Super God Gene 2874-2887

ตอนที่ 2874 หานเซิ่นท้าชิงอันดับ

 

“ในที่สุดก็เคลื่อนไหว” หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าคนที่จางเสวียนเต้าท้าสู่คือแอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตที่อยู่อันดับที่หก


แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตเป็นหนึ่งในเผ่าแอนเชี่ยนท์ก็อต และเขาก็เป็นบุคคลที่อันดับสูงที่สุดในบรรดาแอนเชี่ยนท์ก็อตทั้งหมด


หานเซิ่นเคยเห็นแอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตต่อสู้มาก่อน ซึ่งเขาเป็นระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตที่แข็งแกร่งมากๆ เขามีพลังที่ลึกลับ ทำให้เขาสามารถเอาชนะซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตที่ท้าชิงเขาได้อย่างง่ายดาย


หานเซิ่นเชื่อว่าด้วยพลังของแอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อต อันดับของเขาควรจะสูงกว่านี้


หานเซิ่นประหลาดใจที่ผู้นำปราสาทนภาเลือกจะท้าสู้กับแอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อต หานเซิ่นคิดว่าเขาจะเลือกซีโน่เจเนอิคที่มีอันดับสูงกว่าอย่างซีกกิ้งเพอร์ฟูมบีสต์ซะอีก


แต่ในตอนที่ผู้นำปราสาทนภาเข้ามาในสนามประลองอวกาศ เขามองไปที่แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตและพูด

“แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อต มันถึงเวลาที่พวกเราจะจบเรื่องนี้”


แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตนั้นดูเหมือนกับยักษ์สีทองแดง ไตรพอดสีทองแดง(ขาตั้งกล้อง)อันหนึ่งอยู่ในมือของเขา เขามองกลับไปที่จางเสวียนเต้า และจู่ๆไตรพอดทองแดงในมือของเขาก็เรืองแสงประหลาดออกมา ดวงดาวทั้งหมดที่อยู่บนท้องฟ้าตกลงมาราวกับสายธารแห่งดวงดาว พวกมันทั้งหมดกำลังเข้าไปหาไตรพอดทองแดง มันเหมือนกับว่าทั้งจักรวาลกำลังถูกดูดเข้าไปข้างในนั้น


หานเซิ่นเคยดูแอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตมาก่อน ในตอนนั้นซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตถูกดูดเข้าไปในไตรพอดโดยที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้


จางเสวียนเต้ายังคงยืนนิ่งอยู่ในอวกาศ เขาปล่อยให้ดาวทั้งหลายเคลื่อนที่ผ่านร่างกายของเขาไป ขณะที่ตัวเขายังคงไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว มันเหมือนกับว่าพลังของไตรพอดทองแดงไม่ส่งผลอะไรกับเขา


“แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อต ใช้พลังทั้งหมดออกมา เจ้าจะได้ไม่มีอะไรต้องเสียใจในภายหลัง”

จางเสวียนเต้าเป็นเหมือนกับเทพที่กำลังยืนระหว่างท้องฟ้าและผืนดิน พลังทุกอย่างในโลกดูเหมือนจะไม่มีความหมายอะไรกับเขา


แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตคำรามออกมาด้วยความเกรี้ยวโกรธ ไตรพอดทองแดงเรืองแสงสว่างไสวยิ่งกว่าเดิม แสงเหล่านั้นมาจากรอยแกะสลักบนไตรพอด บางรอยแกะสลักนั้นเป็นดวงดาว บางรอยแกะสลักเป็นสัตว์เดรัจฉาน ส่วนรอยแกะสลักที่เหลือเป็นพืช


ทุกสสารนั้นเป็นสัญลักษณ์บนไตรพอดทองแดงนั่น ขณะที่สัญลักษณ์เหล่านั้นเรืองแสงออกมา พลังของทั้งจักรวาลก็ดูเหมือนจะไหลไปหาไตรพอดทองแดง มันทำให้พลังของไตรพอดทองแดงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ


“มันกำลังใช้พลังของจักรวาล แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตนี่น่ากลัวจริงๆ” หานเซิ่นหวาดกลัวเล็กน้อย


พระเจ้ามองไปที่แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตด้วยความสนใจ

“แอนเชี่ยนท์ก็อตเป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิด พรสวรรค์ของพวกเขาสูงสุดในบรรดาเผ่าพันธุ์ชั้นสูงทั้งหมด แต่ประชากรของพวกเขาก็มีน้อยที่สุดในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหมดเช่นกัน พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานที่สุด แต่ทุกวันนี้พวกเขาก็ยังคงอยู่แค่นั้น พวกเขาแทบจะไม่พัฒนาขึ้นเลยสักนิดเดียว”


“พวกเขาเป็นถึงขั้นทรูก็อตเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะพัฒนาต่อไปได้ยังไง? หรือเจ้าหมายถึงการเข้าไปในจีโนฮอลล์?” หานเซิ่นพูด


พระเจ้าส่ายหัวและพูดต่อไปว่า “แต่มันจะโทษพวกเขาก็ไม่ได้ เผ่าพันธุ์อื่นมีขั้นบันไดนับไม่ถ้วนให้ก้าวขึ้นไป ขณะที่พวกเขามีขั้นบันไดอยู่แค่สองถึงสามขั้นเท่านั้น การที่พวกเขาก้าวขึ้นไปได้ช้านั้นถือเป็นเรื่องปกติ”


ไตรพอดได้รับพลังเสริมจากทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล พลังของมันน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตคำรามออกมาและยกไตรพอดทองแดงในมือขึ้น ไตรพอดส่งเสียงเหมือนกับการคำรามของมังกรออกมา และในขณะเดียวกันมันก็ปลดปล่อยแสงที่น่ากลัวออกมา


ภายในลำแสงนั่น หานเซิ่นเห็นเงาประหลาดบางอย่าง มันดูเหมือนกับเทพสปิริตที่กำลังเอื้อมมือไปจับตัวผู้นำปราสาทนภาที่กำลังยืนอยู่ในอวกาศ


เงานั่นดูแข็งแกร่งมากๆ หานเซิ่นคิดว่ามันแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยเห็นในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน แม้แต่ดราก้อนวันที่ใช้อาวุธเผ่าพันธุ์บลัดดราก้อนรูเลอร์ ซึ่งเป็นการรวมดราก้อนระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตเจ็ดคนเอาไว้ก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับเงาที่อยู่ในลำแสงนี้


เงาในลำแสงให้ความรู้สึกเหมือนกับเทพสปิริตที่สามารถทำลายโลกใบนี้ได้ มันเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัว แม้แต่หานเซิ่นที่มีจิตใจแข็งแกร่งก็ยังรู้สึกว่าตัวเองนั้นตัวเล็กลงไป


“เวลาผ่านไปหลายปี แต่เจ้าก็ยังใช้วิธีเดิมๆ” ผู้นำปราสาทนภามองไปที่เงาในลำแสงด้วยความดูถูก


นิ้วหนึ่งเคลื่อนไหว และมนต์แสงก็ถูกปล่อยออกไป มันไปติดอยู่บนฝ่ามือในลำแสง


เมื่อเงาในลำแสงถูกมนต์แสงของผู้นำปราสาทนภาเข้า เขาก็รีบดึงมือของตัวเองกลับไปราวกับว่าถูกไฟฟ้าช็อต พร้อมกับส่งเสียงร้องออกมา


มันไม่ได้จบเพียงแค่นั้น มนต์แสงติดอยู่ที่ฝ่ามือของเงาก็สว่างไสวขึ้นเรื่อยๆจบกลบลำแสงที่ออกมาจากไตรพอลทองแดง


ขณะที่พลังของมนต์แสงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พลังศักดิ์สิทธิ์ก็ขับไล่ลำแสงและเงาที่อยู่ภายในกลับเข้าไปในไตรพอลทองแดง ไม่ว่าเงาในลำแสงจะคำรามออกมาแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถหยุดมันได้


“มนต์แสงของผู้นำปราสาทนภาทรงพลังมากๆ”

หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขา มนต์สังหารยีนดั้งเดิมของปราสาทนภานั้นเป็นบางสิ่งที่หานเซิ่นเคยเห็นมาก่อน แต่ผู้นำปราสาทนภาก็ทำให้เขารู้สึกตกใจอยู่ดี แน่นอนว่าเหตุผลหลักเป็นเพราะความจริงที่ว่าผู้นำปราสาทนภานั้นแข็งแกร่งเกินไป พลังที่เขาปล่อยออกไปนั้นทรงพลังที่สุดเท่าที่ทรูก็อตคนหนึ่งจะทำได้แล้ว


ในวินาทีต่อมาหลังจากที่มนต์แสงไปถูกไตรพอดทองแดง มันก็ไม่สำคัญว่าแอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตจะมีพลังมากขนาดไหน เขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังอะไรออกมาได้ มันเหมือนกับว่าไตรพอดทองแดงถูกปิดผนึกเอาไว้ และเมื่อมนต์แสงเพิ่มพลังมากขึ้น ไตรพอดทองแดงก็ดูหนักขึ้นตามไปด้วย แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตดูเหมือนจะไม่สามารถถือมันเอาไว้ได้อีกต่อไป แขนของเขาเริ่มจะถูกกดลงไปด้านล่าง


แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตคำรามอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาไม่สามารถหยุดไตรพอดทองแดงจากการร่วงลงไปได้ ที่สุดแล้วไตรพอลทองแดงก็หลุดจากมือของเขาและร่วงลงไปสู่อวกาศ


จางเสวียนเต้าสะบัดแขนเสื้อและเก็บไตรพอลทองแดงเข้าไป หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า

“แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อต เจ้าให้ข้ายืมสิ่งนี้ไปสักหนึ่งพันปีในฐานะดอกเบี้ย”


แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตโกรธจัด ร่างกายทองแดงของเขาเรืองแสงอย่างสว่างไสว มันทำให้เขาดูเหมือนกับดวงดาวที่เปล่งประกายบนท้องฟ้า เขาฉีกผ่านช่องว่างอวกาศเพื่อเข้าไปหาจางเสวียนเต้า


จางเสวียนเต้าสะบัดแขนเสื้อ และทำให้ร่างกายทองแดงของแอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตชนเข้ากับรอยแยกในอวกาศ เขาตกลงไปในรอยแยกนั้นและหายลับไป


“อีกหนึ่งพันปีให้หลัง เจ้าค่อยมารับไตรพอดกลับคืนไปจากปราสาทนภา” หลังจากที่จางเสวียนเต้าพูดแบบนั้น เขาก็หันกลับหลังและเดินจากไป ทุกสิ่งมีชีวิตตกตะลึง


“เขาแข็งแกร่งจริงๆ” หานเซิ่นรู้สึกยอมรับในความสามารถของผู้นำปราสาทนภา พลังและวิธีการของเขานั้นคล้ายคลึงกับของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ


แม้แต่พระเจ้าก็ยังชื่นชมเขา “จางเสวียนเต้าเผ่านภานี่ยอดเยี่ยมมากๆ!”


การต่อสู้ต่อมาๆนั้นเป็นอะไรที่น่าเบื่อเมื่อเทียบกับการต่อสู้ของจางเสวียนเต้า ทุกสิ่งมีชีวิตนั้นยังคงเอาแต่พูดกันถึงการต่อสู้ระหว่างจางเสวียนเต้ากับแอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อต พวกเขาต่างคิดกันว่าถ้าไม่ใช่เพราะกฎที่ว่าหนึ่งคนจะท้าชิงได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จางเสวียนเต้าก็คงจะได้อันดับที่สูงกว่านั้น หรืออาจจะแย่งอันดับที่สองของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้เลย


วันต่อๆมา ถึงแม้จะมีการต่อสู้ที่ดุเดือดอยู่หลายคู่ แต่มันก็ไม่มีการต่อสู้ไหนที่ดีเท่ากับของจางเสวียนเต้า


เมื่อเห็นว่ามันถึงวันสุดท้ายแล้ว ในที่สุดหานเซิ่นก็ตัดสินใจจะท้าชิงอันดับ เป้าหมายของเขาก็คือเทพช้างมาฮา

 

 

 


ตอนที่ 2875 เทพช้างมาฮา

 

หานเซิ่นเข้าไปในสนามประลองและเห็นช้างยักษ์สีแดงตัวหนึ่งปรากฏตัวที่ฝั่งตรงข้าม


ช้างยักษ์ตัวนั้นเป็นสีแดงทั้งตัว ร่างกายของมันลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีแดง แต่ถ้าคนๆหนึ่งไปสัมผัสมัน คนๆนั้นก็จะสังเกตได้ว่าเปลวไฟนั้นไม่ได้ร้อน


เทพช้างมาฮาคำรามพร้อมกับยกงาช้างที่ดูเหมือนกับหินคริสตัลและงวงของมันขึ้น


หานเซิ่นยื่นแขนออกมาข้างหน้าและหอกสกายไวน์แรดิชก็อตก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา วินาทีต่อมาหานเซิ่นก็เทเลพอร์ตไปอยู่ตรงหน้าเทพช้างมาฮาและแทงหอกสกายไวน์แรดิชก็อตออกไป ปลายหอกทะลวงผ่านผิวของช้างเข้าไป ขณะที่หานเซิ่นออกแรงดัน เขาก็รู้สึกว่ากล้ามเนื้อภายในตัวช้างนั้นเหมือนกับเส้นเอ็นของเนื้อ พวกมันแข็งมาก มีเพียงแค่ส่วนปลายของหอกสกายไวน์แรดิชก็อตเท่านั้นที่แทงเข้าไปได้สำเร็จ มันยากที่จะดันหอกเข้าไปลึกกว่านั้น


“นั่นเป็นร่างกายที่แข็งมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่มันรักษาอันดับที่ยี่สิบห้าเอาไว้ได้” หานเซิ่นแปลกใจ และก่อนที่งวงของช้างจะเข้ามา หานเซิ่นก็ดึงหอกกลับและเทเลพอร์ตถอยออกไป


เทพช้างมาฮานั้นมีพละกำลังมหาศาล มันบีบร่างกายระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตจนแตกหักด้วยงวงของมัน หานเซิ่นเป็นแค่ขั้นบัตเตอร์ฟลายเท่านั้น เขาจึงไม่อยากจะปะทะกับมันตรงๆ


หลังจากที่หอกสกายไวน์แรดิชก็อตถูกดึงออกมา บาดแผลนั้นไม่ได้มีเลือดไหลออกมา แต่มันมีต้นอ่อนงอกขึ้นมาแทน มันกำลังเติบโตอย่างช้าๆ


แสงสีแดงของเทพช้างมาฮาลุกโชนขึ้นมา และบาดแผลที่มีต้นอ่อนเกิดขึ้นมานั้นก็ถูกรักษาอย่างรวดเร็ว ต้นอ่อนนั้นกลายเป็นเหมือนกับหญ้าที่พยายามจะแทรกตัวผ่านกำแพงหินออกมา ถึงแม้พวกมันจะไม่ถูกบีบจนตายไป แต่ก็เป็นเรื่องยากที่พวกมันจะเติบโตมากไปกว่านั้น


“ถ้าการโจมตีครั้งเดียวไม่ได้ผล เราก็ต้องโจมตีหลายๆครั้ง”

หานเซิ่นแว็บไปแว็บมาเหมือนกับผี เขาไปปรากฏข้างหน้า ข้างหลัง ข้างซ้ายและข้างขวางของเทพช้างมาฮา ขณะเดียวกันเขาก็แทงหอกสกายไวน์แรดิชก็อตเข้าไปในเนื้อหนังของเทพช้างมาฮา และก่อนที่งวงช้างจะเข้ามาใกล้ หานเซิ่นก็จะเทเลพอร์ตไปตำแหน่งอื่นเรียบร้อยแล้ว


การเทเลพอร์ตอย่างไม่จำกัด รวมกับพลังของหอกสกายไวน์แรดิชก็อตนั้นทำให้ร่างกายของเทพช้างมาฮาเกิดรูขึ้นรูแล้วรูเล่า ทุกบาดแผลนั้นจะมีต้นอ่อนงอกขึ้นมา ถึงแม้ร่างกายของเทพช้างมาฮาจะแข็งแกร่งและสามารถรักษาบาดแผลที่ได้รับได้ในทันที แต่ตามร่างกายของมันก็มีต้นอ่อนงอกขึ้นมาเรื่อยๆจนกลายเป็นขนสีเขียวที่ปกคลุมร่างของเทพช้างมาฮา ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องยากที่ต้นอ่อนจะเติบโต พวกมันถูกบีบด้วยเนื้อหนังของเทพช้างมาฮาจนเกือบจะตายไป


“ไม่ว่าซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตตัวไหนในร้อยอันดับแรกก็ยากจะรับมือทั้งนั้น ถ้าเราเป็นขั้นทรูก็อตเหมือนกัน เราก็คงจะใช้พลังของตัวเองเพื่อฉีกร่างกายของมันไปแล้ว แต่ตอนนี้เราจำเป็นต้องพึ่งพลังของหอกสกายไวน์แรดิช มันจึงเป็นอะไรที่ยากลำบาก”

ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิด มือของเขาก็เคลื่อนไหวไม่มีหยุด หอกสกายไวน์แรดิชก็อตยังคงแทงเข้าใส่ร่างกายของเทพช้างมาฮาราวกับสายฟ้า มันทำให้เกิดต้นอ่อนบนร่างของเทพช้างมาฮามากขึ้นเรื่อยๆ


ถึงแม้จะดูเหมือนกับว่าหานเซิ่นเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะสร้างความเสียหายกับเทพช้างมาฮา


“พลังในการรักษาของเทพช้างมาฮานั้นมีประสิทธิภาพสูงเกินไป แม้แต่อาวุธประจำตัวพระเจ้าก็ฆ่ามันไม่ได้”


“ดูเหมือนว่าดอลลาร์จะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว”


“เขาจะท้าสู้กับคนอื่นก็ได้ แต่เขากลับตัดสินใจท้าเทพช้างมาฮา ถ้าเขาเลือกซีโน่เจเนอิคตัวอื่นล่ะก็ เขาก็คงจะฆ่ามันไปได้เรียบร้อยแล้ว”


ผู้นำปราสาทนภาหัวเราะและพูด “ดูเหมือนว่าดอลลาร์จะประเมินพลังป้องกันและพลังในการรักษาของเทพช้างมาฮาต่ำเกินไป นี่เป็นซีโน่เจเนอิคธาตุชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด ถึงแม้หอกนั่นจะเป็นอาวุธประจำตัวพระเจ้า แต่มันเป็นธาตุพืช สิ่งมีชีวิตปกติอาจจะถูกมันฆ่าตายได้ง่ายๆ แต่การจะฆ่าเทพช้างมาฮานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย”


“น่าเสียดายที่เทพช้างมาฮาดื้อด้านและภาคภูมิใจในตัวเอง”

ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆพูดพร้อมกับถอนหายใจ “ถ้าพวกเราได้มันมาปกป้องปราสาทนภา ถึงแม้จะมีระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตหลายคนบุกมา พวกเราก็ไม่มีอะไรต้องกลัว”


“มันอาศัยอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของแอนเชี่ยนท์ก็อต ดังนั้นจึงไม่มีใครทำอะไรมันได้ แม้แต่แอนเชี่ยนท์ก็อตก็ทำอะไรมันไม่ได้” ผู้นำปราสาทนภาพูดพร้อมกับหัวเราะ


ผู้หญิงคนนั้นพูดต่อ “พลังในการรักษาของมันทรงพลังมากๆ แต่มันซุ่มซ่าม มันจะถูกหลอกโดยวิชาจีโนต่างๆ มันดีพอจะเป็นยามป้องกัน แต่ไม่ดีพอที่จะเป็นนักรบ”


หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าเขาประเมินพลังของเทพช้างมาฮาต่ำเกินไป การจะฆ่ามันด้วยหอกสกายไวน์แรดิชก็อตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ


แต่ในเมื่อหานเซิ่นเป็นคนเลือกมัน เขาก็ได้เตรียมตัวมาแล้ว เขาหยุดโจมตีเทพช้างมาฮาและถอยออกไประยะหนึ่ง


“แข็งแกร่งจริงๆ แม้แต่ดอลลาร์ที่มีอาวุธประจำตัวพระเจ้าก็ทำอะไรมันไม่ได้”


“นี่ดอลลาร์กำลังจะยอมแพ้อย่างนั้นหรอ?”


“ข้าไม่คิดแบบนั้น ดอลลาร์ยังมีวิชาดวงตาที่ตัดหัวของอบิสไนท์ได้อยู่”


“เจ้าพูดถูก ดูเหมือนว่าพวกเราจะได้เห็นพลังที่น่ากลัวนั่นอีกครั้ง”


ทุกคนอยากจะเห็นดวงตาแห่งกฎของหานเซิ่น หานเซิ่นเห็นว่าถึงแม้เทพช้างมาฮาจะมีสีแดงทั้งตัว แต่ในดวงตาแห่งกฎ มันมีสีขาวราวกับแผ่นกระดาษ มันไม่มีบาปอยู่เลย ดวงตาแห่งกฎนั้นไม่ได้ผลกับมัน


เมื่อเทพช้างมาฮาเห็นหานเซิ่นถอยออกไป มันก็ไม่มีแผนจะไล่ตาม มันแค่ยกงวงขึ้นและส่งเสียงร้องเพื่อยั่วยุเขา ร่างกายของมันเต็มไปด้วยต้นอ่อนสีเขียว แต่มันไม่สนใจ ดูเหมือนกับว่าต้นอ่อนพวกน้นไม่ได้ส่งผลอะไรต่อมัน


หานเซิ่นหัวเราะ “เจ้าจะอวดดีก็ได้แค่ตอนนี้แหละ”


หานเซิ่นเก็บหอกสกายไวน์แรดิชก็อตไป หลังจากนั้นระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วกลางของเขาก็มีแสงสีทองส่องสว่างขึ้นมา มันก่อตัวเป็นเหรียญสีทอง


หานเซิ่นถือเหรียญเอาไว้ เขามองดูตัวเลขบนเหรียญเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ 1… 2… 3… 4… 5… 6…


ขณะที่ตัวเลขบนเหรียญเพิ่มสูงขึ้น ออร่าของหานเซิ่นก็ดูน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม มันเหมือนกับว่าเขาเป็นระเบิดนาฬิกาที่กำลังนับถอยหลังไปสู่การระเบิด


เทพช้างมาฮารู้สึกตัวว่ามีบางสิ่งผิดปกติ มันคำรามและใช้ขาทั้งสี่เพื่อวิ่งเข้าใส่หานเซิ่น


เมื่อเห็นว่าเทพช้างมาฮาวิ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้า หานเซิ่นก็ไม่กล้าจะใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อป้องกันการโจมตี เขาจำใจต้องดีดเหรียญออกไป


เหรียญกลายเป็นแสงสีทองที่พุ่งผ่านอวกาศไปถูกหน้าผากของเทพช้างมาฮา มันรวบรวมพลังได้จนถึงเลข 19 ในตอนนี้เหรียญนั้นหนักหน่วงเหมือนกับค้อน มันส่งเทพช้างมาฮากระเด็นถอยไปด้านหลัง


หานเซิ่นคิด ‘น่าเสียดายที่เราเป็นแค่ขั้นบัตเตอร์ฟลาย ถ้าเราเป็นขั้นทรูก็อตล่ะก็ พลังของเซฟวิ่งมันนี้ที่เลข 13 ก็คงจะเปลี่ยนร่างกายของมันให้กลายเป็นผุยผงได้แล้ว’


เทพช้างมาฮาคำรามอย่างบ้าคลั่งและต้องการจะวิ่งเข้าหาหานเซิ่นอีกครั้ง แต่มันช้าลงไปอย่างมากราวกับว่ามันกำลังแบกภูเขาลูกหนึ่งเอาไว้

 

 

 


ตอนที่ 2876 ท้าชิงอันดับครั้งสุดท้าย

 

เหรียญกำลังเรืองแสงบนหน้าผากของเทพช้างมาฮา เทพช้างมาฮาเหมือนกับถูกภูเขาทั้งลูกทับเอาไว้ ความเร็วของเทพช้างมาฮานั้นลดลงไปอย่างมาก


ถึงแม้หานเซิ่นจะรวบรวมพลังได้ถึงเลข 13 แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดเทพช้างมาฮา เทพช้างมาฮายกงวงขึ้นและพยายามจะวิ่งเข้าไปหาหานเซิ่น


“ยังไม่ยอมแพ้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นหัวเราะ เขาปล่อยแสงสีทองไปที่หัวของเทพช้างมาฮาและทำให้ตัวเลขบนเหรียญที่อยู่ของเทพช้างมาฮาเพิ่มขึ้นจาก 13 ไป 14 ร่างกายของเทพช้างมาฮาหนักขึ้นกว่าเดิม เป็นเรื่องยากที่มันจะก้าวไปข้างหน้า


“มาดูสิว่าเจ้าจะทนได้นานสักแค่ไหน” หานเซิ่นดีดนิ้วอีกครั้งและแสงสีทองก็ถูกปล่อยออกไป มันทำให้ตัวเลขบนเหรียญเพิ่มสูงขึ้นอีก


หานเซิ่นดีดนิ้วสิบครั้งติดต่อกัน และตัวเลขบนเหรียญก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เทพช้างมาฮาบังคับตัวเองให้วิ่งเข้าใส่หานเซิ่น แต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันของเหรียญได้และล้มลงไป มันร่วงผ่านอวกาศลงไปบนดาวดวงหนึ่ง มันเป็นเหมือนกับลูกอุกกาบาตที่ตกลงไป ทำให้เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่บนดวงดาว


แรงสั่นสะเทือนนั้นทำให้ภูเขาไฟปะทุขึ้นทุกหนทุกแห่ง ลาวาร์และฝุ่นควันเข้าปกคลุมดวงดาว


เทพช้างมาฮาถูกกดเอาไว้กับพื้นของดวงดาว มันพยายามจะพยุงตัวเองขึ้นมา แต่ในตอนที่มันยกขาข้างหนึ่งขึ้นมายืนได้ ขาอีกสามข้างก็ยังคงถูกกดลงไปกับพื้น พื้นดินบริเวณนั้นพังทลาย และทำให้เทพช้างมาฮาล้มกลับลงไปอีก มันไม่สามารถลุกกลับขึ้นมายืนได้


เทพช้างมาฮาพยายามอย่างเต็มที่ แต่แรงกดดันของเหรียญนั้นเป็นอะไรที่มากเกินไป ซึ่งไม่ว่ามันจะพยายามสักแค่ไหน มันก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ พื้นดินใต้เท้าของมันแตกร้าวและร่างกายของมันก็จมลงไปเรื่อยๆ


ตูม!

สุดท้ายดวงดาวนั้นก็ถูกทำลายโดยน้ำหนักของเทพช้างมาฮา และมันก็ร่วงออกจากดวงดวงไปสู่อวกาศ มันออกห่างจากหานเซิ่นไปเรื่อยๆ


เทพช้างมาฮาคำรามอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีทางเลือก นอกจากยอมแพ้และออกไปจากสนามประลอง


“เหรียญนั่นน่ากลัวจริงๆ มันเก็บสะสมพลังได้มากขึ้นเรื่อยๆ”


“นั่นคือพลังที่แท้จริงของดอลลาร์ เขาไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธประจำตัวพระเจ้าเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ขั้นทรูก็อตอย่างเทพช้างมาฮา”


“นั่นเป็นวิชาจีโนแบบไหนกัน? ดอลลาร์เป็นแค่ขั้นบัตเตอร์ฟลาย แต่เทพช้างมาฮาที่เป็นขั้นทรูก็อตกลับต้านพลังของมันไม่ได้”


“เจ้าเห็นนั่นไหม? ใครบอกว่าดอลลาร์พึ่งแค่พลังแห่งกฎหรืออาวุธประจำตัวพระเจ้าเท่านั้น? เขาไม่จำเป็นต้องใช้พวกมันเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ขั้นทรูก็อต”


“เป็นวิชาจีโนที่น่าสนใจ” นั่นคือความเห็นของพระเจ้า


ชัยชนะของหานเซิ่นไม่ได้สร้างความตื่นเต้นมากนัก เพราะยังไงซะผู้คนก็ได้เห็นการต่อสู้ที่สุดยอดมาก่อนหน้านี้ การต่อสู้ของเขาจึงไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่พลังของวิชาเซฟวิ่งมันนี่นั้นทำให้หลายๆคนรู้สึกสนใจ


มันเป็นวันสุดท้ายของการประลองจัดอันดับ แต่อันดับนั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก สิบอันดับแรกยังคงเป็นหน้าเดิมๆ แอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อตที่ตกอันดับไปเพราะผู้นำปราสาทนภานั้นยังมีโอกาสที่จะท้าชิงอันดับอยู่ และหลังจากการท้าชิง เขาก็กลับมาสู่ท็อปสิบได้อีกครั้ง


สิบอันดับแรกนั้นแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง ที่หนึ่งยังคงเป็นโกลเด้นโกรวเลอร์ ที่สองคือผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ที่สามคือเดม่อนอัลฟ่า ที่สี่คือโหลวเลี่ย ที่ห้าคือซีโน่เจเนอิคที่มีชื่อว่าซีกกิ้งเพอร์ฟูมบีสต์ ที่หกคือจางเสวียนเต้าของปราสาทนภา ที่เจ็ดคือไป๋อู๋ซางจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ที่แปดคือซีโน่เจเนอิคที่ชื่อเอมตี้ดราก้อนคิง ที่เก้าคือแอนเชี่ยนท์แซคริไฟซ์ก็อต ที่สิบคืออันเดอร์เวิลด์โกสต์


อันเดอร์เวิลด์โกสต์นั้นค่อนข้างแปลก มันล่องหนอยู่ตลอด ไม่มีใครเห็นได้ว่ามันมีหน้าตาเป็นยังไง และไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากที่ไหนกันแน่


หลายคนนั้นท้าชิงอันดับของมัน แต่ไม่มีใครเห็นมันได้ ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงพ่ายแพ้ไป


ส่วนไป๋อู๋ซางจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้น หานเซิ่นได้ยินมาจากเป่าอิงว่าเขานั้นเป็นคนที่มีเหนือกว่าราชาไป๋ซะอีก เขาคือยอดฝีมือที่น่ากลัวที่สุดของตระกูลไป๋ในขณะนี้


การต่อสู้จัดอันดับเกือบจะสิ้นสุดแล้ว มันไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอันดับอะไรมากนัก หานเซิ่นรอคอยอย่างสงบให้การประลองจบลงเพื่อที่เขาจะได้รับรางวัลของตัวเอง


อันดับที่ยี่สิบห้านั้นจะได้รับอาวุธขั้นทรูก็อตหนึ่งชิ้นและวัตถุดิบขั้นทรูก็อตอีกสี่ชิ้น นอกจากนั้นเขายังจะได้รับแสตมป์เทพสปิริต ส่วนแสตมป์เทพสปิริตทำอะไรได้นั้นหานเซิ่นเองก็ไม่รู้


“แสตมป์ใช้ทำอะไรได้?” หานเซิ่นถามพระเจ้า


“เจ้าใช้มันเพื่อเปิดประตูเข้าไปในจีโนฮอลล์ได้” พระเจ้าพูด

“เจ้าจะเข้าไปในจีโนฮอลล์ได้อย่างปลอดภัยหนึ่งครั้ง”


“ข้าไปที่วิหารของเทพเกราะนภาไหม?” หานเซิ่นถาม


“แน่นอนอยู่แล้ว” พระเจ้าพูดพร้อมกับพยักหน้า


“นอกจากวิหารของพระเจ้าเกราะนภาแล้ว มันยังไปที่อื่นได้อีกไหม?”

หานเซิ่นถาม เขามีสิ่งประจำตัวพระเจ้าของอีวิลโลตัสอยู่ ถ้ามีโอกาส เขาก็ต้องการจะได้อาวุธประจำตัวพระเจ้าเพิ่มอีกอัน


“ไม่ได้ แสตมป์เทพสปิริตหนึ่งอันจะมอบโอกาสให้เจ้าเข้าไปได้แค่หนึ่งครั้งเท่านั้น”

พระเจ้าหัวเราะ หลังจากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ชื่อของโกลเด้นโกรวเลอร์และพูด “แต่ถ้าเจ้าเอาชนะมันและได้รับตำแหน่งเทพสปิริตมา เจ้าจะไปที่ไหนภายในจีโนฮอลล์ก็ได้โดยที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆ”


“มันทำให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกลัวจนหนีไป แบบนั้นข้าจะเอาชนะมันได้ยังไง?” หานเซิ่นถามพร้อมกับเบะปาก


ถึงแม้หานเซิ่นจะเอาชนะได้ เขาก็ไม่อยากจะสู้กับโกลเด้นโกรวเลอร์อยู่ดี


ทุกคนรู้ว่าการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนั้นกำลังจะจบลงแล้ว มันควรจะไม่มีการต่อสู้เพิ่มอีก แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนก็ยังอยากจะดูต่อ


เพราะยังไงซะสิ่งมีชีวิตธรรมดาก็ไม่มีวันจะได้เห็นการต่อสู้ของยอดฝีมือระดับเทพเจ้าแบบนี้อีก ถึงแม้พวกเขาจะไปเจอกับการต่อสู้ของระดับเทพเจ้าเข้าโดยบังเอิญ พวกเขาก็ไม่กล้าจะอยู่ดู


แต่ทว่าในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน ทุกคนไม่ต้องหวาดกลัวที่จะถูกลูกหลงไปด้วย พวกเขาสามารถดูการต่อสู้ของยอดฝีมือระดับเทพเจ้าได้อย่างสบายใจ และมันทำให้สิ่งมีชีวิตธรรมดามากมายเกิดแรงบันดาลใจให้พัฒนาตัวเองขึ้น


“จบแล้วสินะ ข้าอยากรู้จังว่าการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่”


“ข้าหวังว่าจะได้เห็นมันทุกๆปี”


“เลิกฝันเถอะ ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าไม่ได้มีเวลามาต่อสู้ทุกวันๆ พวกเราอาจจะไม่ได้ดูมันทุกๆหนึ่งร้อยปีด้วยซ้ำ มันคงจะทิ้งช่วงนานยิ่งกว่าของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนซะอีก”


ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ชื่อสองชื่อเรืองแสงขึ้นบนบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน


“มันมีการท้าชิงอีกครั้ง ครั้งนี้ใครกันที่เป็นผู้ท้าชิง?”

ทุกคนทั้งรู้สึกแปลกใจและดีใจ พวกเขารีบหันมองไปที่บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนและเห็นชื่อของโกลเด้นโกรวเลอร์สว่างขึ้นมา


“โอ้มายก็อด! โกลเด้นโกรวเลอร์ต้องการจะท้าชิงอย่างนั้นหรอ มันเป็นอันดับที่หนึ่งหนิ ใครกันที่มันจะท้าสู้ด้วย?”


“ใช่แล้ว ใครกันที่มันจะท้าสู้ด้วย?”


ทุกคนรู้สึกสับสน พวกเขามองไปที่รายชื่อเพื่อพยายามจะหาว่าใครกันที่โกลเด้นโกรวเลอร์ท้าสู้


“ดอลลาร์… โกลเด้นโกรวเลอร์ต้องการจะท้าสู่กับดอลลาร์”


“โอ้มายก็อด! นี่โกลเด้นโกรวเลอร์กำลังทำอะไร? ทำไมตอนนี้มันถึงต้องการจะท้าสู้กับดอลลาร์?”


บนเอมตี้เมาท์เทน อสูรขนสีเขียวเกือบจะเป็นลมจากความโมโห มันกระทืบเท้าของตัวเอง

“ผู้นำเมาท์แทนน้อย… นี่ผู้นำเมาท์เทนน้อยกำลังทำอะไร? ทำไมเขาถึงได้ท้าสู้กับดอลลาร์? ถ้าดอลลาร์เกิดยอมแพ้ขึ้นมา นั่นก็หมายความว่าเขามอบอันดับที่หนึ่งให้กับอีกฝ่าย”


พระเจ้าเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขามองดูชื่อของโกลเด้นโกรวเลอร์และหลังจากนั้นเขาก็หันมามองที่หานเซิ่นด้วยท่าทางสับสน

 

 

 


ตอนที่ 2877 การโจมตีที่น่ากลัวที่สุด

 

หานเซิ่นเองก็รู้สึกแปลกใจ ‘นี่โกลเด้นโกรวเลอร์จำเราได้อย่างนั้นหรอ?’


“นี่โกลเด้นโกรวเลอร์มีความอาฆาตแค้นมากขนาดไหนกัน? มันถึงได้เลือกท้าสู้กับดอลลาร์ในเวลาแบบนี้”


“โกลเด้นโกรวเลอร์และดอลลาร์มีความบาดหมางอะไรกันแน่ โกลเด้นโกรวเลอร์ที่ได้อันดับที่หนึ่งถึงได้เลือกจะท้าสู้กับดอลลาร์แบบนี้”


“ถ้าดอลลาร์เลือกจะยอมแพ้ เขาก็จะได้อันดับที่หนึ่งถูกไหม?”


“ยอดฝีมือควรมีศักดิ์ศรีไม่ใช่หรือยังไง? ดอลลาร์จะไม่ยอมแพ้ ก่อนที่จะได้ลองต่อสู้ดู”


“นั่นยากจะบอกได้ เจ้าไม่เห็นหรือว่าเดม่อนอัลฟ่าเลือกจะยอมแพ้ตั้งแต่ก่อนที่จะต่อสู้และกลายเป็นอันดับที่สามน่ะ?”


ผู้คนพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น พวกเขารู้สึกแปลกใจที่โกลเด้นโกรวเลอร์ทำอะไรแบบนี้


โกลเด้นโกรวเลอร์ปรากฏตัวในสนามประลอง มันยืนอยู่บนดาวดวงหนึ่งอย่างเงียบๆ ดูเหมือนกับว่ามันกำลังรอคอยให้การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น


ผู้คนพยายามจะคาดเดาว่าดอลลาร์จะรับคำท้าและเข้ามาในสนามประลอง หรือว่าจะยอมแพ้และขึ้นไปเป็นอันดับที่หนึ่ง


แต่ทันใดนั้นก็มีเงาคนๆหนึ่งเข้ามาในสนามประลอง คนๆนั้นก็คือดอลลาร์


“เขายอมรับคำท้า นี่เขาจะต่อสู้จริงๆสินะ เวลาการท้าสู้นั้นหมดลงแล้ว นี่คงจะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย”


“ถึงแม้ดอลลาร์จะแข็งแกร่งและมีอาวุธประจำตัวพระเจ้าอยู่ แต่ข้าคิดว่าโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นแข็งแกร่งกว่า”


“ข้าก็คิดแบบนั้น ยังไงซะดอลลาร์ก็ยังเป็นแค่ขั้นบัตเตอร์ฟลาย”


“โกลเด้นโกรวเลอร์นั้นทำให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกลัวจนหนีไป และผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็ยังบอกอีกว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนในจักรวาลนี้ที่จะเอาชนะโกลเด้นโกรวเลอร์ได้ ข้าคิดว่าเขานั้นพูดถูก”


ผู้บรรยายการประลองของเทาซันด์เทรเชอร์ก็แสดงความเห็นที่เหมือนๆกัน


ถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นภายในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนจะถ่ายทอดสดหรือบันทึกเอาไว้ไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องยากที่สิ่งมีชีวิตปกติจะเข้าใจการต่อสู้ของระดับเทพเจ้าชั้นสูง ด้วยเหตุนั้นทางเทาซันด์เทรเชอร์จึงทำการบรรยายการต่อสู้แบบสดๆให้ผู้คนได้ฟังกัน ระดับเทพเจ้าทั้งสองคนของเทาซันด์เทรเชอร์จะอธิบายทั้งการต่อสู้และประวัติของนักสู้ทั้งสองฝ่าย


แน่นอนว่าเทาซันด์เทรเชอร์ยังใช้โอกาสนี้จัดตั้งการเดิมพันขึ้นมา ผู้บรรยายทั้งสองคนนั้นจะพูดเกี่ยวกับโอกาสแพ้ชนะและอัตราต่อรองของการประลองแต่ละคู่


“โกลเด้นโกรวเลอร์ใช้อันดับที่หนึ่งเพื่อท้าสู้กับดอลลาร์ที่อยู่อันดับที่ยี่สิบห้า”

ผู้บรรยายระดับเทพเจ้าพูด “นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ เมื่อดูจากการต่อสู้ที่ผ่านมา ดอลลาร์นั้นไม่มีโอกาสชนะมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าโกลเด้นโกรวเลอร์เกิดชนะการต่อสู้นี้ เขาจะสูญเสียอันดับที่หนึ่งไป มันจึงยากที่จะคาดเดาว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง”


ผู้บรรยายระดับเทพเจ้าอีกคนพูดเสริม “ดอลลาร์นั้นเป็นฝ่ายรับคำท้า ไม่ว่าเขาจะชนะหรือแพ้ นี่ก็ควรจะเป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนทั้งหมด”


“ใช่แล้ว มันยากมากๆที่จะคาดเดาว่าใครจะได้อันดับที่หนึ่งไป ถ้าผู้ชมท่านไหนสนใจ ท่านมาวางเดิมพันได้ที่สถานีของเทาซันด์เทรเชอร์ โอกาสในการวางเดิมพันนั้นกำลังจะปิดลงแล้ว ดังนั้นทุกท่านอย่าได้พลาดโอกาสสุดท้ายนี้ไป”


“ถึงจะพูดแบบนั้น ถ้าตัดสินกันที่เรื่องของพลังล่ะก็ โกลเด้นโกรวเลอร์ก็ควรจะเอาชนะดอลลาร์ได้ไม่ยากอะไร”


ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่กำลังดูอยู่ หานเซิ่นบินลงไปบนดวงดาวที่โกลเด้นโกรวเลอร์ยืนอยู่ ชายและอสูรมองหน้ากัน


“น่าตื่นเต้นมาก” ผู้บรรยายพูดอย่างตื่นเต้น

“ระดับเทพเจ้าที่น่ากลัวทั้งสองกำลังจ้องหน้ากัน พวกเขาคงจะเปิดฉากด้วยการโจมตีที่น่ากลัวที่สุดเลย โกลเด้นโกรวเลอร์นั้นแข็งแกร่ง แต่ดอลลาร์ก็ไม่ได้อ่อนแอ เขาเป็นบุคคลลึกลับที่มีวิชาจีโนที่มหัศจรรย์และอาวุธประจำตัวพระเจ้า มันบอกได้ยากว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายชนะ การต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น”

ผู้บรรยายพูดเหมือนกับว่ายอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานทั้งสองคนกำลังจะต่อสู้เพื่อตัดสินกันว่าใครกันที่เหนือกว่า พวกเขาจะต่อสู้ด้วยพลังทั้งหมดที่มี และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเริ่มลงมือ ผู้ชนะก็จะถูกตัดสิน


ผู้บรรยายอีกคนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะอธิบายสถานการณ์

“ทุกท่านอย่าได้คิดว่าพวกเขาแค่จ้องหน้ากันเท่านั้น ความจริงแล้วการต่อสู้ทางจิตใจได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบๆ ถ้าพวกเขาวอกแวกแม้แต่นิดเดียว พวกเขาก็จะได้รับการโจมตีที่ร้ายแรงถึงชีวิต”


ถึงผู้บรรยายทั้งสองคนจะเป็นระดับเทพเจ้า แต่พวกเขาก็ยังเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟเท่านั้น แถมการวิวัฒนาการของพวกเขาก็พึ่งพาการใช้จีโนฟลูอิดมากกว่าการฝึกฝน ความสามารถของพวกเขาจึงถือว่าธรรมดาๆ งานหลักของพวกเขาก็คือการหาเงินเข้าเทาซันด์เทรเชอร์ แน่นอนว่าแม้แต่ในตอนนี้นั่นก็คือเป้าหมายหลักของพวกเขา


“โกลเด้นโกรวเลอร์เคลื่อนไหวก่อน เขากำลังวิ่งเข้าไปหาดอลลาร์ เขาวิ่งไปอย่างช้าๆ แต่ทุกก้าวของเขาเปี่ยมไปด้วยพลัง พวกมันเป็นการก้าวที่แม้แต่เทพบนทองฟ้าก็หยุดไม่ได้ ดูเหมือนว่าทั้งอวกาศกำลังเคลื่อนไปพร้อมกับเขา การโจมตีนี้น่ากลัวถึงขนาดไหนกันเนี่ย?” ผู้บรรยายพยายามจะพูดให้ผู้ฟังตื่นเต้น


ขณะที่ทุกคนได้ยินคำบรรยาย พวกเขาก็เห็นโกลเด้นโกรวเลอร์วิ่งเข้าไปหาดอลลาร์ พวกเขาทุกคนมองดูอย่างใจจดใจจ่อ พวกเขาไม่รู้ว่าโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นจะปลดปล่อยการโจมตีแบบไหนออกมากันแน่ มันอาจจะเป็นการโจมตีครั้งเดียวที่ฆ่าชีวิตของดอลลาร์


“เร็วขึ้น…เร็วขึ้นอีก… ถึงมันจะรู้สึกเหมือนกับว่าโกลเด้นโกรวเลอร์ไม่ได้ปล่อยพลังอะไรออกมา แต่จริงๆแล้วนั่นเป็นเพราะเขารวบรวมพลังโดยที่ไม่ปล่อยให้พลังรั่วไหลออกมา ไม่แปลกใจที่โกลเด้นโกรวเลอร์จะไร้เทียมทานขนาดที่แม้แต่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็ต่อกรไม่ได้ ถึงแม้มันจะดูเหมือนว่าเขาวิ่งไปเบาๆ แต่ในตอนที่เขาโจมตี ท้องฟ้าจะถล่ม ผืนดินจะทลาย ทุกท่านได้โปรดเตรียมตัวเอาไว้ อย่าได้ตกใจกับพลังที่โกลเด้นโกรวเลอร์จะปลดปล่อยออกมา”


“อ้า! โกลเด้นโกรวเลอร์กระโดด มันดูเหมือนกับการกระโดดธรรมดา แต่ท่วงท่าและวิถีของร่างกายนั้นสมบูรณ์แบบ มันดักทุกทางที่ดอลลาร์จะหนีไป ดอลลาร์หนีไปไหนไม่ได้แล้ว ทางดอลลาร์กำลังยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว ด้วยการโจมตีที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ เขากลับไม่ถอยออกไป บางทีอวกาศรอบตัวของดอลลาร์อาจจะถูกปิดผนึกเอาไว้ ทำให้เขาเคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้ นี่เขาจะถูกกินโดยโกลเด้นโกรวเลอร์อย่างนั้นหรอ? พวกเราลืมเรื่องหนึ่งไป ถ้าดอลลาร์ถูกกินโดยโกลเด้นโกรวเลอร์และไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ใครกันที่จะได้รับอันดับที่หนึ่งไป? มันจะยังคงเป็นของโกลเด้นโกรวเลอร์หรือเปล่า?” ผู้บรรยายลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น


ผู้บรรยายอีกคนเริ่มร้องตะโกน “เขาเคลื่อนไหวแล้ว! ในที่สุดดอลลาร์ก็เคลื่อนไหว เขากางแขนออกราวกับจะบอกให้โกลเด้นโกรวเลอร์โจมตีเข้ามาได้เลย การตั้งท่าของเขาเป็นอะไรที่ลึกลับจนไม่มีใครคาดคิด ดูเหมือนว่าพวกเราจะประเมินดอลลาร์ต่ำเกินไป เขาเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่เก่งกาจที่สุดในจักรวาล นี่เป็นการโจมตีที่จะตัดสินอันดับที่หนึ่ง”

ทุกคนในจักรวาลเบิกตากว้าง พวกเขาไม่อยากจะพลาดการต่อสู้ไปแม้แต่นิดเดียว นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวที่สุดกับซีโน่เจเนอิคที่ลึกลับที่สุด พวกเขาตื่นเต้นจนแทบจะหยุดหายใจ


ทุกสิ่งมีชีวิตต่างพากันคาดเดาผู้ชนะหลังจากการปะทะกัน


“ใกล้แล้ว…อีกนิดเดียว…การโจมตีที่รุนแรงที่สุด…การโจมตีที่น่ากลัวที่สุด…ในที่สุดพวกเขาก็…” ผู้บรรยายตะโกนอย่างตื่นเต้น


ผู้ชมทุกคนรู้สึกตื่นเต้นตามการบรรยาย แต่ทันใดนั้นผู้บรรยายที่ตื่นเต้นมากก็หยุดพูดไป ผู้บรรยายทั้งสองตัวแข็งทื่อไป มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป


มันไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น ทุกสิ่งชีวิตในจักรวาลที่มองดูการต่อสู้นี้อยู่ต่างก็ตัวแข็งทื่อไป เมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามประลอง


พวกเขาเห็นโกลเด้นโกรวเลอร์ใช้เท้าหน้าของมันกอดไหล่ของดอลลาร์เอาไว้ แต่มันไม่ได้อ้าปากเพื่อกินดอลลาร์เข้าไป มันใช้หัวของมันลูบกับแก้มของดอลลาร์ราวกับแมวบ้าน


ฝ่ายดอลลาร์กอดโกลเด้นโกรวเลอร์เอาไว้ในอ้อมแขนและลูบหัวของมัน เขาดูเหมือนกับคนที่กำลังเล่นกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง

 

 

 


ตอนที่ 2878 แพ้หรือชนะ

 

ทั้งจักรวาลตกอยู่ในความเงียบสงัด ทุกสิ่งมีชีวิตกำลังมองดูดอลลาร์ลูบหัวของโกลเด้นโกรวเลอร์ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันคือโกลเด้นโกรวเลอร์ตัวเดียวกันกับที่ทำให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮหวาดกลัวจนหนีไป


“ผู้นำเมาท์เทนน้อย… นี่ผู้นำเมาท์เทนน้อยกำลังทำอะไร?”

ขากรรไกรของอสูรขนสีเขียวแทบจะตกลงไปกับพื้น หลังจากที่มันรู้สึกตัวถึงสิ่งที่เกิดขี้น มันก็กระทืบเท้าหลายครั้งและร้องตะโกน

“เขากล้าดียังไงมาลูบหัวของผู้นำเมาท์เทนน้อย! ข้าจะทำลายนิ้วสกปรกๆของเขา”


ผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆเพิ่งจะรู้สึกตัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เธอหันไปหาอสูรขนสีเขียวอย่างจริงจังและถาม

“ในตอนที่เจ้าพาตัวผู้นำเมาท์เทนน้อยมา ผู้นำเมาท์เทนน้อยมีสหายจากเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำคนหนึ่งอยู่ใช่ไหม คนจากเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำคนนั้นก็คือดอลลาร์อย่างนั้นหรอ?”


“ไม่ใช่ คนๆนั้นเป็นคริสตัลไลเซอร์ เขาไม่ได้เป็นซีโน่เจเนอิค และอีกอย่างมันก็ไม่มีทางที่คนๆนั้นจะเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วแบบนั้น แต่ว่า…” อสูรขนสีเขียวเกิดไม่แน่ใจขึ้นมา


“แต่อะไร?” ผู้หญิงคนนั้นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว


“แต่ว่าในตอนนี้คริสตัลไลเซอร์คนนั้นกลายเป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในจักรวาล” อสูรขนเขียวพูด

“เขาก็คือหานเซิ่นที่ตอนนี้อยู่ในสเปชการ์เด้น”


“หานเซิ่น? สหายของผู้นำเมาท์เทนน้อยก็คือเขา!” ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึง


ในตอนนี้ทุกคนในจักรวาลตกอยู่ในความสับสน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น


“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมโกลเด้นโกรวเลอร์ถึงดูเหมือนกับสัตว์เลี้ยงของดอลลาร์?”


“ดอลลาร์… โกลเด้นโกรวเลอร์… พวกเขาจะต้องมีความเกี่ยวข้องกันแน่ ทำไมข้าถึงไม่เคยคิดยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเลย”


“ไม่มีทาง! อันดับที่หนึ่งของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนคือสัตว์เลี้ยงของดอลลาร์อย่างนั้นหรอ?”


มันไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตธรรมดาที่รู้สึกแบบนั้น แม้แต่สิ่งมีชีวิตจากโบราณกาลที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดหรือยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงทุกคนก็มีสีหน้าแปลกๆ


ผู้หญิงในปราสาทนภารู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกัน

“ดอลลาร์คนนี้เป็นใครกัน? ทำไมโกลเด้นโกรวเลอร์ของเอมตี้เมาท์เทนถึงปฏิบัติกับเขาแบบนั้น… โกรวเลอร์นั้นมักโหดร้ายและเลือดเย็นมากๆ พวกมันไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับคนนอก”


ผู้นำปราสาทนภาเองก็ประหลาดใจ “ดอลลาร์คนนี้พิเศษมากๆ เขามีอาวุธประจำตัวประเจ้า พลังแห่งกฎและความสัมพันธ์กับโกลเด้นโกรวเลอร์ ข้าอยากรู้จริงๆว่าเขามาจากที่ไหนกันแน่”


ภายในสวนของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พระเจ้ามองดูหานเซิ่นและโกลเด้นโกรวเลอร์ด้วยความสนใจอย่างยิ่ง

“ข้าไม่ได้คาดคิดว่าเจ้าจะน่าสนใจถึงขนาดนี้ เจ้าเหนือความคาดหมายของข้าซะอีก การเดินทางครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวจริงๆ”


โกลเด้นโกรวเลอร์เอาอุ้งเท้าหน้าออกจากไหล่ของหานเซิ่น หลังจากนั้นมันก็อ้าปากและคายบางสิ่งออกมาให้กับหานเซิ่น


หานเซิ่นรับมันมาและสังเกตว่ามันคือสายฟ้าที่ถูกอัดแน่นกันเป็นลูกคริสตัล ภายในนั้นดูเหมือนว่าจะมีสายฟ้านับไม่ถ้วนบรรจุเอาไว้ มันเหมือนกับจักรวาลสายฟ้าขนาดย่อมๆ


“นี่ก็คือแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินของแอนเชี่ยนท์ธันเดอร์ก็อต?”

หานเซิ่นรู้ว่าสิ่งที่เขาได้รับคืออะไร เขาเคยได้รับแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินของแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตมาแล้ว เพียงแต่ว่าแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินนี้เป็นธาตุสายฟ้า ขณะที่อีกอันเป็นธาตุน้ำ


โกลเด้นโกรวเลอร์ส่งเสียงร้องราวกับจะบอกให้หานเซิ่นรับมันไป


หานเซิ่นและโกลเด้นโกรวเลอร์มีสายสัมพันธ์พิเศษเหมือนกับของนางฟ้า ทั้งสองเป็นวิญญาณอสูรของหานเซิ่น ร่างกายของทั้งสองถูกสร้างขึ้นใหม่และกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่ได้ด้วยตัวเอง ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ยังมีสายสัมพันธ์ที่พิเศษกับหานเซิ่น ที่โกลเด้นโกรวเลอร์จำหานเซิ่นได้ก็เพราะสายสัมพันธ์พิเศษนั้น


โกลเด้นโกรวเลอร์บอกว่ามันต้องการจะมอบแอนเชี่ยนท์ธันเดอร์ก็อตออริจินให้กับหานเซิ่น เพื่อที่จะให้เขาเอาไปมอบต่อให้กับจิ้งจอกสีเงิน


หานเซิ่นรู้สึกซาบซึ้ง เขาไม่ได้คาดคิดว่าโกลเด้นโกรวเลอร์จะจำจิ้งจอกสีเงินได้ด้วย เขายื่นมือออกไปเพื่อลูบหัวของมัน


ในดวงตาของคนอื่น พวกเขากำลังเห็นโกลเด้นโกรวเลอร์แกว่งหางไปมาราวกับสุนัขที่จับเหยื่อมาให้กับเจ้านายของพวกมันได้


“โอ้มายก็อด! ดอลลาร์คงจะไม่ได้เป็นเจ้านายของโกลเด้นโกรวเลอร์จริงๆหรอกใช่ไหม?”


“ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นก็เป็นอะไรที่น่ากลัวเกินไปแล้ว สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งสยบทั้งจักรวาลและได้รับอันดับที่หนึ่งของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนไปครอง”


“ดูเหมือนมันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ”


อสูรขนสีเขียวของเอมตี้เมาท์เทนกำลังกระทืบเท้าของตัวเองราวกับคนบ้า มันต้องการจะฆ่าหานเซิ่นและทายาทของเขา


“ตอนนี้ไปได้แล้ว ฉันจะไปตามหานายที่เอมตี้เมาท์เทน”

หานเซิ่นลูบหัวของโกลเด้นโกรวเลอร์เป็นครั้งสุดท้ายและบอกให้มันออกจากสนามประลองไป แบบนั้นโกลเด้นโกรวเลอร์ก็จะรักษาอันดับที่หนึ่งของมันเอาไว้ได้


โกลเด้นโกรวเลอร์ส่ายหัวพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมา หานเซิ่นรู้ว่ามันต้องการจะบอกอะไร โกลเด้นโกรวเลอร์ต้องการจะมอบอันดับที่หนึ่งให้กับหานเซิ่น ซึ่งหานเซิ่นปฏิเสธ หลังจากนั้นโกลเด้นโกรวเลอร์ก็ส่งเสียงร้องใส่เขาและลดตัวของมันลง มันต้องการให้หานเซิ่นขึ้นไปขี้หลังของมัน


“ดอลลาร์! นี่เจ้ากล้าดียังไง!” อสูรขนสีเขียวโกรธจัด มันดูเหมือนกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุ มันกระทืบพื้นอย่างรุนแรงจนทำให้ทั้งเอมตี้เมาท์เทนสั่นสะเทือน สิ่งมีชีวิตอื่นๆทั้งหมดตอบสนองโดยการหมอบลงไปกับพื้นด้วยความกลัว


ทุกคนมองดูหานเซิ่นขึ้นขี่หลังของโกลเด้นโกรวเลอร์ หลังจากนั้นโกลเด้นโกรวเลอร์ก็ฉีกอวกาศและออกไปจากบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน


“นี่พวกเขาออกไปจากสนามประลองร่วมกันอย่างนั้นหรอ? แบบนั้นใครจะเป็นฝ่ายแพ้กัน?” ผู้ชมทั้งหมดตกตะลึง


“ดูนั่น บนบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน ชื่อของดอลลาร์อยู่ด้านบนสุด ดูเหมือนว่าดอลลาร์จะเป็นฝ่ายชนะ”

ผู้คนเริ่มพูดคุยกัน ทุกคนหันไปมองที่บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนและเห็นว่าด้านบนสุดของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนเป็นชื่อของดอลลาร์ ตอนนี้โกลเด้นโกรวเลอร์นั้นตกไปอยู่อันดับที่ยี่สิบห้าแทน


“ดอลลาร์… เขาสุดยอดจริงๆ นี่เขาให้สัตว์เลี้ยงของเขาชิงอันดับที่หนึ่งเพื่อที่เขาจะได้เอามันกลับไปในตอนสุดท้าย”


“ถ้าเขามีโกลเด้นโกรวเลอร์เป็นสัตว์เลี้ยงล่ะก็ เขาก็สมควรได้รับอันดับที่หนึ่งแล้ว”


“ข้าคิดว่าคงจะมีแค่ดอลลาร์คนเดียวที่ทำแบบนั้นได้ ในจักรวาลนี้มันไม่มีโกลเด้นโกรวเลอร์ตัวที่สอง”


ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน โกลเด้นโกรวเลอร์ก็พาหานเซิ่นออกไปจากบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน แต่พวกเขาไม่ได้ถูกเทเลพอร์ตกลับไปยังตำแหน่งเดิม พวกเขาปรากฏตัวในอวกาศๆใกล้กับบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน


ทุกคนสงสัยว่าทำไมโกลเด้นโกรวเลอร์และดอลลาร์ถึงไม่ถูกเทเลพอร์ตกลับไป ทันใดนั้นโกลเด้นโกรวเลอร์ก็คำรามขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ร่างกายของมันปลดปล่อยแสงสีทองออกไปเหมือนกับคลื่น ภายใต้พลังของโกลเด้นโกรวเลอร์ อวกาศเกิดรอยร้าวขึ้นและมีวิหารโบราณปรากฏออกมาให้เห็น มันคือจีโนฮอลล์


“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? การประลองบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนยังไม่จบลงหนิ นี่พวกเขาจะมอบรางวัลกันแล้วอย่างนั้นหรอ?”


“มอบรางวัลบ้าอะไร เจ้าไม่เห็นหรือยังไงว่าโกลเด้นโกรวเลอร์ฉีกอวกาศและเรียกจีโนฮอลล์ออกมา มันจะเข้าไปในจีโนฮอลล์”


“มันกำลังจะเข้าไปในจีโนฮอลล์อย่างนั้นหรอ? มันจะทำสำเร็จไหม? ไม่นานมานี้แอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตก็เพิ่งจะล้มเหลวไป”


“มันมอบอันดับหนึ่งให้กับดอลลาร์และสูญเสียโอกาสที่จะกลายเป็นเทพสปิริตไป ดังนั้นโอกาสที่จะกลายเป็นเทพสปิริตเดียวที่เหลืออยู่ก็คือการเข้าไปในจีโนฮอลล์”


ในตอนที่จีโนฮอลล์ปรากฏ ทั้งจักรวาลก็ดูมืดลงไป มีเพียงแค่จีโนฮอลล์เท่านั้นที่กำลังส่องสว่าง ขณะที่มันค่อยๆออกมาจากรอยแยกของอวกาศ

 

 

 


ตอนที่ 2879 เข้าไปในจีโนฮอลล์

 

เมื่อมาอยู่ในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน หานเซิ่นก็เข้าใจถึงความต้องการของโกลเด้นโกรวเลอร์ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยอมปล่อยให้มันยอมแพ้


ถึงแม้หานเซิ่นจะรู้ว่าโกลเด้นโกรวเลอร์ต้องการให้เข้าไปในจีโนฮอลล์และกลายเป็นเทพสปิริตด้วยตัวของมันเอง แต่การได้เห็นจีโนฮอลล์ปรากฏขึ้นต่อหน้าก็ทำให้เขารู้สึกกังวลขึ้นมา


ภาพของแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตที่พยายามจะเข้าไปในจีโนฮอลล์ยังอยู่ในจิตใจของเขา ถ้าโกลเด้นโกรวเลอร์ทำไม่สำเร็จ มันก็คงจะประสบชะตากรรมที่เหมือนกัน


“ผู้นำเมาท์เทนน้อยต้องการเข้าไปในจีโนฮอลล์ด้วยกำลังของตัวเอง?”

บนเอมตี้เมาท์เทน อสูรขนสีเขียวและผู้หญิงที่อยู่ข้างๆดูกังวล


ผู้นำเมาท์เทนคนก่อนไม่เคยกลับออกมาจากจีโนฮอลล์ ถึงแม้พลังของโกลเด้นโกรวเลอร์จะแข็งแกร่งกว่าผู้นำเมาท์เทนคนก่อน แต่พวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าโกลเด้นโกรวเลอร์จะกลับออกมาได้หรือเปล่า


“ผู้นำเมาท์เทนน้อยใจร้อนเกินไปแล้ว เขาจะกลับออกมาจากจีโนฮอลล์ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้? ทั้งหมดเป็นความผิดของดอลลาร์คนนั้น ถ้าผู้นำเมาท์เทนน้อยไม่ได้สละอันดับที่หนึ่งให้กับเขา ผู้นำเมาท์เทนน้อยก็จะไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้”

อสูรขนสีเขียวรู้สึกกังวลอย่างมาก แต่มันไม่สามารถทำอะไรได้


“ถ้ามันเป็นแบบนี้ พวกเราก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากรอคอยและหวังว่าผู้นำเมาท์เทนน้อยจะกลับออกมา” ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆพูดพร้อมกับถอยหายใจออกมา


ภายในอวกาศจีโนฮอลล์ปรากฏออกมาอย่างเต็มที่เรียบร้อยแล้ว แต่ประตูของมันยังคงปิดสนิทอยู่


“โฮก!”

ทันใดนั้นโกลเด้นโกรวเลอร์ก็คำรามอีกครั้งหนึ่ง แสงสีทองเปลี่ยนมันเป็นอสูรยักษ์สีทองที่พุ่งไปใส่ประตูของจีโนฮอลล์


ตูม!

ประตูถูกโจมตีด้วยแสงสีทองและเปิดออกเล็กน้อย มันทำให้แสงศักดิ์สิทธิ์จากภายในจีโนฮอลล์รั่วไหลออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่น่ากลัว แรงกดดันนั้นทำให้สิ่งมีชีวิตในจักรวาลมากมายรู้สึกหวาดกลัว สิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจที่อ่อนแอนั้นหมอบลงไปกับพื้นและไม่กล้าจะมองขึ้นมาที่ประตูของจีโนฮอลล์


“ดูเหมือนว่าโกลเด้นโกรวเลอร์จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อต มันเพิ่งจะผลักประตูให้เปิดออก แต่ว่า…”

หานเซิ่นกำลังขี่หลังของโกลเด้นโกรวเลอร์ เขาจ้องไปยังประตูที่เปิดออกเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล


แอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตเองก็ผลักเปิดประตูของจีโนฮอลล์ให้เปิดออกได้เช่นกัน แต่เขาก็ถูกฆ่าตายโดยมือที่น่าสะพรึงกลัว หานเซิ่นหวาดกลัวเจ้าของมือนั้น


โกลเด้นโกรวเลอร์แบกหานเซิ่นเดินเข้าไปหาประตูของจีโนฮอลล์ทีละก้าวๆ แสงสีทองยังคงถูกปล่อยออกไปและชนเข้ากับประตูของจีโนฮอลล์ มันทำให้ประตูของจีโนฮอลล์เปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นแสงที่สว่างไสวก็ยังคงส่องออกมาจากภายในจีโนฮอลล์และไม่มีใครมองทะลุแสงนั่นเข้าไปข้างในได้


ตูม!

ในตอนที่โกลเด้นโกรวเลอร์มาถึงหน้าประตูของจีโนฮอลล์ พวกมันก็เปิดออกอย่างสมบูรณ์ แสงจากภายในส่องสว่างไปทั่วทั้งจักรวาล มันทำให้ทั้งจักรวาลดูเหมือนกับตอนกลางวัน


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เห็นเงาปรากฏด้านหลังประตูที่เปิดออกมา เงานั้นลุกโชนด้วยเพลิงสีขาวที่เหมือนกับแสงศักดิ์สิทธิ์ เงานั้นดูเหมือนกับของเผ่ามนุษย์ เผ่านภาหรือเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แต่แสงแห่งเทพนั้นเจิดจ้าเกินไป หานเซิ่นจึงเห็นเพียงแค่เงาดำของมันเท่านั้น


แต่เมื่อดูจากรูปร่างของเงาดำแล้ว มันดูเหมือนกับเงาของผู้หญิง ในตอนที่แอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตโจมตีจีโนฮอลล์ เขาถูกหยุดโดยมือของผู้หญิง


ถ้ามือนั่นเป็นของเงาที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาตอนนี้ มันก็เป็นมือที่ฆ่าแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อต มันยากที่จะหยั่งถึงความแข็งแกร่งของคนที่ซ่อนตัวอยู่ภายในแสงสว่างนั้น


เงานั้นยืนอยู่ใกล้ๆกับประตูที่เปิดออก ถึงแม้มันจะเป็นแค่เงามืดที่มองไม่เห็นใบหน้า แต่หานเซิ่นก็รู้สึกได้ว่าเงานั้นกำลังมองมาที่เขากับโกลเด้นโกรวเลอร์


ดวงตาสีทองของโกลเด้นโกรวเลอร์จ้องกลับไปที่เงานั่นด้วยสายตาราวกับว่ามันจะกลืนกินอีกฝ่าย ขณะที่มันค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เงานั่น


“อันดับที่หนึ่งของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน ได้โปรดเลื่อนไปสู่ระดับเทพสปิริตก่อนที่จะเข้ามาในจีโนฮอลล์”

เสียงที่ดังขึ้นมาเป็นเสียงของผู้หญิงที่อยู่ในแสงสว่าง โทนเสียงของเธอนั้นไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆ


หานเซิ่นขมวดคิ้ว ก่อนที่เขาจะพูดอะไร โกลเด้นโกรวเลอร์ก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาเบาๆราวกับว่ามันกำลังบอกให้เขาลงจากหลังของมัน


หานเซิ่นลงจากหลังของโกลเด้นโกรวเลอร์ เขากระซิบข้างหูของมัน

“นายจะไม่เป็นไรใช่ไหม?”


โกลเด้นโกรวเลอร์ร้องตอบเบาๆ ดูเหมือนว่ามันพยายามจะปลอมหานเซิ่นและบอกให้เขารู้ว่าทุกอย่างนั้นอยู่ใต้การควบคุมของมัน


หานเซิ่นถอยออกไปและมองดูโกลเด้นโกรวเลอร์เดินเข้าสู่ประตูของจีโนฮอลล์


เงาที่อยู่ในแสงสว่างเห็นโกลเด้นโกรวเลอร์เดินเข้ามาถึงหน้าประตู ซึ่งทำให้เธอยกมือขึ้นมา ดวงตาของโกลเด้นโกรวเลอร์ดูแข็งกร้าว มันอ้าปากเพื่อเรียกประตูทองออกมาตรงหน้าประตูของจีโนฮอลล์ ไม่เคยมีใครเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน


โกลเด้นโกรวเลอร์คำรามเบาๆ และทำให้ประตูทองเริ่มเปิดออก แสงสีทองอร่ามส่องออกมาจากภายในประตูทองเพื่อปะทะกับแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ออกมาจากประตูของจีโนฮอลล์


เงาที่อยู่ภายในประตูของจีโนฮอลล์นั้นดูประหลาดใจ เธอลดมือลงและพูดขึ้นว่า “เจ้าผ่าน”


หลังจากนั้นเงานั่นก็หายกลับเข้าไปในแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์


โกลเด้นโกรวเลอร์หันกลับมามองหานเซิ่นเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับส่งเสียงคำราม ก่อนที่จะเดินเข้าไปในจีโนฮอลล์


หานเซิ่นเข้าใจว่าโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นกำลังบอกอะไรกับเขา มันบอกว่ามันจะรอคอยเขาอยู่ในนั้น


หานเซิ่นมองดูโกลเด้นโกรวเลอร์เดินหายเข้าไปในจีโนฮอลล์อย่างช้าๆ มันทำให้หานเซิ่นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย


ผู้คนในจักรวาลไม่รู้จะคิดยังไงกับเรื่องนี้ โกลเด้นโกรวเลอร์เข้าไปในจีโนฮอลล์ด้วยวิธีที่น่าประหลาดใจ และบุคคลที่อยู่ภายในจีโนฮอลล์ก็ไม่ได้ทำอะไรเพื่อจะหยุดมัน ดูเหมือนว่าประตูทองนั้นจะหยุดเธอเอาไว้


แอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตเคยพยายามจะฝ่าเข้าไปข้างใน แต่เขาถูกทำลายด้วยมือของคนที่อยู่ข้างในจีโนฮอลล์ ส่วนโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นใช้ประตูทองของมันเป็นเหมือนกับตั๋วเพื่อเข้าไปข้างใน การปฏิบัติที่ทั้งสองได้รับนั้นแตกต่างกัน


“มันง่ายที่จะเข้าไปข้างใน แต่มันจะกลับออกมาได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง” ผู้นำปราสาทนภาพูดพร้อมกับถอนหายใจ


“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การเข้าไปได้สำเร็จก็หมายความว่ามันมีโอกาสอยู่”

ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆพูด “นั่นดีกว่าการไม่มีโอกาสเลย”


“ผู้นำเมาท์เทนน้อย… ผู้นำเมาท์เทนน้อยจะต้องกลับออกมาอย่างปลอดภัยให้ได้…” อสูรขนสีเขียวพูด


หานเซิ่นมองดูจนกระทั่งจีโนฮอลล์หายไป หลังจากนั้นเมื่อเขาหันกลับและเตรียมตัวจะจากไป จู่ๆบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนก็ส่องสว่างขึ้นมา ชื่อทุกชื่อบนบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนเรืองแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา


ขณะเดียวกันก็มีภาพปรากฏขึ้นบนบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน มันเป็นภาพการต่อสู้ภายในสนามประลอง การต่อสู้ของทุกคนที่ติดอันดับหนึ่งในร้อยถูกแสดงให้เห็นทีละคนๆ


ชื่อของหานเซิ่นปรากฏเป็นคนสุดท้าย เนื่องจากเขาได้รับอันดับที่หนึ่ง ภาพสุดท้ายของเขานั้นจะตราตรึงอยู่ในจิตใจของทุกคนไปชั่วนิรันดร์


วินาทีต่อมา บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนก็ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมามากยิ่งกว่าเดิม มันส่องมาที่ร่างกายของหานเซิ่น ขณะที่ร่างกายของหานเซิ่นอาบอยู่ในแสงศักดิ์สิทธิ์นั้น มันก็มีบางสิ่งบินออกมาจากบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนและเข้ามาหาเขา

 

 

 


ตอนที่ 2880 มงกุฎสกายก็อต

 

มงกุฎหยกขาวค่อยๆตกลงมาหาหานเซิ่น มันตกลงบนหัวของเขาอย่างพอดิบพอดี รัศมีอันศักดิ์สิทธิ์เปล่งประกายออกมาจากมงกุฎหยกขาวเหมือนกับออร่าของเทพสปิริต มันหล่นลงมาบนหัวของหานเซิ่นและเปลี่ยนเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนกับเทพสปิริต


ข้อความจากมงกุฎหยกขาวไหลเข้ามาในสมองของหานเซิ่นและมอบข้อมูลเกี่ยวกับมันให้กับเขา


[มงกุฎสกายก็อต: อาวุธประจำตัวพระเจ้าขั้นแอนนิฮิเลชั่น]


ส่วนวิธีการใช้มงกุฎสกายก็อตก็ถูกแสดงภายในหัวของหานเซิ่นเช่นกัน เขาเข้าใจในทันทีว่ามงกุฎสกายก็อตนั้นใช้ทำอะไรได้


“แบบนี้นี่เอง เราไม่ได้รับสิ่งประจำตัวพระเจ้าเพื่อจะกลายเป็นเทพสปิริต แต่เราได้รับมงกุฎสกายก็อตที่มีพลัง ทำให้เรามีอำนาจในการเข้าออกจากจีโนฮอลล์เสมือนเป็นเทพสปิริตคนหนึ่ง”

หานเซิ่นเข้าใจว่าต้องใช้มงกุฎสกายก็อตยังไง แต่หลังจากที่เขาเข้าใจในเรื่องนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ อาวุธประจำตัวพระเจ้านั้นไม่ได้แตกต่างอะไรจากอาวุธขั้นทรูก็อต หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างอะไรมากนักระหว่างหอกสกายไวน์แรดิชก็อตกับโล่เมดูซ่าส์เกซ พวกมันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นระดับเดียวกัน หานเซิ่นได้รับอันดับที่หนึ่ง แต่เขาแค่ได้รับอาวุธประจำตัวพระเจ้ามาอันหนึ่ง นอกจากนั้นมันยังแค่ทำให้เขาเข้าออกจากจีโนฮอลล์ได้เท่านั้น นอกจากเรื่องนั้นแล้วมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรอย่างอื่น


ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิดอยู่นั้น บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง มันเทเลพอร์ตเขากลับไปยังสวนของเอ็กซ์ตรีมคิง


“ขอแสดงความยินดีด้วย ข้าไม่คาดคิดว่าเจ้าจะได้อันดับที่หนึ่ง” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม


“เจ้าไม่ขี้เหนียวเกินไปหน่อยหรอ” หานเซิ่นบ่น

“ทำไมอันดับที่หนึ่งถึงได้แค่อาวุธประจำตัวพระเจ้า? อันดับที่สองและอันดับที่สามก็ได้รับอาวุธพระจำตัวประเจ้าเป็นรางวัลเหมือนกัน นั่นไม่แปลกเกินไปหน่อยหรอ?”


พระเจ้ามองเขาด้วยความดูถูก “เจ้าไม่รู้ถึงความโชคดีของตัวเอง พวกเขาแค่ได้รับอาวุธประจำตัวพระเจ้าที่เหมือนกับหอกสกายไวน์แรดิชของเจ้า ถึงมงกุฎนี่จะเป็นอาวุธประจำตัวพระเจ้าเหมือนกัน แต่มันก็เป็นถึงขั้นแอนนิฮิเลชั่น มันไม่ได้เหมือนกับอาวุธประจำตัวพระเจ้าพวกนั้น มงกุฎสกายก็อตจะมอบสิทธิ์ให้เจ้าเข้าออกในจีโนฮอลล์ได้ เจ้ารู้ไหมว่ามียอดฝีมือมากขนาดไหนที่แสวงหาพลังนั่นน่ะ?”


“อาวุธประจำตัวพระเจ้ามีอยู่กี่ระดับกัน? นี่ขั้นแอนนิฮิเลชั่นเหนือกว่าขั้นเดสทรัคชั่นอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรีบถาม


“เจ้าจะได้รู้เองเมื่อเข้าไปในจีโนฮอลล์” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม

“สัตว์เลี้ยงของเจ้าเพิ่งจะเข้าไปข้างในนั้น เจ้าจะไม่ไปดูหน่อยหรอ?”


“ข้ากำลังยุ่งอยู่ ข้าจะยังไม่ไปในตอนนี้”

หานเซิ่นไอกลบเกลื่อน หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “ว่าแต่ภายในจีโนฮอลล์มันอันตรายไหม? ด้วยพลังของข้าในตอนนี้ เจ้าคิดว่าข้าจะเป็นอันตรายไหมถ้าข้าเข้าไปในนั้น?”


“ไม่รู้สินะ” พระเจ้าปากแข็งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเมินเฉยต่อหานเซิ่น


จริงๆแล้วหานเซิ่นอยากจะเข้าไปในจีโนฮอลล์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโกลเด้นโกรวเลอร์อยู่ข้างในนั้น แต่เขาคิดว่าควรจะกลายเป็นขั้นทรูก็อตซะก่อนที่จะพยายามเข้าไปข้างใน ไม่อย่างนั้นเขากลัวว่าเขาจะเป็นภาระให้กับโกลเด้นโกรวเลอร์ นั่นจะเป็นอะไรที่น่าหดหู่และอาจจะทำให้สถานการณ์ของโกลเด้นโกรวเลอร์เลวร้ายขึ้นมา


“หว่านเอ๋อร์จะตื่นขึ้นมาเมื่อไรกัน ไม่อย่างนั้นถ้าเธอยังอยู่ติดกับเราตลอดเวลา เราก็จะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดเป็นเวลานานๆไม่ได้”

หานเซิ่นมองเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา ซึ่งหว่านเอ๋อร์ยังคงหลับสนิท แต่เธอดูสงบมากกว่าเดิมมาก พลังชีวิตของเธอดูมีชีวิตชีวามากกว่าครั้งก่อนที่เขาเห็นเธอ


ดอลลาร์ได้อันดับที่หนึ่งในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน ส่วนโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นเข้าไปในจีโนฮอลล์ได้สำเร็จ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุด ทั้งจักรวาลพูดถึงแต่เรื่องของพวกเขาเป็นเวลานาน ชื่อของดอลลาร์และโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นกลายเป็นชื่อที่โด่งดังไปทั่วจักรวาล


เผ่าพันธุ์ที่ใหญ่โตมากมายพยายามจะสืบหาที่มาที่ไปของดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงเอมตี้เมาท์เทนด้วย แต่พวกเขาไม่ได้ความคืบหน้าอะไร ไม่มีใครหาได้ว่าดอลลาร์ผู้ลึกลับมาจากที่ไหนกันแน่


ไม่มีใครหาข้อมูลเกี่ยวกับเผ่ามนุษย์เจอเช่นกัน สิ่งมีชีวิตจากโบราณกาลนั้นพอจะรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของมนุษย์ แต่ดอลลาร์นั้นปลดปล่อยออร่าของซีโน่เจเนอิค เขาแตกต่างไปจากมนุษย์ที่มีเลือดสีฟ้า ดอลลาร์กับมนุษย์นั้นไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกัน


จากที่พวกเขาเห็นภายในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนั้นมีนักสู้เผ่ามนุษย์คนหนึ่งอยู่ด้วย แต่คนๆนั้นไม่เหมือนกับดอลลาร์ มนุษย์คนนั้นก็คือโหลวเลี่ยที่ได้อันดับที่สี่


“เราจะไปที่เผ่าบุดด้าโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นได้ยังไงกัน?”

หานเซิ่นกำลังฆ่าซีโน่เจเนอิคอยู่ในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์เพื่อสะสมยีน แต่มันไม่มีซีโน่เจเนอิคระดับสูงอยู่ภายในปราสาทมากนัก หานเซิ่นจำเป็นต้องกินซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลายเพื่อเพิ่มยีนของตัวเอง ความเร็วในการเก็บสะสมยีนของเขาจึงช้าลงอย่างมาก


หานเซิ่นต้องการจะไปที่เผ่าบุดด้าเพื่อเอามีดเปล่าของเขากลับคืนมา นอกจากนั้นเขายังต้องการจะแก้แค้นเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าที่เปลี่ยนเขาเป็นมดและทำร้ายอี๋ซา


ในตอนที่เขาไปเยือนเผ่าบุดด้านั้น เขาจะใช้ชื่อของหานเซิ่น แบบนั้นมันถึงจะเป็นการแก้แค้น ถ้าเขาใช้ชื่อของดอลลาร์ ถึงเขาจะเอามีดเปล่ากลับคืนมาได้ มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร แต่ตอนนี้เขามีพระเจ้าอยู่ข้างกาย ถ้าเขาจะใช้ชื่อของหานเซิ่น เขาก็จะเปิดเผยตัวเองออกมา เขาไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น


หานเซิ่นพยายามคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหานี้ แต่เขาคิดอะไรไม่ออก พระเจ้านั้นดูเหมือนกับตาลุงข้างบ้านธรรมดาๆคนหนึ่ง เขาดูเหมือนจะรู้เรื่องต่างๆมากมาย แต่เขาดูจะอ่อนแอกว่าพระเจ้าอย่างราชาจุนซะอีก ถึงอย่างนั้นแรงกดดันที่หานเซิ่นรู้สึกนั้นยิ่งกว่าของราชาจุนซะอีก หานเซิ่นจึงเป็นกังวลและไม่กล้าจะทำอะไรมาก


ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะกำจัดพระเจ้าคนนี้ พระเจ้าก็เข้ามาหาเขาและพูด “ข้าจะจากไปสักพัก”


หานเซิ่นเกือบจะคิดว่าพระเจ้านั้นอ่านจิตใจของคนอื่นได้ และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาพูดออกมาแบบนั้น


“นั่นเป็นอะไรที่น่าเสียดาย” หานเซิ่นตอบ

“ข้าอยากจะเล่นหมากล้อมกับเจ้าอีก”


“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ข้าแค่จะกลับไปทำอะไรบางอย่าง อีกไม่กี่วันข้าก็จะกลับมาแล้ว” พระเจ้าหัวเราะ


“ทำไมเจ้าถึงต้องรีบกลับไปด้วย? อะไรจะสำคัญยิ่งกว่าการเล่นหมากล้อมกับข้า?” หานเซิ่นแกล้งทำเป็นประหลาดใจ


“จีโนฮอลล์มีสมาชิกคนใหม่ ดังนั้นมันถือเป็นเรื่องปกติที่ข้าจะต้องกลับไปต้อนรับ” พระเจ้าพูด


“เจ้าจะไปหาโกลเด้นโกรวเลอร์อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมา เขาไม่คิดว่าการพบกับพระเจ้าคนนี้จะเป็นเรื่องดีสำหรับโกลเด้นโกรวเลอร์


“มันก็เป็นแค่ธรรมเนียมปฏิบัติ” พระเจ้าพูดพร้อมกับหัวเราะ

“ในเมื่อข้ารู้จักเจ้า ถ้าเขาตกอยู่ในอันตราย ข้าก็จะมาแจ้งให้เจ้าได้ทราบ”


“ขอบคุณมาก” ถึงแม้หานเซิ่นจะพูดแบบนั้น แต่ในใจเขาคิดว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติ เขาคิดกับตัวเอง

‘นี่พระเจ้าคงจะไม่ไปหาโกลเด้นโกรวเลอร์เพื่อโน้มน้าวให้เราเข้าไปในจีโนฮอลล์หรอกนะ?’

 

 

 


ตอนที่ 2881 ซากปรักหักพังที่ไม่ควรอยู...

 

 


หลังจากที่พระเจ้าจากไปแล้ว หานเซิ่นก็รู้สึกกังวลขึ้นมา เขากลัวว่าโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นอาจจะถูกรังแก เพราะความสัมพันธ์ของเขากับพระเจ้า


แต่หานเซิ่นรู้ว่าถึงจะกังวลไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เขาแค่ต้องกลายเป็นขั้นทรูก็อตและเข้าไปในจีโนฮอลล์ให้เร็วที่สุด


หานเซิ่นเริ่มคิดเกี่ยววิธีการที่จะบุกเข้าไปในเผ่าบุดด้าเพื่อเอามีดเปล่ากลับคืนมาและแก้แค้นเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่า พลังของมีดนั่นจะเป็นประโยชน์ต่อหานเซิ่นอย่างมาก มันเป็นมีดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ่เอาชนะสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่า เขาคิดว่ามันอาจจะมีประโยชน์ภายในจีโนฮอลล์


จากข้อมูลที่หานเซิ่นรวบรวมมา ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของจักรวาลจีโน ยอดฝีมือที่เข้าไปในจีโนฮอลล์นั้นต่างก็มีอาวุธขั้นทรูก็อตอยู่ ซึ่งจากประสบการณ์การต่อสู้กับเทพสปิริตของหานเซิ่น พลังของขั้นทรูก็อตนั้นส่งผลต่อเทพสปิริต


พลังที่ต่ำกว่าขั้นทรูก็อตนั้นจะไม่สามารถสร้างความเสียหายกับเทพสปิริตได้ พวกมันทั้งหมดจะเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นต้องการจะกลายเป็นขั้นทรูก็อต ก่อนที่จะเข้าไปในจีโนฮอลล์


‘หนึ่งในหัวแกะของลูกบาศก์สี่แกะนั้นจะส่งเราไปยังสถานที่ฮอไรซอนทอลอีวิลถูกจับตัวเอาไว้ อีกหัวจะส่งเราไปที่ฟาร์มของพระเจ้า และอีกหนึ่งนำเราไปสถานที่รวมตัวของซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวมากมาย แล้วหัวแกะหัวสุดท้ายจะส่งเราไปที่ไหนกัน ถ้าเราใช้ลูกบาศก์สี่แกะเพื่อเทเลเพอร์ตและเดินทางด้วยชื่อของหานเซิ่น แม้แต่พระเจ้าก็คงจะหาเราไม่เจอ’

หลังจากที่หานเซิ่นคิดได้แบบนั้น เขาก็ตัดสินใจจะลองดู


ในอดีตเขาจะหวาดกลัวเกี่ยวกับสถานที่ที่ลูกบาศก์สี่แกะจะส่งเขาไป แต่ด้วยพลังของหานเซิ่นในตอนนี้ เขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต แถมเขายังมีวิชากาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นอยู่ ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมากนัก


ที่หานเซิ่นไม่ต้องการใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นในการเดินทางก็เพราะเขากลัวว่าพระเจ้าอาจจะจับเส้นทางการเทเลพอร์ตของเขาได้ แต่ทว่าการเทเลพอร์ตของลูกบาศก์สี่แกะนั้นเกือบจะไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้ หานเซิ่นรู้ว่าพลังในการเทเลพอร์ตของมันนั้นแตกต่างไปจากการเทเลพอร์ตอื่นๆ มันยากที่พระเจ้าจะตามรอยเขาได้


หานเซิ่นแค่จำเป็นต้องใช้พลังในการเทเลพอร์ตของลูกบาศก์สี่แกะเพื่อไปจากที่นี่ หลังจากนั้นเขาก็จะออกจากโหมดซีโน่เจเนอิคและกลับไปเป็นหานเซิ่นอีกครั้ง มันจะไม่มีใครรู้ว่าเขาคือดอลลาร์ หลังจากนั้นเขาก็จะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตไปที่ไหนก็ได้


หานเซิ่นเข้าไปในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์และเลือกปราสาทที่ไม่มีซีโน่เจเนอิคอยู่ภายใน หลังจากนั้นเขาก็เปิดระบบป้องกันของมันและใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อหยุดการหมุนของฟันเฟืองจักรวาลทั้งหมด หลังจากนั้นเขาก็เอาลูกบาศก์สี่แกะออกมาและกดหัวแกะหัวสุดท้ายลง


ปลาทองสีดำและขาวว่ายวนเป็นวงกลมด้วยความเร็วสูงและดูดหานเซิ่นเข้าไปในลูกบาศก์สี่แกะ ในตอนที่เขาคลานออกมาจากลูกบาศก์สี่แกะอีกครั้ง เขาไม่ได้อยู่ในโหมดซีโน่เจเนอิคอีกแล้ว ตอนนี้เขาดูเหมือนกับหานเซิ่น


หานเซิ่นมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง แต่เขาไม่เห็นซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวรอบๆ ทั้งหมดที่เขาเห็นคือความว่างเปล่าของอวกาศ ไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่ เขาเห็นปราสาทที่ใหญ่ยิ่งกว่าดวงดาว ปราสาทนั่นดูเหมือนกับอสูรสีดำขนาดยักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในอวกาศ มันถูกทำขึ้นมาจากโลหะที่ดูเย็นเหมือนกับน้ำแข็ง


ปราสาทนั้นดูเหมือนจะเคยได้รับความเสียหายมาก่อน มันดูผุพังและค่อนข้างเก่าแก่ มันเหมือนกับเครื่องจักรในกองขยะ


หานเซิ่นสัมผัสไม่ได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้เคียง ดังนั้นเขาจึงบินเข้าไปหาปราสาท เขาอยากจะเห็นว่ามันเป็นสถานที่แบบไหน ถ้าเขาจะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น เขาจำเป็นต้องรู้ทิศทางที่จะมุ่งหน้าไปซะก่อน ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหนของจักรวาล


หานเซิ่นรีบเข้าไปหาปราสาทโลหะ และในตอนที่เขาเข้าไปใกล้ๆ มันก็ดูยับเยินกว่าที่เขาคิดเอาไว้ โครงสร้างโลหะของปราสาทนั้นเต็มไปด้วยรอยแหว่งขนาดใหญ่ มันดูเหมือนกับรอยที่เกิดจากกรงเล็บของอสูรขนาดยักษ์


โชคดีที่ประตูของปราสาทโลหะนั้นยังสมบูรณ์ดี หานเซิ่นเห็นคำสองคำที่เขียนเอาไว้ “วิหารโลหะ”


“วิหาร… นั่นหมายความว่านี่แห่งอยู่ภายในจีโนฮอลล์อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นแปลกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเป็นวิหาร


หานเซิ่นคิดต่อไป ‘ไม่สิ ที่นี่คือจักรวาลจีโน มันแตกต่างไปจากบริเวณที่วิหารสกายไวน์แรดิชก็อตตั้งอยู่ บางทีเราอาจจะคิดมากเกินไป บางทีวิหารโลหะนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับวิหารของเทพสปิริต’

หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อสแกนวิหารโลหะ ถ้าที่นี่เป็นวิหารแบบนั้นจริงๆล่ะก็ มันก็ควรจะมีเทพสปิริตอยู่ภายใน


หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจขึ้นมา เมื่อเขาสัมผัสถึงพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับเทพสปิริตไม่ได้


“เราคิดมากไปจริงๆ มันไม่มีทางเป็นวิหารแบบนั้นไปได้”

หานเซิ่นดันประตูเปิดออกและเดินเข้าไปในวิหารโลหะ ภายในนั้นเต็มไปด้วยโลหะที่ผุพังจำนวนมาก ปราสาทนั้นใหญ่โตยิ่งกว่าดวงดาว เขาไม่ได้เห็นภายในของปราสาททั้งหมด มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าเกิดการต่อสู้แบบไหนขึ้นถึงทำให้ที่นี่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้


หานเซิ่นบินไปเรื่อยๆและสำรวจที่นี่ต่อไป เนื่องจากวิหารโลหะนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก มันจึงบอกได้ยากว่าเดิมที่มันเคยเป็นยังไงกันแน่ แถมรูปร่างของสิ่งก่อสร้างนั้นก็ดูแปลกประหลาดมากๆ มันแตกต่างไปจากสิ่งก่อสร้างที่หานเซิ่นเคยเห็นมาก่อน


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เห็นบางสิ่งที่ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป


ภายในซากปรักหักพังที่เกลื่อนเต็มไปหมด หานเซิ่นสังเกตเห็นสิ่งที่ดูคล้ายคลึงกับแท่นบูชาที่เขาเคยเห็นในวิหารสกายไวน์แรดิชก็อต แท่นนั้นสามารถชุบชีวิตของสกายไวน์แรดิชได้


หานเซิ่นโบกมือเพื่อเคลื่อนย้ายเศษโลหะทั้งหมดออกไป ตอนนี้เมื่อแท่นบูชาเผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน หานเซิ่นก็แน่ใจว่ามันเหมือนกับที่เขาเคยเห็นในวิหารสกายไวน์แรดิชก็อตจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ สไตล์หรือเนื้อของแท่นบูชาก็เหมือนกันไม่มีผิด


“ที่นี่คือวิหารจริงๆ? แต่วิหารของเทพสปิริตจะดูย่อยยับแบบนี้ได้ยังไงกัน? แถมมันยังมาอยู่ในจักรวาล… วิหารนั้นควรจะอยู่ภายในจีโนฮอลล์ไม่ใช่หรอ” หานเซิ่นรู้สึกสับสน


หานเซิ่นลองเก็บกวาดบริเวณรอบๆโดยหวังว่าเขาจะหาเบาะแสอะไรได้บ้าง หลังจากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าแท่นบูชานั้นไม่สมบูรณ์ พลังบางอย่างทำลายบางส่วนของมันไป


“เกิดอะไรขึ้นที่นี่? วิหารของเทพสปิริตถูกทำลายได้ยังไง ใครกันที่มีพลังพอจะทำลายวิหารของเทพสปิริตและนำมันมาไว้ในจักรวาลแบบนี้?”

ขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้น เขาก็สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวจากระยะไกล หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวๆ เขารีบซ่อนออร่าของตัวเองและหนีไปหลบหลังกำแพงโลหะ


ไม่นานหลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งมาถึงหน้าวิหาร มันยืนอยู่หน้าประตูและพูดขึ้นว่า “วิหารโลหะ” สิ่งมีชีวิตนั้นจ้องไปที่คำสองคำหน้าวิหาร


หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อดูว่านั่นคือใครกันแน่ และเขาก็ค้นพบว่าที่มานั้นเป็นชายคนหนึ่งที่มีผมสีขาว แต่น่าแปลกที่ถึงแม้เขาจะมีเส้นผมสีขาว แต่เขาก็ไม่ได้ดูแก่เลยสักนิดเดียว เขาดูเหมือนกับชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ชายคนนั้นจ้องไปที่วิหารโลหะอยู่สักพักก่อนที่จะถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“มันผ่านไปนานหลายปี ในที่สุดข้าไท่อีก็ได้กลับมาที่นี่”

 

 

 


ตอนที่ 2882 ซ่อมแท่นบูชา

 

หานเซิ่นคิด ‘ไท่อี? นี่คือไท่อีที่เป่าเอ๋อพบ หรือว่านี่คือไท่อีผู้สังหารพระเจ้าที่ถูกเขียนเอาไว้ในม้วนกระดาษกัน?’


ไท่อีเดินเข้ามาในวิหารโลหะและตรงเข้ามาที่แท่นบูชา


ไท่อีมองไปที่แท่นบูชา ก่อนที่จะพูดขึ้นมา “ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่ ทำไมถึงมัวเสียเวลาซ่อนตัวอยู่อีก?”


หานเซิ่นรู้สึกตกใจ เขาไม่คาดคิดว่าจะถูกค้นพบเร็วอย่างนี้ แต่ทันใดนั้นก็มีคนๆหนึ่งปรากฏตัวออกมา หานเซิ่นเห็นเงาของใครบางคนอยู่ถัดไปจากแท่นบูชา


“ราชาจุน?” ในตอนที่หานเซิ่นเห็นรูปลักษณ์ของคนๆนั้น เขาก็รู้สึกตกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เห็นราชาจุนที่นี่


“วิหารโลหะนี่เป็นวิหารของราชาจุนอย่างนั้นหรอ? ไม่มีทาง ราชาจุนเป็นเทพสปิริตธาตุไฟ เขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับโลหะ แถมแท่นบูชาก็ถูกทำลายไปแล้ว” หานเซิ่นครุ่นคิด


“ไท่อี ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดกลับมาได้” ราชาจุนพูด


ไท่อีมองไปที่ราชาจุนและพูด “ข้าไม่สนว่าตัวเองจะมีชีวิตหรือตาย แต่เจ้า? เจ้าน่ะห่วงชีวิตของตัวเองอย่างมาก ถึงอย่างนั้นเจ้ากลับเสี่ยงมาที่จักรวาลนี้ เจ้าไม่กลัวว่าจะกลับไปที่วิหารของตัวเองไม่ได้หรือยังไง?”


ราชาจุนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ดูถูกและพูด

“เจ้าคิดว่าตัวเองยังอยู่ในยุคสมัยของเซเคร็ดอย่างนั้นหรอ? ผู้คนในจักรวาลนี้โชคดีมากแล้วที่รักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้ แบบนั้นทำไมพวกเขาถึงจะมาหาเรื่องข้าอีก?”


“แต่ในยุคสมัยนี้ก็ยังคงมีความเศร้าของพระเจ้าเกิดขึ้นไม่ใช่หรอ?” ไท่อีถามด้วยรอยยิ้ม


สีหน้าของราชาจุนดูเย็นชาขึ้นมา เขาขึ้นเสียง “ไท่อี ไนน์ก็อตถูกฆ่าตายภายในวิหารและสิ่งนั้นก็ถูกขโมยเอาไป คนที่ทำคือเจ้าอย่างนั้นหรอ?”


“ข้าก็แค่เอาสิ่งที่เป็นของของตัวเองกลับคืนมา” ไท่อีตอบอย่างเย็นชา


“เจ้าไม่รู้หรือยังไงว่าสิ่งนั้นมีความสำคัญต่อข้า?” ราชาจุนถามด้วยความโกรธ


“ข้ารู้ว่ามันสำคัญ” ไท่อีพยักหน้า


“ถ้าเจ้ารู้อยู่แล้ว ทำไมเจ้าถึงยังเอามันไป?” ราชาจุนถาม


ไท่อีมองไปที่ราชาจุนและพูดอย่างสงบนิ่ง “มันไม่ได้สำคัญกับข้าว่าสิ่งนั้นจะสำคัญกับเจ้าหรือไม่”


“ก็ได้ ก็ได้ เอางั้นก็ได้ไท่อี เจ้าจะทำตัวเป็นศัตรูกับข้าจริงๆใช่ไหม?”

ดูเหมือนกับว่าใบหน้าของราชาจุนกำลังเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาดูจะโกรธมากๆ


“ในตอนที่เจ้ากลายเป็นเทพนภาราชาจุน เจ้ากับข้าก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอีก” ดูเหมือนไท่อีจะไม่สนใจ


“ก็ได้ ก็ได้ ถ้าเจ้าตกอยู่ในวิกฤต ข้าก็จะนั่งดูอยู่เฉยๆ”

ราชาจุนโมโห เขาสะบัดแขนเสื้อและจากไป เขาหายตัวไปในพริบตา


ไท่อียังคงยืนอยู่หน้าแท่นบูชาโดยที่ไม่พูดอะไร แต่หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็พูดขึ้นว่า

“มันคงจะไม่สบายเท่าไรที่ซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น เจ้าควรออกมาได้แล้ว”


หานเซิ่นคิดว่ามันคงจะต้องเป็นคนอื่นอีกคนที่อีกฝ่ายพูดถึง ดังนั้นเขาจึงมองไปรอบๆ แต่มันไม่มีใครปรากฏตัวออกมา


“เจ้ามัวมองหาใครอยู่? ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่นั่นแหละ”

สีหน้าของไท่อีดูแปลกๆเล็กน้อย เขามองไปยังกำแพงที่หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง


หานเซิ่นรู้ว่าไท่อีคงจะต้องค้นพบตำแหน่งของเขาแล้ว เขาไอกลบเกลื่อนและก้าวออกมาจากหลังกำแพง

“ข้าไม่ได้มีเจตนาที่จะแอบฟังเจ้ากับราชาจุน”


“เจ้ามาที่นี่ก่อนหน้าข้า ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อแอบฟัง” ไท่อีพูด


หานเซิ่นตกใจ เขาประหลาดใจที่ไท่อีรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว พลังในการซ่อนตัวตนของเขาดูเหมือนจะไม่ได้ผลกับไท่อี


“คริสตัลไลเซอร์อย่างนั้นหรอ?” ไท่อีมองไปที่หานเซิ่นด้วยความสนใจ


“ใช่แล้ว” หานเซิ่นพยักหน้า


หลังจากที่ตรวจดูอย่างละเอียด ไท่อีก็พูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ เจ้าไม่ใช่คริสตัลไลเซอร์ เจ้าเป็นมนุษย์”


หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ แม้แต่พระเจ้าก็ยังเชื่อว่าเขาเป็นคริสตัลไลเซอร์ แต่ไท่อีคนนี้กลับเชื่อว่าเขาเป็นมนุษย์


“หมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว


ไท่อีหัวเราะ “ข้าไม่ได้คาดคิดว่ามนุษย์จะออกมาจาก็อตแซงชัวรี่ในช่วงเวลาที่ข้ายังหลับใหลอยู่ ดูเหมือนว่าความพยายามของผู้นำเซเคร็ดจะไม่ได้สูญเปล่า”


“มนุษย์เกี่ยวข้องอะไรกับผู้นำเซเคร็ด?” หานเซิ่นตกตะลึง เขาจำได้ว่ามนุษย์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของคริสตัลไลเซอร์ แต่เขาไม่ได้คิดว่ามนุษย์นั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับผู้นำเซเคร็ด


ถ้าพวกเขาเกี่ยวข้องกัน มันก็แค่เรื่องที่คริสตัลไลเซอร์มารับช่วงดูแลก็อตแซงชัวรี่ต่อจากผู้นำเซเคร็ดเท่านั้น


แต่ในเมื่อไท่อีรู้เกี่ยวกับก็อตแซงชัวรี่และรู้ว่ามนุษย์นั้นมาจากก็อตแซงชัวรี่ มันก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้พูดไร้สาระ


ไท่อีหัวเราะแต่เขาไม่ได้ตอบคำถามของหานเซิ่น เขาหันไปมองแท่นบูชาที่ถูกทำลายและพูด “เจ้าช่วยข้าหน่อยได้ไหม?”


“ข้าน่ะอ่อนแอ ข้าไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้าได้ไหม”

ไท่อีเป็นบุคคลปริศนา หานเซิ่นจึงไม่ต้องการจะให้สัญญาอะไร แต่เขาอยากจะรู้เกี่ยวกับความลับของมนุษย์จากไท่อี เขาจึงไม่ได้ตอบปฏิเสธไปในทันที


“มันไม่ใช่เรื่องยากอะไร ข้าแค่ต้องการซ่อมแท่นบูชานี้ วัสดุที่จำเป็นถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ข้ายังจำเป็นต้องใช้น้ำบริสุทธิ์เพื่อซ่อมแซมมัน เจ้าใช้วิชาจีโนธาตุน้ำได้หรือเปล่า?” ไท่อีพูด


“ข้าพอจะใช้วิชาจีโนธาตุน้ำได้ แต่ทำไมเจ้าถึงต้องการจะซ่อมแซมแท่นบูชา?” หานเซิ่นสับสน เขาไม่เข้าใจไท่อี


จากที่ได้ยินไท่อีพูดกับราชาจุน ไท่อีดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับราชาจุน นอกจากนั้นเขายังรู้เกี่ยวกับผู้นำเซเคร็ดและก็อตแซงชัวรี่ ตอนนี้เขาต้องการจะซ่อมแซมแท่นบูชา หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่าเขาอยู่ข้างไหนกันแน่


ราชาจุนพูดว่าเขาเข้าไปในวิหารและฆ่าเทพสปิริตคนหนึ่ง หานเซิ่นจึงค่อนข้างแน่ใจว่าไท่อีคนนี้ก็คือไท่อีผู้สังหารพระเจ้าที่ม้วนกระดาษนั่นพูดถึง


ไท่อีไม่ตอบคำถามของหานเซิ่น เขาแค่เอาวัสดุหลายอย่างออกมาและวางลงบนแท่นบูชาที่ถูกทำลาย เขาดีดนิ้วและไฟสีขาวก็ตกลงไปใส่แท่นบูชา มันลุกโชนและเข้าครอบคลุมทั้งแท่นบูชา


หานเซิ่นยืนอยู่ไม่ไกลไปจากแท่นบูชา แต่เขาไม่สามารถสัมผัสถึงความร้อนของไฟได้ วัสดุที่ไท่อีนำเอาไปวางบนแท่นบูชานั้นถูกละลายกลายเป็นของเหลวและเข้าไปเติมเต็มส่วนที่แตกสลายของแท่นบูชา ไม่นานหลังจากนั้นแท่นบูชาก็ดูสมบูรณ์เหมือนกับของใหม่ เพียงแต่ว่ามันตกผนึก มันดูเหมือนกับคริสตัล


“ช่วยข้าด้วยน้ำ” ไท่อีพูด


หานเซิ่นสะดุ้ง เขารีบทำตามที่ไท่อีสั่งและใช้วิชาจีโนธาตุน้ำเพื่อปล่อยน้ำจำนวนมากใส่แท่นบูชา แต่ก่อนที่น้ำจะได้สัมผัสกับแท่นบูชานั้นพวกมันก็ถูกละเหยกลายเป็นไอด้วยความร้อน


“พวกเราต้องใช้น้ำมากกว่านี้เพื่อทำให้ทั้งแท่นบูชาเย็นลง” ไท่อีพูด


หานเซิ่นเพิ่มพลังและปล่อยน้ำออกไปใส่แท่นบูชามากขึ้นอีก หานเซิ่นพยายามอย่างเต็มที่ แต่น้ำก็ยังไม่สามารถเข้าไปสัมผัสกับแท่นบูชาได้ น้ำทั้งหมดที่เขาปล่อยออกมาราวกับคลื่นยักษ์นั้นถูกละเหยไปในอากาศ


“ไท่อีคนนี้ทรงพลังมาก” ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจถึงความน่ากลัวของพลังไฟของไท่อีแล้ว


ในเมื่อมันมาถึงนี่แล้ว หานเซิ่นก็ไม่คิดจะยอมแพ้ เขาจำลองออร่าของแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตและใช้พลังของแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินเข้าช่วย


ในที่สุดน้ำก็พุ่งไปถูกแท่นบูชาได้สำเร็จ ทำให้เกิดเป็นควันสีขาวลอยขึ้นมา แท่นบูชาที่ดูเหมือนกับคริสตัลที่ลุกไหม้นั้นเริ่มกลับมาดูเหมือนกับหินอีกครั้งหนึ่ง

 

 

 


ตอนที่ 2883 ได้พบกันอีกครั้ง

 

แท่นบูชาไม่มีรอยแตกหักอีกต่อไป มันถูกซ่อมแซมจนดูเหมือนกับของใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่มีเทพสปิริตกำเนิดขึ้นมาบนแท่นบูชา


“ขอบคุณเจ้ามาก น้องชาย นี่คือรางวัลของเจ้า ข้าเชื่อว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง”

ไท่อีโยนบางสิ่งให้กับหานเซิ่นขณะที่เขาเดินเข้าไปหาแท่นบูชา


หานเซิ่นมองดูแท่นบูชาเรืองแสงสว่างไสว แสงนั้นสาดส่องออกไปทุกหนทุกแห่ง ที่ไหนก็ตามที่แสงแห่งเทพส่องไป โลหะที่ถูกทำลายก็ดูเหมือนจะถูกย้อนเวลากลับ ชิ้นโลหะแต่ละชิ้นเริ่มประกอบเข้าด้วยกัน ทั้งวิหารนั้นกำลังซ่อมแซมตัวเอง


ตอนนี้ภายในวิหารเต็มไปด้วยชิ้นโลหะที่กำลังบินอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งสิ่งก่อสร้าง รูปปั้นและเครื่องมือทั้งหมดประกอบกลับเข้าด้วยกันราวกับพวกมันถูกย้อนเวลากลับ


เนื่องจากพลังของแท่นบูชา ทั้งวิหารดูเหมือนจะเริ่มฉีกอวกาศ มันตรงเข้าไปในรอยแยกที่เกิดขึ้น


หานเซิ่นไม่กล้าจะติดตามวิหารเข้าไปในช่องว่างของอวกาศ เขาจึงออกไปจากวิหารและมองดูการซ่อมแซมตัวเองของมันจากด้านนอก


ในตอนที่วิหารซ่อมแซมตัวเองได้ประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ หานเซิ่นก็เห็นว่าโครงสร้างของวิหารนั้นดูเหมือนกับนกโลหะขนาดใหญ่


นกโลหะยักษ์นั้นดูคล้ายคลึงกับเรเวนอาทิตย์สีทองที่หานเซิ่นเคยฆ่าเมื่อก่อน แต่มันแตกต่างออกไปเล็กน้อย


วิหารดูสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มันเข้าไปในช่องว่างของอวกาศ และในที่สุดมันก็หายวับไป หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าเขายังไม่ได้ถามคำถามกับไท่อีเลย


หานเซิ่นมองในมือของตัวเอง สิ่งที่ไท่อีโยนมาให้กับเขาคือไข่ฟองหนึ่ง มันมีขนาดเท่ากับไข่ธรรมดา แต่มันดูค่อนข้างหนักและสีของมันก็เหมือนกับโลหะ


“ทำไมเขาถึงมอบไข่ฟองหนึ่งให้กับเรา? เขาต้องการให้เราเอามันไปทำอาหารกินอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เขาไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของไข่ฟองนี้


หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อสแกนมันดู แต่เขาไม่สามารถสัมผัสถึงพลังชีวิตจากภายในไข่ได้ มันดูเหมือนกับงานศิลปะที่ถูกทำขึ้นมาจากโลหะ


“เราไม่รู้เลยว่าไท่อีจะทำอะไรกันแน่ เขาเป็นคนที่ลึกลับ เขาซ่อมแซมวิหาร ดังนั้นมันมีโอกาสที่เขาจะเป็นเทพสปิริตของวิหารนั่น แต่จากที่สังเกตดู เขาดูไม่เห็นเหมือนกับเทพสปิริตคนหนึ่ง นี่เป็นอะไรที่แปลกจริงๆ”

หานเซิ่นไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขาเอาไข่ไปเก็บและหันไปมองรอบๆ เขายังคงไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี ดังนั้นเขาจึงใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นอย่างมั่วๆโดยหวังว่าจะไปพบสถานที่ที่มีผู้คนอยู่ อย่างน้อยแบบนั้นเขาก็จะยืนยันตำแหน่งที่อยู่ของตัวเองได้


เนื่องจากหานเซิ่นไม่สามารถระบุตำแหน่งของตัวเองได้ การใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจึงจะเป็นอะไรที่อันตราย ถ้าเขาเทเลพอร์ตไปมั่วๆ เขาก็อาจจะเข้าไปอยู่ในปากของอสูรที่น่ากลัวตัวหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะเทเลพอร์ตไปอยู่ในหม้อต้มร้อนๆ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือเขาอาจจะเทเลพอร์ตไปถูกกับคมของใบมีดเข้า ซึ่งจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ


โชคดีที่ร่างกายของหานเซิ่นนั้นแข็งแกร่ง ถึงแม้มันไม่น่าจะทำร้ายอะไรเขาได้ แต่หานเซิ่นก็ยังจำเป็นต้องระมัดระวัง หลังจากที่ทำการเทเลพอร์ต หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าร่างกายของเขากำลังอยู่ในน้ำ น้ำนั้นใสและตื้นมากๆ เขาเห็นบันไดหยกอยู่ใกล้ๆ เขาจึงบอกได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในสระน้ำหรือไม่ก็บ่อน้ำพุ


หานเซิ่นยืนขึ้นและมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่าตัวเองอยู่ในบ่อน้ำพุขนาดใหญ่


ในตอนที่หานเซิ่นยืนขึ้นมา หนุ่มสาวที่อยู่รอบๆก็หันมามองเขาด้วยความตกใจ


“เฟเธอร์?” หานเซิ่นสังเกตเห็นปีกบนหลังของหนุ่มสาวที่อยู่รอบๆ มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นคนเผ่าเฟเธอร์


หลังจากที่ข่งเฟยทำให้เผ่าเฟเธอร์กลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำ หานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจอะไรในการมีอยู่ของพวกเขา หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่ากาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจะพาตัวเขามาอยู่ในดินแดนของเฟเธอร์แบบนี้


“นี่ที่คงจะไม่ใช่โฮลี่เฮฟเว่นหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นมองไปรอบๆ เขาสังเกตเห็นว่าเขาไม่ได้อยู่ในซีโน่เจเนอิคสเปช เขากำลังอยู่บนดวงดาวธรรมดาดวงหนึ่ง


เนื่องจากหานเซิ่นไม่ได้สนใจอะไรในเผ่าเฟเธอร์ เขาจึงไม่รู้ว่าโฮลี่เฮฟเว่นนั้นยังเป็นของเผ่าเฟเธอร์อยู่ไหม เพราะยังไงซะพวกเขาก็กลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นถึงเผ่าเฟเธอร์จะต้องการเก็บโฮลี่เฮฟเว่นที่เป็นซีโน่เจอิคสเปชขนาดใหญ่เอาไว้ มันก็เป็นเรื่องยากอยู่ดีที่พวกเขาจะทำแบบนั้น


หานเซิ่นออกมาจากบ่อน้ำพุและยิ้มให้กับเฟเธอร์สาวคนหนึ่ง

“ขอโทษนะ ข้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหม? ที่นี่มันที่ไหนอย่างนั้นหรอ?”


“ที่นี่คือดาวของเฟเธอร์ เจ้าเป็นใครกัน? ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ในน้ำพุได้?” เฟเธอร์สาวตอบด้วยความแปลกใจ


หานเซิ่นไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับดาวของเฟเธอร์มาก่อน แต่มันเป็นดวงดาวที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่ ดังนั้นหานเซิ่นจึงใช้โทรศัพท์เพื่อเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตของดาวเฟเธอร์ หลังจากนั้นเขาก็ได้รู้ว่าตัวเองนั้นอยู่บนดาวเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากระบบจักรวาลล้าง ดูเหมือนว่าตัวเขาเพิ่งจะเทเลพอร์ตออกมาจากจักรวาลล้าง


“หัวแกะหัวสุดท้ายส่งเรามาที่ระบบจักรวาลล้างอย่างนั้นหรอ”

หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ บริเวณที่เขาถูกส่งไปนั้นดูแตกต่างไปจากจักรวาลล้างที่เขาเคยไปก่อนหน้านี้ มันควรจะอยู่ห่างไกลออกไปจากที่นั่น


“ข้าก็สงสัยว่าใครกันที่กล้าเข้ามาในดาวของข้า ที่แท้มันก็คือเจ้านี่เอง”

ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงพูดดังมาจากระยะไกล เมื่อเขามองไปในทิศทางนั้น เขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมา “พี่เฟย”


ชายที่กำลังเข้ามาก็คือข่งเฟย หานเซิ่นไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นข่งเฟยบนดาวดวงเล็กๆแบบนี้


“กาลเวลาช่างเป็นอะไรที่แปลกจริงๆ” ข่งเฟยพูดพร้อมกับถอนหายใจ

“ในตอนที่ข้าพบกับเจ้าครั้งแรก เจ้าอ่อนแอซะจนข้าไม่กล้าจะพูดเสียงดังกับเจ้า เพราะข้ากลัวว่าจะเผลอไปฆ่าเจ้า แต่ตอนนี้เจ้ากลายเป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้าไปแล้ว”


“พี่เฟย ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?” หานเซิ่นรู้สึกสงสัย ข่งเฟยมีความแค้นกับเผ่าเฟเธอร์ ทุกคนรู้ในเรื่องนั้น แต่ถึงอย่างนั้นดวงดาวที่เขาอยู่ในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเฟเธอร์จำนวนมาก นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ


“มากับข้าหน่อย พวกเราไม่ได้มีของหายากอะไร พวกเรามีแค่ไวน์ธรรมดาๆ มันคงจะเพียงพอสินะ”

ข่งเฟยไม่ได้ตอบคำถามของหานเซิ่น เขาให้หานเซิ่นตามเขาไป เฟเธอร์จำนวนมากเข้ามาทักทายเขา ทุกคนดูเหมือนจะเรียกข่งเฟยว่าพี่เฟย


หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าเฟเธอร์ทุกคนที่อยู่ที่นี่นั้นดูหนุ่มสาวกันทุกคน และพวกเขาหลายๆคนก็ไม่ใช่เฟเธอร์เลือดบริสุทธิ์


มันมีต้นไม้สูงอยู่เป็นจำนวนมาก และบนต้นไม้ก็มีบ้านที่ทำจากไม้สร้างเอาไว้ ข่งเฟยอาศัยอยู่ในบ้านต้นไม้ หลังจากที่เข้าไปในบ้านแล้ว เขาก็นั่งลงบนพื้นไม้อย่างเป็นกันเองและโยนขวดไวน์ให้กับหานเซิ่น เขายกขวดไวน์ขึ้นมาดื่มก่อนที่จะพูดขึ้นว่า

“เฟเธอร์นั้นกลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำ พวกเขาจึงรักษาโฮลี่เฮฟเว่นเอาไว้ไม่ได้ เฟเธอร์พวกนี้คือเด็กกำพร้าที่ข้าเก็บมาหลังจากการต่อสู้”


หานเซิ่นไม่รู้จะตอบเขายังไงดี ข่งเฟยต่อสู้เพื่อความถูกต้องของตัวเองและครอบครัว เขาทำให้เผ่าเฟเธอร์นั้นตกลงมาจากการเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ชั้นสูงโดยที่ไม่ฆ่าเฟเธอร์ทั้งหมด นั่นถือเป็นความเมตตาของเขา


แต่การกระทำของเขาทำให้ชีวิตของเฟเธอร์มากมายที่ไม่รู้เรื่องอะไรได้รับผลกระทบไปด้วย มันไม่สามารถบอกได้ว่าใครผิดใครถูก มันบอกได้แค่ว่าในยุคสมัยแบบนี้ผู้คนไม่สามารถควบคุมชะตากรรมได้ การเกิดและการล่มสลายทั้งหมดถูกกำหนดโดยชะตากรรม

 

 

 


ตอนที่ 2884 ตัดสินใจเรื่องจุดตะเกียง

 

“ในที่สุดเราก็ได้กลับมา! บรรยากาศของบ้านนั้นยังไงก็ดีที่สุด”

ทันทีที่หานเซิ่นกลับมาที่บ้าน เขาก็สูดหายใจเข้าลึกเพื่อรับเอาความหอมอันอบอุ่นของบ้านเข้าไป


“พ่อ!” เมื่อได้เห็นหานเซิ่น หลิงเอ๋อก็วิ่งเข้ามาหาเขา


“หลิงเอ๋อ หลิงเอ๋อเด็กดี มาให้พ่อหอมหนูหน่อยสิ” หานเซิ่นอุ้มหลิงเอ๋อขึ้นมาและหอมแก้มของเธอ


“นี่นายยังจำได้ว่าต้องกลับบ้านอย่างนั้นหรอ? ถ้านายกลับมาช้ากว่านี้ หลิงเอ๋อก็คงจะลืมไปแล้วว่าพ่อของตัวเองนั้นหน้าตาเป็นยังไง” จีเหยียนหรันมองหานเซิ่นด้วยสายตาที่ทิ่มแทง


หานเซิ่นใช้จมูกถูกกับจมูกของหลิงเอ๋อขณะที่พูดขึ้นว่า “หลิงเอ๋อจะไม่ลืมพ่อใช่ไหม?”


ดวงตาของหลิงเอ๋อเบิกกว้างขณะที่เธอรีบตอบ “หลิงเอ๋อจะไม่มีวันลืมพ่อ และพ่อก็ไม่มีวันลืมหลิงเอ๋อเหมือนกันใช่ไหม?”


“แน่นอนว่าไม่ หลิงเอ๋อเป็นเด็กดีของพ่อ พ่ออาจจะลืมทุกคน เว้นก็แต่หลิงเอ๋อ” หานเซิ่นพูดขณะที่อุ้มหลิงเอ๋ออยู่


หลิงเอ๋อกอดคอของหานเซิ่นและพูด “หลิงเอ๋อและพ่อจะอยู่ด้วยกันไปตลอดใช่ไหม?”


“แน่นอนอยู่แล้ว” หานเซิ่นพยักหน้า


“โรงเรียนอนุบาลกำลังปิดเทอม แม่บอกว่าหลิงเอ๋อจะไปเที่ยวเล่นได้”

หลิงเอ๋อกระพริบตาปริบๆและถาม “พ่อจะพาหลิงเอ๋อไปเที่ยวเล่นที่จักรวาลจีโนได้ไหม?”


“อะไรนะ?” หานเซิ่นประหลาดใจ ตอนนี้มันถูกเปิดเผยออกมาว่าที่เธอพูดดีกับเขาก็เป็นเพราะเธอต้องการให้เขาพาเธอไปเที่ยวด้วย


หานเซิ่นถอนหายใจ ถ้านี่เป็นเมื่อก่อน เขาก็อาจลังเลที่จะพาหลิงเอ๋อไปที่จักรวาลจีโน เพราะมันเป็นอะไรที่อันตรายเกินไป


แต่ตอนนี้หานเซิ่นมีพลังที่จะปกป้องตัวเองแล้ว ดังนั้นเขาสามารถคิดในเรื่องนั้นได้


“ถ้ามันไม่มีอันตรายอะไร นายควรพาเธอไปเที่ยวสักหน่อย คุณครูมอบการบ้านหลายอย่างที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ นายไม่เคยใช้เวลาร่วมกับเธอเลย นี่เป็นเวลาที่เหมาะที่นายจะพาเธอไปด้วย” จีเหยียนหรันพูด


“ทำไมจะไม่ได้ ฉันหาที่อยู่อาศัยที่นั่นได้แล้ว เป่าเอ๋อและนกแดงน้อยก็อยู่ที่นั่นด้วย ฉันคิดว่าพวกเธอคงจะคิดถึงหลิงเอ๋อมาก”

หานเซิ่นพยักหน้า เขาหันไปมองจีเหยียนหรันและถาม “เธอจะไปด้วยไหม?”


“ฉันยังไม่ไป ไม่นานมานี้ฉันได้ศึกษาเกี่ยวกับวิชาสำนักเสวียนและพบว่ามันเป็นบางสิ่งที่น่าสนใจ ฉันอยากจะรอจนกระทั่งฉันฝึกวิชาสำนักเสวียนสำเร็จสักหน่อยก่อน หลังจากนั้นฉันจะพาหลิงเอ๋อไปที่จักรวาลจีโนและอาศัยอยู่ที่นั่น” จีเหยียนหรันพูด


หานเซิ่นประหลาดใจ วิชาสำนักเสวียนนั้นค่อนข้างซับซ้อนและค่อนข้างน่าเบื่อ มันยากที่คนธรรมดาจะเรียนรู้ได้ แถมผลลัพธ์จากการฝึกก็ไม่เป็นอะไรที่เด่นชัด มันเป็นวิชาที่ใช้เวลานานในการเรียนรู้ หานเซิ่นประหลาดใจที่ได้ยินว่าจีเหยียนหรันนั้นสนใจวิชาของสำนักเสวียน


เช้าวันต่อมา หานเซิ่นก็พาหลิงเอ๋อไปด้วยในตอนที่เขาเทเลพอร์ตกลับไปที่จักรวาลจีโน เขาบอกลาข่งเฟยและใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นเพื่อกลับไปที่สเปชการ์เด้น


หลิงเอ๋อนั้นปรับตัวเก่งมากๆ แรงกดดันของจักรวาลจีโนนั้นไม่ได้ส่งกระทบอะไรต่อเธอ เธอสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ


“นี่ร่างกายของเธอแข็งแรงแค่ไหนกัน? ในตอนที่เราเพิ่งจะวิวัฒนาการและมาที่นี่ เราต้องใช้เวลาสักพักเพื่อปรับตัวเข้ากับแรงกดดันของจักรวาลนี้”

หานเซิ่นมองไปที่หลิงเอ๋อด้วยสีหน้าแปลกๆ เธอกระโดดขึ้นลงอย่างร่าเริง ผมเปียสองข้างของเธอแกว่งไปมา


หานเซิ่นรู้สึกภูมิใจกับตัวเอง ‘มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะยังไงซะพ่อของเธอก็คือหานเซิ่นคนนี้’


โฮลี่เบบี้ถูกปล่อยออกมา เขานั่งถัดไปจากหานเซิ่นด้วยสีหน้าที่ดูหดหู่


มันไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงกับสเปชการ์เด้นมากนัก แต่มีความเปลี่ยนแปลงมากมายกับผู้คนที่อยู่ข้างใน เป่าเอ๋อ นกแดงน้อย นางฟ้า ซีโร่ หวงฟูจิ้ง ซินเสวียน ถังเตียงลิ่วและหวังอวี่ฮังต่างก็อยู่ในนั้น


ที่สำคัญในที่สุดพวกเขาก็ได้ใช้ทรัพยากรของสเปชการ์เด้นจนกลายเป็นระดับเทพเจ้าเรียบร้อยแล้ว นอกจากผู้คนที่แสดงตัวในการประลองบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน ราชินีชั่วพริบตาและอสูรกาแล็กซี่ต่างก็เป็นระดับเทพเจ้าด้วยเช่นกัน


“ทั้งหมดนี่เป็นเพราะนกแดงน้อย” หวังอวี่ฮังพูดอย่างตื่นเต้น

“ถ้าไม่ใช่เพราะมันช่วยในตอนแรก พวกเราก็คงจะล่าพืชซีโน่เจเนอิคได้ไม่เร็วนัก และพวกเขาก็คงจะไม่มีจีโนฟลูอิดให้ใช้เป็นจำนวนมาก แต่ยังไงก็ตามที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ ที่นี่มีพืชซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่เต็มไปหมด”


เป่าเอ๋อจูงมือหลิงเอ๋อไปเล่นด้วยกัน นกแดงน้อยก็เดินตามพวกเธอไปจากด้านหลัง แต่จู่ๆมันก็หันกลับมาราวกับว่ามันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง มันบินเข้ามาหาหานเซิ่น มันบินรอบตัวเขาอยู่หลายรอบราวกับว่ามันกำลังมองหาอะไรบางอย่าง


“นายกำลังมองหานี่อยู่อย่างนั้นหรอ?” หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวๆ เขาเอาไข่โลหะที่ไท่อีมอบให้กับเขาออกมา


นกแดงน้อยส่งเสียงร้องอย่างตื่นเต้น มันบินมาตรงหน้าหานเซิ่นและอ้าปากของมันออก เห็นได้ชัดว่ามันต้องการจะกินไข่โลหะนั่น


“ฉันยังให้มันกับนายในตอนนี้ไม่ได้” หานเซิ่นยิ้มและเก็บไข่กลับไป นกแดงน้อยดูผิดหวังกับเรื่องนั้น


หานเซิ่นไม่คิดจะให้นกแดงน้อยกินมันเข้าไปจนกว่าที่เขาจะรู้ว่าไข่โลหะนี้คืออะไร


ตอนนี้ในสเปชการ์เด้นไม่ได้มีสิ่งมีชีวิตอยู่มากมายอะไร ที่อยู่ที่นี่มีแค่มนุษย์ มอนสเตอร์และสปิริตที่หานเซิ่นพามาเท่านั้น พลังของพวกเขาทุกคนนั้นถือว่าไม่เลว


หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ดูเหมือนว่าพวกเราจะพาคนมาที่นี่ได้อีก ในตอนนี้สเปชการ์เด้นมีทรัพยากรอยู่เป็นจำนวนมาก เราจะพาคนมาอีกเป็นร้อยคนมันก็ยังไม่เป็นอะไร’


ต่อไปที่หานเซิ่นมีแผนที่ไปเยือนดินแดนของเผ่าบุดด้า แต่เขายังคงลังเลอยู่ว่าควรจะท้าชิงเผ่าบุดด้าและเขี่ยพวกเขาลงมาจากหนึ่งในเผ่าพันธุ์ชั้นสูงดีไหม หรือเขาควรแค่ไปที่ดินแดนของพวกเขาและขโมยมีดเปล่ากลับคืนมาดี


โดยปกติแล้วการชิงตะเกียงของเผ่าบุดด้าในจีโนฮอลล์น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หานเซิ่นไม่อยากจะทำแบบนั้นในฐานะมนุษย์ ถ้าเขาใช้ชื่อของคริสตัลไลเซอร์ เขาก็ไม่รู้ว่ามนุษย์จะได้รับประโยชน์จากการกระทำนั่นไหม


โดยปกติแล้วหลังจากที่ตะเกียงของเผ่าพันธุ์หนึ่งถูกจุดขึ้นมา สิ่งมีชีวิตของเผ่าพันธุ์นั้นจะได้รับพลังเสริมจากตะเกียง ยีนในร่างกายของพวกเขาจะดียิ่งขึ้น


หานเซิ่นและคนอื่นๆไม่ใช่คริสตัลไลเซอร์บริสุทธิ์ ถ้าใช้ชื่อของคริสตัลไลเซอร์เพื่อจุดดวงไฟในตะเกียง เขาก็ไม่รู้ว่าผลที่ออกมาจะเป็นยังไง


“ในตอนนี้การใช้ชื่อคริสตัลไลเซอร์เพื่อจุดดวงไฟในตะเกียงอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เรื่องของมนุษย์นั้นยังไม่ควรจะถูกเปิดเผยออกไป แถมอันดับของเผ่าบุดด้าก็ค่อนข้างต่ำ มันไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงใช้ชื่อของมนุษย์เพื่อชิงตะเกียงของพวกเขา” หวังอวี่ฮังพูด


ทุกคนต่างก็คิดว่าการใช้ชื่อของคริสตัลไลเซอร์เพื่อท้าสู้กับเผ่าบุดด้าเป็นอะไรที่ดีกว่า หลังจากที่พวกเขาได้เห็นการประลองในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน พวกเขาก็รู้ว่าพลังของตัวเองนั้นยังคงอ่อนแอ่กว่าคนอื่นในจักรวาลมาก


“งั้นก็ได้” หานเซิ่นพยักหน้า เขามีแผนที่จะใช้ชื่อของดอลลาร์เพื่อจุดดวงไฟในตะเกียงสำหรับเผ่ามนุษย์ ในตอนที่ทำแบบนั้นเขาจะไม่เลือกเผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่มีอันดับต่ำเป็นเป้าหมาย เขาต้องทำให้แน่ใจว่าชื่อของเผ่ามนุษย์จะเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วจักรวาล พวกเขาจะขึ้นไปอยู่ในท็อปห้า


เซี่ยชิง ซินเสวียนและหานเซิ่นพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดกัน พวกเขายืนยันกันว่าพวกเขาจะโค้นล้มเผ่าบุดด้าในชื่อเผ่าคริสตัลไลเซอร์


“เป่าเอ๋อ หนูดูแลหลิงเอ๋อให้ดี พ่อมีเรื่องที่ต้องไปทำ”

หานเซิ่นฝากหลิงเอ๋อเอาไว้กับเป่าเอ๋อ หลังจากนั้นเขาก็ใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นไปที่เผ่าบุดด้า


เมื่อเห็นหานเซิ่นจากไป โฮลี่เบบี้ก็ดูดีใจมากๆ เขาเดินเข้าไปหาเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อที่กำลังเล่นกันอยู่

 

 

 


ตอนที่ 2885 มีดในบุดด้าคิงด้อม

 

ภายในบุดด้าคิงด้อม เบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าดูเหมือนจะกำลังอารมณ์ดี ก่อนหน้านี้เขาเป็นเพียงแค่ระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วา และด้วยอายุขัยที่มาก ทำให้เขาไม่สามารถเพิ่มระดับขึ้นไปมากกว่านั้นได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าในระหว่างกระบวนการทำมีดขึ้นมาจากมีดเปล่านั้นมีเรื่องที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้น ในตอนที่มีดถูกหลอมขึ้นมา เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังของมีดและมันก็ช่วยให้เขาเลื่อนไปสู่ขั้นบัตเตอร์ฟลายได้สำเร็จ


หลังจากนั้นมันก็มีเรื่องดีอีกเรื่องเกิดขึ้น จู่ๆบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนก็เปิดรับเข้าสมัคร และเขาก็พึ่งพามีดนั่นจนขึ้นไปติดท็อปร้อยได้สำเร็จ ซึ่งทำให้เขาได้รับอาวุธขั้นทรูก็อตและวัสดุขั้นทรูก็อตมาเป็นรางวัล


สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้เบิร์นนิ่งแลมป์รู้สึกว่าตัวเองนั้นโชคดีมากๆ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นความจริง


“ดวงของเรานี่ไม่เลวเลย ด้วยอาวุธขั้นทรูก็อต ตุ๊กตาเทพที่เราได้รับมา มันก็เหมือนกับว่าบุดด้านั้นมียอดฝีมือขั้นทรูก็อตหนึ่งคน ในตอนที่เราสิ้นอายุขัย เราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเราจะจากไปโดยที่ไม่ทิ้งอะไรเอาไว้เป็นมรดกของเผ่าพันธุ์”


เบิร์นนิ่งแลมป์มองไปที่ตุ๊กตาสีดำซึ่งสูงเท่ากับเขา เขาดูตื่นเต้นกับมัน


ตุ๊กตาสีดำนั้นมีเครื่องหมายที่ประหลาดและลึกลับอยู่มากมาย เพียงแค่มันยืนอยู่นิ่งๆมันก็ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงเวทย์มนต์ที่ทรงพลัง


นั่นก็คือตุ๊กตาเทพที่เป็นอาวุธขั้นทรูก็อต เบิร์นนิ่งแลมป์แค่จำเป็นต้องใส่พลังของเขาเข้าไปในตุ๊กตาเทพเพื่อที่จะให้มันทำตามคำสั่งของเขา พลังของมันนั้นเทียบได้กับพลังของยอดฝีมือขั้นทรูก็อตคนหนึ่ง


แต่เบิร์นนิ่งแลมป์เป็นแค่ขั้นบัตเตอร์ฟลายเท่านั้น เขาไม่มีพลังพอที่จะใช้ตุ๊กตาเทพทำการต่อสู้เป็นเวลานานๆได้


แต่ด้วยพลังขั้นทรูก็อต ถึงแม้มันจะถูกใช้ในเวลาสั้นๆ มันก็ยังคงสร้างความเสียหายที่เหนือจินตนาการ


แค่นั่นก็ทำให้เบิร์นนิ่งแลมป์รู้สึกพึงพอใจแล้ว ตราบใดที่เผ่าบุดด้ามีระดับเทพเจ้าอยู่สักคน พวกเขาก็จะสามารถใช้ตุ๊กตาเทพได้ ระยะเวลาในการใช้งานนั้นขึ้นอยู่กับพลังที่พวกเขาใส่เข้าไปในตุ๊กตาเทพ


แบบนั้นถึงเวลาของมันจะสั้น แต่ถึงเบิร์นนิ่งแลมป์จะตายไปแล้ว ใครสักคนในเผ่าบุดด้าก็สามารถใช้ตุ๊กตาเทพนี่ต่อจากเขาได้ เผ่าบุดด้าจะรักษาอำนาจของพวกเขาเอาไว้ได้


“ด้วยตุ๊กตาเทพและมีด นอกซะจากยอดฝีมือชั้นสูงต้องการจะต่อสู้กับเผ่าบุดด้า พวกเราก็จะไม่เป็นอะไร แถมพวกเรายังได้รับการสนับสนุนจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง และถ้าพวกเรานำวัสดุนี้ไปทำเป็นอาวุธได้อีกล่ะก็…”

เบิร์นนิ่งแลมป์มองไปที่กระดูสีแดงอย่างตื่นเต้น


กระดูกนั่นคือวัสดุขั้นทรูก็อตที่เขาได้รับมาเป็นรางวัล กระดูกนั้นถูกเรียกว่ากระดูกเบรกโซล มันเป็นกระดูกแขนของซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตที่มีชื่อว่าเบรกโซลบีสต์


เบิร์นนิ่งแลมป์คิดกับตัวเอง ‘น่าเสียดายที่เราเพิ่งจะหลอมมีดนี่ขึ้นมา ทำให้พวกเรายังไม่มีทรัพยากรพอที่จะทำอาวุธขั้นทรูก็อตขึ้นมาอีกชิ้น เราคงจะต้องเอากระดูกนี่ไปไว้ในสระแสงบุดด้าและให้มันได้อาบแสงบุดด้าเป็นเวลาสักพันถึงหมื่นปี บางทีหลังจากนั้นบุดด้าอาจจะกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อเสียงและพวกเราอาจจะมีทรัพยากรพอที่จะสร้างอาวุธขั้นทรูก็อตขึ้นมาอีกชิ้นหนึ่ง”


ในตอนที่เขากำลังจะเอากระดูกเบรกโซลไปเก็บเอาไว้ในสระแสงบุดด้า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน


สระแสงบุดด้ากำลังสั่นไหว มันไม่ใช่แค่สระแสงบุดด้าเท่านั้น ทั้งบุดด้าคิงดอมนั้นกำลังสั่นสะเทือนราวกับว่ามันกำลังจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้น


ทุกคนในบุดด้าคิงดอมรู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหว จู่ๆท้องฟ้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีอย่างฉับพลันราวกับว่าแสงบุดด้าที่ครอบคลุมบุดด้าคิงดอมอยู่นั้นเป็นแค่เทียนไขที่ถูกสายลมพัดจนดับไป


“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนในบุดด้าคิงดอมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความสับสน พวกเขาต้องตกใจเมื่อเห็นชายคนหนึ่งลอยตัวอยู่เหนือดินแดนของพวกเขา ชายคนนั้นกำลังยืนอยู่ในอวกาศ มือข้างหนึ่งของชายคนนั้นกำลังสัมผัสกับแสงบุดด้าที่ปกป้องบุดด้าคิงดอมอยู่ แสงบุดด้านั้นสว่างไสวมานานหลายศตวรรษ แต่ตอนนี้เมื่อชายคนนั้นสัมผัสกับมัน มันก็เป็นเหมือนกับลูกโป่งที่กำลังจะถูกบีบจนแตก


ยอดฝีมือของเผ่าบุดด้ามากมายบินออกมาสู่อวกาศและตะโกนใส่ชายคนนั้นอย่างเกรี้ยวกราด

“นี่เจ้ากล้าดียังไง! กล้าดียังไงมาทำลายแสงบุดด้าของบุดด้าคิงดอม! เจ้ารู้ตัวไหมว่าเจ้ากำลังอยู่ที่ไหน?”


พวกเขารู้ดีว่าชายคนนั้นแข็งแกร่งและเป็นถึงยอดฝีมือระดับเทพเจ้า ชายคนนั้นไม่ใช่คนที่พวกเขาจะต่อสู้ได้ พวกเขาจึงไม่กล้าจะโจมตีชายคนนั้นในทันที แต่พวกเขาก็ไม่ได้หวาดกลัวและแสดงความอ่อนแอออกมา พวกเขาจะไม่กลัวเพียงเพราะคู่ต่อสู้เป็นระดับเทพเจ้า


ที่ยอดฝีมือของเผ่าบุดด้ามีท่าทีแบบนี้ก็เพราะเบิร์นนิ่งแลมป์ อัลฟ่าของพวกเขาได้อันดับที่แปดสิบสี่ในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน ซึ่งทำให้ความมั่นใจและความภาคภูมิของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก


หานเซิ่นคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าตลก อีกฝ่ายบอกว่าเขากล้าดียังไงที่มาทำลายแสงบุดด้าของบุดด้าคิงดอม ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังถามอีกว่าเขารู้ตัวไหมว่าเขากำลังอยู่ที่ไหน


“โอ้ ข้าไม่รู้จริงๆว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน ที่นี่คือที่ไหนกัน? ได้โปรดช่วยบอกข้าหน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นยิ้มให้กับบุดด้าระดับราชันที่พูดขึ้นมา


“ที่นี่คือบุดด้าคิงดอม มันคือสถานที่ที่ยอดฝีมือเบิร์นนิ่งแลมป์ปกครอง” บุดด้าระดับราชันพูด


“นั่นหมายความว่าข้ามาถูกที่แล้ว” หานเซิ่นตอบกลับ


บุดด้าระดับราชันคนนั้นอยากจะพูดอะไรอย่างอื่นอีก แต่บุดด้าระดับราชันคนอื่นมาถึงพอดี ราชาเคลียร์ซีรู้สึกตกใจและตะโกนขึ้นมา

“หานเซิ่น!”


“เขาคือหานเซิ่น เขาคือบิดาของเทพหานเซิ่น!” บุดด้าระดับราชันคนอื่นรู้สึกตกใจเช่นเดียวกัน


หานเซิ่นไม่ได้เข้าร่วมการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนในครั้งนี้ แต่ชื่อเสียงของเขาไม่ได้น้อยไปกว่าคนที่เข้าร่วม บางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ


สเปชการ์เด้นนั้นได้ส่งยอดฝีมือระดับเทพเจ้าเข้าร่วมหลายคน ถึงแม้จะไม่มีคนไหนติดท็อปร้อยได้ แต่ระดับเทพเจ้าของสเปชการ์เด้นแต่ละคนต่างก็ถือทำผลงานได้ดี ด้วยเหตุนั้นชื่อเสียงของหานเซิ่นจึงเพิ่มสูงขึ้นยิ่งกว่าเดิม


“ราชาเคลียร์ซี เจ้ายังจำข้าได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพูด


“เจ้ามาทำอะไรที่เผ่าบุดด้า?” ราชาเคลียร์ซีฝืนยิ้มออกมา


ในตอนที่เบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าขโมยมีดเปล่าของหานเซิ่นไปและเปลี่ยนหานเซิ่นให้กลายเป็นมดนั้น ราชาเคลียร์ซีก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย เขารู้ว่าหานเซิ่นนั้นเกลียดชังบุดด้า ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าการมาเยือนของหานเซิ่นในวันนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่


ถึงอย่างนั้นราชาเคลียร์ซีก็ไม่ได้หวาดกลัว ถึงหานเซิ่นจะมีชื่อเสียง แต่เขาไม่ได้มีชื่อเสียงในเรื่องความแข็งแกร่งของตัวเอง ส่วนเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าเพิ่งจะได้รับอันดับที่แปดสิบสี่ในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน เขาเอาชนะนกยูงพลูโตที่เป็นถึงซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตได้สำเร็จ นั่นทำให้ราชาเคลียร์ซีรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก


แถมเผ่าบุดด้ายังเป็นพันธมิตรกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ถ้าหานเซิ่นต้องการจะโจมตีเผ่าบุดด้า เขาก็ต้องคำนึงถึงเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงด้วย


“ข้ามาที่นี่เมื่อทำให้พวกเจ้าต้องชดใช้” หานเซิ่นพูด


“พวกเราบุดด้าไม่มีอะไรต้องชดใช้ใครคนไหนทั้งนั้น” ราชาเคลียร์ซีพูด


หานเซิ่นหัวเราะออกมา “ฮ่า! ฮ่า! พวกเจ้าไม่ต้องชดใช้อะไรอย่างนั้นหรอ? ถ้าเจ้าพูดแบบนั้น ข้าก็จะเปลี่ยนคำพูดของตัวเอง ข้าไม่ต้องการให้พวกเจ้าชดใช้อะไร ข้ามาที่นี่เพื่อทำให้เผ่าพันธุ์ของพวกเจ้าสูญพันธุ์แทน”


“นี่เจ้ากล้าดียังไง! นี่บุดด้าเป็นสถานที่ให้เจ้ามาพูดเหมือนกับคนบ้าหรือยังไง?” ยอดฝีมือของบุดด้าหลายคนโกรธจัดและเริ่มจะตะโกนใส่หานเซิ่น


หานเซิ่นหัวเราะอย่างชั่วร้าย เขาออกแรงที่นิ้วมือและแสงบุดด้าที่ปกป้องบุดด้าคิงดอมมากว่าพันปีก็แตกเหมือนกับลูกโป่ง


บุดด้าทุกคนดูตกใจ เพราะถ้าไม่มีแสงบุดด้าอยู่ ประสิทธิภาพของระบบป้องกันก็จะลดลงไปมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์


“อมิตาพุทธ!” เบิร์นนิ่งแลมป์พูด ขณะที่เขารีบมาอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น ก่อนที่หานเซิ่นจะทำอะไรอย่างอื่นอีก

 

 

 


ตอนที่ 2886 จุดดวงไฟในนามคริสตัลไลเซอร์

 

“มิสเตอร์อัลฟ่า” เมื่อพวกเขาเห็นเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าบินเข้ามา บุดด้าทุกคนก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นกว่าเดิม


เบิร์นนิ่งแลมป์โบกมือเพื่อส่งสัญญาบอกให้ทุกคนหยุดพูด เขามองไปที่หานเซิ่นและพูด

“มิสเตอร์หานมาที่บุดด้าคิงดอมและทำลายแสงบุดด้าที่ปกป้องพวกเราทำไมกัน?”


“เพื่อทำให้เผ่าพันธุ์ของพวกเจ้าสูญพันธุ์” หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา


สีหน้าของเบิร์นนิ่งแลมป์เปลี่ยนไป เขาดูเหมือนจะพยายามกลั้นความโกรธของตัวเองเอาไว้ ขณะที่เขาขมวดคิ้วและถาม

“หานเซิ่น เจ้ามาที่นี่เพราะเรื่องที่เคยเกิดขึ้นอย่างนั้นใช่ไหม? พวกเราควรจะพูดคุยกันอย่างมีเหตุผล”


หลังจากนั้นเบิร์นนิ่งแลมป์ก็เอาของอย่างหนึ่งออกมา มันคือมีดเขี้ยวที่ทำขึ้นมาจากอสูรตัวหนึ่ง เขาพูดขึ้นว่า

“ข้ารู้ว่าเจ้านั้นโกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่มีดเปล่านั้นถูกทำลายขณะที่มันถูกนำไปทำเป็นอาวุธ มีดเล่มนี้คือมีดเขี้ยวเสือ มันทำขึ้นมาจากซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ถูกเรียกว่าเสืออวกาศ มันเป็นอาวุธระดับเทพเจ้าที่ไม่เลวเลย มันเหมาะสมกับวิชามีดเขี้ยวดาบอย่างมาก นี่เป็นของขวัญที่พวกเราบุดด้าจะขอมอบให้กับเจ้า ข้าหวังว่านี่จะทำให้เจ้ายอมปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วมันแล้วกันไป”


“เบิร์นนิ่งแลมป์ มีดเหตุและผลแห่งกรรมที่เจ้าเคยใช้ในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนั่นก็คือมีดเปล่าของข้า” หานเซิ่นยิ้มให้กับเบิร์นนิ่งแลมป์


ใบหน้าของเบิร์นนิ่งแลมป์ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เขาพูดขึ้นว่า

“มิสเตอร์หานคิดมากเกินไปแล้ว มันเป็นแค่มีดเปล่าเล่มหนึ่ง พวกเราจะใช้มันทำเป็นอาวุธขั้นทรูก็อตขึ้นมาได้ยังไง? มีดเหตุและผลนั้นคือของศักดิ์สิทธิ์ที่เผ่าบุดด้าใช้ความพยายามและทรัพยากรจำนวนมากเพื่อสร้างมันขึ้นมา มันเป็นอาวุธเผ่าพันธุ์ของพวกเรา”


“เบิร์นนิ่งแลมป์ อย่าบอกว่าข้าไม่มอบโอกาสให้กับเจ้า” หานเซิ่นพูด

“นอกจากมีดเหตุและผลแล้ว เจ้ายังต้องมอบอาวุธขั้นทรูก็อตและวัสดุขั้นทรูก็อตที่เจ้าได้รับจากการประลองให้กับข้า แบบนั้นข้าถึงจะปล่อยให้เรื่องที่ผ่านไปแล้วให้มันแล้วกันไป”


“อย่าพูดไร้สาระ!”


“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮหรือโกลเด้นโกรวเลอร์อย่างนั้นหรอ?”


“ไม่มีความจำเป็นที่พวกเราต้องเสียเวลาพูดกับคนที่ไม่รู้ถึงฐานะของตัวเองแบบนี้ เขาทำลายแสงบุดด้าที่ปกป้องพวกเรา พวกเราควรจะฆ่าเขา”


บุดด้าระดับราชันทุกคนรู้สึกโกรธอย่างมาก พวกเขาต่างก็คิดว่าหานเซิ่นนั้นขอมากเกินไป


สีหน้าของเบิร์นนิ่งแลมป์ดูเย็นชาขึ้นมา เขามองไปที่หานเซิ่นและพูด

“เพื่อเห็นแก่ราชินีแห่งมีดและปราสาทนภา ถ้าเจ้าไปซะตอนนี้ ข้าจะถือว่าเจ้าไม่เคยมาที่นี่ แต่ถ้าเจ้ายังทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนี้ ก็อย่ามาหาว่าพวกเราโหดร้ายกับเจ้า”


หานเซิ่นรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเย็นชาว่า

“เบิร์นนิ่งแลมป์ ข้าก็แค่อยากจะมอบโอกาสให้กับเจ้าและเผ่าบุดด้าเท่านั้น แต่เจ้ากลับไม่เห็นค่ามัน”


เบิร์นนิ่งแลมป์อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ปล่อยแสงประหลาดออกมา แสงนั่นเป็นเหมือนกับภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นไปสู่ท้องฟ้า มันย้อมทั้งอวกาศด้วยสีประหลาด และทำให้ดวงดาวทั้งหมดมืดลงไป


“ข้า…หานเซิ่นจะจุดดวงไฟตะเกียงเผ่าพันธุ์ในนามของคริสตัลไลเซอร์”

เสียงของหานเซิ่นดังก้องไปทั่วจักรวาล มันเหมือนกับว่าจักรวาลนั้นตอบสนองต่อเสียงของเขาและส่งมันต่อไปยังทุกซอกทุกมุมในจักรวาล


ท่ามกลางเสียงก้องกังวลของหานเซิ่น จีโนฮอลล์ค่อยๆปรากฏออกมา


“โอ้มายก็อด! จีโนฮอลล์ปรากฏออกมาอีกแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น? จีโนฮอลล์ที่เคยปรากฏออกมาแค่ศตวรรษละครั้ง ตอนนี้ปรากฏออกมาติดต่อกันหลายต่อหลายครั้ง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”


“หานเซิ่นจะจุดดวงไฟในตะเกียงสำหรับเผ่าคริสตัลไลเซอร์ แต่ทุกตะเกียงในจีโนฮอลล์นั้นถูกจุดไปหมดแล้ว นี่เขาจะท้าสู้กับเผ่าพันธุ์ไหนกัน?”


“น่าสนใจ คริสตัลไลเซอร์เคยพยายามจุดดวงไฟในตะเกียงของจีโนฮอลล์มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จและเกือบจะถูกทำลายจนสูญพันธุ์ไป ตอนนี้หานเซิ่นตั้งใจจะจุดดวงไฟในตะเกียงอีกครั้ง เขาจะเลือกเผ่าพันธุ์ไหนกัน?”


“มันจะเป็นเหมือนในอดีตหรือเปล่านะ? เขาจะเลือกท้าสู้กับหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ใหญ่โตเหมือนกันไหม?”


“ก็อดฟาเธอร์หานกำลังจะจุดดวงไฟในตะเกียงเผ่าพันธุ์ นี่เป็นอะไรที่น่าสนใจ ด้วยกำลังของสเปชการ์เด้นแล้ว การจะโค้นล้มเผ่าพันธุ์ชั้นสูงระดับต่ำก็ควรจะไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป”


ภายในปราสาทนภาอี๋ซากำลังเล่นหมากรุกอยู่กับผู้นำปราสาทนภา จู่ๆพวกเขาก็ได้ยินเสียงของหานเซิ่นดังขึ้นมา พวกเขาทั้งคู่รู้สึกแปลกใจ


“เด็กคนนั้นออกมาก่อเรื่องอีกแล้ว” ผู้นำปราสาทนภาพูดด้วยรอยยิ้ม

“เขาจะท้าสู้กับเผ่าพันธุ์ไหนกัน?”


อี๋ซาดูกังวล “ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นเผ่าพันธุ์ไหน ปัญหาคือทางเวรี่ไฮกำลังตามหาตัวเขาอยู่ การที่เขาแสดงตัวออกมาแบบนี้ เผ่าเวรี่ไฮก็จะหาตัวเขาพบไม่ใช่หรอ? และข้ากลัวว่าด้วยความโกรธแค้นในอดีต เขาคงจะเลือกท้าสู้กับเผ่าบุดด้า ผู้นำก็น่าจะรู้ถึงสถานการณ์ของเบิร์นนิ่งแลมป์ในตอนนี้”


“เด็กคนนั้นไม่ได้โง่” ผู้นำปราสาทนภาพูดด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าเขากล้าแสดงตัวออกมา เขาก็ต้องมีแผนการอยู่ มันไม่มีความจำเป็นที่เจ้าต้องไปกังวล”


ภายในอีกสิ่งก่อสร้างหนึ่งของปราสาทนภา ยวิ๋นซู่อีมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างแปลกๆ

“หานเซิ่นจะจุดดวงไฟในตะเกียงเพื่อเผ่าคริสตัลไลเซอร์ เขาจะท้าสู้กับเผ่าพันธุ์ไหนกัน?”


ภายในเอ็กซ์ตรีมคิง องค์หญิงไป๋เวยเห็นหานเซิ่นในอวกาศ สีหน้าของเธอดูซับซ้อน


“จุดดวงไฟสำหรับคริสตัลไลเซอร์อย่างนั้นหรอ…”

ผู้นำพยุหะโลหิตพูดด้วยรอยยิ้ม “หานเซิ่นคนนี้น่าสนใจจริงๆ”


สิ่งมีชีวิตมากมายทั่วทั้งจักรวาลหันมามองดูการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในเวลาเดียวกันภายในเผ่าเวรี่ไฮ เอ็กซ์ควิสิทก็ดูกังวล

“ทำไมเขาถึงแสดงตัวออกมาในเวลาแบบนี้? เขาแสดงตัวในที่สาธารณะและต้องการจะจุดดวงไฟในตะเกียง แบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากการขอให้คนของเวรี่ไฮไปจับตัวเขา”


“พี่ไม่ต้องกังวลไป ถ้าเขาคิดจะทำอะไรแบบนี้ เขาก็ต้องเตรียมแผนการเอาไว้แล้ว” หลี่เคอเอ๋อพยายามพูดปลอบใจ


เอ็กซ์ควิสิทฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

“ข้าไม่ได้กังวลว่าเขาจะจุดดวงไฟในตะเกียงได้หรือเปล่า ถึงแม้เขาจะทำได้ แต่ด้วยการแทรกแซงของเผ่าเวรี่ไฮ เขาก็คงจะทำไม่สำเร็จ เขาไม่ควรจะแสดงตัวออกมาในตอนนี้จริงๆ”


ทุกเผ่าพันธุ์มองขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขาเห็นหานเซิ่นยืนอยู่ตรงหน้าจีโนฮอลล์ พวกเขาอยากรู้ว่าหานเซิ่นจะท้าสู้กับเผ่าพันธุ์ไหนกันแน่


ใบหน้าของเบิร์นนิ่งแลมป์และบุดด้าคนอื่นๆดูซีดไป พวกเขารู้ว่าเผ่าพันธุ์ไหนที่หานเซิ่นจะท้าสู้ด้วย แต่พวกเขาไม่สามารถทำใจเชื่อมันได้


มันไม่สำคัญว่าหานเซิ่นจะมีชื่อเสียงมากขนาดไหน ชื่อเสียงนั่นก็เป็นแค่ชื่อเสียงที่เขาได้มาจากพลังในการอวยพรเท่านั้น ส่วนในเรื่องพลังที่แท้จริงของเขาแล้ว เขาไม่สามารถเทียบกับเบิร์นนิ่งแลมป์ที่ได้อันดับที่แปดสิบสี่ในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนได้ มันจึงยากที่จะเชื่อว่าหานเซิ่นนั้นจะท้าสู้กับเผ่าบุดด้า


เมื่อจีโนฮอลล์ปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์ หานเซิ่นก็ชี้นิ้วของเขาออกมา นิ้วของเขามีหยดเลือดอยู่ และหยดเลือดนั่นก็บินออกไปที่ประตูของจีโนฮอลล์


ในตอนที่หยดเลือดเข้าใกล้ประตูของจีโนฮอลล์ ประตูก็เปิดออก ตะเกียงทั้งหมดกำลังส่องแสงอยู่ภายในจีโนฮอลล์ พวกมันทำให้ทั้งจักรวาลสว่างไสวราวกับว่าเป็นเวลากลางวัน


ทุกคนในจักรวาลจ้องไปที่หานเซิ่น และประตูจีโนฮอลล์ที่เปิดออกเพื่อเผยให้เห็นตะเกียงที่ส่องแสงอยู่ภายใน นี่พิสูจน์ว่าจีโนฮอลล์ตอบรับความต้องการของหานเซิ่น ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะเลือกท้าสู้กับเผ่าพันธุ์ไหน


หานเซิ่นมองไปยังตะเกียงทั้งหมดที่ลุกโชนอย่างสว่างไสว พวกมันเป็นเหมือนกับอสูรที่มองมาที่เขาด้วยดวงตาที่หิวกระหาย


ใบหน้าของหานเซิ่นไม่เปลี่ยนไป เขาขยับริมฝีปากและพูดออกไปว่า

“บุดด้า!”


ในตอนที่หานเซิ่นพูดคำนั้นออกมา ตะเกียงอื่นก็มัวลงไปและเหลือเพียงแค่ตะเกียงเดียวที่ยังลุกโชน และแสงจากตะเกียงนั้นก็สว่างไสวยิ่งกว่าเดิม

 

 

 


ตอนที่ 2887 สู้กับเผ่าบุดด้าตามลำพัง

 

เครื่องหมายเผ่าพันธุ์บนหน้าผากของบุดด้าทุกคนเริ่มเรืองแสงออกมา ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ในส่วนที่ไกลแสนไกลของอวกาศ เครื่องหมายนั่นก็นำพวกเขามาอยู่ที่หน้าจีโนฮอลล์ เพื่อที่พวกเขาจะได้ปกป้องตะเกียงเผ่าพันธุ์ของตัวเอง


เสียงร้องคำรามด้วยความโกรธนั้นดังก้องไปทั่วจักรวาล ขณะที่บุดด้าเดินทางผ่านอวกาศมาปรากฏตัวอยู่หน้าจีโนฮอลล์ แม้แต่บุดด้าธรรมดาที่ไม่มีพลังพอที่จะบินขึ้นฟ้าก็ยังใช้เครื่องหมายเผ่าพันธุ์ของตัวเองเพื่อมาร่วมต่อสู้


บุดด้านับไม่ถ้วนมารวมตัวกันอยู่หน้าตะเกียงเผ่าพันธุ์ ร่างกายของพวกเขาลุกโชนด้วยแสงบุดด้า ทุกคนมอบพลังของตัวเองให้กับตะเกียง ซึ่งทำให้ดวงไฟในตะเกียงของเผ่าบุดด้านั้นลุกโชติช่วงยิ่งกว่าเดิม มันเหมือนกับแสงออโรร่าที่ทอดยาวออกไปจนข้ามจักรวาล มันปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวเหนือจินตนาการออกมา


“หานเซิ่น! เจ้าจะต่อสู้กับบุดด้าจนตัวตายจริงๆอย่างนั้นหรอ?”

เบิร์นนิ่งแลมป์ดูสงบนิ่ง แต่ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะฆ่าอีกฝ่าย


“ข้าแค่จะทำลายเผ่าบุดด้า มันไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร” หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา


หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหานเซิ่น ทุกคนในจักรวาลก็มีสีหน้าแปลกๆ


ถึงความแข็งแกร่งของบุดด้าจะไม่ได้ถือว่าดีเด่นอะไรในหมู่เผ่าพันธุ์ชั้นสูง แต่อัลฟ่าของเผ่าบุดด้าเบิร์นนิ่งแลมป์นั้นเป็นข้อยกเว้น เขาไปถึงขั้นบัตเตอร์ฟลายได้อย่างน่าประหลาดใจ และในระหว่างการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน เขาก็เอาชนะนกยูงพลูโตที่เป็นถึงซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตได้สำเร็จ แม้แต่คนของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงก็ยังต้องคิดให้ดีถ้าจะท้าสู้กับเผ่าบุดด้า


แถมเผ่าบุดด้าก็ได้รับการสนับสนุนจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะไม่มีทางนิ่งเฉยและปล่อยให้เผ่าบุดด้าถูกโจมตี เพราะถ้าพวกเขาทำแบบนั้น มันก็จะไม่มีเผ่าพันธุ์ไหนเชื่อใจเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอีกต่อไป


“ก็อดฟาเธอร์หานอวดดีเกินไปแล้ว ถึงแม้ในสเปชการ์เด้นจะมีระดับเทพเจ้าหลายคนอยู่ แต่พวกเขาก็เป็นแค่ขั้นพริมิทีฟเท่านั้น แบบนั้นพวกเขาจะเทียบกับเบิร์นนิ่งแลมป์ที่ติดร้อยอันดับแรกในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนได้ยังไง?”


“แต่ไม่เห็นระดับเทพเจ้าของสเปชการ์เด้นจะปรากฏตัวออกมาสักคนเลย นี่ดูก็อดฟาเธอร์หานจะท้าสู้กับเผ่าบุดด้าตามลำพังอย่างนั้นหรอ?”


ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันนั้น อี๋ซาก็มีสีหน้าแปลกๆ

“เขาตั้งใจจะท้าสู้กับเผ่าบุดด้าตามลำพัง?”


ผู้นำปราสาทนภาหัวเราะและพูด “ระดับของหานเซิ่นในตอนนี้ไม่ได้ต่ำจนเกินไป เขาอาจจะทำได้สำเร็จ แต่ว่า…”


“แต่อะไร?” อี๋ซาถาม


“เมื่อก่อนคริสตัลไลเซอร์เคยล้มเหลวมาแล้วครั้งหนึ่ง และมันก็เป็นเพราะว่ามีคนนอกเข้ามาแทรกแซง เผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่ปรากฏตัวเมื่อตอนนั้นอาจจะแสดงตัวออกมาเพื่อหยุดคริสตัลไลเซอร์อีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้พวกเขาจะไม่แสดงตัวออกมา เผ่าเวรี่ไฮก็อาจจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไป นี่ยังคงเป็นอะไรที่ยากมากๆ” ผู้นำปราสาทนภาส่ายหัว


“เมื่อก่อนใครกันที่เข้ามาแทรกแซงและหยุดคริสตัลไลเซอร์จากการกลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง?” อี๋ซาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว


“มันเป็นเรื่องที่ผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว สิ่งมีชีวิตที่ได้เห็นการต่อสู้ในวันนั้น ปานนี้ก็คงจะตายไปกันหมดแล้ว ถึงแม้มันจะมีสิ่งมีชีวิตจากโบราณกาลที่ยังคงมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็จะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับมัน”

ผู้นำปราสาทนภาหัวเราะและพูด “ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ผู้คนที่หยุดคริสตัลไลเซอร์เองก็อาจจะตายไปแล้วเช่นกัน พวกเขาอาจจะไม่ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง ที่หานเซิ่นจำเป็นต้องรับมือในตอนนี้ก็คือเบิร์นนิ่งแลมป์กับคนของเวรี่ไฮ”


ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน ทางเผ่าบุดด้าก็โกรธจัดหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหานเซิ่น


“ท่านอัลฟ่า พวกเรารีบฆ่าเจ้านี่เถอะ”


“ถึงพวกเราจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ มันก็ยังไม่พอที่จะให้เขาชดใช้ความผิดของตัวเอง”


“ท่านอัลฟ่าได้โปรดมอบคำสั่งกับพวกเรา ข้าสาบานว่าจะฆ่าชายคนนี้”


เบิร์นนิ่งแลมป์ยังคงสงบนิ่ง แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

“อมิตาพุทธ! ถ้าเจ้ายืนกรานจะทำแบบนี้ แบบนั้นเจ้าก็จะมาโทษว่าเผ่าบุดด้าหยาบคายต่อปราสาทนภาไม่ได้”


ประโยคนั้นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้พูดกับหานเซิ่น เขากำลังพูดกับผู้นำปราสาทนภาและอี๋ซา


หลังจากพูดจบ เบิร์นนิ่งแลมป์ก็ลุกโชนด้วยแสงบุดด้า เขาสะบัดมือและปล่อยแสงบุดด้าประหลาดออกมา มันเป็นวิชาที่เคยเปลี่ยนหานเซิ่นให้กลายเป็นมด


ตอนนี้เบิร์นนิ่งแลมป์เป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายแล้ว เขาจึงแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก นั่นทำให้วิชานี้ของเขาแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย ภายใต้ฝ่ามือของเขามันเหมือนกับว่าเขาสามารถคว้าทั้งอวกาศมาไว้ในกำมือ


เหล่าบุดด้าเห็นว่าหานเซิ่นไม่มีปฏิกิริยาใด ในตอนที่เขาถูกแสงบุดด้าเข้าไป เขากลับดูดีใจขึ้นมา


แสงบุดด้าที่พุ่งไปถูกตัวหานเซิ่นนั้นเป็นเหมือนกับสายลมอ่อนๆที่พัดมาถูกใบหน้าของเขา หานเซิ่นยังคงยืนนิ่งอยู่ในอวกาศโดยที่ไม่ได้ขยับแม้แต่แขนเสื้อ


บุดด้าทุกคนรวมถึงเบิร์นนิ่งแลมป์นั้นตกตะลึง ในการประลองรอบแรกของเบิร์นนิ่งแลมป์ เขาได้ใช้วิชานี้เพื่อเปลี่ยนคู่ต่อสู้ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนหนึ่งให้กลายเป็นคางคก


แต่หานเซิ่นนั้นแค่ยืนอยู่เฉยๆ เขาไม่ได้ทำอะไรกับบุดด้าแสงเปลี่ยนร่างของเบิร์นนิ่งแลมป์เลยแม้แต่นิดเดียว ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขานั้นเหนือกว่าระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ


วิชากายหยกของหานเซิ่นนั้นกลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายเรียบร้อยแล้ว มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดไหน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงร่างกายและยีนของเขา


มันไม่ใช่แค่วิชาเปลี่ยนร่างของเบิร์นนิ่งแลมป์เท่านั้นที่ไม่ได้ผล ถึงแม้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะอยู่ที่นี่และใช้วิชาเพื่อเปลี่ยนท้องฟ้าและพลิกผืนดิน เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงยีนของหานเซิ่นได้


“นั่นเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งมากๆ” ผู้นำปราสาทนภาเอยชม

“ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะกลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายแล้ว”


อี๋ซายังคงขมวดคิ้ว เธอดีใจที่หานเซิ่นกลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายได้อย่างรวดเร็ว แต่หนทางข้างหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยอันตราย การเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายนั้นอาจจะยังไม่เพียงพอ


หานเซิ่นยืนอยู่ในอวกาศและมองไปที่เบิร์นนิ่งแลมป์พร้อมกับพูดอย่างเย็นชา

“เจ้าควรจะยอมมอบมีดเหตุและผล รวมทั้งอาวุธขั้นทรูก็อตมาดีๆ การใช้วิธีสกปรกแบบนี้มีแต่จะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะ”


ในตอนนี้เหล่าบุดด้าไม่ได้ดูอวดดีเหมือนกับก่อนหน้านี้ การที่หานเซิ่นรับการโจมตีของเบิร์นนิ่งแลมป์ไปโดยที่ไม่เป็นอะไรเลยนั้นทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา


“อมิตาพุทธ!” เบิร์นนิ่งแลมป์นำเอามีดเหตุและผลของเขาออกมา


เมื่อมีดนั่นมาอยู่ในมือของเขา ออร่าของเบิร์นนิ่งแลมป์ก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน มันเหมือนกับว่ามีเทพสปิริตเข้ามาสิงร่างกายของเขา แสงบุดด้านั้นสว่างไสวยิ่งกว่าเดิมและแผ่พลังที่น่ากลัวออกมาทางหานเซิ่นราวกับคลื่น


แต่ไม่สำคัญว่าเบิร์นนิ่งแลมป์จะเพิ่มพลังขึ้นสักแค่ไหน หานเซิ่นก็ไม่ได้เหลียวไปมองเขาแม้แต่น้อย หานเซิ่นแค่จ้องมองไปที่มีดเหตุแลผล ก่อนที่จะหัวเราะออกมา

“เบิร์นนิ่งแลมป์! เบิร์นนิ่งแลมป์! เจ้าเป็นคนที่ใช้ได้ ทำได้ดีมากจริงๆ เจ้าเปลี่ยนมีดเปล่าของข้าให้กลายเป็นอาวุธที่สุดยอด ความจริงแล้วข้าควรจะขอบใจเจ้า”


เบิร์นนิ่งแลมป์ขึ้นเสียง “นี่คืออาวุธเผ่าพันธุ์ของบุดด้า! เจ้าอย่าได้มาพูดจาไร้สาระ!”


เขาไม่ปล่อยให้หานเซิ่นได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เขาฟันออกไปในทางหานเซิ่น มีดแสงบุดด้าถูกปล่อยออกไปจากมีด


หานเซิ่นไม่แม้แต่จะหลบ เขาใช้ฝ่ามือของตัวเองแทนมีดและฟันออกไปข้างหน้าด้วยวิชามีดเขี้ยวดาบ


มีดแสงสีม่วงพุ่งออกไปจากฝ่ามือของหานเซิ่น มันไปปะทะกับมีดแสงบุดด้าของเบิร์นนิ่งแลมป์แบบตรงๆ มีดแสงบุดด้านั้นดูแข็งแกร่ง แต่มีดแสงสีม่วงของหานเซิ่นก็สามารถตัดผ่านมันไปได้ และมันยังพุ่งต่อไปหาเบิร์นนิ่งแลมป์


เบิร์นนิ่งแลมป์ตกใจ เขารีบโยกตัวหลบ มันเกือบจะสายเกินไป ชุดของเขานั้นถูกตัดไปเล็กน้อย


ผู้คนในจักรวาลตกตะลึง เบิร์นนิ่งแลมป์ติดท็อปร้อยในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน ถึงพลังของเขาจะไม่ได้ดีเด่นอะไร แต่เขาก็ยังเป็นถึงขั้นบัตเตอร์ฟลาย นอกจากนั้นเขายังมีอาวุธขั้นทรูก็อตอยู่ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)