Super God Gene 2522-2525

ตอนที่ 2522

 

หานเซิ่นอยากจะถามหว่านเอ๋ออีกหลายอย่าง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะหลับไปอีกครั้ง เธอดูอ่อนล้า แต่บนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุข เธอนอนคดตัวข้างหานเซิ่นราวกับแมวน้อยที่เบิกบาน


 


หานเซิ่นพยายามจะปลุกเธอ แต่เธอไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เธอคงจะหลับลึกมากๆ


 


แต่หานเซิ่นยังคงประคองหว่านเอ๋อเอาไว้ เขาไม่ได้พาเธอไปวางลงบนเตียง ถ้าหานเซิ่นวางเธอลงที่ไหนสักแห่งที่ไกลจากเขา เธอก็จะกลับเข้าสู่โหมดผมทองอีกครั้ง


 


หานเซิ่นลังเล แต่สุดท้ายเขาก็พาเธอกลับเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา เธอสามารถหลับอย่างอิสระภายในนั้น


 


ตอนนี้หานเซิ่นมีเวลาว่างที่จะตรวจช็อควิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทอง


 


“วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทอง : ชุดเกราะ”


 


หานเซิ่นไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร เขารู้ว่าวิญญาณอสูรชุดเกราะนี้แตกต่างไปจากวิญญาณอสูรชุดเกราะอื่นๆ


 


หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองออกมาเพื่อดูว่ามันเป็นวิญญาณอสูรแบบไหนกันแน่


 


วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองบินออกมาตรงหน้าหานเซิ่นในทันที ร่างกายสีทองของมันลอยตัวอยู่ตรงหน้าของเขา ในมือของมันถือดาบใหญ่สีทองเหมือนกับตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ ผ้าคลุมสีแดงของมันปลิวไสว


 


แต่วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองนั้นเป็นเหมือนกับเงา มันไม่ได้เป็นรูปธรรม


 


แต่วินาทีต่อมา วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองก็กลายเป็นรูปธรรมขึ้นมา มันเหมือนกับว่าขุนพลเกราะทองนี้กลับมามีชีวิตจริงๆ มันลอยตัวอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นโดยไม่เคลื่อนไหว


 


ในขณะที่หานเซิ่นยังคงตกตะลึง ร่างกายสีทองของวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองก็แยกตัวออกจากกัน มันกลายเป็นชิ้นส่วนโลหะที่บินตรงเข้ามาหาหานเซิ่น มันเริ่มประกอบตัวเองรอบตัวหานเซิ่น ไม่นานมันก็ประกอบตัวเป็นรูปร่างของขุนพลเกราะทองรอบตัวหานเซิ่น


 


ตอนนี้หานเซิ่นอยู่ภายในขุนพลเกราะทอง เขารู้สึกราวกับว่าจิตใจของตัวเองนั้นเชื่อมต่อกับชุดเกราะ ตอนนี้เขาสามารถควบคุมมันได้เหมือนกับเป็นร่างกายของตัวเอง


 


หานเซิ่นรู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่าขุนพลเกราะทองทำให้เขานึกถึงอะไร และการรู้สึกตัวนี้ก็ทำให้เขายิ้มออกมา


“นี่มันเหมือนกับวอร์เฟรมของสหพันธ์ แต่การควบคุมของเครื่องจักรนี้เป็นธรรมชาติมากกว่าของวอร์เฟรม ตอนนี้เมื่อเราเป็นคนขับขุนพลเกราะทอง เราก็จะมีพลังของขุนพลเกราะทอง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็แตกต่างไปจากวิญญาณอสูรเปลี่ยนร่าง ในขณะที่เราควบคุมขุนพลเกราะทอง เราจะใช้ได้แค่พลังของมันเท่านั้น”


 


แต่การมีพลังของวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทอง ทำให้เขาสามารถเทียบชั้นได้กับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องใช้พลังของตัวเองด้วยซ้ำ


 


“ขุนพลหุ่นยนต์ทองนี้จะใช้ในคอร์แอเรียได้ไหมนะ? ถ้าทำได้ เราก็คงจะร่ำรวยเหนือจินตนาการ ถ้าเราเก็บกวาดทุกอย่างในคอร์แอเรีย”


หานเซิ่นกลับเข้าไปในคอร์แอเรียเพื่อลองดู


 


ครั้งนี้หานเซิ่นไม่ได้ใช้ฟันเฟืองของศาสตร์ตงเสวียนเพื่อเข้าไปในคอร์แอเรีย เนื่องจากมันต้องมีผู้คนมากมายรออยู่ในจุดที่เขาจากไปครั้งก่อน ซึ่งมันจะเป็นปัญหาถ้าเขาไปปรากฏตัวที่นั่นอีกครั้ง


 


ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงใช้ฟันเฟืองของกายหยกเพื่อเข้าไปในคอร์แอเรีย ภายใต้พลังของกายหยก เขาไปปรากฏตัวในสถานที่อื่นภายในคอร์แอเรีย


 


หานเซิ่นพบสถานที่ที่เงียบสงบที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ หลังจากนั้นเขาก็เรียกวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองออกมา เขาค้นพบว่าสามารถใช้มันได้ วิญญาณอสูรนั้นไม่ได้ถูกจำกัดภายในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งหมายความว่าวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ไม่ใช่แค่วิญญาณอสูรเดียวที่เขาสามารถใช้ได้ แม้แต่ชุดคลุมของราชานกยูงก็นำมาใช้ในคอร์แอเรียได้


 


“ฮ่าๆ! เทพอยู่ข้างเดียวกับเรา ในที่สุดเวลาที่เราจะได้เฉิดฉายก็มาถึง การต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าที่เก่าแก่ในโลกภายนอกอาจจะยังเป็นเรื่องยาก แต่การจะเก็บกวาดพวกมันที่อยู่ในคอร์แอเรียควรจะเป็นงานที่ไม่ยากจนเกินไป” หานเซิ่นอยากจะตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อปลดปล่อยความตื่นเต้น


 


แต่หานเซิ่นไม่ได้ออกเดินทางเพื่อไปล่าซีโน่เจเนอิคในทันที คอร์แอเรียนั้นทอดยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเขายังไม่คุ้นเคยกับที่แห่งนี้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้จากที่ไหน


 


แถมตอนนี้เขาได้ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีนมาเรียบร้อยแล้ว ยังไงซะเขาก็ไม่สามารถกินมันได้ในเวลาอันสั้น เขาสามารถกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันได้แค่ 2-3 ยีนต่อวันเท่านั้น และนั่นเพราะเขาใช้วิชาคอนซูม การจะกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีนให้หมดนั้นเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน


 


‘มันยังมีวิชาจีโนอื่นอีกไหมที่จะช่วยให้เราย่อยยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันได้เร็วขึ้น’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง แต่เขาไม่มีคำตอบ


 


“บางทีเผ่า1000สมบัติอาจจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราควรไปถามฟางชิงอวี่”


หานเซิ่นกลับมาที่วาฬขาว และเขาก็ไปถามฟางชิงอวี่เกี่ยวกับเรื่องที่กำลังสงสัย


 


แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดออกไปตรงๆว่าจะกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน เขาแค่ถามฟางชิงอวี่ว่ามันยังมีวิชาจีโนที่คล้ายคลึงกับวิชาคอนซูมแต่ดีกว่าไหม


 


ฟางชิงอวี่คิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “ในวิชาประเภทนี้วิชาคอนซูมของคอนซูมมิ่งแอนท์นั้นดีที่สุดแล้ว การจะหาวิชาจีโนที่ดีกว่าวิชาคอนซูมคงจะเป็นเรื่องยาก แต่มันมีวิชาจีโนที่มีชื่อเสียงมากอยู่อีกหนึ่งวิชา”


 


“วิชาจีโนนั้นคืออะไร?” หานเซิ่นรีบถาม


 


“บิ๊กเดสทรอยเยอร์” ฟางชิงอวี่พูด


 


“บิ๊กเดสทรอยเยอร์? นั่นเป็นวิชาจีโนทำลายล้างสูงไม่ใช่หรอ?”


หานเซิ่นเคยได้ยินเกี่ยวกับวิชาจีโนนี้มาก่อน และเขาได้ยินมาว่ามันเป็นวิชาใช้พลังทำลายล้างสูง แม้แต่ในหมู่เดสทรอยเยอร์ก็น้อยคนที่จะสามารถใช้วิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ได้


 


แม้แต่ยอดฝีมืออย่างบาร์ก็ไม่สามารถฝึกบิ๊กเดสทรอยเยอร์ได้ เดียร็อบเบอร์ถูกกล่าวขานว่ามีพรสวรรค์ที่จะใช้มัน แต่หานเซิ่นไม่เคยเห็นคนๆนั้นใช้มันมาก่อน


 


“ใช่แล้ว บิ๊กเดสทรอยเยอร์เป็นวิชาจีโนทำลายล้างสูง” ฟางชิงอวี่พูด “


สหพันธ์1000สมบัติได้ค้นคว้าเกี่ยวกับบิ๊กเดสทรอยเยอร์มาก่อน และพวกเราก็ค้นพบว่ามันเป็นวิชาจีโนที่พังทลายสสารและนำพวกมันกลับไปสู่สภาพดั้งเดิม สสารไหนที่ถูกวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์จะแตกสลายและกลับสู่รูปแบบพื้นฐาน ถ้าเจ้ากินผลลัพธ์ที่ออกมาเหล่านั้น มันก็อาจจะเป็นอะไรที่ง่ายกว่าสำหรับเจ้าที่จะย่อยพวกมัน”


 


หลังจากที่พูดจบ ฟางชิงอวี่ก็หัวเราะออกมา “แต่ข้าขอบอกเจ้าก่อนว่านอกจากวิชานั่นแล้ว ข้าไม่คิดว่ามันวิชาจีโนตัวไหนที่เหนือกว่าวิชาคอนซูมในเรื่องนี้ วิชาคอนซูมนั้นคือที่สุดแล้ว มันมีวิชาที่คล้ายคลึงวิชาคอนซูมอยู่บ้าง แต่พวกมันเหมือนๆกันหมด”


 


หานเซิ่นคิดว่าบิ๊กเดสทรอยเยอร์อาจจะได้ผล เขาถามฟางชิงอวี่


“ข้าจะหาวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ได้จากที่ไหน? ข้าจะซื้อมันจากสหพันธ์1000สมบัติได้ไหม?”


 


“มันเป็นวิชาลับของเดสทรอยเยอร์ เจ้าจำเป็นต้องมีร่างกายของเดสทรอยเยอร์เพื่อเรียนรู้มัน สหพันธ์1000สมบัติไม่เคยมีวิชาแบบนั้น” ฟางชิงอวี่พูดขณะที่ส่ายหัว


 


‘ดูเหมือนว่าเราต้องไปถามกับเผ่าเดสทรอยเยอร์โดยตรง’


หานเซิ่นคิด ‘เดียร็อบเบอร์ต้องการจะจ้างเราไปล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอีกตัว แต่ไม่รู้ว่าเขาจะยินดีมอบวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ที่เป็นความลับของเผ่าพันธุ์เป็นการแลกเปลี่ยนหรือเปล่า’


 


หานเซิ่นไม่มีแผนจะไปตามหาเดียร็อบเบอร์ นั่นจะทำให้เดียร็อบเบอร์เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบในการต่อลอง หานเซิ่นตั้งใจจะรอคอยสักพักก่อนที่จะกลับเข้าไปในคอร์แอเรียอีกครั้ง แบบนั้นเดียร็อบเบอร์ก็จะเป็นฝ่ายมาหาเขาเอง 

 

 


ตอนที่ 2523

 

หว่านเอ๋อหลับไหลเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน และมันก็ยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะตื่นขึ้นมาในเร็วๆนี้ นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกหดหู่เล็กน้อย


 


พวกเขายังคงใช้ชีวิตอยู่ในวาฬขาวเหมือนเดิม พวกเขายังคงไม่มีหนทางที่จะหนีออกไปจากที่นี่ และเสือขาวก็ยังคงหวาดกลัวเกินกว่าที่จะเข้ามาใกล้พวกเขา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฝูงงูขึ้นมาบนเกาะ เจ้าเสือขาวก็จะออกมาเพื่อไล่พวกมันไป


 


ทุกคนยังคงมีเห็ดอยู่บนหัว แต่พวกมันไม่ได้ทำร้ายอะไรพวกเขา ทุกครั้งที่หานเซิ่นกลับออกมาจากคอร์แอเรีย บนหัวของเขาก็จะมีเห็ดงอกขึ้นมาใหม่ และก่อนที่จะเข้าไปในคอร์แอเรียทุกครั้ง เขาจะใช้พลังของร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์เพื่อกำจัดเห็ดไปจากหัวของเขา


 


เป่าเอ๋อปล่อยเหล่าอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงที่ถูกจับตัวมาให้ไปทำงานในฐานะลูกเรือ พวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งเพราะการทำแบบนั้นเป็นอะไรที่ไร้ความหมาย ยังไงซะพวกเขาก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้


 


เป่าเอ๋อมีของเล่นใหม่ ดังนั้นเธอจึงไม่เบื่ออีกต่อไป เธอถือแครอทขนาดใหญ่ที่เธอเรียกว่าโสมไปไหนมาไหนด้วยตลอด และเธอก็มีกลุ่มของอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงที่สามารถออกคำสั่งได้ตามใจชอบ อัศวินระดับราชันหรือแม้แต่ครึ่งเทพถูกใช้งานราวกับเป็นคนที่เพิ่งมาทำงานใหม่ๆ


 


ลูกเรือของวาฬขาวรู้สึกกลัวเป่าเอ๋อยิ่งกว่าที่พวกเขากลัวหานเซิ่นหรือนกแดงน้อยซะอีก เมื่อไหร่ก็ตามที่ชื่อของเธอถูกพูดถึง ผู้คนบนยานก็จะตัวสั่น


 


หานเซิ่นเก็บสะสมยีนระดับราชันจนครบหนึ่งร้อย และเขาก็เลื่อนอาณาเขตตงเสวียนไปสู่ขั้นที่ 4 โดยไม่ลังเล ตอนนี้เมื่อเขามียีนซีโน่เจเนอิคมากพอ เขาก็มีแผนที่จะพัฒนาอาณาเขตตงเสวียนก่อนเป็นอันดับแรก


 


เนื่องจากวิชาโลหิตชีพจรและเรื่องราวของยีนนั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนักในการต่อสู้ หานเซิ่นจึงเลือกแค่ระหว่างกายหยกกับศาสตร์ตงเสวียน ศาสตร์ตงเสวียนนั้นยากที่จะพัฒนามากกว่ากายหยก และมันก็จำเป็นต้องใช้พลังจากฟันเฟืองจักรวาลของเขามากกว่า แต่ทว่าการเสริมพลังให้กับอาณาเขตของศาสตร์ตงเสวียนนั้นเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากกว่า


 


เมื่อไหร่ก็ตามที่หานเซิ่นเพิ่มระดับอาณาเขตของตัวเองขึ้นหนึ่งระดับ ความแข็งแกร่งและพลังของอาณาเขตก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่หานเซิ่นไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ


 


ซึ่งนั่นตรงกับสิ่งที่เขาถูกบอกมา เขาจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อเขากลายเป็นครึ่งเทพ เมื่อถึงจุดนั้นมันก็เหมือนกับการที่อาณาเขตทั้ง 9 ขั้นรวมกันเป็นอาณาเขตเดียว


 


มันเกือบถึงเวลาที่จะกลับเข้าไปในคอร์แอเรีย ป่านนี้เดียร็อบเบอร์ควรจะร้อนรนที่จะพบกับเขาแล้ว หานเซิ่นใช้ฟันเฟืองจักรวาลของศาสตร์ตงเสวียนเพื่อเปิดประตูสู่คอร์แอเรีย


 


หานเซิ่นคิดว่าหลังจากการต่อสู้กับขุนพลเกราะทอง หลายฝ่ายก็จะมาหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ และเดียร็อบเบอร์ก็จะเป็นหนึ่งในนั้น


 


แต่เมื่อหานเซิ่นเข้ามาในคอร์แอเรีย เขาก็ไม่เห็นใครเลยสักคน เขาบินไปรอบๆหลายพันเมตร แต่เขาก็ยังไม่พบแม้แต่เส้นผมของเดียร็อบเบอร์


 


“แปลกจริงๆ ทำไมถึงไม่มีใครมาหาเรา? นี่มันไม่ปกติ นี่ค่าตัวของเราแพงเกินไปทำให้ผู้คนกลัวที่จะจ้างเราอย่างนั้นหรอ?”


หานเซิ่นมองไปรอบด้วยความสับสน ความสามารถที่เขาแสดงออกมานั้นเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์ แต่คนอื่นกลับไม่ต้องการตัวเขาได้ยังไงกัน?


 


ถึงแม้หานเซิ่นจะหดหู่กับความโดดเดี่ยว แต่เขาก็จำเป็นต้องฆ่าซีโน่เจเนอิคสักหน่อยก่อนที่จะเดินทางกลับ แต่เขาไม่คุ้นเคยกับซีโน่เจเนอิคในคอร์แอเรีย และหลังจากที่คิดอยู่สักพัก เขาก็มีแผนที่จะเรียกเตาหลอมทองแดงมา มันควรจะคุ้นเคยกับที่แห่งนี้ ดังนั้นงานของเขาจะง่ายขึ้นถ้าให้มันเป็นคนนำทาง นั่นจะดีกว่าการเตร็ดเตร่ไปรอบๆอย่างไร้จุดหมาย


 


หลังจากที่หานเซิ่นกลับไปที่ดาวของเตาหลอมทองแดง ในที่สุดเขาก็พบเจ้าเตาหลอม แต่มันดูจะอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ผู้หญิงชุดเหลืองเผ่านภาคนหนึ่งกำลังซ้อมมันจนน่วม มันพยายามจะหนีจากเธอ และมันก็ตกอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร


 


‘เจ้าตัวน้อยนี่โชคร้ายจริงๆ มันถูกเราอัดไปครั้งหนึ่ง และตอนนี้มันก็ถูกอัดโดยผู้หญิงคนนี้อีก’ หานเซิ่นคิด


 


เมื่อเตาหลอมทองแดงเห็นหานเซิ่น มันก็รีบบินมาหาเขาขณะที่ร้องห่มร้องไห้ มันไปซ่อนตัวด้านหลังหานเซิ่น


 


ผู้หญิงชุดเหลืองบินมาอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น เธอมองมาที่เขาและพูด


“นี่เจ้าคิดจะขโมยเหยื่อของข้าอย่างนั้นหรอ?”


 


“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้คิดจะทำอะไรแบบนั้น”


หานเซิ่นมองไปที่ผู้หญิงชุดเหลืองและพูดต่อ “เตาหลอมนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของข้า ได้โปรดเห็นแก่ข้าและละเว้นชีวิตของมันด้วย ยีนคอร์ซีโน่เจเนอิคนี้ถือเป็นของขวัญสำหรับความเมตตาของเจ้า”


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เอาคอร์คริสตัลออกมามอบให้กับผู้หญิงชุดเหลือง


 


ครั้งหนึ่งหานเซิ่นเคยศึกษาอยู่ภายในปราสาทนภา และเขาก็มีแผนที่จะไปขอการคุ้มครองจากพวกเขา ผู้หญิงชุดเหลืองคนนี้เป็นหนึ่งในเผ่านภา ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะเป็นศัตรูกับเธอ


 


ผู้หญิงชุดเหลืองไม่รับยีนคอร์ซีโน่เจเนอิคจากหานเซิ่น เธอมองไปที่เขาและพูด


“ข้าจำเป็นใช้วัตถุดิบจากคอร์เตาหลอมนี่เพื่อทำสมบัติซีโน่เจเนอิค มันไม่มียีนซีโน่เจเนอิคไหนแทนได้”


 


“นี่เจ้าจะต้องฆ่ามันจริงๆอย่างนั้นหรอ? มันไม่มีทางอื่นเลยหรือยังไง?” หานเซิ่นถามอย่างอดทน


 


“มันมีทางอื่นอยู่ แต่มันเป็นอะไรที่น่ารำคาญ” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด


 


“นั่นเป็นเรื่องดี! ตราบใดที่มันมีทางอื่น พวกเราก็ตกลงกันได้ บอกข้ามาว่ามันคืออะไร และข้าจะทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยเจ้า” หานเซิ่นหัวเราะ


 


ผู้หญิงชุดเหลืองชี้ไปที่เตาหลอมทองแดงและพูด “เจ้าไม่ได้กำลังช่วยข้า เจ้ากำลังช่วยชีวิตมัน”


 


“เจ้าพูดถูก ข้าผิดเอง บอกมาว่าข้าต้องทำอะไรเพื่อช่วยชีวิตมัน?” หานเซิ่นยังคงมอบรอยยิ้มให้กับเธอ


 


“เจ้าดูไม่ใช่คนเลว ถ้าเจ้าไปล่าคอร์ไตรพอดทองแดงร่วมกับข้า ข้าก็จะปล่อยเตาหลอมทองแดงนั่นไป” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด


 


“นั่นไม่มีปัญหา แต่เจ้ารู้ไหมว่าคอร์ไตรพอดทองแดงอยู่ที่ไหน?” หานเซิ่นถาม


 


ผู้หญิงชุดเหลืองมองไปที่หานเซิ่นและถาม “คอร์ไตรพอดทองแดงไม่ได้หายากอะไร แต่พวกมันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับครึ่งเทพ เจ้าฆ่ามันได้ใช่ไหม? อย่าได้ไปที่นั่นและพาตัวเองไปถูกฆ่า”


 


“ข้าไม่ได้ประเมินความสามารถของตัวเองสูงมากนัก แต่ข้าคิดว่าพอจะฆ่าคอร์ไตรพอดทองแดงตัวหนึ่งได้ แถมเจ้าจะช่วยข้าอีกคนถูกไหม?” หานเซิ่นถาม


 


“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ” ผู้หญิงชุดเหลืองพูดและบินออกไป


 


“ถ้าไม่รังเกียจ ข้าขอถามชื่อของเจ้าได้ไหม?” หานเซิ่นส่งสัญญาณบอกให้เตาหลอมทองแดงตามพวกเขาไป เตาหลอมทองแดงยังคงหวาดกลัวผู้หญิงชุดเหลือง และมันก็ไม่กล้าจะเข้าไปใกล้เธอ มันยังคงหลบอยู่ด้านหลังหานเซิ่น


 


“ข้าเองก็ยังไม่รู้จักชื่อของเจ้า” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด


 


“ชื่อของข้าคือดอลลาร์” หานเซิ่นบอกเธอ


 


“นั่นฟังดูไม่เหมือนกับชื่อ มันฟังดูเหมือนกับสมญานาม” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด


 


“ชื่อทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่สมญานามไม่ใช่หรอ?” หานเซิ่นพูด


 


“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เรียกข้าว่าชุดเหลือง ยังไงซะมันก็เป็นแค่สมญานาม” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด


 


“หญิงชุดเหลือง นี่เจ้าเป็นศิษย์ของปราสาทนภาอย่างนั้นหรอ?”


หานเซิ่นไม่ได้บอกชื่อที่แท้จริงกับเธอ ดังนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องบอกชื่อจริงของเธอกับเขาเช่นกัน


 


ผู้หญิงชุดเหลืองยิ้มและพูด “อะไร? ข้าไม่เคยได้ยินชื่อของเจ้า และเจ้าจะมาถามชื่อของข้าอย่างนั้นหรอ?”


 


หานเซิ่นคิดว่าอารมณ์ของผู้หญิงคนนี้แปลกๆ การที่จะร่วมเดินทางกับเธอดูจะเป็นเรื่องยาก


 


ผู้หญิงชุดเหลืองพูดต่อ “คอร์ไตรพอดทองแดงที่พวกเราจะไปล่านั้นแตกต่างออกไป ครึ่งเทพปกติจะเอาชนะมันไม่ได้ เจ้าอาจจะถูกฆ่าตายในชั่วพริบตา ให้ข้าดูก่อนว่าวิชาจีโนและอาณาเขตของเจ้ามีดีอะไร ข้าไม่อยากพาเจ้าไปตายและมาโทษข้า” 

 

 


ตอนที่ 2524

 

หานเซิ่นมองไปที่เธอชั่วครู่ เธอดูเอาแต่ใจและบ้าเล็กน้อย เขาไม่อยากจะทำตามที่เธอพูด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้โกรธอะไร เขาหัวเราะและพูด

“ข้าเรียนรู้วิชาจีโนหลายอย่าง ข้าไม่ได้เชี่ยวชาญพวกมันทั้งหมด แต่ข้าฝึกฝนพอที่จะใช้พวกมันแต่ละวิชาได้”


 


“ที่ว่าพอใช้ได้นั้นแต่ละคนมีความหมายแตกต่างกันไป เจ้าแน่ใจหรือว่าฝึกฝนวิชาจีโนเหล่านี้เพียงพอน่ะ?” ผู้หญิงชุดเหลืองถามอย่างจริงจัง ใบหน้าของเธอดูเคร่งขรึม


 


“ข้าคิดว่าแบบนั้น” หานเซิ่นไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าอะไรกันแน่ เธอพูดเหมือนกับว่าระหว่างพวกเขาทั้ง 2 คนกำลังแข่งขันกันเพื่อหาว่าใครที่แข็งแกร่งกว่า


 


“โอเค ถ้าอย่างนั้น ข้าจะทดสอบเจ้าด้วยทักษะวิชาดาบที่พื้นฐานที่สุด เจ้ารู้จักการฟังดาบไหม?” ผู้หญิงชุดเหลืองถาม


 


“การฟังดาบคืออะไร?” หานเซิ่นไม่เคยได้ยินทักษะนี้มาก่อน


 


ผู้หญิงชุดเหลืองไม่ได้หัวเราะในความไม่รู้เรื่องอะไรของหานเซิ่น เธอเพียงแค่อธิบาย

“ดาบเล่มหนึ่งก็เหมือนกับคนๆหนึ่ง คนๆหนึ่งก็เป็นเหมือนเสียงๆหนึ่ง พวกเราอาจจะเห็นคนๆนั้นได้ แต่จนกว่าพวกเราจะได้พูดกับเขา เขาก็ยังไม่ได้เป็นเพื่อนที่แท้จริง เจ้าแค่ต้องใช้เสียงเพื่อสื่อสาร ในทางกลับกันพวกเราจะรู้จักผู้คนอย่างแท้จริงด้วยลักษณะภายในของพวกเขา ดาบเองก็เช่นเดียวกัน ถ้าเจ้าแค่มองลักษณะภายนอกของมัน เจ้าก็ไม่เข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ภายในดาบ เจ้าจำเป็นต้องฟังดาบเพื่อเข้าใจมันอย่างแท้จริง”


 


นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นได้ยินอะไรแบบนี้ เขาคิดว่ามันเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ เขาถามขึ้นมา

“ผู้คนพูด แต่ดาบไม่พูด แบบนั้นเราจะฟังเสียงของดาบได้ยังไง?”


 


“เสียงของเครื่องดนตรีนั้นไม่ใช่ภาษา แบบนั้นแล้วทำไมผู้คนถึงอารมณ์และความหมายที่มันสื่อออกมาได้ยังไง? ถึงแม้ดาบจะไม่พูด แต่ในตอนที่เจ้าใช้ดาบสร้างเสียงขึ้นมา เจ้าก็จะได้ยินเสียงของดาบ ถ้าเจ้ารู้จักดาบเป็นอย่างดี ถึงแม้เจ้าจะไม่เห็นดาบ เจ้าก็รู้ได้ว่ามันคือดาบอะไร” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด


 


หานเซิ่นไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูด เขามองไปที่เธอและพูด

“นั่นหมายความว่าถ้าข้าเอาดาบเล่มหนึ่งออกมาและแกว่งแกว่งมันไปมั่วๆ และด้วยการทำแบบนั้นเจ้าก็จะรู้ถึงดาบที่ข้าใช้อย่างนั้นหรอ?”


“ใช่แล้ว” ผู้หญิงชุดเหลืองตอบด้วยความมั่นใจ


 


“เยี่ยม ข้ามีดาบอยู่เล่มหนึ่ง และข้าอยากจะให้เจ้าช่วยฟังมัน” หานเซิ่นพูด


 


“เอาสิ” ผู้หญิงชุดเหลืองหันหลังและหลับตา เธอพูดกับหานเซิ่น

“เจ้าเริ่มกวัดแกว่งดาบให้ข้าฟังได้เลย”


 


หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขาใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อป้องกันสายตาของเธอเผื่อในกรณีที่เธอแอบมอง หลังจากนั้นเขาก็เอาวิญญาณอสูรเห็ดร่มพิษออกมา


 


วิญญาณอสูรเห็ดร่มพิษเป็นวิญญาณอสูรประเภทอาวุธ แต่มันไม่ใช่ดาบ มันเป็นร่มคันหนึ่ง ในตอนที่มันหุบอยู่นั้น มันจะมีความยาว 3 ฟุตและสามารถใช้แทนดาบได้


 


หานเซิ่นถือเห็ดร่มพิษในมือและกวัดแกว่งมันไปมาด้วยวิชาดาบ ขณะเดียวกันเขาก็ใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อสแกนผู้หญิงชุดเหลืองเผื่อในกรณีที่เธอจะใช้วิชาจีโนบางอย่างเพื่อมองดูเห็ดร่มพิษของเขา


 


แต่หานเซิ่นหวาดระแวงเกินไป ผู้หญิงชุดเหลืองไม่ได้ใช้วิชาจีโนอะไรเพื่อแอบมองเขา เธอเพียงแค่ฟังเสียงการกวัดแกว่งดาบไปมาของหานเซิ่น


 


หานเซิ่นกวัดแกว่งดาบเพียงแค่ 2 ครั้งก่อนที่ผู้หญิงชุดเหลืองจะพูดขึ้นมาว่า “นั่นมากพอแล้ว”


 


หานเซิ่นเก็บเห็ดร่มพิษไปและมองมาที่ผู้หญิงชุดเหลือง “ได้โปรดบอกข้าว่าดาบของข้าฟังดูเป็นยังไง”


“ดาบเล่มนี้มันแย่” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด


 


“ทำไมมันถึงแย่?” หานเซิ่นถาม


 


“ถ้าเจ้าจะใช้ร่มคันหนึ่งแทนดาบ เจ้าควรจะเน้นไปที่การแทงและการกวาด วิชาดาบที่เจ้าใช้เป็นแค่การฟันเพียงอย่างเดียว” ผู้หญิงชุดเหลืองพูดอย่างรวบรัด


 


หานเซิ่นไม่ได้ประหลาดใจ การระบุสิ่งของด้วยเสียงนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร หานเซิ่นก็สามารถฟังมันได้ ยอดฝีมือระดับราชันหลายคนก็สามารถทำได้เช่นกัน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่อะไรที่พิเศษ


 


ผู้หญิงชุดเหลืองดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เธอพูดขึ้นมา

“ร่มของเจ้าฟังดูขมขื่นมากๆ ถ้าข้าฟังได้ถูกต้อง มันคงจะเป็นร่มพิษ มันฟังดูบริสุทธิ์และเข้มข้นอย่างมาก มันคงจะเป็นอาวุธระดับราชัน”


 


“เจ้าแยกแยะเสียงของมันได้ถึงระดับนั้นเชียว?”

หานเซิ่นแปลกใจ ถึงแม้คนอื่นจะเห็นร่มของเขา แต่พวกเขาก็คงจะไม่รู้ว่ามันเป็นพิษ แถมเขาเป็นคนเดียวในจักรวาลจีโนที่ใช้วิญญาณอสูรเห็ดร่มพิษ เธอรู้ได้ยังไงว่าร่มของเขาเป็นพิษ? หานเซิ่นสับสนในเรื่องนี้


 


“ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน ข้าได้ยินดาบ และข้าก็ได้ยินร่ม หนึ่งวิชาเป็นเหมือนกับหนึ่งพันวิชา มันไม่มีอะไรที่หนีจากการได้ยินของข้าได้”

ผู้หญิงชุดเหลืองพูดอย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่ามันเป็นความจริงของจักรวาล


 


แต่ผู้หญิงชุดเหลืองดูอวดดีเกินไปหน่อย แม้แต่อัลฟ่าของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงก็ไม่กล้ากล่าวอ้างว่ารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง


 


หานเซิ่นครุ่นคิดกับตัวเอง ‘ถ้าผู้หญิงคนนี้อวดดีถึงขนาดนี้ทั้งๆที่เป็นแค่ระดับราชัน แบบนั้นเธอคงจะเป็นบุคคลสำคัญของเผ่านภา แต่ทำไมเราถึงไม่เคยเห็นเธอเลยในตอนที่อยู่ที่ปราสาทนภา?’


 


ผู้หญิงชุดเหลืองรู้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เธอเอามือลูบผมของตัวเองและพูด

“ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าก็ลองใช้วิชาจีโนวิชาหนึ่ง โดยไม่มอง ข้าจะบอกเจ้าเกี่ยวกับมันและธาตุของมัน”


 


“น่าสนใจ ข้าเองก็อยากจะเห็นทักษะการฟังที่น่าอัศจรรย์ของเจ้า” หานเซิ่นหัวเราะ


 


“เชิญ” ผู้หญิงชุดเหลืองยิ้ม


 


ที่เธอพยายามจะทดสอบเขาก็เพราะเธอต้องการจะรู้จักเขาดียิ่งขึ้น เธอเชื่อว่าหนทางที่ดีที่สุดที่จะทำความรู้จักเขาก็คือการได้เห็นว่าเขาฝึกวิชาจีโนอะไร


 


ทฤษฎีการฟังเสียงก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างของผู้หญิงชุดเหลืองเพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องอธิบายถึงความสามารถที่แท้จริง ผู้หญิงชุดเหลืองนั้นฝึกวิชาลับตัวหนึ่งของเผ่าเวรี่ไฮ มันเรียกว่าเวรี่ไฮเซ้นส์ มันสามารถสัมผัสได้ทุกสิ่งทุกอย่าง


 


มันไม่ใช่แค่การฟังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถึงแม้เธอจะถูกปิดสัมผัสทั้ง 7 เธอก็ยังเห็นภาพของทุกอย่างรอบตัวได้อย่างชัดเจนในจิตใจ ความสามารถในการได้ยินและรู้สึกของเธอจะไม่ถูกปิด


 


หานเซิ่นไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน เขาหยุดคิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนมือของตัวเองเป็นวิชาเพทริฟายด์ที่เขาได้เรียนรู้มาจากเลฟต์เครซี่


 


หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘วิชาเพทริฟายด์นั้นไม่มีเสียง เธอคงจะไม่ได้ยินอะไร’


 


หานเซิ่นเปลี่ยนแค่มือให้กลายเป็นหิน เขาใช้แขนของตัวเองเพื่อชกหมัดออกไป หลังจากนั้นเขาก็หันไปถามผู้หญิงชุดเหลือง

“เจ้าบอกได้ไหมว่านี่เป็นวิชาจีโนแบบไหน?”


 


ผู้หญิงชุดเหลืองใช้เวรี่ไฮเซ้นส์เพื่อสัมผัสทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของหานเซิ่น ถึงเธอจะไม่ได้หันมามอง แต่เธอก็เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น

“หมัดของเจ้าฟังดูหนักและเทอะทะ มันฟังค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ถ้าข้าฟังได้ถูกต้อง เจ้าใช้วิชาเปลี่ยนหมัดของตัวเองให้กลายเป็นหิน ส่วนหมัดของเจ้า ถ้าเจ้าต้องการจะตั้งชื่อของมัน เรียกมันว่าหมัดเพทริฟายด์”


 


หานเซิ่นตกใจ เขาถอนหายใจออกมา “หญิงชุดเหลืองมีการฟังที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก”


 


“ถ้าข้าพูดผิดไปแม้แต่อย่างเดียวล่ะก็ เจ้าก็ไม่ต้องมาล่าคอร์ไตรพอดทองแดงร่วมกับข้า” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด เธอต้องการจะยั่วยุความอยากรู้ของหานเซิ่นเพื่อที่หานเซิ่นจะได้ใช้วิชาจีโนที่เขาถนัดจริงๆ แบบนั้นเธอก็จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนยังไง


 


ดอลลาร์และเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นสิ่งแปลกประหลาดในจักรวาลจีโน มันไม่มีใครรู้ว่าเขามาจากที่ไหน

 

 

 


ตอนที่ 2525

 

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอลองอีกครั้งได้ไหม” หานเซิ่นผ่านช่วงอายุที่ต้องการเอาชนะมาแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ค่อยชอบใจในลักษณะนิสัยของผู้หญิงชุดเหลืองคนนี้ และถ้าเขาไม่จำเป็นต้องไปล่าคอร์ไตรพอดทองแดงร่วมกับเธอ นั่นก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเขา


 


“ข้าจะใช้วิชาจีโนอะไรก็ได้ใช่ไหม?” หานเซิ่นถามเพื่อยืนยัน


 


“ใช่ เจ้าจะใช้วิชาจีโนอะไรก็ได้” ผู้หญิงชุดเหลืองตอบอย่างมั่นใจ ขณะที่เธอหันหลังไปและหลับตา


 


“โอเค ถ้าอย่างนั้นข้าจะเริ่มเลยนะ” หานเซิ่นยิ้ม


 


“เชิญ” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด


 


แต่หลังจากที่เธอพูดแบบนั้น เธอก็ไม่ได้ยินหานเซิ่นทำการเคลื่อนไหวอะไร หลังจากผ่านไปสักพัก ผู้หญิงชุดเหลืองก็รู้สึกแปลกๆ หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของหานเซิ่น

“เชิญหญิงชุดเหลืองทายวิชาจีโนที่ข้าใช้”


 


ผู้หญิงชุดเหลืองยิ้มขณะที่เธอหันกลับมาหาหานเซิ่นและพูด

“เจ้าไม่ทำการเคลื่อนไหว นั่นถือเป็นวิชาจีโนด้วยอย่างนั้นสินะ”


 


เธอแน่ใจว่าหานเซิ่นไม่ได้เคลื่อนไหวหรือใช้วิชาจีโนอะไร


 


หานเซิ่นยิ้ม “ดูเหมือนว่าครั้งนี้เจ้าจะคาดเดาได้ผิด ตามข้อตกลงของพวกเรา ตอนนี้ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?”


 


“ข้าไม่เคยผิด” ผู้หญิงชุดเหลืองแน่ใจอย่างมากในเรื่องนั้น วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์นั้นสามารถสัมผัสได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เธอสัมผัสได้แม้แต่วิชาที่ซ่อนเล้นที่สุดของยอดฝีมือระดับเทพเจ้า หานเซิ่นเป็นเพียงแค่ระดับราชัน ดังนั้นเธอจึงมั่นใจว่าจะสัมผัสอะไรก็ตามที่เขาทำได้


 


“เจ้าพูดว่าเจ้าไม่เคยผิด แต่เจ้าไม่บอกว่าวิชาจีโนที่ข้าใช้คืออะไร นี่เจ้าจะไม่หัวแข็งไปหน่อยหรอ” หานเซิ่นพูด


 


“เจ้าไม่ได้ใช้วิชาจีโนและไม่ได้ทำการเคลื่อนไหว” ผู้หญิงชุดเหลืองพูดขณะที่จ้องไปที่เขา โทนเสียงของเธอเต็มปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ


 


“ข้าทำการเคลื่อนไหว และข้าก็ได้ใช้วิชาจีโน มันไม่ใช่ปัญหาของข้าที่เจ้าจะคาดเดาไม่ได้ว่าข้าใช้อะไรไป” หานเซิ่นแบมือทั้ง 2 ของเขา


 


ผู้หญิงชุดเหลืองจ้องไปที่หานเซิ่นโดยไม่พูดอะไร หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็ดูผิดหวังและพูด “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปได้ ข้าเป็นฝ่ายแพ้”


 


“ขอบคุณที่เจ้าเข้าใจ” หานเซิ่นพูด เขาพาเตาหลอมทองแดงไปกับเขาและจากไปโดยไม่พูดอะไรอีกสักคำ


 


เมื่อเห็นหานเซิ่นจากไป ผู้หญิงชุดเหลืองก็ดูผิดหวังอย่างมาก เธอพูดกับตัวเอง

“นี่เขาเล่นลูกไม้สกปรกกับเรื่องเล็กแค่นี้? มันไม่สำคัญว่าเขาจะมีพรสวรรค์ขนาดไหน เขาไม่ได้สังเกตว่าตัวเองพลาดอะไรไปโดยการเล่นลูกไม้แบบนี้”


 


ผู้หญิงชุดเหลืองมั่นใจว่าสัมผัสของเธอไม่มีทางผิดพลาดไปได้ หานเซิ่นไม่ได้เคลื่อนไหวหรือใช้วิชาจีโนใดๆ เขาเป็นนักตุ้มตุ๋น เขาสร้างความประทับใจที่แย่มากๆต่อเธอจนเธอไม่ต้องการจะยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป


 


สมาชิกทุกคนของเผ่าเวรี่ไฮนั้นได้รับอนุญาตให้เลือกตัวไหมไปเลี้ยงดู พวกเขาจะเลือกอย่างระมัดระวังและเลือกแค่ที่สุดของที่สุดเท่านั้น


 


ดอลลาร์มีพรสวรรค์ที่สูง แต่พฤติกรรมของเขาเป็นอะไรที่ทำให้ผู้หญิงชุดเหลืองผิดหวัง เธอไม่ต้องการจะโต้เถียงกับเขาไปมากกว่านั้น


 


“เขามีพรสวรรค์ แต่ลักษณะนิสัยของเขานั้นแย่ ช่างน่าเสียดายจริงๆ” ผู้หญิงชุดเหลืองหันกลับเพื่อจากไป


 


เมื่อผู้หญิงชุดเหลืองกลับมา ผีเสื้อน้อยก็รีบวิ่งเข้ามาหา เธอถามผู้หญิงชุดเหลืองด้วยความประหลาดใจ

“ท่านหญิง ทำไมท่านถึงปล่อยดอลลาร์ไปแบบนั้น?”


 


ผู้หญิงชุดเหลืองได้ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อทำให้คนอื่นที่รอหานเซิ่นจากไป นั่นเป็นเหตุผลที่เธอสามารถพบกับดอลลาร์ตามลำพัง แต่หลังจากที่ได้พบกับดอลลาร์ เธอก็เลือกที่จะกลับมาอย่างรวดเร็ว ผีเสื้อน้อยประหลาดใจในเรื่องนี้ เธอคิดว่าผู้หญิงชุดเหลืองจะไปสัก 3-4 วันก่อนที่จะกลับมา


 


“เขาไม่ใช่ตัวไหมที่ข้าต้องการ” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด


 


“ทำไมท่านหญิงไม่ดูต่ออีกหน่อย? ดอลลาร์เป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ เขาโค่นล้มขุนพลเกราะทองได้ด้วยตัวคนเดียว ข้าคิดว่าแม้แต่อวี้ซ่านซินก็ทำแบบนั้นไม่ได้ มันน่าเสียดายที่จะปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไป” ผีเสื้อน้อยพายามจะโน้มน้าวเธอ


 


ผู้หญิงชุดเหลืองเทน้ำชาและยกมันขึ้นมาจิบ

“พรสวรรค์ของเขาสูงก็จริง แต่จักรวาลจีโนเป็นที่อยู่อาศัยของอัจฉริยะมากมาย พวกเขาแค่ไปไม่ถึงจุดสูงสุดของตัวเอง แถมดอลลาร์ก็มีบ่งพร่องที่ใหญ่หลวง”


 


“ข้อบกพร่องแบบไหนกัน?” ผีเสื้อน้อยถามด้วยความสงสัย


 


“ลักษณะนิสัยของเขานั้นแย่ ข้าไม่ชอบวิธีการคิดของเขา” ผู้หญิงชุดเหลืองพูดขณะที่วางถ้วยชาลง


 


“ไม่มีทาง มันเพิ่งผ่านมาเพียงไม่นาน ท่านหญิงก็บอกได้แล้วหรือว่าลักษณะนิสัยของเขานั้นแย่?” ผีเสื้อน้อยมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ


 


ผู้หญิงชุดเหลืองบอกเธอถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นผีเสื้อน้อยก็พยักหน้าและพูด “เวรี่ไฮเซ้นส์ของท่านหญิงไม่เคยผิด และนั่นหมายความว่าลักษณะนิสัยของดอลลาร์นั้นไม่ดีจริงๆ เขากล้าดียังไงมาโกหกต่อหน้าท่านหญิง? ด้วยนิสัยแบบนั้นเขาคงจะเป็นตัวไหมของท่านหญิงไม่ได้ แต่เขามีพรสวรรค์ที่สูงและเขาก็แข็งแกร่งมากๆ”


 


“นั่นไม่สำคัญ คนแบบนั้นไม่มีทางสำเร็จก้าวสุดท้ายของชีวิต ตัวไหมของข้า หลี่เคอเอ๋อจะต้องเป็นตัวไหมที่จะกลายเป็นผีเสื้อ” หลี่เคอเอ๋อพูด


 


“ดอลลาร์คนนั้น ทำไมเขาถึงพยายามจะเล่นลูกไม้กับท่านหญิง? ถ้าเขารู้ว่านั้นทำให้เขาสูญเสียโอกาสที่สำคัญไป เขาคงจะร้องไห้จนตาย” ผีเสื้อน้อยถอนหายใจ


 


“คนส่วนใหญ่โง่เขลาแบบนั้น น้อยคนนักที่จะเฉิดฉายเหนือคนอื่นๆ เจ้าจะโทษเขาไม่ได้ ถ้าทุกคนเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ก้าวสุดท้ายนั่นก็คงจะไม่ใช่เรื่องยาก” หลี่เคอเอ๋อพูด เธอดูไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้


 


“ท่านหญิงพูดถูก แต่ข้าคิดว่ามาตรฐานของท่านหญิงนั้นสูงเกินไป องค์ชายคนอื่นทุกคนเลือกตัวไหมของตัวเองกันหมดแล้ว เหลือก็แต่ท่านหญิงคนเดียว ท่านหญิงไปเจออัจฉริยะมากมาย แต่ท่านหญิงก็ไม่ถูกใจ คนแบบไหนกันแน่ที่ท่านหญิงจะถือว่ายอมรับได้?” ผีเสื้อน้อยรู้สึกกังวลแทนหลี่เคอเอ๋อ


 


แต่หลี่เคอเอ๋อไม่ได้รีบร้อนอะไร “ข้าเลือกที่จะไม่มี ดีกว่าเลือกคนที่ผิด ถ้าข้าหาตัวไหมที่เหมาะสมไม่ได้ ข้าก็ขอไม่มีมัน”


 


“ท่านหญิงจะทำแบบนั้นได้ยังไง? ถ้าท่านหญิงไม่เลือก แบบนั้นท่านหญิงก็จะเสียโอกาสที่จะขึ้นเป็นผู้นำ” ผีเสื้อน้อยกังวลยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินแบบนั้น


 


“ข้าแค่บ่นไปเรื่อยเท่านั้น ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้นจริงๆ ข้าจำเป็นต้องเลือกใครสักคน ไม่อย่างนั้นมันก็จะเป็นอะไรที่ง่ายเกินไปสำหรับองค์ชายคนอื่นๆ ข้าจะเลือก แต่ข้าจะเลือกคนที่ข้าชอบ” หลี่เคอเอ๋อหัวเราะ


 


ผีเสื้อน้อยถอนหายใจ “ท่านหญิงอย่าทำไมข้ากลัวแบบนี้”


 


“เอาล่ะ ตอนนี้เจ้ามานวดให้กับข้า ข้าเคลื่อนไหวแค่นิดเดียว แต่ไหล่ของข้าก็รู้สึกปวดจะแย่แล้ว” หลี่เคอเอ๋อยกชาขึ้นมาจิบอีกครั้ง


 


ผีเสื้อน้อยเดินมาด้านหลังของหลี่เคอเอ๋อ เธอยื่นมือออกมาเพื่อจะนวดให้กับหลี่เคอเอ๋อ แต่มือของเธอหยุดชักไป เธอพูดออกมาด้วยความตกใจ

“ท่านหญิง บนหลัง…หลังของท่านหญิงมีตัวอักษร”


 


“ตัวอักษร? ตัวอักษรอะไร?” หลี่เคอเอ๋อตกใจ


 


“เจ้า…แพ้…” ผีเสื้อน้อยค่อยๆอ่านตัวอักษรบนหลังของหลี่เคอเอ๋ออย่างช้าๆ


 


ใบหน้าของหลี่เคอเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอกัดฟันและเรียกกระจกบานหนึ่งออกมาเพื่อมองหลังของตัวเอง บนกระจกเธอเห็นตัวอักษร 2 ตัวเขียนอยู่บนหลังของเธอ พวกมันมีขนาดพอๆกับกำปั้นและมันยังมีเครื่องหมายอัศเจรีย์อีกด้วย

“เจ้าแพ้!”

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)