Super God Gene 2967-2973

ตอนที่ 2967 พระเจ้าชั่วพริบตา

 

สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป เขาจ้องไปที่โกลเด้นโกรวเลอร์และสังเกตได้ว่าพลังชีวิตของมันยังไม่ได้ดับไป แต่เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้พลังชีวิตของมันดูอ่อนลงไปอย่างมาก ร่างกายของมันยังคงอยู่ในท่ากระโจนออกไปข้างหน้า ดูเหมือนกับว่าโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นแค่ถูกแช่แข็งอยู่กับที่


 


“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมโกลเด้นโกรวเลอร์ถึง..?” หานเซิ่นคิดไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่


 


ปีศาจสาวดูเหมือนจะเข้าใจว่าหานเซิ่นกำลังมองไปที่โกลเด้นโกรวเลอร์ เธอมองขึ้นไปที่วิหารพระเจ้าและพูด


“เรียนนายท่าน วิหารนั่นคือวิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา เมื่อก่อนในตอนที่เหล่าเทพสปิริตจุติลงมา พระเจ้าชั่วพริบตาก็อยู่ด้วย เขาเป็นเทพสปิริตที่ควบคุมการเวลา ถ้าข้าดูไม่ผิด โกลเด้นโกรวเลอร์นั่นจะต้องถูกพลังชั่วพริบตานิรันดร์กาลของเขาเข้า จังหวะนั้นจะคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์ ชั่วพริบตาคือชั่วนิรันดร์ ข้ากลัวว่าโกลเด้นโกรวเลอร์จะถูกขังอยู่ในชั่วพริบตานั้นและไม่มีวันหนีออกมาได้”


 


หานเซิ่นรีบถาม “เขาเป็นเทพสปิริตระดับสูงอย่างนั้นหรอ? นี่เทพสปิริตถูกแบ่งออกเป็นกี่ระดับกัน? แล้วถ้าเทียบกับพลังของพระเจ้าชั่วพริบตากับสิ่งมีชีวิตของจักรวาลล่ะ?”


 


ปีศาจตอบ “จากที่พวกเรารู้ เทพสปิริตมีอยู่ด้วยกันสี่ระดับ คือเดสทรัคชั่น ดิแซสเตอร์ แอนนิฮิเล​ชันและรีบูท ถ้าจะพูดถึงพลังของพวกเขา มันก็ยากจะบอกได้ ถึงเทพสปิริตระดับสูงจะแข็งแกร่งกว่าเทพสปิริตระดับต่ำ แต่ในตอนที่พวกเขาเข้าสิงร่างกายของสิ่งมีชีวิตในจักรวาลเพื่อจุติลงมา พลังของพวกเขาก็จะถูกจำกัดโดยร่างกายของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ดังนั้นอย่างมากที่สุดพวกเขาก็เป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตเท่านั้น แม้แต่เทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเล​ชันก็ถูกฆ่าตายอย่างง่ายดายโดยท่านผู้นำ”


 


“แต่พลังของเทพสปิริตที่อยู่ในวิหารพระเจ้าจะสูงกว่านั้นมาก เมื่อก่อนถึงข้ากับอีแร้งแก่จะมีอาวุธประจำตัวพระเจ้าอยู่ แต่พวกเราก็พอจะสู้กับเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์ได้เท่านั้น พระเจ้าชั่วพริบตานั้นเป็นถึงเทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเล​ชัน ภายในวิหารพระเจ้าพวกเราแทบไม่มีทางจะต่อสู้กับเขาได้เลย”


 


หานเซิ่นขมวดคิ้วและพูด “เมื่อเทียบกับข้าที่มีสปิริตศักดิ์สิทธิ์อยู่ เจ้าคิดว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน?”


 


ปีศาจสาวและอีแร้งแก่ตกใจ พวกเขารีบพูดขึ้นมา “นายท่านอย่าได้ด่วนทำแบบนั้น ถึงสปิริตศักดิ์สิทธิ์จะถูกสร้างโดยท่านผู้นำ แต่พวกมันถูกออกแบบมาให้ใช้ร่วมกันทั้งสี่สปิริตศักดิ์สิทธิ์ แถมนายท่านยังต้องได้รับพลังเสริมจากตะเกียงเผ่าพันธุ์ นั่นคือวิธีที่นายท่านจะฆ่าเทพสปิริตระดับสูงได้ ในตอนนี้พลังของตะเกียงเผ่าพันธุ์ถูกใช้เพื่อทำลายบาเรียอวกาศไปแล้ว และนายท่านก็มีสปิริตศักดิ์สิทธิ์เดียวเท่านั้น ถ้านายท่านใช้แค่กิเลนศักดิ์สิทธิ์ ข้ากลัวว่าพลังของนายท่านจะแค่พอต่อสู้กับเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์เท่านั้น”


 


หานเซิ่นจ้องไปที่โกลเด้นโกรวเลอร์โดยที่ไม่ได้พูดอะไร ถึงมันจะดูเหมือนว่าโกลเด้นโกรวเลอร์แค่ถูกแช่แข็งอยู่กับที่เท่านั้น แต่หานเซิ่นสัมผัสได้ว่าพลังชีวิตของมันกำลังอ่อนลงไปเรื่อยๆ เขาคาดเดาว่าพลังชีวิตของโกลเด้นโกรวเลอร์จะดับลงในเวลาอีกเพียงไม่กี่ปี


 


ปีศาจสาวดูเหมือนจะเข้าใจถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เธอรีบพูดขึ้นมา


“เรียนนายท่าน การจะชนะพระเจ้าชั่วพริบตานั้นไม่ยากเกินไป จากที่ข้ารู้มันมีเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์ที่ชื่อโนเวิลด์ก็อตอยู่ อาวุธประจำตัวพระเจ้าโนเวิลด์ก็อตนั้นมีพลังโนเวิลด์อยู่ มันเป็นพลังที่จะไม่ถูกจำกัดโดยกาลเวลา นายท่านต้องไปฆ่าโนเวิลด์ก็อตก่อนและเอาอาวุธประจำตัวพระเจ้าของโนเวิลด์ก็อตไปต่อสู้กับพระเจ้าชั่วพริบตา แบบนั้นโอกาสชนะของนายท่านก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”


 


“พ่อ โกลเด้นโกรวเลอร์ดูเหมือนจะกำลังอยู่ในความเจ็บปวด พวกเราจะไม่ไปช่วยมันอย่างนั้นหรอ?” เป่าเอ๋อที่อยู่บนไหล่ของหานเซิ่นพูดขึ้นมา ขณะที่มองไปที่โกลเด้นโกรวเลอร์


 


หานเซิ่นยังคงไม่ได้พูดอะไร แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นอวกาศสั่นสะเทือนด้วยเสียงคำราม มีผู้หญิงที่มีร่างกายเหมือนกับงูและอสูรยักษ์สีเขียวเดินทางมุ่งหน้าไปที่วิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา


 


หานเซิ่นจดจำอสูรยักษ์ขนเขียวตัวนั้นได้ มันเป็นอสูรตัวเดียวกันกับที่ขโมยโกลเด้นโกรวเลอร์ไปจากเขาเมื่อนานมาแล้ว


 


แต่หานเซิ่นไม่ได้รู้เกี่ยวกับผู้หญิงที่ดูเหมือนกับงูนั่น เธอดูเหมือนกับคนที่มาจากเผ่ากาน่า


 


อีแร้งแก่แปลกใจเมื่อเห็นผู้หญิงที่ดูเหมือนกับงู “อะไรกัน? นี่เผ่ากาน่ายังมีคนที่เป็นขั้นทรูก็อตอยู่ด้วยอย่างนั้นหรอ? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับคนๆนี้มาก่อนเลย?”


 


ปีศาจสาวมองไปยังผู้หญิงที่ดูเหมือนกับงูและพูด “อัลฟ่าเผ่ากาน่านั้นมีน้องสาวฝาแฝดอยู่คนหนึ่ง ในตอนที่นางยังเล็ก นางถูกพาตัวไปโดยอสูรยักษ์ตัวหนึ่ง ข้าคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงจะเป็นนาง ส่วนอสูรขนเขียวที่มากับนางก็คงจะเป็นบีสต์คิงโกรวเลอร์จากเอมตี้เมาท์เทน”


 


“เมื่อก่อนผู้นำเอมตี้เมาท์เทนเป็นเพื่อนที่ดีของท่านผู้นำ” อีแร้งแก่พูด


“แต่เขาหายตัวไปหลังจากที่เข้าไปในจีโนฮอลล์ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าในจักรวาลนี้จะยังมีสายเลือดของเขาหลงเหลืออยู่”


 


เรดโกสต์ส่ายหัวและพูด “กาน่าหญิงคนนั้นกับอสูรขนเขียวต่างก็เป็นสิ่งมีชีวิตระดับท็อปของจักรวาล แต่มันบ้าเกินไปที่พวกเขาจะพยายามไปที่วิหารของพระเจ้าชั่วพริบตาเพื่อช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์”


 


ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน กาน่าหญิงและโกรวเลอร์ขนเขียวก็เข้าไปในเขตของปราสาทพระเจ้า พวกเขาตั้งใจจะโจมตีวิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา


 


“ผู้นำเมาท์เทนน้อย พวกเรามาช่วยท่านแล้ว!” โกรวเลอร์ขนเขียวคำรามขณะที่ร่างกายของมันเรืองแสงสีเขียวออกมา หลังจากนั้นมันก็พ่นเสาแห่งแสงสีเขียวออกไป


 


ในตอนที่เสาแห่งแสงกำลังจะไปถึงตัวโกลเด้นโกรวเลอร์ เสาแห่งแสงก็หยุดนิ่งไป มันยังอยู่ห่างจากร่างกายของโกลเด้นโกรวเลอร์ไปแค่สามฟุตเท่านั้น และมันไม่สามารถเข้าไปใกล้มากกว่านั้นได้


 


ถ้าคนๆหนึ่งเร่งเวลาสิ่งที่ตัวเองเห็นให้เร็วขึ้นหนึ่งร้อยเท่า คนๆนั้นก็จะเห็นว่าแสงแห่งแสงไม่ได้หยุดนิ่ง มันยังคงเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เพียงแต่ว่าความเร็วที่มันเคลื่อนที่ไปนั้นช้าจนเหมือนกับว่ามันไม่ได้เคลื่อนที่


 


หานเซิ่นรู้สึกตกใจเมื่อเห็นว่าร่างกายของโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นถูกปกคลุมด้วยอาณาเขตกาลเวลาที่เหมือนกับของไทม์โกสต์ แถมพลังของอาณาเขตกาลเวลานั้นก็น่ากลัวยิ่งกว่าอาณาเขตของไทม์โกสต์ซะอีก


 


ถึงอสูรขนเขียวจะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับท็อป แต่เมื่ออยู่ภายในอาณาเขตกาลเวลานั้น พลังของมันก็ดูเหมือนกับว่าหยุดเคลื่อนไหว


 


ไม่ มันไม่ได้หยุดเคลื่อนไหว เสาแห่งแสงสีเขียวนั้นกำลังจางหายไปเรื่อยๆภายในอาณาเขตกาลเวลา และตอนนี้มันก็ดับไปเรียบร้อยแล้ว มันไม่หลงเหลือแสงแม้แต่นิดเดียว


 


กาน่าหญิงกำลังถือคริสตัลลูกหนึ่งอยู่ ลูกคริสตัลนั้นปล่อยแสงสีแดงออกมา แต่แสงสีแดงนั้นก็ถูกดูดซับไปโดยอาณาเขตกาลเวลาก่อนที่จะไปถึงตัวโกลเด้นโกรวเลอร์เช่นกั


 


ตูม! ตูม! ตูม!


ทันใดนั้นประตูของวิหารก็เปิดออกและมีเทพสปิริตผู้หญิงที่มีร่างกายผอมเพรียวเดินออกมา เธอสวมใส่ชุดเกราะแนบเนื้อสีดำ เธอดูเย็นชาและไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ


 


ทุกก้าวที่เธอเดินออกมา อวกาศรอบๆตัวเธอจะกระเพื่อมเหมือนกับผิวน้ำ มันเหมือนกับว่ามีวังวนมากมายเกิดขึ้นในอวกาศ


 


ในตอนที่หานเซิ่นได้เห็นพระเจ้าชั่วพริบตา เขาก็รู้สึกตกใจอย่างมาก นั่นเป็นเพราะรูปลักษณ์และออร่าของพระเจ้าชั่วพริบตานั้นดูเหมือนกับราชินีชั่วพริบตาไม่มีผิด


 


ไม่สิ มันต้องบอกว่าราชินีชั่วพริบตานั้นดูเหมือนกับพระเจ้าชั่วพริบตา เมื่อเทียบกันแล้วราชินีชั่วพริบตาก็เป็นเหมือนกับเวอร์ชั่นที่อ่อนแอของพระเจ้าชั่วพริบตา


 


“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ความคิดมากมายแว็บเข้ามาในหัวของหานเซิ่น

 

 

 


ตอนที่ 2968 การต่อสู้ในปราสาทพระเจ้า

 

เมื่อมองดูดีๆแล้วมันมีบางสิ่งที่แตกต่างกัน แต่พวกเธอทั้งสองดูคล้ายคลึงกันมากๆ และพวกเธอก็มีธาตุกาลเวลาเหมือนกัน มันทำให้หานเซิ่นคิดไปว่า ‘นี่หมายความว่าฉินซิวสร้างสปิริตขึ้นมาจากเทพสปิริตอย่างนั้นหรอ?’


 


“ปล่อยตัวผู้นำเมาท์เทนน้อยเดี๋ยวนี้!” อสูรขนเขียวคำรามด้วยความโกรธ มันพ่นแสงสีเขียวตรงเข้าไปหาพระเจ้าชั่วพริบตา


 


กาน่าหญิงรวบรวมพลังทำให้ลูกคริสตัลส่องแสงออกมา มันกลายเป็นคลื่นจำนวนมากที่ช่วยเสริมพลังให้กับลำแสงสีเขียว และทำให้ลำแสงสีเขียวขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นแสงแห่งเทพที่ดูเหมือนจะทำลายโลกทั้งใบได้ มันกำลังพุ่งตรงเข้าไปหาพระเจ้าชั่วพริบตา


 


พระเจ้าชั่วพริบตาก้าวออกมายืนตรงหน้าประตูของวิหาร มันเหมือนกับว่าเธอมองไม่เห็นลำแสงที่กำลังพุ่งเข้ามา เธอแค่มองไปที่อสูรขนเขียวและกาน่าหญิงอย่างไร้ความรู้สึก


 


ในตอนที่ลำแสงสีเขียวพุ่งมาถึงตรงหน้าพระเจ้าชั่วพริบตา มันก็เหมือนกับก้อนหินที่ตกลงไปในทะเลสาบ มันเกิดการกระเพื่อมขึ้นตรงหน้าเทพเจ้าชั่วพริบตา ลำแสงเข้าไปใกล้ตัวเธอยังไม่ได้ การจะทำร้ายเธอยิ่งไม่ต้องพูดถึง


 


“หนึ่งความคิดในสรวงสวรรค์ ชั่วพริบตากลายเป็นชั่วนิรันดร์”


พระเจ้าชั่วพริบตามองไปที่อสูรขนเขียวและกาน่าผู้หญิง พวกเขาใช้พลังทั้งหมดของตัวเอง แต่พวกเขาไม่สามารถทำร้ายอะไรเธอได้ หลังจากที่พระเจ้าชั่วพริบตาพูดออกมาอย่างไร้ความรู้สึก เธอก็ยื่นนิ้วมือออกไปและกดลงบนอากาศ


 


ในตอนที่นิ้วของพระเจ้าชั่วพริบตากดลงไป ผู้คนก็เห็นคลื่นที่แพร่กระจายออกมา ภายใต้การเพื่อมนั้นกาลเวลาเหมือนกับถูกแช่แข็ง ทุกอย่างหยุดนิ่งไป


 


อสูรขนเขียวยังคงอยู่ในท่าพ่นลำแสงสีเขียวออกมา และลำแสงสีเขียวก็เป็นเหมือนกับแก้วที่ถูกแช่แข็งในอากาศ


 


เมื่อพระเจ้าชั่วพริบตาเดินออกไปข้างหน้า ลำแสงสีเขียวก็แตกกระจายเหมือนกับเป็นแก้วบางๆ มันแตกกระจายออกเป็นสองฝั่งเหมือนกับว่ามันสร้างทางเดินให้กับพระเจ้าชั่วพริบตา


 


ในตอนแรกหานเซิ่นมีแผนจะทำตามที่ปีศาจสาวแนะนำและไปจัดการกับโนเวิลด์ก็อตก่อนที่จะไปช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์ แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ในตอนนี้ หานเซิ่นก็ไม่กล้าจะรอช้า เขาวางเป่าเอ๋อลงกับพื้นและคิดจะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นเพื่อไปปรากฏตัวในปราสาทของพระเจ้า


 


แต่เป่าเอ๋อรีบกระโดดขึ้นมาและจับคอของเขาเอาไว้แน่น


“พ่อ เป่าเอ๋อต้องการจะไปช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์กับพ่อด้วย”


 


เมื่อเห็นว่าพระเจ้าชั่วพริบตากำลังจะเดินไปถึงโกลเด้นโกรวเลอร์และคนอื่นๆ หานเซิ่นก็ไม่กล้าจะชักช้า เขาใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นเพื่อไปปรากฏตัวตรงหน้าปราสาทของพระเจ้า


 


ปราสาทของพระเจ้านั้นมีพลังประหลาดปกป้องอยู่ หานเซิ่นไม่สามารถเทเลพอร์ตเข้าไปข้างในปราสาทพระเจ้าโดยตรงได้ ดังนั้นเขาจึงต้องเปลี่ยนมาเทเลพอร์ตไปที่หน้าปราสาทของพระเจ้าและบินเข้าไปแทน


 


หลังจากที่เข้ามาในเขตแดนของปราสาทพระเจ้า หานเซิ่นก็รู้สึกว่าร่างกายหนักขึ้นกว่าเดิม มันเหมือนกับว่ามีแรงกดดันที่มองไม่เห็นกำลังกดทับลงบนร่างกายของเขา เขารู้สึกเหมือนกับว่าจีโนฮอลล์และวิหารพระเจ้าปลดปล่อยออร่าแห่งอำนาจที่เลวร้ายออกมา


 


เมื่อเห็นว่าพระเจ้าชั่วพริบตากำลังเดินเข้าไปหาอสูรขนเขียว หานเซิ่นก็ใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นอีกครั้ง ครั้งนี้มันเป็นไปอย่างราบรื่น และเขาก็ไปปรากฏตัวตรงหน้าวิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา


 


มีดเหตุและผลลุกไหม้ด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ หานเซิ่นใช้มันฟันออกไปในทิศทางของพระเจ้าชั่วพริบตา


 


ผู้คนทั่วจักรวาลที่ดูอยู่รู้สึกสับสนเมื่อเห็นใครบางคนปรากฏตัวออกมา พวกเขาไม่รู้ว่าใครกันที่กล้ามาที่วิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา


 


ไม่ว่าใครก็บอกได้ว่าอสูรขนเขียวและกาน่าหญิงนั้นไม่สามารถสู้กับพระเจ้าชั่วพริบตาได้ แม้แต่โกลเด้นโกรวเลอร์ที่ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งในการประลองบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนก็ยังถูกแช่แข็งอยู่หน้าวิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา


 


แต่หลังจากที่มองดูดีๆ ทุกคนก็รู้สึกแปลกใจ


 


“ก็อดฟาเธอร์หาน… หานเซิ่น…” ทั่วทั้งจักรวาลต่างก็ประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น


 


ผู้นำปราสาทนภากำลังเล่นหมากรุกกับอี๋ซา ในตอนที่เขาเห็นหานเซิ่น เขาก็เกือบจะอ้าปากค้าง


“เด็กคนนั้นกำลังทำอะไร? อีกฝ่ายเป็นเทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่น นั่นเป็นสิ่งที่เขาจะต่อกรได้อย่างนั้นหรอ?”


 


อี๋ซามีสีหน้าแปลกๆ ลูกศิษย์ของเธอคนนี้ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจนับครั้งไม่ถ้วน จนเธอเริ่มจะเคยชินกับมันแล้ว


 


“นี่ก็อดฟาเธอร์หานกำลังคิดอะไรอยู่? นี่เขาคิดว่าตัวเองเป็นบิดาของเทพทั้งปวงจริงๆอย่างนั้นหรอ?” ทุกสิ่งมีชีวิตต่างก็พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้


 


หานเซิ่นทำผลงานได้ดีมากๆในตอนที่จุดตะเกียงเผ่าพันธุ์ของคริสตัลไลเซอร์


 


ครั้งนี้คนที่อยู่ตรงหน้าของเขาเป็นเทพสปิริต และมันไม่ใช่แค่เทพสปิริตธรรมดาๆ แม้แต่โกลเด้นโกรวเลอร์ที่ถือว่าเป็นอันดับที่หนึ่งในการประลองบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนก็ยังถูกแช่งแข็ง แบบนั้นเขาจะทำอะไรได้?


 


“นายท่าน…” ไนน์เทาซันด์คิง ปีศาจสาวและคนอื่นๆรู้สึกแย่ พวกเขาหวังจะรั้งตัวหานเซิ่นเอาไว้ แต่หานเซิ่นไปปรากฏตัวในปราสาทของพระเจ้าเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่จะพาตัวเขากลับมา


 


แถมพวกเขายังได้รับบาดเจ็บหนัก พวกเขาไม่มีพลังจะไปที่ปราสาทของพระเจ้าเพื่อสนับสนุนหานเซิ่น


 


อสูรขนเขียวและกาน่าหญิงมองดูพระเจ้าชั่วพริบตาที่กำลังเดินเข้ามาอย่างสิ้นหวัง พวกเขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ พวกเขาคิดว่าตัวเองคงจะต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว


 


แต่จู่ๆก็มีมีดแสงสีขาวฟันผ่านอวกาศเข้ามา มันตัดคลื่นกาลเวลาที่แช่แข็งพวกเขาจนขาดและมุ่งหน้าต่อไปหาพระเจ้าชั่วพริบตา


 


พระเจ้าชั่วพริบตาดูประหลาดใจ แต่มันก็แค่ชั่วครู่เท่านั้น เธอใช้นิ้วมือกดใส่มีดแสงสีขาวที่ฟันเข้ามา และมีดแสงก็ระเบิดกลายเป็นจุดสีขาวเล็กๆก่อนที่จะสลายไป


 


ในตอนที่คลื่นกาลเวลาถูกตัดจนขาด อสูรขนเขียวและกาน่าหญิงก็กลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง ร่างกายของพวกเขาล้มลงไปกับพื้น พวกเขารีบลุกกลับขึ้นมาและมองไปรอบๆ


 


“ขอบคุณที่ช่วยเหลือพวกเรา… เจ้าคือ…” อสูรขนเขียวและกาน่าหญิงต้องการจะพูดขอบคุณ แต่ในตอนที่พวกเขาเห็นหานเซิ่น ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความแปลกใจ


 


ในตอนที่อสูรขนเขียวพาตัวโกลเด้นโกรวเลอร์มาจากหานเซิ่น มันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ หานเซิ่นเป็นแค่คริสตัลไลเซอร์คนหนึ่ง มันจึงไม่ได้คิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จอะไรมากนัก มันไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าเขาจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า แต่หานเซิ่นไม่ได้แค่เป็นระดับเทพเจ้าเท่านั้น เขาเป็นถึงขั้นทรูก็อต และเขาก็สามารถตัดพลังกาลเวลาของพระเจ้าชั่วพริบตาให้ขาดได้ พลังแบบนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจจะเทียบได้


 


“พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อโกลเด้นโกรวเลอร์ ข้าจะทำให้พวกเจ้าต้องชดใช้ทีหลัง” หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา


 


เมื่อเห็นว่าอสูรขนเขียวยอมเสี่ยงชีวิตมาที่วิหารของพระเจ้าชั่วพริบตาเพื่อช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์ หานเซิ่นก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้เกลียดชังมันมากเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้


 


สถานการณ์ของโกลเด้นโกรวเลอร์กับเสี่ยวฮวานั้นแตกต่างกันเล็กน้อย โกลเด้นโกรวเลอร์แค่ถูกพาตัวมาเพื่อสืบทอดมรดกของโกรวเลอร์ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินดีที่จะปล่อยอสูรขนเขียวไป


 


อสูรขนเขียวตะโกนเสียงดัง “ถ้าเจ้าช่วยผู้นำเมาท์เทนน้อยได้ ถึงแม้เจ้าต้องการจะฆ่าข้า ข้าก็จะไม่ขัดขืน!”


 


“มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น” หานเซิ่นยิ้มแห้งๆออกมา การโจมตีเมื่อครู่นี้เป็นการโจมตีอย่างสุดกำลังแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพระเจ้าชั่วพริบตาก็ทำลายมีดแสงของเขาได้ด้วยนิ้วเดียว พลังของเขากับศัตรูอยู่กันคนละระดับ


 


หานเซิ่นมองโกลเด้นโกรวเลอร์ที่ยังคงถูกแช่แข็งด้วยพลังกาลเวลา พลังกาลเวลาที่ใช้กับโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นทรงพลังมากกว่าที่ใช้กับอสูรขนเขียวและกาน่าหญิงมาก

 

 

 


ตอนที่ 2969 เวลาไหลย้อนกลับ

 

หานเซิ่นฟันมีดแสงออกไปทางโกลเด้นโกรวเลอร์ เขาต้องการจะตัดพลังกาลเวลาที่แช่แข็งโกลเด้นโกรวเลอร์เอาไว้ โกลเด้นโกรวเลอร์คงจะถูกแช่แข็งอยู่ที่นี่มาสักพักหนึ่งแล้ว แต่พระเจ้าชั่วพริบตาก็ยังไม่ได้ฆ่ามัน นั่นหมายความว่าโกลเด้นโกรวเลอร์เหลือพลังพอจะต่อสู้กับพระเจ้าชั่วพริบตาได้


 


ถ้าเขาช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์ได้สำเร็จ บางทีมันก็ยังมีโอกาสอยู่ ถึงการต่อสู้กับพระเจ้าชั่วพริบตาจะเป็นเรื่องยาก แต่พวกเขาก็มีโอกาสที่จะหนีไป


 


พระเจ้าชั่วพริบตาดูเย็นชา ขณะที่เธอประกบฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าหากัน


 


ทันใดนั้นมิติอวกาศของทั้งวิหารพระเจ้าก็เกิดความเปลี่ยนแปลง หานเซิ่นเห็นมีดแสงของเขาที่กำลังจะไปถึงตัวโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นเคลื่อนที่กลับมาหาเขา มันเหมือนกับว่าเวลากำลังย้อนกลับ


 


“พลังย้อนเวลา!” หานเซิ่นแปลกใจ การที่เธอเกือบจะทำให้เวลาหยุดอยู่กับที่ได้ก็เป็นอะไรที่น่ากลัวมากแล้ว แต่มันเป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อได้รู้ว่าพระเจ้าชั่วพริบตาสามารถย้อนเวลาได้ ถึงแม้มันจะแค่เพียงชั่วพริบตา แต่มันก็เป็นอะไรที่น่ากลัวเกินไป


 


“หนีไปจากที่นี่!” หานเซิ่นตะโกนขึ้นมาขณะที่ถอยออกไปด้านหลัง เขาต้องการจะเทเลพอร์ตออกไปจากวิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา แต่พระเจ้าชั่วพริบตานั้นมีพลังในการย้อนเวลา ถึงเขาจะเสี่ยงชีวิตของตัวเอง โอกาสชนะของเขาก็ต่ำมากๆ


 


อสูรขนเขียวและกาน่าหญิงรู้ว่าสถานการณ์นั้นเลวร้ายขนาดไหน พวกเขาจึงใช้พลังของตัวเองเพื่อออกไปจากเขตแดนของวิหารพระเจ้าของพระเจ้าชั่วพริบตา


 


พระเจ้าชั่วพริบตาประกบฝ่ามืออีกครั้ง และเวลาก็ถูกย้อนกลับ หานเซิ่นและคนอื่นเริ่มบินย้อนหลังกลับมา


 


หลังจากนั้นพระเจ้าชั่วพริบตาก็เริ่มเคลื่อนไหว เธอเดินเข้าไปหาหานเซิ่นที่ถูกย้อนกลับมา เธอยื่นมือออกมาหาเขา


 


หานเซิ่นยังคงถูกย้อนถอยกลับในแม่น้ำของกาลเวลา เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวของตัวเองได้ เขาพยายามจะระเบิดพลังออกมา แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เขาเห็นว่ามือของพระเจ้าชั่วพริบตากำลังจะสัมผัสแผ่นหลังของเขา


 


หานเซิ่นกระอักเลือดออกมา ขณะที่ร่างกายของเขาถูกส่งกระเด็นออกไปจากปราสาทของพระเจ้าเหมือนกับอุกกาบาต เขาชนเข้าไปดวงดาวในจักรวาลอย่างรุนแรงจนดาวดวงนั้นระเบิด ฝุ่นควันกระจัดกระจายไปทั่ว


 


สิ่งมีชีวิตจากทุกเผ่าพันธุ์ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น แม้แต่ก็อดฟาเธอร์หานก็เอาชนะศัตรูคนนี้ไม่ได้ ความน่ากลัวของพระเจ้าชั่วพริบตานั้นฝังลึกอยู่ในจิตใจของทุกสิ่งมีชีวิต


 


พระเจ้าชั่วพริบตามองไปทางหานเซิ่นที่ถูกส่งกระเด็นออกไปด้วยสีหน้าแปลกๆ ดูเหมือนว่าเธอพยายามจะยืนยันอะไรบางอย่าง เธอจ้องไปยังดวงดาวที่หานเซิ่นไปชนเข้าจนระเบิด


 


อสูรขนเขียวและกาน่าหญิงนั้นใช้ประโยชน์ในตอนที่พระเจ้าชั่วพริบตายืนนิ่งไปเพื่อหนีออกไปจากวิหาร และดูเหมือนว่าพระเจ้าชั่วพริบตาจะไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการหนีไปของพวกเขา เธอแค่จ้องมองไปทางฝุ่นควัน


 


หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่ากระดูกหลังของเขาหักทั้งหมด มันเจ็บปวดเกินกว่าที่เขาจะเคลื่อนไหวได้ เขาพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดและใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นเพื่อกลับไปที่สเปชการ์เด้น


 


หานเซิ่นเทเลพอร์ตไปด้านแค่ครึ่งทาง ร่างกายของเขาก็ทนต่อไปไม่ไหว เขาร่วงลงกลางทาง เป่าเอ๋อจับตัวเขาเอาไว้และช่วยเขาเทเลพอร์ตอีกครั้งเพื่อกลับไปที่สเปชการ์เด้น


 


เป่าเอ๋อวางหานเซิ่นลงบนเตียงและถามอย่างเป็นห่วง “พ่อเป็นอะไรไหม?”


 


“พ่อไม่เป็นอะไรมาก อย่างน้อยพ่อก็ยังมีชีวิตรอด” หานเซิ่นใช้พลังอย่างมากในการพูดออกมา และทำให้กระอักเลือดออกมาเพิ่มอีก


 


“หนูจะไปตามจิ้งจอกสีเงินมา” เป่าเอ๋อพูดก่อนที่จะรีบวิ่งออกไป หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พาจิ้งจอกสีเงินมาข้างเตียงของหานเซิ่น


 


จิ้งจอกสีเงินได้รับยีนซีโน่เจเนอิคที่มีอยู่ในสเปชการ์เด้นมามากมาย นอกจากนั้นโกลเด้นโกรวเลอร์ยังได้มอบแอนเชี่ยนท์ธันเดอร์ก็อตออริจินให้กับมันอีก ซึ่งมันเพิ่มระดับขึ้นเร็วอย่างมาก ตอนนี้มันเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเรียบร้อยแล้ว


 


“ไม่… ไม่เป็นอะไร…พ่อสบายดี…อ้า…” หานเซิ่นต้องการจะปฏิเสธ แต่จิ้งจอกสีเงินปล่อยสายฟ้าออกมาช็อตเขาเรียบร้อยแล้ว มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกชาไปทั้งตัว


 


“เอาชุดคลุมของพ่อออกก่อน” หานเซิ่นพูดขณะที่อดทนต่อความเจ็บปวด


 


เป่าเอ๋อรีบพยุงหานเซิ่นขึ้นมาและถอนชุดคลุมสีน้ำเงินเข้มออก ในตอนที่เธอเห็นด้านหลังภายใต้เสื้อคลุม เธอก็ส่งเสียงร้องออกมา


 


ด้านหลังของเสื้อคลุมมีรูขนาดใหญ่อยู่ มันเป็นรูที่มีรูปร่างเหมือนกับมือของผู้หญิง มันเป็นจุดที่พระเจ้าชั่วพริบตาโจมตีใส่เขา


 


เมื่อหานเซิ่นเห็นด้านหลังของเสื้อคลุม มันก็ทำให้เขายิ้มแห้งๆออกมา


“โชคดีที่เสื้อคลุมช่วยรับการโจมตี ไม่อย่างนั้นเราก็คงจะไม่รอดแน่ๆ”


 


หานเซิ่นเอนตัวกลับไปนอนลงบนเตียง ชุดเกราะมนตราของเขามีรอยฝ่ามืออยู่เช่นกัน โชคดีที่มันไม่ได้ทะลุผ่านมาถึงตัวเขา


 


ถึงอย่างนั้นกระดูกหลังของหานเซิ่นก็ถูกทำลายจนหมด มันทำให้เขาเดินกระแสพลังได้ยาก


 


“เทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่นนี่น่ากลัวจริงๆ” หานเซิ่นต้องการจะลุกขึ้นมา แต่จิ้งจอกสีเงินเริ่มใช้สายฟ้าช็อตใส่เขาอีกครั้ง


 


หานเซิ่นรู้สึกชาไปทั้งตัวจนร้องออกมาอีกครั้ง “อ้า!”


 


พลังในการรักษาของจิ้งจอกสีเงินนั้นไม่เลว มันช่วยร่างกายขั้นทรูก็อตของหานเซิ่นได้ทั้งๆที่มันยังเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟเท่านั้น แต่วิธีการในการรักษานั้นยังคงห่วยแตกเหมือนเดิม


 


หลังจากที่หานเซิ่นรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย เขาก็บอกให้จิ้งจอกสีเงินหยุด แต่จิ้งจอกสีเงินยืนกรานจะรักษาให้กับเขาจนหายดี มันปลดปล่อยสายฟ้าออกมาช็อตใส่หานเซิ่นเพิ่มอีก


 


น่าเสียดายที่จิ้งจอกสีเงินยังเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟ ดังนั้นถึงมันจะใช้สายฟ้าจนพลังหมด มันก็ไม่สามารถทำให้หานเซิ่นกลับมาหายดีได้


 


“ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นมาแล้ว” หานเซิ่นทนต่อความเจ็บปวดและลุกขึ้นมาจากเตียง เขาออกมานอกห้องและมองขึ้นไปที่วิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา


 


พระเจ้าชั่วพริบตากลับเข้าไปในวิหารเรียบร้อยแล้ว เขาจึงมองไม่เห็นเธออีก โกลเด้นโกรวเลอร์ยังคงถูกแช่แข็งอยู่ในลานกว้างของวิหาร ดูเหมือนว่าพระเจ้าชั่วพริบตานั้นไม่ได้รีบร้อนจะฆ่ามัน หรือบางทีเธออาจจะหวาดกลัวบางสิ่งและตัดสินใจจะไม่ฆ่าโกลเด้นโกรวเลอร์


 


หานเซิ่นถอนหายใจ แต่ตราบใดที่โกลเด้นโกรวเลอร์ยังไม่ถูกฆ่า เขาก็ยังมีโอกาสอยู่


 


‘ถ้าเราใช้ร่างกายซีโน่เจเนอิคกับมงกุฎสกายก็อตขั้นแอนนิฮิเลชั่น เราจะช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์มาจากวิหารของพระเจ้าชั่วพริบตาได้ไหมนะ’ หานเซิ่นคิด


 


หานเซิ่นไม่คิดว่าตัวเองมีโอกาสมากนัก พลังในการย้อนเวลาของพระเจ้าชั่วพริบตานั้นน่ากลัวเกินไป เมื่อไร่ก็ตามที่เวลาถูกย้อนกลับ หานเซิ่นก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อต่อสู้กับมันได้ เขาทำไม่ได้แม้แต่จะใช้พลังของตัวเอง


 


‘นอกจากเราจะอยู่ในโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดและไม่ได้รับผลจากการย้อนเวลา ไม่อย่างนั้นเราก็คงจะช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์ไม่ได้’ หานเซิ่นคิดขณะที่มองไปที่วิหารของพระเจ้าชั่วพริบตา

 

 

 


ตอนที่ 2970 ขีดจำกัด

 

 


“หานเซิ่น ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หวังอวี่ฮังและคนอื่นๆแวะมาเยี่ยมหานเซิ่น พวกเขามาถึงนานแล้ว แต่พวกเขาได้ยินหานเซิ่นกรีดร้องเสียงดัง พวกเขาจึงยังไม่ได้เข้ามาจนกระทั่งตอนนี้


 


“ไม่เป็นอะไร อย่างน้อยก็ยังพูดว่ายังมีชีวิตอยู่” หานเซิ่นพูด


 


เซี่ยชิงถามขึ้นมา “เจ้าได้สังเกตไหมว่าเทพสปิริตที่เอาชนะเจ้านั้นดูเหมือนกับราชินีชั่วพริบตาน่ะ?”


 


หานเซิ่นพยักหน้า “ข้าเริ่มจะคิดแล้วว่าสปิริตในก็อตแซงชัวรี่นั้นถูกสร้างขึ้นมาจากเทพสปิริต”


 


ดวงตาของเซี่ยชิงเป็นประกายขึ้นมา “ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เจ้าคิดว่ามันจะมีเทพสปิริตที่ดูเหมือนกับข้าอยู่ไหมนะ?”


 


“อะไร? นี่เจ้าคิดจะไปพบกับเขาหรือยังไง?” หวังอวี่ฮังถามด้วยรอยยิ้ม


 


“ข้าจะไปฆ่าเขาต่างหาก ข้าจะไม่ปล่อยให้มีข้าอีกคนหนึ่งอยู่บนโลกใบนี้” เซี่ยชิงพูดอย่างจริงจัง


 


“ฮ่า! ถ้าเทพสปิริตคนนั้นแข็งแกร่งเหมือนกับเทพสปิริตที่เอาชนะหานเซิ่นได้ เจ้าจะเป็นฝ่ายที่ถูกฆ่าซะเอง” หวังอวี่ฮังพูด


 


“นั่นมันก็จริง น่าเสียดายที่ระดับพลังของข้ายังไม่ถึงขั้นทรูก็อต ไม่มีประโยชน์ที่ข้าจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นในตอนนี้” ” เซี่ยชิงพูดขณะที่ยืดเส้นยืดสาย


 


หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกตัวถึงเรื่องบางอย่าง สิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ดูเหมือนจะวิวัฒนาการมาไกลสุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้แล้ว สิ่งมีชีวิตของจักรวาลสามารถวิวัฒนาการได้ถึงขั้นทรูก็อตเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถวิวัฒนาการไปมากกว่านั้นได้


 


ถ้าพวกเขาอยากจะแข็งแกร่งขึ้นอีก พวกเขาก็ได้แค่ฝึกวิชาจีโนต่างๆเพื่อเพิ่มทักษะในการต่อสู้ของตัวเอง ไม่อย่างนั้นก็หาสมบัติพิเศษหรืออาวุธประจำตัวพระเจ้ามาใช้เพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้


 


หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าถึงเขาจะใช้โหมดซีโน่เจเนอิค พลังของเขาก็ยังคงด้อยกว่าพระเจ้าชั่วพริบตา นอกซะจากเขาจะได้รับพลังเสริมจากสมบัติที่ทรงพลังหรืออาวุธประจำตัวพระเจ้า เขาก็คงจะต่อสู้กับพระเจ้าชั่วพริบตาแบบตรงๆไม่ได้


 


หานเซิ่นหันไปมองนางฟ้าคนที่อยู่ข้างๆ “คนอื่นถึงขั้นทรูก็อตแล้วอาจจะเพิ่มพลังของตัวเองไม่ได้อีก แต่เรายังมีโอกาสอยู่”


 


ใบหน้าของนางฟ้าดูงดงามและสงบนิ่ง ในตอนที่เธอไม่ได้อยู่ในโหมดต่อสู้ ไม่มีใครบอกได้ว่าจริงๆแล้วเธอนั้นแข็งแกร่งมากๆ


 


‘ตอนนี้นางฟ้าเพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ ถ้าเธอกลายเป็นขั้นทรูก็อตและรวมร่างกับเรา เธอก็จะเสริมความแข็งแกร่งของเราขึ้นไปอีก ด้วยวิธีนั้นมันอาจจะทำให้เรามีพลังพอที่จะต่อสู้กับพระเจ้าชั่วพริบตา’ หานเซิ่นทำการตัดสินใจ เขาจะช่วยให้นางฟ้ากลายเป็นขั้นทรูก็อต


 


ถ้าเขาทำให้เซี่ยชิง หวังอวี่ฮัง หวงฟูจิ้งและคนอื่นๆกลายเป็นขั้นทรูก็อตไปพร้อมๆกัน นั่นก็จะเป็นการช่วยเขาเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราชินีชั่วพริบตา ถ้าเธอกลายเป็นขั้นทรูก็อต เธอจะเป็นประโยชน์ต่อเขาอย่างมาก


 


แต่การจะเลื่อนระดับไปสู่ขั้นทรูก็อตนั้นใช้ทรัพยากรจำนวนมาก และหานเซิ่นจำเป็นต้องช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์โดยเร็วที่สุด การจะช่วยให้คนๆหนึ่งกลายเป็นขั้นทรูก็อตก็ยากมากพอแล้ว หานเซิ่นไม่มีเวลาพอที่จะทำให้พวกพ้องของเขากลายเป็นขั้นทรูก็อตกันทุกคน


 


“ทรัพยากร ทรัพยากร ทรัพยากร เราจำเป็นต้องมีทรัพยากร ทรัพยากรของสเปชการ์เด้นนั้นเพียงพอแค่จะช่วยให้คนๆหนึ่งเลื่อนไปสู่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น การจะเลื่อนระดับขึ้นไปอีก พวกเราต้องมีทรัพยากรมากกว่านี้ แต่เราจะไปหาทรัพยากรพวกนั้นได้จากที่ไหนกัน?” หานเซิ่นครุ่นคิด ถ้าเขาต้องการทรัพยากรเพิ่ม เขาก็จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา นอกจากวิธีนั้นแล้วดูเหมือนจะไม่มีตัวเลือกอื่น


 


“เราควรจะไปชิงทรัพยากรของใครมา?” เป้าหมายแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของหานเซิ่นก็คือเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง


 


เผ่าเวรี่ไฮนั้นมีทรัพยากรมากก็จริง แต่พวกเขาก็มียอดฝีมืออยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน และการจะเข้าไปในเอาท์เตอร์สกายก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ


 


ส่วนแอนเชี่ยนท์ก็อตนั้นถึงพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาเป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดและไม่ได้มีทรัพยากรเก็บตุนเอาไว้มากนัก ดังนั้นการไปชิงทรัพยากรจากแอนเชี่ยนท์ก็อตจึงเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์


 


ส่วนปราสาทนภานั้นนอกจากจะเต็มไปด้วยยอดฝีมือแล้ว หานเหยียนก็กำลังฝึกอยู่ที่นั่น อี๋ซาเองก็อยู่ในปราสาทนภาเช่นกัน หานเซิ่นจึงไม่สามารถไปชิงทรัพยากรของปราสาทนภาได้ นั่นเป็นเหตุผลหลักที่เขาปล่อยผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาไป


 


“ดูเหมือนว่าจะเหลือแค่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง” หานเซิ่นเริ่มคิดว่าเขาควรจะเริ่มยังไงดี


 


เขาไม่คิดว่าจะโจมตีเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงตรงๆได้ เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นอยู่มาเป็นเวลานาน และในเผ่าพันธุ์ของพวกเขาก็มียอดฝีมืออยู่มากมาย นอกจากนั้นพวกเขายังมีสมบัติจำนวนนับไม่ถ้วน ถึงแม้หานเซิ่นจะใช้กิเลนศักดิ์สิทธิ์ เขาอาจจะไม่ต้องกลัวใครในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่แข็งแกร่งพอจะต่อสู้กับเอ็กซ์ตรีมคิงทั้งเผ่า


 


ขณะที่หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับวิธีการที่เขาจะขโมยทรัพยากรจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง เขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวตัวหนึ่งเข้าไปในปราสาทของพระเจ้าที่อยู่ในอากาศ


 


สิ่งชีวิตนั้นมุ่งหน้าไปยังวิหารที่อยู่ชั้นล่างสุดของปราสาท มันเหมือนกับพระเจ้าสายฟ้าที่ถูกกินเข้าไปโดยโกสต์คาร์ เจ้าของวิหารนั้นเป็นแค่เทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่น


 


ถึงอย่างนั้นมันก็บอกได้ยากว่าสิ่งมีชีวิตนั่นจะเอาชนะเทพสปิริตได้ไหม สุดท้ายแล้วไม่เพียงแค่มันจะฆ่าเทพสปิริตไม่ได้ มันยังเกือบจะถูกฆ่าตายโดยเทพสปิริต ในตอนที่ขาของมันถูกหัก มันก็รีบหนีออกไปจากวิหารพระเจ้าทันที


 


ในตอนที่หวังอวี่ฮังและคนอื่นๆกลับไปแล้ว หานเซิ่นก็เอาราชครูกู่เยวียนออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตาและล็อคเขาเอาไว้ในสถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์ที่ซีโร่ถือครองอยู่


 


ภายในสถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์ หานเซิ่นมองไปที่ราชครูกู่เยวียนและถาม “ราชครูจะช่วยตอบคำถามของข้าได้ไหม?”


 


ราชครูกู่เยวียนกำลังนั่งสมาธิเหมือนกับพระ หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็ลืมตาขึ้นมาและตอบ “ไม่ว่าข้าจะตอบคำถามของเจ้าหรือไม่ มันจะแตกต่างอะไร?”


 


“ถ้าข้าพึงพอใจกับคำตอบของราชครู บางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตราชครู” หานเซิ่นพูด


 


ราชครูกู่เยวียนส่ายหัว “ตอนนี้ข้ารู้ความลับหลายอย่างของเจ้า ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าไม่มีทางจะปล่อยคนที่รู้ความลับของตัวเองไป”


 


“ราชครูเป็นคนฉลาดมากๆ ถูกต้องแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้คนที่รู้ความลับของตัวเองไป แต่ข้าให้ราชครูมีชีวิตอยู่ที่นี่ได้ถูกไหม?” หานเซิ่นหัวเราะ


“ด้วยเทคนิคลับของราชครู บางทีวันหนึ่งราชครูอาจจะหาทางหนีไปได้”


 


“เจ้าพูดถูก ตราบใดที่ข้ามีชีวิตรอด มันก็ยังคงมีความหวัง”


ราชครูกู่เยวียนดูเหมือนจะยอมรับเงื่อนไขนี้ เขามองตาหานเซิ่นและพูด “หนึ่งคำถามต่อเวลาสิบปี”


 


“ได้ แต่ราชครูจำเป็นต้องตอบคำถามของข้าอย่างน้อยสิบคำถาม แต่ถ้าราชครูไม่ตอบคำถามของข้า ข้อตกลงนี้ก็เป็นอันยกเลิก” หานเซิ่นพูด


 


“ได้” ราชครูกู่เยวียนตอบ


 


หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่หานเซิ่นก็ถามขึ้นว่า “ราชครูรู้เกี่ยวกับปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ใช่ไหม?”


 


“เจ้าต้องการจะถามเกี่ยวกับสปิริตอย่างนั้นสินะ?” ราชครูกู่เยวียนตอบ


 


“ใช่” หานเซิ่นดีใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าราชครูกู่เยวียนจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย


 


ราชครูกู่เยวียนเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “จริงๆแล้วข้าไม่ได้รู้อะไรมาก ข้ารู้แค่ว่าในตอนที่เซเคร็ดถูกทำลาย อัลฟ่าของพวกเราได้รับข้อมูลการวิจัยของผู้นำเซเคร็ดมา ข้อมูลการวิจัยส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสปิริต เรื่องเกี่ยวกับปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์นั้นเป็นสิ่งที่มีแค่กษัตริย์เท่านั้นจะมีสิทธิ์ที่จะได้รู้ ข้าจึงรู้เพียงแค่นิดหน่อยเท่านั้น ข้ารู้แค่ว่าอัลฟ่าของพวกเราต้องการจะใช้สปิริตเพื่อสร้างอาวุธที่ทรงพลังขึ้นมา มันคงจะเหมือนกับสปิริตศักดิ์สิทธิ์ของกิเลนศักดิ์สิทธิ์”


 


“มันสำเร็จไหม?” หานเซิ่นถาม


 


ราชครูกู่เยวียนมองไปที่หานเซิ่นและถาม “นั่นเป็นคำถามที่สองของเจ้าใช่ไหม?”


 


“ใช่” หานเซิ่นตอบ


 


“ข้าคิดว่าแบบนั้น” ราชครูกู่เยวียนพูด


“กษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นมีสมบัติชิ้นหนึ่งที่ถูกสืบทอดต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน แต่คนนอกไม่เคยได้เห็นมัน ทุกคนที่เคยได้เห็นสมบัตินั่นตอนนี้ตายไปหมดแล้ว ในประวัติศาสตร์ของเอ็กซ์ตรีมคิง มันเคยมีหายนะเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งมันก็ถูกแก้ไขโดยสมบัติชิ้นนั่น ข้าเชื่อว่ามันเป็นอาวุธที่เอ็กซ์ตรีมคิงใช้สปิริตสร้างขึ้นมา”

 

 

 


ตอนที่ 2971 ไลท์เวลล์

 

หานเซิ่นออกมาจากสถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์และคืนมันให้กับซีโร่


 


“เอ็กซ์ตรีมคิงไม่ง่ายเลยจริงๆ เรายังบุกไปที่อาณาจักรของกษัตริย์ไม่ได้ แต่มันควรจะไม่ยากจนเกินไปถ้าเราจะช่วงชิงทรัพยากรของเอ็กซ์ตรีมคิง”


หานเซิ่นพักอยู่ในสเปชการ์เด้นอยู่หลายวัน ขณะที่เขากำลังพักพื้นนั้น เขาก็หาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรที่เอ็กซ์ตรีมคิงครอบครองอยู่


 


นอกจากอาณาจักรกษัตริย์แล้ว มันยังมีสถานที่อื่นในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงที่มีทรัพยากรจำนวนมาก หานเซิ่นพยายามมองหาที่ที่เหมาะสมสำหรับนางฟ้าที่สุด


 


มันมีซีโน่เจเนอิคสเปชหนึ่งที่ถูกเรียกว่าไลท์เวลล์ ในซีโน่เจเนเอิคสเปชนั้นมีบ่อน้ำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังธาตุแสง และภายในบ่อยังมีพืชซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ภายใน ซึ่งมันมีชื่อเรียกว่าดอกบัวไลท์เวลล์


 


เนื่องจากเดิมทีไลท์เวลล์ไม่ได้เป็นของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แต่เป็นสถานที่ของเผ่าพันธุ์อื่นๆที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงไปยึดมา เรื่องของไลท์เวลล์จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายรู้


 


หลังจากที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเข้ายึดครองที่นั่น พวกเขาก็ปิดไม่ให้ใครเข้าออก พวกเขาส่งทหารไปประจำการอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อคอยปกป้องมัน ข้อมูลบอกว่ามันมียอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่แข็งแกร่งมากๆคนหนึ่งประจำการอยู่ที่นั่นด้วย ด้วยเหตุนั้นเผ่าพันธุ์ธรรมดาจึงไม่กล้าจะบุกไปที่ไลท์เวลล์ แต่หานเซิ่นไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้น เขาจะบุกเข้าโจมตีไลท์เวลล์


 


ในช่วงเวลาที่หานเซิ่นพักฟื้นอยู่นั้น เขาเห็นสิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตของจักรวาลต่างพากันไปท้าสู้กับเทพสปิริต แต่ส่วนใหญ่ทำไม่สำเร็จ มีนักสู้เพียงแค่สามคนเท่านั้นที่เป็นฝ่ายชนะในการต่อสู้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโกสต์คาร์


 


จากพวกเขาทั้งสาม มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่เลือกจะนำธงพระเจ้าลงมาเพื่อกลายเป็นเทพสปิริตคนใหม่


 


ทุกคนท้าสู้กับแค่เทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่นเท่านั้น พระเจ้าชั่วพริบตาเป็นเทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่น ด้วยเหตุนั้นจึงไม่มีใครท้าสู้กับเธอ


 


ที่จริงแล้วแค่เทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนจะสู้ได้แล้ว เทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่นนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง


 


ทหารของเอ็กซ์ตรีมคิงประจำการอยู่ในปราการอวกาศเหมือนกับทุกที พวกเขาสแกนบริเวณรอบๆไลท์เวลล์ตลอดเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครบุกรุกเข้ามาได้


 


ตลอดหลายปีที่ผ่านมามันไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่กล้าบุกเข้ามา พวกเขาจึงไม่ได้อยู่ในสภาวะตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาอีกแล้ว


 


ทหารที่มีหน้าที่คอยจับตาดูทางเข้าผ่านกล้องวงจรปิดพูดขึ้นมา


“แปลกจริงๆ ดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งมาที่ทางเข้าของไลท์เวลล์”


 


“เจ้าพูดเล่นใช่ไหม? มันจะมีบางสิ่งมาถึงทางเข้าของไลท์เวลล์ได้ยังไง? เจ้าคิดว่าจะมีบางสิ่งที่ผ่านการป้องกันของดาวเทียมและยานรบของปราการอวกาศของเอ็กซ์ตรีมคิงมาได้อย่างนั้นหรอ?” ทหารอีกคนหัวเราะและพูดด้วยสีหน้าดูถูก


 


พวกเขาอยู่ในป้อมปราการด่านสุดท้ายของไลท์เวลล์ ซึ่งการป้องกันด่านแรกยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดว่ามันจะมีบางสิ่งมาถึงทางเข้าของไลท์เวลล์ได้


 


“มันมีบางสิ่งจริงๆ… ชุดเกราะสีดำนั่น… เดี๋ยวก่อนนะ… นั่นมัน… นั่นมันดอลลาร์…” หลังจากที่ทหารคนนั้นซูมเข้าไปดูใกล้ๆ เขาก็เห็นคนๆหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าทางของเข้าไลท์เวลล์ เมื่อเขาเห็นคนๆนั้นชัดๆ เขาก็ส่งเสียงตะโกนอย่างตกใจ


 


“ดอลลาร์? ดอลลาร์ไหน?” ทหารคนอื่นๆสับสน


 


ทหารคนนั้นตอบกลับทันทีว่า “มันยังมีดอลลาร์คนไหนอีกล่ะ? เขาก็คือดอลลาร์คนที่เข้าร่วมการประลองบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนน่ะสิ”


 


หลังจากนั้นทหารคนอื่นๆก็หันไปมองภาพในกล้องวงจรปิดและเห็นชายในชุดเกราะคนหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าทางเข้าของไลลท์เวลล์


 


ก่อนที่พวกเขาจะเห็นได้อย่างชัดเจน คนในชุดเกราะก็ชกใส่ทางเข้าป้อมปราการของไลท์เวลล์ ทางเข้าถูกเปิดออกในหมัดเดียวและเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในไลท์เวลล์


 


หานเซิ่นมองไปรอบๆและเห็นว่าไลท์เวลล์นั้นเป็นอวกาศที่ไม่มีดาวเคราะห์ มันมีเพียงแค่อุกกาบาตรูปกรวยหงายที่ลอยอยู่ในอวกาศ


 


เขาสังเกตเห็นว่าอุกกาบาตนี้มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าดาวเคราะห์ปกติ ผิวของอุกกาบาตนั้นเต็มไปด้วยรูวงกลมที่ภายในเต็มไปด้วยแสงสว่าง มันดูเหมือนกับไฟฉายที่ถูกเปิด


 


ในบางรูจะมีดอกบัวไลท์เวลล์อยู่ ภายใต้แสงสว่างมันดูโปร่งใสและเปล่งประกาย มันดูเหมือนกับดอกไม้คริสตัลที่ออกมาจากความฝัน


 


ไลท์เวลล์นั้นมีพลังงานอยู่เป็นจำนวนมาก แต่แสงสว่างของรูส่วนใหญ่นั้นมัวหมองและไร้สีสัน ดูเหมือนว่าพลังงานของพวกมันถูกใช้ไปจนหมดแล้ว


 


มันมีรูบนไลท์เวลล์เพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังคงส่องสว่างและมีดอกบัวไลท์เวลล์อยู่


 


มันมีบ่อพลังงานที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ใจกลางของไลล์เวลล์ หลังจากที่มองเข้าไปข้างใน หานเซิ่นก็เห็นว่าดอกบัวไลท์เวลล์ที่อยู่ภายในนั้นมีขนาดใหญ่โตพอๆกับปราการอวกาศ


 


เมื่อหานเซิ่นสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตมหาศาลจากดอกบัวไลท์เวลล์นั้น เขาก็พูดขึ้นมาด้วยความดีใจ “พืชซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อต”


 


หานเซิ่นคิดว่ามันยากมากที่เขาจะได้รับดอกบัวไลท์เวลล์ขั้นทรานส์มิวเทชั่นหรือขั้นลาร์วากลับไป เขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะมีพืชซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตอยู่ที่นี่


 


“ใครกันที่กล้าบุกเข้ามาในไลท์เวลล์?” มีเสียงของชายแก่ดังขึ้นมา


 


หานเซิ่นมองตามเสียงนั้นไปและเห็นชายแก่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนดอกบัวไลท์เวลล์ขนาดใหญ่ ร่างกายของเขาอาบในแสงสว่างของไลท์เวลล์ ดูเหมือนว่าครึ่งหนึ่งของเขาเป็นเพียงแค่แสงสว่าง มันทำให้เขาดูเหมือนไม่มีตัวตนจริงๆ


 


“เจ้าไม่รู้จักข้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นประหลาดใจกับความจริงที่ว่าชายแก่บนดอกบัวนั้นไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ในตอนนี้มันมีผู้คนไม่มากนักที่ไม่รู้จักเขา


 


“ทำไมข้าต้องรู้ด้วยว่าเจ้าเป็นใคร?” ชายแก่ถาม


 


“ไม่สำคัญว่าเจ้าจะรู้หรือไม่ เจ้าแค่จำเป็นต้องรู้ว่าดอกบัวไลท์เวลล์นั่นตกเป็นของข้าแล้ว” หลังจากที่พูดหานเซิ่นก็เรียกหอกสกายไวน์แรดิชก็อตออกมา


 


“อาวุธประจำตัวพระเจ้า!” สีหน้าของชายแก่เปลี่ยนไป แต่เขาไม่ได้ออกมาจากบ่อพลังงาน เขาแค่เอาร่มโลหะสีเขียวออกมา ซึ่งแสงจากร่มโลหะสีเขียวนั้นปกป้องทั้งดอกบัวไลท์เวลล์


 


หานเซิ่นไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร เขาแค่ใช้หอกแทงเข้าใส่ชายแก่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงคนนั้น ด้วยพลังของหอกสกายไวน์แรดิชก็อต แม้แต่สิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตก็ป้องกันไม่ได้


 


ชายแก่ไม่ได้พยายามจะหลบหลีก เขาใช้ร่มโลหะสีเขียวเพื่อป้องกันหอกของหานเซิ่น


 


ภายใต้การโจมตีของหานเซิ่น แสงของร่มโลหะสีเขียวเริ่มสั่นไหว แต่มันไม่ได้ถูกทำลาย ดอกบัวไลท์เวลล์ขนาดยักษ์ที่อยู่ข้างใต้ก็สั่นไหวเช่นกันและแสงสว่างของมันมัวลงไปเล็กน้อย


 


หานเซิ่นขมวดคิ้วเมื่อเห็นแบบนั้น เขาจ้องไปที่ร่มโลหะของชายแก่และดอกบัวไลท์เวลล์ขนาดยักษ์ ดูเหมือนว่าเขาจะสังเกตได้ถึงอะไรบางอย่าง


 


ชายแก่พูดขึ้นมา “ร่มโปรเซสของข้าเป็นส่วนหนึ่งของดอกบัวไลท์เวลล์เรียบร้อยแล้ว ถ้าเจ้าทำลายร่มโปรเซสนี้ ดอกบัวไลท์เวลล์ก็จะถูกทำลายไปด้วย ข้าขอแนะนำให้เลือกเอาดอกบัวไลท์เวลล์อื่นไป ไม่อย่างนั้นเจ้าจะไม่ได้อะไรกลับไปสักอย่าง”

 

 

 


ตอนที่ 2972 ดอกบัวไลท์เวลล์

 

หานเซิ่นเข้าใจว่าชายแก่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นใช้วิธีบางอย่างเพื่อยืมพลังของดอกบัวไลท์เวลล์มาใช้กับร่มโลหะสีเขียว ถ้าหานเซิ่นโจมตีใส่ชายแก่ พลังที่เขาใช้ก็จะไปทำลายดอกบัวไลท์เวลล์ ด้วยเหตุนั้นถ้าหานเซิ่นยังต้องการดอกบัวไลล์เวลล์นั่น เขาก็ไม่สามารถโจมตีใส่ชายแก่ได้


 


“เจ้ามีแผนการที่ดี” หานเซิ่นหลี่ตาและมองไปที่ชายแก่


 


“ที่นี่มีดอกบัวไลท์เวลล์ขั้นพริมิทีฟอยู่มากมาย” ชายแก่พูด


“ถือซะว่าพวกมันเป็นของขวัญจากข้า เอ็กซ์ตรีมคิงจะไม่ถือสาอะไรเจ้า เจ้ายังไม่พอใจอีกอย่างนั้นหรอ?”


 


สิ่งที่ชายแก่พูดเป็นข้อเสนอที่ดีมากๆ ไม่เพียงแค่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะไม่เอาผิดเขาเท่านั้น เขายังจะได้ดอกบัวไลท์เวลล์ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟกลับไปอีก แต่หานเซิ่นแน่วแน่ที่จะเอาดอกบัวไลท์เวลล์ขั้นทรูก็อตกลับไปให้ได้ เขาจะไม่ยอมไปจนกว่าจะได้มันมา


 


หานเซิ่นไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาแค่มองดอกบัวไลท์เวลล์ขั้นพริมิทีฟที่อยู่รอบๆและกวัดแกว่งหอกเพื่อทำลายดอกบัวพวกนั้น


 


“ซีโน่เจเนอิคดอกบัวไลท์เวลล์ระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”


 


ดอกบัวไลท์เวลล์ทั้งหมดถูกตัดขาดโดยหานเซิ่น เสียงประกาศดังขึ้นในหัวของเขาอย่างต่อเนื่อง หานเซิ่นเก็บดอกบัวไลท์เวลล์ขึ้นมาและโยนพวกมันเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา


 


“ซีโน่เจเนอิคดอกบัวไลท์เวลล์ระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้า”


 


หลังจากที่ฆ่าดอกบัวไลล์เวลล์ไปหลายร้อยดอก ในที่สุดหานเซิ่นก็ยินเสียงประกาศบอกว่าเขาได้รับวิญญาณอสูร


 


“วิญญาณอสูรดอกบัวไลท์เวลล์: ใบเสมา(ไม่สมบูรณ์)”


 


หานเซิ่นไม่มีอารมณ์จะเรียกวิญญาณอสูรดอกบัวไลท์เวลล์ออกมาดู เขายังคงฟันใส่ดอกบัวไลท์เวลล์ที่อยู่รอบๆต่อไป เขาได้รับดอกบัวไลท์เวลล์มาทั้งหมดสองร้อยกว่าดอก แต่จากพวกมันทั้งหมดเขาได้รับวิญญาณอสูรเพียงแค่ดวงเดียว


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ย้อนกลับไปที่ดอกบัวไลท์เวลล์ยักษ์ เขามองไปที่ชายแก่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงและพูด


“เพื่อเห็นแก่ราชาไป๋ ถ้าเจ้ายอมไปซะตอนนี้ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”


 


สีหน้าของชายแก่เปลี่ยนไป “เจ้าไม่คิดว่ามันมากเกินไปหน่อยหรอ? เจ้าคิดว่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะยอมถูกรังแกง่ายๆหรือยังไง?”


 


“นั่นหมายความว่าเจ้าไม่ยอมไปอย่างนั้นใช่ไหม?” หานเซิ่นมองไปที่ชายแก่ขณะที่พูด


 


“ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เจ้าจะทำอะไรข้าล่ะ?” ชายแก่กางร่มโลหะสีเขียวของเขาและหัวเราะ


 


ดวงตาของหานเซิ่นเริ่มกระพริบแสงอย่างประหลาด เขามองไปที่ดวงตาของชายแก่และถาม “เจ้าคิดว่าร่มนั่นจะปกป้องชีวิตของเจ้าได้อย่างนั้นหรอ?”


 


“ถึงข้าจะสู้เจ้าไม่ได้ แต่ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่าข้า ดอกบัวนี้ก็จะถูกทำลายไปด้วย” ชายแก่พูดอย่างมั่นใจ


 


“จริงอย่างนั้นหรอ?” ทันใดนั้นดวงตาข้างหนึ่งของหานเซิ่นก็ปลดปล่อยแสงประหลาดออกมา ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเลือด


 


วินาทีต่อมา หานเซิ่นก็หายไปจากสายตาของชายแก่ เขาได้เข้าไปอยู่ในดวงตาของอีกฝ่ายโดยการใช้วิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อต


 


เลือดพุ่งออกมาจากดวงตาข้างขวาของชายแก่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แม้แต่ด้านหลังหัวของเขาก็ถูกเจาะเป็นรู หานเซิ่นที่กำลังถือหอกสกายไวน์แรดิชก็อตปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังของชายแก่


 


หลังจากนั้นก็มีต้นอ่อนงอกออกมาจากบาดแผลของชายแก่ พวกมันกำลังดูดซับพลังชีวิตของเขา


 


“อ้า!” ชายแก่ใช้มือกุมดวงตาขณะที่กรีดร้องออกมา เขาต้องการจะแกว่งร่มโลหะสีเขียว แต่เขาแกว่งไปได้เพียงแค่นิดเดียวก่อนที่หานเซิ่นจะตัดแขนของเขาจนขาด


 


ชายแก่ตกอยู่ในความหวาดกลัว เขาใช้แขนอีกข้างหยิบแขนที่ถูกตัดขาดไปกับร่มโลหะสีเขียวขึ้นมาและเริ่มบินหนีไป


 


“กลับไปบอกกับราชาไป๋ว่าเจ้าเกือบจะต้องตายเพราะข้า” หานเซิ่นพูดกับชายแก่ขณะที่เขาบินหนีไป


 


ราชาไป๋รู้ว่าโฮลี่เบบี้คือดอลลาร์ และเขาเกือบจะทำให้หานเซิ่นถูกฆ่าตาย หานเซิ่นจึงใช้ตัวตนของดอลลาร์มาชิงดอกบัวไลท์เวลล์ไปเพื่อเป็นการเอาคืน


 


หานเซิ่นต้องการแค่ดอกบัวไลท์เวลล์ เขาไม่ได้ต้องการจะยึดครองไลท์เวลล์ หานเซิ่นมองไปที่ดอกบัวไลท์เวลล์ยักษ์และเขาก็ใช้หอกสกายไวน์แรดิชก็อตฟันใส่รากของมัน


 


ด้วยพลังของหอกสกายไวน์แรดิชก็อต หานเซิ่นตัดมันขาดด้วยการฟันสิบกว่าครั้ง


 


“ซีโน่เจเนอิคดอกบัวไลท์เวลล์ระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้า”


 


หานเซิ่นดีใจอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับวิญญาณอสูรอีกดวง เขารีบมองเข้าไปในจิตของตัวเอง


 


“วิญญาณอสูรดอกบัวไลท์เวลล์: ใบเสมา(สมบูรณ์)”


 


เมื่อเห็นคำว่า “สมบูรณ์” มันก็ทำให้หานเซิ่นดีใจยิ่งกว่าเดิม วิญญาณอสูรที่สมบูรณ์นั้นเทียบได้กับวิญญาณอสูรขั้นทรูก็อต แต่เขายังไม่รู้ว่าใบเสมาของดอกบัวไลท์เวลล์นั้นทำอะไรได้


 


หานเซิ่นลองเรียกวิญญาณอสูรดอกบัวไลท์เวลล์ออกมาภายในหอคอยแห่งโชคชะตา ซึ่งใบเสมาของวิญญาณอสูรไลท์เวลล์นั้นแตกต่างไปจากวิญญาณอสูรใบเสมาที่เขาเคยได้มาก่อนหน้านี้ มันไม่ได้เป็นใบเสมาที่มีร่างกายของหานเซิ่นเป็นศูนย์กลาง


 


เงาของดอกบัวไลท์เวลล์ปรากฏตรงหน้าของหานเซิ่น และดอกบัวไลท์เวลล์ก็ปลดปล่อยใบเสมาแสงศักดิ์สิทธิ์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางสามหมื่นฟุตครอบคลุมรอบๆโดยมีตัวเองอยู่ตรงกลาง


 


หานเซิ่นยืนอยู่ภายในใบเสมา แต่เขาไม่ได้รู้สึกว่าความเร็วหรือพลังของตัวเองเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และเขาไม่ได้สัมผัสถึงคุณสมบัติในการป้องกันภายในใบเสมาของดอกบัวไลท์เวลล์เช่นกัน


 


เมื่อมองไปที่เงาของดอกบัวไลท์เวลล์ที่ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา จู่ๆหานเซิ่นก็สะดุ้งเหมือนกับคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาใช้หอกสกายไวน์แรดิชเฉือนนิ้วของตัวเองจนเกิดเป็นบาดแผลขึ้นมา ภายในใบเสมาของดอกบัวไลท์เวลล์บาดแผลบนนิ้วของหานเซิ่นก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและหายไปในชั่วพริบตา


 


“ใบเสมานี่มีพลังในการรักษา” หานเซิ่นดีใจเมื่อค้นพบเรื่องนี้ ใบเสมาแบบนี้เป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ แถมมันยังเป็นใบเสมาขั้นทรูก็อตอีก พลังการรักษาของมันจึงมีประสิทธิภาพสูง แม้แต่ร่างกายขั้นทรูก็อตของเขาก็ถูกรักษาได้อย่างรวดเร็ว พลังในการรักษาของมันจะต้องเป็นระดับท็อปของจักรวาลนี้


 


หานเซิ่นลองทดสอบอีกหลายครั้ง และเขาก็ค้นพบปัญหาอย่างหนึ่ง พลังในการรักษาของใบเสมาดอกบัวไลท์เวลล์นั้นไม่แบ่งแยกว่ามิตรหรือศัตรู มันไม่สำคัญว่าใครจะอยู่ข้างใน ใบเสมาของดอกบัวไลท์เวลล์ก็รักษาพวกเขาด้วย


 


หานเซิ่นคิด ‘นั่นหมายความว่าเราจำเป็นต้องระมัดระวังในตอนที่จะใช้มัน ไม่อย่างนั้นมันก็อาจจะกลายเป็นโล่ของศัตรูได้’


 


ขณะที่หานเซิ่นออกไปจากไลท์เวลล์ ข่าวเรื่องที่ดอลลาร์บุกโจมตีไลท์เวลล์ก็แพร่สะพัดออกไปทั่วทั้งจักรวาล


 


“โลกนี้มันบ้าไปแล้ว แม้แต่เอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังถูกปล้น”


 


“หลังจากที่ปราสาทพระเจ้าปรากฏออกมา มันก็เป็นสัญญาณของความโกลาหล ช่วงเวลาอันสงบสุขของจักรวาลนี้ได้จบลงแล้ว”



 


ภายในพระราชวังของเอ็กซ์ตรีมคิง ราชาไป๋ฟังรายงายจากชายแก่ก่อนที่บอกให้เขาออกไปได้ ขณะที่เขานั่งอยู่ตามลำพัง เขาก็พูดกับตัวเอง “เด็กคนนั้นคงจะไม่หยุดแค่นี้แน่”


 


หลังจากที่เงียบไปสักพัก ราชาไป๋ก็เรียกคนส่งสารเข้ามาและออกคำสั่ง


“ไปบอกกับคนของเราว่าไม่ว่าดอลลาร์จะไปที่ไหน พวกเราก็ไม่ต้องไปห้ามเขา ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไร ก็ปล่อยให้เขาไป”


 


คนส่งสารตกใจกับคำสั่งของราชาไป๋ ตั้งแต่ที่เขาเกิดมา เขาไม่เคยได้ยินกษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงออกคำสั่งแบบนี้มาก่อน

 

 

 


ตอนที่ 2973 ทรัพยากรที่รอส่งมอบ

 

หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาเดินทางไปปล้นซีโน่แจนอิคสเปชต่างๆที่เป็นของเอ็กซ์ตรีมคิง แต่นอกจากชายแก่ที่อยู่ที่ไลท์เวลล์แล้ว ไม่มีใครกล้ามาหยุดเขาแม้แต่คนเดียว ไม่เพียงแค่พวกเขาจะไม่หยุดหานเซิ่น พวกเขายังเปิดประตูต้อนรับและมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่หานเซิ่นต้องการให้แต่โดยดี


 


“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ผู้คนของเอ็กซ์ตรีมคิงเป็นบ้ากันไปหมดแล้วอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกสับสน เขาคิดว่ามันต้องเจอกับการต่อต้านและเขาจะทำการฆ่าฟันเพื่อความสนุกสนาน


 


แต่ตอนนี้คนของเอ็กซ์ตรีมคิงเปิดประตูต้อนรับเขาโดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรด้วยซ้ำ และพวกเขายังจะมอบยานพานะให้อีกถ้าหานเซิ่นขนของกลับไปได้ไม่หมด เมื่อมันเป็นแบบนั้นหานเซิ่นก็ฆ่าอีกฝ่ายไม่ลง


 


หานเซิ่นเรียกคนของเอ็กซ์ตรีมคิงมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น และคนของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ตอบเขาอย่างมีมารยาท


“เรียนมิสเตอร์ดอลลาร์ ท่านราชาได้มีราชโองการลงมาให้ถือว่ามิสเตอร์ดอลลาร์เป็นบุคคลสำคัญของเอ็กซ์ตรีมคิง และให้พวกเรามอบทุกสิ่งที่มิสเตอร์ดอลลาร์ขอ ถ้ามันยังขาดเหลืออะไร มิสเตอร์ดอลลาร์ก็บอกมาได้เลย ท่านราชาจะจัดเตรียมสิ่งที่มิสเตอร์ดอลลาร์ต้องการและไปส่งให้ถึงที่”


 


หานเซิ่นมีสีหน้าแปลกๆ เขาคิดกับตัวเอง “นี่ราชาไป๋เป็นบ้าอะไรของเขา?”


 


เดิมทีหานเซิ่นเชื่อว่าราชาไป๋ต้องการจะทำร้ายเขาถึงบอกให้เขาไปที่สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ แต่ตอนนี้เมื่อราชาไป๋ทำแบบนี้ มันก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกไม่แน่ใจขึ้นมา


 


“มันเป็นเพราะราชาไป๋รู้ว่าเขาเอาชนะเราไม่ได้อย่างนั้นหรอ? นี่เขาคิดแผนการนี้ขึ้นมาเพื่อทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดอย่างนั้นใช่ไหม?” หานเซิ่นไม่สามารถคิดหาเหตุผลอื่นได้


 


หลังจากที่ไปปล้นหลายๆที่ หานเซิ่นก็รู้สึกว่ามันไม่สนุกอีกต่อไป ตอนแรกเขาจะใช้การแก้แค้นราชาไป๋เป็นข้ออ้าง แบบนั้นเขาก็จะมีเหตุผลในการบุกปล้นทรัพยากรของเอ็กซ์ตรีมคิง ตอนนี้แม้แต่หานเซิ่นเองก็คิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันแปลกเกินไป


 


‘ถ้าเขายินดีจะมอบมันให้กับเรา ทำไมเราจะต้องปฏิเสธ’


หานเซิ่นตัดสินใจจะทำการปล้นต่อไป ในตอนนี้เขาปล้นซีโน่เจเนอิคสเปชของเอ็กซ์ตรีมคิงมาสิบแปดแห่งแล้ว เขาได้รับยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้ามานับไม่ถ้วน แต่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงก็ไม่แสดงท่าทีต่อต้านแม้แต่นิดเดียว พวกเขามอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับหานเซิ่น มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกดี


 


หานเซิ่นทำการคำนวณว่าทรัพยากรที่เขาได้มานั้นเพียงพอจะช่วยให้นางฟ้ากลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายได้แล้ว แต่ทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการเลื่อนไปสู่ขั้นทรูก็อตนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะหาได้จากภายในซีโน่เจเนอิคสเปชไหนๆ ถึงแม้หานเซิ่นจะไปปล้นที่อื่นอีก นอกจากอาณาจักรของกษัตริย์ มันก็เหลือสถานที่ไม่มากนักที่จะมีทรัพยากรขั้นทรูก็อตเหมือนอย่างไลท์เวลล์


 


“ช่างเถอะ เราเอาทรัพยากรพวกนี้กลับให้กับนางฟ้าก่อน ถ้าไม่พอ เราค่อยมาหาทรัพยากรเพิ่ม” ถึงแม้หานเซิ่นจะคิดแบบนั้น ถ้าเกิดเขาจำเป็นต้องออกมาปล้นทรัพยากรเพิ่มจริงๆ มันก็ไม่ใช่บางสิ่งที่เขาอยากจะทำนัก


 


หานเซิ่นนำทรัพยากรจำนวนมากกลับไปที่สเปชการ์เด้นและบอกให้ซินเสวียนหาคนที่ไว้ใจได้มาทำพวกมันเป็นจีโนฟลูอิดอย่างลับๆ


 


ทรัพยากรเหล่านี้จำเป็นต้องซ่อนเอาไว้ ไม่อย่างนั้นผู้คนก็จะรู้ว่าเขาคือดอลลาร์ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้ไปขอให้คนของฟลาวเวอร์ก็อตช่วยทำจีโนฟลูอิดขึ้นมา


 


ตอนนี้เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตอยู่ภายใต้การควบคุมของหานเซิ่นโดยสมบูรณ์ เทคโนโลยีทั้งหมดสำหรับใช้ทำจีโนฟลูอิดก็ตกเป็นของหานเซิ่นด้วยเช่นกัน เขาบอกให้มนุษย์ สปิริตและมอนสเตอร์ที่เขาพามาจากก็อตแซงชัวรี่ช่วยเหลือซินเสวียน


 


ส่วนเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตนั้น หานเซิ่นไม่ได้ปฏิบัติกับพวกเขาอย่างเลวร้ายอะไร ทรัพยากรในสเปชการ์เด้นนั้นหานเซิ่นให้พวกเขาเป็นคนจัดการ และพวกเขาก็ยังได้รับส่วนแบ่งของจีโนฟลูอิดที่ทำขึ้นมาอีกด้วย


 


นางฟ้าได้รับจีโนฟลูอิดไปจำนวนมาก ซึ่งทำให้เธอวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่ถึงสองเดือนเธอก็กลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลาย


 


สิ่งมีชีวิตอื่นที่วิวัฒนาการอย่างรวดเร็วนั้นจะไม่เข้าใจถึงความสามารถใหม่ของตัวเอง ด้วยเหตุนั้นในตอนที่พวกเขาต่อสู้ พวกเขาจึงไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงของตัวเองได้


 


แต่สถานการณ์ของนางฟ้าแตกต่างออกไป หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องให้เธอต่อสู้ด้วยตัวเอง เขาแค่จำเป็นต้องให้เธอรวมร่างกับเขา ดังนั้นมันไม่สำคัญว่าเธอจะเข้าใจถึงพลังของตัวเองหรือไม่


 


ทรัพยากรที่เหลืออยู่นั้นมีดอกบัวไลท์เวลล์ขั้นทรูก็อตและยีนซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลายสองยีน นางฟ้าคงจะใช้เวลาอีกสักเพื่อทำการดูดซับพวกมันเข้าไป และถึงแม้นางฟ้าจะกินพวกมันเข้าไปจนหมด เธอก็ยังไม่กลายเป็นขั้นทรูก็อตอยู่ดี


 


‘เราควรจะไปหาทรัพยากรเพิ่มจากที่ไหนดี? เราควรจะไปปล้นเอ็กซ์ตรีมคิงอีกครั้งดีไหมนะ?’ หานเซิ่นคิด


 


หวังอวี่ฮังเข้ามาหาหานเซิ่นและพูด “หานเซิ่น ที่ด้านนอกสเปชการ์เด้นมีคนแก่คนหนึ่งบ่นไม่หยุดว่าเขาต้องการจะพบกับนาย”


 


หานเซิ่นไปดูและเห็นว่าชายแก่ที่ต้องการจะพบกับเขาก็คือไนน์เทาซันด์คิง


 


หานเซิ่นออกไปนอกสเปชการ์เด้นและถาม “ไนน์เทาซันด์คิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”


 


“นายท่าน ในที่สุดข้าก็หานายท่านพบ” ไนน์เทาซันด์คิงโค้งคำนับให้กับหานเซิ่นก่อนที่จะเริ่มบอกเหตุผลที่มาที่นี่


 


หลังจากที่หานเซิ่นถูกทำร้ายโดยพระเจ้าชั่วพริบตา ไนน์เทาซันด์คิง ปีศาจสาวและคนอื่นๆก็พยายามตามหาเขา


 


ไนน์เทาซันด์คิงได้ยินข่าวว่าหานเซิ่นเคยอาศัยอยู่ในสเปชการ์เด้น นั่นเป็นเหตุผลที่เขามาตามหาหานเซิ่นที่นี่


 


“ทำไมพวกเขาถึงตามหาฉัน?” หานเซิ่นถาม


 


“นายท่านถูกเลือกโดยผู้นำเซเคร็ด มันจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาต้องการจะรับใช้นายท่าน” ไนน์เทาซันด์คิงพูด


 


“ผู้นำเซเคร็ดบอกพวกเขาไม่ใช่หรือว่าพวกเขาจะทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ? ผู้นำเซเคร็ดไม่ได้สั่งให้พวกเขาติดตามข้าสักหน่อย” หานเซิ่นขมวดคิ้ว


 


ไนน์เทาซันด์คิงหัวเราะขึ้นมา “นายท่านถูกเลือกโดยท่านผู้นำ แถมนายน้อยก็ยังเป็นลูกชายของนายท่านอีก ถ้าพวกเขาไม่ติดตามนายท่าน พวกเขาจะไปติดตามใครได้อีก ตอนนี้พวกเขาพักอยู่ในเซเคร็ด พวกเขากำลังรอให้นายน้อยกลับมา หลังจากนั้นพวกเขาจะพานายน้อยมาหานายท่าน”


 


ก่อนหน้านี้หานเซิ่นได้ส่งคนไปตามหาเสี่ยวฮวาแล้ว แต่มันยังไม่มีข่าวอะไร ถ้าปีศาจสาวและคนอื่นๆจะพาเสี่ยวฮวามาหาเขา หานเซิ่นก็ไม่คิดจะพูดอะไร เขาเชิญไนน์เทาซันด์คิงเข้ามาในสเปชการ์เด้น


 


“ข้าจำเป็นต้องกลับไปส่งข่าวก่อนเพื่อที่ปีศาจสาวและคนอื่นๆจะไม่ได้ต้องกังวลอีกต่อไป”


ไนน์เทาซันด์คิงพูด “พวกเขายังมีสมบัติที่เก็บเอาไว้ในปราสาทศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาต้องการจะมอบพวกมันทั้งหมดให้กับนายท่าน ข้าจะเป็นคนรับหน้าที่ขนพวกมันมาให้กับนายท่านเอง”


 


“โอ้ ข้าคิดว่าสมบัติถูกทำลายไปในการต่อสู้แล้วซะอีก พวกเขายังมีสมบัติเหลืออีกอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพูด


 


“พวกเขามีชิ้นส่วนซีโน่เจเนอิคที่ได้รับจากการฆ่าซีโน่เจเนอิคในระบบจักรวาลร้าง แต่พวกเขาไม่เก่งเรื่องการทำสมบัติซีโน่เจเนอิคขึ้นมา”


ไนน์เทาซันด์คิงอธิบาย “ดังนั้นพวกมันจึงเป็นแค่ชิ้นส่วนที่ยังไม่ได้ถูกทำเป็นอาวุธ พวกเขามีแผนที่จะมอบพวกมันทั้งหมดให้กับนายท่าน ถ้านายท่านไม่ใช้มันด้วยตัวเอง นายท่านก็นำไปให้นายน้อยใช้ได้”


 


ตอนนี้หานเซิ่นกำลังขาดทรัพยากร ดังนั้นเขาไม่รังเกียจที่จะได้ทรัพยากรเพิ่ม เขาคิดเกี่ยวกับมันและตัดสินใจจะตามไนน์เทาซันด์คิงกลับไปที่ระบบจักรวาลร้างด้วยอีกคนเพื่อที่นางฟ้าจะกลายเป็นขั้นทรูก็อตโดยเร็วที่สุด


 


ส่วนทรัพยากรของเสี่ยวฮวา เขาสามารถหาทรัพยากรเพิ่มเมื่อไหร่ก็ได้


 


มันมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวออกมาท้าสู้กับเทพสปิริตมากขึ้นเรื่อยๆ เทพสปิริตหลายคนถูกฆ่าตายไปและอาวุธประจำตัวพระเจ้าหลายอันก็ถูกสร้างขึ้นมา ซึ่งบางคนต้องการจะเอาธงพระเจ้าของเทพสปิริตคนก่อนลงมาและกลายเป็นเทพสปิริตคนใหม่ ส่วนบางคนแค่ต้องการอาวุธประจำตัวพระเจ้าเท่านั้น


 


แต่พวกเขาจะท้าสู้แค่กับเทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่น ไม่มีใครที่กล้าท้าสู้กับเทพสปิริตระดับสูงกว่านั้น


 


หานเซิ่นมีแผนที่จะไปฆ่าเทพสปิริตเช่นกัน เขาต้องการจะเอาอาวุธประจำตัวพระเจ้ามาเพื่อช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์ เขาเห็นพลังชีวิตของโกลเด้นโกรวเลอร์อ่อนลงไปเรื่อยๆทุกวัน มันทำให้เขารีบร้อนที่จะช่วยมันให้ได้


 


หานเซิ่นไม่ได้สนใจจะเอาธงพระเจ้าลงมาและกลายเป็นเทพสปิริตซะเอง ถึงเทพสปิริตจะมีชีวิตที่เป็นอมตะ แต่พวกเขาก็ถูกคนอื่นมาแทนที่ได้


 


และถึงจะไม่มีใครมาแทนที่ พวกเขาก็ต้องอยู่เฝ้าวิหารพระเจ้าไปตลอดการ นั่นเหมือนกับถูกขังคุกชั่วนิรันดร์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)