Super God Gene 2534-2538
ตอนที่ 2534
รอยัลไนท์ทั้งหมดเรียงแถวกันและล้อมลูกตาขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนกับอัญมณีสีฟ้าเอาไว้ มันใหญ่โตเหมือนดวงจันทร์ ถึงแม้อัศวินแต่ละคนจะมีอาณาเขตแห่งราชันที่ทรงพลัง แต่อัศวินส่วนใหญ่ยังไม่ได้ใช้พลังของพวกเขา
พวกเขาแยกตัวกันเป็นทีมๆ และทุกทีมจะมีผู้นำคนหนึ่ง ภายใต้คำสั่งของผู้นำ เหล่าอัศวินจะปลดปล่อยพลังอาณาเขตของพวกเขาออกมาทีละคน รูปขบวนของพวกเขาเป็นไปอย่างไหลรื่นและมันไม่มีข้อบกพร่องเลยแม้แต่น้อย เหล่าอัศวินทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีราวกับเครื่องจักร
หานเซิ่นได้ให้บับเบิลลอกเลียนแบบรูปลักษณ์ของเขาและเล่นหมากรุกกับหลี่เคอเอ๋อ ขณะที่เขาแอบมายังสนามต่อสู้ เขาซ่อนตัวอยู่ระหว่างดาวเคราะห์น้อยเพื่อที่จะมองดูการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้น
หานเซิ่นรู้สึกชื่นชมพวกเขา ในเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงมียอดฝีมืออยู่เป็นจำนวนมาก และพวกเขาก็มีพลังทุกรูปแบบ
รอยัลไนท์มีอัศวินที่สามารถใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นได้ถึง 2 คน ขณะที่เดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันต้องใช้เวลายาวนานกว่าจะหาได้สักคน
พลังของอัศวินแต่ละคนถูกใช้งานเป็นอย่างดี พวกเขากักขังลูกตาอัญมณีสฟ้าขนาดใหญ่ยักษ์เอาไว้ในวงล้อม และไม่ว่าลูกตาอัญมณีสีฟ้าจะปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมาสักกี่ครั้ง มันก็ไม่สามารถฝ่าวงล้อมออกมาได้ มันไม่สามารถทำอะไรสมาชิกของรอยัลไนท์ได้
ไป๋ว่านเจียลอยตัวอยู่ด้านข้างขณะที่มองดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้น เขาไม่ได้เข้าไปร่วมในการต่อสู้จริงๆ แต่หานเซิ่นสังเกตว่าผู้นำของอัศวินแต่ละทีมดูเหมือนจะมีหัวใจอยู่ ชายคนนั้นกำลังใช้หัวใจของเขาเพื่อสั่งการอัศวินทุกคน และนั่นเหตุผลที่รูปขบวนของพวกเขาเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
“แข็งแกร่งจริงๆ อัจฉริยะของเอ็กซ์ตรีมคิงแข็งแกร่งเกินไปเมื่อเทียบกับอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์อื่น ระดับราชันคนไหนที่ปลุกร่างกายแห่งราชันของตัวเองให้ตื่นขึ้นมาได้นั้นมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นระดับเทพเจ้า ซึ่งเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์ชั้นสูงอื่นที่ต้องฝึกเป็นเวลายาวนานแล้ว การมีร่างกายแห่งราชันนั้นเหมือนกับการใช้สูตรโกง” หานเซิ่นถอนหายใจ
แต่ทว่าในการต่อสู้ครั้งนี้ ถึงแม้เหล่าอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงจะปิดล้อมซีสกายอายเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายกับมันได้
ซีสกายอายเต้นระบำและปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมา ถึงมันจะไม่สามารถหนีจากวงล้อมของอัศวินได้ แต่ศัตรูก็ไม่สามารถทำร้ายมันได้เช่นกัน
หานเซิ่นยังคงมองดูการต่อสู้ดำเนินต่อไป เหตุผลที่อัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงไม่สามารถทำอะไรซีสกายอายได้นั่นเป็นเพราะซีสกายอายมีวิชาดวงตาที่พิเศษอย่างหนึ่ง
ไม่สำคัญว่าการโจมตีของอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงจะซับซ้อนเพียงใดหรือพวกเขาจะร่วมมือกันได้สมบูรณ์แบบมากแค่ไหน ซีสกายอายก็ป้องกันการโจมตีของพวกเขาได้ทั้งหมด มันไม่ปล่อยให้พลังอะไรมาถูกตัวของมันได้
‘ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป รอยัลไนท์จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้’ หานเซิ่นคิด
เพราะยังไงซะซีสกายอายก็ปัดป้องการโจมทีทั้งหมดของรอยัลไนท์ได้อย่างง่ายดาย แต่เหล่าอัศวินจะป้องกันการโจมตีของซีสกายอายได้อย่างยากลำบากเมื่อเทียบกันแล้ว การใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นแบบเป็นกลุ่มนั้นเป็นอะไรที่ใช้พลังงานสูงมากๆ และหลังจากที่ใช้ไม่กี่ครั้งผู้ใช้จะเริ่มเหนื่อยล้า
“ไป๋ว่านเจียคงจะต้องมีไพ่ตายซ่อนอยู่แน่” หานเซิ่นยังคงซ่อนตัวและไม่มีแผนจะทำอะไรในตอนนี้ เขาแค่มองดูการต่อสู้ต่อไป
หานเซิ่นอยู่ไกลออกไป แต่เขามีวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงและกล้องปืนไรเฟิลของมนตราอยู่ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงมองเห็นการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน ขณะที่มองดูอยู่นั้นเขาก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย
“ไม่รู้เลยว่าพลังธาตุน้ำแข็งจะใช้แบบนั้นได้ด้วย… และนั่นคงจะเป็นอาณาเขตโลหะ…” ในขณะที่หานเซิ่นมองดูการต่อสู้ด้วยความสนใจ ทันใดนั้นซีสกายอายก็สว่างขึ้นมา ซีสกายอายที่เหมือนกับดวงจันทร์เรืองแสงสว่างไสว และตอนนี้มันดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมา
แสงสีฟ้าส่องออกไปพร้อมกับโซ่สสารของมัน และทำลายอาณาเขตของเหล่าอัศวินอย่างง่ายดาย พวกเขาไม่สามารถหยุดมันได้ เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว รอยัลไนท์ทั้งร้อยคนกำลังจะถูกฆ่าตาย
ในที่สุดไป๋ว่านเจียที่มองดูการต่อสู้อยู่ก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาถือไม้เท้าที่ดูเหมือนกับทองคำขาวอยู่ในมือ ลูกบอลคริสตัลติดอยู่บนปลายสุดของไม้เท้า และเมื่อไป๋ว่านเจียยกไม้เท้าขึ้น ลูกคริสตัลก็เริ่มส่องแสงออกมา มันปลดปล่อยโซ่สสารที่โปร่งใสออกมาปกคลุมรอยัลไนท์ทุกคนเอาไว้
เมื่อแสงสีฟ้าของซีสกายอายมาถูกกับชั้นผิวคริสตัล แสงนั่นก็หายไป มันไม่สามารถเจาะทะลุชั้นคริสตัลได้
“ไม้เท้านั่นคืออะไรกัน? ทำไมมันถึงได้มีพลังมากขนาดนั้น?”
หานเซิ่นตกใจ ไป๋ว่านเจียเป็นเพียงแค่ครึ่งเทพ ถึงแม้เขาจะใช้อาวุธระดับเทพเจ้า แต่เขาก็ไม่ควรจะสร้างโซ่สสารของระดับเทพเจ้าได้ แต่ตอนนี้ไป๋ว่านเจียกำลังใช้ไม้เท้านั่นปกป้องรอยัลไนท์ทุกคนจากการโจมตีของซีสกายอาย
“โจมตี!” ไป๋ว่านเจียยกไม้เท้าขึ้น โซ่สสารที่โปร่งใสยังคงปกคลุมเหล่าอัศวินขณะที่พวกเขาพุ่งไปข้างหน้า ทันใดนั้นพวกเขาก็ไม่หวาดกลัวต่อพลังของซีสกายอายอีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดป้องกันตัวเองและโฟกัสไปที่การโจมตีเพียงอย่างเดียว
ซีสกายอายดูโกรธมาก แสงสีฟ้าที่มันปล่อยออกมานั้นเจิดจ้าอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นซีสกายอายก็ไม่สามารถเจาะทะลวงการป้องกันของโซ่สสารที่โปร่งใสได้
ในที่สุดพลังของเหล่าอัศวินก็ไปถึงตัวซีสกายอาย แต่พวกมันไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก มันแทบจะไม่สร้างความเสียหายกับซีสกายอาย
หานเซิ่นใช้ปืนไรเฟิลเล็งไปที่ไป๋ว่านเจีย ร่างกายของชายคนนั้นปลดปล่อยแสงสีขาวออกมา ไม้เท้านั้นดูดแสงของเขาเข้าไป หลังจากนั้นมันก็ปลดปล่อยโซ่สสารที่โปร่งใสออกมา
‘แปลกจริงๆ ไป๋ว่านเจียใช้พลังของตัวเองเป็นเชื่อเพลิงให้กับไม้เท้า แต่เห็นได้ชัดว่าเขาปลดปล่อยพลังที่เหนือกว่าที่ครึ่งเทพจะทำได้ ในความถี่ดูดพลังของไม้เท้า แม้แต่ดราก้อนวันก็คงจะทนได้เพียงไม่กี่วินาที แต่ไป๋ว่านเจียใส่พลังเข้าไปได้อย่างต่อเนื่อง และเขาก็ยังดูไม่เหนื่อยล้าเลย นี่มันไม่ปกติ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ใบหน้าของไป๋ว่านเจียดูซีดไปเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้กำลังจะหมดสติ
ขณะที่หานเซิ่นมองดูไป๋ว่านเจีย มันก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับซีสกายอาย
ตอนที่ 2535
ซีสกายอายดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าแสงสีฟ้าของมันไม่สามารถฆ่าเหล่าอัศวินได้ แต่มันยังคงปลดปล่อยออกมาเรื่อยๆ มันอาบแสงสีฟ้าด้วยพลังที่มากยิ่งกว่าเดิม เมื่อโซ่สสารที่ออกมาจากซีสกายอายดูเหมือนจะถึงขีดสุด จู่ๆร่างกายของซีสกายอายก็ดูเข้มขึ้นมา วังวนสีฟ้าขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นรอบตัวของมันและเริ่มจะดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป
เหล่าอัศวินปลดปล่อยพลังของพวกเขาไปใส่วังวนสีฟ้าเพื่อพยายามจะหยุกการดูดของมัน แต่ความพยายามของพวกเขานั้นไร้ประโยชน์ แม้แต่อัศวินระดับครึ่งเทพก็ไม่สามารถต้านแรงดูดของวังวนได้ ภายใต้แรงดูดที่น่ากลัวนั้นพวกเขาเริ่มถูกดึงไปข้างหน้า
ขณะที่เหล่าอัศวินกำลังถูกดูดเข้าไปหาวังวนสีฟ้า ทันใดนั้นไป๋ว่านเจียก็ตะโกนขึ้นมา “ไนท์แมร์ ตอนนี้แหละ!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของไป๋ว่านเจีย อัศวินไนท์แมร์ก็นำเอาสิ่งของอย่างหนึ่งออกมา หานเซิ่นปรับลำกล้องเพื่อที่จะมองมันชัดๆและเห็นว่าสิ่งที่อยู่ในมืออัศวินคนนั้นดูเหมือนกับรูปปั้นเก่าๆ
รูปปั้นนั้นดูคุ้นเคยสำหรับหานเซิ่น หลังจากผ่านไปหนึ่งวินาที เขาก็นึกออกว่ามันคืออะไร
“รูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อต?” หานเซิ่นตกใจ
รูปปั้นระเบิดด้วยแสงสว่าง หลังจากที่อัศวินคนนั้นนำมันออกมา แสงนั่นสร้างเงาปริศนาเพื่อเป็นโล่ให้กับอัศวินไนท์แมร์และยังเสริมพลังให้กับเขาชั่วคราว โซ่สสารสีฟ้าปรากฏออกมารอบร่างกายของอัศวินไนท์แมร์
รูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อตนี้ต่างไปจากรูปนี้ที่หานเซิ่นเคยเห็น รูปปั้นนี้มอบพลังโลหะให้กับผู้ใช้
อัศวินไนท์แมร์ไม่มัวลังเล เมื่อเขาได้รับพลังโลหะจากรูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อต เขาก็นำหอกโลหะเล่มหนึ่งออกมา หานเซิ่นเห็นว่าหอกเล่มนั้นประดับด้วยสัญลักษณ์ประหลาด ขณะที่พลังโลหะไหลเข้าไปในตัวอัศวินไนท์แมร์ สัญลักษณ์บนหอกก็สว่างไสวขึ้นมา โซ่สสารโลหะหมุนวนรอบหอกและเปลี่ยนหอกเป็นเสาโลหะลึกลับ
อัศวินไนท์แมร์คำรามและแทงเสาโลหะลึกลับเข้าใส่วังวนสีฟ้า
“รูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อตและสมบัติระดับเทพเจ้า? เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนี่ร่ำรวยจริงๆ!”
หานเซิ่นไม่กระพริบตา เขาจับจ้องไปที่ซีสกายอายและเสาโลหะลึกลับ เขาอยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
เสาโลหะลึกลับนั่นดูเหมือนอาวุธของเทพยุคโบราณ เมื่อเสาโลหะสัมผัสกับวงวัน พลังดูดของวังวนก็ดูจะลดน้อยลงไป
เสาโลหะแทงลึกเข้าไปในวังวนมากขึ้นเรื่อยๆ และพลังสีฟ้าก็เริ่มจะเฉิดฉายอย่างแปลกประหลาด มันเหมือนกับมีพลังฝ่าลงมาใส่เสาโลหะเป็นชุด แต่การโจมตีของซีสกายอายไม่สามารถทำลายเสาโลหะได้ รอยร้าวเริ่มแพร่กระจายผ่านอวกาศรอบวังวนสีฟ้า และทุกครั้งที่เสาโลหะจมลงไปในวังวนอีกหนึ่งนิ้ว หนึ่งในโซ่สสารของซีสกายอายก็ขาด
ซีสกายอายดูเหมือนจะรู้สึกตัวว่ามีบางสิ่งไม่ปกติ มันต้องการจะถอยออกไป แต่มันสายเกินไปแล้วที่จะทำแบบนั้น เสาหินโลหะยับยั้งแรงดูดของวังวนและล็อคซีโน่เจเนอิคเอาไว้กับที่ ซึ่งเสาโลหะก็แทงผ่านการป้องกันของซีสกายอายอย่างไม่ลดละ
หานเซิ่นคิดว่าซีสกายอายคงจะไม่รอด และเมื่อเวลามาถึงแล้ว เขาก็รีบเรียกวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองออกมา ด้วยวิญญาณอสูรใหม่นี้เขาก็ตรงเข้าไปหาซีสกายอาย
หลังจากที่หานเซิ่นบินไปได้เพียงไม่นาน มันก็มีบางสิ่งเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง วังวนสีฟ้าที่หมุนเหมือนกับน้ำวนกลายเป็นน้ำแข็ง และมันก็แช่แข็งเสาโลหะเอาไว้ภายใน
จากระยะไกล มันดูเหมือนแท่งดินสอโลหะทียื่นออกมาจากลูกตาสีฟ้า มันเป็นภาพที่น่าขนลุก
“พวกเจ้าทั้งหมด! ปลดปล่อยพลังเพื่อดันเสาเข้าไปข้างใน พวกเราจำเป็นต้องใช้มันเพื่อปราบซีสกายอาย!” ไป๋ว่านเจียตะโกนออกคำสั่งใหม่
รอยัลไนท์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาทุกคนปลดปล่อยพลังไปที่ปลายของเสาโลหะเพื่อดันมันเข้าไป และด้วยแรงระเบิดของพลังใหม่นี้ พวกเขาก็ดันเสาโลหะลึกเข้าไปในลูกตาสีฟ้า
ขณะที่เสาโลหะถูกดันลึกเข้าไปเรื่อยๆ รอยร้าวก็ปรากฏขึ้นบนลูกตาสีฟ้าและเริ่มจะแพร่ขยายออกไป ซีสกายอายดูอ่อนแอขึ้นเรื่อยๆและมันกำลังจะแตกสลาย
ดวงตาของไป๋ว่านเจียเป็นประกาย เมื่อเขาเห็นว่าซีสกายอายกำลังอ่อนแรง
พวกเขาต้องสังเวยสมบัติที่ล้ำค่าไปเพื่อชัยชนะในครั้งนี้ พวกเขาต้องใช้พลังของรูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อต เสาสกายก็อตและไม้เท้าเอ็มเพอร์เรอร์ฃถึงจะทำได้สำเร็จ เสาสกายก็อตและไม้เท้าเอ็มเพอร์เรอร์นั้นสามารถนำมาใช้อีกครั้งได้ แต่รูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อคเป็นสิ่งที่ใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว
และเนื่องจากเขาใช้ไม้เท้าเอ็มเพอร์เรอร์ ทำให้พลังของร่างกายแห่งราชันของเขาถูกเผาผลาญไปจำนวนมาก เขาได้ใช้พลังของร่างกายแห่งราชันเพื่อเปิดใช้งานไม้เท้าเอ็มเพอร์เรอร์ และการใช้มันเป็นเวลานานก็เป็นอะไรที่ใช้พลังงานจำนวนมาก เขาจะต้องพักอีก 2 ปีก่อนที่จะฟื้นกำลังกลับมา
แต่ตราบใดที่เขาได้ยีนซีโน่เจเนอิคของซีสกายอาย มันก็เป็นอะไรที่คุ้มค่า
ขณะที่ไป๋ว่านเจียกำลังตื่นเต้นกับความสำเร็จ แสงสีทองก็แว็บผ่านเขาไป และมีร่างกายสีทองปรากฏขึ้นด้านหลังของเสาสกายก็อต
“ขุนพลเกราะทอง! ทำไมขุนพลเกราะทองถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” สมองของไป๋ว่านเจียไม่สามารถประมวลผลถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้
รอยัลไนท์ทั้งหมดตกตะลึงเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าทำไมขุนพลเกราะทองถึงมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไง
การจะปิดชีวิตของซีสกายอายใช้พลังของพวกเขาจนหมด และตอนนี้ขุนพลเกราะทองก็ปรากฏตัวมาจากที่ไหนไม่รู้ พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี
ตูม!
ก่อนที่พวกเขาจะตอบสนองอะไรได้ ขุนพลเกราะทองก็ทุบใส่เสาสกายก็อตและดันมันลึกเข้าไปในซีสกายอายจนทะลุออกไปอีกด้าน
“คอร์ซีโน่จแนอิคซีสกายอายระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
เมื่อเสียงประกาศดังขึ้นในหัว หานเซิ่นก็รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้รับวิญญาณอสูร
แต่หานเซิ่นไม่หยุดมือ เขาขับขุนพลเกราะทองเข้าไปในรูขนาดใหญ่ที่เกิดจากเสาสกายก็อต ขณะที่เขาบินเข้าไป เขาก็เห็นลูกตาสีฟ้าที่มีขนาดพอๆกับกำปั้น เขาคว้ามันมาในมือขณะที่บินผ่านร่างของซีสกายอายไป
เมื่อขุนพลเกราะทองออกมาจากอีกด้านหนึ่งของซีสกายอาย ร่างของซีโน่เจเนอิคขนาดใหญ่ยักษ์ก็เริ่มจะแตกสลายกลายเป็นน้ำแข็งสีฟ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อย
หานเซิ่นรีบคว้าเสาสกายก็อตที่พลังเริ่มจางหายไปและกลับสู่สภาพหอกดังเดิม หลังจากนั้นเขาก็รีบหนีไปจากที่นั่นด้วยความเร็วสูงสุด
ไป๋ว่านเจียและรอยัลไนท์ทั้งหมดได้แต่มองผ้าคลุมสีเลือดที่ปลิวไสวอยู่ด้านหลังขุนพลเกราะทอง ซึ่งกำลังบินหายไปจากสายตาของพวกเขา
“ขุนพลเกราะทองขโมยเสาสกายก็อตและคอร์ยีนของซีสกายอายไป”
เมื่อรู้สึกตัว ไป๋ว่านเจียก็รู้สึกโกรธจนเกือบจะกระอักเลือดออกมา เขาต้องการจะไล่ตามขุนพลเกราะทองไป แต่มันสายเกินไปแล้ว ขุนพลเกราะทองกำลังจะลับสายตาของพวกเขาไป
ตอนที่ 2536
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ไป๋ว่านเจียรู้สึกโกรธ แต่ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกสับสน
ขุนพลเกราะทองถูกฆ่าตายโดยดอลลาร์และดราก้อนวัน แล้วทำไมจู่ๆมันถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้? นอกจากนั้นมันยังขโมยยีนคอร์ซีสกายอายและเสาสกายก็อตไป
มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะมีซีโน่เจเนอิคชนิดเดียวกันอยู่หลายตัว แต่ถ้ามันมีขุนพลเกราะทองระดับเทพเจ้าตัวที่ 2 อยู่ในคอร์แอเรีย มันก็ต้องมีใครสักคนที่สังเกตเห็นถึงเรื่องนั้น
ไป๋ว่านเจียคิดถึงความเป็นเพียงอย่างเดียว ถึงแม้มันยากจะเชื่อได้ แต่เขาก็ไม่สามารถคิดหาคำอธิบายอื่นสำหรับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นได้
“ดอลลาร์? ดอลลาร์อยู่ที่ไหนกัน?”
…
หลี่เคอเอ๋ออ้าปากค้าง เธอไม่รู้ว่าหานเซิ่นไปที่ไหนหลังจากที่เขาแอบปลีกตัวออกไป แต่เธอสันนิษฐานว่าเขาคงจะตรงไปที่สนามต่อสู้ ด้วยเหตุนั้นเธอจึงจับตาดูการต่อสู้อย่างตั้งใจ การได้เห็นขุนพลปรากฏตัวออกมาสังหารซีสกายอายและขโมยเสาสกายก็อตไปนั้นทำให้เธอตกใจเช่นเดียวกัน
เธอรู้ว่าขุนพลเกราะทองถูกฆ่าโดยดอลลาร์ ดังนั้นการได้เห็นขุนพลเกราะทองปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งเป็นอะไรที่คาดไม่ถึง
แต่เธอคิดต่างจากไป๋ว่านเจีย หลี่เคอเอ๋อมองตามทิศทางที่ขุนพลเกราะทองหนีหายไป แต่เมื่อขุนพลเกราะทองบินออกไปจากสนามต่อสู้ เธอก็สูญเสียความสามารถที่จะสัมผัสถึงมัน เธอไม่รู้สึกถึงร่องรอยใดๆของมันเลย
“นั่นคือดอลลาร์อย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อรู้ว่าการปรากฏตัวของขุนพลเกราะทองต้องเกี่ยวข้องกับดอลลาร์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หลี่เคอเอ๋อมันใจว่ามันเป็นดอลลาร์ ก็เพราะเขาเป็นคนเดียวที่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกสัมผัสโดยเวรี่ไฮเซ้นส์ของเธอ นอกจากดอลลาร์แล้วหลี่เคอเอ๋อมั่นใจว่าไม่มีใครในคอร์แอเรียที่จะทำเรื่องแบบนั้นได้
ไม่นานหลังจากนั้น หลี่เคอเอ๋อก็เห็นว่าดอลลาร์ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอเบลอไปชั่วครู่ ถ้าเธอไม่ได้นั่งอยู่ตรงหน้าดอลลาร์ เธอก็คงจะไม่สังเกตด้วยซ้ำว่าร่างจริงของเขากลับมาแล้ว
หลี่เคอเอ๋อมองไปที่หานเซิ่นและตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำ ไป๋ว่านเจียก็เข้ามาล้อมพวกเขาด้วยเหล่ารอยัลไนท์
“ดอลลาร์ มอบยีนคอร์ซีสกายอายและเสาสกายก็อตคืนมา” ไป๋ว่านเจียพูดขณะที่มองไปที่หานเซิ่น
“องค์ชาย องค์ชายคงจะมาหาผิดคนแล้ว” หานเซิ่นเงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับชายคนนั้น
“มอบยีนคอร์ซีสกายอายและเสาสกายก็อตมาให้กับข้า และข้าจะทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมข้าจะยังเป็นหนี้บุญคุณเจ้า” ไป๋ว่านเจียพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
หานเซิ่นตอบกลับ “องค์ชาย ถึงข้าจะดีใจที่องค์ชายเป็นหนีบุญคุณ แต่ข้าไม่มียีนซีสกายอายหรือเสาสกายก็อตอะไรนั่น ข้ายังไม่เคยเห็นสิ่งที่องค์ชายพูดถึงด้วยซ้ำ”
ไป๋ว่านเจียจ้องมองไปที่หานเซิ่น เขาไม่แน่ใจว่าขุนพลเกราะทองเกี่ยวข้องกับดอลล่าร์จริงๆหรือเปล่า แต่เอ็กซ์ตรีมคิงลงทุนไปมากกับการฆ่าซีสกายอาย พวกเขาเสียไปแม้กระทั่งรูปปั้นแอนเชี่ยนท์ก็อต ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่สามารถกลับไปมือเปล่าได้
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มากับพวกเราและอธิบายสถานการณ์ให้คนของพวกเราฟัง” ไป๋ว่านเจียพูดขณะที่จ้องไปที่หานเซิ่น
“นี่เอ็กซ์ตรีมคิงของพวกเจ้าชอบใช้อำนาจกับคนอื่นมากถึงขนาดนั้นเลย? องค์ชาย องค์ชายให้คนบอกไม่ให้พวกเราเข้าไปใกล้สนามต่อสู้ ซึ่งข้าก็ทำตาม ตอนนี้ไม่เพียงแค่องค์ชายไม่ขอบคุณข้าในเรื่องนั้น แต่องค์ชายยังพยายามใส่ความว่าข้าขโมยของขององค์ชายไป นี่องค์ชายคิดว่าข้าเป็นคนยังไง?” เสียงของหานเซิ่นฟันดูหนาวเย็นและใบหน้าของเขาก็ดูถมึงทึง
ไป๋ว่านเจียได้พูดคุยกับครึ่งเทพ 2 คนที่สั่งให้คอยจับตาดูดอลลาร์แล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าที่ดอลลาร์พูดเป็นความจริง แต่ดอลลาร์เป็นคนที่ฆ่าขุนพลเกราะทอง และมันก็มาปรากฏตัวในสนามต่อสู้และขโมยยีนคอร์ซีสกายอายกับเสาสกายก็อตไป สถานการณ์ทั้งหมดเป็นอะไรที่ประจวบเหมาะเกินไป ซึ่งทำให้ไป๋ว่านเจียไม่เชื่อว่ามันไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับดอลลาร์
“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้าแค่อยากให้เจ้าช่วยสืบสวนเรื่องนี้ ได้โปรดทำเพื่อเอ็กซ์ตรีมคิงและมากับพวกเรา” ไป๋ว่านเจียลดเสียงลง แต่เขายังคงสงสัยในตัวดอลลาร์ และเขาก็จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ
ยังไงซะมันก็ยังมีเรื่องเยอะเกินไปที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับดอลลาร์ เขาคิดที่จะเอาชายปริศนาคนนี้กลับไปที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม
หลี่เคอเอ๋อรู้ว่ามันถึงเวลาที่เธอต้องพูดอะไรบางอย่าง ดอลลาร์ถูกดันจนถึงขอบ แต่ทั้งหมดที่เธอต้องทำก็คือเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอ ถ้าเธอทำ ไป๋ว่านเจียก็จะยอมถอยไป หลังจากนั้นดอลลาร์ก็จะรู้สึกประทับใจในตัวเธอและเป็นหนี้บุญคุณเธอ มันเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว
หลี่เคอเอ๋อหลี่ตาและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นหานเซิ่นก็หัวเราะออกมา
“ไป๋ว่านเจีย นี่เจ้าคิดว่าเผ่าพันธุ์อื่นทุกเผ่าเป็นเพียงแค่ทาสของเอ็กซ์ตรีมคิงหรือยังไง? เจ้าคิดว่าคนอื่นจะต้องทำตามสิ่งที่เจ้าสั่งอย่างนั้นหรอ? เจ้าหยิ่งยโสเกินไปหน่อยแล้ว”
“จักรวาลไม่ได้เป็นของพวกเรา แต่ในวันนี้เจ้าต้องมากับพวกเรา”
ไป๋ว่านเจียยังคงยืนปักหลักราวกับรูปปั้นและจ้องมองไปที่หานเซิ่น
อัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นกว่าเดิม พวกเขาสร้างรูปขบวนที่ปิดทุกเส้นทางหนีของหานเซิ่น เมื่อไหร่ก็ตามที่ไป๋ว่านเจียออกคำสั่ง พวกเขาก็จะใช้พลังใส่ดอลลาร์อย่างพร้อมเพรียงกัน ถึงแม้ดอลลาร์จะมีพลังที่จะต่อสู้กับยอดฝีมือระดับเทพเจ้า แต่พลังของพวกเขาร่วมกันก็มากพอที่จะสยบหานเซิ่น
หานเซิ่นยังคงนั่งอยู่ตรงหน้ากระดานหมากรุกและถือตัวหมากตัวหนึ่งในมือ เขาไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับเหล่ารอยัลไนท์และยังคงจดจ่ออยู่กับตาเดินตาต่อไป
“ดูเหมือนว่าข้าต้องบังคับให้เจ้ามากับพวกเรา” ไป๋ว่านเจียพูด
ก่อนที่เขาจะได้ออกคำสั่ง อัศวินไนท์แมร์ก็ได้ใช้อาณาเขตของเขาแล้ว อัศวินคนอื่นๆก็ปลดปล่อยอาณาเขตของพวกเขาออกมาตามๆกันและครอบคลุมหานเซิ่นกับหลี่เคอเอ๋อเอาไว้ พลังของอาณาเขตที่ซับซ้อนกันนั้นให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าโลกใบนี้กำลังจะถล่มลงมาใส่พวกเขา
‘นี่เป็นเรื่องดี ข้าจะไม่ช่วยดอลลาร์จนกระทั่งเอ็กซ์ตรีมคิงผลักดันเขาจนถูกขีดสุด แบบนั้นการช่วยเขาในวินาทีสุดท้ายจะเป็นอะไรที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น’ หลี่เคอเอ๋อยิ้มอยู่ในใจ
พลังอาณาเขตที่ทับซ้อนกันอยู่นั้นมากพอที่จะทำลายดวงดาวทั้งดวง แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ยังคงจดจ่ออยู่กับตาเดินต่อไป
อาณาเขตสีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว สีฟ้าและสีม่วงปกคลุมพวกเขาทั้ง 2 คน พลังธาตุลม ธาตุไฟ ธาตุสายฟ้าและธาตุน้ำ พลังทุกรูปแบบเข้าครอบงำพวกเขา การโจมตีนั้นพุ่งเข้ามาหาหานเซิ่นจะทุกทิศทุกทาง
แต่หานเซิ่นยังคงนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับไปไหน มันเหมือนกับว่าคลื่นยักษ์ของพลังที่กำลังเข้ามาไม่ได้มีตัวตนอยู่ หานเซิ่นขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดราวกับว่ากระดานหมากรุกที่อยู่ตรงหน้าสำคัญกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
หลี่เคอเอ๋อขมวดคิ้ว เมื่อเธอเห็นว่าหานเซิ่นยังไม่เคลื่อนไหว เธอก็ไม่รู้เลยว่าเขามีแผนที่จะทำอะไรกันแน่
ขณะที่คลื่นพลังกำลังจะซัดมาถึงตัว หานเซิ่นก็วางตัวหมากลงบนกระดาน เสียงของตัวหมากดังและชัดเจนขณะที่มันสัมผัสกับกระดานหมากรุก
เสียงกระทบนั้นฟังดูเหมือนกับการสับสวิตซ์ ในจังหวะที่ตัวหมากถูกวางลงบนกระดาน ไฟ ลม สายฟ้า น้ำ ดาบแสง มีดแสงและพลังอาณาเขตที่น่ากลัวอื่นๆดับสูญในพริบตา และการโจมตีทั้งหมดที่เข้ามาก็กลายเป็นเพียงแค่เงาที่เลือนหายไป
ตอนที่ 2537
ในจังหวะนั้นใบหน้าของไป๋ว่านเจียและรอยัลไนท์ซีดเผือก พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน โดยที่ไม่เคลื่อนไหวดอลลาร์ลบล้างพลังของยอดฝีมือระดับราชันและครึ่งเทพนับร้อยในชั่วพริบตา สิ่งที่เขาทำเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ
ใบหน้าของหลี่เคอเอ๋อเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน เธอไม่สามารถทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้ เธอได้แต่จ้องมองหานเซิ่นที่ยังคงนั่งเล่นหมากรุกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“วิชาไร้ศีลห้าม… เจ้าเป็นหนึ่งในเวรี่ไฮ!” ไป๋ว่านเจียพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ข้าไม่ใช่เวรี่ไฮ ข้าเป็นมนุษย์” หานเซิ่นพูดอย่างเรียบง่าย
ถึงแม้หานเซิ่นจะปฏิเสธ แต่ไป๋ว่านเจียก็ยังคงเชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ
“ถ้าเจ้าเป็นเผ่าเวรี่ไฮ นี่ก็อยู่เหนือความสามารถของข้าที่จะจัดการ แต่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะขอคำอธิบายจากผู้อาวุโสของเผ่าเวรี่ไฮ”
หลังจากนั้นไป๋ว่านเจียก็พาเหล่ารอยัลไนท์จากไป
หานเซิ่นรู้สึกสับสน เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนที่เขายกเลิกพลังของเหล่ารอยัลไนท์ เขาเพียงแค่ใช้อาณาเขตตงเสวียน เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับไป๋ว่านเจีย หลังจากที่ไป๋ว่านเจียประกาศว่าหานเซิ่นเป็นหนึ่งในเวรี่ไฮ ชายคนนั้นก็จากไปราวกับเด็กที่โกรธเคืองและขู่ที่จะฟ้องเรื่องของหานเซิ่นกับเผ่าเวรี่ไฮ
หลี่เคอเอ๋อไม่รู้ว่าเธอควรจะคิดยังไงกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เธอรู้สึกมึนงง เธอไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปได้ ไป๋ว่านเจียนั้นเชื่อว่าดอลลาร์เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ
มันมีเวรี่ไฮอยู่ที่นี่ก็จริง แต่เวรี่ไฮที่ว่านั่นคือหลี่เคอเอ๋อต่างหาก เธอรู้สึกค่อนข้างไม่พอใจที่ไป๋ว่านเจียสันนิษฐานว่าดอลลาร์เป็นเผ่าเวรี่ไฮ
‘แต่มันจะไปโทษไป๋ว่านเจียก็ไม่ถูก’ หลี่เคอเอ๋อคิดอย่างหดหู่
‘พลังที่ดอลลาร์ใช้นั้นคล้ายคลึงกับวิชาไร้ศีลธรรมของเวรี่ไฮ ถึงแม้พลังทั้ง 2 จะคล้ายคลึงกัน แต่พวกมันก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว’
หลี่เคอเอ๋อมีแผนที่จะเปิดเผยฐานะของตัวเองเพื่อสยบไป๋ว่านเจีย แต่ด้วยการสันนิษฐานว่าดอลลาร์เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮซะแอง มันก็ทำให้เธอที่เป็นเผ่าเวรี่ไฮที่แท้จริงพูดอะไรไม่ออก
ตอนนี้ถ้าเธอพูดออกไปว่าตัวเองเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ ผลลัพธ์ที่เธอคาดหวังว่าจะได้รับก็หายไปแล้ว หานเซิ่นจะไม่ติดหนี้บุญคุณอะไรเธอ
“เจ้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮอย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อถามขณะที่มองไปที่หานเซิ่น เธอแกล้งทำเป็นว่าเธอตกใจกับเรื่องนั้น
“ข้าไม่ใช่คนเผ่าเวรี่ไฮ ข้าบอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรอว่าข้าเป็นมนุษย์” หานเซิ่นพูดอย่างรำคาญ
หลี่เคอเอ๋อหัวเราะ “ถ้าเจ้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ เพียงแค่ชื่ออย่างเดียวก็จะทำให้ทุกคนตกใจ เวรี่ไฮนั้นเป็นเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่งในจักรวาล ถ้าข้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ ข้าก็จะภาคภูมิที่จะเผยมันออกมา”
“ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเวรี่ไฮ” หานเซิ่นพูด “ข้าเป็นมนุษย์และข้าก็ภาคภูมิกับมัน”
“พวกเราไปกันเถอะ” หานเซิ่นพูดและลุกขึ้นยืน
“มอบยีนคอร์ให้กับข้า” หลี่เคอเอ๋อยื่นมือของเธอออกมา
“ยีนคอร์อะไร?” หานเซิ่นแกล้งทำเป็นสับสนขณะที่เขามองไปที่หลี่เคอเอ๋อ
ถึงแม้เขาจะมียีนคอร์ซีสกายอายอยู่ เขาก็ลังเลที่จะมอบมันให้กับเธอ เขาสงสัยว่ามันจะคุ้มค่ากับส่วนสุดท้ายของกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจริงๆหรือเปล่า
นี่เป็นถึงวัตถุดิบหลักสำหรับการสร้างระบบป้องกันสกายอาย เขาคงจะหามันอีกอันไม่ได้
แถมมันยังมีความจริงที่เขาใช้วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองเพื่อขโมยยีนคอร์ของซีสกายอายอีก ถ้าเขามอบมันให้กับหลี่เคอเอ๋อ นั่นก็เท่ากับว่าเขายอมรับว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับขุนพลเกราะทอง ถ้าเรื่องนั้นไปถึงหูของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาก็คงจะมาตามล่าตัวดอลลาร์
ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่กลัวเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แต่มันไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องทำบางสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
หลี่เคอเอ๋อยิ้มและพูด “ถึงข้าจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก แต่ข้ามีสายตาที่แหลมคม และข้ายังเก่งในเรื่องการอ่านสถานการณ์ ข้าเห็นเจ้าควบคุมขุนพลเกราะทองเพื่อขโมยยีนคอร์ซีสกายอายและเสาสกายก็อต ข้ายังเห็นเจ้าออกมาจากขุนพลเกราะทอง นี่เจ้าจะผิดสัญญาที่ให้เอาไว้อย่างนั้นหรอ?”
แต่เธอแค่พูดข่มหานเซิ่นเท่านั้น แน่นอนว่าเธอไม่ได้เห็นหานเซิ่นออกมาจากขุนพลเกราะทอง
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ หลี่เคอเอ๋อควรจะกำลังเล่นหมากรุกอยู่ที่นี่อยู่ตลอด ถ้าเธอบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ได้ เธอก็คงจะรู้อะไรบางอบ่าง
แต่หานเซิ่นไม่เชื่อว่าเธอจะเห็นเขาออกมาจากขุนพลเกราะทองจริงๆ เขาได้ใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อล็อคฟันเฟืองจักรวาลรอบตัว ถ้าใครบางคนกำลังมองดูเขาอยู่จริงๆ เขาก็ควรจะรู้สึกตัวถึงมัน
แต่หลี่เคอเอ๋อเป็นคนฉลาด เมื่อเธอเห็นหานเซิ่นดูแปลกใจ เธอก็รู้ว่าตัวเองพูดถูก เธอมองหานเซิ่นด้วยความประหลาดใจและพูด
“ข้าแค่คาดเดาเท่านั้น มันเป็นเจ้าจริงๆหรือเนี่ย?”
หานเซิ่นยักไหล่เล็กน้อย เขาไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธ เขาแค่นำยีนคอร์ซีสกายอายออกมาและมอบมันให้กับเธอ
ถ้าหลี่เคอเอ๋อคาดเดาได้แบบนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปฏิเสธ ถึงแม้ยีนคอร์ซีสกายอายจะเป็นของดี แต่เขาก็ไม่รู้วิธีที่จะนำมันไปสร้างระบบป้องกันสกายอายอยู่ดี มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะถือครองมันเอาไว้
แถมหานเซิ่นก็สนใจในส่วนสุดท้ายของกาแล็กซที่เทเลพอร์ตเทชั่น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงตัดสินใจจะแลกเปลี่ยนกับหลี่เคอเอ๋อ
ถึงแม้หลี่เคอเอ๋อจะบอกคนอื่นว่าเขาเป็นคนที่ขโมยยีนคอร์ของซีสกายอาย มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาอะไรมากนัก เพราะยังไงซะมันก็ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วดอลลาร์เป็นใคร
“เจ้าทำแบบนั้นได้ยังไง? เจ้าควบคุมขุนพลเกราะทองได้อย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อถามขึ้นมา
“ส่วนสุดท้ายของกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นอยู่ที่ไหน? พวกเราจะทำการแลกเปลี่ยนพร้อมๆกัน” หานเซิ่นดึงมือกลับและไม่ปล่อยให้หลี่เคอเอ๋อเอายีนคอร์ซีสกายอายไป
หลี่เคอเอ๋อลังเลขึ้นมา จริงๆแล้วเธอไม่ได้สนใจอะไรในยีนคอร์ซีสกายอาย ของสิ่งนั้นสามารถใช้สร้างระบบป้องกันสกายอายแบบจำลองเท่านั้น มันไม่ได้มีพลังเท่ากับของจริง บางทีเอ็กซ์ตรีมคิงอาจจะสนใจในของแบบนั้น แต่เวรี่ไฮไม่มีความจำเป็นต้องใช้มัน
แต่ถ้าหลี่เคอเอ๋อไม่ทำการแลกเปลี่ยน พวกเขาก็อาจจะต้องแยกทางกัน และนั่นเป็นบางสิ่งที่หลี่เคอเอ๋อไม่ต้องการ
“ส่วนสุดท้ายเป็นอะไรที่ซับซ้อน เจ้ายังไม่สำเร็จส่วนแรกของกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นด้วยซ้ำ ดังนั้นเจ้าจะไม่เข้าใจมัน ถึงแม้ข้าจะบอกส่วนสุดท้ายกับเจ้า แต่นั่นไม่เป็นไร ข้ายังมีเวลา ดังนั้นข้าจะค่อยๆสอนเจ้า” หลี่เคอเอ๋อพูดและหัวเราะ
หลี่เคอเอ๋อไม่ได้ขอให้หานเซิ่นมอบยีนคอร์ซีสกายอายให้กับเธอ ซึ่งนั่นทำให้เขาสบายใจขึ้นมาหน่อย เขาพาหลี่เคอเอ๋อไปออกล่าซีโน่เจเนอิคกับเขาต่อ
ก่อนที่หานเซิ่นจะไปได้ไกล ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ก็บินเข้ามาหาพวกเขา เดียร็อบเบอร์ดูดีใจอย่างมากขณะที่พูดขึ้นมา
“ดอลลาร์ เจ้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮหรอเนี่ย! มิน่าล่ะ เจ้าถึงได้แข็งแกร่งนัก”
“ข้ากังวลมากเกินไป ถ้าเจ้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ มันก็ไม่สำคัญว่าไป๋ว่านเจียจะกล้าขนาดไหน เขาจะไม่กล้าแตะต้องเจ้าแม้แต่เส้นผม” ดราก้อนวันพูด
หานเซิ่นและหลี่เคอเอ๋อยิ้มแห้งๆออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่พวกเขาตอบสนองด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันอย่างมาก
ตอนที่ 2538
“ใครบอกพวกเจ้าว่าข้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน
หลี่เคอเอ๋อก็อยากจะถามเช่นกัน แต่เธอไม่มีโอกาส
“เจ้าเลิกปิดบังพวกเราได้แล้ว พวกเราได้ยินมาว่าเจ้าขโมยยีนคอร์ซีสกายอายและสมบัติระดับเทพเจ้ามาจากไป๋ว่านเจียก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรซะอีก” เดียร็อบเบอร์พูด
เผ่าดราก้อนถือเป็นพันธมิตรของเอ็กซ์ตรีมคิง แต่เผ่าพันธุ์ใหญ่ทั้ง 3 นั้นยังไม่เริ่มการต่อสู้กัน ดังนั้นดราก้อนวันไม่คิดจะทำอะไรคนเผ่าเวรี่ไฮ แถมในบรรดาเผ่าพันธุ์สูงสุดทั้ง 3 ชื่อเสียงของเวรี่ไฮนั้นเหนือกว่าเอ็กซ์ตรีมคิงซะอีก ดังนั้นเมื่อมันกลายเป็นเรื่องความเป็นความตาย มันก็ไม่มีใครคิดจะเป็นปรปักษ์กับเผ่าเวรี่ไฮ
“ข้าไม่ได้เป็นหนึ่งในเวรี่ไฮ ข้าเป็นมนุษย์ ข้าบอกเรื่องนี้ไปนานแล้ว” หานเซิ่นพูด
“พวกเราเข้าใจว่าเจ้าเป็นมนุษย์” ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์หันมามองหน้ากันราวกับกำลังส่งซิกบอกกัน
หานเซิ่นเห็นใบหน้าของพวกเขาและรู้สึกตัวว่าตัวเองอธิบายออกไปได้ไม่ดีพอ แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ไม่มีอารมณ์จะพูดเกี่ยวกับมันไปมากกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไรอีก
แต่ทางหลี่เคอเอ๋อรู้สึกอึดอัดอย่างมาก เธออยากจะบอกว่าดอลลาร์ไม่ได้เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ จริงๆแล้วเธอต่างหากที่เป็น แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดอะไรแบบนั้น
“ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?” หลี่เคอเอ๋อไม่รู้ว่าตัวเองมาตกอยู่ในสกานการณ์แบบนี้ได้ยังไง
ดอลลาร์บอกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ แต่ตอนนี้คนอื่นๆเชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ และคนของเผ่าเวรี่ไฮอย่างเธอก็ไม่สามารถอธิบายอะไรเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดได้
“ดอลลาร์ เจ้ามีเวลาไปล่าซีโน่จเนเอิคระดับเทพเจ้าร่วมกับข้าแล้วใช่ไหม? ข้าได้เตรียมวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์เอาไว้แล้ว” เดียร็อบเบอร์พูดกับหานเซิ่นด้วยท่าทางตื่นเต้น
ทางเดสทรอยเยอร์ไม่ค่อยพอใจนักที่ต้องใช้วิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์เป็นการแลกเปลี่ยน แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาเชื่อว่าดอลลาร์เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ ไม่เพียงแค่พวกเขาจะไม่รู้สึกแบบนั้นอีกต่อไป พวกเขายังรู้สึกเป็นเกียรติ
มันเหมือนกับการพูดว่า “พวกเจ้าเห็นนี่ไหม? แม้แต่เผ่าที่สูงส่งอย่างเวรี่ไฮก็ยังสนใจในวิชาจีโนที่พวกเราเดสทรอยเยอร์คิดค้นขึ้นมา พวกเขาต้องการจะศึกษาเกี่ยวกับเดสทรอยเยอร์ของพวกเรา พวกเจ้ารู้ถึงความสุดยอดของวิชาจีโนเผ่าเดสทรอยเยอร์แล้วใช่ไหม? พวกเรามีวิชาจีโนที่แม้แต่เผ่าเวรี่ไฮก็ยังสนใจ”
แน่นอนว่าทางเดสทรอยเยอร์ไม่ได้แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา พวกเขาแค่ยินดีที่จะทำการแลกเปลี่ยนโดยใช้วิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ แถมตอนนี้หานเซิ่นไม่ใช่แค่จะได้รับเพียงแค่ตัววิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์เท่านั้น ทางเดสทรอยเยอร์ยังจะมอบคู่มือและข้อมูลเกี่ยวกับวิชาจีโนให้เขาอีกด้วย
“แน่นอน พวกเราไปกันตอนนี้ได้เลย เอาสัญญาออกมาและมอบวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ให้ดราก้อนวันถือเอาไว้” หานเซิ่นพยักหน้า
เดียร็อบเบอร์ส่งกล่องที่เก็บวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์เอาไว้ให้กับหานเซิ่นตรงๆและพูด
“ข้าเชื่อในตัวเจ้า เจ้าเอาวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ไปก่อนล่วงหน้าได้เลย”
‘การถูกบอกว่าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮนี่มีประโยชน์กว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก…’ หานเซิ่นคิด เขารู้ว่าเดียร็อบเบอร์ยังคงเชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขากับหานเซิ่นแบบนี้ แต่มันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรมากนัก เพราะยังไงซะเขาก็ไม่ได้คิดจะผิดคำพูดของตัวเอง
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?’ หลี่เคอเอ๋อคิดอีกครั้ง การได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้ทำให้เธออยากจะร้องไห้
หานเซิ่นรับกล่องมาเปิดดู และเขาก็พบว่ามันมีคู่มือและข้อมูลของวิชาจีโนที่จะช่วยให้เขาฝึกวิชาจีโนได้ง่ายขึ้นติดมาด้วย
หานเซิ่นเปิดอ่านมันอย่างรวดเร็วและจดจำเนื้อหาทั้งหมดเอาไว้ เขาจะฝึกมันในตอนที่เขามีเวลา
แต่เนื่องจากความจริงที่ว่ามันเป็นวิชาจีโนเฉพาะของเผ่าเดสทรอยเยอร์ หานเซิ่นจึงไม่แน่ใจว่าจะฝึกมันได้ไหม
ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่เดียร็อบเบอร์ต้องการฆ่านั้นมีชื่อว่าบิ๊กอีวิลบีสต์ มันทั้งทรงพลังและรวดเร็วอย่างมาก แถมมันยังมีอาณาเขตที่จะทำให้คนที่อยู่ในอาณาเขตอ่อนแอลง แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าก็จะถูกลดลงมาเหลือระดับครึ่งเทพ ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีใครในคอร์แอเรียที่จะเอาชนะบิ๊กอีวิลบีสต์ได้
“ดอลลาร์ พวกเราจะฆ่าบิ๊กอีวิลบีสต์ได้ยังไง?” เดียร็อบเบอร์มีแผนของตัวเองและเขาจำเป็นต้องพึ่งพลังของดอลลาร์ แต่หลังจากที่ได้รู้ว่าดอลลาร์เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ เดียร็อบเบอร์จึงอยากจะฟังความคิดของหานเซิ่น
หานเซิ่นถาม “พวกเจ้ามีแผนที่จะสู้กับมันยังไง?”
“พวกเรามีแผนที่จะร่วมมือกันเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของบิ๊กอีวิลบีสต์ และให้เจ้าเป็นคนลงมือปลิดชีวิตของมัน”
เดียร็อบเบอร์พูดต่อ “เจ้าคิดยังไงกับแผนนี้?”
“พวกเราจะใช้แผนการของเจ้า” หานเซิ่นไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ เขาคิดว่าแผนการนี้จะได้ผล เพราะบิ๊กอีวิลบีสต์คงจะมีจุดอ่อนอยู่เช่นกัน มันไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าภายนอกคอร์แอเรียที่ไร้จุดอ่อน
เมื่อเห็นว่าดอลลาร์ไม่คัดค้านแผนการของพวกเขา เดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันก็เชื่อว่าดอลลาร์แค่มีมารยาทกับพวกเขา พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าหานเซิ่นแค่ขี้เกียจคิดแผนการของตัวเองขึ้นมา
หลี่เคอเอ๋อเห็นว่าเดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันกำลังลุ่มหลงในตัวดอลลาร์ มันทำให้เธอทั้งโมโหและขบขัน เธอเป็นคนของเผ่าเวรี่ไฮตัวจริง แต่มันกลับไม่มีใครให้ความสนใจกับเธอ และพวกเขากลับไปให้ความสนใจกับดอลลาร์ที่เป็นเวรี่ไฮตัวปลอมแทน
‘ข้าจะรอดูตอนที่พวกเจ้ารู้ความจริง ใบหน้าของพวกเจ้าในตอนนั้นคงจะเป็นอะไรที่น่าตลกน่าดู’ หลี่เคอเอ๋อหัวเราะอยู่ในใจ แต่เธอยังไม่คิดจะเปิดเผยความจริงออกไป สำหรับตอนนี้เธอจะเล่นตามน้ำไปก่อน
หลังจากการเดินทางสั้นๆ พวกเขาทุกคนก็มาถึงที่ที่บิ๊กอีวิลบีสต์อาศัยอยู่ ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ส่งคนออกไปเพื่อล่อให้มันออกมา
เดียร็อบเบอร์ยื่นมีดเขี้ยวรอยสักมังกรให้กับหานเซิ่น ถึงแม้พวกเขาจะเชื่อว่าหานเซิ่นที่เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮจะไม่ขาดแคลนอาวุธระดับเทพเจ้า แต่พวกเขาก็ยังคงทำในสิ่งที่เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง พวกเขาไม่ต้องการสร้างความประทับใจที่แย่
“ข้าใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นได้ ถ้าพวกเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากข้า” หลี่เคอเอ๋ออาสา เธออยากจะต่อสู้ร่วมกับหานเซิ่นเพื่อประสานมิตรภาพของพวกเขาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
แต่เดียร็อบเบอร์ส่ายหัวา “ขอบคุณมิสหลี่ที่อาสาช่วย แต่มิสหลี่แค่คอยดูก็พอ เพียงแค่ความช่วยเหลือจากดอลลาร์คนเดียวก็เพียงพอแล้ว”
หลี่เคอเอ๋อรู้สึกเศร้า เธอคิดกับตัวเอง ‘มันมีเวรี่ไฮตัวจริงอยู่ที่นี่ แต่พวกเจ้ากลับทิ้งนางเอาไว้ด้านข้าง และไปฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่เวรี่ไฮปลอมๆ นี่พวกเจ้าโง่เง่าหรือยังไง?’
หลี่เคอเอ๋อรู้ว่าเธอไม่สามารถโทษเดียร็อบเบอร์หรือคนอื่นได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกหดหู่กับเรื่องนี้
หานเซิ่นรออยู่ด้านนอก และหลังจากผ่านไปไม่นานดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ก็พากันหนีออกมาจากดวงดาว พวกเขาถูกไล่ตามโดยอสูรยักษ์ที่น่ากลัวตัวหนึ่ง
อสูรตัวนั้นดูเหมือนกับเสือและมีสีดำสนิท แต่ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดและปีกขนาดมหึมาที่กางออกจากด้านหลัง หางของมันดูเหมือนกับหางของสิงโต
เมื่อมันกระพือปีก ควันสีดำก็ถูกปล่อยออกมาด้านหลังของมัน มันเหมือนกับมอนสเตอร์ที่ออกมาจากขุนนรก
เดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันนำครึ่งเทพสิบกว่าคนเข้าไปต่อสู้กับบิ๊กอีวิลบีสต์ แต่มันไม่ได้เป็นไปได้ด้วยดีเหมือนอย่างตอนที่พวกเขาต่อสู้กับขุนพลเกราะทอง ในเวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็กำลังจะพ่ายแพ้
“ดอลลาร์ ถึงเวลาของเจ้าแล้ว!” ดราก้อนวันร่ายมนตร์พิชิตมารเลือดมังกรและตะโกนบอกหานเซิ่น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น