Super God Gene 2649-2655

ตอนที่ 2649

 

ถ้ารางวัลที่ได้รับเป็นอะไรที่มีค่ามากพอ หานเซิ่นก็จะเป็นคนที่อดทดมากๆ เขานั่งลงใกล้ๆกับทะเลสาบและไม่ขยับไปไหนเป็นเวลากว่าครึ่งวัน ความจริงแล้วตลอดเวลาเขาไม่ได้ละสายตาไปจากทะเลสาบเลยแม้แต่น้อย เขาหวังว่าจะตกบางสิ่งขึ้นมาได้


 


เป่าเอ๋อควงดาบของเธอไปมาอย่างสนุกสนาน แต่หลังจากผ่านไปสักพักเธอก็เริ่มเบื่อและเอามันไปเก็บไว้ในน้ำเต้าของเธอ หลังจากนั้นเธอก็กลับมานั่งข้างๆหานเซิ่นและมองไปที่ทะเลสาบ


 


หานเซิ่นอิจฉาอย่างมากที่เธอสามารถใช้ดาบทองคำได้ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ มันคล้ายคลึงกับในตอนที่เขาจำเป็นต้องใช้วินด์สตริง ถึงเขาจะยิงลูกธนูออกไปได้ในที่สุด แต่ถ้าให้เลือก เขาชอบใช้ธนูงูหกคอร์ที่ไม่ขัดคำสั่งของเขามากกว่า


 


“นี่ดาบทองคำเป็นเพียงสิ่งเดียวที่อยู่ในทะเลสาบนี้อย่างนั้นหรอ?”

หานเซิ่นสงสัย แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นอะไรที่ง่ายแบบนั้น ถ้ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับสมบัติระดับเทพเจ้า เผ่าเวรี่ไฮก็คงจะไม่พ่ายแพ้ต่อเซเคร็ดในอดีต


 


ในขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิด เขาก็รู้สึกว่าเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์กระตุก


 


“ตกอะไรบางอย่างได้แล้ว!” หานเซิ่นดีใจ เขาเริ่มดึงเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์กลับมาอย่างเร่งรีบ แต่ทว่ามันไม่ได้หนักเหมือนก่อนหน้านี้ ดังนั้นอะไรก็ตามที่เขาตกได้จะต้องเป็นอะไรที่เบากว่า หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ดาบใหญ่อีกเล่มหนึ่ง มันเป็นมีดอย่างนั้นหรอ? หรือบางทีมันอาจจะเป็นลูกธนู?’


 


เป่าเอ๋อเข้ามาช่วยหานเซิ่นดึงสายด้วยความดีใจ ไม่นานพวกเขาก็ดึงบางสิ่งขึ้นมาจากเมฆหมอก เหมือนกับครั้งก่อนในตอนที่พวกเขาดึงบางสิ่งขึ้นมาจากทะเลสาบ มันให้ความรู้สึกราวกับว่ายางยืดถูกตัดขาด และพวกเขาก็เด้งกลับไปด้านหลัง


 


แต่ทว่าครั้งนี้หานเซิ่นตั้งตัวทันและไม่ล้มไปเหมือนกับครั้งก่อน เขาจ้องมองไปที่สิ่งที่ติดขึ้นมากับเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์


 


“นี่มันคืออะไรกัน?” หานเซิ่นมองเห็นก้อนกระดาษสีเหลืองที่ดูเก่าๆอยู่ที่ปลายของเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ เขายื่นมือออกไปดึงกระดาษออกมา


 


เมื่อเขานำมันมาดูใกล้ๆ เขาก็ยืนยันได้ว่ามันเป็นแผ่นกระดาษจริงๆ


 


“ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์นี้แปลกจริงๆ ทำไมเราถึงตกก้อนกระดาษขึ้นมาได้?” หานเซิ่นค่อยๆคลี่มันออกและสังเกตเห็นว่าบางสิ่งถูกวาดอยู่บนกระดาษ


 


หานเซิ่นเกือบจะกระอักเลือดออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่วาดอยู่ข้างใน เขารีบปิดมันและดันหัวของเป่าเอ๋อไปทางอื่น เขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้เห็นสิ่งที่ถูกวาดเอาไว้


 


“นี่มันอะไรกัน? ทำไมถึงตกภาพโป๊ขึ้นมาได้?” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่


 


เป่าเอ๋อตกสมบัติซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขึ้นมาได้ ขณะที่หานเซิ่นตกได้ภาพโป๊ หานเซิ่นยอมรับว่ามันเป็นอะไรที่งดงามมาก เขามองมันแค่แว๊บเดียว แต่จมูกของเขาก็เกือบจะมีเลือดกำเดาไหลออกมา


 


‘ดูเหมือนว่าสิ่งที่ตกขึ้นมาได้นั้นไม่แน่นอน ถ้าไม่ว่าใครคนไหนก็ตกสมบัติระดับเทพเจ้าขึ้นมาได้ เผ่าเวรี่ไฮก็คงจะร่ำรวยมากๆ’ หานเซิ่นคิดว่านี่อยู่ในความคาดเดา


 


แต่ตราบใดที่มันยังมีโอกาสที่จะตกได้สมบัติระดับเทพเจ้า หานเซิ่นก็ไม่คิดจะพลาดโอกาสนี้ไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงหย่อนเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ลงไปในทะเลสาบและกลับไปรอคอยอย่างอดทนอีกครั้ง


 


ครั้งนี้มันใช้เวลาไม่นานมากก่อนที่สายจะกระตุกอีกครั้ง มันเพิ่งจะผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมงในตอนที่เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์เริ่มเคลื่อนไหว


 


หานเซิ่นดีใจและรีบดึงสายขึ้นมา เป่าเอ๋อเข้ามาช่วยเขาอีกครั้ง ขณะที่พวกเขาร่วมมือกัน หานเซิ่นก็ภาวณา “มอบสมบัติระดับเทพเจ้าให้กับฉัน… มอบสมบัติระดับเทพเจ้าให้กับฉัน…”


 


บางสิ่งลอยขึ้นมาจากทะเลสาบ และเมื่อหานเซิ่นได้เห็นมัน ใบหน้าของเขาก็ดูผิดหวังอย่างมาก


 


มันเป็นกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง มันดูคล้ายคลึงกับกระดาษแผ่นก่อนที่เขาตกขึ้นมาได้


 


เมื่อเขาได้กระดาษมาอยู่ในมือ เขาก็พบว่ามันเป็นกระดาษสีเหลืองที่ดูเก่าๆเหมือนกับกระดาษแผ่นก่อน


 


เขาหันหัวเป่าเอ๋อไปทางอื่นก่อนที่เขาจะคลี่กระดาษเก่านั้นออกและเห็นภาพโป๊อีกภาพหนึ่ง


 


แต่ภาพนี้นั้นแตกต่างไปจากภาพก่อนหน้า ผู้คนที่ถูกวาดเป็นคนเดิม แต่พวกเขาอยู่ในท่วงท่าที่ต่างไปจากเดิม


 


“เวรเอ้ย! นี่พวกมันถูกวาดเป็นหนังสือเล่มหนึ่งเลยหรือยังไง?” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่


 


“พ่อ หนูอยากตกปลาด้วย” เป่าเอ๋อพูดขณะมองไปที่หานเซิ่น


 


“เอาสิ หนูลองตกดู” หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็ส่งเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ให้กับเป่าเอ๋อ


 


เป่าเอ๋อรับเส้นไหมไปและนั่งลงที่ขอบของทะเลสาบ เธอจ้องไปที่ทะเลสาบอย่างตั้งใจราวกับว่าเธอกลัวจะพลาดโอกาสนี้


 


หานเซิ่นกลับไปทำการศึกษาวิชาจีโนที่ได้รับมา เขายังคงสนใจในการตกปลา แต่หลังจากที่ได้รับภาพโป๊สองภาพติดต่อกัน เขาก็ไม่มีอารมณ์จะตกปลาอีกต่อไป


 


วิชาเวรี่เรียลบอดี้เป็นวิชาจีโนชั้นสูง ขณะที่หานเซิ่นเริ่มฝึกมัน เซลล์ในร่างกายของเขาก็เริ่มชาราวกับว่าถูกไฟฟ้าช็อต มันแพร่กระจายออกไปทุกซอกทุกมุมในร่างกายของเขา


 


แต่ผลของมันยังอ่อนมากๆ มันต้องใช้เวลาฝึกอีกนาน แต่เมื่อฝึกสำเร็จ ร่างกายของเขาก็จะเปลี่ยนไปเป็นอาวุธที่อันตราย


 


“พ่อ หนูตกอะไรบางอย่างได้!” เป่าเอ๋อตะโกนเรียกหานเซิ่น


 


หานเซิ่นเข้าไปช่วยเธอดึงสายขึ้นมา ครั้งนี้มันรู้สึกหนักมาก ทำให้หานเซิ่นคิดว่า ‘มันเป็นดาบใหญ่อีกเล่มอย่างนั้นหรอ?’


 


“พ่อ ครั้งนี้หนูจะได้อะไรนะ?” เป่าเอ๋อพูดด้วยความตื่นเต้น เธอไม่ได้สนใจสิ่งของมีค่ามากนัก แต่ปริศนาของสิ่งที่เธอตกขึ้นมาได้นั้นเป็นอะไรที่ยั่วเย้าสำหรับเธอ


 


เธอมีจิตใจของนักพนันที่ชอบความตื่นเต้นจากสิ่งที่เธอจะได้รับ


 


“ดึงมันขึ้นมาและหนูจะได้เห็นมัน” หานเซิ่นช่วงเธอดึงขึ้นมา และไม่นานพวกเขาก็ดึงบางสิ่งขึ้นมาได้


 


สิ่งที่ออกมาจากเมฆหมอกลอยเป็นเส้นโค้งเหนือหัวพวกเขาราวกับสายรุ้ง มันเรืองแสงสว่างไสวราวกับเป็นดวงอาทิตย์


 


หานเซิ่นไม่เห็นมันเนื่องจากแสงสว่างเกินไป แต่เขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่น่ากลัวของมัน


 


ปัง!


เมื่อสิ่งที่เรืองแสงสว่างไสวนั้นตกลงบนพื้น แสงก็ค่อยๆมัวลงไป ตอนนี้หานเซิ่นเห็นว่าของสิ่งนั้นไม่ได้ใหญ่โตเหมือนกับที่คิดเอาไว้ในตอนแรก จริงๆแล้วขนาดของมันค่อนข้างเล็ก มันโค้งเหมือนกับสายรุ้งและมีอัญมณีรูปดวงอาทิตย์ พระจันทร์และดวงดาวประดับเอาไว้ มันดูงดงามมากๆ


 


“นี่มันคืออะไรกัน” หานเซิ่นถามด้วยเสียงที่ฟังดูสับสน


 


“มันเป็นที่คาดผมที่สวยงาม” เป่าเอ๋อหยิบมันขึ้นมาคาดผมด้วยความดีใจ เธอหันกลับมามองหานเซิ่นและถาม “พ่อ หนูดูดีไหม?”


 


“ดี มันดูงดงามมากๆ” หานเซิ่นพูดขณะที่จ้องมองไปที่ที่คาดผม


 


“ที่คาดผมอย่างนั้นหรอ? ดูเหมือนไม่ว่าอะไรก็ถูกตกจากทะเลสาบนี่ได้ แต่เมื่อดูจากพลังของมันแล้ว ของสิ่งนี่ต้องเป็นอะไรที่พิเศษ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างง่ายที่จะได้รับสมบัติที่ล้ำค่าจากทะเลสาบนี่”

หานเซิ่นรู้สึกอยากจะลองดูอีกสักครั้ง เขาพูดกับเป่าเอ๋อ “เป่าเอ๋อ พวกเรามาผลัดกันตกปลาเป็นยังไง?”


 


เป่าเอ๋อได้รับที่คาดผมที่สวยงามมา และเธอก็ดูมีความสุข เธอพยักหน้าและส่งเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ให้กับหานเซิ่น


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นและเป่าเอ๋อก็ผลัดกันตกปลา


 


“เร็วเข้า! มอบสมบัติให้กับฉัน…” หานเซิ่นพูดขณะดึงสายขึ้นมา


 


กระดาษสีเหลืองอีกแผ่นถูกดึงขึ้นมาจากทะเลสาบ


 


“อ้า นี่มันคืออะไรกัน? มันดูสวยงามมากๆ!” เป่าเอ๋อพูดด้วยเสียงที่ตื่นเต้น


 


กระดาษสีเหลืองแผ่นหนึ่ง…เสียงตื่นเต้นของเป่าเอ๋อ…กระดาษสีเหลืองแผ่นหนึ่ง…เสียงตื่นเต้นของเป่าเอ๋อ… เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆบนฝั่งของทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์

 

 

 


ตอนที่ 2650

 

 


หานเซิ่นมองกระดาษปึกหนาที่เขาตกขึ้นมาได้ เขาอยากจะร้องไห้ออกมา ภาพโป๊ที่เขาตกขึ้นมาได้นั้นมากพอจะประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มหนึ่งได้เลย และนอกจากกระดาษสีเหลืองแล้ว เขาก็ไม่สามารถตกอะไรอย่างอื่นขึ้นมาได้เลย


 


‘รูปภาพพวกนี้ดูเหมือนกับหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่ง’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


ถ้าเป่าเอ๋อไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย หานเซิ่นก็อยากจะตรวจสอบพวกมันอย่างละเอียด


 


หานเซิ่นมองไปที่เป่าเอ๋อและเห็นสิ่งของต่างๆมากมายที่เธอตกขึ้นมาได้ ถึงแม้พวกมันจะไม่ได้เป็นสมบัติระดับเทพเจ้าทั้งหมด แต่สิ่งที่เธอได้รับก็ดีกว่ากระดาษที่หานเซิ่นตกได้เป็นไหนๆ


 


‘ดูเหมือนว่าในช่วงนี้ดวงของเราจะไม่ค่อยดี บางทีเราควรจะไปขอให้กุนซือไวท์ช่วยคำนวณโชคลาภและหาวิธีที่จะเสริมดวง’ หานเซิ่นคิดขณะที่คำนึงถึงหนทางต่างๆที่อาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น


 


เมื่อถึงตาที่เป่าเอ๋อจะตกปลา รูปปั้นหยกของเขาก็แสดงปฏิกิริยาขึ้นมา หานเซิ่นรีบเอาเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์กลับคืนมาและนั่งลงข้างทะเลสาบด้วยตัวเองโดยแกล้งทำเป็นว่าเขากำลังอยู่ระหว่างการตกปลา


 


ไม่นานหลังจากนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็เทเลพอร์ตมาที่นั่น


 


เอ็กซ์ควิสิทเดินเข้ามาหาหานเซิ่นและมองไปที่เขา เธอไม่เห็นอะไรอยู่ข้างๆเขา เธอจึงพูดขึ้นมา

“ไม่ต้องกังวล บ่อยครั้งที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์เป็นแบบนี้ ในบางครั้งมันต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะได้อะไรสักอย่างนั้น บางทีมันอาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์ ข้าให้เจ้ามาที่นี่ก็เพื่อทดสอบดวงและมอบเวลาให้เจ้าได้ฝึกวิชาจีโน”


 


หานเซิ่นแปลกใจ จากที่เอ็กซ์ควิสิทพูด มันฟังดูเหมือนกับว่าต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะตกอะไรขึ้นมาได้ แต่เขาได้รับบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาในครึ่งวันอย่างมากสุด เวลาที่สั้นที่สุดที่เขาตกบางสิ่งขึ้นมาได้คือครึ่งชั่วโมง ด้วยเหตุนั้นถ้าให้หานเซิ่นคาดเดาโดยเฉลี่ยแล้วมันจะใช้เวลาเพียงแค่สองถึงสามชั่วโมงเท่านั้น


 


ในตอนแรกหานเซิ่นอยากจะแสดงกระดาษสีเหลืองพวกนั้นให้เอ็กซ์ควิสิทดู แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว


 


“ดูเหมือนที่นี่จะไม่มีทรัพยากรอะไรให้ข้าใช้เพื่อฝึกฝนวิชาได้เลย” หานเซิ่นพูดขณะที่มองไปที่เอ็กซ์ควิสิท


 


ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์เป็นอะไรที่มหัศจรรย์ แต่ถ้าเขาตกได้แค่แผ่นกระดาษเก่าๆ เขาก็เลือกจะไปล่าซีโน่เจเนอิคดีกว่า


 


“อย่าเพิ่งรีบร้อน ช่วงนี้น้องสาวของข้าต้องการความช่วยเหลือ ข้ายังไม่มีเวลาออกไปล่ากับเจ้า ดังนั้นเจ้าฝึกอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสักพัก ถ้าเจ้าโชคดีพอ บางทีทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์อาจจะมอบสิ่งที่น่าประหลาดใจให้กับเจ้า” เอ็กซ์ควิสิทพูดด้วยรอยยิ้ม


 


บางทีหานเซิ่นอาจจะคิดไปเอง แต่เขารู้สึกว่าในตอนที่เธอพูดกับเขา ถึงแม้เธอจะยังดูสงบเสงี่ยม แต่เธอยิ้มแย้มมากขึ้น เธอแตกต่างไปจากเมื่อก่อน


 


‘มันมอบสิ่งที่น่าประหลาดใจจริงๆนั่นแหละ แต่มันน่าประหลาดใจจนฉันไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกยังไงดี’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


หลังจากที่พูดคุยกันในช่วงสั้นๆเอ็กซ์ควิสิทก็จากไป เธอได้ทิ้งของบางอย่างเอาไว้ให้กับหานเซิ่นก่อนที่เธอจะไป ซึ่งนั่นรวมถึงขวดของจีโนฟลูอิด


 


จริงๆแล้วหานเซิ่นนำของตัวเองติดมาด้วย แต่เขาลืมบอกเธอในเรื่องนั้น


 


หลังจากที่เธอจากไปแล้ว หานเซิ่นก็เอาร่มกันแดดและเก้าอี้อาบแดดออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตา หานเซิ่นและเป่าเอ๋อนอนลงบนเก้าอี้อย่างผ่อนคลายอยู่ที่ริมทะเลสาบ ขณะที่พวกเขาทำแบบนั้น หานเซิ่นก็ยังคงเผื่อเวลาบางส่วนไว้สำหรับการศึกษาวิชาจีโน


 


จีโนฟลูอิดที่เอ็กซ์ควิสิทให้กับเขาเป็นอะไรที่ไม่เลว พวกมันดีต่อร่างกายของเขา แต่หานเซิ่นยังคงไม่พบหนทางที่จะกลายเป็นระดับครึ่งเทพ


 


ไม่กี่วันหลังจากนั้น หานเซิ่นก็ยอมแพ้ต่อการตกปลาย เขาปล่อยให้เป๋าเอ๋อตกปลาตามลำพัง ขณะที่เขาหันมาใช้สมาธิกับการฝึกวิชาจีโน


 


เหตุผลหนึ่งที่ทำให้หานเซิ่นยอมแพ้นั่นเป็นเพราะเขาได้รับแต่แผ่นกระดาษสีเหลืองเก่าๆเหมือนเดิม มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะตกปลาต่อไป ส่วนเมื่อไหร่ก็ตามที่เป่าเอ๋อตกปลา เธอจะได้รับบางสิ่งที่ประดับด้วยอัญมณี สิ่งของทุกชิ้นที่เธอได้รับต่างก็เป็นอะไรที่หรูหราและสวยงาม


 


แต่นอกจากดาบทองคำขนาดใหญ่และที่คาดผมแล้ว เป่าเอ๋อก็ไม่ได้รับสมบัติระดับเทพเจ้าเพิ่มอีก เห็นได้ชัดว่าสมบัติระดับเทพเจ้าไม่ใช่สิ่งที่จะพบได้ง่ายๆ


 


แต่ถึงอย่างนั้นเป่าเอ๋อก็ยังได้รับพวกมันมาถึงสองชิ้น นั่นถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว


 


ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เธอตกขึ้นมาได้จะเป็นสมบัติระดับสูง มันมีสิ่งของธรรมดาปะปนอยู่ด้วย แต่ไม่ว่าพวกมันจะเป็นระดับสูงหรือต่ำ พวกมันทั้งหมดก็ดูหรูหราอย่างมาก


 


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังเข้ามา เขารีบอุ้มเป่าเอ๋อขึ้นและนำเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์กลับคืนมา


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นใครบางคนเดินเข้ามา ซึ่งเขาก็คือพี่สองของเอ็กซ์ควิสิทที่ชื่อหลี่อวี้เจิน


 


หลี่อวี้เจินเห็นพวกหานเซิ่นทำเหมือนกับว่ามาที่นี่เพื่อพักร้อน ทั้งสองคนนอนอยู่บนเก้าอี้อาบแดดพร้อมกับมีร่มกันแดดกลางอยู่เหนือหัว มันมีทั้งขนมและเครื่องดื่มวางอยู่บนโต๊ะข้างๆพวกเขา มันมีแม้กระทั่งตู้เย็นขนาดเล็ก ภาพที่เห็นทำให้ชายคนนั้นต้องขมวดคิ้ว


 


“เอ็กซ์ควิสิทพาเจ้ามาที่นี่เพื่อฝึกวิชา ไม่ใช่มาพักร้อน” หลี่อวี้เจินพูดอย่างเย็นชา


 


“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเจ้า?” หานเซิ่นยังคงนอนบนเก้าอี้อาบแดด เขาไม่ได้ลุกขึ้นมา เขาไม่แม้แต่จะเหลือบไปมองชายคนนั้น


 


ใบหน้าของหลี่อวี้เจินดูเย็นชา เขาจ้องมองหานเซิ่นอยู่สักพัก แต่หลังจากนั้นเขาก็เดินไปที่อีกด้านหนึ่งของทะเลสาบโดยไม่พูดอะไร เขานำเอาเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ออกมา ดูเหมือนกับว่าเขามาที่นี่เพื่อตกปลาเช่นกัน


 


ถ้าเป็นคนอื่นที่พูดแบบนั้น หลี่อวี้เจินก็คงจะตอบสนองไปแล้ว แต่หานเซิ่นเป็นตัวไหมของเอ็กซ์ควิสิทเรียบร้อยแล้ว ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้ เพราะนั่นเป็นหนึ่งในกฎของเผ่าเวรี่ไฮ ถึงแม้ตัวไหมจะไปก่อคดีขึ้น เจ้านายของตัวไหมก็จำเป็นต้องจัดการมัน


 


ถ้าหลี่อวี้เจินต่อสู้กับหานเซิ่น เขาไม่ได้เพียงแค่จะต่อสู้กับหานเซิ่น แต่เขาจะหยามเกียรติของเอ็กซ์ควิสิทด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ทำอะไร


 


แต่การที่หลี่อวี้เจินมาอยู่ที่นี่ หานเซิ่นก็ไม่สามารถปล่อยให้เป่าเอ๋อตกปลาแทนได้ เขาต้องตกปลาด้วยตัวเอง


 


แต่สถานการณ์ของหานเซิ่นยังคงเหมือนเดิมซะส่วนใหญ่ เขายังคงนอนอยู่บนเก้าอี้อาบแดดขณะที่ผูกเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์เอาไว้กับนิ้ว


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็กลับไปอ่านวิชาจีโนต่อ เขาไม่ได้จดจ่ออยู่กับการตกปลาตลอด นั่นก็เพราะเขารู้ว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่เขาจะได้รับกระดาษสีเหลืองอีกแผ่นหนึ่ง


 


แน่นอนว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สายเบ็ดของเขาก็กระตุก หานเซิ่นดึงมันขึ้นมาจากเมฆหมอกและเผยให้เห็นกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง


 


หลี่อวี้เจินหันไปมองและเห็นว่าหานเซิ่นได้รับกระดาษเก่าๆผ่านหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงเลิกสนใจหานเซิ่นและหันความสนใจกลับไปที่ทะเลสาบ


 


แต่ตอนนี้เมื่อหลี่อวี้เจินได้เห็นสิ่งที่หานเซิ่นดึงขึ้นมาจากทะเลสาบ ตอนนี้หานเซิ่นไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป ถ้าเอ็กซ์ควิสิทอยากรู้ว่าพวกมันคืออะไร เขาก็ต้องยอมให้เธอดูพวกมัน


 


“เขามาทำอะไรที่นี่?” หานเซิ่นไม่สามารถไล่ชายคนนี้ไปที่อื่นได้ ส่วนตัวเขาเองก็ไปจากที่นี่ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงทำได้แต่ตกปลาต่อไป


 


หลังจากผ่านไปครึ่งวัน หลี่อวี้เจินก็รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ ในเวลาอันสั้นหานเซิ่นดึงบางสิ่งขึ้นมาจากทะเลสาบถึงสามครั้ง และพวกมันเป็นแผ่นกระดาษเก่าๆเหมือนกันหมด


 


ในตอนที่หานเซิ่นดึงกระดาษแผ่นที่สามขึ้นมา หลี่อวี้เจินก็เก็บเส้นไหมของเขาและเดินมาตรงหน้าหานเซิ่น


 


“ให้ข้าดูกระดาษพวกนั้น”

 

 

 


ตอนที่ 2651

 

“ทำไมข้าต้องให้เจ้าดูด้วย?” หานเซิ่นถาม เสียงของเขาฟังดูผ่อนคลาย เขาค่อยๆม้วนกระดาษและหันไปมองที่หลี่อวี้เจิน


 


หลี่อวี้เจินมองหานเซิ่นด้วยความดูถูก หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา

“ตอนนี้เจ้าเข้าร่วมกับเผ่าเวรี่ไฮแล้ว”


 


“นั่นก็ใช่ แล้วมันยังไง?” ใบหน้าของหานเซิ่นยังคงไร้ซึ่งความรู้สึก


 


แทนที่จะโมโห หลี่อวี้เจินกลับยิ้มและพูดขึ้นมา “ข้าแค่อยากให้เจ้ารู้ไว้ว่าถ้าเวรี่ไฮคนหนึ่งสั่งบางสิ่งกับเจ้า เจ้าจะปฏิเสธไม่ได้”


 


“โอ้ เป็นอย่างนั้นเองหรอ? แต่ข้าเพิ่งจะพูดปฏิเสธไป เจ้าจะทำยังไงกับเรื่องนั้น?” หานเซิ่นพูด


 


หานเซิ่นคิดว่าหลี่อวี้เจินกำลังจะโจมตีเขา แต่ดูเหมือนว่าหลี่อวี้เจินจะไม่ทำอะไรแบบนั้น เขาแค่จ้องมองมาที่หานเซิ่นต่อไป หลังจากนั้นดวงตาที่สามบนหน้าฝากของเขาก็เปิดออก ม่านตาสีขาวดำของเขาเป็นเปลี่ยนหยินหยางที่เหมือนกับสัญลักษณ์ของไท่เก๊ก


 


ตอนนี้สายตาของหลี่อวี้เจินดูเหมือนกับว่าสามารถมองทะลุได้ทุกสิ่งทุกอย่าง และนั่นทำให้หานเซิ่นต้องขมวดคิ้ว


 


หลี่อวี้เจินมองไปที่แผ่นกระดาษสีเหลืองของหานเซิ่นและเขาก็พูดด้วยความดูถูก “ข้าก็คิดว่าเจ้าตกอะไรดีๆขึ้นมาได้ แต่มันเป็นเพียงแค่ภาพโป๊ เห็นได้ชัดว่าข้าประเมินเจ้าสูงเกินไป”


 


หลังจากนั้นหลี่อวี้เจินก็เลิกสนใจหานเซิ่น เขากลับไปที่จุดตกปลาและเริ่มทำการตกปลาต่อ


 


หลังจากที่หลี่อวี้เจินนั่งลงและตกปลาได้ไม่นาน เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง และดูเหมือนว่ามีบางสิ่งที่ใหญ่โตอยู่ที่ปลายอีกด้านหนึ่ง


 


หลี่อวี้เจินรีบดึงสายขึ้นมา ซึ่งไม่ว่าอะไรก็ตามที่ติดกับเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ขึ้นมาจะต้องเป็นอะไรที่หนักมากๆ


 


ปัง!


หลังจากที่ชักเย่อกับสิ่งที่อยู่ใต้เมฆหมอกกว่าสิบนาที ในที่สุดหลี่อวี้เจินก็ดึงมันขึ้นมาจากทะเลสาบได้สำเร็จ วัตถุนั้นลอยเป็นเส้นโค้งและร่วงลงบนฝั่ง


 


หานเซิ่นหันไปมองและสังเกตเห็นดาบทองคำเล่มใหญ่ที่ดูคล้ายคลึงกับดาบที่เป่าเอ๋อได้รับ แต่มันดูหยาบกว่ามาก มันเป็นเพียงแค่ดาบทองคำเล่มใหญ่ที่ขาดความหรูหรา


 


หลี่อวี้เจินมองดูดาบที่ได้รับด้วยความตื่นเต้น เขาพูดกับตัวเอง

“โกลด์สแลช… นี่คือโกลด์สแลชระดับเทพเจ้า? ลุงเจ็ดพูดถูก ในที่สุดโชคของข้าก็พลิกผัน”


 


เขาหยิบดาบทองคำขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วยความดีใจ เขาดูจะชอบสิ่งที่เพิ่งตกขึ้นมาได้มากๆ และหลังจากที่ชื่นชมมันจนเต็มเอ็มแล้ว เขาก็เก็บเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์และเดินจากไปพร้อมกับดาบทองคำในมือ


 


เมื่อหลี่อวี้เจินเดินผ่านหานเซิ่น เขาก็มองมาที่หานเซิ่นและทำเหมือนกับว่ากำลังพูดกับตัวเอง แต่คำพูดเหล่านั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่ต้องการให้หานเซิ่นได้ยิน “นี่เป็นโชคที่แยกเจ้าจากข้า เจ้าตกได้แค่ภาพโป๊ที่ไร้ประโยชน์ ขณะที่ข้าได้รับสมบัติระดับเทพเจ้า”


 


“จริงอย่างนั้นหรอ? เจ้าจะบอกว่าดาบห่วยๆเล่มนั้นเป็นสมบัติระดับเทพเจ้า?” หานเซิ่นพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา


 


“เจ้าช่างเป็นเด็กที่โง่เขลาซะจริง! โกลด์สแลชนั้นเป็นสมบัติที่ตกได้ยากมากๆ มันต้องเป็นระดับเทพเจ้าเป็นอย่างน้อย ถึงแม้มันจะเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟ แต่มันก็ดีกว่าภาพสกปรกของเจ้ามาก” หลี่อวี้เจินพูด


 


“นั่นหมายความว่ามันยังมีโกลด์สแลชขั้นสูงกว่าถูกไหม?” หานเซิ่นถาม


 


“แน่นอนว่ามันมีอยู่ หนึ่งในผู้นำของพวกเราเคยตกโกลด์สแลชขั้นบัตเตอร์ฟลายขึ้นมา แต่นั่นไม่สำคัญอะไรกับเจ้า เชิญเจ้าตกเอาภาพโป๊สกปรกๆต่อไป… ฮ่าๆ!” หลี่อวี้เจินถือดาบอย่างภาคภูมิและหัวเราะเสียงดังขณะที่เดินจากไป


 


หานเซิ่นไม่ใส่ใจอะไรกับสิ่งที่ชายคนนั้นพูด เขาคิดกับตัวเอง ‘ดูเหมือนว่าดาบที่เป่าเอ๋อได้รับจะเป็นโกลด์สแลชเช่นเดียวกัน แต่เห็นได้ชัดว่าของเป่าเอ๋อนั้นขั้นสูงกว่า แต่มันอยู่ขั้นไหนยังต้องระบุอีกที’


 


หลังจากที่หลี่อวี้เจินจากไปแล้ว หานเซิ่นก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่มีใครคอยจับตาดูเขาแล้ว


 


หานเซิ่นมีแผนที่จะตกบางสิ่งขึ้นมาจากทะเลสาบอีกสักชิ้นก่อนที่จะมอบเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ให้กับเป่าเอ๋อ


 


ไม่นานหลังจากนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกว่าเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์กระตุก มันมีบางสิ่งมาติดที่ปลายเส้นไหมของเขา


 


หานเซิ่นคิดว่ามันคงจะเป็นแค่กระดาษเหลืองอีกแผ่น แต่สิ่งที่เขาดึงขึ้นมาเป็นสีดำ มันไม่ใช่กระดาษแผ่นสีเหลืองเหมือนกับครั้งก่อนๆ


 


“นี่เราโชคดีขึ้นแล้วอย่างนั้นหรอ?” หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขารีบหยิบวัตถุสีดำมาดูใกล้ๆ


 


เมื่อหานเซิ่นเห็นชัดๆว่ามันคืออะไร เขาก็รู้สึกหนาวขึ้นมา วัตถุใหม่ที่เขาตกขึ้นมาได้นั้นเป็นแผ่นกระดาษเช่นเดียวกัน แต่ครั้งนี้มันเป็นสีดำและมันก็หนากว่าแผ่นกระดาษสีเหลืองก่อนหน้านี้มาก


 


“นี่ข้าต้องตกกระดาษให้ครบเจ็ดสีเลยหรือยังไง? นี่ข้าจะอัญเชิญมังกรออกมาได้หลังจากที่เก็บพวกมันจนครบอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นบ่นขณะที่เอามันมาดูใกล้ๆ


 


แต่สิ่งที่ได้เห็นทำให้หานเซิ่นอึ้งไป กระดาษแผ่นใหม่นี้แตกต่างไปจากแผ่นอื่น ความหนาของมันดูเหมือนกับปกของหนังสือ นอกจากนั้นมันยังมีคำสามคำเขียนเอาไว้


 


“คัมภีร์นภาอำพัน นี่คงจะไม่ได้เป็นปกของกระดาษสีเหลืองพวกนั้นหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นแปลกใจ เขาพลิกอีกด้านหนึ่งเพื่อดูตัวอักษรด้านในของปก


 


“ถ้าผู้คนตกอยู่ในกลียุค ท้องฟ้าและผืนดินก็จะตกอยู่ในกลียุค และทั้งฟ้าและผืนดินก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง”

หานเซิ่นตกใจ ตัวอักษรเหล่านี้คือบทนำของคัมภีร์นภาอำพัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกระดาษสีเหลืองพวกนั้น


 


‘มันคงจะไม่ได้เป็นปกของกระดาษสีเหลืองพวกนั้น บางทีมันอาจจะเป็นปกของหนังสือเล่มอื่น?’ หานเซิ่นคิดว่าสถานการณ์ทั้งหมดนี้เป็นอะไรที่แปลก


 


หานเซิ่นดูลังเล ขณะที่เป่าเอ๋อเริ่มทำการตกปลา เขาก็นำเอากระดาษสีเหลืองทั้งหมดออกมา เขาสังเกตเห็นว่ากระดาษสีเหลืองทั้งหมดมีหมายเลขหน้ากำกับอยู่ ดังนั้นหานเซิ่นจึงเรียงลำดับพวกมันตามหมายเลข แต่ทว่ามันยังคงมีหลายหน้าที่ขาดหายไป หมายเลขหน้าสูงสุดคือสองร้อยห้าสิบสี่ แต่หานเซิ่นมีกระดาษอยู่แค่ยี่สิบแผ่นเท่านั้น


 


หานเซิ่นนำพวกมันไปวางคู่กับปกของคัมภีร์นภาอำพันและสังเกตเห็นว่าขนาดของพวกมันพอดีกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าปกนี้เป็นของกระดาษสีเหลืองจริงๆหรือเปล่า


 


หานเซิ่นคิดว่านี่เป็นอะไรที่แปลก เขามองไปที่รูปภาพบนกระดาษสีเหลือง และในตอนที่เขามองดูพวกมัน เขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่แปลกประหลาด


 


ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่ารูปพวกนี้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ชายบ้ากามในสมัยอดีตวาดขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้สังเกตพวกมันอย่างละเอียด แต่ตอนนี้เมื่อเขามองดูดีๆ เขาก็สังเกตได้ถึงบางสิ่ง


 


คนในภาพวาดปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดสีฟ้าและแดง เส้นที่ถูกวาดเอาไว้นั้นบางมากๆ ถ้าหานเซิ่นไม่มองดูดีๆ เขาก็จะไม่สังเกตเห็นพวกมันเลย ภาพที่ถูกวาดนั้นเป็นอะไรที่สมจริงมากๆแม้แต่เส้นเลือดของคนในภาพก็ถูกวาดเอาไว้


 


แต่หลังจากที่ตรวจสอบดูอย่างละเอียด หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าพวกมันไม่ใช่เส้นเลือด เส้นสีฟ้าเล็กๆนั่นควรจะเป็นเส้นลมปราณ ขณะที่เส้นสีแดงควรจะเป็นเส้นพลังชีวิต


 


หานเซิ่นตกใจ เขาคิดกับตัวเอง ‘นี่ไม่ใช่ภาพโป๊ แต่มันเป็นวิชาจีโน! แต่ทำไมวิชาจีโนถึงเป็นแบบนี้? มันจะถูกเข้าใจผิดได้ง่ายๆ’


 


ความจริงที่มันไม่มีคำบรรยายอะไรถูกเขียนเอาไว้ บวกกับหานเซิ่นยังขาดกระดาษสีเหลืองอีกหลายหน้า ทำให้เขายังไม่แน่ใจอย่างเต็มที่ว่ามันเป็นวิชาจีโนจริงๆ แต่ยังไงก็ตามมันก็ทำให้เขารู้สึกสนใจขึ้นมา


 


หานเซิ่นเริ่มผลัดกับเป่าเอ๋อใช้เส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ในการตกปลาอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตกกระดาษเหลืองอีกแผ่นขึ้นมาได้

 

 

 


ตอนที่ 2652

 

บนยานอวกาศที่มุ่งหน้าไปที่ระบบแอนดรอเมดา คริสตัลไลเซอร์หญิงคนหนึ่งหันมาหาผู้ชายที่นั่งถัดไปจากเธอ เธอดูหวาดกลัว


 


“เจ้าเป็นคริสตัลไลเซอร์อย่างนั้นหรอ?” เธอถาม


 


“ใช่” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับพยักหน้า เขาดูค่อนข้างเย็นชา


 


ผู้หญิงคนนั้นดูประหลาดใจอย่างมาก “ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้พบกับคนอื่นที่เป็นเผ่าเดียวกันที่นี่ ชื่อของข้าคือลิเดีย เจ้าเดินทางไปที่ระบบแอนดรอเมดาเพื่อล่าซีโน่เจเนอิคเหมือนกันอย่างนั้นหรอ?”


 


“ใช่” ชายคนนั้นตอบ อารมณ์ของเขาดูเหมือนจะไม่กระสับกระส่ายเลยแม้แต่นิดเดียว


 


“นั่นเยี่ยมไปเลย พวกเราควรจะร่วมมือกัน เจ้าคิดว่ายังไง?” ผู้หญิงคนนั้นพูด


 


“ไม่” ชายคนนั้นตอบ


 


ผู้หญิงคนนั้นดูผิดหวัง “นั่นไม่เป็นไร ว่าแต่เจ้าชื่อว่าอะไร? พวกเรามาแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกันได้ไหม? มันมีคริสตัลไลเซอร์เหลืออยู่ไม่มากนัก แบบนั้นพวกเราจะได้มีทางช่องทางติดต่อกันและกัน”


 


“ไม่” ชายคนนั้นพูด ใบหน้าของเขายังสงบนิ่ง


 


ผู้หญิงคนนั้นพูดดีๆกับเขา แต่ชายคนนี้ไม่พูดดีๆตอบกลับเลยแม้แต่น้อย เขาไม่เคยพูดตอบเธอยาวเกินไปกว่าหกพยางค์


 


หลังจากที่พวกเขาไปถึงระบบแอนดรอเมดา ผู้โดยสารก็กระจายไปตัวกันออกไปตามจุดหมายของตัวเอง ชายคนนั้นลงจากยาน ขณะที่คนผู้หญิงตามเขาไปจากด้านหลัง


 


“ทำไมเจ้าถึงตามมา?” ชายคนนั้นถามขณะที่หันไปมองลิเดียอย่างแปลกๆ


 


“มันเป็นเพราะว่าในจักรวาลนี้ การที่คริสตัลไลเซอร์หญิงจะได้พบกับคริสตัลไลเซอร์นั้นมีโอกาสน้อยมากๆ ข้าไม่อยากพลาดโอกาสไป ดังนั้นได้โปรดบอกชื่อของเจ้ากับข้า”

ลิเดียตอบ เธอลดหัวลงและพึมพำอย่างรวดเร็ว เธอพูดด้วยระดับเสียงที่จะมีแค่สุนัขเท่านั้นที่จะฟังออก


 


“อีตงมู่” ในที่สุดชายคนนั้นก็พูดชื่อออกมา


 


ลิเดียดูดีใจอย่างมากที่ได้ยินแบบนั้น เธอเงยหน้าขึ้นมาและกำลังจะบอกบางสิ่งกับอีตงมู่ แต่ในจังหวะที่เธอเปิดริมฝีปาก มีดของอีตงมู่ก็ได้แทงมีดทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอ


 


“ทำไมกัน…ทำไม…” ลิเดียไม่อยากเชื่อสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เธอจ้องไปที่อีตงมู่ด้วยความแปลกใจ


 


“มันเป็นเพราะข้าสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่อันตรายภายในหัวของเจ้า” อีตงมู่ดึงมีดออกจากลิเดียและส่งเธอล้มลงไปกับพื้น


 


เขามองร่างกายของลิเดียอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็หันหลังและหายไปจากภูเขาลูกนั้น


 


ไม่นานหลังจากที่อีตงมู่จากไป ร่างที่ไร้ชีวิตของลิเดียก็ลืมตาขึ้นมา แสงประหลาดแว๊บในดวงตาของเธอ ขณะที่เธอลุกขึ้นมาราวกับหุ่นไม้


 


ในจังหวะนั้นลิเดียดูเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิต ดวงตาของเธอเบิกกว้าง แต่พวกมันขาดจุดโฟกัส มันเหมือนกับว่าข้อมูลมากมายกำลังเคลื่อนผ่านดวงตาของเธอ


 


“ล้มเหลวอีกแล้ว เป็นนักฆ่าที่ไร้หัวใจอะไรขนาดนี้ เขาฆ่าผู้หญิงที่งดงามจากเผ่าพันธุ์เดียวกันอย่างง่ายดาย เพราะเขาสัมผัสได้ถึงอันตราย มันเป็นเรื่องยากที่จะรับมือกับเขา”

หลังจากผ่านไปสักพักลิเดียก็พูดกับตัวเอง “น่ารำคาญจริงๆ! ตอนนี้ข้าพลาดโอกาสจะเข้าใกล้เป้าหมายคนนี้ถึงแปดครั้งแล้ว อีกทีมหนึ่งก็หาข้อมูลเกี่ยวกับเขาไม่ได้เช่นเดียวกัน ทำไมมันถึงได้ยากลำบากขนาดนี้กับการจะสืบข้อมูลจากคนที่เคยติดต่อกับหานเซิ่นมาก่อน ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คริสตัลไลเซอร์กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่ง? มันดูเหมือนว่าการสืบข้อมูลในครั้งนี้จะเป็นอะไรที่ยากมากๆ”


 


หลังจากนั้นร่างกายของลิเดียก็ล้มลงกับพื้น แสงในดวงตาของเธอหายไปและเธอก็กลับไปดูเหมือนกับศพอีกครั้งหนึ่ง


 


“เซี่ยชิง ในช่วงนี้มีอะไรที่พิเศษเกิดขึ้นกับเจ้าบ้างไหม?” หวังอวี่ฮังมองไปที่โทรศัพท์ขณะที่พูดคุยกับเซี่ยชิง


 


“ข้าได้เพื่อนใหม่มา” เซี่ยชิงพูดขณะที่สูบซิการ์และแอนหลังบนเก้าอี้ซีอีโอ เขาดูผ่อนคลายอย่างมาก


 


“ข้าก็เหมือนกัน ดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับหานเซิ่น นี่เขาไปก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้วหรอ?” หวังอวี่ฮังพูด


 


“บางทีอาจจะไม่ พวกเขาคงแค่ต้องการจะสืบที่มาที่ไปของหานเซิ่น ไม่อย่างนั้นผู้คนก็คงจะไม่มาถามคำถามกับพวกเราอย่างสุภาพแบบนั้น” เซี่ยชิงหลี่ตาขณะที่พูดออกมา


 


“ถ้าอย่างนั้นพวกเราควรจะทำยังไงดี?” หวังอวี่ฮังถาม


 


“ถ้าใครบางคนมอบเงินและผู้หญิงที่งดงามให้กับเจ้าอย่างฟรีๆ เจ้ายังคิดจะพูดปฏิเสธอีกอย่างนั้นหรอ? มันเป็นอะไรที่เสียมารยาทมากๆ และมันยังจะทำให้บุคคลที่เสนอให้กับเจ้าเสียใจอีกด้วย ดังนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเราจะไม่ปฏิเสธพวกเขา” เซี่ยชิงหัวเราะ


 


“ฮ่าๆ! นั่นเป็นสิ่งที่ข้าคิดเหมือนกัน หลินเฟิง ถังเตียงลิ่วและคนอื่นก็คงจะประสบกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เจ้าช่วยติดต่อไปหาพวกเขาได้ไหม? การที่มีคนเข้ามาขอเป็นมิตรกับข้าไม่มีทางเป็นแค่เรื่องบังเอิญ” หวังอวี่ฮังหัวเราะ



 


ทุกๆวัน หานเซิ่นนั่งอยู่ที่ริมทะเลสาบและค่อยๆตกแผ่นกระดาษขึ้นมา ด้วยเหตุผลบางอย่างเมื่อไหร่ก็ตามที่มันถึงตาของเป่าเอ๋อ เธอมักจะตกสมบัติจริงๆขึ้นมาได้ ขณะที่หานเซิ่นตกปลาทุกครั้ง เขาก็จะได้รับแผ่นกระดาษของคัมภีร์นภาอำพัน


 


“นี่มันแปลกจริงๆ ทำไมเราถึงตกได้แค่วิชาจีโนนี่?” หานเซิ่นสงสัย เขาไม่สามารถคิดหาคำตอบได้


 


เพราะยังไงซะโลกปฏิสสารก็เป็นอะไรที่ยากจะอธิบาย สามัญสำนึกและตรรกะไม่สามารถใช้กับสถานที่แบบนี้ได้ และหานเซิ่นก็ไม่อยากจะเสียเวลาครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน เขาแค่ต้องการจะรวบรวมหน้ากระดาษของคัมภีร์นภาอำพันให้ครบเร็วที่สุด เขาอยากจะรู้ว่ามันเป็นวิชาจีโนแบบไหน


 


‘วิชาจีโนที่มาจากโลกปฏิสสาร ไม่ว่ามันจะแย่สักแค่ไหน มันก็ต้องเป็นอะไรที่พิเศษถูกไหม?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


ทันใดนั้นรูปปั้นหยกของเขาก็เรืองแสงขึ้นมา หานเซิ่นรับรู้ว่าเอ็กซ์ควิสิทกำลังมาที่นี่ ดังนั้นเขาจึงรีบซิงค์ความคิดด้วยรูปปั้นหยก


 


“ตกอะไรได้ไหม?” หลังจากนั้นไม่นานเอ็กซ์ควิสิทก็เทเลพอร์ตมาอยู่ข้างๆหานเซิ่น


 


“ได้ แต่ของที่ข้าตกขึ้นมาได้เป็นอะไรที่ค่อนข้างประหลาด” หานเซิ่นพูดด้วยโทนเสียงแปลกๆ


 


“ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์นั้นเชื่อมต่อกับโลกปฏิสสาร ดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติที่จะตกของประหลาดขึ้นมาได้ ว่าแต่เจ้าตกอะไรขึ้นมาได้?” เอ็กซ์ควิสิทถาม


 


“ข้าได้รับกระดาษ” หานเซิ่นพูดอย่างช้าๆ หลี่อวี้เจินได้เห็นกระดาษสีเหลืองพวกนี้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเผยสิ่งที่เขาตกขึ้นมาได้ออกไป


 


“กระดาษ? กระดาษแบบไหน?” เอ็กซ์ควิสิทถามด้วยความอยากรู้ ถึงแม้ไม่ว่าอะไรก็สามารถถูกตกขึ้นมาจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ได้ แต่มันก็หาได้ยากที่จะตกบางสิ่งอย่างกระดาษขึ้นมา


 


“เรื่องนั้น…” หานเซิ่นอ้ำๆอึ้งๆ ในตอนที่เขาคิดเกี่ยวกับภาพที่วาดอยู่บนกระดาษสีเหลืองพวกนี้น เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดออกไปยังไงดี


 


เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด ดังนั้นเธอจึงหน้าแดงและพูดขึ้นมา

“ไม่เป็นไร เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกข้า อะไรก็ตามที่เจ้าได้รับจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์นั้นเป็นของของเจ้า ถึงแม้เจ้าจะได้รับสมบัติระดับเทพเจ้ามา มันก็เป็นของของเจ้า ในตอนที่เจ้าออกไปจากเอาท์เตอร์สกาย เจ้าก็เอาพวกมันติดตัวเจ้าออกไปได้เลย”


 


“ขอบคุณ” หานเซิ่นแกล้งทำเป็นโล่งใจ


 


“เจ้าต้องการทรัพยากรจากซีโน่เจเนอิคอย่างนั้นสินะ ข้าหาพวกมันมาให้กับเจ้าได้แล้ว แต่เจ้าจะได้รับมันมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับพลังของเจ้า” เอ็กซ์ควิสิทพูดกับหานเซิ่น เธอดูค่อนข้างเบิกบาน


 


“หมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นถามด้วยความสงสัย


 


“เอาท์เตอร์สกายมีต้นไม้ดาราอยู่ ต้นไม้นั้นจะให้กำเนิดผลดาราที่ถูกห้อมรอบไปด้วยซีโน่เจเนอิคอวกาศที่ทรงพลัง พวกมันเป็นระดับราชันเป็นอย่างน้อย แน่นอนว่าบางตัวเป็นถึงระดับเทพเจ้า ตอนนี้เจ้าไปเก็บผลดาราได้ แต่จะเก็บได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง”

 

 

 


ตอนที่ 2653

 

หานเซิ่นฟังเอ็กซ์ควิสิทอธิบายอย่างตั้งใจ ต้นไม้ดารานั้นถูกคอบครองโดยผู้อาวุโสของเผ่าเวรี่ไฮ ตัวไหมทุกคนของเผ่าเวรี่ไฮจะได้รับโอกาสหนึ่งครั้งในการเด็ดผลไม้ดารา แต่จำนวนของผลไม้ดาราที่เก็บได้จะขึ้นอยู่กับการทดสอบ แต่ถึงผลการทดสอบจะออกมาไม่ดี ผู้การทดสอบก็จะได้รับผลไม้ดาราหนึ่งลูกเป็นอย่างน้อย ผลไม้ดาราสิบลูกคือจำนวนสูงสุดที่คนๆหนึ่งจะสามารถรับไปได้


 


แต่ความยากง่ายของการทดสอบนั้นขึ้นอยู่กับว่าความรู้สึกของผู้อาวุโสที่เป็นคนทำการทดสอบซะส่วนใหญ่


 


“ผู้อาวุโสที่จะทำการทดสอบเจ้านั้นเป็นคนที่ไม่เหมือนใคร ถ้าเขาชอบเจ้า เขาก็จะถามคำถามเจ้าไม่กี่คำถาม หลังจากนั้นเขาก็จะมอบผลไม้ให้เจ้าเจ็ดถึงแปดลูก แต่ถ้าเขาไม่ชอบเจ้า เขาก็จะมอบคำถามที่ยากมากๆให้กับเจ้า และถึงแม้เจ้าจะตอบถูกต้อง เจ้าก็ยังได้รับผลไม้จำนวนไม่มากอยู่ดี ข้าหวังว่าเขาจะชอบเจ้า” ดวงตาของเอ็กซ์ควิสิทดูแปลกขณะที่เธอพูด


 


‘นี่เขาเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลขนาดนั้นเลย? การทดสอบจะไปมีประโยชน์อะไรอีกถ้าเขาเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด? แบบนั้นไม่ให้มันเป็นการประกวดความงามหรืออะไรทำนองนั้นไปเลยไม่ดีกว่าหรอ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


เอ็กซ์ควิสิทรู้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด ดังนั้นเธอจึงหัวเราะออกมา

“ต้นไม้ดาราเป็นสมบัติของเขาไม่ใช่ของเผ่าเวรี่ไฮ ดังนั้นเขาจะแบ่งผลไม้ให้ใครก็ได้ การที่เขายอมแบ่งพวกมันให้กับตัวไหมทุกคนก็ถือเป็นความเมตตาที่ใหญ่หลวงแล้ว ดังนั้นถึงเขาจะให้ผลไม้ดารากับเจ้าแค่ลูกเดียว เจ้าก็ควรจะซาบซึ้งกับมัน”


 


“แบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นมันก็เป็นอะไรที่สมเหตุสมผล ถ้าพวกมันเป็นสมบัติของเขา เขาก็ควรเป็นคนตัดสินใจแบ่งปันพวกมัน” หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยักหน้า


 


“นี่เป็นแค่รางวัลเล็กน้อย ในเร็วๆนี้จะมีการทดสอบตัวไหมอย่างจริงจัง ถ้าเจ้าทำผลงานได้ดีในการทดสอบ เจ้าก็จะได้รับทรัพยากรมากกว่านี้” เอ็กซ์ควิสิทพูด


 


“ข้าต้องรอคอยนานแค่ไหน?” หานเซิ่นถาม


 


“ในรุ่นของข้ามีอยู่ทั้งหมดสิบสามคน ตอนนี้เหลือเพียงแค่น้องสาวของข้าคนเดียวที่ยังตัดสินใจเลือกตัวไหมไม่ได้ เมื่อนางทำการตัดสินใจเลือกได้แล้ว การทดสอบก็จะเริ่มต้นขึ้น” เมื่อเอ็กซ์ควิสิทพูดเกี่ยวกับน้องสาว ดวงตาของเธอก็ดูแปลกๆ


 


หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆเช่นเดียวกันเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่เขาพยายามจะขจัดความคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นออกไป


 


น้องสาวที่เอ็กซ์ควิสิทพูดถึงคงจะเป็นหลี่เคอเอ๋ออย่างไม่ต้องสงสัย หลี่เคอเอ๋อต้องการให้ดอลลาร์เป็นตัวไหมของเธอ ซึ่งหานเซิ่นรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นดี


 


“ไปกันเถอะ พวกเราควรรีบไปที่ต้นไม้ดาดรา” เอ็กซ์ควิสิทวางมือลงบนไหล่ของหานเซิ่น หลังจากนั้นเธอก็เทเลพอร์ตหานเซิ่นกับเป่าเอ๋อออกไปจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์


 


หานเซิ่นยังต้องเก็บสะสมหน้าของคัมภีร์นภาอำพันอีกมาก แต่มันเป็นงานที่ต้องใช้เวลา เขาไม่สามารถเร่งรีบได้ เขาจะต้องหาโอกาสมาตกปลาอีกครั้งในภายหลัง


 


เมื่อหานเซิ่นเห็นต้นไม้ดารา เขาก็ต้องตกตะลึง กิ่งก้านของมันเกือบจะปกคลุมทั้งท้องฟ้า มันเหมือนกับร่มขนาดใหญ่ที่ก่อตัวเป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างผืนดินและท้องฟ้า


 


ผลไม้มากมายห้อยลงมาจากกิ่งของต้นไม้ พวกมันดูเหมือนกับดวงอาทิตย์และแสงสว่างของพวกมันก็ทำให้ใบไม้เรืองสว่างไสวเหมือนกับหยก มันเป็นอะไรที่งดงามมาก


 


จากที่เอ็กซ์ควิสิทบอก ลักษณะนิสัยของคนที่ทำการทดสอบนั้นค่อนข้างแปลก แต่เรื่องราวของเขาเป็นตำนาน


 


ในตอนที่ทารกของเวรี่ไฮกำเนิดขึ้นมา พวกเขาจะถูกแบ่งออกไปเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งรับผิดชอบเรื่องการสืบสายพันธุ์ พวกเขาจะเป็นเผ่าเวรี่ไฮที่ไม่ได้ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ บุคลิกภาพของพวกเขาจะดูปกติ พวกเขาจะมีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนอย่างคนทั่วไป พวกเขาจะเป็นเหมือนกับหลี่อวี้เจิน


 


ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มของคนอย่างเอ็กซ์ควิสิท พวกเขาจะฝึกวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์และเมื่อฝึกจนสำเร็จ อารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาก็แทบจะไม่เหลืออยู่ แต่ทว่าความแข็งแกร่งและความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาจะเป็นที่สุดของเผ่าเวรี่ไฮ


 


ตั้งแต่ที่ทารกของเผ่าเวรี่กำเนิดขึ้นมา เส้นทางของพวกเขาจะถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว


 


ผู้อาวุโสคนนี้เป็นเหมือนอย่างเอ็กซ์ควิสิท เขาฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์จนถึงระดับเทพเจ้า เขาอยู่ห่างไปจากการกลายเป็นขั้นทรูก็อตเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น


 


แต่หลังจากนั้นเขาก็ทำลายวิชาของตัวเองและเริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น แม้แต่เอ็กซ์ควิสิทเองก็ไม่รู้ว่าทำไมชายคนนี้ถึงได้ตัดสินใจทำอะไรแบบนั้น


 


ตั้งแต่ที่เขาเริ่มต้นฝึกวิชาใหม่อีกครั้ง ผู้อาวุโสคนนี้ก็ไม่เคยออกไปห่างจากต้นไม้ดาราเลย แม้แต่เวรี่ไฮคนอื่นก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในระดับไหนแล้ว


 


“คารวะท่านลุง” เอ็กซ์ควิสิทพาหานเซิ่นมาอยู่ใต้กิ่งก้านของต้นไม้ดาราและโค้งคำนับให้กับรากของต้นไม้


 


หานเซิ่นและเป่าเอ๋อมองไปทางที่เธอโค้งคำนับ และที่นั่นพวกเขาก็เห็นรากหินขนาดใหญ่ของต้นไม้ ถึงแม้มันจะเป็นหิน แต่รากนั้นก็ยังคงดูมีชีวิตและยังเจริญเติบโต ชายผมสีเทาเผ่าเวรี่ไฮคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนราก


 


รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของเขาดูหยาบยิ่งกว่าเปลือกของต้นไม้ เคราสีขาวของเขายาวจนถึงพื้น เขานั่งหลับตาอย่างสงบนิ่งจนดูเหมือนกับว่าเขาถูกสาปให้กลายเป็นก้อนหิน


 


หานเซิ่นไม่แน่ใจว่าควรจะคิดยังไงกับรูปลักษณ์ของชายคนนี้ ด้วยพลังของเผ่าเวรี่ไฮ พวกเขาสามารถคงสภาพให้ดูหนุ่มจนกระทั่งถึงวันตาย ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงสงสัยว่าทำไมใบหน้าของชายคนนี้ถึงได้ดูแก่นัก


 


เมื่อได้ยินเสียงของเอ็กซ์ควิสิท ชายแก่คนนั้นก็ลืมตาขึ้นมา หนังตาของเขาดูเหี่ยวย่นอย่างมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆ พวกเขาก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าชายแก่คนนั้นลืมตาขึ้นมาแล้ว


 


ชายแก่มองไปที่เอ็กซ์ควิสิท หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่หานเซิ่นและเป่าเอ๋อ

“เอ็กซ์ควิสิทนี่เอง เจ้าพาตัวไหมของเจ้ามาแล้วใช่ไหม? มันเป็นที่คนตัวใหญ่หรือคนที่ตัวเล็กกัน?”


 


“ชื่อของเขาคือหานเซิ่น เขาเป็นคริสตัลไลเซอร์…” เอ็กซ์ควิสิทแนะนำหานเซิ่นและเป่าเอ๋อกับชายแก่


 


“เจ้าเลือกคริสตัลไลเซอร์คนหนึ่ง? นั่นเป็นอะไรที่กล้ามากๆ”

ชายแก่พูด เขาสังเกตหานเซิ่นตั้งแต่หัวจรดเท้า เขากำลังจะพูดบางสิ่งขึ้นมา แต่ทันใดนั้นก็มีคนๆหนึ่งเทเลพอร์ตมาตรงหน้าพวกเขา


 


“คารวะท่านลุง” ชายที่มาใหม่พูดพร้อมกับโค้งคำนับชายแก่


 


“หลี่อวี้เจิน เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” หานเซิ่นและเอ็กซ์ควิสิทก็อยากจะถามคำถามเดียวกัน


 


“หลี่อวี้เจิน เจ้าถอยออกไปก่อน ข้าต้องทำการทดสอบตัวไหมของเอ็กซ์ควิสิท หลังจากนั้นถึงจะเป็นตาของเจ้า” ชายแก่พูดและทำท่าทางให้เขาถอยออกไปด้านข้าง


 


เมื่อหลี่อวี้เจินได้ยินแบบนั้น เขาก็โค้งคำนับชายแก่และพูดขึ้นว่า “ท่านลุง ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมพวกเราไม่ทำการทดสอบพร้อมกันไปเลย?”


 


เมื่อหานเซิ่นและเอ็กซ์ควิสิทได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็รู้สึกแปลกใจ พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมหลี่อวี้เจินถึงเสนออะไรแบบนั้นออกมา


 


เมื่อชายแก่ได้ยินคำขอนี้ เขาก็เงียบไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูด

“เอาแบบนั้นก็ได้ พวกเจ้าทำการทดสอบพร้อมกันไปเลย”


 


เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยปกติแล้วตัวไหมทุกคนของเผ่าเวรี่ไฮจะเข้ารับการทดสอบตามลำพัง และผู้คนของเผ่าเวรี่ไฮก็ไม่จำเป็นต้องมารับการทดสอบ เธอสับสนว่าทำไมจู่ๆหลี่อวี้เจินถึงต้องมารับการทดสอบด้วย


 


ชายแก่ดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เอ็กซ์ควิสิทกำลังสงสัย ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นมา

“ข้าจะออกเดินทางในเร็วๆนี้ หลี่อวี้เจินจึงมาทดสอบเพื่อเป็นคนคอยปกป้องต้นไม้ดาราในตอนที่ข้าไม่อยู่ ถ้าเขาผ่านการทดสอบ เขาก็จะมาเป็นคนรับผิดชอบต้นไม้ดาราชั่วคราว”


 


หานเซิ่นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มาในตอนนี้ เพราะถ้าพวกเขามาตอนที่หลี่อวี้เจินเป็นคนเฝ้าต้นไม้ดารา มันก็มีโอกาสที่หลี่อวี้เจินจะจงใจทำให้การทดสอบของเขาเป็นเรื่องยาก

 

 

 


ตอนที่ 2654

 

มันเป็นเรื่องบังเอิญที่หลี่อวี้เจินมาเจอกับหานเซิ่นที่ต้นไม้ดารา หลี่อวี้เจินเพิ่งจะได้รับคำสั่งให้มาที่นี่เพื่อเข้ารับการทดสอบ ซึ่งถ้าเขาสอบผ่านการทดสอบ เขาก็จะได้เป็นคนรับผิดชอบต้นไม้ดาราขณะที่เจ้าของไม่อยู่ หลี่อวี้เจินยังได้รู้ข่าวมาอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือเรื่องที่เมื่อผู้อาวุโสคนนี้เดินทางออกไปจากต้นไม้ดาราแล้ว เขาอาจจะไม่กลับมาอีก ดังนั้นถ้าหลี่อวี้เจินได้เป็นคนดูแลต้นไม้ต่อ มันก็มีโอกาสสูงที่ต้นไม้ดาราจะเป็นของเขาอย่างถาวร นั่นเป็นเหตุผลที่หลี่อวี้เจินตื่นเต้นและรีบร้อนมาที่นี่


 


การได้ดูแลต้นไม้ดาราชั่วคราวนั้นไม่ใช่งานที่สำคัญอะไร แต่การได้เป็นผู้ดูแลอย่างถาวรถือเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ แต่ทว่าในตอนที่เขามาที่ต้นไม้ดารา เขาก็เห็นว่าหานเซิ่นมายืนอยู่หน้าต้นไม้เรียบร้อยแล้ว เขาคิดว่าหานเซิ่นเสียมารยาทอย่างมากตอนอยู่ที่ทะเลสาบ หานเซิ่นเพียงแค่ตัวไหม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็กล้าล่วงละเมิดคนของเผ่าเวรี่ไฮ หลี่อวี้เจินคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้สั่งสอนบทเรียนให้กับหานเซิ่น


 


‘ภายนอกเอาท์เตอร์สกาย เจ้าอาจจะเป็นอัจฉริยะ แต่ในที่แห่งนี่เจ้าต่ำยิ่งกว่าดิน ถ้าเจ้าไม่รู้ในเรื่องนั้น เจ้าก็คงจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเราไม่ได้ ข้าหวังดีกับเจ้าเพื่อที่เจ้าจะได้ไม่เป็นตัวถ่วงของเอ็กซ์ควิสิท’ หลี่อวี้เจินยิ้มกับตัวเอง


 


หลังจากนั้นชายแก่ก็มองไปที่ต้นไม้และพูดขึ้นมา “ถ้าเป็นแบบนี้ ทำไมพวกเจ้าทั้งคู่ไม่แข่งกันกำจัดแมลงล่ะ?”


 


“กำจัดแมลง?” หานเซิ่นถามด้วยความสงสัย ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดมหึมานี้จำเป็นต้องคอยกำจัดแมลงด้วยหรอ? นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจไม่น้อย


 


เนื่องจากหานเซิ่นเพิ่งจะได้รู้ถึงการมีอยู่ของต้นไม้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าหน้าที่ของคนเฝ้าต้นไม้ดาราก็คือการกำจัดแมลงเป็นครั้งคราว ไม่อย่างนั้นแมลงก็จะกินและทำลายผลไม้ดารา นั่นเป็นสิ่งที่หลี่อวี้เจินจะต้องทำถ้าเขาได้รับเลือกให้เป็นคนดูแลต้นไม้


 


ถ้าหลี่อวี้เจินไม่มาอยู่ที่นี่ การทดสอบของหานเซิ่นก็คงจะเป็นบางสิ่งที่แตกต่างออกไป แต่ทว่าด้วยสถานการณ์ที่พิเศษ ชายแก่จึงคิดว่าการทดสอบนี้เป็นอะไรที่เหมาะสมกับพวกเขาทั้งคู่


 


“ในระหว่างการทดสอบ พวกเจ้าจะใช้สมบัติหรือพลังพิเศษอะไรไม่ได้ พวกเจ้าจำเป็นต้องใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองในการกำจัดแมลง และพวกเจ้าจะทำให้ต้นไม้ดาราได้รับความเสียหายไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นไม่เพียงแค่พวกเจ้าจะไม่ได้รับรางวัล พวกเจ้ายังจะถูกลงโทษด้วย” ชายแก่พูดเตือน


 


“ลุง แมลงแบบไหนกันที่พวกเราต้องกำจัด?” หานเซิ่นถามชายแก่อย่างมีมารยาท


 


“มันมีแมลงเพียงแค่ชนิดเดียวที่กล้าเข้ามาใกล้ต้นไม้ดารา” ชายแก่ตอบ

“พวกมันถูกเรียกว่าด้วงดารา ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าหนึ่งวัน พวกเจ้าจะผ่านการทดสอบถ้าพวกเจ้ากำจัดแมลงได้หนึ่งพันตัว และทุกๆการกำจัดแมลงหนึ่งร้อยตัว พวกเจ้าจะได้รับผลไม้ดาราหนึ่งลูก”


 


หานเซิ่นดีใจที่ได้ยินแบบนั้น เขากลัวว่าถึงแม้จะทำทุกอย่างได้ถูกต้อง ชายแก่ก็อาจจะไม่ยอมมอบผลไม้ดาราให้กับเขา แต่ตอนนี้เมื่อชายแก่มอบเงื่อนไขแบบนั้นออกมา หานเซิ่นก็สามารถวางใจได้


 


“พวกเรามาเริ่มกันตอนนี้เลย แล้วพรุ่งนี้พวกเจ้าค่อยกลับมาที่นี่ ร่างของด้วงดารานั้นทิ้งเอาไว้บนต้นไม้ พวกมันจะถูกเก็บกวาดในภายหลัง” ชายแก่พูด


 


หานเซิ่นและหลี่อวี้เจินโค้งคำนับชายแก่ หลังจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มบินขึ้นไปบนยอดต้นไม้ หลี่อวี้เจินหันมามองหานเซิ่นก่อนที่จะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น เขาหายตัวไปบนต้นไม้ ขณะที่หานเซิ่นยังคงค่อยๆบินขึ้นไป


 


ต้นไม้ดารานั้นใหญ่มหึมา ผลไม้ดาราแต่ละลูกเป็นเหมือนกับดาวเคราะห์น้อย ถึงแม้หานเซิ่นจะบินได้อย่างรวดเร็ว แต่มันก็ยังใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าที่เขาจะขึ้นไปถึงยอดของต้นไม้


 


หลี่อวี้เจินเริ่มฆ่าแมลงมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ต้นไม้นั้นใหญ่โตเกินไป หานเซิ่นจึงไม่เห็นตำแหน่งของหลี่อวี้เจิน ด้วยเหตุนั้นเขาต้องตามหาพวกแมลงตามลำพัง


 


เมื่อเห็นต้นไม้ดาราจากระยะใกล้ หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าใบของต้นไม้ดาราดูเหมือนกับหยกจริงๆ ผลไม้ลูกยักษ์นั้นใสราวกับคริสตัล


 


เนื่องจากชายแก่พูดอย่างเคร่งครัดว่าไม่สามารถสร้างความเสียหายกับต้นไม้ดาราได้ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่กล้าแตะต้องต้นไม้ เขาเพียงแค่บินไปรอบๆ


 


ไม่นานหลังจากนั้นหานเซิ่นก็พบแมลงตัวหนึ่งนอนอยู่บนกิ่งของต้นไม้ดารา มันดูดุร้ายราวกับมังกรและมีขนาดราวกับกระทิงที่โตเต็มวัย เปลือกของมันเป็นสีฟ้า เปลือกของมันแสงส่องระยิบระยับออกมาราวกับดวงดาว ใบหน้าของมันดูเหมือนกับใบหน้าของด้วงเขี้ยวกาง มันมีอุ้งเท้าทั้งหมดแปดข้างและมีเขาประหลาดที่เหมือนกับก้ามปู


 


ชายแก่สั่งให้พวกเขากำจัดแมลงโดยไม่สร้างความเสียหายกับต้นไม้ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้ตรงเข้าไปฆ่ามันในทันที เขาใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงมองเจ้าแมลงจากระยะไกล


 


เมื่อดูจากพลังชีวิตของด้วงดาราแล้ว หานเซิ่นก็สามารถคาดเดาได้ว่ามันเป็นระดับราชันขั้นที่สามไม่ก็ขั้นที่สี่ สิ่งมีชีวิตแบบนั้นกำจัดได้ไม่ยาก


 


แต่หานเซิ่นยังคงไม่รีบร้อนทำอะไร เขามองไปที่แมลงและคิดกับตัวเอง

‘เขาบอกว่าห้ามสร้างความเสียหายกับต้นไม้ นั่นหมายความเราจะทำการต่อสู้บนต้นไม้ไม่ได้ เราจำเป็นต้องฆ่าแมลงในการโจมตีเพียงครั้งเดียว เพื่อที่แมลงจะได้ไม่มีโอกาสสร้างความเสียหายกับต้นไม้’


 


‘มันเป็นซีโน่เจเนอิคชนิดว่างเปล่า ดังนั้นร่างกายของมันไม่มีธาตุ มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่พึ่งพละกำลังล้วนๆ นั่นหมายความว่าเปลือกของมันจะต้องแข็งกว่าซีโน่เจเนอิคตัวอื่นที่อยู่ระดับเดียวกัน การจะฆ่าสิ่งมีชีวิตแบบนี้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั้นเป็นเรื่องยาก’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


หลังจากที่สังเกตเจ้าแมลงอยู่สักพัก เขาก็ยังไม่สามารถระบุจุดอ่อนของมันได้ ร่างกายทั้งร่างของมันปกคลุมไปด้วยเปลือก หานเซิ่นรู้ว่าการจะฆ่าพวกแมลงนั้นจำเป็นทะลวงเปลือกของมันให้ได้


 


‘ถ้ามันไม่มีจุดอ่อน เราก็ต้องเจาะทะลวงเปลือกของมันด้วยกำลัง แต่การใช้กำลังเป็นอะไรที่มีความเสี่ยงสูง ถ้าเกิดเราพลาดและมันโต้กลับมา มันก็อาจจะสร้างความเสียหายต่อต้นไม้ดารา’ หานเซิ่นครุ่นคิดขณะที่ยังสังเกตด้วงดาราต่อไป


 


ทางด้านหลี่อวี้เจินได้เปรียบกว่ามาก ไม่เพียงแค่เขาขึ้นไปถึงบนต้นไม้ก่อนหน้าหานเซิ่นหนึ่งชั่วโมง แต่เขายังรู้ข้อมูลเกี่ยวกับด้วงดาราอยู่ก่อนแล้ว เขารู้ถึงจุดอ่อนของพวกมัน และเขาก็รู้วิธีที่จะฆ่าพวกมันอย่างมีประสิทธิภาพ


 


หลังจากที่เจอด้วงดารา หลี่อวี้เจินก็เริ่มกำจัดมันในทันที หลี่อวี้เจินไม่ได้ฝึกวิชาเวรี่ไฮเซ้นสต์ แต่เผ่าเวรี่ไฮมีวิชาจีโนอยู่มากมายนับไม่ถ้วน หลี่อวี้เจินเป็นหนึ่งในระดับราชันที่เก่งกาจที่สุดในเผ่าเวรี่ไฮ มันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เขาจะฆ่าด้วงดาราระดับราชันตัวหนึ่ง


 


เปลือกของด้วงดารานั้นแข็งมากๆ แม้แต่นักสู้ระดับราชันก็ยังเจาะทะลวงเปลือกของมันได้ยาก แต่หลี่อวี้เจินใช้เพียงแค่ไม่กี่หมัดในการฆ่าด้วงดารา


 


หลี่อวี้เจินฆ่าด้วงดาราไปเป็นสิบตัวก่อนที่หานเซิ่นจะขึ้นมาถึงยอดต้นไม้ด้วยซ้ำ แถมในตอนที่หานเซิ่นเจอด้วงดารา เขาก็ไม่ได้ทำการโจมตีในทันที เขาทำการสังเกตพวกมันอยู่สักพัก ในตอนที่หลี่อวี้เจินฆ่าด้วงดาราได้หนึ่งร้อยตัว หานเซิ่นยังไม่เริ่มฆ่าด้วงตัวแรกเลย


 


“ทำไมพ่อถึงยังไม่ทำอะไร?” เป๋อเอ๋อจับมือของเอ็กซ์ควิสิทขณะที่พูดขึ้นมา


 


ภาพในกระจกแสดงให้เห็นทั้งหานเซิ่นและหลี่อวี้เจิน หลี่อวี้เจินฆ่าด้วงไปหนึ่งร้อยตัวแล้ว แต่หานเซิ่นยังคงไม่ทำอะไร


 


“เขากำลังคิดหาวิธีที่จะฆ่าด้วงดารา” เอ็กซ์ควิสิทพูด


 


“มันมีอะไรต้องคิด? เพียงแค่นิ้วเดียวก็เพียงพอที่จะบดขยี้แมลงพวกนั้นแล้ว” เป่าเอ๋อพูดด้วยความสงสัย


 


เอ็กซ์ควิสิทไม่ตอบ แต่ชายแก่พูดขึ้นมา “เขากำลังคิดเกี่ยวกับวิธีการที่จะไม่สร้างความเสียหายกับต้นไม้”

 

 

 


ตอนที่ 2655

 

หานเซิ่นใช้เวลาสังเกตอยู่นาน แต่ในที่สุดเขาก็บินไปข้างหน้าเพื่อจู่โจมแมลงตัวนั้น ในตอนที่เขาเข้าไปใกล้มากพอ จู่ๆเขาก็หายตัวไป และในตอนที่เขาปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็อยู่เหนือเปลือกของเจ้าแมลงเรียบร้อยแล้ว


 


“ก็อตส์วอนเดอร์?” เอ็กซ์ควิสิทแปลกใจที่เห็นแบบนั้น เธอคุ้นเคยกับวิชาการเทเลพอร์ตที่หานเซิ่นใช้เป็นอย่างดี ถึงแม้เขาจะเทเลพอร์ตในระยะสั้นๆ มันก็ถือเป็นอะไรที่น่าประทับใจแล้ว เมื่อคำนึงถึงเรื่องที่เธอเพิ่งจะมอบก็อตส์วอนเดอร์ไปให้กับเขาได้ไม่นาน ถ้าหานเซิ่นเชี่ยวชาญถึงขั้นนี้ในเวลาอันสั้น พรสวรรค์ของเขาก็เป็นอะไรที่สุดยอดอย่างเหลือเชื่อ


 


“นี่เขามีพรสวรรค์ระดับสิบเอ็ดเปลือกจริงๆอย่างนั้นหรอ?” เอ็กซ์ควิสิทอดที่จะสงสัยไม่ได้ ร่างกายของหานเซิ่นเป็นอะไรที่พิเศษ ถ้าผลทดสอบของก็อตสปิริตทัชเป็นของจริง มันก็เป็นอะไรที่วิเศษมากๆ


 


หานเซิ่นเทเลพอร์ตไปด้านหลังด้วงดารา หลังจากนั้นเขาก็ใช้นิ้วชี้ทิ่มลงไปที่สมองของด้วง


 


มันมีเสียงดังขึ้นมาเล็กน้อยราวกับเสียงเหล็กแทงถูกระดูก หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ดึงนิ้วกลับไป ด้วงดาราไม่ได้ดิ้นรนแม้แต่นิดเดียวหลังจากที่ถูกโจมตี มันเพียงแค่สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่พลังชีวิตจะค่อยๆอ่อนลงไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่นานพลังชีวิตของมันก็ดับลง


 


ด้วงดารายังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม มันนอนแน่นิ่งอยู่บนกิ่งของต้นไม้ แต่ถ้ามาดูใกล้ๆจะเห็นรูขนาดเล็กที่เจาะเข้าในสมองของเจ้าแมลง


 


“ซีโน่เจเนอิคด้วงดาราระดับราชันถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ” เสียงประกาศดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น


 


“เป็นความสามารถในการสังเกตที่ยอดเยี่ยม นั่นเป็นความสามารถที่สำคัญมากๆ แถมร่างกายของเขายังวิวัฒนาการได้เป็นอย่างดี เอ็กซ์ควิสิท ข้าคิดว่าตัวไหมของเจ้านั้นไม่เลวเลย” ชายแก่พูด เขามองไปที่หานเซิ่นด้วยความชื่นชม


 


การโจมตีของหานเซิ่นเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบ แต่สิ่งที่ผู้อาวุโสรู้สึกชื่นชมมากที่สุดคือเรื่องที่หานเซิ่นใช้เวลาเพื่อสังเกตด้วงดาราก่อนจะลงมือ เขาไม่ใช่คนบ้าบิ่นที่จะปล่อยให้ร่างกายทำงานไวกว่าหัวสมอง


 


ความบ้าบิ่นนั้นไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป ถ้านักสู้คนหนึ่งต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ในระดับเดียวกัน การต่อสู้มักจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับทั้งสองฝ่าย ในสถานการณ์แบบนั้นการตอบสนองด้วยร่างกายแทนสมองจะเป็นอะไรที่มีประโยชน์ที่สุด


 


แต่การจะจัดการกับแมลงพวกนั้นไม่จำเป็นต้องใช้การตอบสนองที่ฉับพลัน หานเซิ่นไม่เคยรู้เกี่ยวกับด้วงดารามาก่อน เขาใช้เวลาสังเกตพวกมันอยู่สักพักก่อนที่จะฆ่ามันในการโจมตีเพียงครั้งเดียว เขาสามารถตัดเส้นระบบประสาทของด้วงดาราได้สำเร็จ เจ้าแมลงนั้นไม่สามารถตอบสนองอะไรได้ก่อนที่มันจะถูกฆ่าตาย ความเสียหายต่อต้นไม้ดารานั้นถูกจำกัดให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด นั่นเป็นเหตุผลที่ชายแก่รู้สึกชื่นชมหานเซิ่น


 


หลี่อวี้เจินรู้เกี่ยวกับด้วงดาราตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มการทดสอบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นวิธีการโจมตีของเขาก็ยังเป็นอะไรที่หยาบกระด้าง เขาไม่ได้สร้างความเสียหายกับต้นไม้ดารามากนัก แต่เมื่อเทียบกับหานเซิ่นแล้ว เขาก็ทิ้งความเสียหายเอาไว้มากกว่า


 


หานเซิ่นจู่โจมด้วงดาราตัวอื่นต่อ เขาเทเลพอร์ตไปพร้อมกับใช้วิชามีดใต้นภา มีดเส้นไหมที่เขาควบคุมเป็นอะไรที่แม่นยำราวกับมีดฝ่าตัด การโจมตีจะเจาะผ่านเปลือกของด้วงและตัดเส้นประสาทของพวกมัน ภายใต้การโจมตีที่แม่นยำแบบนั้น ด้วงดาราไม่มีแม้แต่โอกาสจะตอบโต้


 


ด้วงดาราตายไปตามๆกันภายใต้การโจมตีของหานเซิ่น หานเซิ่นเป็นเหมือนกับศัลยแพทย์ฝีมือดี ทุกการโจมตีของเขานั้นแม่นยำไม่มีพลาดเป้า เขาสามารถฆ่าด้วงดาราหนึ่งร้อยตัวโดยที่ไม่พลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว


 


ชายแก่รู้สึกแปลกใจ ดวงตาของเอ็กซ์ควิสิทจับจ้องไปที่กระจก แต่จิตใจของเธอนั้นเชื่อมต่อกับจิตใจของหานเซิ่น มันเหมือนกับว่าเธอเป็นหานเซิ่นที่เป็นคนฆ่าด้วงดาราเหล่านั้น


 


นั่นคือผลประโยชน์ของการมีตัวไหม เธอสามารถรู้สึกแบบเดียวกันกับที่ตัวไหมของเธอรู้สึก โดยการทำแบบนั้นเธอก็จะได้เรียนรู้และประสบกับบางสิ่งที่เธอไม่คุ้นเคย


 


ในขณะที่หานเซิ่นพัฒนาจากระดับราชันไปสู่ระดับเทพเจ้า เอ็กซ์ควิสิทก็จะไม่ได้วิวัฒนาการไปพร้อมกับเขา แต่ทว่าเธอจะสัมผัสได้ถึงกระบวนการการวิวัฒนาการของเขาราวกับว่ามันเกิดขึ้นกับตัวเธอเอง ดังนั้นในตอนที่เธอวิวัฒนาการ เธอก็จะมีประสบการณ์ล่วงหน้า


 


เอ็กซ์ควิสิทสามารถฆ่าด้วงดาราระดับราชันได้อย่างง่ายดาย แต่ความจริงที่หานเซิ่นฆ่าด้วงดาราจำนวนมากโดยไม่พลาดเลยสักครั้งนั้น เอ็กซ์ควิสิทไม่สามารถทำแบบเดียวกันนั้นได้


 


เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อยู่ในหัวของหานเซิ่น และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอตกตะลึงมากที่สุด


 


การโจมตีด้วยนิ้วมือของหานเซิ่นเป็นอะไรที่ดูเรียบง่าย แต่ก่อนที่เขาจะทำการโจมตี เขาจะใช้ความสามารถในการพยากรณ์ เขาจะคำนวณทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นขณะที่ทำการโจมตีออกไป


 


แม้การโจมตีโดยตรงนั้นจะส่งผลได้หลายอย่างขึ้นอยู่กับความเร็วและพลังที่ใช้ ถ้าเอ็กซ์ควิสิทไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เธอก็คงจะไม่ได้คาดคิดว่ามันมีการคำนวณที่ซับซ้อนหลายอย่างเกิดขึ้นในจิตใจของเขา


 


“พรสวรรค์ของเขาน่ากลัวจริงๆ มันเป็นบางสิ่งที่ยากจะพบเห็น แม้แต่ในหมู่พวกเราที่มีเวรี่ไฮเซ้นส์ก็ทำอะไรแบบนี้ไม่ได้” อารมณ์ของเอ็กซ์ควิสิทเป็นอะไรที่ซับซ้อน


 


ยิ่งเธอศึกษาเกี่ยวกับหานเซิ่นมากเท่าไหร่ เธอก็เชื่อว่าเขาเป็นบุคคลที่น่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น


 


การได้สัมผัสจิตใจของหานเซิ่นทำให้เอ็กซ์ควิสิทได้เรียนรู้อะไรมากมาย แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกซับซ้อนยิ่งกว่าเดิมเมื่อเธอมองไปที่หานเซิ่น


 


เผ่าเวรี่ไฮนั้นค่อนข้างหลงตัวเอง และความรู้สึกก็จะแรงกล้าขึ้นในตอนที่พวกเขาปฏิบัติกับตัวไหมของตัวเอง คนที่เป็นเจ้านายมักจะทำตัวสูงส่ง แต่ในตอนนี้เอ็กซ์ควิสิทไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิดเดียว


 


ยิ่งเธอเรียนรู้เกี่ยวกับหานเซิ่นมากเท่าไร เธอก็ยิ่งคิดว่าหานเซิ่นน่ากลัวยิ่งกว่าเธอมากเท่านั้น


 


“ซีโน่เจเนอิคด้วงดาราระดับราชันถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงดารา”


 


หลังจากที่หานเซิ่นฆ่าด้วงดาราตัวที่หนึ่งร้อย เขาก็ได้รับวิญญาณอสูรมาหนึ่งดวง เขามองเข้าไปในจิตและสังเกตเห็นว่าวิญญาณอสูรของด้วงดารานั้นเป็นประเภทชุดเกราะ


 


ซึ่งหานเซิ่นไม่ได้ประหลาดใจอะไร เขาคาดเดาอยู่แล้วว่าด้วงดาราจะมอบวิญญาณอสูรประเภทชุดเกราะ


 


‘วิญญาณอสูรชุดเกราะนั้นไม่เลว ในตอนที่เราจะสร้างกองทัพของมนุษยชาติ วิญญาณอสูรแบบนี้จะมีประโยชน์อย่างมาก’ หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับกองทัพมนุษย์ในชุดเกราะวิญญาณอสูร มันเป็นภาพที่เขย่าขวัญ


 


‘มันจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม ถ้าเราได้วิญญาณอสูรของด้วงดาราระดับเทพเจ้ามา’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


แน่นอนว่าหานเซิ่นแค่ความคิดไปเรื่อย เขาไม่ได้คิดว่าจะต้องต่อสู้กับด้วงดาราระดับเทพเจ้าจริงๆ เพราะชายแก่บอกว่าไม่สามารถใช้สมบัติจีโนได้ ซึ่งเขายังไม่มีพลังเพียงพอที่จะฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าด้วยตัวเอง


 


หานเซิ่นบินไปรอบๆต้นไม้และค้นหาด้วงดาราเพิ่มอีก แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหึ่งดังเข้ามาในหู


 


เสียงนั้นดูเหมือนจะดังมาจากด้านบน หานเซิ่นเงยหน้าขึ้นไปและเห็นกลุ่มด้วงดารากำลังบินลงมาจากท้องฟ้า พวกมันกำลังลงมาที่ต้นไม้ดารา


 


จ่าฝูงของด้วงดารามีร่างกายที่ดูเหมือนกับหยกน้ำแข็ง พลังชีวิตที่น่ากลัวนั้นทำให้รู้ว่ามันเป็นด้วงดาราระดับเทพเจ้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)