Super God Gene 3001-3004
ตอนที่ 3001 เลือดสีฟ้าปรากฏ
ท่ามกลางสายตาของทุกคน ผู้ชายและผู้หญิงเดินเข้าไปหาหานเซิ่นที่กำลังใช้ไลท์ซินเซอร์เพื่อตัดพลังกาลเวลาที่กักขังโกลเด้นโกรวเลอร์ซ้ำๆ เขาไม่สามารถหนีออกจากไทม์ลูปได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำแบบนั้น
“สองคนนี้เป็นใครกัน?” ถึงแม้หานเซิ่นจะติดอยู่ในไทม์ลูป แต่จิตใจของเขาไม่ได้วนลูปไปด้วย เขายังมีสติและรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัว เขารู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นผู้ชายและผู้หญิงสองคนเดินมาอยู่ตรงหน้าเขา
เนื่องจากแสงของร่มสีแดง เขาจึงมองไม่เห็นว่าชายและหญิงที่อยู่ใต้ร่มนั้นเป็นใครกันแน่ ซึ่งไม่ใช่แค่หานเซิ่นเท่านั้นที่ต้องการจะรู้คำตอบ ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลเองก็อยากจะรู้เช่นเดียวกัน
ในสเปชการ์เด้น หวังอวี่ฮังพูดอย่างเป็นกังวล
“สองคนนั่นผ่านพลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดเข้าไปได้ นี่หานเซิ่นและคนอื่นๆจะไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ถ้าสองคนนั้นเป็นศัตรู หานเซิ่นและคนอื่นๆก็คงจะตกอยู่ในอันตราย” ควีนพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“พวกเราต้องไปช่วยเขา!” เซี่ยชิงลุกขึ้นและพูดด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ
“อย่าทำแบบนั้น” ราชินีชั่วพริบตาพูดขณะที่เอนตัวพิงขอบประตู
“ถึงเจ้าไปมันก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าจะไปติดอยู่ในไทม์ลูป เจ้าช่วยอะไรไม่ได้”
“แล้วจะยังไง? พวกเราจะไม่ลองพยายามเลยอย่างนั้นหรอ? นี่พวกเราจะนั่งอยู่ที่นี่และมองดูพวกเขาถูกฆ่าตายหรือยังไง?” เซี่ยชิงถาม
“พี่เซียอย่าเพิ่งใจร้อน” ซีโร่พูด
“ราชินีชั่วพริบตาพูดถูก ถ้าพวกเราไปตอนนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร มันมีแต่จะนำพวกเราไปสู่ความตายเท่านั้น”
“นี่ก็ไม่ได้ผล นั่นก็ไม่ได้ผล” หวังอวี่ฮังพูดด้วยสีหน้ารำคาญ
“พวกเราได้แต่มองดูหานเซิ่นถูกฆ่าตายอย่างนั้นหรอ?”
ราชินีชั่วพริบตาพูดอย่างเย็นชา “ไม่มีความจำเป็นที่พวกเจ้าต้องใจร้อน หานเซิ่นและคนอื่นๆจะไม่ตายง่ายๆ ภายในชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดนั้นกาลเวลาจะถูกวนซ้ำไปเรื่อยๆ ถึงแม้ผู้ชายและผู้หญิงสองคนนั้นต้องการจะฆ่าพวกเขา หลังจากฆ่าพวกเขาแล้ว พลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดก็จะทำให้พวกเขาคืนชีพมาอีกครั้ง การจะฆ่าพวกเขาอย่างถาวรมีแต่ต้องทำลายพลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดเท่านั้น ซึ่งถ้าพลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดถูกทำลาย หานเซิ่นและดอลลาร์ก็จะกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง ถึงพวกเขาจะสู้ไม่ได้ อย่างน้อยพวกเขาก็จะหนีได้”
“ฉันลืมเรื่องแบบนั้นไปได้ยังไงกัน?” หวังอวี่ฮังดีใจอย่างมาก พวกเขาทุกคนรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเมื่อได้ยินแบบนั้น
“ในเมื่อพวกเขาฆ่าหานเซิ่นไม่ได้ แบบนั้นพวกเขาไปที่นั่นทำไมกัน?” ซินเสวียนถามขึ้นมา
ไม่มีใครตอบคำถามนั้น พวกเขาได้แต่มองไปที่วิหารพระเจ้าชั่วพริบตาและดูการเคลื่อนไหวของผู้ชายและผู้หญิงสองคนนั้น
ผู้หญิงชุดแดงยืนอยู่ด้านหลังผู้ชายขณะที่ถือร่มเอาไว้ ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นและตรวจเช็คเขาอย่างละเอียด เขามองหานเซิ่นทำการเคลื่อนไหวและปลดปล่อยพลังของไลท์ซิสเซอร์ซ้ำๆ หลังจากที่ดูอยู่สักพัก ชายคนนั้นก็ยื่นมือออกมาเหนือหัวของหานเซิ่น
มือของชายคนนั้นห่อหุ้มด้วยหมอกสีแดง คนอื่นๆจะเห็นแค่เงาของนิ้วของชายคนนั้นเท่านั้น แต่มันมีออร่าของความแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกๆ
“เขาต้องการจะทำอะไร?” ผู้นำปราสาทนภาขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่มือของชายคนนั้น เขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่าชายคนนั้นต้องการจะทำอะไร
“เขาคงจะไม่ได้ต้องการฆ่าหานเซิ่นหรอกใช่ไหม? เพราะถึงเขาจะทำแบบนั้น ด้วยพลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุด หานเซิ่นก็จะถูกชุบชีวิตขึ้นอยู่ดี” ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาสับสน
ความจริงแล้วทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลที่มองดูอยู่ต่างก็รู้สึกสับสนเช่นเดียวกัน มีเพียงแค่ชายแก่ที่อยู่บนภูเขาเท่านั้นที่แตกต่างออกไป เขามองไปชายคนนั้นด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
“ในที่สุดเขาก็เริ่มเดินก้าวแรก”
ในตอนที่ชายแก่พูดตัวเอง มืออีกข้างนึ่งของชายคนนั้นก็แว็บด้วยแสงที่หนานเย็น เขาเฉือนมือตัวเองที่อยู่เหนือหัวของหานเซิ่น
ทุกคนที่มองดูอยู่รู้สึกตกใจ พวกเขามองไปยังมือที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใจจดใจจ่อ พวกเขาไม่แน่ใจว่าชายคนนั้นมีแผนจะทำอะไรกันแน่
เลือดสีฟ้าที่งดงามไหลออกมาจากบาดแผล มันเรืองแสงเหมือนกับคริสตัล มันทั้งแปลกประหลาดและสวยงามที่ได้เห็น
ในตอนที่เห็นสีของเลือด หานเซิ่นก็รู้สึกตกใจ เขาคิด
‘นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้น? เลือดสีฟ้านี้มีออร่าที่เหมือนกับเลือดสีฟ้าของพยุหะโลหิต ไม่สิเลือดสีฟ้านี้ดูจะทรงพลังยิ่งกว่าเลือดสีฟ้าที่เราเคยเห็นซะอีก เขาเป็นใครกัน? จักรพรรดิมนุษย์อย่างนั้นหรอ? เขามาทำอะไรที่นี่? ทำไมเขาต้องทำอะไรแบบนี้?’
ในหัวของหานเซิ่นเต็มไปด้วยคำถาม แต่ไม่มีใครที่จะมอบคำตอบให้กับเขาได้ แถมเขาก็ไม่สามารถถามออกไปได้ เนื่องจากเขายังคงติดอยู่ในไทม์ลูป
“เลือดศักดิ์สิทธิ์” ในตอนที่ผู้นำปราสาทนภาและผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาเห็นเลือดสีฟ้า สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
สิ่งชีวิตจากโบราณทั่วจักรวาลต่างก็รู้สึกเช่นเดียวกัน พวกเขาทุกคนมีสีหน้าที่เหมือนกับว่าพวกเขากำลังมองเห็นผี
เลือดมีสีฟ้าเหมือนกับคริสตัลถูกปล่อยให้หยดลงไปบนหัวของหานเซิ่น
พลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดนั้นสามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างวนกลับมาอยู่ที่จุดเริ่มต้น แต่หลังจากที่ถูกย้อนเวลา หัวของหานเซิ่นก็ยังคงถูกย้อมเป็นสีฟ้า มันไม่ได้ถูกกำจัดไปด้วยไทม์ลูป
เลือดสีฟ้าหยดลงมามากขึ้นเรื่อยๆ มันไหลผ่านเส้นผมของหานเซิ่นลงมาบนใบหน้าของเขา ทั้งหัวและลำคอของเขาถูกเปลี่ยนเป็นสีฟ้า ตอนนี้เลือดเริ่มจะซึมเข้าไปในชุดของเขา ดูเหมือนว่ามันกำลังจะย้อมทั้งตัวของหานเซิ่นให้กลายเป็นสีฟ้า
‘เขาต้องการอะไรกัน? เราไม่ใช่แฟรี่สีฟ้าสักหน่อย ทำไมเขาต้องย้อมร่างกายเราให้เป็นสีฟ้าด้วย?’ มีความคิดหลายอย่างฝุดขึ้นมาในหัวของหานเซิ่น แต่เขาคิดไม่ออกว่าชายคนนั้นต้องการอะไรจากเขา
สิ่งมีชีวิตจากทุกเผ่าพันธุ์อึ้งไป ขณะที่มองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมจู่ๆชายคนนี้ถึงปรากฏตัวออกมา และไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องการอะไร
ตูม! ตูม! ตูม!
จากภายในจีโนฮอลล์ที่อยู่บนจุดสูงสุดของปราสาทพระเจ้า มีเสียงที่ดังลั่นเหมือนกับเสียงฟ้าร้องดังขึ้นมา และประตูของจีโนก็ค่อยๆเปิดออก
ในตอนที่ประตูของจีโนฮอลล์เปิดออกอย่างสมบูรณ์ แสงสว่างที่อยู่ภายในก็ส่องสว่างออกมา ทุกคนเห็นเพียงแค่เงาลางๆของร่ายกายที่เหมือนกับมนุษย์ เนื่องจากแสงที่สว่างเกินไป จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกรูปลักษณ์ของคนๆนั้น แต่ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม คนๆนั้นสร้างแรงกดดันที่ทุกสิ่งมีชีวิตในทุกซอกทุกมุมของจักรวาลจะสัมผัสได้ มันทำให้ทุกคนที่สัมผัสถึงมันได้หายใจได้ลำบากและต้องการจะคุกเข่าลงไปต่อหน้าคนๆนั้น
“เจ้าจะทำมันจริงๆอย่างนั้นหรอ?” เงาของร่างกายที่ยืนอยู่หน้าประตูมองไปยังชายที่อยู่ในวิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา
“เจ้าลองพยายามหยุดข้าดู” ชายคนนั้นพูดอย่างเย็นชา มือของเขายังคงอยู่เหนือหัวหานเซิ่นและปล่อยให้เลือดสีฟ้าหยดลงมาทั่วร่างของหานเซิ่น
“เจ้ากล้าดียังไง” เหล่าเทพสปิริตเกรี้ยวโกรธ วิหารพระเจ้าทั้งหมดระเบิดด้วยแสงแห่งเทพ ออร่าที่น่ากลัวนับไม่ถ้วนถูกปล่อยออกมา มันเหมือนกับว่าเทพสปิริตมากมายกำลังจะออกมาฆ่าชายที่อยู่ใต้ร่มสีแดง
“ถ้าข้าไม่กล้า ข้าจะฆ่าเทพสปิริตทั้งหมดได้ยังไง?”
เสียงของชายคนนั้นสงบเหมือนกับน้ำนิ่ง ในตอนที่เขาพูดออกมา เทพสปิริตมากมายนั้นโกรธยิ่งกว่าเดิม แสงแห่งเทพระเบิดออกมาจากทุกวิหารพระเจ้าเหมือนกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุ มันเหมือนกับว่าเทพสปิริตทั้งหมดกำลังจะพังวิหารเพื่อออกมา
ทุกสิ่งมีชีวิตของจักรวาลรู้สึกหนาว ขณะที่พวกเขามองดูเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ถึงแม้ออร่าของเทพสปิริตจะไม่ได้มุ่งเป้ามาที่พวกเขา แต่มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวและต้องการจะหนีไปอยู่ดี
ชายคนนั้นทำเหมือนกับว่าเขาไม่เห็นถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมและปล่อยให้เลือดสีฟ้าหยดลงไปบนตัวของหานเซิ่น
ตอนที่ 3002 มันเริ่มแล้ว
เงาร่างกายที่อยู่หน้าประตูของจีโนฮอลล์ไม่ได้ทำอะไร เขาแค่มองมาทางหานเซิ่นที่ถูกปกคลุมไปด้วยเลือดสีฟ้าและพูด
“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจกับเรื่องนี้”
หลังจากที่พูดอย่างนั้น เงานั่นก็หายกลับเข้าไปในแสงสว่างของจีโนฮอลล์ ก่อนที่ประตูของจีโนฮอลล์จะปิดลงอีกครั้ง
ทุกสิ่งมีชีวิตคิดว่ามันกำลังจะมีการต่อสู้ที่สั่นสะเทือนฟ้าดินเกิดขึ้น แต่ใครจะรู้ว่ามันจะจบลงแบบนั้น หลังจากที่ประตูของจีโนฮอลล์ปิดลง แสงแห่งเทพที่ออกมาจากวิหารพระเจ้าก็ดับไปเช่นกัน ความเงียบกลับคืนมาสู่ปราสาทของพระเจ้าอีกครั้ง
“โอ้มายก็อต! ถึงแม้เทพสปิริตทุกคนจะถูกเหยียดหยามแบบนั้น แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรชายคนนั้นอย่างนั้นหรอ? ชายคนนั้นเป็นใครกัน? เขามาจากเผ่าพันธุ์ไหน?”
“เขาคงจะไม่ได้เป็นหัวหน้าของเวรี่ไฮหรอกใช่ไหม?”
“เผ่าเวรี่ไฮนั้นแข็งแกร่ง แต่พวกเขาไม่แข็งแกร่งพอจะทำให้เหล่าเทพสปิริตหวาดกลัวได้แบบนั้น”
“เขาต้องการทำอะไรกับก็อดฟาเธอร์หาน?”
ทุกเผ่าพันธุ์พูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาพยายามคาดเดาถึงตัวตนของผู้ชายและผู้หญิงสองคนนั้น และคาดเดาว่าพวกเขาต้องการจะทำอะไร
สีหน้าของผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาเปลี่ยนไป “ถึงแม้ปราสาทของพระเจ้าจะถูกเปิดเผยออกมา แต่เทพสปิริตก็ยังต้องทำตามกฎของปราสาทพระเจ้า พวกเขาต้องอยู่เฝ้าวิหารของตัวเอง ชายคนนั้นพูดด้วยความดูถูก แต่ถึงอย่างนั้นคนที่อยู่ภายในจีโนฮอลล์ก็ยังยินดีจะปล่อยเขาไปอย่างนั้นหรอ? นั่นหมายความว่าชายนั้นคือผู้นำเซเคร็ดอย่างนั้นใช่ไหม?”
ผู้นำปราสาทนภามองไปที่ชายคนนั้นอยู่นานก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“เขาไม่ใช่ผู้นำเซเคร็ด ถึงแม้เลือดของเขาจะดูเหมือนกับเลือดของผู้นำเซเคร็ด แต่ทั้งเจ้าและข้าต่างก็รู้ดีว่าผู้นำเซเคร็ดนั้นตายไปแล้ว เขาไม่ใช่ผู้นำเซเคร็ด”
“ไม่สำคัญว่าเขาจะใช่หรือไม่ ชายคนนี้ทำให้คนที่อยู่ภายในจีโนฮอลล์ยำเกรงได้ ข้ากลัวว่าเขาคงจะเป็นปัญหาใหญ่ ทำไมเขาถึงได้อาบหานเซิ่นด้วยเลือดของเขา? เขาทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกัน?” ผุ้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาพูด
ผู้นำปราสาทนภาพูด “เจ้าบอกว่าหานเซิ่นมาจากก็อตแซงชัวรี่อย่างนั้นสินะ ถ้านั่นเป็นความจริง เขาอาจจะไม่ได้มีสายเลือดคริสตัลไลเซอร์ที่บริสุทธิ์ ข้ากลัวว่าเรื่องนี้จะไม่ได้ง่ายอย่างที่ตาเห็น”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ชายคนนั้นดึงมือกลับ บาดแผลบนมือของเขาฟื้นตัวเรียบร้อยแล้ว ร่างกายของหานเซิ่นถูกย้อมด้วยเลือดสีฟ้า เขาดูเหมือนกับแฟรี่สีฟ้าที่เรืองด้วยแสงสีฟ้า
เลือดสีฟ้าถูกดูดซับเข้าไปราวกับว่าตัวเขาเป็นฟองน้ำ มันซึมเข้าไปในผิวของเขา ก่อนที่ร่างกายของหานเซิ่นจะกลับเป็นปกติ เขากลับมามีผมสีดำและผิวสีขาว
ในเส้นเลือดของหานเซิ่น เลือดสีแดงสดถูกแปดเปื้อนด้วยเลือดสีฟ้า มันกลายเป็นสีฟ้าเช่นกัน ชายที่ยืนอยู่ใต้ร่มก้าวถอยหลังออกไป ก่อนที่จะมองดูผลงานที่เขาทำขึ้นด้วยความสนใจ
หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเลือดในร่างกายของเขากำลังเดือด แม้แต่ไทม์ลูปก็ไม่อาจจะหยุดพลังสีฟ้าที่กำลังคำรามในร่างกายของเขาได้
เดิมทีเลือดสีแดงของเขานั้นตกผลึกเป็นคริสตัล แต่หลังจากที่สัมผัสกับเลือดสีฟ้า พวกมันก็เริ่มจะละลาย มันนำพาพลังประหลาดไหลไปตามอวัยวะภายในและกล้ามเนื้อของหานเซิ่น เส้นเลือดของเขาเป็นเหมือนกับงูสีฟ้าตัวเล็กๆจำนวนมาก
Roar!
หานเซิ่นมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและส่งเสียงร้องคำรามที่เจ็บปวดออกมา ในเสียงร้องนั้นร่างกายทั้งร่างของเขากำลังลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีฟ้าเหมือนกับภูเขาไฟที่ปะทุ
ในจังหวะที่ทั้งร่างกายของหานเซิ่นถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิง พลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดของพระเจ้าชั่วพริบตาก็ไม่มีผลต่อเขาอีกต่อไป เขาเป็นอิสระจากไทม์ลูป
“จริงๆด้วย หานเซิ่นไม่ใช่คริสตัลไลเซอร์บริสุทธิ์”
ผู้นำปราสาทนภาพูดพร้อมกับถอนหายใจ “ร่างกายของเขามีเลือดของผู้นำเซเคร็ด ไม่อย่างนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่ร่างกายของเขาจะรวมเข้ากับพลังของเลือดสีฟ้า”
“พวกเจ้าเป็นใครกัน?” หลังจากที่หานเซิ่นเป็นอิสระ เขาก็ถามขึ้นมาขณะที่มองไปยังชายที่อยู่ใต้ร่ม ตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังประหลาด
ถึงแม้หานเซิ่นคิดว่าชายคนนี้คือจักรพรรดิมนุษย์ แต่เขาไม่ได้แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์
“ไม่สำคัญว่าข้าเป็นใคร เจ้าแค่จำเป็นต้องรู้ว่าพลังของเจ้าคือสิ่งที่ข้ามอบให้ก็เพียงพอแล้ว”
หลังจากที่พูแบบนั้น ชายคนนั้นก็หันหลังและเดินออกไปจากวิหารพระเจ้าชั่วพริบตา ผู้หญิงชุดแดงยังคงถือร่มเดินตามไปจากด้านหลัง พวกเขาทั้งสองคนออกไปจากปราสาทพระเจ้าและหายตัวไปในอวกาศ
หานเซิ่นไม่มีเวลามาหาว่าชายคนนั้นเป็นใครกันแน่ การแก้ไขปัญหาในตอนนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เขาไม่สามารถปล่อยให้เป่าเอ๋อถูกกักขังอยู่ที่นี่ได้
หานเซิ่นวิ่งเข้าไปหาพระเจ้าชั่วพริบตาพร้อมกับไลท์ซิสเซอร์ในมือ มังกรสีขาวและดำสองตัวพุ่งตรงเข้าไปที่คอของเธอ
Katcha-cha!
แต่พลังของไลท์ซิสเซอร์ตัดได้เพียงแค่เส้นผมของพระเจ้าชั่วพริบตาไม่กี่เส้นและทิ้งรอยแดงไว้บนคอของเธอเท่านั้น ซึ่งไม่นานเมื่อถึงลูปต่อไปพระเจ้าชั่วพริบตาก็กลับเป็นปกติ
“ถึงแม้ไลท์ซิสเซอร์จะตัดพลังการเวลาได้ แต่พลังทำลายล้างของมันไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก ตอนนี้ที่เราหลุดออกมาจากไทม์ลูปได้ก็เพราะเรามีเลือดสีฟ้า ส่วนคนอื่นยังคงติดอยู่ในไทม์ลูป มันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์สำหรับเราที่จะฆ่าพระเจ้าชั่วพริบตา เพราะตราบใดที่ไทม์ลูปยังอยู่ เธอก็จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง”
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขารู้สึกได้ถึงพลังของเลือดสีฟ้าในร่างกาย แต่เขาไม่สามารถใช้พลังนั้นได้
เขาจึงล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าพระเจ้าชั่วพริบตาและบินไปหาซันมูนก็อตเอปแทน หานเซิ่นต้องการจะลองดึงอีกฝ่ายออกไปจากวิหารพระเจ้าชั่วพริบตา
หานเซิ่นไม่กล้าใช้เป่าเอ๋อหรือโกลเด้นโกรวเลอร์เป็นตัวทดลอง ด้วยเหตุนั้นเขาจึงลองกับซันมูนก็อตเอปก่อนเป็นคนแรก
แต่หานเซิ่นค้นพบว่าเขาไม่สามารถลากซันมูนก็อตเอปออกไปจากไทม์ลูปได้ มันไม่สำคัญว่าซันมูนก็อตเอปจะถูกลากไปทางไหน เขาก็กลับมาปรากฏภายในวิหารอีกครั้งเมื่อถึงลูปต่อไป ร่างกายของเขาไม่สามารถออกไปจากเขตแดนของวิหารพระเจ้าชั่วพริบตาได้
“เราจะทำยังไงดี?” หานเซิ่นพยายามคิดหาวิธี ในตอนนี้เขามีพลังของเลือดสีฟ้า เขาสามารถเมินเฉยต่อพลังของชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดและหนีออกไปจากที่นี้ได้ แต่เป่าเอ๋อและโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นจะยังคงติดอยู่ที่นี่ หานเซิ่นไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนั้นได้
ในสถานการณ์แบบนี้ ถึงแม้หานเซิ่นจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด ซึ่งจะทำให้เขาไม่ได้รับผลกระทบจากไทม์ลูป แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยเป่าเอ๋อกับโกลเด้นโกรวเลอร์ได้อยู่ดี
‘พลังของเลือดสีฟ้าไม่ได้รับผลกระทบจากไทม์ลูป ถ้าเราควบคุมพลังนี้ เราจะใช้มันฆ่าพระเจ้าชั่วพริบตาได้ไหมนะ’
หานเซิ่นนึกถึงตอนที่ชายคนนั้นหยดเลือดสีฟ้าลงบนตัวของเขา ดูเหมือนว่าอะไรก็ตามที่เลือดสีฟ้าสัมผัสจะไม่ได้รับผลกระทบจากไทม์ลูป
หานเซิ่นพยายามจะควบคุมพลังของเลือดสีฟ้า แต่ผลลัพธ์ไม่ดีนัก มันเหมือนกับว่าพลังนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะควบคุมได้
หานเซิ่นลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะตัดสินใจใช้วิชาโลหิตชีพจร เขารู้ว่ามันต้องมีวิชาจีโนที่สามารถควบคุมพลังของเลือดสีฟ้าได้อยู่ แต่เขายังคงรู้สึกกังวล ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้วิชาโลหิตชีพจรตอนแรก แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถมัวมาสนใจเรื่องแบบนั้นได้
ทันทีที่เขาใช้วิชาโลหิตชีพจร พลังของเลือดสีฟ้าในร่างกายของเขาก็ไหลตามกระแสพลังของวิชาโลหิตชีพจร แต่ความเร็วในการไหลของเลือดสีฟ้านั้นเร็วกว่าความเร็วของโลหิตชีพจร มันไม่ใช่วิชาโลหิตชีพจรที่ควบคุมพลังของเลือดสีฟ้า แต่เป็นพลังของเลือดสีฟ้าที่กำลังดึงโลหิตชีพจรอย่างบ้าคลั่ง
ภายในปราสาท จักรพรรดิมนุษย์หลี่ตา เมื่อเขาเห็นว่าดวงตาของหานเซิ่นเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เขาก็พูดกับตัวเอง “มันเริ่มแล้ว”
ตอนที่ 3003 มนุษย์ที่แท้จริง
หานเซิ่นกางแขนออกโดยจิตใต้สำนึก เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคำรามออกมา ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีฟ้าและส่องประกายด้วยแสงที่น่ากลัว
สมองของหานเซิ่นยังคงปลอดโปร่ง แต่ร่างกายของเขาหิวกระหายอย่างมาก มันเหมือนกับว่าเขาเป็นคนขี้ยา หานเซิ่นรู้ว่าสิ่งนี่ไม่ควรจะดำเนินต่อไป แต่ปฏิกิริยาทางร่างกายของเขาทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
แสงสีฟ้ากระพริบและร่างกายของหานเซิ่นก็ฝ่ามิติของอวกาศ จู่ๆเขาไปปรากฏตัวตรงหน้าพระเจ้าชั่วพริบตา เขายื่นมือออกไปจับที่คอของเธอและยกตัวเธอขึ้น
พระเจ้าชั่วพริบตานั้นติดอยู่ในไทม์ลูป ดังนั้นเธอไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ เธอทำได้แต่มองดู
หานเซิ่นรู้สึกเหมือนกับว่ามันมีอสูรที่ต้องการจะฆ่าฟันทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายในตัวของเขา เขาจับพระเจ้าชั่วพริบตาที่คอและออกแรงบีบด้วยพลังที่น่ากลัว
มากกว่าครึ่งนั้นเป็นพลังของเลือดสีฟ้า มีเพียงแค่ส่วนน้อยที่เป็นพลังของตัวหานเซิ่นเอง วิชาจีโนแต่ละวิชาของเขาสูญเสียประสิทธิภาพของพวกมันไป นอกจากวิชาโลหิตชีพจรแล้ว วิชาอื่นๆนั้นไม่สามารถใช้งานได้
ภายใต้การชักนำของเลือดสีฟ้า การทำงานของวิชาโลหิตชีพจรก็แสดงความเปลี่ยนแปลงประหลาด แต่หานเซิ่นคุ้ยเคยกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้จักรพรรดิมนุษย์เคยมอบส่วนที่เหลือของวิชาโลหิตชีพจรให้กับเขา และความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นก็คือส่วนที่เหลือนั้น
คอของพระเจ้าชั่วพริบตาถูกหานเซิ่นบีบจนมีรอยสีฟ้าเกิดขึ้น แม้แต่ไทม์ลูปก็ไม่สามารถลบรอยบาดแผลสีฟ้าได้ แต่บาดแผลเพียงแค่นั้นยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าพระเจ้าชั่วพริบตา
หานเซิ่นกวัดแกว่งฝ่ามือเหมือนกับมีด เขาฟันใส่พระเจ้าชั่วพริบตาที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ บาดแผลบนเนื้อหนังและกระดูกของเธอนั้นเปลี่ยนเป็นสีฟ้า
หลังจากที่ได้รับพลังจากเลือดสีฟ้า หานเซิ่นก็สามารถใช้มือเปล่าเพื่อสร้างบาดแผลกับร่างกายของพระเจ้าชั่วพริบตาได้อย่างคาดไม่ถึง ก่อนหน้านี้ถึงหานเซิ่นจะใช้ไลท์ซิสเซอร์ เขาก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลบนผิวหนังของเธอได้
ทั้งจักรวาลตกอยู่ในความเงียบ พวกเขาจ้องมองไปยังหานเซิ่นที่กำลังฉีกพระเจ้าชั่วพริบตาเป็นชิ้นๆ ไม่นานหนังจากนั้นเขาก็บดขยี้สมองของเธอ ในจังหวะที่สมองของพระเจ้าชั่วพริบตาถูกทำลาย พลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดก็แตกสลายและจางหายไป
“เทพสปิริตพระเจ้าชั่วพริบตาขั้นแอนิฮิเลชั่นถูกฆ่า คุณได้รับเทพสปิริต”
วินาทีต่อมา หานเซิ่นเห็นซากศพของพระเจ้าชั่วพริบตากลายเป็นผุยผงในท้องฟ้า ผุยผงนั้นมารวมตัวกันเป็นเข็มเล่มหนึ่ง หานเซิ่นหยิบเข็มขึ้นมาและได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นในหัวอีกครั้ง
“คุณได้รับอาวุธประจำตัวพระเจ้าขั้นแอนนิฮิเลชั่น: เข็มชั่วพริบตา”
พลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดนั้นจบลงแล้ว และมิติอวกาศของวิหารก็กลับเป็นปกติ ไม่นานเป่าเอ๋อ ราชาไป๋และคนอื่นเป็นอิสระจากไทม์ลูป
หานเซิ่นจ้องไปทางเป่าเอ๋อที่ตอนนี้อยู่ในร่างของดอลลาร์ สมองของเขารู้ถึงเรื่องนั้น แต่ร่างกายของเขารู้สึกราวกับว่าต้องการจะฆ่าเป่าเอ๋อ
“เกิดอะไรขึ้น?” หานเซิ่นตกใจ แต่เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ เขายกมือขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ นิ้วมือทั้งห้าของเขากำลังสั่นอย่างรุนแรง
หานเซิ่นไม่มีเวลาคิด เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะควบคุมร่างกายตัวเองเพื่อออกไปจากวิหารพระเจ้า เขากลัวว่าถ้ายังอยู่ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว เขาจะสูญเสียการควบคุมตัวเองและพยายามฆ่าเป่าเอ๋อ
หานเซิ่นบังคับร่างกายตัวเองให้รีบออกไปจากวิหารพระเจ้าชั่วพริบตา ในการทำแบบนั้นร่างกายของหานเซิ่นก็สั่นไม่ยอมหยุด เขารู้สึกว่าราวกับว่าเขาต้องการจะหันกลับไปและฆ่าเป่าเอ๋อ
หานเซิ่นต้องการจะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น แต่เขาสังเกตว่าเขาไม่สามารถใช้วิชาก็อตส์วอนเดอร์ได้ พลังเลือดสีฟ้านั้นหยุดพลังอย่างอื่นทุกอย่างในร่างกายของเขา
แต่ถึงกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจะใช้งานไม่ได้ ร่างกายของเขาก็ยังบังคับมิติของอวกาศให้เปิดออกเพื่อเทเลพอร์ตไปที่อื่น นั่นเป็นพลังที่มาจากเลือดสีฟ้า
ปัง!
หานเซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองเทเลพอร์ตไปที่ไหน เขาเห็นดาวเคราะห์น้อยจำนวนมากรอบตัว ร่างกายของเขาชนเข้ากับดวงดาวอย่างรุนแรง เขาเป็นเหมือนกับอุกกาบาตที่พุ่งเข้ามาชนดวงดาวจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ พื้นดินเป็นเหมือนกับคลื่นทะเลที่กระจายออกรอบทิศทางเป็นระยะกว่าพันไมล์
หานเซิ่นคุกเข่าอยู่ที่ใจกลางหลุม ร่างกายของเขากำลังสั่นรัว ถึงแม้เขาจะออกห่างจากเป่าเอ๋อ แต่เขาก็ยังคงมีความต้องการจะฆ่าเธออยู่
“เลือดสีฟ้า… เลือดสีฟ้ามันมีปัญหา…” หานเซิ่นมีเหงื่อท่วมตัว ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการที่เขาพยายามต่อต้านร่างกายตัวเอง
จิตใจของเขาไม่สามารถรวมเป็นหนึ่งกับร่างกายได้ มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกแย่มากๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดดังขึ้นมาไม่ไกลไปจากหานเซิ่น
“อย่าพยายามต่อต้านมัน นั่นคือพลังที่แท้จริงของเจ้า นั่นคือสิ่งที่เจ้าเป็น ปล่อยให้เลือดสีฟ้าเติมเต็มทุกซอกทุกมุมในร่างกายของเจ้า ให้มันกระตุ้นร่างกายของเจ้า และเจ้าจะเปิดใช้พลังที่แท้จริงของตัวเองได้”
หานเซิ่นพยายามเงยหน้าขึ้นมามองอย่างยากลำบาก เขาเห็นผู้หญิงในชุดสีแดงกำลังยืนถือร่มอยู่ในมือ และไม่ไกลไปจากเธอมีชายคนหนึ่งกำลังมองมาที่เขาจากใต้ร่มคันนั้น
หานเซิ่นกัดฟันและถาม “เจ้าทำอะไรกับข้า?” แม้แต่เสียงของเขาก็ยังสั่น
“ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้ทำอะไรกับเจ้า” ชายคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม
“สิ่งที่เจ้าควรจะถามคือตอนนี้เจ้าต้องการทำอะไร? เจ้ายังไม่รู้จักตัวเอง เจ้ายังไม่รู้ถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ เจ้าไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตัวเจ้านั้นต้องการอะไรกันแน่”
“ข้ารู้ว่าตัวเองเป็นใคร และข้ารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ข้ารู้ว่าข้าไม่ได้ต้องการเลือดสีฟ้า” ร่างกายของหานเซิ่นสั่นไม่ยอมหยุด เหงื่อไหลลงมาบนใบหน้าของเขา
พลังของเลือดสีฟ้านั้นแข็งแกร่งเกินไป เพียงแค่เขาจะควบคุมร่างกายตัวเองก็เป็นอะไรที่ยากอย่างที่สุดแล้ว
“เจ้ารู้จริงๆหรือว่าเจ้าเป็นใคร?” ชายคนนั้นออกมาจากใต้ร่มสีแดงและย่อตัวลงข้างๆหานเซิ่น เขายื่นมือออกไปจับคางของหานเซิ่นและมองมาด้วยรอยยิ้ม
“จักรพรรดิมนุษย์… เป็นเจ้าจริงๆด้วย…”
ในที่สุดหานเซิ่นก็ได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย มันเป็นใบหน้าที่หล่อเหลาและมีออร่าพิเศษที่ผู้คนปกติไม่มี มันเหมือนกับว่าเขาสูงส่งเหนือผู้อื่น
จักรพรรดิมนุษย์ยกคางของหานเซิ่นขึ้น เขาหัวเราะและพูด
“ลูกหลานของข้า เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร เจ้าแตกต่างไปจากคนที่เจ้าคิดว่าตัวเองเป็น”
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร เอาเลือดสีฟ้าของเจ้าออกไปจากร่างกายของข้า” หานเซิ่นต้องการจะหันหน้าหนีออกจากมือของจักรพรรดิมนุษย์ แต่ร่างกายของเขานั้นไม่ยอมเชื่อฟัง
“ลูกหลานของข้า เจ้าคือทายาทของข้า ร่างกายของเจ้ามีสายเลือดของข้าไหลเวียนอยู่ และตอนนี้เจ้าก็มีเลือดของข้า จากนี้เป็นต้นไปเจ้าคือมนุษย์ที่แท้จริง”
จักรพรรดิมนุษย์ลูบแก้มของหานเซิ่น เขายิ้มและพูดต่อ “อีกไม่นานเจ้าจะเข้าใจถึงความภาคภูมิและความสูงส่งของการเป็นมนุษย์ เจ้าจะเพลิดเพลินกับมัน”
“ข้าไม่ได้ต้องการเป็นมนุษย์ที่แท้จริงอะไรนั่น ข้าคือตัวข้าเอง ข้าคือหานเซิ่น” หานเซิ่นกัดฟันขณะที่พูดออกมา
“นั่นไม่เป็นไปได้ลูกหลานของข้า เพลิดเพลินกับการเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ในเวลาเพียงไม่นานเจ้าะขอบคุณข้าและกลับมาหาข้า”
จักรพรรดิมนุษย์ใช้นิ้วเช็ดเหงื่อบนแก้มของหานเซิ่น หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินจากไป
หานเซิ่นพยายามพยุงร่างกายตัวเองด้วยสองมือและเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขาเห็นผู้หญิงชุดแดงที่กำลังถือร่มเดินจากไปพร้อมกับจักรพรรดิ และในชั่วพริบตาพวกเขาก็หายตัวไป
ตอนที่ 3004 ทุกคนต้องตาย
พลังของเลือดสีฟ้าเกือบจะท่วมท้นทั่วร่างกายของเขา มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ พลังของเลือดสีฟ้านั้นแข็งแกร่งมากๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็มอบความรู้สึกของการละทิ้งให้กับหานเซิ่น พลังทุกอย่างที่เขาสั่งสมมาถูกผลักดันออกไปจากร่างกาย มันเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยรู้จักกำลังถูกทิ้งไป
“เวรเอ้ย!” หานเซิ่นเกลียดชังความรู้สึกนี้ที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพยายามจะต่อสู้กับพลังของเลือดสีฟ้า แต่พลังของตัวเขาเองนั้นไม่แข็งแกร่งเหมือนอย่างพลังของเลือดสีฟ้า ร่างกายของเขากำลังเสียการควบคุม
มันไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ เขาแค่จำเป็นต้องทำตามความต้องการของเลือดสีฟ้า หลังจากนั้นเขาก็จะควบคุมร่างกายตัวเองได้ แต่หานเซิ่นไม่ต้องการทำตามที่เลือดสีฟ้าต้องการ
กายหยก… ใช้ไม่ได้… ศาสตร์ตงเสวียน… ก็ใช้ไม่ได้เช่นเดียวกัน
หานเซิ่นลองใช้วิชาจีโนหลายต่อหลายวิชา แต่เขาสัมผัสถึงพลังของพวกมันไม่ได้เลย แม้แต่เรื่องราวของยีนก็ไม่มีปฏิกิริยา
เขาต้องการจะกลายเป็นซีโน่เจเนอิค แต่เขาก็ยังคงไม่ได้รับปฏิกิริยาตอบสนองจากร่างกายเช่นเดียวกัน
‘หว่านเอ๋อร์ยังคงอยู่ในหอคอยแห่งโชคชะตา ร่างกายของเราสูญเสียการควบคุม ดังนั้นเราจึงเอาเธอออกมาไม่ได้ เราคงจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดได้ไม่นาน แต่ตอนนี้มันไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เราจำเป็นต้องลองดู’
ในจังหวะที่หานเซิ่นเตรียมตัวจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด จู่ๆหลังของเขาก็รู้สึกร้อนขึ้นมา มันเจ็บปวดอย่างมากจนทำให้เขาต้องส่งเสียงร้องออกมา
ตอนนี้หานเซิ่นไม่สามารถใช้ศาสตร์ตงเสวียนได้ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแผ่นหลังของตัวเอง แต่หลังจากที่แผ่นหลังของเขาร้อนขึ้นมา พลังของเลือดสีฟ้าก็หยุดกัดกร่อนร่างกายของเขาโดยเฉพาะบริเวณหลังของเขา พลังของเลือดสีฟ้าไม่สามารถเข้าครอบงำส่วนนั้นได้ ในตอนที่เลือดสีฟ้าไปถึงหลังของเขา พวกมันก็ละเหยไปด้วยความร้อน
ถึงแม้มันจะกำจัดพลังของเลือดสีฟ้าไม่ได้ทั้งหมด แต่มันก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม เขาพยายามเอากระจกออกมาและดึงเสื้อคลุมสีฟ้าออกเพื่อจะดูแผ่นหลังของตัวเอง
ในตอนที่เขาเห็นหลังของตัวเอง หานเซิ่นก็รู้สึกแปลกใจ บนแผ่นหลังของเขามีสีแดงของเลือดอยู่ รอยสักแมวเก้าชีวิตปรากฏขึ้นบนหลังของเขา มันเป็นรอยสักแมวเก้าชีวิตเดียวกับที่อยู่บนหลังของซีโร่
หานเซิ่นคิด ‘ทำไมรอยสักแมวเก้าชีวิตถึงปรากฏขึ้นอีกครั้ง? มันถูกดูดซับเข้าไปแล้วไม่ใช่หรอ?’
เมื่อก่อนนั้นในตอนที่สร้อยคอแมวเก้าชีวิตรวมเข้ากับเขา เขาก็ได้รับรอยสักแมวเก้าชีวิตมา แต่ในภายหลังรอยสักก็ถูกดูดซับไป ขณะที่เขาฝึกวิชาโลหิตชีพจร
ตอนนี้ขณะที่เลือดสีฟ้ากำลังเข้ายึดครองร่างกายของหานเซิ่น รอยสักแมวเก้าชีวิตที่หายไปก็กลับคืนมาอีกครั้ง มันสามารถต่อต้านการคุกคามของเลือดสีฟ้า และไม่ปล่อยให้เลือดสีฟ้าเข้ายึดครองร่างกายของเขา
หานเซิ่นคิด ‘ในอดีตสร้อยคอแมวเก้าชีวิตมีผลต่อต้านเลือดสีฟ้า ถึงแม้เราจะดูดซับมันเข้าไป ผลต่อต้านของมันก็ยังคงอยู่ แต่เลือดสีฟ้าของจักรพรรดิมนุษย์นั้นทรงพลังเกินไป แม้แต่พลังของสร้อยคอแมวเก้าชีวิตก็ไม่อาจจะขับพลังของเลือดสีฟ้าออกไปจนหมดได้’
พลังของเลือดสีฟ้าและพลังของรอยสักแมวเก้าชีวิตนั้นถูกใช้งานโดยวิชาโลหิตชีพจรเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ต่อต้านกันและกัน
แต่พลังของรอยสักแมวเก้าชีวิตนั้นอ่อนแอกว่า และมันก็อัดแน่นอยู่แค่บนแผ่นหลังของเขาเท่านั้น เลือดสีฟ้ายังคงยึดครองร่างกายส่วนอื่นของหานเซิ่น พลังทั้งสองกำลังต่อสู้กันในร่างกายของหานเซิ่นโดยที่ไม่มีฝ่ายไหนเป็นฝ่ายชนะ
หานเซิ่นเริ่มพอจะควบคุมร่างกายตัวเองได้บ้างแล้ว เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะลุกขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน และเขาก็ไม่สามารถใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นได้
“นั่นน่าจะเป็นดาวเคราะห์ที่มีผู้คนอยู่อาศัย” หานเซิ่นมองไปรอบๆและสังเกตเห็นว่ามันมีดาวเคราะห์ขนาดใหญ่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่ มันดูใกล้ยิ่งกว่าดวงจันทร์กับโลกมนุษย์ เขามองเห็นภูเขาและต้นไม้บนดาวเคราะห์ดวงนั้น
หานเซิ่นมองดูอีกสักพัก และเขาก็สังเกตเห็นสิ่งก่อสร้างบนดาวเคราะห์ใกล้ๆ เขาบังคับร่างกายตัวเองให้บินออกไปที่ดาวดวงนั้น ตอนนี้หานเซิ่นใช้ได้แค่พลังของร่างกายเพื่อบินออกไป เขาอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนกันแน่
เลือดสีฟ้าและเลือดสีแดงของรอยสักแมวเก้าชีวิตกำลังทำสงครามกันภายในร่างกายของเขา ความรู้สึกจากการถูกกัดกร่อนนั้นเป็นอะไรที่เจ็บปวดอย่างที่สุด และนอกจากนั้นหานเซิ่นก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้อย่างเต็มที่ แม้จะบินในระยะใกล้ๆแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาเซไปเซมาราวกับว่าเขากำลังจะร่วงลงมาได้ทุกเมื่อ
ปัง!
ในตอนที่หานเซิ่นเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ เขาก็ถูกดึงดูดโดยแรงโน้มถ่วงของดวงดาว เขาไม่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงได้และร่วงลง
โชคดีที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่ง เขาตกลงมาจากที่สูงและชนเข้ากับกิ่งไม้ระหว่างที่ร่วงลงมา ทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก
หานเซิ่นลุกขึ้นมาจากพื้นและบินออกไปหาสิ่งก่อสร้างที่อยู่บนภูเขาที่เขาสังเกตเห็น หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็บินไปถึงสิ่งก่อสร้างนั้น แต่ในตอนที่เขาเห็นว่าสิ่งก่อสร้างนั้นมีหน้าตาเป็นยังไง เขาก็รู้สึกผิดหวัง
มันเป็นบ้านไม้ที่ดูเก่ามากๆ เมื่อดูจากวัสดุและสไตล์ของมันแล้ว เทคโนโลยีของดาวเคราะห์ดวงนี้คงจะยังไม่ถึงยุคสมัยของการเดินทางระหว่างดวงดาว
“ไหนๆเราก็มาถึงที่นี่แล้ว บางทีเราควรจะเข้าไปถามดู”
หานเซิ่นบินลงไปตรงหน้าประตู เขาต้องการจะเคาะ แต่เขาเห็นประตูเปิดออกมาก่อน
“ข้ารอคอยเจ้ามาเป็นเวลานาน เข้ามาข้างใน” ชายแก่ที่เปิดประตูยิ้มให้กับหานเซิ่นและเดินกลับเข้าไปในบ้าน
“เจ้าเป็นใครกัน?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
“เข้ามาข้างในก่อนสิ เจ้าตกอยู่ในสภาพแบบนั้นเรียบร้อยแล้ว มันยังมีอะไรต้องกลัวอีก” ชายแก่ไม่ได้หันกลับมามอง
หานเซิ่นคิดว่าชายแก่นั้นพูดถูก เขาเป็นแบบนี้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเขายังต้องกลัวอะไรอีก
หานเซิ่นเดินเข้าไปในบ้านเก่าและเข้าไปยังห้องนั่งเล่นร่วมกับชายแก่
ห้องนั่งเล่นนั้นดูเก่ามากเช่นเดียวกับตัวบ้าน มันมีโต๊ะสี่เหลี่ยมตั้งอยู่ข้างใน แต่สีแดงที่เคยถูกทาเอาไว้นั้นลอกออกไปหมดแล้ว มันดูเก่ามากๆ
“ดื่มอะไรหน่อยไหม” ชายแก่นั่งลงบนเก้าอี้ไม้และโยนน้ำเต้าไวน์ให้กับหานเซิ่น
หานเซิ่นรับน้ำเต้าไวน์มาโดยที่ไม่ได้พูดอะไร เขาเปิดฝาออกและยกมันขึ้นดื่ม เขาไม่ได้กังวลอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ภายใต้พลังของเลือดสีฟ้า มันมีน้อยพิษมากที่จะทำร้ายร่างกายของเขาได้
“ถ้าเจ้าต้องการบางสิ่ง ก็บอกข้ามาตรงๆ” หานเซิ่นโยนน้ำเต้าไวน์คืนให้กับชายแก่และนั่งลงบนขอบประตู
ชายแก่ยกไวน์ดื่มเช่นกัน หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มให้กับหานเซิ่นและถาม
“เจ้าเชื่อในโชคชะตาไหม?”
“เชื่อ แต่ไม่ทั้งหมด” หานเซิ่นตอบ
“อะไรที่ทำให้เจ้าพูดแบบนั้น?” ชายแก่ถามด้วยความสนใจ
“มันมีหลายสิ่งในชีวิตที่ถูกชะตากำหนดเอาไว้แล้ว แต่ถ้าเราต้องการเพิ่ม เราก็ต้องต่อสู้เพื่อมัน” หานเซิ่นพูด
ชายแก่มองหานเซิ่นและถาม “ถ้าข้าจะบอกเจ้าว่า เจ้าและครอบครัวของเจ้าถูกชะตากำหนดให้ตาย เจ้าจะเชื่อข้าไหม?”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น