาเป็นแบบนี้”


 


“ความเปลี่ยนแปลงนั้นถือเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี?”


หานเซิ่นไม่สามารถใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อสแกนดราก้อนเลดี้ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเธอถือเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี


 


“ข้าไม่รู้ พวกเราได้แต่รอดู” แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตตอบ


 


หลังจากที่พิธีก้าวผ่านวัยเสร็จสิ้น แอนเชี่ยนท์ก็อตส่วนใหญ่ก็แยกย้ายกันไป พวกเขาทุกคนอยู่อาศัยกันคนละที่ และโดยปกติแล้วพวกเขาจะไม่ได้ไปมาหาสู่กัน


 


ดราก้อนเลดี้ที่ตอนนี้สวมชุดเกราะเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าแอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตและถาม


“แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อต เจ้าจะรักษาสัญญาและปล่อยให้ข้าเป็นอิสระอย่างนั้นใช่ไหม?”


 


“แน่นอน” แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตพูดอย่างจริงจังขณะที่มองไปที่ดราก้อนเลดี้


“แต่ก่อนหน้านั้นข้าอยากให้เจ้าลองคิดดูอีกทีว่าเจ้าต้องการขึ้นเป็นราชาของแอนเชี่ยนท์ก็อตหรือไม่”


 


ดราก้อนเลดี้ส่ายหัว “ข้ายินดีจะเป็นส่วนหนึ่งของแอนเชี่ยน์ก็อต แต่แค่ในฐานะสมาชิกธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ข้าไม่ต้องการเป็นราชาของแอนเชี่ยนท์ก็อต”


 


แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตยิ้มและพูด “นั่นไม่เป็นไร ข้ารับปากว่าจะไม่บังคับเจ้า แค่เจ้ายอมรับว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของแอนเชี่ยนท์ก็อต ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว”


 


ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าแอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตอาจจะไม่ยอมปล่อยดราก้อนเลดี้ไปง่ายๆ เพราะยังไงซะพวกเขาก็มอบให้เธอมากถึงขนาดนี้ พวกเขาคงจะไม่สามารถทำจีโนฟลูอิดศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาใหม่ได้อีกเป็นเวลานาน แต่ถ้าแอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตปล่อยให้ดราก้อนเลดี้เป็นอิสระจริงๆ เธอจะไปไหนก็ได้ แถมเขายังจะช่วยส่งหานเซิ่นไปที่ดาวโคลด์อีกด้วย


 


หานเซิ่นหาที่ที่ไม่มีใครอยู่รอบๆและถามแอนเชี่ยนท์ออริจินก็อต


“ทำไมเจ้าถึงไม่หยุดดราก้อนเลดี้เอาไว้? การเดินทางของข้าเต็มไปด้วยอันตราย นางอาจจะต้องตาย ถ้านางไปกับข้า”


 


แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตพูด “ในอนาคตนางจะเป็นราชาของแอนเชี่ยนท์ก็อต ราชาของพวกเราจะอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ถ้านางผ่านภัยอันตรายไปไม่ได้ นางก็จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารนั้นไม่ได้เช่นกัน”


 


“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ยังต้องการให้นางเป็นราชาของแอนเชี่ยนท์ก็อตอย่างนั้นสินะ?”


หานเซิ่นคิดว่ามันสมเหตุสมผล ยังไงซะแอนเชี่ยนท์ก็อตก็มอบทรัพยากรให้กับดราก้อนเลดี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางปล่อยเธอไปง่ายๆ


 


“นางมีเลือดของราชาของแอนเชี่ยนท์ก็อต” แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตพูด


“นางจึงเป็นราชาที่แท้จริงของแอนเชี่ยนท์ก็อต ข้าจะไม่บังคับให้นางเป็นราชา แต่ข้าเชื่อว่าสักวันหนึ่งนางจะแบกรับความรับผิดชอบด้วยตัวของนางเอง”


 


“เจ้าหมายถึงจีโนฮอลล์หรือสายเลือดของเซเคร็ด?” หานเซิ่นถาม


 


“ข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้สึกว่านี่เป็นความสงบก่อนที่พายุจะมา จักรวาลนี้จะตกอยู่ในความโกลาหล ข้าเชื่อว่าดราก้อนเลดี้คือราชาที่แท้จริงของพวกเรา ในตอนที่นางจำเป็นแบกรับความรับผิดชอบของราชา นางจะแบกรับมันด้วยความภาคภูมิ ถึงแม้มันอาจจะทำให้นางต้องตาย แต่นางจะนำพาแอนเชี่ยนท์ก็อตให้อยู่รอดต่อไป”


แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตมองไปที่หานเซิ่นและถามอย่างจริงจัง “หานเซิ่น บอกข้าทีว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าจะยังเป็นพันธมิตรกับดราก้อนเลดี้ใช่ไหม?”


 


“ถ้าดราก้อนเลดี้ยินดี ข้าก็จะยืนเคียงข้างนางไปตลอดกาล” หานเซิ่นตอบอย่างจริงจัง



 

 

 


ตอนที่ 3013 หานหยี่เฟย

 

บนดาวโคลด์ ชายและหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินไปบนดินแดนหิมะ คนผู้ชายนั้นกำลังอุ้มทารกที่สวมใส่ชุดขนสัตว์


 


แอนเชี่ยนท์ออริจินก็อตให้แอนเชี่ยนท์ก็อตธาตุอวกาศช่วยเทเลพอร์ตหานเซิ่น ดราก้อนเลดี้และแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดไปที่ดาวโคลด์ มันช่วยขจัดปัญหาของหานเซิ่นไปได้มาก ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะตามหาตัวผู้หญิงคนนั้น แต่เมื่อเขามาถึงดาวโคลด์ เขาก็รู้สึกตัวว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้


 


ถึงแม้ดาวโคลด์จะเป็นดาวที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ แต่สภาพแวดล้อมของมันก็ยังคงโหดร้ายมากๆ อุณหภูมิของดวงดาวนั้นต่ำแบบสุดๆ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนดวงดาวส่วนใหญ่จึงเป็นซีโน่เจเนอิคธาตุความหนาวเย็น สิ่งมีชีวิตเดียวที่มีสติปัญหาสูงคือเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่าสโนว์แมน สโนว์แมนนั้นไม่ใช่ซีโน่เจเนอิค แต่เทคโนโลยีของพวกเขายังไม่ถึงระดับที่จะทำการเดินทางระหว่างดวงดาวได้ พวกเขาถือว่าล้าหลังมากๆ


 


เนื่องจากเผ่าสโนว์แมนไม่สามารถเดินทางระหว่างดวงดาวได้ พวกเขาจึงไม่รู้จักภาษาสามัญของจักรวาลและมีภาษาเป็นของตัวเอง มันจึงทำให้การจะสนทนากับพวกเขาเป็นเรื่องยาก


 


หานเซิ่นพยายามจะสนทนากับพวกสโนว์แมน แต่เขาหาข้อมูลเกี่ยวกับหานหยี่เฟยไม่ได้เลย


 


“หานหยี่เฟยคนนั้นอยู่บนดาวโคลด์นี้จริงๆอย่างนั้นหรอ?”


หานเซิ่นเริ่มสงสัยว่าที่หานจิงจื่อพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่ อีกฝ่ายเคยถูกเรียกว่าเป็นจอมโกหกที่เก่งกาจที่สุด ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้านี่เป็นแค่เรื่องโกหกของเขา


 


ในตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกหดหู่อย่างมาก เขาไม่สามารถใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะสแกนทั้งดวงดาว ซึ่งถ้าหานหยี่เฟยอยู่ที่นี่จริงๆ มันก็เป็นเรื่องง่ายๆที่จะหาตัวเธอ


 


ขณะที่หานเซิ่นไตร่ตรองว่าเขาควรจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดและใช้ตงเสวียนออร่าเพื่อสแกนทั้งดวงดาวดีไหม จู่ๆดราก้อนเลดี้ก็ถามขึ้นมา “นั่นอะไร?”


 


หานเซิ่นมองตามสายตาของดราก้อนเลดี้และเห็นภูเขาหิมะที่อยู่ในทุ่งน้ำแข็ง


 


การได้เห็นภูเขาหิมะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกๆอะไร แต่ที่แปลกก็คือภูเขาหิมะนั้นเป็นครึ่งวงกลมเหมือนกับซาลาเปายักษ์ที่ตั้งอยู่บนน้ำแข็ง ถึงดาวโคลด์จะมีภูเขาหิมะอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่มันไม่ได้มีรูปร่างกลมๆเหมือนกับภูเขาหิมะลูกนี้


 


“ไปดูกันเถอะ” หานเซิ่นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาเป็นเหมือนกับสายฟ้าที่พุ่งตรงเข้าไปหาภูเขาหิมะครึ่งวงกลม


 


เมื่อเขาไปใกล้ๆ หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่ภูเขา แต่เป็นสิ่งก่อสร้างครึ่งวงกลมที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ เว้นก็แต่บริเวณทางเข้า


 


“ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะมีสิ่งก่อสร้างที่ทันสมัยอยู่ที่นี่ ถึงแม้หานหยี่เฟยจะไม่ได้อยู่ในนั้น แต่อย่างน้อยมันก็ต้องมีเบาะแสบางอย่างอยู่” หานเซิ่นมองเห็นประตู


 


ในตอนที่หานเซิ่นและดราก้อนเลดี้เดินไปอยู่หน้าประตู ประตูโลหะก็เปิดออกด้วยตัวเองและเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน


 


“สิ่งก่อสร้างนี้ส่วนใหญ่ทำขึ้นมาจากน้ำแข็งอย่างนั้นหรอ?”


หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าภายในสิ่งก่อสร้างนั้นเป็นน้ำแข็งที่กึ่งโปร่งใส ไม่ว่าจะกำแพงหรือโต๊ะต่างก็ทำขึ้นมาจากน้ำแข็ง มีเพียงแค่เครื่องมือทันสมัยเท่านั้นที่ทำขึ้นมาจากโลหะ


 


“ยินดีต้อนรับสู่ห้องปฏิบัติการซีโร่” มีหุ่นยนต์ที่ดูเก่ามากๆเดินมาต้อนรับพวกเขา หัวของมันเป็นหลอดไฟครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ มันดูเหมือนกับไซเรนของตำรวจ มันกระพริบไฟสีฟ้าและสีแดง ขณะที่มันเข้ามาหาพวกเขา


 


ในตอนที่หานเซิ่นและดราก้อนเลดี้เห็นหุ่นยนต์ พวกเขาก็ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป หัวของหุ่นยนต์นั้นฉายแสงมาที่พวกเขา มันแช่แข็งร่างกายของพวกเขาและเปลี่ยนพวกเขาเป็นก้อนน้ำแข็ง


 


“ข้าพบตัวทดลองสามคน นี่มันเยี่ยมไปเลย! นายท่านต้องดีใจแน่ๆ ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”


หุ่นยนต์พูดด้วยเสียงสังเคราะห์ แต่โทนเสียงของมันฟังดูไม่เหมือนกับหุ่นยนต์


ปัง!


ในตอนที่หุ่นยนต์กำลังจะพาหานเซิ่นและดราก้อนเลดี้ไป ก้อนน้ำแข็งที่กักขังดราก้อนเลดี้อยู่ก็ส่องแสงสว่างออกมา เธอพังก้อนน้ำออกมา พร้อมกับมีมีดครัวและส้อมปรากฏในมือของเธอ


 


“ถึงแม้เจ้าจะเป็นหุ่นยนต์ แต่เจ้าคงเข้าใจถึงการถูกจับทำเป็นอาหาร แปดวิชาดราก้อนอีเตอร์: ระบำมีดและส้อม”


ดราก้อนเลดี้ดูใจเย็น แต่มีดและส้อมในมือของเธอเป็นเหมือนกับพายุที่โหมกระหน่ำเข้าโจมตีหุ่นยนต์


 


เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเวลาอันสั้นหุ่นยนต์ก็ถูกสับเป็นชิ้นๆ มันกลายเป็นเศษโลหะที่กองอยู่บนพื้น


 


หลังจากนั้นก็มีแฟรี่ที่ดูเหมือนกับหิมะน้ำแข็งบินออกมาจากหุ่นยนต์ มันกระพือปีกน้อยๆเพื่อหลบหลีกมีดและส้อมของดราก้อนเลดี้ มันรีบบินหนีลึกเข้าไปในสิ่งก่อสร้าง ตอนนี้หานเซิ่นรู้แล้วว่าหุ่นยนต์เป็นแค่ฉากหน้า ขณะที่แฟรี่นั่นคือตัวจริง


 


“คิดจะหนีอย่างนั้นหรอ?!” ดราก้อนเลดี้ดูเลือดเย็น


“แปดวิชาดราก้อนอีทเตอร์ บาร์บีคิวหมู!”


 


ส้อมของดราก้อนเลดี้พุ่งตรงเข้าไปหาแฟรี่หิมะที่กำลังหนี ส้อมนั้นล็อคตัวของมันเอาไว้ และทำให้มันไม่สามารถขยับไปไหนได้


 


ดราก้อนเลดี้เรียกส้อมกลับมาโดยที่ร่างของแฟรี่หิมะถูกดึงกลับมาพร้อมกัน


 


วินาทีต่อมา มีดของดราก้อนเลดี้ก็ลุกโชนด้วยเปลวไฟ เธอจะจับแฟรี่หิมะทำอาหารในทันที


 


แฟรี่หิมะพยายามดิ้นรนและร้องตะโกน “นายท่าน ช่วยข้าด้วย!”


 


เมื่อไฟกำลังจะสัมผัสตัวแฟรี่หิมะ มันก็มีแสงอันหนาวเย็นพุ่งเข้ามาใส่ส้อมที่ดราก้อนเลดี้ถืออยู่ แฟรี่หิมะถูกปล่อยเป็นอิสระอีกครั้ง มันกระพือปีกเพื่อบินหลบเปลวเพลิงที่ได้อย่างหวุดหวิด


 


ลึกเข้าไปในห้องปฏิบัติการมีผู้หญิงสวมเสื้อกาวน์สีขาว กระโปรงสั้น ถุงน่องและส้นสูงยืนอยู่ เธอมีผมสั้นและสวมใส่แว่นกรอบดำ ในมือของเธอมีมีดฝ่าตัดอยู่ แสงที่หนาวเย็นนั้นพุ่งออกมาจากมีดฝ่าตัดนั้น


 


แฟรี่หิมะบินไปหาผู้หญิงคนนั้นและพูด “นายท่าน พวกเขาบุกเข้ามาในห้องปฏิบัติการและต้องการจะฆ่าข้า! พวกเราควรจับพวกเขามาเป็นตัวทดลอง”


 


ผู้หญิงคนนั้นจ้องไปที่ดราก้อนเลดี้ ขณะที่ราก้อนเลดี้เองก็จ้องไปที่อีกฝ่ายเช่นกัน ดูเหมือนกับว่ามีประกายไฟเกิดขึ้นระหว่างพวกเธอ


 


ผู้หญิงในชุดกาวน์สีขาวพูดขึ้นว่า “ข้าก็คิดว่าใครที่กล้าบุกเข้ามาในห้องปฏิบัติการของข้า ที่แท้ก็เป็นแอนเชี่ยนท์ก็อตลูกผสม เจ้าเหมาะที่จะเป็นตัวทดลองของข้า”


 


ในตอนที่ดราก้อนเลดี้ได้ยินแบบนั้น เธอก็มีสีหน้าไม่พอใจ


“ก่อนที่จะเป็นแบบนั้น เจ้าจะกลายเป็นอาหารบนจานของข้า”


 


ผู้หญิงทั้งสองจ้องหน้ากัน มีด ส้อมและมีดฝ่าตัดเรืองแสงแห่งเทพที่น่ากลัวออกมา ระดับพลังของพวกเธอกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ


 


“หยุด! พวกเราทุกคนในที่นี้ต่างก็เป็นพวกเดียวกัน พวกเราควรจะคุยกันดีๆ นี่เป็นการเข้าใจผิด” หานเซิ่นทำลายก้อนน้ำแข็งและเข้ามาขวางพวกเธอทั้งคู่เอาไว้


 


ผู้หญิงทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมๆกัน “ใครบอกว่าข้าเป็นพวกเดียวกันกับนาง?”


 


หลังจากนั้นผู้หญิงในชุดกาวน์ก็ดูตกใจเมื่อเห็นหานเซิ่น


“เจ้า! ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”


 


“หานจิงจื่อส่งข้ามาหาเจ้า เขาบอกว่าเจ้าแก้ไขปัญหาของเลือดสีฟ้าในตัวข้าได้” หานเซิ่นไม่พูดอ้อมค้อม


 


“หานจิงจื่อ? เขาเป็นใครกัน?” หานหยี่เฟยดูสับสน

 

 

 


ตอนที่ 3014 ไม่รู้จัก

 

หานเซิ่นแปลกใจ หานจิงจื่อบอกให้เขามาหาหานหยี่เฟย แต่หานหยี่เฟยกลับไม่รู้จักหานจิงจื่อ นั่นเป็นอะไรที่หานเซิ่นคาดไม่ถึง


 


“เจ้าไม่รู้จักหานจิงจื่ออย่างนั้นหรอ? เขาเป็นหมอดูแก่คนหนึ่ง เขามีหนังตาสองชั้น…” หานเซิ่นพยายามบรรยายรูปลักษณ์ของหานจิงจื่อ


 


หานหยี่เฟยส่ายหัว “เจ้าก็รู้ว่าข้าถูกขังอยู่ในภูเขาสองโลก นอกซะจากเขาเป็นคนจากยุคสมัยของเซเคร็ด ไม่อย่างนั้นข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นใคร?”


 


หานเซิ่นตกใจ เขาคิด ‘จริงด้วย ถึงหานจิงจื่อจะถือว่าแก่ แต่เมื่อเทียบกับคนอย่างหานหยี่เฟย อายุของเขาไม่ได้เสี้ยวของเธอ แบบนั้นเขารู้จักหานหยี่เฟยได้ยังไง?’


 


“เข้ามาข้างในก่อน” หานหยี่เฟยหันกลับและเดินลึกเข้าไปในห้องปฏิบัติการ


 


หานเซิ่นและดราก้อนเลดี้เดินตามหลังเธอไป ขณะที่แฟรี่หิมะบินไปปิดประตูที่อยู่ด้านหลังพวกเขา


 


ในห้องปฏิบัติการนั้นเต็มไปด้วยน้ำแข็ง อุณหภูมิภายในนั้นต่ำมากๆ ระหว่างที่เดินไป หานเซิ่นก็เห็นภาชนะที่ทำขึ้นมาจากน้ำแข็ง พวกมันกึ่งโปรงใส ซึ่งทำให้มองเห็นสิ่งประหลาดที่อยู่ภายใน มันมีทั้งอวัยวะของสิ่งมีชีวิตและของเหลวหลากสีสัน แถมบางภาชนะก็มีซีโน่เจเนอิคอยู่ทั้งตัว


 


“นั่งลง” พวกเขาเข้าไปในห้องที่ดูเหมือนกับห้องนั่งเล่น


 


หานหยี่เฟยนั่งลงบนเก้าอี้น้ำแข็ง เธอมองมาที่หานเซิ่นและถาม


“เจ้าบอกว่าคนที่ชื่อหานจิงจื่อบอกให้เจ้ามาตามหาข้าที่นี่อย่างนั้นใช่ไหม? เขารู้ได้ยังไงว่าข้าอยู่ที่นี่? แถมเขายังรู้ชื่อของข้าอีก”


 


“เขาแค่บอกให้ข้ามาหาเจ้าที่นี่ เขาไม่ได้บอกอะไรอย่างอื่น ข้าจึงคิดไปว่าเจ้านั้นอาจจะใกล้ชิดกับเขา” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ ดูเหมือนว่าเขาถูกหลอกโดยหานจิงจื่อ


 


“ข้าบอกเจ้าอย่างมั่นใจได้เลยว่าข้าไม่เคยได้ยินชื่อคนๆนี้มาก่อน ข้าไม่รู้จักคนๆนี้”


หานหยี่เฟยเงียบไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็ถามขึ้นว่า “ทำไมเขาถึงบอกให้เจ้ามาตามหาข้า?”


 


“ภายในร่างกายของข้ามีเลือดสีฟ้าอยู่ ข้าคิดว่าเจ้ารู้เรื่องนั้นแล้วซะอีก” หานเซิ่นขมวดคิ้ว


 


“เลือดสีฟ้า? เลือดสีฟ้าอะไร?” หานหยี่เฟยขมวดคิ้ว


 


“เจ้าไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในปราสาทพระเจ้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามด้วยความแปลกใจ


 


“ข้ามีงานวิจัยมากมากจำเป็นต้องทำ ข้าไม่มีเวลาไปดูอะไรพวกนั้น” หานหยี่เฟยพูด


 


หานเซิ่นอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่จักรพรรดิมนุษย์หยดเลือดสีฟ้าลงบนตัวเขา ซึ่งหลังจากที่หานหยี่เฟยได้ยินเรื่องราว สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เธอจับมือของหานเซิ่น ก่อนที่หานเซิ่นจะตอบสนอง เธอก็เอาเข็มออกมาจากไหนไม่รู้และแทงเข้าไปในนิ้วมือของเขา เธอดูดเลือดของเขาออกมา


 


ก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดอะไร หานหยี่เฟยก็วิ่งออกไปพร้อมกับเข็มในมือ เธอเข้าไปในห้องปฏิบัติการที่เต็มไปด้วยเครื่องมือมากมาย


 


ดราก้อนเลดี้และหานเซิ่นต้องการจะตามเข้าไป แต่หานหยี่เฟยพูดขึ้นมาก่อน “รออยู่ข้างนอก อย่าได้เข้ามาข้างใน”


 


หานเซิ่นรู้ว่าคนธรรมดานั้นไม่ควรเข้าไปในห้องปฏิบัติการ ถ้าพวกเขาไปแตะต้องเครื่องมืออะไรเข้า การทดลองก็อาจจะล้มเหลว ด้วยเหตุนั้นเขาจึงแค่รออยู่ด้านนอก


 


โชคดีที่กำแพงห้องปฏิบัติการนั้นทำขึ้นมาจากน้ำแข็ง มันใสเหมือนกับคริสตัล ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน


 


หานหยี่เฟยใช้เครื่องมือต่างๆในห้องปฏิบัติการเพื่อวิจัยเลือดสีฟ้า และหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเธอก็เดินออกมา


 


“ไม่เลว เลือดภายในร่างกายของเจ้าเป็นเลือดของผู้นำเซเคร็ด”


หานหยี่เฟยตรวจเช็คหานเซิ่นก่อนที่จะพูดต่อ “ร่างกายของเจ้ามียีนของผู้นำเซเคร็ดอยู่ก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นเจ้าก็คงจะรวมเข้ากับเลือดสีฟ้าไม่ได้ ส่วนคนที่มอบเลือดสีฟ้าให้กับเจ้า เขาเอาเลือดของผู้นำเซเคร็ดมาจากที่ไหนกัน? เลือดมากมายขนาดนั้นมันเกือบจะเหมือนกับตัวผู้นำเซเคร็ดเอง”


 


“เป็นไปได้ไหมที่คนๆนั้นจะเป็นผู้นำเซเคร็ด?” หานเซิ่นเคยสงสัยว่าจักรพรรดิมนุษย์และฉินซิวอาจจะเป็นคนๆเดียวกัน


 


“ไม่” หานหยี่เฟยพูดอย่างมั่นใจ


 


“เหตุผล?” หานเซิ่นไม่รู้ว่าทำไมหานหยี่เฟยถึงมั่นใจในเรื่องนั้น


 


“ตามข้ามา ข้าจำเป็นต้องตรวจเช็คร่างของเจ้าอย่างละเอียด”


หานหยี่เฟยพาหานเซิ่นไปที่ห้องปฏิบัติการอีกห้อง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เลือดของผู้นำเซเคร็ดนั้นแตกต่างไปจากเลือดธรรมดา ถ้าคนที่เจ้าบอกเป็นผู้นำเซเคร็ดตัวจริง เขาก็ไม่ควรจะพูดกับเจ้าต่อหน้าได้”


 


หานเซิ่นสับสน เขาจึงถามขึ้นว่า “นั่นหมายความว่ายังไง?”


 


หานหยี่เฟยพูดขณะที่เดินไป “เจ้าคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้นำเซเคร็ดสวมใส่ชุดเกราะอยู่ตลอดเวลาและไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าของเขาสินะ?”


 


หานเซิ่นพยักหน้า เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาก่อน แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับดวงวิญญาณของฉินซิวและได้เห็นรูปปั้นของผู้นำเซเคร็ด เขาจึงไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก


 


หานหยี่เฟยพูด “ที่ผู้นำเซเคร็ดสวมใส่ชุดเกราะตลอดเวลา ก็เพราะร่างกายของเขานั้นพิเศษ ถ้าเขาไม่สวมใส่ชุดเกราะ ร่างกายของเขาก็จะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาจะเฉือนมือตัวเองเพื่อมอบเลือดสีฟ้าให้กับเจ้า ผู้นำจะไม่เปิดเผยมือของเขาออกมาจากนอกชุดเกราะ ด้วยเหตุนั้นคนที่มอบเลือดสีฟ้าให้กับเจ้าต้องไม่ใช่ผู้นำเซเคร็ด”


 


ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน หานเซิ่นก็ถูกพาไปที่ห้องปฏิบัติการอีกห้อง ห้องปฏิบัติการนี้แตกต่างไปจากห้องก่อนหน้า ห้องปฏิบัติการนี้สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และอุณหภูมิภายในห้องก็ไม่ได้ต่ำเหมือนกันห้องอื่นๆ


 


หลังจากที่เข้าไปข้างใน หานหยี่เฟยก็เริ่มใช้เครื่องมือเพื่อสแกนร่างกายของหานเซิ่น


 


ขณะที่หานเซิ่นรับการสแกน เขาก็ถามขึ้นว่า “ร่างกายของผู้นำเซเคร็ดมีปัญหาอะไร? ทำไมเขาถึงต้องสวมใส่ชุดเกราะเอาไว้?”


 


“เจ้าควรจะรู้สึกถึงมันเหมือนกันถูกไหม?” หานหยี่เฟยถาม


“ในตอนที่เลือดของเจ้าถูกเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เจ้าจะถูกตัดขาดจากกฎและพลังของจักรวาล”


 


หานเซิ่นพยักหน้า เขาเองก็รู้สึกถึงเรื่องนั้น


 


“ผู้นำเซเคร็ดสวมชุดเกราะก็เพื่อสร้างบาเรียระหว่างร่างกายกับจักรวาล ถ้าไม่มีการป้องกันจากชุดเกราะ ร่างกายของเขาก็จะถูกทำลายโดยกฎและพลังของจักรวาล” หานหยี่เฟยยังคงใช้เครื่องมือต่างๆขณะที่พูด


 


ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินแบบนั้น หัวใจของเขาก็เต้นรัว


‘นั่นฟังดูคุ้นๆ มันฟังดูเหมือนกับในก็อตแซงชัวรี่ ในตอนที่ระดับของคนๆหนึ่งสูงกว่าของก็อตแซงชัวรี่ พลังของก็อตแซงชัวรี่ก็จะทำลายร่างกายของคนๆนั้น’


 


หานหยี่เฟยมองข้อมูลบนหน้าจอและขมวดคิ้ว “แปลกจริงๆ…”


 


“อะไรแปลก?” หานเซิ่นถาม


 


“นอกจากยีนเลือดสีฟ้าแล้ว ภายในร่างกายของเจ้ายังมีอีกยีนหนึ่งที่ใกล้เคียงกับยีนเลือดสีฟ้ามากๆ แต่มันจะไม่รวมกับเลือดสีฟ้า มันเป็นเพราะยีนนั้นที่ทำให้เจ้ารวมเข้ากับเลือดสีฟ้าโดยสมบูรณ์ไม่ได้” หานหยี่เฟยพูด


 


“นั่นควรจะเป็นรอยสักแมวเก้าชีวิต” หานเซิ่นบอกเธอเกี่ยวกับรอยสักแมวเก้าชีวิต ตอนนี้หานเซิ่นเริ่มเชื่อในสิ่งที่หานจิงจื่อบอกกับเขา ดูเหมือนว่าหานหยี่เฟยจะเป็นคนเดียวที่แก้ไขปัญหาของเขาได้จริงๆ อย่างน้อยๆหานหยี่เฟยก็เข้าใจเกี่ยวกับเลือดสีฟ้า


 


หานหยี่เฟยมองข้อมูลบนหน้าจอและพูดกับตัวเอง “ยีนของแมวเก้าชีวิตงั้นหรอ? นั่นควรจะเป็นไปไม่ได้ นอกซะจากว่า…”


 


ดูเหมือนหานหยี่เฟยจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอรีบใช้เครื่องมือเพื่อสแกนร่างกายของหานเซิ่นซ้ำอีกครั้ง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)