Super God Gene 2526-2533

ตอนที่ 2526

 

 


“ท่านหญิง ทำไมตัวอักษรพวกนี้ถึงถูกเขียนอยู่บนหลังของท่านหญิง?” ผีเสื้อน้อยถามด้วยความสงสัย


 


หลี่เคอเอ๋อกัดริมฝีปาก แต่หลังจากนั้นสักพักเธอก็หัวเราะออกมาและจู่ๆใบหน้าของเธอก็ดูจริงจังอย่างน่าแปลก


“ดอลลาร์นั้นยอดเยี่ยม เขาปกปิดการกระทำของเขาจากเวรี่ไฮเซ้นส์ของข้าได้”


 


ดวงตาของผีเสื้อน้อยเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ


“มันเป็นไปได้ยังไงที่ดอลลาร์จะเขียนตัวอักษรเอาไว้บนหลังของท่านหญิงโดยที่ท่านหญิงไม่รู้ตัว?”


 


ผีเสื้อน้อยดูจะไม่เชื่อ หลี่เคอเอ๋อนั้นมีเวรี่ไฮเซ้นส์อยู่ เธอเป็นเหมือนกับเทพที่สัมผัสได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วแบบนั้นใครบางคนจะเขียนตัวอักษรบนหลังของเธอโดยที่เธอไม่รู้สึกตัวได้ยังไง


 


“ข้าเพิ่งเลื่อนเป็นระดับราชันได้ไม่นาน เวรี่ไฮเซ้นส์ของข้าจึงยังไม่สมบูรณ์ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ข้าจะพลาดบางสิ่งไป แต่ไม่ใช่ใครจะทำแบบนั้นก็ได้ ดอลลาร์มั่นใจว่าข้าจะไม่รู้สึกอะไร ดังนั้นไม่ว่าพลังอะไรก็ตามที่เขาใช้ มันต้องเป็นอะไรที่ทรงพลัง เห็นได้ชัดว่าข้าประเมินเขาต่ำเกินไป” ดวงตาที่งดงามของหลี่เคอเอ๋อเป็นประกายอย่างน่าประหลาด


 


“ท่านหญิง ถ้าดอลลาร์แข็งแกร่งขนาดนั้น ท่านหญิงจะเลือกเขามาเป็นตัวไหมของท่านหญิงไหม?” ผีเสื้อน้อยกระพริบตาปริบๆ


 


“ข้ายังไม่รู้จักเขาดีพอ ข้าจะเลือกเขาเพียงเพราะความสามารถที่เขาแสดงออกมาไม่ได้ แถมข้าก็ไม่รู้ว่าจะหาตัวเขาได้ที่ไหน ถึงแม้ข้าจะต้องการให้เขามาเป็นตัวไหมของข้า ข้าก็ติดต่อกับเขาไม่ได้อยู่ดี” หลี่เคอเอ๋อพูด


 


หานเซิ่นไม่รู้ถึงสิ่งที่หลี่เคอเอ๋อกำลังคิด แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรเธอ


 


เหตุผลที่หานเซิ่นสามารถเขียนตัวอักษรบนหลังของเธอได้โดยที่เธอไม่รู้ตัวได้นั้นเป็นเพราะเขาใช้ศาสตร์ตงเสวียนช่วย เขาล็อคฟันเฟืองจักรวาลรอบตัวทั้งหมด ซึ่งช่วยให้เขาสามารถทำการเคลื่อนไหวโดยที่ไม่ถูกสังเกต ด้วยเหตุนั้นหลี่เคอเอ๋อจึงไม่สามารถรู้สึกถึงอะไรได้


 


และด้านพลังในการสัมผัสนั้น ศาสตร์ตงเสวียนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเวรี่ไฮเซ้นส์ หลี่เคอเอ๋อไม่ได้รู้เกี่ยวกับศาสตร์ตงเสวียน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เธอเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ถ้าเธอรู้เกี่ยวกับมันล่ะก็ เธอก็คงจะไม่แพ้อย่างหมดรูปแบบนี้


 


เตาหลอมทองแดงส่งเสียงร้องออกมาขณะที่มันนำทางไป ไฟจากตัวของมันลอยขึ้นลงขณะที่ดาบเล่มร้อยเล่มยื่นออกมาจากภายในของมัน พวกมันทั้งหมดมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป ดูเหมือนว่ามันจะใช้เวลาที่หานเซิ่นไปล่าคอร์ซีโน่เจเนอิคและใช้ยีนซีโน่เจเนอิคของพวกมันมาทำเป็นดาบ


 


“เจ้ากำลังพาข้าไปที่ไหน?” หานเซิ่นถามเตาหลอมทองแดง


 


เขาบอกให้เจ้าเตาหลอมทองแดงช่วยหาซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า มันนำทางเขามากว่าครึ่งวันแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่พบแม้แต่เงาของซีโน่เจเนอิค ขณะที่พวกเขาเดินทางไป อวกาศรอบๆพวกเขาก็เงียบลงเรื่อยๆ มันไม่มีแม้แต่ดาวเคราะห์หรือดาวเคราะห์น้อยอยู่รอบๆ


 


เตาหลอมทองแดงพ่นเปลวไฟออกมา พวกมันลอยตัวในอากาศและก่อตัวเป็นตัวอักษร “ปราสาทเหล็ก”


 


“ที่นั่นคือที่ไหน?” หานเซิ่นถาม


 


“ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า” เตาหลอมทองแดงพ่นตัวอักษรไฟออกมาเพิ่ม


 


สติปัญญาของซีโน่เจเนอิคนั้นค่อนข้างจำกัด พวกมันไม่สามารถแสดงสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมาได้ดีนัก หานเซิ่นจึงไม่สามารถถามอะไรได้มาก แต่มันไม่เป็นอะไร ตราบใดที่พวกเขาไปในสถานที่ที่มีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่


 


หานเซิ่นบินตามเตาหลอมทองแดงไปเรื่อยๆ และหลังจากการเดินทางอยู่หลายวัน พวกเขาก็ได้เห็นปราสาทหลังหนึ่งลอยตัวอยู่ในอวกาศ


 


ปราสาทนั้นดูเหมือนจะทำขึ้นมาจากโลหะ และมันก็ถูกก่อสร้างโดยการใช้ฟันเฟืองและเครื่องจักร ท่อไอเสีย 2 ท่อยื่นออกมาจากปราสาท ฟันเฟืองหมุนไปเรื่อยๆและควันไฟก็ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง หานเซิ่นสามารถได้ยินเสียงของไดนาโมจากภายใน


 


ปราสาทที่ใหญ่โตนั้นเหมือนกับมอนสเตอร์เหล็กตัวใหญ่ มันลอยตัวอยู่ในอากาศ ลักษณะของมันรวมถึงการที่หานเซิ่นไม่เจอกับซีโน่เจเนอิคเลยสักตัว ขณะที่เดินทางมานั้นดูผิดปกติ


 


ยิ่งพวกเขาเข้าไปใกล้เครื่องจักรที่ดูเหมือนกับปราสาทมากเท่าไหร่ มันก็ดูแปลกประหลาดมากเท่านั้น ฟันเฟืองเหล็กขนาดใหญ่หมุนและเสียงที่มันสร้างขึ้นมาก็เหมือนกับเสียงการทำงานของช่างเหล็ก ควันไฟถูกปล่อยออกมาจากเครื่องจักรวานั้น มันดูเหมือนโรงงานบางอย่าง


 


“ซีโน่เจเนอิคของคอร์แอเรียนี่แปลกจริงๆ ปราสาทเหล็กนี้ไม่ได้เป็นซีโน่เจเนอิคหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นแปลกใจ


 


ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จู่ๆเขาก็เห็นมอนสเตอร์เหล็กเคลื่อนที่ไปข้างหน้าราวกับรถดันดิน ไฟถูกปล่อยออกมาจากท่อไอเสียทั้ง 2 ของมัน เครื่องยนต์ดูเหมือนจะถูกเร่งความเร็วขึ้นและเสียงของฟันเฟืองก็กลายเป็นเสียงที่ดังติดต่อกันด้วยความถี่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม


 


ฟันเฟืองหลากหลายขนาดหมุนอย่างบ้าคลั่ง และวินาทีต่อมาประตูของปราสาทก็เปิดออก ไฟถูกพ่นออกมาราวกับว่ามันเป็นเตาหลอมขนาดใหญ่ จากภายในของปราสาทเหล็กนั้นมีหุ่นยนต์เหล็กที่สูงสิบเมตรปรากฏตัวออกมา ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูแข็งแกร่งมากขณะที่มันก้าวออกมา


 


หุ่นยนต์ซีโน่เจเนอินนั้นไม่สามารถเทียบกับหุ่นยนต์ที่ทันสมัยที่หานเซิ่นคุ้นเคยได้ ดีไซน์ของมันดูคล้ายคลึงกับอัศวินของยุโรปสมัยกลางมากกว่า


 


ขณะที่ประตูของปราสาทยังคงเปิดออกและไฟที่ร้อนแรงถูกปล่อยออกมามากขึ้น หุ่นยนต์เหล็กอีกหลายตัวก็เรียงแถวกันออกมา มันดูเหมือนกับโรงงานผลิตของเล่น


 


หานเซิ่นจ้องมองหุ่นยนต์ที่ออกมาด้วยความตกใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างและพูดขึ้นมา


“คอร์ซีโน่เจเนอิคระดับราชัน? ปราสาทเหล็กนี่สร้างคอร์ซีโน่เจเนอิคระดับราชันได้?”


 


การเจอกับกลุ่มของซีโน่เจเนอิคระดับราชันนั้นไม่ได้ทำให้หานเซิ่นประหลาดใจอะไร แต่การได้เจอกับมอนสเตอร์ที่สามารถผลิตพวกมันออกมาได้นั้น หานเซิ่นไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน


 


หลังจากที่หุ่นยนต์เหล็กออกมาจากปราสาท พวกมันทั้งหมดก็มุ่งตรงเข้าไปหาหานเซิ่น


 


หานเซิ่นต้องการจะลองพลังของวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทอง เมื่อเขาเรียกมันออกมา ขุนพลเกราะทองก็ปรากฏขึ้นรอบตัวของเขา


 


หานเซิ่นใช้จิตใจควบคุมหุ่นยนต์ทองในแบบเดียวกันกับที่เขาควบคุมร่างกายตัวเอง เขายกดาบใหญ่สีทองที่เหมือนกับฟันปลาขึ้น ฟันเฟืองบนใบมีดเริ่มหมุนและใบเลื่อยเองก็หมุนเช่นเดียวกัน มันกลายเหมือนกับเลื่อยขนาดใหญ่


 


หานเซิ่นแกว่งดาบ และดาบแสงก็พุ่งออกไปตัดหุ่นยนต์เหล็กจนขาดครึ่ง พวกมันไม่สามารถต้านทานพลังดาบของเขาได้


 


“ดี ดีมาก… นี่เป็นการต่อสู้ที่ดี!” หานเซิ่นหัวเราะด้วยความตื่นเต้น เขากวัดแกว่งดาบและตัดเหล่าหุ่นยนต์เหล็กราวกับหั่นผัก เขาฆ่ากลุ่มของหุ่นยนต์เหล็กได้ในเวลาอันสั้น


 


“ซีโน่เจเนอิคสตีลอาร์เมอร์ระดับราชันถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”


 


หานเซิ่นได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นซ้ำๆ แต่มันไม่มีเสียงประกาศที่พูดถึงวิญญาณอสูร


 


‘นี่พวกมันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับราชันจริงๆหรือเนี่ย? นี่พวกมันเพียงแค่อาศัยอยู่ในปราสาทหรือว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นภายในนั้น?’ หานเซิ่นคิดขณะที่มองไปที่ปราสาทเหล็ก


 


กลุ่มของสตีลอาร์เมอร์กลุ่มแรกถูกฆ่าตายจนหมด และปราสาทเหล็กก็ดูโกรธมาก มันปลดปล่อยพลังทั้งหมดเพื่อเปิดประตูทุกบานของปราสาท และเหล่าสตีลอาร์เมอร์ก็บินออกมาเพิ่มอีก พวกมันมีกันเป็นร้อยตัว และมันก็ยังออกมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ

 

 

 


ตอนที่ 2527

 

ในตอนที่หานเซิ่นต่อสู้ด้วยขุนพลหุ่นยนต์ทอง เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นหมาป่าที่เข้าไปในฝูงแกะ ที่ไหนก็ตามที่ดาบแสงของเขาพุ่งออกไป ศัตรูของเขาก็จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เหล่าสตีลอาร์เมอร์ระดับราชันไม่สามารถทนแม้แต่การฟันที่เบาที่สุดของเขา


 


“ซีโน่เจเนอิคสตีลอาร์เมอร์ระดับราชันถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรสตีลอาร์เมอร์”


 


หลังจากที่ฆ่าสตีลอาร์เมอร์ได้หนึ่งร้อยตัว ในที่สุดหานเซิ่นก็ได้รับวิญญาณอสูรมาหนึ่งดวง


 


ดูเหมือนว่าตอนนี้ปราสาทเหล็กจะเริ่มเหนื่อยแล้ว จำนวนของสตีลอาร์เมอร์ที่ออกมาดูจะน้อยลงเรื่อยๆ มันดูเหมือนกับสัตว์ที่หอบแดกหลังจากที่วิ่งเป็นเวลายาวนาน


 


รวมทั้งหมดแล้วมันมีสตีลอาร์เมอร์มากกว่า 200 ตัว ก่อนที่จะมาถึงวันนี้มันเป็นอะไรที่ยากลำบากสำหรับหานเซิ่นที่จะจัดการพวกมันจำนวนมากขนาดนั้น แต่ขุนพลหุ่นยนต์ทองตัดผ่านพวกมันราวกับมีดร้อนตัดผ่านเนย เขาจัดการพวกมันได้ในเวลาเพียงไม่นาน


 


เมื่อหานเซิ่นหันไปหาปราสาทเหล็ก เขาก็เห็นว่าอวกาศรอบๆกำลังสั่นสะเทือนเหมือนกับว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้น รอยแยกปรากฏขึ้นด้านหลังปราสาทเหล็กและเจ้ามอนสเตอร์ก็หนีหายเข้าไปในรอยแยกนั้น


 


ขณะที่หานเซิ่นกำลังตกใจกับเรื่องนั้น เจ้าเตาหลอมโลหะก็กำลังกินร่างกายของสตีลอาร์เมอร์อย่างเอร็ดอร่อย


 


แต่เนื่องจากเจ้าเตาหลอมทองแดงมีขนาดเล็ก มันจึงกินสตีลอาร์เมอร์ได้แค่ 8 ตัว มันไม่สามารถกินมากไปกว่านั้นได้


 


“ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่เจ้าพูดถึงอยู่ที่ไหน?” หานเซิ่นถามเตาหลอมทองแดง


 


เตาหลอมทองแดงพ่นไฟออกมาเป็นตัวอักษร


“มันเพิ่งจะหนีไปไม่ใช่หรอ?”


 


“ปราสาทเหล็กนั้นคือซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า?” หานเซิ่นพึมพำกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา “เจ้ายังหาตัวมันได้ไหม?”


 


หานเซิ่นต้องการจะดูว่ามันจะมีอะไรอย่างอื่นออกมาจากปราสาทเหล็กอีกหรือเปล่า ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่พยายามโจมตีใส่มัน แต่ตอนนี้เมื่อมันหนีไป หานเซิ่นก็เริ่มเสียใจกับการตัดสินใจของเขา


 


“ไม่” เตาหลอมทองแดงพูดด้วยการพ่นไฟออกมาเป็นตัวอักษร


 


หานเซิ่นยักไหล่ เขาหันไปค้นร่างของสตีลอาร์เมอร์เพื่อหายีนซีโน่เจเนอิค ยีนซีโน่เจเนอิคของพวกมันเป็นฟันเฟืองเหล็กที่อยู่ในหัวใจของพวกมัน


 


หานเซิ่นจะไม่กลืนพวกมันเข้าไปทั้งร่างเหมือนอย่างเจ้าเตาหลอมทองแดง เขาดึงเอาคอร์ยีนซีโน่เจเนอิคของพวกมันออกมาและเก็บเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา


 


หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองกลับเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้ว


 


ขณะที่หานเซิ่นกำลังเก็บยีนคอร์ซีโน่เจเนอิคอยู่นั้น เขาก็เห็นใครบางคนตรงเข้ามา เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา เขาก็เห็นว่าเธอคือผู้หญิงชุดเหลืองที่เขาเจอก่อนหน้านี้


 


หลี่เคอเอ๋อติดตามร่องรอยที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยเตาหลอมทองแดง เธอค่อนข้างแปลกใจที่พบว่าเวรี่ไฮเซ้นส์ของเธอไม่สามารถตรวจจับร่องรอยของหานเซิ่นได้ ด้วยเหตุนั้นความหวังเดียวของเธอที่จะตามหาตัวเขาก็คือการตามรอยเตาหลอมทองแดงมา


 


ทันทีที่หานเซิ่นเข้ามาอยู่ในระยะสายตา หลี่เคอเอ๋อก็เห็นสตีลอาร์เมอร์กระจัดกระจายไปทั่ว เธอตกตะลึงกับภาพที่เห็นไปชั่วขณะ


 


เธอจดจำสตีลอาร์เมอร์เหล่านี้ได้ว่าพวกมันคืออะไร เธอรู้ว่าสตีลอาร์เมอร์มาจากปราสาทเหล็กที่เป็นคอร์ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า แต่เธอเห็นแค่ร่างของเหล่าสตีลอาร์เมอร์เท่านั้น เธอไม่เห็นปราสาทเหล็ก เธอจึงสรุปไปว่าปราสาทเหล็กคงจะหนีไป แต่การรับรู้ถึงเรื่องนั้นเป็นอะไรที่น่าตกตะลึง


 


ในระหว่างการต่อสู้กับขุนพลเกราะทอง หานเซิ่นอาศัยพลังของมีดเขี้ยวรอยสักมังกรที่เป็นสมบัติระดับเทพเจ้าของดราก้อนวัน หลี่เคอเอ๋อเข้าใจถึงความจริงเรื่องนั้น


 


ดังนั้นจนถึงตอนนี้หลี่เคอเอ๋อยังคงคลางแคลงใจเกี่ยวกับพลังโจมตีของหานเซิ่น แค่ตอนนี้หานเซิ่นไล่ปราสาทเหล็กไปโดยลำพัง เธอจึงไม่ลังเลอีกต่อไปที่จะเชื่อในศักยภาพของเขา


 


‘ระดับราชันที่ต่อสู้กับระดับเทพเจ้าได้? ถึงแม้ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าภายในคอร์แอเรียจะอ่อนแอกว่าก็จริง แต่ความสามารถของดอลลาร์ก็ยังเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่ออยู่ดี แถมเขายังเล็ดลอดจากเวรี่ไฮเซ้นส์ของเราได้อีก ดอลลาร์เผ่ามนุษย์คนนี้มาจากที่ไหนกัน? แม้แต่เอ็กซ์ตรีมคิงก็ไม่มีคนที่มีพรสวรรค์ถึงขนาดนี้เป็นเวลาหลายพันปีแล้ว’ หลี่เคอเอ๋อคิดกับตัวเอง โดยไม่ลังเลเธอตรงเข้าไปหาหานเซิ่น


 


“หญิงชุดเหลือง บังเอิญจังเลยนะที่เจ้ามาปรากฏตัวที่นี่” หานเซิ่นทักทายอย่างแดกดัน


 


“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ข้าตามเจ้ามา” หลี่เคอเอ๋อพูด


 


“เจ้าตามหลังข้ามา? เจ้าคงจะไม่ได้มาขอให้ข้าไปฆ่าคอร์ไตรพอดทองแดงหรอกใช่ไหม?”


หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาไม่สนใจจะทำอะไรแบบนั้น ถ้าหลี่เคอเอ๋อไม่คิดจะทำตามข้อตกลงที่เธอได้ให้เอาไว้ เขาก็จะไม่สนใจเธออีกต่อไป


 


หลี่เคอเอ๋อส่ายหัว “ข้าเห็นตัวอักษรที่เจ้าทิ้งเอาไว้บนหลังของข้า ข้ามาที่นี่เพื่อยอมรับว่าข้าเป็นฝ่ายแพ้ ข้าพ่ายแพ้ให้กับเจ้าจริงๆ”


 


หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าท่าทางของหลี่เคอเอ๋อจะเปลี่ยนไปมากถึงขนาดนี้


 


“หญิงชุดเหลือง เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแบบนั้น” หานเซิ่นพูด


 


“ทำไมพวกเราไม่มาทำความรู้จักกันให้ดีกว่านี้? พวกเรามาเริ่มใหม่อีกครั้ง ชื่อของข้าคือหลี่เคอเอ๋อ” หลี่เคอเอ๋อยิ้มและยื่นมือของเธอออกมา


 


“ดอลลาร์” หานเซิ่นจับมือกับเธอ


 


“ข้าได้ยินเกี่ยวกับเจ้ามาเล็กน้อย ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากจะจ้างเจ้าไปฆ่าคอร์ไตรพอดทองแดงร่วมกับข้า” หลังจากที่หลี่เคอเอ๋อลดมือลง เธอก็ยิ้มอีกครั้ง


 


“ข้ากลัวว่าต้องทำให้เจ้าผิดหวัง ข้ามีบางสิ่งที่จำเป็นต้องทำ”


มันไม่สำคัญว่าหลี่เคอเอ๋อจะดีกับเขาหรือไม่ หานเซิ่นไม่สนใจจะร่วมเดินทางกับเธอ แผนการที่จะล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของเขาเป็นอะไรที่สำคัญกว่า


 


แต่หลี่เคอเอ๋อไม่ได้ดูผิดหวัง เธอพูดอย่างอ่อนหวาน “อย่าเพิ่งพูดแบบนั้น ลองฟังข้อเสนอของข้าดูก่อนเป็นยังไง?”


 


หานเซิ่นคิดว่าเธอจะเสนอยีนซีโน่เจเนอิคหรืออะไรทำนองนั้น แต่ไหนๆเธอก็อุส่าพูดอย่างมีมารยาทและเธอก็ไม่ใช่ศัตรูของเขา ดังนั้นหานเซิ่นจึงยินดีที่จะฟังข้อเสนอของเธอ


 


หลี่เคอเอ๋อเคลื่อนตัวเข้ามายืนอยู่บนร่างของสตีลอาร์เมอร์และพูด


“ถ้าข้าเข้าใจสถานการณ์ได้ถูกต้อง เจ้าเพิ่งจะสังหารฝูงของสตีลอาร์เมอร์และทำให้ปราสาทเหล็กวิ่งหนีไปอย่างนั้นใช่ไหม?”


 


หานเซิ่นมองไปที่หลี่เคอเอ๋อ เขาไม่ได้ให้คำยืนยันหรือปฏิเสธสิ่งที่เธอพูด แต่ความเงียบของเขาก็ถือเป็นการยืนยันในตัวของมัน


 


ดวงตาของหลี่เคอเอ๋อเป็นประกาย เธอคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้แล้ว แต่ตอนนี้เธอได้รับคำยืนยันถึงการสันนิษฐานของเธอ


 


“ปราสาทเหล็กของคอร์แอเรียไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่แข็งแกร่งมากนัก แต่เจ้าไล่มันหนีไปได้ทั้งๆที่เป็นแค่ระดับราชัน น้อยคนนักที่จะทำอะไรแบบนั้นได้” หลี่เคอเอ๋อเอ่ยชมเขา


 


“เจ้าพยายามจะบอกอะไร?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาเริ่มรู้สึกรำคาญ


 


เขาไม่ใช่เด็กที่ไม่เคยเห็นโลกมาก่อน เขาไม่ใช่คนที่จะหลงตัวเองเพียงเพราะคำพูดพวกนี้ ในสายตาของเขาการเอ่ยชมของหลี่เคอเอ๋อเป็นอะไรที่ทำให้เขาเสียเวลา


 


“เจ้ามีพลังที่จะฆ่าคอร์ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า แต่การโค่นล้มพวกมันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างการเอาชนะพวกมันในการต่อสู้ ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่จะไม่อยู่กับที่เพื่อรอคอยให้เจ้าปลิดชีวิตของพวกมัน เหมือนอย่างปราสาทเหล็ก พวกมันจะหาตัวได้ยากหลังจากที่พวกมันหนีไปได้ แต่ข้าหาพวกมันได้ ถ้าเจ้าช่วยข้าล่าคอร์ไตรพอดทองแดง ข้าจะช่วยเจ้าหาที่อยู่ของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า” หลี่เคอเอ๋อพูด

 

 

 


ตอนที่ 2528

 

 


หานเซิ่นและหลี่เคอเอ๋อบินผ่านอวกาศไปร่วมกัน ขณะที่เตาหลอมทองแดงตามอยู่ด้านหลังโดยทิ้งระยะห่างพอสมควร มันยังคงไม่กล้าเข้าไปใกล้หลี่เคอเอ๋อ


 


ถ้าหลี่เคอเอ๋อยินดีจะนำทางให้ หานเซิ่นก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธข้อเสนอของเธอ ถ้าเธอสามารถหาซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้ หานเซิ่นก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยเธอสังหารคอร์ไตรพอดทองแดง


 


หานเซิ่นยังคงไม่ชอบลักษณะนิสัยของหลี่เคอเอ๋อ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากนัก แต่หลี่เคอเอ๋อนั้นชาญฉลาดและพูดเก่ง หานเซิ่นค้นพบว่าเธอยังมีอารมณ์ขันอีกด้วย เขาพบว่ามันยากที่จะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเธอ


 


ในตอนแรกที่พวกเขาพบกัน หลี่เคอเอ๋อมองหานเซิ่นราวกับว่าเธอเหนือกว่าเขา มันเหมือนกับมนุษย์กำลังพูดอยู่กับวัวตัวหนึ่ง โดยปกติแล้วมนุษย์จะไม่เสียเวลาพูดกับวัว เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคุยกับสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาต่ำกว่า พวกเขาแค่จะสอนวัวว่าต้องทำอะไรแทน


 


แต่ตั้งแต่การเดิมพันกัน หลี่เคอเอ๋อก็รู้สึกตัวว่าหานเซิ่นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ด้อยไปกว่าเธอ เขาเทียบเท่ากับเธอหรือบางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าในบางเรื่อง หลี่เคอเอ๋อไม่สามารถคิดกับหานเซิ่นราวกับว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่เขลาได้อีกต่อไป


 


แต่มันจะโทษหลี่เคอเอ๋อไม่ได้ที่เธอสันนิษฐานแบบนั้นในตอนแรก เพราะทุกสิ่งมีชีวิตที่มีอารมณ์ความรู้สึกนั้นมักจะสันนิษฐานเกี่ยวกับคนอื่นที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ของตัวเองแบบเดียวกันนี้ แม้แต่มนุษย์เองก็เช่นกัน


 


“มันมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ข้าเห็นเมื่อไม่นานมานี้ มันคือเทพหมาป่า ข้าไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนัก แต่ข้าได้ยินมาว่ามันไม่ได้แข็งแกร่งมาก เมื่อเทียบกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่ในคอร์แอเรีย”


หลี่เคอเอ๋อบินต่อไปข้างหน้าขณะที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคให้หานเซิ่นฟัง


 


ขณะที่พูด หลี่เคอเอ๋อก็กำลังคิดอยู่ในใจ ‘ข้าไม่ได้พูดโกหก เทพหมาป่าไม่ได้แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่ในคอร์แอเรียจริงๆ ความแข็งแกร่งของมันถือว่าอยู่ในระดับปานกลางถึงระดับต่ำ แต่มันมีอาณาเขตเทพหมาป่าอยู่ อาณาเขตนั้นไม่เพียงแค่อัญเชิญฝูงหมาป่าออกมา ฝูงหมาป่าที่มันอัญเชิญออกมานั้นไม่ใช่แค่หมาป่าธรรมดาๆ พวกมันเป็นร่างโคลนของเทพหมาป่า และความแข็งแกร่งของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวเทพหมาป่ามากนัก มาดูกันสิว่าเจ้าจะรับมือกับคู่ต่อสู้แบบนี้ยังไง’


 


หลี่เคอเอ๋อไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อจะทำร้ายหานเซิ่น แต่เธออยากจะเห็นวิธีการของหานเซิ่นที่จะใช้รับมือกับปัญหาที่เข้ามา ถ้าเขาตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะเข้าไปช่วยเขา แบบนั้นเธอก็จะสามารถสร้างความประทับใจต่อเขาไปพร้อมกัน หลังจากนั้นหานเซิ่นก็จะยินดีรับฟังคำพูดของเธอมากขึ้น และเธอก็จะรับเขาในฐานะตัวไหมของเธอ


 


ด้วยการนำทางของหลี่เคอเอ๋อ หานเซิ่นบินลงไปสู่ดาวดวงหนึ่ง หลี่เคอเอ๋อชี้ออกไปทางภูเขาและพูด


“ข้าเห็นเทพหมาป่าบนภูเขาลูกนั้น ข้าอ่อนแอเกินกว่าที่จะต่อสู้กับมัน ดังนั้นข้าคงจะไม่ไปที่นั่นอย่างแน่นอน”


 


“โอเค ถ้าอย่างนั้นก็รออยู่ตรงนี้ ถ้ามันมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าจริงๆ ข้าจะช่วยเธอจัดการกับคอร์ไตรพอดทองแดง ไม่ว่าข้าจะฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวนี้ได้หรือไม่ก็ตาม” หานเซิ่นพูด


 


“ข้าจะรอฟังข่าวดี” หลี่เคอเอ๋อพูดด้วยรอยยิ้ม


 


หานเซิ่นพยักหน้าและบินไปทางภูเขา เตาหลอมทองแดงรอเขาอยู่กับหลี่เคอเอ๋อตามคำสั่งของหานเซิ่น มันไม่ได้ตรงไปที่ภูเขาพร้อมกับเขา


 


ดวงตาของหลี่เคอเอ๋อมองออกไปที่ภูเขา ถึงเธอจะอยู่ห่างไกลออกไป แต่เธอก็เห็นต้นไม้ทุกต้น ดอกไม้ทุกดอกที่กระจายตัวกันอยู่บนภูเขาลูกนั้น


 


สัมผัสของหลี่เคอเอ๋อตรวจพบเทพหมาป่าบนภูเขาได้อย่างรวดเร็ว มันแตกต่างไปจากหมาป่าปกติที่อยู่กันเป็นฝูง เทพหมาป่านั้นอาศัยอยู่ตามลำพัง แต่ร่างกายของมันแทบจะไม่ได้ใหญ่โตไปกว่าหมาป่าปกติ


 


เทพหมาป่ามีสีเทาและด้วยแถบสีดำเส้นหนึ่งที่ลากเป็นเส้นตรงบนขนของมัน ขนของมันไม่ปกติและดูเหมือนกับว่ามันทำขึ้นมาจากโลหะประหลาดบางอย่าง ขนโลหะของมันเรียบและดูจะไม่ส่งผลอะไรต่อความคล่องแคล่วของมัน


 


ขณะที่กำลังหลี่เคอเอ๋อมองดู หานเซิ่นก็หาเทพหมาป่าเจออย่างรวดเร็ว เทพหมาป่าเป็นซีโน่เจเนอิคที่หวงเขตแดน และทันทีที่หานเซิ่นเข้าไปในหุบเขา เทพหมาป่าก็เผยตัวออกมา ขนของมันตั้งตรงและดวงตาหมาป่าสีเขียวก็มองตรงมาที่หานเซิ่น


 


เทพหมาป่าย่อตัวลงและกระโดดออกมาข้างหน้า แต่หลังจากนั้นมันก็หายตัวไป


 


เทพหมาป่าหายไปจากสายตาของหานเซิ่น ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้มองมันชัดๆ ดวงตาของเขาก็ไม่สามารถตามความเร็วของเทพหมาป่าได้


 


โดยไม่ลังเลหานเซิ่นใช่ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด หลังจากนั้นเทพหมาป่าก็กระโดดเข้าใส่เขา


 


แต่แทนที่จะถูกตัวของหานเซิ่น เทพหมาป่ากลับกระโดดผ่านตัวเขาไป มันรีบหันกลับมามองที่หานเซิ่น


 


หานเซิ่นเพิ่งจะเปิดใช้งานร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด แต่เขาก็สังเกตได้ว่าพลังของร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดนั้นเริ่มจะจางหายไป ถึงแม้หว่านเอ๋อจะหลับใหลอยู่ แต่ผลกระทบของเธอต่อร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดยังคงรุนแรง


 


หลี่เคอเอ๋อมีแผนที่จะมองดูการต่อสู้ระหว่างหานเซิ่นกับเทพหมาป่า หลังจากนั้นเธอก็จะเข้าไปช่วยเขาในจังหวะสำคัญ แต่ทั้งๆที่การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น หานเซิ่นก็วิ่งหนีออกมาเรียบร้อยแล้ว


 


ขณะที่หานเซิ่นบินออกไปจากดวงดาว เธอก็เห็นว่าเขากำลังหนีไปอย่างเต็มกำลัง เขาไม่ได้ลังเลหรือครุ่นคิดเกี่ยวกับทิศทางที่เขาหนีออกไป หลี่เคอเอ๋ออึ้งไปเมื่อเธอเห็นเขาทำแบบนั้น เธอไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปช่วยเขาดีหรือเปล่า


 


ถึงแม้นี่จะเป็นผลลัพธ์ที่เธอต้องการ แต่เธอไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้ เธอตั้งใจจะใช้เทพหมาป่าเพื่อทดสอบพลังที่แท้จริงของหานเซิ่น แต่ตอนนี้เธอยังไม่ทันได้เห็นอะไร หานเซิ่นก็วิ่งหนีเรียบร้อยแล้ว


 


หลี่เคอเอ๋อสับสนอย่างมาก ดูเหมือนว่าหานเซิ่นไม่มีหนทางที่จะเอาชนะเทพหมาป่า เทพหมาป่ากระโดดขึ้นสู่อากาศและฉีกร่างกายของหานเซิ่นด้วยเขี้ยวของมัน


 


ปัง!


ร่างกายของหานเซิ่นถูกฉีกขาด แต่มันเป็นแค่ร่างโคลนของวิชาจันทรา ตัวจริงของหานเซิ่นได้ออกไปสู่อวกาศเรียบร้อยแล้ว และเขาก็ยังคงหนีต่อไปอีก


 


หานเซิ่นแค่ต้องการจะยืนยันว่ามันมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่บนดาวจริงๆ เขาไม่คิดจะเรียกวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองออกมาต่อหน้าเธอ


 


แต่เทพหมาป่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายมาก และมันก็ไล่ตามหลังหานเซิ่นไป ถึงแม้มันจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอย่างขุนพลเกราะทอง แต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่หานเซิ่นจะต่อสู้กับมัน เขาใช้ร่างโคลนจันทราซ้ำๆเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของเทพหมาป่า


 


หานเซิ่นสังเกตได้ว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของคอร์แอเรียมีข้อบกพร่องบางอย่างอยู่ พวกมันอาจจะเป็นระดับเทพเจ้า แต่ในทางใดทางหนึ่งพวกมันอ่อนแอกว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่แท้จริงมาก


 


ยกตัวอย่างเช่นขุนพลเกราะทอง ขณะที่พลังป้องกันและพลังโจมตีของมันเป็นระดับเทพเจ้า แต่ความเร็วของมันเทียบได้กับระดับราชัน แถมมันยังต่อสู้เหมือนกับระดับราชัน มันไม่ได้มีความสามารถที่จะพบเห็นได้จากระดับเทพเจ้าที่แท้จริง


 


และในขณะที่ความเร็วของเทพหมาป่าอยู่ในระดับเทพเจ้า ไหวพริบและการตัดสินใจของมันยังไม่ถึงขั้น การโจมตีของมันเทียบได้กับระดับราชันทั่วๆไป ดังนั้นหานเซิ่นจึงคิดว่าเทพหมาป่านั้นอ่อนแอกว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่แท้จริงมากนัก


 


‘ไม่แปลกใจเลยที่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของคอร์แอเรียถูกเรียกว่าระดับเทพเจ้าปลอม พวกมันทั้งหมดต่างก็มีข้อบกพร่อง’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


การต่อสู้ที่ดุเดือดที่หลี่เคอเอ๋อหวังจะได้เห็นกลับกลายเป็นหมาป่าที่หิวกระหายวิ่งไล่มนุษย์ที่กำลังวิ่งหนีเอาตัวรอด หานเซิ่นใช้ร่างโคลนและทักษะการเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกศัตรู ทักษะการเคลื่อนไหวของเขานั้นสุดยอด แม้แต่เทพหมาป่าที่มีความเร็วเหนือกว่าไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แต่นั่นก็ยังคงไม่ใช่สิ่งที่หลี่เคอเอ๋ออยากจะเห็น

 

 

 


ตอนที่ 2529

 

หลี่เคอเอ๋อตัดสินใจว่าจะไม่เข้าไปช่วยหานเซิ่น เพราะเขายังคงไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แต่เธอต้องขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่เขา


“เขาเป็นอะไร? ก่อนหน้านี้เขาแข็งแกร่งเหมือนกับเทพ? แต่ทำไมตอนนี้เขาทำตัวเหมือนกับคนขี้ขลาดตาขาว?”


 


หลี่เคอเอ๋อไม่เข้าใจว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไรกันแน่ และเธอก็สังเกตเห็นว่าเทพหมาป่าเริ่มจะดูรำคาญ มันเงยหน้าและหอนขึ้นไปบนท้องฟ้า ร่างกายของมันเริ่มเบลอและเปลี่ยนเป็นหมอกหนา ร่างโคลนของเทพหมาป่าพากันวิ่งออกมาจากหมอกนั่น ในเวลาเพียงแค่หนึ่งวินาที เทพหมาป่าหลายสิบตัวก็เข้ามาล้อมหานเซิ่นจากทุกทิศทาง


 


“ร่างโคลนพวกนี้มันต่างออกไป พวกมันจะต้องมีพลังอย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ของเทพหมาป่าตัวจริง” หานเซิ่นมองไปที่เทพหมาป่ารอบๆอย่างประทับใจ


 


วิชาจันทราของหานเซิ่นสามารถสร้างร่างโคลนที่ดูเหมือนจริงได้เพียงแค่นั้น เขาไม่สามารถทำให้พวกมันต่อสู้ได้


 


แต่ร่างโคลนของเทพหมาป่านั้นต่างออกไป ร่างโคลนแต่ละร่างเป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่ง และพวกมันก็มีพลังเกือบจะเท่ากับเทพหมาป่าตัวจริง แถมพวกมันแต่ก็ตัวก็สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองอีกด้วย


 


นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นได้เห็นพลังในการสร้างร่างโคลนแบบนี้


 


ร่างโคลนของเทพหมาป่าพุ่งเข้าหาหานเซิ่นพร้อมกัน พวกมันทั้งหมดรวดเร็วอย่างน่าตกใจ พวกมันช้ากว่าเทพหมาป่าตัวจริงเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น


 


หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนจนถึงขีดสุด ทักษะในการหลบหลีกทั้งหมทดของเขาถูกนำมาใช้งาน ท่ามกลางการโจมตีของร่างโคลนทั้งหมด หานเซิ่นเป็นเหมือนกับผีเสื้อที่กำลังเต้นระบำ ร่างโคลนของเทพหมาป่าหลายสิบตัวไม่สามารถทำอะไรศัตรูของพวกมันได้เลย


 


หลังจากที่เทพหมาป่านำเอาร่างโคลนของมันออกมา หลี่เคอเอ๋อก็สับสนว่าควรจะเข้าไปช่วยหานเซิ่นดีไหม เพราะยังไงซะเธอก็ไม่ได้เห็นการต่อสู้ที่คาดหวัง แต่เมื่อหลี่เคอเอ๋อได้เห็นหานเซิ่นใช้วิชาเพื่อไคท์หลบศัตรูทั้งหมด เธอก็อึ้งไป การเคลื่อนไหวของหานเซิ่นดูเหมือนกับว่าเขาไม่ต้องออกแรงอะไรขณะที่เขาจูงจมูกศัตรูรอบๆตัว


 


“นั่น…นั่นเป็นไปได้ยังไง? นี่มันสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นของเวรี่ไฮเซ้นส์? เป็นไปไม่ได้ เผ่าพันธุ์อื่นจะมีวิชาของเวรี่ไฮได้ยังไง? ทำไมเขาถึงใช้สกายแอนท์บีอิ้งคอมบิเนชั่นได้?” หลี่เคอเอ๋อมองดูหานเซิ่นเต้นระบำอยู่ในฝูงหมาป่า เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง


 


“ไม่ นี่ไม่ใช่สกายและบีอิ้งคอมบิเนชั่นของเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่มันเป็นบางสิ่งที่คล้ายคลึงกันมากๆ มันเกือบจะเหมือนกัน แต่มันต่างออกไป มันคล้ายคลึงกับตำราไร้อักษรของเผ่านภา แต่มันก็แตกต่างออกไปเช่นกัน… นี่มันแปลกจริงๆ… นี่มันวิชาจีโนแบบไหนกันแน่?” ใบหน้าของหลี่เคอเอ๋อดูสับสนอย่างมาก


 


เธอพยายามคิดอย่างรวดเร็ว แต่นอกจากตำราไร้อักษรของเผ่านภาแล้ว เธอก็ไม่สามารถคิดหาวิชาจีโนอื่นที่คล้ายคลึงกับเวรี่ไฮเซ้นส์ถึงขนาดนี้ได้ ถึงแม้มันจะมีวิชาจีโนที่คล้ายคลึงกันของเผ่าพันธุ์อื่นอยู่ แต่ความคล้ายคลึงต่อวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ของพวกมันก็เป็นแค่ผิวเผินเท่านั้น


 


แต่วิชาที่หานเซิ่นกำลังใช้ไม่ได้เป็นอะไรที่ผิวผืนหรืออ่อนแอเลยสักนิดเดียว หลี่เคอเอ๋อรู้ว่าแม้แต่การเคลื่อนไหวและความสามารถของเธอก็ไม่ได้ดีเท่ากับหานเซิ่น


 


“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นี่ดอลลาร์เป็นหนึ่งในเวรี่ไฮอย่างนั้นหรอ? หรือว่าเขาจะเป็นหนึ่งในเผ่านภากัน? แต่จากที่เรารู้ ผู้นำของปราสาทนภาถ่ายทอดตำราไร้อักษรให้กับไผ่เดียวดายเท่านั้น อวี้ซ่านซินเองก็เคยฝึกตำราไร้อักษร แต่เขาเรียนรู้มันได้ไม่ดีนัก เขาเดินไปในเส้นทางของตัวเอง ดอลลาร์ไม่มีทางเป็นหนึ่งใน 2 คนนั้นไปได้ แถมในตอนที่ดอลลาร์อยู่ในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน เขาได้ต่อสู้กับไผ่เดียวดาย ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางเป็นคนเดียวกันได้…” หลี่เคอเอ๋อรู้สึกสับสน


 


ถึงแม้หลี่เคอเอ๋อจะคิดจนสมองระเบิด เธอก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าวิชาจีโนของหานเซิ่นเป็นสิ่งที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจากจักรวาลอื่นที่ต่างออกไป ที่เธอกำลังเห็นคือวิชาที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยสำนักเสวียน


 


ถึงแม้ศาสตร์ตงเสวียนจะไม่ใช่เวรี่ไฮเซ้นส์ แต่บางส่วนของพวกมันก็ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ถึงแม้พวกมันทั้ง 2 จะเหมือนกันในทางปฏิบัติ แต่พวกมันถูกพัฒนาไปในทิศทางที่แตกต่างกัน


 


แถมวิชาทั้ง 2 ยังสามารถใช้ในวิธีต่างๆนาๆ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าวิชาไหนที่อ่อนแอหรือแข็งแกร่งกว่ากัน


 


เวรี่ไฮเซ้นส์เป็นผลงานที่ถูกวิจัยโดยยอดฝีมือของเวรี่ไฮหลายรุ่น มันเป็นวิชาจีโนที่ดีที่สุดในจักรวาลจีโน


 


ศาสตร์ตงเสวียนเองก็เป็นวิชาที่ดีที่สุดของก็อตแซงชัวรี่เช่นกัน แต่ทว่ามันยังถูกพัฒนาไม่เสร็จสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับเวรี่ไฮเซ้นส์แล้ว ศาสตร์ตงเสวียนเป็นเหมือนกับวิชาจีโนต้นแบบที่อยู่ในระยะแรกของการเรียนรู้


 


จนกว่าศาสตร์ตงเสวียนจะเสร็จสมบูรณ์ มันก็ไม่มีใครบอกได้ว่ามันหรือเวรี่ไฮเซ้นส์ที่แข็งแกร่งกว่ากัน แต่ทว่ามันมีเพียงแค่อย่างเดียวที่รู้แน่ชัดในตอนนี้ ซึ่งก็คือความจริงที่ว่าหลี่เคอเอ๋ออ่อนแอกว่าหานเซิ่น


 


ขณะที่หลี่เคอเอ๋อมองดูหานเซิ่น ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ


 


เธอคิดว่าจะเข้าไปช่วยหานเซิ่นในตอนที่เขาตกอยู่ในอันตราย แต่นั่นดูจะไม่จำเป็นอีกต่อไป หานเซิ่นมีวิชาที่คล้ายคลึงกับสกายแอนท์บีอิ้งคอมบิเนชั่น ซึ่งทำให้ร่างโคลนของเทพหมาป่าไม่สามารถทำอะไรเขาได้ มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่หลี่เคอเอ๋อจะเข้าไปช่วย


 


แต่นั่นทำให้หลี่เคอเอ๋ออยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ดวงตาที่งดงามดูสว่างไสวยิ่งกว่าที่เคย


“ดอลลาร์เป็นใครกัน? เขากำลังใช้วิชาจีโนแบบไหนกันแน่?”


 


ขณะที่หานเซิ่นต่อสู้กับร่างโคลนของเทพหมาป่านั้น เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่น่าสนใจ หลังจากที่เทพหมาป่าสร้างร่างโคลนขึ้นมา ถึงแม้ร่างโคลนจะมีพลังที่คล้ายคลึงกับเทพหมาป่าตัวจริง แต่พวกมันไม่ได้มีพลังเท่ากับเทพหมาป่าตัวจริงร้อยเปอร์เซ็นต์


 


‘นั่นหมายความว่าร่างโคลนของเทพหมาป่าแบ่งออกมาจากร่างที่แท้จริงของมันอย่างนั้นหรอ? พวกมันเป็นบางสิ่งที่มากกว่าร่างโคลนใช่ไหม?’ หานเซิ่นคิด


 


ร่างโคลนของเทพหมาป่าเป็นอะไรที่ทรงพลังมากๆ แต่สำหรับหานเซิ่นแล้ว พวกมันไม่ได้เป็นอันตรายเหมือนอย่างการที่เทพหมาป่าใช้พลังทั้งหมดในร่างเดียว


 


การต่อสู้กับศัตรูเป็นกลุ่มนั้นเป็นสิ่งที่หานเซิ่นกลัวน้อยที่สุด แถมชุดเกราะตงเสวียนก็มอบพลังงานที่ไม่จำกัดให้กับเขา เขาไม่ต้องกังวลว่าพลังจะหมด มันไม่สำคัญว่าจะมีร่างโคลนเข้ามาล้อมเขาสักกี่ตัว พวกมันไม่สามารถทำร้ายหานเซิ่นได้


 


‘น่าเสียดายที่เราไม่มีมีดเขี้ยวร้อยสักมังกร ไม่อย่างนั้นบางทีเราอาจจะไม่ต้องใช้วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองด้วยซ้ำในการฆ่าเทพหมาป่านี่’


หานเซิ่นไม่ใช่ธันเดอร์ก็อตสไปค์ ถึงแม้เขาจะโจมตีด้วยอาวุธนั้น เขาก็ทำได้แค่ทำให้เทพหมาป่าเป็นอัมพาตชั่วขณะ เขาไม่สามารถใช้มันทำลายร่างกายของเทพหมาป่าได้


 


ธันเดอร์ก็อตสไปค์และมีดเขี้ยวรอยสักมังกรเป็นสมบัติระดับเทพเจ้าเหมือนกัน หนึ่งเป็นธาตุสายฟ้า ขณะที่อีกหนึ่งเป็นอาวุธที่โฟกัสที่พลังทำลายล้าง ธันเดอร์ก็อตสไปค์สามารถทำให้เทพหมาป่าเป็นอัมพาตโดยที่ไม่ทำลายร่างกายของมัน ส่วนมีดเขี้ยวรอยสักมังกรมีโอกาสที่จะทำลายร่างกายของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้ แต่มันไม่มีพลังที่จะทำให้พวกมันเป็นอัมพาต


 


พวกมันมีการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่สำหรับตอนนี้พลังทำลายล้างของมีดเขี้ยวรอยสักมังกรเป็นสิ่งที่จำเป็นกับหานเซิ่นมากกว่า

 

 

 


ตอนที่ 2530

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังต่อสู้กับร่างโคลนของเทพหมาป่า ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าอวกาศรอบๆตัวเริ่มจะบิดเบี้ยว เขารู้สึกตกใจและเตรียมตัวที่จะโจมตีใส่ แต่หลังจากนั้นเขาก็เห็นว่ามันเป็นหลี่เคอเอ๋อที่ปรากฏตัวออกมา


 


“มากับข้า” หลี่เคอเอ๋อจับแขนของหานเซิ่น ร่างกายของเธอกระตุกและเทเลพอร์ตหายไปโดยที่พาหานเซิ่นไปด้วย


 


“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะรู้จักวิชาจีโนที่เรียกว่ากาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นด้วย”

หานเซิ่นมองไปรอบๆและสังเกตเห็นว่าตอนนี้ตัวเองออกมาไกลจากดาวที่หมาป่าเทพอาศัยอยู่ แม้แต่เตาหลอมทองแดงก็ถูกพามาพร้อมกับพวกเขาด้วย หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ


 


หานเซิ่นสนใจที่จะเรียนรู้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นมาโดยตลอด แต่เขาไม่โอกาสได้เรียนรู้มัน


 


เขามีแค่ความสามารถในการเทเลพอร์ตระยะใกล้ๆเท่านั้น และมันก็ยังใช้เวลานานในการเตรียมการ ด้วยเหตุนั้นเมื่อเห็นว่าหลี่เคอเอ๋อสามารถใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นได้ มันก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกอิจฉา


 


“มันเป็นแค่ทริคง่ายๆ ถ้าเจ้าอยากการจะเรียนรู้มัน ข้าจะสอนเจ้า” หลี่เคอเอ๋อยิ้มให้กับหานเซิ่นขณะที่พูด


 


หานเซิ่นขมวดคิ้วและถาม “เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร?”


 


หานเซิ่นไม่คิดว่าหลี่เคอเอ๋อจะสอนวิชากาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นให้กับเขาแบบฟรีๆ


 


แถมหานเซิ่นยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขาจะสามารถเรียนรู้มันได้ โดยปกติแล้วผู้คนที่สามารถใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นได้มักจะกำเนิดมาด้วยพรสวรรค์ในด้านนั้น ศักยภาพในการเรียนรู้มันเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด


 


“มันเป็นแค่ทริคง่ายๆ ถ้าเจ้าอยากจะเรียนรู้มัน ข้าจะสอนเจ้า ข้าไม่ได้ต้องการอะไรเป็นการตอบแทน แต่การจะฝึกกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจำเป็นต้องมีทั้งพรสววรค์และพลัง ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะฝึกมันได้หรือเปล่า” หลี่เคอเอ๋อยิ้ม


 


“ข้าเชื่อว่าจะเรียนรู้มันได้” หานเซิ่นพูด


 


โอกาสที่จะได้เรียนรู้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นแบบฟรีๆนั้นเป็นสิ่งที่หานเซิ่นไม่คิดจะปฏิเสธ ไม่ว่าเขาจะเรียนรู้มันได้หรือไม่ เขาก็อยากจะลองดู


 


“ถ้าเจ้าอยากจะเรียนรู้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น เจ้าก็ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเทเลพอร์ตซะก่อน ถ้าเจ้ายังใช้การเทเลพอร์ตไม่ได้ เจ้าก็ไม่มีทางใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นได้…” หลี่เคอเอ๋อพูด


 


หลี่เคอเอ๋อไม่ได้โกหกหานเซิ่น ขณะที่เธอสอนหานเซิ่นเกี่ยวกับการเทเลพอร์ต เธอก็นำพวกเขาไปทางที่คอร์ไตรพอดทองแดงอาศัยอยู่


 


หานเซิ่นได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทเลพอร์ตมาอย่าง 2 อย่างในตอนที่เขาได้ปีกมังกรมา เขาพอจะรู้พื้นฐานการทำงานของมัน แต่หลี่เคอเอ๋อสอนเขาว่าจริงๆแล้วมันมีชนิดของการเทเลพอร์ตอยู่หลายแบบ เขาจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับความจริงเรื่องนั้นก่อนเป็นอันดับแรก


 


ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ยังเรียนรู้สิ่งที่เธอสอนได้อย่างรวดเร็ว เทคนิคที่เธอสอนค่อนข้างแตกต่างจากความสามารถในการเทเลพอร์ตที่เขาเคยใช้ มันไม่มีความล่าช้า เขาแค่ต้องคิดและเขาก็จะเทเลพอร์ตไป


 


“นี่สิพลังที่แท้จริงของการเทเลพอร์ต” หานเซิ่นถอนหายใจ


 


แต่หานเซิ่นเพิ่งจะเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคใหม่นี้ ดังนั้นระยะการเทเลพอร์ตของเขาจึงค่อนข้างจำกัด และความแม่นยำของเขาก็แย่อีกด้วย เขาสามารถเทเลพอร์ตได้อย่างแม่นยำภายในระยะ 500 เท่านั้น


 


เมื่อหลี่เคอเอ๋อเห็นหานเซิ่นเรียนรู้การเทเลพอร์ตได้อย่างรวดเร็ว เธอก็รู้สึกประหลาดใจ


 


หลี่เคอเอ๋อไม่ได้แค่สอนวิชาการเทเลพอร์ตธรรมดาให้กับหานเซิ่น เธอตัดสินใจสอนวิชาของเวรี่ไฮที่เรียกว่าก็อตส์วอนเดอร์ มันเป็นส่วนหนึ่งของวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่ถ้าไม่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ซะก่อน เขาก็จะเรียนรู้ก็อตส์วอนเดอร์ไม่ได้


 


วิชาการเทเลพอร์ตปกติจะมีความล่าช้า คำถามอย่างเดียวก็คือความล่าช้านั้นนานขนาดไหน ถ้ามันเป็นแค่ช่วงสั้นๆ มันก็แทบจะไม่สังเกตเห็น วิชาเทเลพอร์ตพื้นฐานคล้ายคลึงกับวิชาการเทเลพอร์ตชั้นสูงอย่างก็อตส์วอนเดอร์ในเรื่องนั้น


 


วิชาการเทเลพอร์ตขั้นพื้นฐานที่สุดนั้นใช้เวลาเตรียมการที่นานและยากจะนำใช้ในการต่อสู้ได้ เหนือจากนั้นขึ้นมาก็เป็นกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น และสุดท้ายก็คือก็อตวอทเดอร์ ผู้ที่ฝึกจนถึงขั้นสูงสุดของก็อตวอทเดอร์จะสามารถเดินทางเข้าระบบจักรวาลโดยเพียงแค่การคิด


 


ส่วนกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นไม่สามารถทำแบบนั้นได้ และยิ่งเป้าหมายในการเทเลพอร์ตไกลมากเท่าไหร่ มันก็ต้องใช้เวลาในการเตรียมการนานขึ้นเท่านั้น


 


หลี่เคอเอ๋อสอนก็อตวอนเดอร์ให้กับหานเซิ่น เธอต้องการจะยืนยันถึงความคล้ายคลึงของวิชาจีโนของหานเซิ่นกับเวรี่ไฮเซ้นส์ของเธอ


 


เมื่อเธอยืนยันได้ว่าหานเซิ่นสามารถเรียนรู้วิชาอย่างก็อตวอนเดอร์ได้อย่างง่ายดาย มันก็ทำให้เธอรู้อะไรหลายอย่าง มันน่าประหลาดใจที่เขาเรียนรู้วิชาได้รวดเร็วกว่ายิ่งเธอ หลี่เคอเอ๋อตกใจมากในเรื่องนั้น


 


“นี่เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่? เขาใช้วิชาจีโนที่คล้ายคลึงกับเวรี่ไฮเซ้นส์ นี่มีใครบางคนขโมยเวรี่ไฮเซ้นส์ของพวกเราไปอย่างนั้นหรอ? ไม่มีทาง! ถ้าไม่มีร่างกายของเวรี่ไฮ คนๆนั้นก็เรียนรู้เวรี่ไฮเซ้นส์ไม่ได้ มีเพียงแค่เผ่านภาที่จะจำลองส่วนหนึ่งของมัน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาคิดค้นตำราไร้อักษรขึ้นมา” หลี่เคอเอ๋อเต็มไปด้วยความสงสัย


 


แต่เธอไม่คิดว่าหานเซิ่นจะฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์หรือตำราไร้อักษร เพราะถ้าเขาฝึกอย่างใดอย่างหนึ่ง เขาก็คงจะรู้จักวิธีการเทเลพอร์ตเรียบร้อยแล้ว


 


“เขาไม่มีทางเป็นเวรี่ไฮ และเขาก็ดูจะไม่ใช่หนึ่งในเผ่านภา มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์แบบไหนกันแน่?” ความอยากรู้ของหลี่เคอเอ๋อกำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า


 


“ถ้าเรารับดอลลาร์มาเป็นตัวไหม ตัวไหมที่เรียนรู้เวรี่ไฮเซ้นส์ มันจะเกิดอะไรขึ้น? ตลอดประวัติศาสตร์ของเวรี่ไฮ มันไม่เคยมีตัวไหมแบบนี้มาก่อน มันจะเป็นเรื่องง่ายที่เขาจะกลายเป็นผีเสื้อ”

หลี่เคอเอ๋อรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาและเธอก็คิดต่อไปว่า “ผู้คนในเผ่าพันธุ์จะคิดยังไงกันเมื่อพวกเขารู้ว่าเรามีตัวไหมแบบนี้”


 


หลังจากที่หานเซิ่นเรียนรู้วิธีการเทเลพอร์ต หลี่เคอเอ๋อก็สอนเขาเกี่ยวกับกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น แต่เธอไม่ได้พูดถึงส่วนที่เกี่ยวกับก็อตส์วอนเดอร์


 


หานเซิ่นเชื่อว่าวิชาการเทเลพอร์ตของหลี่เคอเอ๋อนั้นคล้ายคลึงกับศาสตร์ตงเสวียนอย่างมาก ด้วยการใช้ศาสตร์ตงเสวียนและวิชาการเทเลพอร์ตที่เธอสอน มันก็ทำให้กระบวนการเทเลพอร์ตของเขาเป็นอะไรที่ง่ายขึ้นอย่างมาก


 


แต่ก่อนที่หานเซิ่นจะได้เรียนรู้มันอย่างเต็มที่ พวกเขาก็มาถึงที่อยู่ของคอร์ไตรพอดทองแดงแล้ว


 


การร่วมทางกับหลี่เคอเอ๋อเป็นประโยชน์ต่อหานเซิ่นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ชักช้าช่วยเธอจัดการกับคอร์ไตรพอดทองแดง ถึงคอร์ไตรพอดทองแดงระดับครึ่งเทพจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ไม่สามารถทนการโจมตีของหานเซิ่นได้ เพียงไม่นานหลังจากที่หานเซิ่นเริ่มโจมตี เขาก็ตัดร่างของมันจนขาดครึ่ง


 


หลังจากที่หานเซิ่นนำยีนของคอร์ไตรพอดทองแดงมาให้กับหลี่เคอเอ๋อ เขาก็ถามขึ้นมา “ยีนเดียวพอใช่ไหม หรือว่าเธอต้องการเพิ่มอีก?”


 


“ยีนเดียวพอแล้ว แต่ทว่ามันเป็นแค่วัตถุดิบรองเท่านั้น วัตถุดิบหลักคือยีนคอร์ระดับเทพเจ้า แต่ข้ายังล่าซีโน่เจเนอิคแบบนั้นไม่ได้” หลี่เคอเอ๋อถอนหายใจ


 


หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิชาเทเลพอร์ตและวิชากาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นมาก็จริง แต่วิชาจีโน 2 ตัวยังไม่เพียงพอที่เขาจะคิดเกี่ยวกับการล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าเพื่อเธอ


 


หลี่เคอเอ๋อพูดต่อ “เจ้าได้เรียนวิชาเทเลพอร์ตและวิชากาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นไปแล้ว มันจึงเหลืออีกแค่ส่วนเดียว แต่ข้าจำเป็นต้องล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าซะก่อน ข้าไม่มีเวลาที่จะสอนมันให้กับเจ้า”


 


ดวงตาของหานเซิ่นเป็นประกายขึ้นมา “มันยังมีอีกส่วนของกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นที่ข้าเรียนรู้ได้?”


 


หลี่เคอเอ๋อมองหานเซิ่นและหัวเราะ หานเซิ่นก็รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร

“ถ้าข้าช่วยเจ้าฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้านั่น เจ้าจะสอนส่วนสุดท้ายนั่นให้กับข้าได้ไหม?”

 

 

 


ตอนที่ 2531

 

หานเซิ่นให้สัญญาว่าจะช่วยหลี่เคอเอ๋อฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวหนึ่ง แต่หลี่เคอเอ๋อไม่รู้ว่าซีโน่เจเนอิคนั่นอาศัยอยู่ที่ไหน เธอแค่รู้ระบบที่มันอาศัยอยู่ หานเซิ่นจึงเดินทางไปที่ระบบนั้นพร้อมกับเธอ


 


แต่ครั้งนี้หลี่เคอเอ๋อไม่ได้สอนก็อตส์วอนเดอร์ให้กับหานเซิ่นก่อน เธอจะรอจนกระทั่งหานเซิ่นสังหารซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวนั้นได้แล้ว เธอถึงจะมอบส่วนสุดท้ายให้กับเขา


 


‘ดูเหมือนว่าวิชาเทเลพอร์ตและกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจะเป็นแค่การจ่ายล่วงหน้า’

หานเซิ่นไม่ได้โมโหอะไรกับเรื่องนั้น พวกเขาไม่ได้สนิทสนมกัน ดังนั้นนี่จึงถือเป็นเรื่องปกติ ถ้าเกิดหลี่เคอเอ๋อสอนวิชาให้กับเขาโดยไม่ต้องการอะไร เขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนเธอได้ยังไง


 


ในระหว่างทางหานเซิ่นพูดคุยกับหลี่เคอเอ๋อ และเขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้รู้ว่าหลี่เคอเอ๋อเชี่ยวชาญวิชาจีโนเกือบจะทุกแขนง ความจริงแล้ววิชาจีโนหลายอย่างที่เธอพูดถึงเป็นอะไรที่หานเซิ่นไม่เคยได้ยินมาก่อน นอกจากผู้หญิงบนเขา 2 โลกแล้ว หานเซิ่นก็ไม่รู้จักใครที่จะรอบรู้เหมือนอย่างหลี่เคอเอ๋อ


 


ตัวหานเซิ่นเองก็เชี่ยวชาญวิชาจีโนหลายอย่าง แต่เขาไม่ได้ทุ่มเทความพยายามไปกับการศึกษาวิชาจีโน เขามุ่งเน้นไปที่การฝึกวิชาจีโนแทนที่จะวิจัยพวกมัน


 


‘ด้วยความรู้ของหลี่เคอเอ๋อและการที่เธอเป็นถึงระดับราชัน เธอควรจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงในปราสาทนภา แต่ทำไมเราถึงไม่เคยได้ยินชื่อของเธอมาก่อน’ หานเซิ่นสงสัย


 


หลังจากไปถึงระบบที่หลี่เคอเอ๋อพูดถึง พวกเขาก็ทำการค้นหาซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ 2 วันเต็มๆ แต่พวกเขาก็ยังหามันไม่พบ


 


ระบบแห่งนี้มีขนาดใหญ่ ถ้าพวกเขาค้นหาในทุกดวงดาว มันก็จะใช้เวลาสักพัก


 


โชคดีที่หานเซิ่นยังคงฝึกฝนวิชาเทเลพอร์ตและกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น การค้นหาซีโน่เจเนอิคถือเป็นโอกาสที่ดีในการฝึก หานเซิ่นเทเลพอร์ตไปทุกหนทุกแห่งที่จำเป็นต้องไป และเขาก็เริ่มจะเคยชินกับมัน


 


ขณะที่พวกเขาทั้ง 2 และเตาหลอมทองแดงกำลังค้นหาไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา เมื่อหานเซิ่นสังเกตดูดีๆ เขาก็เห็นว่าพวกเขาคือเดียร็อบเบอร์ ดราก้อนวันและคนอื่นๆอีกหลายคน


 


ในตอนนี้หานเซิ่นคิดว่าพวกเขาเป็นเหมือนเพื่อนเก่า เขาคาดคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเดียร็อบเบอร์จะมาหาเขา แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะใช้เวลานานขนาดนี้


 


“ดอลลาร์ เจ้ามีเวลาว่างพอจะช่วยข้าฆ่าคอร์ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวหนึ่งไหม? พวกเราพูดคุยตกลงราคากันได้”

เดียร็อบเบอร์เริ่มจะคุ้นเคยกับลักษณะนิสัยของดอลลาร์ ดังนั้นเขาไม่มัวเสียเวลาพูดอ้อมค้อม เขาพูดถึงสิ่งที่ต้องการออกไปตรงๆ


 


“ข้ามีเวลา แต่ตอนนี้ข้าได้ตกลงกับมิสเตอร์หลี่แล้ว ข้าจำเป็นต้องช่วยเจ้าฆ่าซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งเช่นกัน” หานเซิ่นพูดและหันไปมองที่หลี่เคอเอ๋อ


 


เดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันหันไปมองหลี่เคอเอ๋อ พวกเขาไม่รู้จักเธอ แต่เธอดูเหมือนกับสมาชิกของเผ่านภา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สนใจอะไรเธอมากนัก


 


เดียร็อบเบอร์พูด “นั่นไม่เป็นไร แต่ข้าจะขอจองตัวเจ้าหลังจากนี้ได้ไหม?”


 


“เอาสิ แต่ในตอนนี้ข้าไม่ได้ขาดแคลนยีนซีโน่เจเนอิค ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากข้า ข้าต้องการวิชาจีโนตัวหนึ่งเป็นรางวัล มิสเตอร์หลี่เองก็จ้างข้าด้วยวิชาจีโนตัวหนึ่งเช่นกัน และนั่นเป็นเหตุผลที่ข้าช่วยเหลือเจ้า” หานเซิ่นอธิบาย


 


“วิชาจีโน? วิชาจีโนแบบไหนกันที่เจ้าต้องการ?” เดียร็อบเบอร์ประหลาดใจ


 


“ข้าได้ยินว่าเผ่าพันธุ์ของเจ้ามีวิชาจีโนที่ชื่อบิ๊กเดสทรอยเยอร์อยู่ จากที่ข้าได้ยินเกี่ยวกับมัน ข้าคิดว่ามันค่อนข้างน่าสนใจ” หานเซิ่นพูด


 


“นั่นมัน… ข้าขอเปลี่ยนเป็นวิชาจีโนตัวอื่นได้ไหม? บิ๊กเดสทรอยเยอร์นั้นเป็นวิชาลับของเผ่าพันธุ์เรา พวกเราคงจะสอนมันให้กับคนนอกไม่ได้ แถมถ้าไม่มีร่างกายของเดสทรอยเยอร์ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ ถ้าเจ้าสนใจในวิชาจีโน ข้าจะมอบวิชาจีโนตัวอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกับบิ๊กเดสทรอยเยอร์ให้กับเจ้า” เดียร็อบเบอร์เสนอ


 


หานเซิ่นส่ายหัว เขาดูตัดสินใจแน่วแน่ “สำหรับตอนนี้ข้าสนใจแค่วิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์เท่านั้น เดียร็อบเบอร์ เจ้ากลับไปคิดเกี่ยวกับมันดู”


 


ในตอนนี้เขามีวิชาจีโนที่จำเป็นต้องฝึกเยอะเกินไปแล้ว เขาไม่มีเวลาที่จะฝึกวิชาจีโนอื่นที่ไม่มีความจำเป็น เขาแค่ต้องการบิ๊กเดสทรอยเยอร์เพื่อที่เขาจะใช้มันแทนวิชาคอนซูม แบบนั้นเขาก็จะสามารถกินยีนซีโน่เจเนอิคได้เร็วขึ้นกว่าเดิม


 


“พวกเราจะคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มขณะที่พวกเราเดินทาง ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าแบบไหนกันที่พวกเจ้ากำลังตามหา? ถ้าพวกเจ้าไม่รังเกียจ พวกเราจะช่วยตามหามัน” เดียร็อบเบอร์ยิ้ม


 


“แต่ข้าไม่มีอะไรจะให้พวกเจ้า” หานเซิ่นพูด


 


“การได้รับอนุญาตให้ติดตามเจ้าถือเป็นรางวัลที่เพียงพอแล้ว” เดียร็อบเบอร์ยิ้ม


 


ถ้าใครบางคนเสนอที่จะช่วยพวกเขาฟรีๆ หานเซิ่นก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธพวกเขา ดังนั้นเขาจึงให้เดียร็อบเบอร์และคนอื่นๆติดตามไปด้วย หานเซิ่นเคยเห็นพลังของพวกเขามาก่อน หานเซิ่นรู้ว่าพวกเขามีพลังที่มีประโยชน์ในการล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า


 


หานเซิ่นบอกพวกเดียร็อบเบอร์เกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคที่หลี่เคอเอ๋อต้องการและถามว่าพวกเขาเคยเห็นมันหรือเปล่า


 


“มิสเตอร์หลี่กำลังล่าซีสกายอายอย่างนั้นหรอ?” เมื่อดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ได้ยินชื่อของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า พวกเขาก็อึ้งไป


 


หลี่เคอเอ๋อยิ้ม “ข้าไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องขอความช่วยเหลือจากดอลลาร์”


เดียร็อบเบอร์ถอนหายใจและพูด “ซีสกายอายถูกรู้จักกันในฐานะหนึ่งในซีโน่เจเนอิคที่แข็งแกร่งที่สุดในคอร์แอเรีย มันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าขุนพลเกราะทองเลย หลายเผ่าพันธุ์เคยพยายามต่อสู้กับมัน แต่ไม่มีใครทำอะไรมันได้”


 


เดียร็อบเบอร์พูดด้วยท่าทางลังเลราวกับว่าพยายามจะอธิบายสถานการณ์กับหานเซิ่นอย่างอ้อมๆ ถ้าเขาไม่ได้กำลังยืนอยู่ต่อหน้าของหลี่เคอเอ๋อ เขาก็คงจะบอกหานเซิ่นว่าอย่ารับงานนี้


 


ซีสกายอายเป็นซีโน่เจเนอิคที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก สำหรับระดับราชันและครึ่งเทพแล้ว มันเป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่าขุนพลเกราะทองซะอีก


 


แต่เดียร็อบเบอร์ไม่สามารถล่วงเกินเผ่านภาได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามบอกหานเซิ่นอย่างอ้อมๆว่าซีสกายอายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเกินไป


 


หานเซิ่นพยักหน้า “ข้าได้ยินว่าซีสกายอายอยู่ที่ไหนสักแห่งในระบบแห่งนี้ พวกเจ้ารู้ไหมว่าข้าจะหามันได้ที่ไหน?”


 


หลี่เคอเอ๋อบอกหานเซิ่นก่อนแล้วว่าซีสกายอายเป็นซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวมากๆ แต่หานเซิ่นต้องการส่วนสุดท้ายของกาแล็กซี่เทเลพอร์เทชั่น ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะถอยกลับ


 


ถึงแม้เขาจะไม่สามารถรับมือกับมันได้จริงๆ เขาก็สามารถใช้เสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูงและขุนพลหุ่นยนต์ทองได้


 


“มันยากที่จะบอกได้ ซีสกายอายอาศัยอยู่ในระบบจักรวาลนี้ก็จริง แต่มันไม่ได้มีรังอยู่ และบางครั้งมันก็จะเดินทางออกไปจากระบบนี้ การจะหามันให้เจอนั้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับดวง” ดราก้อนวันพูด


 


ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ไม่รู้ซีสกายอายอยู่ที่ไหน หานเซิ่นจึงไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนั้นได้ ตัวเลือกเดียวของเขาก็คือลองเสี่ยงดวงไปเรื่อยๆและหวังว่าจะได้พบกับซีสกายอาย


 


“ข้ารู้ว่าซีสกายอายนั้นยากจะหาพบ ถ้าพวกเจ้าต้องการตัวดอลลาร์ ข้าจะให้เจ้ายืนตัวเขาไปก่อน ข้าไม่ได้รีบร้อนอะไร” หลี่เคอเอ๋อดูเหมือนกับผู้หญิงที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย


 


“ขอบคุณมิสเตอร์หลี่มาก” เดียร็อบเบอร์ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น แต่หลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็ตรึงเครียดเล็กน้อย เขาหันไปพูดกับดอลลาร์

“ดอลลาร์ นอกจากบิ๊กเดสทรอยเยอร์แล้ว มันไม่มีวิชาจีโนอื่นที่เจ้าต้องการแล้วหรอ?”


 


“ข้าสนใจวิชาจีโนเดียวเท่านั้น ข้าไม่สนใจในวิชาจีโนอื่น” หานเซิ่นตอบอย่างหนักแน่น


 


“ถ้าอย่างนั้น ขอเวลาข้าหน่อยได้ไหม? ข้าจำเป็นต้องพูดคุยกับคนในเผ่าพันธุ์ซะก่อน” หลังจากที่บอกลา เดียร็อบเบอร์ก็ออกไปจากคอร์แอเรีย


 


‘หวังว่าพวกเขาจะยอมมอบบิ๊กเดสทรอยเยอร์ให้กับเรา’

หานเซิ่นคิดกับตัวเอง เขามียีนซีโน่เจเนอิคอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในตอนนี้เขาสามารถกินได้แค่ 3 ยีนต่อวันเท่านั้น

 

 

 


ตอนที่ 2532

 

หลังจากที่เดียร็อบเบอร์กลับไปปรึกษากับคนในเผ่า หานเซิ่นและคนอื่นๆก็ทำการค้นหาซีสกายอายกันต่อ พวกเขาหาซีสกายอายไม่เจอ แต่พวกเขาได้พบกับรอยัลไนท์ของเอ็กซ์ตรีมคิง


 


เมื่อองค์รัชทายาทไป๋ว่านเจียเห็นหานเซิ่นและคนอื่นๆ เขาก็นำรอยัลไนท์บินเข้ามาหา เขามองไปที่หานเซิ่นและพูด

“ดอลลาร์ บังเอิญจังเลย ไม่ได้คาดคิดเลยว่าข้าจะมาเจอเจ้าที่นี่”


 


“นี่องค์ชายกำลังตามหาข้าอยู่อย่างนั้นหรอ?”

หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่ไป๋ว่านเจีย เขาขมวดคิ้วและคิดกับตัวเอง ‘ทำไมไป๋ว่านเจียถึงมาอยู่ที่นี่? และทำไมเขาถึงพารอยัลไนท์ตั้งมากมายมาด้วย? เขาคงไม่ได้กำลังตามหาตัวเราจริงๆหรอกใช่ไหม’


 


“นั่นก็ใช่ ดอลลาร์ ข้าอยากจะจ้างเจ้าไปล่าซีโน่เจเนอิค เจ้าบอกราคามาได้เลย” ไป๋ว่านเจียพูด


 


“ซีโน่เจเนอิคแบบไหนที่องค์ชายต้องการจะล่า?” หานเซิ่นรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้


 


“ซีสกายอาย” ไป๋ว่านเจียพูดอย่างง่ายๆ


 


ชื่อนั้นซัดใส่หานเซิ่นและคนอื่นราวกับคลื่น พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่านี้เป็นเรื่องบังเอิญ มันเป็นอะไรที่บังเอิญเกินไปที่ไป๋ว่านเจียเลือกเวลานี้เพื่อมาฆ่าซีสกายอาย


 


ใบหน้าของหลี่เคอเอ๋อดูตกใจ แต่ในใจของเธอ เธอรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอไม่ได้มีความจำเป็นต้องฆ่าซีสกายอายจริงๆ เธอแค่ขอให้หานเซิ่นฆ่าซีโน่เจเนอิคเพื่อที่เธอจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเขา


 


เธอรู้ว่าทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการจะสังหารซีสกายอาย ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เธอจงใจเลือกซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวนี้ เธออยากเห็นว่าดอลลาร์จะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อเผชิญหน้ากับคนของเอ็กซ์ตรีมคิง ถ้าหานเซิ่นล่วงละเมิดเอ็กซ์ตรีมคิง เธอก็จะก้าวเข้าไปแทรกแซงและแก้ไขสถานการณ์ แบบนั้นหานเซิ่นก็จะเป็นหนี้เธอ


 


หานเซิ่นลังเล แต่เขายังคงยอมรับความจริงกับไป๋ว่านเจีย

“องค์ชาย ข้าต้องขออภัยด้วย ข้าได้รับงานล่าซีสกายอายจากคนอื่นไปแล้ว”


 


ดวงตาของไป๋ว่านเจียเบิกกว้าง เขามองไปที่ดราก้อนวันและถาม

“ดราก้อนวัน นี่เผ่าดราก้อนเพิ่งจะล่าขุนพลเกราะทองไป ตอนนี้เจ้ามาที่นี่เพื่อล่าซีสกายอายอีกอย่างนั้นหรอ? เจ้านี่ร่ำรวยกว่าที่ข้าคิดซะอีก”


 


ดราก้อนวันส่ายหัว “ครั้งนี้พวกเราไม่ได้เป็นคนที่จ้างเขา เผ่าดราก้อนไม่ได้หมายตาซีสกายอาย”


 


“ถ้าอย่างนั้นใครกัน? เผ่าเดสทรอยเยอร์?” ไป๋ว่านเจียหันกลับไปมองที่หานเซิ่น


 


“ข้าเอง” หลี่เคอเอ๋อก้าวออกมาข้างหน้าโดยไม่รอให้หานเซิ่นตอบ


 


“เจ้ามาจากปราสาทนภา?” เมื่อเห็นหลี่เคอเอ๋ออยู่ที่นั่นด้วย ไป๋ว่านเจียก็ขมวดคิ้ว


 


ปราสาทนภาไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเอ็กซ์ตรีมคิง แต่พวกเขามีเผ่าเวรี่ไฮหนุนหลังอยู่ เพราะแบบนั้นเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงจึงไม่สามารถล่วงละเมิดเผ่านภาโดยไม่คิดหน้าคิดหลังได้


 


ชื่อของเอ็กซ์ตรีมคิงมากพอที่จะทำให้เผ่าดราก้อนและเดสทรอยเยอร์ยอมถอย แต่มันไม่สามารถกดดันปราสาทนภาได้มากนัก


 


“ถ้าข้าแล้วจะทำไม?” หลี่เคอเอ๋อตอบ


 


“การแข่งขันถือเป็นเรื่องที่ดี ถ้าแบบนั้นมาดูกันว่าระหว่างพวกเราใครจะล่ามันได้สำเร็จ”

ไป๋ว่านเจียยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับหานเซิ่น “ดอลลาร์ ถ้าเจ้ายินดีจะช่วยพวกเรา มันก็ไม่มีราคาที่สูงเกินไป ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้ถึงอำนาจของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงดี พวกเราจะมอบการช่วยเหลือให้กับเจ้าเพื่อที่เจ้าจะได้ฆ่าซีสกายอายง่ายยิ่งกว่าเดิม”


 


“ขอบคุณองค์ชาย แต่ข้าต้องขอปฏิเสธ การทำธุรกิจนั้นสร้างบนรากฐานของความเชื่อถือได้ ข้าได้ตกลงรับงานจากมิสหลี่แล้ว ข้าจะต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับนาง” หานเซิ่นพูด


 


“ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าก็จะไม่บังคับเจ้า แต่ถ้าหากเจ้าเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา เจ้ามาหาข้าได้เสมอ” ไป๋ว่านเจียพยักหน้าและพารอยัลไนท์จากไป


 


“ดอลลาร์ เอ็กซ์ตรีมคิงไม่ใช่เผ่าพันธุ์ชั้นสูงธรรมดาๆ เจ้าอาจจะไม่เกรงกลัวพวกเขาในคอร์แอเรีย แต่ถ้าพวกเขาหมายหัวเจ้าขึ้นมา เจ้าก็จะเผชิญกับปัญหาจำนวนมากในโลกภายนอก” ดราก้อนวันพูดกับหานเซิ่น


 


หานเซิ่นไม่ได้หวาดกลัวเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง มันเป็นไปไม่ได้ที่เอ็กซ์ตรีมคิงจะหาตัวเขา แถมหานเซิ่นก็ได้ล่วงละเมิดพวกเขาไปแล้ว ดังนั้นการล่วงละเมิดพวกเขาอีกครั้ง มันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไร


 


“ถ้าเจ้าคิดเปลี่ยนใจ อย่างนั้นพวกเราก็จะยกเลิกข้อตกลงของพวกเรา” หลี่เคอเอ๋อพูดอย่างอ่อนโยน


 


หานเซิ่นหัวเราะ “ถ้าเจ้าไม่อยากให้ข้าล่าซีสกายอาย นั่นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเจ้ายังต้องการ ข้าก็จะทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยเจ้าฆ่ามัน”


 


“แน่นอนว่าข้าต้องการจะล่ามัน แต่ข้าไม่อยากจะสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นให้กับเจ้า” หลี่เคอเอ๋อพูด


 


“ข้าไม่รังเกียจที่ต้องเจอกับปัญหา ตามใดที่ข้าได้สิ่งตอบแทน” หานเซิ่นหัวเราะอีกครั้ง



 


หลังจากที่ไป๋ว่านเจียจากไปพร้อมกับคนของเขา อัศวินไนท์แมร์ก็พูดขึ้นมา

“องค์ชาย นี่ดอลลาร์กำลังจะไปล่าซีสกายอาย พวกเราจะทำยังไงกับเรื่องนั้น”


 


“รีบค้นหาซีสกายให้เจอ พวกเราต้องฆ่ามันก่อนหน้าเขา ครั้งนี้พวกเราจะพลาดไม่ได้”


 


ในตอนแรกเขาต้องการขอความช่วยเหลือจากดอลลาร์ แบบนั้นมันก็จะมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้นกว่าเดิม และสมบัติหายากกับทรัพยากรของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ไม่ต้องสูญเสียไปมากนัก แต่เขาไม่สามารถจ้างดอลลาร์ได้สำเร็จ และตอนนี้เขาก็ยังต้องแข่งขันกับชายคนนั้น ไป๋ว่านเจียจึงไม่อยากจะมัวชักช้าอีก เขาจำเป็นต้องฆ่าซีสกายอายก่อนคู่แข่ง เขาไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์แบบเดียวกับขุนพลเกราะทองเกิดขึ้นซ้ำสอง


 


การยอมปล่อยขุนพลเกราะทองไปไม่ได้ทำให้ไป๋ว่านเจียสูญเสียมากจนเกินไป แต่เขาไม่สามารถปล่อยซีสกายอายไปได้ เหตุการณ์แบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง


 


ผู้คนของเอ็กซ์ตรีมคิงค้นหาซีสกายอายอย่างเร่งรีบ หานเซิ่นรู้ว่าตัวเองไม่มีทางหาตัวซีสกายอายได้รวดเร็วกว่าทางเอ็กซ์ตรีมคิง ดังนั้นเขาจึงไม่เสียเวลาค้นหาด้วยตัวเองและตัดสินใจติดตามเหล่าเอ็กซ์ตรีมคิงไป


 


ถ้าพวกเขาพบซีสกายอายและทำการต่อสู้กับมัน สถานการณ์ก็จะกลายเป็นอะไรที่โกลาหลอย่างรวดเร็ว แบบนั้นเขาก็จะมีโอกาส


 


“มิสหลี่ เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าซีสกายอายนั้นทำอะไรได้?” หานเซิ่นมองดูอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงทำการค้นหากันอย่างขยันขันแข็ง และเขาก็รู้สึกสนใจขึ้นมา


 


หลี่เคอเอ๋อลังเล แต่หลังจากนั้นเธอก็พูดขึ้นมา “ข้าบอกเจ้าได้แค่ว่าคอร์ยีนซีโน่เจเนอิคของซีสกายอายเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการสร้างสกายอายจำลอง”


 


“สกายอายจำลอง? เหมือนอย่างสกายอายของปราสาทนภาน่ะหรอ?” ดราก้อนวันพูด เขามองไปที่หลี่เคอเอ๋ออย่างไม่อยากจะเชื่อ


 


หลี่เคอเอ๋อพยักหน้า แต่เธอไม่ได้อธิบายไปมากกว่านั้น


 


ใบหน้าของดราก้อนวันดูตกใจ “อย่างนี้นี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่ไป๋ว่านเจียต้องการจะฆ่าซีสกายอายมากนัก ด้วยอำนาจของพวกเขา การฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าในคอร์แอเรียจะใช้ทรัพยากรมากเกินกว่าที่พวกเขาจะได้รับถึงแม้พวกเราจะได้รับชัยชนะ แต่ถ้ายีนซีโน่เจเนอิคของซีสกายอายทำสกายอายจำลองได้จริงๆ ราคาที่พวกเขาต้องจ่ายก็จะเป็นอะไรที่คุ้มค่า”


 


“สกายอายคืออะไร?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน เขาเคยอาศัยอยู่ในปราสาทนภามาก่อน แต่เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมัน


 


ดราก้อนวันไม่ได้ตอบคำถามของหานเซิ่น แต่เขาหันไปมองหลี่เคอเอ๋อแทน


 


หลี่เคอเอ๋อหัวเราะออกมาเล็กน้อยและพูด “สกายอายคือการป้องกันหลักของปราสาทนภา ระบบป้องกันทั้งหมดของปราสาทนภานั้นขึ้นอยู่กับสกายอายของพวกเขา ส่วนในเรื่องความแข็งแกร่งของระบบป้องกันนั้น ระบบป้องกันของปราสาทนภาแข็งแกร่งยิ่งกว่าของเอ็กซ์ตรีมคิง และนั่นก็เป็นเพราะสกายอาย ทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการจะฆ่าซีสกายอายก็เพื่อต้องการสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งทัดเทียมกับของเผ่านภา ถึงแม้ยีนของคอร์ซีโน่เจเนอิคตัวนี้อาจจะไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนอย่างสกายอายที่แท้จริง แต่มันก็ต้องเหนือกว่าระบบป้องกันของเอ็กซ์ตรีงคิงในตอนนี้อย่างแน่นอน”

 

 

 


ตอนที่ 2533

 

“นั่นหมายความว่าไป๋ว่านเจียมั่นใจว่าจะฆ่าซีสกายอายได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว


 


หลี่เคอเอ๋อยิ้ม “นั่นเป็นเหตุผลบอกว่า ถ้าเจ้าคิดว่านี่เป็นปัญหาที่ยุ่งยากเกินไป เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องช่วยข้า ข้าต้องการยีนของซีสกายอาย แต่มันไม่ได้มากเหมือนอย่างที่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการ”


 


“ข้าไม่รังเกียจที่จะลองดู แถมทางเอ็กซ์ตรีมคิงก็อาจจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะโค่นล้มมันได้” หานเซิ่นพูด แต่ในใจของเขากำลังคิดเกี่ยวกับหนทางที่เขาจะได้รับยีนของซีสกายอายมาเป็นของตัวเอง


 


ในตอนที่เดียร็อบเบอร์กลับมา รอยัลไนท์ก็ยังคงหาตัวซีสกายอายไม่พบ


 


เห็นได้ชัดว่าเดียร็อบเบอร์สังเกตเห็นเหล่ารอยัลไนท์ระหว่างทางที่มาหาหานเซิ่น ดังนั้นเขาจึงถามขึ้นว่า “ทำไมเอ็กซ์ตรีมคิงถึงมาอยู่ที่นี่?”


 


ดราก้อนวันอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง หลังจากนั้นเดียร็อบเบอร์ก็พูดขึ้นว่า

“ถ้าทางเอ็กซ์ตรีมคิงเชื่อว่าพวกเขาจะฆ่ามันได้ ข้าก็เกรงว่ามันจะไม่มีอะไรให้พวกเราทำในระบบจักรวาลนี้มากนัก ดอลลาร์ ข้าได้ไปพูดคุยกับคนอื่นมาแล้ว พวกเขาตกลงจะให้เจ้าเรียนรู้บิ๊กเดสทรอยเยอร์เป็นรางวัลสำหรับการช่วยพวกเราสังหารซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า แต่ข้าคงจะมอบส่วนหนึ่งของวิชาจีโนเป็นการจ่ายล่วงหน้าไม่ได้ พวกเราหวังว่าเจ้าจะช่วยพวกเราเอาชนะซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าซะก่อน และในกรณีที่เจ้าไม่เชื่อใจพวกเรา พวกเราจะให้บุคคลที่ 3 เป็นคนถือมันเอาไว้ เจ้าคิดว่าแบบนั้นเป็นยังไง?”


 


“เอาสิ ถ้าอย่างนั้นก็ให้เผ่าดราก้อนวันเป็นคนถือวิชาจีโนเอาไว้” หานเซิ่นพูด


 


“ข้าเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ดราก้อนวัน ข้าคงต้องให้เจ้าช่วยพวกเราในเรื่องนี้” เดียร็อบเบอร์หันไปมองดราก้อนวันขณะที่พูด


 


“ได้เลย” ดราก้อนวันตอบตกลง


 


“ข้านำวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ติดตัวมาด้วย พวกเราควรจะเซ็นสัญญากันเลยไหม?” เดียร็อบเบอร์ถามขณะที่นำกล่องๆหนึ่งออกมา


 


“ไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อน ให้ข้าจัดการกับซีสกายอายนี่ก่อน และข้าจะเซ็นมัน” หานเซิ่นพูด


 


ผู้คนรอบๆแปลกใจ ไม่มีใครคาดคิดว่าหานเซิ่นจะยังมีเจตนาที่จะฆ่าซีสกายอาย หลังจากที่ได้รู้ถึงการแทรกแซงของเอ็กซ์ตรีมคิง


 


“ดอลลาร์ เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นแข็งแกร่งมากๆ แถมพวกเขาก็มั่นใจอย่างมากในงานนี้ พวกเขาคงจะต้องเตรียมการมาเป็นอย่างดี และพวกเขาก็คงจะมีไพ่ตายหลายอย่างซ่อนอยู่ มันไม่มีความจำเป็นที่เราต้องต่อสู้กับพวกเขาเพื่อแย่งมัน” ดราก้อนวันพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้หานเซิ่นล้มเลิกความคิด


 


“ข้าแค่จะอยู่ต่อเพื่อลองเสี่ยงดวงดูเท่านั้น ข้าไม่ได้มีความบาดหมางอะไรกับไป๋ว่านเจีย”

หานเซิ่นหยุดไปชั่วครู่ ก่อนที่จะพูดต่อ “ส่วนเรื่องการเซ็นสัญญา พวกเรารอไว้หลังจากที่เรื่องนี้จบลงแล้ว พวกเจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไป ทำไมพวกเจ้าไม่ไปจากที่นี่ก่อน? เมื่อข้าเสร็จธุระที่นี่แล้ว ข้าจะไปหาพวกเจ้าทั้งคู่”


 


ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์มองหน้ากันอย่างหวั่นใจ หลังจากนั้นพวกเขาก็พาคนของตัวเองจากไป


 


เผ่าดราก้อนมักจะเป็นพันธมิตรกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงในโอกาสต่างๆ และถึงแม้เผ่าเดสทรอยเยอร์จะไม่ลงรอยกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาก็ไม่ต้องการจะล่วงละเมิดเผ่าพันธุ์ที่ทรงอำนาจแบบนั้น ด้วยเหตุนั้นพวกเขาเองก็คิดเหมือนกันว่าควรจะรีบไปจากที่นี่ก่อนในตอนนี้


 


หลังจากที่ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์จากไปแล้ว หานเซิ่นก็หันมาพูดกับหลี่เคอเอ๋อ

“เจ้าเองก็ควรไปเช่นกัน ถ้าข้าได้ยีนของซีสกายอายมาแล้ว ข้าจะนำมันไปส่งให้กับเจ้า”


 


หลี่เคอเอ๋อยิ้มและพูด “ถึงข้าจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับเจ้า แต่ข้ามีกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นอยู่ ข้าหนีไปได้ถ้าจำเป็น เจ้าแค่เป็นห่วงเรื่องของตัวเองก็พอ”


 


หานเซิ่นไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาเริ่มเร่ร่อนไปรอบๆระบบจักรวาลและสังหารซีโน่เจเนอิคที่พบเห็น มันเหมือนกับว่าเขาแค่ร่อนเร่ไปอย่างไร้จุดหมาย แต่เขาระมัดระวังไม่ให้ออกไปจากเขตแดนของระบบ


 


ถ้าผู้รุกล้ำเข้ามาเป็นใครคนอื่น ไป๋ว่านเจียก็จะสั่งให้คนของเขาไปไล่คนนั้นออกไป เขาจะไม่ปล่อยให้ใครคนไหนมาป้วนเปี้ยนในเขตแดนของเขาแบบนี้ แต่ความสามารถของหานเซิ่นที่แสดงต่อขุนพลเกราะทองนั้นเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวเกินไป มันจึงทำให้คนอื่นไม่ต้องการจะเข้าไปยุ่งกับเขา


 


ถึงแม้รอยัลไนท์ของเอ็กซ์ตรีมคิงจะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่พวกเขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะหานเซิ่นในคอร์แอเรียได้ แทนที่จะพยายามขับไล่หานเซิ่นไป พวกเขาจึงแค่คอยจับตาดูหานเซิ่นเอาไว้เผื่อเขาคิดจะทำอะไรขึ้นมา


 


หานเซิ่นไม่รู้สึกละอายแม้แต่นิดเดียวกับแผนการที่จะขโมยซีสกายอายจากเอ็กซ์ตรีมคิง


 


เขาคิดว่าต้องรออีกนานกว่าที่ซีสกายอายจะถูกพบ แต่หลังจากที่ผ่านไปเพียงแค่ 2 วัน เขาก็รู้สึกได้ถึงคลื่นแรงแทกที่ซัดมาจากจุดๆหนึ่งในระบบจักรวาล ไป๋ว่านเจียคงจะต้องพบตัวซีสกายอายแล้ว และเขาก็คงจะกำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้กับมัน


 


หานเซิ่นต้องการที่มุ่งหน้าไปที่นั่น แต่รอยัลไนท์ 2 คนเข้ามาขวางทางเขาเอาไว้


 


“เจ้ากำลังจะไปไหน?” รอยัลไนท์คนหนึ่งพูดขณะที่มองมาที่หานเซิ่น


 


“ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วยว่ากำลังจะไปไหน?” หานเซิ่นถาม


 


รอยัลไนท์ไม่ได้โกรธอะไร ใบหน้าของเขายังคงเยือกเย็นขณะที่พูดออกมา

“เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกข้าว่าเจ้ากำลังจะไปที่ไหน แต่ถ้าเจ้าเข้าไปในสนามต่อสู้ เจ้าก็จะกลายเป็นศัตรูกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ข้าหวังว่าเจ้าจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีๆ”


 


ก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดอะไร รอยัลไนท์อีกคนก็พูดขึ้นมา

“องค์ชายของพวกเราพูดว่าถ้าเจ้ายอมอยู่เฉยๆ และไม่เข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ เขาจะถือว่าติดหนี้บุญคุณเจ้า และพวกเราก็จะซาบซึ่งอย่างมาก”


 


“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่บอกกับองค์ชายของพวกเจ้าด้วยว่าอย่าได้ผิดสัญญาของเขา” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็หันหลังและจากไป


 


รอยัลไนท์ทั้ง 2 แปลกใจ ในตอนที่พวกเขาถูกส่งมาประจำที่นี่ เขาได้รับคำสั่งให้หยุดดอลลาร์ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม พวกเขาเตรียมตัวจะต่อสู้จนตัวตาย แต่ดอลลาร์กลับเป็นคนที่ว่าง่ายอย่างน่าประหลาดใจ เขาจากไปหลังจากที่พูดคุยกันไม่กี่คำ


 


แต่ถึงอย่างนั้นรอยัลไนท์ทั้ง 2 ก็ยังคงไม่วางใจ พวกเขาติดตามหานเซิ่นไป พวกเขาไม่ต้องการให้หานเซิ่นหนีจากสายตาของพวกเขาไปได้


 


“การยอมปล่อยไปถือเป็นความคิดที่ดี เพราะยังไงซะพวกเขาก็เป็นเอ็กซ์ตรีมคิง” หลี่เคอเอ๋อถอนหายใจออกมา


 


หานเซิ่นหัวเราะและพูด “มิสหลี่ เจ้าเล่นหมากลุกไหม?”


 


“หมากรุก?” หลี่เคอเอ๋อแปลกใจ


 


“ใช่หมากรุก” หานเซิ่นพยักหน้า “เจ้าเล่นมันไหม?”


 


“ข้ารู้จักวิธีการเล่นหมากรุก แต่เจ้าถามข้าทำไม?” หลี่เคอเอ๋อไม่รู้ว่าหานเซิ่นต้องการอะไร


 


“ถ้าอย่างนั้นเจ้าช่วยเล่นหมากรุกกับข้าสักตา”

หานเซิ่นชี้ไปยังดวงดาวที่อยู่ไกลออกไป “บนดาวดวงนั้นเป็นยังไง?”


 


หลี่เคอเอ๋อรู้ว่าหานเซิ่นมีแผนการบางอย่าง แต่แทนที่จะถามแผนการของเขา เธอแค่พยักหน้า


 


เมื่อพวกเขาทั้ง 2 ไปถึงบนดวงดาว พวกเขาก็หาสถานที่ที่เงียบสงบสำหรับการเล่นหมากรุก เมื่อรอยัลไนท์ทั้ง 2 คนที่สะกดรอยตามมาเห็นว่าดอลลาร์กำลังเล่นหมากรุกกับผู้หญิงเผ่านภาอยู่ พวกเขาก็ประหลาดใจอย่างมาก


 


“นี่เขากำลังทำอะไร?” รอยัลไนท์คนหนึ่งพึมพำด้วยความสับสน


 


รอยัลไนท์อีกคนหัวเราะและพูด “จะอะไรซะอีกล่ะ? มันไม่สำคัญว่าเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาก็เป็นแค่ระดับราชันคนหนึ่ง แถมเขายังมาจากเผ่าพันธุ์ที่ไร้ชื่อ เขาไม่กล้าจะเป็นศัตรูกับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงของพวกเรา เขาตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว”


 


“หวังว่าจะเป็นแบบนั้น พวกเราจะได้ไม่ต้องต่อสู้กับเขา”

ในที่สุดรอยัลไนท์ทั้ง 2 ก็เริ่มจะรู้สึกผ่อนคลาย พวกเขาเคยเห็นหานเซิ่นต่อสู้กับขุนพลเกราะทองมาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากจะต่อสู้กับหานเซิ่น


 


หลี่เคอเอ๋อที่กำลังเล่นหมากรุกกับหานเซิ่นอยู่คิดในใจว่าพวกเขาทั้งคู่เข้าใจเจตนาของหานเซิ่นผิดไปอย่างมหัน นั่นก็เพราะว่าเธอไม่ได้กำลังเล่นหมากรุกกับหานเซิ่นตัวจริง แต่เธอกำลังเล่นอยู่กับร่างโคลนของเขา ร่างจริงของหานเซิ่นจากไปเป็นเวลานานแล้ว ถึงแม้หลี่เคอเอ๋อจะไม่รู้สึกถึงตอนที่เขาเทเลพอร์ตจากไปก็ตาม


 


“เขากล้ามากจริงๆ เขากล้าจะขโมยจากเอ็กซ์ตรีมคิง ไม่เพียงแค่นั้นเขายังกำลังจะขโมยบางสิ่งที่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการเป็นอย่างมาก”

ถึงแม้หลี่เคอเอ๋อจะกำลังเล่นหมากรุกอยู่ แต่เธอไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก ดวงตาของเธอแว็บขึ้นมาและทิวทัศน์ในดวงตาของเธอก็เป็นภาพของไป๋ว่านเจียที่กำลังต่อสู้กับซีสกายอาย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)