Super God Gene 2712-2718

ตอนที่ 2712

 

“อีกครั้งหนึ่ง” มอนสเตอร์กระทิงพูด ปีกขนาดใหญ่กางออกมาและร่างกายของมันก็ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีน้ำเงิน แต่เจ้ามอนสเตอร์จ้องไปที่หานเซิ่นด้วยความใจจดใจจ่อเหมือนกับเด็ก


 


หานเซิ่นได้ยินมันพูดสามคำนั้นซ้ำๆหลายครั้ง ขณะที่พวกเขาเดิมพันกัน หานเซิ่นชนะเจ็ดครั้งติดต่อกัน และตอนนี้ดวงตาของมอนสเตอร์กระทิงก็ดูเหมือนกับว่ากำลังจะลุกเป็นไฟ หานเซิ่นกังวลว่ามันอาจจะทำร้ายเขาด้วยความไม่พอใจ


 


“พี่กระทิงลองเขย่าเหรียญมั่งเป็นยังไง และข้าจะเป็นฝ่ายทาย?”

หานเซิ่นเสนอขณะที่วางเหรียญลงตรงหน้ามอนสเตอร์กระทิง


 


เมื่อมอนสเตอร์กระทิงได้ยินหานเซิ่นพูดแบบนั้น ดวงตาของมันก็เป็นประกายขึ้นมา มันยื่นมือขนาดใหญ่ออกไปและใช้พลังเพื่อดูดเหรียญเข้ามาอยู่ในฝ่ามือของมัน


 


“เจ้าเป็นฝ่ายทาย พวกเราจะยังคงเดิมพันโล่บนหลังของเจ้ากับจีโนคอร์ทั้งหมดที่ข้าสูญเสียไป เจ้าจะมอบพวกมันมาให้กับข้า ถ้าข้าชนะ” มอนสเตอร์กระทิงพูดกับหานเซิ่นขณะที่ถือเหรียญนั่น


 


“เอาสิ ข้าจะเดิมพันทุกอย่าง”

หานเซิ่นกระพริบตาปริบๆและพูดต่อไปว่า “ว่าแต่พี่กระทิงจะเดิมพันอะไร?”


 


มอนสเตอร์กระทิงดูลังเล มันมีจีโนคอร์แค่เจ็ดอันเท่านั้น และมันก็สูญเสียจีโนคอร์ทั้งหมดไปให้หานเซิ่นแล้ว ตอนนี้เจ้ามอนสเตอร์กระทิงไม่มีอะไรจะใช้เดิมพันอีก


 


จริงๆแล้วมอนสเตอร์กระทิงไม่ได้สูญเสียมากมายเหมือนอย่างที่คนอื่นคิด มันมีจีโนคอร์อยู่เจ็ดอัน แต่มีจีโนคอร์เพียงแค่อันเดียวเท่านั้นที่มันสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ส่วนจีโนคอร์อีกหกอันเป็นสิ่งที่มันขโมยมาจากซีโน่เจเนอิคตัวอื่น


 


แต่ “ขโมย” อาจจะไม่ได้เป็นคำที่ถูกต้องซะทีเดียว มอนสเตอร์กระทิงจะกินร่างของซีโน่เจเนอิคที่มันฆ่าได้ และในตอนที่มันพบกับจีโนคอร์ของซีโน่เจเนอิคที่ตายไป มันก็คิดว่าจีโนคอร์เหล่านั้นอาจจะเป็นอะไรที่มีประโยชน์ ด้วยเหตุนั้นมันจึงเก็บจีโนคอร์เหล่านั้นมา และตอนนี้มันก็ใช้จีโนคอร์เหล่านั้นในการเดิมพัน


 


หานเซิ่นสังเกตเห็นว่ามอนสเตอร์กระทิงไม่ได้พูดอะไร เขาเดาว่ามันคงจะไม่เหลืออะไรให้ใช้ในการเดิมพันอีกแล้ว เขากังวลว่ามอนสเตอร์กระทิงอาจจะโมโหขึ้นมาถ้ามันไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ ดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้นว่า

“เอาแบบนี้เป็นไงพี่กระทิง พี่กระทิงทั้งฉลาดและแข็งแกร่งพอจะเอาชนะศัตรูได้อย่างสบายๆ พี่กระทิงคงจะหาโล่และจีโนคอร์เป็นร้อยๆได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรถ้าพี่กระทิงต้องการ อย่างนั้นพี่กระทิงช่วยข้าเรื่องหนึ่งเป็นการเดิมพันเป็นยังไง?”


 


“เรื่องนั้นคืออะไร?” มอนสเตอร์กระทิงนั้นซื่อตรง แต่มันไม่ได้โง่เขลา มันมองมาที่หานเซิ่นอย่างกังวลเล็กน้อย


 


“จริงๆแล้วเรื่องที่ข้าจะขอไม่ได้เป็นการช่วยข้าจริงๆ ข้าแค่รู้สึกแย่แทนพี่กระทิง มันมีไอ้เวรคนหนึ่งที่เรียกพี่กระทิงมาที่นี่ และเขาก็ไม่ได้นำเครื่องสังเวยมาให้กับพี่กระทิง เขาแค่เล่นตลกกับพี่กระทิง ถ้าข้าได้เจอเขาอีกครั้ง ข้าอยากจะลงโทษเขาแทนพี่กระทิง แต่ข้าอ่อนแอเกินไป… ข้าไม่แน่ใจว่าจะสู้กับเขาได้ มันจะเป็นอะไรที่น่าอายมาก ถ้าข้าจะขอให้พี่กระทิงไปต่อสู้กับเขาแทนข้า” หานเซิ่นสารภาพขณะที่มองไปที่มอนสเตอร์กระทิงด้วยความอับอาย


 


เมื่อมอนสเตอร์กระทิงได้ยินแบบนั้น มันก็คิดว่าหานเซิ่นเป็นคนดีมากๆ มันมองไปที่หานเซิ่นและพยักหน้า “เจ้าวางใจข้าได้”


 


“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลง ถ้าข้าแพ้ พี่กระทิงก็เอาโล่และจีโนคอร์กลับไป แต่ถ้าพี่กระทิงแพ้ ในตอนที่ข้าพบหมอนั่นอีกครั้ง ข้าจะขอให้พี่กระทิงมาช่วยข้าจัดการกับเขา” หานเซิ่นอธิบายเกี่ยวกับการเดิมพันอย่างระมัดระวัง


 


มอนสเตอร์กระทิงพยักหน้า หลังจากนั้นมันก็เริ่มจะเขย่าเหรียญ


 


หานเซิ่นมองดูวิธีการเขย่าเหรียญของมอนสเตอร์กระทิง และเขาก็รับรู้ว่ามันไม่เก่งเรื่องการพนัน


 


หลังจากที่เขย่าอยู่สักพัก มอนสเตอร์กระทิงก็ยื่นแขนออกมาตรงหน้าหานเซิ่นและพูดด้วยใบหน้าที่ดูอึดอัดใจ

“เจ้าทายได้แล้ว”


 


“พี่กระทิง พี่กระทิงรู้ไหมว่ามันเป็นรูปภาพหรือหมายเลขน่ะ?” หานเซิ่นถามด้วยรอยยิ้ม


 


“เรื่องนั้น…” มอนสเตอร์กระทิงพยายามคิด มันเปิดมือเล็กน้อยเพื่อจะมองดูเหรียญ หลังจากนั้นมันก็พูดอย่างมั่นใจ “แน่นอนว่าข้ารู้ รีบทายมาได้แล้ว”


 


“ข้าทายว่า…” หานเซิ่นจงใจลากเสียงขณะที่มองดูใบหน้าของมอนสเตอร์กระทิง เจ้ามอนสเตอร์กระทิงดูกังวลมากๆ “มันเป็นรูปภาพ”


 


ในตอนที่หานเซิ่นพูดแบบนั้น มอนสเตอร์กระทิงก็คอตก


 


“อีกครั้งหนึ่ง” มอนสเตอร์กระทิงกัดฟันและเริ่มจะเขย่าเหรียญอีกครั้ง


 


“อีกครั้งหนึ่ง… อีกครั้งหนึ่ง… อีกครั้งหนึ่ง…”


 


เสียงคำรามดังก้องไปทั่วทั้งฟ้า มันน่ากลัวยิ่งกว่าเสียงฟ้าร้อง หานเซิ่นไม่สามารถจำได้ว่าเขาชนะการเดิมพันไปกี่ครั้งแล้ว ในตอนนี้มอนสเตอร์กระทิงคงจะต้องช่วยเขาเป็นร้อยๆเรื่อง


 


แต่หานเซิ่นต้องยอมรับในความซื่อตรงของมอนสเตอร์กระทิง ถึงแม้มันจะพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันก็ไม่เคยพยายามจะฆ่าเขาด้วยความโกรธเลยสักครั้งเดียว


 


ทันใดนั้นพายุฝนฟ้าคะนองก็เริ่มจะเบาบางลงไป ความโมโหหายไปจากใบหน้าของมอนสเตอร์กระทิงและมันก็ตะโกนขึ้นมา

“โอ้ไม่นะ! ก็อตสปิริตสตอร์มกำลังจะสิ้นสุด ข้าจำเป็นต้องกลับไปแล้ว”


 


“ทำไมพี่กระทิงถึงต้องกลับไปก่อนที่ก็อตสปิริตสตอร์มจะสิ้นสุด?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน


 


คนส่วนใหญ่รู้ว่าซีโน่เจเนอิคในก็อตแอเรียจะมาพร้อมกับก็อตสปิริตสตอร์ม และพวกมันจะหายไปในตอนที่พายุฝนฟ้าคะนองหยุดลง แต่ไม่มีใครรู้ว่าทำไมซีโน่เจเนอิคในก็อตแอเรียต้องมาพร้อมกับก็อตสปิริตสตอร์มเท่านั้น


 


มอนสเตอร์กระทิงไม่ได้ตอบคำถามของหานเซิ่น มันลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะนำเอาเกล็ดสีม่วงออกมาและโยนให้กับหานเซิ่น

“ใช้เกล็ดนี้ ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือ”


 


หลังจากนั้นมอนสเตอร์กระทิงก็หันไปมองจีโนคอร์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหันกลับและเตรียมตัวจากไปพร้อมกับพายุฝนฟ้าคะนอง


 


“พี่กระทิงรอเดี๋ยวก่อน” หานเซิ่นหยุดมอนสเตอร์กระทิงเอาไว้


 


“อะไรอีก?” มอนสเตอร์กระทิงพูดขณะที่หันกลับมามองที่เขา


 


หานเซิ่นหยิบหนึ่งในจีโนคอร์ขึ้นมา เขาโยนมันไปให้กับมอนสเตอร์กระทิงและพูด

“มันเป็นโชคชะตาที่พาพวกเรามาพบกันในวันนี้ ข้าไม่มีเครื่องสังเวยอะไรที่จะมอบให้กับพี่กระทิง ดังนั้นพี่กระทิงก็ควรจะเก็บสิ่งนี่เอาไว้”


 


มอนสเตอร์กระทิงรับจีโนคอร์มาด้วยความดีใจ จีโนคอร์อันนั้นเป็นจีโนคอร์ที่มันสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง และมันก็เป็นจีโนคอร์ที่มอนสเตอร์กระทิงเหลือบมองด้วยความโศกเศร้าก่อนที่จะหันหลังไป


 


จีโนคอร์อื่นนั้นธาตุแตกต่างจากมอนสเตอร์กระทิง ดังนั้นพวกมันไม่สามารถช่วยอะไรมอนสเตอร์กระทิงได้มาก แต่จีโนคอร์ที่มอนสเตอร์กระทิงสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองนั้นเป็นอะไรที่มีค่ากับมันมากๆ


 


“เจ้าเป็นคนที่มีจิตใจดีจริงๆ” มอนสเตอร์กระทิงรู้สึกซาบซึ้งกับเรื่องนี้ เขาต้องการจะขโมยสิ่งของของหานเซิ่น แต่หานเซิ่นกลับพยายามจะช่วยเหลือมัน สถานการณ์ทั้งหมดนี้ทำให้มอนสเตอร์กระทิงซาบซึ้งจนเกือบลืมไปเลยว่าจริงๆแล้วจีโนคอร์นั่นแต่เดิมเป็นของของมัน


 


“ตอนนี้พี่กระทิงควรไปได้แล้ว ถ้าข้าหาหมอนั่นเจอ ข้าจะเรียกพี่กระทิงเพื่อที่พี่กระทิงจะได้สั่งสอนเขา ข้าจะล้างแค้นให้กับพี่กระทิง” หานเซิ่นโบกมือและพูดบอกลา


 


มอนสเตอร์กระทิงรู้สึกซาบซึ้งยิ่งกว่าเดิม แต่ก็อตสปิริตสตอร์มเกือบจะสลายไปแล้ว มันจึงไม่มีเวลาจะพูดอะไร มันคิดว่าหานเซิ่นเป็นคนดีมากๆ และถ้ามีโอกาส มันจะช่วยหานเซิ่นอย่างแน่นอน


 


หลังจากที่มอนสเตอร์กระทิงจากไปพร้อมกับก็อตสปิริตสตอร์ม หานเซิ่นก็ถอนหายใจออกมา


 


‘โชคดีที่มันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ซื่อตรง ไม่อย่างนั้นมันก็อาจจะเป็นอะไรที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้ เราจำเป็นต้องหยุดทำอะไรเสี่ยงๆ ระดับเทพเจ้ายังไงก็เป็นระดับเทพเจ้า เราไม่ควรประมาทระดับเทพเจ้าคนไหนทั้งนั้น’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


หลังจากที่เห็นว่าเอ็กซ์ควิสิทยังคงไม่ได้สติ หานเซิ่นก็ส่งพลังเข้าไปในร่างกายของเธอ ดูเหมือนว่ามันจะช่วยปลดล็อคบางสิ่งในตัวเธอและทำให้เธอตื่นขึ้นมา


 


ในตอนที่เอ็กซ์ควิสิทตื่นขึ้นมา เธอก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอจ้องไปที่หานเซิ่นด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและถาม

“ทำไมเจ้าถึงทำร้ายข้า?”


 


“ข้าไปทำร้ายเจ้าตอนไหน? เจ้าเหนื่อยจนสลบไปเอง” หานเซิ่นพูด


 


“เจ้า…” เอ็กซ์ควิสิทกำลังจะตอบกลับไป แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกตัวว่าบางสิ่งไม่ปกติ เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและอึ้งไป

“ก็อตสปิริตสตอร์มหายไปไหนแล้ว?”

 

 

 


ตอนที่ 2713

 

เมื่อกลับไปที่ดินแดนของเวรี่ไฮ หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็นั่งปรึกษากัน พวกเธอทั้งคู่ดูงุนงงและไม่แน่ใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น


 


“พี่สาม พี่บอกว่าในตอนที่พี่ตื่นขึ้นมา ก็อตสปิริตสตอร์มก็ได้หายไปแล้วอย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ


 


สีหน้าของเอ็กซ์ควิสิทดูแปลกๆ “นั่นเป็นสิ่งที่หานเซิ่นบอกกับข้า”


 


“แปลกจริงๆ ด้วยจิตใจของพี่สาม พี่ควรจะไม่หมดสติถึงแม้พี่จะหมดแรง นั่นไม่ควรจะเป็นไปได้ พี่สามจะหมดสติจากความเหนื่อยล้าและจู่ๆก็อตสปิริตสตอร์มจะหายไปได้ยังไงกัน? นี่เป็นอะไรที่แปลก…”

หลี่เคอเอ๋อดูเหมือนจะไม่เชื่อ หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เธอก็พูดต่อไปว่า “แต่ทว่าพวกเราโชคดีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมา ไม่อย่างนั้นพี่สามกับหานเซิ่นก็คงจะตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง”


 


หลี่เคอเอ๋อไม่ได้สงสัยในตัวหานเซิ่น เธอสามารถสัมผัสถึงจิตใจของหานเซิ่นได้ และเธอก็ไม่ได้สัมผัสถึงความผิดปกติอะไรในหัวของเขา ถ้าเขาวางแผนการชั่วร้ายบางอย่าง เธอก็ควรจะสัมผัสถึงมันได้


 


แต่เอ็กซ์ควิสิทยังคงสงสัยในตัวหานเซิ่น เธอจำได้อย่างชัดเจนว่าเขาทุบเธอจนหมดสติไป และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นในตอนที่หานเซิ่นทำให้เธอหมดสติ เธอไม่สามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด นั่นทำให้เอ็กซ์ควิสิทสงสัยเกี่ยวกับจิตใจของหานเซิ่น ตอนนี้เธอกังวลว่าจะไม่สามารถสัมผัสถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของเขาทั้งหมดได้ ไม่อย่างนั้นถึงแม้เธอจะหมดสติไป เธอก็ควรจะรู้อยู่ดีว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไร และเธอก็ควรจะหลีกเลี่ยงการถูกทุบได้แต่แรกด้วย


 


และก็อตสปิริตสตอร์มก็ควรจะติดตามหานเซิ่นต่อไป ทำไมจู่ๆมันถึงได้ถอยกลับไป? ไม่ว่าจะดูยังไงมันก็ประจวบเหมาะเกินไป


 


“หานเซิ่น…นี่เขาทำอะไรกันแน่?”  เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกสงสัยในตัวหานเซิ่น แต่เธอไม่ได้พูดเรื่องนั้นกับหลี่เคอเอ๋อ


 


เมื่อหานเซิ่นมีเวลาอยู่ตามลำพัง เขาก็เอาจีโนคอร์เทพเจ้าทั้งหกอันออกมาและเริ่มตรวจเช็คพวกมัน


 


จากจีโนคอร์เทพเจ้าทั้งหกอัน สามอันเป็นธาตุสายฟ้า สองอันเป็นธาตุไฟและอีกหนึ่งอันเป็นธาตุน้ำแข็ง


 


ในตอนที่สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ดูดซับจีโนคอร์ พวกเขามักจะเลือกอันที่มีธาตุเหมาะสมกับตัวเอง ไม่อย่างนั้นพวกมันอาจจะสร้างความเสียหายกับร่างกายของพวกเขา


 


แต่ธาตุในร่างกายของหานเซิ่นนั้นสมดุลมากๆ มันไม่มีธาตุไหนที่โดดเด่นกว่าธาตุอื่นและเขาก็มีอยู่ทุกธาตุ ด้วยเหตุนั้นเขาไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะดูดซับธาตุไหนเข้าไป เขาสามารถดูดซับจีโนคอร์ได้ทุกธาตุ


 


“เราควรจะเก็บจีโนคอร์ธาตุสายฟ้าทั้งสามอันเอาไว้ให้กับจิ้งจอกสีเงิน ถ้ามันดูดซับจีโนคอร์ทั้งสามนี่เข้าไป การวิวัฒนาการของมันก็ควรจะถูกกระตุ้นให้เร็วยิ่งขึ้น และมันยังจะได้รับพลังเสริมอีก” หานเซิ่นเก็บจีโนคอร์ธาตุสายฟ้าทั้งสามอันไป


 


มันมีจีโนคอร์ธาตุไฟสองอันและธาตุน้ำแข็งอีกหนึ่งอัน ขณะที่เขาจ้องมองไปที่จีโนคอร์ทั้งสาม หานเซิ่นก็ดูลังเล สุดท้ายเขาก็เลือกจีโนคอร์ธาตุน้ำแข็ง เพราะยังไงซะวิชากายหยกของเขาก็เกี่ยวข้องกับธาตุน้ำแข็ง มันจึงเหมาะสมกับเขามากกว่า


 


หานเซิ่นหยิบจีโนคอร์ธาตุน้ำแข็งขึ้นมา มันมีขนาดพอๆกับกำปั้นเท่านั้น แต่มันดูเหมือนกับเพชรขนาดใหญ่ที่มีเหลี่ยมนับไม่ถ้วน มันส่องประกายระยิบระยับอย่างสวยงาม


 


ภายในจีโนคอร์มีเกล็ดหิมะอยู่ และด้วยเหตุผลบางอย่างเกล็ดหิมะเหล่านั้นดูเหมือนจะเรียงกันเป็นร่างกายสีขาวที่โปร่งใส มันเหมือนกับสาวหิมะจากตำนาน


 


‘ได้ยินมาว่ามีแค่ระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่จะดูดซับจีโนคอร์เข้าไปได้ แต่เราจะทำมันในตอนนี้ได้ไหมนะ?’ ขณะที่ถือจีโนคอร์น้ำแข็งเอาไว้ หานเซิ่นก็ใช้วิชากายหยกและพยายามจะดูดซับพลังของจีโนคอร์


 


ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอะไรที่น่าผิดหวัง กายหยกไม่สามารถดูดซับพลังของจีโนคอร์ได้ จีโนคอร์ธาตุน้ำแข็งยังคงนิ่งสนิทอยู่ในฝ่ามือของเขา


 


“วิธีง่ายๆไม่ได้ผล แบบนั้นเราก็คงต้องลองวิธีที่ยากกว่า”

หานเซิ่นใส่จีโนคอร์น้ำแข็งเข้าไปในปากและกลืนมันเข้าไป หลังจากนั้นเขาใช้วิชาคอนซูมพยายามจะดูดซับจีโนคอร์ให้ได้


 


ในตอนที่วิชาคอนซูมเริ่มทำงาน หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงพลังอันหนาวเย็นระเบิดภายในท้องของเขา มันแช่แข็งท้องของของเขา หลังจากนั้นมันก็เริ่มกระจายไปตามส่วนอื่นๆทั่วร่างกาย


 


ในชั่วพริบตาร่างกายทั้งร่างของหานเซิ่นก็กลายเป็นน้ำแข็ง ทั้งร่างของเขาห่อหุ้มด้วยชั้นน้ำแข็งหนา หานเซิ่นรู้สึกตกใจ เขารีบใช้กายหยกอย่างเต็มกำลังเพื่อจะต่อสู้กับพลังอันหนาวเย็น


 


กายหยกมีความต้านทานต่อความหนาวเย็น แต่ถึงอย่างนั้นเชลล์ของหานเซิ่นก็ยังช้าลงอย่างมาก มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเขาต้องการจะหลับไหล เปลือกตาของเขาเริ่มหนักราวกับว่าเขาไม่ได้นอนมาหลายวัน


 


ในสภาพเซื่องซึมนั้น หานเซิ่นได้ยินเสียงแผ่วเบาของผู้หญิงมากระซิบที่ข้างหูของเขา “หลับ..”


 


เสียงกระซิบนั้นเกือบจะทำให้หานเซิ่นหลับไป ถึงแม้กายหยกของเขาจะกำลังทำงานอยู่ แต่เขาก็ไม่สามารถทำสมาธิเพื่อใช้มันต่อไปได้


 


“โอ้ไม่นะ! พลังที่หนาวเย็นมีผลทำให้ผ่อนคลาย…” หานเซิ่นรู้สึกตัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเขาเกิดหลับไปตอนนี้ มันก็มีโอกาสที่เขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก


 


“เราจะหลับไม่ได้… เราจะหลับไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม… ถ้าเราเกิดหลับไป เซลล์ทั้งร่างกายของเราก็จะถูกแช่แข็ง และมันจะเป็นเรื่องยากที่เราจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง” หานเซิ่นเตือนตัวเอง เขาบอกตัวเองให้ใช้วิชากายหยกต่อไป


 


ถึงแม้เขาจะรู้ตัวว่าไม่สามารถหลับได้ แต่เขาก็อ่อนล้าขึ้นเรื่อยๆ เขาสามารถหลับไปได้ทุกเมื่อ


 


ร่างกายของเขาอ่อนแรงลง และเขาจำเป็นต้องใช้จิตใจที่เข็มแข็งเพื่อคงสติเอาไว้ เขาไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองหลับไปได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม


 


ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ก่อนที่หานเซิ่นจะรู้สึกว่าความอ่อนล้าเริ่มจางหายไป เขารู้สึกตื่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดความหนาวเย็นก็ลดลงไป และร่างกายของเขาก็เริ่มกลับมาอุ่นอีกครั้ง


 


หานเซิ่นรู้ว่าตัวเองผ่านส่วนที่ยากที่สุดได้แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะชะล่าใจได้ เขายังคงใช้วิชากายหยกต่อไปเพื่อดูดซับพลังของจีโนคอร์น้ำแข็ง


 


ขณะที่กายหยกดูดซับพลังนั้นเข้าไป หานเซิ่นก็สังเกตว่ามันไม่ได้แสดงความเปลี่ยนแปลงใดๆ พลังของจีโนคอร์ถูกดูดซับเข้าไป แต่มันไม่ได้ละลายเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกายหยกอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นพลังอิสระภายในร่างกายของหานเซิ่นแทน


 


หานเซิ่นลืมตาขึ้นมา และเขาก็สะดุ้ง มันมีสัญลักษณ์เกล็ดหิมะบนผิวทั่วร่างกายของเขาเหมือนกับเป็นรอยสัก


 


หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงพลังภายในตัว และเขาก็รู้ว่าสามารถควบคุมมันได้ แต่เขาไม่สามารถใช้มันเหมือนกับวิชาจีโนทั่วไป หรือรวมพลังของมันเข้ากับวิชาจีโนอื่นของตัวเองได้


 


“จีโนคอร์เทพเจ้าเป็นอะไรที่ลึกลับจริงๆ ในตอนนี้มันเหมือนกับว่าเรามีวิชาระดับเทพเจ้าธาตุน้ำแข็งอยู่ ไม่รู้ว่าวิชาธาตุน้ำแข็งนี้ทำอะไรได้ แต่มันคงจะเกี่ยวกับพลังหนาวเย็นที่ทำให้หลับใหลอย่างนั้นสินะ”

หานเซิ่นรู้ว่าถ้าเขาใช้พลังนั้น มันก็จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อชาร์จพลังกลับคืนมาอีกครั้ง มันไม่เหมือนกับวิชาจีโนของตัวเขาเองที่จะใช้มากแค่ไหนก็ได้ตราบใดที่เขายังมีพลังงานเหลืออยู่


 


“เราควรจะลองทดสอบมันกับใครดี?” หานเซิ่นคำนึงถึงเรื่องนั้น แต่เขาไม่สามารถหาเป้าหมายที่เหมาะสมได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเลิกคิดเกี่ยวกับมันไปก่อน เขารู้สึกตัวว่าไม่ได้เข้าไปเยี่ยมฮอไรซอนทอลอีวิลมาสักพักหนึ่งแล้ว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจกลับไปที่สถานที่ลึกลับนั่นเพื่อพบกับฮอไรซอนทอลอีวิลอีกครั้ง

 

 

 


ตอนที่ 2714

 

 


หลังจากที่ใช้ลูกบาศก์สี่แกะเพื่อกลับไปที่ดินแดนลึกลับนั่น หานเซิ่นก็รีบตรงไปที่ภูเขาลูกใหญ่ในทันที


 


ในระหว่างที่เขาไม่อยู่ เหล่าเบรกสกายยังคงพยายามจะขุดภูเขาต่อไป ในตอนที่หานเซิ่นไปถึง ฮอไรซอนทอลอีวิลก็กำลังอยู่ท่ามกลางการถูกทรมานโดยเสาโลหะเหมือนครั้งก่อน เลือดไหลออกมาจากอกของยักษ์ตนนั้นขณะที่เสาหมุนควงสว่าน


 


ในตอนที่มันเห็นหานเซิ่น ฮอไรซอนทอลอีวิลก็ขมวดคิ้ว “ทำไมเจ้าถึงได้ใช้เวลานานนักกว่าจะกลับมา?”


 


“มีบางสิ่งเกิดขึ้นในโลกภายนอก และทำให้ข้าล่าช้า”

หานเซิ่นไม่ได้อธิบายอะไรมาก เขาเปลี่ยนเรื่องโดยพูดขึ้นว่า “ข้าจะเล่าให้ฟังถ้าเจ้าอยากรู้เกี่ยวกับจักรวาล…”


 


แต่ฮอไรซอนทอลอีวิลพูดขึ้นมาก่อน “ฟังให้ดี ข้ามีเวลาไม่มาก มันมีบางสิ่งที่ข้าต้องขอให้เจ้าทำให้กับข้า ถ้าเจ้าทำมันได้ มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าด้วยเช่นกัน”


 


“เกิดอะไรขึ้น?” หานเซิ่นมองไปที่ฮอไรซอนทอลอีวิลด้วยความสับสน ยักษ์ตนนี้ดูจะทำตัวแตกต่างไปจากครั้งก่อน


 


ก่อนหน้านี้ถึงแม้ฮอไรซอนทอลจะกำลังถูกทรมาน แต่เขาก็ยังคงสงบนิ่งเอาไว้ได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันกำลังร้อนรน เนื่องจากมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น


 


ฮอไรซอนทอลอีวิลไม่ตอบคำถามของหานเซิ่น เขายกหัวขึ้นมาและปล่อยให้ใบหน้าของเขาโผล่ออกมาจากเส้นผมที่ยุ่งเหยิง

“เจ้าเชื่อว่ามีพระเจ้าอยู่ในโลกนี้ไหม?”


 


ใบหน้าของฮอไรซอนทอลอีวิลไม่ได้หล่อเหลา แต่มันเป็นใบหน้าที่เชื่อใจได้ แต่สิ่งที่ฮอไรซอนทอลอีวิลพูด ทำให้หานเซิ่นรู้สึกหนาวขึ้นมา สำหรับหานเซิ่นนั่นเป็นหนึ่งในคำถามที่น่ารำคาญที่สุดในโลกนี้ เขาไม่รู้จริงๆว่าควรจะตอบมันยังไง


 


“โอ้ ดูเหมือนเจ้าจะเคยพบพวกเขาแล้วใช่ไหม?” ฮอไรซอนทอลอีวิลประหลาดใจ เขาคาดเดาเรื่องนี้จากปฏิกิริยาของหานเซิ่น


 


“ใช่ ถ้าพระเจ้าที่เจ้าพูดถึงคือคนอย่างราชาจุน ข้าเคยเห็นพวกเขามาก่อน และข้ายังเคยเผชิญหน้ากับราชาจุนมาแล้วครั้งหนึ่ง” หานเซิ่นบอกฮอไรซอนทอลอีวิลเกี่ยวกับเหตุการณ์บนดาวอุปราคาที่เขาได้พบกับราชาจุน


 


เมื่อฮอไรซอนทอลอีวิลได้ยินว่าหานเซิ่นฆ่าเรเวนอาทิตย์ต่อหน้าราชาจุน เขาก็หัวเราะออกมา

“เยี่ยม นี่มันเยี่ยมมากๆ! ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะเอาชนะราชาจุนได้แบบนั้น… แค่เรื่องนี้ก็เพียงพอที่เจ้าและข้าจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ดี ดี ดี ข้ารู้สึกวางใจขึ้นมากที่จะมอบงานนี้ให้กับเจ้า”


 


“มันคืออะไร?” หานเซิ่นถามอย่างลังเล


 


แทนที่จะตอบคำถาม ฮอไรซอนทอลอีวิลพูดต่อไปว่า “ในจักรวาลนี้มีสิ่งมีชีวิตอย่างราชาจุนอยู่ สำหรับบางคน พวกเขาเป็นพระเจ้าจริงๆ แต่สำหรับข้า พวกเขามีค่าน้อยกว่าตดในสายลม ถึงแม้พวกเขาจะเป็นพระเจ้า แล้วมันจะยังไง? พวกเราเบรกสกายจะท้าทายและสังหารพระเจ้า พวกเราจะทำให้พวกเขาฉี่ราด เพราะยังไงซะนั่นก็คือวิถีชีวิตของลูกผู้ชาย”


 


วิธีการพูดของฮอไรซอนทอลอีวิลอาจจะไม่สุภาพ แต่มันทำให้หานเซิ่นตื่นเต้นอย่างมาก เขาเห็นด้วยกับฮอไรซอนทอลอีวิลว่านั่นคือสิ่งที่ลูกผู้ชายควรจะทำ


 


ยักษ์ตนนั้นพูดต่อไปว่า “ข้าจะควบคุมชะตากรรมของตัวเอง และชะตากรรมของเบรกสกายก็อยู่ในมือของข้า ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นพระเจ้าหรือใครหน้าไหน พวกเขาก็ทำให้เบรกสกายยอมแพ้ไม่ได้”


 


ถึงแม้หานเซิ่นจะกำลังตื่นเต้น แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเศร้าโศก


 


“เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา


 


ฮอไรซอนทอลอีวิลไม่ตอบคำถามของเขา เขาจ้องไปที่หานเซิ่นด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและพูด “นี่อาจจะเป็นสมรภูมิสุดท้ายของเผ่าเรา ข้าไม่ควรขอเจ้าในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ข้าไม่มีทางเลือกอื่น และเจ้าเป็นคริสตัลไลเซอร์คนหนึ่ง นั่นหมายความว่าพวกเราเป็นพันธมิตรกัน ด้วยเหตุนั้นข้าจำเป็นต้องหวังพึ่งเจ้า”


 


“งานนี้เป็นอะไรที่ยากมากๆ มันอาจจะทำลายชะตากรรมของตัวเจ้าและเผ่าพันธุ์ของเจ้า หลังจากนี้เจ้าอาจจะต้องเป็นศัตรูของพระเจ้า เจ้าหวาดกลัวไหม?” ฮอไรซอนทอลอีวิลมองไปที่หานเซิ่นด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ


 


“ข้าอาจจะเชื่อฟังพระเจ้า แต่ข้าจะไม่เชื่อฟังคนที่กล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นพระเจ้าอย่างราชาจุน” หานเซิ่นตอบ


 


“ฮ่าๆ! พูดได้ดี ถึงแม้เจ้าจะไม่เหมือนกับข้า แต่อย่างน้อยเจ้าก็ซื่อตรง” ฮอไรซอนทอลอีวิลหัวเราะหนักกว่าเดิม


 


“ถ้าเจ้ามีงานที่จะขอให้ข้าไปทำ อย่างน้อยก็ควรอธิบายก่อนว่ามันคืออะไร?” หานเซิ่นถามฮอไรซอนทอลอีวิล


 


หานเซิ่นไม่ได้หวาดกลัวการเป็นศัตรูกับราชาจุน อีกฝ่ายเกลียดชังเขาเรียบร้อยแล้ว และนั่นจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าซอนทอลอีวิลจะขอให้เขาทำอไร


 


แถมตอนนี้เขาต้องการจะหาความจริงว่าพระเจ้าเหล่านั้นมาจากที่ไหน และมันเกิดอะไรขึ้นกับผู้นำของเซเคร็ดและฮอไรซอนทอลอีวิล


 


ฮอไรซอนทอลอีวิลมองหานเซิ่นด้วยสีหน้าจริงจังและพูด “น้องชาย ข้าบอกเจ้าได้เลยว่าโลกนี้ไม่มีพระเจ้าอยู่ คนที่กล่าวอ้างว่าเป็นพระเจ้านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเจ้าและข้า มันแตกต่างเพียงแค่ว่าพวกเราอยู่นอกจีโนฮอลล์ แต่พวกเขาอยู่ข้างใน”


 


เมื่อหานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็รู้สึกดีใจ เขาใกล้จะได้รู้ความจริงของเรื่องนี้แล้ว แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เขาแค่รอให้ฮอไรซอนทอลอีวิลอธิบายต่อ เขาอยากจะฟังทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้านี้


 


ฮอไรซอนทอลอีวิลหยุดไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “ถึงแม้มันจะเป็นแค่ความแตกต่างเรื่องที่อยู่ แต่พลังของพวกเขาก็เหนือกว่าพวกเรามาก ความจริงแล้วพลังของพวกเราแทบจะสร้างความเสียหายกับพวกเขาไม่ได้ แต่มันมีอยู่พลังหนึ่งที่อยู่เหนือกฎข้อนี้”


 


“สุดยอดยีน?” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะถาม


 


ฮอไรซอนทอลอีวิลคิดว่าหานเซิ่นคงจะได้ยินเรื่องนี้มาจากตอนที่เขากับราชาจุนคุยกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันมาก เขาพยักหน้าและพูด

“ถูกต้อง มันคือสุดยอดยีน การมีสุดยอดยีนจะทำให้เจ้าฆ่าพระเจ้าปลอมๆพวกนั้นได้”


 


“แต่สุดยอดยีนคืออะไร?” หานเซิ่นถาม


 


“มันไม่มีคำตอบว่าสุดยอดยีนคืออะไร” คำตอบของฮอไรซอนทอลอีวิลทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ


 


“ทำไมมันถึงไม่มีคำตอบ?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน


 


ฮอไรซอนทอลอีวิลหัวเราะและพูด “พี่ชายของข้าเคยต่อสู้กับพระเจ้าเหล่านั้น พวกเราบังเอิญเจอกับบางสิ่งที่ทำร้ายพวกเขาได้ แต่การทำร้ายพวกเขาคือทั้งหมดที่พวกเราทำได้ พวกเราไม่เคยฆ่าพระเจ้า ดังนั้นพวกเราจึงวิจัยเกี่ยวกับการค้นพบและสรุปจะเรียกว่าสุดยอดยีน พวกเราจำเป็นต้องมีร่างกายที่มีสุดยอดยีนอยู่เพื่อที่พวกเราจะต่อสู้กับพระเจ้าในจีโนฮอลล์และฆ่าพวกเขาไปอย่างถาวร”


 


ก่อนที่หานเซิ่นจะรวบรวมคำพูดได้ ฮอไรซอนทอลอีวิลก็พูดต่อไปว่า

“ข้ายังคงทำไม่สำเร็จ ดังนั้นข้าจึงบอกเจ้าถึงธรรมชาติของสุดยอดยีนไม่ได้ แต่มันมีบางสิ่งที่ข้าจะมอบให้กับเจ้า ด้วยสิ่งนี้เจ้าจะต้องค้นหาความจริงด้วยตัวเอง ถ้าเจ้าโชคดีพอ เจ้าก็อาจจะหาความจริงได้ว่าสุดยอดยีนคืออะไรกันแน่ แต่ถ้าเจ้าไม่โชคดีพอ ก็ส่งมันต่อไปให้กับคนอื่น จนกระทั่งสักวันหนึ่งจะมีคนที่รู้ว่าจริงๆแล้วสุดยอดยีนคืออะไร”


 


เมื่อหานเซิ่นได้ยินแบบนั้น ร่างกายของเขาก็สั่น “พี่ชาย” ที่ฮอไรซอนทอลอีวิลพูดถึงนั้นอาจจะเป็นผู้นำของเซเคร็ด ตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าความลับอาจจะอยู่ในมือผู้นำของเซเคร็ด เขาไม่เคยคาดคิดว่าจริงๆแล้วฮอไรซอนทอลอีวิลจะเป็นคนที่กุมความลับนั้น และตอนนี้มันก็กำลังจะถูกมอบให้กับเขา

 

 

 


ตอนที่ 2715

 

ฮอไรซอนทอลอีวิลเงียบไป เขาเอื้อมไปจับเสาโลหะที่กำลังเจาะทะลวงอกของเขา หลังจากนั้นเขาก็เริ่มดึงมันออกมาจากร่างกายอย่างช้าๆ เนื่องจากสิ่งที่ฮอไรซอนทอลอีวิลกำลังทำ เสาโลหะเริ่มจะเรืองแสงออกมา มันสั่นไหวในมือของเขาราวกับว่ามันพยายามจะเจาะทะลวงร่างกายของเขาต่อไป แต่ตอนนี้ฮอไรซอนทอลอีวิลจับเสาเอาไว้แน่น ไม่ว่าเสาโลหะจะพยายามมากแค่ไหน ฮอไรซอนทอลอีวิลก็ยังคงสามารถดึงมันออกมาได้ด้วยมือของเขา


 


ตูม!


ในตอนที่เสาโลหะออกมาจากอกของฮอไรซอนทอลอีวิล ในที่สุดหานเซิ่นก็เห็นว่าจริงๆแล้วเสาโลหะนั่นคือหอกขนาดยักษ์ หอกนั้นดิ้นไปมาราวกับงูในมือของฮอไรซอนทอลอีวิล ดูเหมือนกับว่ามันกำลังพยายามจะหนีไปจากกำมือของเขา แต่มือของฮอไรซอนทอลอีวิลจับมันเอาไว้แน่นและไม่ปล่อยให้หมัดหลุดมือไปได้


 


ฮอไรซอนทอลอีวิลลุกขึ้นมาจากภูเขา และทำให้หานเซิ่นคิดในใจว่า

‘ถ้านายมีพลังพอที่จะปล่อยตัวเองเป็นอิสระ แบบนั้นทำไมนายถึงยอมถูกกักขังอยู่ที่นี่มานานหลายปี และปล่อยให้เบรกสกายเหล่านั้นถูกบังคับให้พยายามจะช่วยนายอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย’


 


เมื่อฮอไรซอนทอลอีวิลดึงหอกออกมาได้แล้ว บาดแผลที่อกของเขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ไม่นานมันก็ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยใดๆบนอกของเขา


 


หลังจากที่ฮอไรซอนทอลอีวิลเป็นอิสระ ภูเขาก็เริ่มจะสั่นสะเทือน แม้แต่มหาสมุทรรอบตัวพวกเขาที่ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตาเองก็เริ่มจะแปรปรวน มันเหมือนกับว่าโลกนี้กำลังจะล่มสลาย


 


ฮอไรซอนทอลอีวิลยืนอยู่บนทะเล เขาถือหอกอยู่ในมือและคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า เสียงของเขาทำให้ดินแดนแห่งนี้สั่นไหวยิ่งกว่าเดิม หานเซิ่นกำลังบินอยู่ แต่ความดังของเสียงทำให้เขาร่วงลงมาจากท้องฟ้า


 


“หยุดตะโกน!” หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าอวัยวะภายในของเขากำลังจะถูกทำลายโดยเสียงตะโกนของฮอไรซอนทอลอีวิล อวัยวะภายในทั้งสิบเอ็ดของเขาเหมือนกำลังจะถูกฉีกขาด เขาใช้พลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับพลังเสียง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล


 


เสียงของหานเซิ่นนั้นเหมือนกับมดตัวหนึ่งเมื่อเทียบกับการคำรามที่ดังลั่นราวกับฟ้าร้อง ไม่ว่าเขาจะตะโกนมากสักแค่ไหน เขาก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเอง


 


ในจังหวะที่หานเซิ่นคิดว่าเขาจะต้องตายเพราะเสียงตะโกนนั่น ในที่สุดฮอไรซอนทอลอีวิลก็หยุดไป


 


หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจขึ้นมา เขากระอักเลือดสีคล้ำออกมา เขาเงยหน้ากลับขึ้นมาและเห็นฮอไรซอนทอลอีวิลกำลังมองมาที่เขา เขาคิดว่ายักษ์ตนนั้นกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฮอไรซอนทอลอีวิลเพียงแค่ยกหอกขึ้นและเล็งมันไปที่อกของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็แทงหอกทะลุเข้าไปสู่หัวใจของตัวเอง


 


ใบมีดของหอกเจาะทะลวงผ่านหัวใจของฮอไรซอนทอลอีวิลอีกครั้ง แต่เขาดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรในเรื่องนั้น หลังจากที่เขาดึงหอกกลับออกมา เขาก็ใช้มือล้วงเข้าไปในบาดแผลและดึงเอาบางสิ่งออกมา


 


“รับมันไป ตั้งแต่นี้ไปพระเจ้าทุกคนจะเป็นศัตรูกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะชอบมันหรือไม่ นี่ก็คือชะตากรรมของเจ้า และมันเป็นชะตากรรมที่เจ้าไม่อาจจะหนีไปได้” ฮอไรซอนทอลอีวิลแบมือและบางสิ่งที่ดูเหมือนกับอุกกาบาตก็ลอยออกไปหาหานเซิ่น


 


ในตอนที่หานเซิ่นเห็นความเร็วและความรุนแรงของสิ่งที่บินเข้ามา เขาก็สะดุ้ง เขารีบเคลื่อนที่เข้าไปเพื่อรับมันเอาไว้


 


แต่ในตอนที่มันลงมาอยู่ในมือของเขา มันก็สัมผัสกับผิวของเขาอย่างนุ่มนวลราวกับเป็นขนนก


 


หานเซิ่นเชื่อว่าฮอไรซอนทอลอีวิลเป็นคนที่ควบคุมการบินของสิ่งนั้น ดังนั้นเขาไม่ได้ประหลาดใจอะไร แต่ในตอนที่เขาแบมือออกและมองดูสิ่งที่ได้รับมา หานเซิ่นก็แทบจะหยุดหายใจ เขาจ้องมองไปที่มือตัวเองอย่างตกตะลึง


 


สิ่งที่หานเซิ่นกำลังถืออยู่คือคริสตัลสีดำลูกหนึ่ง เขาคุ้นเคยกับรูปร่าง ขนาดและน้ำหนักของมันดี บางทีมันอาจจะไม่มีใครที่จะคุ้นเคยกับมันมากไปกว่าเขา


 


คริสตัลสีดำนี้เหมือนกันกับคริสตัลสีดำที่หานเซิ่นได้รับมาจากด้วงทมิฬเมื่อนานมาแล้ว ถ้าหานเซิ่นไม่ได้ดูดซับคริสตัลสีดำนั้นเข้าไปและได้รับชุดเกราะคริสตัลสีดำมา เขาก็คงจะคิดว่าพวกมันเป็นสิ่งเดียวกัน


 


“นี่มันอะไรกัน? สิ่งที่ฮอไรซอนทอลอีวิลพูดถึงคือคริสตัลสีดำ คริสตัลสีดำอันนี้เหมือนกับอันที่เราพบในก็อตแซงชัวรี่อย่างนั้นหรอ? นี่หมายความว่ามันบรรจุชุดเกราะคริสตัลสีดำอยู่ภายในเช่นเดียวกันใช่ไหม?” จิตใจของหานเซิ่นตกอยู่ในความโกลาหล


 


“ตอนนี้เจ้าควรไปได้แล้ว หลังจากชีวิตนี้มันจะไม่มีฮอไรซอนทอลอีวิลอีก เผ่าเบรกสกายจะไม่มีอยู่อีกต่อไป”

ดวงตาของฮอไรซอนทอลอีวิลดูเหมือนกำลังลุกเป็นไฟ เขาหันไปมองดวงอาทิตย์นาฬิกาที่อยู่บนท้องฟ้า หานเซิ่นไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น ฮอไรซอนทอลอีวิลกระโดดขึ้นไปพร้อมกับฉีกมิติของอวกาศรอบๆ ขณะตรงเข้าไปหาดวงอาทิตย์


 


ตอนนี้ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนประหลาดนี้


 


เหล่าเบรกสกายขุดภูเขาตลอดชีวิตโดยหวังจะช่วยฮอไรซอนทอลอีวิล แต่ฮอไรซอนทอลอีวิลปล่อยให้ตัวเองถูกตรึงอยู่กับภูเขาก็เพราะพวกมัน เขาปล่อยให้ตัวเองถูกทรมาน เขามีพลังที่จะหนีไป แต่พวกยักษ์ที่อยู่ที่นี่จะต้องตาย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฮอไรซอนทอลอีวิลถึงยอมถูกขังอยู่ที่นี่


 


ในตอนที่หานเซิ่นบินออกจากภูเขาและกลับมาสู่บริเวณที่รายล้อมไปด้วยปราสาท เขาก็พบว่าพวกมันไม่ได้ถูกค้ำจุนโดยน้ำทะเลอีกต่อไป พวกมันทั้งหมดค่อยๆถูกดึงลึกลงไปใต้ทะเล เนื้อหนังของเหล่ายักษ์ถูกลอกและเหลือไว้เพียงแค่โครงกระดูก


 


“เป็นคำสาปที่โหดร้ายอะไรขนาดนี้ ฮอไรซอนทอลอีวิลยอมถูกขังอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่พวกมันจะได้มีชีวิตต่อไป และถ้าเขาหนีไป พวกมันก็จะเหน่าเปื่อยจนเหลือแต่กระดูก ฮอไรซอนทอลอีวิลไม่ต้องการจะเห็นเผ่าของเขาสูญพันธุ์ แต่ใครจะรู้ว่าเขาถูกทรมานอยู่บนภูเขานั่นมานานแค่ไหนแล้ว นี่คงจะต้องเป็นการทรมานที่โหดร้ายที่สุดที่เคยมีมา”

หานเซิ่นถอนหายใจ เขาไม่อยากเห็นกระดูกของพวกยักษ์อีกต่อไป เขารีบบินไปทางลูกบาศก์สี่แกะโดยเร็วที่สุด


 


ตูม!


ก่อนที่หานเซิ่นจะไปถึงลูกบาศก์สี่แกะ เขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมา แสงสว่างที่เจิดจ้าเข้าปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขา ภายใต้แสงสว่างไสวนั้น เขามองไม่เห็นแม้แต่เห็นนิ้วมือตัวเอง คลื่นกระแทกนั้นสั่นสะเทือนทั้งมิติ


 


หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อมองขึ้นไป ดวงอาทิตย์นาฬิกากำลังแตกร้าว และฮอไรซอนทอลอีวิลก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้าขณะที่ถือหอกเอาไว้


 


คลื่นของเปลวไฟซัดเข้าใส่นาฬิกาที่แตกร้าวราวกับสึนามิ หานเซิ่นรู้ในทันทีว่าพลังที่เขากำลังได้เห็นนั้นเหนือกว่าที่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าจะปลดปล่อยออกมาได้ หานเซิ่นไม่กล้าจะอยู่ต่อ เขารีบตรงเข้าไปหาลูกบาศก์สี่แกะในทันที


 


“หลังจากเฝ้าเรดดัสท์มาเป็นพันล้านปี หนึ่งหอกทลายท้องฟ้าเพื่อสังหารผีสางและพระเจ้า”

ฮอไรซอนทอลอีวิลตะโกน เสียงของเขาดังก้องไปทั่วดินแดน


 


หานเซิ่นไม่กล้าจะมัวชักช้า ถึงแม้เขาจะมีคำถามมากมายที่อยากจะถามฮอไรซอนทอลอีวิล แต่เขาก็ไม่มีโอกาสจะทำแบบนั้นแล้วในตอนนี้


 


หานเซิ่นมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเหยียบไปบนหัวแกะทองแดง หลังจากนั้นเขาก็ถูกเทเลพอร์ตออกไปจากดินแดนลึกลับนั่นพร้อมกับลูกบาศก์สี่แกะ


 


หานเซิ่นอยากรู้ว่าที่สุดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับฮอไรซอนทอลอีวิล แต่เขาไม่สามารถกลับไปดูได้ เขาถือคริสตัลสีดำอยู่ในมือ ขณะที่หัวใจของเขารู้สึกแย่และเศร้าโศก


 


“คริสตัลสีดำนี้… มันเหมือนกับคริสตัลสีดำที่เราพบจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นลูบคริสตัลสีดำ ความรู้สึกมันเหมือนกันมากจริงๆ… มันไม่มีทางเป็นของปลอมไปได้

 

 

 


ตอนที่ 2716

 

“น่าเสียดายที่ตอนนี้เรากลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเราจะป้อนคริสตัลนี่ให้กับมอนสเตอร์ตัวหนึ่ง หลังจากนั้นเราก็จะยืนยันได้ว่านี่เป็นคริสตัลสีดำแบบเดียวกับที่เราเจอเมื่อนานมาแล้วหรือเปล่า” หานเซิ่นพูดกับตัวเอง


 


ทันใดนั้นดวงตาของหานเซิ่นก็เป็นประกายขึ้นมา “ถึงเราจะลองทดสอบกับมอนสเตอร์ของก็อตแซงชัวรี่ไม่ได้ แต่ในจักรวาลแห่งนี้ก็มีซีโน่เจเนอิคอยู่ ถ้าเราจับมาสักตัวและลองใช้มันทดสอบคริสตัลนี้ มันก็อาจจะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน”


 


เมื่อหานเซิ่นตัดสินใจได้แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปไหนไกลเพื่อหาหนูทดลอง เขาแค่ต้องไปจับด้วงดาราระดับราชันจากต้นไม้ดารามา


 


หลังจากนั้นไม่นานหานเซิ่นก็ไปถึงต้นไม้ดารา แต่ถึงจะใช้เวลาค้นหาอยู่ครึ่งวัน เขาก็ยังหาด้วงดาราไม่เจอเลยสักตัว


 


“ดูเหมือนว่าด้วงดาราจะยังไม่กลับมา” หานเซิ่นพึมพำกับตัวเอง

“ดูเหมือนว่าเราต้องไปหาซีโน่เจเนอิคจากที่อื่น”


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนกำลังเข้ามาหาต้นไม้ดารา ในตอนที่คนๆนั้นเข้ามาใกล้ หานเซิ่นก็จำได้ว่าเขาคือกรูจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง


 


“นี่คือต้นไม้ดารา ถ้าไม่มีคำสั่งของท่านผู้นำ เจ้าจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้” หานเซิ่นพูดขณะที่เข้ามาขวางทางกรู


 


ความจริงแล้วหานเซิ่นไม่จำเป็นต้องเตือนชายคนนั้น มันมีผนึกอยู่รอบๆต้นไม้ดาราเรียบร้อยแล้ว ถ้าสิ่งมีชีวิตอื่นเข้าใกล้ต้นไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต เสียงสัญญาณเตือนก็จะดังขึ้นมา


 


“ข้าไปตามหาเจ้าที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ แต่ข้าไม่เห็นเจ้าที่นั่น ดังนั้นข้าจึงคิดว่าเจ้าอาจจะมาอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าข้าจะคิดถูก” กรูพูด


 


“ทำไมเจ้าถึงตามหาข้า?” หานเซิ่นถามอย่างระมัดระวัง


 


หานเซิ่นมีความบาดหมางที่ฝังลึกกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ถ้าคนของเอ็กซ์ตรีมคิงอย่างกรูมาตามหาเขา นั่นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอจะทำให้เขาระวังตัว


 


กรูยิ้มออกมา “ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไร คนของข้าอาจจะมีเรื่องบาดหมางกับเจ้า แต่ไม่ใช่พวกเราทุกคนจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องสะสางด้วยการหลั่งเลือด”


 


หานเซิ่นรู้ในทันทีว่ากรูหมายความว่าอะไร ภายในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงมีอยู่หลายฝ่าย ซึ่งฝ่ายที่เป็นใหญ่ที่สุดคือตระกูลไป๋ที่ถูกนำโดยราชาไป๋ และมันยังมีฝ่ายของตระกูลเป่าที่หานเซิ่นเพิ่งจะคุ้นเคยเมื่อไม่นานมานี้ ถึงแม้ตระกูลเป่าจะไม่ใช่ราชวงศ์ที่แท้จริงอีกต่อไป แต่พวกเขาก็ยังคงมีอิทธิพลภายในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอยู่ และมันยังมีกลุ่มอื่นๆอยู่อีกเช่นกัน สถานการณ์ทางการเมืองของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงค่อนข้างซับซ้อน และเนื่องจากเป็นเพียงแค่คนนอก หานเซิ่นจึงไม่มีวันเข้าใจถึงสถานการณ์ของพวกเขา


 


หานเซิ่นไม่รู้ว่ากรูเป็นคนของฝ่ายไหนกันแน่ แต่ฟังดูเหมือนกับว่าคนของเขาไม่ได้คิดจะก่อปัญหาให้กับหานเซิ่น หรืออย่างน้อยๆพวกเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องความขัดแย้ง


 


“ถ้าอย่างนั้นเจ้ามีเรื่องอะไร?” หานเซิ่นเกือบจะฆ่ากรูในการประลอง เขาจึงไม่คิดว่ากรูจะใจกว้างพอจะลืมเรื่องทั้งหมดนั้น


 


กรูดูจริงจังขณะที่พูดขึ้นมา “ข้าพบซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่อยู่ตามลำพัง แต่ข้าไม่มั่นใจว่าจะฆ่ามันได้ ดังนั้นข้าจึงหวังว่าพวกเราจะร่วมมือกันฆ่ามัน”


 


“นั่นฟังดูไม่ใช่ความคิดที่ดี” หานเซิ่นพูดหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่


 


พวกเขาทั้งสองไม่ได้มีความเชื่อใจต่อกัน นอกจากนั้นพวกเขายังเป็นศัตรูกันอีก และถึงแม้พวกเขาจะเป็นมิตรต่อกัน มันก็เป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะตัดสินใจเรื่องส่วนแบ่งที่ได้รับจากการล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า


 


กรูเห็นว่าหานเซิ่นกำลังกังวลเกี่ยวกับอะไร ดังนั้นเขาพูดขึ้นว่า

“เจ้าอาจจะไม่เชื่อข้า แต่ข้าไม่ได้มีประสงค์ร้ายกับเจ้าจริงๆ บอกตามตรงข้านับถือเจ้า นั่นเป็นเหตุผลที่ข้ามาชวนเจ้าไปล่าซีโน่เจเนอิคด้วยกัน ข้าทำมันด้วยตัวเองไม่ได้ และข้าก็อยากจะเห็นวิชามีดของเจ้าอีกครั้ง ข้าอยากจะเรียนรู้จากเจ้า ส่วนในเรื่องการแบ่งสิ่งที่ได้รับจากการล่า ไม่ว่ารางวัลอะไรก็ตามที่พวกเราได้รับ พวกเราจะแบ่งมันคนละครึ่ง”


 


หานเซิ่นมองไปที่กรูโดยไม่พูดอะไร เขายังคงลังเล


 


มันอาจจะมีคนที่ไม่ได้สนใจอะไรในเรื่องนั้น แต่ทว่าหานเซิ่นไม่รู้ว่ากรูรู้สึกแบบนั้นจริงๆหรือเปล่า มันอาจจะเป็นกลอุบายเพื่อแก้แค้นก็ได้ ด้วยเหตุนั้นหลังจากที่ใช้เวลาคิดเกี่ยวกับมันดีๆแล้ว หานเซิ่นก็ตัดสินใจที่จะปฏิเสธคำชวนของกรู

“ต้องขอโทษด้วย แต่ข้ามีเรื่องอื่นต้องไปทำ ข้าไปล่าซีโน่เจเนอิคร่วมกับเจ้าไม่ได้”


 


กรูดูผิดหวัง แต่เขาเข้าใจว่าหานเซิ่นกังวลเกี่ยวกับอะไร เขาพยักหน้าและพูด

“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะไม่พยายามเจ้า แต่ถ้าเจ้าเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา เจ้ามาหาข้าได้เสมอ”


 


หลังจากมองดูกรูจากไป หานเซิ่นก็นำเอาแผนที่ของเอาท์เตอร์สกายออกมา ดินแดนของเอาท์เตอร์สกายนั้นกว้างใหญ่เกินกว่าจะถูกแสดงโดยแผนที่เล็กๆ ดังนั้นมีเพียงแค่ดินแดนส่วนเล็กๆเท่านั้นที่ถูกวาดเอาไว้ นั่นรวมถึงส่วนที่เป็นที่อยู่อาศัยของเวรี่ไฮ ต้นไม้ดาราและทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ สถานที่เหล่านั้นเป็นสถานที่หานเซิ่นคุ้นเคยเรียบร้อยแล้ว


 


แต่บนแผนมีเครื่องหมายหลายตัวที่หานเซิ่นไม่เคยเห็นเคยก่อน ซึ่งพวกมันบอกถึงสถานที่ที่ซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวถูกพบเห็น


 


หานเซิ่นตรวจดูแผนที่อยู่สักพัก และเขาก็พบสถานที่หนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกับต้นไม้ดารา ซึ่งมันถูกเรียกว่าแม่น้ำจันทร์เพ็ญ เขาตัดสินใจจะไปที่นั่นเพื่อจับซีโน่เจเนอิคระดับราชันสักตัวกลับมาลองทดสอบคริสตัลสีดำ


 


หานเซิ่นเคยคิดจะกลืนคริสตัลสีดำเข้าไปเพื่อทดสอบมันด้วยตัวเอง แต่เขาเชื่อว่าการเสี่ยงทำอะไรแบบนั้นเป็นอะไรที่โง่เขลา


 


ในเอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวอยู่มากมาย แต่สถานที่ที่อยู่ใกล้ๆกับที่อยู่อาศัยของเวรี่ไฮมักจะมีแค่ซีโน่เจเนอิคระดับราชันหรือต่ำกว่า แม่น้ำจันทร์เพ็ญเป็นหนึ่งในสถานที่แบบนั้น มันไม่มีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ที่นั่น แต่มันมีซีโน่เจเนอิคระดับราชันอาศัยอยู่มากมาย ซึ่งมันเหมาะสมสำหรับให้หานเซิ่นจับตัวมาใช้เป็นหนูทดลอง


 


หานเซิ่นบินไปที่แม่น้ำจันทร์เพ็ญ ภูมิประเทศใกล้ๆกับแม่น้ำเป็นเนินเตี้ยๆที่กระจายออกไปจากแม่น้ำ ทันทีที่หานเซิ่นมาถึงแม่น้ำจันทร์เพ็ญ เขาก็สังเกตเห็นเรดซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งกำลังยืนอยู่บนหน้าผา สิ่งมีชีวิตที่ขาวเหมือนกับหิมะตัวนั้นกำลังมองลงไปในลำธาร


 


หานเซิ่นมองตามสายตาของมันไป แต่มันมีเพียงแค่เมฆที่อยู่ข้างล่างนั้น พวกมันหนาแน่นเกินกว่าจะมองทะลุไปได้


 


ขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เขาก็เห็นความเคลื่อนไหวภายในหมู่เมฆ มันมีซีโน่เจเนอิคตัวใหม่ที่ดูเหมือนกับสิ่งที่ผสมระหว่างปลาและงูบินออกมาจากก้อนเมฆ


 


ซีโน่เจเนอิคตัวนี้ดูเหมือนกับงูขนาดยักษ์ที่มีเขาอยู่บนหัว มันไม่ได้มีอุ้งเท้า แต่มีปีกกางออกมาจากหลังของมัน มันดูเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดมากๆ ในตอนที่มันบินออกมาจากก้อนเมฆ มันก็ส่งเสียงร้องใส่แรดที่อยู่บนหน้าผา


 


ไม่นานหลังจากนั้นแรดและงูบินได้ก็ต่อสู้กัน หานเซิ่นเห็นว่าพวกมันทั้งคู่ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก พวกมันเป็นแค่ระดับราชันขั้นที่สองหรือสามเท่านั้น การต่อสู้นี้จึงไม่ได้ดูน่าสนใจอะไร แต่หานเซิ่นมีแผนที่จะรอคอยจนกระทั่งหนึ่งในพวกมันบาดเจ็บ ก่อนที่เขาจะเข้าไปจับหนึ่งในพวกมันมาทำการทดสอบ


 


แต่หลังจากที่หานเซิ่นมองดูพวกมันไปสักพัก เขาก็รู้สึกแปลกใจ


 


ผิวของแรดนั้นหนามากๆ และมันก็มีพลังในการเปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นหิน แต่พลังอาณาเขตของเจ้างูประหลาดเองก็น่าประหลาดใจเช่นเดียวกัน


 


เจ้างูประหลาดนั้นมีสีขาว ร่างกายของมันไม่ได้ทำขึ้นมาจากหยกเหมือนกับแรด แต่มันเรืองแสงเบลอๆ แสงนั่นก่อตัวเป็นผนึกขนาดใหญ่รอบตัวของมัน


 


ภายในผนึกไม่ว่าแรดจะสร้างความเสียหายได้มากขนาดไหน เจ้างูก็สามารถรักษาพวกมันทั้งหมดได้ ความจริงแล้วบาดแผลของมันฟื้นตัวรวดเร็วซะจนดวงตาของหานเซิ่นแทบจะมองไม่ทัน


 


“มันมีพลังอาณาเขตในการรักษา?” หานเซิ่นพึมพำกับตัวเอง พลังอาณาเขตแบบนั้นถือว่าหาได้ยาก


 


“หานเซิ่น ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?” ในขณะที่หานเซิ่นกำลังดูการต่อสู้อยู่นั้น เขาก็รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนกำลังบินเข้ามาทางเขา คนๆนั้นโบกมือให้กับเขาจากระยะไกล เมื่อคนๆนั้นเข้ามาใกล้ หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายคือกรู


 


“ข้ามาที่นี่เพื่อทำธุระบางอย่าง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?” หานเซิ่นถาม


 


“ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ข้าพูดถึงอยู่ที่นี่ ในเมื่อเจ้าบอกว่ามีธุระ ข้าก็เลยคิดจะลองมาจัดการกับมันดู ข้าไม่ได้คาดคิดว่าจะได้มาเจอกับเจ้าที่นี่ มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ” กรูยิ้ม

 

 

 


ตอนที่ 2717

 

‘ไม่น่าเป็นไปได้ที่การพบกันครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ’ หานเซิ่นคิดอยู่ในหัว


 


แต่กรูไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เขามองไปที่ซีโน่เจเนอิคทั้งสองและพูด

“มูนไรโน่และอิมมอร์ทัลดราก้อน พวกมันเป็นวีโน่เจเนอิคที่หายาก แต่น่าเสียดายที่พวกมันเป็นเพียงแค่ระดับราชันเท่านั้น ถ้าพวกมันเป็นระดับเทพเจ้า พวกเราก็จะมีมูลค่าสูงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิมมอร์ทัลดราก้อน ถ้ามันกลายเป็นระดับเทพเจ้า โซ่สสารของมันก็แทบจะทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอมตะเลย ตราบใดที่อิมมอร์ทัลดราก้อนยังคงมีพลังอยู่ ใครที่มันสาบานว่าจะปกป้องก็จะไม่ถูกฆ่าตาย แต่น่าเสียดายที่อิมเมอร์ทัลระดับเทพเจ้าหาได้ยากมากๆ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับอิมเมอร์ทัลระดับเทพเจ้าแค่สามตัวเท่านั้น”


 


“พลังในระดับราชันไม่เพียงพออย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามด้วยความสงสัย


 


กรูส่ายหัว “อิมมอร์ทัลดราก้อนระดับราชันมีพลังอาณาเขตที่พอใช้ได้ แต่ความสามารถของมันมีประโยชน์แค่การรักษาบาดแผลภายนอกเท่านั้น สำหรับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าแล้ว นั่นไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก การจับพวกมันจึงไม่ค่อยคุ้มค่า แต่อิมมอร์ทัลดราก้อนที่เป็นระดับเทพเจ้านั้นต่างออกไป พวกมันจะช่วยเจ้าได้ในทุกๆสถานการณ์ ยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามากมายอยากจะมีอิมเมอร์ทัลระดับเทพเจ้าสักตัว ไม่ว่าใครก็ต้องการบางสิ่งที่มีศักยภาพพอจะปกป้องชีวิตของพวกเขา”


 


ในตอนที่กรูพูดแบบนั้น หัวใจของหานเซิ่นก็เต้นรัว เขาคิดกับตัวเอง

‘โชคดีมากๆที่เราได้มาพบอิมมอร์ทัลดราก้อนนี้ ถ้าคริสตัลสีดำได้ผลจริงๆ บางทีเราอาจจะได้อิมมอร์ทัลดราก้อนระดับเทพเจ้าตัวหนึ่งมา”


 


“หานเซิ่น ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ข้าต้องการจะฆ่าอยู่ที่แม่น้ำจันทร์เพ็ญ มันอยู่ห่างจากที่นี่ไปเพียงแค่สองร้อยไมล์เท่านั้น ถ้าเจ้ามีเวลา บางทีพวกเราควรจะไปที่นั่นด้วยกัน?” กรูพูดอย่างมีความหวัง


 


“ข้าอยากจะซีโน่เจเนอิคสักตัวมาเป็นสัตว์ขี่ จากที่เจ้าบอก อิมมอร์ทัลดราก้อนนั่นฟังดูไม่เลวเลย ข้าคิดว่าจะไปจับอิมมอร์ทัลดราก้อนนั่น เมื่อข้าจับมันได้แล้ว ถ้าเจ้ายังไม่ได้ฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้านั่น ข้าก็จะไปช่วยเจ้า”

ถ้าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่กรูพูดถึงอยู่ใกล้จริงๆ หานเซิ่นก็ไม่รังเกียจที่จะไปล่ามัน


 


“เอาสิ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่ มันเป็นแค่อิมมอร์ทัลดราก้อน ข้าเชื่อว่าเจ้าคงจะจับมันได้ง่ายๆ” กรูยิ้ม


 


หานเซิ่นไม่สนใจว่าชายคนนี้จะดูอยู่หรือไม่ เพราะยังไงซะมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่คนอื่นจะว่ารู้เขาจับซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งไป


 


พวกเขารออยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง ขณะที่อิมมอร์ทัลดราก้อนไล่ต้อนมูนไรโน่ด้วยอาณาเขตของมัน อิมมอร์ทัลดราก้อนไม่ได้รับความเสียหายใดๆจากการโจมตีของมูนไรโน่


 


ที่สุดแล้วหานเซิ่นและกรูก็มองดูอิมมอร์ทัลดราก้อนกลืนกินมูนไรโน่ที่บาดเจ็บหนักเข้าไป


 


ร่างกายของมูนไรโน่ใหญ่โตกว่าอิมมอร์ทัลดราก้อน หลังจากที่อิมมอร์ทัลดราก้อนกลืนศัตรูของมันเข้าไป ร่างกายของมันก็ขยายใหญ่ราวกับลูกบอลลูน หานเซิ่นสงสัยว่าอิมมอร์ทัลดราก้อนจะย่อยบางสิ่งที่ใหญ่โตแบบนั้นได้ยังไง


 


แต่สำหรับหานเซิ่นแล้ว นี่ถือเป็นโอกาสดี อิมมอร์ทัลดราก้อนเพิ่งจะกินมูนไรโน่ทั้งตัวเข้าไป และตอนนี้มันก็กำลังหยุดพักเพื่อย่อยอาหาร มันไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวมากนัก


 


หานเซิ่นบินออกไปข้างหน้าและปลดปล่อยเส้นไหมจากมือ เขายกมือขึ้นและมีดเส้นไหมก็พันรอบตัวของอิมมอร์ทัลดราก้อน


 


อิมมอร์ทัลดราก้อนตัวสั่นด้วยความกลัว เมื่อมันพยายามจะหนีไป มีดเส้นไหมก็รัดแน่นขึ้นและตัดเข้าไปในร่างกายของมัน ถึงแม้อาณาเขตของมันจะทรงพลังสักแค่ไหน มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรถ้าอิมมอร์ทัลดราก้อนถูกตัดเป็นชิ้นๆ


 


เมื่อบาดแผลฟื้นตัวแล้ว อิมมอร์ทัลดราก้อนก็พยายามจะดิ้นรนอีกครั้ง แต่สุดท้ายอิมมอร์ทัลดราก้อนก็รู้สึกตัวว่าไม่สามารถหนีจากมีดเส้นไหมได้ มันหยุดเคลื่อนเพื่อไม่ให้มีดเส้นไหมตัดร่างกายของมัน


 


“ดูเหมือนมันจะมีสติปัญญาที่พอใช้ได้” หานเซิ่นพูดพร้อมกับหัวเราะ หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆดึงมีดเส้นไหมเข้ามา อิมมอร์ทัลดราก้อนตอบสนองต่อการดึงในทันทีและมันเลื้อยมาข้างหน้าเพื่อไม่ให้มีดเส้นไหมตัดร่างของมันอีกครั้ง


 


แต่มูนไรโน่ยังคงอยู่ในท้องของมัน ความกลมโตของท้องทำให้มันเป็นเรื่องยากที่อิมมอร์ทัลดราก้อนจะเลื้อยไปข้างหน้า มันเคลื่อนที่ได้ช้าเกินไป และมีดเส้นไหมก็ตัดเข้าไปในเกล็ดของมัน การตัดแต่ละครั้งทำให้อิมมอร์ทัลดราก้อนกรีดร้องออกมา


 


“หานเซิ่น เจ้าเก่งกาจจริงๆ พลังในการสร้างเส้นไหมพวกนั้นและการควบคุมพวกมันด้วยความแม่นยำ… เจ้าไม่ได้ห่างไกลไปจากยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่แท้จริงเลย” กรูเอยชมเขา


 


“เจ้าพูดเกินไปแล้ว” หานเซิ่นยังคงสงสัยว่ากรูอาจจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง


 


ถึงแม้กรูจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลไป๋ แต่มันก็มีตระกูลมากมายภายในเอ็กซ์ตรีมคิงที่เกลียดชังหานเซิ่น หานเซิ่นคิดว่ากรูอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาแสดงออกมา


 


แต่ตอนนี้เมื่อเขาตกลงจะไปกับกรู เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธคำชวนของกรูอีกต่อไป หานเซิ่นปล่อยให้อิมมอร์ทัลดราก้อนถูกขังอยู่ในมีดเส้นไหม หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ตามกรูลึกเข้าไปในแม่น้ำจันทร์เพ็ญ


 


หานเซิ่นยังคงสงสัยว่ากรูอาจจะมีแผนการอะไรซ่อนอยู่ แต่ในตอนที่พวกเขาไปถึงที่หมาย หานเซิ่นก็โล่งใจที่เห็นว่ามันเป็นเพียงแค่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าบนฝั่งแม่น้ำจริงๆ


 


ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูเหมือนกับหมาป่า ขนของมันมีสีเทา แต่มันมีดวงตาสี่ดวง เขี้ยวของมันเหมือนกับตะขอ มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่ดูชั่วร้ายมากๆ


 


ในระหว่างการเดินทาง กรูได้บอกหานเซิ่นว่ามันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่มีพรสวรรค์ด้านดวงตา ดวงตาของมันสามารถปลดปล่อยแสงแห่งเทพที่น่ากลัวออกมาได้ การโจมตีของมันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ และกรูก็ไม่สามารถทนได้นานนัก


 


เมื่อหมาป่าสี่ตามองเห็นกรู มันก็คำรามด้วยความโกรธและลุกขึ้นมา ดวงตาทั้งสี่ของมันเบิกกว้างและเรืองแสงสีเขียวออกมา ทันใดนั้นเจ้าหมาป่าก็ปลดปล่อยลำแสงไปในทิศทางของกรู


 


หมาป่าสี่ตาตัวนั้นดูจะเกลียดกรูมากๆ เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่การเผชิญหน้ากันครั้งแรกของกรูกับซีโน่เจเนอิคตัวนี้


 


กรูเคยต่อสู้กับเจ้าหมาป่าแล้ว ในตอนที่เขาเห็นลำแสงสีเขียวพุ่งเข้ามา เขาก็นำโล่ออกมาและใช้มันป้องกันร่างกาย


 


โล่ของกรูดูเปราะบางอย่างน่าประหลาด มันคล้ายคลึงกับกระจกเงิน และดูเหมือนกับว่าเพียงแค่หมัดเดียวก็พอจะทำให้มันแตกเป็นเสี่ยงๆ


 


แต่ในตอนที่โซ่สสารที่น่ากลัวของเจ้าหมาป่าปะทะกับโล่ประหลาดนั้น ผิวของโล่ก็สะท้อนพวกมันกลับไป และกรูก็ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ


 


“เป็นโล่ที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้!” หานเซิ่นพูดด้วยความชื่นชม


 


กรูเป็นแค่ครึ่งเทพ แต่เขาสามารถใช้โล่เพื่อสะท้อนโซ่สสารของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้ากลับไปได้ เห็นได้ชัดว่าโล่ประหลาดนั่นจะต้องเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ


 


กรูหัวเราะ “ข้าไปยืมสมบัติระดับเทพเจ้านี้มา โล่นี้สะท้อนพลังดวงตาต่างๆได้ ข้ายืมมันมาเพื่อจะรับมือกับหมาป่าตัวนี้ แต่โล่กระจกนี้ป้องกันได้แค่ลำแสงจากดวงตาของเจ้าหมาป่าเท่านั้น มันไม่ได้เสริมความเร็วของข้า และมันก็ป้องกันการโจมตีทางกายภาพไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นข้าจึงทำร้ายอะไรเจ้าหมาป่าไม่ได้มาก และข้าก็เกือบจะถูกฆ่าตายด้วย”


 


กรูมองไปที่หานเซิ่นและพูดต่อ “หานเซิ่น เจ้ามีเซ็ตอะพอลโลอยู่ ด้วยความเร็วที่เจ้าได้รับจากชุดเกราะ เจ้าควรจะไล่ตามความเร็วของเจ้าหมาป่าได้ทัน ในตอนที่มันปล่อยลำแสงออกมาอีกครั้ง ข้าจะใช้โล่กระจกนี้ป้องกันมัน หลังจากนั้นเจ้าก็ฉวยโอกาสเข้าไปโจมตี”


 


“เอาสิ” หานเซิ่นพยักหน้า แต่ทว่าเขาคิดอย่างเงียบๆว่า

‘เราเพิ่งจะดูดซับจีโนคอร์น้ำแข็งเข้าไป ตอนนี้เราควรจะลองใช้มันและดูว่ามันทำอะไรได้’

 

 

 


ตอนที่ 2718

 

แสงแห่งเทพที่ออกมาจากดวงตาของหมาป่าพุ่งตรงเข้าไปหากรูราวกับสายฟ้า กรูเตรียมการป้องกันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ในตอนที่หมาป่าสี่ตาปลดปล่อยการโจมตีออกมา กรูก็ยกโล่กระจกของเขาขึ้นมา


 


แสงแห่งเทพสีเขียวชนเข้ากับโล่กระจกและถูกสะท้อนกลับไป การโจมตีของเจ้าหมาป่าไม่สามารถสร้างความเสียหายกับโล่ได้ และขณะที่หานเซิ่นมองดูมัน เขาก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย


 


ก่อนที่หมาป่าสี่ตาจะรวบรวมพลังเพื่อโจมตีอีกครั้งได้ หานเซิ่นก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาเปิดใช้พลังของจีโนคอร์น้ำแข็งที่เพิ่งจะได้รับมา เกล็ดหิมะปรากฏทั่วร่างกายของเขา และเขาก็ปลดปล่อยโซ่สสารน้ำแข็งไปใส่เจ้าหมาป่า


 


แสงแห่งเทพส่องสว่างออกมาจากร่างกายของเจ้าหมาป่าสี่ตา ขณะที่มันพยายามป้องกันการโจมตีที่เข้ามา แต่โซ่สสารน้ำแข็งดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร และพลังของหานเซิ่นก็เข้าห่อหุ้มร่างกายของหมาป่าสี่ตาเอาไว้ ถ้ามองดูจากระยะไกล มันดูเหมือนกับว่ามีสาวหิมะกึ่งโปร่งใสเข้าครอบงำหมาป่ายักษ์


 


พลังน้ำแข็งนั้นไม่ได้แช่แข็งหมาป่าสี่ตาในทันที แสงสีเขียวยังคงส่องสว่างรอบร่างกายของเจ้าหมาป่า และโซ่สสารของมันก็ต่อต้านพลังน้ำแข็งเอาไว้


 


“นั่นคือพลังทั้งหมดที่วิชาจีโนน้ำแข็งทำได้อย่างนั้นหรอ?”


หานเซิ่นรู้สึกผิดหวัง นี่คล้ายคลึงกับสิ่งที่เขาทำในตอนที่ใช้เซ็ตอะพอลโล การโจมตีนั้นไม่มีอะไรพิเศษ และพลังน้ำแข็งก็ไม่ได้รุนแรงเช่นกัน มันต่ำกว่าที่เขาคาดหวังเอาไว้


 


หลังจากที่เขาทำการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว พลังของจีโนคอร์น้ำแข็งก็ถูกใช้จนหมดเรียบร้อยแล้ว เขาต้องรออีกเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะใช้มันได้อีกครั้งหนึ่ง มันไม่ได้ดีเหมือนอย่างเซ็ตอะพอลโลที่ใช้ได้สะดวกกว่ามาก ถ้านี่คือทั้งหมดของจีโนคอร์น้ำแข็ง แบบนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องฝึกจีโนคอร์น้ำแข็งต่อไป


 


แต่ยิ่งเวลาผ่านไปพลังน้ำแข็งก็ดูเหมือนจะหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ แต่โดยภาพรวมแล้ว มันไม่สามารถแช่แข็งหมาป่าสีตาได้ หานเซิ่นคิดว่านั่นคือทั้งหมดของมันแล้ว


 


เพราะยังไงซะหมาป่าสี่ตาก็สามารถต่อต้านการโจมตีได้อย่างง่ายดาย ในตอนที่เจ้าหมาป่าเรียกพลังออกมามากขึ้น มันก็คงจะทำลายพลังน้ำแข็งนั่นได้อย่างง่ายดาย


 


แต่สถานการณ์ดำเนินต่อไปในรูปแบบที่คาดไม่ถึง พลังที่หมาป่าสี่ตาใช้เพื่อต่อต้านพลังน้ำแข็งไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่มันกลับกำลังลดลงแทน และพลังน้ำแข็งของหานเซิ่นก็ส่งผลต่อเจ้าหมาป่ามากขึ้นกว่าเดิม


 


หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขาสังเกตเห็นว่าดวงตาทั้งสี่ของเจ้าหมาป่าเริ่มตก ดูเหมือนกับว่าเจ้าหมาป่ากำลังง่วงมากๆและพร้อมจะหลับไปได้ทุกเมื่อ


 


“นี่พลังน้ำแข็งนั่นมีผลในการกล่อมประสาทด้วยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นดีใจกับเรื่องนี้


 


หมาป่าสี่ตาสามารถป้องกันพลังน้ำแข็งได้ แต่มันไม่สามารถต่อต้านพลังกล่อมให้หลับได้ แสงสีเขียวที่ส่องสว่างออกมาจากร่างกายของมันเริ่มมัวลงไป และทำให้เจ้าหมาป่าไม่สามารถทำลายพลังน้ำแข็งที่จับตัวของมันเอาไว้ได้


 


พลังน้ำแข็งไม่ได้มีพลังทำลายล้างสูงอะไร มันแค่ลดอุณหภูมิร่างกายของเป้าหมายเท่านั้น เจ้าหมาป่ารู้สึกหนาวขึ้นเรื่อยๆ และไม่นานหลังจากนั้นดวงตาของมันปิดลง มันถูกแช่แข็งไปเหมือนกับเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง


 


กรูจ้องมองไปที่เจ้าหมาป่าด้วยความตกใจ เขาหันมามองที่หานเซิ่นอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะพูดความประหลาดใจ


“นั่นเป็นวิชาจีโนน้ำแข็งที่ทรงพลังมากๆ มันสร้างโซ่สสารขึ้นมาได้แล้วด้วย นี่วิชาจีโนนั้นเป็นระดับเทพเจ้าแล้วอย่างนั้นหรอ?”


 


หานเซิ่นพยักหน้า “ข้าโชคดีได้รับจีโนคอร์เทพเจ้าอันหนึ่งมา และข้าก็เพิ่งจะดูดซับมันได้”


 


กรูรู้สึกสนใจยิ่งกว่าเดิม “พลังนั่นมาจากจีโนคอร์เทพเจ้าหรอเนี่ย? จีโนคอร์เทพเจ้าเป็นอะไรที่หายากมากๆ แม้แต่คนของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงก็ถือว่าโชคดีมากๆถ้าได้รับจีโนคอร์เทพเจ้ามาสักอัน และโดยปกติแล้วมันจะมีแค่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่จะเรียนรู้วิชาจีโนจากจีโนคอร์เทพเจ้าได้ เจ้าโชคดีเกินไปแล้ว”


 


“นี่มันไม่เท่าไหร่ ด้วยความยิ่งใหญ่ของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ข้าเชื่อว่าเจ้าเองก็คงจะหาจีโนคอร์เทพเจ้าได้ง่ายๆเหมือนกันถูกไหม?” หานเซิ่นตอบ


 


“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ข้าจะได้รับจีโนคอร์เทพเจ้าสักอัน และถึงแม้ข้าจะได้มันมา ข้าก็ดูดซับมันก่อนที่จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าอยู่ไม่ได้ดี”


หลังจากที่พูดจบ กรูก็เริ่มเดินเข้าไปหาหมาป่าสี่ตา


 


ตอนนี้เจ้าหมาป่าหลับใหลอยู่ในน้ำแข็ง กรูพบว่าจริงๆแล้วพลังของหานเซิ่นไม่ได้ฆ่าเจ้าหมาป่า เจ้าหมาป่ายังคงมีชีวิตอยู่


 


“ดูเหมือนว่าข้าต้องขอให้เจ้าช่วยฆ่ามัน” กรูพูด


 


หานเซิ่นไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธ ถ้าเขาใช้เซ็ตอะพอลโล เขาก็ควรจะมีพลังพอฆ่าหมาป่าสี่ตาตัวนี้ แถมเจ้าหมาป่าก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้


 


หลังจากที่พลังของเซ็ตอะพอลโลถูกปลดปล่อยออกมา หานเซิ่นก็ฟันมือไปที่ข้างลำคอของหมาป่าสี่ตา


 


แต่ทว่ามันไม่มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผล เลือดนั้นถูกแช่แข็งไปด้วย และถึงมันจะถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหมาป่าสีตาก็ไม่ตื่นขึ้นมา มันยังคงหลับใหลต่อไป


 


หานเซิ่นต้องฟันถึงสี่ครั้งเพื่อจะตัดหัวของหมาป่าสี่ตา หลังจากนั้นพลังชีวิตของเจ้าหมาป่าก็หายไป


 


“ซีโน่เจเนอิคหมาป่าสี่ตาระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”


 


“วิชาจีโนน้ำแข็งนี้ทรงพลังจริงๆ มันมีทั้งพลังน้ำแข็งและพลังกล่อมประสาท? มันเป็นอะไรที่ดีมาก”


หานเซิ่นดีใจกับประสิทธิภาพของมัน ตอนนี้เขาเริ่มคิดเกี่ยวกับการดูดซับจีโนคอร์ธาตุไฟสองอันที่ได้รับมา


 


กรูเอยชมความโชคดีของหานเซิ่นที่ได้รับวิชาจีโนระดับเทพเจ้าใหม่มา แต่เขาก็ดูรำคาญและพูดขึ้นว่า


“ข้าอยากจะเห็นวิชามีดของเจ้า แต่ดูเหมือนว่าข้าจะไม่มีโอกาส”


 


“เจ้ายังมีโอกาสที่ได้จะเห็นวิชามีดอีกมาก การฆ่าซีโน่เจเนอิคคือสิ่งที่สำคัญ จากข้อตกลงของพวกเรา ข้าจะได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งถูกไหม?” หานเซิ่นพูด


 


“ถูกต้อง” กรูพูดพร้อมกับพยักหน้า


 


หานเซิ่นใช้พลังเพื่อตัดร่างของหมาป่าสี่ตาจนขาดครึ่ง และพวกเขาก็เอาร่างของหมาป่ากลับไปกันคนละครึ่ง


 


เมื่อการล่าของพวกเขาสิ้นสุดลง หานเซิ่นก็กลับไปยังจุดที่อิมมอร์ทัลดราก้อนถูกจับตัว เขาเห็นมันนอนนิ่งอยู่ที่นั่นไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน มันหวาดกลัวมีดเส้นไหม มันดูเหมือนว่ามีดเส้นไหมของหานเซิ่นจะสร้างความเจ็บปวดอย่างมากให้กับอิมมอร์ทัลดราก้อน


 


หานเซิ่นเอามีดเส้นไหมออก และหลังจากที่บอกลากรู หานเซิ่นก็นำอิมมอร์ทัลดราก้อนกลับไปที่ต้นไม้ดารา


 


ในตอนที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ หานเซิ่นก็เอาคริสตัลสีดำออกมาและป้อนมันให้กับอิมมอร์ทัลดราก้อน


 


อิมมอร์ทัลดราก้อนไม่ต้องการจะอ้าปากของมัน ดังนั้นหานเซิ่นจึงต้องสร้างมีดเส้นไหมขึ้นมาอีกครั้งเพื่อบีบรัดอิมมอร์ทัลดราก้อน ไม่นานอิมมอร์ทัลดราก้อนก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา


 


หานเซิ่นโยนคริสตัลสีดำเข้าไปในปากของอิมมอร์ทัลดราก้อน เมื่อเขาเห็นว่ามันกลืนคริสตัลเข้าไปแล้ว เขาก็ปล่อยมันจากมีดเส้นไหม


 


“ถ้าคริสตัลนี่ไม่ได้ผลกับซีโน่เจเนอิค เราก็ต้องลองใช้มันกับสิ่งมีชีวิตจากก็อตแซงชัวรี่” หานเซิ่นมองดูอิมมอร์ทัลดราก้อนนอนราบอยู่กับพื้น ดูเหมือนมันจะบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ


 


หลังจากผ่านไปสองวัน หานเซิ่นก็เห็นบางสิ่งที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้น เกล็ดของอิมมอร์ทัลดราก้อนเริ่มลอกออกมา และเกล็ดใหม่ก็ปรากฏขึ้นบนเนื้อหนังของมัน เกล็ดนั่นทำมาจากคริสตัล และที่สำคัญโซ่สสารก็เริ่มจะลอยออกมาจากเกล็ดของมัน


 


ถึงแม้โซ่สสารจะยังไม่สมบูรณ์ แต่มันก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจน


 


“คริสตัลสีดำทำให้อิมมอร์ทัลดราก้อนเป็นระดับเทพเจ้าได้จริงๆหรอเนี่ย?” หานเซิ่นทั้งตกใจและดีใจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)