Super God Gene 3005-3007
ตอนที่ 3005 ทวด
“ข้าเชื่อว่าทุกสิ่งมีชีวิตต้องตายสักวันหนึ่ง” หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกโกรธ เขาแค่ตอบกลับไปตามปกติ
ชายแก่ส่ายหัว เขาไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อ เขาเอาบางสิ่งออกมาและมอบมันให้กับหานเซิ่น “นี่สำหรับเจ้า มันควรจะช่วยเจ้าได้”
หานเซิ่นไม่ได้รับมันมาในทันที เขามองไปยังสิ่งที่อยู่ในมือของชายแก่และสังเกตเห็นว่ามันเป็นภาชนะโปร่งใสที่เหมือนกับหลอด มันมีของเหลวสีแดงที่เหมือนกับเลือดอยู่ภายใน
“นั่นคืออะไร?” หานเซิ่นถาม
“มันคือยาที่จะควบคุมพลังของเลือด” ชายแก่พูด
“มันจะทำให้เลือดของเจ้าเสถียร แต่แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น มันไม่ได้แก้ไขปัญหาของเจ้า ถ้าเจ้าต้องการจะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเลือดของตัวเอง เจ้าจำเป็นต้องไปหาคนๆหนึ่ง” ชายแก่โยนหลอดยาไปให้กับหานเซิ่น
หานเซิ่นรับยามา เขาขมวดคิ้วและถาม “เจ้าเป็นใคร? และเป้าหมายของเจ้าคืออะไร?”
“ถ้าข้าบอกว่าข้ารู้ถึงชะตากรรมของเจ้าว่าจะมีหายนะเกิดขึ้น และข้ามารออยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือเจ้า เจ้าจะเชื่อข้าไหมล่ะ” ชายแก่พูดพร้อมกับหัวเราะ
หานเซิ่นมองไปที่ชายแก่โดยที่ไม่ได้พูดอะไร เขาไม่ใช่เด็กสามขวบ เขาจะไม่เชื่อคำพูดที่ฟังดูเหมือนกับเป็นกลอุบายแบบนั้น
ชายแก่รู้ว่าหานเซิ่นไม่เชื่อ เขายักไหล่และยกไวน์ขึ้นดื่ม
“ถ้าคำพูดของข้าเป็นสิ่งที่เจ้าไม่เชื่อ แล้วคำพูดของหานจิงจื่อล่ะ เจ้าจะยอมเชื่อไหม?”
“เจ้าคือหานจิงจื่อ?” หานเซิ่นตกใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะที่มองไปที่ชายแก่
หานเซิ่นรู้ว่าหานจิงจื่อนั้นเติบโตจากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยนักต้มตุ๋น พวกเขาแกล้งทำตัวเป็นหมอดูและหลอกลวงผู้คนด้วยคำพูด มันดูเหมือนกับสิ่งที่ชายแก่คนนี้กำลังทำ
“ในเมื่อพวกเราเป็นญาติกัน เจ้าควรเรียกข้าว่าปู่ทวด” ชายแก่ยิ้ม
“ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าคือหานจิงจื่อจริงๆ?” หานเซิ่นถาม
“และถึงเจ้าจะเป็นหานจิงจื่อตัวจริง มันก็ไม่ใช่ว่าเจ้ามีสายเลือดเดียวกันกับข้า”
“ถ้าข้าไม่ได้ทิ้งสร้อยคอที่เป็นของลับของพยุหะโลหิตเอาไว้ ร่างกายของเจ้าก็คงจะถูกกัดกร่อนโดยเลือดสีฟ้าไปแล้ว” หานจิงจื่อพูด
“เจ้าคงจะไม่มีโอกาสได้มาพูดกับข้าแบบในตอนนี้”
หานเซิ่นมองไปที่ชายแก่และถาม “เจ้าเคยเขียนอะไรทิ้งเอาไว้ในสมุดบันทึก?”
หัวในของหานเซิ่นเต้นรัว ถ้าชายแก่ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือหานจิงจื่อจริงๆ เขาก็คือคนที่หานเซิ่นไล่ตามมาเป็นเวลานานแสนนาน
“ถ้าข้าจำไม่ผิด ข้าเขียนคำว่า ‘สุดยอดยีน’ พร้อมกับเครื่องหมายคำถามเอาไว้” ชายแก่พูด
หานเซิ่นมองชายแก่ด้วยความตกใจ เขาตามหาหานจิงจื่อมาเป็นเวลานานหลายปี ตอนนี้เมื่อหานจิงจื่อมาอยู่ตรงหน้าของเขา เขาก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไรดี
หานเซิ่นอ้าปากราวกับว่าเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หานจิงจื่อพูดขึ้นก่อนว่า
“เจ้าคือเหลนของข้า พ่อของเจ้าคือหลานของข้า มันไม่มีอะไรต้องสงสัยในเรื่องนี้”
หานเซิ่นอ้าปากอีกครั้ง แต่หานจิงจื่อหยุดเขาด้วยการพูดต่อว่า
“ในอดีตข้าไม่มีทางเลือก ข้าจำเป็นต้องฝากพ่อของเจ้าเอาไว้กับบ้านตระกูลหาน คนในตระกูลหานเสียชีวิตเพราะมัน เหมือนอย่างที่พ่อของเจ้าพูด พวกเราเป็นหนี้ตระกูลหาน ดังนั้นพวกเราควรจ่ายคืนให้กับพวกเขา”
หานเซิ่นพยายามอ้าปากเพื่อพูดอีกครั้ง แต่หานจิงจื่อพูดขึ้นก่อนว่า
“อย่าได้ถามข้าว่าทำไมข้าถึงทำแบบนั้น ถึงแม้ข้าจะอธิบายกับเจ้าไป เจ้าก็ไม่เชื่อข้าอยู่ดี เหมือนอย่างที่เจ้าไม่เชื่อข้า ในตอนที่ข้าบอกว่าเจ้าและครอบครัวจะต้องตาย”
หานเซิ่นอ้าปาก ครั้งนี้หานจิงจื่อไม่ได้หยุดเขาเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ นั่นเป็นเพราะคำถามที่หานเซิ่นคิดเอาไว้ถูกตอบเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาจึงไม่รู้ว่าจะถามอะไรดี
หานจิงจื่อยิ้ม เขายกไวน์ขึ้นดื่มและพูด “เลือดสีฟ้าในตัวเจ้าเป็นเพราะข้าเอง ข้าบอกให้จักรพรรดิมนุษย์มอบมันให้กับเจ้า”
“ทำไมกัน?” หานเซิ่นแปลกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าจักรพรรดิมนุษย์นั้นจะมอบเลือดสีฟ้าให้กับเขา และตอนนี้ปรากฏว่ามันเป็นสิ่งที่หานจิงจื่อบอกให้จักรพรรดิมนุษย์ทำ
“มีแค่การทำแบบนั้นเจ้าถึงจะหยุดสิ่งไม่ดีได้” หานจิงจื่อพูด
“สิ่งไม่ดีอะไร? มันเกี่ยวกับเรื่องที่ครอบครัวของข้าถูกชะตากำหนดให้ต้องตายอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
“ไม่ใช่แค่ครอบครัวของเจ้า แต่เป็นทั้งโลกใบนี้” หานจิงจื่อพูดอย่างจริงจัง
“จะบอกว่าข้าคือผู้กอบกู้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นอยากจะหัวเราะ เขามองไปที่หานจิงจื่อราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นแค่คนขี้โกหก
“ไม่ เจ้าไม่ใช่ผู้กอบกู้” หานจิงจื่อพูด
“ไม่มีใครเป็นผู้กอบกู้ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกชะตากำหนดให้ถูกทำลาย สิ่งที่พวกเราทำคือหยุดจุดจบจากการเป็นจุดจบ”
“นั่นหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
หานจิงจื่อส่ายหัว “มันหมายความอย่างที่ข้าพูด มันมีสิ่งที่ถึงข้าอธิบายไป เจ้าก็ไม่เชื่ออยู่ดี จะยังไงก็ตามพวกเราต้องจัดการปัญหาเกี่ยวกับเลือดสีฟ้าในตัวเจ้าก่อน ดื่มยาเข้าไปเพื่อหยุดพลังของมันชั่วคราว หลังจากนั้นเจ้าไปหาหานหยี่เฟย มีเพียงแค่นางเท่านั้นที่จะมีวิธีควบคุมพลังเลือดสีฟ้าภายในตัวเจ้า”
“ข้าไม่จำเป็นต้องพึ่งพลังของเลือดสีฟ้า” หานเซิ่นพูด
“ไม่ เจ้าจำเป็นต้องมีมัน” หานจิงจื่อพูดอย่างมั่นใจ
“เจ้าจำเป็นต้องมีพลังของเลือดสีฟ้าเพื่อที่ฉินซิวจะไม่ฆ่าเจ้า”
“ฉินซิวถูกฆ่าตายไปนานแล้วไม่ใช่หรอ?” หานเซิ่นแปลกใจ
“มันจะเป็นเรื่องดีถ้าเขาตายไปแล้ว” หานจิงจื่อลุกขึ้นและมองออกไปที่สวนหลังบ้าน หลังจากนั้นเขาก็มองมาที่หานเซิ่นและพูด
“มีแค่พลังของเลือดสีฟ้าที่จะต่อสู้กับพลังของเลือดสีฟ้าได้ และถึงเจ้าจะเอาชนะไม่ได้ อย่างน้อยเจ้าก็มีโอกาสรอด ไม่ว่าเจ้าจะยินยอมหรือไม่ เจ้ามีเลือดสีฟ้าในตัวเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มันไม่มีทางเลือกอื่นอีก หานหยี่เฟยอยู่บนดาวโคลด์ ไปหานาง บอกนางว่าเจ้าเป็นใครและนางจะช่วยเหลือเจ้า”
หานเซิ่นมองไปที่หานจิงจื่อขณะที่มีความคิดมายมายผุดขึ้นมาในหัว บอกตามตรงจนถึงตอนนี้หานเซิ่นก็ยังคงคิดว่าชายแก่ที่อยู่ตรงหน้าเป็นหานจิงจื่อตัวปลอม ถึงแม้เขาจะเป็นตัวจริง สิ่งที่เขาพูดก็เป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้
หานเซิ่นมองไปที่หานจิงจื่อและถาม “หลายคนบอกว่าคุณมีลูกไม่ได้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?”
“ไปหาหานหยี่เฟย นางจะมอบคำตอบทุกอย่างที่เจ้าต้องการ”
หานจิงจื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพูด “มันไม่มีเวลาแล้ว ร่มแดงกำลังมา เจ้าควรจะรีบไป”
“ร่มแดง? หมายถึงผู้หญิงที่อยู่กับจักรพรรดิมนุษย์น่ะหรอ? คุณกับจักรพรรดิมนุษย์มีความสัมพันธ์กันยังไง?” หานเซิ่นถาม
หานจิงจื่อมองหานเซิ่นและยิ้มออกมา ทันใดนั้นเขาก็ส่งหานเซิ่นกระเด็นออกไปด้านหลัง
โดยปกติแล้วหานเซิ่นควรจะล้มลงไปบนพื้นกระดานหินที่อยู่ด้านหลังของเขา แต่กระดานหินนั้นพลิกตัวและหานเซิ่นก็ตกลงไปในนั้น มันเหมือนกับว่าเขากำลังตกลงไปในเหวลึก
“เด็กน้อย จำเอาไว้ว่าไม่ว่ายังไงเจ้าต้องมีชีวิตรอด ถึงแม้จะสิ้นหวัง เจ้าก็ห้ามยอมแพ้ เจ้าต้องมีชีวิตต่อไป ทำแบบนั้นและครอบครัวของเจ้าก็จะมีความหวัง”
เสียงของหานจิงจื่อดังในหูของหานเซิ่น หานเซิ่นรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างดึงเขาลงไปเรื่อยๆและเขาไม่สามารถหนีจากมันได้
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้หานเซิ่นไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ โดยปกติแล้วพลังนี้จะหยุดเขาไม่ได้ แต่ตอนนี้หานเซิ่นไม่สามารถหยุดตัวเองจากการร่วงไปเรื่อยๆได้
ตอนที่ 3006 ข้อแลกเปลี่ยนแห่งโชค
ปัง!
หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าร่างกายชนเข้ากับผิวน้ำและกลิ้งไปกับกระแสของมัน เขาไม่รู้ว่าตัวเองกลิ้งไปไกลแค่ไหน ในตอนที่เขาทรงตัวได้ เขาก็เห็นทุ่งหญ้ารอบๆและท้องฟ้าที่กระจ่างใส น้ำในทะเลสาบนั้นใสสะอาดเหมือนกับกระจก
ท้องฟ้าสะท้อนกับผิวน้ำ มันทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาว่ายอยู่ในท้องฟ้า
“ที่นี่คือที่ไหน?” หานเซิ่นรู้ว่าที่นี่ต้องไม่ใช่สถานที่ธรรมดาทั่วไป เพราะเขาตกลงมาสู่ที่นี่ด้วยวิธีการที่ประหลาด เขาคงจะต้องผ่านการเทเลพอร์ต ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่มาอยู่ในทะเลสาบแบบนี้ มันมีป่าไม้และภูเขาหลายลูกอยู่รอบๆ ไม่สำคัญว่าเขาจะร่วงลงมาไกลแค่ไหน มันก็ไม่มีทางที่เขาจะร่วงลงมาอยู่ในทุ่งหญ้าแบบนี้
หานเซิ่นมองไปรอบๆ เขาสังเกตเห็นว่าอวกาศที่เขากำลังอยู่ในตอนนี้นั้นแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้อยู่ในระบบจักรวาลเดิมอีกต่อไป
หานเซิ่นต้องการจะลุกขึ้นมา แต่เลือดสีแดงและสีฟ้ากำลังปะทะกันภายในร่างกายของเขา แขนขาของเขาชาจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้
หานเซิ่นรู้ว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะสูญเสียการควบคุมร่างกายตัวเองโดยสมบูรณ์
หานเซิ่นกัดฟัน เขาตัดสินใจใช้ยาที่หานจิงจื่อมอบให้ เขาเปิดฝาและดื่มของเหลวที่อยู่ข้างในเข้าไป ตอนนี้เขาจำเป็นต้องรักษาตัวเองก่อน เขาไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองสูญเสียการควบคุมได้
หานเซิ่นยังคงไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเลือดสีฟ้าในร่างกายถึงได้มอบความรู้สึกต้องการจะฆ่าเป่าเอ๋อ ขณะที่เขาไม่มีความรู้สึกแบบนั้นต่อราชาไป๋หรือซันมูนก็อตเอป
“มันเป็นเพราะร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิคอย่างนั้นหรอ? หรือว่ามันเป็นเพราะตัวเป่าเอ๋อเอง?”
หานเซิ่นไม่สามารถคิดหาคำตอบได้ หลังจากที่เขาดื่มยาเข้าไป ลมปราณโลหิตก็ถูกขับออกมาจากร่างกายของเขาเหมือนกับน้ำพุ ประสิทธิภาพของมันดียิ่งกว่ายาหยุดอาการท้องเสีย วิชาโลหิตชีพจรที่ทำงานอย่างบ้าคลั่งในที่สุดก็หยุดลง เมื่อปราศจากลมปราณโลหิต
“มันได้ผล!” ในที่สุดหานเซิ่นก็กลับมาควบคุมร่างกายตัวเองได้อีกครั้ง แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกหดหู่
ในตอนที่วิชาโลหิตชีพจรหยุดทำงาน ร่างกายของเขาก็ไม่เหลือพลังอะไรอีก ไม่ว่าเขาจะพยายามใช้วิชาจีโนอะไร มันก็ไม่มีวิชาจีโนไหนที่ใช้งานได้
นั่นหมายความว่าหานเซิ่นมีแค่พละกำลังจากร่างกายที่เป็นขั้นทรูก็อตโดยที่ไม่มีพลังพิเศษอะไรให้ใช้
ในตอนนี้หานเซิ่นสามารถกระโดดขึ้นสูงได้ แต่เขาบินไม่ได้ เขาสามารถชกใส่ดวงดาว แต่หมัดของเขาต้องสัมผัสกับดวงดาวเพื่อทำแบบนั้น
“ทำยังไงดี? ตอนนี้เราบินไม่ได้! แบบนั้นเราจะไปที่ดาวโคลด์ได้ยังไง?” หานเซิ่นรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
หานเซิ่นสามารถเสี่ยงลองใช้วิชาโลหิตชีพจรได้อีกครั้ง แต่เขากลัวว่าหลังจากที่ใช้วิชาโลหิตชีพจร มันจะไปปลุกพลังของเลือดสีฟ้าให้ตื่นขึ้นมาอีก
“ดูเหมือนว่าเราต้องลองดูว่าโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดจะทำลายพลังของเลือดสีฟ้าได้ไหม” หานเซิ่นหยุดลังเลและพยายามใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด
ตูม!
แสงศักดิ์สิทธิ์ลุกโชนขึ้นบนร่างกายของหานเซิ่น มันทำให้เขาเข้าสู่โหมดเทพเจ้าสปิริตขึ้นสุดยอด ร่างกายทั้งร่างของเขาเหมือนกับเทพสปิริตในอวกาศและพลังทั้งหมดของเขาก็กลับคืนมา
แต่เนื่องจากอิทธิพลของหว่านเอ๋อร์ โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดก็คงอยู่ได้เพียงแค่ช่วงสั้นๆก่อนที่หานเซิ่นจะกลับคืนสู่ร่างปกติของเขา
แต่หลังจากที่หานเซิ่นกลับมาสู่ร่างปกติ เขาก็สังเกตได้ว่าเขายังไม่สามารถใช้พลังใดๆได้ นอกจากนั้นเลือดของเขาก็ยังคงเป็นสีฟ้า
“ดูเหมือนว่าเราต้องไปที่ดาวโคลด์จริงๆ”
หานเซิ่นมีแผนจะไปที่ดาวโคลด์อยู่แล้ว ถึงแม้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดจะลบล้างเลือดสีฟ้าในตัวเขาได้ แต่เขาก็ยังต้องการไปหาหานหยี่เฟยและถามเธอว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“หานหยี่เฟยควรจะเป็นผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในภูเขาสองโลก ในเมื่อเราเคยเห็นใบหน้าเธอ การจะหาตัวเธอก็ควรจะเป็นเรื่องง่าย แต่เราจะไปที่ดาวโคลด์ได้ยังไงกัน?”
หานเซิ่นปล่อยให้ร่างกายได้พักฟื้นก่อนที่จะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดอีกครั้ง แบบนั้นเขาก็จะใช้วิชาจีโนต่างๆได้ ในจังหวะนั้นเขาจะใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อสแกนดวงดาวที่เขาอยู่
แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอะไรที่น่าผิดหวัง ดวงดาวที่เขากำลังอยู่เป็นดวงดาวที่ยังไม่ถูกพัฒนา มันมีแค่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำอยู่ที่นี่ มันไม่มีสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาพอจะพูดได้เลยแม้แต่ตัวเดียว
ดวงดาวที่อยู่รอบๆเองก็เหมือนกัน หานเซิ่นไม่คุ้นเคยกับดวงดาวเหล่านั้นเลย นอกจากดวงดาวที่เขากำลังอยู่แล้ว ดวงดาวอื่นรอบๆก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เช่นกัน
“เราคงต้องเสี่ยงใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น”
หานเซิ่นรู้สึกดีใจที่โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดสามารถใช้งานได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะต้องกระโดดไปมาในอวกาศ
หลังจากที่พักผ่อนอยู่บนทุ่งหญ้าจนพลังงานฟื้นฟูกลับคืนมา หานเซิ่นก็ใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดอีกครั้งและรีบใช้การเทเลพอร์ต
เนื่องจากเขาไม่รู้ตำแหน่งที่อยู่ของตัวเอง หานเซิ่นจึงได้แต่พึ่งดวงในการเทเลพอร์ต
หานเซิ่นภาวณา “เหล่าทวยเทพได้โปรดอวยพรให้ฉันเทเลพอร์ตไปยังดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาด้วยเถิด”
ในตอนที่โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดหยุดทำงาน หานเซิ่นก็หลุดออกมาจากการเทเลพอร์ต เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองร่วงลงไปในน้ำอีกครั้งหนึ่ง
“นี่เราโชคร้ายขนาดไหนกัน? ทำไมเราถึงตกลงมาในน้ำอยู่เสมอเลย?”
หานเซิ่นลากตัวเองขึ้นจากน้ำ และหลังจากที่มองไปรอบๆ เขาก็อึ้งจนพูดไม่ออก
เขาสังเกตว่าตัวเองอยู่ในน้ำ แต่เขาไม่ได้ตกลงมาในทะเลสาบหรือแม่น้ำ เขาตกลงมาในหม้อขนาดใหญ่
มันเป็นหม้อเหล็กขนาดใหญ่ที่มีความกว้างสิบสองฟุต และสูงยี่สิบถึงยี่สิบสี่ฟุต มันมีน้ำอยู่ครึ่งหนึ่งและมีวัตถุดิบหลายอย่างลอยอยู่ข้างในหม้อ มันมีทั้งต้นหอมจีน ขิง กระเทียมและพริก
หานเซิ่นเลียน้ำบนริมฝีปากของตัวเองและรู้สึกได้ถึงรสชาติที่จัดจ้านในปากของเขา
“โอ้มายก็อด! นี่เราเทเลพอร์ตลงมาอยู่ในหม้อของใครบางคนอย่างนั้นหรอ? นี่เขากำลังทำอาหารอะไร? ทำไมมันถึงได้เผ็ดขนาดนี้?”
หานเซิ่นมองไปรอบๆและค้นพบว่าในหม้อมีพริกสีเขียวแดงที่เขาไม่รู้จักอยู่เป็นจำนวนมาก
พริกสีเขียวและแดงนั้นขนาดใหญ่กว่าหัวของเหานเซิ่นซะอีก มันต้องไม่ใช่พริกสายพันธุ์ปกติแน่ๆ
หานเซิ่นต้องการจะออกไปจากหม้อ แต่เมื่อเขาเหลือบไปเห็นสิ่งที่อยู่ก้นหม้อ เขาก็หยุดชะงักไป
ในหม้อนั้นมีมากกว่าพริบที่เผ็ด มันมีสิ่งมีชีวิตอยู่ด้วย และหานเซิ่นก็รู้จักสิ่งมีชีวิตนั้น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมเอมตี้ดราก้อนคิงที่ได้อันดับแปดในการประลองบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนถึงกลายมาเป็นกั้งที่ถูกต้มในหม้อร้อนนี้ได้!”
หานเซิ่นมองไปยังสิ่งมีชีวิตที่อยู่ก้นหม้อและไม่รู้ว่าควรจะคิดยังไงกับมันดี
ตอนที่ 3007 เด็กทารก
ร่างของซีโน่เจเนอิคที่เสียชีวิตอยู่ที่ก้นหม้อนั้นห่อหุ้มไปด้วยเปลือกทั้งตัว ถึงแม้เปลือกจะถูกต้มจนเปลี่ยนเป็นสีแดง ซึ่งดูแตกต่างไปจากเปลือกของเอมตี้ดราก้อนคิงที่เป็นสีดำ แต่หานเซิ่นก็ยังคงแน่ใจว่ามันคือเอมตี้ดราก้อนคิง
ชื่อของมันคือเอมตี้ดราก้อนคิง แต่มันไม่ได้ดูเหมือนกับมังกร ร่างกายของมันดูเหมือนกับตะขาบมากกว่า หัวของมันเหมือนกับด้วงและหางของมันก็เป็นเหมือนกับแมงป่อง แถมมันยังมีปีกของแมลงปอ
ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบนั้น ไม่ว่าใครที่เคยเห็นก็จะไม่มีวันลืม หานเซิ่นเคยเห็นมันต่อสู้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงจำมันได้เป็นอย่างดี
“พลังของเอมตี้ดราก้อนคิงถือเป็นระดับท็อปของขั้นทรูก็อต และมันก็มีธาตุความว่างเปล่าที่ทำให้มันเคลื่อนที่ผ่านสิ่งต่างๆได้ ใครกันที่จับมันมาต้มเป็นอาหารแบบนี้ได้?”
หานเซิ่นไม่ได้คิดว่าตัวเองด้อยไปกว่าของเอมตี้ดราก้อนคิง แต่ถึงอย่างนั้นการจะฆ่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
พลังของเอมตี้ดราก้อนคิงนั้นคล้ายคลึงกับอสูรกาแล็กซี่ มันสามารถเคลื่อนที่ผ่านวัตถุต่างๆและสามารถเข้าไปในมิติความว่างเปล่าได้ มันเป็นศัตรูที่ยากจะรับมือ
หานเซิ่นค่อยๆยื่นหัวออกไปมองรอบๆหม้ออย่างระมัดระวัง ในตอนนี้เขาไม่สามารถใช้พลังของตัวเองได้ และเขาก็ไม่สามารถใช้พลังของเลือดสีฟ้าได้เช่นกัน ด้วยเหตุนั้นเขาจำเป็นระวังตัวเอาไว้
หานเซิ่นมองไปรอบๆและพบว่าตัวเองอยู่ในถ้ำขนาดใหญ่ ภาชนะที่เขาคิดว่าเป็นหม้อนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่หม้อ มันดูเหมือนกับกระทะเหล็กที่มีส่วนล่างเป็นรูปโค้งมากกว่า มันเป็นเครื่องมือที่ใช้ทำอาหารพวกเนื้อหรือปลาในสมัยโบราณ
แต่ตอนนี้มันถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทรมาน ภายใต้การควบคุมของผู้คุมที่โหดร้าย นักโทษจะถูกโยนลงไปในกระทะเหล็กและถูกต้มทั้งเป็น
กระเหล็กนั้นถูกห้อยกับผนังของถ้ำด้วยโซ่ขนาดใหญ่ และมันมีไฟอยู่ใต้กระทกเหล็กเพื่อทำให้น้ำเดือด มันปลดปล่อยความร้อนอย่างไม่หยุด ซึ่งทำให้เอมตี้ดราก้อนคิงที่อยู่ข้างในเปลี่ยนเป็นสีแดง
โชคดีที่หลังจากที่ร่างกายของหานเซิ่นดูดซับเลือดสีฟ้าเข้าไป มันก็ทำให้เขาสามารถต้านทานต่อความร้อน ความร้อนที่สามารถต้มร่างของเอมตี้ดราก้อนคิงได้นั้นไม่สามารถทำอะไรร่างกายของเขาได้ มันแค่ทำให้เขารู้สึกร้อนนิดหน่อยเท่านั้น
“ไม่รู้ว่ากระทะและไฟที่ร้อนมากขนาดนี้มาจากไหนกันแน่ แต่ถ้าเราอยู่ที่นี่ต่อไปนานๆ เราก็อาจจะถูกต้มเหมือนอย่างเอมตี้ดราก้อนคิง”
หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าในถ้ำไม่มีใครอยู่ เขาต้องการจะปีนออกจากกระทะไป แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงพูดของใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามาในถ้ำ
หานเซิ่นรีบกลับลงไปในกระทะทันทีและไปซ่อนตัวอยู่ในพริกขนาดใหญ่ เขาได้ยินเสียงแหบๆพูดขึ้นว่า
“เอมตี้ดราก้อนคิงถูกต้มมาเป็นเวลานานแล้ว นี่เขายังไม่สุกอีกหรอ นี่มันต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนเพื่อนำเอาแก่นแท้ยีนออกมา?”
หลังจากนั้นก็มีเสียงแหลมพูดตอบขึ้นมา “เจ้าเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่นาน เจ้าถึงไม่รู้ว่าที่นี่เขาทำกันยังไง ข้ายังจำได้ว่าการต้มโกรวเลอร์นั้นใช้เวลานานแค่ไหน มันใช้เวลาสามพันเก้าร้อยล้านปีในการต้มเพื่อทำให้แก่นแท้ยีนออกมา ถึงเอมตี้ดราก้อนคิงจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับโกรวเลอร์ แต่มันก็เป็นขั้นทรูก็อตระดับท็อป ถ้าไม่ได้ต้มสักสิบแปดล้านปี ข้าก็ไม่คิดว่าแก่นแท้ยีนนั้นจะออกมา”
“ตามความเห็นของข้า แบบที่เจ้ากำลังทำอยู่นั้นยุ่งยากเกินไป มันจะไม่เร็วกว่าหรอถ้าพวกเราฉีกร่างของเอมตี้ดราก้อนคิงให้เป็นชิ้นๆ?” เสียงแหบพูดขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงแหลมพูดตอบ “แบบนั้นไม่ได้ เจ้าจำเป็นต้องต้มมันทั้งตัวอย่างช้าๆเพื่อให้กระทะเหล็กเบบี้ก็อตนี่ทำให้แก่นแท้ยีนออกมาอย่างสมบูรณ์ แบบนั้นแก่นแท้ยีนจะไม่ได้รับความเสียหาย นั่นคือวิธีการที่พวกเราใช้กับซีโน่เจเนอิคในอดีตกาล แต่ข้ากลัวว่ามันจะไม่ทันการ นายหญิงกำลังโตเป็นผู้ใหญ่ ในพิธีก้าวผ่านวัยที่กำลังจะมาถึง นางจำเป็นต้องดื่มจีโนฟลูอิดศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่นายหญิงจะเข้าพิธี พวกเราต้องต้มแก่นแท้ยีนของเอมตี้ดราก้อนคิงออกมาให้ได้”
“แต่เจ้าเพิ่งจะบอกว่ามันต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีกสิบแปดล้านปี ขณะที่พิธีก้าวผ่านวัยของนายหญิงจะถูกจัดขึ้นในอีกสองวัน แบบนั้นพวกเราจะต้มให้แก่นแท้ยีนออกมาได้ยังไง?” เสียงแหบพูดด้วยความสับสน
“ถ้าอย่างนั้นทำไมนายท่านถึงได้สั่งให้พวกเรามาที่นี่?” เสียงแหลมถามขึ้นมา
“พวกเราแค่จำเป็นต้องทำให้ไฟแรงขึ้นกว่าเดิมเพื่อทำให้มันเสร็จทันพิธีก้าวผ่านวัยของนายหญิง พวกเราต้องทำให้แก่นแท้ยีนของเอมตี้ดราก้อนคิงออกมาให้ได้”
“เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าถ้าพวกเราทำเร็วเกินไป แก่นแท้ยีนอาจจะเกิดความเสียหายได้”
“โดยปกติแล้วมันจะเป็นแบบนั้น แต่ครั้งนี้นายท่านอนุญาตให้ข้านำสมบัตินี้มาใช้ เมื่อพวกเราใส่สิ่งนี้ลงไปต้มในกระทะด้วย มันจะเร่งความเร็วในการต้มโดยที่แก่นแท้ยีนไม่เสียหาย เจ้าแค่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งของข้า ในตอนที่เสร็จสิ้นพิธีก้าวผ่านวัยของนายหญิง นายท่านก็จะให้รางวัลกับพวกเรา”
ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตยื่นหัวเข้ามามองในกระทะ หานเซิ่นจึงเห็นแค่หัวของอีกฝ่ายเท่านั้น หัวของสิ่งมีชีวิตนั้นใหญ่ครึ่งหนึ่งของกระทะ มันดูแปลกประหลาดมากๆ ใบหน้าของมันเป็นสีดำและมีดวงตาขนาดใหญ่หนึ่งดวงอยู่เหนือจมูก หัวของมันมีเขาที่ลุกด้วยเปลวไฟสีเขียว มันดูเหมือนกับราชาผีตาเดียว
หานเซิ่นไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคตัวนั้น และเขาก็สัมผัสถึงพลังของมันไม่ได้ เขาไม่รู้ว่ามันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับไหนกันแน่
ซีโน่เจเนอิคมองเข้ามาในกระทะ ดูเหมือนกับว่ามันกำลังมองไปที่เอมตี้ดราก้อนคิง เมื่อมันเห็นเปลือกของเอมตี้ดราก้อนคิงเปลี่ยนเป็นสีแดง มันก็ส่ายหัวและพูด
“เปลือกเพิ่งจะเปลี่ยนเป็นสีแดง พวกเราต้องเร่งมือ”
หลังจากนั้นซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนกับราชาผีก็หยิบกล่องออกมาจากอก มันยกบางสิ่งออกมาอย่างระมัดระวังและใส่ลงไปในกระทะก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“อย่ามัวเอาแต่มอง! รีบพ่นไฟหยางที่แท้จริงของเจ้า พวกเราต้องทำให้แก่นแท้ยีนของเอมตี้ดราก้อนคิงออกมาให้ได้ก่อนถึงพิธีก้าวผ่านวัย”
“กลิ่นมันหอมดี ข้าก็เลยอยากดูหน่อยเท่านั้นเอง” เสียงแหบพูดขึ้นมา
“ถ้าน้ำลายของเจ้าหยดลงไปในนั้น มันจะไปทำลายจีโนฟลูอิดศักดิ์สิทธิ์ของนายหญิง ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็คงจะไม่มีชีวิตรอดอีกต่อไป ดังนั้นรีบกลับไปทำงานได้แล้ว!”
หานเซิ่นได้ยินเสียงพวกเขาโต้เถียงกัน แต่เขาไม่ได้สนใจฟัง จิตใจของเขากำลังเพ่งไปยังสิ่งที่ถูกโยนลงมาในกระทะ มันคือเด็กทารกที่ดูเหมือนกับมนุษย์ ซึ่งทำให้เขาแปลกใจ
เมื่อเด็กทารกถูกน้ำร้อนในกระทก ทารกก็ส่งเสียงร้องออกมา มือและเท้าที่ตุ้ยนุ้ยถูกความร้อนจนเปลี่ยนเป็นสีแดงและแกว่งไปมาอย่างไม่หยุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น