Super God Gene 2514-2517

ตอนที่ 2514

 

ไป๋ว่านเจียคิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็ดูเหมือนจะรู้สึกตัวถึงเหตุผลที่ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ไม่จ้างรอยัลไนท์


 


ไป๋ว่านเจียมองไปที่หานเซิ่นด้วยรอยยิ้มและพูด

“ข้าขอแนะนำให้เจ้าคิดให้ดีก่อนที่จะรับงานนี้ ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจจะตายโดยไม่รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น”


 


หานเซิ่นเองก็สงสัยว่าทำไมดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ถึงได้เลือกเขา แทนที่จะเป็นองค์รัชทายาทของเอ็กซ์ตรีมคิงและรอยัลไนท์


 


เมื่อเห็นว่าหานเซิ่นสงสัยเกี่ยวกับการตัดสินใจของพวกเขา เดียร็อบเบอร์ก็พูดขึ้นมา

“ดอลลาร์ ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด พวกเราไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไรกับเจ้า ที่พวกเราไม่จ้างองค์รัชทายาทก็เพราะเขาคงจะไม่รับข้อเสนอของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะจ้างเขา”


 


หานเซิ่นมองไปที่ไป๋ว่านเจีย ชายคนนั้นหัวเราะและพูด

“ถ้าพวกเจ้าต้องการจะไปล่าขุนพลเกราะทองจริงๆ เจ้าก็พูดถูกแล้วที่ข้าจะไม่รับข้อเสนอของพวกเจ้า ข้าไม่กล้าจะรับงานแบบนั้น การไปล่าขุนพลเกราะทองไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตาย ถึงทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะมียอดฝีมือระดับราชันจำนวนมาก แต่พวกเราก็จะไม่ส่งพวกเขาไปสู่ความตาย”


 


“ถูกแล้ว พวกเรากำลังจะไปล่าขุนพลเกราะทอง”

ดราก้อนวันมองไปที่หานเซิ่นและพูดต่อ “ขุนพลเกราะทองเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวมากๆ มันเป็นหนึ่งในคอร์ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ทรงพลังที่สุดในคอร์แอเรีย ถึงแม้พวกเราจะเตรียมการอย่างครอบคลุม โอกาสสำเร็จก็ยังคงต่ำ เจ้ายังยินดีที่จะรับงานนี้ไหม?”


 


“ถ้าโอกาสสำเร็จสูง เจ้าก็คงจะไม่มาจ้างข้าหรอกถูกไหม” หานเซิ่นยิ้มเล็กน้อย


 


เมื่อได้ยินคำตอบของหานเซิ่น ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ก็หัวเราะออกมาด้วยความดีใจ เห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นยอมรับข้อเสนอของพวกเขา


 


สีหน้าของไป๋ว่านเจียไม่ได้เปลี่ยนไป “เพื่อนเอ๋ย ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่รู้ถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของขุนพลเกราะทอง ถึงแม้ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของคอร์แอเรียจะอ่อนแอกว่าซีโน่เจเนอิคของโลกภายนอก แต่พวกมันก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ยอดฝีมือระดับราชันหรือครึ่งเทพคนไหนจะท้าทายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าไม่มีทางจะต่อกรกับคอร์ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้ พลังของพวกมันเหนือกว่าเจ้ามากนัก ขุนพลเกราะทองนั่นเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตแบบนั้น ครั้งหนึ่งเคยมีครึ่งเทพกว่า 20 คนต้องการจะล่ามัน แต่ที่สุดแล้วทีมของเขาก็ถูกฆ่าตายไปเกือบครึ่ง แบบนั้นเจ้ายังต้องการจะรับงานนี้อีกอย่างนั้นหรอ?”


 


หลังจากนั้นไป๋ว่านเจียก็หันไปมองที่เดียร็อบเบอร์และดราก้อนวัน

“ถ้าพวกเจ้าต้องการจะฆ่าขุนพลเกราะทองจริงๆ ทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะรับงานนี้ได้ แต่ราคาก็ต้องเพิ่มขึ้นให้สมกับความยากของงาน ถ้าพวกเจ้ายังสนใจ พวกเราจะหาสถานที่เพื่อตกลงกันในเรื่องนี้”


 


“องค์รัชทายาทมั่นใจว่าจะโค่นล้มขุนพลเกราะทองได้อย่างนั้นหรอ?”

ร่างกายของดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์สั่น พวกเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน และพวกเขาก็ได้แต่จ้องไปที่ไป๋ว่านเจีย


 


ไป๋ว่านเจียดูมั่นใจและยิ้มออกมา “ถ้าพวกเรารอยัลไนท์สังหารขุนพลเกราะทองไม่ได้ ข้าก็รับประกันได้เลยว่าไม่มีใครคนอื่นในคอร์แอเรียที่จะฆ่ามันได้ ทำไมพวกเจ้าถึงไม่คิดเรื่องนี้?”


 


ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ดูลังเลขึ้นมา ถึงแม้พวกเขาจะเตรียมการมาเป็นอย่างดี แต่พวกเขาก็ยังคงขาดความมั่นใจในการจะล้มขุนพลเกราะทอง ถ้าพวกเขามีความมั่นใจ พวกเขาก็คงจะไม่มาจ้างหานเซิ่น


 


แต่เมื่อเห็นความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมของไป๋ว่านเจีย พวกเขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องมีหนทางที่จะฆ่าขุนพลเกราะทอง ถ้าพวกเขาไม่จ้างไป๋ว่านเจีย เขาก็คงจะถูกจ้างโดยคนอื่นให้ไปฆ่ามันอยู่ดี


 


แต่ถ้าพวกเขาจ้างไป๋ว่านเจีย เมื่อดูจากความเย่อหยิ่งของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง เขาก็คงจะเรียกค่าจ้างยิ่งกว่าคอร์ยีนซีโน่เจเนอิคหนึ่งพันยีนอย่างแน่นอน แถมพวกเขาแน่ใจว่าไป๋ว่านเจียต้องการยีนซีโน่เจเนอิคของขุนพลเกราะทองด้วยเช่นกัน


 


ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์มองหน้ากัน ก่อนที่จะหันกลับมาที่หานเซิ่น

“ดอลลาร์ ตอนนี้เมื่อเจ้าเข้าใจแล้ว เจ้ายังยินดีที่จะรับงานนี้อยู่ไหม?”


 


“ตามใดที่พวกเจ้าจ่ายตามราคาที่ตกลงกันเอาไว้ ข้าก็ยินดีที่จะรับงาน” หานเซิ่นพูด


 


เขาไม่สามารถรับประกันว่าฆ่าเป้าหมายได้สำเร็จ ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือทำให้แน่ใจว่าเขาพยายามอย่างเต็มความสามารถ ถึงแม้เขาจะไม่สามารถฆ่าเป้าหมายได้สำเร็จ เขาก็จะได้รับยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 500 ยีนอยู่ดี


 


ด้วยพลังของหานเซิ่นในตอนนี้ มันไม่สำคัญว่าขุนพลเกราะทองจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ชีวิตของหานเซิ่นจะไม่ตกอยู่ในอันตราย แถมหานเซิ่นรู้ว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของคอร์แอเรียนั้นอ่อนแอกว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของโลกภายนอก


 


“ถ้าอย่างนั้นได้โปรดมาที่ฐานของพวกเราเพื่อคุยรายละเอียดกันต่อ”

ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์บอกลาไป๋ว่านเจีย หลังจากนั้นพวกเขาก็จากไปพร้อมกับหานเซิ่น


 


“ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์คงจะมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจสินะ? พวกเขาคงไม่คิดว่าดอลลาร์จะฆ่าขุนพลเกราะทองได้จริงๆหรอกใช่ไหม?” เมื่อเห็นพวกเขาทั้ง 3 คนจากไป ไป๋ว่านเจียก็ขมวดคิ้ว


 


หานเซิ่นตามดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ไปที่ฐานของพวกเขา เมื่อไปถึงดราก้อนวันก็ส่งสัญญาให้กับหานเซิ่น และเมื่ออ่านรายละเอียดแล้ว หานเซิ่นก็เซ็นสัญญา


 


แต่เดิมในระบบที่ขุนพลเกราะทองอาศัยอยู่นั้นมีซีโน่เจเนอิคขุนพลหุ้มเกราะหลายตัวด้วยกัน มันมีทั้งขุนพลเกราะเงิน เกราะทองแดงและเกราะเหล็กอาศัยอยู่ที่นั่น และพวกมันทั้ง 3 ก็เป็นระดับเทพเจ้าเหมือนกันหมด แต่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าทั้ง 3 ถูกฆ่าไปแล้ว เผ่าดราก้อนเองก็ได้ฆ่าทั้งขุนพลเกราะเหล็กและขุนพลเกราะเงิน


 


พวกเขาต้องสูญเสียเป็นจำนวนมากเพื่อฆ่าซีโน่เจเนอิคเทพเจ้าเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการฆ่าขุนพลเกราะเหล็ก พวกเขาสูญเสียดราก้อนระดับราชันจำนวนมาก และพวกเขาก็ยังจำเป็นต้องจ้างครึ่งเทพจากเผ่าพันธุ์อื่นอีก ถึงแม้พวกเขาจะฆ่าขุนพลเกราะเหล็กได้สำเร็จ แต่มันก็ยังคงเป็นราคาที่สูงอยู่ดี


 


หลังจากที่พวกเขาได้รับยีนซีโน่เจเนอิคของขุนพลเกราะเงินและขุนพลเกราะเหล็ก พวกเขาก็ค้นพบบางสิ่งที่น่าตกใจ ยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าทั้ง 2 สามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งมันนำไปสู่การพัฒนาที่น่าประหลาดใจ


 


หลังจากการค้นพบนี้ เผ่าดราก้อนก็ใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อแลกเปลี่ยนกับยีนซีโน่เจเนอิคของขุนพลเกราะทองแดง เมื่อพวกเขาได้ยีนซีโน่เจเนอิคทั้ง 3 มาครอบครองแล้ว พวกเขาก็ขาดแค่ยีนซีโน่เจเนอิคของขุนพลเกราะทองเท่านั้น


 


พวกเขาเคยพยายามจะโค่นล้มขุนพลเกราะทองหลายต่อหลายครั้งและไม่ใช่แค่จากเผ่าดราก้อนเพียงเผ่าเดียว เผ่าอื่นๆก็พยายามจะฆ่าขุนพลเกราะทองเช่นเดียวกัน แต่ความพยายามทั้งหมดของพวกเขาล้มเหลว พลังของขุนพลเกราะทองนั้นใกล้เคียงกับพลังของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่แท้จริงของโลกภายนอก มันมีพลังป้องกันที่น่ากลัว ซึ่งทำมันเป็นอะไรที่ยากจะฆ่าได้


 


สุดท้ายเผ่าพันธุ์อื่นๆก็ยอมแพ้ แต่เผ่าดราก้อนยังไม่ต้องการจะโยนผ้าขาวเพียงแค่นั้น เพราะถ้าไม่มียีนซีโน่เจเนอิคของขุนพลเกราะทอง ยีนของขุนพลอื่นทั้ง 3 ก็จะไม่ครบเซ็ต มันจะลดคุณค่าของยีนซีโน่เจเนอิคทั้ง 3 ลงไป


 


ดังนั้นเผ่าดราก้อนจึงต้องการจะฆ่าขุนพลเกราะทองให้ได้ พวกเขาใช้เวลาเตรียมการเป็นเวลานาน และพวกเขาก็ได้คิดแผนการที่จะโค่นล้มขุนพลเกราะทองขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังรู้ว่าโอกาสสำเร็จนั้นต่ำ แต่เมื่อดราก้อนวันพบหานเซิ่น เขาก็คิดว่าแผนการนี้อาจจะมีโอกาสสำเร็จ


 


เดียร็อบเบอร์ตกลงจะช่วยเผ่าดราก้อนก็เพราะเขาเองก็มีซีโน่เจเนอิคที่ไม่สามารถจะฆ่าได้ และนี่ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของหานเซิ่น


 


ถ้าหานเซิ่นช่วยเผ่าดราก้อนสังหารขุนพลเกราะทองได้ แบบนั้นเดียร็อบเบอร์ก็จะจ้างให้เขาช่วยสังหารซีโน่เจเนอิคในอนาคตเช่นกัน 

 

 


ตอนที่ 2515

 

 


ไป๋ว่านเจียไม่ได้คาดคิดว่าดราก้อนวันและคนอื่นจะจริงจังกับการฆ่าขุนพลเกราะทอง แต่จากที่เขาได้รู้ ดูเหมือนว่าดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ตั้งใจจะโค่นล้มขุนพลเกราะทองจริงๆ


 


“องค์ชาย ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ดูเหมือนจะไม่ได้ล้อเล่น ข้าคิดว่าพวกเขากำลังวางแผนจะต่อสู้กับขุนพลเกราะทองจริงๆ พวกเราควรจะเตรียมตัวด้วยไหม? พวกเราควรจะรีบเตรียมตัว ถ้าพวกเราต้องการจะแย่งฆ่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง?” อัศวินไนท์แมร์ถามไป๋ว่านเจีย


 


“พวกเราจำเป็นต้องเตรียมตัว แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ปล่อยให้พวกเราไปก่อน ถ้านั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ นี่พวกเขาคิดจริงๆหรือว่าดอลลาร์จะช่วยพวกเขาเอาชนะขุนพลเกราะทองได้จริงๆ? ไร้เดียงสายิ่งนัก”

ไป๋ว่านเจียหัวเราะและพูดต่อ “ถึงแม้ข้าต้องการจะโค่นล้มขุนพลเกราะทอง แต่ข้ายังคงต้องขอความช่วยเหลือจากอวี้ซ่านซิน ซึ่งมันจะเป็นอะไรที่มีราคาสูง แถมข้ายังจำเป็นต้องรวบรวมครึ่งเทพในกองกำลัง ถ้าข้าแค่พอมีหวังที่จะเอาชนะขุนพลเกราะทอง ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ก็กำลังฝันลมๆแล้งๆ”


 


หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ ไป๋ว่านเจียก็พูดต่อ “ปล่อยให้พวกเขาไปก่อน เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้แล้ว พวกเราจะดำเนินการต่อสู้ต่อจากพวกเขา มันจะช่วยประหยัดแรงพวกเรา อย่างนั้นแล้วมีเหตุผลอะไรที่พวกเราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาลงมือก่อน? ไปสืบมาว่าพวกเขาจะเริ่มโจมตีขุนพลเกราะทองเมื่อไร”


“ทราบแล้ว ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” อัศวินไนท์แมร์พูดและเดินออกไป


 


ในฐานทัพของดราก้อนและเดสทรอยเยอร์ ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์กำลังอธิบายแผนการของพวกเขาให้หานเซิ่นฟัง


 


“ด้วยพลังของพวกเรา พวกเราควรจะจำกัดการเคลื่อนไหวของขุนพลเกราะทองได้ 2-3 วินาที ในช่วงเวลานั้นพวกเราต้องการให้เจ้าใช้มีดเล่มนี้แทงใส่ดวงตาของขุนพลเกราะทอง เจ้ามีเวลาไม่มากนักและเจ้ามีเพียงแค่มีดเล่มนี้เล่มเดียว มันเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าต้องเข้าไปใกล้ขุนพลเกราะทอง ขณะที่พวกเราหยุดมันเอาไว้และทำลายตาทั้ง 2 ข้างของมัน ถ้าเจ้าทำพลาด ความพยายามทั้งหมดของพวกเราก็จะสูญเปล่า เจ้าทำได้ใช่ไหม?”

ดราก้อนวันถามอย่างจริงจัง ขณะที่ส่งมีดที่ขาวเหมือนกับหิมะให้หานเซิ่น


 


“ทำไมต้องแทงใส่ตาของมันด้วย?” หานเซิ่นรับมีดมาและลูบมันด้วยนิ้วมือของเขา


 


“ร่างของขุนพลเกราะทองนั้นห่อหุ้มด้วยเกราะสีทองทั้งตัว พลังป้องกันของมันสูงเกินกว่าที่พวกเราจะเจาะทะลวงได้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับครึ่งเทพที่เก่งกาจที่สุดก็เจาะทะลวงชุดเกราะของสัตว์ประหลาดตัวนั้นไม่ได้ ขุนพลเกราะทองมีจุดอ่อนอยู่ที่ดวงตา ดวงตาของมันถูกปกป้องโดยคริสตัลเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นครึ่งเทพธรรมดาก็ทำลายพวกมันไม่ได้อยู่ดี หนทางเดียวที่จะทะลวงผ่านการป้องกันคริสตัลนั้นคือให้ครึ่งเทพคนหนึ่งใช้มีดเขี้ยวรอยสักมังกรที่เป็นสมบัติของเผ่าดราก้อนเล่มนี้” ดราก้อนวันอธิบาย


 


หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ดราก้อนวันก็พูดต่อ “จากคำของคนที่เคยไปล่าขุนพลเกราะเหล็กและขุนพลเกราะเงิน พวกมันถึงจะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า แต่สัมผัสของพวกมันไม่ได้ดีอะไร พวกมันพึ่งพาแค่ดวงตาเท่านั้น ถ้าดวงตาของพวกมันถูกทำลาย ขุนพลเกราะทองก็จะไม่เป็นอันตรายสำหรับพวกเราอีกต่อไป แถมเมื่อดวงตาของมันถูกทำลายไปแล้ว พวกเราก็จะโจมตีซ้ำใส่บาดแผลนั้นและฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย”


 


“นั่นหมายความว่าพวกเจ้ายังมีอาวุธอีกอย่างหนึ่งสำหรับฆ่ามันอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่มีดเขี้ยวรอยสักมังกร


 


มีดนั้นมีสีขาวเหมือนกับหิมะ มันแวววาวราบกับหยก และทั้ง 2 ด้านของมีดสลักรูปของมังกรน้ำแข็งเอาไว้ รอยแกะสลักนั้นดูละเอียดอ่อนและงดงาม


 


ในขณะที่หานเซิ่นถือมีดในมือ เขาก็รู้สึกหนาวเย็น เขาสามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณของมังกรอมตะที่คำรามจากภายในอาวุธ


 


ถึงแม้มันจะไม่ได้เป็นหนึ่งในสมบัติระดับเทพเจ้าที่ดีที่สุดในจักรวาล แต่มีดเขี้ยวรอยสักมังกรนี้เหมาะสมกับหานเซิ่นอย่างมาก การใช้มันไม่จำเป็นต้องใช้พละกำลังมากอะไร เพราะมีดนั้นคมพอที่จะตัดผ่านมิติได้


 


“ใช่ มีดนี้แค่ทำลายดวงตาของขุนพลเกราะทองได้เท่านั้น มันไม่ทรงพลังที่จะฆ่าซีโน่เจเนอิคนั่นได้ พวกเราได้เตรียมอะไรอย่างอื่นเอาไว้ แต่ภารกิจของเจ้าคือทำลายดวงตาของมัน เจ้าแค่ต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ ไม่ว่าสุดท้ายพวกเราจะฆ่าขุนพลเกราะทองได้หรือไม่ เจ้าก็จะได้รับยีนซีโน่เจเนอิค 1000 ยีนตามที่ตกลงกัน” ดราก้อนวันพูด


 


“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนั้น” หานเซิ่นพูดขณะที่วางมีดลง


 


“อะแฮ่ม ดอลลาร์ เจ้าถือครองมีดไปได้สำหรับตอนนี้ แต่สิ่งนี้เป็นสมบัติของเผ่าดราก้อน เจ้าจะจะนำมันไปไกลจากพวกเราไม่ได้” ดราก้อนพูดพร้อมกับไอออกมา


 


“จนกว่าจะฆ่าขุนพลเกราะทองได้ ข้าจะไม่ไปไหน” หานเซิ่นพูด


 


“ขอบคุณที่เจ้าเข้าใจดอลลาร์ มันยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เจ้าต้องจำไว้ เจ้าจะต้องใช้มีดเล่มนี้แทงใส่ดวงตาของมันโดยตรง การใช้วิชาอย่างดาบแสงจะไม่ได้ผลกับดวงตาของสิ่งมีชีวิตตัวนี้” ดราก้อนวันพูด


 


“ข้าจะจำเอาไว้” หานเซิ่นพยักหน้าขณะที่หมุนมีดเขี้ยวรอยสักมังกรในมือ


 


หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องฝึกซ้อมในเรื่องการฆ่าศัตรู แต่ครั้งนี้เขาจะล่าศัตรูที่เป็นระดับเทพเจ้า มันอาจจะอ่อนแอกว่าระดับเทพเจ้าของโลกภายนอก แต่เขาก็รู้ว่าจะชะล่าใจไม่ได้ ดังนั้นหานเซิ่นจำเป็นต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับงานนี้


 


แน่นอนว่าหานเซิ่นไม่ได้ทำงานนี้เพราะยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีนเพียงอย่างเดียว เขายังอยากจะลองดูว่าสามารถฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวนี้เพื่อเอาวิญญาณอสูรได้ไหม


 


สมบัติซีโน่เจเนอิคเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม แต่สำหรับผู้คนที่มาจากก็อตแซงชัวรี่แล้ว วิญญาณอสูรเป็นอะไรที่ดีกว่า


 


หานเซิ่นทำตามสัญญาที่ให้เอาไว้และไม่ออกไปจากฐานทัพ เขาอยู่ที่นั่นและใช้เวลาไปกับการฝึกใช้มีดเขี้ยวรอยสักมังกร ดราก้อนวันรู้สึกพอใจที่เห็นแบบนี้ ไม่ว่าเขาจะดูยังไง เขาก็เห็นว่าดอลลาร์เป็นคนที่เคารพในงานของตัวเอง


 


ดราก้อนทรีเดินเข้ามาหาดราก้อนวันและร่วมดูการฝึกของหานเซิ่น


 


“ท่านพี่ ท่านพี่คิดว่าดอลลาร์จะทำสำเร็จไหม? เขาจำเป็นต้องเข้าไปใกล้ขุนพลเกราะทองในเวลาอันสั้นและทำลายดวงตาของมัน แม้แต่ครึ่งเทพของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ และดอลลาร์ยังเป็นแค่ระดับราชัน… ท่านพี่ ถ้าท่านพี่ต้องการ ข้าจะขอให้อวี้ซ่านซินช่วย ด้วยการช่วยเหลือของเขา โอการสำเร็จของพวกเราก็จะสูงขึ้นมาก”


 


ดราก้อนวันส่ายหัว “การจะจ้างอวี้ซ่านซินไม่ใช่เรื่องง่ายแบบนั้น ถ้าทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการจะจ้างเขา มันก็ต้องจ่ายด้วยราคาที่สูง ซึ่งพวกเราไม่ได้มีทรัพยากรมากขนาดนั้น”


 


หลังจากนั้นดราก้อนวันก็มองไปที่หานเซิ่น สีหน้าของเขากลายเป็นอะไรที่ดูห่างเหินอย่างประหลาด เขาพูดขึ้นว่า

“ดอลลาร์นั้นอาจจะเป็นอวี้ซ่านซินคนต่อไป หรือบางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ”


 


ดราก้อนทรีมองดราก้อนวันด้วยความตกใจ เขาหันกลับไปมองชายที่กำลังฝึกอยู่ มันไม่ได้มีร่องรอยของการล้อเล่นอยู่ในโทนเสียงของดราก้อนวัน


 


ดราก้อนวันเปรียบเทียบดอลลาร์กับอวี้ซ่านซินผู้ยิ่งใหญ่ และเขายังบอกอีกว่าดอลลาร์อาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า นั่นถือเป็นคำชมที่หาได้ยากสำหรับคนอย่างดราก้อนวัน


 


อวี้ซ่านซินถูกเรียกว่าเป็นครึ่งเทพที่น่ากลัวที่สุดในจักรวาล แม้แต่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเองก็ไม่มีครึ่งเทพเลยสักคนที่จะเทียบชั้นกับอวี้ซ่านซินได้


 


ดราก้อนวันเองก็ไม่อาจจะเทียบกับอวี้ซ่านซินได้เช่นกัน ถ้าเขาสามารถพูดอะไรแบบนี้ออกมาด้วยความมั่นใจ มันก็แสดงว่าเขายอมรับว่าตัวเองด้อยกว่าดอลลาร์ มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าดราก้อนวันผู้ภาคภูมินั้นจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา


 


เมื่อเห็นสีหน้าที่ตกตะลึงของดราก้อนทรี ดราก้อนวันก็หัวเราะออกมา

“ข้าแค่บอกว่าเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าอวี้ซ่านซินเมื่อเขาเลื่อนระดับขึ้นแล้ว ตอนนี้เขายังไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนั้น แต่พวกเราจ้างอวี้ซ่านซินไม่ได้ ดังนั้นพวกเราจึงทำได้แต่พึ่งพาเขา” 

 

 


ตอนที่ 2516

 

“หมอดู เจ้าจะหนีไปที่ไหนอีกละคราวนี้?” ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดจี้คอของชายแก่คนหนึ่ง


 


แค่ก แค่ก!


“นี่มันเรื่องอะไรกัน? เจ้าลดมีดลงก่อน พวกเราเป็นเพื่อนเก่ากัน พวกเราควรจะคุยกันดีๆ” ชายคนนั้นพูด


 


“ถ้าข้าไม่ใช้มีดจี้คอของเจ้าเอาไว้ ข้ากลัวว่าเจ้าจะวิ่งหนีไปอีก” อี๋ซาพูดกับชายแก่


 


“ทำไมข้าถึงต้องทำอะไรแบบนั้น? การได้พบกับเจ้าอีกครั้งทำให้ข้าดีใจมากๆ แบบนั้นข้าจะวิ่งหนีทำไม?”

ชายแก่ฝืนยิ้มออกมา นิ้วของเขาพยายามจะดันมีดที่จี้คอของเขาออกไป


 


“เลิกพูดจาไร้สาระ ข้าตามหาตัวเจ้ามาเป็นเวลานาน เจ้าต้องทำตามข้อตกลงของพวกเรา” อี๋ซาพูดอย่างไร้อารมณ์ มีดของเธอยังคงจี้คอของชายแก่


 


“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องนั้นหรอกหรอ? เจ้าควรจะบอกข้าให้เร็วกว่านี้ ข้าพบมันเมื่อนานมาแล้ว แต่เพราะเจ้าไม่ได้มาตามหาข้า ข้าเลยคิดไปว่าเจ้าไม่ต้องการข้อมูลนั้นอีกต่อไปแล้ว” ชายแก่ดูเหมือนกับว่าเขาเพิ่งจะตื่นขึ้นมา


 


“เขาอยู่ที่ไหน?” อี๋ซาไม่เสียเวลาอธิบาย เธอตามหาชายแก่คนนี้เป็นเวลานาน การจะตามหาตัวเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย


 


ชายแก่ดูเศร้า และเขาพูดขึ้นมา “ข้าได้ทำการคำนวณไปเป็นเวลานาน ป่านนี้เขาคงจะหายตัวไปแล้ว”


 


เมื่อเห็นสีหน้าของเขาอี๋ซามืดลง ชายแก่ก็รีบพูดต่อ “แต่อย่าได้กังวล ข้าจะคำนวณให้กับเจ้าใหม่อีกครั้ง 3 นาที ข้าขอเวลาแค่ 3 นาทีและข้าจะบอกตำแหน่งของดอลลาร์ให้กับเจ้า”


 


เมื่อได้ยินชายแก่พูดแบบนั้น อารมณ์ของอี๋ซาก็ดีขึ้นเล็กน้อย


 


“ข้าจะเริ่มคำนวณเดี๋ยวนี้ เจ้าช่วยเอามีดออกไปก่อนได้ไหม เจ้าเป็นผู้หญิงที่งดงาม แต่มันจะไม่มีใครแต่งงานกับเจ้า ถ้าเจ้าทำตัวแบบนี้” ชายแก่ค่อยๆเอามือดันมีดออกไป


 


ครั้งนี้อี๋ซาไม่ได้ต่อต้าน เธอเก็บมีดเข้าฝักและพูด

“เจ้ามีเวลา 3 นาที ถ้าข้ายังไม่ได้รู้ที่อยู่ของดอลลาร์ใน 3 นาที ข้าจะให้เจ้าได้แต่งงาน”


 


“ข้าอย่างนั้นหรอ?” ชายแก่ดูสับสน เขาไม่เข้าใจว่าอี๋ซาหมายถึงอะไร


 


“ข้าจะให้เจ้าได้เป็นลูกเขยของราชาแห่งขุมนรก” อี๋ซาพูด


 


ชายแก่ยิ้มแห้งๆออกมา เขายกมือขึ้นและเริ่มการคำนวณ หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองอี๋ซาและพูด

“ข้าแพ้การเดิมพัน ดังนั้นข้าจะให้คำตอบกับเจ้า แต่ข้ามีที่อยู่ 2 ที่ หนึ่งคือที่อยู่ของดอลลาร์ ส่วนอีกหนึ่งคือที่อยู่ของลูกศิษย์ของเจ้า เจ้ารู้กฎ ข้าแพ้เพียงแค่ครั้งเดียว ดังนั้นเจ้าเลือกได้เพียงที่อยู่ของคนๆเดียว เจ้าอยากจะรู้ที่อยู่ของใครมากกว่า?”


 


“หานเซิ่นยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรอ?” อี๋ซาขมวดคิ้ว


 


“สำหรับตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ แต่สถานการณ์ของเขาไม่ดีเท่าไหร่นัก ถ้าไม่มีใครไปช่วยเขา ข้ากลัวว่า…” ชายแก่หยุดพูดไป เขาแค่ส่ายหัวและถอนหายใจออกมา


 


“ยังพอช่วยเขาได้ไหม?” อี๋ซาถาม


 


“พอช่วยได้ ถ้าเจ้าไปที่นั่น” ชายแก่พยักหน้า


 


“ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?” อี๋ซาถาม



 


“ท่านหญิง นี่ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์คิดจะฆ่าขุนพลเกราะทองจริงๆอย่างนั้นหรอ?”

ในคอร์แอเรีย สาวใช้เผ่าเคทมองไปที่ผู้หญิงในชุดสีเหลืองด้วยความสงสัย พวกเขากำลังอยู่บนยานอวกาศลำหนึ่ง


 


“พวกเขาได้กำลังคนไปเป็นจำนวนมากกับงานนี้ มันไม่มีทางเป็นแค่การแสดงไปได้”

ผู้หญิงในชุดเหลืองดูมีเสน่ห์และสำรวม เธอดูสาวและคงจะอายุไม่เกิน 20 ปี แต่ดวงตาของเธอดูหยั่งรู้ราวกับว่าเธอมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่าง


 


“ขุนพลเกราะทองนั้นแข็งแกร่งไม่ต่างอะไรไปจากซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของโลกภายนอก นี่พวกเขาคิดจริงๆหรือว่าจะฆ่ามันได้? ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาจ้างคนที่ชื่อดอลลาร์มา และพวกเขาก็ดูเหมือนจะคาดหวังในตัวคนๆนั้นสูงมากๆ แต่ข้าไม่เข้าใจ เขากำเนิดจากเผ่าพันธุ์เล็กๆที่ไร้ชื่อเสียง ถึงแม้เขาจะได้อันดับที่หนึ่งในการต่อสู้บัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน แต่การวิวัฒนาการของเขาก็ไม่ได้ดีอะไรมากนัก ทำไมอัจฉริยะอย่างดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ถึงได้ฝากความหวังเอาไว้กับคนแบบนั้น?” สาวใช้เผ่าเคทถาม เธอยังคงไม่เข้าใจ


 


ผู้หญิงชุดเหลืองหัวเราะและพูด “พวกเขารวบรวมกองกำลังทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ ของแพงมักจะมีประโยชน์ แต่พวกเราไม่รู้ว่าดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ใช้ทรัพยากรได้อย่างถูกต้องหรือเปล่า”


 


“ท่านหญิง ผีเสื้อน้อยไม่เข้าใจ ในเขตแดนของท่านหญิง ท่านหญิงเลือกเหล่าอัจฉริยะของเอ็กซ์ตรีมคิงได้ และพวกเขาบางคนก็เป็นถึงระดับเทพเจ้าเรียบร้อยแล้ว นั่นจะช่วยลดความลำบากของท่านหญิง ทำไมท่านถึงปล่อยตัวเลือกนั้นไป? ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์อาจจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็เทียบกับยอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิงในระดับเดียวกันไม่ได้อยู่ดี นี่ข้าเข้าใจผิดอย่างนั้นหรอ?” สาวใช้เผ่าเคทถามด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง


 


ผู้หญิงในชุดเหลืองกระพริบตาปริบๆและพูด “ข้าไม่ได้บอกว่าข้าจะเลือกเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงสักหน่อย ถึงสายเลือดของเอ็กซ์ตรีมคิงจะแข็งแกร่ง แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าเชื่อว่าพวกเขาถึงจุดสูงสุดแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะช่วยข้าได้ แต่พวกเขาก็พัฒนาไปมากกว่านั้นไม่ได้ ข้าอยากเลือกคนที่ยังพัฒนาได้เรื่อยๆ”


 


“นั่นมันจะแตกต่างกันยังไง? สุดท้ายพวกเขาก็จะไปจบลงที่ความแข็งแกร่งเท่ากับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอยู่ดี” ผีเสื้อน้อยไม่เข้าใจ


 


ผู้หญิงชุดเหลืองหัวเราะ “มันเหมือนกับการที่บางคนชอบการซื้อสุนัขที่โตเต็มวัยแล้วมาเฝ้าสวนของตัวเอง แต่ข้าชอบการซื้อตัวที่ยังเด็กและเลี้ยงมันด้วยตัวเอง การมองดูการเติบโตเป็นอะไรที่สนุก”


 


ผีเสื้อน้อยดูเหมือนจะเข้าใจ “ท่านหญิงหมายความว่าดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เป็นเหมือนกับลูกสุนัข ขณะที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเป็นสุนัขที่โตเต็มวัยแล้วอย่างนั้นหรอ?”


 


“ทำนองนั้น” ผู้หญิงชุดเหลืองหัวเราะอีกครั้ง

“แต่มันไม่ใช่แค่ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เท่านั้น เผ่าพันธุ์อื่นก็เช่นกัน มันมีเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมายที่พยายามแข่งขันกัน เราแค่จำเป็นต้องหาคนที่มีศักยภาพมากที่สุด”


 


“ถ้าอย่างนั้นท่านคิดว่าใครที่มีศักยภาพมากกว่า? ดราก้อนวันหรือเดียร็อบเบอร์?” ผีเสื้อน้อยถามด้วยความสงสัย


 


“พวกเขาทั้งคู่ถือว่าไม่เลว ศักยภาพของพวกเขาไม่ได้แย่ไปกว่าขององค์ชายและองค์หญิงของเอ็กซ์ตรีมคิง แต่พวกเขาไม่ใช่คนที่ดีที่สุด”

ผู้หญิงชุดเหลืองถอนหายใจ “จากคนทั้งหมดที่ข้าเคยเห็น ที่ดีที่สุดยังคงเป็นอวี้ซ่านซินของปราสาทนภา ไผ่เดียวดายเองก็ถือว่าไม่เลว แต่เขาถูกเอาไปแล้ว”


 


“นั่นถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายไม่ใช่หรอ?” ผีเสื้อน้อยถาม


 


“มันไม่ได้เลวร้ายอะไร จักรวาลนี้ไม่ได้ขาดแคลนอัจฉริยะ ข้าแค่จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อหาพวกเขา สำหรับตอนนี้พวกเราคอยดูดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ไปก่อน บางทีพวกเราอาจจะได้เรียนรู้บางสิ่งที่น่าสนใจ”

ดวงตาของผู้หญิงชุดเหลืองเป็นเหมือนกับดวงดาว เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคิดบางสิ่งที่น่าสนใจขึ้นมาได้ เธอยิ้มออกมาและพูด

“ความรักที่ถูกลืมของเวรี่ไฮ ถึงแม้พวกเขาจะมีหัวใจที่ใหญ่โต แต่พวกเขานั้นน่าเบื่อ”


 


หลายเผ่าพันธุ์ชั้นสูงรู้ว่าดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์กำลังเตรียมการที่จะโค่นล้มขุนพลเกราะทอง ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงส่งคนมาจับตามอง


 


เมื่อถึงเวลา หานเซิ่นก็ติดตามเดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันมุ่งหน้าไปยังระบบของขุนพลเกราะทอง


 


พวกเขามีครึ่งเทพ 11 คนและราชันอีกคนที่มากับพวกเขาด้วย พวกเขาเป็นคนเผ่าดราก้อนไม่ก็เดสทรอยเยอร์


 


ถึงแม้ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์จะสามารถรวบรวมครึ่งเทพมาเพิ่มได้อีก แต่พวกเขาไม่ได้ทำ ความสำเร็จของภารกิจครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคน ความเชื่อใจและการร่วมมือกันระหว่างนักสู้ทุกคนคือปัจจัยที่สำคัญที่สุด

 

 

 


ตอนที่ 2517

 

ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์รู้ว่ามีผู้คนมากมายมาจับตาดูพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้สนใจอะไร


 


การฆ่าขุนพลเกราะทองถือเป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยานอย่างมาก และมันจำเป็นต้องใช้การเตรียมการอย่างรัดกุม การจะเก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับนั้นเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เสียเวลาที่จะปกปิดมัน


 


“ดอลลาร์ ตามแผนที่ได้วางเอาไว้ พวกเราจะเป็นคนรับมือขุนพลเกราะทอง ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำก็คือหาโอกาสเพื่อทำการโจมตี เจ้าจะทำพลาดไม่ได้ เพราะมันไม่มีโอกาสหนที่ 2” ดราก้อนวันเตือนหานเซิ่น


 


ดราก้อนวันไม่ได้พยายามจะทำให้หานเซิ่นรำคาญ แต่นี่ถือเป็นงานใหญ่ เผ่าดราก้อนได้จ่ายทรัพยากรจำนวนมากเพื่อภารกิจในครั้งนี้ และยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีนที่เขาตกลงจะมอบให้กับหานเซิ่นนั้นไม่ใช่น้อยๆ พวกเขาไม่สามารถสูญเสียทรัพยากรทั้งหมดไปเปล่าๆได้


 


“ข้าเข้าใจ” หานเซิ่นพยักหน้า


 


หานเซิ่นไม่ใช่คนที่จะยอมเป็นลูกจ้างใครคนไหน แต่ดราก้อนวันจ่ายยีนซีโน่เจเนอิคให้กับเขาเป็นจำนวนมาก มันไม่ใช่เรื่อกยากอะไรที่จะมอบการยืนยันทางปากให้กับดราก้อนวัน เขาจำเป็นต้องตอบสนองต่อความกังวลดราก้อนวัน



 


“องค์ชาย ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เริ่มออกเดินทางกันแล้ว” อัศวินไนท์แมร์พูดขณะที่เขาโค้งคำนับไป๋ว่านเจีย


 


“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ออกเดินทาง มาดูกันสิว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จสักแค่ไหน”

ไป๋ว่านเจียเริ่มนำสมาชิกของรอยัลไนท์มุ่งหน้าไปยังดินแดนของขุนพลเกราะทอง



 


“ท่านหญิง ที่นี่ดูจะได้รับความนิยมมากๆ มันมีโฉมหน้าที่คุ้นเคยมากมายเดินทางมา”

บนยานอวกาศเล็กๆที่จอดอยู่บนดาวเคราะห์น้อย สาวใช้ผีเสื้อน้อยมองออกไปในกาแล็กซี่และพูดขึ้นมา


 


“การฆ่าขุนพลเกราะทองถือเป็นเป้าหมายที่ใหญ่โต มันถือเป็นอะไรที่เข้าใจได้ที่เหล่าราชันและครึ่งเทพจากเผ่าพันธุ์ต่างๆจะแห่กันมาดู ใครจะไม่อยากมาอยู่ที่นี่เผื่อในกรณีที่พวกเขาอาจจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ได้?” ผู้หญิงชุดเหลืองพูดอย่างไร้โทนเสียง


 


“ท่านหญิงกำลังจะบอกว่าพวกเขามาเพื่อขโมยขุนพลเกราะทองจากดราก้อนวันอย่างนั้นหรอ?” ผีเสื้อน้อยช็อค


 


“ก็ไม่เชิง แต่คนส่วนใหญ่ที่มาคงจะมีความคิดแบบนั้นอยู่ในใจ”

ผู้หญิงชุดเหลืองพูด ดวงตาของเธอสดใสขึ้นมาเมื่อเห็นดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เข้ามาในระบบ


 


ผู้หญิงชุดเหลืองมองไปที่ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ หลังจากนั้นสายตาของเธอก็ไปหยุดอยู่ที่บุคคลที่สวมชุดเกราะสีดำสนิท ใบหน้าของเขาถูกปกปิดเอาไว้


 


“นั่นคือดอลลาร์อย่างนั้นหรอ?” ผู้หญิงชุดเหลืองถามตัวเองขณะที่จ้องไปที่เขา


 


ขณะที่ผู้หญิงชุดเหลืองมองไปที่เขา จู่ๆชายคนนั้นก็หันมาและดูเหมือนจะมองกลับมาที่เธอ ผู้หญิงคนนั้นอึ้งไป ชายในชุดเกราะสีดำหันมาในทิศทางของเธอ แต่เขาไม่ได้หยุดชะงัก และเขาก็บินต่อไปข้างหน้าพร้อมกับคนอื่นๆ


 


“นี่เขารู้ว่าข้ากำลังมองเขาอยู่อย่างนั้นหรอ หรือว่านั่นเป็นแค่เรื่องบังเอิญ?” ผู้หญิงชุดเหลืองขมวดคิ้ว


 


เธอมองหานเซิ่นด้วยตาเปล่า เธอไม่ได้ใช้พลังพิเศษอะไร ดังนั้นแม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าก็ไม่ควรจะบอกได้ว่าเธอกำลังมองเขาอยู่


 


แต่ดูเหมือนกับว่าบุคคลในชุดเกราะสีดำหันมาสบสายตากับเธอ ไม่ว่าจะเจตนาหรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญ เธอก็ไม่อาจจะรู้ได้


 


“บางทีเราอาจจะคิดมากเกินไป” ผู้หญิงชุดเหลืองส่ายหัว ร่างกายและวิชาจีโนของเธอเป็นอะไรที่พิเศษ การสังเกตได้ถึงสายตาของเธอควรจะเป็นไปไม่ได้


 


ในตอนที่หานเซิ่นบินต่อไปข้างหน้าพร้อมกับคนอื่น เขาก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกมอง ถึงแม้มันจะมีผู้คนมากมายจับตามองพวกเขา แต่สายตานี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นหันไปมอง


 


เมื่อเขาหันไปมอง แต่ทั้งหมดที่เขาเห็นก็มีเพียงแค่แถบดาวเคราะห์น้อยเท่านั้น เขารู้ว่าคนที่มองเขาอยู่ที่ไหนสักแห่งในหมู่ดาวเคราะห์น้อยพวกนั้น แต่เขาก็ยังรู้อีกว่าสายตานั้นไม่ได้มีประสงค์ร้ายอะไร เนื่องจากเขาไม่ได้รู้สึกถึงภัยอันตรายอะไร ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้เวลามองหามากนัก


 


ผู้หญิงชุดเหลืองมองไปที่หานเซิ่นอยู่สักพักและขมวดคิ้ว แม้จะด้วยสายตาของเธอ เธอก็บอกถึงความแข็งแกร่งของหานเซิ่นไม่ได้ นี่ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ


 


“ดอลลาร์คนนี้ดูน่าสนใจ ข้าแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นขีดจำกัดพลังของเขา” ผู้หญิงชุดเหลืองพึมพำกับตัวเองด้วยความสนใจ


 


หลังจากที่ดราก้อนวันและคนอื่นเข้าไปในระบบ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่ลูกอุกกาบาตลูกหนึ่ง ขุนพลเกราะทองมักจะอาศัยอยู่ใกล้ๆดาวเคราะห์น้อย มันเป็นซีโน่เจเนอิคอวกาศ ดังนั้นมันไม่สนใจที่จะใช้ชีวิตอยู่บนดวงดาว


 


หานเซิ่นถูกสั่งให้รออยู่ใกล้ๆขอบด้านนอกของดาวเคราะห์น้อย ส่วนดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ตรงเข้าไปในแถบที่มีดาวเคราะห์น้อยจับกลุ่มกันหน้าแน่นที่สุด มันมีหินอยู่มากเกินกว่าที่หานเซิ่นจะนับได้อย่างแม่นยำ แต่ไม่นานหลังจากนั้นดาบแสงสีทองก็แว็บผ่านดาวเคราะห์น้อยมา


 


หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นดราก้อนวันและคนอื่นถอยห่างออกมาจากแถบดาวเคราะห์น้อย ที่ติดตามพวกเขามาคือร่างกายสีทองที่สูง 3 เมตร


 


ร่างกายสีทองนั้นไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก แต่มันทรงพลังอย่างน่าตกใจ ชุดเกราะสีทองทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นดูเหมือนกับหุ่นยนต์ มันดูหนักหน่วงและทรงพลัง มันมีท่อและฟันเฟืองสีทองอยู่บนผิวเป็นจำนวนมาก มันเหมือนกับหุ่นยนต์นักรบสีทอง


 


บนหลังของมันมีผ้าคลุมสีแดงที่ดูเหมือนจะถูกทำขึ้นมาจากเลือด มือของมันถือดาบใหญ่สีทองอยู่ และใบมีดของดาบก็สูงยิ่งกว่าร่างกายของมันซะอีก


 


ดาบใหญ่นั้นแตกต่างไปจากดาบใหญ่ธรรมดาอีกด้วย แทนที่จะเป็นชิ้นโลหะเพียงชิ้นเดียว ส่วนในของใบมีดกลับเต็มไปด้วยฟันเฟืองสีแดงแทน ขอบนอกของใบมีดนั้นเป็นหยักๆเหมือนกับฟันปลา


 


เมื่อฟันเฟืองสีทองภายในใบมีดหมุน ฟันที่อยู่ที่ขอบก็เริ่มจะขยับ มันกลายเป็นเหมือนกับเลื่อนสีทองขนาดใหญ่


 


ในศูนย์กลางของดาบนั้นมีคริสตัลสีเหลืองอยู่ ดูเหมือนกับว่ามันกุมแก่นแท้ของสายฟ้าเอาไว้ มันเป็นชนิดสายฟ้าที่จะฝ่าลงมาตอนที่สิ่งต่างๆกำเนิดขึ้นมา


 


การมองไปที่ขุนพลเกราะทองเป็นประสบการณ์ที่ประหลาด มันทั้งดูมีชีวิตและดูไร้จิตวิญญาณเหมือนกับหุ่นยนต์ มันยากที่จะบอกได้ว่านี่เป็นสิ่งมีชีวิตหรือหุ่นยนต์กันแน่


 


นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นได้เห็นซีโน่เจเนอิคที่พิเศษขนาดนี้ เขาเคยได้เจอกับซีโน่เจเนอิคที่เป็นโลหะมามาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นซีโน่เจเนอิคที่เป็นครึ่งชีวภาพครึ่งหุ่นยนต์แบบนี้


 


เมื่อได้เห็นผ้าคลุมเลือดและดาบใหญ่ที่เหมือนกับเลื่อย เขาก็รู้ว่านี่เป็นศัตรูที่เป็นเอกลักษ์มากๆ


 


ดวงตาของขุนพลเกราะทองเรืองแสงสีทองออกมา แต่เนื่องจากมันมีหมวกอยู่ หานเซิ่นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าศัตรูมีปากหรือเปล่า มันไม่ได้ทำเสียงอะไร ขณะที่มันกวัดแกว่งดาบใส่ดราก้อนวัน


 


หานเซิ่นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าดาบใหญ่ของศัตรูเหมือนกับเลื่อย ดาบแสงที่มันปลดปล่อยออกมานั้นหมุนอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนกับว่าพวกมันสามารถตัดผ่านช่องว่างของอวกาศได้ ที่ไหนก็ตามที่ดาบแสงพุ่งออกไป รอยร้าวก็จะก่อตัวขึ้นมาในอวกาศบริเวณนั้น


 


แต่เมื่อมันฟันลง รอยร้าวก็แพร่กระจายผ่านอวกาศอย่างรวดเร็วจนกระทั่งพวกมันดูเหมือนกาแล็กซี่ในท้องฟ้า


 


ดาบแสงพุ่งไปหาดราก้อนวัน ด้วยความเร็วระดับนั้น ดราก้อนวันและพวกพ้องไม่สามารถหลบหลีกดาบแสงแบบนั้นได้


 


ขณะที่หานเซิ่นสงสัยว่าดราก้อนวันจะป้องกันดาบแสงที่น่ากลัวนั้นยังไง เดสทรอยเยอร์ระดับครึ่งเทพคนหนึ่งก็ปลดปล่อยอาณาเขตของเขาออกมา มันห่อหุ้มดราก้อนวันและคนอื่นเอาไว้ก่อนที่จะหายไป วินาทีต่อไป ดราก้อนวันและคนอื่นก็ไปปรากฏตัวอีกครั้งด้านข้างของขุนพลเกราะทอง


 


“อาณาเขตสำหรับเทเลพอร์ตเป็นกลุ่ม” หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่รู้เลยว่าเดสทรอยเยอร์มีอัจฉริยะแบบนั้นอยู่ด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)