Super God Gene 2691-2697
ตอนที่ 2691 ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่น่ากลัว
เจลเดม่อนฮอลล์ถูกสร้างขึ้นสำหรับซีโน่เจเนอิคตัวนั้น ในตอนที่หานเซิ่นเข้าไปข้างใน เขาไม่ได้ถูกจำกัดพลังอะไร สถาปัตยกรรมของห้องโถงแห่งนี่นั้นเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมากๆ ห้องโถงปกติจะเรียบสนิทหรือไม่ก็ลาดเอียงไปสู่เวทีของห้อง แต่ทว่าภายในห้องโถงแห่งนี้ ทั้งสี่ด้านของห้องเป็นขั้นบันไดที่นำลงไปสู่แท่นหินที่มีความยาวสิบเมตรด้านล่าง
แท่นหินนั้นปกคลุมไปด้วยสัญลักษณ์ที่หานเซิ่นไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่รู้ว่าพวกมันหมายถึงอะไร แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังประหลาดจากพวกมัน
ที่ใจกลางของแท่นหินมีเสาหินสีดำสนิทตั้งอยู่ มันสูงขึ้นไปจนถึงเพดานของห้องโถง ส่วนบนของเสาต้นนั้นปกคลุมไปด้วยรอยแกะสลักและเครื่องหมาย แต่ความสนใจของหานเซิ่นถูกดึงไปที่ฐานของเสาต้นนั้น มันมีสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งถูกล่ามติดกับเสา
สิ่งมีชีวิตนั้นดูคล้ายคลึงกับมนุษย์ แต่ร่างกายของมันเหมือนกับแมลง เปลือกของมันเป็นสีแดงเหมือนกับเลือด และบนหัวของมันก็มีเขาสีแดงอยู่ ซึ่งทำให้มันดูเหมือนกับม้ายูนิคอร์น ดวงตาของมันเป็นสีเลือดหมูและดูเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
ขณะที่หานเซิ่นสังเกตสิ่งมีชีวิตที่ถูกล่ามอยู่นั้น สิ่งมีชีวิตนั้นก็จ้องกลับมาที่เขาด้วยเช่นกัน มันอ้าปากขึ้นและเผยให้เห็นฟันที่หยักเหมือนกับใบเลื่อยของมัน หลังจากนั้นมันก็คำรามใส่หานเซิ่น
มันเริ่มจะดิ้นไปดิ้นมาอย่างรุนแรง และในตอนที่มันเคลื่อนไหว เครื่องหมายที่อยู่บนเสาหินก็เรืองแสงขึ้นมา โซ่ที่ติดกับเสาก็เริ่มจะส่องสว่างเช่นเดียวกัน พวกมันรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อจะหยุดสิ่งมีชีวิตตัวนั้น
“มันเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจริงๆ” เมื่อเห็นโซ่สสารสีแดงรอบๆตัวของสิ่งมีชีวิตตัวนั้น หานเซิ่นก็มีสีหน้าดีใจ
ภายในเอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคอาศัยอยู่มากมาย แต่พวกมันส่วนใหญ่น่าสะพรึงกลัวมากๆ มันจะเป็นอะไรที่เสี่ยงเกินไป ถ้าหานเซิ่นออกไปล่าพวกมันแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ตอนนี้ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟตัวหนึ่งถูกมอบให้กับเขาอย่างง่ายๆ หานเซิ่นจึงรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
หานเซิ่นสวมใส่เซ็ตอะพอลโล หลังจากนั้นเขาก็กระพือปีกอะพอลโลและบินตรงเข้าไปสู่แท่นหินในชั่วพริบตา เขาใช้มือเป็นเหมือนกับมีดและฟันใส่ซีโน่เจเนอิคที่ถูกล่ามติดกับเสาหิน
หานเซิ่นยังคงใช้วิชาใต้นภา แต่ด้วยพลังเสริมจากเซ็ตอะพอลโล มีดลมปราณโซ่สสารที่น่าสะพรึงจึงถูกปลดปล่อยออกไปเมื่อเขาใช้วิชาใต้นภา การโจมตีของเขาเป็นเหมือนกับใบมีดแสงอาทิตย์ที่ฟันลงไปยังคอของซีโน่เจเนอิค
ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นส่งเสียงขู่เหมือนกับงู และโซ่สสารสีแดงของมันก็ระเบิดราวกับภูเขาไฟ มันเป็นอิสระจากการรัดกุมของเสาหินและกรงเล็บของมันก็แกว่งเข้าใส่หานเซิ่นราวกับใบมีดสีแดง
มีดลมปราณของหานเซิ่นรุนแรงพอจะเอาชนะระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากรงเล็บของซีโน่เจเนอิคตัวนี้ การโจมตีของหานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรได้ เจ้าซีโน่เจเนอิคนั้นปัดการโจมตีของเขาทิ้งอย่างง่ายดายและพุ่งเข้ามาประชิดตัว
ฝ่ามือและกรงเล็บปะทะซึ่งกันและกัน กรงเล็บของมันทิ้งรอยลึกเอาไว้บนถุงมือของหานเซิ่น รอยข่วนสามรอยเกิดขึ้นบนมือของเขาก่อนที่เลือดจะเริ่มไหลออกมา โชคดีที่หานเซิ่นตอบสนองได้เร็วพอ เขารีบเทเลพอร์ตถอยออกไป ถ้าเขาไม่ได้ตอบสนองในทันทีล่ะก็ เจ้าซีโน่เจเนอิตตัวนั้นก็คงจะตัดฝ่ามือของเขาจนขาดไปแล้ว
“ทำไมมันถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?” หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ
ในจังหวะที่เขาเทเลพอร์ตถอยออกไป เจ้าซีโน่เจเนอิคก็มาปรากฏต่อหน้าเขาอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว มันแกว่งกรงเล็บเข้ามาที่อกของเขาและตัดผ่านชุดเกราะอะพอลโลราวกับเป็นเนย
หานเซิ่นรีบถอยออกไปเพื่อสร้างระยะห่างกับเจ้าซีโน่เจเนอิค แต่มันมีแสงสีเลือดส่องสว่างออกมาจากร่างกายของเจ้าซีโน่เจเนอิค ขณะที่มันพุ่งเข้ามาหาเขาอีกครั้ง ความเร็วของมันเป็นอะไรที่ไม่อาจจะหยั่งถึงได้ กรงเล็บของมันข่วนใส่อกของหานเซิ่นอีกครั้ง โซ่สสารสีแดงกลายเป็นแสงที่เหมือนกับกรงเล็บ และพวกมันก็ทิ้งบาดแผลไว้บนอกของหานเซิ่น ซี่โครงของเขาเกือบจะเผยออกมาให้เห็นจากบาดแผลที่เขาได้รับ
“เจ้าตัวนี้เป็นแค่ขั้นพริมิทีฟแน่หรอ?” หานเซิ่นพึมพำอย่างครุ่นคิด เขาใช้ก็อตส์วอนเดอร์และเทเลพอร์ตหนีไปอีกครั้งโดยหวังจะสลัดซีโน่เจเนอิคตัวนี้ให้หลุด
แต่ความพยายามของเขาไร้ประโยชน์ เจ้าซีโน่เจเนอิคนั้นดูเหมือนจะคาดเดาการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นได้ ทันทีที่เขาเทเลพอร์ตไปอีกจุดหนึ่ง เจ้าซีโน่เจเนอิคก็จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง
หานเซิ่นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่กรงเล็บของซีโน่เจเนอิคแทงถูกท้องของเขา ถ้าหานเซิ่นเทเลพอร์ตช้ากว่านี้ ไส้ของเขาก็คงจะร่วงลงไปกับพื้นเรียบร้อยแล้ว
โชคดีที่หานเซิ่นมีเซ็ตอะพอลโลที่เป็นสมบัติระดับเทพเจ้า แต่ถึงอย่างนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้ากรงเล็บอันแหลมคมของซีโน่เจเนอิคตัวนี้ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากกระดาษทิชชู่
หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ถึงแม้เขาจะกำลังต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ร่างโคลนของมันเท่านั้น คู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเขาคือร่างจริงของมันที่กำลังควบคุมสิ่งมีชีวิตตัวนี้ ซึ่งมันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตที่น่ากลัว
และถึงร่างกายนี้จะเป็นแค่ร่างโคลน แต่มันก็เป็นที่สุดของที่สุดในระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟอย่างไม่ต้องสงสัย มันเหนือกว่าเชลที่เพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าอย่างมาก
ที่น่ายิ่งกว่าคือจิตใจและการเคลื่อนไหวของมันเป็นขั้นทรูก็อต หานเซิ่นภูมิใจในพลังของตัวเอง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพเจ้าขั้นทรูก็อต ความสามารถของเขาก็ถือเป็นอะไรที่กระจิดริด เขายืมพลังจากเซ็ตอะพอลโลเพื่อทำให้สามารถต่อสู้กับระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟทั่วๆไปได้ แต่ถึงอย่างเขาก็ยังไม่สามารถป้องกันการโจมตีของซีโน่เจเนอิคตัวนี้ได้
เวรี่ไฮทุกคนที่ถูกส่งมาจัดการกับร่างโคลนนั้นจะเป็นระดับลาร์วาขึ้นไป แม้แต่เวรี่ไฮระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่นก็ยังต้องใช้เวลานานกว่าจะฆ่ามันได้
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อบอกว่านี่เป็นเพียงแค่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แต่พวกเธอไม่ได้บอกถึงความน่ากลัวของซีโน่เจเนอิคตัวนี้ เมื่อหานเซิ่นรู้สึกตัวถึงความแข็งแกร่งของมัน เขาก็รู้ว่าไม่ควรเสี่ยงพยายามต่อสู้กับมันต่อไป เขาใช้ความสามารถในการเทเลพอร์ตเพื่อหนีออกไปจากเจลเดม่อนฮอลล์ หานเซิ่นรอดตัวออกไปอย่างหวุดหวิด ถ้าเขายังฝืนต่อสู้ต่อไปอีกล่ะก็ เขาก็คงจะถูกฆ่าตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“นั่นเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่กุมบาดแผลที่ท้องของตัวเอง เขามองไปที่หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทด้วยความสงสัย
“มันเป็นความจริง มันเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจริงๆ แต่มันเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่เก่งกาจที่สุด พวกเราคิดว่าเจ้าอาจจะต่อสู้กับมันได้ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเราไปทำเรื่องขอให้เจ้าได้เข้าไปข้างใน แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะด่วนตัดสินใจเกินไป”
เอ็กซ์ควิสิทพูดโดยทำให้แน่ใจว่าเสียงของเธอดูจริงจังมากที่สุด แต่ในใจของเธอกำลังคิดว่า ‘มันเป็นเรื่องดีที่เจ้าจะประสบกับความล้มเหลวบ้างเป็นครั้งคราว พวกเราไม่อยากให้เจ้าอวดดีจนเกินไปในอนาคต’
หลี่เคอเอ๋อยิ้มและพูด “การพ่ายแพ้ที่นี่ถือเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะยังไงซะเจ้าก็ยังไม่ใช่ระดับเทพเจ้า เอาแบบนี้เป็นยังไง? พวกเราไปหาซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่อ่อนแอกว่านี้ให้เจ้าล่ากัน”
หานเซิ่นรู้ว่าหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทไม่ได้โกหกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าพวกเธอบอกว่าซีโน่เจเนอิคนั่นเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แบบนั้นมันก็คงจะเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจริงๆ
“ซีโน่เจเนอิคนั่นแข็งแกร่งมากจริงๆ” หานเซิ่นพูดก่อนที่จะหยุดมองไปที่เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋ออยู่สักพัก หลังจากนั้นเขาก็ถาม
“มันมีเวลาจำกัดไหมในการจะฆ่าซีโน่เจเนอิคตัวนี้?”
“ซีโน่เจเนอิคของเจลเดม่อนฮอลล์จะใช้เวลาในการสะสมพลังประมานหกเดือนก่อนจะหนีออกไป โดยปกติแล้วคนของพวกเราจะพยายามฆ่ามันทุกๆสามเดือนเพื่อความปลอดภัย” หลี่เคอเอ๋อพูด
“ถ้ายังเหลือเวลา ข้าขอลองต่อสู้กับมันอีกครั้ง” หานเซิ่นยังไม่อยากจะยอมแพ้
ตอนที่ 2692
“เจ้าจะลองดูกี่ครั้งก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ แต่ร่างโคลนนี้อยู่ที่นี่มาหนึ่งเดือนแล้ว ถ้าในอีกสองสามเดือนเจ้ายังฆ่ามันไม่ได้ พวกเราจะส่งยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่แข็งแกร่งมาฆ่ามัน ดังนั้นจำเอาไว้ว่าเจ้ามีเวลาที่จำกัด” เอ็กซ์ควิสิทพูด
“นั่นควรจะมากพอแล้ว” หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยักหน้า เขายังคงคิดเกี่ยวกับการต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคตัวนั้น
หานเซิ่นคิดว่าพลังของตัวเองในตอนนี้ถือว่าพอใช้ได้แล้ว แต่ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นสยบเขาได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากความแตกต่างระหว่างพลังแล้ว มันยังมีความแตกต่างที่สำคัญในวิธีการของพวกเขา
ตอนนี้เมื่อเขามีเวลาได้คิดเกี่ยวกับมัน เขาก็รู้สึกตัวว่าตัวเองนั้นพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
“มันเป็นเพียงแค่ร่างโคลน แต่มันก็ยังมีพลังที่น่ากลัวขนาดนั้น นี่ร่างจริงของมันจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน?” หานเซิ่นสงสัยกับตัวเอง
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อมองหน้ากัน พวกเธอหลอกหานเซิ่นได้สำเร็จ และตอนนี้พวกเธอแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
หานเซิ่นไม่รู้ว่าร่างโคลนที่เขาต่อสู้ด้วยนั้นแตกต่างไปจากร่างโคลนส่วนใหญ่ มันเป็นเหมือนกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตตัวหนึ่ง ถึงแม้พลังของมันจะเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟ แต่ประสบการณ์การต่อสู้ที่มันมีอยู่รวมถึงทักษะและจิตใจของมันถือว่าอยู่ในระดับสูงสุด มันไม่ได้แปลกอะไรที่หานเซิ่นจะพ่ายแพ้ต่อคู่ต่อสู้แบบนี้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่ก็จะพ่ายแพ้อย่างยับเยินต่อซีโน่เจเนอิคตัวนี้
‘ปล่อยให้เขาได้ต่อสู้กับมันต่อไปอีกสักหน่อย ค่อยๆทำให้ความอวดดีของเขาหายไปทีละนิดๆ’ หลี่เคอเอ๋อยิ้มและคิดกับตัวเอง
บาดแผลของหานเซิ่นฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทมอบจีโฟลูอิดที่ผลิตขึ้นจากยีนซีโน่เจเนอิคให้กับเขา มันดีมากๆต่อการรักษาบาดแผลทางกายภาพ ด้วยการใช้จีโฟลูอิดร่วมด้วย ทำให้ความเสียหายทั้งหมดที่เขาได้รับนั้นหายไปในเจ็ดถึงแปดชั่วโมง
ตลอดหลายวันต่อมา หานเซิ่นจะเข้าไปในเจลเดม่อนฮอลล์เพื่อต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคตัวนั้น เขาคิดแผนการหลายอย่างเพื่อจะโค้นล้มมัน แต่ความพยายามของเขากลับล้มเหลวทุกครั้ง
หานเซิ่นสามารถอยู่รอดภายในเจลเดม่อนฮอลล์ได้นานที่สุดคือสองนาที เมื่อถึงเวลานั้นเขาต้องเทเลพอร์ตหนีออกไป ไม่อย่างนั้นเขาก็จะถูกฆ่าตาย
เขามีเวลาแค่เศษเสี้ยวที่จะใช้มีดลมปราณ ถึงแม้ในตอนที่เขาใช้วิชาใต้นภา มันก็ดูเหมือนจะทำอะไรเจ้าซีโน่เจเนอิคไม่ได้ ไม่เพียงแค่เขาจะฆ่ามันไม่สำเร็จ แม้แต่จะสร้างบาดแผลก็ยังทำไม่ได้
“มันแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความทรงพลังของคู่ต่อสู้ แต่ถึงเขาจะพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หานเซิ่นก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้ ทันทีที่ร่างกายของเขาหายดี เขาก็จะกลับเข้าไปในเจลเดม่อนฮอลล์เพื่อต่อสู้ เขามุ่งมั่นที่จะหาหนทางฆ่ามันให้ได้
แต่ทุกครั้งที่เขาเข้าไป เขาจะกลับออกมาอย่างผิดหวัง ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าจะคาดเดาได้ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่สามารถเข้าใจรูปแบบการโจมตีของมันได้
ยิ่งหานเซิ่นเข้าไปข้างในมากเท่าไหร่ หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็เริ่มจะกังวลมากขึ้นเท่านั้น พวกเธอแค่ต้องการจะลดความภาคภูมิของหานเซิ่นลง แต่ถ้าเขายังคงทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ที่สุดแล้วหานเซิ่นก็อาจจะสูญเสียความมั่นใจไป
โชคดีที่พวกเธอสัมผัสได้ว่าหานเซิ่นไม่คิดจะยอมแพ้ ถึงแม้เขาจะพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเหล่า แต่หลังจากความล้มเหลวทุกครั้ง เขาจะเริ่มคิดเกี่ยวกับวิธีการที่จะชนะเจ้าซีโน่เจเนอิคในการต่อสู้ครั้งต่อไป จิตใจของเขาดูเหมือนจะหมกมุ่นอยู่กับการคิดหาวิธีที่จะเอาชนะศัตรู เขาไม่เคยเสียพลังสมองในการคิดเกี่ยวกับอะไรอย่างอื่น
นั่นทำให้เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อรู้สึกวางใจขึ้นมาหน่อย พวกเธอหวังว่าเวลาจะผ่านไปโดยเร็ว หลังจากนั้นหานเซิ่นก็จะไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้ พวกเธอคาดว่าแบบนั้นมันคงจะไม่ทำลายความมั่นใจของเขามากจนเกินไป
“ไม่… นั่นยังคงไม่ได้ผล” หานเซิ่นล้มเหลวอีกครั้ง เขาลากร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลกลับออกมาจากเจลเดม่อนฮอลล์
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากในตอนนี้หานเซิ่นจะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการรักษาตัวหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บกลับมา มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อ พวกเธอจะกลับมาเพื่อเช็คหานเซิ่นเป็นครั้งคราว แต่พวกเธอไม่ได้อยู่ดูเขาตลอดเวลา
และเนื่องจากหานเซิ่นพ่ายแพ้ซ้ำไปซ้ำมา พวกเธอจึงได้เรียนรู้แค่วิธีการรับมือกับความล้มเหลว นั่นจะไม่ได้ช่วยอะไรพวกเธอมากนัก เนื่องจากมันไม่มีอะไรให้พวกเธอได้เรียนรู้ พวกเธอจึงหยุดให้ความสนใจความคิดของเขา
‘ดูเหมือนว่าการจะจัดการซีโน่เจเนอิคตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เดี๋ยวก่อนนะ ตอนนี้กุนซือไวท์น่าจะส่งข่าวกลับมาแล้ว! เราจำเป็นต้องเข้าไปในคอร์แอเรีย’ หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับคัมภีร์นภาอำพัน และเขาก็รู้สึกตัวว่ามันถึงเวลาที่ต้องพักเบรคจากการต่อสู้
ในครั้งต่อไปที่เขาได้เห็นหลี่เคอเอ๋อ หานเซิ่นก็บอกเธอถึงความจำเป็นที่ต้องกลับเข้าไปในคอร์แอเรียอีกครั้ง หลี่เคอเอ๋อรีบตอบตกลงที่จะพาเขาไป
เธอและเอ็กซ์ควิสิทเริ่มจะกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้อย่างต่อเนื่องของหานเซิ่น พวกเธอกังวลว่าการพ่ายแพ้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดอาจจะสร้างความเสียหายกับความมั่นใจของเขามากเกินไป ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นบอกว่าอยากจะเข้าไปในคอร์แอเรีย พวกเธอก็คิดว่านี่ถือเป็นเรื่องดี
หลี่เคอเอ๋อพาหานเซิ่นกลับไปที่โอเอซิสเพื่อที่เขาจะได้เข้าไปในคอร์แอเรีย
กู่ชิงเฉิงมารอก่อนแล้ว ในตอนที่หานเซิ่นเห็นกู่ชิงเฉิง เขาก็รีบถามขึ้นว่า “เธอได้รับข่าวจากกุนซือไวท์แล้วหรือยัง?”
“นี่คือสิ่งที่กุนซือไวท์บอกให้ฉันนำมามอบให้กับนาย” กู่ชิงเฉิงส่งสมุดบันทึกให้กับหานเซิ่นพร้อมกับคัมภีร์นภาอำพันต้นฉบับ
หานเซิ่นเก็บคัมภีร์นภาอำพันไปและเปิดสมุดบันทึกเพื่อดูเนื้อหาข้างใน ในสมุดบันทึกเต็มไปด้วยตัวอักษรที่งดงาม ซึ่งเห็นได้ชัดมันว่าถูกเขียนด้วยมือ สมุดบันทึกนั้นมีอยู่ทั้งหมดหนึ่งร้อยหน้า และพวกมันถูกเขียนเอาไว้จนเกือบทั้งเล่ม มันมีเพียงแค่สองสามหน้าเท่านั้นที่ว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่ากุนซือไวท์ใช้ความพยายามอย่างมากกับเรื่องนี้
“กุนซือไวท์นี้เป็นคนจิตใจดีจริงๆ” หานเซิ่นคิดว่ามีผู้คนไม่มากนักที่จะมีจิตใจที่กว้างขวางเหมือนอย่างกุนซือไวท์
แทนที่จะออกไปจากคอร์แอเรีย หานเซิ่นอยู่ที่นั่นต่อเพื่ออ่านสมุดบันทึกของกุนซือไวท์ เขาไม่อยากจะถูกจับตามองโดยหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทขณะที่อ่านมัน
เนื้อหาของสมุดบันทึกนั้นคือรายละเอียดการวิเคราะห์เกี่ยวกับคัมภีร์นภาอำพันของกุนซือไวท์ รวมถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่ใช้มัน
ขณะที่หานเซิ่นอ่านเนื้อหาในสมุดบันทึก เขาก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย และนั่นไม่ใช่แค่เกี่ยวกับคัมภีร์นภาอำพันเท่านั้น เขาเริ่มจะเข้าใจศาสตร์ตงเสวียนและวิชาโลหิตชีพจรในระดับที่สูงขึ้น
“กุนซือไวท์เป็นปรมาจารย์ของจริง เราเทียบกับเขาไม่ได้เลย” หานเซิ่นพึมพำขณะที่ส่ายหัวและปิดสมุดบันทึกลง
จริงๆแล้วการเอ่ยชมของหานเซิ่นไม่ได้ถูกต้องซะทีเดียว หนทางที่แต่ละคนเลือกเดินนั้นแตกต่างกันออกไป กุนซือไวท์มุ่งเน้นไปที่การสะสมความรู้ เขารู้อะไรมากมาย ซึ่งทำให้เขาอยู่ในระดับที่สูงกว่าหานเซิ่นในเรื่องของการแสวงหาปัญญา แต่นั่นเป็นเพราะหานเซิ่นไม่ใช่คนที่สนใจการสะสมความรู้รอบด้านเหมือนอย่างกุนซือไวท์ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่กุนซือไวท์จะเหนือกว่าเขาในเรื่องนี้ การเปรียบเทียบคนสองคนด้วยความรู้เพียงอย่างเดียวจึงไม่ยุติธรรมเท่าไหร่นัก
หานเซิ่นจดจำทุกสิ่งที่ถูกเขียนเอาไว้ในสมุดเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากจะทำลายมัน เพราะยังไงซะกุนซือไวท์ก็อุตส่าห์สละเวลาของเขาเพื่อเขียนพวกมันทั้งหมด
“นำสิ่งนี้กลับไปที่ดาวอุปราคาและบอกให้ซีโร่เก็บมันเอาไว้” หานเซิ่นพูดขณะที่ส่งสมุดบันทึกคืนให้กับกู่ชิงเฉิง
หลังจากที่กู่ชิงเฉิงจากไปแล้ว หานเซิ่นก็พยายามจะแจกแจงเนื้อหาในสมุดบันทึก ยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกหวั่นไหวมากเท่านั้น จากการวิเคราะห์ของกุนซือไวท์ ถ้าหานเซิ่นฝึกคัมภีร์นภาอำพันได้สำเร็จ มันจะกลายเป็นพลังที่น่ากลัวมากๆ
“นี่การฝึกวิชาโลหิตชีพจรอย่างกลับตาลปัตรเป็นไปได้จริงๆหรอเนี่ย?”
หานเซิ่นแปลกใจ ถ้าสิ่งที่กุนซือไวท์บอกเขาเกี่ยวกับคัมภีร์นภาอำพันเป็นความจริง มันก็จะเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว
ตอนที่ 2693
ในสมุดบันทึก แม้แต่กุนซือไวท์ก็ยอมรับว่าความคิดของเขาเกี่ยวกับคัมภีร์นภาอำพันนั้นเป็นเพียงแค่ทฤษฎี เขาไม่ได้มีผลการทดสอบการคาดเดาเหล่านี้ การจะหาว่าจริงๆแล้ววิชาจีโนนี้มีพลังมากแค่ไหน หานเซิ่นต้องฝึกมันด้วยตัวเอง แต่กุนซือไวท์ได้พูดถึงความเสี่ยงของการฝึกคัมภีร์นภาอำพัน ตามทฤษฎีแล้ววิชาจีโนนี้จะกลับตาลปัตรสายเลือดของคนๆหนึ่ง แต่การทำอะไรแบบนั้นเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ การพยายามทำแบบนั้นจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ถ้าร่างกายของเขาไม่สามารถทนต่อผลลัพธ์นั้นได้ ผลที่ตามมาก็จะเป็นอะไรที่ร้ายแรง
หานเซิ่นอยากจะลองใช้มันดู เนื่องจากพลังอันน่ากลัวที่คัมภีร์นภาอำพันจะมอบให้กับเขา แต่ความเสี่ยงของมันก็เป็นอะไรที่ร้ายแรงมากจนทำให้เขารู้สึกลังเล
“เนื่องจากเราไม่มีความจำเป็นต้องฝึกคัมภีร์นภาอำพัน มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะพยายามกลับตาลปัตรสายเลือดของตัวเอง” หลังจากที่หานเซิ่นได้ข้อสรุปแบบนี้ เขาก็ตัดสินใจลบคัมภีร์นภาอำพันออกไปจากจิตใจก่อน
ตอนนี้เขาหันความสนใจกลับไปที่เจ้าซีโน่เจเนอิคที่อยู่ในเจลเดม่อนฮอลล์ เขาเหลือเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือน ถ้าเขาฆ่ามันในช่วงเวลานั้นไม่ได้ เขาก็จะสูญเสียโอกาสนี้ไป เขาจำเป็นต้องรอคอยจนกระทั่งร่างโคลนต่อไปจะปรากฏตัวออกมา ก่อนที่เขาจะได้ต่อสู้กับมันอีกครั้ง
‘เราจะฆ่ามันได้ยังไง? เราคงจะต้องรอจนกระทั่งหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทไปที่อื่น เพื่อที่เราจะได้ฆ่ามันด้วยวิชาจีโนตัวอื่น นั่นคงจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเรา’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ในตอนที่เขากลับออกไปจากคอร์แอเรีย หลี่เคอเอ๋อก็กำลังรอคอยเขาอยู่ในโอเอซิส
“ทำไมเจ้าถึงกลับมาที่นี่เร็วจัง?” หลี่เคอเอ๋อไม่ได้กังวลเหมือนอย่างครั้งก่อน ครั้งนี้เธอประหลาดใจที่เห็นหานเซิ่นกลับมาเร็วแบบนี้
ความจริงแล้วเธอหวังว่าหานเซิ่นจะอยู่ในคอร์แอเรียจนกระทั่งซีโน่เจเนอิคในเจลเดม่อนฮอลล์ถูกฆ่า
“ข้าแค่ไปพบเพื่อนเท่านั้น ข้าไม่ได้มีเวลามากนัก ข้าจำเป็นต้องฆ่าซีโน่เจเนอิคในเจลเดม่อนฮอลล์นั่น ดังนั้นข้าจะอยู่ในนั้นเป็นเวลานานไม่ได้” หานเซิ่นพูด
“เจ้าตั้งใจจะกลับไปที่เจลเดม่อนฮอลล์และพยายามจะฆ่ามันต่อไปจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อพูด
“ทำไมถึงจะไม่พยายามต่อ? มันเป็นโอกาสที่หาได้ยากที่จะได้ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง และมันก็ไม่ใช่ว่าข้าจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย นี่เป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบสำหรับข้าในการฝึกฝน” หานเซิ่นพูดอย่างจริงใจ
หลี่เคอเอ๋อมองไปที่หานเซิ่นและหัวของเธอก็เอียงไปด้านข้างเล็กน้อย เธอสัมผัสได้ว่าหานเซิ่นนั้นพูดความจริง
ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากเผ่าพันธุ์ไหน มันก็เป็นเรื่องยากที่คนธรรมดาคนหนึ่งจะรักษาแรงผลักดันเอาไว้ได้หลังจากที่ต้องเจอความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนั้น คนส่วนใหญ่ทนเห็นความฝันของตัวเองถูกบดขยี้ได้เพียงไม่กี่ครั้งก่อนที่พวกเขาจะยอมแพ้
หานเซิ่นล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ ความแน่วแน่ของเขานั้นแรงกล้า และเห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจจะพยายามต่อไป บุคลิกภาพแบบนี้นั้นมีข้อดีและข้อเสียของมันอยู่
หลี่เคอเอ๋ออ้าปากเพื่อจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีคำพูดใดๆออกมา เธอไม่อยากจะทำลายการมองโลกในแง่ดีของหานเซิ่น
‘ช่างเถอะ มันเหลือเวลาอีกเพียงแค่หนึ่งเดือน ด้วยความมุ่งมั่นของเขา มันก็ไม่ควรจะมีผลร้ายอะไรกับเขา’ หลี่เคอเอ๋อคิดกับตัวเอง
หลังจากกลับไปที่เจลเดม่อนฮอลล์ หานเซิ่นก็เข้าไปต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคตัวนั้นทุกๆวัน และทุกวันเขาก็ต้องล้มเหลว
หลังจากผ่านไปอีกสองอาทิตย์ หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็แทบจะไม่มาดูหานเซิ่นอีก เขาล้มเหลวมากจนเกินไป และเขาก็ยังคงไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มันจึงไม่มีเหตุผลที่พวกเธอจะต้องเสียเวลามาดูการต่อสู้ที่ไร้ความหมาย
ในขณะที่เขากำลังทำการต่อสู้ต่อไปนั้น พวกเธอต้องการจะฝึกวิชามีดใต้นภาที่ได้เรียนรู้มาจากหานเซิ่น ถึงแม้ประสบการณ์ที่พวกเธอได้รับจากหานเซิ่นจะทำให้มันเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม แต่พวกเธอก็ยังคงพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะฝึกจนเชี่ยวชาญในวิชาใต้นภา
“เขามีพรสวรรค์มากๆในการต่อสู้ วิชามีดและจิตแห่งมีดแบบนี้เป็นอะไรที่หาได้ยาก เขาควรจะเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเราในการฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์” หลี่เคอเอ๋อเอ่ยชม
“น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่หนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ ไม่อย่างนั้นด้วยระดับพรสวรรค์ของเขา เขาอาจจะฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์…” เอ็กซ์ควิสิทพูด
หลี่เคอเอ๋อเย้ยหยันเล็กน้อย “มันมีเรื่องดีอะไรเกี่ยวกับการฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์? ข้าไม่อยากกลายเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์เลือดเย็น ถ้าข้ามีโอกาสเลือก ข้าก็คงจะไม่ฝึกมันเลยสักนิดเดียว”
“มันเป็นเพราะเจ้ามีพรสวรรค์ระดับสิบเปลือก คนที่มีพรสวรรค์สูงแบบนั้นจะต้องฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ นั่นเป็นกฎของเผ่าเวรี่ไฮ” เอ็กซ์ควิสิทพูด
“แต่ทำไมต้องเป็นข้าด้วย? ข้าอยากจะให้พรสวรรค์ของตัวเองต่ำกว่าเก้าเปลือกซะจริงๆ” หลี่เคอเอ๋อบ่น
หานเซิ่นพ่ายแพ้การต่อสู้อีกครั้ง และเขาก็เดินโซเซออกมาจากเจลเดม่อนฮอลล์ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล แต่หลังจากนั้นจู่ๆเขาก็เห็นเวรี่ไฮชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอกและกำลังมองมาที่เขา
หานเซิ่นไม่รู้จักกับเวรี่ไฮคนนั้น แต่สายตาของเขาดูไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด
‘เขาคงจะไม่ใช่หลี่เสวี่ยเฉิงหรอกใช่ไหม?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ตั้งแต่ที่หานเซิ่นมาอยู่ในเอาท์เตอร์สกาย มีเพียงแค่หลี่อวี้เจินและหลี่เสวี่ยเฉิงที่มีเรื่องบาดหมางกับเขา เขาเคยเห็นหลี่อวี้เจินมาก่อน แต่เขาไม่เคยได้เห็นว่าหลี่เสวี่ยเฉิงนั้นมีหน้าตาเป็นยังไง และถึงแม้ชายคนนี้จะไม่ใช่หลี่เสวี่ยเฉิง แต่เขาก็คงจะเกี่ยวข้องกับทั้งสองคนนั้น
“หานเซิ่น เจ้าใช้เจลเดม่อนฮอลล์มาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว ถ้าเจ้าฆ่าเรดบลัดเดม่อนไม่ได้ ก็ออกไปจากที่นี่ซะ อย่าทำให้คนอื่นต้องเสียเวลา” หลี่เสวี่ยเฉิงพูดขณะที่จ้องไปที่หานเซิ่น
หลี่เสวี่ยเฉิงและหลี่อวี้เจินสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างหลังที่จบการประลองระหว่างตัวไหม และถึงพ่อแม่ของพวกเขาจะช่วยจ่ายหนี้ส่วนใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังคงติดหนี้ผู้คนอีกมาก
ในตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีอะไรจริงๆ แม้แต่ทรัพยากรที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ในการฝึกฝนก็ถูกใช้เพื่อจ่ายหนี้ให้กับคนอื่น
หลี่เสวี่ยเฉิงมีความคิดจะต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อน ยีนของซีโน่เจเนอิคเรดบลัดเดม่อนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างสมบัติระดับเทพเจ้าอย่างหนึ่ง ถ้าเขาได้ยีนซีโน่เจเนอิคนั่นมา แบบนั้นหลี่เสวี่ยเฉิงก็จะสามารถใช้มันเพื่อไปหาทรัพยากรเพิ่มได้
หลี่เสวี่ยเฉิงไม่สามารถฆ่าเรดบลัดเดม่อนตามลำพังได้ แต่เขามีการหนุนหลังจากครอบครัว ถ้าครอบครัวของเขาช่วยเหลือ เขาก็คงจะสังหารเรดบลัดเดม่อนได้
แต่ในตอนที่หลี่เสวี่ยเฉิงไปขอผู้อาวุโสโอเพ่นสกายเพื่อเข้าไปในเจลเดม่อนฮอลล์ ผู้อาวุโสโอเพ่นสกายก็บอกเขาว่าหานเซิ่นได้ขอสมัครเป็นคนที่จะฆ่ามันเรียบร้อยแล้ว เขาจึงต้องรอคอยจนกระทั่งหานเซิ่นล้มเหลวก่อนที่เขาจะมีสิทธิ์เข้าไปในเจลเดม่อนฮอลล์อีกครั้ง
หลี่เสวี่ยเฉิงไม่เชื่อว่าหานเซิ่นจะมีความสามารถพอสังหารเรดบลัดเดม่อน ดังนั้นเขาจึงมาที่ฮอลล์เจลเดม่อนเพื่อดูสถานการณ์ และที่นั่นเขาก็เห็นหานเซิ่นถูกเล่นงานโดยเรดบลัดเดม่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เอ็กซ์ควิสิทบอกข้าว่ายังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนที่จะถึงเวลาที่กำหนด นั่นไม่ถูกต้องอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
“ถ้าเจ้าไม่มีพลังที่จำเป็น อีกหนึ่งเดือนก็จะไม่สร้างความแตกต่างอะไร ทำไมเจ้าไม่ยอมแพ้ซะตอนนี้? แบบนั้นจะประหยัดเวลาทั้งของตัวเจ้าเองและของคนอื่น” หลี่เสวี่ยเฉิงพูดกลับไป
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าบอกว่า ‘คนอื่น’ แต่ความจริงแล้ว เจ้าแค่ต้องการจะทำบางสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเจ้า” หานเซิ่นพูดกับหลี่เสวี่ยเฉิงขณะที่หลี่ตาลงเล็กน้อย
“เจ้าพูดถูกต้อง แทนที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปและเสียเวลาไปเปล่าๆ ทำไมเจ้าไม่ยอมแพ้และช่วยประหยัดเวลาของทุกคน” หลี่เสวี่ยเฉิงพูด
“เจ้าพูดถูก การช่วยประหยัดเวลาของคนอื่นถือเป็นเรื่องดี ข้าไม่ควรทำให้คนอื่นต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ” หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยักหน้า ดูเหมือนกับว่าเขากำลังเห็นด้วยกับสิ่งที่หลี่เสวี่ยเฉิงพูด
“นั่นเป็นวิธีการคิดที่สมเหตุสมผล ถ้าเจ้าต้องการจะยกเลิกการลงสมัคร เจ้าก็ต้องไปหาผู้อาวุโสโอเพ่นสกาย ข้าพาเจ้าไปที่นั่นถ้าเจ้าต้องการ” หลี่เสวี่ยเฉิงพูด เขาคิดว่าหานเซิ่นจะโยนผ้ายอมแพ้จริงๆ
“ไม่ ไม่ ไม่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าจะฆ่าเรดบลัดเดม่อน แบบนั้นมันก็ไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลารอ” หานเซิ่นพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา
ตอนที่ 2694
“ฆ่ามัน? นี่เจ้าจะฆ่ามันด้วยการคุยโวหรือยังไง?”
หลี่เสวี่ยเฉิงมองหานเซิ่นด้วยความดูถูก เรดบลัดเดม่อนไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟธรรมดาๆ แม้แต่เช็ตอะพอลโลของหานเซิ่นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาต่อสู้กับมันได้
หานเซิ่นได้กล่าวเจตนาของเขาออกไปเรียบร้อยแล้ว เขาจะฆ่าเรดบลัดเดม่อน เขาทำเหมือนกับว่านั่นเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดในโลกนี้ แต่สำหรับคนอื่น มันฟังดูเหมือนกับว่าเขากำลังฝันกลางวัน
“ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า ก็เชิญเจ้ารอคอยอยู่ที่นี่” หานเซิ่นยักไหล่ราวกับว่าเขาไม่สนใจ
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ไปนั่งที่ศาลาหินเพื่อพักฟื้น น่าเสียดายที่เซ็ตอะพอลโลเองก็จำเป็นต้องใช้เวลาสักพักเพื่อซ่อมแซมตัวเองเช่นเดียวกัน
โชคดีที่เซ็ตอะพอลโลนั้นซ่อมแซมตัวเองได้เป็นอย่างดี ถ้ามันไม่ได้มีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเอง มันก็คงจะกลายเป็นเศษโลหะไปเรียบร้อยแล้ว
‘ความสามารถในการต่อสู้ของเรดบลัดเดม่อนนั้นสูงเกินไป ถ้าเราเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ การฆ่ามันก็คงจะเป็นเรื่องง่าย แต่ตอนนี้ถึงเราจะพึ่งพลังจากสมบัติ มันก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะโค่นซีโน่เจเนอิคตัวนี้’
หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับการต่อสู้ที่ผ่านมา เขาพยายามคิดหาหนทางที่อาจจะฆ่าเรดบลัดเดม่อนได้
เนื่องจากเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อกำลังโฟกัสกับการฝึกวิชาใต้นภา พวกเธอจึงไม่ได้แวะมาดูหานเซิ่นบ่อยนัก หานเซิ่นคิดว่าใกล้จะได้เวลาแล้ว เขาแค่จำเป็นต้องหาโอกาสต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อนในตอนที่พวกเธอไม่อยู่รอบๆ หลังจากนั้นเขาก็จะสามารถใช้วิชาจีโนหรือวิญญาณอสูรอะไรก็ได้ที่ต้องการ
หลี่เสวี่ยเฉิงขมวดคิ้ว เผ่าเวรี่ไฮนั้นเคร่งครัดในกฎระเบียบอย่างมาก ถึงแม้เขาจะเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ เขาก็ไม่สามารถฝ่าฝืนกฎได้
ถ้าหานเซิ่นไม่คิดจะยอมแพ้ หลี่เสวี่ยเฉิงก็จำเป็นต้องรอคอยไปอีกเดือนหนึ่ง และเมื่อถึงเวลาที่กำหนดแล้ว ถ้าหานเซิ่นยังฆ่าเรดบลัดเดม่อนไม่ได้ หลี่เสวี่ยเฉิงก็สามารถลงสมัครเพื่อเข้าไปฆ่ามันได้
แต่หลี่เสวี่ยเฉิงขาดแคลนทรัพยากร เขากำลังรีบร้อนหาทรัพยากรมาให้ได้มากที่สุด ดังนั้นเขาไม่อยากจะรอไปอีกหนึ่งเดือน
เขากรอกตาและเดินไปที่ศาลาหิน เขามองไปที่หานเซิ่นและพูด
“เจ้าบอกว่าจะหาทางฆ่าเรดบลัดเดม่อนอย่างนั้นใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว” หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยักหน้า เขาต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อนมาสักพักหนึ่งแล้ว และเขาก็ไม่ได้อะไรจากมันมากนัก นอกจากความเข้าใจทั่วไปเกี่ยวกับความสามารถของเรดบลัดเดม่อน
“ดี” หลี่เสวี่ยเฉิงพูดขณะที่พยักหน้ากับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินจากไป นั่นทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ เขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นหมายความว่ายังไงกันแน่
หานเซิ่นคิดว่าหลี่เสวี่ยเฉิงจะอยู่ต่อและคอยสร้างความรำคาญให้กับเขา แต่ชายคนนั้นกลับจากไปโดยไม่พูดอะไรอีกสักคำ ถึงอย่างนั้นจากที่หานเซิ่นได้เห็นสีหน้าของหลี่เสวี่ยเฉิง ชายคนนั้นก็คงจะไม่ยอมเลิกลาง่ายๆแน่
หลี่เสวี่ยเฉิงออกมาจากเจลเดม่อนฮอลล์และไปพบกับหลี่อวี้เจิน
“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าหานเซิ่นกำลังพยายามฆ่าเรดบลัดเดม่อนอยู่ที่เจลเดม่อนฮอลล์น่ะ?” หลี่เสวี่ยเฉิงถามหลี่อวี้เจิน
“ข้ารู้แล้วมันจะทำไม? มันสำคัญด้วยหรือว่าข้าจะรู้หรือไม่?”
หลี่อวี้เจินรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อได้ยินชื่อของหานเซิ่น เขาสูญเสียไปมากกับการเดิมพัน ถึงแม้ครอบครัวของเขาจะจ่ายหนี้ส่วนใหญ่ให้ แต่มันก็ยังคงมีหนี้ที่เขาต้องจ่ายอีกมาก การจะจ่ายหนี้ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
ในตอนนี้หลี่อวี้เจินไม่มีอารมณ์จะมาสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่หานเซิ่นกำลังทำ เพียงแค่คิดหาหนทางที่จะจ่ายหนี้ทั้งหมดก็จะทำให้หัวของเขาระเบิดแล้ว
“ข้ากำลังจะขอความช่วยเหลือจากคนๆหนึ่งเพื่อฆ่าเรดบลัดเดม่อนและหาทรัพยากรมาเพิ่ม แต่หานเซิ่นลงสมัครไปเป็นคนที่ฆ่ามันก่อนหน้าข้า ข้าจำเป็นต้องรออีกหนึ่งเดือน ข้าถึงจะลงสมัครได้” หลี่เสวี่ยเฉิงอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“และนั่นมันเกี่ยวข้องอะไรกับข้า?” หลี่อวี้เจินไม่เข้าใจว่าทำไมหลี่เสวี่ยเฉิงถึงมาบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ เผ่าเวรี่ไฮนั้นเคร่งครัดเรื่องกฎระเบียบ ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากทำตาม ถ้าหานเซิ่นได้รับอนุญาตให้เป็นคนฆ่าเรดบลัดเดม่อนเรียบร้อยแล้ว ตราบใดที่เขาไม่ยอมแพ้ คนอื่นก็ไปแย่งเขาฆ่ามันไม่ได้
“เท่าที่ข้ารู้ เขาได้ไปที่เจลเดม่อนฮอลล์มาสักพักหนึ่งแล้ว เขาต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อนทุกๆวัน ข้าไม่คิดว่าเขาจะฆ่าเรดบลัดเดม่อนได้จริงๆ เขาแค่ต้องการใช้เรดบลัดเดม่อนเพื่อฝึกฝน ข้าคิดว่าเขาจะต่อสู้กับมันต่อไปจนกระทั่งเวลาของเขาหมดลง” หลี่เสวี่ยเฉิงพูด
“แล้วมันมีปัญหาอะไรกับเรื่องนั้น? คนของพวกเราหลายคนก็ทำแบบเดียวกัน” หลี่อวี้เจินยังไม่เข้าใจว่าหลี่เสวี่ยเฉิงกำลังจะบอกอะไร แต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง
เมื่อได้ยินหลี่อวี้เจินพูดแบบนี้ หลี่เสวี่ยเฉิงก็หัวเราะออกมา แต่มันมีบางสิ่งที่ชั่วร้ายในเสียงหัวเราะของเขา เขาพูดขึ้นว่า
“เจ้ารู้ว่ามีคนของพวกเราหลายคนที่ทำแบบเดียวกันนี้ในอดีต แต่ทำไมมันถึงได้มีคนน้อยเรื่อยๆที่พยายามทำแบบนั้นในไม่กี่ปีที่ผ่านมา?”
“นั่นเป็นเพราะ…” เสียงของหลี่อวี้เจินขาดหายไปกลางคัน ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าหลี่เสวี่ยเฉิงต้องการจะบอกอะไร เขามองไปที่หลี่เสวี่ยเฉิงด้วยความตกใจและพูด
“เจ้าต้องการใช้ระบบป้องกันของเจลเดม่อนฮอลล์เพื่อฆ่าหานเซิ่น? นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก ถ้าคนอื่นรู้ขึ้นมา พวกเราอาจจะถูกเนรเทศไปกักขังบนเกาะเล็กๆที่ว่างเปล่า”
“พวกเราจะไม่มีความผิด ถ้าหานเซิ่นเป็นคนที่ใช้ความผิดปกติของเจลเดม่อนฮอล์ด้วยตัวเอง ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา”
หลี่เสวี่ยเฉิงยิ้มอย่างชั่วร้าย เขาพูดต่อไปว่า “เขาเป็นคนที่ทำให้พวกเราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง นี่เจ้าคิดจะอยู่เฉยๆและยอมรับในเรื่องนั้นหรือยังไง?”
“ระบบป้องกันดั้งเดิมของเจลเดม่อนฮอลล์ไม่ได้ทรงพลังแบบนี้ เพราะแบบนั้นเจ้าซีโน่เจเนอิคจึงเกือบจะหนีออกไปได้สำเร็จ หลังจากนั้นผู้อาวุโสของพวกเราก็ได้เสริมระบบป้องกันอีกชั้นเพื่อทำให้แน่ใจว่าเรดบลัดเดม่อนจะไม่มีวันหนีออกไปได้ ถ้าร่างโคลนของมันสะสมพลังได้มากพอจะทำลาระบบป้องกันชั้นแรกได้ ระบบป้องกันเสริมก็จะถูกทำงาน เจลเดม่อนฮอลล์นั้นจะถูกปิดตายอย่างสมบูรณ์ เมื่อนานมาแล้วหนึ่งในนักสู้ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟของพวกเราเคยต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อน และในระหว่างที่ต่อสู้ เรดบลัดเดม่อนก็เกิดคุ้มคลั่งขึ้นมา และในตอนนั้นเดม่อนบลัดได้ไปกระตุ้นให้ระบบป้องกันพิเศษทำงานขึ้นมา ในตอนที่เจลเดม่อนฮอลล์ถูกปิดตาย มันก็กักขังระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนนั้นไปด้วย ในตอนที่คนของพวกเราไปเปิดเจลเดม่อนฮอลล์อีกครั้ง พวกเขาก็พบว่าเรดบลัดเดม่อนได้กินชายคนนั้นเข้าไปเรียบร้อยแล้ว”
หลี่อวี้เจินพูดต่อ “แต่ในตอนที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ผู้อาวุโสของพวกเราตัดสินใจจะปรับแต่งระบบป้องกัน พวกเขาเพิ่มระดับพลังที่จะไปกระตุ้นการทำงานของมัน นอกซะจากเรดบลัดเดม่อนจะบ้าคลั่งอย่างหยุดไม่อยู่ ข้าไม่คิดว่ามันจะกระตุ้นการทำงานของระบบป้องได้ หานเซิ่นนั้นไม่ได้เป็นภัยต่อเรดบลัดเดม่อน ดังนั้นมันไม่มีหนทางที่เขาจะทำให้เจ้าซีโน่เจเนอิคบ้าคลั่งขนาดนั้นได้ แบบนั้นระบบป้องกันจะทำงานได้ยังไง?”
“ถ้าเขาทำไม่ได้ พวกเราก็จะช่วยเขา ทุกครั้งที่เขาออกมาจากเจลเดม่อนฮอลล์ เขาจะได้รับบาดเจ็บหนัก เขาจะใช้จีโนฟลูอิดของเวรี่ไฮเพื่อรักษาตัวเอง เจ้าเคยเจอกับเขามาก่อน ข้าเชื่อว่าเจ้าไปมอบจีโนฟลูอิดที่ดีกว่าเพื่อช่วยเขาในการรักษาตัวได้ถูกไหม?” หลี่เสวี่ยเฉิงพูด
“เจ้าหมายถึงบลัดแมร์โรวจีโนฟลูอิดน่ะหรอ?” ดวงตาของหลี่อวี้เจินเป็นประกาย ตอนนี้เขารู้แล้วว่าหลี่เสวี่ยเฉิงกำลังจะบอกอะไร
บลัดแมร์โรวจีโนฟลูอิดนั้นทำมาจากยีนซีโน่เจเนอิคของเรดบลัดเดม่อน มันดีมากๆสำหรับการฟื้นตัวจากความบาดเจ็บ จากจีโนฟลูอิดสำหรับการรักษาที่มีอยู่ทั้งหมด บลัดแมร์โรวจีโนฟลูอิดถือเป็นจีโนฟลูอิดที่มีราคาสูงที่สุด มันมักจะถูกใช้โดยยอดฝีมือระดับเทพเจ้าเท่านั้น
มันใช้ได้ผลดีมากๆกับบาดแผลของยอดฝีมือระดับเทพเจ้า ดังนั้นประสิทธิภาพของมันต่อระดับราชันคนหนึ่งก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึง ตราบใดที่คนๆนั้นยังไม่ตาย พวกเขาก็จะสามารถฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้น
แต่มีผู้คนไม่มากนักที่รู้ว่าบลัดแมร์โรวจีโนฟลูอิดนั้นทำมาจากยีนของเรดบลัดเดม่อน เรดบลัดเดม่อนจึงอ่อนไหวต่อมันอย่างมาก การใช้มันเพียงแค่เล็กน้อยอาจจะไม่ส่งผลอะไร แต่ถ้าหานเซิ่นใช้มันมากเกินไปและเข้าไปในเจลเดม่อนฮอลล์ มันก็อาจจะไปยั่วความโกรธของเรดบลัดเดม่อน
ตอนที่ 2695
เนื่องจากหานเซิ่นได้รับบาดเจ็บทุกๆวัน เขาจำเป็นต้องใช้จีโนฟลูอิดเป็นจำนวนมาก เอ็กซ์ควิสิทจะมาหาเขาทุกสองสามวันเพื่อนำพวกมันมาให้กับเขา นอกจากจีโนฟลูอิดที่ใช้สำหรับรักษาบาดแผลแล้ว เธอยังมอบจีโนฟลูอิดอื่นให้กับเขาด้วยเช่นกัน พวกมันจะช่วยเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับร่างกายและการฝึกฝน พวกมันเป็นจีโนฟลูอิดที่เผ่าเวรี่ไฮสังเคราะห์ขึ้นเอง และเนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ในเอาท์เตอร์สกาย หานเซิ่นจึงได้รับทรัพยากรที่มีราชันน้อยคนนักที่จะได้พวกมันมาครอบครอง
แต่เนื่องจากเผ่าเวรี่ไฮมีประชากรไม่มากนัก และพวกเขาแทบจะไม่ได้ใช้จีโนฟลูอิดสำหรับการรักษาเลย พวกเขาจึงไม่ได้มีคนที่คอยผลิตจีโนฟลูอิดสำหรับการรักษา ด้วยเหตุนั้นจีโนฟลูอิดของเผ่าเวรี่ไฮจึงถูกผลิตขึ้นค่อนข้างช้า พวกเขามีพอสำหรับการใช้ทั่วๆไปเท่านั้น แต่เนื่องจากหานเซิ่นต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อนและได้รับบาดเจ็บกลับมาทุกๆวัน ทำให้จีโนฟลูอิดสำหรับการรักษามีไม่เพียงพอ
ภายในหนึ่งเดือน หานเซิ่นก็เกือบจะใช้จีโนฟลูอิดที่พวกเขาเก็บตุนเอาไว้จนหมด ถ้าหานเซิ่นต้องการเพิ่มอีก เขาก็ต้องรอคอยให้มันถูกผลิตมาเพิ่ม นั่นหมายความว่าเขาจะได้รับหนึ่งจีโนฟลูอิดในทุกๆหลายวัน
“ทำไมถึงไม่มีจีโนฟลูอิดสำหรับการรักษา?” หานเซิ่นเห็นจีโนฟลูอิดที่เอ็กซ์ควิสิทนำมาให้กับเขา และเขาก็สังเกตเห็นว่าพวกมันไม่เหมือนกับจีโนฟลูอิดที่เขาใช้เป็นประจำ พวกมันกลับเป็นจีโนฟลูอิดอื่นที่เอาไว้ใช้สำหรับการเสริมพลังทางกายภาพและยีนของเขา
“ถึงแม้มันจะมีจีโนฟลูอิดสำหรับการรักษาอยู่เต็มโกดัง มันก็ไม่เพียงพอต่อการใช้ของเจ้าอยู่ดี”
เอ็กซ์ควิสิทพูด หลังจากนั้นเธอชี้ไปยังกล่องที่มีจีโนฟลูอิดสีแดงหกขวดและพูดต่อ “นี่เป็นจีโนฟลูอิดสำหรับการรักษาชั้นสูง พวกมันจะถูกมอบให้กับนักสู้ระดับเทพเจ้าเท่านั้น เนื่องจากมันไม่มีจีโนฟลูอิดสำหรับการรักษาอื่นเหลืออีกแล้ว ข้าจึงได้ของพวกนี้มา อย่าได้ใช้พวกมันอย่างทิ้งขว้าง ถ้าเจ้าใช้พวกมันหมดแล้ว เจ้าจะไม่มีจีโนฟลูอิดใช้อีกในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า”
เอ็กซ์ควิสิทไม่รู้ว่าบลัดแมร์โรวจีโนฟลูอิดนั้นมียีนซีโน่เจเนอิคของเรดบลัดเดม่อนอยู่ภายใน เพราะยังไงซะมันก็มีน้อยคนที่จะรู้ว่าข้างในยาที่พวกเขากินเข้าไปคืออะไร ยีนซีโน่เจเนอิคของเรดบลัดเดม่อนนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบหนึ่งของจีโนฟลูอิดนี้
ถึงแม้เอ็กซ์ควิสิทจะรู้เกี่ยวกับยีนซีโน่เจเนอิคที่อยู่ข้างในจีโนฟลูอิด เธอก็ไม่รู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่ดี ที่หลี่อวี้เจินและหลี่เสวี่ยเฉิงรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ นั่นเป็นเพราะหนึ่งในผู้อาวุโสของพวกเขาเคยใช้บลัดแมร์โรว์จีโนฟลูอิดจำนวนมากก่อนที่จะเข้าไปในเจลเดม่อนฮอลล์ เรดบลัดเดม่อนนั้นคลุ้มคลั่งขึ้นมาในทันที
โชคดีที่ผู้อาวุโสคนนั้นเป็นระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วา ด้วยเหตุนั้นถึงแม้เรดบลัดเดม่อนจะคลั่งขึ้นมา เขาก็ฆ่ามันได้อยู่ดี มีแค่คนใกล้ชิดไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อไม่ได้สนิทสนมอะไรกับผู้อาวุโสคนนั้น ด้วยเหตุนั้นพวกเธอจึงไม่รู้ว่าการใช้จีโนฟลูอิดนั้นจะส่งผลกระทบต่อซีโน่เจเนอิคที่อยู่ภายในเจลเดม่อนฮอลล์
การได้ยินว่ามันมีจีโนฟลูอิดที่ดียิ่งกว่าเดิม หานเซิ่นก็รู้สึกพึ่งพอใจอย่างมาก ถ้าเขาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เขาก็จะมีเวลาต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อนมากขึ้นไปด้วย ถึงแม้เขาจะไม่สามารถเอาชนะเรดบลัดเดม่อนได้ เขาก็ยังคงได้ฝึกฝนตัวเองขณะที่ต่อสู้กับมันอยู่ดี
“บาดแผลแบบนี้มันเจ็บปวดจริงๆ” หานเซิ่นก้มมองอกของตัวเองและเห็นหัวใจที่เผยออกมา เขามีรอยยิ้มแห้งๆ
ถ้าหานเซิ่นขาดความสามารถในการฟื้นตัวที่ยอดเยี่ยม บาดแผลแบบนั้นก็คงจะฆ่าชีวิตของเขา
หลังจากที่เปิดบลัดแมร์โรว์จีโนฟลูอิดขวดหนึ่ง หานเซิ่นก็ดื่มมันทั้งหมดลงไปอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไหลผ่านร่างกายของเขา ความรู้สึกชาผ่านไปยังบาดแผลทั่วร่างกายของหานเซิ่นและบาดแผลของเขาก็เริ่มจะฟื้นตัว เขามองดูมันด้วยความอัศจรรย์ใจ ขณะที่บาดแผลของเขาปิดตัวลง
“นี่มันของดีจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่มันเป็นของสำหรับยอดฝีมือระดับเทพเจ้า ผลของมันดีกว่าจีโนฟลูอิดที่เราเคยใช้เป็นสิบเท่า” หานเซิ่นยิ้มกว้างขณะที่เขาเห็นบาดแผลของตัวเองฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้บาดแผลของเขาจะใช้เวลาถึงครึ่งวันกว่าที่จะฟื้นตัว แต่ตอนนี้พวกมันใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง
แต่เซ็ตอะพอลโลยังคงซ่อมแซมตัวเองไม่เสร็จ ดังนั้นหานเซิ่นจำเป็นจะต้องรอคอยมัน ถ้าไม่มีเซ็ตอะพอลโลอยู่ ร่างกายของเขาก็จะไม่สามารถทนรับการโจมตีได้
แต่หานเซิ่นไม่ได้เสียเวลาว่างไปเปล่าๆ เขาใช้เวลาไปกับการฝึกเวรี่เรียลบอดี้และก็อตส์วอนแดอร์ วิชาจีโนทั้งสองมีประโยชน์อย่างมาก พวกมันสามารถใช้ได้ทุกเวลา
หลังจากที่เซ็ตอะพอลโลซ่อมแซมตัวเองเสร็จสิ้น หานเซิ่นก็ตัดสินใจว่าจะเข้าไปในเจลเดม่อนฮอลล์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้หานเซิ่นต้องประหลาดใจ เรดบลัดเดม่อนนั้นนั่งอยู่บนขั้นบันไดและจ้องมองมาที่เขา มันไม่ได้ทำการจู่โจมในทันทีที่มันเห็นเขา
“นี่มันอะไรกัน?” หานเซิ่นสงสัย มันน่าแปลกที่จู่ๆวันนี้การควบคุมอารมณ์โกรธของเรดบลัดเดม่อนนั้นดีขึ้นกว่าเดิม
ในขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยว่ามันกำลังทำอะไร ร่างกายของเรดบลัดเดม่อนก็แว็บด้วยแสงสีเลือด ปีกแมลงของมันกางออก เขาประหลาดบนหัวของมันเรืองสีแดงที่ดูเหมือนกับดวงอาทิตย์
“เจ้าตัวนี้เป็นอะไรของมัน? ทำไมจู่ๆถึงได้ระเบิดพลังที่น่ากลัวแบบนี้ออกมาอย่างกะทันหัน?” หานเซิ่นสับสนอย่างมาก เขาต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อนมาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่เขาไม่เคยเห็นมันโกรธขนาดนี้มาก่อน
ก่อนที่หานเซิ่นจะมีเวลาได้คำนึงเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา เขาก็เห็นดวงตาสีเลือดของเรดบลัดเดม่อนกำลังจ้องมาที่เขา หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ต้องการจะเทเลพอร์ตออกไปจากเจลเดม่อนฮอลล์
หานเซิ่นไม่สามารถต่อสู้กับเรดบลัดเดม่อนในระดับพลังปกติของมันได้ แต่ตอนนี้มันกำลังคลุ้มคลั่ง ซึ่งทำให้พลังของมันน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เท่าที่เขารู้ เจ้าตัวนี้สามารถทำลายร่างกายของเขาได้ในหมัดเดียว และเขาไม่มีโอกาสที่จะเทเลพอร์ตหนีออกไปได้
แต่ในจังหวะที่หานเซิ่นฉีกมิติเพื่อจะเทเลพอร์ตออกไป เขาก็เห็นว่าสัญลักษณ์ทั่วเจลเดม่อนฮอลล์ส่องสว่างขึ้นมา ทั้งห้องโถงถูกปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ของมัน
ปัง!
หานเซิ่นเด้งออกมาจากช่องว่างของมิติและเกือบจะร่วงลงไปกระแทกกับพื้น เขาร่วงลงมาในท่าม้วนตัว ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาสามารถรักษาสมดุลเอาไว้ได้
“นี่มันอะไรกัน? ทำไมระบบป้องกันของเจลเดม่อนฮอลล์ถึงได้ทำงานขึ้นมา?”
ใบหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป เขามองไปรอบๆอย่างรีบร้อนและเขาก็เห็นว่าลำแสงนั้นปกคลุมผิวของห้องโถง ทั้งสิ่งก่อสร้างถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ และมันไม่มีหนทางที่เขาจะออกไปได้ในตอนนี้
หานเซิ่นรู้สึกตัวถึงความน่ากลัวของสถานการณ์ตอนนี้ เจลเดม่อนฮอลล์นั้นถูกปิดผนึก และเขาไม่สามารถใช้ก็อตส์วอนเดอร์เพื่อหนีออกไปได้ เขาถูกขังอยู่ข้างในร่วมกับเรดบลัดเดม่อน
ยิ่งไปกว่านั้นเรดบลัดเดม่อนในตอนนี้ยังกลายเป็นอะไรที่อันตรายยิ่งกว่าทุกที ในตอนที่หานเซิ่นต่อสู้กับมันก่อนหน้านี้ เขาสามารถรอดชีวิตอยู่ได้เพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ตอนนี้เรดบลัดเดม่อนเข้าสู่โหมดบ้าคลั่ง
เมื่อคิดได้แบบนี้หานเซิ่นก็หันความสนใจกลับมาที่เรดบลัดเดม่อน ดวงตาของเรดบลัดเดม่อนส่องแสงสีแดงออกมา มันดูเหมือนกับไฟฉายเล็กๆที่ส่องไปที่ตัวของหานเซิ่น
“นี่มันอะไรกัน… ข้าคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนกัน! ข้าแค่เข้ามาพักเบรกที่นี่ เจ้าไปทำธุระต่อเถอะ… ไม่มีความจำเป็นต้องมากังวลเกี่ยวกับข้า…” หานเซิ่นฝืนยิ้มให้กับเรดบลัดเดม่อนขณะที่พูด
เรดบลัดเดม่อนยิ้มกลับให้หานเซิ่น แต่รอยยิ้มนั้นทำให้เขารู้สึกหนาวถึงกระดูก ฟันที่หยักเหมือนกับใบเลื่อยของมันเป็นอะไรที่น่ากลัว มันดูเหมือนกับปีศาจที่สามารถทำลายและกลืนกินทุกอย่าง
วินาทีต่อมา เรดบลัดเดม่อนส่งเสียงร้องประหลาดออกมา ร่างกายของมันเป็นเหมือนกับเงาสีแดงที่ตรงเข้าไปหาหานเซิ่น สายตาของหานเซิ่นไม่สามารถมองตามการเคลื่อนไหวของมันได้ทัน เขาเห็นเพียงแค่การแว็บของเงาสีแดง ขณะที่ร่างของเรดบลัดเดม่อนยังคงอยู่ที่เดิม ในตอนที่เขารู้สึกตัวอีกที เรดบลัดเดม่อนก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว และกรงเล็บที่แหลมคมของมันก็แทงเข้าไปในอกของเขาเรียบร้อยแล้ว
ตอนที่ 2696
ปัง!
กรงเล็บของเรดบลัดเดม่อนฉีกผ่านร่างกายของหานเซิ่น แต่ร่างกายของเขาระเบิดเหมือนกับลูกโป่งน้ำ
วินาทีต่อมา น้ำที่แตกกระจายออกไปก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง มันก่อตัวกันเป็นร่างกายของหานเซิ่น แต่ก่อนที่ร่างน้ำของหานเซิ่นจะก่อตัวได้อย่างสมบูรณ์ กรงเล็บของเจ้าซีโน่เจเนอิคก็แทงเข้ามาใส่เขาอีกครั้งหนึ่ง โซ่สสารสีแดงที่มาพร้อมกับการโจมตีปะทุราวกับภูเขาไฟ
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขาใช้ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์เพื่อเอาตัวรอดจากการโจมตีแรก แต่ตอนนี้ร่างกายของเขายังคงก่อตัวไม่เสร็จ ถ้าเขาถูกโจมตีอีกครั้ง เซลล์ทั้งหมดของเขาที่เปลี่ยนเป็นน้ำก็จะไม่เหลืออะไร แม้แต่ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ก็ไม่สามารถชุบชีวิตของเขาเป็นครั้งที่สองได้
หานเซิ่นไม่ลังเลอีกต่อไป ในจังหวะนั้นร่างกายของเขาก็เรืองแสงสีขาวบริสุทธิ์ออกมา ขณะที่เขาเข้าสู่โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด โซ่สสารสีแดงที่ดูเหมือนกับภูเขาไฟนั้นพุ่งผ่านร่างของเขาไปโดยอย่างไม่เป็นพิษเป็นภัย
แต่ในจังหวะที่หานเซิ่นเริ่มจะใช้ร่างเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด พลังประหลาดบางอย่างก็บังคับให้เขากลับสู่ร่างเดิมของตัวเอง
หานเซิ่นรู้สึกแย่ขึ้นมา เนื่องจากหว่านเอ๋อร์ยังคงอยู่ในหอคอยแห่งโชคชะตา ทำให้เขาไม่สามารถใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดได้ดังใจ
เรดบลัดเดม่อนไม่เหลือเวลาให้หานเซิ่นได้คิดแม้แต่นิดเดียว ร่างกายของมันกลายเป็นเงาสีเลือดที่พุ่งตรงเข้าไปหาเขาอีกครั้ง มันเคลื่อนที่เร็วเกินกว่าที่สายตาของหานเซิ่นจะมองตามได้ทัน
ถึงแม้จะมองตามไม่ทัน หานเซิ่นก็เทเลพอร์ตหนีไปอยู่ดี เนื่องจากเขาไม่ได้พยายามจะหนีออกไปจากเจลเดม่อนฮอล์ ระบบป้องกันของสิ่งก่อสร้างจึงไม่ได้ขัดขวางเขา
แต่เมื่อหานเซิ่นปรากฏตัวอีกครั้ง ใบหน้าที่ประหลาดของเรดบลัดเดม่อนก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา และมันก็มาโผล่ตรงหน้าของหานเซิ่น กรงเล็บสีแดงทั้งห้าแทงออกไปข้างหน้าเพื่อฉีกหัวใจของเขา
ดวงตาของหานเซิ่นแว็บแสงสีแดง และสีแดงก็แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา หลังจากนั้นเขาก็หายวับไป เขาเข้าไปอยู่ในดวงตาของเรดบลัดเดม่อน
หานเซิ่นถูกไล่ต้อนจนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้วิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อต
การทำแบบนี้อาจจะทำให้เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อรู้ถึงความลับของวิญญาณอสูร แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น หานเซิ่นไม่สามารถปล่อยให้เรดบลัดเดม่อนฆ่าเขาได้
ในดวงตาของเรดบลัดเดม่อน รอบๆตัวของหานเซิ่นเป็นสีแดงสนิท มันดูแตกต่างไปจากดวงอื่นๆที่หานเซิ่นเคยเข้าไปก่อนหน้านี้
หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจอยู่ชั่วขณะ ในจังหวะที่เขาคิดว่าหนีจากอันตรายได้แล้ว เขาก็เห็นสีแดงรอบๆตัวเริ่มจะเดือด พลังพลุ่งพล่านรอบๆตัวของเขาราวกับเปลวไฟสีเลือดที่น่ากลัว พลังนั้นเปลี่ยนภายในดวงของเจ้าซีโน่เจเนอิคเป็นทะเลเพลิง
เมื่อหานเซิ่นสัมผัสได้ถึงพลังภายในเปลวเพลิงสีเลือด และเขาก็ไม่กล้าจะอยู่ในนั้นอีกต่อไป เขารีบเทเลพอร์ตออกมาจากดวงตาของเรดบลัดเดม่อน
“เจ้าตัวนี้มันรับมือได้ยากจริงๆ!” หลังจากที่หานเซิ่นเทเลพอร์ตออกมา เจ้าซีโน่เจเนอิคก็พุ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกับโซ่สสารสีแดง มันมาถึงตรงหน้าของหานเซิ่นในชั่วพริบตา
ดวงตาหานเซิ่นเปลี่ยนเป็นสีม่วงและเริ่มจะหมุนเป็นวงกลม เขาคิดใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อมองการเคลื่อนไหวของเรดบลัดเดม่อน
ในตอนนี้หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรที่มีอยู่โดยไม่ลังเลอีกต่อไป เขาใช้อาณาเขตภูเขาของวิญญาณอสูร และเขายังใช้อาณาเขตของศาสตร์ตงเสวียน เขาใช้ทั้งกายหยกและวิชาโลหิตชีพจร เขาใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อจะต่อต้านซีโน่เจเนอิคตัวนั้น เขาผลักดันพลังทั้งหมดจนถึงขีดจำกัด
นอกจากเสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูงที่ไม่สามารถสวมใส่ร่วมกับเซ็ตอะพอลโลแล้ว หานเซิ่นก็ใช้วิญญาณอสูรทั้งหมดที่เขามีอยู่
ถึงอย่างนั้นพลังและความเร็วของหานเซิ่นก็ยังต่างชั้นกับเรดบลัดเดม่อน เขาแทบจะหลบการโจมตีครั้งต่อไปไม่พ้น
ในตอนที่เรดบลัดเดม่อนโจมตีใส่เขาเป็นครั้งที่สาม หานเซิ่นก็หลบไม่ทัน โซ่สสารสีแดงเฉี่ยวซี่โครงด้านขวาของเขาไป ซี่โครงสามซี่ของเขาถูกหักในทันทีและเนื้อหนังของเขาก็ฉีกขาด
“ต้องต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอดอีกครั้ง!” ในจังหวะนั้นจิตใจของหานเซิ่นยังคงสงบนิ่ง
การคิดมากเกี่ยวกับสิ่งต่างๆไม่ได้ช่วยอะไรเขาในตอนนี้ เขาจำเป็นต้องสงบนิ่ง เขาใช้พลังทั้งหมดอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อจะต่อสู้กับเจ้าซีโน่เจเนอิค เขาต้องถ่วงเวลาเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อรอความช่วยเหลือ
“เจลเดม่อนฮลล์มีระบบป้องกันที่จะตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอก? ทางเวรี่ไฮจะต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นแน่ เราแค่จำเป็นต้องเอาตัวรอดจนกระทั่งคนของเวรี่ไฮมาถึง” หานเซิ่นพยายามปลอบตัวเอง
แต่หานเซิ่นลืมไปอย่างหนึ่ง เอาท์เตอร์สกายนั้นกว้างใหญ่เกินไป และมันก็มีเวรี่ไฮอาศัยอยู่เพียงไม่มาก เจลเดม่อนฮอลล์อยู่ห่างไกลจากที่ที่เวรี่ไฮส่วนใหญ่อยู่อาศัย และโดยปกติแล้วมันไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะต้องแวะมาที่นี่ ถึงแม้ทางเวรี่ไฮจะสังเกตได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ มันก็ใช้เวลาพวกเขากว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่มาถึงที่นี่ หานเซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่รอดได้นานถึงขนาดนั้นหรือเปล่า
ในเวลาเดียวกัน หลี่อวี้เจินและหลี่เสวี่ยเฉิงกำลังโฟกัสความสนใจไปที่เจลเดม่อนฮอลล์ ในตอนที่พวกเขาเห็นว่าประตูของเจลเดม่อนฮอลล์ยับยั้งแสงของเรดบลัดเดม่อน พวกเขาก็รู้ตัวว่าแผนการของพวกเขาสำเร็จ เรดบลัดเดม่อนนั้นคลุ้มคลั่งและกระตุ้นระบบป้องกันของเจลเดม่อนฮอลล์ พวกเขากักขังหานเซิ่นเอาไว้ภายในร่วมกับเรดบลัดเดม่อนที่บ้าคลั่ง
“มันใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนคนที่รับผิดชอบเจลเดม่อนฮอลล์จะมาถึงที่นี่ และภายในครึ่งชั่วโมงนั้น ข้าไม่คิดว่ามันจะเหลือซากอะไรของหานเซิ่นให้ช่วยเหลือ” หลี่อวี้เจินพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา
หลี่เสวี่ยเฉิงมองไปที่หลี่อวี้เจินและถาม “นี่มันจะไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“อย่าได้กังวล ทุกอย่างจะไม่เป็นอะไร จีโนฟลูอิดสำหรับการรักษาที่หานเซิ่นใช้เป็นประจำนั้นหมดไปแล้ว ด้วยเหตุนั้นทางคลังสมบัติจึงมีแค่จีโนฟลูอิดสำหรับการรักษาระดับสูง มันไม่มีใครรู้ว่าจีโนฟลูอิดนั่นจะกระตุ้นพลังของเรดบลัดเดม่อน และถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่ามันเป็นเพราะบลัดแมร์โรวจีโนฟลูอิดที่ไปกระตุ้นความคลุ้มคลั่งของเรดบลัดเดม่อน พวกเขาก็มาเอาผิดข้าไม่ได้ มันเป็นเพียงแค่เหตุการณ์ที่โชคร้าย”
“นั่นเยี่ยมไปเลย” หลี่เสวี่ยเฉิงพูดกับตัวเองด้วยความโล่งใจ เขายิ้มและพูดต่อ
“เอ็กซ์ควิสิทเพิ่งจะมอบจีโนฟลูอิดอื่นให้กับเขาอีกด้วย ดังนั้นนางจะไม่มาที่นี่เป็นเวลาอีกสองวันเป็นอย่างน้อย ซึ่งเขาคงจะตายไปเรียบร้อยแล้วเมื่อถึงตอนนั้น เขาเป็นอัจฉริยะ น่าเสียดายที่เขาต้องตาย แต่มันเป็นความผิดของเขาเองที่มาเป็นศัตรูกับพวกเรา”
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อกำลังฝึกวิชาใต้นภาโดยพยายามใช้ประสบการณ์ของหานเซิ่น
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของพวกเธอทั้งคู่ก็ดังขึ้นพร้อมๆกัน เมื่อพวกเธอเห็นหมายเลข พวกเธอก็ต้องแปลกใจ
“ทำไมฝ่ายตรวจการถึงได้ติดต่อมาหาพวกเรา?” หลี่เคอเอ๋อถามด้วยความสับสน เธอรีบรับโทรศัพท์
หลังจากนั้นไม่นานใบหน้าของหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็เปลี่ยนไป หลี่เคอเอ๋อร้องตะโกน “อะไรนะ? ระบบป้องกันของเจลเดม่อนฮอลล์ถูกกระตุ้นให้ทำงาน?”
เนื่องจากระบบป้องกันของเจลเดม่อนฮอลล์ถูกทำงาน พวกเขาก็ไม่มีทางรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นข้างในได้ แม้แต่พลังของเวรี่ไฮเซ้นส์ก็ถูกตัดขาด ด้วยเหตุนั้นแม้แต่ฝ่ายตรวจการก็ไม่สามารถบองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในได้
ในตอนที่พวกเขารู้ว่าใครที่เป็นคนรับหน้าที่สังหารเรดบลัดเดม่อน พวกเขาก็ติดต่อไปหาเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อ พวกเขาถามผู้หญิงทั้งสองว่าพวกเธอรู้ไหมว่าหานเซิ่นอยู่ข้างในหรือเปล่า เพราะระบบป้องกันเพิ่งจะทำงานเมื่อสิบนาทีก่อนหน้านี้
“มันจบสิ้นแล้ว…” เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อรู้สึกหนาวขึ้นมา ในตอนนี้มีเพียงแค่หานเซิ่นเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปล่าภายในเจลเดม่อนฮอลล์ ดังนั้นเขาเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างในนั้น ถ้าเรดบลัดเดม่อนกระตุ้นการทำงานของระบบป้องกัน หานเซิ่นก็คงจะเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้มันทำแบบนั้น
หลังจากที่พวกเธอทั้งสองพูดกับฝ่ายตรวจการ พวกเธอก็ใช้ก็อตส์วอนเดอร์เพื่อเดินทางไปยังเจลเดม่อนฮอลล์ พวกเธอหวังเล็กๆว่าหานเซิ่นไม่ได้อยู่ข้างในนั้น
แต่ยิ่งพวกเธอเข้าไปใกล้เจลเดม่อนฮลล์มากขึ้นเท่าไหร่ พวกเธอก็รู้สึกหนาวขึ้นมา นั่นเป็นเพราะพวกเธอสัมผัสถึงหานเซิ่นไม่ได้ บางสิ่งขัดขวางความสามารถในการสัมผัสของพวกเธอ ซึ่งมันมีพลังไม่มากนักที่จะตัดการเชื่อมต่อของพวกเธอกับหานเซิ่น พลังของระดับป้องกันที่ใช้เพื่อกักขักซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตในเจลเดม่อนฮอลล์นั้นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำแบบนั้น ด้วยเหตุนั้นมันมีโอกาสแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่หานเซิ่นจะถูกกักขังอยู่ในเจลเดม่อนฮลล์ และเขาอาจจะตายไปเรียบร้อยแล้ว
ตอนที่ 2697
ทุกวินาทีภายในเจลเดม่อนฮอลล์เป็นอะไรที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย จนถึงตอนนี้หานเซิ่นอยู่ภายในเจลเดม่อนฮอลล์เพียงแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น แต่ร่างกายของเขาก็ได้รับเจ็ดถึงแปดบาดแผลเรียบร้อยแล้ว บาดแผลเหล่านั้นลึกจนกระดูกเผยออกมาให้เห็น
“เวรเอ้ย!” หานเซิ่นรู้สึกแย่ พลังของเขาเทียบชั้นกับเจ้าซีโน่เจเนอิคไม่ได้
“ต้องลองสิ่งนี้ดู!” หลังจากที่หานเซิ่นเทเลพอร์ตหนีออกไป เขาก็นำของบางสิ่งออกมา มันเป็นขวดที่ดูแปลกประหลาด ที่จับของขวดคือหางของไซเรนสองคน มันเป็นขวดไซเรนศักดิ์สิทธิ์จากเผ่าไซเรนในดินแดนของเอ็กซ์ตรีมคิง
หานเซิ่นแตะด้านซ้ายของขวดไซเรน แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรต่อไป เรดบลัดเดม่อนก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเขา หานเซิ่นไม่สามารถหลบพวกมันได้ เขาเรียกโล่เมดูซ่าส์เกซออกมาเพื่อป้องกันการโจมตีที่น่ากลัวของเรดบลัดเดม่อนเอาไว้
ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่สามารถใช้พลังของโล่เพื่อโจมตีได้ แต่มันก็ยังคงมีการป้องกันที่สุดยอด กรงเล็บของเรดบลัดเดม่อนมาปะทะกับโล่ และแรงกระแทกก็ส่งหานเซิ่นกับโล่กระเด็นออกไป
ปัง!
ร่างกายของหานเซิ่นชนเข้ากับกำแพงของห้องโถงด้านหลัง เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายจะแตกเสี่ยงๆ มันเกือบจะเจ็บปวดเกินกว่าที่เขาจะลุกกลับขึ้นมาได้
หานเซิ่นอดทนต่อความเจ็บปวดและเทเลพอร์ตหนีไป ในจังหวะต่อมาเรดบลัดเดม่อนก็มาปรากฏตัวในตำแหน่งที่หานเซิ่นอยู่ก่อนหน้านี้ และใช้โซ่สสารสีแดงฟาดใส่กำแพง
ขวดไซเรนที่ร่วงลงไปกับพื้นเรืองแสงอย่างประหลาด มันแสดงใบหน้าของไซเรนเวอร์จิ้น
“ไซเรนเวอร์จิ้น ข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย ช่วยข้าจัดการเจ้าตัวนี้!” หานเซิ่นรีบตะโกนใส่ไซเรนเวอร์จิ้นในตอนที่เธอปรากฏตัว
ในจังหวะที่หานเซิ่นพูดแบบนั้น กรงเล็บของเรดบลัดเดม่อนก็แทงเข้ามาหาเขาอีกครั้ง หานเซิ่นกระพือปีกอะพอลโลเพื่อหลบไปทางซ้าย เขาหลบหลีกการโจมตีได้สำเร็จ แต่ร่างกายของเรดบลัดเดม่อนแว็บอีกครั้ง และกรงเล็บของมันก็มาปรากฏตรงหน้าของหานเซิ่น
หานเซิ่นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบหลีก แต่โซ่สสสารก็ยังคงถูกไหล่ของเขา บาดแผลที่เกิดขึ้นนั้นลึกพอจะเผยให้เห็นกระดูกที่ขาวซีดภายใน
“เรดบลัดเดม่อน?” ไซเรนเวอร์จิ้นพูดด้วยความตกใจเมื่อเธอเห็นเรดบลัดเดม่อน
“เป็นเรื่องดีที่เจ้ารู้จักเจ้าตัวนี้ แต่เจ้านี่เป็นเพียงแค่ร่างโคลนเท่านั้น มันเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ เจ้ารู้วิธีที่จะรับมือกับมันไหม?” หานเซิ่นรีบถามขณะที่เทเลพอร์ตหนีไปอีกครั้ง
ไซเรนเวอร์จิ้นยิ้มแห้งๆและพูด “ถ้าร่างกายของข้ายังคงอยู่ บางทีข้าอาจจะต่อสู้กับมันได้ แต่ในตอนนี้ข้าไม่มีร่างกาย ข้าคงจะช่วยเจ้าไม่ได้ ถึงแม้มันจะเป็นแค่ร่างโคลน แต่ร่างโคลนของเรดบลัดเดม่อนก็มีประสบการณ์การต่อสู้จากร่างจริง มันไม่ได้เหมือนกับระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟธรรมดาๆ ข้าได้แต่ขอให้เจ้าโชคดี”
หลังจากนั้นไซเรนเวอร์จิ้นก็กลับเข้าไปในขวดไซเรนอีกครั้ง
หานเซิ่นไม่มีเวลามาโกรธ เรดบลัดเดม่อนเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้งแล้ว เขาไม่มีที่ไหนให้หลบ ดังนั้นเขาจึงใช้โล่เมดูซ่าส์เกซเพื่อป้องกันการโจมตีอีกหน
ถึงแม้โล่จะป้องกันร่างกายของหานเซิ่นจากกรงเล็บของเรดบลัดเดม่อนได้ แต่มันไม่ได้ทำอะไรเพื่อบรรเทาแรงกระแทกของการโจมตี มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าถูกทุบด้วยค้อนขนาดใหญ่
หานเซิ่นไม่สามารถต่อกรกับเจ้าซีโน่เจเนอิคได้ และเขาก็รู้ว่าไม่สามารถหนีไปได้ เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันสุดขีด
‘เราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ถ้าเกิดยังเป็นแบบนี้ต่อไป ร่างกายของเราก็คงจะทนต่อไปไม่ไหว ถึงแม้จะมีโอกาสให้โต้กลับ แต่เราก็คงจะไม่มีกำลังเพียงพอ ดูเหมือนว่าเราจะต้องลองใช้มันดู’
หานเซิ่นกัดฟันของตัวเอง วิชาโลหิตชีพจรในร่างกายของเขาเริ่มจะไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป วิชาโลหิตชีพจรนั้นไหลเวียนอย่างกลับตาลปัตร
วิชาจีโนนี้ไม่ใช่วิชาโลหิตชีพจรอีกต่อไป แต่เป็นคัมภีร์นภาอำพันที่หานเซิ่นตกขึ้นมาได้จากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ มันเป็นวิชาจีโนที่แตกต่างไปจากวิชาโลหิตชีพจรโดยสิ้นเชิง
หานเซิ่นเข้าตาจนจริงๆ เขาจำเป็นต้องลองทุกอย่างที่มีก่อนที่มันจะสายเกินไป ถ้าทฤษฎีของกุนซือไวท์ถูกต้อง บางทีคัมภีร์นภาอำพันก็อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่สามารถช่วยชีวิตหานเซิ่นได้
ถ้าใครคนอื่นพยายามจะฝึกคัมภีร์นภาอำพัน มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่หานเซิ่นแค่ต้องใช้วิชาโลหิตชีพจรอย่างกลับตาลปัตร เขาไม่จำเป็นต้องฝึกมัน
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นใช้คัมภีร์นภาอำพัน เขาไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เขาใช้มัน
พลังของวิชาโลหิตชีพจรไหลเวียนอย่างกลับตาลปัตรผ่านร่างกายของหานเซิ่น มันทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่ไหลเวียนในร่างกายไม่ใช่เลือดแต่เป็นกระแสไฟฟ้าแทน ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นเกือบจะทำให้หานเซิ่นกรีดร้องออกมาดังๆ
โดยปกติแล้ววิชาโลหิตชีพจรจะมีออร่าสีแดง แต่ในตอนที่มันถูกใช้อย่างกลับตาลปัตร สีของมันก็เข้มขึ้นจนใกล้เคียงกับสีดำ มันเป็นเหมือนกับเลือดที่ถูกปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง
เรดบลัดเดม่อนไม่ได้สนใจอะไรกับความเปลี่ยนแปลงนี้ ดวงตาของมันยังเต็มไปด้วยจิตสังหาร และมันก็แกว่งกรงเล็บเข้าใส่หานเซิ่นอีกครั้ง
มันเป็นเรื่องยากเกินไปที่หานเซิ่นจะหลบ ร่างกายของเขากำลังตกอยู่ในความเจ็บปวดจนรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกฉีกเป็นชิ้นๆ มันไม่มีทางที่เขาจะหลบหลีกการโจมตีที่กำลังเข้ามาได้
หานเซิ่นกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดและยกโล่ขึ้นเพื่อป้องกันร่างกาย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ชกหมัดออกไปใส่เรดบลัดเดม่อน
เรดบลัดเดม่อนเมินเฉยต่อหมัดของหานเซิ่นขณะที่กรงเล็บของมันพุ่งเข้าไปปะทะกับผิวของโล่
หานเซิ่นถือโล่เอาไว้แน่น และเขาก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด วิชาโลหิตชีพจรที่กลับตาลปัตรนั้นทำให้เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายถูกฉีกออกจากกัน ความเจ็บปวดที่เขารู้สึกนั้นยากเกินกว่าจะบรรยายได้
ปัง!
แรงกระแทกส่งร่างกายของหานเซิ่นกระเด็นออกไป แต่หมัดของหานเซิ่นก็ชกไปถูกเรดบลัดเดม่อนเช่นเดียวกัน
หานเซิ่นไปชนเข้ากับกำแพงด้านหลังอีกครั้ง และเขาก็กระอักเลือดออกมา แต่เขาสังเกตได้ว่าความเสียหายที่เขาได้รับไม่ได้หนักหนาเหมือนอย่างก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าวิชาโลหิตชีพจรกลายเป็นระดับครึ่งเทพ ในที่สุดมันก็รวมทั้งเก้าขั้นเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ
หานเซิ่นรีบหันไปมองเรดบลัดเดม่อน เขาอยากรู้ว่าพลังของคัมภีร์นภาอำพันได้ผลหรือไม่
ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นน่าผิดหวัง เรดบลัดเดม่อนดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มันยังดูเหมือนเดิมทุกอย่าง พลังชีวิตของมันยังคงเป็นอะไรที่น่ากลัว ก่อนที่หานเซิ่นจะสังเกตมันอย่างละเอียด เจ้าซีโน่เจเนอิคก็พุ่งเข้ามาเพื่อโจมตีอีกครั้งแล้ว
‘โอ้ไม่นะ นี่คือจุดจบของหานเซิ่นผู้ยิ่งใหญ่… คัมภีร์นภาอำพันนั้นไม่ได้ผล…’ หานเซิ่นคิดอย่างเศร้าใจ ถ้าคัมภีร์นภาอำพันไม่ได้ผล เขาก็จำเป็นต้องใช้โล่เมดูซ่าส์เกซอีกครั้ง
แต่ร่างกายของเขาบาดเจ็บแล้ว การใช้โล่เมดูซ่าส์เกซคงจะดูดพลังเขาจดแห้งเหือด ครั้งนี้เขาอาจจะตายได้เลย และมันเป็นหนทางที่เสี่ยงเกินไป
ด้วยเหตุนั้นถึงแม้สถานการณ์จะคับขันแค่ไหน เขาก็ยังคงลังเลที่จะใช้พลังของโล่เมดูซ่าส์เกซ แต่ในจังหวะที่เขาลังเลอยู่นั้น มันก็มีบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น
หานเซิ่นรู้สึกว่าพลังและความเร็วของเรดบลัดเดม่อนลดน้อยลงไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น