Super God Gene 2539-2541
ตอนที่ 2539
ครั้งนี้มนตร์พิชิตมารเลือดมังกรไม่มีพลังพอที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูโดยสมบูรณ์ แต่มันยังคงมีประสิทธิภาพ และมันไม่ได้ผิดแผนเหมือนอย่างครั้งก่อนที่พวกเขาต่อสู้กับขุนพลเกราะทอง
หานเซิ่นถือมีดเขี้ยวรอยสักมังกรอยู่ในมือและเทเลพอร์ตไปด้านหลังของบิ๊กอีวิลบีสต์ เวลาที่เขาใช้เพื่อเรียนรู้วิชาการเทเลพอร์ตไม่ได้สูญเปล่า ครั้งนี้เขาสามารถไปปรากฏตัวข้างหลังบิ๊กอีวิลบิสต์ในชั่วพริบตา
หานเซิ่นใช้มีดฟันปีกของศัตรู ซึ่งเป็นจุดอ่อนของบิ๊กอีวิลบีสต์ แต่ส่วนอื่นของร่างกายมันถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ด แม้แต่มีดเขี้ยวรอยสักมังกรก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้
หลังจากที่หานเซิ่นตัดปีกของมันจนขาดแล้ว เขาก็เห็นผิวด้านหลังของซีโน่เจเนอิคที่อยู่ถัดไปจากจุดที่ปีกของติดอยู่ ในตำแหน่งนั้นผิวของมันไม่ได้ถูกปกป้องด้วยเกล็ด หานเซิ่นแทงใส่มันด้วยมีดและส่งพลังเข้าไปในเนื้อหนังของบิ๊กอีวิลบีสต์ หนังของมันถึงจะไม่ได้แข็งเหมือนอย่างเกล็ด แต่มันก็ยังคงแข็งแกร่งกว่าซีโน่เจเนอิคระดับครึ่งเทพ มีดของหานเซิ่นไม่สามารถแทงเข้าไปถึงหัวใจของมันได้
หลังจากที่รู้สึกตัวถึงการโจมตีของหานเซิ่น บิ๊กอีวิลบีสต์ก็คำรามออกมา อาณาเขตอันชั่วร้ายของมันเข้าปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวหานเซิ่นและคนอื่นๆ ในตอนที่มันกระพือปีก ขนนกสีดำก็ถูกยิงออกไปทุกหนทุกแห่งราวกับลูกธนูจำนวนมาก
หานเซิ่นยืนอยู่ต่อหน้าพายุลูกธนูขนนก เขารู้ว่าไม่สามารถหลบพวกมันได้ทั้งหมด และเขาก็ไม่สามารถป้องกันพวกมันทั้งหมดได้เช่นกัน เมื่อดูจากรัศมีการโจมตีแล้ว แม้แต่การเทเลพอร์ตออกไปก็ดูจะเป็นไปไม่ได้
หานเซิ่นไม่ลังเลและใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด ลูกธนูขนนกผ่านร่างกายไปโดยไม่สร้างความเสียหายใดๆ หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รีบตรงเข้าไปในร่างกายบิ๊กอีวิลบีสต์ เขาไปถึงหัวใจของมันและแทงใส่มันด้วยมีด
ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดคงอยู่แค่หนึ่งวินาทีเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็กลับเป็นปกติ โชคที่ดีในเวลานั้นหานเซิ่นสามารถเข้าไปในหัวใจของบิ๊กอีวิลบีสต์ได้สำเร็จ เขาใช้มีดแทงใส่มันซ้ำราวกับคนบ้า บิ๊กอีวิลบีสต์ส่งเสียงกรีดร้องออกมาเนื่องจากมันไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นที่อยู่ในหัวใจของมันได้
ดราก้อนวัน เดียร็อบเบอร์และคนอื่นๆมองดูบิ๊กอีวิลบีสต์ส่งเสียงกรีดร้องออกมา ใครบางคงพึมพำขึ้นว่า
“ดอลลาร์เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮจริงๆ! เขาเป็นเพียงแค่ระดับราชัน แต่เขาก็แข็งแกร่งถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าเขากลายเป็นครึ่งเทพ เขาจะต่อสู้กับระดับเทพเจ้าเต็มตัวได้ไหมนะ?”
“เจ้าพูดอะไรของเจ้า? แค่ตอนนี้เขาก็ต่อสู้กับระดับเทพเจ้าได้แล้ว” อีกคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“หลังจากที่ได้เห็นดอลลาร์ ข้ารู้แล้วว่าแชมป์เปี้ยนที่แท้จริงเป็นยังไง”
“เป็นพลังที่มหัศจรรย์อะไรขนาดนี้ มันคงจะเป็นเรื่องยากที่เผ่าพันธุ์อื่นจะทำแบบนี้ได้ แม้แต่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงก็ไม่มีคนที่จะเทียบชั้นกับดอลลาร์ได้”
“เจ้าหมายความว่ายังไงที่ว่าเป็นเรื่องยาก? เรื่องแบบนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคนอื่นๆ”
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุบกันในเรื่องนี้ ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงการคำรามที่ดังยิ่งกว่าเดิม แต่การคำรามนั้นถูกขัดจังหวะด้วยเลือดที่เต็มปากของมัน ดราก้อนวันเห็นว่าบิ๊กอีวิลบีสต์กระอักชิ้นเนื้อออกมาพร้อมกับเลือด
เดียร็อบเบอร์และเดสทรอยเยอร์คนอื่นดีใจ “ดอลลาร์นี่แข็งแกร่งจริงๆ! บิ๊กอีวิลบีสต์นั่นไม่รอดแน่”
ไม่นานหลังจากนั้นเลือดของบิ๊กอีวิลบีสต์ก็เหือดแห้ง การเคลื่อนไหวของมันเชื่องช้าและพลังชีวิตของมันก็อ่อนลง อาณาเขตอันชั่วร้ายที่ปกคลุมพวกเขาทุกคนตอนนี้หายไปแล้ว
ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อจะปิดชีวิตของมัน พวกเขาโจมตีอย่างสุดกำลัง แต่พวกเขาไม่มีมีดเขี้ยวรอยสักมังกร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆกับบิ๊กอีวิลบีสต์ได้ ถึงแม้จะโจมตีใส่เป็นชุด แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเจาะทะลวงเกล็ดของบิ๊กอีวิลบีสต์ได้ พวกเขาทำได้แค่โจมตีซ้ำๆบริเวณปีกของมัน
บิ๊กอีวิลบีสต์กระอักเลือดออกมาเพิ่มอีก หลังจากนั้นก็มีใครบางคนออกมาจากร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดของมัน คนๆนั้นก็คือหานเซิ่น เขาตัดร่างของบิ๊กอีวิลบีสต์ออกมาด้วยมีดเขี้ยวรอยสักมังกร
หลังจากที่หานเซิ่นออกมาแล้ว บิ๊กอีวิลบีสต์ก็สูญเสียการควบคุมร่างกายของมันไป ร่างกายของมันลอยหงายท้องเหมือนกับปลาและกระตุกเป็นระยะๆ
“คอร์ซีโน่เจเนอิคบิ๊กอีวิลบีสต์ระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ ครั้งนี้เขาก็ไม่ได้รับวิญญาณอสูรเช่นกัน ‘ดูเหมือนว่าโชคของเราจะหมดแล้ว ฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า 2 ตัว แต่ก็ยังไม่ได้รับวิญญาณอสูร’
หานเซิ่นรู้สึกว่าการฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับสูงมีโอกาสได้รับวิญญาณอสูรมากกว่าซีโน่เจเนอิคระดับต่ำ หานเซิ่นไม่มั่นใจในเรื่องนี้ แต่นั่นคือสิ่งที่เขากำลังรู้สึกในขณะนี้
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ดอลลาร์” เดียร็อบเบอร์พูด
“ไม่มีความจำเป็นที่ต้องขอบคุณ มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรม และข้าไม่ได้ช่วยเจ้าเปล่าๆ” หานเซิ่นส่งมีดคืนให้กับดราก้อนวัน
“ดอลลาร์ เจ้ายังสนใจที่จะล่าซีโน่เจเนอิคต่อไหม?” ดราก้อนวันถามขณะที่รับมีดมา
“ข้าอยากจะศึกษาวิชาจีโนที่เพิ่งได้รับมา ดังนั้นข้ายังไม่มีแผนที่รับงานฆ่าซีโน่เจเนอิคเพิ่มในตอนนี้ เอาไว้โอกาสหน้า” หานเซิ่นส่ายหัว
เดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันรู้สึกผิดหวัง แต่ถ้าหานเซิ่นไม่ต้องการจะไป พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นพวกเขาจึงกลับออกไปจากคอร์แอเรีย
หานเซิ่นและหลี่เคอเอ๋อเดินทางไปยังระบบที่อยู่ใกล้เคียง พวกเขาฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับราชันที่เห็น และถ้าพวกเขาหาไม่เจอ พวกเขาก็จะเดินทางต่อไปเรื่อยๆ หานเซิ่นใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกก็อตส์วอนเดอร์ของหลี่เคอเอ๋อและบิ๊กเดสทรอยเยอร์
โดยเฉพาะบิ๊กเดสทรอยเยอร์ เขาพยายามฝึกมันโดยหวังว่ามันจะสามารถช่วยเร่งความเร็วในการกินยีนระดับราชันของเขาได้
หลี่เคอเอ๋อเห็นหานเซิ่นฝึกบิ๊กเดสทรอยเยอร์และพูดขึ้นว่า “วิชาจีโนนั้นถูกออกแบบโดยอัลฟ่าของเดสทรอยเยอร์ มันถูกคิดค้นขึ้นโดยมีรากฐานจากความพิเศษทางร่างกายของพวกเขา แสง ความมืดและเคออสจะต้องสมดุลภายในร่างกาย วิชาจีโนนี้จะฝึกไม่ได้ นอกซะจากเจ้าจะมีธาตุทั้ง 3 แม้แต่ในหมู่เดสทรอยเยอร์ก็มีแค่เดสทรอยเยอร์เลือดบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะฝึกมันได้ เพราะแบบนั้นคนนอกอย่างเราก็ยากขึ้นไปใหญ่ที่จะฝึกมัน”
“ข้าแค่อยากจะลองดู” หานเซิ่นพูดและยังคงฝึกมันต่อไป
ในตอนที่หานเซิ่นอยู่ในก็อตแซงชัวรรี่ ร่างกายของเขาวิวัฒนาการด้วยการใช้ทุกธาตุ นั่นรวมถึงธาตุแสง ความมือและเคออส แถมศาสตร์ตงเสวียนยังทำให้เขาสามารถจำลองวิชาจีโนต่างๆได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะฝึกบิ๊กเดสทรอยเยอร์ได้ ถ้าเขาไม่เชื่อแบบนั้น เขาก็คงจะไม่เสี่ยงไปต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าเพื่อให้ได้วิชาจีโนนี้มา
เมื่อหลี่เคอเอ๋อเห็นว่าดอลลาร์ยังคงฝึกบิ๊กเดสทรอยเยอร์โดยไม่สนใจคำเตือนของเธอ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอไม่คิดว่าหานเซิ่นจะทำได้สำเร็จ
แม้แต่เผ่าเวรี่ไฮก็ยังยากที่จะฝึกบิ๊กเดสทรอยเยอร์ได้ เวรี่ไฮเซ้นส์ของพวกเขาไม่ได้ช่วยอะไรมาก ถึงแม้หานเซิ่นจะมีวิชาจีโนที่เหมือนกัน มันก็คงจะไม่ช่วยอะไรเขาได้มากเช่นเดียวกัน
แต่หลี่เคอเอ๋อไม่รู้ว่าศาสตร์ตงเสวียนไม่ใช่สิ่งที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยเวรี่ไฮ หลายส่วนของวิชาจีโนถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นมันมีโอกาสที่เขาจะทำในสิ่งที่เผ่าเวรี่ไฮไม่สามารถทำได้
ตอนที่ 2540
หานเซิ่นต้องการจะฟังส่วนสุดท้ายของก็อตส์วอนเดอร์ ดังนั้นเขาจึงเดินทางกับหลี่เคอเอ๋อต่อ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากนัก ในตอนที่พวกเขาพูดคุยกัน หลี่เคอเอ๋อก็จะบอกเขาเกี่ยวกับก็อตส์วอนเดอร์หรือไม่ก็ตอบคำถามเกี่ยวกับตัวเธอเอง
“คนๆนี้เป็นพวกบ้าการต่อสู้เหมือนกับไผ่เดียวดาย”
หลี่เคอเอ๋อรู้สึกหดหู่เล็กน้อยขณะที่เดินทางร่วมกับหานเซิ่น เธอมีแผนที่จะรับหานเซิ่นเป็นตัวไหมของเธอ แต่หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเขา เธอก็รู้สึกตัวว่าไม่มีอะไรที่หานเซิ่นต้องการจากเธอ เธอไม่สามารถแม้แต่จะบอกเขาว่าเธอเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ
หลี่เคอเอ๋อเสียใจในเรื่องนี้ ถ้าเธอรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอก็คงจะบอกเขาไปตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันว่าเธอเป็นหนึ่งในเวรี่ไฮ อย่างน้อยแบบนั้นพวกเขาก็จะได้พูดคุยกันอย่างจริงจังมากขึ้น ถ้าเธอเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกไปในตอนนี้ หลี่เคอเอ๋อไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แต่หลังจากที่หลี่เคอเอ๋อสอนก็อตส์วอนเดอร์ให้กับหานเซิ่นเสร็จแล้ว เธอก็ยังหาโอกาสที่จะเผยตัวตนที่แท้จริงและโน้มน้าวให้เขาไปกับเธอไม่ได้
“ข้ายังมีธุระที่จะต้องไปจัดการ พวกเราจะพบกันอีกครั้งถ้าโชคชะตากำหนดให้เส้นทางของพวกเรามาบรรจบกัน” หานเซิ่นรีบบอกลาหลี่เคอเอ๋อและออกไปจากคอร์แอเรีย เขากลับไปที่วาฬขาว
หลี่เคอเอ๋อรู้สึกเสียใจ เธอดูเศร้าสร้อยขณะที่เธอกลับไปที่ยาน
“ท่านหญิง เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอ? นี่ท่านหญิงบอกดอลลาร์ไปหรือยัง? เขายอมตกลงจะเป็นตัวไหมของท่านหญิงหรือเปล่า?” ผีเสื้อน้อยถามขณะที่มองไปที่หลี่เคอเอ๋อด้วยความสับสน
หลี่เคอเอ๋อถอนหายใจออกมา แต่ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่อยากจะยอมรับออกไปว่าเธอพลาดโอกาสที่จะเปิดเผยว่าตัวเองเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ
“ท่านหญิง เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอ? ทำไมมันถึงได้มีข่าวลือที่บอกว่าดอลลาร์เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ?” ผีเสื้อน้อยถามอีกครั้ง
“ไม่มีอะไร ข้าจะเอาตัวเขามาให้ได้” หลี่เคอเอ๋อรู้สึกรำคาญ และเธอก็สะบัดมือเพื่อบอกว่าไม่ต้องถามอีก
“ดอลลาร์ เจ้าต้องมาเป็นตัวไหมของข้า” หลี่เคอเอ๋อกัดริมฝีปากของเธอด้วยความโกรธ
หานเซิ่นกลับไปที่วาฬขาว และเขาก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่อยู่
ฟางชิงอวี่และเหล่าโจรสลัดกำลังซ่อนตัวอยู่มุมหนึ่ง และหนิงเยวี่ยกำลังหลบหลังเป่าเอ๋อ เธอดูหวาดกลัวมากๆ แต่เป่าเอ๋อกำลังถือโสมที่ดูเหมือนกับแครอทขนาดใหญ่อยู่ในมือ เธอกัดกินมันอย่างสบายใจขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าคนอื่นๆ
ภายในห้องควบคุม กู่ชิงเฉิงกำลังต่อสู้กับจันทราสวรรค์ แต่สิ่งที่ทำให้หานเซิ่นประหลาดใจคือเรื่องนี้พวกเธอกำลังใช้พลังอาณาเขตแห่งราชัน
“ทำไมพวกเธอถึงได้เพิ่มระดับขึ้นเร็วนัก?” หานเซิ่นสงสัย
“พวกเธอกลายเป็นระดับราชันแล้ว”
ถึงแม้เขาจะมอบยีนซีโน่เจเนอิคส่วนหนึ่งให้กับกู่ชิงเฉิง แต่เธอและจันทราสวรรค์ก็ยังกลายเป็นระดับราชันได้เร็วเกินไป แถมพวกเธอกำลังใช้พลังอาณาเขตแห่งราชัน นั่นเป็นอะไรที่มากเกินไปหน่อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจันทราสวรรค์ เธอเพิ่งจะเข้ามาในจักรวาลจีโนได้ไม่นาน ดังนั้นมันไม่มีทางที่เธอจะเพิ่มระดับขึ้นได้อย่างรวดเร็วแบบนี้
ห้องควบคุมของวาฬขาวกลายเป็นสนามต่อสู้ของพวกเธอทั้งคู่ กู่ชิงเฉิงมีดาบจำนวนมากออกมาจากตัวเธอ ดาบทั้งหมดบินตรงเข้าไปหาจันทราสวรรค์ราวกับสายน้ำ
จันทราสวรรค์กางร่มที่ทำขึ้นมาจากกระดาษ ดาบบินเข้ามาถูกร่มและถูกดูดเข้าไปในภาพวาดบนผิวร่ม ดาบปรากฏบนภาพวาดมากขึ้นเรื่อยๆ
จันทราสวรรค์หมุนร่มกระดาษสีขาว และทำให้ดาบที่อยู่นำร่มกลับมามีตัวตนอีกครั้ง ตอนนี้ดาบที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจันทราสวรรค์บินกลับไปหากู่ชิงเฉิง
กู่ชิงเฉิงขมวดคิ้ว อาณาเขตของเธอเริ่มทำงานอีกครั้ง และเธอก็ชิงการควบคุมของดาบกลับคืนมาและส่งพวกมันกลับไปหาจันทราสวรรค์
ผู้หญิงผู้งดงามทั้ง 2 ยืนเผชิญหน้ากันและกัน คนหนึ่งถือดาบอยู่ในมือ ส่วนอีกคนกำลังถือร่ม พายุดาบบินกลับไปกลับมาระหว่างพวกเธอและมันดูจะไม่จบลงในเร็วๆนี้เป็นแน่
“นี่พวกเธอกำลังทำอะไร? ทำไมพวกเธอถึงต่อสู้กัน?” หานเซิ่นถาม
ทุกคนนอกจากเป่าเอ๋อส่ายหัว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ถึงได้ต่อสู้กันเช่นนี้ พวกเขาเองก็ตกใจถึงความเร็วในการเลื่อนระดับของกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์
เป่าเอ๋อที่กำลังถือโสมสีม่วงอยู่ในมือพูด “พวกเธอกำลังต่อสู้กันเพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นใหญ่และใครเป็นรอง”
“เป็นใหญ่และเป็นรอง? นั่นหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน
“หนูไม่รู้ หนูได้ยินพวกเธอถกเถียงกัน กู่ชิงเฉิง เธอต้องการเป็นใหญ่ แต่จันทราสวรรค์ไม่ยอม เธอบอกว่ากู่ชิงเฉิงต้องเป็นรอง และเธอจะเป็นใหญ่เอง” เป่าเอ๋ออธิบาย เธอเองก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
เมื่อได้ยินอย่างนั้น สีหน้าที่เหมือนรู้ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหล่าโจรสลัด
“ข้ารู้แล้ว พวกนางจะต้องตกหลุมรักชายคนเดียวกัน และพวกนางก็ต้องการจะอยู่ร่วมกับชายคนนั้น พวกนางกำลังต่อสู้กันก็เพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นเมียหลวงและใครจะเป็นเมียน้อย”
“ใช่แล้ว มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ข้าอยากรู้จักเลยว่าผู้ชายคนไหนกันที่โชคดีแบบนี้”
“ชายคนนั้นคงจะต้องเก็บสะสมโชคมาหลายภพชาติ ข้าจินตนาการไม่ออกเลยว่าชาติก่อนเขาทำอะไรถึงได้รับอะไรแบบนี้ บางทีเขาอาจจะช่วยจักรวาลเอาไว้หรืออะไรทำนองนั้น”
“การช่วยจักรวาลครั้งหนึ่งนั้นไม่เพียงพอ เขาคงจะต้องช่วยจักรวาลถึง 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย”
“ข้าไม่คิดแบบนั้น ชายคนนั้นคงจะต้องเป็นโสดมากว่าสิบชาติและนั่นเป็นเหตุผลที่เขาได้รับผู้หญิงถึง 2 คนแบบนี้”
“ถ้าข้าได้แต่งงานกับพวกนางทั้งคู่ ข้าก็พอใจแล้วที่จะได้ใช้เวลากับพวกนางในฐานะภรรยาสักวันก่อนที่จะต้องตาย”
ตอนนี้เหล่าโจรสลัดเริ่มถกเถียงกันเอง พวกเขาทุกคนอยากจะเป็นชายที่กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ชอบ
กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ดูคล้ายคลึงกันมากๆ พวกเธอทั้งคู่งดงามในระดับที่เกือบที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติ เหล่าโจรสลัดหลงรักพวกเธอ ถ้ากู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ไม่ได้เป็นเพื่อนของหานเซิ่น เหล่าโจรสลัดก็คงจะพยายามจีบพวกเธอทั้งกลางวันกลางคืน
เมื่อกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ได้ยินสิ่งที่เหล่าโจรสลัดพูด พวกเธอก็โกรธยิ่งกว่าเดิม กู่ชิงเฉิงหันไปจ้องคนพวกนั้น ทันใดนั้นดาบของเหล่าโจรสลัดก็บินออกมาจากฝัก และภายใต้การควบคุมของกู่ชิงเฉิง พวกมันก็บินเข้าไปหาเจ้าของของพวกมัน
“กู่ชิงเฉิง! จันทราสวรรค์! หยุด!” หานเซิ่นยื่นมือออกมาจับดาบทั้งหมดเอาไว้ ดาบทั้งหมดพยายามดิ้นไปมาราวกับงู แต่พวกมันไม่สามารถหนีจากกำมือของหานเซิ่นได้
เมื่อได้ยินเสียงของหานเซิ่น กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ก็หยุดมือ พวกเธอทั้งคู่จ้องมองไปที่เหล่าโจรสลัดด้วยสายตาที่ทำให้พวกเขารู้สึกหนาวจนถึงกระดูก
“พวกเธอทั้งคู่มากับฉัน” หานเซิ่นพาจันทราสวรรค์กับกู่ชิงเฉิงไปที่ห้องทำงานของเขา
“บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเธอถึงได้ต่อสู้กัน?” หานเซิ่นนั่งลงบนเก้าอี้และมองไปที่กู่ชิงเฉิงกับจันทราสวรรค์
“พวกเรากำลังจะตาย” กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์มองหน้ากันและพูด
ตอนที่ 2541
“เกิดอะไรขึ้น? มันเป็นเพราะเห็ดอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นชี้เห็ดที่อยู่บนหัวของพวกเธอ
กู่ชิงเฉิงส่ายหัว “ฉันบอกนายไปแล้วว่าฉันไม่ใช่คนยุคสมัยปัจจุบัน ฉันเป็นผู้ใช้วิชาชี่กงจากสมัยอดีต”
“ถ้าอย่างนี้พวกเธอกำลังตายเพราะหมดอายุขัยอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นตกใจ กู่ชิงเฉิงเหมือนกับเขา พวกเขาทั้งคู่เข้าไปในห้องควบคุมหลักของคริสตัลไลเซอร์ ในตอนที่กู่ชิงเฉิงออกมาจากห้องควบคุม เธอก็ถูกส่งไปยังหมื่นปีเหนือยุคสมัยที่เธอเกิด เธอเข้ามาในโลกที่แตกต่างไปจากโลกที่เธอรู้จัก
ถ้าพวกเขาคำนวณเวลาที่ผ่านไป ขณะที่เธออยู่ในห้องควบคุมของคริสตัลไลเซอร์ กู่ชิงเฉิงก็ควรจะตายไปนานแล้ว
กู่ชิงเฉิงพยักหน้า หลังจากนั้นเธอก็ส่ายหัว “มันเป็นเพราะอายุขัยของฉัน แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด มันไม่ได้เป็นเพราะฉันเข้าไปในห้องควบคุมของคริสตัลไลเซอร์”
“ถ้าอย่างนั้น มันเป็นเพราะอะไร?” หานเซิ่นถามด้วยความเป็นห่วง
กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์มองหน้ากัน หลังจากนั้นจันทราสวรรค์ก็พูดขึ้นมา
“มันเป็นเพราะข้า”
หานเซิ่นหันไปทางจันทราสวรรค์และไม่ได้พูดอะไร เขารอให้เธอพูดต่อไป เขายังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
จันทราสวรรค์ดูสับสน เธอไม่แน่ใจว่าจะพูดอย่างไรดี กู่ชิงเฉิงจึงพูดขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นให้ฉันเป็นคนอธิบาย”
หานเซิ่นหันกลับไปที่กู่ชิงเฉิง ยิ่งเวลาผ่านไปเขาก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อนานมาแล้ว เขาสนใจในความสัมผัสระหว่างกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ กู่ชิงเฉิงเป็นมนุษย์จากสมัยโบราณ และเธอยังเป็นปรมาจารย์ชี่กง ส่วนจันทราสวรรค์เป็นสปิริตที่อยู่ภายในก็อตแซงชัวรี่ เผ่าพันธุ์ของพวกเธอนั้นแตกต่างกัน แต่พวกเธอดูเหมือนกันไม่มีผิด ดังนั้นหานเซิ่นจึงสงสัยเกี่ยวกับความสัมผัสของพวกเธอ
“ฉันฝึกวิชาชี่กงที่มีชื่อว่าภาพแฟรี่แห่งดาบ” กู่ชิงเฉิงพูด
“จากทฤษฎีสมัยโบราณของวิชาชี่กง ผู้ฝึกมองดูตัวเองและให้กำเนิดเทพที่กลายเป็นภาพแฟรี่แห่งดาบ โดยผ่านทางนี้คนๆนั้นก็จะปลดล็อควิถีแฟรี่แห่งดาบ”
“จันทราสวรรค์ก็คือภาพแฟรี่แห่งดาบของเธออย่างนั้นหรอ? เธอสร้างจันทราสวรรค์ขึ้นมา?” หานเซิ่นมองไปที่กู่ชิงเฉิงด้วยความแปลกใจ
กู่ชิงเฉิงส่ายหัว “จันทราสวรรค์เป็นสปิริตและเธอก็พิเศษมากๆ เนื่องจากอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง พวกเราทั้ง 2 จึงถูกรวมเข้ากับภาพแฟรี่แห่งดาบของฉัน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ชะตากรรมของพวกเรากลายเป็นอะไรที่เกี่ยวพันกัน”
หานเซิ่นมองไปที่กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ เขาไม่แน่ใจว่าอุบัติเหตุแบบไหนที่เธอพูดถึง แต่มันต้องเป็นอุบัติเหตุใหญ่ถึงทำให้ปรมาจารย์ชี่กงคนหนึ่งเชื่อมต่อกับสปิริตคนหนึ่งได้
“ข้าบอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือว่าข้าแตกต่างจากสปิริตธรรมดาๆ? ข้าเคยบอกเจ้าว่าสปิริตสโตนของข้าไม่ได้อยู่ในรูปปั้นสปิริตและข้าเก็บมันเอาไว้กับตัวแทน แต่จริงๆแล้วข้าโกหกเจ้า สปิริตสโตนของข้าได้รวมกับนางไปเรียบร้อยแล้ว” จันทราสวรรค์ชี้ไปที่กู่ชิงเฉิง
“นั่นเกี่ยวข้องกับการที่เธอหมดอายุขัยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
กู่ชิงเฉิงพยักหน้า “สถานการณ์ของพวกเราค่อนข้างซับซ้อน ฉันเป็นมนุษย์ที่รวมกับสปิริตสโตนของสปิริต มันทำให้จิตวิญญาณของฉันแข็งแกร่งมากๆ และฉันยังได้รับร่างกายชนิดเดียวกันกับสปิริตมา ฉันเอาสปิติตสโตนของจันทราสวรรค์มา ขณะที่เธอดึงพลังจากภาพแฟรี่แห่งดาบของฉัน เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายของเธอก็เปลี่ยนแปลง พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน แต่มันก็ไม่ใช่ซะทีเดียว”
“ในตอนที่พวกเราวิวัฒนาการออกไปยังสหพันธ์ ร่างกายของพวกเราก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ ในตอนนั้นการเชื่อมต่อของพวกเราก็ถูกตัดขาด ในตอนแรกพวกเราคิดว่าผลกระทบที่มีต่อกันจะจบลง แต่หลังจากผ่านไปสักพัก พวกเราก็พบว่าการเชื่อมต่อกันของพวกเรานั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มันแข็งแรงยิ่งกว่าก่อนที่พวกเราจะวิวัฒนาการ”
จันทราสวรรค์ดูหดหู่ “เมื่อพวกเราเข้ามาในจักรวาล เรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบที่ใหญ่หลวงต่อร่างกายของพวกเรา พวกเราเริ่มจะเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วมากๆ พวกเราดีใจกับเรื่องนี้ แต่หลังจากนั้นพวกเราก็ค้นพบว่าความเปลี่ยนแปลงนี้เร่งอายุขัยของพวกเราให้เร็วขึ้นเช่นกัน”
สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป “พวกเธอจะบอกว่าพวกเธอจะแก่ตัวอย่างรวดเร็วมากๆอย่างนั้นหรอ?”
“ทำนองนั้น ฉันไม่แน่ใจว่ามันทำงานยังไง แต่จากความเร็วที่พวกเราก้าวหน้า อย่างมากพวกเราก็เหลือเวลาอีกแค่หนึ่งปี อย่างเลวร้ายพวกเราก็มีเวลาอีกไม่กี่เดือน” กู่ชิงเฉิงพูด
“พวกเธอพบหนทางที่จะหยุดเรื่องนี้แล้วอย่างนั้นหรอ?” เมื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เป่าเอ๋อพูด หานเซิ่นก็พอจะคาดเดาได้
กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์พยักหน้า จันทราสวรรค์พูด “พวกเราได้พยายามหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้มาสักพักแล้ว และพวกเราก็ได้ทำการทดสอบหลายอย่าง พวกเราพบว่าจำเป็นต้องรวมกันเป็นหนึ่ง ตราบใดที่พวกเรายังแยกจากกัน ผลกระทบนี้ก็จะไม่หายไป มันมีข้อบกพร่องในยีนของพวกเรา และข้อบกพร่องนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราแก่ขึ้นอย่างรวดเร็ว มันผลักดันให้พวกเราพัฒนาอย่างรวดเร็วเกินไป”
กู่ชิงเฉิงพูดต่อ “หนทางเดียวที่จะกำจัดข้อบกพร่องนี้ก็คือฉันและจันทราสวรรค์ต้องกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน แบบนั้นพวกเราจะซ่อมแซมยีนที่บกพร่องของพวกเราได้ เมื่อพวกเราสมบูรณ์ พวกเราก็จะมีอายุขัยเหมือนกับมนุษย์ปกติ”
“พวกเธอจะรวมกันและกลายเป็นคนๆเดียวได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ด้วยความสับสน
ในขณะที่จันทราสวรรค์ยังคงเป็นสปิริต หานเซิ่นพอจะนึกภาพว่าเธอสิงกู่ชิงเฉิงได้ แต่ตอนนี้พวกเธอทั้งคู่มีร่างกายของตัวเอง หานเซิ่นไม่สามารถเชื่อได้ว่าพวกเธอจะยังรวมกันเป็นหนึ่งได้
“ข้าหวังว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ แต่พวกเราพบว่ามันเป็นไปได้ แต่นั่นหมายความว่าพวกเราจะกลายเป็นคนๆเดียว และบุคลิกภาพของพวกเราก็จะถูกผสานเข้าด้วยเช่นกัน” จันทราสวรรค์ดูกลุ้มใจ
ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจถึงต้นเหตุของความขัดแย่งกันระหว่างพวกเธอแล้ว ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่มีอารมณ์ความรู้สึก ไม่มีใครต้องการเป็นส่วนหนึ่งของคนอีกคน พวกเธอต้องการเป็นตัวของตัวเอง
แต่ตอนนี้พวกเธอต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ไม่อย่างนั้นพวกเธอจะตาย มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ขณะที่หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับความขัดแย้งของพวกนาง เขาก็รู้สึกตัวว่าพวกเธอต่อสู้กันเพื่อจะตัดสินว่าระหว่างพวกเธอใครจะเป็นคนควบคุมร่างกาย
แต่ความจริงนั้นโหดร้ายกว่าที่หานเซิ่นคิด กู่ชิงเฉิงพูดอย่างเย็นชา
“พวกเรายังพบอีกตัวเลือกหนึ่ง พวกเราไม่จำเป็นต้องรวมบุคลิกภาพของพวกเราเข้าด้วยกัน อีกตัวเลือกหนึ่งก็คือให้อีกคนตายไป แบบนั้นร่างกายที่ไร้วิญญาณก็จะรวมกับร่างกายของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าพวกเราทำแบบนั้นมันก็จะมีเพียงแค่บุคลิกภาพเดียว มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องผสมผสานกัน”
หานเซิ่นตกใจ เขาจ้องไปที่กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์อย่างตกตะลึง เขาไม่ได้คาดคิดว่านี่ก็เป็นทางออกทางหนึ่ง
“นี่พวกเธอจะทำแบบนี้จริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถอนหายใจ ในสกานการณ์แบบนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะแนะนำจันทราสวรรค์และกู่ชิงเฉิงยังไง
“พวกเราไม่ต้องการทำแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางออกอื่นอีกแล้ว ถ้าพวกเราคนใดคนหนึ่งจะต้องตาย ข้าก็ขอเป็นคนที่มีชีวิตรอด” จันทราสวรรค์พูด
“ถึงแม้พวกเราจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว บุคลิกภาพของพวกเธอก็อาจจะไม่ผสมกันก็เป็นได้” หานเซิ่นพูด
“ไม่ พวกมันจะผสมกัน พวกเราเคยลองมันมาก่อน” จันทราสวรรค์ส่ายหัวด้วยความมั่นใจ
“ยังไงกัน?” หานเซิ่นถามด้วยความสงสัย
จันทราสวรรค์และกู่ชิงเฉิงไม่พูดอะไร พวกเธอมองหน้ากัน หลังจากนั้นหานเซิ่นก็อ้าปากกว้าง จันทราสวรรค์และกู่ชิงเฉิงเดินเข้าไปหากันและเมื่อใบหน้าของพวกเธอถูกดึงเข้าใกล้กัน พวกเธอก็ประกบริมฝีปากกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น