Super God Gene 2335-2342
ตอนที่ 2335
ระดับราชันแบ่งออกเป็น 9 ขั้นด้วยกัน คนที่จะกลายเป็นครึ่งเทพจำเป็นต้องสำเร็จทั้ง 9 ขั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็จะสามารถพัฒนาไปสู่ระดับเทพเจ้าได้อย่างเต็มตัว
แต่แทนที่จะถูกแบ่งแยกออกจากกัน ทั้ง 9 ขั้นกลับถูกจัดอยู่ภายใต้ระดับราชันเหมือนๆกัน พลังของแสงแห่งเทพระดับราชันจะสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อสำเร็จแต่ละขั้น
กิเลนโลหิตสำเร็จทั้ง 9 ขั้นเรียบร้อยแล้ว เพราะยังไงซะมันก็เป็นระดับครึ่งเทพ องครักษ์ขององค์ชายดาบดาราเองก็เป็นระดับครึ่งเทพเจ้ากัน
“กล้าดียังไงมาปฏิบัติตัวแย่ๆต่อหน้าองค์ชายของข้า!”
องครักษ์ระดับครึ่งเทพส่งเสียงออกมา หลังจากนั้นเขาก็ปลดปล่อยแสงแห่งเทพสีเหลืองออกมาทับซ้อนกับแสงสีเลือดของกิเลนโลหิต องครักษ์ยกขวานในมือขึ้นและวิ่งออกไปข้างหน้าเพื่อปะทะกับกิเลนโลหิต
แสงแห่งเทพสีเลือดรวมกับแสงแห่งเทพสีเหลือง องครักษ์ทั้ง 2 ได้รับผลจากแสงแห่งเทพของอีกฝ่าย ร่างกายของกิเลนโลหิตจู่ๆก็หนักอึ้งขึ้นมาราวกับว่ามันแบกน้ำหนักของภูเขาทั้งลูกเอาไว้
แสงแห่งเทพสีเหลืองนั้นเป็นธาตุดิน และมันสามารถสร้างแรงกดดันธาตุดินต่อสิ่งมีชีวิตภายในบริเวณของมันได้
ขณะที่กิเลนโลหิตถูกกดลงด้านล่างด้วยพลังธาตุดิน ขวานขององครักษ์ก็ฟันลงมาใส่ราวกับขุนเขา มันเล็งไปที่หัวของกิเลนโลหิต องครักษ์ปลดปล่อยพลังที่มากพอจะตัดดวงดาวทั้งดวงให้ขาดครึ่งได้
กิเลนโลหิตคำราม แต่แทนที่จะหลบหลีกการโจมตี มันกลับใช้เขาเพื่อป้องกันขวานที่ฟันลงมา
ตูม!
พลังสีเลือดและสีเหลืองปะทะกัน เขาของกิเลนโลหิตสามารถป้องกันขวานใหญ่เอาไว้ได้สำเร็จ
องครักษ์ครึ่งเทพคำราม เขาพยายามจะกดขวานใหญ่ลงไป ขณะที่พลังของทั้ง 2 ปะทะกัน
หานเซิ่นและองค์ชายดาบดารามองดูการต่อสู้จากระยะไกล ทันใดนั้นก็มีแรงระเบิดสีแดงและเหลืองเกิดขึ้น กิเลนโลหิตสามารถเคลื่อนผ่านองครักษ์ระดับครึ่งเทพไปได้
เมื่อแสงจากแรงระเบิดจางลงไป ผู้ชมก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเขาสังเกตเห็นว่าเกล็ดบริเวณคอของกิเลนโลหิตฉีกขาดและเกิดเป็นรอยแหว่งขนาดใหญ่ เลือดของกิเลนโลหิตเริ่มไหลลงมาที่อกของมัน
ชุดเกราะขององครักษ์ระดับครึ่งเทพก็ถูกทำลายเช่นกัน บนตัวของเขามีถูกรอยตัดที่กำลังมีเลือดไหลออกมา
“เป็นร่างกายที่แข็งแกร่งมากๆ! แต่ถึงอย่างนั้นวันนี้เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี”
องครักษ์ระดับครึ่งเทพตะโกนอย่างดุดัน ขวานเบิกนภาของเขาสร้างแสงที่น่ากลัวขึ้นและมันก็ฟันเข้าใส่กิเลนโลหิตอีกครั้ง
กิเลนโลหิตลดหัวลง ดวงตาสีแดงของมันดูมืดขึ้น พวกมันมืดขึ้นจนกระทั่งดูดำสนิทไป
หานเซิ่นเข้าใจกิเลนโลหิตดี เขารู้ว่าตอนนี้มันโกรธขึ้นมาจริงๆ ลมปราณโลหิตของมันกำลังพลุ่งพล่านออกมาอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้มันเป็นเหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์ที่กำลังจะปะทุ
ขณะที่องครักษ์ครึ่งเทพฟันเข้ามา กิเลนโลหิตไม่ได้หลบ มันเงยหัวขึ้นมาและจ้องไปที่องครักษ์ ลมปราณโลหิตในดวงตาของมันกำลังปะทุราวกับภูเขาไฟ
พลังจากดวงตาของกิเลนโลหิตไม่ได้ระเบิดออกมาอย่างที่หานเซิ่นคาดเอาไว้ แต่จู่ๆอกขององครักษ์ระดับครึ่งเทพก็เริ่มจะมีเลือดไหลทะลักออกมา
ขวานเบิกนภาของเขาไม่ได้ฟันลงมา เลือดทะลักออกมาจากบาดแผลของเขาราวกับน้ำพุ ทุกคนที่มองดูการต่อสู้ตกตะลึง องครักษ์ระดับครึ่งเทพพยายามใช้พลังเพื่อหยุดการเสียเลือดของเขา
แต่มันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ เลือดยังคงไหลออกมาจากอกของเขาเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นหมอกควันที่ลอยเข้าไปหากิเลนโลหิต ขณะเดียวกันกิเลนโลหิตก็ดูดซับพวกมันเข้าไป
บาดแผลบริเวณคอของกิเลนโลหิตสมานตัวอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
กิเลนโลหิตคำรามราวกับสิงโต มันกลายเป็นเงาสีเลือดและบินตรงเข้าไปองครักษ์ระดับครึ่งทพ
สีหน้าขององครักษ์ระดับครึ่งเทพดูตกใจกับสถานการณ์ที่พลิกผัน เขาคำรามและแกว่งขวานเบิกนภาเข้าใส่กิเลนโลหิตอีกครั้ง
กิเลนโลหิตไม่ได้หลบ และมันก็ไม่ได้พยายามใช้กรงเล็บเพื่อป้องกันเช่นกัน กิเลนโลหิตปล่อยให้ขวานฟันถูกตัวของมัน แต่ในขณะเดียวกันกรงเล็บของกิเลนโลหะตก็สัมผัสร่างของคู่ต่อสู้
องครักษ์กรีดร้องออกมาและเลือดของเขาก็พุ่งราวกับไกเซอร์
กิเลนโลหิตที่อาฆาตเมินเฉยต่อขวานของศัตรูและใช้เกล็ดของมันเพื่อรับแรงจากการโจมตี ขณะที่มันใช้กรงเล็บข่วนใส่ชุดเกราะขององครักษ์และฉีกเนื้อหนังของเขา
กรงเล็บของกิเลนโลหิตทิ้งรอยข่วนไว้ทั่วร่างกายขององครักษ์และเลือดก็ไหลออกมาจากร่างกายของเขาไม่หยุด เลือดของเขาเป็นเหมือนกับลาวาที่ไหลออกมาจากปล่องภูเขาไฟ และมันไม่มีอะไรที่เขาจะทำเพื่อหยุกการปะทุนั้นได้
หานเซิ่นยิ้มแย้มขณะที่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้น แสงแห่งเทพของกิเลนโลหิตมีความสามารถที่น่ากลัวมากๆ โชคดีที่กิเลนโลหิตตัวนี้ไม่ใช่ศัตรูของเขา
ในตอนนี้ถึงองครักษ์ระดับราชันจะใช้ขวานใหญ่ฟันถูกตัวกิเลนโลหิต แต่มันก็สามารถรักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
องครักษ์ระดับครึ่งเทพกรีดร้องอย่างต่อเนื่องขณะที่พยายามวิ่งหนี แต่ภายใต้แสงแห่งเทพของกิเลนโลหิต เขาสูญเสียเลือดมากเกินไป ตอนนี้เขาอ่อนแรงและไม่มีกำลังจะหนีจากกิเลนโลหิต
กิเลนโลหิตเป็นเหมือนกับหมาป่าที่หิวกระหาย มันกระโดดเข้าหาชายคนนั้นและฉีกแขนของเขาจนขาดก่อนที่จะกลืนลงไป เสียงขบเคี้ยวดังขึ้นมาจากกิเลนโลหิตราวกับว่ามันกำลังกินขนม
“องค์ชาย! ช่วย…ช่วยด้วย!” องครักษ์ครึ่งเทพกรีดร้อง
องค์ชายดาบดารารู้สึกหนาวขึ้นมาหลังจากที่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ความโหดร้ายของกิเลนโลหิตทำให้เขาและองครักษ์คนอื่นรู้สึกตกใจ
ก่อนที่องค์ชายดาบดาราจะพูดอะไรได้ กิเลนโลหิตก็ยกองครักษ์คนนั้นใส่ปากและกินเขาเข้าไปทั้งตัว
กิเลนโลหิตกลืนกินยอดฝีมือระดับครึ่งเทพลงไป ขณะที่เสียงกรีดร้องสุดท้ายยังคงดังก้องในหูของผู้ชมที่
“ไป๋อี้… เจ้าฆ่าองครักษ์ของข้า…” สีหน้าขององค์ชายดาบดาราดูย้ำแย่
“มันก็แค่องครักษ์ที่ตายไป มันเป็นเรื่องใหญ่อะไร? ถ้าเจ้าไม่พอใจกับมัน กิเลนโลหิตก็ยินดีจะฟังความข้องใจของเจ้า ไปฆ่ามันถ้าเจ้ากล้าล่ะก็นะ” หานเซิ่นพูด
“เจ้า…” ใบหน้าขององค์ชายดาบดาราถมึงทึง เขาไม่ใช่ครึ่งเทพ และเขาก็มีองครักษ์ระดับครึ่งเทพใต้บังคับบัญชาแค่ 2 คนเท่านั้น ตอนนี้หนึ่งในองครักษ์ระดับเทพเจ้าเพิ่งจะถูกกินเข้าไปโดยกิเลนโลหิต การจะส่งอีกคนไปสู้จึงไม่ช่วยอะไร
องค์ชายและองค์หญิงคนอื่นที่กำลังดูการต่อสู้จากระยะไกลมองไปที่กิเลนโลหิตด้วยความอิจฉา
“ไม่คิดว่าซีโน่เจเนอิคตัวนั้นของหานเซิ่นจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ มันเหมือนกับว่ามันเป็นระดับเทพเจ้าเรียบร้อยแล้ว! ไม่อยากเชื่อเลยว่าไป๋อี้จะได้รับมันไปครอบครอง” ไป๋หลิงซวงรู้สึกโกรธเมื่อเห็นความสามารถของกิเลนโลหิต
“ถ้าน้องสี่สิบเจ็ดไม่มีอะไรแล้ว ข้าก็ขอตัวก่อน”
หานเซิ่นขึ้นขี่กิเลนโลหิตอีกครั้งและมองไปที่องค์ชายดาบดาราด้วยความดูถูก หลังจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปทางต้นไม้กษัตริย์
องค์ชายดาบดาราไม่จะแข่งขันไปมากกว่านั้น แต่ไป๋หลิงซวงและราชวงศ์คนอื่นยังคงตามหานเซิ่นไป พวกเขาเห็นว่าหานเซิ่นกำลังมุ่งหน้าไปใกล้ต้นไม้กษัตริย์
“นี่เขาคิดจะฝึกตรงหน้าต้นไม้กษัตริย์เลยอย่างนั้นหรอ?” ไป๋หลิงซวงขมวดคิ้ว
หานเซิ่นคิดว่าจะหามังกรกษัตริย์รากแก้วได้ง่ายขึ้นเมื่อเข้าไปใกล้ต้นไม้กษัตริย์ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นแบบนั้น บริเวณใกล้ๆกับต้นไม้กษัตริย์นั้นต่างออกไป ทำให้คนของราชวงศ์คนอื่นๆไม่กล้าเข้าไปใกล้มัน
ตอนที่ 2336
องค์ชายดาบดาราจ้องมองหลังของหานเซิ่นด้วยความโกรธ
“พวกเราไปกันเถอะ”
“องค์ชายจะจากไปทั้งๆแบบนี้อย่างนั้นหรอ?” องครักษ์อีกคนขององค์ชายดาบดาราดูโกรธขณะที่พูด
องค์ชายดาบดาราพูด “คนของข้าจะไม่ตายไปเปล่าๆ เขากล้าฆ่าคนในสวนของกษัตริย์ ดังนั้นกิเลนโลหิตจะต้องตาย พวกเราจะให้ศาลพิพากษาเขา”
หานเซิ่นขี่กิเลนโลหิตเข้าไปหาต้นไม้กษัตริย์ ขณะที่ในหัวกำลังคิด
‘จิตสังหารของกิเลนโลหิตนั้นแรงเกินไป ถ้ามันอยากจะฆ่าใคร เราก็ทำอะไรเพื่อหยุดมันไม่ได้ โชคดีที่อีกฝ่ายเป็นแค่องครักษ์คนหนึ่ง’
ขณะที่หานเซิ่นเข้าไปใกล้ต้นไม้กษัตริย์ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ยังหามังกรกษัตริย์รากแก้วไม่เจอ ดังนั้นเขาจึงเดินหน้าต่อไปอีก
มังกรกษัตริย์รากแก้วจะปรากฏตัวในตำแหน่งที่ต่างไปจากเดิมทุกครั้ง แต่วันนี้หานเซิ่นค่อนข้างโชคร้าย เขาไม่พบพวกมันระหว่างทางเลยแม้แต่ตัวเดียว
แต่ทว่ามันมีองค์ชายและองค์หญิงหลายคนตามหลังหานเซิ่นไป หานเซิ่นเมินเฉยต่อตัวตนของพวกเขา แต่หลังจากผ่านไปสักพักหานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าพวกเขาหยุดที่จะตามต่อไป นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกกังวลเล็กน้อย
หานเซิ่นมองไปรอบๆและพบว่าเขาเข้ามาใกล้กับต้นไม้กษัตริย์ มันหนาเหมือนกับเสาขนาดยักษ์ และมันก็มีดินแดนกว่าหนึ่งร้อยไมล์ระหว่างเขากับต้นไม้
หานเซิ่นเห็นรอยย่นบนเปลือกของต้นไม้ที่กว้างใหญ่ราวกับหุบเขา แม้แต่มังกรกษัตริย์ที่เขาเคยเห็นก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น
หานเซิ่นชะลอความเร็วลง ที่นี่ต่างไปจากที่เขาจินตนาการเอาไว้ การเข้าไปใกล้ๆกับต้นไม้ไม่ได้ทำให้เขาหามังกรกษัตริย์รากแก้วได้มากขึ้นอย่างที่คิดเอาไว้
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็พบมังกรกษัตริย์ตัวหนึ่งที่มีชายในชุดคลุมสีขาวยืนอยู่ หานเซิ่นนึกถึงข้อมูลที่กุนซือไวท์มอบให้และระบุได้ว่าชายคนนั้นคือใคร
องค์ชายสิบเจ็ด ไป๋ชิงเสีย ถูกรู้จักกันในฐานะผู้ชายที่งดงามที่สุดในอาณาจักรกษัตริย์
ชายคนนั้นหล่อเหลาถึงขนาดที่ความงดงามของเขาทำให้เขาดูไร้เทียมทาน
แต่ถึงชิงเสียจะหล่อเหลา แต่ข้อมูลบอกเอาไว้ว่าเขาค่อนข้างอ่อนแอ แม่ของเขาได้รับบาดเจ็บขณะที่ตั้งครรภ์มทำให้ลูกในท้องได้รับบาดเจ็บไปด้วย เขาจึงเกิดมาไม่สมบูรณ์ เขาเป็นคนที่อ่อนแอมากๆในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิง ร่างกายของเขาไม่เหมือนกับคนที่มีสายเลือดของราชวงศ์ เขาอ่อนแอยิ่งกว่าสามัญชนคนหนึ่งซะอีก
องค์ชายชิงเสียนั้นหล่อเหลามากๆ แต่เขาไม่ได้เก่งเรื่องไหนนอกจากเป็นอาหารตา เขาไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจ ถ้าใครพูดถึงเขาก็มักจะเกี่ยวกับหน้าตาของเขา
“น้องสิบเจ็ด เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” หานเซิ่นขี่กิเลนโลหิตเข้าไปหาองค์ชายชิงเสีย แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ หานเซิ่นอยากจะรู้ว่าทำไมองค์ชายสิบเจ็ดถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว
ดวงตาขององค์ชายชิงเสียเป็นเหมือนกับดวงดาว ใบหน้าของเขาดูคมคาย เขาดูเหมือนกับงานแกะสลักจากหินอ่อน แต่เขาดูไม่ค่อยดีนัก จริงๆแล้วเขาดูซีดเหมือนกับคนป่วย
เขาไม่ได้คาดคิดว่าหานเซิ่นจะเข้ามาพูดกับเขา องค์ชายชิงเสียมองมาที่หานเซิ่นและพูด
“ข้ามาที่นี่เพื่อรับการคุ้มครองจากคิงอีซ พี่สิบหกไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้นอย่างนั้นหรอ?”
“เอิ่ม… ข้าก็แค่มาเดินเล่น” หานเซิ่นไม่รู้ว่าการคุ้มครองจากคิงอีซหมายถึงอะไร
‘บางทีมันอาจจะเป็นบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวอักษรภาษาคิงอีซบนใบไม้ของต้นไม้กษัตริย์ แต่นั่นจะช่วยคุ้มครองเขาได้ยังไง? เขาจะเด็ดใบไม้ใบหนึ่งจากต้นไม้กษัตริย์อย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
องค์ชายชิงเสียยิ้มและพูด “ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่แล้ว ถ้าเจ้าแข็งแกร่งพอที่จะปลุกรูปปั้นของอัลฟ่าให้ตื่นขึ้นมา แบบนั้นเจ้าก็ต้องได้รับการคุ้มครองจากคิงอีซอย่างแน่นอน”
“ถ้าเจ้าอยากจะได้การคุ้มครองจากคิงอีซ แบบนั้นข้าก็ไม่ควรจะรบกวนเจข้า ข้าจะไปเดินรอบๆต่อ” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็เตรียมตัวจะจากไป
หานเซิ่นไม่รู้ถึงวิธีที่จะได้รับการคุ้มครองจากคิงอีซอะไรนี่ ดังนั้นถ้าเขาไม่ระมัดระวัง ตัวตนที่แท้จริงของเขาก็อาจจะถูกเปิดโปงได้ เขาจำเป็นต้องไปจากที่นี่ก่อนและทำความเข้าใจเกี่ยวกับคิงอีซในภายหลัง
องค์ชายชิงเสียกระโดดอย่างกะทันหัน ร่างกายของเขาเทเลพอร์ตมาอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นและขวางทางหานเซิ่นเอาไว้
“ในตอนนี้คิงอีซยังไม่ตื่นขึ้นมา ข้าอยากรู้ว่าเจ้าเข้าใจรูปปั้นของอัลฟ่าได้ยังไง พี่สิบหกช่วยสอนข้าหน่อยได้ไหม” องค์ชายชิงเสียพูด ก่อนที่หานเซิ่นจะตอบตกลง เขาก็ตบฝ่ามือใส่หานเซิ่น
นิ้วมือของเขาเรียวยาวและพวกมันก็ส่องแสงสว่าง มันเป็นภาพที่งดงาม แต่ในขณะเดียวกันพวกมันก็ดูเข้มแข็ง
หานเซิ่นเห็นฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ตบเข้ามาและสังเกตเห็นว่ามันไม่ได้มีพลังอยู่เลย แต่ถึงอย่างนั้นลูกตบของอีกฝ่ายก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ามันเป็นอะไรที่ยากจะคาดเดา หานเซิ่นรู้สึกตกใจกับมัน
‘ผู้คนบอกว่าองค์ชายชิงเสียนั้นอ่อนแอ แต่ตอนนี้ฉันไม่คิดว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นความจริง ลูกตบของเขาเป็นบางสิ่งที่พิเศษมากๆ’ หานเซิ่นขมวดคิ้ว
กิเลนโลหิตคำรามออกมา มันต้องการจะกระโดดเข้าใส่องค์ชายชิงเสีย แต่หานเซิ่นห้ามมันเอาไว้
ภายในสวนของกษัตริย์มีกฎห้ามการฆ่าฟัน แต่กฎนั้นตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องเหล่าองค์ชายและองค์หญิงเท่านั้น มันยังพอจะอธิบายได้ ถ้าคนที่ถูกฆ่าเป็นแค่องครักษ์คนหนึ่ง แต่การฆ่าองค์ชายคนหนึ่งไม่เพียงจะทำให้กิเลนโลหิตถูกลงโทษเท่านั้น แต่หานเซิ่นเองก็จะถูกลงโทษด้วยเช่นกัน
หลังจากที่หยุดกิเลนโลหิต หานเซิ่นก็กระโดดลงจากหลังของกิเลนโลหิตและชกหมัดเข้าใส่องค์ชายชิงเสีย
หานเซิ่นใช้หมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิงที่เขาเรียนรู้มาจากรูปปั้นอัลฟ่า คนอื่นๆได้เห็นแค่เงาของอัลฟ่า แต่หานเซิ่นเห็นรูปปั้นของอัลฟ่าใช้วิชานั้น
ปัง!
หมัดและฝ่ามือปะทะกัน หานเซิ่นและองค์ชายชิงเสียรู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาสั่นสะเทือน ขณะที่พวกเขาถูกผลักไปด้านหลัง ไม่มีฝ่ายไหนที่เป็นฝ่ายที่เหนือกว่า
หมัดของหานเซิ่นนั้นรวมพลังของร่างกายแห่งราชันออริจินอลเวเทอร์เข้าไปด้วย ถึงแม้มันจะแค่ระดับราชันขั้นแรก แต่มันก็ค่อนข้างทรงพลัง ถึงอย่างนั้นองค์ชายชิงเสียก็สามารถต่อสู้กับหานเซิ่นได้อย่างเท่าเทียม ดูเหมือนกับว่าข่าวลือที่ว่าองค์ชายชิงเสียมีร่างกายที่อ่อนแอจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว
‘เอ็กซ์ตรีมคิงเต็มไปด้วยยอดฝีมือจริงๆ เราจะประมาทใครไม่ได้เลย’ หานเซิ่นแปลกใจ
เหล่าองค์ชายและองค์หญิงที่มองดูจากระยะไกลเองก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน
ไป๋อี้ถูกรู้จักว่าเป็นคนที่บ้าบิ่นและละโมบ ขณะที่ไป๋ชิงเสียถูกรู้จักว่าเป็นคนที่อ่อนแอและเจ็บป่วย การที่องค์ชายทั้ง 2 ต่อสู้ใต้ต้นไม้กษัตริย์แบบนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลก
มันอาจจะเป็นความขัดแย้งที่เข้าใจได้ ถ้านี่เกิดขึ้นในสถานที่อื่น แต่ต้นไม้กษัตริย์อยู่ห่างออกไปแค่หนึ่งร้อยไมล์ และองค์ชายทั้ง 2 ก็อยู่ภายใต้คิงโคฟเวอร์ แม้แต่อัจฉริยะอย่างไป๋อู๋ฉางและไป๋หลิงซวงก็จะไม่เข้าไปในนั้น
คิงโคฟเวอร์ไม่ใช่สถานที่ที่อันตราย แต่มันมีพรของต้นไม้กษัตริย์อยู่ ถ้าต้นไม้กษัตริย์ยอมรับพวกเขา พวกเขาก็จะได้รับการคุ้มครองจากมัน พวกเขาจะถูกคุ้มครองโดยคิงอีซ
แต่ถ้าพวกเขาไม่ได้รับการยอมรับจากต้นไม้กษัตริย์ พวกเขาก็จะแค่ยืนเฉยๆอยู่ตรงนั้นอย่างเปล่าประโยชน์
องค์ชายและองค์หญิงหลายคนหวังจะได้รับการคุ้มครองจากคิงอีซ แต่พวกเขาไม่มีความมั่นใจพอที่จะลองดู เพราะถ้าพวกเขาไม่ได้รับพรหรือการคุ้มครองจากคิงอีซ พวกเขาก็จะถูกหัวเราะที่เป็นคนโชคร้าย
ตอนที่ 2337
ถ้าองค์ชายหรือองค์หญิงคนหนึ่งไม่ได้รับพรจากคิงอีซ คนอื่นๆก็จะคิดว่าองค์ชายหรือองค์หญิงคนนั้นถูกสาปโดยความโชคร้าย คนแบบนั้นไม่มีทางที่จะนำพาเอ็กซ์ตรีมคิงและครองโลกนี้ได้
ถึงแม้การได้รับการคุ้มครองของคิงอีซจะไม่ได้แสดงถึงความโชคดีซะทีเดียว แต่มันก็ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองพวกเขา ด้วยเหตุนั้นคนในราชวงศ์จึงไม่คิดจะมารับการคุ้มครองจากคิงอีซโดยสุ่มสี่สุ่มห้า
ในยุคสมัยราชาเป่า มันมีองค์ชายคนหนึ่งที่เป็นรักมากๆ เขาเป็นคนที่เฉลียวฉลาดและเป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยม ราชาเป่าโปรดปรานเขาอย่างมากและขุนนางส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าองค์ชายคนนั้นจะได้สืบราชบัลลังก์ต่อจากราชาเป่า
แม้แต่ตัวองค์ชายเองก็เชื่อว่าเขาจะเป็นคนที่จะได้ครองบัลลังก์ต่อ เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ได้รับพรแห่งโชคลาภ ดังนั้นเขาจึงมาที่คิงโคฟเวอร์เพื่อทดสอบความเชื่อนั้น แต่เขากลับไม่ได้รับความคุ้มครองจากคิงอีซ หลังจากเหตุการณ์นั้นความโปรดปรานของราชาเป่าก็สลายไป เขาไม่ได้ให้องค์ชายคนนั้นสืบราชบัลลังก์ต่อจากเขาและส่งต่อบัลลังก์ไปให้กับองค์ชายที่ตอนนี้ถูกรู้จักกันในนามราชาไป๋แทน
องค์ชายคนนั้นไม่ได้สูญเสียบัลลังก์เป็นเพียงเพราะเขาไม่ได้ความคุ้มครองของคิงอีซ แต่มันก็เป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่ง
เหตุการณ์ที่เหมือนๆกันนี้เกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัยของเอ็กซ์ตรีมคิง
ด้วยเหตุนั้นคนของราชวงศ์ที่ต้องการขึ้นครองบัลลังก์จึงไม่กล้าเสี่ยง มันมีแค่คนที่ไม่มักใหญ่ใฝ่สูงเท่านั้นที่ยินดีจะลองดู เพราะการถูกปฏิเสธไม่ได้มีผลอะไรกับพวกเขามากนัก
ราชวงศ์คนที่ได้รับพรจาก 5 คิงอีซนั้นจะถูกมองว่าเป็นคนที่โชคดี การได้รับพรจาก 9 คิงอีซจะหมายความว่าคนนั้นเป็นคนที่โชคดีมากๆ การได้รับมากกว่า 9 พรนั้นเป็นบางสิ่งที่หาได้ยากแบบสุดๆ
แต่ถึงจะได้รับการคุ้มครองจาก 9 คิงอีซก็ไม่ได้รับประกันว่าคนๆนั้นจะได้ขึ้นครองบัลลังก์ ดังนั้นการคุ้มครองของคิงอีซก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง
โชคดีที่ตัวพรของคิงอีซเองมีประโยชน์ มันเป็นสิ่งที่ดีและยิ่งมีมันมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดี
ไป๋ชิงเสียเคลื่อนไหวเข้ามาหาหานเซิ่นราวกับก้อนเมฆ
หลังจากที่หานเซิ่นใช้หมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิงเพื่อตอบโต้ฝ่ามือของไป๋ชิงเสียแล้ว การต่อสู้ก็ดำเนินต่อไป
เนื่องจากพวกเขาอยู่ใกล้กับต้นไม้กษัตริย์มากเกินไป และพวกเขาก็ไม่อยากจะทำให้ต้นไม้ได้รับความเสียหาย ดังนั้นพวกเขาจึงใช้แค่พละกำลังในการต่อสู้
“ไป๋ชิงเสียมีวิชาฝ่ามือที่เยี่ยมยอด นั่นคงจะต้องเป็นเฮเทร็ดไทม์เท็นของกษัตริย์องค์ที่ 7” องค์ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาขณะมองไปที่ไป๋ชิงเสีย
“มันคือเฮเทร็ดไทม์เท็นจริงๆ ไทม์วันคือหนึ่งขั้น ขณะที่ไทม์เท็นก็คือระดับครึ่งเทพ ไม่อยากเชื่อเลยว่าไป๋ชิงเสียจะฝึกฝนวิชานี้ เขาเพิ่งจะกลายเป็นระดับราชันใช่ไหม อย่างนั้นเฮเทร็ดไทม์เท็นของเขาก็คงจะอยู่แค่ขั้นแรกเท่านั้น” องค์ชายอีกคนพูด
“แต่ไป๋ชิงเสียนั้นอ่อนแอ มันน่าประหลาดใจที่เขาเรียนรู้วิชาจีโนที่ทรงพลังแบบนั้นได้” องค์ชายอีกคนกล่าว
ไป๋หลิงซวงมองดูไป๋ชิงเสียและขมวดคิ้ว “ไป๋ชิงเสียซ่อนความสามารถของตัวเองมาโดยตลอดอย่างนั้นหรอ? ดูเหมือนว่าเขามาที่นี่เพื่อรับพรจากคิงอีซ นั่นถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ปกติ พวกเราประเมินเขาต่ำเกินไปอย่างเห็นได้ชัด”
คุณหญิงมิร์เรอร์ดูสนใจขึ้นมาเมื่อได้เห็นเฮเทร็ดไทม์เท็นของไป๋ชิงเสีย
“องค์ชายผู้งดงามคนนี้ฝึกเฮเทร็ดไทม์เท็น นอกจากนั้นมันก็ไม่ได้อยู่ที่ขั้นแรก นี่เป็นอะไรที่น่าสนใจจริงๆ”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ คุณหญิงมิร์เรอร์ก็หัวเราะและพูด “ดี! มาดูสิว่าเขาจะต่อกรกับหานเซิ่นได้ดีแค่ไหน”
หานเซิ่นใช้หมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีงคิงเพื่อต่อสู้กับไป๋ชิงเสีย หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจขณะที่พวกเขาต่อสู้กัน ความสามารถในการต่อสู้ของชายผู้งดงามคนนี้เหนือความคาดหมายของเขามาก
ฝ่ามือของอีกฝ่ายเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว พวกมันไม่ได้ดูแข็งแกร่งอะไรมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ให้ความรู้สึกที่ชั่วร้าย หานเซิ่นรู้สึกได้ถึงมันอย่างชัดเจน และถ้าเขาไม่ระมัดระวังล่ะก็ การโดนเพียงแค่ครึ่งฝ่ามือก็สามารถลดพลังชีวิตของเขาครึ่งหนึ่งได้
“แปลกจริงๆ ทำไมพี่สิบหกถึงใช้แค่หมัดซ็อคกิ้งสกาย? นี่เขารู้เพียงแค่วิชานี้วิชาเดียวอย่างนั้นหรอ?” องค์ชายสิบเก้าขมวดคิ้ว
องค์ชายสิบเก้ายืนอยู่ข้างองค์ชายสิบสี่ไป๋ชางลัง ไป๋ชางลังหัวเราะและพูด
“น้องสิบหกจงใจดูถูกน้องสิบเจ็ด เขาต้องการจะใช้แค่หมัดช็อคกิ้งสกายเอาชนะเฮเทร็ดไทม์เท็น นิสัยอวดดีของเขาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด โชคดีที่น้องสิบเจ็ดฝึกสำเร็จแค่ขั้นแรกเท่านั้น ไม่อย่างนั้นน้องสิบหกก็คงจะถูกฆ่าไปแล้ว”
“ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ชายอย่างเขาถึงปลุกรูปปั้นอัลฟ่าให้ตื่นขึ้นมาได้” องค์ชายสิบเก้าพูดพร้อมกับเบะปาก
“ทุกคนล้วนมีช่วงเวลาที่ตัวเองโชคดีอยู่บ้าง” ไป๋ชางลังมองไปที่หานเซิ่นด้วยความดูถูก
ไป๋ชิงเสียสังเกตเห็นว่าไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนวิชาฝ่ามือมากแค่ไหน หานเซิ่นก็ยังคงใช้แค่หมัดช็อคกิ้งสกายอย่างเดียว เขาเชื่อหานเซิ่นกำลังจงใจดูถูกเขาอยู่ และใบหน้าของเขาก็แดงด้วยความโกรธ
ทันใดนั้นไป๋ชิงเสียก็เปลี่ยนวิชาฝ่ามือของเขา วิชาฝ่ามือที่ดูอ่อนแอกลายเป็นเลเซอร์ และตอนนี้หนึ่งในฝ่ามือก็ตรงเข้าใส่หานเซิ่น
“รักที่มากเกินไปจะกลายเป็นความเกลียดชัง… นั่นคือขั้นที่ 2 ของเฮเทร็ดไทม์เท็น! นั่นเป็นไปได้ยังไง? ไป๋ชิงเสียมีร่างกายระดับราชันขั้นแรก! เขาใช้เฮเทร็ดไทม์ทูได้ยังไง?” องค์ชายสิบเก้าตกใจ
ใบหน้าของไป๋ชางลังเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน เขาดูตกตะลึงไม่ต่างกัน
องค์ชายและองค์หญิงหลายคนจ้องมองการต่อสู้อย่างพูดอะไรไม่ออก ไป๋หลิงซวงขมวดคิ้ว
“ดูเหมือนว่าพวกเราต้องบอกลาไป๋ชิงเสียแล้ว เขากำลังใช้เฮเทร็ดไทม์ทูด้วยร่างกายระดับราชันขั้นแรก มันคงจะต้องใช้ความเจ้าเล่ห์อย่างมากเพื่อซ่อนพลังทั้งหมดนี้ไว้ภายในร่างกายที่พวกเราทุกคนคิดว่าเจ็บป่วยและอ่อนแอ”
หานเซิ่นไม่หลบ เขาชกหมัดช็อคกิ้งสกายอีกครั้งและหมัดของเขาก็ปะทะกับแสงเลเซอร์ของอีกฝ่าย
ปัง!
แรงระเบิดเกิดขึ้นและแสงเลเซอร์ก็ถูกบดขยี้ด้วยหมัดของหานเซิ่น
‘นั่นเป็นหมัดช็อคกิ้งสกายที่สมบูรณ์แบบ ไม่แปลกใจเลยที่พี่สิบหกเข้าใจรูปปั้นของอัลฟ่าได้สำเร็จ’ ไป๋ชิงเสียคิด เขาสะบัดฝ่ามือและครั้งนี้มันเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ มันเหมือนกับว่าเขาค่อยๆผลักภูเขาลูกหนึ่งเข้าไปใส่หานเซิ่น
“หนึ่งฝ่ามือเพื่อแบ่งแยกวัฏจักรกลางวันและกลางคืน… มันคือเฮเทร็ดไทม์ทรี!” องค์ชายคนหนึ่งตกตะลึง
ทุกคนเชื่อมาตลอดว่าไป๋ชิงเสียนั้นอ่อนแอ แต่จู่ๆเขาก็กลายเป็นคนที่มากด้วยพลังและพรสวรรค์
เฮเทร็ดไทม์เท็นเป็นวิชาที่ฝึกได้ยากมาก มีน้อยคนนักที่จะสามารถฝึกมันได้ ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่น่าตกใจที่ไป๋ชิงเสียเรียนรู้วิชานี้ และตอนนี้ร่างกายระดับราชันขั้นแรกของเขาก็สามารถใช้ฝ่ามือแยกวัฏจักรกลางวันกลางคืนอีก
“พรสวรรค์ที่น่ากลัว จิตใจที่ล้ำลึก” สายตาของราชวงศ์คนอื่นเปลี่ยนไปขณะที่พวกเขามองไปที่ไป๋ชิงเสีย พวกเขาเคยมองไป๋ชิงเสียด้วยความสงสาร แต่ตอนนี้ไม่อีกต่อไปแล้ว
ตอนที่ 2338
เมื่อเห็นไป๋ชิงเสียส่งฝ่ามือเข้ามา หานเซิ่นก็ปลดปล่อยหมัดช็อคกิ้งสกายอีกครั้ง
หานเซิ่นอยากจะใช้เทคนิคอื่น แต่ตอนนี้เขากำลังปลอมตัวเป็นไป๋อี้ และเขาก็ยังไม่มีเวลาไปเรียนรู้วิชาอื่นของเอ็กซ์ตรีมคิง เขาโชคดีที่ได้เรียนรู้วิชานี้มาจากรูปปั้นอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิง เพราะการใช้วิชาอื่นอาจจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา
หมัดช็อคกิ้งสกายเป็นเทคนิคที่สมาชิกทุกคนของเอ็กซ์ตรีมคิงเรียนรู้ และถึงมันจะเป็นแค่วิชาพื้นฐาน แต่มันก็ทรงพลังมาก มันเป็นอะไรที่บ้าบ่อถ้าจะเรียกหมัดช็อคกิ้งสกายว่าเป็นวิชาที่ไร้เทียมทาน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถต่อกรกับเทคนิคได้หลากหลายจนน่าประหลาดใจ
ปัง!
หมัดและฝ่ามือปะทะกันอีกครั้ง หมัดช็อคกิ้งสกายของหานเซิ่นป้องกันฝ่ามือของไป๋ชิงเสียเอาไว้ได้สำเร็จ ทำให้ยังไม่มีใครเป็นฝ่ายชนะ
“หมัดช็อคกิ้งสกายของไป๋อี้ป้องกันฝ่ามือแยกวัฏจักรกลางวันกลางคืนของไป๋ชิงเสียได้หรอเนี่ย? วันนี้มันแปลกจริงๆ พวกเราได้เห็นสิ่งแปลกๆหลายอย่าง”
“พวกเขาทั้งคู่เป็นระดับราชันขั้นแรกเหมือนกัน แบบนั้นหมัดช็อคกิ้งสกายจะทำลายฝ่ามือแยกวัฏจักรกลางวันกลางคืนได้ยังไง?”
“ตระกูลไป๋มีสมาชิกที่แข็งแกร่งอยู่มากมายจริงๆ องค์ชายทั้ง 2 คนไม่เคยแสดงฝีมือที่แท้จริงของพวกเขามาก่อน ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเขาทั้ง 2 จะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ พวกเขามีพรสวรรค์กันทั้งคู่ และดูเหมือนว่าการต่อสู้ระหว่างองค์ชายทั้ง 2 เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น”
…
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ไป๋ชิงเสียก็หยุดโจมตีและจ้องมองไปที่หานเซิ่น หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็พูด
“เจ้าเป็นคนที่พิเศษมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าปลุกรูปปั้นอัลฟ่าให้ตื่นขึ้นมาได้”
“เจ้าเองก็ไม่เลวเช่นกัน” หานเซิ่นยอมรับด้วยการพยักหน้า
ไป๋ชิงเสียเงยหัวขึ้น เขามองไปที่ต้นไม้กษัตริย์และพูด
“ต้นไม้กษัตริย์กำลังจะตื่นขึ้นมาแล้ว ดังนั้นพวกเราควรจะหยุดการต่อสู้เพียงเท่านี้ ถ้าเจ้ามาที่นี่เพื่อรับการคุ้มครองจากคิงอีซ แบบนั้นแล้วพวกเราก็มาตัดสินผลแพ้ชนะด้วยจำนวนพรของคิงอีซ นั่นฟังดูเป็นยังไง?”
“ข้าแค่มาที่นี่เพื่อเดินเล่น ข้าไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะได้รับพรจากคิงอีซหรือไม่” หานเซิ่นพูด
ไป๋ชิงเสียหัวเราะ “เจ้ากลัวแพ้อย่างนั้นหรอ?”
“หา? เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้ากลัวแพ้เจ้าน่ะ?” หานเซิ่นพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลง พวกเราจะตัดสินผู้ชนะจากจำนวนพรของคิงอีซ ใครก็ตามที่ได้รับพรของคิงอีซมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ” หลังจากที่พูดจบ ไป๋ชิงเสียก็กลับไปบนหัวของมังกรกษัตริย์
หานเซิ่นไม่รู้วิธีที่จะได้รับพรของคิงอีซอะไรนี่ ดังนั้นเขาจึงแกล้งทำเป็นมองไปที่ไป๋ชิงเสียด้วยสีหน้าดูถูก หลังจากนั้นเขาก็บินไปนั่งลงบนหัวของมังกรกษัตริย์อีกตัว
เมื่อเห็นไป๋ชิงเสียหลับตาลงขณะที่นั่งบนหัวของมังกรกษัตริย์ หานเซิ่นก็แกล้งทำตาม กิเลนโลหิตนั่งลงถัดไปจากเขา
“ทั้งไป๋ชิงเสียและไป๋อี้ต้องการได้การคุ้มครองจากคิงอีซ พวกเขาจะได้รับพรจากคิงอีซมากเท่าไหร่กัน”
“ในอดีตข้าคงจะคิดว่าพวกเขาโชคดีมากแล้วที่ได้รับ 1 หรือ 2 พรจากคิงอีซ แต่ตอนนี้มันยากที่จะบอกได้ พวกเขาทั้งคู่ซ่อนฝีมือที่แท้จริงมาโดยตลอด และมันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการสร้างความประทับใจต่อทุกคน พวกเขาคงจะยังซ่อนพลังส่วนใหญ่ของตัวเองเอาไว้”
“เจ้าพูดถูก ข้าไม่เคยคิดว่าก่อนว่าพวกเขาทั้ง 2 จะซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้แบบนั้น ดูเหมือนว่านี่จะเป็นยุคสมัยที่แข็งแกร่งที่สุดของเอ็กซ์ตรีมคิง”
“ยิ่งคนของราชวงศ์แข็งแกร่งมากเท่าไร การต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์ก็จะดุเดือดขึ้นตามไปด้วย ข้าไม่รู้ว่านั่นเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่”
ใบไม้ของต้นไม้กษัตริย์เริ่มเรืองแสงขึ้นมา แต่มีคนของราชวงศ์เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไปมองหามังกรกษัตริย์รากแก้วเพื่อฝึกวิชา พวกเขาส่วนใหญ่ยังคงจะมองดูหานเซิ่นกับไป๋ชิงเสีย
ทุกใบไม้บนต้นไม้กษัตริย์มีอักษรคิงอีซอยู่ และเมื่อต้นไม้กษัตริย์ตื่นขึ้น คิงอีซบนใบไม้ก็เรืองแสงสว่างไสว ภายใต้แสงของพวกมันใบไม้นั้นดูเหมือนกับทองคำ
คิงอีซนั้นเป็นโลหิตชีพจรของใบไม้ และใบไม้ทุกใบของต้นไม้กษัตริย์ก็มีโลหิตชีพจรที่แตกต่างกันออกไป เมื่อเวลาผ่านไปโลหิตชีพจรก็สว่างไสวขึ้น คิงอีซกลายเป็นสัญลักษณ์สีทองที่ส่องสว่างบนใบไม้ทองคำและแต่ละสัญลักษณ์ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
บางสัญลักษณ์ร้อนแรงราวกับไฟ บางสัญลักษณ์เหมือนกับน้ำที่ไหลเชี่ยว บางสัญลักษณ์เป็นผืนดินที่หนักอึ้งและบางสัญลักษณ์นั้นล้ำลึกราวกับเหว
ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่สามารถอ่านคิงอีซได้ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังของพวกมัน เขาสามารถเข้าใจได้ว่าพวกมันมีความหมายว่าอะไร
มันไม่ใช่เพราะว่าหานเซิ่นเก่งในการเรียนรู้ แต่มันเป็นเพราะพลังของแต่ละคิงอีซเชื่อมต่อกับสสารนั้นๆ พวกมันมีความหมายที่ลึกซึ้งมากกว่าตัวอักษรที่ขยุกขยิกจนอ่านไม่ออก หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องเรียนรู้พวกมัน เขาแค่จำเป็นต้องเห็นรูปร่างของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคิงอีซ และเขาก็จะสามารถเข้าใจถึงความหมายของพวกมัน
“โลกนี้นั้นกว้างใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างมีอยู่ที่นี่ได้ แม้แต่ใบไม้ของต้นไม้กษัตริย์ก็เชื่อมต่อกับโลกใบนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มันรวมทุกทิ้งทุกอย่าง ช่างน่ามหัศจรรย์อะไรขนาดนี้”
หานเซิ่นถอนหายใจ หลังจากนั้นเขาก็คิดกับตัวเอง ‘ถ้าเราเด็ดมันกลับเข้าไปในสหพันธ์ มันจะยังเรืองแสงอยู่ไหมนะ?’
ต้นไม้กษัตริย์ตื่นขึ้นมาและคิงอีซก็ส่องแสงสว่างไสว มังกรกษัตริย์ใกล้เคียงทะยานขึ้น หลังจากนั้นก็ดำลงไปในพื้นดิน
มังกรกษัตริย์รอบๆพวกเขาทั้งหมดพากันดำลงไปในผืนดิน หลังจากนั้นมังกรกษัตริย์ของพวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มเคลื่อนไหว แต่ทว่ามังกรกษัตริย์ของพวกเขาไม่ได้ลงไปใต้ดินเหมือนกับมังกรตัวอื่นๆ มันทะยานขึ้นสู่ด้านบนของต้นไม้แทน
หานเซิ่นไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาหันไปมองและสังเกตเห็นว่าไป๋ชิงเสียยังคงนั่งหลับตาอยู่บนหัวของมังกรกษัตริย์และปล่อยให้มันพาเขาทะยานขึ้นไป
กิ่งก้านของต้นไม้กษัตริย์เป็นเหมือนกับท้องฟ้าทองคำ และคิงอีซก็ส่องแสงระยิบระยับราวกับดวงดาวสีทอง มังกรกษัตริย์ทั้ง 2 ทะยานสูงขึ้นไปเรื่อยๆราวกับว่ามันจะพุ่งออกไปสู่อวกาศ
ถ้าคนๆหนึ่งไม่ได้มาเห็นมันด้วยตาตัวเอง มันก็เป็นอะไรที่ยากจะจิตนาการได้ถึงความสวยงามของมัน
หานเซิ่นยืนอยู่บนหัวของมังกรกษัตริย์และจ้องมองคิงอีซที่เฉิดฉาย มันเหมือนกับว่าเขาอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน
มังกรกษัตริย์ทั้ง 2 หยุดเคลื่อนที่หลังจากที่มาถึงได้ครึ่งทาง เพราะยังไงซะพวกมันก็เป็นแค่รากของต้นไม้กษัตริย์ พวกมันต้องแยกตัวเองจากต้นไม้กษัตริย์เพื่อทะยานไปไกลมากกว่านี้
ไป๋ชิงเสียลืมตาและลุกขึ้นยืน เขามองไปที่คิงอีซและพูด “คนที่อาวุโสกว่าควรเริ่มก่อน ดังนั้นเชิญเจ้าลงมือ”
“ข้าแค่ชมทิวทัศน์เท่านั้น เชิญเจ้าเริ่มก่อน” หานเซิ่นพูด
เขาไม่รู้ถึงวิธีที่จะได้รับการยินยอมและการคุ้มครองจากคิงอีซ
ไป๋ชิงเสียไม่ปฏิเสธที่จะเริ่มก่อน เขามองไปที่คิงอีซ หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มเรืองแสงสีขาวออกมา แสงสีขาวนั้นเข้มขึ้นขึ้นเรื่อยๆและมันก็ทำให้ร่างกายของไป๋ชิงเสียสว่างไสว มันดูเหมือนกับว่าเขากลายเป็นหินหยกที่โปร่งใส
“ร่างกายแห่งราชัน?” หานเซิ่นหลี่ตา ไป๋ชิงเสียยังคงยืนอยู่บนหัวของมังกรกษัตริย์ ขณะที่ร่างกายของเขาสว่างไสว มันเหมือนกับว่าทั้งร่างของเขาห่อหุ้มด้วยแสงแห่งเทพ มันไม่ใช่แค่เนื้อหนังของเขาเท่านั้น แม้แต่ผมของเขาก็ดูเหมือนกับหยก
เมื่อพลังของร่างกายแห่งราชันของไป๋ชิงเสียแพร่ขยายออกไป คิงอีซบนใบไม้ของต้นไม้กษัตริย์ก็เริ่มตอบสนอง ใบไม้เริ่มสั่นไหวราวกับว่ามันถูกพัดด้วยสายลมที่ไม่ส่งผลกระทบต่ออะไรอย่างอื่น
ตอนที่ 2339
‘อ้า มันก็แค่การเปิดใช้ร่างกายแห่งราชันเพื่อดึงดูดคิงอีซนี่เอง ฉันก็คิดว่ามันจะเป็นอะไรที่พิเศษกว่านี้ซะอีก’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด จู่ๆใบไม้ใบหนึ่งก็โดดเด่นขึ้นในหมู่ของคิงอีซนี่ที่เรืองแสงระยับระยับ คิงอีซนี่บนใบไม้ใบเรืองแสงสว่างไสวยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ หลังจากนั้นคิงอีซนี่ก็ออกจากใบไม้และตรงเข้าไปหาไป๋ชิงเสีย
ในหมู่คนที่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากระยะไกล ใครคนหนึ่งก็เริ่มตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“มันเคลื่อนไหว! คิงอีซนี่เคลื่อนไหว! มันคือตัวอักษรอะไรกัน?”
“ฝาน(璠)!” ไป๋หลิงซวงอ่านตัวอักษรนั้นออกมาดังๆ
“ฝานหรืออัญมณีที่งดงาม… ต้นไม้กษัตริย์เองก็คิดว่าองค์ชายสิบเจ็ดงดงามราวกับอัญมณี เขาเปล่งประกายดังอัญมณีและนั่นเป็นเหตุผลที่ตัวอักษรฝานลงมาหาเขา” ไป๋ชางลังพูด
ตัวอักษรฝานร่วงลงมาบนหน้าผากของไป๋ชิงเสีย มันละลายเข้าไปในเนื้อหนังของเขาราวกับเกล็ดหิมะสัมผัสกับน้ำ
เมื่อสัญลักษณ์คิงอีซนี่นั้นผสมเข้าไปในตัวไป๋ชิงเสีย ร่างกายที่น่าดึงดูดของเขาก็ดูงดงามขึ้นไปอีก ผิวของเขาเหมือนกับผิวของหยกที่งดงามไร้จุดด่างพร้อย เขาดูหนุ่มและหล่อเหลายิ่งกว่าเดิม
องค์หญิงหลายคนรู้สึกอิจฉาถึงขนาดที่ทำให้พวกเธอเกือบจะเป็นบ้า พวกเธอเองก็ต้องการตัวอักษรฝานเช่นกัน พวกเธอต้องการตัวอักษรนั้นมากกว่าอักษรคิงอีซนี่ไหนๆ
“เขาก็แค่หนุ่มรูปงามเท่านั้น” องค์ชายสิบเก้าเย้ยหยัน แต่ทว่าดวงตาของเขานั้นทรยศต่อความรู้สึกที่แท้จริง
“เขารูปงาม เขามีทุกสิ่งทุกอย่าง” องครักษ์หญิงถอนหายใจกับภาพที่เห็น เธอไม่สามารถละสายตาไปจากใบหน้าของไป๋ชิงเสียได้
เมื่อตัวอักษรฝานรวมเข้ากับร่างกายของไป๋ชิงเสียเรียบร้อยแล้ว ใบไม้อีกใบก็ปะทุด้วยแสงสว่าง สัญลักษณ์ที่ 2 บินลงมาบนหน้าผากของไป๋ชิงเสียอีกครั้ง
หานเซิ่นมองคิงอีซนี่ที่ร่วงลงมา คิงอีซนี่นั้นส่องสว่าง แต่มันไม่ได้สว่างไสวอย่างเจิดจ้า มันดูเล็กมากๆและมันคงจะนำความสบายใจมาสู่ผู้คนที่ติดอยู่ท่างกลางมรสุม
“อิ่น(隐)!” หานเซิ่นไม่เคยเห็นสัญลักษณ์นั้นมาก่อน แต่เขาสามารถเข้าใจถึงความหมายของมันได้
ไป๋ชิงเสียเห็นอักษรอิ่นผสานเข้าไปในร่างกายของเขา แสงที่เหมือนกับหยกของเขาดับลงไป เขาดูเหมือนกับบุคคลจากสรวงสวรรค์ที่ตกลงมายังผืนดินและกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาคนหนึ่ง
แต่ทว่าเมื่อมองดูเขาดีๆแล้ว มันจะนำไปสู่บทสรุปที่ต่างออกไป มันเหมือนกับว่าเขาเป็นหยกที่ซ่อนอยู่ในเม็ดทรายที่รอถูกขุดขึ้นมา เมื่อถูกขุดขึ้นมาแล้ว เขาก็ดูงดงามอย่างไร้ที่ติ
“อักษรอิ่นเหมาะสมกับเขา ไป๋ชิงเสียนั้นซ่อนความสามารถที่แท้จริงของตัวเองมานานหลายปี และในวันนี้เขาก็เริ่มจะประทับใจผู้คน เขาคู่ควรต่อตัวอักษรอิ่น”
ไป๋หลิงซวงถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าพวกเราจะมีคู่แข่งเพิ่มอีกคน”
เมื่ออักษรนั้นหายไปแล้ว สัญลักษณ์คิงอีซนี่ต่อไปก็ร่วงลงมาจากใบไม้ของต้นไม้กษัตริย์ สัญลักษณ์นี้เป็นเหมือนกับไฟ และมันเคลื่อนไหวอย่างดุร้ายมาตามทาง ดูเหมือนกับว่ามันสามารถเมินเฉยต่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้
“อาว(傲)” หานเซิ่นอ่านตัวอักษรนั้น
องค์ชายสิบเก้าหัวเราะออกมา “Sick Beautyซ่อนความสามารถที่แท้จริงมาหลายปี ถึงแม้ผู้คนจะดูหมิ่นและเย้ยหยันเขา เขาก็ไม่เคยพูดอะไรสักคำ แบบนั้นเขาคู่ควรกับอักษรอาวจริงๆอย่างนั้นหรอ? ข้าเริ่มจะสงสัยความสามารถในการสัมผัสความเป็นจริงของต้นไม้กษัตริย์ขึ้นมาแล้ว”
“อักษรอาวไม่ได้หมายความว่าบ้า บ้าเป็นบางสิ่งที่อยู่ภายนอก ขณะที่อักษรอาวเป็นสิ่งที่อยู่ภายใน อักษรอาวนี้อยู่ในกระดูกและหัวใจ ไป๋ชิงเสียถูกดูหมิ่นมาหลายปี แต่เขาก็ไม่เคยละทิ้งความต้องการจะชนะไป เขาเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาคู่ควรกับอักษรอาวอย่างไม่ต้องสงสัย” ไป๋ชางลังพูดพร้อมกับส่ายหัว
องค์ชายสิบเก้าเย้นหยัน “ฝาน อิ่นและอาว นั่นถือว่าไม่เลว แต่อักษรทั้ง 3 นั้นไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณสมบัติของกษัตริย์ มันไม่เหมือนกับอักษรจวิน(君) ฮว๋าง(皇)หรือซือ(师) อักษรทั้ง 3 ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก ข้าไม่คิดว่าท่านพ่อจะเห็นชอบกับพวกมัน”
ไป๋ชางลังมองไปที่องค์ชายสิบเก้า เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ใบหน้าของเขาแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างเงียบๆ
อักษรอาวหล่นลงบนหน้าผากของไป๋ชิงเสียและรวมเข้ากับร่างกายของเขา มันเปลี่ยนแปลงร่างกายของเขา
หานเซิ่นมองดูด้วยความสนใจและคิดกับตัวเอง ‘สัญลักษณ์คิงอีซนี่พวกนี้ค่อนข้างทรงพลัง พวกมันเปลี่ยนแปลงยีน ร่างกายและสัมผัสของคนนั้นๆ พวกมันส่งผลแม้แต่จิตใจของคนๆนั้น นั่นเป็นอะไรที่มหัศจรรย์จริงๆ ถ้าเราได้รับสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับไฟ ความเชี่ยวชาญในธาตุไฟของเราก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทุกตัวอักษรเป็นอะไรที่มีประโยชน์และยิ่งได้รับมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี’
แต่ทว่าความคิดต่อไปของหานเซิ่นก็ทำให้เขารู้สึกหดหู่ อักษรบนต้นไม้กษัตริย์ตอบสนองต่อร่างกายแห่งราชันของพวกเขา หานเซิ่นขโมยร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ของไป๋อี้มา ดังนั้นถ้าเขาจะใช้ร่างกายนั้นเพื่อรับคิงอีซนี่ เขาก็คงจะได้รับอักษรธาตุน้ำ แต่ตัวหานเซิ่นไม่ได้สนใจในธาตุน้ำ เขาคิดว่าแบบนั้นการได้รับอักษรฝานที่ทำให้เขาหล่อเหลาขึ้นยังจะดีซะกว่า
หลังจากอักษรอาว อีกสัญลักษณ์หนึ่งก็หล่งลงมา อักษรนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ซึ่งหานเซิ่นสามารถบอกได้ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเห็นมันชัดๆซะอีก เพียงแค่ความรู้สึกเกลียดชังรอบๆ มันก็เพียงพอที่จะทำให้หานเซิ่นรู้ว่านั่นคือตัวอักษรเฮิ่น(恨)
เมื่อเห็นตัวอักษรนั้น คนอื่นๆก็ดูค่อนข้างสนใจ
“น่าสนใจ ไป๋ชิงเสียมีความเกลียดชังอยู่เต็มหัวใจ ใครกันที่เขาเกลียดชัง? นี่เขาเกลียดชังความไม่ยุติธรรมอย่างนั้นหรอ? หรือบางทีเขาอาจจะเกลียดชังคนที่เคยรังแกเขา?”
คุณหญิงมิร์เรอร์เห็นอักษรเฮิ่นและยิ้มออกมา เธอดูสนใจในตัวอักษรนั้นเป็นอย่างมาก
หลังจากอักษรเฮิ่น ตัวอักษรอีกตัวก็ร่วงลงมา มันอ่านได้ว่าซาน(山) นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ ไม่ว่าพลังแบบไหนที่ไป๋ชิงเสียซ่อนเอาไว้ เขาก็ดูไม่เหมือนขุนเขาที่แข็งแกร่ง
สัญลักษณ์คิงอีซนี่ยังคงร่วงหล่นลงมาเรื่อยๆ และตอนนี้ไป๋ชิงเสียก็ได้รับไปถึง 8 ตัวอักษรแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นต้นไม้กษัตริย์ก็ยังคงไม่หยุดและสัญลักษณ์คิงอีซนี่ก็ร่วงออกมาจากใบไม้เพิ่มอีก
นี่เป็นอักษรตัวที่ 9 ไป๋ชิงเสียกำลังทำให้ทุกคนตกตะลึง องค์ชายและองค์หญิงทุกคนมองดูด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ไม่ว่าตัวอักษรที่ 9 จะคืออะไร มันก็พิสูจน์ให้เห็นว่าไป๋ชิงเสียนั้นเป็นคนที่มีพรสวรรค์
ถ้าอักษรตัวที่ก้าวเป็นแค่อักษรคิงอีซ อย่างนั้นมันก็จะพิสูจน์ว่าเขาเป็นบุคคลที่ชั่วร้าย อย่างนั้นเขาก็จะไม่สามารถเป็นผู้นำของเอ็กซ์ตรีมคิงได้
หลังจากอักษรตัวที่เก้ารวมเข้ากับไป๋ชิงเสีย ใบไม้ของต้นไม้กษัตริย์อีกใบก็ส่องสว่างขึ้นราวกับดวงอาทิตย์
“อักษรตัวที่สิบ… มันคืออักษรตัวที่สิบ!” ทุกคนตกตะลึงไป การได้รับการยอมรับจากต้นไม้กษัตริย์ 9 ครั้งถือเป็นอะไรที่สุดยอดแล้ว แต่ตอนนี้ไป๋ชิงเสียกำลังจะได้รับอักษรตัวที่ 10 นี่ถือว่าหาได้ยากมากๆ และตอนนี้ทุกคนก็มองไป๋ชิงเสียต่างไปจากเดิม
ตอนที่ 2340
“อ้า น่าสนใจอะไรขนาดนี้” คุณหญิงมิร์เรอร์เอนตัวเข้าไปใกล้กระจกขณะที่สัญลักษณ์ถัดไปร่วงลงมา
หานเซิ่นรู้สึกสับสน ในตอนแรกเขาคิดว่าต้นไม้กษัตริย์จะมอบอักษรที่ไปพัฒนายีนของชิงเสีย แต่เมื่อเห็นอย่างนี้มันก็ดูเหมือนกับว่าเขาจะเข้าใจผิดไป
เมื่อคำว่าชั่วร้ายเข้าไปในตัวไป๋ชิงเสีย ร่างกายของไป๋ชิงเสียก็เริ่มดูชั่วร้ายขึ้นมา ซึ่งมันขัดกับสไตล์ของเขาอย่างชัดเจน
“ดูเหมือนว่าต้นไม้กษัตริย์จะค้นหาสิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับไป๋ชิงเสีย ไม่ว่าสิ่งนั้นที่ซ่อนอยู่ในตัวของเขาจะเป็นสิ่งดีหรือร้าย ต้นไม้ก็จะทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น แม้แต่ข้อบกพร่องของคนๆนั้นก็จะถูกทำให้เด่นชัดขึ้นมา”
ตอนนี้หานเซิ่นเริ่มเข้าใจถึงการมอบแต่ละอักษรของต้นไม้กษัตริย์
เมื่อเห็นคำว่าชั่วร้ายปรากฏขึ้นมา คนของราชวงศ์คนอื่นก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรมากนัก เพราะคนของราชวงศ์หลายคนก็ได้รับสัญลักษณ์แบบเดียวกัน และถึงอย่างนั้นพวกเขาก็สามารถขึ้นเป็นกษัตริย์ได้ ดังนั้นมันจึงไม่สำคัญอะไร
หลังจากที่คำว่าชั่วร้ายเข้าไปในร่างของไป๋ชิงเสีย ใบไม้ของต้นไม้กษัตริย์ก็ยังคงส่องสว่าง สัญลักษณ์คิงอิซอีกหนึ่งตัวร่วงลงมาจากต้นไม้ มันตรงไปที่หน้าผากของไป๋ชิงเสียอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเห็นอักษรตัวนั้น ไป๋หลิงซวงตกตะลึงและพูด “นี่(逆)”
ไป๋หลิงซวงไม่ใช่แค่คนเดียวที่มีปฏิกิริยาแบบนั้น แม้แต่คุณหญิงมิร์เรอร์ที่ใช้กระจกเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ลุกขึ้นยืน ดวงตาของเธอเบิกกว้างและจ้องตัวอักษรที่หมายถึงการทรยศ
อักษรนี่ไม่ได้มีออร่าหรือบรรยากาศที่น่าตกใจอะไร มันแทบจะไม่เรืองแสงด้วยซ้ำ แสงอ่อนๆของมันดูเหมือนกับว่าสามารถดับลงได้ทุกเมื่อ
แต่อักษรนั้นทำให้องค์ชายและองค์หญิงทุกคนตกตะลึง พวกเขาไม่ได้ตกใจที่ไป๋ชิงเสียได้รับคิงอิซที่ 11 แต่พวกเขาตกใจกับอักษรที่หมายถึงการทรยศ
มันมีสัญลักษณ์คิงอิซอยู่นับไม่ถ้วน อักษรแต่ละตัวที่หล่นลงมาจะแสดงถึงพรสวรรค์ของคนที่ได้รับพวกมัน แต่สัญลักษณ์คิงอิซแต่ละตัวจะหมายถึงสิ่งที่ต่างกันออกไป
มันบอกไม่ได้ว่าอักษรไหนดีหรือร้าย แต่บางอักษรถูกพิสูจน์ถึงความยอดเยี่ยมของมันผ่านประวัติศาสตร์ของบุคคลที่เคยได้รับมันไป
หนึ่งในอักษรที่ว่านั้นก็คือคำว่าการทรยศ ราชาเหวินกษัตริย์องค์ที่ 2 ของเอ็กซ์ตรีมได้รับอักษรที่ว่านี้ไป
และนั่นเป็นเพียงตัวอักษรเดียวที่เขาได้รับ ซึ่งเมื่อเทียบกับราชวงศ์คนอื่นแล้ว เขาถือว่าอยู่รั้งท้าย แต่ถึงอย่างนั้นราชาเหวินก็เอาชนะราชวงศ์ที่มากพรสวรรค์คนอื่นทั้งหมดและขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 ของเอ็กซ์ตรีมคิงได้สำเร็จ เขายังกลายเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอ็กซ์ตรีมคิงด้วย
ในยุคสมัยนั้นมันมีองค์ชายที่เป็นอัจฉริยะซึ่งได้รับตัวอักษรถึง 21 ตัว แต่เขาพ่ายแพ้ให้กับราชาเหวินที่ได้รับตัวอักษรเพียงแค่ตัวเดียว
หลังจากราชาเหวิน มันก็มีกษัตริย์มากกว่า 70 องค์ และยังองค์ชายและองค์หญิงอีกนับไม่ถ้วน แต่มันไม่มีใครที่ได้รับคำว่าการทรยศนี้
แต่ในตอนนี้ไป๋ชิงเสียได้รับตัวอักษรนั้น ซึ่งมันทำให้ราชวงศ์คนอื่นรู้สึกตกใจ ตัวอักษรนั้นพิสูจน์ว่าไป๋ชิงเสียเป็นคนที่พิเศษจริงๆ แถมเขายังได้รับตัวอักษรก่อนหน้านี้อีก 10 ตัว
ทุกคนตกตะลึง พวกเขาอ้าปากค้างขณะมองไปที่ไป๋ชิงเสีย พวกเขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
“เขาเก็บตัวเงียบมายตลอด แต่ตอนนี้เขาทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง องค์ชายสิบเจ็ดจะมีชื่อเสียงไปทั่วจักรวาล” หนึ่งในราชองครักษ์ถอนหายใจ
หลังจากคำว่าการทรยศ มันไม่มีสัญลักษณ์คิงอิซลงมาเพิ่มอีก พลังของไป๋ชิงเสียมัวลงไป เขาหยุดใช้ร่างกายแห่งราชันและหันมาพูดกับหานเซิ่น
“พี่สิบหก! ข้าได้รับอักษร 11 ตัว ตอนนี้มันถึงตาเจ้าแล้ว”
“ร่างกายแห่งราชันของเจ้ามีชื่อว่าอะไร?” หานเซิ่นมองชายคนนั้นด้วยท่าทางหยิ่งผยอง เขารู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้
“ร่างกายแห่งราชันเก็นโซ” ไป๋ชิงเสียพูดอย่างสงบนิ่ง เขาไม่ได้ตอบสนองต่อการยั่วยุของหานเซิ่น
“ร่างกายแห่งราชันเก็นโซของเจ้าคงจะไม่เลว ถ้ามันได้รับคิงอิซถึง 11 ตัว” หานเซิ่นพูดราวกับว่าเขาพยายามที่จะปลอบโยนอีกฝ่าย
“ฮ่า! เขาหยิ่งยโสจริงๆ ถ้าเขาไม่ได้รับตัวอักษรสักตัว แบบนั้นเขาจะทำยังไง?”
หลังจากที่ได้ยินหานเซิ่นพูดแบบนั้น คุณหญิงมิร์เรอร์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
องค์ชายและองค์หญิงทุกคนต่างก็ตกใจที่ได้ยินแบบนั้น ถึงแม้พวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าไป๋อี้เป็นคนที่อวดดี แต่พวกเขาไม่รู้ว่าความอวดดีของไป๋อี้จะมาพร้อมกับความโง่เขลาที่มากถึงขนาดนี้
“นี่เขาไม่รู้หรือไงว่าสัญลักษณ์คิงอิซถึง 11 ตัวมันหมายถึงอะไร? นี่เขาไม่รู้ถึงความหมายของคำว่าการทรยศอย่างนั้นหรอ?” องค์ชายสิบเก้าอยากจะเอามือปิดหน้าตัวเองด้วยความรู้สึกอายแทน
ไป๋ชางลังหัวเราะ “น้องสิบหกอารมณ์แปรปรวน เขาคงจะต้องป่วยเป็นโรคไบโพล่าร์แน่ๆ เขาไม่เคยมีโอกาสได้เป็นคนสำคัญของใคร ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะไม่รู้ว่าคำว่าการทรยศหมายถึงอะไร แต่ไม่ว่าเขาจะโง่ถึงขนาดไหน เขาก็ควรจะรู้ว่าคิงอิซถึง 11 ตัวหมายความว่ายังไง เขาคงจะแค่ทำตัวดันทุรัง”
“ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าเขาปลุกรูปปั้นของอัลฟ่าให้ตื่นขึ้นมาได้ยังไง” องค์ชายสิบเก้ายังคงค้างคาใจ
องค์ชายสิบเก้าเคยเข้าไปในพาวิลเลี่ยนอยู่หลายครั้ง เขาอยากจะไปที่นั่นจนกระทั่งเขาเข้าใจรูปปั้นของอัลฟ่าได้ แต่เขาล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่สามารถทำใจให้เชื่อได้ว่ารูปปั้นของอัลฟ่าจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาโดยไป๋อี้
“มาดูสิว่าเขาจะได้รับคิงอิซสักกี่ตัว มันจะเป็นอะไรที่น่าขำถ้าเขาไม่ได้รับเลยสักตัว”
“มันยากที่จะบอกได้ เพราะยังไงซะเขาก็เข้าใจรูปปั้นของอัลฟ่าได้สำเร็จ มันไม่มีทางที่เขาจะไม่ได้รับอักษรเลยสักตัว”
“ใครจะรู้? บางทีที่เขาปลุกรูปปั้นของอัลฟ่าได้อาจจะเป็นแค่โชคล้วนๆก็ได้”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าเขาจะได้รับคำว่าโชคอย่างนั้นหรอ?”
“บางที”
ทุกคนมองดูอย่างใจจดใจจ่อ หานเซิ่นมองขึ้นไปที่ต้นไม้ที่ดูเหมือนกับท้องฟ้าสีทอง เขามองไปที่สัญลักษณ์คิงอิซขณะที่พึมพำกับตัวเอง
“มอบคำว่าผู้ชายที่งดงาม… ผู้ชายที่หล่อเหลาให้กับข้า… ข้าไม่ต้องการอะไรมาก… ด้วยใบหน้าของข้า… ข้าควรที่จะได้รับตัวอักษรฝานเหมือนกับที่ไป๋ชิงเสียได้รับ”
ในขณะที่พึมพำ หานเซิ่นก็เปิดใช้งานร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ ร่างกายของเขากลายเป็นหยดน้ำ แม้แต่ชุดเกราะของเขาก็กลายเป็นน้ำเช่นกัน เขาเป็นเหมือนกับมนุษย์น้ำที่ยืนอยู่บนหัวของมังกรขณะที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ไป๋อี้เป็นคนที่อารมณ์เสียได้ง่ายๆ เขามักจะเริ่มการทะเลาะวิวาทอยู่บ่อยครั้ง ทุกคนจึงเคยเห็นร่างกายแห่งราชันออริจินอลของเขามาก่อน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่อะไรที่น่าประหลาดใจ
เมื่อเทียบกับร่างกายแห่งราชันเก็นโซของไป๋ชิงเสีย ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ไม่ได้ถือว่าแย่อะไร แต่ธาตุน้ำนั้นอ่อนแอและเหมาะสมกับความสามารถในการรักษามากกว่า
แต่ไป๋อี้เป็นคนที่อารมณ์ร้าย เขาไม่ต้องการเรียนรู้วิชาจีโนที่มีพลังในการรักษา เขาฝืนตัวเองเพื่อฝึกฝนวิชาธาตุน้ำที่มีพลังทำล้ายล้างสูงแทน ซึ่งในหมู่องค์ชายระดับราชันทั้งหมด เขาถูกจัดอยู่ในระดับปานกลางถึงระดับล่าง เพราะอย่างนั้นคนของราชวงศ์หลายคนจึงคิดว่าร่างกายแห่งราชันของเขาเป็นอะไรที่ค่อนข้างอ่อนแอ
แต่ในความจริงแล้วร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าร่างกายแห่งราชันเก็นโซมากนัก ไป๋อี้แค่ใช้มันได้ไม่ดีเท่านั้นเอง
หานเซิ่นเปิดใช้ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ และร่างกายของเขาก็ปลดปล่อยแสงแห่งเทพออกมา มันเชื่อมต่อกับต้นไม้กษัตริย์ หลังจากนั้นใบไม้ก็เริ่มสั่นไหวและท่ามกลางแสงสีทองของพวกมัน ใบไม้ใบหนึ่งก็ส่องสว่างออกมา สัญลักษณ์นั้นเป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ร่วงลงมา มันตรงเข้าไปหาหานเซิ่น
ตัวอักษรนั้นเปียกแฉะและดูเหมือนกับน้ำที่ลอยลงมา มันให้ความรู้สึกเหมือนกับคลื่นที่น่ากลัวท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำ มันคือตัวอักษรสุ่ย(水)
หานเซิ่นได้รับตัวอักษรที่หมายถึงน้ำ นั่นอยู่ในความคาดหมายของทุกคน เพราะไป๋อี้มีร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ มันจะเป็นอะไรที่แปลกถ้าเขาไม่ได้รับคำว่าน้ำ
‘มันก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย’ หานเซิ่นคิดขณะที่รอให้ตัวอักษรหล่นลงมาและสัมผัสกับหน้าผากของเขา
แต่ในจังหวะที่คำว่าน้ำกำลังจะสัมผัสกับหน้าผากของหานเซิ่น ตัวอักษรนั้นก็หยุดนิ่งไปเหนือหน้าผากของเขาหนึ่งเซนติเมตร
ตอนที่ 2341
ทุกคนอึ้งไป พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หานเซิ่นรู้สึกเจ็บแสบในหัว เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวอักษรคำว่าน้ำถึงหยุดอยู่เหนือหัวของเขา
วินาทีต่อมา สัญลักษณ์คิงอิซบนหน้าผากของหานเซิ่นก็พุ่งออกไปราวกับลูกปืนใหญ่ มันพุ่งกลับขึ้นไปบนท้องฟ้าและหายเข้าไปในใบไม้ด้านบนของต้นไม้กษัตริย์
“นี่มันอะไรกัน?” หานเซิ่นอึ้งไป
ทุกคนในสวนของกษัตริย์ยืนนิ่งราวกับก้อนหิน พวกเขาคิดว่าต้องตาฝาดไปแน่ๆ ดวงตาของพวกเขาทุกคนเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ต้นไม้กษัตริย์ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของดินแดนเอ็กซ์ตรีมคิงมานานกว่าพันล้านปี แต่มันไม่เคยมีสัญลักษณ์คิงอิซไหนที่เห็นผู้รับและรีบกลับไป
“ฮ่าๆ! นี่มันตลกจริงๆ! ข้าหัวเราะหนักเกินไปแล้ว! พี่สิบหกเป็นคนตลกจริงๆ สัญลักษณ์คิงอิซที่หล่นลงมาหนีจากเงื้อมมือของเขา” องค์ชายสิบเก้าหัวเราะหนักจนน้ำตาไหลออกมา
คิงอิซคำว่าน้ำดูเหมือนกับผู้ชายบ้ากามที่เห็นผู้หญิงเซ็กซี่ มันรีบไล่ตามผู้หญิงคนนั้น แต่เมื่อมันเข้ามาใกล้พอที่จะเห็นใบหน้าของเธอ มันก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่ากระต่ายตัวไหนๆ
“นี่…มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ไป๋หลิงซวงแปลกมต เธอไม่รู้เลยว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น
คุณหญิงมิร์เรอร์หลี่ตา “ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่ไป๋อี้ตัวจริง คิงอิซคำว่าน้ำถูกดึงดูดด้วยร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ แต่มันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติเลยตัดสินใจหนีกลับไป ตอนนี้ข้าแน่ใจแล้วว่าเขาก็คือหานเซิ่น”
“นี่มันอะไรกัน? คิงอิซที่ร่วงลงมาหนีกลับไปได้อย่างนั้นหรอ?”
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าไม่เคยเห็นอะไรเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน”
“องค์ชายสิบหกควรจะอับอายกับเรื่องนั้น เขาดูเหมือนกับเป็ดย่างที่คิดว่าตัวเองยังบินขึ้นได้”
“ฮ่าๆ! เขาคงจะเป็นคนแรกของเอ็กซ์ตรีมคิงที่ถูกคิงอิซวิ่งหนีไปแบบนั้น”
องค์ชาย องค์หญิงและเหล่าราชองครักษ์ต่างก็พากันหัวเราะออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นอะไรแบบนี้
หานเซิ่นคิด ‘นี่ต้นไม้กษัตริย์สังเกตว่าร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ไม่ใช่ของเราจริงๆอย่างนั้นหรอ? นั่นคือเหตุผลที่สัญลักษณ์หนีกลับไปอย่างนั้นใช่ไหม? ถ้าเป็นอย่างนั้นผู้คนก็อาจจะเริ่มสงสัยตัวตนที่แท้จริงของเรา โชคร้ายจริงๆ ถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันก็คงจะไม่ทำอะไรอย่างนี้’
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จู่ๆด้านบนของต้นไม้กษัตริย์ก็ส่องสว่างขึ้นอีก
ใบไม้ของต้นไม้กษัตริย์สว่างไสวขึ้นมาและสัญลักษณ์คิงอิซอีกตัวก็ร่วงลงมาราวกับดวงอาทิตย์ มันร่วงลงมาจากด้านบนของต้นไม้และบินลงไปหาหน้าผากของหานเซิ่น
“มาเร็ว! มาเร็วๆเข้า! รีบมาเร็วเข้า!”
หานเซิ่นร้องขอในใจ ถ้าครั้งนี้เกิดความผิดพลาดอีกครั้ง ทุกคนก็จะรู้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติกับเขา
สัญลักษณ์คิงอิซร่วงลงมาและหานเซิ่นก็เห็นมันได้อย่างชัดเจน นั่นเป็นตัวอักษรที่แข็งอย่างมาก มันเป็นเหมือนกับหินที่ทำขึ้นมาเมื่อพันล้านปีก่อน มันเป็นตัวอักษร‘จี(基)’
‘นั่นมันเกย์ ทำไมฉันถึงได้ตัวอักษรแบบนี้? ไม่ ไม่นะ ฉันไม่ใช่เกย์สักหน่อย… มันคงจะต้องหมายถึงยีนหรือฐาน… มันจะต้องเป็น… มันจะต้องเป็น…’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
จริงๆแล้วในตอนนี้หานเซิ่นไม่สนใจว่ามันจะเป็นคำว่าอะไร ตราบใดที่เขาได้รับตัวอักษรสักตัว
ตอนนี้ทุกคนจับจ้องไปที่หานเซิ่นและพยายามดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป บางคนหวังในใจว่าสัญลักษณ์คิงอิซจะหนีกลับไปอีกครั้ง
ไม่นานตัวอักษรก็หล่นมาถึงหัวของหานเซิ่น ทุกคนกลั้นลมหายใจ พวกเขายื่นคอของตัวเองเพื่อมองหัวของหานเซิ่นและตัวอักษรจีนั่นชัดๆ พวกเขาอยากเห็นว่ามันจะละลายเข้าไปในตัวของหานเซิ่นหรือเปล่า
“เร็วๆเข้า! รีบลงมาเร็ว! อย่าทำให้สถานการณ์ต้องแย่ไปกว่านี้!”
หานเซิ่นรู้สึกร้อนรน เขาอยากจะยื่นมือออกไปจับตัวอักษรนั้นมายัดเข้าปากและกลืนมันลงไป แต่น่าเสียดายที่การจับสัญลักษณ์คิงอิซนั้นเป็นไปไม่ได้
หานเซิ่นภาวนาในใจ แต่ทว่าตัวอักษรจีก็หยุดห่างจากหน้าผากของหานเซิ่นไปในหนึ่งเซนติเมตรอีกครั้ง มันไม่ลงมาสัมผัสกับร่างกายของเขา
“เวรเอ้ย! มันเล่นกับจิตใจของเราอีกแล้ว” หานเซิ่นอยากจะร้องไห้
“มันหยุด… มันหยุดไป…” บางคนพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
ตอนนี้องค์ชายสิบหกกำลังมีชื่อเสียงจริงๆแล้ว เขาเป็นคนแรกที่ถูกทอดทิ้งโดยคิงอิซ
“ฮ่าๆๆ! นี่มันตลกจริงๆ”
“ว่าแต่ทำไมคิงอิซถึงไม่ละลายเข้าไปในร่างของพี่สิบหกกันแน่?”
พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น แต่ตอนนี้พวกเขาได้รู้แล้ว
ไป๋ชิงเสียที่อยู่ใกล้กับหานเซิ่นที่สุดในตอนนี้เองก็สับสนเช่นกัน เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหานเซิ่นกันแน่
“หา? นั่นแปลกจริงๆ อักษรจีหยุดไปก็จริง แต่มันไม่ได้หนีกลับไป” บางคนพูดขึ้นมา
ตัวอักษรจีหยุดนิ่งไป แต่มันไม่ได้หนีไปเหมือนกับคิงอิซคำว่าน้ำ มันลอยอยู่เหนือหัวของหานเซิ่นราวกับภาพที่ถูกหยุด
“นี่มันอะไรกัน? ถ้าพวกเจ้าจะลงมา ก็รีบลงมา! ไม่อย่างนั้นก็จากไปเถอะ พวกเจ้าจะมาทำอะไรครึ่งๆกลางๆแบบนี้ไม่ได้ นี่พวกเจ้าพยายามจะทำให้ข้ากลัวอย่างนั้นหรอ? อะไรก็ตามที่พวกเจ้าต้องการทำก็รีบทำให้มันจบๆไป” หานเซิ่นกรอกตาและจ้องมองไปที่อักษรจี เขารู้สึกเป็นกังวล
หานเซิ่นคิดว่าช่วงนี้เขาดวงซวยสุดๆ ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เขาหวังเอาไว้ ก่อนหน้านี้เขาดึงความสนใจมากเกินไปจากเหตุการณ์ในพาวิลเลี่ยน และตอนนี้เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้กับเขาอีก เขาอาจจะตกเป็นที่ต้องสงสัย
“ต่อไปข้าจะเป็นคนที่ซื่อตรง ข้าจะไม่ปลอมตัวเองเป็นใครคนอื่นอีกแล้ว”
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ ตัวอักษรจีไม่เคลื่อนไหว มันไม่ลงมาและมันก็ไม่กลับขึ้นไป มันแค่ลอยอยู่ตรงนั้น
ทุกคนรู้สึกสับสน แต่ทันใดนั้นด้านบนต้นไม้กษัตริย์ก็ส่องสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้ใบไม้หลายใบส่องสว่างขึ้นพร้อมๆกันเหมือนกับดวงอาทิตย์
เหล่าดวงอาทิตย์เริ่มหล่นลงมาราวกับฝนดาวตก คิงอิซมากมายร่วงลงมาจากต้นไม้กษัตริย์และพวกมันทั้งหมดก็ตรงเข้าไปหาหานเซิ่นอย่างพร้อมเพรียง
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?” เมื่อเห็นสัญลักษณ์คิงอิซทั้งหมดบินออกมาพร้อมกัน หานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาจะกระโดดออกมาจากอก
คนของราชวงศ์และราชองครักษ์ทุกคนเบิกตากว้าง พวกเขาแข็งทื่อไปด้วยความตกตะลึง
ตอนที่ 2342
“อย่าทำแบบนี้! ข้าต้องการคิงอีซแค่ 2 ตัว ไม่สิ แค่ตัวเดียวก็พอ พวกเจ้าทำแบบนั้นได้ไหม?” หานเซิ่นรู้สึกว่าระบบประสาทที่บอบบางของเขาไม่สามารถทนต่อการทรมานนี้ได้อีกต่อไป
นี่เป็นอะไรที่ทดสอบการทำงานของหัวใจของเขา โชคดีที่เขาไม่ได้มีโรคหัวใจอะไร ไม่อย่างนั้นนี่ก็คงจะทำให้เขาหัวใจวายไปแล้ว
สัญลักษณ์คิงอีซฝูงใหญ่ร่วงลงมาจากต้นไม้ มันเป็นอะไรที่ยากจะอธิบายได้ พวกมันเป็นเหมือนกับฝนดาวตกสีทอง มันเหมือนกับว่ากำลังมีลูกอ๊อดสีทองจำนวนมากแห่กันเข้าไปหาหานเซิ่น
ดวงตาขวาของหานเซิ่นเรืองแสงขึ้นมา 4 ตาดำของวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเริ่มหมุนวนขณะที่มองคิงอีซบนท้องฟ้า
มันมีสัญลักษณ์คิงอีซอยู่เป็นจำนวนมาก และถ้าพวกมันเข้าไปในร่างกายของเขาทั้งหมด หานเซิ่นก็คิดว่าร่างกายของเขาอาจจะระเบิด
มันไม่สำคัญว่าหอยเป๋าฮื้อจะอร่อยสักแค่ไหน เขาจะท้องแตกตายอยู่ดี ถ้าเขากินพวกมันมากเกินไป ด้วยสัญลักษณ์คิงอีซมากมายที่ร่วงลงมาจากต้นไม้พร้อมๆกัน มันจะไม่ใช่แค่ท้องของเขาเท่านั้นที่จะแตก ทั้งร่างของเขาจะต้องระเบิดอย่างแน่นอน
ด้วยการใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วง หานเซิ่นเห็นว่าแต่ละสัญลักษณ์คิงอีซประกอบด้วยห่วงโซ่สสารลึกลับอย่างหนึ่ง
แต่ละคิงอีซมีพลังงานของธาตุๆหนึ่งที่ประกอบเป็นห่วงโซ่สสารของพวกมัน มันไม่ได้มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตัวสัญลักษณ์คิงอีซที่ร่วงลงมา
ทันใดนั้นหานเซิ่นก็อึ้งไป เขาสังเกตเห็นบางสิ่งที่ไม่ปกติ และทำให้หัวใจของเขาเกือบจะหยุดเต้น
นอกจากอักษรจีตัวแรกแล้ว คิงอีซตัวอื่นร่วงลงมาด้วยความเร็วที่แตกต่างกันออกไป
เมื่อดูจากความเร็วที่พวกมันร่วงลงมาแล้ว มันจะเริ่มด้วยตัวอักษรจี หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น
“เรื่องราว… ของ… ยีน…” หานเซิ่นอ่านคิงอีซที่ร่วงลงมาตามลำดับ อักษร 4 ตัวแรกสามารถอ่านได้ว่า‘เรื่องราวของยีน’
“นั่นเป็นแค่เรื่องบังเอิญอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นไม่คิดว่าเรื่องบังเอิญแบบนี้จะเป็นไปได้
มันมีหลายสิ่งในโลกที่ดูเหมือนกับเรื่องบังเอิญ แต่เรื่องบังเอิญจริงๆแล้วสัมพันธ์กัน แต่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีข้อมูลพอที่จะเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างมั่วๆได้
หานเซิ่นอยากจะมองดูมากกว่านั้น แต่มันสายเกินไปแล้ว ตัวอักษรจีร่วงลงบนหน้าผากและกำลังผสานเข้าไปในตัวของเขา
บางสิ่งที่อัดแน่นเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น มันเหมือนกับว่าความโกรธภายในตัวของหานเซิ่นถูกขจัดไปจนหมดสิ้น มันเหมือนกับว่าเขาถูกควบแน่นมาเป็นเวลากว่าล้านปี และตอนนี้ร่างกายเขาก็ดูอัดแน่นมากๆ
สัญลักษณ์คิงอีซทั้งหมดพุ่งเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น และเพราะพวกมันมีกันอยู่มากเกินไป พวกมันส่วนใหญ่จึงไม่สามารถเข้าไปในร่างกายของเขาผ่านทางหน้าผากได้ พวกมันจึงพุ่งเข้าจากส่วนอื่นๆตามร่างกายของหานเซิ่นแทน
เหล่าสัญลักษณ์คิงอีซเป็นเหมือนกับฝนดาวตก และพวกมันก็พุ่งตรงเข้าไปที่หานเซิ่น ตัวตนของเขาจึงเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากคิงอีซเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างไม่หยุด
ขณะที่หานเซิ่นจมอยู่ภายใต้สัญลักษณ์คิงอีซที่เจิดจ้า คนอื่นๆเงียบสนิท ทุกคนจ้องมองหานเซิ่นที่อยู่ใต้ต้นไม้กษัตริย์ พวกเขาเห็นเหล่าคิงอีซทั้งหมดแย่งกันเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น
เนื่องจากทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายคนตัวแข็งทื่อไปขณะที่พวกเขากำลังหัวเราะ ซึ่งมันทำให้พวกเขาดูแปลกมากๆ
คุณหญิงมิร์เรอร์เองก็ตัวแข็งทื่อไปเช่นเดียวกัน ท่าทางที่สง่างามของเธอหายไปจนหมด และริมฝีปากสีแดงของเธอก็เปิดกว้าง เธอพูดอะไรไม่ออก
เธอบริหารจัดการสปริงเรนมาหลายปี เธอได้ทำงานหลายอย่างให้กับราชาไป๋ นั่นหมายความว่าสปริงเรนอาจเป็นทั้งกลุ่มนักฆ่าหรือคณะโจรสลัดขึ้นอยู่กับว่าจะมองจากมุมไหน
คุณหญิงมิร์เรอร์ได้เห็นสิ่งแปลกต่างๆนาๆในช่วงชีวิต แต่นี่ทำให้เธอรู้สึกตกใจมากที่สุด มันทำให้เธอเสียความสำรวมไป
ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเอ็กซ์ตรีมคิง ตั้งแต่ที่ต้นไม้กษัตริย์ถูกค้นพบ มันไม่เคยมีใครเห็นคิงอีซร่วงลงมาแบบนี้มาก่อน
ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเอ็กซ์ตรีมมีกษัตริย์มากกว่า 70 องค์และองค์ชายองค์หญิงที่มีพรสวรรค์นับไม่ถ้วน ในอดีตองค์ชายที่ได้รับคิงอีซมากที่สุดนั้นได้รับพวกมันเพียงแค่หนึ่งร้อยตัวเท่านั้น มันไม่เคยมีใครที่ได้รับมากไปกว่านั้น
แต่เมื่อเทียบกับองค์ชายคนนั้นกับไป๋อี้ เขาดูไม่เท่าไหร่เลย ในตอนนี้มันมีคิงอีซมากมายกำลังร่วงลงมาจากต้นไม้ มันมากมายเกินกว่าจะนับได้ มันมีตัวอักษรร่วงลงมาเป็นหมื่นๆตัว
หานเซิ่นตกตะลึง เมื่อสัญลักษณ์คิงอีซทั้งหมดพุ่งเข้ามาใส่ร่างของเขา วิชาเรื่องราวของยีนของเขาก็เริ่มทำงานอย่างบ้าคลั่ง
แต่เดิมเรื่องราวของยีนเป็นเหมือนกับรถสปอร์ตที่น้ำมันหมด แต่เมื่อคิงอีซเข้าไปในร่างกายของเขา เรื่องราวของยีนก็มีปฏิกิริยาเหมือนกับว่ามันถูกเติมด้วยน้ำมันคุณภาพสูง เครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มกำลังและส่งเสียงดังน่ากลัวออกมา
แม้แต่พลังโกสต์โบนที่อยู่ภายในร่างกายของหานเซิ่นก็ถูกสกัด มันเป็นเชื้อเพลิงที่ผลักดันเรื่องราวของยีนไปข้างหน้า
ความคืบหน้าของวิชาเรื่องราวของยีนที่ก่อนหน้านี้เป็นไปอย่างช้าๆ แต่ในตอนนี้มันก้าวหน้าด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ มันจะกำลังวิวัฒนาการสู่ระดับดยุกในคราวเดียว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกับที่เขารู้สึกดีใจ
เขาดีใจที่เรื่องราวของยีนกำลังเลื่อนสู่ระดับดยุก ถึงแม้เขาจะไม่มั่นใจว่ามันคืบหน้าอย่างรวดเร็วได้ยังไงก็ตาม ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในร่างกายของหานเซิ่น และคนปกติไม่สามารถสังเกตเห็นเรื่องนั้นได้ แต่มันมียอดฝีมืออยู่ภายในเอ็กซ์ตรีมคิงมากเกินไป เขาไม่มั่นใจว่ามันจะไม่มีใครคนอื่นที่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา
หานเซิ่นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหยุดการทำงานของเรื่องราวของยีน เขาต้องการยับยั้งเรื่องราวของยีนเอาไว้ที่ระดับมาร์ควิส เพื่อที่เขาจะได้วิวัฒนาการสู่ระดับดยุกในภายหลังตอนที่ไม่มีใครอยู่
แต่มันเป็นอะไรที่เปล่าประโยชน์ ขณะที่คิงอีซหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขา วิชาเรื่องราวของยีนไม่สามารถหยุดได้ พวกมันขับเคลื่อนเขาราวกับรถสปอร์ตที่สูญเสียการควบคุมบนทางด่วน
“ช่างแม้ง! ถ้าหยุดมันไม่ได้ อย่างนั้นก็ผลักดันมันให้ถึงที่สุด!” หานเซิ่นตัดสินใจ เขากัดฟันและใช้วิชาเรื่องราวของยีนจนถึงขีดสุด
คิงอีซแต่ละตัวมีพลังงานมหาศาล ถ้าหานเซิ่นไม่ใช้พลังที่คิงอีซมอบให้เพื่อเพิ่มระดับวิชาเรื่องราวของยีน พลังเหล่านั้นก็จะระเบิดร่างกายของเขา
ในตอนนี้มันไม่มีทางให้หันกลับอีกแล้ว พลังงานของคิงอีซพยายามผลักดันเรื่องราวของยีนให้ไปไกลที่สุดและมันก็เลื่อนสู่ระดับดยุกจริงๆ
หานเซิ่นคิดว่านี่จะกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาและดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ
แต่หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะคิงอีซยังคงอยู่ภายในร่างกายของเขา พวกมันเปลี่ยนแปลงร่างกายของเป็นเหมือนกับภูเขา ทะเล ไฟ มังกรและนรก ทุกอย่างในโลกปรากฏในตัวของหานเซิ่นพร้อมกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น