Super God Gene 2355-2358
ตอนที่ 2355 โลงศพปีศาจ
หานเซิ่นพุ่งเข้าไปหาวิหคเก้าเศียร ขณะที่ความมืดแพร่กระจายออกมาจากวิหคเก้าเศียร หานเซิ่นสังเกตเห็นความมืดที่กำลังเข้ามาหาเขาและมันก็กักขังร่างกายของเขาในเวลาไม่ถึงวินาที
ปัง!
หานเซิ่นชกใส่ความมืดที่กักขังเขาเอาไว้ แต่มันเหมือนกับว่าเขาชกใส่แผ่นเหล็ก แรงจากการปะทะทำให้มือของเขารู้สึกชา ขณะที่กำแพงดำมืดรอบตัวเขาไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
ความมืดนั้นดูเหมือนจะแข็งตัวเป็นกำแพงที่อยู่รอบๆตัวหานเซิ่น มันเหมือนกับว่าเขาถูกขังเอาไว้ภายในกล่องเล็กๆ
หานเซิ่นชกใส่กำแพงสีดำรอบตัวซ้ำๆ ขณะที่คิงอีซของเขายังคงส่องสว่างออกมา แต่ถึงอย่างนั้นกำแพงสีดำก็ไม่แตกสลาย สัญลักษณ์ปีศาจเริ่มปรากฏบนผิวกำแพง
“ท้องฟ้าด้านบนมีนก 9 หัว และนรกด้านล่างมีโลงศพปีศาจ ไม่ว่าคิงอีซในร่างกายของเจ้าจะทรงพลังสักแค่ไหน เจ้าก็หนีไปจากโลงศพปีศาจของข้าไม่ได้” เสียงของวิหคเก้าเศียรดังในหูของหานเซิ่น
หานเซิ่นตรวจดูสัญลักษณ์ปีศาจบนกำแพงหิน หนึ่งในพวกมันดูคล้ายคลึงกับหัวของนก มันหันมาและส่งเสียงร้องใส่เขา
ซิวซือและคนอื่นเห็นโลงศพสีดำห่อหุ้มร่างกายของหานเซิ่นเอาไว้ โลงศพนั้นดำสนิทจนดูน่าขนลุกและนก 9 หัวก็ยืนอยู่บนฝาของมัน แต่ละหัวของนกมองออกไปในทิศทางที่แตกต่างกัน มันปิดผนึกโลงศพเอาไว้ ลมปราณปีศาจหมุนวนรอบๆโลงศพ และไม่ว่าหานเซิ่นจะพยายามโจมตียังไง โลงศพปีศาจก็ไม่สะเทือนเลย
หานเซิ่นชกหมัดใส่ซ้ำๆ แต่เขาไม่สามารถทำลายโลงศพปีศาจได้
สัญลักษณ์ปีศาจปรากฏขึ้นภายในโลงศพและหัวของนกก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของนกประหลาดจ้องมาที่หานเซิ่นและหัวเราะ
“อย่ามัวเสียเวลาเลย โลงศพปีศาจของข้ากักขังได้แม้กระทั้งเทพและปีศาจ แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็พังโลกศพนี้ออกมาไม่ได้ เจ้าควรจะมอบแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินมาให้กับข้าซะตอนนี้ ไม่อย่างนั้นโลงศพปีศาจจะตกลงสู่นรกปีศาจ และแม้แต่ข้าก็จะช่วยอะไรเจ้าไม่ได้อีก”
หานเซิ่นเมินเฉยต่อคำพูดของวิหคเก้าเศียรและยังคงชกใส่โลงศพปีศาจต่อไป แต่มันไม่ได้ผล พลังของหานเซิ่นไร้ประโยชน์ต่อโลงศพปีศาจ โลงศพมีพลังในการดูดซับการโจมตี ทำให้เขาไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆกับโลงศพปีศาจได้
หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงออกมา เขามองไปที่โลงศพปีศาจและเรียนรู้ว่าโลงศพปีศาจนั้นไม่ใช่สิ่งของที่มีรูปธรรมจริงๆ แต่มันเป็นการก่อตัวของพลังที่ออกมาจากนรกปีศาจอย่างต่อเนื่อง มันเชื่อมต่อกับนรกและโลกปีศาจ นอกจากนั้นตอนนี้โลงศพก็ค่อยๆร่วงลงไปสู่นรกปีศาจอันมืดมิด
ดวงตาของนกเก้าหัวปลดปล่อยแสงปีศาจออกมา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการสร้างเส้นทางสำหรับโลงศพปีศาจ
โลงศพปีศาจค่อยๆจมลงไปในความมืดมิด อย่างที่วิหคเก้าเศียรพูดเอาไว้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถหนีไปได้ เมื่อพวกเขาตกลงไปสู่นรกอันมืดมิดนั้น
“องค์ชายสิบหก เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ และเจ้าก็ยังได้รับการคุ้มครองจากคิงอีซ เจ้าจะประสบความสำเร็จมากมาย แบบนั้นทำไมเจ้าถึงจะทิ้งชีวิตของตัวเองเพื่อแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจิน? เจ้าจะมีชีวิตที่ดีและห้อมล้อมไปด้วยผู้หญิงที่งดงามมากมาย เจ้าจะได้ครองบัลลังก์ของเอ็กซ์ตรีมคิง การมาตายอยู่ที่นี่เป็นอะไรที่ไม่คุ้ม” หัวนกพูดด้วยเสียงล่อใจ มันโผล่ออกมาจากกำแพงของโลงศพอีกครั้ง
หานเซิ่นรู้สึกว่ามันน่ารำคาญ ดังนั้นเขาจึงชกใส่มัน และพลังของหานเซิ่นก็ถูกดูดซับไปโดยกำแพง
หานเซิ่นพยายามครุ่นคิด ‘โลงศพนี่ประหลาดมันประหลาด พลังธรรมดาคงจะทำลายมันไม่ได้ คิงอีซนั้นทรงพลังก็จริง แต่พวกมันยังคงรวมกับเนื้อหนังของเรา ซึ่งหมายความว่าเราควบคุมพวกมันไม่ได้ การพึ่งพาพลังของคิงอีซเพื่อจะพังโลงศพปีศาจออกไปดูจะเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์’
“วิหคเก้าเศียร ถ้าข้าเข้าไปในนรกปีศาจ เจ้าก็จะสูญเสียแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินไป และเจ้าก็จะกลายเป็นศัตรูของเอ็กซ์ตรีมคิง เจ้าแน่ใจจริงๆหรือว่าต้องการจะฆ่าข้า?” หานเซิ่นพูด
“คนอื่นอาจจะเกรงกลัวเอ็กซ์ตรีมคิง แต่พวกเราโจรสลัดไม่กลัว เจ้าควรจะมอบแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินให้กันข้าในตอนที่ยังมีโอกาสอยู่ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะถูกฝังในนรกปีศาจ” วิหคเก้าเศียรหัวเราะอย่างชั่วร้าย
หานเซิ่นพูดต่อ “นอกซะจากเผ่าเวรี่ไฮจะสนับสนุนพวกเจ้า ลำพังเผ่าโจรสลัดไม่มีทางจะกล้าเผชิญหน้ากับเอ็กซ์ตรีมคิง เจ้าควรจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีๆ ข้าแบกรับคิงอีซนับพันเอาไว้ ข้าเป็นอัจฉริยะเหนือกว่าใครที่เอ็กซ์ตรีมคิงเคยมีมา ท่านพ่อเอ็ดดูข้ามากๆ ถ้าเจ้าฝังข้าในนรกปีศาจ เจ้าคิดว่าท่านพ่อของข้าจะทำยังไง? เจ้าคิดว่าเผ่าเวรี่ไฮจะต่อสู้กับทั้งเอ็กซ์ตรีมคิงเพื่อเจ้า?”
วิหคเก้าเศียรเงียบไป หลังจากนั้นเขาก็เปล่งเสียงอย่างไม่พอใจ
“อย่าพูดจาไร้สาระ! มอบแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินมาให้กับข้า ถ้าเจ้ายังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่อย่างนั้นถึงแม้ราชาไป๋จะมาที่นี่ด้วยตัวเอง เจ้าก็ต้องตายในนรกปีศาจอยู่ดี”
“ข้าเป็นคนที่อารมณ์ร้าย ข้าจะตอบสนองต่อตำรวจที่ดีเท่านั้น การพยายามข่มขู่ข้าแบบนี้ ไม่มีทางทำให้ข้ายอมมอบแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจิน มันไม่สำคัญว่าสถานการณ์ของข้าจะคับขันสักแค่ไหน”
หานเซิ่นหยุดไปชั่วครู่ ก่อนที่จะพูดต่อ “แต่ถ้าเจ้ารับคำท้าของข้า ข้าจะยอมมอบแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินให้กับเจ้า ถ้าข้าแพ้”
วิหคเก้าเศียรขมวดคิ้วและถาม “คำท้าอะไร?”
“เจ้าใช้โลงศพปีศาจกักขังข้าเอาไว้แล้ว ดังนั้นมันไม่มีอะไรที่เจ้าต้องกลัว ข้าและข้ามายืนต่อหน้ากัน เจ้าชกใส่ข้าและข้าชกใส่เจ้า ใครก็ตามที่ขยับจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่เป็นฝ่ายแพ้ นั่นคือการต่อสู้อย่างลูกผู้ชาย ถ้าข้าแพ้ ข้าจะมอบแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินให้กับเจ้า” หานเซิ่นพูด
วิหคเก้าเศียรมองหานเซิ่นด้วยความดูถูกและพูด “เจ้ามีคิงอีซอยู่ในร่างกาย ซึ่งทำให้เจ้าแข็งแกร่งกว่าร่างกายระดับครึ่งเทพของข้า แบบนั้นทำไมข้าถึงต้องรับคำท้านี้ด้วย?”
“ข้าจะไม่ใช่พลังของคิงอีซ ถ้าข้าใช้พลังของคิงอีซ มันก็ถือว่าข้าเป็นฝ่ายแพ้” หานเซิ่นพูด
“เจ้าพูดจริงอย่างนั้นหรอ?” ดวงตาของวิหคเก้าเศียรเป็นประกาย เขาจ้องมองไปที่หานเซิ่นขณะที่พูด
“ข้าสาบานในนามของราชาไป๋ ถ้าข้าผิดคำสาบานก็ขอให้ราชาไป๋ตาย” หานเซิ่นพูด
เมื่อวิหคเก้าเศียรได้ยินหานเซิ่นใช้ชื่อราชาไป๋เพื่อทำการสาบาน เขาก็รู้สึกเชื่อหานเซิ่น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังหวาดระแวงอยู่
“ข้ายินดีจะรับคำท้านี้ แต่ข้าขอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ถ้าเจ้าขยับหรือใช้พลังของคิงอีซ เจ้าจะเป็นฝ่ายแพ้”
“แน่นอน” หานเซิ่นรีบตอบ
เมื่อได้ยินหานเซิ่นตอบกลับอย่างรวดเร็ว วิหคเก้าเศียรก็รู้สึกหวาดระแวงยิ่งกว่าเดิม หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ เขาก็พูดขึ้นมา
“พวกเราจะใช้แค่พลังของตัวเองเท่านั้น พวกเราจะไม่ใช้สมบัติซีโน่เจเนอิค”
ใบหน้าของหานเซิ่นซีดไปเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วและพูด “การใช้สมบัติซีโน่เจเนอิคเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอ?”
วิหคเก้าเศียรยิ้มกว้าง “การใช้สมบัติเป็นอะไรที่ต่ำช้า เจ้าบอกว่านี่เป็นการต่อสู้อย่างลูกผู้ชาย แต่เจ้ายืนกรานจะใช้สมบัติซีโน่เจเนอิคเนี่ยนะ?”
“เรื่องนั้น…” ใบหน้าของหานเซิ่นดูกังวล
“รีบตัดสินใจสักที โลงศพปีศาจกำลังจะตกลงสู่นรกปีศาจ ถ้าเจ้าไม่รีบตัดสินใจตอนนี้ เจ้าก็จะไม่มีโอกาสอีก” วิหคเก้าเศียรพูด
“เอางั้นก็ได้ แต่ข้าขอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” หานเซิ่นกัดฟันพูด
“ไม่ได้ ข้าจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” วิหคเก้าเศียรตอบกลับในทันที
ใบหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร ลมปราณปีศาจที่น่ากลัวเริ่มแทรกซึมเข้ามาในโลงศพปีศาจ โลงศพถูกรัดด้วยพลังปีศาจที่เหมือนกับหนวด ซึ่งมันกำลังคืบคลานเข้ามาเพื่อดึงหานเซิ่นลงสู่นรกปีศาจ
“ก็ได้ เอาเป็นว่าข้าตกลง!” หานเซิ่นตะโกนขึ้นมา เมื่อเห็นหนวดปีศาจยื่นออกมาเพื่อจะดึงเขาลงไป
“ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลง” วิหคเก้าเศียรหัวเราะ หลังจากนั้นโลงศพปีศาจก็เปิดและปล่อยหานเซิ่นออกมา
โลงศพปีศาจถูกกลืนกินด้วยความมืด ขณะที่หนวดสีดำพันรอบโลงศพและดึงมันลงไปในความมืดมิด
ตอนที่ 2356
หานเซิ่นลอยตัวลงมาจนกระทั่งเท้าของเขาสัมผัสกับผิวน้ำ เขาไม่มีแผนที่จะหนีไป เขามองไปที่วิหคเก้าเศียรและพูด
“ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ เจ้าจะใช้พลังอะไรก็ได้ ถ้าเท้าของข้าทำให้น้ำกระเพื่อมแม้แต่น้อยล่ะก็ ข้าจะเป็นฝ่ายแพ้”
เมื่อวิหคเก้าเศียรได้ยินคำกล่าวของหานเซิ่น เขาก็ลอยตัวลงมาบนผิวน้ำทะเลเช่นเดียวกัน รูปร่างของเขากลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง เขายิ้มและพูด
“สมแล้วที่เป็นองค์ชายของเอ็กซ์ตรีมคิง เจ้าซื่อตรงต่อคำพูดของตัวเอง”
“ข้าไม่รู้ว่าพวกโจรสลัดนั้นซื่อตรงต่อคำพูดของตัวเองหรือไม่ แต่พวกเราเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นไม่ผิดคำพูดของตัวเอง” หานเซิ่นพูด
วิหคเก้าเศียรยิ้มและพูด “เจ้าไม่จำเป็นต้องยั่วยุข้า ถ้าเจ้าทำตามข้อตกลง ข้าเองก็จะไม่ผิดคำพูดเช่นเดียวกัน”
“ดี เชิญเจ้าลงมือก่อน” หานเซิ่นยืนบนผิวทะเลอย่างไร้ความเคลื่อนไหว
“แน่นอน ข้าจะลงมือก่อน” วิหคเก้าเศียรพูด แต่เขายังคงจ้องมองหานเซิ่นโดยยังไม่ทำการโจมตี
วิหคเก้าเศียรมั่นใจว่าเขาสามารถเอาชนะหานเซิ่นได้ ตราบใดที่คิงอีซไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง การทำให้หานเซิ่นขยับที่นั้นเป็นเรื่องง่าย
แต่หานเซิ่นเป็นองค์ชายของเอ็กซ์ตรีมคิง ดังนั้นวิหคเก้าเศียรจึงรู้ดีว่าเขาไม่ควรจะโจมตีไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เขาพยายามคิดหาหนทางที่ดีที่สุด
“อะไร? เจ้ายังไม่โจมตีอีกอย่างนั้นหรอ อย่าบอกนะว่าสิ่งมีชีวิตระดับครึ่งเทพหวาดกลัว?” หานเซิ่นหัวเราะ
วิหาเก้าเศียรเบะปากด้วยความเย้ยหยัน “ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือยังไงว่าการพยายามยั่วยุข้ามันไม่ได้ผล?”
หลังจากนั้นวิหคเก้าเศียรก็มองไปที่หานเซิ่นและคิดกับตัวเอง ‘ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ของเขาจะไม่ถูกทำลาย ถึงเราจะทำลายร่างกายท่อนบนของเขาจนเละ ขาของเขาก็อาจจะยังไม่ขยับเขยื้อน ไม่ว่าการโจมตีของเราจะรุนแรงสักแค่ไหน มันก็ไม่ได้รับประกันว่าเราขยับเท้าของเขาได้’
เมื่อคิดได้แบบนั้นวิหคเก้าเศียรก็ได้ไอเดียอย่างหนึ่ง เขาเตรียมตัวที่จะโจมตี
“เดี๋ยวก่อน” จู่ๆหานเซิ่นก็ยกมือขึ้นเพื่อหยุดอีกฝ่ายเอาไว้
“อะไร? เจ้ากำลังเสียใจกับข้อตกลงของพวกเราอย่างนั้นหรอ?” วิหคเก้าเศียรจ้องไปที่หานเซิ่น
หานเซิ่นหัวเราะ “ข้าไม่มีอะไรต้องเสียใจ แต่ก่อนที่เจ้าจะลงมือ พวกเราควรพูดถึงข้อตกลงของพวกเรา”
“ตอนนี้เจ้าพยายามจะเล่นลูกไม้อะไรอีก? พวกเราได้ทำข้อตกลงกันแล้ว เจ้าจะมอบแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินให้กับข้า ถ้าเจ้าแพ้ มันเป็นแค่ตกลงง่ายๆ” วิหคเก้าเศียรขมวดคิ้ว
“ข้าจะมอบแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินให้กับเจ้า ถ้าข้าแพ้ แต่ถ้าเจ้าเป็นฝ่ายแพ้ล่ะ? พวกเรายังไม่ได้พูดถึงข้อตกลงในกรณีนั้นเลย เจ้าอาจจะยังพยายามใช้กำลังเพื่อชิงแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินหลังจากที่เจ้าแพ้ก็ได้ ข้าในตอนนี้ไม่มีหลักประกันอะไร” หานเซิ่นพูด
“ถ้าข้าแพ้ ข้าจะไม่พยายามชิงแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินอีก ถึงแม้เจ้าจะโยนมันลงตรงหน้าข้า ข้าก็จะไม่เก็บมันขึ้นมา” วิหคเก้าเศียรพูด
“เยี่ยม ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มกันเลย” หานเซิ่นเปิดใช้ร่างแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ของเขา ทำให้ทั้งร่างของเขาโปร่งใส เขายืนอยู่บนทะเลราวกับว่าตัวของเขาเชื่อมต่อกับมัน
“เจ้ามีแผนที่จะใช้ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอทเอร์เพื่อเอาชนะอย่างนั้นหรอ นั่นเป็นตัวเลือกที่แย่”
วิหคเก้าเศียรยกมือขึ้นและลมปราณปีศาจสีดำก็มารวมตัวกันที่กำปั้นของเขา มันทำให้เกิดเป็นหลุมดำที่หมุนวนอย่างไม่หยุด
วิหคเก้าเศียรชกเข้าใส่หานเซิ่น ขณะที่มิติรอบๆหมัดของเขาสั่นสะเทือน พลังที่น่าสะพรึงของมันดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ
หานเซิ่นยังคงอยู่ห่างออกไปจากหลุมดำอยู่ระยะหนึ่ง แต่มันก็ดึงดูดร่างกายของเขาแล้ว ร่างน้ำของเขาสั่นไหวราวกับว่าน้ำที่ก่อเป็นร่างของเขาสามารถถูกดูดเข้าไปในหลุมดำได้ทุกเมื่อ
การโจมตีของวิหคเก้าเศียรไม่ได้จู่โจมร่างกายของหานเซิ่นโดยตรง แต่เขามีเจตนาที่จะทำลายสมดุลของหานเซิ่น แรงดูดของหลุมดำจะดึงหานเซิ่นจนกระทั่งร่างกายของเขาถูกดูดเข้าไปข้างใน
เนื่องจากวิหคเก้าเศียรมีพลังที่เหนือกว่า ร่างกายของหานเซิ่นควรจะถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ มันไม่มีทางที่เขาจะแพ้ได้
แต่หานเซิ่นดูแทบจะไม่ได้รู้สึกถึงแรงดูดของหลุมดำ เขายืนนิ่งอยู่กับผิวน้ำ
วิเหคเก้าเศียรขมวดคิ้ว การโจมตีของเขาเหนือกว่าการโจมตีไหนๆที่หานเซิ่นจะปล่อยออกมาได้ถ้าไม่พึ่งพลังของคิงอีซ หานเซิ่นควรจะถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ
แต่หานเซิ่นไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย และเขาก็ไม่ได้ใช้พลังของคิงอีซหรือสมบัติซีโน่เจเนอิคอะไรช่วยเช่นกัน วิหคเก้าเศียรได้แต่จ้องมองหานเซิ่นด้วยความสับสน
หานเซิ่นหัวเราะออกมา เขาเสนอการเดิมพันนี้ก็เพราะเขารู้ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายชนะ
วิหคเก้าเศียรไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติเกี่ยวกับหานเซิ่น แต่มันก็เป็นไปได้ที่หานเซิ่นจะใช้กลลวงอะไรบางอย่างที่เขาไม่อาจรู้ได้
ที่หานเซิ่นเสนอการเดิมพันนี้ก็เป็นเพราะเขามีวิญญาณอสูรมังกรปีกเงิน
วิญญาณอสูรซีโน่เจเนอิคมังกรปีกเงินระดับราชัน : อาณาเขต
หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันเป็นเฉพาะวิญญาณอสูรระดับราชันหรือเปล่าที่มีวิญญาณอสูรประเภทอาณาเขต แต่นั่นเป็นระดับเดียวที่เขาเคยได้รับวิญญาณอสูรประเภทอาณาเขตมา
มังกรปีกเงินสามารถปลดปล่อยอาณาเขตธาตุน้ำออกมา แต่มันแตกต่างไปจากของไป๋อี้ อาณาเขตน้ำนี้เรียกว่าอาณาเขตมังกร มังกรน้ำมีจิตวิญญาณของทะเล ดังนั้นถ้าหานเซิ่นใช้อาณาเขตมังกรในน้ำ เขาก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเล ร่างกายของเขาหลอมเข้ากับทะเลที่เขายืนอยู่
หานเซิ่นใช้พลังของอาณาเขตมังกรเพื่อทำให้ตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับทะเล ถึงแม้เขาจะยังไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างแม่นยำ แต่เขาก็จะไม่ขยับเขยื้อนไปไหน นอกซะจากว่าวิหคเก้าเศียรจะใช้พลังที่มากพอจะเคลื่อนทั้งทะเล
แท่งเหล็กแห่งหนึ่งอาจจะถูกเคลื่อนย้ายได้ง่ายๆ แต่ถ้ามันประสานเข้ากับยานบรรทุกสินค้า แรงมากสักแค่ไหนก็ไม่สามารถขยับมันได้
แน่นอนว่าลำพังแค่แท่งเหล็กไม่สามารถควบคุมยานบรรทุกสินค้าได้ แต่เพียงแค่คงความสมดุลเอาไว้ได้นั้นก็มากพอสำหรับหานเซิ่นแล้ว
วิเหคเก้าเศียรเพิ่มพลังของหลุมดำของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถทำให้หานเซิ่นขยับตัวได้ เขาเริ่มเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ซิวซือมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกตกใจเช่นกัน เธอไม่รู้เลยว่าหานเซิ่นสามารถทำแบบนั้นได้ยังไง
“วิหคเก้าเศียร เจ้าจะทำแบบนั้นไปได้อีกนานแค่ไหนกัน?” หานเซิ่นยิ้ม
วิหคเก้าเศียรเปล่งเสียงทางจมูกด้วยความไม่พอใจ เขาสลายหลุมดำและลดมือลง
“เชิญเจ้าลงมือ ถ้าเจ้าขยับเขยื้อนข้าได้ ข้าก็เป็นฝ่ายแพ้ แต่ถ้าข้าไม่ถูกขยับเขยื้อน ข้าจะโจมตีอีกครั้ง พวกเราจะผลัดกันโจมตีจนกว่าจะมีผู้ชนะ”
“ถ้าอย่างนั้นข้าเริ่มล่ะนะ” หานเซิ่นเรียกปีกมังกรของเขาออกมา เขากระพือปีกและบินหนีไป
ดวงตาของวิหคเก้าเศียรแทบจะหลุดออกจากเบ้า หานเซิ่นกำลังจะหายไปจากสายตาของเขา เขารีบเปลี่ยนร่างเป็นนกปีศาจเก้าหัวอีกครั้ง เขาบินตามหลังของหานเซิ่นและตะโกนด้วยความโกรธ
“องค์ชายของเอ็กซ์ตรีมคิงที่น่ารังเกลียด! นี่เจ้าจะทำให้พ่อของเจ้าต้องอับอายขายหน้าอย่างนั้นหรอ?!”
หานเซิ่นหยุดและหันหน้ากลับมายิ้มให้กับวิหคเก้าเศียร
“นี่มันบ้าอะไรกัน?” วิหคเก้าเศียรหยุดไป ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว เมื่อเขารู้สึกตัวว่าเพิ่งจะถูกหลอก
เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เพราะเขาไล่ตามหานเซิ่น เขาถูกหลอกด้วยกลลวงที่พื้นๆที่สุด
ตอนที่ 2357
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นแผนที่หานเซิ่นวางเอาไว้
เนื่องจากหานเซิ่นให้วิหคเก้าเศียรเป็นฝ่ายเริ่มก่อน วิหคเก้าเศียรจึงมีโอกาสชนะสูง แต่อาณาเขตมังกรของหานเซิ่นสามารถป้องกันการโจมตีแรกของวิหคเก้าเศียรเอาไว้ได้
“ตอนนี้ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?” หานเซิ่นยิ้มให้กับวิหคเก้าเศียร
“ไสหัวไปซะ! อย่าให้ข้าได้เห็นเจ้าอีกครั้ง”
ใบหน้าของวิหคเก้าเศียรบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขาหันกลับหลังและบินจากไปโดยไม่รอคอยคำตอบของหานเซิ่น
หานเซิ่นประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าวิหคเก้าเศียรจะรักษาคำพูด แต่มันก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
พลังของอาณาเขตมังกรเชื่อมต่อกับน้ำ ดังนั้นถ้าหานเซิ่นถูกขังในโลงศพปีศาจ เขาก็จะสูญเสียการเชื่อมต่อกับทะเลและถูกดึงลงไปสู่นรกปีศาจ
นอกจากหานเซิ่นจะใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด เขาก็ไม่มีทางเอาชนะวิหคเก้าเศียรได้
หานเซิ่นบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและมุ่งหน้ากลับไปที่อ่าวฮาล์ฟสตาร์ เขาไม่ได้เสียเวลาไปพูดอะไรกับซิวซือ
ถ้าคุณหญิงมิร์เรอร์ยังไม่จากไป เธอก็ควรจะอยู่ที่นั่น มันมียอดฝีมืออยู่มากเกินไปที่ต้องการจะชิงแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินไปจากเขา ดังนั้นการอยู่เคียงข้างคุณหญิงมิร์เรอร์จึงเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับหานเซิ่น
ถึงแม้หานเซิ่นจะสามารถหนีไปได้ แต่เป่าเอ๋อก็ยังอยู่ในดินแดนของเอ็กซ์ตรีมคิง ดังนั้นหานเซิ่นยังคงต้องกลับไปที่นั่น
หลังจากที่เขาบินไปได้ไม่กี่ร้อยเมตร เขาก็รู้สึกได้ถึงการปะทุของสายฟ้ารอบๆตัว ยักษ์ที่ลอยตัวอยู่บนก้อนเมฆปรากฏตัวออกมา มือของเขาตบลงมาทางหานเซิ่น
มือนั้นค่อยๆตบลงมาและอากาศรอบๆตัวของหานเซิ่นก็อัดแน่นจนกระทั่งมันหนาแน่นเหมือนกับกระดานเหล็ก หานเซิ่นไม่สามารถฉีกอากาศและขยับร่างกายได้
“ยอดฝีมือระดับเทพเจ้า!” หานเซิ่นรู้สึกหนาวขึ้นมา เขาเตรียมตัวจะตอบโต้กลับไป แต่ทันใดนั้นก็มีดาบแสงพุ่งเข้ามาฟันมือขนาดใหญ่นั้น
“อ้า!” ยักษ์บนก้อนเมฆกรีดร้องและดึงมือกลับไป ดวงตาที่ดูเหมือนกับเทพมองลงมายังตำแหน่งที่ดาบแสงพุ่งมา และเห็นผู้หญิงที่งดงามคนหนึ่งกำลังถือดาบทองแดงอยู่ในมือ
“คุณหญิงมิร์เรอร์!” หานเซิ่นดีใจ
เมื่อยักษ์เห็นคุณหญิงมิร์เรอร์ มันก็รีบสลายตัวไปในทันที ดูเหมือนว่ามันจะเกรงกลัวคุณหญิงมิร์เรอร์ และเห็นได้ชัดว่ามันไม่ต้องการเป็นศัตรูกับเธอ
“ไม่อยากเชื่อว่าแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตจะเลือกเจ้า” คุณหญิงมิร์เรอร์เข้ามาหาหานเซิ่นและมองไปที่แอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินในมือของเขา
“นั่นคือเหตุผลที่ท่านพาข้ามาที่นี่ไม่ใช่หรอ?” หานเซิ่นพูด
“ข้าก็แค่มาที่นี่เพื่อลองเสี่ยงดวงดูเท่านั้น ข้าไม่ได้ฝากความหวังอะไรไว้กับเจ้า ดังนั้นข้าไม่ได้คาดคิดว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จ” คุณหญิงมิร์เรอร์พูดอย่างตรงไปตรงมา
หานเซิ่นสัมผัสจมูกของเขาและหันหน้าหนีไปมองทะเลสีเลือด
คุณหญิงมิร์เรอร์ดูเหมือนจะรู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไร เธอพูดขึ้นมา
“ยานอวกาศของเอ็กซ์ตรีมคิงมาถึงที่นี่แล้ว พวกมันจะเข้ายึดครองดวงดาวที่นี่”
คุณหญิงมิร์เรอร์ไม่ได้มาเพื่อแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจิน เธอแค่ต้องการจะเข้ายึดครองระบบจักรวาลที่เต็มไปด้วยเลือดของแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อต
หลังจากที่แอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตวิวัฒนาการล้มเหลว เลือดของเขาที่ตกลงมาก็จะช่วยให้พลังกับสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนดวงดาว แม้แต่ดวงดาวที่แห้งแล้งก็สามารถทำให้กลายเป็นดวงดาวที่อุดมสมบูรณ์ได้ด้วยเลือดของแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อต
ภายในเลือดของแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตนั้นมีพลังชีวิตที่สุดยอด มันสามารถช่วยในการเจริญเติบโตของซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวมากมาย นี่คือสิ่งที่เอ็กซ์ตรีมคิงต้องการ
ในทางกลับกัน แอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินไม่ได้สำคัญอะไรนัก มันสามารถช่วยในการเจริญเติบโตของยอดฝีมือธาตุน้ำคนหนึ่งเท่านั้น มูลค่าของมันจึงไม่สามารถเทียบกับสิ่งมีชีวิตทั้งระบบจักรวาลได้
หานเซิ่นตามคุณหญิงมิร์เรอร์กลับขึ้นไปบนยาน และเขาก็เห็นยานของเอ็กซ์ตรีมคิงแยกกันออกไปประจำการบนดาวแต่ละดวง
หานเซิ่นพบกิเลนโลหิตบนยานอวกาศของพวกเขา และเขาก็ต้องประหลาดใจที่มันนั่งคอยเขาอยู่ที่นั่นอย่างสงบ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้เป็นอสูรที่ไร้จิตสำนึกอย่างที่หานเซิ่นคิดเอาไว้ในตอนแรก
เมื่อกิเลนโลหิตเห็นคุณหญิงมิร์เรอร์ มันก็ดูตื่นตระหนกและหวาดกลัว
หานเซิ่นพอจะคาดเดาได้ว่าทำไม แอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตเคลื่อนย้ายหานเซิ่นไปที่อื่น และในระหว่างนั้นกิเลนโลหิตไม่เชื่อฟังคำสั่งของคุณหญิงมิร์เรอร์ แต่เธอคงจะใช้กลลวงบางอย่างเพื่อทำให้กิเลนโลหิตขึ้นมาคอยอยู่บนยานอวกาศอย่างสงบ
‘ผู้หญิงคนนี้อ่านใจยากจริงๆ ไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร และทำไมเธอถึงไม่บอกคนอื่นว่าจริงๆแล้วเราไม่ใช่ไป๋อี้?’
หานเซิ่นลูบแหวนบนนิ้วมือและคิดกับตัวเอง ‘มันคงจะเป็นเพราะแหวนวงนี้ แต่เธอไม่ได้บังคับให้เราถอดมันออก ทำไมกัน?”
หานเซิ่นไม่เข้าใจ เขารู้ว่าควรจะหยุดคิดเกี่ยวกับมัน เขานำยีนซีโน่เจเนอิคของมังกรปีกเงินมาและกลืนมันเข้าไป
“ยีนระดับดยุก+1,ยีนระดับดยุก +1,…”
เสียงประกาศดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในหัวของหานเซิ่น เขาได้รับยีนระดับดยุกทั้งหมด 10 พ้อยด้วยกัน
“ถ้าเราหายีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันมาเพิ่มได้ เราก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องราวของยีนอีก” หานเซิ่นทั้งดีใจและเป็นกังวล
คุณหญิงมิร์เรอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อเป็นเวลานาน เธอแค่ต้องอยู่ต่อในช่วงที่เอ็กซ์ตรีมคิงเข้ายึดครองเท่านั้น แต่เธอไม่ต้องคอยดูแลการพัฒนาดวงดาว หน้าที่ของเธอเสร็จสิ้นก่อนที่ยานอวกาศส่วนใหญ่ของเอ็กซ์ตรีมคิงจะมาถึงด้วยซ้ำ
หานเซิ่นรู้ว่าคุณหญิงมิร์เรอร์มียอดฝีมือมากมายใต้บังคับบัญชา แต่พวกเขาไม่ได้ประกบเธออย่างใกล้ชิด
การเข้ายึดครองระบบจักรวาลคงจะเป็นเรื่องที่นองไปด้วยเลือด
แอนเชี่ยนท์ก็อตคงจะไม่ยอมละทิ้งที่นี่ไปง่ายๆ ดังนั้นทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องทำการเสียสละเพื่อยึดครองระบบจักรวาลนี้ มันจะเป็นการสูญเสียที่สูง ไม่ว่าพวกเขาจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม
หลังจากกลับไปที่อาณาจักรของกษัตริย์ หานเซิ่นก็พากิเลนโลหิตกลับไปที่ดาววอเทอร์โซน คุณหญิงมิร์เรอร์กักตัวของเขา และเธอก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขามากไปกว่านั้น ไม่มีใครมาสร้างปัญหากับเขาอีกเช่นกัน
แต่นั่นทำให้หานเซิ่นเป็นกังวลยิ่งกว่าเดิม เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในหัวของคุณหญิงมิร์เรอร์ และเขาก็ไม่รู้ว่าเป้าหมายของเธอคืออะไรกันแน่
‘เราควรพาเป่าเอ๋อกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ นั่นจะเป็นอะไรที่ปลอดภัยกว่า’ หานเซิ่นคิด แต่เขาจำเป็นต้องได้ตัวเป่าเอ๋อคืนมาจากหลันไห่ซินซะก่อน
แต่ก่อนที่หานเซิ่นจะไปหาหลันไห่ซิน เธอก็เป็นฝ่ายที่มาหาเขา เธอดูอารมณ์ไม่ดีนัก
“ไป๋อี้ นี่เจ้าลืมอะไรไปหรือเปล่า?” หลันไห่ซินพบหานเซิ่นภายในสวน เธอมองที่เขาพร้อมกับขมวดคิ้ว เธอไม่ได้พูดออกมาตรงๆว่าเธอต้องการอะไร เพราะว่าเธอยังคงสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของหานเซิ่น
“วันที่ 9 ของเดือนที่แล้ว ข้าจำได้ แต่คุณหญิงมิร์เรอร์พาข้าไปทำธุระบางอย่าง ข้าไม่มีทางเลือก”
หานเซิ่นพูด เขาคิดกับตัวเอง ‘โชคดีจริงๆที่เรามีเป่าเอ๋อคอยเป็นสายลับให้’
“เจ้าจำได้ก็ดี แต่เนื่องจากพวกเราพลาดมันไป ตอนนี้พวกเราก็ต้องรอไปอีก 2 เดือน เจ้าควรทำตัวให้ดีตลอด 2 เดือนข้างหน้าและหยุดสร้างปัญหาให้กับข้า” หลังจากที่หลันไห่ซินพูดจบ เธอก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ตอนที่ 2358
เนื่องจากหานเซิ่นไม่แน่ใจถึงเป้าหมายของคุณหญิงมิร์เรอร์ เขาจึงไม่กล้าทำอะไรเสี่ยงๆ เขาอยู่บนดาววอเทอร์โซนและใช้เวลาไปกับการล่าซีโน่เจเนอิคระดับดยุก เขาต้องการเก็บยีนระดับดยุกให้เต็ม
หานเซิ่นล่าซีโน่เจเนอิคและกินพวกมันเพื่อเพิ่มยีนระดับดยุกของเขา ยีนซีโน่เจเนอิคของพวกมันแต่ละชิ้นจะเพิ่มยีนระดับดยุกของเขาแค่หนึ่งพ้อยเท่านั้น ดังนั้นการเก็บยีนระดับดยุกจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า มันไม่ได้รวดเร็วอย่างการกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันที่จะมอบยีนระดับดยุกถึง 10 พ้อย
แต่หานเซิ่นไม่อยากจะก่อเรื่องใหญ่และทำตัวให้เป็นจุดเด่น ดังนั้นเขาจึงค่อยๆล่าซีโน่เจเนอิคระดับดยุกบนดาววอเทอร์โซนอย่างอดทน
“นี่คืออะไรกัน?” หานเซิ่นพบภูเขาลูกหนึ่งที่ก้นทะเล มันกำลังสไลด์ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ แต่หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่ามันกำลังเคลื่อนที่อยู่จริงๆ
เมื่อหานเซิ่นขี่กิเลนโลหิตเข้าไปใกล้เพื่อจะสังเกตดูชัดๆ เขาก็รู้สึกตัวว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่ภูเขา แต่มันเป็นหอยสังข์ เปลือกหอยมีความสูงถึงหนึ่งร้อยเมตร มันมีสีดำเทา ซึ่งทำให้มันดูเหมือนกับก้อนหินเมื่อมองดูจากระยะไกล
ใต้หอยสังข์มีตัวหอยสีขาวเผยออกมาให้เห็น มันค่อยๆเคลื่อนที่ไปบนพื้นทรายของทะเลอย่างช้าๆ
เมื่อรู้สึกได้ถึงหานเซิ่นและกิเลนโลหิตที่เข้ามาใกล้ เจ้าหอยก็ปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมา มันปกคลุมอาณาเขตกว่าหนึ่งพันเมตร ซึ่งครอบคลุมทั้งหานเซิ่นและกิเลนโลหิต
กิเลนโลหิตโกรธ ลมปราณโลหิตของมันระเบิดออกมา ขณะที่มันพุ่งเข้าไปหาหอยสังข์ทะเลราวกับสายฟ้า
หานเซิ่นไม่รู้ว่าอาณาเขตของหอยสังข์สามารถทำอะไรได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีผลกับเขาโดยตรง ถึงอย่างนั้นกิเลนโลหิตก็เข้าไปจู่โจมหอยสังข์ทะเลอย่างไม่รอช้า
หอยสังข์ทะเลหนีกลับเข้าไปในเปลือกของมัน ขณะที่กิเลนโลหิตพยายามใช้กรงเล็บข่วนที่เปลือกหอย
กิเลนโลหิตคำรามด้วยความโกรธ มันกวัดแกว่งกรงเล็บอย่างบ้าคลั่งและพยายามทำลายเปลือกหอยให้ได้ แต่มันก็ไม่สามารถทิ้งรอยที่มากไปกว่ารอยข่วนบางๆไว้บนเปลือกหอยได้ เปลือกของหอยสังข์สูงถึงหนึ่งร้อยเมตร ดังนั้นรอยข่วนบางๆแบบนั้นจึงไม่มีผลอะไรในภาพรวม
“ซีโน่เจเนอิคระดับราชัน?” หานเซิ่นดีใจกับการค้นพบในครั้งนี้ ถ้าเปลือกของมันแข็งถึงขนาดนั้น เจ้าหอยสังข์ตัวนี้จะต้องเป็นระดับราชัน เมื่อดูจากร่างเนื้อของมันแล้ว มันก็ดูเป็นระดับราชันที่อ่อนแอ่ แต่ถึงยังไงมันก็เป็นระดับราชันอยู่ดี
กิเลนโลหิตยังคงข่วนใส่เปลือกหอยต่อไป แต่การตะปบแต่ละครั้งนั้นทิ้งรอยข่วนที่บางลงไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้หานเซิ่นรู้สึกสับสน
หานเซิ่นชักมีดเขี้ยวผีสิงออกมาและฟันไปที่เปลือกหอย มันไม่เกิดอะไรขึ้น พลังของเขาเทียบไม่ได้กับกิเลนโลหิต
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขานำธันเดอร์ก็อตสไปค์ออกมาและช็อตสายฟ้าไปใส่เปลือกหอย เขาต้องการทำให้มันเป็นอัมพาต หลังจากนั้นเขาก็จะสามารถพลิกเปลือกหอยได้
แต่ดูเหมือนเปลือกหอยจะสามารถป้องกันสายฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ นั่นทำให้หานเซิ่นขมวดคิ้ว
“เปลือกของเจ้าตัวนี้แข็งจริงๆ เดิมพันได้เลยว่ามันนำไปใช้ทำเป็นชุดเกราะพิเศษได้ แต่มันมีขนาดใหญ่เกินไป”
เปลือกหอยนี้มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะใช้ทำชุดเกราะชุดเดียว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถใช้เป็นวัสดุก่อสร้างที่ยอดเยี่ยมสำหรับบางสิ่งที่ใหญ่กว่า
แต่ก่อนที่หานเซิ่นจะเอามันไปทำอะไรอย่างอื่นได้นั้น เขาก็ต้องฆ่าตัวหอยสังข์ที่อยู่ข้างในซะก่อน หานเซิ่นลองใช้พลังหลายๆอย่าง แต่การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขาก็ทำได้แค่ทิ้งรอยลึกไม่กี่นิ้วเอาไว้บนผิวของมันเท่านั้น มันไม่มีผลอะไรต่อตัวหอยสังข์ทะเลที่อยู่ภายใน
“ช่วยกันพลิกมัน!” หานเซิ่นเรียกกิเลนโลหิต ด้วยการรวมพลังกันของพวกเขา พวกเขาสามารถพลิกเปลือกหอยได้สำเร็จ แต่หลังจากที่พลิกมันแล้ว พวกเขาก็รู้สึกตัวว่าก้นของมันถูกปิดสนิท มันไม่มีทางให้เข้าไปข้างในและช่องว่างที่ถูกปิดก็เป็นวัตถุเดียวกับส่วนอื่นๆของเปลือกหอย
ขณะที่พวกเขาสังเกตเปลือกหอยอย่างละเอียดอีกครั้ง หานเซิ่นกับกิเลนโลหิตก็รู้สึกตัวว่าร่องรอยที่พวกเขาสร้างเอาไว้บนเปลือกหอยได้หายไปแล้ว ความพยายามทั้งหมดของพวกเขาสูญเปล่า
“นี่มันไม่ถูกสิ เจ้าตัวนี้น่าจะเป็นแค่ระดับราชันขั้นที่ 3 เท่านั้น แบบนั้นทำไมเปลือกของมันถึงได้แข็งขนาดนี้? แม้แต่การโจมตีอย่างเต็มกำลังของกิเลนโลหิตก็ทำได้แค่ทิ้งรอยบางๆเอาไว้…”
หานเซิ่นมองไปที่แสงสีฟ้ารอบๆ “หอยสังข์ตัวนี้มีอาณาเขตที่ทรงพลังขนาดนี้ได้ยังไง?”
พวกเขาเข้ามาอยู่ในอาณาเขตของเจ้าหอยสังข์เป็นเวลานานแล้ว แต่แสงสีฟ้าก็ไม่ได้ทำความเสียหายใดๆต่อพวกเขาเลย ดังนั้นมันจะต้องไม่ได้มีไว้สำหรับโจมตีอย่างแน่นอน
“หรือบางทีอาณาเขตนี้จะมีผลทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอลง?” หานเซิ่นคำนึงถึงความเป็นไปได้นี้ แต่มันดูจะไม่ถูกเท่าไหร่นัก
ถ้ามันเป็นอาณาเขตที่มีผลแบบนั้นจริงๆ เขาก็ควรจะสัมผัสได้ถึงการสูญเสียพลังของตัวเอง แต่หานเซิ่นสัมผัสไม่ได้ถึงพลังงานที่ถูกดูดออกไป ร่างกายของเขายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
‘ถ้ามันไม่ใช่อาณาเขตที่ทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอลง หรือว่ามันจะเป็นอาณาเขตที่ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น? แสงสีฟ้านี้เพิ่มความแข็งแรงของเปลือกหอยอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นลูบคางขณะที่ครุ่นคิด แต่ท้ายที่สุดเขาก็ละทิ้งความคิดนี้ไปเช่นกัน
ถ้ามันเป็นอาณาเขตที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเองจริงๆ เจ้าหอยสังข์ทะเลก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องปล่อยอาณาเขตของมันออกไปในระยะที่กว้างแบบนี้
‘ถ้ามันไม่ได้เป็นอาณาเขตที่ทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอหรือทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น แล้วมันคืออะไรกัน?’ หานเซิ่นจ้องไปที่หอยสังข์ทะเลขณะที่ครุ่นคิด
กิเลนโลหิตอารมณ์ร้อน และการที่ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเปลือกของหอยสังข์ได้ นั่นก็ทำให้กิเลนโลหิตโกรธยิ่งกว่าเดิม มันพยายามที่จะข่วนเปลือกหอยซ้ำๆ แต่มันก็ไม่ได้ผล รอยข่วนของมันบางลงเรื่อยๆ
“เดี๋ยวก่อนนะ… พลังของกิเลนโลหิตไม่ได้อ่อนแอลงไป ความจริงแล้วความโกรธจะทำให้มันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แบบนั้นทำไมรอยข่วนของมันถึงได้บางลงได้?”
หานเซิ่นจ้องไปที่รอยข่วนบนเปลือกหอย หลังนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา “หรือว่าพลังอาณาเขตของมันจะเป็น…”
หานเซิ่นว่ายไปข้างๆเปลือกหอยและลูบรอยข่วนบนผิวของมัน กิเลนโลหิตหยุดโจมตีเมื่อเห็นแบบนั้น
ไม่นานหลังจากนั้นรอยข่วนก็หายไป การฟื้นสภาพเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา
ถ้าแม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับครึ่งเทพอย่างกิเลนโลหิตยังไม่สามารถทำลายเปลือกของหอยสังข์ทะเลนี้ได้ แบบนั้นแล้วเปลือกของมันก็ต้องแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่หานเซิ่นไม่ได้คิดว่าความแข็งแรงนั้นจะมาจากเปลือกหอย เปลือกหอยนั้นแข็งมากก็จริง แต่ความทนทานอย่างเหลือเชื่อของมันมาจากอาณาเขตแห่งราชันของตัวหอยสังข์
หานเซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองคาดเดาได้ถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เขาก็พากิเลนโลหิตออกมาจากอาณาเขตของหอยสังข์ทะเล
หอยสังข์ทะเลทำเหมือนกับว่ามันรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร มันขยายแสงสีฟ้าออกไปไกลขึ้นอีก แต่ระยะสูงสุดของมันคือ 2 พันเมตร มันไม่สามารถขยายแสงสีฟ้าออกไปไกลกว่านั้นได้
เมื่อหานเซิ่นและกิเลนโลหิตออกไปไกลพอที่เจ้าหอยสังข์ทะเลสัมผัสถึงตัวตนของพวกเขาไม่ได้แล้ว พวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินก้อนใหญ่ หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงจับตาดูเจ้าหอยสังข์ทะเลจากระยะไกล
หอยสังข์ทะเลรออยู่สักพัก มันผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนที่เจ้าหอยจะออกมาจากเปลือกและมองไปรอบๆ เมื่อมันไม่เห็นหานเซิ่นและกิเลนโลหิตอยู่ในบริเวณใกล้เคียง มันก็เลิกใช้อาณาเขตแสงสีฟ้า
เมื่อเห็นอย่างนั้นหานเซิ่นก็เรียกมนตราออกมาและเปลี่ยนเธอเป็นปืนไรเฟิล เขาเล็งไปเจ้าหอยสังข์ทะเล
ปัง!
หานเซิ่นเหนี่ยวไกโดยไม่ลังเล กระสุนพุ่งผ่านน้ำทะเลและตรงเข้าไปหาหอยสังข์ทะเลอย่างเงียบๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น