Super God Gene 2375-2378

ตอนที่ 2375

 

“ผู้อาวุโส… ทำไมกัน?” หลันไห่ซินมองไปที่หญิงแก่เผ่าไซเรน


 


“ทำไมอย่างนั้นหรอ?” ใบหน้าของหญิงแก่เผ่าไซเรนบิดเบี้ยว เธอกัดฟันและพูด

“ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม ข้าอยากจะรู้ว่าทำไมทั้งๆที่ข้ามีพรสวรรค์ แต่กลับไม่มีไซเรนสักคนที่ชื่นชมความสำเร็จของข้า มันเป็นเพราะข้าไม่มีเลือดของโฮลี่เวอร์จิ้นอย่างนั้นหรอ? ทำไมนางถึงได้กลายเป็นโฮลี่เวอร์จิ้นแทน? ถ้าคนทรยศแบบนั้นกลายเป็นโฮลี่เวอร์จิ้นได้ แบบนั้นแล้วทำไมข้าถึงเป็นไม่ได้?”


 


“ข้ารอคอยให้นางนั่นตายอยู่นานหลายปี แต่พวกเขาก็ยังให้เจ้าเป็นโฮลี่เวอร์จิ้นแทน ทั้งๆที่เจ้าไม่มีแม้แต่เลือดที่บริสุทธิ์ ข้าอยากรู้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เคยคิดจะมอบโอกาสให้กับข้า ข้านั้นชาญฉลาด ไม่มีใครในหมู่ไซเรนที่จะทำในสิ่งที่ข้าทำได้ เพียงแค่ข้าไม่มีเลือดของโฮลี่เวอร์จิ้น ข้าก็เป็นได้แค่สามัญชนคนหนึ่งอย่างนั้นหรอ? ในโลกนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะถามว่าทำไม สิ่งต่างๆนั้นจะตกเป็นของคนที่ต่อสู้เพื่อพวกมันเท่านั้น” หญิงแก่เผ่าไซเรนหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย


 


“ตอนนี้ในที่สุดข้าก็มีโอกาส ถ้าเผ่าไซเรนยังคงไม่ยอมรับข้า ข้าก็จะทำลายเผ่าพันธุ์นี้ซะ ข้าจะมอบเลือดของตัวเองให้กับขวดไซเรนและให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ใหม่ขึ้นมา เผ่าพันธุ์ที่ข้าจะถูกบูชาในฐานะอัลฟ่าของพวกเขา”


 


“เพียงเรื่องแค่นั้น ท่านก็ยินดีที่จะทำลายเผ่าพันธุ์ของพวกเราอย่างนั้นหรอ?” หลันไห่ซินดูโศกเศร้าอย่างมาก


 


“พวกเขาไม่มีความหมายอะไร ตราบใดที่ข้ามีขวดไซเรน ข้าจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า ข้าจะสร้างเผ่าพันธุ์ของข้าเอง” หญิงแก่เผ่าไซเรนดูบ้าไปแล้ว


 


“ท่านไม่มีเลือดของโฮลี่เวอร์จิ้น ท่านควบคุมขวดไซเรนไม่ได้ ทั้งหมดที่ท่านทำไปมันไร้ความหมาย” หลันไห่ซินดูเศร้าโศกเกินบรรยาย


 


หญิงแก่เผ่าไซเรนหัวเราะ “ข้าต้องขอบคุณนางนั่น นางต้องการให้ลูกชายเลือดผสมครอบครองขวดศักดิ์สิทธิ์ นางสร้างปราสาทคริสตัลกับแท่นบูชาเลือดเอาไว้ที่นี่และทำข้อตกลงกับเจ้า ทั้งหมดที่นางทำไปก็เพื่อผลประโยชน์ของเขา นางแค่ต้องการใช้เลือดของเจ้าเท่านั้น ด้วยเลือดของเหล่าไซเรนและแท่นบูชานี้ ข้าจะควบคุมขวดศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงแม้จะไม่มีเลือดของโฮลี่เวอร์จิ้น”


 


“ข้าต้องประสบกับความอัปยศอดสูมาตั้งแต่เด็ก แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังเข้าข้างนางนั่น ข้าทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้รับความไว้ใจจากนาง ข้าเกือบจะต้องตายหลายต่อหลายครั้งในช่วงที่รับใช้นาง แม้แต่ลูกชายของข้าก็ต้องตายเพื่อนาง ข้าเสียสละไปมากเพื่อที่จะได้ความเชื่อใจของนางมา นางคงจะไม่เคยจินตนาการว่าข้าวางแผนที่จะหักหลังนาง นางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าข้าเป็นคนที่ฆ่านาง นางไม่แม้แต่จะบอกความลับกับลูกชายเลือดผสมของนาง ตอนนี้ทุกอย่างตกเป็นของข้า ข้าจะกลายเป็นอัลฟ่าของเผ่าพันธุ์ใหม่” หลังจากที่พูดจบ หญิงแก่เผ่าไซเรนก็หัวเราะราวกับคนบ้า ในตอนนี้เธอดูมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม


 


“ดูเหมือนเจ้าจะลืมไปว่าข้ายังคงอยู่ที่นี่” หานเซิ่นมองไปที่หญิงแก่เผ่าไซเรนด้วยความภาคภูมิ


 


รอยยิ้มของหญิงแก่เผ่าไซเรนหายไปขณะที่เธอหันมามองหานเซิ่น

“เจ้าไม่เลวเลย เจ้าคงจะเจ้าเล่ห์เหมือนกับนางนั่นถึงได้ซ่อนความสามารถของตัวเองได้เป็นเวลานาน แผนของเจ้าถือว่าใช้ได้ แต่เจ้ายังเด็กเกินไป และเจ้าก็ลงมือฆ่าเหล่าไซเรนทุกคน มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย ตอนนี้กระบวนการของแท่นบูชาเลือดและขวดศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้นขึ้นแล้ว ถึงแม้มันจะยังใช้งานได้ไม่เต็มที่ ข้าก็แค่ต้องยืมพลังของมันเพียงแค่นิดเดียวเพื่อที่จะฆ่าพวกเจ้าทั้งคู่และกิเลนโลหิตตัวนั้น”


 


“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะปราศจากเลือดของโฮลี่เวอร์จิ้นโดยสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะใช้พลังของขวดศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง?” หานเซิ่นถาม


 


หานเซิ่นคาดเดาแผนการของหญิงแก่เผ่าไซเรนได้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ที่เขายังไม่ฆ่าเธอก็เพราะเขาเองก็ต้องการขวดไซเรนเช่นเดียวกัน


 


เขามีปัญหาเดียวกับหญิงแก่เผ่าไซเรน เขามีร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ แต่เขาไม่มีเลือดของโฮลี่เวอร์จิ้น ขวดศักดิ์สิทธิ์นั้นจะไม่ยอมรับเขาเป็นเจ้าของของมัน


 


และนี่ไม่ได้เป็นเพราะหานเซิ่นปลอมตัวเป็นไป๋อี้ แม้แต่แม่ของไป๋อี้เองก็ไม่เชื่อว่าลูกชายของตัวเองจะใช้งานขวดศักดิ์สิทธิ์ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอสร้างแท่นบูชาเลือดขึ้นมา เธอจำเป็นต้องใช้เลือดของเหล่าไซเรนเป็นเครื่องสังเวยเพื่อที่ไป๋อี้จะควบคุมขวดไซเรนได้ แต่นั่นควรจะยังคงเป็นไปไม่ได้สำหรับหานเซิ่น


 


หานเซิ่นอยากจะรู้ถึงแผนการของหญิงแก่เผ่าไซเรน เธอต้องมีวิธีการบางอย่างที่จะใช้ควบคุมขวดไซเรน และนั่นก็คือเหตุผลที่เขายังไม่ได้ฆ่าเธอ


 


“ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวเจ้าก็จะเชื่อเอง ข้าจะใช้เลือดผสมของพวกเจ้าทั้งคู่เป็นเครื่องสังเวย หลังจากนั้นข้าก็จะควบคุมขวดไซเรนและสร้างเผ่าพันธุ์ของข้าเองขึ้นมา ข้าจะกลายเป็นอัลฟ่าและผู้นำของเผ่าพันธุ์นั้น!”

หญิงแก่เผ่าไซเรนพูด เธอเดินเข้าไปหาแท่นบูชาและหยิบขวดไซเรนขึ้นมา


 


หลันไห่ซินใช้พลังอาณาเขตของเธอเพื่อจะหยุดหญิงแก่เผ่าไซเรนเอาไว้ แต่ขณะที่เธอเคลื่อนที่เข้าไปหาแท่นบูชา แสงสีรุ้งของแท่นบูชาก็ผลักเธอกลับมา เธอไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้


 


หญิงแก่เผ่าไซเรนยกขวดขึ้นมาและหัวเราะ “ถึงนางนั่นจะไม่ถึงระดับข้า แต่นางก็ยังเหนือกว่าพวกเจ้าทั้งคู่ พวกเจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่”


 


หานเซิ่นมองไปที่หญิงแก่เผ่าไซเรนด้วยความสนใจและพูด “เจ้าจะฆ่าข้าอย่างนั้นหรอ? เจ้าไม่กลัวว่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะมาไล่ล่าเจ้าอย่างนั้นหรอ?”


 


หญิงแก่เผ่าไซเรนยิ้มและมองเขาด้วยความดูถูก “ข้าคอยดูไป๋อี้ตั้งแต่ยังเล็ก นอกจากนางนั่นแล้วไม่มีใครที่จะเข้าใจเจ้ามากไปกว่าข้า เจ้าน่ะไม่ใช่ไป๋อี้ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าทำได้ยังไง? แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการที่เจ้าเปิดประตูปราสาทคริสตัลได้นั้นพิสูจน์ว่าเจ้าสกัดเลือดผสมของไป๋อี้เข้าไป ข้าจะเอาเลือดของเจ้าและมอบตัวเจ้าให้กับราชาไป๋ ข้าเชื่อว่าเขาจะซาบซึ้งในเรื่องนั้น ข้าจะได้ทั้งขวดไซเรนและรางวัลจากราชาไป๋ ข้าต้องขอบอกว่าพระเจ้านั้นเข้าข้างข้า… ฮ่าๆ!”


 


หลันไห่ซินมองหานเซิ่นด้วยความแปลกใจ เธอไม่เคยรู้สึกตัวว่าไป๋อี้ที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นเป็นตัวปลอม


 


เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่กล้าปลอมตัวเป็นองค์ชายของเอ็กซ์ตรีมคิง


 


หานเซิ่นไม่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น เขายืนนิ่งเงียบและจ้องไปที่หญิงแก่เผ่าไซเรน มือของเธอเรืองแสงออกมา พลังออกมาจากมือของเธอและไหลเข้าไปสู่ขวดไซเรน


 


ปีกของขวดไซเรนดูเหมือนกับใบหน้าของหญิงเผ่าไซเรน พวกเธอดูมีชีวิตขึ้นมา ดวงตาของพวกเธอส่องสว่างด้วยแสงและคลื่นสีฟ้าก็ไหลออกมาเป็นระลอก พวกมันสร้างเสียงที่เศร้าสร้อยออกมา


 


ไม่นานหลังจากนั้นหยดน้ำหยดหนึ่งก็ลอยขึ้นมาจากภายในขวด


 


หญิงแก่เผ่าไซเรนคว้าหยดน้ำนั้นเอาไว้และใส่มันเข้าไปในปากของเธอ ไม่นานร่างกายของเธอก็เริ่มเรืองแสงและเกิดความเปลี่ยนแปลง


 


แสงสีรุ้งห่อหุ้มร่างกายของเธอและใบหน้าที่เหมือนกับเปลือกไม้ของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป ริ้วรอยของเธอหายไป และเธอก็กลายเป็นหญิงสาวอายุ 18 ที่มีผิวขาวเรียบเนียน


 


เกล็ดปลาของเธอดูโปร่งใสเหมือนกับคริสตัลและเรืองแสงสีรุ้งออกมา ทั้งร่างกายของเธอถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และพลังชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปพร้อมๆกัน

 

 

 


ตอนที่ 2376

 

ไซเรนอาวุโสสะบัดหางปลาของเธอและคลื่นก็ซัดจากด้านหลังของเธอ ขณะที่เธอว่ายออกจากแท่นบูชาเลือดเพื่อพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่นกับหลันไห่ซิน เธอหัวเราะออกมา

“ตราบใดที่ข้ามีขวดศักดิ์สิทธิ์นี่อยู่ ทุกอย่างที่ข้าต้องการจะอยู่ในมือของข้า”


 


หลังจากนั้นไซเรนอาวุโสก็สะบัดมือของเธอ แสงสีรุ้งถูกยิงออกไปใส่หานเซิ่นกับหลันไห่ซิน พลังของเธอในตอนนี้แตกต่างไปจากพลังเดิมมาก การโจมตีของเธอนั้นคล้ายคลึงกับแสงสีรุ้งที่มองเห็นได้ในขวดไซเรน


 


แสงสีรุ้งลงมาจากด้านบนและเปลี่ยนกลายเป็นขวดคริสตัลเพื่อขังหานเซิ่นกับคนอื่นๆเอาไว้


 


หานเซิ่นเคยเห็นหอยสังข์คริสตัลสายรุ้งใช้พลังที่เหมือนกันนี้ และตอนนี้เขาก็แน่ใจแล้วว่าพลังของมันมาจากขวดไซเรนจริงๆ


 


แต่พลังของไซเรนอาวุโสนั้นอ่อนแอกว่าหอยสังข์คริสตัลสายรุ้ง เธอสร้างพลังโซ่สสารเหมือนกัน แต่มันอ่อนแอกว่ามาก มันไม่ได้เป็นปึกแผ่นเหมือนกับโซ่สสารของหอยสังข์คริสตัลสายรุ้ง


 


‘ดูเหมือนว่าเธอจะยังควบคุมพลังของขวดไซเรนไม่ได้ แต่ทำไมหอยสังข์คริสตัลสายรุ้งถึงใช้พลังของขวดไซเรนได้เป็นอย่างดี? มันไม่น่าเปิดใช้งานขวดไซเรนได้ และมันก็ไม่ได้มีเลือดของเหล่าไซเรนที่จะใช้เพื่อสังเวยเช่นกัน’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


หลันไห่ซินพยายามโจมตีใส่ขวดคริสตัล แต่มันก็เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ มันแม้แต่จะทำให้ขวดคริสตัลสั่นไหว


 


“ฮ่าๆ! มันไม่มีประโยชน์! นี่คือพลังของขวดไซเรน… ถ้าข้าได้เอาเลือดของพวกเจ้ามา ข้าจะใช้ขวดไซเรนได้อย่างเต็มที่ เมื่อข้าควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ข้าจะได้รับพลังที่มากยิ่งกว่านี้ และหลังจากนั้นข้าจะสร้างเผ่าพันธุ์ของตัวเองขึ้นมา ข้าจะกลายเป็นอัลฟ่า”

ไซเรนอาวุโสหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และแสงสีรุ้งที่ห่อหุ้มเธออยู่ก็สว่างไสวขึ้นอีก


 


กระจกแก้วของขวดเริ่มย่อขนาดเล็กลง ขณะที่ไซเรนอาวุโสออกแรงกดดันกับมัน เธอต้องการจะบีบคนที่อยู่ภายใน


 


“นกแดงน้อย” หานเซิ่นเข้าใจวิธีการที่ไซเรนอาวุโสใช้เพื่อควบคุมขวดไซเรนแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะเรียกใช้นกแดงน้อย


 


นกแดงน้อยบินขึ้นจากไหล่ของเป่าเอ๋อ หลังจากนั้นมันก็บินมาเกาะบนนิ้วมือของหานเซิ่นและส่งเสียงร้องให้กับเขา


 


“พวกเราเสร็จสิ้นธุระที่นี่แล้ว จัดการนางแก่คนนี้ แต่เหลือลมหายใจสุดท้ายของเธอเอาไว้ ฉันอยากจะปิดชีวิตเธอด้วยตัวเอง” หานเซิ่นออกคำสั่งกับนกแดงน้อย


 


สีหน้าของไซเรนอาวุโสดูเหมือนกับว่าเธอเพิ่งจะได้ยินมุขตลก เธอหัวเราะออกมา “นี่ยังไม่จบสักหน่อย เจ้าน่ะบ้าไปแล้ว”


 


ตูม!


 


เมื่อไซเรนอาวุโสพูดจบ นกแดงน้อยก็ทะยานขึ้น เปลวไฟลุกโชนขึ้นรอบตัวเธอ ขณะที่นกแดงน้อยบินขึ้นจากนิ้วมือของหานเซิ่น ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นนกพินิกซ์เพลิงสีทอง


 


ฟินิกซ์กระพือปีกและส่งเปลวไฟไปเผาผลาญกระจกแก้วของขวด โซ่สสารที่ประกอบเป็นกำแพงคริสตัลถูกเผาไหม้ไม่ต่างไปจากกระดาษ เปลวไฟสีทองของนกฟินิกซ์แผดเผาพวกมันกลายเป็นเถ้าถ่านในชั่วพริบตา


 


‘ดูเหมือนว่าพลังของไซเรนอาวุโสจะด้อยกว่าหอยสังข์คริสตัลสายรุ้งมาก นี่เป็นพลังระดับเทพเจ้าของปลอม’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


“ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า… ไม่… เป็นไปไม่ได้!” ดวงตาของไซเรนอาวุโสเบิกกว้าง


 


หลันไห่ซินไม่เชื่อสิ่งที่เห็นเช่นกัน เธอจ้องมองนกแดงน้อยที่เปลี่ยนเป็นฟินิกซ์เพลิงด้วยความตกตะลึง


 


ไซเรนทั้ง 2 คุ้นเคยกับนกแดงน้อย เพราะเป่าเอ๋อมักจะเล่นกับมันอยู่ทุกวัน และเธอก็ชอบที่จะรังแกมันอยู่เป็นประจำ หลันไห่ซินรู้สึกสงสารมันอยู่บ่อยครั้ง แต่มันดูไม่รังเกียจอะไรที่จะถูกเป่าเอ๋อรังแก และมันก็คอยติดตามเป่าเอ๋ออยู่ตลอดเวลา


 


เมื่อได้เห็นว่านกแดงน้อยนั้นจริงๆแล้วเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า มันก็เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ


 


แต่มันเป็นความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ตอนนี้นกแดงน้อยที่กลายร่างเป็นฟินิกซ์เพลิงกำลังบินเข้าไปหาไซเรนอาวุโส และเมื่อไปถึงมันก็พ่นลูกไฟสีทองออกมา


 


ไซเรนอาวุโสกรีดร้อง เสียงของเธอดังก้อง ร่างกายของเธอเรืองแสงและแสงนั่นก็กลายเป็นขวดแก้วที่พยายามจะครอบนกแดงน้อยเอาไว้ แต่มันกลายเป็นผุยผงในทันทีที่ไปเข้าใกล้เปลวไฟ และเปลวเพลิงก็พุ่งต่อไปหาไซเรนอาวุโส


 


ไซเรนอาวุโสไม่สามารถหลบหลีกมันได้ เธอรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อจะป้องกัน แต่เมื่อมือของเธอสัมผัสกับเปลวไฟ พวกมันก็เริ่มถูกเผา และหลังจากนั้นทั้งร่างของเธอก็ลุกเป็นไฟ


 


“อ้า ไม่! นี่มันเป็นไปไม่ได้! ข้าต้องการเป็นอัลฟ่า… ข้าต้องการได้รับขวดศักดิ์สิทธิ์นี้…”

ไซเรนอาวุโสกรีดร้องอย่างเกรี้ยวโกรธขณะที่เปลวไฟกลืนกินเธอ ไม่นานหลังจากนั้นร่างกายที่เผาไหม้ของเธอก็ดำเหมือนกับถ่าน


 


“นั่นไม่ใช่พลังระดับเทพเจ้าที่แท้จริง ดูเหมือนว่าวิธีการควบคุมขวดไซเรนจะเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง เลือดของไป๋อี้และหลันไห่ซินจะต้องรวมกันเพื่อควบคุมขวดไซเรน” หานเซิ่นนำมีดเขี้ยวผีสิงออกมาและเดินเข้าไปตัดหัวของไซเรนอาวุโสที่กำลังจะตาย


 


“ซีโน่เจเนอิคไซเรนระดับราชันกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”


 


หลังจากที่หานเซิ่นฆ่าไซเรนอาวุโส ไฟก็ยังคงเผาไหม้ร่างของไซเรนอาวุโสจนกลายเป็นเถ้าถ่าน  อัญมณีสีฟ้าปรากฏอยู่ท่ามกลางเถ้าถ่านสีเทา ซึ่งมันจะต้องเป็นยีนซีโน่เจเนอิคของเธอ


 


“ไม่ได้รับวิญญาณอสูร!” หานเซิ่นถอนหายใจและหยิบอัญมณีขึ้นมาไว้ในฝ่ามือ


 


หานเซิ่นเก็บอัญมณีสีฟ้าเข้ากระเป๋าเสื้อและเดินเข้าไปหาแท่นบูชา


 


ปัง!


 


หานเซิ่นพยายามจะเดินเข้าไปหาแท่นบูชา แต่สายรุ้งนั้นหยุดเขาเอาไว้


 


หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาจำลองกระแสพลังของไซเรนอาวุโส แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่สามารถขึ้นไปบนแท่นบูชาได้


 


หลันไห่ซินกัดริมฝีปากและพูด “ดูเหมือนว่าความพยายามของเจ้าจะสูญเปล่า ไม่ว่ายังไงเจ้าก็เอาขวดศักดิ์สิทธิ์ไปไม่ได้”


 


หลังจากนั้นหลันไห่ซินก็มองไปที่ขวดไซเรนอยู่สักพักก่อนที่จะพูดขึ้นมา

“มันคือท่านใช่ไม่หรือไม่? โฮลี่เวอร์จิ้นคนสุดท้ายของไซเรน แม่ของไป๋อี้?”


 


“เจ้าเป็นเด็กฉลาด” เสียงของผู้หญิงดังออกมาจากขวดไซเรน สายรุ้งในขวดดูชัดเจนขึ้นมาและเปลี่ยนเป็นหญิงเผ่าไซเรนผู้งดงามที่อยู่ที่ประตูทางเข้า


 


เธอมีหูและเกล็ดสีขาว ผิวของเธอดูเหมือนกับหยกและมันก็ดูเรียบเนียนยิ่งกว่ากายหยกของหานเซิ่น


 


เธอมีเส้นผมดำที่ยาวลงมาจนถึงเอว ดวงตาของเธอดูเหมือนกับหินออบซีเดียน ใบหน้าของเธอดูมีเสน่ห์อย่างมาก เธอมีรอยยิ้มอ่อนๆที่อบอุ่น


 


“โฮ… โฮลี่เวอร์จิ้น…” หลันไห่ซินจ้องผู้หญิงข้างๆขวดไซเรนด้วยความตกใจ เธอไม่สามารถสงบสติตัวเองได้

 

 

 


ตอนที่ 2377

 

“ท่าน… ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่ได้? ข้าคิดว่าท่าน…”

หลันไห่ซินไม่สามารถประกอบประโยคที่ต้องการจะพูดขึ้นได้ สถานการณ์ในตอนนี้มันความคาดหมายจนจิตใจของเธอปรับตัวไม่ทัน


 


ผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจและพูด “ในระหว่างการวิวัฒนาการมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นและน้องยวิ๋นพยายามจะฆ่าข้า นางทำให้ข้าไม่มีทางเลือกและต้องใส่ตัวเองเข้าไปในขวดไซเรนเพื่อเอาชีวิตรอด”


 


ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้ว น้องยวิ๋นที่เธอพูดถึงก็คือไซเรนอาวุโสอย่างไม่ต้องสงสัย ดูเหมือนว่าจริงๆแล้วเธอไม่ได้รับความเชื่อใจจากแม่ของไป๋อี้ แผนการที่เธอวางเอาไว้จริงๆแล้วก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของแผนการที่ใหญ่กว่าของแม่ไป๋อี้ ถึงแม้เธอจะวิวัฒนาการไม่สำเร็จ แต่จริงๆแล้วเธอเป็นฝ่ายชนะ


 


หลังจากนั้นเธอก็มองมาที่หานเซิ่น เธอยังคงมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนขณะที่พูด

“ลูกชายของข้า ข้าดีใจที่ได้เห็นเจ้าที่นี่”


 


“ท่านคงจะได้ยินสิ่งที่ไซเรนอาวุโสพูดแล้ว ข้าไม่ใช่ไป๋อี้ลูกชายของท่าน” หานเซิ่นพูดออกไปตรงๆ


 


ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า “ข้ารู้ ยังไงซะไป๋อี้ก็ไม่ใช่ลูกชายของข้า”


 


เมื่อเธอพูดอย่างนั้น หลันไห่ซินก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง แม้แต่หานเซิ่นเองก็ยังประหลาดใจ


 


เธอเริ่มอธิบาย “ข้าคือไซเรนเวอร์จิ้น ข้าต้องรักษาพรหมจรรย์ของข้าเอาไว้ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากแต่งงานกับทางเอ็กซ์ตรีมคิง แต่ข้าทำข้อตกลงกับราชาไป๋ ข้าถูกรู้จักในฐานะสนมของเขา แต่เรื่องมีลูกนั้นจะถูกทำโดยไซเรนอีกคนที่ข้าเก็บเอาไว้ใกล้ตัว”


 


“อย่าบอกนะว่าคนๆนั้นก็คือไซเรนอาวุโสน่ะ?” หานเซิ่นพูดอย่างตกใจ


 


เธอพูดกับหานเซิ่นด้วยเสียงอ่อนๆ “ใช่ มันคือน้องยวิ๋นจริงๆ นางหลับนอนร่วมกับราชาไป๋เพียงแค่ครั้งเดียว จริงๆแล้วนางไม่รู้เกี่ยวกับข้อตกลงของข้ากับราชาไป๋ และนางก็ไม่เคยรู้สึกตัวว่าข้ายังคงเป็นสาวพรหมจรรย์”


 


หานเซิ่นยักไหล่และพูด “ไป๋อี้คือลูกชายของนาง?”


 


“เด็กน้อย ข้าชอบเจ้ามากจริงๆ” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้กับหานเซิ่น แต่เธอไม่ตอบคำถามของเขา


 


หานเซิ่นสันนิษฐานว่าการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง ไซเรนอาวุโสบอกว่าลูกชายของเธอตายเพื่อผู้หญิงคนนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีลูกจริงๆ ไป๋อี้มีเลือดของราชาไป๋และไซเรน ความเป็นไปได้เดียวก็คือไป๋อี้เป็นลูกชายของไซเรนอาวุโส แต่ผู้หญิงคนนี้ต้องใช้กลลวงอะไรบางอย่างเพื่อชิงลูกของไซเรนอาวุโสไปเป็นลูกชายของตัวเอง และไซเรนอาวุโสก็ดูเหมือนจะไม่รู้ถึงเรื่องนั้น เธอเชื่อมาตลอดว่าลูกชายของเธอตายไปแล้ว


 


“เป็นผู้หญิงที่น่ากลัวจริงๆ ไซเรนอาวุโสไม่เคยเอะใจว่าไป๋อี้คือลูกของนาง โชคดีที่นางไม่ได้รู้ความจริง ไม่อย่างนั้นนางก็คงจะทำทุกอย่างเพื่อไป๋อี้ แบบนั้นนางก็คงจะเปิดเผยตัวตนของเรากับราชาไป๋” หานเซิ่นมองไปที่รอยยิ้มของผู้หญิงคนนั้นและรู้สึกโล่งใจขึ้นมา


 


“เด็กน้อย เจ้ากับข้ามาทำข้อตกลงกันเป็นยังไง?” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้กับหานเซิ่น


 


“ข้อตกลงแบบไหน?” หานเซิ่นถาม


 


“เจ้ารู้ถึงสถานการณ์ของข้า ร่างกายของข้าถูกทำลายและข้าใช้ชีวิตอยู่ในขวดไซเรน ถ้าข้าหาร่างกายไม่ได้ ข้าก็จะเลือนหายไป เจ้าปลอมตัวเป็นไป๋อี้ ถึงเขาจะไม่ใช่ลูกชายของข้า แต่เขาก็เป็นลูกของราชาไป๋ ข้าคิดว่าเจ้าคงจะรู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าราชาไป๋รู้ว่าเจ้าฆ่าไป๋อี้?”


 


“ข้าจะช่วยเหลือเจ้าในเรื่องนั้น และข้ายังจะช่วยให้เจ้าใช้พลังของขวดไซเรนได้ แต่เจ้าต้องหาร่างกายให้กับข้า เจ้าคิดว่ายังไง?”


 


“นั่นฟังดูไม่เลวเลย ข้าตกลง” หานเซิ่นพูด


 


ผู้หญิงคนนั้นดูประหลาดใจ เธอไม่ได้คาดคิดว่าหานเซิ่นจะตอบตกลงเร็วขนาดนี้ เธอยิ้มให้กับเขา “เด็กน้อย ข้าชอบเจ้ามากจริงๆ”


 


“ข้าช่วยเหลือท่านได้ แต่ข้ามีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง” หานเซิ่นพูด


 


“พูดออกมา” ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า


 


“ท่านจะเรียกข้าด้วยชื่อ หรือท่านจะพูดแค่ ‘เฮ้’ หรือ ‘โย่’ อะไรทำนองนั้นก็ได้ แต่อย่าเรียกข้าว่าเด็กน้อย” หานเซิ่นพูดอย่างจริงจัง


 


ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้กับหานเซิ่นและพูด “ก็ได้ ข้าเข้าใจ”


 


“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ” หานเซิ่นพูดขณะที่พยักหน้าให้กับเธอ


 


“เมื่อไหร่ก็ตามเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เคาะข้างซ้ายของขวดไซเรน”

ผู้หญิงคนนั้นสบตากับหานเซิ่น หลังจากนั้นขวดไซเรนก็หยุดเรืองแสงไป แสงสีรุ้งถูกดูดกลับเข้าไปในขวดไซเรนพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น ขวดไซเรนลอยขึ้นจากแท่นบูชาและบินเข้ามาอยู่ในมือของหานเซิ่น


 


แสงที่ส่องสว่างออกมานั้นหายไปแล้ว และในตอนนี้ขวดไซเรนก็ดูเหมือนกับขวดคริสตัลธรรมดาทั่วๆไป


 


หานเซิ่นมองขวดไซเรนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเก็บมันไป


 


ผู้หญิงคนนั้นแข็งแกร่ง ถึงแม้เธอจะไม่มีร่างกายและต้องใช้ขวดไซเรนเป็นที่อยู่ แต่มันก็มีโอกาสสูงที่แม้แต่นกแดงน้อยจะไม่สามารถต่อกรกับเธอได้


 


พวกเขาตกลงที่จะร่วมมือกัน เพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเขาต้องต่อสู้กัน ถ้ามันมีบางสิ่งเกิดขึ้นที่ทำให้พวกเขาต้องขัดแย้งกัน สถานการณ์ก็อาจจะเลวร้ายสำหรับหานเซิ่น


 


ผู้หญิงคนนั้นหลอกใช้ไซเรนอาวุโสให้พาไซเรนที่เหลือรอดมาที่นี่เพื่อถูกฆ่าตาย มันเห็นได้ชัดว่าเธอจำเป็นต้องใช้เลือดของเหล่าไซเรน และแผนการของเธอก็คงจะรวมถึงการฆ่าไป๋อี้และหลันไห่ซินด้วยเช่นกัน


 


แต่เพราะหานเซิ่นอยู่ที่นี่ เขาได้ทำลายแผนการของเธอ เธอคงจะไม่มั่นใจเกี่ยวกับศักยภาพที่แท้จริงของหานเซิ่น ด้วยเหตุนั้นเธอจึงเลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับเขาแทน


 


แต่เธอไม่สามารถเชื่อใจได้ หานเซิ่นรู้ถึงเรื่องนั้นดี แต่สำหรับตอนนี้การร่วมมือกับเธอเป็นเรื่องดีสำหรับหานเซิ่น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไม่เปิดโปงเธอ


 


พวกเขามีผลประโยชน์ที่จะได้รับ และพวกเขาก็จำเป็นต้องพึ่งกันและกัน ดังนั้นพวกเขาจึงร่วมมือกันได้โดยไม่ต้องเจรจาอะไรมาก


 


หลันไห่ซินดูตกตะลึง เธอฟังการสนทนาทั้งหมดของหานเซิ่นกับผู้หญิงคนนั้น แต่เธอก็ยังไม่เชื่อเรื่องทั้งหมดที่เพิ่งจะเกิดขึ้น


 


“เจ้ากำลังจะทำอะไร?”

หานเซิ่นเดินเข้ามาและสีหน้าของหลันไห่ซินก็ซีดไป เธอรู้ตัวว่าตัวเองนั้นอ่อนแอและไม่สามารถหนีไปได้


 


หานเซิ่นมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ และถึงเขาจะอยู่ตัวคนเดียว เธอก็ไม่สามารถต่อสู้กับเขาได้อยู่ดี


 


“ข้ากำลังจะพาภรรยาของข้ากลับบ้าน ข้าจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีก” หานเซิ่นจับแขนของหลันไห่ซินและยิ้ม


 


“อย่าเชียวนะ! เจ้าฆ่าคนของข้า ข้าจะไม่อยู่ร่วมกับเจ้า”

หลันไห่ซินพยายามจะสลัดแขนจากมือของเขา แต่เธอไม่สามารถทำได้ หานเซิ่นเริ่มจะลากตัวเธอออกไปจากปราสาทคริสติล


 


“ความตายของพวกเขาเป็นผลลัพธ์จากความโง่เขลาของเจ้า ถึงแม้ข้าจะไม่ฆ่าพวกเขา ไซเรนอาวุโสก็จะฆ่าทุกคนอยู่ดี” หานเซิ่นพูดด้วยเสียงที่ไม่อคติ


 


หลันไห่ซินอ้าปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอพูดไม่ออก เธอดูหมดหวัง


 


“ถ้าเจ้าคิดที่จะฆ่าตัวตาย ข้าจะไม่ห้ามเจ้า แต่ลองคิดดูดีๆ เจ้าเป็นไซเรนเลือดบริสุทธิ์คนสุดท้าย เจ้าคือความหวังสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ ถ้าเจ้าตายไปตอนนี้ มันก็จะเป็นจุดจบของเผ่าไซเรน” หานเซิ่นพูด


 


หลันไห่ซินพยายามที่จะสงบสติ และเธอไม่ได้พูดอะไรอีก

 

 

 


ตอนที่ 2378

 

ถ้าสามัญชนคนหนึ่งตาย มันจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าองค์หญิงตายไป ราชาไป๋และคนอื่นๆจะตรวจสอบเหตุการณ์อย่างจริงจัง ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงต้องจับตาดูหลันไห่ซินเอาไว้


 


โชคดีที่มีเป่าเอ๋ออยู่เคียงข้างเธอ เขาไม่ต้องกังวลว่าเธอจะทำเรื่องยุ่งอะไรให้กับเขา


 


“น้องสิบหก เจ้าตัดสินใจได้หรือยัง?” ภาพของไป๋หลิงซวงปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ของหานเซิ่น


 


“พวกเราค่อยพูดเรื่องนี้กันทีหลัง ข้ายังไม่มั่นใจว่าจะไปถึงยอดภูเขากระดูกเน่าได้ ถ้าข้าทำข้อตกลงนี้และล้มเหลวในภายหลัง ข้าก็จะทำให้เจ้าต้องผิดหวัง” หานเซิ่นพูด


 


“นั่นไม่เป็นไร ตราบใดที่เจ้าพยายามอย่างเต็มความสามารถ ข้าจะไม่โทษเจ้า ถึงแม้เจ้าจะล้มเหลว และข้าก็ยังจะให้รางวัลกับเจ้าตามที่ตกลงกัน” ไป๋หลิงซวงพูด


 


“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะให้สัญญาในเรื่องนั้น?” หานเซิ่นดูลังเล


 


“น้องสิบหก บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการอะไร ข้าไม่ใช่คนที่ใจแคบ ถ้าเจ้าต้องการเชอร์ พี่สาวคนนี้ก็ยินดีจะมอบนางให้กับเจ้า” ไป๋หลิงซวงยิ้ม


 


“เจ้าจะมอบเชอร์ให้กับข้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพูดอย่างมีความหวัง


 


ไป๋หลิงซวงยิ้ม “น้องสิบหก เผ่าจิ้งจอกนั้นเชื่อใจไม่ได้ เจ้าต้องการให้นางเป็นองครักษ์ของเจ้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?”


 


“พี่สิบไม่ต้องการจะปล่อยตัวนางไปอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นดูเศร้า


 


ไป๋หลิงซวงส่ายหัว “ผู้ชายมักจะต้านทานมนตร์เสน่ห์ของเผ่าจิ้งจอกไม่ได้ มันไม่ใช่ว่าข้าต้องการจะเก็บนางห่างจากเจ้า ข้าแค่กลัวว่าบางสิ่งที่เลวร้ายอาจจะเกิดขึ้นถ้าข้าไม่ทำแบบนั้น”


 


“ถ้าพี่สิบไม่ต้องการจะปล่อยตัวเชอร์ อย่างนั้นก็มอบยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันให้กับข้าหนึ่งร้อยยีน” หานเซิ่นดูคับข้องใจขณะที่พูดข้อเสนอนี้ขึ้นมา


 


แน่นอนว่าจริงๆแล้วหานเซิ่นไม่ต้องการเชอร์ เขาแค่ขอเธอเพื่อที่จะขอยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันเป็นอีกตัวเลือก


 


ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งร้อยยีนถือเป็นคำขอที่มากเกินไป ซึ่งแม้แต่ไป๋หลิงซวงเองก็รู้สึกได้ถึงการสูญเสียขนาดนั้น


 


แน่นอนว่าถ้าไป๋หลิงซวงเลือกที่จะมอบเชอร์ให้กับเขาแทน หานเซิ่นก็จะยอมรับเธอมา ถ้าเขาควบคุมเชอร์ได้ เขาก็จะใช้เธอต่อรองกับราชินีจิ้งจอก


 


ไป๋หลิงซวงขมวดคิ้ว ยีนซีโน่จเนอิคระดับราชันหนึ่งร้อยยีนเป็นอะไรที่มากเกินไป แม้แต่คนที่ร่ำรวยอย่างเธอก็ไม่สามารถยอมรับข้อเสนอแบบนั้นได้


 


เธอเงียบไปสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็มองกลับมาที่หานเซิ่นและพูด

“เอาแบบนี้เป็นยังไง? ข้าจะมอบยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 50 ยีนให้กับเจ้า และถ้าเจ้าช่วยข้าไปถึงยอดภูเขากระดูกเน่าได้ ข้าจะมอบให้เจ้าอีก 50 ถ้าเจ้าไปถึงยอดภูเขาไม่ได้ เจ้าก็เก็บ 50 ยีนแรกเอาไว้เพื่อเป็นค่าเหนื่อย เจ้าคิดว่ายังไง?”


 


“แน่นอน” หานเซิ่นยอมรับข้อเสนอในทันที เพราะแค่ได้รับยีนระดับราชัน 50 ยีนก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเขาแล้ว


 


“เจ้าจะมาเอาที่เมืองไนท์ชาร์มด้วยตัวเอง หรือเจ้าต้องการให้ข้าส่งคนไปมอบมันให้กับเจ้า?” ไป๋หลิงซวงถาม


 


“ข้าจะไปที่เมืองไนท์ชาร์ม ข้าคิดถึงเชอร์ พี่สิบคงจะไม่ใจแคบถึงขนาดที่ไม่ปล่อยให้เชอร์ใช้เวลาคืนนี้ร่วมกับข้าหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นถามอย่างละโมบ


 


ไป๋หลิงซวงไม่ชอบความโลภมากของหานเซิ่น แต่เธอก็ยังตอบตกลง


 


เป่าเอ๋อและนกแดงน้อยอยู่เฝ้าเมืองใต้น้ำ ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่กลัวว่ามันจะมีเรื่องไม่ดีอะไรเกิดขึ้นกับหลันไห่ซินและลิลลี่


 


ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น หานเซิ่นค้างคืนร่วมกับเชอร์ แต่แทนที่จะทำในสิ่งที่ไป๋หลิงซวงคิด พวกเขาแค่นอนบนเตียงและแบ่งปันข้อมูลกันเท่านั้น


 


หานเซิ่นนำยีนซีโน่เจเนเอิคระดับราชันติดตัวกลับไป แต่เขายังไม่คิดที่จะใช้มัน ในตอนที่เขาเลื่อนสู่ระดับราชัน ยีนระดับดยุกจะไร้ประโยชน์สำหรับเขา ดังนั้นการใช้ยีนระดับราชันในตอนนี้จึงเป็นอะไรที่เสียเปล่า


 


หานเซิ่นนำยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันไปเก็บในโกดังและเดินทางไปที่สวนกษัตริย์ ที่นั่นเขาดูดซับลมปราณกษัตริย์จำนวนมากเข้าไปเพื่อเพิ่มยีนระดับดยุกของเขา


 


ตอนนี้ไป๋อี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในคนของราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุด ความจริงที่ว่าหานเซิ่นไม่ถูกคนของราชวงศ์คนอื่นยั่วยุเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเขา และการจะหามังกรกษัตริย์รากแก้วสักตัวก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป


 


เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้รับยีนระดับดยุกจำนวนมากในเวลาอันสั้น เขาปลดล็อคยีนล็อคทั้ง 3 ของวิชาจีโนทั้ง 4 ตัว และเขาก็ยังคงเหลือเวลาก่อนที่จะถึงการสอบใหญ่


 


พลังธาตุของกายหยกนั้นสามารถเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายและมอบพลังน้ำแข็งปิดผนึก เลือดกลายพันธุ์มีธาตุโลหิตและพลังทางพันธุกรรม ส่วนวิชาโลหิตชีพจรนั้นแตกต่างออกมาเล็กน้อยตรงที่มันมีธาตุอวกาศและกาลเวลา สำหรับศาสตร์ตงเสวียนนั้นหานเซิ่นไม่รู้ว่ามันอยู่ในหมวดไหนกันแน่


 


พลังธาตุของเรื่องราวของยีนคืออีเทอร์นิตี้ มันสามารถแช่แข็งสิ่งต่างๆได้ ยิ่งหานเซิ่นสามารถควบคุมธาตุต่างๆได้มากเท่าไหร่ พลังของอีเทอร์นิตี้ก็สามารถประยุกต์ใช้ได้มากขึ้น ถ้าเขาสามารถใช้มันได้เป็นอย่างดี มันก็เป็นอาวุธที่ทรงพลังสำหรับเขา


 


หลังจากที่เรื่องราวของยีนปลดล็อคยีนขั้นที่ 3 หานเซิ่นก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตอนที่เขาใช้เรื่องราวของยีน การเชื่อมต่อระหว่างเขากับชุดเกราะคริสตัลสีดำถูกสร้างขึ้นมา ถึงแม้การเชื่อมต่อนั้นจะอ่อน แต่หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงพลังชีวิตและจิตวิญญาณของชุดเกราะคริสตัลสีดำ


 


“ชุดเกราะคริสตัลสีดำนี้เป็นสิ่งมีชีวิตอย่างนั้นหรอ? หรือว่ามันมีบางสิ่งอยู่ภายในชุดเกราะคริสตัลสีดำ?” หานเซิ่นไม่เข้าใจ


 


แต่การเชื่อมต่อนั้นอ่อนมากๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาสัมผัสถึงมันได้ การเชื่อมต่อก็ดูเบลอๆราวกับว่ามันสัญญาณไม่ดี


 


‘หลังจากที่มนตราเลื่อนสู่ระดับราชัน เราควรพยายามเรียนรู้เกี่ยวกับชุดเกราะคริสตีลสีดำเพิ่ม บางทีเราอาจจะหาได้ว่ามันคืออะไร’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง


 


สวนของกษัตริย์สงบสุขมากๆ คนของราชวงศ์ต่างก็เตรียมตัวสำหรับการสอบประจำปี ไม่มีใครอยากจะสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นก่อนที่การสอบจะเสร็จสิ้น


 


หานเซิ่นเดินทางออกจากสวนของกษัตริย์และกลับไปที่เมืองใต้น้ำ หลังจากที่เขาออกจากเมืองกษัตริย์ เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานประหลาดในยานอวกาศ มันมาจากด้านหลังของเขา


 


หานเซิ่นหันกลับไปและเห็นราชินีจิ้งจอกนั่งอยู่ด้านหลัง


 


“ทำไมพี่สาวถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” หานเซิ่นหันกลับไปขับยานอวกาศต่อ


 


ราชินีจิ้งจอกยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและยิ้มออกมา “ข้ามาที่นี่เพราะหอคอยแห่งโชคชะตา”


 


“พี่สาวแสนดีของข้า ในตอนนี้ผู้คนมากมายกำลังสงสัยในตัวข้า แค่ข้าจะปกป้องตัวเองก็เป็นเรื่องยากมากพอแล้ว พี่สาวยังต้องการให้ข้าทำอะไรอีก?” หานเซิ่นพูด


 


“โอกาสมาอยู่ตรงหน้าของเจ้าแล้ว และมันก็ไม่ได้มีความเสี่ยงอะไรอีกด้วย ถ้าเจ้าติดอันดับ 1 ใน 3 ของการสอบที่จะมาถึง เจ้าจะได้รับสิทธิ์ให้เข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา” ราชินีจิ้งจอกพูด


 


“ข้าจะได้เข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตาถ้าข้าติดอันดับ 1 ใน 3 อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นแปลกใจ ถ้าเขามีโอกาส เขาก็อยากจะเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา


 


“ใช่ แต่เจ้าจำเป็นต้องติด 1 ใน 3” ราชินีจิ้งจอกพยักหน้า


 


“แต่มันมีคนของราชวงศ์ที่เป็นระดับเทพเจ้าร่วมการสอบด้วยถึง 2 คน และมันยังมีคนที่เป็นระดับครึ่งเทพอยู่อีกหลายคน มันมีผู้เข้าร่วมการสอบมากเกินกว่าที่ข้าจะติด 1 ใน 3 ได้” หานเซิ่นส่ายหัวของเขา


 


ราชินีจิ้งจอกยิ้ม “เจ้าต้องติด 1 ใน 3 ไม่อย่างนั้นข้าจะบอกทุกคนว่าเจ้าเป็นคนฆ่าไป๋อี้”


 


“ทำไมพี่สาวถึงได้เรียกร้องในสิ่งที่ข้าทำไม่ได้? พี่สาวช่วยกำหนดเงื่อนไขที่พอเป็นไปได้หน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นไม่ได้ยินคำตอบกลับของราชินีจิ้งจอก เมื่อเขาหันกลับไปด้านหลัง เธอก็หายตัวไปแล้ว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)