Super God Gene 2747-2753

ตอนที่ 2747

 

ตอนนี้เมื่อพวกเธอมีอนัตตา หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทจึงไม่มีเวลามาตามติดหานเซิ่น พวกเธอมีหน้าที่อื่นที่ต้องไปทำ และพวกเธอก็จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อฝึกอนัตตาในตอนนี้ขณะที่ความทรงจำยังคงสดใหม่อยู่


 


หานเซิ่นไม่ได้สนใจเกี่ยวกับอนัตตามากนัก ถึงแม้วิชาจีโนนั่นจะเป็นอะไรที่มหัศจรรย์ แต่สไตล์ของมันไม่เหมาะสมกับเขาอย่างมาก


 


หานเซิ่นเรียนรู้จิตใจของวิชาใต้นภาเรียบร้อยแล้ว และนั่นหมายความว่าเขาเดินบนวิถีทางที่ต่างไปจากอนัตตา เขาไม่คิดจะเปลี่ยนไปเดินบนวิถีทางของอนัตตา เขาแค่จะใช้สิ่งที่เรียนรู้จากอนัตตาเพื่อสำเร็จวิชาใต้นภา เมื่อเขาทำแบบนั้นจิตใจของวิชาใต้นภาของเขาก็จะเลื่อนไปสู่ขั้นต่อไป


 


“ยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าถูกกิน ยีนระดับเทพเจ้า+1”


 


เมื่อหานเซิ่นไม่ได้ถูกจับตามองโดยพวกเธอทั้งสอง เขาก็นำเอายีนซีโน่เจเนอิคที่เก็บเอาไว้ออกมา ตอนนี้เขาเป็นระดับเทพเจ้า ดังนั้นเขาสามารถดูดซับยีนของพวกมันเพื่อพัฒนาร่างกายของเขาได้


 


ตลอดหลายวันต่อมา หานเซิ่นไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น เขากินยีนซีโน่เจเนอิคทั้งหมดที่เก็บตุนเอาไว้ และในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับยี่สิบยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า


 


ทุกยีนระดับเทพเจ้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของหานเซิ่น ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน


 


‘ดูเหมือนว่าระดับเทพเจ้าจะเหมือนกับระดับอื่นๆ ถ้าเราเก็บยีนระดับเทพเจ้าครบหนึ่งร้อย ร่างกายของเราก็จะวิวัฒนาการ โชคดีที่ร่างของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวหนึ่งมอบยีนระดับเทพเจ้าให้ถึงสิบยีน มันควรจะไม่ยากจนเกินไปที่จะเก็บให้ครบหนึ่งร้อย เอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าป้วนเปี้ยนอยู่เป็นจำนวนมาก แบบนั้นในตอนนี้ทำไมเราต้องรออีก?’ หานเซิ่นคิดและรู้สึกตัวว่าไม่มีอะไรจะมาหยุดเขาจากการฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้


 


หานเซิ่นนำเอาแผนที่ของเอาท์เตอร์สกายออกมาและค้นคว้าเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่เขาอาจจะไปล่าได้ หลังจากนั้นเขาก็ทำการตัดสินใจและตรงไปที่ทะเลฝังมังกร


 


ตำนานกล่าวว่าเคยมีมังกรระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตตกลงไปใต้ทะเลนั่น ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าไปใกล้ทะเลฝังมังกร


 


นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นตัดสินใจจะไปที่ทะเลฝังมังกร ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ที่นั่นไม่มากนัก ดังนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยกว่าสถานที่ที่อื่น


 


หานเซิ่นคาดคิดว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวให้เป่าเอ๋อรอเขาอยู่ที่ต้นไม้ดารา แต่เขาพูดแค่ประโยคเดียวก่อนที่เป่าเอ๋อจะตอบตกลง นั่นทำให้หานเซิ่นประหลาดใจอย่างมาก เป่าเอ๋อไม่ยืนกรานจะไปที่ทะเลฝังมังกรกับเขา


 


หานเซิ่นมองไปที่แม็กแคกหกหูและสังเกตเห็นว่าใบหน้าของมันดูแย่มากๆ คอของมันหมกอยู่ระหว่างไหล่ที่ยกขึ้นสูงเหมือนกับว่ามันพยายามจะซ่อนตัวเองจากทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อเห็นแบบนั้นหานเซิ่นก็เข้าใจ ดูเหมือนเป่าเอ๋อจะพบของเล่นใหม่ของเธอ


 


หานเซิ่นปล่อยให้เป่าเอ๋ออยู่ดูแลต้นไม้ดาราในขณะที่เขาไม่อยู่ หลังจากที่เขาเตรียมตัวเสร็จแล้ว เขาก็ออกเดินทางไปที่ทะเลฝังมังกร


 


เมื่อหานเซิ่นไปถึง เขาก็เห็นผู้คนกำลังต่อสู้กันอยู่ เมื่อเขาเข้าไปใกล้ๆ เขาก็ได้เห็นว่าเธอคือองค์หญิงไป๋เวยของเอ็กซ์ตรีมคิง การได้เห็นเธอที่นี่ทำให้เขาตกใจอย่างมาก


 


เมื่อได้เห็นหานเซิ่น ไป๋เวยก็ไม่ได้พูดอะไร เธอยังคงต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคระดับครึ่งเทพต่อไป หลังจากที่เธอฆ่าซีโน่เจเนอิคได้แล้ว เธอยืนอยู่เหนือคลื่นทะเลและจ้องกลับมาที่หานเซิ่น


 


“องค์หญิงไป๋เวย ไม่ได้เจอกันซะนานเลย นี่องค์หญิงมาทำอะไรถึงที่นี่?” หานเซิ่นพูดพร้อมกับไอออกมา


 


ไป๋เวยเป็นคนที่พาหานเซิ่นไปที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง นั่นดูเหมือนกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ที่นั่นหานเซิ่นได้ฆ่าองค์ชายไป๋อี้และสวมรอยเป็นองค์ชายที่ตายไป เขาปล่อยให้ไป๋เวยเชื่อว่าไป๋อี้เป็นฝ่ายที่ฆ่าเขาเป็นเวลานาน ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้หานเซิ่นยังมีความสัมพันธ์ที่เลวร้ายกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง มันจึงเป็นอะไรที่น่าอึดอัดที่พวกเขาได้พบกันในตอนนี้


 


“เจ้าเป็นตัวไหมของเผ่าเวรี่ไฮได้ แต่ข้าเป็นไม่ได้หรือยังไง?” ไป๋เวยพูด


 


เมื่อได้ยินแบบนั้นหานเซิ่นก็เข้าใจ หลังจากที่จบการประลองระหว่างตัวไหม ตัวไหมบางคนก็คงจะถูกปล่อยไป และไป๋เวยก็คงจะถูกเลือกมาแทนที่


 


หานเซิ่นไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ครั้งหนึ่งพวกเขาเป็นพันธมิตรกัน แต่เขาได้ฆ่าพี่ชายของเธอและยังไปสร้างความบาดหมางกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอีก เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะปฏิบัติต่อกันยังไงในตอนนี้


 


“เจ้ามาที่นี่เพื่อล่าซีโน่เจเนอิคในทะเลฝังมังกร?” ไป๋เวยถามขึ้นมา


 


“นั่นก็ใช่” หานเซิ่นพยักหน้า


 


“ถ้าเจ้าไม่คิดจะสร้างปัญหาให้กับข้า แบบนั้นก็ไปด้วยกันเถอะ” ไป๋เวยพูด


 


หานเซิ่นแปลกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าไป๋เวยจะเสนอให้พวกเขาล่าซีโน่เจเนอิคร่วมกัน


 


“แต่ถ้าเจ้าไม่สะดวก แบบนั้นก็ช่างมันเถอะ” ไป๋เวยพูดเมื่อเห็นหานเซิ่นไม่ตอบกลับ เธอเตรียมตัวจะไปล่าซีโน่เจเนอิคตามลำพังต่อ


 


“ทำไมจะไม่สะดวก? การล่าซีโน่เจเนอิคร่วมกับองค์หญิงถือเป็นเกียรติอย่างที่สุด” หานเซิ่นรีบพูด


 


ครั้งหนึ่งไป๋เวยเคยพยายามช่วยเป่าเอ๋อ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงรู้สึกว่าตัวเองติดหนี้บุญคุณเธอ


 


“เรียกข้าว่าไป๋เวย” ไป๋เวยพูด เธอมองไปรอบๆและพูดต่อ


“ในบริเวณน้ำตื้นนี้มีซีโน่เจเนอิคอยู่ไม่มาก และซีโน่เจเนอิคที่เจ้าจะพบก็มีเป็นระดับต่ำ ถ้าเจ้าต้องการจะล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า เจ้าต้องเดินทางไปในส่วนลึกของทะเลเพื่อหาพวกมัน”


 


“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปสู่ทะเลลึกกัน” หานเซิ่นไม่ได้เป็นคนที่เก่งเรื่องการพูดคุย สถานการณ์แบบนี้จึงเป็นอะไรที่ยากสำหรับเขา เพราะเขายังคงรู้สึกผิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ เขาไม่แน่ใจว่าความสมพันธ์ของพวกเขาควรจะเป็นยังไง ด้วยเหตุนั้นพวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันขณะที่พวกเขาดำลงไปในทะเลลึก บรรยากาศเป็นอะไรที่น่าอึดอัด


 


พวกเขาเผชิญหน้ากับซีโน่เจเนอิคหลายตัวในทะเล และไป๋เวยก็ฆ่าพวกมันอย่างง่ายดาย ในตอนนี้เธอเป็นระดับครึ่งเทพ หมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิงที่เธอแสดงออกมานั้นถือว่าไม่เลวเลย


 


หลังจากที่ไป๋เวยจัดการกับแมงกะพรุนครึ่งเทพในหมัดเดียว หานเซิ่นก็อดไม่ได้ที่จะเอยชมเธอ


“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วขนาดนี้”


 


ไป๋เวยมองหานเซิ่นด้วยสายตาไร้ความรู้สึกและพูด


“เมื่อก่อนเจ้าระดับต่ำกว่าข้า แต่ตอนนี้เจ้าเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว ขณะที่ข้ายังเป็นแค่ระดับครึ่งเทพ เจ้าคิดจริๆงหรือว่านั่นหมายความว่าข้าพัฒนาอย่างรวดเร็ว?”


 


หานเซิ่นสัมผัสจมูกและไม่ได้พูดอะไรอีก


 


พวกเขาทั้งคู่ดำลงทะเลต่อไป และไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงก้นทะเล ที่นั่นพวกเขาพบสิ่งมีชีวิตประหลาดที่มีความยาวสิบเมตรลอยตัวอยู่เหนือพื้นทราย ร่างกายของมันแบบเรียบและมีสีน้ำเงิน


 


หางของมันเหมือนกับหางของกุ้งมังกร และมันมีก้ามเหมือนกับแมงป่อง อุ้งเท้าทั้งหกข้างของมันมีขนาดหลากหลาย


 


ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูเหมือนกับกุ้งหรือไม่ก็ปู บางส่วนของมันดูเหมือนกับแมงป่อง มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดมากๆ แต่โซ่สสารสีน้ำเงินลอยออกมาจากร่างกายของมัน เห็นได้ชัดว่ามันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า


 


เมื่อไม่มีเอ็กซ์ควิสิทหรือหลี่เคอเอ๋อ หานเซิ่นก็เปิดใช้ศาสตร์ตงเสวียนอย่างไม่ต้องกังวลอะไร เขาสัมผัสได้ว่าซีโน่เจเนอิคตัวนั้นเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมีทีฟ ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนที่เข้าไปหามันอย่างใจเย็น


 


แต่ก่อนที่หานเซิ่นและไป๋เวยจะเข้าไปใกล้ เจ้าซีโน่เจเนอิคก็สังเกตเห็นพวกเขา มันยกกล้ามปูขึ้นและโซ่สสารสีน้ำเงินก็ระเบิดออก พื้นที่แถบนั้นถูกย้อมด้วยสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งบดบังสัมผัสทั้งเจ็ดของหานเซิ่นและไป๋เวย พวกเขาไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่าซีโน่เจเนอิคนั่นอยู่ตรงไหน


 


หานเซิ่นขมวดคิ้วและเตรียมตัวจะใช้อาณาเขตตงเสวียน แต่ทันใดนั้นเขาสังเกตได้ถึงการสั่นไหวของร่างกายไป๋เวย พลังที่ปกป้องเธออยู่นั้นหายไป และเธอก็ร่วงลงไปที่ก้นทะเล


 


หานเซิ่นยื่นมือออกมาและดึงไป๋เวยเข้ามาหาตัว เขาอุ้มเธอเอาไว้และเห็นว่าผิวของเธอดูเป็นสีน้ำเงินหน่อยๆ มันใสเหมือนกับหยก เธอถูกการโจมตีเข้า

 

 

 


ตอนที่ 2748

 

 


“โซ่สสารธาตุพิษ?” หานเซิ่นมองไปที่ไป๋เวยและขมวดคิ้ว ผิวของเธอกลายเป็นสีน้ำเงินที่โปร่งใส และมันดูบอบบางราวกับไหม อาการของเธอดูแปลกมากๆ


 


น้ำรอบๆหานเซิ่นกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม และสีของมันก็เริ่มจะแทรกซึมผ่านโซ่สสารที่ปกป้องร่างกายของหานเซิ่นอยู่ สีน้ำเงินนั้นเข้ามาใกล้ร่างกายของหานเซิ่นราวกับกลุ่มควันสีน้ำเงิน


 


หานเซิ่นเปลี่ยนร่างกายเป็นหยกน้ำแข็ง เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นและทันใดนั้นโซ่สสสารหยกน้ำแข็งก็ทำให้น้ำรอบๆตัวเขาตกผลึก


 


เมื่อพิษถูกหยุดเรียบร้อยแล้ว หานเซิ่นก็หันความสนใจกลับมาที่ไป๋เวยและเรียกอิมมอร์ทัลดราก้อนออกมา

“มาดูกันสิว่าพลังของอิมมอร์ทัลดราก้อนจะรักษาร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากโซ่สสารพิษได้ไหม”


 


อิมมอร์ทัลรู้สึกถึงคำสั่งของหานเซิ่น และมันก็เปิดใช้พลังโซ่สสารของมัน แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องไปบนตัวของไป๋เวยและทำให้แก๊สพิษสีน้ำเงินรอบๆตัวเธอจางหายไป ไม่กี่วินาทีผิวของเธอก็กลับสู่ภาพปกติ


 


ไป๋เวยมองหานเซิ่นด้วยสายตาแปลกๆ แต่เธอไม่ได้พูดอะไร ดังนั้นหานเซิ่นจึงถามขึ้นว่า “เจ้าเป็นอะไรไหม?”


 


ไป๋เวยส่ายหัวและพูด “ไม่มีปัญหา ข้าไม่ได้เป็นอะไร”


 


หานเซิ่นรู้สึกวางใจมากขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น เขามองไปที่น้ำแข็งสีฟ้าทรงกลมรอบตัว หลังจากนั้นเขาก็ชกหมัดออกไปใส่มัน ในตอนที่หานเซิ่นสร้างน้ำแข็งขึ้นมา พลังน้ำแข็งของเขาได้ทำการแช่แข็งตามโซ่สสารพิษไปจนถึงตัวซีโน่เจเนอิค เมื่อเขาทำให้มันแตกกระจาย แรงจากหมัดของเขาก็ตามโซ่สสารที่ถูกแช่แข็งไปจนถึงต้นกำเนิดของพวกมัน ที่ปลายของเศษน้ำแข็งซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนกับแมงป่องนอนแน่นิ่งไป มันดูเหมือนกับรูปปั้นน้ำแข็ง


 


ไป๋เวยมองหานเซิ่นด้วยสายตาแปลกๆยิ่งกว่าเดิม ทั้งๆที่หานเซิ่นเป็นแค่คริสตัลไลเซอร์ แต่เขาก็สามารถแช่แข็งซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้ในหมัดเดียว พลังระดับนั้นถือว่าหาได้ยากแม้แต่ในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิง ยอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิงคงจะไม่สามารถทำแบบเดียวกันกับศัตรูที่อยู่ในระดับเดียวกันได้


 


หานเซิ่นเดินเข้าไปหาซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ถูกแช่แข็ง เขาชกกำปั้นออกไปข้างหน้าและทำลายหัวของเจ้าซีโน่เจเนอิคในหมัดเดียว ภายใต้พละกำลังจากหมัดของหานเซิ่น เปลือกที่ทนทานของซีโน่เจเนอิคก็อ่อนแอราวกับกระดาษทิชชู่เปียก


 


“ซีโน่เจเนอิคดีปบลูซีสกอร์เปี้ยนระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”

เสียงประกาศดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น


 


‘ดูเหมือนว่าการฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร แบบนี้การเก็บยีนระดับเทพเจ้าให้ครบหนึ่งร้อยคงจะเป็นเรื่องง่าย แต่ซีโน่เจเนอิคตัวนี้มีขนาดใหญ่เกินไป ถ้าเราจะกินเนื้อของมัน ถึงแม้เราจะใช้วิชาคอนซูม แต่กว่าจะกินหมดก็ต้องใช้เวลาหลายวันอยู่ดี’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ในจังหวะที่เขากำลังจะจับร่างของดีปบลูซีสกอร์เปี้ยนและลากมันไป มีบางสิ่งระเบิดจากน้ำที่ถูกแช่แข็งด้านหลังของดีปบลูซีสกอร์เปี้ยน ปากขนาดใหญ่มหึมาปรากฏขึ้นและกลืนร่างของดีปบลูซีสกอร์เปี้ยนเข้าไป


 


“โอ้ไม่นะ! นี่แกกล้าดียังไงมาแย่งของที่ฉันล่ามาได้!”

หานเซิ่นจ้องอย่างถมึงทึงไปที่ซีโน่เจเนอิคที่เพิ่งจะกลืนดีปบลูซีสกอร์เปี้ยนเข้าไป


 


ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูเหมือนกับปลาไหลไฟฟ้า ร่างกายของมันขาวราวกับหิมะและเกล็ดของมันก็เปล่งประกายราวกับเพชร ถึงแม้มันจะไม่ได้พยายามโจมตี แต่ร่างกายของมันก็ปะทุด้วยสายฟ้าที่ขาวเหมือนกับไหม


 


หลังจากที่ปลาไหลไฟฟ้ากลืนดีปบลูซีสกอร์เปี้ยนเข้าไป มันก็ยังไม่อิ่ม ดวงตาของมันจ้องตรงมาที่หานเซิ่นและไป๋เวย


 


วินาทีต่อมา เจ้าซีโน่เจเนอิคระเบิดด้วยสายฟ้า พลังสายฟ้าสีขาวพุ่งตรงเข้ามาทางพวกเขา หานเซิ่นตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขารวบรวมโซ่สสารที่กำเนิดจากกายหยกเพื่อตอบโต้สายฟ้านั้น


 


ปัง!


สายฟ้าถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง ในตอนที่มันชนเข้ากับการโจมตีโต้กลับของหานเซิ่น เส้นผมของหานเซิ่นตั้งตรงขณะที่เขาถูกช็อตจนดำไหม้เหมือนกับถ่าน


 


“เจ้าตัวนี้คงจะไม่ได้เป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่นหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นตกใจกับความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถเบี่ยงเบนพลังสายฟ้านั้นได้ เขารับรู้ว่าปลาไหลไฟฟ้าตัวนี้ต้องไม่ใช่แค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟธรรมดาๆ


 


หลังจากนั้นเจ้าปลาไหลไฟฟ้าก็ทำการโจมตีอีกครั้งด้วยกายปล่อยสายฟ้าที่เหมือนกับตาข่ายเข้าใส่หานเซิ่นและไป๋เวย


 


หานเซิ่นจับมือไป๋เวยและรีบเคลื่อนที่หลบ ขณะเดียวกันเขาก็ใช้ศาสตร์ตงเสวียนและชักมีดเขี้ยวดาบออกมา เขาใช้วิชาใต้นภาฟันใส่ปลาไหลไฟฟ้า


 


พลังที่หานเซิ่นปลดปล่อยออกมานั้นเพียงพอจะจัดการกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แต่สายฟ้าของเจ้าปลาไหลสามารถทำลายการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย หานเซิ่นขมวดคิ้วขณะที่เขาสงสัยว่าระดับพลังของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าคืออะไรกันแน่


 


ตูม!


สายฟ้าที่ดูเหมือนกับมาจากอวกาศพุ่งมาถูกตัวหานเซิ่น หานเซิ่นไม่มีเวลาจะหลบ และทั้งร่างกายของเขาก็ถูกช็อตด้วยสายฟ้า และในเสี้ยววินาทีนั้นมันก็ทำให้เขาเป็นอัมพาต ร่างกายของเขาร่วงลงไปสู่ที่ทะเล


 


ไป๋เวยอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่า ที่เธอรอดมาได้ก็เพราะว่าหานเซิ่นจับเธอเอาไว้ ร่างกายของเธอไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับหานเซิ่น ชุดเกราะของเธอถูกช็อตจนดำสนิทภายใต้พลังสายฟ้าของเจ้าปลาไหล หลังจากที่หานเซิ่นหายจากอาการอัมพาต เขาก็เทเลพอร์ตพาไป๋เวยหนีไป ชุดเกราะของเธอไม่สามารถทนต่อไปได้ มันแตกสลายกลายเป็นผุยผง


 


“อ้า!” ในตอนที่เธอฟื้นตัวจากความเป็นอัมพาต เธอสังเกตเห็นว่าชุดเกราะของเธอกลายเป็นผุยผง เธอกรีดร้องและหน้าแดง


 


หานเซิ่นไม่มีเวลาจะสนใจเธอ เขาใช้ก็อตส์วอนเดอร์เพื่อเทเลพอร์ออกไปจากทะเลฝังมังกร พวกเขากลับมาที่ชายฝั่ง


 


“เจ้ารออยู่ที่นี่ ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นแข็งแกร่งเกินไป ข้าไม่มั่นใจว่าจะฆ่ามันได้ ดังนั้นข้าจำเป็นต้องไปตามลำพัง” หานเซิ่นพูดก่อนที่จะใช้ก็อตส์วอนเดอร์เทเลพอร์ตกลับไปในทะเลลึก


 


ถึงแม้เขาจะรู้ว่าเจ้าปลาไหลไฟฟ้านั่นแข็งแกร่งมากๆ แต่มันกินเหยื่อที่เขาล่าได้เข้าไป หานเซิ่นไม่คิดจะปล่อยเรื่องนั้นไปง่ายๆ


 


เมื่อพวกหานเซิ่นหายตัวไป เจ้าปลาไหลไฟฟ้าก็เริ่มจะสำเร็จบริเวณรอบๆ ในตอนที่มันพบเขาอีกครั้ง มันก็ปลดปล่อยสายฟ้าออกมาในทันที มหาสมุทรของสายฟ้าพุ่งเข้าใส่หานเซิ่น


 


หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวและเลือดก็เข้าปกคลุมร่างกายของเขา ทำให้ผิวของเขาดูเหมือนกับเลือด ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ เขาดูเหมือนกับอสูรที่คลานออกมาจากขุมนรก


 


มันคือวิญญาณอสูรของเรดบลัดเดม่อน วิญญาณอสูรนั้นมีพลังปีศาจ และหลังจากที่ร่างกายของหานเซิ่นเปลี่ยนแปลง ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก


 


หานเซิ่นยังสวมเสื้อคลุมวิญญาณราชาขนนกอีกด้วย วิญญาณอสูรทั้งสองถูกใช้พร้อมกัน ซึ่งทำให้หานเซิ่นแข็งแกร่งขึ้นไปอีก เขารวบรวมพลังของกายหยกอีกครั้งและชกหมัดออกไปใส่พายุสายฟ้าที่เข้ามา


 


พลังของหานเซิ่นพุ่งออกไปและเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าให้กลายเป็นน้ำแข็ง แม้แต่สายฟ้าของเจ้าปลาไหลก็ถูกแช่แข็งไปด้วย


 


ในตอนที่เจ้าปลาไหลไฟฟ้าสังเกตเห็นว่าสายฟ้าของมันถูกแช่แข็ง มันก็โกรธขึ้นมา มันอ้าปากและปล่อยเสาแห่งสายฟ้าที่เหมือนกับออโรร่าออกมา น้ำแข็งถูกทำลายในทันที ดูเหมือนว่ามันไม่มีอะไรที่จะมาหยุดพลังสายฟ้าที่ชั่วร้ายนั้นได้


 


หานเซิ่นจ้องไปที่เสาแห่งสายฟ้าที่พุ่งเข้ามา เขารวบรวมพลังและชกหมัดออกไปข้างหน้าเพื่อปะทะกับพลังสายฟ้านั่นตรงๆ


 


ตูม!


น้ำทะเลระเบิดในจุดที่พลังทั้งสองปะทะกัน และก่อให้เกิดสูญญากาศในทะเล แต่สายฟ้าของเจ้าปลาไหลไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น พลังกายหยกของหานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดสายฟ้าได้


 


‘โอ้ ไม่นะ! มันต้องมีบางสิ่งแปลกประหลาดเกี่ยวกับสายฟ้าของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าตัวนี้’ หานเซิ่นคิด พลังสายฟ้าปกติไม่ควรจะผ่านมาถึงตัวเขาได้แบบนี้


ตอนที่ 2749 ไล่ตาม


 


ปลาไหลไฟฟ้าไม่ปล่อยให้หานเซิ่นมีโอกาสได้คิด มันยังคงพ่นสายฟ้าออกมา และเมื่อไหร่ก็ตามที่หานเซิ่นเห็นมันอ้าปาก สายฟ้าลูกใหม่ก็จะพุ่งออกมาใส่เขา


 


หานเซิ่นกัดฟันและยกโล่เมดูซ่าส์เกซขึ้นตรงหน้าตัวเอง มันป้องกันสายฟ้าที่กำลังจะถูกร่างกายของเขา


 


แต่หานเซิ่นประเมินความน่ากลัวของสายฟ้านั่นต่ำเกินไป สายฟ้านั่นไม่สามารถทำอะไรโล่เมดูซ่าส์เกซได้ก็จริง แต่ในตอนที่สายฟ้าระเบิด มันปลดปล่อยตาข่ายไฟฟ้าไปถึงตัวหานเซิ่นที่ซ่อนอยู่ด้านหลังโล่


 


ถ้าหานเซิ่นใช้พลังของโล่เมดูซ่าส์เกซได้ เขาก็จะสามารถเปิดใช้การป้องกันที่แท้จริงของมันได้ แต่ตอนนี้หานเซิ่นใช้มันเหมือนกับชิ้นโลหะธรรมดาชิ้นหนึ่ง เขาไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงของมันได้ เขาสามารถป้องกันได้แค่พลังที่เข้ามาจากด้านหน้าเท่านั้น


 


สายฟ้าช็อตร่างกายของหานเซิ่นอีกครั้ง และทำให้ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรงยิ่งกว่าคนที่มีอาการชักกระตุก


 


“เรานี่โชคร้ายจริงๆ” หานเซิ่นส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดขณะที่ยังคงชักกระตุกต่อไป ปลาไหลไฟฟ้านั้นเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง หานเซิ่นแทบจะไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนกับเจ้าปลาไหลได้ ถึงแม้เขาจะใช้ทุกอย่างต่อสู้กับมัน พลังสายฟ้าของมันดูจะเพิกเฉยต่อการโจมตีและการป้องกันของเขา ถึงแม้มันจะไม่สามารถฆ่าเขาได้ แต่มันก็ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส และมันยังลดความสามารถในการต่อสู้ของเขาลงไปอย่างมาก


 


เจ้าปลาไหลไฟฟ้าดูเหมือนจะรู้ว่าการโจมตีของมันได้ผลกับหานเซิ่น ดังนั้นมันจึงระดุมปล่อยลูกสายฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่อง หานเซิ่นไม่สามารถป้องกันสายฟ้านั่น และเขาก็ไม่สามารถหลบหลีกมันได้เช่นกัน ดังนั้นเขาทำได้แค่ใช้โล่ป้องกันสายฟ้าที่พุ่งเข้ามา ซึ่งทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น เขาก็จะถูกไฟฟ้าช็อตจนชักกระตุกอย่างรุนแรง มันเหมือนกับว่าร่างกายของเขาติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำให้ร่างกายของเขาสั่นไหวอย่างรวดเร็ว


 


‘เพียงแค่ฉันเก็บอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ นี่แกคิดว่าแกจะปฏิบัติกับฉันเหมือนกับแมวเหมียวทั้งที่จริงๆแล้วฉันเป็นเสือได้อย่างนั้นหรอ?’

หานเซิ่นคิดอย่างเกรี้ยวโกรธ หลังจากนั้นเขาก็เรียกชุดเกราะมนตราออกมาและใช้พลังในการแช่แข็งของอิเทอนิตี้ใส่ตัวเอง


 


ปัง!


สายฟ้าอีกลูกพุ่งมาถูกโล่เมดูซ่าส์เกซและระเบิดออกมาถูกตัวของหานเซิ่นที่อยู่ด้านหลังโล่ แต่ครั้งนี้สายฟ้าไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้ หานเซิ่นใช้พลังแช่แข็งของอิเทอนิตี้เพื่อทำให้ชุดเกราะมนตราและร่างกายของเขาไม่ได้รับผลต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ สายฟ้าของเจ้าปลาไหลไม่สามารถแพร่กระจายผ่านชุดเกราะและเนื้อหนังของเขาได้ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ทำให้ร่างกายของเขาเป็นอัมพาต


 


“ตอนนี้ถึงตาของฉันบ้าง” หานเซิ่นยกโล่และมีดเขี้ยวผีสิงขึ้น เขาดันสายฟ้าของปลาไหลไฟฟ้ากลับไปพร้อมกับเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อหาโอกาสจู่โจมศัตรู


 


พลังของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าแข็งแกร่งกว่าหานเซิ่น แต่โชคดีที่โล่เมดูซ่าส์เกซของหานเซิ่นนั้นรับการโจมตีส่วนใหญ่เอาไว้ สายฟ้าที่ระเบิดออกมานั้นไม่สามารถทำร้ายอะไรหานเซิ่นที่ยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของอิเทอนิตี้ได้


 


มีดลมปราณของหานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรปลาไหลไฟฟ้าได้ เจ้าปลาไหลไฟฟ้าทำลายพวกมันทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ผู้ชายและปลาไหลดูเหมือนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เอาชนะกันไม่ได้ หนึ่งในพวกเขากำลังมองหาโอกาสที่จะใช้มีดแสง ขณะที่อีกฝ่ายพ่นสายฟ้าออกมานับไม่ถ้วน พวกเขาทำให้ท้องทะเลรอบๆปั่นป่วนจนเกิดเป็นวังวนที่รุนแรง


 


ปัง!


หานเซิ่นป้องกันสายฟ้าที่กระหน่ำโจมตีเข้ามาอีกชุดหนึ่งด้วยโล่ และแรงกระแทกก็ส่งร่างกายของเขากระเด็นกลับไปด้านหลังสิบเมตร นี่เป็นครั้งหนึ่งร้อยที่หานเซิ่นถูกผลักไปด้านหลัง


 


‘ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องหามีดระดับเทพเจ้าสักเล่ม มีดเขี้ยวผีสิงนั้นเป็นแค่ระดับราชัน เห็นได้ชัดว่ามันไม่แข็งแรงพอกับระดับของเราในตอนนี้’ หานเซิ่นคิดอย่างเศร้าใจเมื่อเขาเห็นรอยร้าวที่เกิดขึ้นบนใบมีดของมีดเขี้ยวผีสิง


 


หานเซิ่นใช้มีดเล่มนี้มาเป็นเวลายาวนาน ดังนั้นมันน่าเศร้าที่ต้องเห็นมันแตกร้าวแบบนี้


 


“อ้า!” หานเซิ่นร้องตะโกน เขาแทงมีดเขี้ยวผีสิงไปข้างหน้าและปลดปล่อยมีดแสงไปห้อมล้อมพื้นที่ทั้งหมด มีดแสงหลั่งไหลมาบรรจบกันเป็นสายธารของมีดแสงที่ตรงเข้าไปหาปลาไหลไฟฟ้า


 


โซ่สสารของปลาไหลไฟฟ้าระเบิดออกจากร่างกายของมันเป็นตาข่ายสายฟ้า สายธารที่ไม่มีที่สิน้สุดของมีดแสงนั้นเป็นเหมือนกับอุทกภัยที่ไหลเข้าท่วม และหลังจากที่ปะทะกันอยู่สักพัก ในที่สุดมีดแสงก็ทะลุผ่านตาข่ายสายฟ้าไฟไปถูกเกล็ดของเจ้าปลาไหล


 


มีดแสงนับไม่ถ้วนของหานเซิ่นเข้าจู่โจมปลาไหลฟ้าฟ้าราวกับพายุลูกเห็บ ทุกการกระแทกก่อให้เกิดเสียงแหลมของโลหะ และหลังจากที่ทนรับมีดแสงนับพัน ในที่สุดเกล็ดของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าก็มีเลือดไหลออกมา


 


เจ้าปลาไหลไฟฟ้าส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นสายฟ้าขณะที่มันเคลื่อนที่หนีไป หานเซิ่นหยุดชะงักไปชั่วครู่ด้วยความตกตะลึงกับความเร็วของเจ้าปลาไหล แม้แต่ปีกอะพอลโลของเขาก็ไม่สามารถไล่ตามเจ้าปลาไหลได้ทัน


 


“นี่แกคิดจะหนีอย่างนั้นหรอ? การหนีจากฉันไม่ใช่เรื่องง่าย แกกินเหยื่อของฉันไป ไม่ว่ายังไงแกต้องชดใช้” หานเซิ่นใช้วิชาเทเลพอร์ตและรีบตามมันไป


 


พลังสายฟ้าของเจ้าปลาไหลไฟฟ้านั้นรวดเร็วมากจนความสามารถในการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นเกือบจะไล่ตามมันไม่ทัน เขาไม่สามารถลดระยะห่างลงได้


 


“มาดูกันสิว่าแกจะทำแบบนั้นได้นานสักแค่ไหน” หานเซิ่นพึมพำด้วยความโกรธ เขาเรียกชุดเกราะตงเสวียนออกมาแทนชุดเกราะมนตรา ชุดเกราะตงเสวียนนั้นเชื่อมต่อกับจักรวาล ซึ่งทำให้เขาสามารถดึงพลังจากจักรวาลมาใช้ได้ นั่นหมายความว่าพลังงานของหานเซิ่นเรียกได้ว่ามีไม่จำกัด เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานมากเกินไป เขาสามารถใช้การเทเลพอร์ตได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเหนื่อยล้า


 


หลังจากที่ศาสตร์ตงเสวียนกลายเป็นระดับเทพเจ้า พลังงานที่เขาได้จากจักรวาลก็สูงขึ้นกว่าเดิม ตราบใดเขาสวมใส่ชุดเกราะตรงเสวียน ร่างกายของเขาก็เหมือนกับมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีแก๊สอยู่ไม่จำกัด เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะใช้พลังไปมากขนาดไหน แม้แต่ระดับเทพเจ้าขั้นสูงที่แข็งแกร่งกว่าหานเซิ่นก็อาจจะพ่ายแพ้ถ้าการต่อสู้ยืดเยื้อจนผลแพ้ชนะถูกตัดสินกันด้วยพลังงานที่มีอยู่


 


ปลาไหลนั้นไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้ ดังนั้นมันพยายามจะใช้พลังสายฟ้าเพื่อว่ายไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และหลังจากที่หานเซิ่นไล่ตามมันอยู่ครึ่งวัน เขาก็สัมผัสได้ว่าเจ้าปลาไหลเริ่มจะเคลื่อนที่ช้าลง


 


‘แกจะหนีไปได้อีกนานสักแค่ไหนกัน ถึงแม้แกจะหนีไปได้อีกสามวัน ฉันก็ยังไล่ตามแกได้ทัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันไล่ตามศัตรูที่พยายามวิ่งหนี’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองด้วยความรู้สึกอวดดี


 


ขณะที่เขากำลังคิด เขาก็เห็นป่าปะการังอยู่ด้านหน้า ป่าปะการังมีสีเลือดที่ดูโอ่อ่าและสวยงาม ปะการังทั้งหมดสูงสิบเมตรและเรืองแสงอ่อนๆออกมา เจ้าปลาไหลไฟฟ้าหายตัวเข้าไปในป่าปะการังใต้น้ำนั่น


 


“แกคิดว่าเมื่อแกหนีไปซ่อนตัวในนั้น ฉันจะหาตัวแกไม่เจออย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นเบะปากด้วยความเย้ยหยัน เขาใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อค้นหาทั่วทั้งป่าปะการัง


 


หลังจากที่ศาสตร์ตงเสวียนเลื่อนสู่ระดับเทพเจ้า รัศมีอาณาเขตของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ในตอนนี้เขาสามารถสัมผัสทั่วป่าปะการังโลหิตที่กว้างหลายหมื่นไมล์ได้


 


ด้วยระยะการค้นหาที่กว้างขนาดนั้น หานเซิ่นมั่นใจว่าจะค้นหาได้แม้แต่ปลามีนโนตัวเล็ก เจ้าปลาไหลไฟฟ้าตัวใหญ่นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง


 


ในตอนที่อาณาเขตของหานเซิ่นครอบคลุมทั้งป่าปะการังโลหิต เขาก็รู้สึกแปลกใจ อาณาเขตของเขาดูเหมือนจะไม่สามารถเจาะทะลวงเข้าไปในป่าปะการังโลหิตได้


 


“แปลกจริงๆ อาณาเขตตงเสวียนของเราค้นหาเจ้าปลาไหลในปะการังโลหิตไม่ได้? ปะการังนั้นไม่น่าจะเป็นอะไรที่พิเศษไปได้ ป่านั้นใหญ่โตซะขนาดนี้ ดังนั้นปะการังแต่ละชิ้นก็ต้องมีค่าน้อยกว่าหัวของกำหล่ำปลี” หานเซิ่นมองไปที่ป่าปะการังโลหิตด้วยความแปลกใจ



 

 

 


ตอนที่ 2750

 

อาณาเขตตงเสวียนไม่สามารถเปิดเผยสิ่งที่อยู่ภายในป่าปะการังได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงลังเลขึ้นมาว่าจะไล่ตามปลาไหลไฟฟ้าเข้าไปในนั้นดีไหม แต่เขาก็ไม่อยากจะปล่อยมันไปเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะลงไปในป่าปะการัง


 


‘ถ้าปลาไหลฟ้าฟ้าเข้าไปภายในนั้นได้ แบบนั้นทำไมเราจะเข้าไปไม่ได้?’ หานเซิ่นคิด เขาตั้งใจจะฆ่าเจ้าปลาไหลไฟฟ้านั่นให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม


 


หลังจากที่เตรียมตัวพร้อมแล้ว หานเซิ่นก็เข้าไปในป่าปะการัง ซึ่งหลังจากที่เข้าไปข้างใน ประสิทธิภาพของอาณาเขตตงเสวียนของเขาก็ลดลงอย่างมาก เขาไม่สามารถสัมผัสถึงอะไรได้นอกจากปะการังโลหิตรอบๆตัว


 


ปะการังโลหิตเป็นเหมือนกับเครื่องรบกวนสัญญา มันหยุดพลังของหานเซิ่นจากสัมผัสรอบๆตัว


 


หานเซิ่นเดินหน้าต่อไปขณะที่สังเกตปะการังโลหิตรอบๆอย่างระมัดระวัง ปะการังโลหิตนั้นดูเหมือนกับปะการังทั่วไป แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พลังอาณาเขตตงเสวียนของหานเซิ่นไม่สามารถเข้าใกล้มันได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูไม่เหมือนว่าปะการังโลหิตพวกนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิต


 


ถ้าพวกมันเป็นแค่ปะการังธรรมดาๆ แบบนั้นฝูงของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กก็ควรจะมาสร้างบ้านภายในนั้น แต่น่าแปลกที่หานเซิ่นยังไม่พบสิ่งมีชีวิตอะไรเลย ทั้งๆที่เขาเข้ามาในป่าปะการังโลหิตนี้ได้สักพักหนึ่งแล้ว


 


“ที่นี่แปลกจริงๆ เราหาซีโน่เจเนอิคไม่เจอแม้แต่ตัวเดียว ที่นี่เป็นรังของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัยกับตัวเอง


 


ป่าปะการังโลหิตมีความกว้างราวหมื่นไมล์ ดังนั้นมันไม่ได้ใหญ่จนเกินไป หานเซิ่นเดินทางเพียงไม่นานเขาก็สำรวจมันได้กว่าครึ่ง แต่เขายังคงหาเจ้าปลาไหลไฟฟ้าไม่เจอ จริงๆแล้วเขาไม่พบอะไรเลยสักอย่าง ป่าปะการังแห่งนี้เป็นเหมือนกับเขตมรณะที่เงียบสงบและไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต


 


ขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทันใดนั้นเขาก็เห็นแสงส่องออกมาจากภายในป่าปะการังโลหิต มันดูเหมือนกับพระอาทิตย์ที่เพิ่งจะขึ้นจากขอบฟ้าในรุ่งเช้า มันเป็นสีแดงแต่มันไม่ได้ส่องสว่างอะไรนัก มันแค่เรืองแสงเล็กน้อยราวกับโลหะร้อนๆ


 


“นั่นมันอะไร?” หานเซิ่นเห็นแสงนั่น แต่เนื่องจากปะการังโลหิต เขาไม่สามารถบอกได้ว่าแสงนั่นเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่


 


ในเมื่อหานเซิ่นเพิ่งจะเข้ามาในป่าปะการังโลหิต และเขายังคงหาเจ้าปลาไหลไฟฟ้าไม่เจอ เขาจึงยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ เขาจำเป็นต้องทำการสำรวจต่อไป


 


ขณะที่หานเซิ่นค่อยๆเข้าไปใกล้แสงที่ส่องมา แสงนั่นก็เริ่มจะดูสว่างขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดหานเซิ่นก็ค้นพบถึงแหล่งที่มาของแสงสว่างนั่น


 


มันเป็นชิ้นของปะการังโลหิตที่ปลดปล่อยแสงสีแดงออกมา แต่ทว่าปะการังโลหิตนี้ดูแตกต่างจากปะการังโลหิตอื่น


 


มันมีขนาดเล็กกว่าปะการังอื่นๆมาก โดยมีความสูงแค่สามถึงสี่เมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับปะการังโลหิตอื่นที่สูงถึงสิบเมตรแล้ว ปะการังโลหิตนี่ดูกระจิริดไปเลย


 


สีของมันยังเข้มยิ่งกว่าปะการังโลหิตอื่นอีกด้วย สีของมันดูเร้นลับและปลดปล่อยแสงสีแดงออกมา ชิ้นของปะการังทั้งชิ้นนี้ดูเหมือนจะเรืองแสง


 


นอกจากนั้นปะการังโลหิตนี่ยังมีรูปร่างที่แปลกประหลาด แทนที่จะมีกิ่งก้านมากมายเหมือนกับปะการังอื่นๆ ปะการังโลหิตนี่มีแค่กิ่งก้านเล็กๆไม่กี่กิ่ง และก้านหลักของมันก็ยังบิดเบี้ยวอีกด้วย


 


“ปะการังโลหิตนี่ ทำไมมันถึงได้ดูเหมือนกับ…เหมือนกับมังกร…”

หานเซิ่นมองไปที่ปะการังโลหิตขณะที่ความคิดนั้นแว็บเข้ามาในหัวของเขา


 


รูปร่างของปะการังนั้นคดเคี้ยวคล้ายงู มันดูเหมือนกับมังกรจีนที่บินอยู่ในหมู่เมฆ รูปร่างของมันบ่งบอกว่ามันต้องการจะทะยานไปให้สูงยิ่งกว่านี้ แต่มันเป็นเพียงแค่ชิ้นปะการัง ถึงอย่างนั้นมันก็ให้ความารู้สึกที่ประหลาดราวกับว่ามันกำลังจะเป็นอิสระจากผืนดินและบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า


 


‘แปลกจริงๆ ปะการังสีแดงประหลาดนี้คืออะไรกัน? มันดูมหัศจรรย์มากๆ แต่ดูไม่เหมือนว่ามันจะมีชีวิต…’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


หานเซิ่นอยู่ห่างจากไปจากปะการังประหลาดนั้นพอสมควรและพยายามจะตัดสินใจว่าควรเข้าไปใกล้มันดีหรือไม่ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประหลาด


 


วา-ลา-ลา! วา-ลา-ลา!


หานเซิ่นหันมองไปทางที่เสียงดังขึ้นมา และเขาก็เห็นป่าปะการังโลหิตสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เห็นปลาไหลไฟฟ้าโผล่ออกมาจากปะการัง


 


เนื่องจากร่างกายของมันใหญ่โตเกินไป ในตอนที่มันเคลื่อนที่ระหว่างปะการังโลหิต ร่างกายของมันจึงไปถูกับปะการัง


 


แต่ปะการังโลหิตไม่ได้ล้มหรือหัก เนื่องจากการเคลื่อนที่ของปลาไหลไฟฟ้า ความจริงแล้วขอบที่แหลมคมของปะการังเฉือนเข้าไปในผิวของเจ้าปลาไหล ทำให้เกิดเป็นบาดแผลเล็กๆมากมาย


 


แต่เจ้าปลาไหลไฟฟ้าดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับบาดแผลที่มันได้รับ มันยังคงฝ่าดงปะการังเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็มาถึงตรงหน้าปะการังประหลาดที่ดูเหมือนกับมังกร


 


ในตอนที่มันอยู่ห่างจากปะการังประหลาดนั่นไปเพียงแค่สิบเมตร เจ้าปลาไหลก็หยุดเคลื่อนที่ ดวงตาของมันจ้องไปที่ปะการังโลหิตตรงหน้าอย่างขะมักเขม้น มันไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลาสักพัก


 


“ดูเหมือนว่าพลังในการสัมผัสสิ่งรอบๆตัวของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าจะถูกลดลงไปด้วยเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะรู้สึกตัวว่าเราอยู่ใกล้มัน”

หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่ด้านหลังปะการังขนาดใหญ่โดยที่เอนตัวออกมาด้านข้างเพื่อดูว่าเจ้าปลาไหลกำลังจะทำอะไร


 


ปลาไหลไฟฟ้ามองไปที่ปะการังโลหิตประหลาดอยู่สักพัก ที่สุดแล้วมันก็ค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปหาปะการัง มันอ้าปากกว้างและกลืนปะการังโลหิตประหลาดเข้าไป


 


ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนหานเซิ่นไม่มีเวลาตอบสนองได้ทัน ในตอนที่เขาเห็นปลาไหลไฟฟ้ากินปะการังโลหิตนั่นเข้าไป เขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันที


 


“ดูเหมือนว่าชิ้นปะการังโลหิตนั่นจะเป็นของดี ถ้ารู้แบบนั้น เราก็คงจะเอามันไปตั้งแต่แรก” ทันใดนั้นอีกความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหานเซิ่น


 


“นี่คือทะเลฝังมังกร ตำนานบอกว่ามังกรระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตตัวหนึ่งได้มาตายที่นี่ ปะการังโลหิตนั้นคงจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับมังกรขั้นทรูก็อตตัวนั้นหรอกใช่ไหม? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เราก็พลาดบางสิ่งที่ล้ำค่ามากๆไป”


 


ขณะที่หานเซิ่นกำลังเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง เขาก็เห็นปลาไหลไฟฟ้าเริ่มจะชักกระตุกและดิ้นไปดิ้นมา


 


ร่างกายของมันปะทุด้วยสายฟ้า แต่ในตอนที่สายฟ้าสัมผัสกับปะการังโลหิตที่อยู่ใกล้เคียง พวกมันก็ดับไป พวกมันไม่แม้แต่จะทิ้งรอยไหม้เอาไว้บนปะการังโลหิต


 


“ปะการังพวกนี้ทรงพลังจริงๆ! แม้แต่พลังสายฟ้าของเจ้าปลาไหลนั่นก็สร้างความเสียหายกับพวกมันไม่ได้หรอเนี่ย? ปะการังโลหิตพวกนี้ดูเหมือนจะแข็งแรงยิ่งกว่าสมบัติระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟซะอีก… และป่านี่มีปะการังอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเรานำพวกมันทั้งหมดกลับไปและใช้พวกมันเพื่อสร้างปราสาทขึ้นมา มันก็จะเป็นปราสาทที่ป้องกันได้แม้แต่การบุกรุกของยอดฝีมือระดับเทพเจ้า”

หานเซิ่นเริ่มจะน้ำลายไหลขณะที่เขาคิดแบบนั้น เขามองไปที่ปะการังโลหิตด้วยตัณหา เขาเริ่มจะคิดแผนการที่จะเอาปะการังโลหิตพวกนี้กลับไป ในตอนที่เขามีซีโน่เจเนอิคสเปชเป็นของตัวเอง เขาก็จะใช้พวกมันเพื่อสร้างปราการขึ้นมา


 


ขณะเดียวกันปลาไหลไฟฟ้าดูเหมือนจะกำลังอยู่ในความเจ็บปวด ร่างกายของมันบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่หางของมันฟาดใส่พื้นทรายซ้ำๆจนเกินเป็นหลุมขนาดใหญ่ เกล็ดที่เหมือนกับเพชรของมันเริ่มจะกลายเป็นสีแดง ดูเหมือนกับว่าเส้นเลือดทั้งหมดของเจ้าปลาไหลกำลังจะแตกและเลือดก็ย้อมผิวของมัน


 


“นี่มันอะไรกัน?” หานเซิ่นไม่ได้เสียเวลามองดูปลาไหลไฟฟ้าดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด การดิ้นรนของมันได้เปิดรูบริเวณที่ปะการังโลหิตประหลาดนั่นเคยอยู่ และในรูนั่นดูเหมือนจะไร้ซึ่งเม็ดทราย แต่ทว่ามันมีบางสิ่งกำลังเรืองแสงสีแดงออกมา

 

 

 


ตอนที่ 2751

 

วัตถุเรืองแสงในรูนั้นดูคล้ายคลึงกับปะการังประหลาดที่เจ้าปลาไหลเพิ่งจะกินเข้าไป มันดูเป็นสีแดงและเรืองแสงสีเลือดอ่อนๆ แต่หานเซิ่นบอกได้ว่ามันไม่ใช่ปะการังเดียวกับที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ ผิวของมันดูเรียบเนียนและมันเงาเหมือนกับกระจก หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร แต่จินตนาการของมนุษย์เป็นอะไรที่ค่อยข้างมหัศจรรย์ ดังนั้นในตอนที่เขาเห็นวัตถุที่เรืองแสงนั่น เขาก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา

“ไม่ว่าจะมองดูจากมุมไหน สิ่งนี้ก็ดูเหมือนกับเกล็ดของมังกรยักษ์ นี่คงจะไม่ได้เป็นร่างของมังกรระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตในตำนานนั่นหรอกใช่ไหม?”


 


หลังจากที่ปลาไหลไฟฟ้ากินปะการังโลหิตเข้าไป มันยังคงดิ้นไปดิ้นมา ขณะที่ร่างกายของมันแดงขึ้นเรื่อยๆ


 


“ฉันจะฆ่าแก ขณะที่แกยังคงตกอยู่ในความเจ็บปวด! นี่ถือเป็นโอกาสดี”

หานเซิ่นไม่ลังเลอีกต่อไป ขณะที่ปลาไหลไฟฟ้ายังคงดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด หานเซิ่นเริ่มรวบรวมพลังโดยใช้มีดเขี้ยวผีสิง เขาเทเลพอร์ตไปด้านข้างของปลาไหลไฟฟ้าและฟันออกไปใส่ท้องของมัน


 


ปลาไหลไฟฟ้าตกอยู่ในความเจ็บปวด และมันไม่มีโอกาสที่จะป้องกันตัวเองได้ หานเซิ่นใช้มีดแทงใส่ท้องของเจ้าปลาไหล แต่ใบมีดนั้นทำได้แค่ทิ้งรอยบางๆเอาไว้บนเกล็ดสีแดงของมัน ขณะเดียวกันเจ้าปลาไหลก็ยังคงดิ้นไปมาอย่างรุนแรง


 


หานเซิ่นยกโล่ขึ้นเพื่อป้องกันตัวเองขณะที่ใช้มีดแทงใส่เจ้าปลาไหลอีกหลายครั้ง เขาตัดบาดแผลเล็กๆบนหน้าท้องของมันสำเร็จ แต่หางของเจ้าปลาไหลฟาดมาถูกโล่ของหานเซิ่นและส่งเขากระเด็นออกไป


 


ในตอนที่หานเซิ่นเทเลพอร์ตกลับมา บาดแผลที่เขาสร้างเอาไว้ก็ฟื้นตัวเรียบร้อยแล้ว


 


‘ในตอนนี้มีดเขี้ยวผีสิงไม่มีประโยชน์แล้วจริงๆ เราจำเป็นต้องหามีดระดับเทพเจ้าสักเล่มหนึ่งมา บุดด้านั้นขโมยมีดเปล่าของเราไป และมันก็เพิ่งจะถูกนำไปทำเป็นสมบัติระดับเทพเจ้า ถ้าเรามีโอกาส เราก็ควรจะไปเอามีดเปล่ากลับคืนมา’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ตอนนี้มีดเขี้ยวผีสิงไม่มีประโยชน์กับเขาอีกต่อไปแล้ว


 


ตอนนี้เมื่อปลาไหลไฟฟ้ากินปะการังโลหิตเข้าไป ร่างกายของมันก็แข็งแรงยิ่งกว่าเดิม และพลังในการฟื้นตัวของมันก็เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย แม้แต่พลังเขี้ยวของมีดเขี้ยวผีสิงก็ไม่สามารถหยุดบาดแผลจากการฟื้นตัวได้


 


ปลาไหลไฟฟ้ายังคงดิ้นไปดิ้นมากับพื้นและไม่มีเวลาจะมาจัดการกับหานเซิ่น


 


‘ถ้าเราปล่อยให้มันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในภายหลังเราก็จะไม่มีโอกาสฆ่ามันได้’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว คลื่นของพลังประหลาดก็เริ่มออกมาจากร่างกายของเขา


 


ร่างกายของหานเซิ่นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยปกติแล้วชุดเกราะตงเสวียนและชุดเกราะมนตราไม่สามารถถูกใช้งานในเวลาเดียวกันได้ แต่ทว่าในตอนที่หานเซิ่นและมนตรารวมร่างกัน มันไม่ใช่แค่พลังสองพลังเท่านั้นที่รวมกันเป็นหนึ่ง วิชาโลหิตชีพจรและกายหยกเองก็เข้ามารวมด้วยเช่นกัน


 


พลังทั้งสี่ถูกรวมเข้าด้วยกันในรูปแบบพิเศษ และสร้างความเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานทั่วร่างกายหานเซิ่น ตอนนี้เขาปลดปล่อยออร่าที่เหมือนกับซีโน่เจเนอิค ร่างกายของเขาดูเหมือนกับร่างมืดของปีศาจที่เหี้ยมโหด


 


มันเป็นการรวมกันระหว่างเย็นชาและความเร้าร้อน ความศักดิ์สิทธิ์และความชั่วร้าย ความแปลกประหลาดและความสวยงาม มันแตกต่างไปจากที่หานเซิ่นเป็นปกติโดยสิ้นเชิง


 


ในจังหวะนั้นหานเซิ่นไม่ได้ดูเหมือนกับมนุษย์คนหนึ่งอีกต่อไป เขาดูเหมือนกับราชาปีศาจซีโน่เจเนอิคที่เลือดเย็นและไร้หัวใจ


 


หานเซิ่นมองปลาไหลไฟฟ้าที่กำลังดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด มือของเขาถือมีดเขี้ยวผีสิงอยู่และดูเหมือนมันจะถูกครอบงำด้วยพลังประหลาดของเขา สีม่วงเข้มของมีดนั้นกลายเป็นเพลิงสีดำสนิท แม้แต่มีดลมปราณก็เปลี่ยนเป็นสีดำ


 


หานเซิ่นยกมีดเขี้ยวผีสิงขึ้น และเขาก็รู้สึกได้ว่าพลังภายในตัวแข็งแกร่งขึ้นมากๆ ร่างต่อสู้ทั้งสี่ของเขารวมกันเป็นหนึ่งและก่อให้เกิดร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิค


 


‘พลังของร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิคเพียงพอจะฆ่าปลาไหลไฟฟ้านี้ไหมนะ ถ้าไม่ นั่นก็จะเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่ารำคาญ’ หานเซิ่นคิด เขาฟันใส่ปลาไหลไฟฟ้าที่กำลังดิ้นไปดิ้นมา


 


ด้วยพลังเสริมจากร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิค เพลิงสีดำของมีดเขี้ยวผีสิงคำรามและปล่อยมีดลมปราณที่น่ากลัวออกไปฟันท้องของปลาไหลไฟฟ้า


 


เกล็ดที่เหมือนกับเพชรและเนื้อหนังของปลาไหลไฟฟ้าถูกฉีกเปิดออกโดยมีดเขี้ยวผีสิง มีดของหานเซิ่นฝังเข้าไปในร่างของซีโน่เจเนอิคจนเหลือแต่ด้าม


 


หานเซิ่นดีใจกับผลลัพธ์นี้ เขาดึงมีดกลับออกมาและฟันใส่ศัตรูอีกครั้ง เขาตัดท้องของเจ้าปลาไหลจนไปถึงอีกด้านหนึ่ง เลือดและอวัยวะภายในรั่วไหลออกมาเต็มก้นทะเล


 


“ซีโน่เจเนอิคปลาไหลไฟฟ้าอวกาศระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่นถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรปลาไหลไฟฟ้าอวกาศ”


 


หานเซิ่นไม่คิดว่าจะฆ่าปลาไหลไฟฟ้าได้ง่ายดายขนาดนั้น เขามองมีดเขี้ยวผีสิงในมือด้วยความแปลกใจ


 


หานเซิ่นดีใจอย่างมาก ร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิคนั้นทรงพลังกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก เขาฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่นได้อย่างง่ายดาย


 


“ไม่คิดเลยว่าร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิคของเราจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ มันอาจจะทรงพลังทัดเทียมกับตอนที่เราใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดเลย” หานเซิ่นเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มกับความคิดนั้น


 


หานเซิ่นถอยออกไประยะหนึ่งและปล่อยให้เลือดไหลออกมาจากร่างของปลาไหลไฟฟ้า เมื่อเลือดไหลออกมาจนหมดแล้ว เขาก็ตรวจดูภายในท้องของปลาไหลไฟฟ้า นอกจากอวัยวะภายในแล้ว ในท้องของมันยังมีปะการังโลหิตประหลาดอยู่ด้วย


 


จิตใจของหานเซิ่นอาจจะกำลังเล่นตลก แต่เขาคิดว่าในตอนนี้ปะการังโลหิตประหลาดนั้นดูเหมือนกับมังกรยิ่งกว่าเดิม รายละเอียดของมันเด่นชัดขึ้นกว่าที่เคย และขณะที่เขาสังเกตมัน หานเซิ่นก็เกือบจะคิดว่าเจ้าสิ่งนั้นจะลืมตาขึ้นมาและบินจากไป


 


ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่รู้ว่าพวกมันไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง แต่ตอนนี้มันมีลวดลายถูกสลักอยู่บนปะการัง บางทีกรดในท้องของปลาไหลไฟฟ้าอาจจะทำพวกมันขึ้นมา แต่ยังไงก็ตามลวดลายนั่นก็ทำให้ปะการังดูเหมือนกับเกล็ดของมังกร


 


‘เจ้าสิ่งนี้ดูชั่วร้ายหน่อยๆ ถ้าเจ้าปลาไหลไฟฟ้าไม่กินเจ้าสิ่งนี้เข้าไป เราก็คงจะฆ่ามันได้ง่ายๆ’ ขณะที่หานเซิ่นสังเกตปะการังโลหิต เขาก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ


 


เลือดของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้านั้นจะไม่ละลายไปกับน้ำทะเล มันควรจะจมลงไปสู่ก้นทะเล แต่ทว่าหานเซิ่นไม่เห็นเลือดอยู่บนพื้นรอบๆเลย ตอนนี้แม้แต่อวัยวะที่ร่วงออกมาจากร่างของปลาไหลก็ดูสะอาดและปราศจากเลือดแม้แต่หยดเดียว


 


“นี่เลือดของมันหายไปไหนกัน?” หานเซิ่นหันกลับไปมองปะการังโลหิตที่ดูเหมือนกับมังกร แสงสีแดงนั้นส่องสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ


 


“เจ้าสิ่งนี้ไม่มีชีวิตหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นมองปะการังโลหิตอย่างหวาดระแวง แต่มันจมลงไปสู่ก้นทะเลโดยไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร


 


หานเซิ่นจ้องมองมันไปอีกสักพัก แต่ปะการังโลหิตประหลาดนั้นไม่มีการเคลื่อนไหว หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รวบรวมพลังและเอื้อมไปหยิบปะการังโลหิตขึ้นมา เขาคิดว่ามันจะมีการตอบสนองเมื่อเขาสัมผัสมัน แต่เขาหยิบมันขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย มันเป็นเหมือนกับปะการังธรรมดาๆ


 


เขาตรวจสอบมันอย่างละเอียด แต่มันยังคงนิ่งเงียบอยู่ในฝ่ามือของเขา เขาเก็บมันใส่กระเป๋าและว่ายไปในรูที่ถูกสร้างขึ้นในก้นทะเล


 


‘ถ้าร่างของมังกรในตำนานนั่นอยู่ข้างล่างนี้จริงๆ เราก็จะรวยมากๆ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองขณะที่ลงไปในรู

 

 

 


ตอนที่ 2752

 

ในตอนที่หานเซิ่นมาถึงข้างๆวัตถุสีดำที่อยู่ที่ก้นของรู เขาก็มีโอกาสได้มองของสีเลือดที่ห้อมล้อมมันอย่างชัดๆ มันเป็นเหมือนกับปะการังโลหิต หลังจากที่ยืนยันได้ว่ามันไม่มีอันตรายอะไร หานเซิ่นก็ยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสมัน วัตถุนั้นเป็นอะไรที่ร้อนและเนื้อผิวของมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับเกล็ดของงู


 


แต่งูนั้นเป็นสัตว์เลือดเย็น เกล็ดของพวกมันควรจะรู้สึกเย็น แต่เจ้าวัตถุสีดำนี้ร้อนมากๆ และมันก็เรืองแสงราวกับโลหะที่ร้อนละอุ


 


“สิ่งนี้ไม่มีชีวิตหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นรู้ว่านั่นเป็นไปไม่ได้ เจ้าสิ่งนี้ไม่ได้ปล่อยพลังชีวิตอะไรออกมา


 


หานเซิ่นขุดลงไปในพื้นทรายรอบๆวัตถุสีดำและมันก็เผยให้เห็นสิ่งที่มีขนาดใหญ่เท่ากับบ้านหลังหนึ่งในตอนที่ขุดเสร็จแล้ว และนอกจากเกล็ดที่เรืองแสงนั่นแล้ว มันยังมีอีกเกล็ดหนึ่งอยู่ติดๆกัน


 


“รวยแล้ว… นี่จะต้องเป็นเกล็ดของมังกรขั้นทรูก็อตแน่ๆ บางทีปะการังโลหิตมาเติบโตที่นี่ก็เพราะสารอาหารที่มันดูดซับจากร่างกายของมังกรที่ตายไป” หัวใจของหานเซิ่นคลุ้มคลั่งด้วยความตื่นเต้น


 


เขาต้องการเอาร่างของมันออกไปจากทะเลให้เร็วที่สุด แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่ากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่


 


ถ้าเกล็ดๆหนึ่งใหญ่โตเท่ากับห้องๆหนึ่ง เขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าร่างของมังกรทั้งร่างจะใหญ่โตถึงขนาดไหน หานเซิ่นขุดไปอีกสักพัก ซึ่งเกล็ดของมังกรดูเหมือนจะทอดยาวออกไปไกลแสนไกล เขาไม่สามารถคาดเดาถึงความใหญ่โตของมันได้


 


“ร่างกายของมังกรนี้คงจะไม่ได้มีความยาวเท่ากับป่าปะการังโลหิตที่กว้างหนึ่งหมื่นไมล์หรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นคิดว่านั่นเป็นไปได้ ไม่อย่างนั้นทำไมปะการังโลหิตถึงได้เติบโตแค่ในบริเวณนี้เท่านั้น


 


ด้วยพลังของหานเซิ่น เขาสามารถขุดไปใต้ปะการังโลหิตได้อย่างง่ายดาย ทรายจำนวนมากถูกพัดกระเด็นออกไปเพียงแค่เขาสะบัดมือเบาๆ


 


แต่การจะเคลื่อนย้ายปะการังโลหิตนั้นดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ยากเกินไป เขามีพลังไม่เพียงพอและพลังทุกอย่างที่เขาใช้ก็จะถูกดูดซับไปโดยปะการังโลหิต เขาจำเป็นต้องขุดมันอย่างช้าๆด้วยมือ ซึ่งเขาอาจจะต้องใช้เวลาปีถึงสองปีเพื่อขุดเอาร่างของมังกรขึ้นมา การจะขุดทั้งป่าปะการังโลหิตดูจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ


 


“ไม่ เราจะขุดแบบนี้ต่อไปไม่ได้” หานเซิ่นรู้สึกตัวในทันทีว่าการขุดเอาร่างของมังกรขึ้นมาด้วยมือนั้นไม่ใช่ตัวเลือก และนี่ยังไม่พูดถึงการที่ถ้าเขายังขุดแบบนี้ต่อไป หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็ต้องมารู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่


 


“ปะการังโลหิตที่ดูดซับพลังได้นั้นถือว่าเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ และถึงแม้มันจะไม่มีร่างของมังกรขั้นทรูก็อตอยู่ข้างใต้ เผ่าเวรี่ไฮนั้นก็คงจะต้องการพวกมันอยู่ดี ถ้าเกิดพวกเขามาพบพวกมันเข้า”

ถ้าเผ่าเวรี่ไฮรู้เกี่ยวกับที่นี่เข้า ถึงแม้หานเซิ่นจะเป็นคนที่หามันเจอ เขาก็ไม่แน่ใจว่าทางเผ่าเวรี่ไฮจะยอมให้เขาได้เป็นเจ้าของมันหรือเปล่า


 


ถึงแม้เผ่าเวรี่ไฮจะอนุญาตให้ตัวไหมสามารถเอาร่างของซีโน่เจเนอิคในเอาท์เตอร์สกายไปได้ แต่ร่างของซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตถือเป็นอะไรที่มีค่ามากเกินไป หานเซิ่นไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเผ่าเวรี่ไฮรู้ถึงการค้นพบของเขา


 


“เราต้องหาทาง แต่เราจะเอาร่างของมังกรและปะการังโลหิตไปโดยที่คนอื่นไม่สังเกตเห็นได้ยังไง?” หานเซิ่นหยุดขุด เขาเอาทรายมากลบรูที่เขาขุดเอาไว้และพยายามซ่อนหลักฐานทุกอย่างที่บ่งบอกว่าเขาเคยมาที่นี่


 


หลังจากที่คิดเกี่ยวกับมันอยู่สักพัก หานเซิ่นก็เก็บปะการังโลหิตประหลาดเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา หลังจากนั้นเขาก็หันไปตรวจเช็ควิญญาณอสูรที่เพิ่งจะได้รับมาจากปลาไหลไฟฟ้าอวกาศ


 


“วิญญาณอสูรปลาไหลไฟฟ้าระดับเทพเจ้า: ประเภทอัญมณี (มีโอกาสที่จะวิวัฒนาการ)”


 


“วิญญาณอสูรประเภทอัญมณีอีกแล้ว?” หานเซิ่นผิดหวัง วิญญาณอสูรประเภทอัญมณีนั้นสามารถเพิ่มระดับของวิญญาณอสูรดวงอื่นได้ แต่การจะทำแบบนั้น เขาจำเป็นต้องมีวิญญาณอสูรที่เป็นธาตุเดียวกัน


 


หานเซิ่นยังมีวิญญาณอสูรอัญมณีอีกดวงที่เขาได้รับมาจากเรเวนอาทิตย์ แต่ในตอนนี้เขายังไม่มีวิญญาณอสูรธาตุสายฟ้าที่จะใช้รวมกับวิญญาณอสูรอัญมณีของปลาไหลไฟฟ้าอวกาศได้


 


“ส่วนที่ว่า ‘มีโอกาสวิวัฒนาการ’ หมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นผิดหวังที่ได้รับวิญญาณอสูรอัญมณีมาอีกดวง แต่คำอยู่ในคำบรรยายของวิญญาณอสูรนั้นทำให้เขารู้สึกสนใจอย่างบ้าง


 


น่าเสียดายที่วิญญาณอสูรประเภทอัญมณีไม่สามารถใช้ได้ในทันที เขาจึงไม่มีหนทางที่จะค้นพบความลับของข้อความที่ว่า “มีโอกาสที่จะวิวัฒนาการ”


 


เขาลากร่างของปลาไหลไฟฟ้าขึ้นมาจากทะเล และเขาก็เห็นไป๋เวยรออยู่บนฝั่ง หานเซิ่นเข้าไปทักทายเธอ ไป๋เวยดูประหลาดใจที่เห็นว่าหานเซิ่นสามารถฆ่าปลาไหลไฟฟ้าได้จริงๆ อารมณ์ที่ขัดแย้งปรากฏให้เห็นในดวงตาของเธอ


 


หลังจากที่ออกมาจากทะเล หานเซิ่นก็นำร่างของปลาไหลไฟฟ้ากลับไปที่ต้นไม้ดารา หลังจากที่เขาดูดซับยีนซีโน่เจเนอิคของปลาไหลไฟฟ้าแล้ว เขาก็สังเกตได้ว่าการกินเนื้อของปลาไหลไฟฟ้านั้นมอบยีนระดับเทพเจ้าให้เขามากกว่าระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ ขาเพิ่งจะกินไปแค่หนึ่งในยี่สิบส่วนของร่างปลาไหลไฟฟ้า แต่เขาก็ได้รับยีนระดับเทพเจ้ามาแล้วสองพ้อยต์


 


“ดูเหมือนว่าระดับเทพเจ้าขั้นสูงจะมอบยีนมากกว่า ถ้าเป็นแบบนั้นการจะเก็บยีนระดับเทพเจ้าให้เต็มก็ควรจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร การจะเพิ่มระดับขึ้นดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ง่ายกว่าที่เราคิด” หานเซิ่นกินเนื้อของปลาไหลไฟฟ้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันเขาก็คิดเกี่ยวกับวิธีการที่จะขุดเอาปะการังโลหิตและร่างของมังกรขึ้นมา


 


“ร่างกายของมังกรดูเหมือนจะใหญ่เกินกว่าที่จะขุดขึ้นมาได้ แต่เราน่าจะเก็บปะการังโลหิตพวกนั้นมาได้ และเราควรจะเอาพวกมันไปซ่อนเอาไว้ในก็อตแซงชัวรี่เพื่อป้องกันไม่ให้ใครรู้ มันอาจจะต้องใช้เวลาสักพัก แต่เราน่าจะขุดเอาปะการังโลหิตทั้งหมดขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง” หานเซิ่นไม่สามารถคิดไอเดียอะไรที่ดีกว่านั้นได้


 


หานเซิ่นนอนพักอยู่ที่ต้นไม้ดาราและในตอนที่เขาตื่นมาในวันรุ่งขึ้น เขาก็คิดจะกลับไปเพื่อขุดปะการังโลหิตพวกนั้น เขาจำเป็นต้องมีปะการังโลหิตพวกนั้นเพื่อสร้างปราสาท


 


แต่หลังจากที่ยืดเส้นยืดสาย เขาก็สังเกตได้ว่าบางสิ่งในร่างกายของเขารู้สึกแปลกๆ


 


หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ในตอนที่เขามองมือของตัวเอง เขาก็รู้สึกตกใจ


 


“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” สิ่งที่หานเซิ่นเห็นทำให้เขารู้สึกตกใจกลัว ที่หลังมือทั้งสองข้างของเขามีจุดสีดำที่มีขนาดพอๆกับเล็บมืออยู่


 


แต่เมื่อหานเซิ่นมองดูดีๆแล้ว มันดูเหมือนกับชิ้นของปะการังโลหิตหรือเกล็ดของมังกร มันมีสีดำ แต่มันเรืองแสงสีแดงอ่อนๆ


 


หานเซิ่นกลืนน้ำลายอย่างเป็นกังวล เขารีบตรวจเช็คทั้งร่างกายของตัวเอง และเขาพบว่ามีจุดสีดำที่เหมือนกันอยู่ทั่วร่างกายของเขา


 


“นี่มันอะไรกัน? นี่เป็นสัญญาณบอกว่าเรากำลังจะงอกเกล็ดมังกรออกมาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้ว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติ จุดสีดำพวกนั้นไม่ได้ทำให้เจ็บปวดหรือคัน แต่พวกมันแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา


 


หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อตรวจสอบร่างกายของตัวเองอย่างละเอียด และเขาก็ค้นพบว่าตอนนี้พวกมันถือเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา แต่พวกมันดูเหมือนจะไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรกับร่างกายของเขา


 


หานเซิ่นตัดสินใจลอกหนึ่งในจุดสีดำพวกนั้นออกมา แต่ในตอนที่เนื้อหนังของเขาฟื้นตัว จุดสีดำก็กลับมาอีกครั้ง และจุดสีดำก็ปรากฏตามร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาลองใช้หลายวิธีเพื่อจะกำจัดพวกมัน แต่ไม่มีวิธีไหนที่ได้ผล


 


เขาลองใช้แม้กระทั่งร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด แต่มันก็ไม่ได้ผลเช่นกัน มันไม่สำคัญว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน มันก็ไม่มีวิธีที่เขาจะกำจัดจุดดำพวกนั้นออกไปได้ นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจอย่างมาก เพราะในอดีตร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดจะได้ผลกับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนี้มันไม่สามารถกำจัดจุดดำพวกนี้ออกไปได้


 


“นี่มันบ้าอะไรกันแน่? แม้แต่ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดก็ไม่ได้ผล”

หานเซิ่นสันนิษฐานว่าจุดดำพวกนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับปะการังโลหิตหรือร่างของมังกร แต่เขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสุดท้ายแล้วผลกระทบจากจุดดำพวกนี้คืออะไรกันแน่

 

 

 


ตอนที่ 2753

 

หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวว่าตัวเองมองข้ามความจริงเรื่องหนึ่งไป


 


ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดนั้นจะทำให้เขาอยู่ยงคงกระพัน นั่นคือคุณสมบัติพิเศษของมัน มันสามารถกำจัดพลังงานด้านลบที่กำลังส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาได้ แต่ถ้าเขาได้รับผลกระทบจากพลังที่มาจากภายในตัว แทนที่จะเป็นสิ่งที่บุกรุกเข้ามาจากภายนอก ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของเขาก็จะไม่ทำอะไรกับมัน


 


“นี่หมายความว่าจุดดำพวกนี้เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายของเรากำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงของตัวมันเองอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นคำนึงถึงความเป็นไปได้นั้น แต่มันดูจะเป็นไปไม่ได้

“ร่างกายของเราไม่ควรจะก่อให้เกิดจุดดำพวกนี้ขึ้นมา นอกซะจากเราจะได้รับผลกระทบจากพลังภายนอก แต่ทำไมร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดถึงไม่กำจัดพวกมันเหมือนทุกครั้งล่ะ?”


 


ถ้าจุดดำพวกนี้ไม่เป็นภัยตัวต่อหานเซิ่น แบบนั้นร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดก็จะไม่ทำอะไรกับมัน ถึงแม้หานเซิ่นจะสันนิษฐานว่าจุดดำพวกนี้อาจจะเป็นบางสิ่งที่มีประโยชน์กับตัวเขา แต่เขาก็ไม่ชอบใจกับการที่ต้องถูกเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกปกคลุมด้วยเกล็ด


 


หานเซิ่นพยายามคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะกำจัดพวกมัน แต่ก็ไม่มีวิธีไหนที่ประสบความสำเร็จ และจุดดำก็ยังคงแพร่กระจายไปมากขึ้นเรื่อยๆ จุดดำหลายจุดเริ่มจะชัดเจนและเกิดเป็นรูปเป็นร่างของเกล็ดงูแล้ว


 


หานเซิ่นคิดว่าการที่เขามีเกล็ดงอกขึ้นมานั้นอาจจะเป็นผลกระทบจากปะการังโลหิต ดังนั้นเขาจึงโยนมันกลับลงไปในทะเล


 


แต่ไม่นานหลังจากนั้น หานเซิ่นก็สังเกตว่าปะการังโลหิตประหลาดนั้นกลับมาหาเขา มันเหมือนกับมังกรดำที่รอคอยเขาอย่างเงียบๆ


 


หานเซิ่นพยายามจะโยนปะการังทิ้งไปหลายต่อหลายครั้ง แต่มันไม่ได้ผล และเกล็ดก็งอกขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้เขาอยากจะร้องไห้


 


แต่สำหรับตอนนี้เกล็ดยังไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเขา จริงๆแล้วพวกมันเพิ่มการป้องกันของเขาให้สูงขึ้นอีกด้วย ในตอนที่การโจมตีมาถูกเกล็ดของเขา พวกมันก็จะช่วยรับความเสียหายกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าเกล็ดงอกปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขา พลังป้องกันทางกายภาพของเขาก็จะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ


 


แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ไม่อยากจะกลายเป็นตัวประหลาดที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดอยู่ดี


 


คนเราไม่สามารถซ่อนเปลวไฟด้วยกระดาษ ดังนั้นในตอนที่เอ็กซ์ควิสิทกลับมา เธอก็เห็นว่าร่างกายของหานเซิ่นปกคลุมไปด้วยเกล็ด มันทำให้เธอรู้สึกสับสน


 


หานเซิ่นไม่ได้พยายามจะบิดบังอะไร เขาบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงเรื่องของปะการังโลหิตและร่างของมังกรที่ตายไป เขาไม่อยากจะกลายเป็นสัตว์ประหลาด ถึงแม้มันจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม เขาไม่สามารถกำจัดเกล็ดพวกนี้ออกไปได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอความช่วยเหลือ


 


ในหมู่ของเวรี่ไฮมียอดฝีมืออยู่มากมาย พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นผู้คนที่รอบรู้ พวกเขาศึกษาวิชาจีโนทั่วทั้งจักรวาล บางทีหนึ่งในพวกเขาอาจจะรู้วิชาที่จะกำจัดเกล็ดพวกนี้ไปได้


 


เอ็กซ์ควิสิทตกใจยิ่งกว่าเดิม ขณะที่หานเซิ่นเล่าเรื่องราวของเขา ดวงตาของเธอเบิกกว้าง และเธอก็จ้องไปที่ปะการังโลหิตที่ดูเหมือนกับมังกร


 


“มังกรขั้นทรูก็อตนั่น มันมีพลังแบบไหนกันแน่? ทำไมมันถึงได้ทำให้ร่างกายของข้ามีเกล็ดงอกออกมา? มันมีหนทางที่จะกำจัดพวกมันออกไปไหม?”

หานเซิ่นถามอย่างรีบร้อน เขาเกลียดเกล็ดพวกนี้มากๆ เขาจินตนาการไปว่าในตอนที่เขากลับบ้าน ลูกสาวของเขาอาจจะจำพ่อของเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ


 


เอ็กซ์ควิสิทยืนนิ่งไป เธอไม่ได้มอบคำตอบให้กับหานเซิ่นในทันที แต่ใบหน้าของเธอดูเหมือนกำลังครุ่นคิด


 


“มีอะไรอย่างนั้นหรอ? นี่ช่วยพูดอะไรสักหน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นร้องขอ


 


เอ็กซ์ควิสิทขยับริมฝีปากอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็พูดสิ่งที่หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดเอาไว้


 


“ทะเลฝังมังกรไม่ได้มีมังกรขั้นทรูก็อตอะไรนั่นอยู่ นั่นเป็นเพียงแค่ตำนาน…” เอ็กซ์ควิสิทมองหานเซิ่นอย่างแปลกๆ


 


“ไม่มี?” หานเซิ่นตกตะลึง หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา

“นั่นเป็นไปได้ยังไง? ถ้าอย่างนั้นป่าปะการังโลหิตและร่างของมังกรที่ข้าพบคืออะไรกัน?”


 


“ข้าไม่รู้ว่าป่าปะการังโลหิตหรือร่างของมังกรนั่นมาจากไหน แต่ข้ามั่นใจว่าทะเลฝังมังกรนั้นไม่ได้มีมังกรขั้นทรูก็อตอะไรนั่น หรืออย่างน้อยๆมันก็ไม่ได้มีซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตอยู่ ที่มันถูกเรียกว่าทะเลฝังมังกรก็เพราะว่ายอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรเสียชีวิตที่นั่น หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้น และที่สุดแล้วตำนานเกี่ยวกับมังกรชั่วร้ายขั้นทรูก็อตก็ถูกสร้างขึ้นมา” เอ็กซ์ควิสิทพูด


 


“ถึงแม้ตำนานนั่นจะเป็นแค่เรื่องแต่ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทะเลฝังมังกรจะไม่ได้มีร่างของมังกรขั้นทรูก็อตอยู่” หานเซิ่นพูด


 


เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงคำถามในจิตใจของหานเซิ่น ดังนั้นเธอจึงพูดต่อไปว่า

“เมื่อนานมาแล้วทะเลฝังมังกรนั้นไม่ได้มีอยู่ มันมียอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรไปที่นั่นเพื่อต่อสู้ การต่อสู้นั้นได้ทำลายล้างภูมิประเทศแถบนั้นจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ มันไม่ได้มีซีโน่เจเนอิคชั้นสูงอยู่ที่นั่น และเนื่องจากการต่อสู้ที่รุนแรง แม้แต่ทรัพยากรท้องถิ่นของพื้นที่นั้นก็ถูกทำลายไปด้วย มันไม่มีซีโน่เจเนอิคชั้นสูงตัวไหนที่จะไปที่นั่นด้วยตัวเอง ปลาไหลไฟฟ้าที่เจ้าฆ่าไปเป็นหนึ่งในซีโน่เจเนอิคที่ผู้อาวุโสของพวกเราจับไปปล่อยในทะเลเพื่อให้มันเติบโต ซีโน่เจเนอิคส่วนใหญ่ในทะเลก็ถูกพาตัวไปที่นั่นด้วยวิธีการแบบเดียวกัน ที่ผู้อาวุโสของพวกเรานำซีโน่เจอิคไปโยนลงในทะเลก็เพราะพวกเขาพยายามจะเพิ่มจำนวนซีโน่เจเนอิคในทะเลฝังมังกร ถ้าสิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตเคยตกลงไปในทะเลฝังมังกรจริงๆ ทางเผ่าเวรี่ไฮก็คงจะไม่ลำบากทำอะไรแบบนั้น”


 


หลังจากที่หานเซิ่นได้ยินสิ่งที่เธอพูด เขาก็ยอมแพ้ เธอคงจะพูดถูก ถ้าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ในทะเลจะมีร่างของซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตอยู่


 


“ถ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะพบร่างของซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตที่นั่น แบบนั้นร่างกายที่เราเจอคืออะไรกัน? และยังป่าปะการังโลหิตนั่นอีก” หานเซิ่นรู้สึกสงสัย


 


เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงคำถามของหานเซิ่น “ข้าเองก็ไม่แน่ใจ จากที่ข้ารู้เกี่ยวกับทะเลฝังมังกร มันไม่ควรจะมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอยู่ที่นั่น…”


 


หานเซิ่นคิดอยู่สักครู่ หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “ทำไมยอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรคนนั้นถึงตายในทะเลฝังมังกร? เขาเป็นใครกัน? มันเป็นไปได้ไหมที่ป่าปะการังโลหิตและร่างของสิ่งมีชีวิตที่ข้าเจอจะเกี่ยวข้องกับเขา?”


 


เอ็กซ์ควิสิทยิ้มแห้งๆขณะที่สายหัว “ข้าไม่ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องราวของเขามากนัก เพราะยังไงซะมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ข้ารู้แค่ว่ายอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรที่ตายไปที่นั่นมาจากเซเคร็ด”


 


“เซเคร็ด?” หานเซิ่นตกใจ เขาพยายามควบคุมความคิดของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็อาจจะสัมผัสได้ถึงความจริงที่ว่าเขามีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับเซเคร็ด


 


“เอาแบบนี้เป็นไง? ข้าจะพาเจ้าไปหาลุงเก้า เขาเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องการนำซีโน่เจเนอิคไปปล่อยลงในทะเลฝังมังกร บางทีเขาอาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้” เอ็กซ์ควิสิทพูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่


 


หานเซิ่นไม่ปฏิเสธข้อเสนอแบบนั้น เขาและเอ็กซ์ควิสิทจึงรีบไปเยี่ยมเยือนลุงเก้าของเผ่าเวรี่ไฮ


 


ถึงแม้หานเซิ่นอยากจะรู้เกี่ยวกับคนที่ถูกเรียกว่ามังกรนี้ แต่เขาก็ไม่กล้าจะถามออกไป เขากลัวว่าอาจจะไม่สามารถควบคุมจิตใจไม่ให้คิดเกี่ยวกับเซเคร็ดได้ ถ้าเป็นแบบนั้น เอ็กซ์ควิสิทก็อาจจะรู้ว่าลูกชายของเขาอยู่ในเผ่าเซเคร็ดในตอนนี้


 


เอ็กซ์ควิสิทพาหานเซิ่นไปพบกับลุงเก้า ชายคนนั้นชอบหานเซิ่น ดังนั้นเขาดีใจที่เห็นหานเซิ่นมาเยือน ลุงเก้าดูเหมือนจะเป็นชายที่เบิกบาน แต่เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวของหานเซิ่น ใบหน้าของเขาก็ดูถมึงทึง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)