Super God Gene 2323-2330
ตอนที่ 2323
ในระหว่างทางไปที่ดาววินด์โซน หานเซิ่นได้ทำการส่งรหัสข้อความ
หานเซิ่นสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนที่จะเริ่มกดหมายเลขที่ต้องการส่งข้อความไปหา มันเป็นหมายเลขที่กุนซือไวท์มอบให้กับเขา
กุนซือไวท์บอกเขาว่าถ้ามีเหตุฉุกเฉิน เขาสามารถส่งรหัสข้อความไปที่หมายเลขนั้นได้ หลังจากนั้นกุนซือไวท์ก็จะหาทางติดต่อกลับมาหาเขา
รหัสข้อความที่หานเซิ่นส่งเป็นอะไรง่ายๆ แทนที่จะบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หานเซิ่นบอกแค่ว่ามีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น
หลังจากที่ทำการส่งข้อความ หานเซิ่นก็รอชอย่างอดทน หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เครื่องมือสื่อสารของเขาก็ดังขึ้น มีหมายเลขที่ไม่รู้จักส่งข้อความมาหาเขา
หานเซิ่นเปิดอ่าน ข้อความที่ถูกส่งกลับมาถูกเขียนเป็นรหัสเช่นกัน หานเซิ่นอ่านมันและเข้าใจว่าอะไรที่ถูกบอก
“ไหลไปตามกระแสน้ำ ข้อมูลที่เจ้าจำเป็นต้องรู้อยู่ในบ้านของเขา เจ้าต้องไปที่นั่นในคืนนี้”
หานเซิ่นอ่านและอ้าปากค้าง กุนซือไวท์รู้ว่าเขาฆ่าไป๋อี้ นอกจากนั้นเขายังรู้ว่าตอนนี้หานเซิ่นกำลังปลอมตัวเป็นไป๋อี้ เมื่อข้อความพูดถึง ‘บ้านของเขา’ มันก็ต้องหมายถึงบ้านของไป๋อี้
ถึงแม้รหัสข้อความนี้จะถูกคนอื่นถอดออกมาได้ มันก็ไม่มีใครรู้ว่าข้อความนี้พูดถึงเรื่องอะไร
ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่รู้ว่ากุนซือไวท์รู้ความจริงได้ยังไง ถ้ากุนซือไวท์ต้องการให้เขาแกล้งทำตัวเป็นองค์ชายต่อไป นั่นก็หมายความว่าเขาอาจจะหลอกคนอื่นได้สำเร็จ
รหัสข้อความของกุนซือไวท์บอกว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับไป๋อี้อยู่ในบ้านของเขา ถ้าหานเซิ่นเข้าถึงข้อมูลนั้น เขาก็อาจจะรู้เกี่ยวกับไป๋อี้มากขึ้นและนั่นจะทำให้การปลอมตัวเป็นไป๋อี้นั้นง่ายขึ้นมาก
ปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับไป๋อี้เลย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายคนนั้นอาศัยอยู่ที่ไหน และหานเซิ่นก็ไม่รู้ว่ามีใครคนอื่นอาศัยอยู่ในบ้านของไป๋อี้หรือเปล่า ถ้าไปที่นั่นสุ่มสี่สุ่มห้า หานเซิ่นกลัวว่าตัวตนจะถูกเปิดโปง
และสำหรับข้อมูลที่กุนซือไวท์พูดถึง หานเซิ่นก็ไม่รู้ว่าจะหามันได้ที่ไหน
เมื่อหานเซิ่นกลับไปถึงดาววินด์โซน กุนซือไวท์ก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรมาเพิ่ม เขาได้ช่วยเหลือหานเซิ่นเท่าที่ทำได้แล้ว
หานเซิ่นพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับไป๋อี้เท่าที่จะหาได้ แต่สิ่งที่เขาพบไม่ได้ละเอียดอะไรมากนัก ไป๋อี้เป็นบุตรชายคนที่สิบหกของราชาไป๋ เขาเชี่ยวชาญการควบคุมน้ำและเขาเป็นคนที่หยิ่งยโสอย่างมาก แม่ของเขาเป็นเผ่าไซเรน และเธอก็ได้เสียชีวิตมาหลายปีแล้ว
หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจ ถ้าแม่ของไป๋อี้ยังอยู่ เธอก็คงจะเปิดเผยตัวตนของหานเซิ่นในทันทีที่พบกัน
ส่วนทางด้านราชาไป๋ หานเซิ่นไม่ได้กังวลอะไร ราชาไป๋มีบุตรธิดามากมาย และนอกจากคนที่เขาใส่ใจจริงๆแล้ว น้อยคนนักที่จะได้พบกับเขา
ไป๋อี้ไม่ได้เป็นหนึ่งในคนที่ราชาไป๋โปรด อารยธรรมของเผ่าไซเรนนั้นถูกทำลาย ทำให้แม่ของไป๋อี้ต้องหนีมาที่ดินแดนเอ็กซ์ตรีมคิง ราชาไป๋รับเธอเป็นหนึ่งในสนม ไป๋อี้ไม่ได้มีใครคอยสนับสนุน ดังนั้นเขาจึงเป็นแค่องค์ชายที่ด้อยอำนาจคนหนึ่ง
พรสวรรค์ของไป๋อี้ไม่ถือว่าแย่อะไร แต่เขาก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรในหมู่องค์ชาย นอกจากที่เขาเป็นคนที่หยิ่งยโสอย่างมาก เขายังโลภมากอีกด้วย เขาไม่ได้มีอำนาจอะไร และเขาก็ไม่ค่อยโปรดพ่อของตัวเองเช่นกัน เพราะอย่างนั้นพัฒนาการของเขาจึงติดขัด
ถึงแม้ไป๋อี้จะแก่กว่าไป๋เวย แต่เขาก็ไม่ได้ไปไกลกว่าไป๋เวยมากนัก ดวงดาวของเขาช่วยให้เขากลายเป็นระดับราชันได้สำเร็จ แต่มันก็แค่นั้น มันไม่ได้มีทรัพยากรมากพอที่จะทำให้เขาพัฒนาต่อไปได้
นั่นคือทั้งหมดที่หานเซิ่นรู้ ส่วนใครอยู่บนดาวของไป๋อี้และเขามีเพื่อนคนไหนบ้างนั้นเป็นข้อมูลที่หานเซิ่นไม่สามารถหาได้บนอินเตอร์เน็ต
เมื่อหานเซิ่นไปถึงดาววินด์โซน หานเซิ่นก็รีบไปหากิเลนโลหิต ตอนนี้ไป๋เวยยังคงฝึกอยู่ในสวนของกษัตริย์ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้อยู่บนดาววินด์โซน หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อ กิเลนโลหิตและนกแดงน้อยออกไปจากดวงดาวและไปที่ดาววอเทอร์โซนของไป๋อี้
ดาววอเทอร์โซนนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยน้ำ มันมีไม่กี่เกาะให้เห็นและพวกมันก็ง่ายที่จะถูกมองข้าม
มันมีสิ่งมีชีวิตมากมายอาศัยอยู่ในทะเล และร่างกายธาตุน้ำของไป๋อี้ก็เป็นอะไรที่เหมาะสมสำหรับที่แห่งนี้ โดยรวมแล้วมันจึงเป็นดวงดาวที่ดี
แต่หานเซิ่นมองไม่เห็นเมืองอยู่บนผิวของดวงดาว เขาจึงสันนิษฐานว่ามันต้องอยู่ใต้น้ำ
หานเซิ่นรู้สึกกังวลขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าจะหาเมืองใต้น้ำของไป๋อี้ได้ยังไง และถ้าเขาค้นหาไปมั่วๆ เขาก็จะดูเป็นคนที่น่าสงสัย
ถ้าเขาเป็นไป๋อี้จริงๆ มันไม่มีทางที่เขาจะลืมทางกลับบ้านของตัวเองได้ เขาไม่ควรจะดำลงในทะเลและว่ายไปรอบๆอย่างไร้จุดหมาย
หานเซิ่นเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาววอเทอร์โซน ขณะที่พยายามครุ่นคิดสิ่งที่เขาควรจะทำต่อไป ทันใดนั้นก็มีใครบางคนกระโดดออกมาจากน้ำ
“เจ้าเป็นใครกัน? ทำไมถึงได้มาที่ดาววอเทอร์โซน?” คนๆนั้นตะโกนใส่หานเซิ่น
หานเซิ่นมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นและสังเกตเห็นเส้นผมสีฟ้ากับร่างกายที่ไม่ปกติของเธอ ผู้หญิงคนนั้นดูไม่เหมือนกับคนของเอ็กซ์ตรีมคิง หูของเธอเหมือนกับเหงือกสีฟ้าของปลา เธอไม่มีขาเช่นกัน ร่างกายท่อนล่างของเธอเป็นหางของปลา เธอดูเหมือนกับกาน่าเพียงแค่แตกต่างไปนิดหน่อยเท่านั้น
‘เธอคงจะเป็นคนเผ่าไซเรน’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
“เจ้าจำองค์ชายของเจ้าไม่ได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นตะโกนอย่างเยือกเย็น เขาใช้ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์และปลดปล่อยแสงแห่งเทพออกมา
“องค์ชาย นั่นคือท่านจริงๆอย่างนั้นหรอ?” ดวงตาของหญิงเผ่าไซเรนเบิกกว้าง เธอมองไปที่หานเซิ่นด้วยความตกใจ
“องค์ชาย! นี่ท่านใช้รีเทิร์นทูออริจินงั้นหรอ?”
“ถ้าเจ้ารู้แล้ว แบบนั้นก็อย่าทำให้ข้าต้องเสียเวลาอีก รีบกลับลงไปเก็บกวาดให้เรียบร้อย ข้าจำเป็นต้องใช้เวลาส่วนตัวสักพักขณะที่ยึดครองร่างกายนี้” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยหญิงเผ่าไซเรนไป
หญิงเผ่าไซเรนดูหวาดกลัว “ลิลลี่ทราบแล้ว ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
หลังจากนั้นเธอก็ว่ายกลับลงไปในส่วนลึกของทะเล
หานเซิ่นตามเธอไปอย่างเงียบๆ เขาว่ายลงไปในมหาสมุทร และไม่นานเขาก็ได้เห็นเมืองใต้น้ำ มันดูเหมือนกับสิ่งที่ออกมาจากเทพนิยาย
ทั้งตัวเมืองห่อหุ้มด้วยแสงสีฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่แยกมันออกจากน้ำ มันดูมหัศจรรย์มากๆ
‘สภาพแวดล้อมของที่นี่ดีกว่าสภาพแวดล้อมของดาววินด์โซนมากจริงๆ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง เขาติดตามหญิงสาวไปที่เมืองใต้น้ำ
น่าประหลาดใจที่เมื่อเข้าไปข้างใน เขาก็พบว่าเมืองใต้น้ำนั้นจริงๆแล้วสกปรกและเต็มไปด้วยขยะ สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่นั้นทรุดโทรม
ผู้คนเป็นล้านคนสามารถอาศัยอยู่ในเมืองใต้น้ำนี้ แต่เมื่อเขาเข้าไปข้างใน เขาก็พบว่ามันไม่มีใครอาศัยอยู่ภายในเมืองนอกจากหญิงเผ่าไซเรนที่ชื่อลิลลี่
‘ดูเหมือนว่าองค์ชายสิบหกก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีเช่นกัน’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ตอนที่ 2324
เมื่อพวกเขาไปถึงศูนย์กลางของเมือง ดวงตาของหานเซิ่นและเป่าเอ๋อก็เบิกกว้าง ในลานกว้างของเมืองใต้มหาสมุทรที่งดงามนั้นเต็มไปด้วยขยะ แต่ขยะที่ว่าคือหัวกะโหลกของสิ่งมีชีวิตต่างๆ มันมีหัวกะโหลกจากเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมายกองอยู่รอบๆลานกว้าง แต่ในลานกว้างมีแค่หัวกะโหลกเท่านั้น มันไม่มีโครงกระดูกส่วนอื่นอยู่รอบๆ
“ลิลลี่คงจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่แค่คนเดียวหรอกใช่ไหม” หานเซิ่นแปลกใจ
พวกเขาผ่านลานกว้างและไปถึงปราสาทที่งดงามแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ดูสะอาดและมันมียามรักษาการณ์ยืนเฝ้าประตูอยู่
“มันจะเป็นอะไรที่ดีมาก ถ้ามีแค่ลิลลี่อยู่ที่นี่” หานเซิ่นถอนหายใจ
ลิลลี่นำหน้าหานเซิ่นไป เมื่อพวกเขาไปถึงหน้าปราสาท ยามรักษาการณ์ทั้ง 2 ก็ยกหอกของพวกเขาเพื่อหยุดลิลลี่และหานเซิ่น
“ได้โปรดเรียนองค์หญิงว่าองค์ชายกลับมาแล้ว”
“องค์ชาย? ไหนองค์ชาย?” ยามรักษาการณ์ถามอย่างแข็งกระด้าง
‘บางสิ่งผิดปกติ’ หานเซิ่นคิด ถึงแม้ยามรักษาการณ์จะจดจำไป๋อี้ไม่ได้ เพราะเขาดูเหมือนกับคนอื่น แต่ยามรักษาการณ์ก็ไม่ควรจะพูดแบบนั้นอยู่ดี ในตอนที่พวกเขาพูดถึงองค์ชาย มันไม่มีความเคารพอยู่เลย
ขณะที่หานเซิ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลิลลี่ก็อธิบายว่าหานเซิ่นใช้รีเทิร์นทูออริจิน
“พวกเจ้ารออยู่นี่” หลังจากที่ยามรักษาการณ์ได้ฟังเรื่องราว เขาก็มองมาที่หานเซิ่น ก่อนที่จะเดินเข้าไปในปราสาท
หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ ตอนนี้ยามรักษาการณ์รู้ว่าเขาคือไป๋อี้ แต่ถึงอย่างนั้นยามรักษาการณ์ก็ยังปฏิบัติกับเขาอย่างเสียมารยาทอยู่ดี มันเริ่มจะทำให้เขารู้สึกกังวล
ยามรักษาการณ์ทั้ง 2 เป็นเผ่าไซเรนเช่นกัน ไป๋อี้เป็นบุตรชายของไซเรนเลือดบริสุทธิ์ ถึงแม้เขาจะไม่ใช่องค์ชาย เขาก็ไม่ควรจะถูกปฏิบัติแบบนี้
หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เขาได้แต่คอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
“องค์ชายอย่าได้โกรธ ในช่วงนี้องค์หญิงอารมณ์ไม่ดี องค์ชายต้องอดทนเอาไว้” ลิลลี่พยายามปลอมหานเซิ่นอย่างเป็นกังวล
หานเซิ่นหายใจเข้าลึกและตบหน้าของหนึ่งในยามรักษาการณ์ พลังของร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์นั้นส่งยามรักษาการณ์กระเด็นออกไป เขาชนเข้ากับเสาของปราสาทและกระอักเลือดออกมา มันเป็นอะไรที่ยากลำบากที่จะลุกกลับขึ้นมา
หานเซิ่นเดินออกไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ ใบหน้าของเขาดูถมึงทึง
ใบหน้าของลิลลี่ซีดเผือก เธอเข้ามาขวางและพูด “องค์ชายอย่าทำแบบนี้ ท่านจะทำให้องค์หญิงโกรธเอา!”
หานเซิ่นลูบหัวกิเลนโลหิตและพูด “ตอนนี้ทุกอย่างนั้นมันเปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นนางโกรธแล้วยังไง? เจ้าก็ควรจะเลิกพล่ามและไปเก็บกวาด”
ลิลลี่พยักหน้ารับคำสั่ง แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรอีก เสียงก็ดังก้องออกมาจากปราสาท
“ซีโน่เจเนอิคครึ่งเทพตัวหนึ่งมอบความกล้าให้กับเจ้ามากขนาดนั้นเลย?”
หานเซิ่นหลี่ตาและมองคนที่ออกมาจากปราสาท
เธอเป็นผู้หญิงที่ดูคล้ายคลึงกับลิลลี่ เธอมีผมกับดวงตาสีฟ้า และหูของเธอก็เป็นเหงือกปลา
แต่ร่างกายท่อนล่างของเธอไม่ได้เป็นหางของปลา เธอมีขาที่เรียวยาว ขาของเธอยาวมากถึงขนาดที่ทำให้เธอดูสูงมากๆ และด้วยสีหน้าที่หยิ่งยโส มันก็ทำให้เธอดูเหมือนกับคนที่มีฐานะสูงส่ง
“ข้าไม่ได้กล้าถึงขนาดนั้น ข้าแค่ไม่อยากจะรายงานคนอื่นทุกครั้งที่กลับมาถึงบ้าน” หานเซิ่นตอบ
ผู้หญิงที่งดงามคนนั้นขมวดคิ้ว ใบหน้าของเธอดูเย็นชาอย่างน่ากลัว เธอมองไปที่หานเซิ่นอย่างเย้ยหยัย
“เจ้ามาจากสายเลือดบริสุทธิ์ แต่เจ้าใช้รีเทิร์นทูออริจินเพื่อต่อสู้กับดยุกคนหนึ่งเนี่ยนะ นั่นไม่ทำให้เจ้ารู้สึกอับอายเลยหรือยังไง?”
“นั่นเป็นธุระของข้า ไม่ใช่ของเจ้า” หานเซิ่นทำให้แน่ใจว่าเขาดูโกรธเล็กน้อย
“ข้าจะมองข้ามสิ่งที่เจ้าตัดสินว่าเป็น‘ธุระของเจ้า’ไป แต่นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเจ้าแตะต้องคนของข้าอีกล่ะก็ เจ้ารู้ดีสินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
หลังจากนั้นเธอก็เมินเฉยต่อหานเซิ่น เธอส่งคนออกมาเพื่อช่วยเหลือยามรักษาการณ์ที่ถูกหานเซิ่นตบ หลังจากนั้นเธอก็เดินกลับเข้าไปในปราสาท
พวกคนที่ออกมาอุ้มยามรักษาการณ์นั้นมองหานเซิ่นอย่างไร้ซึ่งความเคารพ พวกเขาไม่ได้มีความเคารพต่อคนที่เป็นองค์ชายเลยแม้แต่นิดเดียว
‘ชีวิตของไป๋อี้เองก็แย่เหมือนกันเลย องค์หญิงคนนี้คือใครกันแน่? เธอดู…ไม่ปกติ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
เมื่อองค์หญิงกลับเข้าไปในปราสาท ลิลลี่ก็ดูโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด เธอพูดกับหานเซิ่น
“องค์ชาย พวกเราไปกันเถอะ อย่าทำให้องค์หญิงโกรธไปมากกว่านี้”
นี่นั้นแตกต่างจากที่หานเซิ่นจินตนาการเอาไว้มาก เขาเชื่อว่าไป๋อี้เป็นองค์ชายและที่นี่ก็คือดินแดนของเขา เขาควรจะมีชีวิตที่สะดวกสบายภายในปราสาทที่หรูหรา
แต่ลิลลี่นั้นพาหานเซิ่นไปตามโถงทางเดินด้านข้าง พวกเขาตามเส้นทางคดเคี้ยวของสวนเพื่อไปถึงที่ปลายสุด เธอพาหานเซิ่นมาที่กระท่อมเล็กๆแห่งหนึ่ง
หานเซิ่นขมวดคิ้ว ถ้าเขาไม่ได้ใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อตรวจตราลิลลี่ เขาก็คงจะคิดว่าเธอกำลังเล่นตลกกับเขา เขาถึงกับสงสัยว่าทั้งหมดนี่เป็นกับดักเพื่อทดสอบเขาหรือเปล่า องค์ชายแบบไหนกันที่อาศัยอยู่ในสถานที่แบบนี้
ลิลลี่เปิดประตูและเริ่มเก็บกวาดภายในกระท่อมน้อยๆ เธอพูดขึ้นมา
“เชิญองค์ชายพักผ่อนให้สบาย ลิลลี่จะเก็บกวาดเดี๋ยวนี้”
หานเซิ่นเห็นว่าภายในกระท่อมนั้นถูกเก็บกวาดเป็นอย่างดี มันสะอาดจนเป็นประกาย เขาโบกมือให้กับลิลลี่
“ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บกวาด เจ้าไปพักได้แล้ว ข้าจะใช้เวลายึดครองร่างกายนี้ อย่าได้มารบกวนข้าเป็นอันขาด ข้าจะเรียกเจ้าเมื่อต้องการ”
“ค่ะ องค์ชาย” ลิลลี่พูด เธอออกไปจากกระท่อมและปิดประตู
…
องค์หญิงยืนอยู่ด้านบนของปราสาทและมองลงไปที่กระท่อมภายในสวน
“นี่ไป๋อี้คนนั้นใช้รีเทิร์นทูออริจินจริงๆหรอเนี่ย?” ไซเรนเฒ่าคนที่ยืนอยู่ข้างองค์หญิงถามขึ้นมาด้วยเสียงที่หยาบกระด้าง
“ข้าได้แต่เชื่อว่าเขาทำแบบนั้น ร่างกายของเขามีร่องรอยของรีเทิร์นทูออริจินอยู่ภายใน แถมเขาก็มีร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์และแสงแห่งเทพธาตุน้ำของเขาก็ดูปกติ แต่…” องค์หญิงหยุดพูด
“แต่อะไร?” ไซเรนเฒ่าถาม
“เขากล้าโต้เถียงกับข้า ข้าไม่รู้ว่าทำไมเขาพยายามจะทำแบบนั้น” องค์หญิงพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
ไซเรนเฒ่าไอและพูด “ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูทรงพลัง มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดาๆอย่างแน่นอน ตอนนี้เมื่อเขามีมันอยู่ มันก็ควรจะช่วยเหลือเขาอย่างมาก ดูเหมือนกับว่าเขาจะได้รับอะไรมากมายจากการเดินทางในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นตัวเดียว แต่มันถือเป็นเรื่องดีที่เขายินดีจะใช้รีเทิร์นทูออริจินเพื่อชิงร่างกายนั้นมา ตอนนี้โอกาสที่เขาจะได้รับการยอมรับจากโบราณวัตถุของพวกเราก็น้อยลงไปอีก มันถือเป็นเรื่องดีสำหรับองค์หญิง”
ตอนที่ 2325
หานเซิ่นค้นหาทั่วกระท่อม กุนซือไวท์ไม่ได้บอกเขาว่าข้อมูลที่ให้มานั้นอยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงสันนิษฐานว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะหา ไม่อย่างนั้นกุนซือไวท์ก็คงจะบอกเขา
หานเซิ่นค้นหาจนทั่วทั้งกระท่อม แต่เขาก็ยังไม่พบอะไร ที่เดียวที่เขาจะไม่ได้ตรวจดูก็คือคอมพิวเตอร์ของไป๋อี้
การจะเข้าใช้คอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีรหัสผ่าน แต่การเจาะรหัสไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับคนอย่างหานเซิ่น
ในยุคสมัยนี้มีคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายของตัวเองได้ ดังนั้นการใช้การสแกนร่างกายจึงไม่ถือว่าเป็นวิธีการป้องกันที่ปลอดภัย ด้วยเหตุนั้นคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จึงถูกปกป้องด้วยรหัสผ่าน
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อหารหัสผ่านของคอมพิวเตอร์ และหลังจากที่พิมพ์มันลงไป เขาก็สามารถเข้าใช้งานมันได้
‘วิญญาณอสูรระดับเทพเจ้านี่ดีจริงๆ มันจะดีไม่น้อย ถ้าเราหามาเพิ่มได้อีก’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองขณะที่ค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์
โว้ว!
ภาพบนคอมพิวเตอร์เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ภาพของผู้หญิงที่เปื่อยเปล่าสับเปลี่ยนตรงหน้าของหานเซิ่น พวกมันไม่ใช่แค่ภาพของผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงเช่นกัน มันมีผู้หญิงจากทุกเผ่าพันธุ์และพวกเธอทุกคนก็นอนโพสท่ายั่วยวน
“ว้าว! ไป๋เวยคนนี้น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ เขามีแม้กระทั่งผู้หญิงของเผ่าเลนอยู่ในนี้”
หานเซิ่นเปลี่ยนการตั้งค่าหน้าจอให้แสดงต่อคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นมองเห็นจากด้านข้าง เขาไม่ต้องการให้เป่าเอ๋อเห็นพวกมัน หานเซิ่นสังเกตว่าภาพเหล่านั้นไม่ได้โฟโต้ชอปเช่นกัน ผู้หญิงในรูปนั้นมีอยู่จริงๆ
“หมอนี่เป็นบ้าอะไรของมัน?” หานเซิ่นรีบค้นหาไฟล์ในคอมพิวเตอร์ และเขาค้นพบว่าภายในฮาร์ดดิสก์นั้นเต็มไปด้วยรูปภาพแบบนั้น
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่หานเซิ่นจะหาไฟล์เอกสารภายในนี้ได้ แต่เขาก็พบไฟล์เอกสารที่ค่อนข้างประหลาดไฟล์หนึ่ง มันถูกตั้งชื่อไฟล์ว่า‘ชีวิตของข้า’ หานเซิ่นเปิดไฟล์และพบว่ามันถูกป้องกันด้วยรหัสผ่าน
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อหารหัสผ่าน หลังจากนั้นเขาก็เปิดอ่านเอกสารที่อยู่ข้างใน เขารู้สึกอวดดีกับพรสวรรค์นี้ เขาพูดกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าเราจะเป็นแฮกเกอร์ที่เก่งคนหนึ่ง”
เป่าเอ๋อกระพริบตาและพูด “พ่อ แฮกเกอร์นั้นใช้ทักษะที่แท้จริง พ่อแค่เล่นขี้โกง”
“การเล่นขี้โกงก็เป็นทักษะหนึ่งเหมือนกัน หนูยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจ หนูจะเข้าใจเมื่อหนูโตแล้ว” หานเซิ่นบอกเธออย่างจริงจัง
หานเซิ่นอ่านไฟล์เอกสาร ซึ่งมีจำนวนหน้าที่มากอย่างน่าประหลาดใจ โชคดีที่มันถูกเขียนเอาไว้ด้วยภาษาสากลของจักรวาลจีโน ดังนั้นหานเซิ่นจึงอ่านมันได้
“นางนั่น อย่าให้ข้าเจอนางนะ ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่านาง…” แค่บรรทัดแรกก็ทำให้หานเซิ่นผิดหวังแล้ว
หานเซิ่นคิดว่าเอกสารนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่ไป๋อี้เขียนลงไปขณะที่เขามีความต้องการทางเพศ หานเซิ่นคิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงเท่านั้น
หลังจากที่อ่านไปได้สักพัก หานเซิ่นก็เปลี่ยนใจ ความคิดของนั้นไม่ถือว่าผิดซะทีเดียว มันเกี่ยวข้องกับผู้หญิงจริงๆ ผู้หญิงคนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง มันเป็นผู้หญิงที่ไป๋อี้ไม่สามารถหยุดพูดถึงได้ เกือบจะทุกบรรทัดเป็นการคร่ำครวญด้วยความโกรธ เขาเขียนระบายลงไปในนี้เพราะว่าไม่มีใครที่เขาจะระบายความในใจด้วยได้
นอกจากคำพูดที่แย่ๆแล้ว มันมีข้อมูลที่สำคัญปะปนอยู่ภายในไฟล์เอกสารด้วยเช่นกัน
เขาพูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง ไป๋อี้ไม่ได้เขียนชื่อของเธอเอาไว้ แต่มันไม่ใช่บางสิ่งที่เขาพยายามจะปิดบัง มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะเดาว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือองค์หญิงของเผ่าไซเรน
เมื่อดูจากการคร่ำครวญของไป๋อี้ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นองค์หญิงด้วยการตกลงบางอย่าง
ผู้หญิงคนนั้นจำเป็นต้องมีฐานะขององค์หญิงเพื่อความปลอดภัย และคนของเธอก็ต้องการจะมีที่หลบภัยภายในดินแดนของเอ็กซ์ตรีมคิง ไป๋อี้เองก็ต้องการบางสิ่งเช่นกัน เขาต้องการบางสิ่งจากผู้หญิงคนนั้น
ในการคร่ำครวญของไป๋อี้ สิ่งของศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งถูกพูดถึงซ้ำๆหลายครั้ง หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาแน่ใจว่าสิ่งของศักดิ์สิทธิ์นั้นคือส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างพวกเขา แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มอบมันมา มันไม่ใช่ว่าข้อตกลงถูกยกเลิก แต่ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นและทำให้ไป๋อี้ไม่สามารถเอามันมาได้
จากคำพูดในไฟล์เอกสาร หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่าไป๋อี้เป็นผู้ชายที่บ้ากาม แต่เขาก็สามารถบอกได้อีกว่าสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ที่เขาแสวงหานั้นมีความสำคัญกว่าผู้หญิงคนนั้น ไป๋อี้ใช้เวลาพูดถึงสิ่งนั้นมากกว่าที่เขาพูดถึงองค์หญิง มันเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการสิ่งนั่นเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งที่หานเซิ่นพบส่วนใหญ่เป็นคำกล่าวหาและคำสาปแช่ง มันไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนอะไร หานเซิ่นไม่รู้ว่าข้อตกลงนั้นคืออะไร และทำไมไป๋อี้ถึงเอาสิ่งนั้นมาไม่ได้
“ถึงเราจะรู้ถึงความลับระหว่างไป๋อี้และองค์หญิง มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เราอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่ได้ และเราก็ไปมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนของไป๋อี้มากเกินไปไม่ได้ ต่อหน้าพวกเขาตัวตนของเราอาจจะถูกเปิดโปงได้ง่ายๆ” หานเซิ่นไม่คิดว่านี่คือข้อมูลที่กุนซือไวท์ต้องการให้เขาหา
หานเซิ่นค้นหาไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของไป๋อี้ต่ออีกสักพัก แต่มันก็ไม่มีอะไร นอกจากรูปภาพ18+กับวิดีโอเพศสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง
แต่หานเซิ่นก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ค่อนข้างแปลก เขาเลิกสนใจผู้หญิงในวิดีโอและหันความสนใจไปที่ผู้ชาย ผู้ชายในวิดีโอดูเหมือนจะเป็นเพื่อนๆของไป๋อี้ พวกเขาต้องเป็นเพื่อนสนิทของไป๋อี้ไม่ผิดแน่
พวกเขาต้องมีฐานะที่สูงพอสมควร พวกเขาถึงทำแบบนี้ซ้ำๆได้ หานเซิ่นพยายามจดจำใบหน้าของพวกเขาเอาไว้ โดยหวังว่ามันจะมีประโยชน์ในอนาคตข้างหน้า
ใบหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนเป็นสีเขียว เมื่อเขาค้นพบความชอบทางเพศของไป๋อี้ มันเป็นวิดีโอของผู้หญิงสูงวัย ภาพของพวกมันทำให้หานเซิ่นอยากจะอ้วก
“หมอนี่มันโรคจิต ตราบใดที่อีกฝ่ายถูกรับรองว่าเป็นผู้หญิง แค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว!” หานเซิ่นบ่น เขาไม่ต้องการจะดูอะไรอย่างนี้อีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้นก็มีข้อความปรากฏขึ้นบนคอมพิวเตอร์ หานเซิ่นรีบเปิดอ่านมัน
“จดจำทุกรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายละเอียดยิบย่อย แต่พวกมันเป็นแค่ข้อสังเกตของข้าต่อไป๋อี้ ข้าไม่รู้ความลับของเขา ดังนั้นเจ้าต้องปฏิบัติตัวอย่างระมัดระวัง อย่าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเจ้า และคอยระวังราชาไป๋ ราชครูและองค์หญิงของไซเรนเอาไว้ พวกเขาเป็นคนที่มีโอกาสสูงที่จะมองออกว่าเจ้าไม่ใช่ไป๋อี้ ระวังตัวให้มากและทำตัวให้เหมือนไป๋อี้ตลอดเวลา เจ้ากำลังอยู่ในอันตราย เจ้าอาจจะถูกเปิดโปงได้ทุกเมื่อ ถ้าเจ้าถูกจับตัวได้ที่นี่ เจ้าก็ต้องตายและไม่มีใครจะช่วยเจ้าได้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ช่วยเหลือเจ้าไม่ได้ เจ้ามีเวลาไม่มากที่จะฝึกมัน แต่ข้ามีวิชาจีโนที่จะช่วยให้เจ้าเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองชั่วคราว ทำให้ดูเหมือนว่าเจ้าค่อยๆเปลี่ยนกลับไปเป็นไป๋อี้อีกครั้ง”
มันไม่มีชื่อเขียนเอาไว้ แต่หานเซิ่นรู้ว่ามันมาจากกุนซือไวท์
ย่อหน้าที่ตามมานั้นยาวเหยียด มันพูดถึงความสัมพันธ์ของไป๋อี้และสิ่งที่ไป๋อี้ชอบรวมถึงนิสัย มันมีรายละเอียดอยู่เยอะมาก และมันก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
“องค์ชาย! แย่แล้ว!” ขณะที่หานเซิ่นกำลังอ่านข้อมูล จู่ๆลิลลี่ก็ตะโกนขึ้นมา
ตอนที่ 2326
“เจ้าจะโวยวายทำไม? ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่ามารบกวนข้า จนกว่าข้าจะเรียกหาเจ้า?” หานเซิ่นถามจากภายในกระท่อม
“แย่แล้วองค์ชาย! องค์หญิงไป๋เวยมาที่นี่” ลิลลี่รีบพูด
หานเซิ่นคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ดังนั้นเขาจึงเปิดประตูและเดินออกไป
ไป๋เวยดูหม่นหมองขณะลอยตัวอยู่เหนือทะเล ตอนที่อยู่ในสวนของกษัตริย์เธอได้ข่าวว่าหานเซิ่นถูกฆ่าตายโดยรีเทิร์นทูออริจินของไป๋อี้ เธอกลับไปที่บ้านและสังเกตเห็นว่าเป่าเอ๋อกับกิเลนโลหิตหายตัวไป ดังนั้นเธอจึงรีบมุ่งหน้ามาที่ดาววอเทอร์โซน
หานเซิ่นพาลิลลี่ขึ้นไปสู่พื้นผิวพร้อมกับเขา
เมื่อไป๋เวยเห็นใบหน้าของหานเซิ่น ใบหน้าของเธอก็ดูซับซ้อน เธอพูดอย่างเยือกเย็น
“พี่สิบหก พี่ฆ่าองครักษ์ของข้า! และพี่ยังขโมยคนของดาววินด์โซน มอบเป่าเอ๋อและกิเลนโลหิตกลับคืนมาให้กับข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะให้ท่านพ่อเป็นคนตัดสินว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”
หานเซิ่นหัวเราะและมองไปที่ไป๋เวย “น้องสาวคนดีของข้า ข้ากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจอะไรผิดแล้ว ข้าคือองค์ชายสิบหก ทำไมข้าต้องไปที่ดวงดาวของเจ้าและขโมยของอะไรมาด้วย? ข้าแค่เอาของที่เป็นของข้ากลับมาเท่านั้น”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ของของดาววินด์โซนเป็นของเจ้า?” ไป๋เวยถามอย่างโมโห
หานเซิ่นหัวเราะ “ตอนนี้ร่างกายและจิตใจของหานเซิ่นเป็นของข้าแล้ว ดังนั้นข้าก็คือเขาและเขาก็คือข้า ของของเขาก็คือของของข้า ดังนั้นแน่นอนว่าข้าก็แค่เอาของที่เป็นของข้ากลับคืนมา”
“เจ้า… อย่ามาโต้เถียงข้าด้วยคำพูดะคลุมเครือแบบนั้น! มอบเป่าเอ๋อและกิเลนโลหิตมาให้กับข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะไปร้องเรียนกับท่านพ่อ!” ไป๋เวยตะโกน
“ตามใจเจ้า ข้าไม่ว่างจะมามัวเสียเวลากับเจ้า” หานเซิ่นหันหลังเพื่อกลับลงไปในเมืองใต้น้ำ
“หยุดก่อน! เจ้าเก็บกิเลนโลหิตเอาไว้ได้ แต่เด็กคนนั้นไม่มีประโยชน์อะไรกับเจ้า มอบนางมาให้กับข้า และข้าจะถือว่าพวกเราไม่ติดค้างอะไรกัน” ไป๋เวยกัดฟัน
“ฮ่าๆ! เด็กหญิงตัวน้อยที่งดงามขนาดนี้ ทำไมข้าต้องมอบนางให้กับคนอื่น? แน่นอนอยู่แล้วว่าข้าต้องเลี้ยงนางด้วยตัวเอง” หานเซิ่นยิ้ม
“ไอ้เวร!” ไป๋เวยคำราม เธอชกหมัดใส่หานเซิ่น
เธอรู้ว่าไป๋อี้เป็นคนยังไง หานเซิ่นถูกเอาไปแล้ว และเธอไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แต่เธอไม่สามารถปล่อยให้เป่าเอ๋อตกอยู่ในมือของคนที่ชั่วร้ายอย่างไป๋อี้ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ไป๋เวยอยากจะพาเป่าเอ๋อกลับไป
สีหน้าของหานเซิ่นแข็งกร้าว เขาใช้แสงแห่งเทพเพื่อจับร่างกายของไป๋เวยเอาไว้ หลังจากนั้นเขาก็ชกเธอกระเด็นออกไป
“ไป๋เวย นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะมาทำอะไรตามใจชอบ หยุดทำตัวไร้สาระ! ไม่อย่างนั้นข้าจะต้องหยาบคายกับเจ้า” หานเซิ่นพูดขู่ขณะที่เธอกระเด็นออกไป
ไป๋เวยเช็ดเลือดของตัวเองและพูด “ข้าต้องทำยังไงเจ้าถึงจะมอบนางมาให้กับข้า?”
“เจ้าอยากจะได้เด็กคนนั้นมากถึงขนาดนั้นเลย? นี่นางเป็นลูกของเจ้ากับหานเซิ่นหรือยังไง? ข้าไม่เห็นมีความทรงจำแบบนั้นอยู่ในหัวของหานเซิ่น” หานเซิ่นชายตามองไป๋เวย
“นางเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง! นางไม่มีประโยชน์อะไรกับเจ้า ข้าต้องทำยังไง เจ้าถึงจะมอบนางให้กับข้า?” ไป๋เวยถามอีกครั้ง
“เด็กผู้หญิงที่น่ารักและงดงามขนาดนั้นสำคัญต่อข้ามากๆ แต่ไหนๆเจ้าก็เป็นน้องสาวของข้า ถ้าเจ้าอยากจะได้นางมากถึงขนาดนั้น ข้าก็จะมอบนางให้กับเจ้า แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องมอบล็อคสหัสหัวใจมาให้กับข้าและข้าจะมอบสาวน้อยน่ารักให้กับเจ้า” หานเซิ่นยิ้ม
“เจ้า” ใบหน้าของไป๋เวยเปลี่ยนไป
ไป๋เวยไม่ได้มีของค่าอะไรมากนัก แต่ราชาไป๋ได้มอบล็อคสหัสหัวใจให้กับแม่ของไป๋เวย มันถูกส่งต่อมาให้กับไป๋เวยในภายหลัง มันเป็นสิ่งของระดับเทพเจ้าชิ้นเดียวที่เธอมี และมันก็เป็นสิ่งเดียวที่เธอต้องเก็บเอาไว้ นี่ไม่ใช่ความลับในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิง และแม้แต่หานเซิ่นก็รู้ถึงเรื่องนี้
หานเซิ่นไม่สามารถมอบเป่าเอ๋อให้กับไป๋เวยได้ ดังนั้นเขาจึงเสนอบางสิ่งที่รู้ว่าเธอจะไม่ยอมรับ
“ข้าขอแลกสิ่งของระดับราชันแทน นางเป็นแค่เด็กตัวน้อยๆ นางไม่จำเป็นสำหรับเจ้า!” ไป๋เวยดูเศร้า
“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าต้องการล็อคสหัสหัวใจ ถ้าเจ้าอยากจะได้ลูกสาวที่น่ารักของข้า นำล็อคสหัสหัวใจมาให้กับข้า ไม่อย่างนั้นพวกเราก็จบการเจรจากันแค่นี้ ข้าจะให้เวลาเจ้าไปคิดเกี่ยวกับมัน” หลังจากหานเซิ่นพูดจบ เขาก็เริ่มกลับลงไปในทะเล
“ล็อคสหัสหัวใจรวมเข้ากับร่างกายของข้า ข้ามอบมันให้กับเจ้าไม่ได้ และถึงข้าจะมอบมันให้กับเจ้า เจ้าก็ใช้มันไม่ได้อยู่ดี นอกจากข้าแล้วไม่มีใครใช้ล็อคสหัสหัวใจได้”
ไป๋เวยหยุดหานเซิ่นเอาไว้ เธอกัดฟันและพูด “มอบเด็กมาให้กับข้า และทรัพยากรตลอดทั้งปีของดาววินด์โซนจะตกเป็นของเจ้า”
หานเซิ่นแปลกใจ ดาววินด์โซนนั้นขัดสน ทรัพยากรหนึ่งปีเต็มๆนั้นถือว่าเยอะมากสำหรับเธอ เธอมีแผนที่จะมอบทุกสิ่งเพื่อเป่าเอ๋อ เขาไม่รู้เลยว่าเธอรู้ถึงความพิเศษของเป่าเอ๋อ หรือว่าเธอมีจุดประสงค์อะไรอย่างอื่นซ่อนอยู่หรือเปล่า
ถ้าเธอยินดีจะทำขนาดนี้เพื่อที่เป่าเอ๋อจะไม่ต้องอยู่กับคนอย่างไป๋อี้ นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่จิตใจดีอย่างมาก
“เจ้ายินดีจะแลกเปลี่ยนทรัพยากรมากขนาดนั้นเพื่อเด็กคนเดียวอย่างนั้นหรอ? เด็กคนนั้นคงจะพิเศษมากๆ ข้าควรจะดูแลนางเป็นอย่างดี บางทีนางอาจจะหาเงินจำนวนมากมาให้กับข้าได้ บางทีพวกเราอาจจะได้คุยเรื่องราคากันต่อภายหลัง ฮ่าๆๆ…” หานเซิ่นดำลงไปในทะเล
“ไอ้เวรเอ๋ย!” ไป๋เวยชกใส่ทะเลด้วยความโกรธ แต่มันเป็นการกระทำที่ไม่เกิดประโยชนอะไร
“ไอ้เวรนั่น!” องค์หญิงของเผ่าไซเรนเองก็โกรธกับสิ่งที่ไป๋อี้ทำเช่นกัน
ถ้าเธอไม่ต้องการจะปกป้องฐานะขององค์หญิงล่ะก็ เธอก็ไม่มีวันจะแต่งงานกับคนเลวอย่างนั้น เธอต้องการจะฆ่าเขาจากใจจริง
“องค์หญิง พวกเราจำเป็นต้องมองถึงผลประโยชน์ส่วนรวมก่อนเป็นอันดับแรก องค์ชายสิบหกเป็นสายเลือดบริสุทธิ์รุ่นสุดท้าย พวกเราจำเป็นต้องพึ่งเขา” ไซเรนเฒ่าพูด
“มันเป็นเพราะเลือดของข้าไม่บริสุทธิ์พอที่จะทำให้ข้าเปิดใช้งานโบราณวัตถุได้ ไม่อย่างนั้นข้าก็คงจะไม่ต้องร่วมงานกับคนชั่วแบบนี้” องค์หญิงพูดอย่างโมโห
ไซเรนเฒ่าถอนหายใจ “พวกเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ เผ่าไซเรนถูกทำลายและมีคนไม่มากนักที่รอดชีวิต องค์หญิงและองค์ชายสิบหกเป็นสายเลือดบริสุทธิ์รุ่นสุดท้ายที่เหลืออยู่ แต่เลือดขององค์หญิงไม่บริสุทธิ์พอที่จะทำมันตามลำพังได้ มันอาจจะได้ผล ถ้าองค์หญิงและเขาร่วมมือกัน เพื่อเผ่าไซเรน องค์หญิงได้โปรดอดทนเอาไว้”
องค์หญิงไม่ได้ตอบอะไร เธอมองไปที่สวน หลังจากนั้นเธอก็เดินออกไปในทิศทางนั้น
หานเซิ่นเข้าไปในสวน แต่ก่อนที่เขาจะไปถึงกระท่อม เขาก็เห็นองค์หญิงตรงมาทางเขา
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่? นี่เจ้าเหงาถึงขนาดที่อยากจะคุยกับข้าเลยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นยิ้ม เขาแค่แกล้งทำตัวเหมือนกับไป๋อี้
ตอนที่ 2327
“ทำไม?” หานเซิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ถ้าเจ้าต้องการโบราณวัตถุ มอบนางมาให้กับข้า ไม่อย่างนั้นก็อย่าได้คิดถึงมันอีก เจ้าเป็นคนเลือก” ใบหน้าขององค์หญิงไม่เปลี่ยนแปลง
“ก็ได้ ตามใจเจ้า นางก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงไร้ประโยชน์คนหนึ่ง ถ้าเจ้าต้องการนาง อย่างนั้นก็เชิญเอานางไป”
หานเซิ่นกรอกตาและกลับเข้าไปในกระท่อม เขานำเป่าเอ๋อออกมาและโยนเธอไปทางองค์หญิง
องค์หญิงขมวดคิ้ว เธอรับเป่าเอ๋อเอาไว้และเดินหนีจากหานเซิ่นทันที เธอพาเป่าเอ๋อออกไปจากสวน เธอเคลื่อนไหวอย่างเร่งรีบราวกับว่าถ้าเธอยังอยู่ในสวนต่ออีกหนึ่งวินาที มันจะทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียน
เป่าเอ๋อนอนบนไหล่ขององค์หญิงขณะที่กระพริบตาให้กับหานเซิ่น
“ผู้หญิงเวร… อย่าให้ฉันหาโอกาสได้นะ…” หานเซิ่นบ่น แต่เขากระพริบตากับให้เป่าเอ๋อ
องค์หญิงต้องการเป่าเอ๋อ และหานเซิ่นก็ต้องการให้เป่าเอ๋อช่วยเก็บรวบรวมข้อมูลแทนเขา ด้วยสติปัญญาของเป่าเอ๋อ ทำให้เธอเป็นไส้ศึกที่ยอดเยี่ยม
ไป๋เวยและองค์หญิงของไซเรนไม่ได้ทำให้หานเซิ่นปวดหัวไปมากกว่านั้น แต่ที่เขากังวลมากที่สุดก็คือการนัดเจอกับไป๋หลิงซวง นั่นเป็นเพราะเขาไม่แน่ใจว่าไป๋หลิงซวงและไป๋อี้มีข้อตกลงอะไรกัน เขาไม่รู้ว่าไป๋หลิงซวงเสนออะไรให้กับไป๋อี้ เขาถึงเข้าไปล่าหานเซิ่นภายในพิมานของอัศวิน
แต่ไม่ว่ายังไงหานเซิ่นก็จำเป็นต้องไปที่เมืองไนท์ชาร์ม เพราะไป๋อี้จะต้องไปที่นั่นอย่างแน่นอน ถ้าเขารอดกลับการจากการเผชิญหน้ากับหานเซิ่น
โชคดีที่หานเซิ่นอ่านข้อมูลทั้งหมดที่กุนซือมอบให้ก่อนจะไปที่เมืองไนท์ชาร์ม เขารู้ว่าแวดวงสังคมของไป๋อี้เป็นแบบไหน อย่างน้อยๆตอนนี้เขาก็ได้รู้อะไรอย่าง 2 อย่างเกี่ยวกับไป๋อี้
เมื่อถึงเวลานัดหมาย หานเซิ่นก็ขี่กิเลนโลหิตและเดินทางออกจากดาววอเทอร์โซน เขามุ่งหน้าไปที่เมืองไนท์ชาร์มของไป๋หลิงซวง
ไป๋หลิงซวงนั้นแตกต่างไปจากไป๋อี้และไป๋เวย เธอมีทรัพยากรมากมายมหาศาล เมืองไนท์ชาร์มนั้นเป็นเหมือนกับคลับชั้นสูงที่ตั้งอยู่ในอาณาจักรของกษัตริย์ แต่มันเป็นเพียงแค่หนึ่งในดินแดนของไป๋หลิงซวง
มันเป็นแค่เมืองๆหนึ่งก็จริง แต่มันเป็นเมืองที่ครอบคลุมทั้งดวงดาว เนื่องจากเมืองไนท์ชาร์มมีชื่อในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิง การหาข้อมูลเกี่ยวกับมันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร หานเซิ่นทำการบ้านมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะออกเดินทางมา เขาหวังว่ามันจะไม่มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา
“ไปบอกเจ้านายของเจ้าว่าองค์ชายสิบหกมาถึงที่นี่แล้ว”
หานเซิ่นตีก้นของพนักงานต้อนรับและบีบมันอย่างเต็มมือ เขาพูดเสียงดังอย่างภาคภูมิใจ
“องค์ชาย เมืองไนท์ริเวอร์นั้นไม่อนุญาตให้พาซีโน่เจเนอิคเข้ามา”
พนักงานต้อนรับยังคงยิ้มออกมา แต่ในดวงตาของเธอมีประกายของความโกรธ
“พวกเจ้าไม่รับซีโน่เจเนอิคของผู้อื่นอย่างนั้นหรอ? นั่นไม่เป็นไร แต่ซีโน่เจเนอิคของไป๋อี้อยู่เหนือกฎของพวกเจ้า” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกับกิเลนโลหิต
สีหน้าของยามรักษาการณ์เปลี่ยนไป พวกเขาก้าวมาข้างหน้าราวกับจะหยุดหานเซิ่นเอาไว้ แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับไปประจำที่ของตัวเอง
มันมีพวกลูกขุนนางมากมายมาที่นี่ แต่เมื่อเทียบกับไป๋อี้ คนพวกนั้นก็ถือว่าสุภาพเรียบร้อยไปเลย ไม่มีใครชอบไป๋อี้ ไม่แม้แต่คนงาน
“องค์ชายโปรดรอสักครู่ องค์หญิงกำลังมา” พนักงานต้อนรับพาหานเซิ่นไปที่ชั้นบนสุด หลังจากนั้นเธอก็จากไป
‘เอ็กซ์ตรีมคิงนี่รู้จักวิธีที่ให้ความสำคัญกับตัวเองดีจริงๆ’
หานเซิ่นนั่งลงบนโซฟาและมองไปรอบๆ เขาลูบหัวของกิเลนโลหิตขณะที่คิดกับตัวเอง
“น้องสิบหก เจ้ามีซีโน่เจเนอิคครึ่งเทพแค่ตัวเดียว เจ้าไม่เห็นต้องอวดมันตลอด 24 ชั่วโมงเลย” ไป๋หลิงซวงเดินเข้ามาและมองไปที่กิเลนโลหิตขณะที่พูด
“ซีโน่เจเนอิคระดับครึ่งเทพ? มันอาจจะดูไม่เท่าไหร่ในสายตาของเจ้า แต่สำหรับองค์ชายที่ไร้ประโยชน์อย่างข้า มันถือว่าสำคัญมากๆ ข้าจำเป็นต้องพามันไปไหนมาไหนบ่อยๆ”
หานเซิ่นยกแก้วไวน์ขึ้นมาและดื่มมันเข้าไป เขามองไปที่ไป๋หลิงซวง และพูด “ยังไงก็ตามข้าต้องขอบคุณเจ้า ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าก็คงจะไม่ได้รับเจ้าตัวนี้มา”
ไป๋หลิงซวงไม่ต้องการจะพูดกับหานเซิ่นเกินกว่าที่จำเป็น เธอโยนบางสิ่งให้กับเขาและปรบมือของเธอ
ผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างมากคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอเข้ามายืนถัดไปจากไป๋หลิงซวงและโค้งคำนับ หลังจากนั้นเธอก็โค้งคำนับหานเซิ่นและพูด
“ข้าชื่อเชอร์ มันถือเป็นเกียรติที่ได้พบกับองค์ชาย”
ร่างกายของเชอร์ดูน่าดึงดูดอย่างมาก ดวงตาของเธอสามารถสะกดคนๆหนึ่งได้ เสียงของเธอเป็นเหมือนกับตะขอที่สามารถดึงความสนใจของทุกคน
“จิ้งจอก!” ดวงตาของหานเซิ่นเบิกกว้างขณะที่มองไปที่เชอร์ เขาตกใจกลัว เธอมีหูและหางของจิ้งจอก
“ตอนนี้บัตรผ่านสู่พาวิลเลี่ยนของเอ็กซ์ตรีมคิงและเชอร์เป็นของเจ้าแล้ว เจ้าควรจะพอใจแล้วสินะ” ไป๋หลิงซวงพูดอย่างไร้ความรู้สึก
“พี่สิบเชื่อในตัวข้ามากจริงๆ” หานเซิ่นมองไปที่เชอร์ เขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนและเอื้อมเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ
เชอร์ยังคงยิ้มออกมา แต่ภายในใจเขารู้ว่าเธอเกลียดชังอะไรแบบนี้
ไป๋หลิงซวงออกไปจากห้องอย่างฉุนเฉียว และตอนนี้หานเซิ่นก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา เขาควรจะคิดเกี่ยวกับไป๋อี้ให้มากกว่านี้ สำหรับคำขอจากไป๋อี้แล้ว นี่ถือเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลจนน่าเศร้า
แต่บัตรผ่านเข้าสู่พาวิลเลี่ยนของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ ถึงเขาจะมาอยู่ในดินแดนของเอ็กซ์ตรีมคิงได้ไม่นาน แต่เขาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับพาวิลเลี่ยนของเอ็กซ์ตรีมคิงมาก่อน
มีเพียงแค่คนของราชวงศ์ที่ได้รับรางวัลจากราชาไป๋ถึงจะได้รับบัตรผ่านนี้มา มันเป็นสิ่งที่อนุญาตให้คนของราชวงศ์เข้าไปในพาวิลเลี่ยนของเอ็กซ์ตรีมคิงได้ บัตรผ่านหนึ่งใบสามารถมอบสิทธิ์เข้าไปหนึ่งครั้ง
ตำนานบอกเอาไว้ว่าภายในนั้นมีสมบัติในตำนานอยู่มากมาย และมีเพียงแค่คนของราชวงศ์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงพวกมัน ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่คนของราชวงศ์ บัตรผ่านก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ไป๋อี้ไม่เคยได้รับบัตรผ่านมาก่อน หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าข้อตกลงระหว่างไป๋อี้กับไป๋หลิงซวงจะทำให้เขาได้รับบัตรผ่านเข้าสู่พาวิลเลี่ยนของเอ็กซ์ตรีมคิง การค้นพบนี้ทำให้หานเซิ่นดีใจอย่างมาก
แต่จิ้งจอกสาวที่เป็นอีกข้อตกลงหนึ่งของไป๋อี้ ทำให้หานเซิ่นไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรต่อไปดี
จากนิสัยของไป๋อี้ เขาคงจะต้องทำอะไรกับจิ้งจอกสาวคนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่หานเซิ่นไม่ใช่ไป๋อี้ เขาชอบผู้หญิงเหมือนกัน แต่เขาไม่ต้องการทำอะไรกับผู้หญิงที่เขาไม่รู้จัก
และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นภายในห้องมีกล้องอยู่ หานเซิ่นไม่ได้มีความชอบทางเพศที่ถูกจับตามอง
แต่ตอนนี้เขากำลังปลอมตัวเป็นไป๋อี้ การปล่อยตัวผู้หญิงที่ไป๋อี้ฝันถึงมาตลอดโดยไม่ทำอะไรจะทำให้ไป๋หลิงซวงสงสัยเอาได้
หานเซิ่นยังคิดอีกว่าไป๋หลิงซวงยังคงนั่งอยู่หลังหน้าจอกล้องวงจรปิดเพื่อมองดูทุกการเคลื่อนไหวของเขา
หานเซิ่นจับเอวของเชอร์เอาไว้ขณะที่พยายามคิดว่าควรจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดี
“องค์ชาย นี่เป็นครั้งแรกของข้า ได้โปรดทำอย่างอ่อนโยน…”
ใบหน้าของเชอร์เปลี่ยนเป็นสีแดง ผิวบริเวณหน้าอกของเธอมีสีชมพูอ่อนๆ เธอดูมีเสน่ห์มากๆ การได้เห็นเธอจะทำให้ผู้ชายรู้สึกมีความต้องการทางเพศ
ตอนที่ 2328
ความงามของเชอร์ทำให้หัวใจของผู้ชายเต้นรัว แต่ในดวงตาของหานเซิ่นนั้นเธอไม่ได้น่าดึงดูดเลยสักนิด
หานเซิ่นเคยเห็นผู้หญิงที่งดงามมามากมาย ตอนนี้เขาไม่ได้ตัดสินคนแค่เปลือกนอก สิ่งที่อยู่ภายในนั้นสำคัญกว่าสิ่งที่อยู่ภายนอก
ดูเหมือนกับว่าเชอร์จะรังเกียจไป๋อี้อย่างมาก ท่ายั่วยวนที่เธอแสดงออกมานั้นมีจุดประสงค์เฉพาะ คนปกติอาจจะถูกดึงดูดด้วยท่าทางยั่วยวนของเธอ แต่หานเซิ่นคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าเบื่อ
เชอร์ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่หานเซิ่นชอบ และถึงเขาจะชอบเธอ เขาก็จะไม่ทำอะไรผู้หญิงง่ายๆแบบนั้น
แต่ในตอนนี้ถ้าหานเซิ่นไม่ทำอะไร เขาก็จะตกเป็นที่ต้องสงสัยได้
ไป๋อี้ที่ชั่วร้ายและบ้ากามคงจะไม่ลังเลที่จะทำบางสิ่งกับผู้หญิงที่งดงาม
ไป๋หลิงซวงจะไม่เชื่อคำโกหกของหานเซิ่นถ้าเขาแสดงความยับยั้งชั่งใจ
หานเซิ่นอุ้มเชอร์ขึ้นมาและพาเธอไปที่เตียง
เชอร์พิงหน้าอกของหานเซิ่นด้วยท่าทางเขินอาย แขนของเธอคล้องรอบคอของหานเซิ่น
เมื่อหานเซิ่นวางเชอร์ลงบนเตียง ดวงตาที่งดงามของเธอก็มามองที่ดวงตาของหานเซิ่น ดวงตาของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่ 10 เซนติเมตรเท่านั้น
หานเซิ่นพยายามจะหันหน้าหนี เขาอยากจะใช้วิชาจีโน แต่ดวงตาของเชอร์ดูแปลกมากๆ พวกมันเป็นเหมือนกับแม่เหล็กที่ดึงดูดหัวใจของผู้คน หานเซิ่นกำลังต้องมนต์สะกดของดวงตาที่ดึงดูดของเธอ
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขาหยุดวิชาจีโนและทำเหมือนกับว่าเขาหลงไหลมนต์เสน่ห์ของเธอ เขาเคยเห็นดวงตานี้มาก่อนในตอนที่เขาถูกกักขังอยู่ในปราสาทโกสต์โบน ราชินีจิ้งจอกพยายามจะหลอกเขาด้วยวิธีการเดียวกัน หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าเชอร์จะมีความสามารถเดียวกันนี้ด้วย
มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะบอกว่าเธอเป็นหนึ่งในจิ้งจอกเปลี่ยนร่าง พวกเธอทั้ง 2 เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน และความสามารถก็อาจจะเป็นความสามารถที่จิ้งจอกเปลี่ยนร่างทุกคนมี มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เชอร์สามารถทำแบบนี้ได้ แต่เมื่อเทียบกับราชินีจิ้งจอกแล้ว เชอร์ถือว่ายังเป็นมือสมัครเล่น
แต่พลังของเชอร์ก็ยังทำให้หานเซิ่นประหลาดใจอยู่ดี เธอต้องเป็นระดับราชันอย่างแน่นอน
จิ้งจอกเปลี่ยนร่างมีความสามารถในการปิดบังความแข็งแกร่งของตัวเอง และมันก็มีประสิทธิภาพมากๆ
แต่เมื่อคิดเกี่ยวกับการที่ราชินีจิ้งจอกปลอมตัวเป็นราชองครักษ์ระดับราชันเพื่อแฝงตัวเข้าในเอ็กซ์ตรีมคิงทั้งๆที่เป็นระดับเทพเจ้า นี่ก็ไม่ถือว่าพิเศษอะไร
หานเซิ่นคุ้นเคยกับวิชาจีโนนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยายังไง ดวงตาของเขาเริ่มดูมึนงงราวกับต้องมนต์สะกดขณะที่ตัวแข็งทื่อไป
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ล้มตัวลงไปนอนบนตัวของเชอร์ เขาเป็นเหมือนกับซอมบี้
‘เชอร์คนนี้ใช้วิชาล่อลวงเพื่อทำให้เราตกอยู่ในมนต์สะกด เธอพยายามทำให้เราคิดว่าเราทำอะไรบางอย่างกับเธอแล้ว คนส่วนใหญ่คงจะไม่รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น นี่เป็นความคิดของเธอเองหรือว่ามันเป็นสิ่งที่ไป๋หลิงซวงสั่งให้เธอทำกัน?’ หานเซิ่นสงสัย แต่เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นตัวเลือกที่ 2
เชอร์มองหานเซิ่นด้วยความขยะแขยงขณะที่เธอผลักเขาออกไป เธอนั่งลงบนเตียงและจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เธอดูสะอิดสะเอียนอย่างมาก
ประตูลับในห้องเปิดออกและไป๋หลิงซวงก็เดินเข้ามา
เชอร์โค้งคำนับและพูด “องค์หญิง ข้าทำให้เขาตกอยู่ในมนต์สะกดเรียบร้อยแล้ว เขาจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ไป๋หลิงซวงพยักหน้า “ดีมาก ถอดชุดของเขาและปลดเอาทุกอย่างออกให้หมด ข้าต้องการดูเขาชัดๆ”
“องค์หญิงคิดว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติกับองค์ชายสิบหกอย่างนั้นหรอ?” เชอร์ถาม
“ก็ไม่ซะทีเดียว… ข้าแค่รู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับเขา” ไป๋หลิงซวงพูด
‘ดูเหมือนว่าการพยายามปลอมตัวเป็นไป๋อี้ของเราจะล้มเหลว’
หานเซิ่นคิด ขณะได้ยินเสียงเชอร์ดังขึ้นมา “ว่าแต่ทำไมกิเลนโลหิตถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย?”
เนื่องจากไป๋หลิงซวงและเชอร์อยู่ที่นี่ หานเซิ่นจึงไม่กล้าใช้ออร่าตงเสวียนเพื่อสแกนรอบๆห้อง หานเซิ่นกังวลว่าทั้งคู่จะรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา เขาเห็นว่ากิเลนโลหิตนอนอยู่ตรงนั้นและไม่เคลื่อนไหวใดๆราวกับว่ามันกำลังหลับอยู่
แต่หานเซิ่นรู้ว่าไม่มีทางที่กิเลนโลหิตจะหลับจริงๆ เพราะถ้ามันหลับไป การเข้ามาของไป๋หลิงซวงก็จะปลุกให้มันตื่นขึ้น แต่ตอนนี้มันแค่นอนนิ่งๆ มันต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เชอร์เดินเข้ามาอย่างสงบเงียบและเริ่มถอดเสื้อผ้าของหานเซิ่น หานเซิ่นได้แต่นอนนิ่งๆ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะพังทลาย
เชอร์นำเสื้อผ้าและสิ่งของที่หานเซิ่นพกติดตัวไปวางตรงหน้าไป๋หลิงซวง ไป๋หลิงซวงตรวจดูข้าวของและพูด
“มีดเขี้ยวผีสิงนี้ของหานเซิ่น ใบมีดสายฟ้าสีเงินนี้ก็เป็นของหานเซิ่นเช่นกัน มันอาจจะเป็นถึงอาวุธระดับครึ่งเทพเลยก็เป็นได้ เจดดรัมนี้ดูแตกกต่างไปจากเจดดรัมปกติ บางทีมันอาจจะเป็นเจดดรัมกลายพันธุ์ ของทั้งหมดนี่คงจะต้องเป็นของหานเซิ่น”
“ทำไมเขาถึงพกแต่สิ่งของของหานเซิ่น?” เชอร์ขมวดคิ้ว
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขาต้องการจะพกสิ่งของของไป๋อี้ติดตัวมาด้วย แต่พวกมันทั้งหมดถูกหมาป่าโลหะสีฟ้ากินเข้าไปหมดแล้ว และมันก็ไม่มีของมีค่าอะไรภายในบ้านของเขา หานเซิ่นพบแค่เครื่องประดับไม่กี่อย่างเท่านั้น ไป๋อี้ไม่มีสมบัติซีโน่เจเนอิคหรือสิ่งของระดับราชันอยู่เลย
ไป๋หลิงซวงพูด “ไป๋อี้นั้นบ้ากามและติดการพนัน ที่เขายังไม่สูญเสียทุกอย่างก็เพราะเขาแต่งงานกับหลันไห่ซิน แต่หลันไห่ซินคนนั้นมีจุดประสงค์ของตัวเองถึงแต่งงานกับเขา นางไม่ได้หลงรักไป๋อี้ สิ่งที่นางครอบครองอยู่จะไม่ถูกมอบให้กับไป๋อี้ ถึงไป๋อี้จะมีฐานะเป็นองค์ชาย แต่เขาก็ไม่ได้ต่างอะไรจากทาสรับใช้คนหนึ่ง สถานการณ์ของเขาค่อนข้างแย่ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่โลภมากพอที่จะขอบัตรผ่านสู่พาวิลเลี่ยนจากข้า”
“โชคดีที่เขาถูกเลือกให้ไปฆ่าหานเซิ่น นั่นเป็นรางวัลที่เขาได้รับ หานเซิ่นเป็นคนพิเศษจริงๆ แต่เขาก็เป็นคนที่โง่เขลา เขาเลือกที่จะรับใช้ไป๋เวยคนนั้น เขาสมควรตายแล้ว”
ไป๋หลิงซวงตรวจเช็คสิ่งของทุกอย่างและโยนพวกมันทิ้งไป เธอเดินกลับเข้าไปในประตูลับและพูด “ไปหาผู้หญิงเผ่าหมูมาคนหนึ่ง พวกเราจำเป็นต้องทำให้มันดูสมจริง อย่าให้เขาจับผิดอะไรได้หลังจากที่ตื่นขึ้นมา”
‘ทำไมพวกเธอถึงได้โหดร้ายขนาดนี้? นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว!’
หานเซิ่นคิด คนเผ่าหมูมีร่างกายเป็นมนุษย์แต่หัวเป็นหมู พวกเขามีร่างกายที่แข็งแรง แต่พวกเขาเป็นแค่ทาสเท่านั้น
ไป๋หลิงซวงต้องการให้ผู้หญิงเผ่าหมูคนหนึ่งมาขึ้นเตียงกับเขา หานเซิ่นรู้สึกอยากจะกระโดดขึ้นมาและฆ่าเธอ
เชอร์นำสิ่งของของหานเซิ่นกลับมาที่เตียงและโยนพวกมันลงไป เธอยกขาขึ้นและเตะที่ร่างกายของหานเซิ่นอย่างแรง เธอพูดอย่างเกรี้ยวโกรธ
“กล้าแตะต้องตัวข้าอย่างนั้นหรอ? รอคอยเดี๋ยวก่อนนะ”
หลังจากนั้นเชอร์ก็หันกลับเพื่อจะไปเรียกผู้หญิงเผ่าหมูมา หานเซิ่นคิดว่านี่คือที่สุดแล้ว เขาไม่สามารถแกล้งทำแบบนี้อีกต่อไปได้ ในจังหวะที่เชอร์หันหลัง หานเซิ่นก็กระโดดขึ้นมา เขาจับเธอจากด้านหลังและใช้มือปิดปากของเธอเอาไว้ขณะที่โยนเธอลงบนเตียง
พลังน้ำแข็งของวิชากายหยกและแสงแห่งเทพระดับราชันของร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์รวมเข้าด้วยกันเพื่อล็อคร่างของเชอร์เอาไว้ เธอตั้งตัวไม่ทันและแข็งทื่อไปทันที
แต่เธอเป็นระดับราชัน พลังน้ำแข็งของหานเซิ่นจึงละลายอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ 2329
‘เราควรจะฆ่าเธอดีไหมนะ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
พลังของเชอร์นั้นแข็งแกร่งกว่าที่หานเซิ่นคาดคิด พลังน้ำแข็งของเขาไม่ได้ผลกับเธอเท่าไหร่นัก และเมื่อหานเซิ่นเห็นว่าเชอร์กำลังจะหลุดมาจากน้ำแข็งแล้ว เขาก็รู้ว่าถ้าเธอหนีไปได้มันจะทำให้ตัวตนที่แท้จริงของเขาถูกเปิดเผย
แต่การฆ่าเชอร์ก็ไม่ได้ทำให้เขาน่าสงสัยน้อยลงไปเช่นกัน
ที่นี่คือเมืองไนท์ชาร์ม มันไม่ใช่สถานที่ที่ผู้คนจะฆ่าฟันกันเพื่อทรัพยากรเหมือนอย่างในพิมานของอัศวิน ในเมืองแห่งนี้ผู้คนจำเป็นต้องทำตามกฎหมายของเอ็กซ์ตรีมคิง แม้แต่องค์ชายก็ไม่สามารถฆ่าคนอื่นตามใจชอบได้
ตอนนี้เชอร์ทั้งโกรธและกลัว เธอมั่นใจเต็มเปี่ยมว่ามนต์สะกดของเธอได้ผลกับหานเซิ่น ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ระวังตัว
โชคดีที่พลังของเธอเองเป็นอะไรที่น่าประทับใจ เธอแข็งแกร่งยิ่งกว่าไป๋อี้และเธอก็มีความต้านทานต่อน้ำแข็งที่สูง
เมื่อเห็นว่าเชอร์กำลังจะหนีจากน้ำแข็งได้ หานเซิ่นก็เอนตัวไปใกล้ๆเธอและกระซิบ
“เชอร์ เจ้าจำราชินีจิ้งจอกได้ไหม?”
เมื่อเชอร์ได้ยินแบบนั้น เธอก็ตกตะลึงไป แต่ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็กลับมาเป็นปกติและพยายามจะต่อสู้เพื่ออิสระภาพอีกครั้ง ราวกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไรที่หานเซิ่นเพิ่งจะถามเธอ
หานเซิ่นรู้ว่าสายลมกำลังพัดไปทางไหน ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นมา
“ข้าเป็นคนสนิทของราชินีจิ้งจอก ถ้าคำกล่าวอ้างนั่นไม่เป็นจริง เจ้าก็รู้ว่าข้าคงจะตายไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเจ้าควรจะเงียบและตั้งใจฟังให้ดี ถ้าบางสิ่งเกิดขึ้นกับข้า บางสิ่งก็จะเกิดขึ้นกับราชินีจิ้งจอกเช่นกัน”
“ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย?” เชอร์ทำลายน้ำแข็งชั้นสุดท้ายได้แล้ว แต่เธอไม่ได้พยายามขัดขืนหลังจากที่เธอเป็นอิสระแล้ว
หานเซิ่นเอนตัวลงไปและกระซิบ “เรดสลีฟ”
เชอร์อ้าปากค้าง มันเห็นได้ชัดว่าเธอเองก็รู้ว่าเรดสลีฟคือราชินีจิ้งจอก
ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกปลอดภัยขึ้นมา เขาพูดต่อ “ต้องขอโทษด้วยที่ต้องทำแบบนี้ แต่ข้าแน่ใจว่าเจ้าคงจะเข้าใจสถานการณ์ของข้า เจ้าช่วยบอกข้าได้ไหมว่าข้าจะรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้ยังไง?”
“เจ้าคือหานเซิ่น?” เชอร์ไม่ได้โง่ จิ้งจอกเปลี่ยนร่างส่วนใหญ่นั้นชาญฉลาด เธอรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เธอคิดว่ามันยากจะเชื่อได้
หานเซิ่นเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง ไม่เพียงแค่รีเทิร์นทูออริจินของไป๋อี้จะไม่ได้ผลแล้ว เขายังถูกหานเซิ่นฆ่าตาย หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ยังสวมรอยเป็นองค์ชายไป๋อี้อีก ความกล้าของเขาเป็นอะไรที่บ้ามาก
หานเซิ่นรู้ว่าไม่สามารถปกปิดความจริงได้อีกต่อไป แต่นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของสถานการณ์ในขณะนี้
ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่รู้ความลับของกันและกัน หานเซิ่นรู้ว่าเชอร์จะไม่ขายเขานอกจากว่ามันจะจำเป็นจริงๆ
หานเซิ่นยิ้มให้กับเชอร์
อารมณ์หลายอย่างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเชอร์ หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็กันฟันและพูด
“รอข้าอยู่บนเตียง ข้าจะไปเรียกผู้หญิงเผ่าหมูมา”
“อย่าแม้แต่จะคิด ถ้าข้ายินดีจะทำแบบนั้น ข้าจะเปิดเผยตัวเองไปทำไม?”
หานเซิ่นยังคงกดเชอร์ลงบนเตียงเพื่อไม่ให้เธอขยับเขยื้อน
เชอร์หน้าแดงและพูด “ถ้าข้าไม่ไปทำแบบนั้น ไป๋หลิงซวงจะจับสังเกตได้ อย่าได้กังวล ข้าจะใช้วิชาจีโนเพื่อควบคุมผู้หญิงเผ่าหมูคนนั้น สวมเสื้อผ้าของเจ้าและรอข้าอยู่ที่นี่ อย่าได้ออกไปจากเตียงเป็นอันขาด มีเพียงแค่ตรงเตียงที่ไม่ถูกจับภาพโดยกล้องวงจรปิด”
“โอเค ในครั้งนี้ข้าจะยอมเชื่อคำพูดของเจ้า” หานเซิ่นกลิ้งออกไปอีกข้างหนึ่งของเตียงและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ทีละชิ้นๆ
เชอร์ชำเลืองมองหานเซิ่นก่อนที่จะเดินออกไป
ในขณะที่หานเซิ่นสวมใส่เสื้อผ้า เขาก็ครุ่นคิด เมื่อเชอร์กลับมา เธอก็พาบางคนที่สูง 3 เมตรและเอวกว้าง 8 ฟุตเข้ามา มันเป็นหมูจริงๆ
แต่มันดูเหมือนว่าผู้หญิงเผ่าหมูนั้นกำลังตกอยู่ภายใต้มนต์สะกด ดวงตาของเธอดูเบื่อหน่าย เธอนอนลงบนเตียงและเริ่มส่งเสียงร้องออกมา
เชอร์มองไปที่หานเซิ่นและพูด “เพื่อทำให้มันดูสมจริง เจ้าเองก็จำเป็นต้องส่งเสียงเช่นกัน”
ไม่นานหลังจากนั้นเชอร์ก็พาผู้หญิงเผ่าหมูออกไป เธอกลับมาและนอนลงข้างๆหานเซิ่นโดยสวมใส่แค่เสื้อคลุมอาบน้ำ
“เจ้าปลอมตัวเป็นองค์ชายสิบหกได้ยังไง?” เชอร์ถามขณะที่นอนมองไปที่หานเซิ่น
“นั่นไม่ใช่เรื่องยากอะไร ว่าแต่เจ้าล่ะ? เจ้ายังสาวอยู่ แต่เจ้าต้องถูกห้อมล้อมไปด้วยยอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิง ชีวิตของเจ้าคงจะเป็นอะไรที่ยากลำบาก” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าช่วยแสดงความจริงใจหน่อยได้ไหม? ข้าเพิ่งจะช่วยช่วยเจ้า ถ้าข้าไม่ช่วย เจ้ากับผู้หญิงเผ่าหมูคนนั้นก็คงจะต้อง…”
เมื่อเชอร์รู้สึกตัวถึงสิ่งที่พูด เธอก็หน้าแดงและหยุดพูดไป
“จากจิ้งจอกเปลี่ยนร่างทั้งหมดที่ข้าเคยพบ เจ้าเป็นคนที่ไร้ยางอายน้อยที่สุด เจ้าดูเป็นคนที่บริสุทธิ์มาก แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็เลื่อนขั้นถึงระดับราชันได้สำเร็จ เจ้าคงจะต้องเมื่อชื่อเสียงมากในหมู่จิ้งจอกเปลี่ยนร่าง”
เชอร์ยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยด้วยความเย้ยหยัน “พยายามจะล้วงข้อมูลจากข้าอย่างนั้นหรอ? เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”
“พวกเราแค่ทำการแลกเปลี่ยนกัน เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” หานเซิ่นไอกลบเกลื่อน
หานเซิ่นรู้สึกสนใจในแผนการลับของราชินีจิ้งจอก ถ้าผู้หญิงอย่างราชินีจิ้งจอกยอมปลอมตัวเป็นองครักษ์คนหนึ่งเพื่อแฝงตัวเข้ามา มันก็ต้องมีเรื่องใหญ่บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
หานเซิ่นคิดจะล้วงเอาข้อมูลจากเชอร์ เธอดูบริสุทธิ์ซะจนดูเหมือนคนที่ขาดประสบการณ์ แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนที่ฉลาดพอที่จะมองเขาออก
เชอร์ขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆกับหานเซิ่น มันใกล้ซะจนพวกเขาสามารถรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย
“นี่เจ้ากำลังทำอะไร? ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อนว่าข้าเป็นคนมีมาตรฐาน” หานเซิ่นพูดพร้อมกับกระพริบตา
“เจ้าคือหานเซิ่นจริงๆอย่างนั้นหรอ?” เชอร์ถามอย่างสงสัย
“พวกเรากำลังนอนร่วมกัน แต่เจ้ายังถามเรื่องนั้นอีกอย่างนั้นหรอ? นั่นทำให้ข้ารู้สึกเจ็บปวด” หานเซิ่นยักไหล่เล็กน้อย
ดวงตาของเชอร์ดูเหมือนกับดวงจันทร์ เธอยิ้มและพูด “ข้าคิดว่าพวกเราจิ้งจอกเปลี่ยนร่างเก่งกาจเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวตน แต่เจ้าคงจะยอดเยี่ยมยิ่งกว่า เจ้าปลอมตัวเป็นถึงองค์ชายสิบหกของเอ็กซ์ตรีมคิงและยังหลีกเลี่ยงการถูกจับได้สำเร็จ แม้แต่ราชินีจิ้งจอกก็ไม่มีความกล้าพอจะทำอย่างที่เจ้าทำ”
“ที่ข้าทำได้สำเร็จก็เพราะข้าเรียนรู้เคล็ดลับหลายอย่างมาจากราชินีจิ้งจอก” หานเซิ่นพูด
ดวงตาของเชอร์ดูเป็นประกาย “เจ้าใกล้ชิดกับนางอย่างนั้นหรอ?”
“ใกล้ชิดสิ ใกล้ชิดมากๆ ราชินีจิ้งจอกถึงขนาดที่ต้องการจะแต่งงานกับข้า แต่ข้าไม่ต้องการทำแบบนั้น” หานเซิ่นพูดเล่นๆ
เมื่อเชอร์ได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง เธอไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของหานเซิ่น “โกหก”
“ข้าจะโกหกไปทำไม? ก้นของราชินีจิ้งจอกของเจ้ามี…” หานเซิ่นบรรยายถึงรายละเอียด
เชอร์มองหานเซิ่นราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด หลังจากนั้นสักพักเธอก็พูด “เจ้ากับราชินีจิ้งจอก… นั่น… นั่น…”
“ข้าทำให้นางผิดหวังในตอนที่ปฏิเสธคำขอแต่งงานของนาง”
หานเซิ่นถอนหายใจ “ในตอนนี้ข้าได้แต่พยายามช่วยเหลือนางและคลายความเสียใจของนาง ถ้าข้าทำแบบนั้น ข้าก็จะตายอย่างมีความสุข”
“เจ้าจะช่วยราชินีจิ้งจอกชิงสมบัติของพวกเราอย่างนั้นหรอ?” เชอร์รู้สึกซึ้งขณะที่พูดออกมา
หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจอย่างมาก เชอร์เป็นคนที่รับมือง่ายกว่าจิ้งจอกเปลี่ยนร่างคนอื่นมาก ถึงเธอจะเป็นระดับราชันและเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่เธอก็ไม่ได้มีประสบการณ์มากนัก
ตอนที่ 2330
ตอนเช้าในที่สุดหานเซิ่นก็ได้รับบัตรผ่านเข้าสู่พาวิลเลี่ยนของเอ็กซ์ตรีมคิงและเขาก็เดินทางออกจากเมืองไนท์ชาร์ม ในตอนที่กลับออกมา เขามองไปที่เชอร์ราวกับว่าเขาต้องการเธอมากๆ แต่ไป๋หลิงซวงไม่ปล่อยให้เขาเข้าไปใกล้เธอ เนื่องจากข้อตกลงกันของพวกเขาเสร็จสิ้นแล้ว
กิเลนโลหิตหลับใหลอยู่ตลอดทั้งคืน และหลังจากที่มันตื่นขึ้นมามันก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น หานเซิ่นไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้มันนอนหลับตลอดทั้งคืนแบบนั้น
หานเซิ่นขี่กิเลนโลหิตออกจากเมืองไนท์ชาร์มและมุ่งหน้าตรงไปที่พาวิลเลี่ยนของเอ็กซ์ตรีมคิง เขากำลังตกอยู่ในอันตราย ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวตนของเขาสามารถถูกเปิดโปงได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเขาจึงอยากจะใช้บัตรผ่านสู่พาวิลเลี่ยนให้เร็วที่สุด
และเมื่อคำนึงถึงความละโมบของไป๋อี้ ทุกคนก็คงจะคาดคิดว่าเขาจะใช้บัตรผ่านในทันทีอยู่แล้ว
เมื่อเขาไปถึงพาวิลเลี่ลยน หานเซิ่นก็แสดงบัตรผ่านเพื่อเข้าไปข้างใน ส่วนกิเลนโลหิตต้องรอเขาอยู่ด้านนอก
แต่เมื่อหานเซิ่นเข้าไปในพาวิลเลี่ยน เขาก็ต้องขมวดคิ้ว ตำนานบอกว่าในที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยสมบัติมากมาย แต่หานเซิ่นไม่เห็นสมบัติอะไรเลยขณะที่เดินเข้ามาข้างใน มันมีแต่พวกรูปปั้นเท่านั้น
เหล่ารูปปั้นสวมใส่ชุดเกราะราชวงศ์อยู่ ถึงแม้พวกมันจะเป็นแค่รูปปั้น แต่ภาพของพวกมันก็ยังเป็นอะไรที่น่าประทับใจอยู่ดี รูปปั้นแต่ละรูปคงจะเป็นตัวแทนของกษัตริย์แต่ละองค์ของเอ็กซ์ตรีมคิง
แต่นอกจากเหล่ารูปปั้นแล้ว มันไม่มีสมบัติอะไรอย่างอื่นอยู่ หานเซิ่นพบป้ายประกาศบนกำแพงและรู้สึกว่าตัวว่าจริงๆแล้วเหล่ารูปปั้นก็คือสมบัติของพาวิลเลี่ยน
ในระหว่างพิธีราชาภิเษก รูปปั้นของกษัตริย์องค์ใหม่จะถูกนำมาตั้งไว้ภายในพาวิลเลี่ยน วัสดุที่ใช้สร้างรูปปั้นขึ้นมาไม่ได้มีค่ามากมายอะไร แต่ก่อนที่รูปปั้นจะถูกนำมาตั้งภายในพาวิลเลี่ยน กษัตริย์คนนั้นจะทิ้งวิชาจีโนของพวกเขาเอาไว้ภายในพวกมัน ถ้าราชวงศ์ที่มีบัตรผ่านเข้าสู่พาวิลเลี่ยนสามารถเข้าใจถึงความหมายของวิชาจีโนนั้นๆได้ พวกเขาก็จะปลุกรูปปั้นให้ตื่นขึ้นมาและเผยสมบัติที่ซ่อนอยู่ รูปปั้นแต่ละรูปมีสมบัติที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยกษัตริย์คนนั้นๆอยู่
‘ถ้าพวกนี้คือสมบัติที่ถูกกษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงทิ้งเอาไว้ พวกมันก็ต้องเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ แต่การจะเข้าใจถึงจิตใจของกษัตริย์คนหนึ่งคงจะทำสำเร็จไม่ได้ง่ายๆ’ หานเซิ่นคิดขณะที่มองไปที่เหล่ารูปปั้น
ถึงแม้รูปปั้นแต่ละรูปจะเป็นเอกลักษณ์ แต่พวกมันทั้งหมดก็มีสัมผัสของพลังที่ลึกลับเหมือนๆกัน ขณะที่หานเซิ่นมองใกล้ๆ เขาก็บอกได้ว่ารูปปั้นแต่ละรูปดึงดูดเขาด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป พวกมันทั้งหมดมีบรรยากาศเฉพาะของตัวเอง
มันมีรูปปั้นอยู่ทั้งหมด 79 รูปด้วยกัน นั่นหมายความว่ามีกษัตริย์อย่างน้อย 79 องค์ที่ปกครองเอ็กซ์ตรีมคิงในระหว่างประวัติศาสตร์ของพวกเขา
รูปปั้นบางรูปมีหินอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ขณะที่รูปปั้นอื่นไม่มี ถ้ารูปปั้นไหนไม่มีหิน มันก็หมายความว่าสมบัติที่อยู่ภายในถูกเอาไปเรียบร้อยแล้ว
หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าเหลือรูปปั้นเพียงแค่ 3 รูปเท่านั้นที่ยังมีสมบัติอยู่ สมบัติส่วนใหญ่ถูกเอาไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายความว่าสมบัติของรูปปั้นที่เหลืออยู่นั้นยากจะเอาไปได้
นั่นสมเหตุสมผล เอ็กซ์ตรีมคิงมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และมันก็มีบุคคลที่มีพรสวรรค์มากมายอยู่ในหมู่พวกเขา การเข้าใจรูปปั้นรูปหนึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป
แต่มันเหลือรูปปั้น 3 รูปที่ยังไม่มีใครเข้าใจได้ นั่นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลก
หานเซิ่นมองไปที่รูปปั้นทั้ง 3 ตัวอักษรถูกแกะสลักเอาไว้บนฐานของรูปปั้นแต่รูป ซึ่งบรรยายกษัตริย์องค์นั้นๆ
รูปปั้นแรกที่ยังไม่มีใครเอาสมบัติไปก็คือรูปปั้นแรกสุดที่หานเซิ่นเห็นเมื่อเดินเข้ามาข้างใน นั่นหมายความว่ารูปปั้นนั้นต้องเป็นของกษัตริย์องค์แรกของเอ็กซ์ตรีมคิง หรือบางทีอาจจะเป็นอัลฟ่าของพวกเขาเลยก็เป็นได้
คำจารึกของรูปปั้นบอกว่ากษัตริย์นั้นเป็นที่รักของทุกคน มันบอกถึงสติปัญญาและความทรงพลังของเขา เขาสามารถสยบทั้งจักรวาลได้ด้วยมือของเขา มันบอกว่าเขาคงเสถียรภาพของจักรวาลกว่าพันล้านปี บอกตามตรงมันฟังดูไร้สาระจนน่าหัวเราะ มันฟังดูราวกับว่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นปกครองทั้งจักรวาลจีโน
แต่หานเซิ่นรู้ว่าครั้งหนึ่งเอ็กซ์ตรีมคิงเคยเป็นแค่เผ่าพันธุ์เล็กๆ ในตอนที่อัลฟ่าของพวกเขากำเนิด เซเคร็ดยังคงครองอำนาจ บางทีอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงอาจจะต้องรับใช้คนของเซเคร็ดด้วยซ้ำ
นั่นเป็นไปได้สูงเพราะในตอนที่ผู้นำของเซเคร็ดยังครองอำนาจ เผ่าพันธุ์เล็กๆอย่างเอ็กซ์ตรีมคิงจะพบว่าตัวเองตกอยู่ภายในกำมือของเซเคร็ด ในความจริงแล้วเผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่ตกเป็นเผ่าพันธุ์ข้าราชบริพารของเซเคร็ด
แต่ที่น่าแปลกที่สุดก็คือรูปลักษณ์ทางกายภาพอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิง รูปปั้นของเขาดูแตกต่างไปจากรูปปั้นของกษัตริย์องค์อื่นๆ
เอ็กซ์ตรีมคิงนั้นดูคล้ายคลึงกับมนุษย์ กษัตริย์องค์แรกเองก็คล้ายคลึงกับมนุษย์เช่นกัน แต่ส่วนหนึ่งของร่างกายของเขาแตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด
มันมีรอยบนหน้าอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงที่ดูเหมือนกับดวงตาที่ 3 ของชาวนภา แต่เอ็กซ์ตรีมคิงนั้นไม่ได้มีดวงตาดวงที่ 3 พวกเขาเป็นเหมือนกับมนุษย์ที่มีแค่ 2 ดวงตา
แต่ถึงจะพูดแบบนั้น หานเซิ่นก็ไม่แน่ใจว่ารอยนั้นคืออะไรกันแน่ มันไม่ได้เปิดอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่มั่นแน่ว่ามันใช่ดวงตาที่ 3 จริงๆหรือเปล่า
และมันยังมีอีกสิ่งที่รูปปั้นนี้แปลกกว่ารูปปั้นอื่นๆ รูปปั้นของกษัตริย์องค์อื่นจะมีดาบ มีดหรือหนังสืออยู่ ส่วนรูปปั้นของอัลฟ่าไม่ได้มีดาบแนบอยู่เอวหรือหนังสืออยู่ในมือ แต่ทว่าเขากำลังถือน้ำเต้าอยู่
“หมอนี่น่าสนใจ” หานเซิ่นเพ่งความสนใจไปที่รูปปั้นของอัลฟ่าและใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อดูกระบวนการก่อสร้างของรูปปั้น
จากคำบรรยายของรูปปั้น อัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นทิ้งรูปปั้นของเขาเอาไว้ในพาวิลเลี่ยน อัลฟ่าเริ่มธรรมเนียมนี้และเขียนมันลงในกฎของเอ็กซ์ตรีมคิง ตั้งแต่นั้นมากษัตริย์ทุกองค์หลังจากนั้นต้องทำพิธีการนี้ ถ้าพิธีการไม่เสร็จสิ้น พวกเขาก็จะไม่ถือว่าเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงของเอ็กซ์ตรีมคิง
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรเนตรม่วงเพื่อมองไปที่รูปปั้น แต่ก่อนที่เขาจะวิเคราะห์อะไรได้ เขาก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนในดวงตา
“อ้า!”
หานเซิ่นก้มหัวและจับตาของตัวเอง รอยเลือดบางๆไหลผ่านนิ้วมือของเขา
“นั่นเป็นพลังที่น่ากลัวอะไรขนาดนี้” หานเซิ่นจับตาและมันใช้เวลาสักพักกว่าที่เขาจะฟื้นตัว เขาไม่กล้าใช้วิญญาณอสูรเนตรม่วงเพื่อตรวจสอบรูปปั้นอีกครั้ง ถึงแม้วิญญาณอสูรเนตรม่วงจะเป็นวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้า แต่อัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงต้องเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งมากๆ เขาเองก็คงจะเป็นระดับเทพเจ้าเช่นเดียวกัน การพยายามแอบมองความลับของรูปปั้นที่เขาทิ้งเอาไว้นั้นเห็นได้ชัดว่าถือเป็นสิ่งต้องห้าม
โชคดีที่พลังในการฟื้นฟูของหานเซิ่นแข็งแกร่ง ไม่อย่างนั้นดวงตาของเขาก็คงจะถูกทำลายไปแล้ว
หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรเนตรม่วงกลับไปและไม่มองไปที่รูปปั้นอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงอีก เขามองไปที่รูปปั้นของกษัตริย์อีกองค์แทน
กษัตริย์องค์นั้นถือหนังสืออยู่และมืออีกข้างไขว้ไปด้านหลัง ดวงตาของเขามองออกไปในระยะไกล พวกมันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขาม
หานเซิ่นตรวจดูรูปปั้นและสังเกตเห็นถึงความน่าตกใจของมัน กษัตริย์องค์นี้มีดวงตาและผมสีดำ เขาไม่ได้สวมใส่ชุดเกราะของกษัตริย์ แต่สวมใส่เสื้อคลุมสีขาวที่ดูสง่างามแทน
จากการอ่านคำจารึกของกษัตริย์องค์นี้ หานเซิ่นได้เรียนรู้ว่ากษัตริย์องค์นี้ถูกเรียกว่าราชาเหวิน คำจารึกบอกว่าเขาต่อสู้ในสงครามและยึดครองเผ่าพันธุ์ต่างๆ ส่วนนั้นของเขาถูกสรุปในประโยคๆเดียว คำจารึกส่วนใหญ่ของเขาอธิบายถึงระบบกฎหมายและการเมืองที่เขาสร้างขึ้นมาสำหรับเอ็กซ์ตรีมคิง
กฎที่ราชาไป๋ใช้อยู่จริงๆแล้วก็คือกฎที่ราชาเหวินตั้งขึ้นมา อย่างเช่นกฎการเลี้ยงดูคนในราชวงศ์ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาสิ่งต่างๆอาจจะถูกปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่กฎยังคงเหมือนเดิมซะส่วนใหญ่
ราชาเหวินเป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 ของเอ็กซ์ตรีมคิง รูปปั้นของเขาอยู่ถัดไปจากอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิง
ส่วนรูปปั้นสุดท้ายที่สมบัติยังไม่ถูกเอาไปอยู่หลังสุด มันคือกษัตริย์องค์ก่อนหน้าราชาไป๋
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น