Super God Gene 2565-2571

 ตอนที่ 2565 จระเข้ระดับพระเจ้า


 


หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทตกตะลึง ขณะที่พวกเธอมองดูดอลลาร์ฆ่าจระเข้ปีศาจตัวแล้วตัวเล่า พวกเธอก็เริ่มจะชินชากับมัน พวกเธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าดอลลาร์ทำแบบนั้นได้ยังไง


 


เขากำลังใช้วิชาเทเลพอร์ตของเวรี่ไฮเอาชนะสมาชิกของเวรี่ไฮ แม้แต่เอ็กซ์ควิสิทที่มักจะมีใบหน้าเย็นชาอยู่ตลอด เวลานี้ก็ยังดูตกใจ


 


ความจริงแล้วจระเข้ปีศาจ 2 ตัวสุดท้ายที่พบ เอ็กซ์ควิสิทได้ล้มเลิกความคิดที่พยายามแย่งพวกมันจากหานเซิ่น เธอหันไปจดจ่อกับการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นแทน เธออยากรู้ว่าเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วกว่าเธอได้ยังไง


 


เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกประหลาดใจเมื่อยืนยันได้ว่าก็อตส์วอนเดอร์ของหานเซิ่นเป็นแค่ขั้นต้นจริงๆ มันควรจะช้ากว่าเธอ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันไม่ช้าเลยสักนิดเดียว


 


ความจริงแล้วเขาดูเหมือนกำลังใช้ก็อตส์วอนเดอร์อย่างปกติโดยไม่มีลูกเล่นอะไร ซึ่งทำให้เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกแปลกใจ หลังจากที่เธอมองดูอยู่สักพัก ในที่สุดเอ็กซ์ควิสิทก็ค้นพบความจริง


 


“แรงโน้มถ่วงของดาวดวงดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบต่อเขา” ความสามารถในการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นไม่ได้รวดเร็วกว่าเธอ แต่เขาไม่ได้ถูกจำกัดการเคลื่อนไหวเหมือนกับเธอ หานเซิ่นสามารถใช้วิชาในการเทเลพอร์ตในความเร็วปกติ


 


การสันนิษฐานของเอ็กซ์ควิสิทนั้นถูกต้อง หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อหยุดฟันเฟืองจักรวาลของแรงโน้มถ่วง ซึ่งทำให้แรงโน้มถ่วงของดวงดาวไม่ส่งผลต่อเขา ขณะที่เอ็กซ์ควิสิทยังตกอยู่ภายใต้แรงโน้มถ่วงของมัน ด้วยเหตุนั้นเธอจึงเชื่องช้ากว่าหานเซิ่น


 


ศาสตร์ตงเสวียนนั้นคลายคลึงกับเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่พวกมันถูกพัฒนาในทิศทางที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์นั้นทำให้เวรี่ไฮเซ้นส์ขาดความสามารถนี้ไป


 


“พลังที่เมินเฉยต่อแรงโน้มถ่วงอย่างนั้นหรอ? นั่นเป็นอะไรที่น่าสนใจ”

เอ็กซ์ควิสิทพยักหน้า เผ่าเวรี่ไฮมีวิชาที่ส่งผลเหมือนกัน แต่เธอไม่ได้ฝึกพวกมัน ด้วยเหตุนั้นเธอจึงไม่ได้ประหลาดใจมากนัก


 


“ดูเหมือนว่าแรงโน้มถ่วงของดาวดวงนี้จะไม่มีผลกับเขา ข้าคงต้องรอจนกระทั่งจระเข้ระดับเทพเจ้าปรากฏตัวออกมา”

ยังไงซะเอ็กซ์ควิสิทก็ไม่ได้คาดคิดว่าแค่จระเข้ปีศาจระดับราชันจะทำให้หานเซิ่นแสดงพลังที่แท้จริงออกมา เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูหานเซิ่นสังหารจระเข้ปีศาจธรรมดา เธออยากจะเห็นเขาเผชิญหน้ากับจระเข้ระดับเทพเจ้า


 


ซีโน่เจเนอิคระดับราชันไม่ได้หาตัวได้ง่ายนัก แต่พวกเขาทั้ง 3 คนก็หาจระเข้ปีศาจระดับราชันได้หลายสิบตัวตั้งแต่มาที่นี่


 


เนื่องจากแรงโน้มถ่วงและอุณหภูมิที่น่ากลัวของดวงดาว ยอดฝีมือระดับราชันที่ไม่สามารถเทเลพอร์ตได้จะตกอยู่ในอันตรายเมื่อพวกเขามาที่นี่


 


หลังจากที่หานเซิ่นฆ่าจระเข้ปีศาจไป 7 ตัว การเดินทางอีกครึ่งวันของพวกเขาก็ไม่พบซีโน่เจเนอิคอีกเลย


 


“ดูเหมือนว่าจระเข้ปีศาจจะถูกพวกเรากำจัดไปจนหมดแล้ว มันยังมีสถานที่อื่นอีกไหมที่มีซีโน่เจเนอิคระดับราชัน?” หานเซิ่นถาม


 


“ไหนๆพวกเราก็มาที่นี่แล้ว พวกเราควรจะค้นหารอบดาวต่ออีกหน่อยเผื่อในกรณีที่พวกเรามองข้ามอะไรไป” เอ็กซ์ควิสิทพูด


 


หานเซิ่นเห็นด้วยกับเรื่องนั้น มันเป็นเรื่องยากที่จะหาซีโน่เจเนอิคระดับราชัน ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าไม่มีซีโน่เจเนอิคระดับราชันเหลืออยู่ที่นี่อีกแล้ว


 


พวกเขาค้นหารอบดวงดาวกันต่อ และหลังจากที่เดินทางไปอีกสักพัก พวกเขาก็พบกับจระเข้ปีศาจอีกตัว แต่ทว่าครั้งนี้หานเซิ่นไม่ได้เทเลพอร์ตเข้าไปโจมตีมันในทันที


 


เพราะยังไงซะหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็พาเขามาที่นี่ เขาจะรู้สึกแย่ถ้าเขาฆ่าพวกมันทั้งหมดคนเดียว ด้วยเหตุนั้นเขาจึงปล่อยจระเข้ปีศาจตัวนี้ให้กับพวกเธอ


 


เอ็กซ์ควิสิทดูเหมือนจะมองความใจกว้างของหานเซิ่นด้วยความดูถูก แต่ทว่าเมื่อหลี่เคอเอ๋อสังเกตว่าหานเซิ่นไม่เคลื่อนไหว เธอก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร เธอเทเลพอร์ตไปข้างหน้าเพื่อสังหารจระเข้ปีศาจโซ่


 


หลี่เคอเอ๋ออ่อนแอกว่าเอ็กซ์ควิสิท แต่การฆ่าจระเข้ปีศาจโซ่ระดับราชันนั้นก็เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเธอ


 


หลังจากที่ฆ่าจระเข้ปีศาจตัวนั้นไปแล้ว พวกเขาก็สังเกตได้ถึการเคลื่อนไหวตรงหน้า ดูเหมือนกับว่ามีบางสิ่งกำลังออกมาจากข้างล่างนั่น


 


“จระเข้ปีศาจอีกตัว?” หานเซิ่นมองไปทางนั้น หลังจากนั้นเขาก็เห็นจระเข้ปีศาจตัวหนึ่งปรากฏตัวออกมา


 


แต่จระเข้ปีศาจตัวนี้ดูแตกต่างไปจากจระเข้ปีศาจตัวอื่น มันดูคล้ายคลึงกับตัวอื่นๆ แต่จระเข้ปีศาจตัวนี้มีขนาดเล็กกว่าปกติ มันมีขนาดพอๆกับจระเข้ธรรมดาเท่านั้น และมันก็ไม่มีปีก


 


จระเข้ปีศาจตัวอื่นมีร่างกายโลหะสีแดง แต่ทว่าจระเข้ปีศาจตัวนี้เป็นสีดำสนิท ถ้าร่างกายของมันไม่ได้ปลดปล่อยแสงออกมาอย่างประหลาดล่ะก็ มันก็ดูเหมือนกับจระเข้ธรรมดาในแว็บแรก


 


หานเซิ่นหลี่ตาลงขณะที่สังเกตจระเข้ปีศาจ และคลื่นความตึงเครียดก็ซัดผ่านร่างกายของเขา เขาจะรู้สึกแบบนี้ก็ต่อเมื่อตกอยู่ในอันตราย


 


ขณะที่หานเซิ่นสังเกตจระเขี้ปีศาจตัวเล็กตัวนี้ เขาก็นึกถึงท่าทางของเจ้าเตาหลอมทองแดงขึ้นมาได้ เขาสามารถคาดเดาได้ว่าสิ่งมีชีวิตนี้คืออะไร


 


‘นึกว่าเตาหลอมทองแดงหวาดกลัวแรงโน้มถ่วงและความร้อน แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพราะมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ที่นี่อย่างนั้นสินะ?’

หานเซิ่นไม่ได้ตกใจกับเรื่องนี้ เขากลับดีใจแทน หานเซิ่นนั้นใกล้จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเก็บยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าสะสมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด


 


ถ้าเขากลายเป็นระดับเทพเจ้า เขาก็จะเข้ามาในคอร์แอเรียไม่ได้อีก ด้วยเหตุนั้นเขาต้องฆ่าคอร์ซีโน่เจเนอิคในขณะที่เขายังมีโอกาส


 


“ระวังตัว จระเข้ปีศาจตัวนี้เป็นระดับเทพเจ้า” หลี่เคอเอ๋อเตือนพวกเขา


 


เอ็กซ์ควิสิทไม่ได้พูดอะไร เธอสัมผัสได้ถึงตัวตนของจระเข้ตัวนี้นานแล้ว วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์นั้นเหนือกว่าศาสตร์ตงเสวียนในเรื่องนี้


 


ศาสตร์ตงเสวียนนั้นจะสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อยู่ในอาณาเขตของมันเท่านั้น ส่วนเวรี่ไฮเซ้นส์นั้นเกี่ยวกับที่ท้องฟ้าและผู้ฝึกกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อเอ็กซ์ควิสิทมายืนอยู่บนดวงดาว เธอก็เห็นทุกสิ่งบนดวงดาวนี้ได้อย่างชัดเจน เธอไม่จำเป็นต้องใช้อาณาเขตเพื่อค้นพบสิ่งที่อยู่รอบๆตัว


 


และวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ของเธอยังถือว่าอยู่ในขั้นต่ำ ถ้าเธอฝึกถึงระดับที่สูงที่สุด เธอก็จะเห็นและสัมผัสได้ถึงสิ่งต่างๆทั่วทั้งจักรวาล


 


แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ทฤษฎีเวอร์ชั่นสมบูรณ์ของวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์เท่านั้น มันยังไม่มีใครในเวรี่ไฮที่ฝึกจนเชี่ยวชาญถึงขั้นนั้น


 


วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์มุ่งเน้นไปที่สัมผัสของผู้ฝึก ความสามารถในการสัมผัสสิ่งต่างๆของมันเหนือกว่าศาสตร์ตงเสวียน แต่ความสามารถในการควบคุมของมันด้อยกว่าศาสตร์ตงเสวียน ทั้ง 2 วิชามีข้อดีข้อเสียของตัวเอง


 


หานเซิ่นสังเกตจระเข้ระดับเทพเจ้า ดวงตาของมันดูเหมือนสิงโตขณะที่มันจ้องมองมาที่พวกเขา


 


มันอาจจะเป็นเพราะรูปร่างใบหน้าของจระเข้ แต่จระเข้ระดับเทพเจ้านั้นดูเหมือนกับว่ากำลังมองหานเซิ่นและคนอื่นๆด้วยความดูถูก และมันก็ดูเหมือนกับว่าไม่ได้สนใจอะไรในการมีอยู่ของพวกเขา


 


ในจังหวะที่หานเซิ่นกำลังจะเคลื่อนไหว จระเข้ระดับเทพเจ้าก็ปลดปล่อยแสงสีดำออกมา แสงนั้นเหมือนกับหลุมดำที่ดูดกลืนทั้งดวงดาว


 


หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจมน้ำ เขาร่วงลงกับพื้นผิวของดวงดาวด้วยแขนขาที่ยื่นออก


 


หานเซิ่นไม่ใช่แค่คนเดียวที่ร่วงลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทเองก็ร่วงลงมาเช่นกัน พวกเธอไม่ได้ดูเหมือนกับผู้หญิงที่สง่างามอีกต่อไป


 


หานเซิ่นรวบรวมพลังทั้งหมดและพยายามจะยืนขึ้น แต่เขารู้สึกราวกับว่ากำลังถูกดูดด้วยแม่เหล็กที่รุนแรง เขาไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ เขาไม่สามารถยกหัวขึ้นมาจากพื้นได้ด้วยซ้ำ


 


หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน พวกเธอไม่สามารถลุกขึ้นมาได้


 


พวกเขาทั้ง 3 คนนอนกางแขนขาออกอยู่บนพื้น และพวกเขาทั้งหมดได้แต่มองไปทางจระเข้ตัวเล็กที่กำลังเข้ามาหาพวกเขา

 

 

 


ตอนที่ 2566

 

หานเซิ่นกัดฟันขณะที่พยายามลุกขึ้นมา เขาใช้พลังทั้งหมดเพื่อทำแบบนั้น และนั่นรวมถึงการเปิดใช้อาณาเขตตงเสวียนขั้นที่ 9 แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของเขาก็ยังคงถูกกดติดกับพื้น


 


ซึ่งทั้งหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทเองก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้เช่นกัน ใบหน้าของพวกเธอดูมืดมน ครั้งนี้พวกเธอไม่ได้กำลังเล่นละคร สถานการณ์ตอนนี้อยู่เหนือการควบคุมของพวกเธอ


 


มันมีอุบัติเหตุมากมายในชีวิต และตอนนี้หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทกำลังประสบกับอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง แถมมันยังเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงอีกด้วย


 


พวกเธอเคยเห็นจระเข้ระดับเทพเจ้ามาก่อนเมื่อไม่นานมาแล้ว พวกเธอรู้ว่าจระเข้ระดับเทพเจ้านั้นแข็งแกร่งถึงขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็ยังมั่นใจว่าตัวเองมีพลังเพียงพอถ้าต้องต่อสู้กับมัน


 


ผู้คนอาจจะวางแผนได้ แต่พวกเขาไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ที่ออกมาไว้ คนของเวรี่ไฮนั้นไม่ใช่เทพ มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเห็นและรู้ทุกอย่าง พวกเขาไม่ได้รู้ว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวนี้จะแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น


 


ระดับเทพเจ้ามีขั้นการเจริญเติบโต 5 ขั้นด้วยกัน พริมิทีฟ, ทรานส์มิวเทชั่น, ลาร์วา, บัตเตอร์ฟลายและทรูก็อต


 


ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าทั่วไปในคอร์แอเรียจะอยู่ในขั้นพริมิทีฟ พวกมันจะติดอยู่ที่ขั้นพริมิทีฟไปตลอดการ ทุกคนเชื่อว่าพวกมันถูกจำกัดและไม่สามารถเจริญเติบโตเหนือขั้นนั้นได้


 


ถึงแม้มันจะมีซีโน่เจเนอิคที่แข็งแกร่งอย่างขุนพลเกราะทองที่ถือว่าเป็นขั้นพริมิทีฟชั้นสูง แต่พวกมันก็ยังด้อยกว่าสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าของโลกภายนอก


 


ในตอนที่พวกเธอเห็นจระเข้ระดับเทพเจ้า พวกเธอคิดว่ามันแข็งแกร่งพอๆกับขุนพลเกราะทอง มันมีร่างกายที่แข็งแกร่งและอาณาเขตของมันก็ประกอบไปด้วยโซ่ที่ใช้ในการจำกัดการเคลื่อนไหวของศัตรู


 


แต่มันก็แค่นั้น นั่นทำให้เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อไม่หวาดกลัวอะไร ก็อตส์วอนเดอร์ของพวกเธอสามารถผ่าอวกาศและหนีจากโซ่ของจระเข้ระดับเทพเจ้าได้ ครั้งก่อนที่พวกเธอมาที่นี่ พวกเธอก็ใช้วิธีการนี้เพื่อหนีออกไป


 


แต่ครั้งนี้มีบางสิ่งที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น จระเข้ระดับเทพเจ้านั้นแตกต่างไปจากเดิม มันคงจะเลื่อนขั้นได้สำเร็จ ซึ่งนั่นควรจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าในคอร์แอเรีย


 


พวกเธอไม่รู้ว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าเป็นขั้นทรานส์มิวเทชั่นหรือขั้นลาร์วากันแน่ พลังของจระเข้ระดับเทพเจ้านั้นอยู่เหนือสิ่งที่พวกเธอเข้าใจ


 


แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้คือการที่จระเข้ระดับเทพเจ้าเลื่อนขั้น ความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นภายในโซ่สสารของมัน โซ่สสารที่เหมือนกับแรงโน้มถ่วงดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่ออวกาศ อวกาศนั้นแตกร้าวภายใต้พลังของมัน ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถเทเลพอร์ตหนีไปได้


 


หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทพยายามใช้วิชาจีโนทุกอย่างเพื่อจะหนีไป พวกเธอใช้วิชามากยิ่งกว่าหานเซิ่น แต่ภายใต้พลังแรงโน้มถ่วงของจระเข้ระดับเทพเจ้า มันก็ไม่มีวิชาไหนที่ได้ผล


 


“พวกเราจะทำยังไงกันดี?” หลี่เคอเอ๋อถามเอ็กซ์ควิสิทด้วยเสียงสั่นๆ


 


เอ็กซ์ควิสิทสามารถสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้ เธอมองไปที่จระเข้ระดับเทพเจ้าและพูด

“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้จระเข้ระดับเทพเจ้าเลื่อนขั้นได้สำเร็จ แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะเลื่อนเกินไปกว่าขั้นทรานส์มิวเทชั่น พวกเรามีเวรี่ไฮสเปลล์อยู่ และถ้าพวกเราใช้พลังทั้งหมด พวกเราก็อาจจะหนีไปจากที่นี่ได้”


 


เมื่อได้ยินเอ็กซ์ควิสิทพูดแบบนั้น หลี่เคอเอ๋อก็รู้สึกปลอดภัยขึ้น แต่เธอถามต่อไปว่า “แล้วดอลลาร์ล่ะ?”


 


หานเซิ่นอยู่ไกลจากพวกเธอ ภายใต้พลังที่น่ากลัวของแรงโน้มถ่วง พวกเธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ในตอนที่พวกเธอใช้พลัง พวกเธอจะหนีจากกับดักของจระเข้ระดับเทพเจ้าไปในเส้นตรง ก็อตส์วอนเดอร์นั้นจะช่วยให้พวกเธอหนีไปได้ แต่พวกเธอไม่คิดว่าจะสามารถช่วยหานเซิ่นได้


 


“พวกเราจะพยายามช่วยเขา แต่ถ้าพวกเราช่วยเขาไม่ได้ อย่างนั้นเจ้าก็ต้องหาคนใหม่”

เอ็กซ์ควิสิทพูด มันเหมือนกับว่าชีวิตของหานเซิ่นไม่ได้มีความหมายอะไรในสายตาเธอ เขาเป็นเหมือนกับแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่ง ถึงจะถูกฉีกขาด มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร


 


สมาชิกของเวรี่ไฮนนั้นไม่มีอารมณ์ความรู้สึก พวกเขาไม่ได้เกิดมาเป็นแบบนั้น แต่ยิ่งพวกเขาฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์มากเท่าไหร่ พวกเขาก็สนใจเกี่ยวกับคนอื่นน้อยลงเท่านั้น


 


ความรักไม่จำเป็นต้องถูกแสดง สำหรับเวรี่ไฮความรักไม่ได้มีความหมายอะไร นอกจากนั้นดอลลาร์ก็เป็นแค่ตัวไหม ตัวไหมที่พวกเธอเลือกไม่ได้สำคัญมากไปกว่าหนูทดลองตัวหนึ่ง เวรี่ไฮนั้นจะเลี้ยงดูตัวไหมและมองดูพวกเขาเติบโตจนกระทั่งพวกเขากลายเป็นระดับเทพเจ้า หลังจากนั้นเวรี่ไฮก็จะยังคงเลี้ยงดูตัวไหมจนพวกเขาผ่านขั้นพริมิทีฟ ทรานส์มิวเทชั่น ลาร์วา บัตเตอร์ปลายและทรูก็อต สมาชิกของเวรี่ไฮจะเรียนรู้ผ่านกระบวนการพวกนี้และได้ประสบการณ์ว่าการกลายเป็นระดับเทพเจ้านั้นเป็นยังไง ด้วยประสบการณ์ที่ได้รับ พวกเขาก็จะมีรากฐานที่ดีสำหรับกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต


 


ในตอนที่สมาชิกของเวรี่ไฮเริ่มเดินตามเส้นทางแห่งการวิวัฒนาการ กระบวนการนั้นจะเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่นมากยิ่งขึ้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องผ่านประสบการณ์ความผิดพลาดอันโชคร้าย


 


ผู้คนในจักรวาลจะภาคภูมิที่ได้รับเลือกโดยเผ่าเวรี่ไฮ พวกเขาคิดว่าจะได้ใช้ประโยชน์จากเผ่าเวรี่ไฮ เพราะพวกเขาได้เรียนรู้วิชาจีโนและได้รับทรัพยากรอีกมากมาย ตัวไหมจะถูกเลี้ยงดูเป็นอย่างดี


 


เผ่าเวรี่ไฮมอบอะไรต่างๆนาๆให้กับตัวไหมมากมายจนอาจจะดูเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ต้องการอะไรเป็นการแลกเปลี่ยน มันไม่มีใครรู้ว่าสมาชิกเผ่าพันธุ์ชั้นสูงมากมายเท่าไหร่ที่ถูกเลือกโดยเผ่าเวรี่ไฮและถูกพัฒนาภายใต้การเลี้ยงดูจากเผ่าพันธุ์ที่ทรงอำนาจที่สุด


 


ด้วยเหตุนั้นทั้งๆที่เผ่าเวรี่ไฮไม่ได้ต่อสู้กับเผ่าอื่น แต่ชื่อเสียงของพวกเขากลับเหนือกว่าเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกนับถือทั่วทั้งจักรวาล


 


แม้แต่องค์ชายและองค์หญิงของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังรู้สึกภูมิใจที่ถูกเลือกไปเลี้ยงดูโดยเผ่าเวรี่ไฮ นักสู้จากเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำจะยิ่งกว่าดีใจถ้าพวกเขาถูกเลือก ถ้าใครคนหนึ่งจากเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำถูกเลือกโดยสมาชิกของเวรี่ไฮ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะได้กลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเป็นอย่างน้อย เมื่อถึงตอนนั้นเผ่าพันธุ์ของพวกเขาก็จะเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ชั้นสูง


 


ถึงแม้อัจฉริยะมากมายจะคาดเดาได้ว่าเผ่าเวรี่ไฮทำแบบนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง แต่แล้วมันจะยังไง? ผู้คนมากมายต่างก็ยินดีจะเป็นหนูทดลองของเผ่าเวรี่ไฮเพื่อจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า


 


ด้วยเหตุนั้นผู้คนที่เห็นการอวยพรของหานเซิ่นจึงเป็นบ้า แต่การอวยพรของหานเซิ่นสามารถผลักดันพวกเขาไปสู่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น ขณะที่เผ่าเวรี่ไฮสามารถช่วยให้พวกเขาไปได้ไกลกว่านั้น หลายคนกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายภายใต้การเลี้ยงดูของสมาชิกของเวรี่ไฮ


 


พวกเขาไม่รังเกียจที่จะต้องเป็นหนูทดสองเพื่อโอกาสแบบนี้ แต่เผ่าเวรี่ไฮไม่เคยขออะไร


 


ความจริงแล้วการเป็นหนูทดลองของเผ่าเวรี่ไฮไม่ได้เลวร้ายเลยสักนิดเดียว พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์มากมาย ถ้าหลี่เคอเอ๋ออธิบายทั้งหมดนี้ให้กับหานเซิ่น เขาก็อาจจะตอบตกลง


 


แต่หลี่เคอเอ๋อต้องการจะครองหัวใจของหานเซิ่นซะก่อน แต่จนถึงตอนนี้ความพยายามของเธอกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า


 


ขณะที่จระเข้ระดับเทพเจ้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เอ็กซ์ควิสิทก็พูดขึ้นมา

“พวกเราต้องหนีไปจากที่นี่ก่อนที่มันจะสายเกินไป”


 


ขณะที่เธอพูด ร่างกายของเอ็กซ์ควิสิทก็ส่องสว่างออกมา สัญลักษณ์ประหลาดปรากฏขึ้นทั่วผิวของเธอ ในตอนนี้มันเหมือนกับว่ามีตัวโน้ตมากมายปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของเธอ


 


นี่คือเวรี่ไฮสเปลล์ของเผ่าเวรี่ไฮ ยอดฝีมือของเผ่าเวรี่ไฮได้วางมนตร์คาถาเอาไว้บนร่างกายของพวกเธอ เมื่อพวกเธอใช้งานพวกมัน พวกเธอก็จะได้รับพลังระดับเทพเจ้ามาชั่วคราว พวกเธอแค่ต้องหาโอกาสใช้ก็อตส์วอนเดอร์สักครั้งเพื่อเทเลพอร์ตหนีไป

 

 

 


ตอนที่ 2567

 

ตูม!


 


เวรี่ไฮสเปลล์ลึกลับทำลายพลังแรงโน้มถ่วงของจระเข้ระดับเทพเจ้า และร่างกายของเอ็กซ์ควิสิทก็แว็บหายไป


 


หานเซิ่นตกใจกับเรื่องนั้น จู่ๆเอ็กซ์ควิสิทก็ระเบิดพลังระดับเทพเจ้าออกมา เขาไม่รู้เลยว่าเธอทำแบบนั้นได้ยังไง


 


“เราจะหนีไปได้ยังไง?” แต่หานเซิ่นไม่มีเวลามามัวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ การพาตัวเองหนีไปถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า


 


แต่พลังของจระเข้ระดับเทพเจ้าตัวนี้อยู่เหนือจินตนาการของเขา เขาไม่คิดว่าตัวเองมีพลังพอที่จะต่อสู้กับบางสิ่งที่น่ากลัวขนาดนั้น


 


ปัง!


 


ขณะที่หานเซิ่นยังคงคิดหาวิธีที่จะหนีไป เขาก็ได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่ง เอ็กซ์ควิสิททได้ใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นเพื่อจะหนีไป แต่เธอหลุดออกมาและตกลงบนดวงดาว เธอกระอักเลือดออกมาและใบหน้าของเธอก็ไม่ได้ดูไร้ความรู้สึกอีกต่อไป มันดูเหมือนกับว่าเธอกำลังเข้าตาจน


 


หานเซิ่นอึ้งไป “เอ็กซ์ควิสิทใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทำไมยังกลับมาที่นี่อีก? นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว”


 


“พี่สาม” หลี่เคอเอ๋อพูดอย่างลังเล เธอตกใจที่เห็นเอ็กซ์ควิสิทอยู่ในสภาพแบบนั้น “พี่สาม เกิดอะไรขึ้น?”


 


เอ็กซ์ควิสิทไม่สามารถพูดได้ เลือดยังคงไหลออกมาจากปากของเธอ เธอได้ใช้เวรี่ไฮสเปลล์เพื่อทำลายพลังของแรงโน้มถ่วงและหนีไป เธอเดินทางออกไปไกลจากดวงดาว แต่เมื่อเวรี่ไฮสเปลล์หมดพลัง พลังที่น่ากลัวของจระเข้ระดับเทพเจ้าก็ดึงเธอกลับลงมา


 


มันเหมือนกับยางยืด ยิ่งเธอออกไปไกลมากเท่าไหร่ แรงที่จะดึงเธอกลับมาก็มากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้อวัยวะภายในส่วนใหญ่ของเธอได้รับความเสียหาย นี่อาจจะไม่ทำให้เธอถึงตาย แต่ด้วยแรงกดดันของแรงโน้มถ่วง ความเจ็บปวดที่เธอได้รับก็แสนทรมาน


 


ถ้าเธอเผชิญหน้ากับระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟล่ะก็ เธอก็จะสามารถจัดการกับเรื่องทั้งหมดนี่ได้ เพราะยังไงซะเอ็กซ์ควิสิทก็เป็นราชันขั้น 9 ที่มีวิชาจีโนของเวรี่ไฮ แต่ต่อหน้าจระเข้ระดับเทพเจ้า แม้แต่สมาชิกของเผ่าเวรี่ไฮก็ยากจะรอดชีวิตไปได้โดยปราศจากเวรี่ไฮสเปลล์ ความต่างระหว่างระดับพลังนั้นมีมากเกินไป


 


หลังจากที่ได้เห็นสภาพของเอ็กซ์ควิสิท หลี่เคอเอ๋อก็ลังเลที่จะใช้เวรี่ไฮสเปลล์ หลี่เคอเอ๋อทำได้แค่มองไปที่เอ็กซ์ควิสิทโดยหวังว่าเธอจะฟื้นตัวโดยเร็ว


 


ในจังหวะนั้นจระเข้ระดับเทพเจ้าอยู่ห่างจากพวกเขาแค่สิบเมตรเท่านั้น ดวงตาที่มีขนาดเล็กของมันจ้องมองมาที่พวกเขาราวกับว่ามันกำลังล้อเล่น


 


จระเข้ระดับเทพเจ้ามองพวกเขาอยู่สักพัก แต่ความสนใจของมันอยู่ที่เอ็กซ์ควิสิทซะส่วนใหญ่ มันค่อยๆคลืบคลานไปหาเธอ


 


หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าจะหนีไปได้ไหม ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้คิดเกี่ยวกับการช่วยเอ็กซ์ควิสิท


 


แต่หลี่เคอเอ๋อได้สอนวิชากาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นให้กับเขา เขาจึงไม่คิดจะมองดูเธอถูกฆ่าตาย ดังนั้นในตอนที่ที่จระเข้ระดับเทพเจ้าจดจ่ออยู่กับเอ็กซ์ควิสิท เขาก็จะหาโอกาสพาหลี่เคอเอ๋อหนีไป


 


ขณะที่หานเซิ่นยังคงลังเล จระเข้ระดับเทพเจ้าก็กระทืบพื้นและทำให้พื้นสั่นสะเทือน พวกเขาทั้ง 3 เด้งขึ้นจากพื้น เอ็กซ์ควิสิทอยู่ใกล้กับจระเข้ระดับเทพเจ้ามากที่สุด ดังนั้นเธอจึงเด้งสูงที่สุด


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าสะบัดหางและฟาดเอ็กซ์ควิสิทกระเด็นออกไป


 


หานเซิ่นร่วงกลับลงมาบนพื้น เขามองดูเอ็กซ์ควิสิทกระเด็นผ่านอากาศไป การฟาดหางของจระเข้ระดับเทพเจ้านั้นไม่ได้รุนแรงอย่างที่เขาคิดเอาไว้ เมื่อเธอตกลงมาบนพื้น หานเซิ่นก็เห็นว่าเธอยังมีชีวิตอยู่


 


ขณะที่หานเซิ่นไม่แน่ใจว่าควรจะทำยังไงดี จระเข้ระดับเทพเจ้าก็กระทืบพื้นและฟาดหางอีก 2 ครั้ง หานเซิ่นและหลี่เคอเอ๋อถูกส่งกระเด็นออกไปเช่นเดียวกัน


 


หางของจระเข้ระดับเทพเจ้านั้นทรงพลังมาก แต่มันควบคุมพลังของตัวเองได้เป็นอย่างดี หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกถึงแรงที่มันใช้ฟาดใส่ร่างกายของเขามากนัก มันเหมือนกับว่าเขาแค่ถูกโยนออกไป เขาร่วงลงบนพื้นถัดไปจากเอ็กซ์ควิสิท หลี่เคอเอ๋อก็ร่วงลงมาบนพื้นข้างๆพวกเขาเช่นกัน


 


ที่น่าแปลกที่สุดก็คือที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ดูเหมือนกับส่วนอื่นของดวงดาว แต่แรงโน้มของที่นี่นั้นเบาบางลง


 


มันไม่ใช่แค่แรงโน้มถ่วงของจระเข้ระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่หายไป แม้แต่แรงโน้มถ่วงตามธรรมชาติของดวงดาวก็หายไปด้วยเช่นกัน


 


หานเซิ่นและหลี่เคอเอ๋อลุกขึ้นมา พวกเขามองไปรอบๆและสังเกตเห็นว่าพื้นที่พวกเขายืนอยู่นั้นเปลี่ยนจากสีแดงเข้มเป็นสีดำ และมันก็มีรูๆหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา


 


“นี่เป็นถ้ำของจระเข้ระดับเทพเจ้าอย่างนั้นหรอ? ทำไมมันถึงส่งพวกเรามาที่นี่? นี่มันจะเก็บพวกเราเอาไว้ในฐานะของหวานอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัยกับตัวเอง


 


“พี่สาม พี่เป็นอะไรไหม?” หลี่เคอเอ๋อพยุงเอ็กซ์ควิสิทที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นมา


 


เอ็กซ์ควิสิทส่ายหัว “มันเป็นแค่อวัยวะภายในเท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย ข้าไม่เป็นอะไร อย่าเพิ่งใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นในตอนนี้ อาณาเขตแรงโน้มถ่วงของจระเข้ระดับเทพเจ้านั้นทรงพลังเกินไป ถึงแม้พวกเราจะเทเลพอร์ตหนีไปได้ แต่พลังของมันก็จะดึงพวกเรากลับลงมา”


 


หานเซิ่นเห็นด้วยกับเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่คิดจะเทเลพอร์ตหนีไป แถมเขายังฝึกวิชาเทเลพอร์ตได้ไม่นาน เขายังไม่สามารถเทเลพอร์ตในระยะไกลได้


 


ถ้าแม้แต่เอ็กซ์ควิสิทยังเทเลพอร์ตหนีไปไม่ได้ เขาเองก็ไม่สามารถเทเลพอร์ตหนีไปได้เช่นกัน


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าแกว่งหางไปมาเพื่อข่มขู่ แต่หานเซิ่นไม่ได้หวาดกลัวจนเกินไป เพราะถ้าจระเข้ระดับเทพเจ้าต้องการจะฆ่าพวกเขา มันก็คงจะทำไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่มันต้องส่งพวกเขามาที่นี่


 


ขณะที่หานเซิ่นพยายามคาดเดาว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าต้องการจะทำอะไร จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงบางสิ่งคืบคลานออกมาจากภายในถ้ำ เขาหันไปมองและคิดกับตัวเอง ‘นี่มันมีจระเข้ระดับเทพเจ้ามากกว่าหนึ่งตัวอย่างนั้นหรอ?’


 


เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อเองก็ได้ยินเสียงนั้นเช่นเดียวกัน พวกเธอหันมองไปที่ปากถ้ำและเห็นจระเข้อีกตัวกำลังคืบคลานออกมา


 


จระเข้ตัวนี้มีขนาดเล็กยิ่งกว่าซะอีก มันยาวไม่ถึงหนึ่งฟุต ร่างกายของมันดำสนิทและเกล็ดของมันแน่นมากๆ เนื่องจากความตัวเล็กของมัน มันจึงไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิดเดียว จริงๆแล้วมันดูค่อนข้างน่ารัก มันดูเหมือนกับตุ๊กตาโลหะ


 


แต่ดวงตาของมันมองมาที่พวกเขาด้วยความดูถูกเหมือนอย่างจระเข้ระดับเทพเจ้า ดวงตาของมันตัดกับร่างกายที่น่ารักของมันโดยสิ้นเชิง


 


“นี่คือลูกของจระเข้ระดับเทพเจ้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่จระเข้ตัวน้อยด้วยความแปลกใจ มันไม่ใช่แค่ตัวเล็ก มันยังดูอ่อนวัย มันดูเหมือนกับเด็กที่เพิ่งเกิดขึ้นมา


 


เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อดูประหลาดใจมาก เท่าที่พวกเขารู้ซีโน่เจเนอิคในคอร์แอเรียนั้นน้อยตัวนักที่จะให้กำเนิดลูก แต่จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวนี้ให้กำเนิดทายาทของมันในที่แห่งนี้ มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ยากภายในคอร์แอเรีย


 


ท่ามกลางความสับสนของพวกเขา จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวน้อยก็มองเห็นพวกเขา ความตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมันเหมือนกับสีหน้าของมนุษย์


 


ตูม!


จระเข้น้อยตื่นเต้นมากจนร่างกายเริ่มจะส่องแสงสีดำออกมา หานเซิ่นและคนอื่นๆถูกปกคลุมอยู่ในแสงนั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็ล้มลงไปอีกครั้ง พวกเขาถูกกดลงไปกับพื้น


 


“นี่มันเป็นไปได้ยังไง…ระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิด…”

เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อตกตะลึง พวกเขามองไปที่ซีโน่เจเนอิคตัวน้อยอย่างไม่อยากจะเชื่อ


ตอนที่ 2568 จระเข้อีกตัว


 


ในจักรวาลภายนอกคอร์แอเรีย ทายาทของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าจะมียีนที่ดีกว่ามาตรฐาน พวกเขาจะมีศักยภาพที่สูง แต่ในตอนที่พวกเขากำเนิด พวกเขาจะไม่ได้แตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตทั่วๆไป พวกเขายังคงต้องฝึกฝนเพื่อเพิ่มระดับขึ้น


 


มันเหมือนกับคางคกหยกที่อาศัยอยู่ในแนร์โรว์มูน ลูกของมันเริ่มต้นจากซีโน่เจเนอิคระดับต่ำที่สุด และพวกมันจะค่อยๆเพิ่มระดับขึ้นตามกาลเวลา แต่พวกมันส่วนใหญ่จะไปไม่ถึงระดับเทพเจ้า ซึ่งระดับที่พวกมันจะไปถึงนั้นขึ้นอยู่กับทรัพยากรที่พวกมันได้รับซะส่วนใหญ่


 


แน่นอนว่ามีบางสิ่งมีชีวิตที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิด แต่นั่นถือเป็นส่วนน้อย เผ่าพันธุ์ชั้นสูงอันดับที่ 2 อย่างแอนเชี่ยนท์ก็อตก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟตั้งแต่กำเนิด และพวกเขาก็สามารถเริ่มฝึกฝนจากระดับนั้น พวกเขาส่วนใหญ่สามารถเลื่อนสู่ขั้นบัตเตอร์ฟลายได้สำเร็จ และบางคนนั้นไปถึงระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตที่ทรงเกียรติ


 


ในตอนที่หานเซิ่นเห็นแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อต เขาเป็นขั้นทรูก็อต แอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตออริจินนั้นยังคงอยู่ในการครอบครองของหานเซิ่น ดังนั้นถ้ามันมีแอนเชี่ยนท์ก็อตคนใหม่กำเนิดขึ้นมา เขาก็จะเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น


 


แต่กรณีแบบนั้นถือว่าหาได้ยากมากๆ และยิ่งไปกว่านั้นนี้ยังเป็นภายในคอร์แอเรีย มันยากที่จะให้กำเนิดลูกได้ และโอกาสที่ลูกจะเป็นระดับเทพเจ้านั้นก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่


 


โดยปกติแล้วสิ่งมีชีวิตที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดนั้นจะเติบโตขึ้นอย่างมาก ถ้าพวกเขามีทรัพยากรที่เพียงพอ พวกเขาจะกลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายหรือไปถึงขั้นทรูก็อตได้เลย


 


เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อสังเกตจระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดเป็นที่ต้องการในฐานะตัวไหม พวกมันถือเป็นที่สุดของที่สุด


 


ถ้าพวกมันเป็นระดับเทพเจ้าเรียบร้อยแล้ว พวกมันก็ไม่มีความจำเป็นต้องเจริญเติบโต แถมพวกมันยังมีพรสวรรค์ที่สุดยอด มันมีโอกาสสูงที่พวกมันจะไปถึงขั้นบัตเตอร์ฟลายได้ และถ้าโชคดีพวกมันก็จะไปถึงขั้นทรูก็อตได้เลย


 


เป้าหมายของหลี่เคอเอ๋อคือขั้นบันเตอร์ฟลาย เธอต้องการตัวไหมที่จะไปถึงขั้นบัตเตอร์ฟลายได้


 


เผ่าแอนเชี่นนท์ก็อตนั้นไม่สนใจจะไปเป็นตัวไหมของเผ่าเวรี่ไฮ ไม่อย่างนั้นสมาชิกทุกคนของเผ่าเวรี่ไฮก็คงจะต่อสู้กันเพื่อแย่งยิงแอนเชี่ยนท์ก็อตมาเป็นตัวไหมของตัวเอง ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมีแอนเชี่ยนท์ก็อตไม่กี่คนเท่านั้นที่ยอมมาเป็นตัวไหมของเวรี่ไฮ


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวน้อยตัวนั้นต้องแข็งแกร่งทัดเทียมกับแอนเชี่ยนท์ก็อตแน่ เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อรู้สึกต้องการมัน


 


แต่พวกเธอรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมารับมันไปในฐานะตัวไหม เพราะชีวิตของพวกเธอตกอยู่ในกำมือของมัน


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวน้อยวิ่งมาต่อหน้าหานเซิ่นและคนอื่นๆ มันจ้องมองพวกเขาทั้ง 3 คนด้วยความอยากรู้อยากเห็น


 


แต่ดวงตาของมันเล็กมากๆ ไม่ว่าหานเซิ่นจะดูยังไง พวกมันก็ดูกระจิ้ดริด


 


ตอนนี้หานเซิ่นรู้แล้วว่าตัดสินจระเข้ระดับเทพเจ้าผิดไป มันไม่ได้มองพวกเขาอย่างดูถูก แต่ดวงตาของพวกมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่คลานเข้ามาและส่งเสียงเรียกจระเข้น้อย หลังจากนั้นแสงสีดำของจระเข้น้อยก็จางหายไปพร้อมกับแรงกดดัน ทำให้พวกเขาลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง


 


พวกเขาไม่รู้ว่าจระเข้ระดับเทพเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่เรื่องหนึ่งที่แน่ใจคือจระเข้ระดับเทพเจ้าไม่ได้คิดจะฆ่าพวกเขา


 


เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อเก่งเรื่องการสัมผัสสิ่งต่างๆ พวกเธอสัมผัสได้ว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าไม่ได้มีจิตมุ่งร้ายอะไรต่อพวกเธอ


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่เดินไปที่รูขณะที่จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยปีนขึ้นไปบนหลังของจระเข้ตัวใหญ่ มันหันกลับมาและส่งเสียงให้กับหานเซิ่นและคนอื่นๆ


 


เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อเก่งเรื่องการสัมผัสสิ่งต่าง ดังนั้นพวกเธอจึงรู้ในทันทีว่ามันหมายถึงอะไร ความสามารถในการสัมผัสของหานเซิ่นด้อยกว่าพวกเธอ แต่เขาก็พอจะคาดเดาได้ว่ามันต้องการให้พวกเขาตามเข้าไป


 


พวกเขาทั้ง 3 คนมองหน้ากัน หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในรู หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทไม่สามารถหนีไปได้ ส่วนหานเซิ่นก็อยากจะรู้ว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าต้องการจะทำอะไรกันแน่


 


หานเซิ่นเห็นว่ารูนั้นไม่ได้ใหญ่อะไร ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่คิดว่ามันจะลึกอะไรมาก เมื่อเขาเข้าไปข้างใน เขาก็รู้สึกตัวว่าคิดผิดอย่างมหันต์ รูนั้นไร้ซึ่งก้นบึ้งและดูเหมือนจะตรงไปถึงแกนกลางของดวงดาว


 


พวกเขาทั้ง 3 คนตามจระเข้ไปเรื่อยๆ พวกเขาไม่รู้ว่าลงมาลึกมากแค่ไหน แต่พวกเขาพบว่าตัวเองอยู่ใกล้กับแกนกลางของดวงดาวที่ดูเหมือนกับทะเลลาวา


 


ความจริงแล้วของเหลวสีแดงนั้นหนาและเข้มยิ่งกว่าลาวา มันเหมือนกับไฮโดรเจนที่ถูกเผาในดวงอาทิตย์


 


“นี่คงจะเป็นแกนกลางของดาวดวงนี้ จระเข้ระดับเทพเจ้าคงจะอาศัยอยู่ที่นี่”

เอ็กซ์ควิสิทขมวดคิ้ว เธอสังเกตเห็นที่แห่งนี้ตั้งแต่ที่เธอใช้เวรี่ไฮเซ้นส์สแกนดวงดาว แต่ทั้งหมดที่เธอรู้คือเรื่องที่ทะเลลาวาแกนกลางของดวงดาวนั้นดูเหมือนจะกำลังอยู่ระหว่างการหลอมนิวเคลียส เธอไม่ได้รู้สึกตัวว่ามีจระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยอาศัยอยู่ที่นี่


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่กระโดดลงไปในทะเลลาวา มันค่อยๆว่ายออกไปราวกับว่าความร้อนที่น่ากลัวของแกนกลางดวงดาวไม่ได้ต่างจากน้ำพุร้อนธรรมดาๆ


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยส่งเสียงมาทางพวกหานเซิ่น มันบอกให้พวกเขาตามมันไป


 


“เทพจระเข้ ร่างกายของพวกเจ้าอาจจะทนต่อความร้อนได้ แต่ร่างกายของพวกเราทนไม่ได้” หานเซิ่นพูด


 


เพียงแค่ยืนข้างทะเลลาวา มันก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าชุดเกราะตงเสวียนกำลังละลาย มันไม่สามารถทนได้อย่างแน่นอนถ้าเขาลงไปในลาวาสีแดงเข้มนั่น


 


ร่างกายของจระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่ส่องแสงสีดำออกมาห่อหุ้มหานเซิ่นและคนอื่น ทำให้พวกเขาไม่ได้รู้สึกถึงร้อนของทะเลลาวาอีก


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวน้อยส่งเสียงเรียกพวกเขาอีกครั้งราวกับว่ามันกำลังบอกให้พวกเขารีบตามไป


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่ไม่ได้มีความอดทนมากนัก ขณะที่พวกหานเซิ่นยังคงลังเล จู่ๆร่างกายของพวกเขาก็รู้สึกหนักขึ้นมา พวกเขาถูกดึงลงไปในทะเลลาวา


 


โชคดีที่พวกเขามีแสงสีดำของจระเข้ระดับเทพเจ้าปกป้องอยู่ ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงจะถูกละลายโดยความร้อนของแกนกลางดวงดางไปแล้ว แรงโน้มถ่วงที่ทรงพลังยังคงดึงพวกเขาลงไปในลาวาเรื่อยๆ และเมื่อการมองเห็นของพวกเขากลับคืนมา พวกเขาก็ออกมาจากทะเลลาวาอันร้อนแรง


 


พวกเขามาถึงที่ใจกลางของดวงดาว แต่ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเป็นเมืองๆหนึ่ง สิ่งที่ได้เห็นทำให้พวกเขาทั้ง 3 คนตกตะลึง แม้แต่เอ็กซ์ควิสิทเองก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง


 


ที่ใจกลางของดวงดาวมีสิ่งก่อสร้างที่ดูเหมือนกับปราการอวกาศ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา มันไม่มีทางเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติได้


 


ปราสาทอวกาศทั้งหลังให้ความรู้สึกที่ล้ำยุค ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นด้วยคริสตัล แต่ปราการอวกาศที่มหัศจรรย์นั้นดูยับเยิน เครื่องจักรคริสตัลที่ซับซ้อนส่วนใหญ่หยุดทำงานไปแล้ว มีเพียงเครื่องจักรไม่กี่อย่างเท่านั้นที่ยังทำงานอย่างริบหรี่


 


เมื่อได้เห็นปราการอวกาศและเครื่องจักรตรงหน้า หานเซิ่นก็ตกตะลึงจนเกือบจะตะโกนออกมา “ไม่มีทาง! ทำไมที่แห่งนี้ถึงได้ดูเหมือนกับห้องควบคุมของคริสตัลไลเซอร์?”


ตอนที่ 2569 ป้อมปราการคริสตัล


 


ขณะที่หานเซิ่นมองไปรอบๆ เขาก็คิดว่าสิ่งก่อสร้างที่นี่ดูเหมือนกับห้องควบคุมของคริสตัลไลเซอร์ไม่มีผิด หลี่เคอเอ๋อพูด


“สไตล์สถาปัตยกรรมของสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นของเผ่าคริสตัลไลเซอร์”


 


เอ็กซ์ควิสิทพยักหน้าและพูด “นี่ควรจะเป็นสิ่งก่อสร้างของคริสตัลไลเซอร์จริงๆ ยีนของคริสตัลไลเซอร์นั้นอ่อนแอ แต่เทคโนโลยีของพวกเขานั้นเหนือกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ พวกเขาได้ท้าชิงเผ่าเรียลเดม่อน ซึ่งเป็นเผ่าอันดับที่ 13 ของจักรวาลจีโน ถ้าพวกเขาเลือกจะท้าชิงเผ่าพันธุ์ที่ระดับต่ำกว่านั้นล่ะก็ พวกเขาก็คงจะได้กลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงด้วยพลังของเทคโนโลยี”


 


หลี่เคอเอ๋อรู้สึกสนใจ “ข้าเคยได้ยินว่าคริสตัลไลเซอร์เกือบจะเอาชนะเรียลเดม่อนได้ และพวกเขาพ่ายแพ้ก็เพราะการแทรกแซงของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง นั่นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”


 


เอ็กซ์ควิสิทส่ายหัว “ข้าไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่จากบันทึกของเผ่าเรา หลังจากที่ดวงไฟถูกดับ มันก็มีอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งเข้ามาร่วมการต่อสู้ แต่เผ่าพันธุ์นั้นไม่ใช่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง”


 


“ถ้าอย่างนั้นเผ่าพันธุ์นั่นคืออะไร?” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา


 


เอ็กซ์ควิสิทไม่รังเกียจที่จะตอบ เธอพูดอย่างเป็นกันเองว่า

“ข้าไม่รู้ มันเป็นกองทัพที่ประกอบด้วยผู้คนจากเผ่าพันธุ์ต่างๆหลายเผ่าพันธุ์ พวกเขาไม่เคยอธิบายถึงที่มาของตัวเอง”


 


“คริสตัลไลเซอร์ที่น่าสงสาร ถึงแม้พวกเขาจะมีข้อบกพร่องของตัวเอง แต่พวกเขาก็พยายามอย่างหนักเพื่อก้าวข้ามการท้าทายของจักรวาล พวกเขาทำแบบนั้นด้วยการสร้างเทคโนโลยี การท้าชิงเผ่าพันธุ์ชั้นสูงโดยการพึ่งแค่เทคโนโลยีอย่างเดียวนั้นไม่ใช่สิ่งที่เผ่าพันธุ์ไหนจะทำก็ได้” หลี่เคอเอ๋อถอนหายใจ


 


ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน พวกเขาก็ตามจระเข้ระดับเทพเจ้าทั้ง 2 ตัวเข้าไปในป้อมปราการคริสตัลไลเซอร์ ภายในของป้อมปราการนั้นยับเยินเช่นเดียวกัน สิ่งก่อสร้างนั้นพังทลายและเครื่องจักรก็กระจัดกระจายไปทั่ว พวกเขาไม่เห็นสิ่งมีชีวิตอะไรภายในป้อมปราการนั้น


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่ยังคงนำทางพวกเขาเดินผ่านซากปรักหักพังไป


 


“เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นของคริสตัลไลเซอร์จริงๆ แต่มีแค่ระดับราชันเท่านั้นที่จะเข้ามาในคอร์แอเรียได้ อย่างนั้นพวกเขาเข้ามาที่นี่จากจักรวาลภายนอกได้ยังไง? และถึงพวกเขาจะเข้ามาได้ พวกเขาจะผ่านทะเลลาวามาถึงแกนกลางของดาวดวงได้ยังไง?” หลี่เคอเอ๋อพูดขณะที่มองไปรอบๆ


 


“คริสตัลไลเซอร์นั้นมักจะทำในสิ่งที่เผ่าอื่นทำไม่ได้ มันยากที่จะบอกอะไรเกี่ยวกับเผ่าคริสตัลไลเซอร์ เนื่องจากเทคโนโลยีของพวกเขาเป็นความเป็นไปได้ที่กว้างขวาง ถึงแม้การเดินทางมาที่นี่อาจจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเผ่าพันธุ์อื่น แต่เทคโนโลยีของเผ่าคริสตัลไลเซอร์อาจจะนำพวกเขามาที่นี่ได้อย่างปลอดภัย แต่พวกเขาคิดอะไรถึงได้มาสร้างป้อมปราการเอาไว้ที่นี่?” เอ็กซ์ควิสิทพูด


 


หานเซิ่นตรวจดูป้อมปราการเช่นเดียวกัน ที่แห่งนี้คล้ายคลึงกับห้องควบคุมคริสตัลไลเซอร์ที่เขาเคยเข้าไปข้างใน เทคโนโลยีของคริสตัลไลเซอร์นั้นกระจัดกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่หานเซิ่นไม่รู้วิธีการใช้เครื่องมือของพวกเขา


 


‘น่าเสียดายที่สเตย์อัพเลทไม่ได้อยู่ที่นี่ ถ้าเขาอยู่ เขาก็อาจจะบอกอะไรอย่างเกี่ยวกับที่นี่ได้’ หานเซิ่นคิด


 


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตกใจ ลึกเข้าไปภายในป้อมปราการของคริสตัลไลเซอร์ พวกเขามาถึงอาคารขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนกับโกดังเก็บของ ภายในนั้นมีภาชนะคริสตัลจำนวนมาก พวกมันเรียงแถวกันเหมือนกับเสาที่สูงถึงหนึ่งร้อยเมตร


 


ภาชนะคริสตัลส่วนใหญ่ในแถวหน้านั้นแตกไปหมดแล้ว มันมีเพียงภาชนะคริสตัล 2-3 ชิ้นที่ยังคงอยู่ดี และภายในพวกมันก็มีจระเข้ปีศาจโซ่อยู่


 


พวกมันไม่ใช่จระเข้ระดับเทพเจ้า พวกมันดูเหมือนกับพวกจระเข้ที่อยู่บนผิวดวงดาว จระเข้ปีศาจโซ่ที่มีปีกค้างคาวเหล่านั้นกำลังอยู่ในภาชนะคริสตัลที่เต็มไปด้วยของเหลว


 


พวกมันดูเหมือนกับร่างไร้ชีวิตที่จมอยู่ในหลอดทดลอง


 


เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อสังเกตหลอดทดลองเหล่านั้น พวกเธอเดินเข้าไปใกล้และสังเกตเห็นว่ามันยังมีภาชนะคริสตัลอยู่อีกมาก มันมีอยู่สิบแถวและแต่ละแถวก็มีภาชนะคริสตัลอยู่ 15 ภาชนะ


 


ภาชนะคริสตัลส่วนใหญ่แตกไปแล้วและมีน้อยกว่าสิบภาชนะที่ยังคงอยู่ในสภาพดี พวกมันแต่ละอันมีจระเข้ปีศาจโซ่ตัวหนึ่งอยู่ภายใน


 


“แปลกจริงๆ คริสตัลไลเซอร์มาไกลถึงที่นี่เพื่อจับจระเข้ปีศาจโซ่เนี่ยนะ?” หลี่เคอเอ๋อสับสน


 


“นี่มันไม่ถูก” จู่ๆเอ็กซ์ควิสิทก็พูดขึ้นมา


 


“อะไรไม่ถูกอย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อหันไปมองเอ็กซ์ควิสิท


 


“เมื่อดูจากภาชนะคริสตัลที่เรียงแถวกันและเรื่องที่จระเข้ปีศาจโซ่ถูกบรรจุอยู่ในภาชนะที่อยู่ในสภาพดีภาชนะแล้วล่ะตัว แบบนั้นภาชนะอื่นก็ควรจะมีจระเข้ปีศาจโซ่อยู่ด้วยเดียวกัน แต่พวกมันไม่ได้อยู่ที่นี่” เอ็กซ์ควิสิทพูด


 


“บางทีพวกมันอาจจะหนีออกไปแล้ว?” หลี่เคอเอ๋อพูด


 


เอ็กซ์ควิสิทส่ายหัว “นั่นไม่สำคัญ ภาชนะแต่ละชิ้นมีจระเข้ปีศาจโซ่ระดับราชันตัวหนึ่งอยู่ภายใน ถ้าภาชนะทุกชิ้นบรรจุพวกมันอยู่ตัวหนึ่ง ลองคิดถึงจำนวนจระเข้ปีศาจโซ่ทั้งหมดดู ข้ากลัวว่าประชากรของจระเข้ปีศาจโซ่ทั้งหมดจะไม่เท่ากับจำนวนที่จะถูกบรรจุอยู่ที่นี่”


 


หลี่เคอเอ๋อไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นมาก่อน


 


“บางทีภาชนะอื่นอาจจะไม่ได้มีจระเข้ปีศาจอยู่ภายใน แต่ไม่ว่าพวกมันจะบรรจุอะไร มันก็ควรจะมีร่างกายหลงเหลืออยู่ภายในภาชนะที่แตกบ้าง” หลี่เคอเอ๋อพูด


 


ครั้งนี้เอ็กซ์ควิสิทไม่ได้คัดค้านสิ่งที่เธอพูด ภาชนะที่อยู่ในสภาพดีกระจัดกระจายอยู่ระหว่างภาชนะที่แตก มันดูไม่ได้มีลำดับอะไร บางทีมันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญที่มีจระเข้ปีศาจระดับราชันอยู่ภายในภาชนะเหล่านี้ บางทีมันอาจจะมีจระเข้ปีศาจอยู่ภายในภาชนะที่แตกด้วยเช่นกัน


 


แต่ถ้าพวกมันทั้งหมดมีจระเข้ปีศาจระดับราชันอยู่ นั่นก็ดูไม่สมเหตุสมผลกับสิ่งที่พวกเธอรู้เกี่ยวกับประชากรจระเข้ปีศาจในขณะนี้ มันเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้


 


พวกเขาตามหลังจระเข้ระดับเทพเจ้าต่อไปจนกระทั่งพวกเขาเห็นสิ่งก่อสร้างครึ่งวงกลมตรงหน้า มันถูกสร้างขึ้นมาจากคริสตัลที่โปร่งใส แต่พวกเขามองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ภายในสิ่งก่อสร้างนั้น


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าเดินเข้าไปข้างในสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดพอๆกับสนามกีฬา หานเซิ่นและคนอื่นไม่มีทางเลือกนอกจากตามพวกมันเข้าไป


 


หลังจากที่เข้าไปข้างใน พวกเขาทั้ง 3 คนก็ต้องตกตะลึง พวกเขาเห็นว่าที่แห่งนี้ก็คือสระว่ายน้ำและมันยังมีชายหาดที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ดูเหมือนกับมหาสมุทรจริงๆ


 


บนชายหาดมีม้านั่งวางอยู่หลายตัว จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่บินขึ้นไปบนเก้าอี้อาบแดนและด้วยหน้าท้องที่หงายขึ้นด้านบน ทำให้มันดูเหมือนกับหัวหน้าแก๊งมาเฟีย ทั้งหมดที่มันจำเป็นต้องมีก็คือเสื้อและกางเกง


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยวิ่งไปบนชายหาด หลังจากนั้นมันก็วิ่งกลับมาพร้อมกับลากกล่องๆหนึ่งมาด้วย และมันก็ส่งเสียงเรียกพวกเขา


 


หลี่เคอเอ๋อรู้ว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยหมายความว่าอะไร เธอเปิดกล่องออกและเห็นเครื่องมือหลายอย่างอยู่ภายใน เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็รู้สึกหดหู่


 


ถึงแม้พวกเขาทั้ง 3 จะไม่เคยเห็นเครื่องมือของคริสตัลไลเซอร์มาก่อน แต่พวกเขาก็มั่นใจว่าในกล่องคือเครื่องมือของคริสตัลไลเซอร์ พวกเขาไม่รู้ว่าเครื่องมือเหล่านั้นทำอะไรได้ แต่เมื่อดูจากรูปร่างของมัน พวกเขาก็คิดว่ามันเป็นเครื่องมือสำหรับงานก่อสร้าง


 


ขณะที่จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยส่งเสียงใส่พวกเขา หลี่เคอเอ๋อก็อธิบายความต้องการของมัน หานเซิ่นรู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าคิดจะใช้พวกเขาในฐานะคนงาน


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าต้องการให้พวกเขาซ่อมแซมและเก็บกวาดป้อมปราการอวกาศแห่งนี้


 


หลังจากที่เข้าใจสิ่งที่จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยต้องการ เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อก็ดูแย่ ในฐานะเผ่าเวรี่ไฮพวกเธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้จระเข้ระดับเทพเจ้าทั้ง 2 กำลังปฏิบัติกับพวกเธอราวกับสาวใช้ มันทำให้พวกเธอรู้สึกแย่จนอยากจะเป็นลม


ตอนที่ 2570 รอยสัก


 


หานเซิ่นหยิบกล่องเครื่องมือขึ้นมาและเริ่มเดินออกไป เขาไม่รังเกียจที่จะทำงานโดยการทำแบบนี้เขาก็จะสามารถเดินสำรวจรอบๆป้อมปราการอวกาศ ซึ่งเขาอาจจะค้นพบอะไรบางอย่าง ในตอนนี้เขาอยากรู้เกี่ยวกับที่นี่


 


เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อรู้ว่าหานเซิ่นต้องการอะไร ดังนั้นพวกเธอจึงหยิบเครื่องมือและเดินตามเขาไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก่อนที่พวกเธอจะได้ออกไปจากบริเวณนั้น จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยก็เข้ามาหยุดพวกเธอเอาไว้ มันยกอุ้งเท้าขึ้นและชี้ไปยังขยะที่กระจัดกระจายอยู่บนชายหาด มันต้องการให้พวกเธอเก็บกวาดชายหาดซะก่อน


 


หานเซิ่นออกมาจากสระว่ายน้ำพร้อมกับกล่องเครื่องมือ จระเข้ระดับเทพเจ้าไม่ได้ตามเขามา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ต้องไปทำความสะอาดชายหาด เขาเริ่มเดินสำรวจรอบๆป้อมปราการ


 


ป้อมปราการนั้นอยู่ในสภาพยับเยิน เครื่องจักรส่วนใหญ่ถูกทำลาย หายนะอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ทุกชีวิตในที่แห่งนี้ถึงจุดจบ ถึงเขาจะเห็นเครื่องจักรที่ไม่ถูกทำลายอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าพวกมันเอาไปใช้ทำอะไรได้อยู่ดี


 


แต่น่าแปลกที่นอกจากจระเข้ปีศาจที่อยู่ในภาชนะคริสตัลแล้ว เขาก็ไม่เห็นร่างของสิ่งมีชีวิตอื่นเลย เขาไม่เห็นแม้แต่เศษกระดูก


 


‘เมื่อดูจากสภาพของสิ่งก่อสร้างและเครื่องมือที่พังย่อยยับ ที่แห่งนี้คงจะต้องประสบกับหายนะบางอย่าง แต่ทำไมเราไม่เจอร่องรอยอะไรเลย?’

ขณะที่หานเซิ่นครุ่นคิด เขาก็กลับไปยังลานกว้างที่เต็มไปด้วยภาชนะคริสตัล เขาตั้งใจจะไปตรวจสอบที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรก


 


จระเข้ปีศาจที่อยู่ภายในภาชนะยังคงอยู่ในสภาพที่ดี แต่มันกลับไม่แสดงพลังชีวิตใดๆออกมา ส่วนภายในภาชนะที่แตก มันไม่มีอะไรอยู่เลย มันไม่มีร่างกายหรือของเหลวอะไรก็ตามที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในภาชนะ


 


“แปลกจริงๆ นี่มันหมายความว่าภาชนะคริสตัลพวกนี้ว่างเปล่าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นขมดวคิ้วและเดินหน้าต่อไป


 


หานเซิ่นมองดูภาชนะคริสตัลทุกชิ้น พวกมันทั้งหมดดูเหมือนกัน และเขาก็คิดว่าอาจจะพลาดอะไรไป


 


ทันใดนั้นหานเซิ่นก็มาหยุดอยู่หน้าภาชนะคริสตัลที่แตกชิ้นหนึ่ง ภายใต้ภาชนะคริสตัลที่แตกนั้นเขาพบอะไรบางอย่าง


 


ใต้คริสตัลที่แตก หานเซิ่นพบมือของคนข้างหนึ่ง มือนั้นมีขนาดใหญ่และผิวค่อนข้างคล้ำ


 


แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่มันยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ มันไม่ได้มีร่องรอยของการเน่าเปื่อยเลยแม้แต่น้อย หานเซิ่นคงจะเชื่อว่ามันเป็นมือของคนที่มีชีวิตอยู่ถ้าเขาสัมผัสได้ถึงพลังชีวิต


 


หานเซิ่นตื่นเต้นกับการค้นพบในครั้งนี้ เขาขยับคริสตัลที่แตกออกไปและเห็นว่าจริงๆแล้วมันเป็นแขนทั้งข้าง แต่มันไม่ได้มีร่างกายติดอยู่ แขนนั้นถูกฉีดขาดบริเวณไหล่


 


แขนนั้นดูบึกบึนอย่างมาก เมื่อดูจากความยาวของมันแล้ว เจ้าของแขนข้างนี้ก็คงจะสูงราวๆ 2 เมตร เขาคงจะเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งมากๆ


 


ด้านข้างของแขนใกล้ๆกับกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์นั้นมีรอยสักรอยหนึ่งอยู่ มันเป็นภาพของตัวตลกที่มีสีแดงคล้ำ


 


ตัวตลกในรอยสักนั้นดูเหมือนกำลังกระโดด ขาของมันกางออกราวกับว่ามันเพิ่งจะกระโดดขึ้นมา ใบหน้าของตัวตลกมองออกไปข้างหน้าและบนหมวกของมันมีเขา 2 เขางอกออกมา ดวงตาของมันมีขนาดเล็กและกำลังยิ้มอยู่


 


หานเซิ่นไม่คิดว่ารอยสักนั้นจะน่าขบขันตรงไหน ตัวตลกนั้นดูประหลาดและรอยยิ้มของมันก็ทำหานเซิ่นรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก


 


หานเซิ่นวางแขนลงและค้นเศษคริสตัลที่แตกต่อ เขาหวังว่าจะเจอร่างกายของแขนข้างนี้ เขาอยากรู้ว่ามันเป็นแขนของใครกันแน่


 


ชิ้นส่วนที่หักของคริสตัลนั้นหนักยิ่งกว่าเหล็ก แต่หานเซิ่นก็สามารถเขี่ยคริสตัลที่แตกกระจายทั้งหมดออกไปได้อย่างรวดเร็ว


 


แต่ทว่าน่าแปลกที่เขาไม่พบร่องรอยอะไรภายใต้ภาชนะคริสตัลที่ถูกทำลายเลย ความจริงแล้วมันไม่มีแม้แต่รอยเลือดด้วยซ้ำ


 


หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อตรวจสอบบริเวณนั้น เขาไม่รู้ว่าส่วนที่เหลือของร่างกายนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกหรือว่ามันเพียงแค่ย่อยสลายไปตามการเวลา แต่นอกจากแขนข้างนี้แล้ว มันไม่มีสสารอะไรหลงเหลืออยู่เลย


 


“แขนข้างนี้ถูกตัดขาดจากที่อื่นและถูกนำมาที่นี่ในภายหลังอย่างนั้นหรอ?”

หานเซิ่นมองไปรอบๆ ป้อมปราการนั้นเหมือนกับเมืองขนาดใหญ่ ดังนั้นการจะค้นหาให้ทั่วจึงเป็นงานที่ยาก


 


หานเซิ่นมีแผนที่จะขยายขอบเขตการค้นหาออกไป แต่เมื่อเขาหันกลับมาเพื่อจะหยิบแขนที่ขาดขึ้นมา เขาก็ต้องตกใจ


 


หลังจากที่หานเซิ่นใช้เวลาประมานสิบนาทีเพื่อเก็บกวาดเศษคริสตัลออกไป ตอนนี้แขนก็เน่าเปื่อยจนเหลือเพียงแค่กระดูก


 


ผิวคล้ำและกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งนั้นกลายเป็นกองของเหลวเละๆ


 


หานเซิ่นเคยเห็นซากศพมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สะอิดสะเอียนกับภาพที่เห็นเหมือนกับคนส่วนใหญ่ แต่เขารู้สึกว่ามันแปลกๆ

“แขนนี้ปกติดีมาตลอดหลายปี แต่ทำไมจู่ๆตอนนี้มันถึงได้เน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว?”


 


หานเซิ่นตรวจดูแขนที่เน่าเปื่อยด้วยการจ้องไปที่มัน ตอนนี้มีเพียงแค่กระดูกเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่ แต่เขาค้นพบบางสิ่งที่พิเศษมากเกี่ยวกับมัน


 


รอยสักตัวตลกบนผิวหนังไม่ได้หายไป มันยังคงอยู่บนกระดูกในตำแหน่งเดิมและมันก็ยังคงมีรอยยิ้มที่น่าขนลุก


 


เนื้อหนังที่ย่อยสลายไปเผยให้เห็นรอยสักอื่นอีกด้วยเช่นกัน บนผิวหนังแสดงให้เห็นแค่รอยสักของตัวตลกเท่านั้น แต่บนกระดูกมีรอยสักอื่นอยู่ด้วย


 


“ตัวอักษรของคริสตัลไลเซอร์?” หานเซิ่นทั้งตกใจและดีใจ เขามองไปที่ตัวอักษรและพบว่าพวกมันเล็กเกินกว่าที่จะอ่านได้ ถ้าไม่ใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วง เขาก็คงต้องมีกล้องจุลทรรศน์ชั้นสูงเพื่ออ่านข้อความที่ถูกสลักเอาไว้


 


หานเซิ่นได้เรียนรู้ภาษาของคริสตัลไลเซอร์มาจากสเตย์อัพเลท ดังนั้นเขาสามารถอ่านพวกมันได้ ก่อนที่เขาจะเริ่มอ่านมัน เขาก็ยังคงคิดว่าน่าแปลกที่คนๆหนึ่งจะสลักตัวอักษรที่กระดูกของตัวเอง


 


แถมแขนก็ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ คนๆหนึ่งจะสลักไปที่กระดูกโดยไม่ทำร้ายผิวหนังและกล้ามเนื้อของมันได้ยังไงกัน?


 


หานเซิ่นหยิบกระดูกขึ้นมาและเช็ดมันจนสะอาดเพื่อที่เขาจะได้มองมันชัดๆ กระดูกนั้นซีดเผือกและเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตอะไร แต่เขาสามารถบอกได้ว่ารอยสักตัวตลกและตัวอักษรนั้นเป็นผลงานจากเครื่องจักร มันเกิดจากการสลักไม่ใช่การประทับ


 


‘เกิดอะไรขึ้นที่นี่? คนๆหนึ่งจะใช้เครื่องจักรเพื่อสลักตัวอักษรบนกระดูกของตัวเองได้ยังไง? นี่มีใครคนอื่นมาสลักอักษรพวกนี้เอาไว้หลังจากที่คนๆนี้ตายไปแล้วอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิด


 


“ตัวทดลองM67มีการเปลี่ยนแปลกที่ผิดปกติ ผลทดลองไม่ทราบ การสร้างเทพหมายเลข 7586 ล้มเหลว…” หานเซิ่นอ่านมัน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นรายงานการทดลองบางอย่าง


 


หานเซิ่นไม่รู้ “M67” หมายถึงอะไร แต่เมื่อดูจากเนื้อหาแล้ว มันดูเหมือนว่าคริสตัลไลเซอร์พยายามจะสร้างเทพและมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับตัวทดลอง หลังจากนั้นการทดลองก็จบลง


 


และมันยังมีหมายเลขที่หานเซิ่นไม่เข้าใจถึงความสัมพันธ์ พวกมันเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่M67นั้นกลายพันธุ์ เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวอักษรทั้งหมดนี้ถึงถูกสลักเอาไว้บนกระดูกส่วนแขน


 


“คนพวกนี้บ้าไปแล้วหรือยังไง? ข้อมูลพวกนี้ควรจะเก็บเอาไว้ในฐานข้อมูลของคริสตัลไลเซอร์ ทำไมพวกเขาถึงต้องสลักลงบนกระดูกด้วย? มันต้องมีเหตุผลบางอย่างที่พวกเขาทำแบบนี้” หานเซิ่นจ้องมองไปที่ตัวอักษรบนกระดูกอย่างครุ่นคิด


 


แต่ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงคำรามเบาๆจากจระเข้ระดับเทพเจ้าน้อย มันกวัดแกว่งหางด้วยความรำคาญขณะที่เดินเข้ามาหาเขา มันส่งเสียงขู่อีกครั้งราวกับว่ามันกำลังเร่งเขา ดูเหมือนว่ามันไม่ชอบใจที่หานเซิ่นนั่งอยู่ที่เดิมเป็นเวลานานโดยไม่ทำอะไร


ตอนที่ 2571 วิชาคริสตัลเฟอร์เนส


 


หานเซิ่นคิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็เอาผลไม้หลายลูกออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตาเพื่อมอบให้กับจระเข้น้อย


 


“จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยยังเป็นแค่เด็กทารก มันควรจะเอาใจได้ง่าย ทั้งหมดที่เราจำเป็นต้องทำก็คือทำให้มันดีใจ หลังจากนั้นเราก็จะทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ แต่มันจะเป็นมังสวิรัติหรือเปล่า? ในตอนนี้เราไม่มีเนื้อเก็บตุนเอาไว้เลย”

ตั้งแต่ที่หานเซิ่นเริ่มเก็บสะสมยีนซีโน่เจเนอิค เขาก็ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นเลย ผลไม้นั้นเป็นบางสิ่งที่เขาเก็บเอาไว้ให้กับเป่าเอ๋อ


 


แต่หลังจากที่เป่าเอ๋อค้นพบโสมสีม่วงนั่น เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่นอีก ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงเก็บพวกมันเอาไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตา


 


ถ้าคนๆหนึ่งต้องการให้ร่างกายของตัวเองวิวัฒนาการ พวกเขาก็ต้องทำอะไรมากกว่าแค่การฝึกวิชาจีโน ยิ่งคนๆนั้นมีระดับสูงมากเท่าไหร่ พลังงานที่ร่างกายต้องใช้ก็มากเท่านั้น และอาหารที่พวกเขารับประทานเข้าไปก็ต้องมีคุณภาพสูง นั่นเป็นหนทางเดียวที่พวกเขาจะได้รับพลังงานเสริมที่จำเป็น ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลจำเป็นต้องกิน มันแตกต่างกันเพียงแค่วิธีการและสิ่งที่พวกเขากินเท่านั้น


 


ยอดฝีมือระดับสูงนั้นมีชีวิตอยู่โดยปราศจากอาหารได้เป็นเวลานาน แต่สิ่งที่พวกเขาต้องจ่ายเพื่อแลกมากับเรื่องนั้นคือการกลืนกินพลังงานของตัวเอง ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนั้นเป็นเวลานานๆ ร่างกายของพวกเขาก็จะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง


 


ในตอนที่ผู้คนบอกว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องกินในขณะที่ฝึกนั้น มันเป็นอะไรที่ไร้สาระสิ้นดี ในชีวิตจริงคนเราจะตายถ้าไม่กินอาหาร การรอดตายเพียงแค่ใช้เวลานานกว่าสำหรับคนที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับคนที่อ่อนแอ


 


นี่ไม่ได้เฉพาะกับนักสู้ที่มีระดับพลังธรรมดาเท่านั้น ในประสบการณ์ของหานเซิ่นแม้แต่คนที่เรียกตัวเองว่า “พระเจ้า” ก็ต้องกินเช่นเดียวกัน แต่แทนที่จะกินเนื้อ พวกเขากินอายุขัยของผู้คนที่ทำการอธิฐานกับพวกเขา


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าก็ต้องกินเช่นเดียวกัน แต่มันดูจะไม่สนใจผลไม้ที่หานเซิ่นมอบให้กับมัน มันใช้หางปัดผลไม้กระเด็นออกไป


 


“ดูเหมือนว่ามันจะไม่ชอบผลไม้หรือผัก ถ้าอย่างนั้นอาหารแบบไหนกันที่มันชอบกิน?”

หานเซิ่นพยายามคาดเดา แต่เขาไม่มีเนื้อจะแบ่งให้กับมัน แต่เมื่อลองคิดดูดีๆ หานเซิ่นก็ไม่คิดว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าจะกินเนื้อเช่นกัน ถ้ามันกินเนื้อล่ะก็ หานเซิ่น หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็คงจะกลายเป็นอาหารของพวกมันไปแล้ว


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยส่งเสียงขู่หานเซิ่นอีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่ 2 และเห็นได้ชัดว่ามันกำลังเร่งให้หานเซิ่นไปทำงาน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงรีบเก็บกวาดเศษคริสตัลที่แตกกระจายรอบๆตัว


 


จระเข้น้อยทำตัวเหมือนกับผู้ตรวจการและคอยออกคำสั่งให้หานเซิ่นทำสิ่งต่างๆ เช่นการโยนคริสตัลที่แตกออกไปจากป้อมปราการและลงไปในทะเลลาวาด้านนอก


 


หานเซิ่นไม่ได้รีบร้อนหรือรำคาญ เขาแค่ทำเก็บกวาดตามที่จระเข้น้อยต้องการโดยหวังว่าเขาจะพบบางสิ่งที่มีประโยชน์ระหว่างที่ทำแบบนั้น


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยดูพึงพอเมื่อเห็นหานเซิ่นตั้งใจทำงาน จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อยดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อเป็นหัวหน้างาน มันดูจะชื่นชอบการทำอะไรแบบนี้


 


หานเซิ่นไม่พบอะไรที่น่าสนใจระหว่างการเก็บกวาด ในที่สุดเมื่อจระเข้น้อยรู้สึกเบื่อ มันก็พาหานเซิ่นกลับไปที่สระว่ายน้ำพร้อมกับมัน


 


เมื่อหานเซิ่นไปถึงสระว่ายน้ำ เขาก็เห็นว่าหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทกำลังนวดหัวให้กับจระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่ พวกเธอยังใช้แปลงขัดร่างกายของมันอีกด้วย


 


หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทดูเป็นทุกข์อย่างมาก พวกเธอไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะถูกบังคับให้ทำงานอะไรแบบนี้


 


พวกเธอถูกสอนว่าในฐานะสมาชิกของเผ่าเวรี่ไฮ อนาคตของพวกเธอจะสดใส พวกเธอมีความฝันหลายอย่างที่อยากทำ แต่การเป็นสาวใช้ของจระเข้นั้นไม่อยู่ในความฝันของพวกเธอ พวกเธอรู้สึกอับอายอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนอย่างดอลลาร์อยู่ที่นี่และเห็นความอัปยศอดสูของพวกเธอ


 


จระเข้ระดับเทพเจ้าใหญ่นั้นเป็นเจ้านายที่ใช้งานหนัก แต่ที่สุดแล้วหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็ได้รับอนุญาตให้พักได้


 


“นี่เจ้าพบอะไรบ้างไหม?” เอ็กซ์ควิสิทถามหานเซิ่นขณะที่พวกเธอเดินเข้ามา


 


“แค่คริสตัลที่แตก นอกจากนั้นแล้วมันไม่ได้มีอะไรอย่างอื่นที่น่าสนใจเลย” หานเซิ่นเก็บกระดูกแขนเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตาเรียบร้อยแล้ว เขาไม่มีแผนที่จะแจ้งการค้นพบแขนกับพวกเธอ


 


“แล้วพวกเจ้าล่ะ?” หานเซิ่นถาม


 


“พวกเราจะหาอะไรได้? พวกเราทำงานเก็บกวาดของเสียตลอดทั้งวัน ข้าไม่รู้เลยว่าพวกมันกินมากขนาดไหนกัน พวกมันขี้เยี่ยวไปทุกหนทุกแห่ง” หลี่เคอเอ๋อพูดด้วยสีหน้าที่ดูมืดมน


 


หานเซิ่นสะดุ้ง เขารีบถามขึ้นมา “เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าพวกมันกินอะไร?”


 


“ข้าจะไปรู้ได้ยังไงว่าพวกมันกินอะไร? ขี้ของพวกมันเป็นก้อนแข็งๆ มันดูเหมือนกับวัตถุที่สร้างเป็นดวงดาวดวงนี้” หลี่เคอเอ๋อพูด


 


“ถ้าอย่างนั้นบางทีพวกมันอาจจะกินวัตถุที่มาจากดวงดาว” หานเซิ่นพูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่


 


“การรู้ว่าพวกมันกินอะไรมีประโยชน์อะไร?” หลี่เคอเอ๋อถาม


 


“อย่างน้อยมันก็ทำให้พวกเราเบาใจได้ ถ้ารู้ว่าพวกมันไม่ต้องการกินพวกเรา” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยักไหล่


 


“ถ้าข้าต้องติดอยู่ที่นี่ไปตลอด ข้ายอมตายไปซะดีกว่า” หลี่เคอเอ๋อไม่เห็นด้วยกับแนวการคิดของหานเซิ่น


 


“พวกเราไม่ได้มีอาหารติดตัวมากนัก พวกเราจำเป็นต้องหาหนทางออกไปจากที่นี่” เอ็กซ์ควิสิทพูด


 


“มีวิธีอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม


 


“ตอนนี้ไม่” เอ็กซ์ควิสิทส่ายหัว


 


“ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดถึงเรื่องนั้น” หานเซิ่นพูดอย่างหม่นหมอง


 


พวกเขาทั้ง 3 คนพักผ่อนอยู่สักพัก แต่ไม่นานหลังจากนั้นจระเข้น้อยก็เดินเข้ามาและเร่งให้พวกเขากลับไปทำงานต่อ


 


จากพวกเขาทั้ง 3 คน หานเซิ่นเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ไปทำงานนอกบริเวณสระว่ายน้ำ ขณะที่หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทนั้นต้องติดแหง็กอยู่กับการรับใช้จระเข้ระดับเทพเจ้าบนชายหาด พวกเธอคอยเก็บกวาดของเสียและนวดจระเข้ระดับเทพเจ้า พวกเธอเป็นเหมือนกับสาวใช้


 


จระเข้ระดับเทพเจ้านี้คงจะเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ใช้สมาชิกของเผ่าเวรี่ไฮเป็นสาวใช้ของตัวเอง และดูเหมือนพวกมันจะเพลิดเพลินกับการรับใช้ของพวกเธอ


 


หานเซิ่นทำงานยกเครื่องมือที่ระเกะระกะกลับเข้าที่หรือไม่ก็เก็บกวาดอุปกรณ์ที่ถูกทำลาย ในตอนแรกจระเข้น้อยชื่นชอบที่จะออกคำสั่งให้เขาทำโน่นทำนี่ แต่หลังจากผ่านไปสักพัก มันก็ขี้เกียจและหยุดมาดู


 


เมื่อหานเซิ่นเป็นอิสระจากเจ้านายตัวน้อย เขาก็เดินสำรวจรอบๆป้อมปราการ ขณะที่เขาผ่านไปที่ลานกว้างแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ เขาก็ได้พบกับบางสิ่งที่น่าสนใจ


 


คริสตัลนั้นใช้สำหรับสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางเทคโนโลยี โดยมันปกติแล้วมันจะไม่ได้ถูกนำมาสร้างสิ่งของอย่างแผ่นจารึก แต่ในลานกว้างแห่งนั้น หานเซิ่นพบกำแพงคริสตัลที่มีตัวอักษรเขียนเอาไว้


 


เนื่องจากกำแพงคริสตัลนั้นพังทลาย หานเซิ่นจึงใช้เวลาเกือบ 3 วันกว่าจะเก็บรวบรวมและประกอบพวกมันกลับเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นเขาก็อ่านข้อความที่ถูกเขียนเอาไว้


 


“วิชาคริสตัลเฟอร์เนส… นี่ดูเหมือนจะเป็นวิชาจีโนตัวหนึ่ง แต่ชื่อของมันดูแปลกๆ มันทำอะไรได้กันแน่?” หานเซิ่นเริ่มอ่านเนื้อหาของมันอย่างละเอียด


 


มันเป็นเรื่องง่ายที่มนุษย์จะฝึกวิชาจีโนของคริสตัลไลเซอร์ แต่หานเซิ่นไม่ได้คาดหวังอะไรกับวิชาจีโนของคริสตัลไลเซอร์มากนัก เพราะเผ่าคริสตัลไลเซอร์ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องวิชาจีโน วิชาจีโนพวกเขาไม่ได้โดดเด่นอะไร


 


แต่หลังจากที่หานเซิ่นอ่านเกี่ยวกับคริสตัลเฟอร์เนส เขาก็ต้องตกใจ


 


นี่ไม่ใช่แค่วิชาจีโนธรรมดาๆทั่วไป มันเป็นเหมือนกับวิชาจีโนที่เทพส่งมาให้กับผู้คนที่รักในการกิน


 


วิชาคริสตัลเฟอร์เนสนั้นจะช่วยส่งเสริมกระเพาะของผู้ฝึก มันแตกต่างไปจากวิชาคอนซูมที่มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการย่อยอาหาร วิชาคริสตัลเฟอร์เนสนั้นจะเปลี่ยนกระเพาะของผู้ฝึกให้กลายเป็นเหมือนกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ มันจะปลดปล่อยพลังงานเพื่อย่อยอาหารอย่างรวดเร็วและพลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมาก็จะถูกดูดซับไปในทันที ซึ่งของเสียก็จะออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน


 


“ไม่แปลกใจเลยที่คริสตัลไลเซอร์ขึ้นชื่อเรื่องการวิจัยและพัฒนา แม้แต่วิชาจีโนของพวกเขาก็เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์”

หานเซิ่นหลงรักมัน เขาไม่คิดจะปฏิเสธวิชาจีโนใหม่ที่ช่วยในการกินยีนซีโน่เจเนอิค


 


แต่เมื่อหานเซิ่นอ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายของวิชาคริสตัลเฟอร์เนส เขาก็เห็นหมายเหตุที่ถูกเขียนเอาไว้


 


“วิชาคริสตัลเฟอร์เนสฉบับสาธารณะเหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเท่านั้น สำหรับคนที่อายุมากกว่า 16 ปี ฝึกวิชาคริสตัลคอร์แอคเตอร์”


 


“นี่มันฉบับของเด็ก?” หานเซิ่นรู้สึกรำคาญกับเรื่องนั้น แต่เขาไม่สามารถหาวิชาฉบับผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องฝึกฉบับของเด็กไปก่อน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)