Super God Gene 2828-2842
ตอนที่ 2828
“ไม่รู้ว่าวิธีการฆ่าพระเจ้าจะใช้ได้ผลกับมีดเทพนี่ไหมนะ”
หัวใจของหานเซิ่นเต้นตึกตัก เขาเรียกเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชออกมาและสั่งให้มันชกหมัดใส่มีดเทพ
ปัง!
มีดเทพไม่ได้รับความเสียหาย แต่หมัดของสกายไวน์แรดิชสลายทำให้ปีศาจเปลวเพลิงสีเลือดของมีดเทพนั้นอ่อนลง
“มันได้ผล! นี่เจ้าสิ่งนี้เป็นพระเจ้าเหมือนกันอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นดีใจ
สกายไวน์แรดิชชกใส่ปีศาจเพลิงสีเลือดอย่างไม่ยั้ง และทำให้เปลวเพลิงของปีศาจนั้นอ่อนลงไปเรื่อยๆ มันไม่สามารถตอบโต้อะไรได้
ไม่นานเปลวเพลิงสีเลือดของมีดก็ดับลงโดยฝีมือของสกายไวน์แรดิช หลังจากนั้นมีดเทพก็สูญเสียการควบคุมตัวเองและร่วงลงกับพื้น
หานเซิ่นบินไปหยิบมีดขึ้นมาจากพื้นและค้นพบว่าตอนนี้มีดเทพดูเหมือนกับมีดคมธรรมดาเล่มหนึ่งที่ไม่ได้มีพลังพิเศษอะไร
หานเซิ่นถือมีดด้วยมือทั้งสองข้างและลองพยายามที่จะหักมันดู แต่เขาพบว่าไม่สามารถทำแบบนั้นได้ มีดเทพยังคงแข็งแรงเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่มันไม่ได้มีออร่าที่น่ากลัวอีกแล้ว
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘มันไม่มีเสียงประกาศดังขึ้นมา บางทีนั่นอาจจะหมายความว่าเรายัไม่ได้ฆ่ามัน’ หานเซิ่นตัดสินใจเอามีดเทพไปเก็บเอาไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตา
“กู่หว่านเอ๋อ เจ้ามากับข้า ข้าจะพาเจ้าไปหาไผ่เดียวดาย” หานเซิ่นพูดขณะที่เดินเข้าไปหากู่หว่านเอ๋อ
“เจ้ารู้จักพี่ของข้าอย่างนั้นหรอ?”
กู่หว่านเอ๋อดีใจอยู่ชั่วครู่ แต่หลังจากนั้นเธอก็ดูโศกเศร้าและส่ายหัว “ข้าไปกับเจ้าไม่ได้ เจ้าควรไปจากที่นี่ได้แล้ว”
“มีดเทพถูกข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว เจ้ายังกังวลเรื่องอะไรอีก?”
หานเซิ่นเห็นใบหน้าของกู่หว่านเอ๋อ และเขาก็รู้ว่าเธอยังปิดบังเรื่องบางอย่างเอาไว้
“ข้าทำสัญญากับพระเจ้า ข้าไปจากที่นี่ไม่ได้ ถ้าข้าจากไป ข้าก็จะนำภัยไปสู่พี่ชายของข้า” กู่หว่านเอ๋อส่ายหัว
“สัญญาอะไร?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
กู่หว่านเอ๋อส่ายหัวและพูด “ข้าบอกเจ้าไม่ได้ ถ้าข้าบอกเจ้า พี่ชายของข้าจะตกอยู่ในอันตราย”
หานเซิ่นรู้ว่าไม่สามารถโทษกู่หว่านเอ๋อที่คิดแบบนั้นได้ ถ้าเขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเธอ เขาก็คงจะทำแบบเดียวกัน ถ้าไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็จะไม่พยายามทำบางสิ่งที่อาจจะนำภัยมาสู่ครอบครัวของเขา
“ข้าจะไม่บังคับเจ้า แต่มีดเทพถูกข้าจัดการไปแล้ว นี่พระเจ้าจะปล่อยเรื่องนั้นไปอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่กู่หว่านเอ๋อขณะที่พูด
กู่หว่านเอ๋อกัดริมฝีปาก แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าเธอยังแน่ใจ
“เอาแบบนี้เป็นไง?” หานเซิ่นพูดต่อ “บอกข้ามาว่าพระเจ้านั่นอยู่ที่ไหน และข้าจะลองไปดูว่าฆ่าพระเจ้านั่นได้ไหม”
ถ้าพระเจ้าที่กู่หว่านเอ๋อทำสัญญาเอาไว้เหมือนกับอีวิลโลตัส บางทีมันก็อาจจะมีโอกาสที่หานเซิ่นจะฆ่าพระเจ้าคนนั้นได้ และกู่หว่านเอ๋อจะเป็นอิสระอีกครั้ง
กู่หว่านเอ๋อยังคงส่ายหัวและพูด “เจ้าควรไปจากที่นี่ พระเจ้าไม่ใช่บางสิ่งที่เจ้าจะฆ่าได้ พระเจ้ามีอำนาจเหนือทุกสิ่ง”
“แต่ข้าเพิ่งจะเอาชนะมีดเทพได้ไม่ใช่หรอ การจะเอาชนะพระเจ้าไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้” หานเซิ่นพยายามจะโน้มน้าวเธอ
“นั่นมันไม่เหมือนกัน มีดเทพก็เป็นแค่มีดเล่มหนึ่ง มันเป็นแค่หนึ่งในของเล่นของพระเจ้า มันจะเทียบกับพระเจ้าได้ยังไงกัน?”
หลังจากที่พูดแบบนั้นใบหน้าของกู่หว่านเอ๋อก็ดูหวาดกลัว มันเหมือนกับว่าเธอนึกความทรงจำที่เลวร้ายขึ้นมาได้
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่ามันไม่ได้ผลถ้าเจ้ายังไม่ได้ลองทำดู? ถ้าไผ่เดียวดายรู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าแน่ใจว่าเขาจะพยายามมาพาตัวเจ้าไป” หานเซิ่นหวังที่จะใช้ไผ่เดียวดายเพื่อเปลี่ยนใจเธอ
กู่หว่านเอ๋อดูลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่หลังจากนั้นเธอก็ส่ายหัวอย่างมั่นใจ
“ขอบคุณเจ้ามาก แต่ได้โปรดอย่านำเรื่องของข้าไปบอกกับพี่ชาย เจ้าควรไปจากที่นี่ได้แล้ว มีดเทพนั้นถูกเจ้าจัดการไป ข้าแน่ใจว่าพระเจ้านั้นจะต้องรู้สึกถึงมัน ในตอนที่เขามาถึงที่นี่ มันก็จะสายเกินไปที่เจ้าจะ…”
“มันสายเกินไปแล้ว” ก่อนที่กู่หว่านเอ๋อจะพูดประโยคสุดท้ายจบ จู่ๆโทนเสียงของเธอก็เปลี่ยนราวกับเป็นคนละคน
ใบหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป เขาเห็นร่างกายของกู่หว่านเอ๋อเรืองแสงขึ้นมา ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นดวงตาที่เหมือนกับเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก
“เจ้าบุกเข้ามาในฟาร์มของข้าและทำลายมีดเทพได้สำเร็จ เจ้าเป็นบุคคลที่น่าสนใจมากๆ”
กู่หว่านเอ๋อมองหานเซิ่นด้วยความสนใจ ใบหน้าของเธอดูเหมือนกับใบหน้าของคนสูงส่งที่มองลงมาที่ตัวตลกคนหนึ่ง
หานเซิ่นมองไปที่กู่หว่านเอ๋อและถาม “เจ้าคือพระเจ้าอย่างนั้นหรอ?”
“ใช่ ข้าคือพระเจ้า” กู่หว่านเอ๋อยิ้มและพยักหน้า เธอจ้องไปที่หานเซิ่นและถาม
“ชื่อของเจ้าคืออะไร? เจ้ามาจากเผ่าพันธุ์ไหน?”
“ชื่อของข้าคือดอลลาร์ ข้าเป็นเผ่ามนุษย์” หานเซิ่นตอบ
กู่หว่านเอ๋อส่ายหัวและพูด “เจ้าไม่ใช่มนุษย์ มนุษย์ไม่เหมือนกับเจ้า เจ้าเป็นซีโน่เจเนอิค”
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนั้นไม่รู้เกี่ยวกับมนุษย์ แต่คนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าคนนี้ดูเหมือนจะรู้ถึงการมีอยู่ของมนุษยชาติ แถมเขายังรู้อีกว่าร่างกายของหานเซิ่นในตอนนี้ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นซีโน่เจเนอิค นี่ถือเป็นปัญหาสำหรับหานเซิ่น
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าไม่ใช่มนุษย์?” หานเซิ่นรีบถาม
“ถ้าข้าบอกว่าเจ้าไม่ใช่มนุษย์ แบบนั้นเจ้าก็ไม่ใช่มนุษย์”
กู่หว่านเอ๋อตอบ “มันไม่มีเหตุผลว่าทำไม”
“ชื่อของเจ้าคืออะไร?” หานเซิ่นถาม
“ข้าคือพระเจ้า” กู่หว่านเอ๋อตอบ
“พระเจ้าจะมีสมญานามของตัวเองอยู่ไม่ใช่หรอ? อย่างเช่นพระเจ้าแห่งความว่างเปล่าเป็นต้น? สมญานามของเจ้าคืออะไร?” หานเซิ่นถาม
“เจ้านี่รู้มากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าทำลายสปิริตของมีดเทพได้”
กู่หว่านเอ๋อหัวเราะและพูดต่อ “แต่ข้าไม่มีสมญานามแบบนั้น ข้าแค่เรียกข้าว่าพระเจ้า”
ก่อนที่หานเซิ่นจะพูดอะไรขึ้นมาอีก พระเจ้าก็พูดต่อ “เจ้าทำลายมีดเทพของข้า ข้าจะปล่อยเรื่องนั้นไป แต่ถ้าเจ้าต้องการจะพาตัวกู่หว่านเอ๋อไป ข้าก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าทำแบบนั้นเช่นกัน โลกใบนี้เป็นสถานที่ที่ยุติธรรม เจ้าได้รับไปมากแล้ว ดังนั้นเจ้าควรจะมอบบางสิ่งเพื่อชดเชยมันถึงจะยุติธรรม เจ้าไม่เห็นด้วยหรือยังไง?”
“ข้าไม่เห็นด้วย นี่เป็นบางสิ่งที่ข้าทำสำเร็จด้วยพลังของตัวเอง ทำไมข้าต้องยอมมอบบางสิ่งเพื่อชดเชยให้กับเจ้าด้วย?” หานเซิ่นตอบ
พระเจ้าแปลกใจ แต่หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “พูดได้ดี บางสิ่งที่เจ้าเอาไปได้ด้วยพลังของตัวเองนั้นไม่จำเป็นต้องชดเชย ข้าชอบเจ้า เอาแบบนี้เป็นยังไง? มันถือเป็นเรื่องยากที่จะหาซีโน่เจเนอิคที่น่าสนใจอย่างเจ้าได้ ดังนั้นข้าจะมอบโอกาสให้กับเจ้า พวกเรามาทำการเดิมพันกัน ถ้าเจ้าเป็นฝ่ายชนะ ไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่ต้องสูญเสียอะไร เจ้ายังจะพากู่หว่านเอ๋อไปกับเจ้าได้ด้วย”
“และถ้าข้าเป็นฝ่ายแพ้ล่ะ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
“เจ้าเป็นคนที่น่าสนใจ ดังนั้นข้าไม่อยากเห็นเจ้าตาย”
พระเจ้าพูดต่อ “เอาแบบนี้เป็นไง ถ้าเจ้าเป็นฝ่ายแพ้ เจ้าต้องอยู่ที่นี่และรับหน้าที่แทนกู่หว่านเอ๋อ เจ้าต้องคอยป้อนมีดเทพเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษ”
“นั่นไม่ยุติธรรม” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าข้าเป็นฝ่ายชนะ เจ้าไม่จำเป็นต้องมอบอะไร แต่ถ้าข้าเป็นฝ่ายแพ้ ข้าต้องมอบเวลาหนึ่งร้อยปีของข้าให้กับเจ้า ทำไมข้าต้องรับการเดิมพันที่ไม่ยุติธรรมแบบนี้ด้วย?”
“เพราะว่านี่คือการเดิมพันของข้ากับเจ้า” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม
หานเซิ่นกำลังจะตอบกลับไปว่าถึงแม้เขาจะไม่รับการเดิมพันนี้ อีกฝ่ายก็ไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร เขาก็รู้สึกตกใจว่าภายใต้สายตาของพระเจ้า มือของเขาไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง เขาจับคอของตัวเองและเริ่มจะออกแรงบีบมัน เขาบีบคอตัวเองอย่างแรงจนหายใจไม่ออก แม้จะด้วยพลังและจิตใจที่แข็งแกร่งของหานเซิ่น เขาก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้
ภายในจิตของหานเซิ่น ชุดเกราะคริสตัลสีดำนั้นพยายามเก็บซ่อนออร่าของมัน และทำเหมือนกับว่ามันไม่มีอยู่ มันไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆออกมา
ตอนที่ 2829
พระเจ้ายิ้มให้กับหานเซิ่นขณะที่ถามขึ้นว่า “ตอนนี้เจ้าจะเดิมพันกับข้าแล้วใช่ไหม?”
หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเขากำลังถูกแขวนคอ เขาไม่สามารถพูดตอบได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงพยักหน้าแทน
“ดีมาก เจ้าเลือกได้ถูกต้อง มันเป็นอะไรที่น่าสนใจยิ่งกว่าเมื่อเจ้าเดิมพันกับข้า” พระเจ้าหัวเราะ
“พวกเราจะเดิมพันกันยังไง?” หานเซิ่นพูดขณะที่ลูบคอของเขา เขารู้สึกตัวว่าพระเจ้าคนนี้ชั่วร้ายมากๆ เขาพูดอย่างเป็นกันเอง แต่เขาน่ากลัวยิ่งกว่าพระเจ้าคนอื่นที่หานเซิ่นเคยเจอ เขาทำให้หานเซิ่นรู้สึกกดดันอย่างแท้จริง และเขาก็มีสัมผัสที่อันตรายเหนือกว่าพระเจ้าคนอื่นทั้งหมด
“ก่อนหน้านี้ไม่สำคัญว่าพวกเราจะเดิมพันอะไรกัน” พระเจ้าพูด
“แต่ตอนนี้ข้าพบสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจจริงๆอย่างเจ้าเข้า นั่นทำให้ข้าอยากจะเล่นเกมส์โปรดของข้า”
“เกมส์อะไร?” การเดิมพันกับพระเจ้าคนนี้เป็นตัวเลือกเดียวของหานเซิ่น เขาไม่สามารถเอาชนะพระเจ้าคนนี้ได้ และถึงเขาจะเอาชนะพระเจ้าคนนี้ได้ พระเจ้าก็กำลังเข้ายึดครองร่างกายของกู่หว่านเอ๋อ เขาไม่สามารถเสี่ยงฆ่ากู่หว่านเอ๋อไปพร้อมๆกันได้
แถมชุดเกราะคริสตัลสีดำก็พยายามซ่อนตัวอย่างน่าประหลาด นั่นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในตอนที่เขาพบกับพระเจ้าคนอื่น ชุดเกราะคริสตัลสีดำไม่ได้มีปฏิกิริยาแบบนี้ นั่นแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าคนนี้น่ากลัวถึงขนาดไหน
แต่เดิมหานเซิ่นคิดว่าพระเจ้าอย่างราชาจุนจะไม่สามารถทำร้ายสิ่งมีชีวิตของจักรวาลโดยตรงได้ ส่วนพระเจ้าอย่างอีวิลโลตัสที่สามารถโจมตีใส่สิ่งมีชีวิตของจักรวาลได้นั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เขาสามารถใช้เทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชและขนนกฟินิกซ์เพื่อต่อสู้ได้อย่างทัดเทียมกัน
แต่พระเจ้าคนนี้แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ถึงเขาจะแค่เข้าสิงกู่หว่านเอ๋อ แต่เขาก็ยังมีพลังมหาศาล เห็นได้ชัดว่าพลังของพระเจ้าคนนี้อยู่คนละระดับกับอีวิลโลตัส
“พระเจ้าคนนี้… จะใช่พระเจ้าคนเดียวกับที่ทีมเจ็ดเจอไหมนะ?” หานเซิ่นสงสัย
“มันเป็นเกมส์ง่ายๆ พวกเราจะคาดเดาชะตากรรมของคนอื่น”
พระเจ้ามีสีหน้าที่แปลกๆ แต่มันเกิดขึ้นเพียงแค่แว๊บเดียวเท่านั้น
“คาดเดาชะตากรรม? คาดเดาชะตากรรมของใคร?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“มันจะเป็นชะตากรรมของใครกันได้ เจ้าเลือกสิ่งมีชีวิตไหนก็ได้ที่เจ้าต้องการ”
พระเจ้าพูด หลังจากนั้นเขาก็ขยับมือและเปลี่ยนแสงแห่งเทพให้กลายเป็นกระจกบานหนึ่ง ในกระจกนั้นมีเงาอยู่เป็นจำนวนมาก มันมีเงาของทุกสิ่งมีชีวิตของจักรวาลอยู่ในนั้น
“ข้าไม่เดิมพันโดยใช้คนอื่น” หานเซิ่นพูด
“ข้าจะเดิมพันโดยใช้ชะตากรรมของตัวเอง แต่เจ้าจะคาดเดามันยังไง และพวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ?”
“ในเมื่อพวกเราทำการเดิมพันกัน” พระเจ้าพูด
“พวกเราจะเดิมพันกับตัวเองไม่ได้ เจ้าต้องเลือกสิ่งมีชีวิตหนึ่ง มันจะเป็นใครก็ได้ที่เจ้ารู้จัก มันเป็นได้แม้กระทั่งครอบครัวของเจ้า พวกเราจะคาดเดาว่าเขาจะเลือกตัวเลือกไหนในตอนที่เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เจ้าเป็นคนเลือกก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นข้าเลือกผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ” หานเซิ่นพูด เขาคิดกับตัวเอง
‘ไม่ว่านายจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน นายก็คงจะควบคุมผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่ได้’
ไม่มีใครรู้ว่าพระเจ้านั้นรู้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิดอยู่หรือเปล่า แต่เขานั้นไม่ได้สนใจอะไรและพูดขึ้นว่า
“ได้เลย พวกเราจะเดิมพันกับผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ”
“พวกเราจะเดิมพันกันยังไง?” หานเซิ่นถาม
“มันไม่ใช่ว่าพวกเราจะรู้ถึงสิ่งที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกำลังทำอยู่”
พระเจ้าไม่ได้พูดอะไร เขาเดินเข้ามาหนึ่งก้าวและมายืนอยู่ต่อหน้าหานเซิ่น เขาเอื้อมมือมาจับหานเซิ่น หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่าตกลงไปในกระแสที่หมุนวนของกาลเวลา เขารู้สึกมึนหัวจนเกือบจะอ้วกออกมา
เขาเคยถูกคนอื่นพาตัวไปโดยกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นมาก่อน และตัวเขาเองก็เกือบจะสำเร็จมันเรียบร้อยแล้ว แต่มันไม่เคยแย่ขนาดนี้
ในตอนที่ทุกอย่างกลับเป็นปกติ หานเซิ่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในเอาท์เตอร์สกาย ตรงหน้าของเขาคือต้นไม้ดาราที่เขาคุ้นเคย
ต้นไม้ดารานั้นเต็มไปด้วยผลไม้ พวกมันแต่ละลูกดูเหมือนกับดวงดาวขนาดใหญ่
ชายหนุ่มเผ่าเวรี่ไฮคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้ดารา ชุดของชายคนนั้นมีสีขาวเหมือนกับหิมะ เขาดูเป็นคนที่เย็นชาและหยิ่งยโสราวกับว่าทุกคนติดเงินของเขา
“ชายคนนี้…เขาดูคุ้นๆ…” หานเซิ่นคิดว่าชายหนุ่มคนนี้ดูคุ้นมากๆ
“นี่คือผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ” พระเจ้าพูดขึ้นมา
“เจ้าโกหก ข้าเคยเป็นผู้นำเผ่าเซเคร็ดมาก่อน เขาเป็นคนแก่คนหนึ่ง”
ก่อนที่หานเซิ่นจะพูดจบ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนๆ จู่ๆเขาก็รู้ตัวว่าทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงได้ดูคุ้นๆ โครงสร้างหน้าตาและร่างกายของเขาดูเหมือนกับผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่มีผิด เพียงแต่ว่าเขาดูหนุ่มกว่าเท่านั้น ซึ่งทำให้เขาดูแตกต่างไปจากเดิม
พระเจ้ายิ้มและพูด “นั่นคือผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในตอนที่เขายังหนุ่ม พวาเรามาที่นี่ในตอนที่เขายังอายุแค่ยี่สิบปี”
“พวกเรา…พวกเราย้อนเวลามาในอดีต…” ใบหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมการเทเลพอร์ตครั้งนี้ถึงได้แตกต่างไปจากปกติ นี่มันไม่ใช่แค่การเทเลพอร์ตข้ามกาแล็กซี่ เขาเทเลพอร์ตข้ามกาลเวลามา
“มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร” พระเจ้าพูดอย่างเป็นกันเอง
“ถ้าเจ้าต้องการ ข้าพาเจ้าไปดูได้ว่าเจ้าเป็นยังไงในตอนที่เจ้ายังเด็ก”
“นั่นไม่เป็นไร” หานเซิ่นพูด “ในเมื่อเจ้าเดินทางข้ามเวลาได้ และอนาคตถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เจ้าก็คงจะรู้เรียบร้อยแล้วว่ามันจะจบลงยังไง แบบนั้นมันจะมีประโยชน์อะไรที่พวกเราจะทำการเดิมพันกันอีก?”
“ใครบอกเจ้าว่าอนาคตถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว?” พระเจ้ามองไปที่หานเซิ่น
“มันไม่จริงหรือยังไง?” หานเซิ่นถาม
“ถ้าเจ้าเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ ทำไมเจ้าไม่ไปฆ่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในปัจจุบัน ด้วยพลังที่เจ้ามีอยู่ มันคงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร แบบบนั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องย้อนอดีตมาหาผู้นำเผ่าเวรี่ไฮแบบนี้”
พระเจ้านั้นเลือกจะใช้พลังของเขาเพื่อย้อนเวลากลับมาในอดีต แทนที่จะไปพบกับผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าเขาหวาดกลัวบางสิ่ง ซิ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้หานเซิ่นพูดออกมาแบบนั้น
พระเจ้าหัวเราะและพูด “จักรวาลนี้มีกฎของมันอยู่ แม้แต่พระเจ้าก็ฝ่าฝืนมันไม่ได้ แต่ภายในกฎเหล่านั้น มันไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอนาคต อนาคตเต็มไปด้วยสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ การเดินทางมาจากอนาคตของพวกเราก็ถือเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เช่นกัน ซึ่งมันจะส่งผลกระทบและอาจจะสร้างอีกอนาคตหนึ่งขึ้นมา ดังนั้นพวกเราแน่ใจไม่ได้ว่าอนาคตข้างหน้ามันจะเป็นยังไง”
“เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าจะโน้มน้าวผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและทำให้เขาทำการตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้ว่าพระเจ้าพยายามจะบอกอะไร
“เจ้าทำแบบนั้นได้เช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นมันจะยุติธรรมได้ยังไง” พระเจ้าหัวเราะ
หานเซิ่นมองพระเจ้าอย่างจริงจังและถาม “ข้าขอถามอะไรเจ้าหน่อยได้ไหม?”
“มันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะถามอะไรข้า?” พระเจ้าตอบด้วยรอยยิ้ม
“ข้าอาจจะเป็นพระเจ้า แต่ข้าไม่ได้รู้คำตอบของทุกสิ่งทุกอย่าง”
หานเซิ่นมองไปที่พระเจ้าคนนี้อย่างจริงจัง พระเจ้าคนนี้ดูแตกต่างไปจากพระเจ้าคนอื่น
“ถ้านี่เป็นเกมส์โปรดของเจ้า เจ้าก็คงจะเคยเล่มมันมาหลายครั้งสินะ”
หานเซิ่นสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่จะถามขึ้นว่า “เจ้าเคยแพ้หรือเปล่า?”
“เคย ข้าเคยแพ้อยู่สองครั้ง” คำตอบของพระเจ้าทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ
“ใครกันที่เอาชนะเจ้าได้” หานเซิ่นพูดด้วยความแปลกใจ
“คนหนึ่งจากเซเคร็ดและอีกคนหนึ่งเป็นมนุษย์ที่มีชื่อว่าหานจิงจือ” ใบหน้าของพระเจ้าดูแปลกๆขณะที่พูด
ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินแบบนั้น หัวใจของเขาก็เต้นรัว
“หานจิงจือ…”
ตอนที่ 2830
“พวกเขาเอาชนะเจ้าได้ยังไง?”
หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา เขารู้ว่าตอนนี้ตัวเองเข้าใกล้ความจริงเบื้องหลังสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมเจ็ด พระเจ้าคนนี้คงจะเป็นพระเจ้าคนเดียวกับที่ทีมเจ็ดเจอ
“เจ้าคิดว่าข้าจะเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองอย่างนั้นหรอ?” พระเจ้าพูดพร้อมกับหัวเราะ
หานเซิ่นมองไปที่พระเจ้าอย่างแปลกๆ ถึงเขาจะเข้าสิงกู่หว่านเอ๋ออยู่ แต่พระเจ้าคนนี้ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรคนหนึ่ง เขาไม่ได้มีออร่าที่สูงส่งเหมือนอย่างราชาจุนและเทพสปิริตคนอื่นๆ เขาไม่ได้พยายามจะเสนอตัวว่าเขาเป็นเทพที่ไร้พ่ายเช่นกัน ถ้าหานเซิ่นไม่ได้รู้ว่าเขาเป็นพระเจ้าคนหนึ่ง หานเซิ่นก็จะไม่คิดว่าเขาเป็นสิ่งชีวิตที่ชอบเล่นกับชะตากรรมของคนอื่นๆ
เมื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับคนในทีมเจ็ดแล้ว หานเซิ่นก็รู้ว่าท่าทีและออร่าของเขาไม่สามารถเชื่อได้ สิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้านั้นอาจจะดูเป็นมิตร แต่ลักษณะภายนอกนั้นเป็นอะไรที่เชื่อไม่ได้ ภายในนั้นพวกเขาเป็นปีศาจที่ชั่วร้าย
ขณะที่ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ก็ลุกขึ้นมา เขามองไปยังหนึ่งในผลไม้ของต้นไม้ดารา
ตามธรรมชาติแล้ว ผลไม้ดาราแต่ละลูกนั้นยากจะเติบโตและตกลงมาบนพื้น มันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลายาวนานเกินไป แม้แต่ผู้คนที่เฝ้าต้นไม้ดาราก็คงจะไม่มีความอดทนที่จะรอนานขนาดนั้น
แต่ตอนนี้มันมีผลไม้ลูกหนึ่งที่เติบโตจนเต็มที่ตามธรรมชาติ ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในวัยหนุ่มจ้องไปที่ผลไม้ลูกนั้นด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง
แน่นอนว่าผลไม้ดาราที่เติบโตเต็มที่นั่นย่อมมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ภายใน และมันไม่ใช่แค่ขั้นพริมิทีฟหรือทรานส์มิวเทชั่น มันจะเป็นขั้นลาร์วาหรือขั้นบัตเตอร์ฟลายเป็นอย่างน้อย
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังหนุ่มมากๆ เขาเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น แต่เขาก็ถูกคำนึงว่าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในหมู่ของเวรี่ไฮ ถึงอย่างนั้นความห่างชั้นระหว่างขั้นพริมิทีฟกับขั้นลาร์วาหรือขั้นบัตเตอร์ฟลายนั้นก็ถือว่ามากเกินไป
แต่ทว่าเขาไม่มีแผนจะหนีไปหรือไปตามเวรี่ไฮคนอื่นมาช่วย เขาแค่มองไปที่ผลไม้ดาราอย่างเงียบๆด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
ผลไม้ดาราปล่อยแสงที่น่ากลัวออกมา มันเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงเต็มขีดจำกัด เมื่อเวลาผ่านไปแสงของผลไม้ดาราก็อ่อนลงไปเรื่อยๆ มันเปลี่ยนแปลกจากสีขาวไปสู่สีเหลือง จากสีเหลืองไปสู่สีแดง จากสีแดงไปสู่สีแดงคล้ำและจากสีแดงคล้ำไปสู่สีดำ ที่สุดแล้วมันก็ดูดำสนิทเหมือนกับถ่าน
“เจ้ากับข้าต้องคาดเดาว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะฆ่าซีโน่เจเนอิคได้สำเร็จหรือไม่” พระเจ้าพูด
เมื่อได้ยินแบบนั้นหานเซิ่นก็ขมวดคิ้ว นั่นเป็นคำถามที่ไม่ยาก ผลไม้ดารานั้นปลดปล่อยออร่าที่น่ากลัวมากๆออกมา มันแข็งแกร่งกว่าหานเซิ่นในตอนนี้เสียอีก
ส่วนทางด้านผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ พลังของเขาไม่เพียงพอจะต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคที่อยู่ภายในผลไม้ดาราลูกนั้น และมันไม่มีเวรี่ไฮคนอื่นอยู่ที่นี่ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสังหารซีโน่เจเนอิคตัวนั้น
จากประสบการณ์การเฝ้าต้นไม้ดาราของหานเซิ่น เขาสามารถคาดเดาได้ว่าซีโน่เจเนอิคจะหนีออกไปได้สำเร็จ และผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็จะไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดมันได้
ด้วยผลลัพธ์ที่ชัดเจนแบบนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าจะไม่รู้เรื่องนั้นเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จงใจย้อนเวลามาที่เหตุการณ์นี้ มันยากที่จะเชื่อว่าพระเจ้านั้นมองความแตกต่างระหว่างพลังของทั้งสองฝ่ายไม่ออก
‘หรือพระเจ้าจะรู้ว่าเราจะเลือกว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะฆ่าซีโน่เจเนอิคไม่ได้? แต่จริงๆแล้วเขาฆ่ามันได้สำเร็จอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิด
‘ไม่สิ พระเจ้าอาจจะพยายามหลอกให้เราคิดแบบนั้น และจริงๆแล้วซีโน่เจเนอิคหนีไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร’
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ การเดิมพันกับคนที่เป็นมืออาชีพในเรื่องการล่อหลอกผู้คนเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เขาอาจจะเดินเข้าไปติดกับดักของอีกฝ่ายโดยที่ไม่รู้ตัว
หานเซิ่นรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงรีบสงบจิตใจและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอย่างใจเย็น เขาทำการตัดสินใจจากข้อมูลทั้งหมดที่มี
“ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะฆ่าซีโน่เจเนอิคไม่สำเร็จ”
หานเซิ่นทำการตัดสินใจแบบนั้นก็เพราะว่านี่เป็นสถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด หานเซิ่นจำเป็นต้องเลือกตัวเลือกที่มีโอกาสสูงกว่า
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นข้าจะเลือกว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮสังหารซีโน่เจเนอิคได้สำเร็จ”
พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม มันไม่มีความผิดปกติอะไรปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของเขา ดังนั้นหานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองนั้นเลือกถูกต้องหรือไม่
ผลไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทระเบิดออกมาและซีโน่เจเนอิคที่อยู่ภายในก็ร่วงออกมา
ปีกผีเสื้อกึ่งโปร่งใสที่ด้านหลังของซีโน่เจเนอิคกางออกอย่างสวยงามราวดับดอกไม้ที่เบิกบาน ตรงหน้าของปีกผีเสื้อนั้นคือหญิงสาวผิวหยกที่กำลังปกปิดส่วนสำคัญของเธอด้วยแขนและมือ เธอดูขี้อาย
หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าสิ่งที่ออกมาจากผลไม้ดาราจะเป็นซีโน่เจเนอิคแบบนั้น เขาคิดกับตัวเอง ‘เป็นซีโน่เจเนอิคที่สวยงามอะไรขนาดนี้ ฉันไม่คิดว่าผู้ชายอย่างผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะโหดร้ายพอที่จะทำร้ายอะไรแบบนั้น แถมพลังของเขาก็ยังต่ำกว่าซีโน่เจเนอิคนั่น เขาไม่มีทางฆ่ามันได้’
เป็นอย่างที่หานเซิ่นคาดคิด ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮดูตกใจในตอนที่เขาเห็นซีโน่เจเนอิคที่สวยงามนั้น ใบหน้าที่เย็นชาเหมือนกับน้ำแข็งของเขาละลายเล็กน้อย
“ท่านเป็นอิจฉริยะของเวรี่ไฮ ข้านับถือท่านมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่ที่อยู่ในผลไม้ ถ้าท่านไม่รังเกียจ ข้าอยากจะขอติดตามท่าน…”
สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดนั้นเกิดขึ้น ซีโน่เจเนอิคมีสติปัญญาที่สูงมากๆ และเธอเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นเธอยังยินดีที่จะติดตามผู้นำเผ่าเวรี่ไฮที่เป็นแค่ขั้นพริมิทีฟ นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ
‘ดูเหมือนผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะไม่ฆ่าเธอแล้ว’ หานเซิ่นคิดขณะที่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาสังเกตเห็ฯว่าพระเจ้ายังคงยิ้มออกมา มันเหมือนกับว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นจนน่าตกใจ
ตอนนี้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังเป็นแค่คนหนุ่ม เขาไม่ได้มีจิตใจที่ไร้ความรู้สึกเหมือนคนที่ฝึกเวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟจนถึงขั้นสูงสุด หลังจากที่ได้พบกับผีเสื้อสาวที่งดงาม เขาก็มีความรู้สึกแปลกๆขึ้นมา
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นพัฒนาอย่างรวดเร็ว และไม่กี่วันหลังจากนั้นพวกเขาก็จูบกันราวกับคู่รักเรียบร้อยแล้ว
“ตอนนี้ข้าคิดว่าเจ้าเป็นฝ่ายแพ้แล้ว” หานเซิ่นจ้องมองพระเจ้าอยู่ตลอด เขาจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายทำลายความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว
“พรุ่งนี้ถ้าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังไม่ฆ่าผีเสื้อสาว มันก็ถือว่าข้าเป็นฝ่ายแพ้” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“โอเค” หานเซิ่นตกลง แต่เขาคิดกับตัวเอง ‘ตอนนี้พวกเขาหลงรักกัน ในเวลาเพียงแค่วันเดียวมันไม่มีทางที่พวกเขาจะกลายเป็นศัตรูและพยายามฆ่ากัน ถึงแม้พวกเขาจะต่อสู้กัน ผีเสื้อสาวก็แข็งแกร่งกว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมาก ถ้าเกิดพวกเขาต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆ มันก็คงจะจบลงด้วยความตายของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ’
เพื่อป้องกันไม่ให้พระเจ้าเล่นตุกติกอะไร หานเซิ่นจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลา เขาจะไม่ปล่อยให้พระเจ้าเข้าไปรบกวนผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว
คืนนั้นผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาวอดไม่ได้ที่จะกินผลไม้ต้องห้าม
หานเซิ่นถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ตอนนี้เมื่อมันเกิดขึ้น ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะไม่ต้องการฆ่าผีเสื้อสาวถูกไหม?”
หานเซิ่นหันไปมองพระเจ้าที่กำลังนั่งอยู่บนกิ่งของต้นไม้ เขาจับคางขณะที่มองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว มันดูเหมือนกับว่าพระเจ้าดีใจกับพวกเขาและพูด “มันเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้ผู้คนอิจฉา”
“ถ้าเจ้าคิดว่าความสัมพันธ์นี่มันดีมากๆ นั่นหมายความว่าพวกเราไม่ควรไปรบกวนพวกเขาถูกไหม? ทำไมพวกเราไม่จบการเดิมพันตรงนี้?”
หานเซิ่นจับจ้องไปที่พระเจ้า เขาไม่คิดว่าพระเจ้าจะยอมปล่อยให้ตัวเองแพ้ง่ายๆแบบนั้น มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่พระเจ้าจะทำอะไรบางอย่าง
ดวงตาของพระเจ้าดูแปลกๆเล็กน้อยขณะที่เขาพูดขึ้นมา “ไม่ นี่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเดิมพันของพวกเรา”
หลังจากนั้นพระเจ้าก็กระโดดลงจากต้นไม้และไปยืนอยู่ตรงหน้าของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว
หานเซิ่นรู้ว่าในที่สุดพระเจ้าก็จะลงมือทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงรีบเข้าไปขวางพระเจ้าเอาไว้ ไม่ว่าพระเจ้ามีแผนที่จะทำอะไร เขาก็รู้ว่าจำเป็นต้องหยุดมัน
ตอนที่ 2831
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮขมวดคิ้วเมื่อเห็นหานเซิ่นและพระเจ้า เขาถามขึ้นว่า
“พวกเจ้าเป็นใครกัน? พวกเจ้ากล้าดียังไงเข้ามาที่ต้นไม้ดาราโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ถ้านี่เป็นเผ่าพันธุ์อื่น พวกเขาจะไม่มัวเสียเวลาพูดพร่ำทำเพลงในตอนที่มีคนนอกบุกเข้ามาในสถานที่ที่สำคัญของพวกเขา พวกเขาจะทำการโจมตีในทันที ก่อนที่จะทำอะไรอย่างอื่น แต่คนของเผ่าเวรี่ไฮนั้นต่างออกไป พวกเขาไม่ได้รีบร้อนที่จะโจมตี
พระเจ้ามองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและพูด “มันไม่สำคัญว่าพวกเราเป็นใคร สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้าทรยศวิถีความรักที่ยิ่งใหญ่ของเวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟ เจ้าจมอยู่กับความรักและความสัมพันธ์ที่เล็กน้อยนี้ นั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องการจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นคิดว่าพระเจ้าจะใช้วิธีที่รุนแรงกว่านี้ เขาไม่ได้คาดคิดว่าพระเจ้าจะแค่พยายามพูดโน้มน้าวผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮสังหารผู้หญิงที่เขาตกหลุมรัก มันควรจะเป็นบางสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่หานเซิ่นก็ไม่คิดจะชะล่าใจ
หานเซิ่นจึงพยายามพูดขึ้นว่า “จะรักที่ยิ่งใหญ่หรือรักที่เล็กน้อยก็เป็นความรักเหมือนกัน ถ้าเจ้าไม่มีความรักที่เล็กน้อยก่อน เจ้าจะมีความรักที่ยิ่งใหญ่ได้ยังไง?”
“เรื่องนั้นมันเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเจ้า?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมองหานเซิ่นและพระเจ้าด้วยความแปลกใจ เขาไม่รู้ว่าทั้งสองคนมาจากที่ไหนและจู่ๆทำไมพวกเขาถึงมาพูดกับเขาเกี่ยวกับเรื่องความรัก
“แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้อง” พระเจ้าชี้ไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮขณะที่พูด
“เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าเวรี่ไฮ เจ้ามีความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้วิถีของจักรวาล พวกเจ้ามีหน้าที่รักษาสมดุลของจักรวาล ถ้าเจ้ามาจมอยู่กับความรักและความสัมพันธ์ที่เล็กน้อยนี้ ใครจะทำสิ่งที่เจ้าถูกลิขิตให้ทำ?”
ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็คิดว่าพระเจ้านั้นพูดจาไร้สาระ ถึงแม้เผ่าเวรี่ไฮจะมีสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นที่ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล แต่มันก็ไม่ได้ถึงระดับที่พระเจ้าพูดถึง คำพูดของพระเจ้าฟังดูเหมือนกับว่าเผ่าเวรี่ไฮนั้นเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีหน้าที่รักษาสันติสุขของจักรวาล มันเหมือนกับว่าถ้าไม่มีพวกเขาอยู่ จักรวาลก็จะล่มสลาย
“ข้ามีแผนของตัวเอง” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“ไม่มีความจำเป็นที่พวกเจ้าต้องมาบอกว่าข้าต้องทำอะไร”
หานเซิ่นรู้สึกว่านี่เป็นสัญญาณที่ไม่ดี โดยปกติแล้วเวรี่ไฮที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์จะไม่แสดงความรู้สึกออกมาทางสีหน้า นอกจากบางสิ่งจะสัมผัสถึงส่วนที่ลึกที่สุดในหัวใจของพวกเขา
ถึงแม้ในตอนนี้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะยังหนุ่มมากๆ และเขายังไม่ได้ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์จนถึงขั้นสูงสุด แต่เขาก็ไม่ควรจะถูกควบคุมด้วยอารมณ์แบบนี้
“ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อว่าอะไรเจ้า” พระเจ้าพูด
“ข้าแค่มาที่นี่เพื่อถามเจ้าว่าเจ้าต้องการความรักที่ยิ่งใหญ่ของสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่น หรือความรักและความสัมพันธ์ที่เล็กน้อยระหว่างชายหญิง”
“พวกมันทั้งสองไม่ได้ขัดแย้งซึ่งกันและกัน”
หานเซิ่นพูด “เจ้ามีทั้งสองอย่างพร้อมกันได้”
ใบหน้าของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮดูจะแย่ขึ้นเรื่อยๆ
“พวกเจ้าเป็นใครกัน? ถ้าพวกเจ้าไม่พูดออกมาให้ชัดเจน พวกเจ้าก็อย่ามาหาว่าข้าเสียมารยาท”
เมื่อได้ยินทั้งหมดนี้ ผีเสื้อสาวก็โกรธ “ข้าบอกได้ว่าพวกเขาทั้งคู่มีเจตนาร้าย! ให้ข้าจับตัวพวกเขามาถาม!”
หลังจากนั้นผีเสื้อสาวก็สะบัดมือ โซ่สสารมากมายที่ดูเหมือนกับวงแหวนพุ่งออกไปใส่หานเซิ่นและพระเจ้า
หานเซิ่นเทเลพอร์ตเพื่อหลบพวกมัน แต่พระเจ้าไม่เคลื่อนไหว เขาปล่อยให้วงแหวนรัดตัวเขาเอาไว้ เขาไม่ได้ดิ้นรนแม้แต่นิดเดียว และหลังจากที่วงแหวนถูกดึง พระเจ้าก็ล้มลงไปกับพื้น
แต่ถึงอย่างนั้นพระเจ้าก็มีสีหน้าที่นิ่งเฉยเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขามองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและพูด
“ด้วยสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่น เผ่าเวรี่ไฮจะเป็นอิสระ เจ้าคิดจะยอมทิ้งเรื่องนี้ไปเพื่อผีเสื้อสาวคนนี้จริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“เจ้าจะรู้อะไรเกี่ยวกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นและอิสรภาพของเผ่าเวรี่ไฮ?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมีใบหน้าที่ดูถูก
“เวรี่ไฮซูพรีมาซีและเอ็กซ์ตรีมรี่ไควเอทพาธ… ข้าไม่มีข้า ถ้าไม่มี…”
พระเจ้ากำลังพูดจาคลุมเครือเกี่ยวกับวิชาบางอย่าง หานเซิ่นคิดว่าประโยคเหล่านั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับเวรี่ไฮเซ้นส์ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เข้าใจความหมายอะไรของมัน เพราะยังไงซะเขาก็ไม่ได้ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์
“เจ้า… ทำไมเจ้าถึงรู้เรื่องทั้งหมดนี้?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมองไปที่พระเจ้าด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
“ข้าไม่ได้รู้เพียงแค่นี้” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้ารู้เกี่ยวกับขั้นสูงสุดของสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่น ถ้าเจ้าต้องการ ข้าบอกเจ้าได้”
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมองไปที่พระเจ้าและถาม “เจ้ารู้เกี่ยวกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นรู้สึกแย่ขึ้นมา เขาไม่สามารถคิดหาหนทางที่จะหยุดพระเจ้าได้ ถึงแม้เขาจะร้อนรน แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าไปปิดหูปิดตาของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้
หานเซิ่นพยายามคิดเกี่ยวกับสิ่งที่พระเจ้าพยายามจะทำ และคิดหาวิธีการที่จะหยุดแผนการของพระเจ้า พระเจ้าเริ่มพูดเพียงไม่กี่ประโยคเกี่ยวกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุด เขาก็ทำให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮหลงใหลกับมันเรียบร้อยแล้ว ในตอนที่พระเจ้ากำลังจะพูดเกี่ยวกับส่วนที่สำคัญที่สุดนั้น เขาก็หยุดไปกลางคัน
เมื่อเห็นว่าจู่ๆพระเจ้าหยุดพูดไปกลางคัน ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา “ทำไมเจ้าถึงหยุดพูด?”
“ข้ากำลังพูดเกี่ยวกับวิถีความรักที่ยิ่งใหญ่ของจักรวาล เจ้านั้นจมอยู่กับความรักและความสัมพันธ์ที่เล็กน้อย วิถีนี้ของข้าไม่เหมาะสมกับเจ้า” พระเจ้าส่ายหัวขณะที่พูด
ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าพระเจ้าพยายามจะทำอะไร แต่เขาไม่คิดว่าวิธีการของพระเจ้าจะได้ผล เขารีบคิดกับความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนที่อาจจะเกิดขึ้นและคิดหาวิธีการตอบสนองที่ดีที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่ได้พูดอะไรออกไปในทันที เขาอยากดูก่อนว่าสถานการณ์นี้จะเป็นยังไงต่อไป
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่ามันไม่เหมาะสมกับข้า ถ้าพวกเรายังไม่ได้ลองดู?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮดูโมโหเล็กน้อยขณะที่พูด
“ถ้าเจ้าต้องการวิถีนี้จริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ ฆ่านางซะ”
พระเจ้ามองไปที่ผีเสื้อสาวและพูดต่อ “ฆ่านางและข้าจะสอนขั้นสูงสุดของสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่น”
ผีเสื้อสาวโกรธ เธอบังคับให้วงแหวนรัดร่างกายของพระเจ้าแน่นขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ว่ามันจะรัดแน่นสักแค่ไหน มันก็ไม่สามารถทำร้ายร่างกายของพระเจ้าได้
หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นเงียบไป เขาคิดว่านี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี
“โอ้ ไม่นะ! ลักษณะนิสัยของเผ่าเวรี่ไฮนั้นไม่ปกติ พวกเขาฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ ดังนั้นวิธีการคิดของพวกเขาจึงแตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตธรรมดาๆ ดูเหมือนว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮต้องการให้พระเจ้าสอนสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดกับเขาจริงๆ บางทีเขาอาจจะฆ่าผีเสื้อสาวจริงๆ”
หานเซิ่นรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดโน้มน้าวผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในตอนนี้ เมื่ออีกฝ่ายตัดสินใจแล้ว หานเซิ่นก็ไม่สามารถพูดอะไรเพื่อเปลี่ยนใจเขาได้
ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้พยายามพูดโน้มน้าวผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ เขาหันไปถามพระเจ้าแทน
“นี่เจ้ารู้เกี่ยวกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดจริงๆอย่างนั้นหรอ?” นี่เป็นหนทางเดียวที่เขาจะทำให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่ถูกโน้มน้าวโดยคำพูดของพระเจ้า
“แน่นอนอยู่แล้ว ข้าไม่เคยพูดโกหก” พระเจ้าพูดอย่างเคร่งขรึม
“ข้าไม่เชื่อ เจ้าไม่ใช่คนเผ่าเวรี่ไฮ แบบนั้นเจ้าจะรู้เกี่ยวกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นของเผ่าเวรี่ไฮได้ยังไง? นอกซะจากเจ้าจะแสดงมันออกมาให้พวกเราได้เห็น ไม่อย่างนั้นข้าก็จะไม่เชื่อเจ้า”
หานเซิ่นจำเป็นต้องถ่วงเวลาพระเจ้า และทำให้แน่ใจว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะไม่ด่วนตัดสินใจ
“ทั้งสองคนนี้เป็นคนที่ชั่วร้าย ข้าจะฆ่าพวกเขา”
ผีเสื้อสาวโกรธมากๆกับสิ่งที่หานเซิ่นและพระเจ้าบอกกับพวกเขา เธอเตรียมตัวที่จะทำการโจมตี
“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน พวกเราควรดูเขาก่อน” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮดึงผีเสื้อสาวกลับมา นี่ทำให้ผีเสื้อสาวรู้สึกแปลกใจ
“นี่ท่านจะทำตามที่พวกเขาบอกอย่างนั้นหรอ? นี่ท่านจะฆ่าข้าเพื่อสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุด?” ผีเสื้อสาวมองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮอย่างขัดข้องใจขณะที่พูด
“แน่นอนว่าไม่” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮรีบพูด
“ข้าแค่อยากยืนยันว่าคนๆนี้รู้เกี่ยวกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดจริงๆหรือเปล่า หลังจากที่เขาแสดงมันออกมาแล้ว ข้าจะฆ่าพวกเขา”
ตอนที่ 2832
พระเจ้ามองไปที่หานเซิ่นและหัวเราะ “ถ้าเจ้าเองก็อยากจะรู้ ข้าก็จะสอนมันให้กับเจ้าเช่นกัน”
“นั่นขึ้นอยู่กับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดของเจ้า”
หานเซิ่นพูดอย่างสงบนิ่ง “ข้าจำเป็นต้องรู้ก่อนว่ามันคุ้มค่าที่จะเรียนรู้หรือเปล่า”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ตั้งใจฟังให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะมาโทษข้าไม่ได้ ถ้าเจ้าไม่ได้เรียนรู้อะไร”
หลังจากนั้นพระเจ้าก็เริ่มพูดเกี่ยวกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุด
นี่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ ครั้งนี้พระเจ้าอธิบายมันทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วน เขาวิเคราะห์ทุกคำในประโยชน์ให้หานเซิ่นฟัง ขณะที่พระเจ้าอธิบาย เขาไม่ได้ปกปิดมันจากผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว พวกเขาเองก็ได้ยินพวกมันทั้งหมดเช่นเดียวกัน
‘นี่พระเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่? ตอนนี้เมื่อเขาพูดเกี่ยวกับมันออกมาแล้ว ทำไมผู้นำเผ่าเวรี่ไฮถึงยังต้องฆ่าผีเสื้อสาวอีก?’ หานเซิ่นสับสน
‘หรือว่าที่จริงแล้วเขากำลังโกหกผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ? บางทีสิ่งที่เขาพูดอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่น และมันเป็นแค่วิชาจีโนที่มีพลังในการยั่วยุและควบคุมผู้นำเผ่าเวรี่ไฮให้ฆ่าผีเสื้อสาว’
หานเซิ่นพยายามตั้งใจฟังคำอธิบายของพระเจ้า และหลังจากที่ฟังไปได้สักพัก เขาก็สังเกตได้ว่ามันเป็นวิชาจีโนที่เร้นลับมากๆ มันมีความสอดคล้องกันกับเวรี่ไฮเซ้นส์ และยังสอดคล้องกับศาสตร์ตงเสวียนและวิชามีดใต้นภาที่หานเซิ่นฝึกอีกด้วย
ด้วยเหตุนั้นการฟังคำอธิบายของพระเจ้าจึงเป็นประโยชน์ต่อหานเซิ่นด้วยเช่นกัน มันเคยมีบางส่วนที่เขาไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจมันทั้งหมด
แต่หานเซิ่นยังไม่เข้าใจว่าพระเจ้ามีแผนการอะไรกันแน่ ถ้าพระเจ้าบอกสิ่งที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮต้องการจะได้ยินไปแล้ว มันจะยังมีไพ่ตายอะไรอีกที่พระเจ้าสามารถใช้ได้?
พระเจ้าลุกขึ้นมานั่งอย่างช้าๆและพูดอธิบายวิชาจีโนที่ลึกซึ้งให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด เขาทำให้มันเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใจได้ และพระเจ้าก็ไม่ได้ปกปิดอะไรเอาไว้อีกด้วย การอธิบายของเขาชัดเจนซะจนหานเซิ่นที่ไม่เคยฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์มาก่อนก็รู้ว่ามันคืออะไร
หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายทั้งหมด ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็ดูดีใจมากๆ เห็นได้ชัดว่าเขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจากคำอธิบายของพระเจ้า มันเหมือนกับว่าเขาได้แก้ไขปัญหาหลายๆอย่างที่เขาเคยมี
“วิชานี้ฟังดูธรรมดาและไม่มีอะไรพิเศษ” หานเซิ่นพูด
“เพียงแค่ข้าได้ฟังมัน ข้าก็เรียนรู้มันเรียบร้อยแล้ว”
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นเจ้าควรจะลองใช้มันดู เพื่อดูว่าเจ้าเรียนรู้มันได้จริงๆหรือเปล่า?” พระเจ้าพูด
‘วิชานี้ไม่ได้ยากอะไร เมื่อเราแสดงมันออกมา เราจะพิสูจน์ได้ว่าวิชาจีโนนี้ไม่คุ้มค่าที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะฆ่าผีเสื้อสาว แต่เดี๋ยวก่อนนะ….’
ใบหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป แทนที่จะแสดงมันออกมาตามที่พระเจ้าพูด เขามองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ และในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าพระเจ้านั้นวางแผนอะไรเอาไว้
‘เวรเอ้ย! นี่เราเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของเขาอย่างนั้นหรอ? ถ้าเราเรียนรู้สกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดได้ แต่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮทำไม่ได้ นั่นก็จะหมายความสิ่งที่พระเจ้าพูดนั้นถูกต้อง ถ้าเขาคิดว่ามันเป็นเพราะผีเสื้อสาวที่หยุดเขาจากการเรียนรู้สกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุด เขาก็คงจะ…’
หานเซิ่นรู้ตัวว่าเขาติดกับดักของพระเจ้า เขาจึงรีบคิดหาหนทางที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้
พระเจ้าดูเหมือนจะรู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไรอยู่ เขาพูดขึ้นว่า
“หัวใจของเจ้ามีความรักที่ยิ่งใหญ่ การฝึกสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร คนอื่นๆจะไม่มีวันเรียนรู้มันได้เหมือนอย่างเจ้า”
หลังจากที่พระเจ้าพูดแบบนั้น หานเซิ่นก็รู้ว่าทุกอย่างนั้นเป็นไปตามแผนของพระเจ้า
“ข้าไม่คิดแบบนั้น” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก้าวออกมาข้างหน้าและพูด
“ข้าเข้าใจสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดของเจ้า มันไม่ได้ยากอะไร”
“เจ้าเรียนรู้มันได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?” พระเจ้ายิ้มออกมาขณะที่พูด
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเบะปาก มันมีการกระเพื่อมประหลาดเกิดขึ้นมาจากร่างกายของเขา และร่างกายของเขาก็เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล หานเซิ่นไม่เคยเห็นใครที่จะรวมเป็นหนึ่งกับจักรวาลได้อย่างเป็นธรรมชาติแบบนี้มาก่อน ระหว่างหญ้า ไม้ ภูเขาและก้อนหิน มันเหมือนกับว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งกับพวกมันตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ทันใดนั้นจู่ๆผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็กระอักเลือดออกมา เขาหลุดออกจากการเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ด้วยการใช้สกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุด
ดูเหมือนผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้ เขาจ้องไปที่พระเจ้าและถาม
“ทำไมกัน? ข้าเข้าใจสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดที่เจ้าสอนเรียบร้อยแล้ว แต่ทำไมข้าถึงเข้าถึงสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดไม่ได้?”
“ข้าบอกเจ้าไปแล้ว เจ้าไม่เหมาะสมกับวิถีทางนี้” พระเจ้าพูด
“ข้าไม่เชื่อ” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเช็ดเลือดออกจากปาก
“สกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดที่เจ้าพูดจะต้องมีข้อผิดพลาด”
พระเจ้ามองไปที่หานเซิ่นและพูด “เพื่อจะดูว่ามันมีข้อผิดพลาดหรือไม่ ทำไมเจ้าไม่ลองไปถามเขาดูล่ะ?”
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮหันไปมองหานเซิ่นและพูด “แสดงสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดที่เจ้าเพิ่งจะเรียนรู้ไปให้ข้าดู”
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขารู้สึกตัวว่าตัวเองติดกับดักของพระเจ้า และตอนนี้เขาก็กลายเป็นหมากตัวหนึ่งของพระเจ้า
‘ถ้าเราไม่แสดงมันออกมาหรือพูดว่าเราไม่ได้เรียนรู้มัน ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็คงจะไม่เชื่อที่เราพูด แต่ถ้าเราแสดงมันออกมาได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร นั่นก็หมายความว่าสิ่งที่พระเจ้าพูดนั้นถูกต้อง’ หานเซิ่นคิด
‘ช่างเป็นคนที่น่ากลัวอะไรขนาดนี้ ทุกอย่างที่เขาทำเป็นอะไรที่ชัดเจน และเขาไม่ได้พยายามจะปกปิดอะไร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำให้เราติดกับดักของเขา’
พระเจ้ามองหานเซิ่นด้วยความสนใจ ดวงตาของเขาระยิบระยับด้วยแสงประหลาด มันเหมือนพระเจ้ากำลังพูดว่า “เจ้าจะเลือกทางไหน?”
“โอเค ข้าจะแสดงให้เจ้าดู” หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยักหน้า
หลังจากนั้นก็มีการกระเพื่อมเกิดขึ้นจาร่างกายของหานเซิ่น มันเหมือนกับในตอนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮใช้มัน ร่างกายทั้งร่างของเขารวมเข้ากับทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัว มันดูเหมือนกับว่าเขากลายเป็นส่วนหนึ่งกับท้องฟ้าและผืนดิน
นั่นก็คือสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเรียนรู้ไม่สำเร็จ
หานเซิ่นไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร แต่จู่ๆออร่าของเขาก็เปลี่ยนไป สสารทุกอย่างรอบๆตัวของเขาไม่ว่าจะเป็นหญ้า ไม้ ภูเขาและหิน ดูเหมือนจะได้ยินการเรียกหาของหานเซิ่น พวกมันทั้งหมดส่งเสียงร้องออกมา
แม้แต่ต้นไม้ดาราขนาดใหญ่ยักษ์ก็สั่นไหว ผลไม้ดาราทุกลูกเอนเข้ามาหาหานเซิ่น ดูเหมือนกับว่าพวกมันต้องการจะเข้าไปหาหานเซิ่น
ภูเขาทุกลูกที่อยู่รอบๆส่งเสียงก้องกังวาน ดูเหมือนกับว่าพวกมันตอบรับการเรียกของหานเซิ่น
“เขาใช้มันได้สำเร็จ?” ใบหน้าของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮดูแปลกใจ เขาจ้องมองไปที่หานเซิ่นตั้งแต่เริ่มต้น เขารู้ว่าตัวเองทำเหมือนกับที่หานเซิ่นทำทุกอย่าง แต่หานเซิ่นทำได้สำเร็จ ขณะที่เขานั้นล้มเหลว
“เขาทำแบบนั้นได้ยังไง?” ใบหน้าของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮดูแย่
ใบหน้าของพระเจ้าดูประหลาดใจ เขารู้ว่าหานเซิ่นมองทะลุแผนการของเขาเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนั้นเขาจึงคิดว่าหานเซิ่นจะพูดออกไปว่าเขาไม่ได้เรียนรู้มัน หรือไม่ก็จงใจใช้มันอย่างผิดพลาด
แต่หานเซิ่นไม่ได้ทำแบบนั้น ไม่เพียงแค่เขาจะใช้มันได้สำเร็จ เขายังตั้งใจใช้มันอย่างเต็มที่ และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ดียิ่งกว่าที่พระเจ้าคาดคิดเอาไว้ซะอีก
“นี่เขายอมแพ้แล้วอย่างนั้นหรอ? แต่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น เขาไม่ดูเหมือนกับคนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ”
พระเจ้าหลี่ตาและมองไปที่หานเซิ่น เห็นได้ชัดว่าพระเจ้าจดจ่อกับสิ่งที่หานเซิ่นจะทำต่อไป
ดวงตาของหานเซิ่นดูเย็นชาขณะที่เขาคิดกับตัวเอง ‘เราติดกับดักของพระเจ้าเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะหนีออกจากมัน หัวใจของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นตกอยู่ในความยุ่งเหยิงเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าเราจะทำอะไร มันก็จะไม่หายไป ถ้าอย่างนั้น… เราก็ต้องทำให้หัวใจของเขายุ่งเหยิงยิ่งกว่าเดิม…’
ตอนที่ 2833
“รู้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงเรียนรู้มันไม่สำเร็จ แต่ข้ากลับเรียนรู้มันได้?” หานเซิ่นมองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
“ทำไมกัน?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมองไปที่หานเซิ่นและถาม นี่เป็นคำถามที่อยู่ในใจของเขาเช่นกัน
“มันเป็นเพราะเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอ” หานเซิ่นพูด
“ข้าไม่มีคุณสมบัติพอ?” ในตอนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้ยินคำพูดของหานเซิ่น เขาก็ตัวแข็งทื่อไป
ตั้งแต่ที่เขายังเล็ก ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือผู้อาวุโสในตระกูลต่างก็ชื่นชมในความยอดเยี่ยมของเขา ไม่มีใครที่เคยพูดว่าเขาไม่มีคุณสมบัติพอ เขาไม่เคยได้ยินประโยคแบบนั้นถูกใช้พูดกับเขามาก่อน
“ใช่แล้ว” หานเซิ่นพูดด้วยความหนักแน่น
“มันเป็นเพราะเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอ นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าเรียนรู้มันไม่ได้ แต่ข้ากลับเรียนรู้มันได้อย่างง่ายดาย”
หานเซิ่นไม่ต้องการให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิดว่าที่เขาเรียนรู้สกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุดไม่สำเร็จ นั่นเป็นเพราะเขามีความรัก ซึ่งอาจจะทำให้เขาพยายามจะฆ่าผีเสื้อสาว
ผู้คนปกติอาจจะไม่ทำอะไรแบบนั้น แต่หานเซิ่นไม่แน่ใจเกี่ยวกับคนของเผ่าเวรี่ไฮ ดังนั้นหานเซิ่นไม่สามารถปล่อยให้เขาได้คิดว่าความล้มเหลวของเขาเป็นเพราะผีเสื้อสาว
หานเซิ่นจำเป็นต้องทำให้เขาเชื่อว่าที่เขาล้มเหลวนั้นเป็นเพราะความสามารถของตัวเอง ถ้าเขาเชื่อแบบนั้น เขาก็จะไม่มีเหตุผลที่ต้องฆ่าผีเสื้อสาว นั่นหมายความว่าแผนการของพระเจ้าจะล้มเหลว
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูด “ถึงแม้ข้าจะไม่คิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะที่เก่งกาจที่สุด แต่ข้าก็จะไม่อนุญาตให้ใครมาบอกว่าข้าไม่ดีพอ”
“นั่นขึ้นอยู่กับว่าเจ้าเปรียบเทียบกับใคร” หานเซิ่นพูด
“ถ้าเจ้าเปรียบเทียบกับคนหน้าโง่ข้างบ้าน มันก็ไม่สำคัญว่าผู้คนจะบอกว่าเจ้าดีสักแค่ไหน เพราะนั่นหมายความว่าเจ้าแค่ดีที่สุดในฝูงหมูเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้นข้าเป็นยังไงเมื่อเทียบกับเจ้า?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮขมวดคิ้ว
“มันบรรยายได้ในสองคำ แย่มาก” หานเซิ่นพูด เขาต้องการทำให้อีกฝ่ายเชื่อว่าจริงๆแล้วมันเป็นความผิดของตัวเขาเอง
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นยังหนุ่ม เวรี่ไฮเซ้นส์ของเขาจึงยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้เขาไม่รู้สึกอะไร ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงพยายามยั่วยุเขาและทำให้เขาต้องการจะเอาชนะ
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่ได้สนใจสิ่งที่หานเซิ่นพูด เขามองไปที่หานเซิ่นและพูด
“เจ้าแค่เรียนรู้วิชาจีโนหนึ่งเร็วกว่าข้าเท่านั้น เจ้าไม่คิดว่าตัวเองด่วนสรุปเกินไปหน่อยหรอ?”
“มันไม่ใช่แค่ข้าเรียนรู้วิชาจีโนหนึ่งเร็วกว่าเจ้า มันเป็นวิชาจีโนที่เจ้าไม่มีวันจะเรียนรู้ได้ แต่สำหรับข้ามันเป็นเรื่องง่ายๆ มันขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของแต่ละคน วิชาจีโนบางวิชาเจ้าอาจจะใช้เวลานานเป็นปีเพื่อจะฝึก แต่ข้าใช้เวลาเพียงแค่วินาทีเดียว” หานเซิ่นมองผู้นำเผ่าเวรี่ไฮด้วยความดูถูก
“ข้าคิดว่าเจ้าพูดโม้เกินไปแล้ว” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิดว่าหานเซิ่นพูดจาไร้สาระ เขาไม่เชื่อหานเซิ่น
“ถ้าเจ้าไม่เชื่อ เจ้าก็ลองเลือกวิชาจีโนสักตัวที่เจ้าคิดว่าฝึกได้ยาก เจ้าแค่ต้องแสดงมันให้ข้าดูเพียงครั้งเดียว มันไม่มีความจำเป็นที่เจ้าต้องสอนข้า ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงความแตกต่างระหว่างอัจฉริยะที่แท้จริงกับสามัญชน” หานเซิ่นพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่หานเซิ่นบอกกับเขา เขาพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“เอางั้นก็ได้ ข้าเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าเจ้าจะอัจฉริยะขนาดไหนกันเชียว”
พระเจ้ามองทั้งสองคนด้วยความสนใจ เขาไม่ได้เข้าไปหยุดหานเซิ่นและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจากการโต้เถียงกัน
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิดอยู่สักพัก ที่สุดแล้วเขาก็ยื่นมือออกมาข้างหน้า ลูกบอลแสงสีรุ้งเบลอๆปรากฏขึ้นในมือของเขา เขามองไปที่หานเซิ่นและพูด
“นี่คือวิชาจีโนที่มีชื่อว่าเซเว่นไลท์ มันเป็นวิชาจีโนสำหรับมือใหม่ นี่ข้าจำเป็นต้องสอนมันให้กับเจ้าไหม?”
“ไม่ต้อง” หานเซิ่นมองไปที่ลูกบอลแสงเบลอๆและใช้ศาสตร์ตงเสวียน ฟันเฟืองจักรวาลนับไม่ถ้วนหมุนในดวงตาของหานเซิ่น
“มันเป็นแค่วิชาจีโนสำหรับมือใหม่จริงๆ” หานเซิ่นพูดด้วยสีหน้าดูถูก
“มันเป็นอะไรที่ง่ายเกินไป ทำไมเจ้าไม่เปลี่ยนไปใช้วิชาที่มันยากกว่านี้?”
“เจ้าควรจะเรียนรู้วิชานี้ให้ได้ซะก่อน” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูด
“มันไม่สายเกินไปที่จะเรียนวิชาอื่นที่ยากกว่าในภายหลัง”
ถึงแม้มันจะเป็นวิชาจีโนสำหรับมือใหม่ แต่วิชาจีโนเซเว่นไลท์ก็ถือเป็นวิชาที่ยากจะฝึก แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายหรือขั้นทรูก็อตบางคนก็ไม่สามารถใช้มันได้
ที่วิชาจีโนเซเว่นไลท์ฝึกได้ยากนั้นเป็นเพราะว่ามันจำเป็นต้องใช้เจ็ดพลังที่แตกต่างกันเพื่อรวมกันเป็นหนึ่งเดียว สิ่งมีชีวิตธรรมดาไม่มีพลังธาตุถึงเจ็ดอย่าง แม้แต่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตที่มีพลังธาตุที่แตกต่างกันหลายอย่างก็ไม่สามารถใช้เซเว่นไลท์ได้
ถึงแม้จะในจักรวาลที่ใหญ่โตนี้ สิ่งมีชีวิตที่มีพลังธาตุถึงสองธาตุก็ถือว่าหาได้ยากแล้ว สามธาตุนั้นหาได้ยากยิ่งกว่าขนนกฟินิกซ์หรือเกล็ดของกิเลน เจ็ดธาตุเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่นั้นไม่เคยได้ยินมาก่อน
เผ่าเวรี่ไฮนั้นมีวิชาพิเศษที่ช่วยในการฝึกเซเว่นไลท์ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีพลังธาตุถึงเจ็ดธาตุจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เปลี่ยนวิชาได้เลย” หานเซิ่นยกมือขึ้นมาแสดงลูกบอลแสงสีรุ้งเบลอๆในมือของเขา มันเหมือนกับเซเว่นไลท์ของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮตกใจ เขาจ้องมองไปที่ลูกบอลแสงของหานเซิ่น เขาอยากจะรู้ว่าเซเว่นไลท์ของหานเซิ่นนั้นเป็นของจริงหรือเปล่า เพราะยอดฝีมือบางคนนั้นเก่งเรื่องการตบตาคนอื่นด้วยภาพมายา
หานเซิ่นรู้ว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกำลังคิดอะไร เขาจึงปล่อยเซเว่นไลท์ไปใส่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ และนั่นทำให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเองก็ปล่อยเซเว่นไลท์ในมือออกมาเช่นกัน
ตูม!
เซเล่นไลท์ของทั้งสองฝ่ายปะทะกันในอากาศ และระเบิดออกมาเป็นวงแหวนสีรุ้งที่สว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์ มันสว่างซะจนไม่มีใครมองเห็นได้ชั่วครู่ มันใช้เวลาสักพักก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ
“มันเป็นเซเว่นไลท์จริงๆ” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมีสีหน้าที่ซับซ้อน
เขาจำได้ว่าในตอนที่เขายังเล็ก เขาใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เพื่อฝึกเซเว่นไลท์ เขาได้ทำลายสถิติของเผ่าเวรี่ไฮ
แต่ตอนนี้ผู้ชายตรงหน้าของเขาแค่มองดูมันเพียงแค่ครั้งเดียว เขาไม่จำเป็นต้องอ่านตำราหรือใช้เวลาฝึกฝนแม้แต่นิดเดียว ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่สามารถทำใจให้เชื่อในเรื่องนี้ได้
‘บางทีเขาอาจจะเคยเรียนรู้เซเว่นไลท์มาก่อนแล้ว’
นั่นคือสิ่งที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิด เขาพูดกับหานเซิ่น “ถ้าเจ้าคิดว่าเซเว่นไลท์นั้นง่ายเกินไป ข้าจะเสนอบางสิ่งที่ยากกว่า”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าพยายามจะบอกเจ้าเมื่อครู่นี้” หานเซิ่นยิ้มให้กับเขา
มันไม่สำคัญว่าผู้นำเวรี่ไฮจะเสนอวิชาจีโนอะไรให้กับหานเซิ่น เพราะตราบใดที่เขาแสดงมันออกมาให้หานเซิ่นดู หานเซิ่นก็สามารถวิเคราะห์และจำลองมันด้วยศาสตร์ตงเสวียน
ในตอนนี้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แต่หานเซิ่นเป็นขั้นลาร์วา การจำลองวิชาของอีกฝ่ายจึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเย็นอะไร ถึงแม้มันจะไม่ได้เหมือนหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การจะจำลองให้เหมือนราวแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์นั้นเป็นเรื่องง่ายๆ
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคิดกับตัวเอง ‘คนสองคนนี้แปลกมากๆ ไม่รู้ว่าพวกเขามาจากที่ไหนกันแน่ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้เกี่ยวกับเผ่าเวรี่ไฮเป็นอย่างดี ถ้าเราเลือกใช้วิชาจีโนของเผ่าเวรี่ไฮ เขาก็อาจจะเคยเรียนรู้มันมาก่อน’
ทันใดนั้นดวงตาของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็เป็นประกายขึ้นมา เขาหันไปหาผีเสื้อสาวและพูด
“เจ้าช่วยแสดงวิชาเงาผีเสื้อของเจ้าให้เขาดูหน่อยได้ไหม”
วิชาจีโนเงาผีเสื้อมีเพียงแค่ผีเสื้อสาวเท่านั้นที่รู้ มันไม่มีวิชาจีโนอื่นที่คล้ายคลึงกับมันในเผ่าเวรี่ไฮ ดังนั้นเขาไม่คิดว่าหานเซิ่นจะเคยเรียนรู้มันมาก่อน
ผีเสื้อสาวทำตามที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮบอก เธอใช้วิชาเงาผีเสื้อและผีเสื้อจำนวนมากก็บินออกมาจากร่างกายของเธอจนเต็มท้องฟ้า พวกมันเป็นเหมือนกับกลีดดอกไม้นับไม่ถ้วน
“เจ้าอยากให้นางช่วยสอนเจ้าเกี่ยวกับวิชาเงาผีเสื้อไหม…”
ก่อนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะพูดจบ หานเซิ่นก็สะบัดมือและปล่อยผีเสื้อออกมาเต็มท้องฟ้าเหมือนกันกับวิชาเงาผีเสื้อของผีเสื้อสาว
“นั่นเป็นไปได้ยังไง?” ทั้งผีเสื้อสาวและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮรู้สึกตกใจ มันเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้
ตอนที่ 2834
“โชคดีที่นี่เป็นผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในวัยหนุ่ม ถ้านี่เป็นผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในสมัยปัจจุบันล่ะก็ มันก็คงจะไม่ง่ายแบบนี้ที่จะหลอกเขา” หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจ
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจ้องไปที่หานเซิ่นและถาม “เจ้าเรียนรู้วิชาจีโนผ่านการมองจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“ไม่ใช่ซะทีเดียว” หานเซิ่นพูด “วิชาจีโนที่ยากบางวิชานั้น ข้าก็จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อศึกษา แต่วิชาจีโนง่ายๆพวกนั้นข้าเรียนรู้ได้ในทันที”
“ง่ายๆ?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่เข้าใจถึงคำว่าง่ายของหานเซิ่น
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมีสีหน้าแปลกๆขณะที่เขาถามขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้น วิชาจีโนที่ยากสำหรับเจ้าคือวิชาอะไร?”
“วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ของเผ่าเวรี่ไฮ นั่นเป็นวิชาจีโนที่ยากมากๆ” หานเซิ่นพูด
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น อย่างน้อยเผ่าเวรี่ไฮก็มีวิชาจีโนหนึ่งที่ได้รับความยำเกรงจากชายคนนี้
แต่หลังจากนั้นหานเซิ่นก็พูดเสริมอีกประโยค “แต่ถ้าข้าจะต้องเรียนรู้มันจริงๆ ข้าก็ฝึกมันได้ในสิบถึงสิบห้าวัน”
หลังจากที่หานเซิ่นพูดแบบนั้น ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็ห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ เขาถามขึ้นว่า
“เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเจ้าจะเรียนรู้วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ได้ในเวลาแค่สิบถึงสิบห้าวันน่ะ?”
“ข้าคิดว่าแบบนั้น จะยังไงก็ตามมันก็ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งเดือน” หานเซิ่นมองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮด้วยความดูถูก
“ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาลองดูกัน ข้ามีตำราของเวรี่ไฮเซ้นส์ติดตัวอยู่ ข้าจะอ่านวิชาจีโนหนึ่งภายในนั้นให้เจ้าฟัง ถ้าเจ้าฝึกมันได้สำเร็จในหนึ่งเดือน เจ้าจะทำอะไรกับข้าก็ได้” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮโกรธ
“เอาสิ นั่นฟังดูเป็นข้อตกลงที่ดี” หานเซิ่นตอบตกลง
สำหรับหานเซิ่นแล้ว วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์เป็นบางสิ่งที่เขาจำลองได้เพียงแค่สามสิบถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น วิชาจีโนชั้นสูงแบบนั้นเป็นอะไรที่จำลองได้ยากมากๆ การเรียนรู้วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ในหนึ่งเดือนนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
นั่นจึงเป็นการเดิมพันที่หานเซิ่นจะเป็นฝ่ายแพ้ แต่เขาไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะชนะหรือแพ้การเดิมพันนั้น เขาแค่ต้องทำให้แน่ใจว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะไม่ฆ่าผีเสื้อสาวจนกว่ามันจะผ่านไปหนึ่งเดือน นั่นหมายความว่าหานเซิ่นจะชนะการเดิมพันกับพระเจ้า นั่นคือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนำเอาตำราวิชาจีโนหนึ่งออกมาและเริ่มอ่านให้หานเซิ่นฟัง
มันคือวิชาจีโนที่มาจากเวรี่ไฮเซ้นส์ มันจำเป็นต้องใช้เวรี่ไฮเซ้นส์เป็นฐาน ไม่อย่างนั้นผู้ฝึกก็จะไม่สามารถเรียนรู้มันได้
หานเซิ่นไม่มีแผนที่จะเรียนรู้มัน เขาแค่จำเป็นต้องถ่วงเวลาผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ เพื่อทำให้เขาไม่ไปฆ่าผีเสื้อสาวจนกระทั่งผ่านวันนี้ไป
พระเจ้าสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความสนใจ หลังจากที่หานเซิ่นและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮทำการตกลงกัน พระเจ้าก็ยิ้มและพูด
“ความสามารถในการพลิกสถานการณ์ของเจ้านั้นเป็นอะไรที่ชาญฉลาดมากๆ ถ้านี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยเห็นมัน เจ้าก็อาจจะเป็นฝ่ายชนะ แต่น่าเสียดายที่เคยมีใครบางคนพยายามจะใช้วิธีการแบบเดียวกันมาก่อน ข้าจะไม่พ่ายแพ้ให้กับวิธีการเดิมเป็นครั้งที่สอง”
“ใครกันที่เป็นคนใช้วิธีนี้ในครั้งก่อน? มันคือหานจิงจืออย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้
“ไม่ใช่หานจิงจือ เขาเป็นคนจากเซเคร็ด เขาเหมือนกับเจ้า ข้าคิดว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายชนะแล้ว เพราะข้าไล่ต้อนเขาไปอยู่ในสถานการณ์ที่จนมุม แต่เขาพลิกสถานการณ์กลับมาได้เหมือนกับที่เจ้าทำ เขาปล่อยให้ข้าทำตามแผนการของตัวเอง โดยการทำแบบนั้นเขาก็พลิกสถานการณ์กลับมาได้สำเร็จ”
ดูเหมือนกับว่าพระเจ้ากำลังพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น รอยยิ้มเล็กปรากฏบนใบหน้าของเขา ก่อนที่เขาจะพูดต่อไปว่า “แต่เจ้านั้นโชคร้าย เจ้าไม่ได้เป็นคนแรกที่ใช้วิธีแบบนี้กับข้า ด้วยเหตุนั้นเจ้าจะเป็นฝ่ายแพ้”
“ผลลัพธ์ยังคงไม่ออกมา เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าจะเป็นฝ่ายแพ้?” หลังจากที่พูดอย่างนั้นหานเซิ่นรู้สึกหนาวขึ้นมา
“เจ้าพูดถูก ผลลัพธ์ยังไม่ออกมา ข้าไม่ควรด่วนสรุปว่าเจ้าจะเป็นฝ่ายแพ้” พระเจ้าพยักหน้า มันฟังดูเหมือนกับว่าเขารู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาเพิ่งจะพูดออกไป
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแกล้งทำเป็นว่าเขากำลังศึกษาวิชาจีโนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมอบให้กับเขา เขาอยากรู้ว่าพระเจ้าจะใช้วิธีการแบบไหนเพื่อพลิกสกานการณ์ในตอนนี้
หานเซิ่นไม่รู้ว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะฆ่าผีเสื้อสาวหรือเปล่า แต่ความเป็นไปได้ที่เขาจะฆ่าเธอในเวลาที่เหลืออีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้นค่อนข้างต่ำ
พระเจ้าไม่ได้ทำอะไรพิเศษเพื่อยั่วยุหรือล่อลวงผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ พระเจ้านั้นเพียงแค่เริ่มพูดเกี่ยวกับเวรี่ไฮเซ้นส์
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮฟังมันอยู่สักพัก และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่โกรธ “เจ้าขโมยเวรี่ไฮเซ้นส์ของเผ่าข้ามาจากที่ไหน?”
“ยังไงเจ้าก็จะฆ่าข้าอยู่แล้ว มันสำคัญด้วยหรอว่าข้าขโมยมันมาจากที่ไหน? ข้าถามคำถามอยู่ และข้าหวังว่าเจ้าจะตอบมัน”
ก่อนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะตอบ พระเจ้าก็พูดต่อ “ในตำราของเวรี่ไฮเซ้นส์มันมีประโยคที่อ่านได้ว่า ‘ลืมตัวเองและกลายเป็นทุกคน’ นั่นมันหมายความว่าอะไร?”
“นี่เป็นความลับของเผ่าข้า” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูด “ข้าจะบอกเจ้าในเรื่องนั้นได้ยังไง?”
พระเจ้าไม่สนใจและพูดต่อ “จากที่ข้าเข้าใจ คำว่าลืมตัวเองนั้นไม่ได้หมายความว่าลืมตัวเองจริงๆ มันเหมือนกับการเป็นผู้ให้และผู้รับ ในตอนที่ได้รับผลประโยชน์ก็ยอมใช้ผลประโยชน์ของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ปฏิบัติกับผู้อื่นด้วยห่วงใย แบบนั้นแน่นอนว่าพวกเขาจะปฏิบัติกับเจ้าเสมือนเป็นคนในครอบครัวเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่มันมีคำกล่าวอย่าง ‘ลืมตัวเองและกลายเป็นทุกคน’”
“ไม่ใช่ ถ้าอีกฝ่ายมาใกล้ชิดเพียงเพราะผลประโยชน์ ถึงแม้พวกเขาจะปฏิบัติกับเจ้าเหมือนครอบครัว มันก็ถือว่าไม่นับ…” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคัดค้าน
“อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะอธิบายประโยคนี้ยังไง?”
พระเจ้าไม่ได้พูดเกี่ยวกับผีเสื้อสาว เขาแค่พูดเกี่ยวกับเวรี่ไฮเซ้นส์กับผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
ในตอนแรกพระเจ้าบอกว่าเขาต้องการจะถามคำถาม แต่ดูเหมือนว่าเขาตั้งคำถามขึ้นมาเพื่อให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคัดค้านซะมากกว่า ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกัน ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็ได้รับแรงบันดาลใจหลายอย่าง มันมีหลายสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เขาสามารถเข้าใจมันได้ทั้งหมด จิตใจของเขาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
หานเซิ่นรู้สึกแย่กับเรื่องนั้น เขาค้นพบแผนการที่จะถ่วงเวลาผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ แต่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็เกิดแรงบันดาลใจขึ้นโดยคำถามของพระเจ้า และทำให้เวรี่ไฮเซ้นส์ของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขาเข้าใจโลกใบนี้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ยิ่งเขาฉลาดมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ดูเหมือนมนุษย์น้อยลงไปเท่านั้น ตอนนี้มันยากที่จะรับประกันว่าเขาจะไม่ฆ่าผีเสื้อสาว
หานเซิ่นไม่ได้เข้าใจถึงความหมายของเวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟ แต่ทุกคนรู้ดีว่าคนของเวรี่ไฮที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์นั้นจะไม่รักอะไร พวกเขาสามารถทอดทิ้งได้แม้แต่ร่างกายของตัวเองเพื่อรวมเป็นหนึ่งกับจักรวาล มันจะมีอะไรที่พวกเขาทอดทิ้งไม่ได้?
ขณะที่พูดกับพระเจ้า ใบหน้าของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็ดูเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเขาดูใจเย็นมากขึ้นกว่าเดิมจนหานเซิ่นเริ่มจะรู้สึกกังวล
‘เราจะทำยังไงดี?’ หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ยังไง คำพูดของพระเจ้านั้นเป็นไปตามกฎบางอย่าง และมันทำให้หานเซิ่นรู้สึกว่าเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน มันเหมือนกับการพายเรือทวนกระแสน้ำ มันไม่มีอะไรที่เป็นไปได้สวย
หานเซิ่นเข้าใจว่านั่นเป็นเพราะพระเจ้าสามารถควบคุมกฎของโลกและหัวใจของผู้คน การเผชิญหน้ากับพระเจ้าตรงๆนั้นเป็นไปไม่ได้
หานเซิ่นหันไปมองที่ผีเสื้อสาว เขาคิดกับตัวเอง ‘ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็คงจะต้องใช้ดาบเพื่อกอบกู้สถานการณ์’
ตอนที่ 2835
พระเจ้าดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เขาจึงพูดขึ้นว่า
“มันไม่มีประโยชน์ ทุกสสารนั้นมีธรรมชาติของมันอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่ละทิ้งธรรมชาติของตัวมันเอง มันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมาย แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็จะมักจะกลับไปหาธรรมชาติของมัน”
หานเซิ่นเข้าใจว่าพระเจ้ากำลังจะบอกอะไร เขาจะบอกว่าแต่เดิมแล้ว ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเป็นคนไร้ความรู้สึก และไม่สำคัญว่าหานเซิ่นจะทำอะไร เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้
“รู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นไฟ เป็นลมหรือเป็นน้ำน่ะ?”
หานเซิ่นไม่เห็นด้วยกับที่พระเจ้าพูด เขาหันสายตาไปมองพระเจ้าและสังเกตเห็นผู้นำเผ่าเวรี่ไฮที่นั่งอยู่ข้างๆ ร่างกายของเขาปลดปล่อยการกระเพื่อมออกมา ราวกับว่าทั้งร่างกายของเขาเชื่อมต่อกับท้องฟ้าและผืนดิน เขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับพวกมัน
ไม่สิมันไม่ควรจะพูดว่าเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับพวกมัน มันเหมือนกับว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องจักรขนาดใหญ่มากกว่า มันทำให้ออร่าของเขาดูเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตสติปัญญาสูงที่มีความรู้สึกที่อ่อนไหวอีกต่อไป เขากลายเป็นเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก
น่าประหลาดใจที่พระเจ้านั้นไม่ได้โต้แย้งสิ่งที่หานเซิ่นพูด เขาพูดบางสิ่งที่คลุมเครือแทน “ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาเป็นไฟ เป็นลมหรือเป็นน้ำกันแน่”
หานเซิ่นไม่เข้าใจว่าพระเจ้าหมายความว่าอะไร แต่ดูเหมือนว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะเข้าใจเขา จิตเวรี่ไฮเซ้นส์ของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มันแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และตอนนี้จิตใจของเขาก็เกือบจะแข็งแกร่งเท่าระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายแล้วในตอนนี้
แต่ถึงจิตใจของเขาจะแข็งแกร่งขึ้น ร่างกายของเขาก็ยังเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ถึงแม้เวรี่ไฮเซ้นส์ของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะพัฒนาขึ้นจนถึงระดับของเวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟ เขาก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าผีเสื้อสาว แถมเขาก็ยังเอาชนะผีเสื้อสาวที่เป็นระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายไม่ได้อยู่ดี’
ถึงแม้หานเซิ่นจะมีวิธีที่จะจบการเดิมพันนี้ในทันที แต่การที่พระเจ้าอยู่ใกล้ๆ มันก็เป็นอะไรที่ยากจะใช้วิธีการนั้น
“มันไม่สำคัญอีกต่อไปว่าเจ้าจะใช้ความคิดมากขนาดไหน ทำไมเจ้าไม่ลองเดิมพันกับดวงของตัวเอง และรอดูว่าเขาจะเป็นไฟ เป็นลมหรือเป็นน้ำ?” พระเจ้ายิ้มให้กับหานเซิ่นขณะที่เขาพูด
“อย่างน้อยๆเจ้าบอกข้าได้ไหมว่าตอนจบเดิมเป็นยังไง?” หานเซิ่นถาม
“ถ้าเขาเลือกความรักและความสัมพันธ์ที่เล็กน้อย เขาจะได้กลายเป็นผู้นำเผ่าเวรี่ไฮอย่างนั้น? เจ้าควรรู้ในเรื่องนั้น” พระเจ้าพูด
หานเซิ่นพยักหน้า ความจริงเขาก็คาดเอาไว้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขายังคงคิดว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่ควรจะฆ่าผีเสื้อสาวได้เร็วขนาดนั้น แต่ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ตอนนี้เขาจำเป็นต้องเดิมพันกับดวงของตัวเอง
“ไม่ เราจะเดิมพันกับดวงไม่ได้ การใช้ดวงในการเดิมพันกับพระเจ้า ถึงแม้เราจะเดิมพันสักหมื่นครั้ง เราก็จะไม่ชนะเลยสักครั้ง เราจำเป็นต้องคิดแผนการที่จะรับประกันชัยชนะของเรา”
หานเซิ่นพยายามใช้สมอง แต่เขาไม่สามารถคิดแผนการอะไรขึ้นมาได้ในเวลาอันสั้น
ด้วยการที่พระเจ้าอยู่ใกล้ๆ การใช้กำลังนั้นไม่ได้ผล แต่ในเรื่องการควบคุมคนอื่นด้วยคำพูด เขาก็ไม่ได้เก่งเหมือนอย่างพระเจ้า มันเป็นอะไรที่ยากเกินไปสำหรับเขาที่จะเอาชนะพระเจ้าด้วยวิธีนั้น
“ตอนนี้บอกข้าได้ไหมว่าหานจิงจือเอาชนะเจ้าได้ยังไง?” จู่ๆหานเซิ่นก็ถามขึ้นมา
พระเจ้าเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ “เขาไม่ได้ทำอะไร เขาแค่เลือกได้ถูกต้อง ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายชนะ”
“เจ้าจะบอกว่าเขาเอาชนะการเดิมพันด้วยการใช้ดวงอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นไม่เชื่อในเรื่องนั้น
พระเจ้าพยักหน้าและพูด “มันเป็นแบบนั้นจริงๆ”
หานเซิ่นไม่เชื่อว่านั่นคือวิธีการที่หานจิงจือใช้ เขาคิดว่าพระเจ้าอาจจะพูดออกมาแบบนั้นก็เพื่อหลอกให้เขาเดิมพันด้วยการใช้ดวงของตัวเอง
“ในตอนนั้นพวกเจ้าเดิมพันอะไรกัน? มันเป็นการคาดเดาชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตเหมือนกันอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม เขาพยายามจะล้วงเอาข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด
“ใช่แล้ว แต่มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว พวกเราเดิมพันกันสิบเอ็ดครั้ง” พระเจ้าตอบ
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว “สิบเอ็ดครั้ง? จำนวนนั้นใกล้เคียงกับจำนวนคนในทีมเจ็ด นั่นหมายความว่า…”
หานเซิ่นพยายามกลั้นความตื่นเต้นในหัวใจ เขายิ้มและพูด
“พวกเจ้าเดิมพันกันหลายครั้ง? ถ้าข้ารู้แบบนั้น ข้าก็คงจะเลือกเดิมพันหลายๆครั้งบ้าง แบบนั้นข้าจะมีโอกาสที่ชนะมากขึ้น”
พระเจ้าส่ายหัวและพูด “พวกเราเดิมพันกันสิบเอ็ดครั้ง ถ้าเขาแพ้แม้แต่ครั้งเดียว เขาจะกลายเป็นทาสของข้า แต่เขาไม่แพ้เลยสักครั้ง”
“หานจิงจือชนะสิบเอ็ดครั้งติดต่อกัน? พวกเจ้าเดิมพันอะไรกัน? ทำไมเขาถึงชนะได้ง่ายๆแบบนั้น?” หานเซิ่นถามด้วยความแปลกใจ
หานเซิ่นไม่สามารถจินตนาการได้ว่าหานจิงจือเอาชนะพระเจ้าได้ถึงสิบเอ็ดครั้งติดต่อกัน ขณะที่ตัวเขานั้นแค่จะเอาชนะพระเจ้าสักครั้งก็ลำบากแล้ว
“พวกเราเดิมพันกันว่ามนุษย์ทั้งสิบเอ็ดคนจะทำการอธิษฐานกับข้าหรือไม่ เขาบอกว่ามนุษย์สิบคนจะทำการอธิษฐานและหนึ่งคนจะไม่ทำการอธิษฐาน เขานั้นถูกต้อง มีเพียงแค่มนุษย์ที่เขาเลือกที่ไม่ทำการอธิษฐานกับข้า”
พระเจ้าพูด มันดูเหมือนกับว่าพระเจ้านั้นไม่ได้รู้สึกอับอายที่พ่ายแพ้การเดิมพัน
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว “มันต้องใช่แน่ๆ พวกเขาต้องเป็นคนจากทีมที่เจ็ด มนุษย์คนเดียวที่ไม่ได้ทำการอธิษฐานนั้นคือกู่ชิงเฉิง”
แต่หานเซิ่นยังไม่รู้ว่าหานจิงจือสามารถคาดเดาได้ยังไงว่าคนไหนที่จะทำการอธิษฐานและคนไหนที่ไม่ทำการอธิษฐาน
ตามหลักแล้วถ้าหานจิงจือเดาว่ามนุษย์คนไหนที่ทำการอธิษฐาน พระเจ้าก็จะพยายามไม่ไปยั่วยุพวกเขา ส่วนคนที่หานจิงจือคิดว่าจะไม่ทำการอธิษฐาน พระเจ้าก็จะต้องพยายามที่จะล่อลวงคนๆนั้น
ในสถานการณ์แบบนั้นหานจิงจือยังสามารถคาดเดาได้ถูกต้องทั้งหมด นั่นเป็นอะไรที่แปลกเกินไป
หานเซิ่นจำได้ว่าคนของตระกูลหนิงเคยบอกว่าหานจิงจือบอกให้เขาไม่ทำการอธิษฐาน แต่สุดท้ายลุงสองก็ทำการอธิษฐานออกไป หานจืงจือสามารถคาดเดาเรื่องนั้นได้ยังไง?
ขณะที่หานเซิ่นพูดกับพระเจ้า ดวงตาของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็เปิดขึ้นมา ครั้งนี้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ถึงแม้หน้าตาและร่างกายของเขาจะไม่มีความเปลี่ยนแปลง และพลังของเขาก็ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น แต่ออร่าของเขาดูต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง มันทำให้เขาดูเหมือนคนอื่น
ทุกการเคลื่อนไหวของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮทำให้หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ มันเหมือนกับว่าเขาเคยเห็นออร่านี่ที่ไหนมาก่อน ทันใดนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตกใจ
“ออร่านี้… ทำไมมันเหมือนกับคนที่คนที่อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้า… นอกจากพระเจ้าคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเราแล้ว… เขายังดูเหมือนพระเจ้าที่เรียกตัวเองว่าราชาจุน”
หานเซิ่นพยายามตรวจเช็คผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ออร่าของเขาดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้ามากๆ แต่มันยังคงมีความแตกต่างอยู่เล็กน้อย
“ถ้าเวรี่ไฮเซ้นส์ถูกฝึกจนสำเร็จ ผู้ฝึกจะกลายเป็นเหมือนกับเหล่าคนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นคาดเดาในหัว “นั่นจะต้องถูกต้อง ยอดฝีมือของแต่ละเผ่าพันธุ์ที่เข้าไปในจีโนฮอลล์นั้นจะกลายเป็นเหมือนกับเหล่าพระเจ้า”
ขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็มองมาที่เขาและพูด
“การเดิมพันระหว่างพวกเราจบเพียงแค่นี้ ถือซะว่าข้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้”
เมื่อหานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็รู้ว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮหลุดพ้นจากอุปสรรคในจิตใจเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่พูดแบบนั้นผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็เดินเข้าไปหาผีเสื้อสาว
ตอนที่ 2836
หานเซิ่นรู้สึกแย่ ‘ในตอนนี้จิตใจของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮถึงขั้นเวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟแล้ว ถ้าเขาต้องการจะสำเร็จสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุด เขาก็จำเป็นต้องตัดขาดจากความรักและความสัมพันธ์ของเขากับผีเสื้อสาว? นี่เขาจะลงมือฆ่าผีเสื้อสาวจริงๆหรอเนี่ย?’
หานเซิ่นรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอะไรที่คับขัน แต่เขาไม่มีหนทางที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ ด้วยการที่พระเจ้ายังอยู่ที่นี่ เขาไม่สามารถหยุดผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้
‘นี่เราจะต้องกลายทาสเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษจริงๆสินะ?’
สมองของหานเซิ่นทำงานอย่างเต็มที่ เขาหวังว่าจะสามารถคิดหาทางออกได้
ผีเสื้อสาวเห็นว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นดูผิดปกติ เธอมองไปที่เขาอย่างโศกเศร้าและพูด
“ท่านจะฆ่าข้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
ผู้นำเวรี่ไฮส่ายหัว “ข้าเรียนรู้ความลับของเวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟเรียบร้อยแล้ว การไหลเวียนของการเวลา ความโปรดปราน ความบาดหมางและความรักไม่เพียงพอที่จะทิ้งรอยเอาไว้ในหัวของข้า จากนี้เป็นต้นไปมันไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าและข้าอีก พวกเราเป็นแค่คนแปลกหน้ากัน เจ้าไปซะ ท้องฟ้ากว้างไกล แผ่นดินกว้างใหญ่ เจ้าจะได้พบสถานที่สำหรับเจ้าภายในเอาท์เตอร์สกาย”
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขาคิดว่าตัวเองประเมินผู้นำเผ่าเวรี่ไฮต่ำเกินไป หลังจากที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮตรัสรู้ เขาก็เข้าใจถึงความลับของเวรี่ไฮเซ้นส์อย่างลึกซึ้งกว่าที่หานเซิ่นสันนิษฐานเอาไว้ ตอนนี้เขาปล่อยวางทุกอย่างจริงๆ แม้แต่ผีเสื้อสาวก็ไม่สามารถฉุดรั้งเขาเอาไว้ได้
‘นี่เราดวงดีขนาดนั้นเลย? นี่เราเพิ่งจะชนะการเดิมพันอย่างนั้นหรอเนี่ย?’ หานเซิ่นไม่อยากเชื่อเลยว่าพระเจ้าจะปล่อยให้เขาชนะการเดิมพันง่ายๆแบบนั้น เขาหันไปมองพระเจ้า
เขาเห็นว่าพระเจ้ายังคงมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความสนใจ เขาไม่ได้เข้าไปหยุดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น มันเหมือนกับว่าเรื่องทั้งหมดนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา และเขามาที่นี่เพียงเพื่อจะมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น
หานเซิ่นทดสอบเขาด้วยการถามขึ้นว่า “เจ้าจะไม่โน้มน้าวเขาอย่างนั้นหรอ?”
“ไม่ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ข้าแค่หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้นจะไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวัง”
พระเจ้าพูดกับหานเซิ่น แต่เขายังคงจับจ้องไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว พระเจ้าดูเหมือนกับคนหนุ่มสาวที่กำลังอินขณะที่มองดูฉากเศร้าของละคร
หานเซิ่นเห็นว่าพระเจ้าไม่มีแผนจะทำอะไรจริงๆ ถึงแม้เขาจะคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาว เขาพยายามจะหาว่าทำไมพระเจ้าถึงได้ดูมั่นใจนัก
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นไม่ต้องการฆ่าผีเสื้อสาว เขาปฏิบัติกับผีเสื้อสาวราวกับเป็นคนแปลกหน้าหนึ่ง เขาพูดสิ่งที่ต้องการจะพูดและเตรียมตัวที่จะจากไป
แต่ทันใดนั้นผีเสื้อสาวก็ยิ้มและหัวเราะด้วยเสียงแหลมๆจนหานเซิ่นรู้สึกแสบแก้วหู ขนบนผิวของเขาลุกขึ้นมา
ผีเสื้อสาวกางปีกและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า โซ่สสสารบนร่างกายของเธอกลายเป็นเงาผีเสื้อนับไม่ถ้วน พวกมันห้อมล้อมเธอเอาไว้ มันเหมือนกับว่าผีเสื้อแห่งความตายกำลังเข้ามาหาพวกเขาจากยมโลก
“ท่านจะจากไปทั้งๆอย่างนี้เนี่ยนะ?” ผีเสื้อสาวหยุดยิ้มและจ้องไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮด้วยสายตาที่น่ากลัว
“เจ้าควรเรียนรู้การปล่อยวาง” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูดอย่างเย็นชา ดูเหมือนกับว่าหัวใจของเขาไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจอีกต่อไปแล้ว ไม่สำคัญว่าผีเสื้อสาวจะพูดยังไง เธอก็ไม่สามารถทำให้เขารู้สึกอะไรได้
ผีเสื้อสาวชี้ไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและพูด “ท่านพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ! ท่านเคยคิดถึงข้าบ้างไหม? ผีเสื้ออย่างข้ารักคนๆหนึ่งไปชั่วชีวิต ถ้าข้าถูกทอดทิ้งโดยคู่รักของข้า ข้าก็จะต้องตายไปอย่างโดดเดี่ยว ถ้าท่านทิ้งข้าไปแบบนี้ มันจะแตกต่างอะไรจากการที่ท่านฆ่าข้า?”
ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจว่าทำไมพระเจ้าถึงได้มั่นใจนัก เป้าหมายของพระเจ้าตั้งแต่แรกนั้นไม่ใช่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ แต่เป็นผีเสื้อสาว หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับกระบวนการทุกอย่างที่เกิดขึ้นและการที่ผีเสื้อสาวถูกต้อนจนถึงจุดๆนี้ เขาก็รู้สึกตัวว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของพระเจ้า
“ดูเหมือนว่าเรายังฝึกฝนไม่เพียงพอ เราติดกับดักของพระเจ้าตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เราไม่เคยหนีพ้นจากกับดักของเขา” หานเซิ่นรู้ว่าในครั้งนี้เขาจะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้
แต่ผีเสื้อสาวยังคงมีชีวิตอยู่ มันยังมีโอกาสที่เขาจะพลิกสถานการณ์ได้ ถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่ยาก แต่โอกาสก็คือโอกาส
“ขอโทษด้วย” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูด
การขอโทษของเขาทำให้ผีเสื้อสาวโกรธยิ่งกว่าเดิม ผีเสื้อสาวถามขึ้นมา
“ถ้ายังไงข้าก็ต้องตาย ทำไมข้าถึงต้องตายตามลำพัง? ข้าควรให้ท่านตายไปกับข้าด้วย มาดูสิว่าท่านจะทอดทิ้งข้าไปได้จริงๆไหม”
ใบหน้าของผีเสื้อสาวดูเหมือนกับคนบ้า เงาผีเสื้อของเธอเป็นเหมือนกับเงาของยมทูตที่ตรงเข้าไปหาผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
ผีเสื้อสาวเป็นระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายที่ทรงพลัง ถึงแม้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะเข้าใจถึงความลับของเวรี่ไฮเซ้นส์ พลังของเขาก็ยังเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟอยู่ดี เขาไม่สามารถต่อกรกับผีเสื้อสาวที่เป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายได้ ร่างกายของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้รับรอยตัดมากมาย พวกมันถูกทำขึ้นโดยเงาผีเสื้อ เลือดไหลออกมาจากบาดแผลของเขา
“ถ้าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮถูกฆ่าตาย นั่นก็หมายความว่าเจ้าเป็นฝ่ายแพ้ใช่ไหม?” หานเซิ่นถามพระเจ้า
“ใช่” พระเจ้าพยักหน้าและยังคงมองไปที่การต่อสู้ของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกับผีเสื้อสาวด้วยความสนใจ
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะไม่เข้าไปช่วยเขาอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นถาม เขาอยากรู้ว่าอะไรกันแน่ที่อยู่ในการคำนวณของพระเจ้า
“ไม่มีความจำเป็น ความเป็นและความตายควรจะปล่อยให้มันเป็นไป ข้าได้ทำในส่วนของข้าเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่จะเกิดขั้นต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับพวกเขา” พระเจ้าพูด
หานเซิ่นหันกลับไปมองการต่อสู้และคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะเอาชนะผีเสื้อสาวได้ยังไง
แต่ไม่ว่าหานเซิ่นจะมองยังไง ผีเสื้อสาวก็เหนือกว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่มีโอกาสที่จะชนะ
พลังของผีเสื้อสาวนั้นเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ เธอไม่เหมือนกับซีโน่เจเนอิคธรรมดาทั่วไป พลังของเธอเป็นการรวมกันระหว่างธาตุความตายและธาตุอารมณ์ แถมวิชาจีโนของเธอยังเป็นอะไรที่แปลกมากๆอีกด้วย ถ้าหานเซิ่นต้องต่อสู้กับเธอ เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะฆ่าเธอได้
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังอายุเพียงแค่ยี่สิบปีและเพิ่งเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟเท่านั้น เขาไม่สามารถฆ่าผีเสื้อสาวได้ เขาอาจจะถูกผีเสื้อสาวฆ่าซะเอง
ร่างกายของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเต็มไปด้วยบาดแผลที่เกิดจากเงาผีเสื้อ ถึงแม้เขาจะใช้เวรี่ไฮเซ้นส์อย่างเต็มที่ เขาก็ไม่สามารถป้องกันพลังของผีเสื้อสาวได้
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพยายามจะเทเลพอร์ต แต่ในระหว่างการเทเลพอร์ต ร่างกายของเขาก็ถูกโจมตีโดยเงาผีเสื้อ และทำให้เขาหลุดออกมาจากการเทเลพอร์ต
เงาผีเสื้อนั้นปรากฏออกมาและหายไปเหมือนกับผีเสื้อแห่งความตายที่เก็บเกี่ยวชีวิต พวกมันล้อมผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเอาไว้และตัดร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
ปัง!
ร่างกายของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกระแทกกับลำต้นของต้นไม้ดารา เขากระอักเลือดออกมาจากปาก เลือดไหลออกมาทั่วร่างกายของเขาและย้อมชุดเกราะของเขาเป็นสีแดง
เขาล้มลงไปในท่านั่งและเอนหลังพิงกับต้นไม้ดารา ดูเหมือนกับว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกำลังจะตาย
“ท่านยังมีโอกาสรอดชีวิต ถ้าท่านกลับมาหาข้าตอนนี้ ข้าจะไว้ชีวิตท่าน”
ผีเสื้อสาวเข้ามาอยู่ตรงหน้าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ เงาผีเสื้อแห่งความตายนั้นห้อมล้อมตัวของเธอเอาไว้ พวกมันก่อตัวเป็นเหมือนเส้นทางที่จะนำไปสู่ยมโลก ถ้าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูดปฏิเสธ มันก็ดูเหมือนว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะถูกส่งไปในยมโลกทันที
“ข้าบอกเจ้าไปเรียบร้อยแล้วว่าตอนนี้เจ้าและข้าเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้ากัน” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูดขณะที่เช็ดเลือดออกจากปาก เขาพูดขณะที่ยังคงนั่งหลังพิงต้นไม้ดารา
“ถ้าอย่างนั้นท่านและข้าก็ควรจะตายไปด้วยกัน” ผีเสื้อสาวพูดและผีเสื้อแห่งความตายนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าหาผู้นำเผ่าเวรี่ไฮที่ไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้ว
ตอนที่ 2837
ผีเสื้อแห่งความตายนับไม่ถ้วนที่อยู่เต็มท้องฟ้านั้นเป็นเหมือนกับแม่น้ำจากยมโลกที่ไหลไปท่วมผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ พวกมันลอกเนื้อหนังของเขา แม้แต่ร่างกายระดับเทพเจ้าของเขาก็ไม่สามารถทนต่อพลังของเงาผีเสื้อได้ ในเวลาชั่วครู่โครงกระดูกก็เผยออกมาให้เห็นทั่วร่างของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
แต่หานเซิ่นไม่ได้ดีใจกับเรื่องนี้ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นเกินไป พระเจ้านั้นวางแผนการทุกอย่างเอาไว้ และเขาคงจะไม่พ่ายแพ้ด้วยผลลัพธ์ที่ออกมาง่ายๆแบบนี้
เลือดของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮย้อมพื้นดินรอบๆเป็นสีแดง แต่ในจังหวะที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกำลังจะกลายเป็นกองกระดูก จู่ๆผีเสื้อสาวก็กระอักเลือดออกมา ดูเหมือนกับว่าเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก และตอนนี้เงาผีเสื้อที่อยู่เต็มท้องฟ้าก็หายไปแล้ว
หานเซิ่นไม่ได้ประหลาดใจ เขาจ้องมองไปที่ผีเสื้อสาวอย่างเงียบๆ เขาอยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ผีเสื้อสาวดูเหมือนจะประสบกับความเจ็บปวดที่แสนสาหัส เธอสร้างเงาผีเสื้อขึ้นมาเพื่อตัดร่างกายของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ แต่ทุกครั้งที่เงาผีเสื้อตัดร่างของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ผีเสื้อสาวเองก็มีเลือดไหลออกมาด้วยเช่นกัน เธอได้รับความเสียหายไม่น้อยไปกว่าที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้รับ
ร่างกายของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเกือบจะกลายเป็นโครงกระดูกที่ไม่มีเนื้อหนังหลงเหลืออยู่ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป เขามองไปที่ผีเสื้อสาวและพูด
“เจ้าเป็นผีเสื้อที่มีความรัก ผีเสื้อจะตกหลุมรักเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต พันธสัญญานั้นผูกมัดเจ้ากับข้าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเราจะอยู่และตายไปด้วยกัน การทำร้ายข้านั้นหมายความว่าเจ้าทำร้ายตัวเองไปด้วยเช่นกัน ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้?”
“เป็นอย่างที่ข้าพูด ถ้าท่านจะทอดทิ้งข้า พวกเราก็ไปลงนรกกันทั้งคู่!”
ผีเสื้อสาวพูดอย่างโศกเศร้า สีหน้าของเธอดูแน่วแน่อย่างประหลาด ราวกับว่ามันไม่มีหนทางอื่นให้เธอเลือกอีกแล้ว
เงาผีเสื้อหลายตัวบินเข้าไปหาผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ พวกมันเฉือนร่างกายที่เหลืออยู่ของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ยิ่งเวลาผ่านไปเลือดก็กระอักออกมาจากปากของผีเสื้อสาวอย่างควบคุมไม่ได้ เธอดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ มันดูเหมือนกับว่าอาการบาดเจ็บของเธอไม่ได้น้อยไปกว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเลย
“ผีเสื้อตัวหนึ่งจะมีความสัมพันธ์เดียวตลอดชีวิตอย่างนั้นหรอ? ข้าไม่รู้ว่าควรจะเศร้าหรือชื่นชมในความซื่อสัตย์และความแน่วแน่ของคนที่ผูกพันกับบางสิ่งเป็นเวลายาวนาน”
พระเจ้ารู้สึกอินมากๆกับการมองดูคนรักฆ่ากันเอง เขาถอนหายใจและพูด “นี่มันเศร้ายิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น”
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘นายเป็นคนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นไม่ใช่หรือยังไง?’
ดูเหมือนพระเจ้าจะรู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไร เขาพูดอย่างจริงจัง
“นี่คือการตัดสินใจของพวกเขา ข้าแค่มอบตัวเลือกให้กับพวกเขาเท่านั้น พวกเขาเลือกตอนจบที่ดีกว่านี้ได้ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาเลือกเส้นทางที่เศร้ามากที่สุด”
“แต่เพราะแบบนั้นชีวิตจึงกลายเป็นอะไรที่มีความหมายมากขึ้น ชีวิตที่ปราศจากความรักและความเกลียดชังนั้นเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากๆ” พระเจ้ายังคงถอนหายใจ
“นั่นก็เป็นแค่สิ่งที่เจ้าคิด” หานเซิ่นพูด
“ข้าแน่ใจว่าผู้คนส่วนใหญ่แค่ต้องการชีวิตที่ปลอดภัยและสงบสุข พวกเขาไม่ได้ต้องการความรักและความเกลียดชังอย่างที่เจ้าบอก”
พระเจ้าหันมามองหานเซิ่นและถาม “มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆอย่างนั้นหรอ? ถ้ามันเป็นอย่างที่เจ้าบอก เจ้าก็แค่ต้องหาดวงดาวที่ห่างไกลสักดวง ด้วยพลังของเจ้า เจ้าควรจะมีชีวิตที่ปลอดภัยและสงบสุข ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ทำไมเจ้าถึงต้องเดินทางไปทั่วและประสบกับอันตรายต่างๆด้วย?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหานเซิ่นก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เขาไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไง
“ชีวิตนั้นสวยงามก็เพราะความโลภ ความรักและความเกลียดชังเป็นดอกไม้ที่งดงามที่สุดในต้นไม้แห่งความโลภ ที่เจ้าได้เห็นในตอนนี้ก็คือดอกไม้ของความโศกเศร้าที่กำลังจะเบิกบานในเร็วๆนี้ นั่นเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ เจ้าควรจะชื่นชมมัน”
พระเจ้าหันความสนใจกลับไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาวที่กำลังฆ่ากัน ใบหน้าของพระเจ้าดูจริงจัง มันเหมือนกับว่าเขากำลังดูตอบจบของภาพยนตร์ที่แสนเศร้า
หานเซิ่นไม่มีเวลามัวมาสนใจพระเจ้า ไม่อย่างนั้นสุดท้ายเขาก็คงจะได้เห็นน้ำตาไหลของพระเจ้า พระเจ้านั้นดูจะอินกับโศกนาฏกรรมที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า
‘เราจะทำยังไงดี? ผีเสื้อสาวและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกำลังจะตายไปพร้อมๆกัน ผีเสื้อสาวนั้นจะถูกฆ่าตายเพราะผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ซึ่งนั่นจะถือว่าเราเป็นฝ่ายแพ้…’ หานเซิ่นพยายามใช้ความคิดเพื่อหาทางหยุดผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผีเสื้อสาวจากการตายไปด้วยกัน
แต่เมื่อดูจากใบหน้าของผีเสื้อสาวแล้ว เธอดูแน่วแน่ที่จะฆ่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ เธอยอมทิ้งชีวิตของตัวเอง หานเซิ่นไม่รู้วิธีที่จะหยุดเธอ
เมื่อถึงจุดนี้หานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจอะไรมากอีกต่อไป ร่างกายของเขาปล่อยแสงแห่งเทพออกมา เขาจะเข้าไปหยุดผีเสื้อสาวเอาไว้ เขาไม่สามารถปล่อยให้เธอตายไปพร้อมกับผู้นำเผ่าเวรี่ไฮได้
หานเซิ่นใช้พลังทั้งหมดเพื่อเทเลพอร์ตเข้าไปหยุดเธอ แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายถูกจำกัดด้วยพลังบางอย่างที่มองไม่เห็น แม้แต่การจะก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวก็กลายเป็นเรื่องยากแล้ว
“นั่นคือเวทีของพวกเขา ผู้ชมอย่างพวกเราควรนั่งดูอยู่เฉยๆ มันเป็นโศกนาฏกรรมที่สวยงามดังงานศิลปะ เจ้าไม่ควรไปทำลายมัน” พระเจ้าพูดขึ้นมา
ถึงแม้หานเซิ่นจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เขาเข้าไปแทรกแซง แต่เขาก็ยังคงรู้ศึกเศร้าอยู่ดี
เมื่อเห็นสภาพของผีเสื้อสาวและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮที่บาดเจ็บหนัก หานเซิ่นก็รู้ว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะต้องตาย ดังนั้นถึงหานเซิ่นจะเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาตะโกนขึ้นว่า
“ผีเสื้อสาว! มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะเกลียดหรือรักเขา แต่ในเมื่อเขาปฏิบัติกับเจ้าแบบนี้ เจ้าไม่คิดว่าการฆ่าเขาเป็นอะไรที่อ่อนโยนเกินไปหน่อยหรอ?”
แต่ผีเสื้อสาวดูเหมือนจะเป็นบ้าไปแล้ว นอกจากผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ ดูเหมือนกับว่าเธอมองไม่เห็นหรือไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
หานเซิ่นจึงรีบตะโกนต่อไปว่า “เจ้าดูเขาในตอนนี้! เจ้าคิดว่าเขาจะเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปไหม? เขาไม่ได้รู้ถึงความเจ็บปวดของเจ้า เขาไม่รู้ว่าความเจ็บปวดของเจ้าเป็นอะไรที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย ถ้าเจ้าฆ่าเขาในตอนนี้ มันก็หมายความว่าเจ้าปล่อยเขาเป็นอิสระ เจ้าต้องการแบบนั้นจริงๆหรอ?”
ผีเสื้อสาวหยุดมือ ใบหน้าที่ดูเศร้าโศกและซีดเซียวของเธอค่อยๆหันมาหาหานเซิ่น เธอจ้องไปที่หานเซิ่นและถาม
“ข้าจะทำให้เขาเจ็บปวดเหมือนอย่างข้าได้ยังไง?”
เมื่อหานเซิ่นเห็นว่าผีเสื้อสาวหันมาตอบเขา เขาก็รู้สึกดีใจอย่างมาก แต่เขาไม่ได้รีบตอบเธอกลับไปในทันที เขาหยุดคิดอยู่ชั่วครู่และพูด
“ในหัวใจเจ้า เขาคือคนที่เจ้ารักมากที่สุด ความเจ็บปวดของการถูกเอาของที่รักไปนั้นคือสิ่งที่เจ้ากำลังรู้สึกในตอนนี้ เจ้าต้องทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดแบบเดียวกัน แบบนั้นมันถึงจะสาสม”
“แต่ข้าไม่มีความหมายอะไรกับเขาอีกแล้ว ข้าจะทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ยังไง?” ผีเสื้อสาวพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความอาฆาต
“เนื่องจากเจ้าไม่มีความหมายอะไรกับเขาอีกแล้ว แบบนั้นถึงเจ้าจะตายไป มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับเขา เจ้าต้องเอาบางสิ่งที่เขารักมากที่สุดไปจากเขา มีเพียงแค่วิธีนั้นเขาถึงจะรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับเจ้า” หานเซิ่นพยายามจะล่อลวงเธอ
ดวงตาของผีเสื้อสาวเป็นประกาย เธอจ้องไปที่หานเซิ่นขณะที่ถามขึ้นว่า
“เจ้ารู้ไหมว่าอะไรที่เขารักมากที่สุด?”
“ข้ารู้” หานเซิ่นพูด “แน่นอนว่าข้ารู้ สิ่งที่เขารักมากที่สุดก็คือสิ่งที่เอาเขาไปจากเจ้าไม่ใช่หรอ?”
“เจ้าหมายถึงอะไร?” ผีเสื้อสาวไม่เข้าใจที่หานเซิ่นพูด
“เขาทอดทิ้งเจ้าก็เพราะสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขั้นสูงสุด ถ้าเจ้าตัดเส้นทางที่เขาต้องการจะก้าวไป นั่นจะไม่ทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกฆ่าตายหรอกหรอ?” หานเซิ่นพูด
ผีเสื้อสาวกัดฟันขณะที่ถามขึ้นว่า “การฆ่าเขาไม่ได้เป็นการตัดเส้นทางนั่นหรือยังไง?”
“ไม่ ไม่ ถ้าเจ้าฆ่าเขา เขาจะไม่รู้สึกอะไร” หานเซิ่นพูด
“เจ้าจำเป็นต้องรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ เขาต้องรู้สึกสิ้นหวังเหมือนกับที่เจ้ารู้สึกในตอนนี้ นั่นเป็นหนทางเดียวที่เขาจะรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับเจ้า”
ดวงตาของผีเสื้อสาวเป็นประกายขณะที่ถามขึ้นว่า “ข้าจะทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังและเจ็บปวดได้ยังไง?”
ตอนที่ 2838
หานเซิ่นเห็นว่าในที่สุดคำพูดของเขาก็ส่งไปถึงผีเสื้อสาว เขาหันไปมองพระเจ้าที่อยู่ข้างๆและเห็นว่าพระเจ้าแค่นั่งดูอยู่เฉยๆราวกับเป็นผู้ชมที่ดี เขาไม่ได้เข้ามาห้ามอะไรหานเซิ่น
หานเซิ่นหายใจเข้าลึกและพูด “การตัดเส้นทางของเขาไม่ใช่เรื่องยากอะไร เจ้าแค่ต้องทำลายวิชาจีโนของเขา แต่เจ้าต้องรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ แต่ตลอดทั้งชีวิตของเขาอย่าได้ปล่อยให้เขาได้ฝึกวิชาอีก ให้เขาอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย ข้าแน่ใจว่าแบบนั้นเขาจะประสบความเจ็บปวดที่แสนสาหัสแบบเดียวกันกับที่เจ้าต้องประสบ และเจ้าจะเพลิดเพลินกับความเจ็บปวดที่เขารู้สึกทุกวันๆ นั่นจะไม่ดีกว่าการฆ่าเขาหรอกหรอ?”
หานเซิ่นรู้ว่าไอเดียนี้ที่เขาคิดขึ้นมานั้นเป็นอะไรที่ชั่วร้ายมากๆ แต่ในสถานการณ์ที่คับขันแบบนี้ เขาไม่ได้สนใจอะไรในเรื่องนั้นมากนัก การปล่อยให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮถูกทรมานนั้นดีกว่าการปล่อยให้ตัวเองต้องกลายเป็นทาสเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี
ในตอนที่ผีเสื้อสาวได้ยินหานเซิ่น ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย เธอหัวเราะเหมือนกับคนบ้าและหันไปมองผู้นำเผ่าเวรี่ไฮด้วยรอยยิ้ม
“ดีมาก… ข้าอยากจะเห็นท่านประสบกับความเจ็บปวดแบบเดียวกันกับข้า… ข้าต้องการให้ท่านถูกทรมานโดยความสั้นหวังทุกๆวัน…”
ผีเสื้อสาวมาอยู่ตรงหน้าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ เธอจับเขาที่ตอนนี้ดูเหมือนโครงกระดูกขึ้นมาโดยไม่ได้สนใจความจริงที่ว่าเขามีเลือดไหลออกมาทั่วตัว เธออุ้มเขาเอาไว้ในอ้อมแขนราวกับทารกและกระพือปีกบินออกไปสู่ภูเขา
“ดูเหมือนว่าแผนการของเจ้าจะล้มเหลว” หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ พระเจ้านั้นไม่ได้พยายามจะหยุดผีเสื้อสาวเลย
“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น เจ้าเป็นฝ่ายชนะ” พระเจ้าพูดออกมาอย่างคาดไม่ถึง
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขามองไปที่พระเจ้าอยู่สักพัก การเดิมพันนั้นยังคงไม่จบ พระเจ้ายังสามารถพลิกสถานการณ์กลับไปได้อีก แต่พระเจ้ายังคงไม่เคลื่อนไหว
หานเซิ่นมองไปที่พระเจ้าขณะที่ถามขึ้นว่า “เจ้าจะไม่ลองดูอย่างนั้นหรอ? มันยังมีเวลาเหลือ”
แน่นอนว่าเขาไม่ได้พยายามจะชักจูงพระเจ้า เขาแค่กังวลว่าพระเจ้าจะมีแผนการอื่นซ่อนอยู่อีก เขาไม่ต้องการให้สถานการณ์ถูกพลิกผันไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว
พระเจ้ายิ้ม “ไม่มีความจำเป็น ข้าอยากเห็นว่ามันจะจบยังไง แต่มันมีเวลาเหลืออยู่ไม่พอ ดังนั้นพวกเรามาจบการเดิมพันเพียงเท่านี้ เจ้าชนะการเดิมพัน”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้ายอมมอบกู่หว่านเอ๋อให้กับข้าแล้วใช่ไหม?” หานเซิ่นถาม
“แน่นอน แต่เจ้ากลับไปก่อน ข้าต้องการจะอยู่ที่นี่และดูต่อจนจบตามลำพัง”
พระเจ้าสะบัดมือ และหานเซิ่นก็รู้สึกว่าท้องฟ้าและผืนดินเริ่มหมุน เขาประสบกับการเทเลพอร์ตที่เจ็บปวดอีกครั้งหนึ่ง
ในตอนที่ร่างกายของหานเซิ่นกลับเป็นปกติ เขาก็รู้สึกตัวว่าตัวเองกลับมาอยู่ที่ฟาร์มของพระเจ้า
“พระเจ้านั่นแปลกคนจริงๆ เขายินดีจะแพ้การเดิมพัน เพียงเพราะเขาต้องการจะดูตอนจบ แต่นั่นถือเป็นเรื่องดี ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่รู้ว่าเราจะชนะการเดิมพันได้หรือเปล่า” ถึงแม้หานเซิ่นจะชนะการเดิมพัน แต่ความกดดันจากพระเจ้าที่เขารู้สึกนั้นก็ไม่ได้ลดลงไป
ในอดีตตอนที่เขาเผชิญหน้ากับราชาจุน พระเจ้าแห่งความว่างเปล่าและเทพสปิริตที่น่ากลัวคนอื่น หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกกดดันแบบนี้ แต่พระเจ้าประหลาดคนนั้นกลับทำให้เขากดดันอย่างมาก
นั่นไม่ใช่เพราะว่าพลังของพระเจ้าแข็งแกร่งกว่าของเขา มันเป็นความกดดันทางจิตใจที่มองไม่เห็น มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนที่สิ่งมีชีวิตสัมผัสได้ถึงอันตรายโดยจิตใต้สำนึก
มันมีแค่พระเจ้าคนนั้นเท่านั้นที่ทำให้หานเซิ่นรู้สึกแบบนี้ได้
หานเซิ่นคิดว่าอาจจะต้องรอคอยเป็นเวลานาน แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง พระเจ้าก็กลับมาหาหานเซิ่นด้วยน้ำตา
“เร็วขนาดนั้นเลย? นี่ผีเสื้อสาวเกิดเป็นบ้าและฆ่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นแปลกใจ
พระเจ้าดูเหมือนจะรู้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด “ข้าแค่เร่งเวลาให้เร็วขึ้นเพื่อจะดูพวกเขาต่อจนจบ เจ้ายังคงเป็นฝ่ายชนะการเดิมพัน”
“มันจบลงยังไง?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้
“เจ้าจะไม่ชอบมัน” พระเจ้าพูดเพียงสั้นๆ เขาไม่ได้บอกหานเซิ่นถึงตอนจบของเรื่องราวระหว่างผีเสื้อสาวและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
หานเซิ่นหันไปมองพระเจ้าที่ยังคงสิงร่างกายของกู่หว่านเอ๋อและถาม
“ตอนนี้เจ้าจะมอบกู่หว่านเอ๋อให้ข้าได้หรือยัง?”
“ได้เลย” พระเจ้าพูดพร้อมกับพยักหน้า “เจ้าอยากไปที่ไหน? พวกเรารีบไปกันเถอะ!”
“นั่นหมายความว่ายังไง? เจ้าจะผิดสัญญาที่ให้เอาไว้อย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว ถ้าพระเจ้าไม่ทำตามข้อตกลง หานเซิ่นก็ไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้
“ข้าแค่สัญญาว่าจะมอบกู่หว่านเอ๋อให้กับเจ้า แต่ข้าไม่เคยบอกว่าข้าจะออกจากร่างของนาง” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม
ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็อึ้งไป เขารู้ว่าในด้านการเล่นคำนั้นเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพระเจ้า ดังนั้นไม่ว่าเขาจะพูดอะไร มันก็ไร้ประโยชน์ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงหยุดพูดและคิดกับตัวเอง
‘การพาตัวกู่หว่านเอ๋อกลับไปโดยที่มีพระเจ้าสิงอยู่นั้นเลวร้ายยิ่งกว่าการไม่พาตัวเธอกลับไปซะอีก มันมีแต่จะทำให้ไผ่เดียวดายโศกเศร้ายิ่งกว่าเดิม’
พระเจ้าดูเหมือนจะรู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไร
“ข้ามีแผนที่จะเดินทางท่องจักรวาล เอาแบบนี้เป็นไง? เจ้าเป็นไกด์พาข้าทัวร์ หลังจากผ่านไปครึ่งปี ข้าจะมอบกู่หว่านเอ๋อที่สมบูรณ์ให้กับเจ้า”
ใบหน้าของหานเซิ่นไม่ได้ดีขึ้นหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น การเดินทางกับพระเจ้าคนนี้เป็นเวลาถึงครึ่งปีนั้นถือว่าเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ
“แน่นอนว่าข้าจะปล่อยนางไป แต่นั่นจะถือว่าเจ้ายอมปล่อยกู่หว่านเอ๋อไปเอง มันจะไม่ถือว่าข้าผิดสัญญา” พระเจ้าพูด
หานเซิ่นกัดฟัน “เอางั้นก็ได้ แต่ในเวลาครึ่งปีนี้ เจ้าห้ามทำการเดิมพันกับข้า และเจ้าห้ามบอกให้ข้าทำการอธิษฐานเช่นกัน”
“ได้เลย” พระเจ้าพยักหน้าโดยไม่เสียเวลาคิด
หานเซิ่นมองไปที่พระเจ้าด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน เขารู้ว่าพระเจ้าคนนี้อันตรายมากๆ แต่นี่เป็นหนทางเดียวที่จะช่วยกู่หว่านเอ๋อ ด้วยพลังที่น่ากลัวของพระเจ้า นอกซะจากเขามีพลังพอที่จะบุกเข้าไปในจีโนฮอลล์ มันก็ไม่มีหนทางอื่นที่เขาจะเอาตัวกู่หว่านเอ๋อมาได้
การที่เขาชนะการเดิมพันครั้งนี้ได้นั้นถือว่าโชคดีมากๆแล้ว ถ้าพวกเขาเดิมพันกันอีกครั้ง หานเซิ่นก็ไม่รู้ว่าเขาจะชนะได้อีกครั้งหรือเปล่า
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง “หานจิงจือเอาชนะเขาถึงสิบเอ็ดครั้งได้ยังไงกัน?”
“รีบไปกันเถอะ ว่าแต่พวกเราจะไปที่ไหนกันดี?” พระเจ้ามองหานเซิ่นด้วยความสนใจ
“เจ้าอยากไปที่ไหนล่ะ? ข้าจะพาเจ้าไปที่นั่น” หานเซิ่นถามอย่างหดหู่
“บ้านของเจ้า” สิ่งที่พระเจ้าพูดนั้นทำให้หานเซิ่นอ้าปากค้าง
ความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาในหัวของหานเซิ่น ‘บ้านของเราคือสถานที่ที่เขาไปได้อย่างนั้นหรอ? แต่ถึงเขาจะไปได้ เราก็ไม่มีวันพาเขาไป นั่นเป็นเหมือนกับการเชิญหมาป่าไปที่บ้าน ไม่สิมันไม่เหมือนการเชิญหมาป่าไปที่บ้าน มันเหมือนการเชิญพระเจ้าไปที่บ้าน และพระเจ้าคนนี้ก็น่ากลัวกว่าหมาป่ามาก แต่ถ้าอย่างนั้นเราจะพาเขาไปที่ไหนได้? ร่างกายของเราไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ตลอดไป เราจะกลับกลายเป็นเด็กในเร็วๆนี้ ถ้าพระเจ้าเห็นเรื่องนั้นเข้า… มันก็คงจะเป็นอะไรที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม…’
ในระหว่างการเดิมพัน หานเซิ่นกังวลว่าร่างกายจะกลับกลายเป็นเด็ก แต่ความกังวลของเขาไม่เกิดขึ้น เขาสังเกตเห็นว่าในตอนที่เขากลับไปที่ฟาร์มของพระเจ้าอีกครั้ง มันเป็นเวลาเดียวกันกับก่อนที่เขาจะย้อนเวลาไปในตอนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮยังหนุ่ม ด้วยเหตุนั้นเขาพอจะคาดเดาได้ว่าทำไมเขาถึงยังไม่กลับกลายเป็นเด็ก
ส่วนเหตุผลที่ทำไมพระเจ้าถึงกลับออกมาช้าหนึ่งชั่วโมงนั้นหานเซิ่นไม่รู้
ตอนที่ 2839
ภายในสวนของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง หานเซิ่นกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ กู่หว่านเอ๋อนั่งอยู่ข้างๆและกำลังมองมาที่เขา คิ้วของหานเซิ่นถูกยกขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่อดทนอยู่นาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามพระเจ้าที่กำลังสิงกู่หว่านเอ๋ออยู่ว่า
“เจ้าช่วยเลิกมองข้าแบบนั้นได้ไหม?”
พระเจ้ามองเขาอยู่หลายชั่วโมงติดต่อกันแล้ว แม้แต่พระเจ้าก็ควรจะรู้สึกเบื่อจากการทำแบบนั้น
หลังจากที่ตกลงจะพาพระเจ้าไปด้วย หานเซิ่นก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพาพระเจ้ามาที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พระเจ้ายังสังเกตถึงความจริงที่ว่าหานเซิ่นกลายเป็นเด็ก
พระเจ้ายิ้มและพูด “ในที่แห่งนี้มีแค่เจ้าที่น่าสนใจ ถ้าข้าไม่จ้องมองเจ้าแล้ว ข้าจะมองอะไรอย่างอื่นได้อีก?”
“เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงมียอดฝีมืออยู่เต็มไปหมด อย่างราชาไป๋และเหล่าผู้อาวุโส พวกเขาล้วนแต่เป็นยอดฝีมือที่น่าสนใจ เจ้าควรไปมองพวกเขา” หานเซิ่นขายเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอย่างไร้ยางอาย
“ข้าเบื่อที่จะต้องมองพวกเขา” พระเจ้าพูด
หานเซิ่นพูดอะไรไม่ออก ถ้าราชาไป๋รู้ว่ามีใครบางคนพูดเกี่ยวกับเขาแบบนั้น หานเซิ่นก็สงสัยว่าเขาจะคิดยังไง
“จักรวาลนี้กว้างใหญ่ มันมีขุนนางและซีโน่เจเนอิคที่ทรงพลังอยู่มากมาย เจ้าควรไปมองพวกเขา” หานเซิ่นรู้สึกเศร้าขณะที่พูด
“ข้าไม่ได้มีอำนาจเหนือทุกสิ่ง มันไม่ใช่ว่าข้าจะไปมองดูใครก็ได้ อย่างน้อยข้าจำเป็นต้องหาสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจให้เจอซะก่อน หลังจากนั้นข้าถึงจะมองดูพวกเขา” พระเจ้าอธิบาย
“ถ้าเจ้าชอบดูสิ่งมีชีวิตมากขนาดนั้น มันคงจะเป็นอะไรที่ดีไม่น้อย ถ้าบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนจัดการประลองขึ้นอีกครั้ง เจ้าจะได้มองดูสิ่งมีชีวิตต่างๆต่อสู้กัน” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาแบบนั้น
ในตอนที่พระเจ้าได้ยินสิ่งที่หานเซิ่นพูด เขาก็พยักหน้าและพูด
“ที่เจ้าเสนอขึ้นมานั้นไม่เลวเลย พวกเราจัดการประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนขึ้นอีกครั้ง แต่การประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าเบื่อ สิ่งมีชีวิตที่ต่อสู้กันไม่แม้แต่จะเป็นระดับเทพเจ้า มันควรจะเป็นการต่อสู้ของระดับเทพเจ้าแทน”
“นี่เจ้าพูดจริงอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่พระเจ้าด้วยความตกใจ
หานเซิ่นไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าการประลองบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนนั้นจะถูกจัดขึ้นอย่างได้ตามใจชอบ ในอดีตมันควรจะถูกจัดขึ้นทุกๆหนึ่งร้อยปีและระดับพลังสูงสุดที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ได้ก็คือระดับราชันเท่านั้น
การประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตครั้งก่อนถูกจัดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อน มันยังคงอีกนานกว่าที่จะครบหนึ่งร้อยปี การประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนจึงไม่ควรจะถูกจัดขึ้นอีกครั้งเร็วขนาดนี้
แต่พระเจ้าดูเหมือนต้องการจะจัดการประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนขึ้นในตอนนี้เลย และมันจะเป็นการประลองของระดับเทพเจ้า หานเซิ่นไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดออกมา
เพราะถ้าพระเจ้าสามารถเริ่มการประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนได้ตามใจชอบ แบบนั้นทำไมตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของจักรวาลจีโน มันถึงไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน?
“ในฐานะพระเจ้า การไม่โกหกเป็นหนึ่งในกฎพื้นฐานที่สุด”
พระเจ้าพูดพร้อมกับยื่นมือออกมาและนำเอาสมุดโน๊ตออกมา หลังจากนั้นพระเจ้าก็เริ่มจะเขียนลงไปในสมุด
หานเซิ่นเอนหัวไปมองเพื่อดูว่าพระเจ้าเขียนอะไรลงไป แต่เขาสังเกตเห็นว่ากระดาษในสมุดโน้ตนั้นว่างเปล่า ปากกาที่เขียนลงไปนั้นไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้
ทันใดนั้นจู่ๆทั้งจักรวาลก็มืดลง ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลรู้สึกตกใจ ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ทุกคนมองไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือของตัวเอง หลังจากนั้นมันก็มีเสียงบูมดังก้องขึ้นมา ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่ไม่ผ่านการวิวัฒนาการนั้นวิ่งไปมาอย่างแตกตื่น พวกมันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและคิดไปว่ามันเป็นจุดจบของโลกใบนี้
ทันใดนั้นก็มีรอยแยกเกิดขึ้นในอวกาศ มันมีวิหารโบราณปรากฏออกมาให้เห็น จีโนฮอลล์ค่อยๆเคลื่อนตัวออกมาจากรอยแยกนั้น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆจีโนฮอลล์ถึงปรากฏในตอนนี้? นี่พระเจ้าอีกคนเพิ่งจะถูกฆ่าตายอย่างนั้นหรอ? แต่ไม่สิ! ข้าไม่ได้เห็นความเศร้าของพระเจ้าอีกครั้ง”
“นี่หรือว่ามีใครบางคนจะทำการต่อสู้เพื่อชิงตะเกียงในจีโนฮอลล์อย่างนั้นหรอ?”
“ข้าไม่คิดแบบนั้น ข้าไม่เห็นใครที่เป็นคนเริ่มการต่อสู้เพื่อชิงตะเกียงไฟในจีโนฮอลล์”
ยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามากมายของแต่ละเผ่าพันธุ์ต่างรู้สึกสับสน พวกเขามองไปยังจีโนฮอลล์ที่กำลังลอยอยู่ในอวกาศ
การปรากฏตัวของจีโนฮอลล์ในครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งอื่นๆ ในครั้งนี้เมื่อจีโนฮอลล์เผยออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว ประตูของมันค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ
แสงภายในประตูนั้นเป็นอะไรที่สว่างมากๆ ผู้คนเห็นเพียงแค่แสงสว่างที่ส่องออกมาจากประตูเท่านั้น ไม่มีใครมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในจีโนฮอลล์ได้
หลังจากนั้นท่ามกลางแสงที่สว่างไสวก็มีบางสิ่งออกมาจากจีโนฮอลล์ ในตอนที่ทุกคนเห็นชัดๆว่ามันคืออะไร พวกเขาก็ตกตะลึง มันคือม้วนกระดาษ
“นั่นคือบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนอย่างนั้นหรอ? มันดูแตกต่างไปจากเดิม และการประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อนไม่ใช่หรอ ทำไมมันถึงเกิดขึ้นอีกครั้งเร็วแบบนี้?”
“นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้น?” ราชาไป๋ยืนอยู่บนหอคอยและมองไปที่ม้วนกระดาษที่อยู่บนฟ้า พร้อมกับขมวดคิ้ว
บนดาวเล็กๆดวงหนึ่ง ชายแก่ที่เป็นหมอดูคนหนึ่งมองขึ้นไปที่ม้วนกระดาษที่อยู่บนท้องฟ้า เขาขมวดคิ้วและคิดกับตัวเอง
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนถึงปรากฏขึ้นในตอนนี้?’
ภายในปราสาทของดาวเคราะสีแดง มันมีชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนกับราชา เขามองไปที่ม้วนกระดาษบนท้องฟ้าด้วยความสนใจ
ภายในหลุมดำแห่งหนึ่ง อัลฟ่าของเผ่าเดม่อนที่กำลังฝึกวิชาอยู่ จู่ๆเขาก็ลืมตาขึ้นมาและมองขึ้นไปที่ม้วนกระดาษบนท้องฟ้า
บนยอดของเอมตี้เมาท์เทน อสูรขนสีเขียวและผู้หญิงกำลังมองไปที่ม้วนกระดาษบนท้องฟ้าด้วยความแปลกใจ
ม้วนกระดาษค่อยๆคายออกและแสดงตัวอักษรที่ส่องประกายระยับระยิบ ไม่มีใครอ่านตัวอักษรเหล่านั้นได้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทุกสิ่งมีชีวิตสามารถเข้าใจความหมายของมัน แม้แต่สิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์ที่ด้อยพัฒนาก็สามารถเข้าใจความหมายของตัวอักษรเหล่านั้น
หลังจากนั้นเสียงก็ดังก้องทั่วจักรวาล มันเหมือนกับว่ามีใครบางคนยืนอยู่บนที่ที่สูงและอ่านม้วนกระดาษให้พวกเขาฟัง แต่มันไม่มีเสียงดังขึ้นมา
“บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนเปิดออกแล้ว สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าทั้งหมดเข้าร่วมการประลองได้ สิ่งมีชีวิตที่ติดอันดับหนึ่งในร้อยจะถูกจารึกชื่อเอาไว้บนบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนและได้รับรางวัลอย่างงาม”
หานเซิ่นอึ้งไป เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าสิ่งที่เขาพูดขึ้นมามั่วๆนั้นจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกับทั้งจักรวาล ในตอนที่เขาเห็นรางวัล หัวใจของเขาก็เต้นรัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรางวัลอันดับที่หนึ่ง ถ้ามีโอกาส หานเซิ่นก็ต้องต่อสู้ด้วยชีวิตเพื่อให้ได้รางวัลนั้นมา
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ฉันเชื่อว่ารางวัลนั้นเป็นอะไรที่น่าดึงดูดสำหรับระดับเทพเจ้าทุกคนในจักรวาล’
มันไม่ใช่แค่หัวใจของเขาเท่านั้นที่เต้นตึกตัก ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าทุกคนในจักรวาลเกือบจะเป็นบ้าเช่นกัน รางวัลอันดับอื่นนั้นไม่ได้สำคัญอะไรมาก แต่รางวัลอันดับที่หนึ่งคือสิ่งประจำตัวของพระเจ้า คนที่ได้รับมันจะกลายเป็นเทพสปิริต นั่นถือเป็นความฝันของยอดฝีมือระดับเทพส่วนใหญ่
แต่โชคร้ายที่การจะเข้าไปในจีโนฮอลล์นั้นเป็นอะไรที่ยากเกินไป ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตกว่าเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์นั้นต้องตายขณะที่พยายามจะเข้าไปข้างใน มันไม่มีใครคนไหนที่กล้าจะเข้าไปในจีโนฮอลล์โดยไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดี
แต่ตอนนี้พวกเขาแค่จำเป็นต้องได้อันดับที่หนึ่งในการประลองเพื่อกลายเป็นเทพสปิริต ระดับความยากของมันถูกลดลงอย่างมาก
และถึงพวกเขาจะไม่ได้รับอันดับที่หนึ่ง รางวัลที่รองลงมาก็ยังถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างดี พวกมันแค่ไม่สามารถเทียบกับรางวัลอันดับที่หนึ่งได้เท่านั้น
ตูม!
ทันใดนั้นแสงดาวนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกไปทั่วอวกาศ หานเซิ่นเห็นแสงดาวหนึ่งพุ่งลงมาอยู่ตรงหน้าของเขา มันคือคำเชิญเข้าร่วมการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าทั้งหมดในจักรวาลนั้นได้รับคำเชิญแบบเดียวกัน
ตอนที่ 2840
หานเซิ่นยื่นนิ้วมือออกไปสัมผัสกับแสงดาวเพื่อตอบรับคำเชิญ แสงดาวเปลี่ยนเป็นจุดแสงเล็กๆบนปลายนิ้วของเขา ตามความปรารถนาของหานเซิ่น แสงดาวก่อตัวเป็นคำสองคำ “มนุษย์ ดอลลาร์”
ในจังหวะต่อมาแสงดาวก็บินกลับที่บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนที่อยู่บนท้องฟ้า ตอนนี้บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนมีชื่อของ “มนุษย์ ดอลล่าร์” อยู่
เกือบจะในเวลาเดียวกัน หานเซิ่นก็เห็นชื่อมากมายปรากฏขึ้นบนบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน หานเซิ่นมองไปที่พวกมันและเห็นชื่อที่คุ้นเคย
“เอมตี้เมาท์เทน… โกลเด้นโกรวเลอร์… นั่นคือโกลเด้นโกรวเลอร์?” ในตอนที่หานเซิ่นเห็นชื่อนั้น เขาก็รู้สึกตกใจ
ถึงแม้หานเซิ่นตื่นเต้นที่จะได้เห็นโกลเด้นโกรวเลอร์ แต่เขาก็กังวลว่าโกลเด้นโกรวเลอร์อาจจะลืมเขาไปแล้ว
“ทำไมเจ้าถึงปลอมตัวเป็นมนุษย์? เจ้าเป็นซีโน่เจเนอิค” พระเจ้ามองหานเซิ่นด้วยความสนใจ
“ข้าชอบทำแบบนั้น” หานเซิ่นไม่ได้อธิบายไปมากกว่านั้น แต่เขารู้สึกประหลาดใจและคิดกับตัวเอง
‘หลังจากที่เราเข้าสู่โหมดร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิค แม้แต่พระเจ้าก็ไม่รู้ว่าร่างกายที่แท้จริงของเราเป็นมนุษย์ นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ แต่มันถือเป็นเรื่องดีที่พระเจ้าคิดว่าเราแค่พยายามปลอมตัวเป็นมนุษย์ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพระเจ้ารู้ว่าเราเป็นมนุษย์จริงๆขึ้นมา’
ภายในปราสาทที่อยู่บนดาวเคราะห์สีแดง ผู้คนเลือดฟ้าโค้งคำนับต่อชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนกับราชา
“ท่านประมุข การประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนถูกจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่นี่ถือเป็นโอกาสของพวกเรา ถ้าพวกเราได้อันดับที่หนึ่งและได้ที่นั่งของเทพสปิริตมา มันก็จะถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพยุหะโลหิตของพวกเรา”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะให้โหลวเลี่ยเข้าร่วมการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน” ชายคนนั้นพูด
บนยอดของเอมตี้เมาท์เทน อสูรขนสีเขียวพูดด้วยความตื่นเต้น
“พระเจ้าช่วยเหลือเอมตี้เมาท์เทน! ผู้นำเมาท์เทนน้อยเพิ่งจะกลายเป็นขั้นทรูก็อต มันก็มีโอกาสดีๆแบบนี้เกิดขึ้น ผู้นำเมาท์เทนน้อยจะต้องได้อันดับที่หนึ่งอย่างแน่นอนที่สุด เขาจะกลายเป็นเทพสปิริตและกอบกู้ชื่อเสียงของเอมตี้เมาท์เทน”
ยอดฝีมือที่น่ากลัวมากมายทั่วจักรวาลต่างก็เล็งอันดับที่หนึ่งในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน มีเพียงแค่หมอดูแก่คนหนึ่งที่ขมวดคิ้วและคิดเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงมียอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่ลงสมัครเข้าร่วมการประลองหลายคน ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้รับอันดับที่หนึ่ง แต่การติดอันดับหนึ่งในร้อยก็จะทำให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์มากมายแล้ว
ก่อนหน้านี้การประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนถูกจำกัดอยู่ที่ระดับราชัน เผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งสามจึงไม่ได้แสดงความสนใจในการประลอง แต่การประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนั้นเป็นบางสิ่งที่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งหมดจะเข้าร่วม
ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าในจักรวาลจีโนมียอดฝีมือระดับเทพเจ้าอยู่แค่ไม่กี่พันคนเท่านั้น แต่ตอนนี้ในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนมีชื่ออยู่มากกว่าหมื่นชื่อ แถมมันยังมียอดฝีมือระดับเทพเจ้าหลายคนที่เลือกจะไม่เข้าร่วม
หานเซิ่นไม่ได้คาดหวังที่จะได้รับอันดับที่หนึ่ง เพราะยังไงพลังของเขาตอนนี้ก็ยังไม่เพียงพอจะต่อสู้กับยอดฝีมือขั้นทรูก็อต ถ้าเขาติดอันดับหนึ่งในร้อยได้ เขาก็รู้สึกพอใจแล้ว
“ให้ข้าดูสิว่ารางวัลของการติดหนึ่งร้อยอันดับแรกคืออะไร จริงหรอเนี่ย… นั่นเป็นอะไรที่ใจกว้างมากๆ คนที่ติดหนึ่งร้อยอันดับแรกจะได้รับสมบัติขั้นทรูก็อต”
หานเซิ่นรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องพยายามอย่างหนัก สมบัติขั้นทรูก็อตนั้นถือว่าเป็นอะไรที่ดี เขาจะต้องมีติดตัวเอาไว้
สิ่งที่หานเซิ่นจำเป็นต้องทำในตอนนี้ก็คือการกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลาย การเป็นขั้นลาร์วานั้นไม่ได้ทำให้เขาคงร่างผู้ใหญ่ได้เป็นเวลานาน และในตอนที่เขามีร่างกายของเด็ก เขาไม่สามารถใช้พลังภายในตัวได้ แบบนั้นเขาจะไม่สามารถต่อสู้กับยอดฝีมือที่เก่งกาจได้
“เรายังต้องการยีนระดับเทพเจ้าเพิ่มอีกยี่สิบยีน หวังว่าในรอบแรกเราจะไม่เจอกับระดับเทพเจ้าที่น่ากลัวนัก ขอให้เราได้เจอกับขั้นพริมิทีฟด้วยเถิด”
หานเซิ่นมีแผนที่จะเข้าไปในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์เพื่อฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าและดูดซับยีนของพวกมัน
ปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์นั้นสามารถเข้าไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น ดังนั้นหานเซิ่นจึงบอกให้พระเจ้ารออยู่ในสวน แต่ทันทีที่หานเซิ่นเข้าไปข้างในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ เขาก็เห็นว่าพระเจ้านั้นตามเขาเข้ามาข้างใน
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร ระบบป้องกันของปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์นั้นถูกกล่าวขานว่าเป็นอะไรที่สุดยอด แต่มันไม่สามารถหยุดสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าได้ บางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นอะไรที่สุดยอดอย่างที่ถูกกล่าวขานกัน
หลังจากที่เข้ามาข้างใน เขาก็เดินไปที่ปราสาทหมายเลข 0038 ที่นั่นเขาเห็นซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งถูกล่ามเอาไว้ มันเป็นนกที่ปกคลุมด้วยขนสีดำเหมือนกับหมึก ดวงตาของมันเหมือนกับดวงอาทิตย์และพระจันทร์ ข้างหนึ่งเป็นสีเหลืองและอีกข้างหนึ่งเป็นสีแดง มันมองมาที่หานเซิ่นและทำให้เขารู้สึกหนาวขึ้นมาในทันที
พระเจ้ามองไปที่นกสีดำและพูด “ซีโน่เจเนอิคนี่แปลกๆ”
“แปลกยังไง?” หานเซิ่นถาม ถ้าพระเจ้าบอกว่าซีโน่เจเนอิคตัวนี้แปลก มันก็ต้องมีปัญหาบางอย่างแน่นอน
หานเซิ่นสงสัยมาโดยตลอดว่าทำไมราชาไป๋ถึงอนุญาตให้เขาเข้ามาในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ เขาสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการบางอย่างหรือเปล่า เขาก็ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไร แต่ถ้าพระเจ้าบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี่ได้ มันก็จะช่วยหานเซิ่นอย่างมาก
“ซีโน่เจเนอิคนี่ไม่มีสปิริต” พระเจ้ามองไปที่ซีโน่เจเนอิคขณะที่พูดออกมา
“สปิริต?” หานเซิ่นมองพระเจ้าด้วยความสับสน เขาไม่รู้ว่านั่นหมายความว่ายังไง
“ทุกอย่างมีสปิริตอยู่ สปิริตนั้นไม่เหมือนกับวิญญาณ แต่มันคล้ายคลึงกัน ถึงสิ่งมีชีวิตจะไม่มีสปิริต พวกมันก็มีชีวิตอยู่ได้ แต่พวกมันจะไม่วิวัฒนาการ” พระเจ้าพูด
“การวิวัฒนาการขึ้นอยู่กับยีนของบุคคลไม่ใช่หรอ?” หานเซิ่นไม่เข้าใจ
“นั่นถูกต้อง ยีนเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในสปิริต ด้วยสปิริตยีนถึงเปลี่ยนแปลงได้”
พระเจ้ามองไปที่นกสีดำและพูดต่อ “นั่นเป็นซีโน่เจเนอิคขั้นลาร์วา ถ้ามันกลายเป็นขั้นนี้ได้ มันก็ควรจะมีสปิริตอยู่ แต่นกตัวนี้ไม่มีสปิริต นั่นเป็นอะไรที่แปลก”
พระเจ้าเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะหันมามองหานเซิ่นและพูด “ที่นี่ต้องมีซีโน่เจเนอิคตัวอื่นอยู่อีกถูกไหม? พาข้าไปดูพวกมัน”
หานเซิ่นอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงพาพระเจ้าไปดูซีโน่เจเนอิคที่เขาเคยพยายามจะฆ่าแต่ทำไม่สำเร็จ
มันมีซีโน่เจเนอิคอยู่สามตัวที่เป็นแบบนั้น หานเซิ่นพาพระเจ้ามายังหนึ่งในปราสาทที่พวกมันอยู่ เมื่อพระเจ้าเห็นซีโน่เจเนอิคในปราสาท เขาก็พูดขึ้นในทันที
“ซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลายนั่นไม่มีสปิริตเช่นเดียวกัน นี่เป็นอะไรที่แปลก”
หานเซิ่นพาพระเจ้าไปดูซีโน่เจเนอิคอีกสองตัวที่เหลือเช่นกัน หลังจากนั้นพระเจ้าก็พูดขึ้นว่า
“น่าสนใจ… ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าเอ็กซ์ตรีมคิงมีสถานที่ที่น่าสนใจแบบนี้อยู่ ซีโน่เจเนอิคที่อยู่ที่นี่ไม่มีสปิริต นอกจากนั้นซีโน่เจเนอิคที่อยู่ในปราสาทหมายเลข 0002 คือไทม์โกสต์ขั้นทรูก็อต มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่มีชื่อเสียงมากๆ ในจักรวาลนี้มีสิ่งมีชีวิตไม่มากนักที่จะต่อสู้กับมันได้ แต่มันไม่มีสปิริตเช่นเดียวกัน นั่นเป็นอะไรที่น่าสนใจ”
พระเจ้ามองไปที่ไทม์โกสต์ด้วยความสนใจราวกับเด็กที่กำลังมองของเล่น
“มันมีปัญหากับซีโน่เจเนอิคที่ไม่มีสปิริตอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นกินซีโน่เจเนอิคที่อยู่ภายในที่แห่งนี้เข้าไปหลายตัวแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่ได้รับผลกระทบในทางลบอะไร แต่เขาก็กังวลว่ามันอาจจะส่งผลเสียกับร่างกายของเขา
“นอกจากความจริงที่พวกมันจะไม่วิวัฒนาการแล้ว พวกมันไม่ได้มีปัญหาอะไร” พระเจ้าตอบ หลังจากนั้นเขาก็พึมพำกับตัวเอง
“นี่สปิริตถูกเอาออกไปด้วยใช้การกำลังอย่างนั้นหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้นมันถูกเอาออกไปได้ยังไง? การทำแบบนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”
ตอนที่ 2841
หานเซิ่นฆ่านกขนสีดำเหมือนกับหมึกตัวนั้น เขาไม่ได้รับวิญญาณอสูร พระเจ้าแค่มองไปที่ซีโน่เจเนอิคที่ไม่มีสปิริต หลังจากนั้นพระเจ้าก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มอีก และหานเซิ่นก็นำร่างของนกซีโน่เจเนอิคออกไปจากปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ เขาพยายามเก็บยีนระดับเทพเจ้าให้ได้มากที่สุด ขณะที่รอให้การประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนเริ่มต้นขึ้น
เนื่องจากมันมีสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าที่ยังไม่ได้รับคำเชิญ ทุกคนจึงต้องรอเป็นเวลาสามวัน ก่อนที่การประลองจะเริ่มต้นขึ้น ในเวลาสามวันนั้นระดับเทพเจ้าที่ยังไม่ตอบรับคำเชิญจะได้มีเวลาไตร่ตรองว่าจะเข้าร่วมดีหรือไม่
หานเซิ่นอยากจะรู้ว่าราชาไป๋นั้นเข้าร่วมการประลองนี้ด้วยไหม แต่หลังที่กลับมา หานเซิ่นก็ยังไม่มีโอกาสได้พบกับราชาไป๋เลย หานเซิ่นมองไปที่บัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนอยู่สักพัก แต่เขาก็ไม่เห็นชื่อของราชาไป๋ภายในนั้น
ในตอนที่เป่าอิงมาสอนธรรมเนียมปฏิบัติให้กับหานเซิ่น เธอถามเขาอย่างมีมารยาท
“มิสเตอร์โฮลี่เบบี้ได้เข้าร่วมการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนด้วยไหม?”
ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบจักรวาลล้าง เป่าอิงก็มีมารยาทกับหานเซิ่นยิ่งกว่าเดิม
“ใครจะรู้? บางทีข้าอาจจะเข้าร่วม บางทีข้าอาจจะไม่”
หานเซิ่นตอบอย่างกำกวม เขาจะเข้าร่วมในร่างผู้ใหญ่ และเขาจะใช้ชื่อของดอลลาร์ เขาไม่ต้องการให้เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงรู้ถึงเรื่องนั้น
“ถ้ามิสเตอร์โฮลี่เบบี้ไม่เข้าร่วม มันก็เป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก ด้วยพลังของมิสเตอร์โฮลี่เบบี้ บางทีอาจจะติดอันดับหนึ่งในร้อยก็ได้”
เป่าอิงพูดราวกับว่ามันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย เห็นได้ชัดว่าเธอมองดูรายชื่อบนบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนและไม่พบชื่อโฮลี่เบบี้อยู่บนนั้น
หลังจากที่เป่าอิงจากไปแล้ว หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าพระเจ้าไม่ได้อยู่รอบๆ ตั้งแต่ที่พวกเขากลับออกมาจากปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ พระเจ้าก็มักจะหายตัวไปตามลำพัง หานเซิ่นไม่รู้ว่าพระเจ้านั้นหายไปไหนกันแน่
สามวันต่อมา ในที่สุดการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อหานเซิ่นดูชื่อของคู่ต่อสู้ เขาก็เห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือบาร์จากเผ่าเดสทรอยเยอร์
“บาร์ เผ่าเดสทรอยเยอร์” หานเซิ่นแปลกใจ เขาเป็นคนช่วยให้บาร์ได้กลายเป็นระดับเทพเจ้า ด้วยเหตุนั้นเขาจึงรู้ถึงความแข็งแกร่งของบาร์
ถึงแม้ระดับพลังของบาร์จะเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟหรือขั้นทรานส์มิวเทชั่นเท่านั้น แต่ความเป็นอมตะของเขาก็ทำให้หานเซิ่นปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง
‘อย่างน้อยๆมันก็ถือว่าโชคดีที่คู่ต่อสู้ของเราไม่ใช่ขั้นทรูก็อต’ หานเซิ่นคิด
ขณะเดียวกันภายในดินแดนของเดสทรอยเยอร์ เมื่อบาร์เห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือดอลลาร์ ดวงตาของเขาก็ดูตื่นเต้นขณะที่เขาพูดขึ้นว่า
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าข้าจะได้เจอกับดอลลาร์ตั้งแต่รอบแรก ด้วยวิชาที่ข้าคิดค้นขึ้นมา มันจะต้องทำให้เขาประหลาดใจอย่างแน่นอน”
เดียร็อบเบอร์ขมวดคิ้วและพูด “ถึงแม้วิชาที่เจ้าคิดค้นขึ้นมาจะเป็นอะไรที่ทรงพลังมากๆ แต่เจ้าก็ควรจะระวังตัวเอาไว้ ดอลลาร์นั้นไม่ใช่คนธรรมดาๆ”
“ข้ารู้อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะเอาชนะข้า ด้วยวิชาที่ข้าคิดค้นขึ้นมา มันไม่มีทางที่ข้าจะเป็นฝ่ายแพ้” บาร์เต็มไปด้วยความมั่นใจ
การปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนั้นทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลต่างก็อยากจะดู มันเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า และมันก็เป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าที่จะได้เห็นระดับเทพเจ้าต่อสู้กัน
“ในตอนแรกข้าคิดว่าการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนจะเหมือนกับบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนที่ทุกคู่จะต่อสู้พร้อมๆกัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น มันเป็นการประลองแบบจับคู่ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ นั่นเป็นอะไรที่ดีมากๆ พวกเราจะไม่พลาดการต่อสู้แม้แต่นัดเดียว”
“ใช่แล้ว การต่อสู้ของระดับเทพเจ้าเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น ถ้าบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนไม่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน พวกเราก็คงจะไม่มีวันได้เห็นการต่อสู้ของพวกเขา มันถือเป็นเรื่องดีที่จะได้ดูการต่อสู้ทุกคู่”
“นี่เป็นการต่อสู้ของระดับเทพเจ้าทั่วจักรวาล นั่นหมายความว่าคนที่ได้อันดับที่หนึ่งจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลนี้”
“เจ้าพูดถูก คนที่ชนะจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลอย่างไม่ต้องสงสัย”
“การต่อสู้ในนัดแรกคือบาร์จากเผ่าเดสทรอยเยอร์เจอกับดอลลาร์เผ่ามนุษย์ ดอลลาร์เผ่ามนุษย์… ทำไมชื่อนี้ถึงฟังดูคุ้นๆ?”
“อ้า ดอลลาร์คนนั้นจะต้องเป็นคนเดียวกันกับดอลลาร์ที่ได้อันดับที่หนึ่งในการประลองระดับมาร์ควิสของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน”
“ใช่แล้ว! มันต้องเป็นเขาแน่ๆ ข้าจำได้ว่าเขาเอาชนะไผ่เดียวดายจากปราสาทนภาและได้อันดับที่หนึ่งในการประลองระดับมาร์ควิส มันผ่านมาเพียงแค่ไม่กี่ปี เขาก็กลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้วหรือเนี่ย? นั่นไม่เร็วไปหน่อยหรอ?”
“เผ่ามนุษย์… นั่นเป็นเผ่าพันธุ์แบบไหนกัน?”
เนื่องจากไม่เคยมีการประลองระหว่างระดับเทพเจ้าเกิดขึ้นมาก่อน ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลจึงให้ความสนใจกับการต่อสู้นัดแรกของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนี้เป็นพิเศษ
หานเซิ่นกลายร่างเป็นผู้ใหญ่เพื่อเข้าไปในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน เขาปรากฏตัวในพื้นที่โล่งและเห็นบาร์อยู่ในระยะไกล บาร์กำลังเข้ามาหาเขา
ภายในปราสาทบนดาวเคราะห์สีแดง ชายที่ดูเหมือนกับราชากำลังมองไปที่หานเซิ่นในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน เขาคิดกับตัวเอง
‘ดอลลาร์คนนี้แปลกๆ เขากล้าใช้ชื่อเผ่ามนุษย์ในจักรวาลนี้ และเขายังไม่ถูกพระเจ้าฆ่าตาย นั่นเป็นอะไรที่พิเศษ’
ท่ามกลางปราสาทที่พังทลายในโลกมืด นกใหญ่ประหลาดตัวหนึ่งถอนหายใจ
“มนุษย์อย่างนั้นหรอ? นั่นเป็นชื่อที่คุ้นเคยและแปลกตา”
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูค่อนข้างงดงามหันไปมองแมวเก้าชีวิตและถาม
“เฒ่าแมว ดอลลาร์คนนี้คือมนุษย์จริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“ภายในก็อตแซงชัวรี่ มันมีบุคคลที่ชื่อดอลลาร์อยู่”
เฒ่าแมวพูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ “แต่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะเพิ่มระดับขึ้นรวดเร็วแบบนั้นได้ยังไง? นั่นเป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล”
“ข้าไม่สนใจว่าเขาจะเป็นมนุษย์หรือไม่ นอกจากนายน้อยแล้ว มันไม่มีใครที่จะฆ่าพระเจ้าได้จริงๆ น่าเสียดายที่นายน้อยยังไม่ถึงระดับเทพเจ้า ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะเข้าร่วมการประลองนี้และได้รับอันดับที่หนึ่งอย่างแน่นอน หลังจากนั้นเซเคร็ดก็จะกลับมาเป็นที่หวาดกลัวอีกครั้ง”
“มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย ใครจะรู้ว่าจู่ๆบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนจะปรากฏขึ้นมาแบบนี้ ถ้าพวกเรารู้เรื่องนี้ก่อนล่วงหน้า พวกเราก็คงจะทำให้นายน้อยกลายเป็นระดับเทพเจ้าก่อนที่การประลองจะเริ่มต้นขึ้น แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว”
…
“ดอลลาร์ ในที่สุดข้าก็มีโอกาสได้ต่อสู้กับเจ้า!”
บาร์ตะโกนอย่างตื่นเต้นขณะที่บินเข้ามาหาหานเซิ่น ร่างกายของเขาพลุ่งพล่านไปด้วยความอยากจะต่อสู้ ดวงตาของเขาดูเหมือนกับว่ากำลังลุกเป็นไฟ
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ถึงแม้จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว เจ้าก็ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด’
หานเซิ่นคิดจะจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินบาร์พูดขึ้นมา
“ดอลลาร์ ข้าได้คิดค้นวิชาหนึ่งขึ้นมา ในตอนนี้ข้าฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ง่ายเหมือนกับการฆ่าสุนัขตัวหนึ่ง เจ้าอย่าทำให้ข้าต้องผิดหวังซะล่ะ?
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นข้าก็อยากจะเห็นมัน”
หานเซิ่นรู้ว่าร่างกายของบาร์นั้นเป็นอะไรที่สุดยอด มันเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะ แต่วิชาการต่อสู้ของบาร์นั้นถือว่าพื้นๆ เขาโอ้อวดว่าเขาสามารถฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ง่ายราวกับฆ่าสุนัขตัวหนึ่ง นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงล้มเลิกที่จะเอาชนะบาร์ในทันที เขาอยากจะเห็นวิชาที่บาร์พูดถึงเสียก่อน
เมื่อได้ยินสิ่งที่บาร์พูดออกไป เดียร็อบเบอร์ก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เขากุมขมับของตัวเอง
บาร์นั้นถือเป็นต้นแบบของคนที่ไร้สมอง คำพูดของเขาทำให้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหลายๆคนไม่พอใจ
“ผู้คนของเผ่าเดสทรอยเยอร์จะหลงตัวเองเกินไปแล้ว การฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันง่ายเหมือนกับการฆ่าสุนัขตัวหนึ่งอย่างนั้นหรอ? ข้าหวังว่ารอบต่อไปเขาจะได้เจอกับข้า แล้วจะได้เห็นว่าใครกันแน่ที่จะถูกฆ่า”
“บางทีเขาจะไม่ผ่านรอบแรกด้วยซ้ำ เขาจะถูกฆ่าเหมือนกับสุนัขโดยมนุษย์คนนั้น”
ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหลายคนรู้สึกโกรธ ขณะที่พวกเขากำลังเย้นหยันบาร์อยู่นั้น บาร์ก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาวิ่งเข้าไปหาหานเซิ่นราวกับคนบ้า
ในจังหวะที่บาร์เริ่มวิ่งออกไป ร่างกายทั้งร่างของเขาก็ลุกเป็นไฟ เขาดูเหมือนกับดวงอาทิตย์สีดำ
ตอนที่ 2842
ถึงแม้การต่อสู้ภายในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนจะเกิดขึ้นในอีกมิติหนึ่ง แต่ผู้ชมก็ยังสัมผัสได้ถึงออร่าที่น่ากลัวของบาร์ สิ่งมีชีวิตธรรมดาจะสัมผัสได้แค่ว่าบาร์นั้นทรงพลังมากๆ แต่พวกเขาไม่สามารถบอกว่าบาร์แข็งแกร่งขนาดไหน ส่วนยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่เข้าร่วมการประลองด้วยนั้นจะสัมผัสได้มากกว่านั้น พวกเขารับรู้ว่าพลังของบาร์นั้นถือว่าแข็งแกร่งมากสำหรับคนที่อยู่เพียงแค่ขั้นพริมิทีฟ
“พลังนั่นไม่เลวเลย แต่ถ้าเขาจะบอกว่าตัวเองไร้เทียมทานในขั้นพริมิทีฟ มันก็เป็นคำกล่าวที่เกินจริงไปหน่อย”
เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟพูดขึ้นมา “ถ้าคู่ต่อสู้ของเขาคือข้า ข้าคงจะเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย”
ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนอื่นๆก็คิดแบบเดียวกัน แต่ในวินาทีต่อมา ใบหน้าของเหล่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่คิดแบบนั้นก็เปลี่ยนไป
ปัง!
บาร์พุ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าของหานเซิ่น ในจังหวะที่หมัดของพวกเขาปะทะกัน ร่างกายของบาร์ก็ระเบิดเหมือนกับอาวุธนิวเคลียร์ เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดภายในร่างกายของเขาออกมา
แรงระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นมีขนาดใหญ่โตราวกับดวงอาทิตย์สีดำ มันเหมือนกับปากของปีศาจที่กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง อุกกาบาตและดาวเคราะห์น้อยในอวกาศที่อยู่รอบๆถูกทำลายด้วยแรงระเบิดที่น่ากลัวนั้น
พลังระดับนั้นเหนือกว่าสิ่งที่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนอื่นจะทำได้ มันไม่มีระดับเทพเจ้าคนไหนที่จะระเบิดร่างกายระดับเทพเจ้าตัวเองให้เป็นจุณได้แบบนั้น และมันก็ไม่มีระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนไหนที่จะใช้ร่างกายระดับเทพเจ้าของตัวเองไปกับการระเบิดเหมือนอย่างที่บาร์เพิ่งจะทำ
ความรุนแรงจากการระเบิดตัวเองของบาร์นั้นเทียบได้กับการโจมตีที่ทรงพลังของระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่น
การฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันเป็นอะไรที่ง่ายเหมือนกับการฆ่าสุนัขตัวหนึ่งอาจจะเป็นคำกล่าวที่เกินจริงไปหน่อย แต่พลังนั้นก็เป็นอะไรที่มีประสิทธิภาพมากพอจะจัดการกับระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟส่วนใหญ่ได้ มันไม่มีอะไรต้องสงสัยในเรื่องนั้น
“ว้าว! เจ้านี่บ้าเกินไปแล้ว เขาใช้ตัวเองเป็นเหมือนกับระเบิด” ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนหนึ่งพูดขึ้นว่า
ดวงอาทิตย์สีดำเป็นเหมือนกับปีศาจที่จะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง มันส่องสว่างในอวกาศเป็นเวลาห้าวินาทีก่อนที่มันจะเริ่มมัวลงไป คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของผู้คนที่มองดูการต่อสู้เต้นรัวๆ ถึงแม้พวกเขาจะแค่มองดูจากระยะไกล แต่มันก็ยังคงทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี
“ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเผ่าเดสทรอยเยอร์คนนี้น่ากลัวจริงๆ”
“แน่นอนอยู่แล้ว มันมีเหตุผลที่บาร์ถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะ ถึงแม้เขาจะใช้การอวยพรของหานเซิ่นเพื่อกลายเป็นระดับเทพเจ้า แต่ความสามารถของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคนที่วิวัฒนาการเป็นระดับเทพเจ้าด้วยตัวเอง บางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วย”
“ที่การโจมตีของเขาดูรุนแรงนั้นเป็นเพราะบาร์ระเบิดตัวเองได้ จริงๆแล้วพลังของเขาไม่ได้สูงไปกว่าระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนอื่น ระดับเทพเจ้าคนอื่นแค่ทำเหมือนกับไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่ได้มีร่างกายเหมือนกับของบาร์”
“ดอลลาร์นั้นโชคร้ายที่ต้องมาเจอกับบาร์ตั้งแต่รอบแรก ด้วยพลังโจมตีระดับนี้ ถึงเขาจะไม่ตาย แต่เขาก็จะบาดเจ็บจนสู้ต่อไม่ไหว”
“ข้าไม่คิดว่ามันจะมีโอกาสมากนักที่ดอลลาร์จะได้รับบาดเจ็บจนสู่ต่อไปไม่ได้ ถึงพลังในการระเบิดตัวเองของบาร์จะฆ่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันส่วนใหญ่ได้จริง แต่บางทีระดับพลังของดอลลาร์อาจจะสูงกว่าเขา”
“เป็นไปไม่ได้ ในการประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนเมื่อไม่กี่ปีก่อน ดอลลาร์เป็นเพียงแค่ระดับมาร์ควิสเท่านั้น การที่เขาจะพัฒนาจนถึงขั้นพริมิทีฟอย่างรวดเร็วนั้นก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวมากแล้ว ถ้าเขามีระดับที่สูงมากไปกว่านั้น มันก็จะเป็นอะไรที่บ้าเกินไป”
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ดวงอาทิตย์สีดำก็มัวลงไป เถ้าถ่านที่กระจัดกระจายเต็มท้องฟ้าเริ่มกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง มันประกอบตัวเป็นร่างกายของบาร์
“ร่างกายของเขาช่างเป็นอะไรที่ขี้โกง เขาระเบิดตัวเองเพื่อตายไปพร้อมกับศัตรู หลังจากนั้นเขาก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง มันเป็นบางสิ่งที่ทำให้เขาไร้เทียมทานต่อคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน” ระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงพูด
ในจังหวะที่เขาพูดจบ ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลก็ตกตะลึง ภายใต้แรงระเบิดที่น่ากลัวทุกสิ่งทุกอย่างถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นผุยผง แต่ที่จุดศูนย์กลางของแรงระเบิด ดอลลาร์ยังคงลอยนิ่งอยู่ มันดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว แม้แต่ชุดเกราะของเขาก็ไม่มีร่องรอยบุบสลาย
“นั่นเป็นไปได้ยังไง… เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ… เขาทำแบบนั้นได้ยังไง…” ทุกคนรู้สึกตกใจ
“เขาถูกการโจมตีที่น่ากลัวแบบนั้นเข้าไป แต่เขาไม่เป็นอะไรเลย นี่เขากลายเป็นขั้นทรานส์มิวเทชั่นแล้วอย่างนั้นหรอ?”
“ข้าไม่คิดว่านั่นจะเป็นไปได้ ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์มาก่อน แม้แต่เผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งสามก็เพิ่มระดับขึ้นรวดเร็วถึงขนาดนั้นไม่ได้ เขาเป็นแค่คนจากเผ่าพันธุ์เล็กๆที่ไม่มีใครรู้จัก เขาจะเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนั้นได้ยังไง?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะระดับพลังของเขา เจ้าคิดว่าเขาใช้วิชาจีโนพิเศษหรือสมบัติซีโน่เจเนอิคบางอย่างงั้นหรอ?”
ขณะที่ทุกคนพยายามจะคาดเดา พวกเขาก็ได้ยินบาร์หัวเราะราวกับคนบ้า
“ดอลลาร์ ข้ารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะเจ้า ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเรามาเริ่มกันเลย หลังจากนี้ข้าจะใช้พลังทั้งหมดของข้า”
หลังจากนั้นร่างกายของบาร์ก็ลุกโชนด้วยแสงที่ดูเหมือนกับเปลวเพลิงปีศาจ ร่างกายทั้งร่างของเขาเปลี่ยนเป็นเพลิงสีดำที่พุ่งตรงเข้าไปหาหานเซิ่น
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ร่างกายทั้งร่างของบาร์กลายเป็นระเบิดที่มีรูปร่างของมนุษย์ เขาพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลังระเบิดในตอนนี้รุนแรงและน่ากลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ และหลังจากที่เขาระเบิดตัวเอง บาร์ก็จะประกอบร่างของตัวเองขึ้นใหม่ในทันทีเพื่อโจมตีฆ่าตัวตายใส่หานเซิ่นอีกครั้ง
ทุกการโจมตีของเขาเป็นการระเบิดตัวเอง บาร์เป็นเหมือนกับปีศาจที่ไม่มีวันตาย การระเบิดตัวเองของเขาทำให้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าหลายๆคนปวดหัวจนอยากจะถลกหนังหัวของตัวเอง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจจริงๆนั้นคือความสามารถของดอลลาร์ พวกเขาเห็นดอลลาร์ยืนนิ่งอยู่ในอวกาศ เขาดูเหมือนกับเทพ เขาแค่ลอยตัวอยู่ตรงนั้นและไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เขาแค่แกว่งหมัดออกไปป้องกันการโจมตีของบาร์ มันไม่สำคัญว่าบาร์จะระเบิดตัวเองยังไง เขาก็ไม่สามารถทำร้ายอะไรดอลลาร์ได้
แรงระเบิดที่น่ากลัวของบาร์เป็นเหมือนกับดอกไม้ไฟที่งดงามแต่ไร้ประโยชน์ต่อหน้าหานเซิ่น มันไม่แม้แต่จะทำให้เขากระเด็นถอยไปด้านหลัง
“แข็งแกร่งเกินไป… ดอลลาร์แข็งแกร่งเกินไปแล้ว”
ผู้ชมหลายคนตื่นเต้นขณะที่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่สามารถบอกได้แค่ว่าดอลลาร์นั้นแข็งแกร่ง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าดอลลาร์นั้นแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกันแน่
“แปลกจริงๆ ดอลลาร์เพิ่มระดับขึ้นรวดเร็วขนาดนั้นได้ยังไง? ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นขั้นทรานส์มิวเทชั่นเป็นอย่างน้อย หรือบางทีระดับพลังของเขาอาจจะสูงยิ่งกว่านั้น”
ยอดฝีมือที่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นรู้ว่ามันมีความแตกต่างระหว่างระดับพลังของบาร์และดอลลาร์ ถ้าดอลลาร์ต้องการจะเอาชนะบาร์ มันก็เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเขา
“ดอลลาร์ พวกเรามาสะสางความแค้นกันในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนี้”
บนดวงดาวหนึ่งในแนร์โรว์มูน อี๋ซาจ้องไปที่การต่อสู้ของหานเซิ่นและบาร์ ดวงตาของเธอลุกโชนด้วยความปรารถนาที่จะต่อสู้ และใบหน้าของเธอก็ดูเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
อี๋ซาเข้าร่วมการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนด้วยเช่นกัน เธอดูสายการต่อสู้เรียบร้อยแล้ว และเธอก็จำเป็นต้องชนะการต่อสู้เพียงแค่สองครั้งเท่านั้น ในการประลองนัดที่สามของเธอ เธอจะได้ต่อสู้กับดอลลาร์
พระเจ้าที่อยู่ในสวนกำลังมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความสนใจ พระเจ้าดูเหมือนจะมีความสุขที่ได้มองดูการต่อสู้นี้
“มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย เราควรจะมอบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่านี้ให้กับเขา แต่ไม่ต้องกังวลไป การต่อสู้จะเป็นอะไรที่น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ”
พระเจ้านำเอาสมุดโน้ตออกมาดู ดูเหมือนว่าบนสมุดโน๊ตนั้นจะเป็นรายชื่อของนักสู้ทั้งหมด
“พวกเราจบกันแค่นี้” ตอนนี้หานเซิ่นได้เห็นวิชาที่บาร์คิดค้นขึ้นมาแล้ว มันเป็นอะไรที่ทรงพลัง แต่มันก็แค่เทียบได้กับวิชาเบรกซิกซ์สกายเท่านั้น มันไม่ได้เป็นอะไรที่ไร้เทียมทาน สิ่งเดียวที่ทำให้บาร์แข็งแกร่งก็คือร่างกายที่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะของเขา
หานเซิ่นไม่มีอารมณ์จะต่อสู้ไปมากกว่านี้ เขาชกหมัดออกไปใส่บาร์
บาร์ไม่คิดจะถอยออกไป เขาวิ่งเข้าไปหาหานเซิ่นพร้อมกับส่งเสียงคำราม มันไม่สำคัญว่าศัตรูของเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาจะไม่หวาดกลัว
แน่นอนว่าเหตุผลหลักนั้นเป็นเพราะเขามีร่างกายที่เป็นอมตะอยู่ ซึ่งหมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวความตาย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น