Super God Gene 2207-2210
ตอนที่ 2207
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา เอ็กซ์ตรีมคิงได้ให้ความสนใจส่วนใหญ่ไปกับระบบจักรวาลเคออส อัศวินไอซ์บลูเป็นนักบุกเบิก และสถานที่ล่าหลักของพวกเขาก็คือระบบจักรวาลที่เป็นอันตรายเหล่านั้น พวกเขาไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในจักรวาลมากนัก ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าหานเซิ่นเป็นใคร
เอ็กซ์ตรีมคิงมีแผนกรวบรวมข้อมูลอยู่ และพวกเขาก็พอจะรู้เกี่ยวกับหานเซิ่นอยู่บ้าง แต่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงคิดว่ามีแค่คนอย่างราชากงล้อจันทราและอี๋ซาเท่านั้นที่ควรให้ความสนใจ คนส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่รู้จักราชาไนท์ริเวอร์ด้วยซ้ำไป ผู้คนที่จะสนข้อมูลแบบนั้นก็มีแต่คนท้องถิ่นของแนร์โรว์มูนเท่านั้น
ราชาอัศวินไอซ์บลูแค่รู้ว่าอี๋ซามีลูกศิษย์คนหนึ่งอยู่ แต่เขาไม่ได้รู้ชื่อหรือเผ่าพันธุ์ของลูกศิษย์ของเธอ เขาแค่สันนิษฐานไปว่าลูกศิษย์คนเธอน่าจะเป็นรีเบทคนหนึ่ง ไม่ใช่คริสตัลไลเซอร์
ราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ได้พูดอะไรกับหานเซิ่นมากนัก เขาเพียงแค่ชวนให้หานเซิ่นเข้าร่วมการทดสอบ
ถึงแม้ราชาอัศวินไอซ์บลูจะนับถืออี๋ซาอย่างมากก็ตาม แต่เขาก็ไม่คิดจะมอบสิทธิพิเศษให้กับหานเซิ่น หานเซิ่นจำเป็นต้องแสดงพลังที่น่าประทับใจออกมาให้เขาเห็นก่อน
แต่เนื่องจากประสบการณ์ต่อสู้ร่วมกับอี๋ซา ราชาอัศวินไอซ์บลูจึงหวังว่าหานเซิ่นจะผ่านการทดสอบ
“มิสเตอร์ไวท์คิดว่าลูกศิษย์ของอี๋ซาเป็นยังไง?” ราชาอัศวินไอซ์บลูหันไปหาชายชุดเขียวที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
ชายคนนั้นหลี่ตาขณะที่จ้องตรงไปที่หานเซิ่น “เขาเป็นชายหนุ่มที่น่าสนใจคนหนึ่ง”
“ยังไงซะเขาก็เป็นถึงลูกศิษย์ของอี๋ซา เขาคงจะต้องพอมีฝีมือบ้างแหละ ไม่อย่างนั้นอี๋ซาก็คงจะไม่เลือกเขา” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูด
มิสเตอร์ไวท์ที่สวมชุดเขียวไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่ยิ้มออกมาขณะที่สายตาจับจ้องไปที่การทดสอบ
หานเซิ่นไปต่อคิวของระดับมาร์ควิส ระหว่างที่รอเขาก็มองไปที่การทดสอบของระดับราชันและคิดหาหนทางเพื่อไม่ให้ผ่านการทดสอบ
มันก็ไม่ใช่ว่าหานเซิ่นไม่อยากเข้าร่วมกับเอ็กซ์ตรีมคิงซะทีเดียว แต่ภายในแนร์โรว์มูนเขายังมีปัญหาอยู่หลายอย่างที่ต้องจัดการ การจะทิ้งหานเมิ่งเอ๋อและคนอื่นเอาไว้กับราชาไนท์ริเวอร์เป็นอะไรที่เสี่ยงเกินไป
หานเซิ่นต้องการจะกำจัดราชาไนท์ริเวอร์ไปให้ได้ก่อนที่เขาจะจากแนร์โรว์มูนไปได้อย่างสบายใจ ไม่อย่างนั้นเขาก็มีแผนที่จะอยู่ต่อ
หลังจากมองดูอยู่สักพัก หานเซิ่นก็ได้ความคิดบางอย่างที่อาจจะแกล้งไม่ผ่านการทดสอบได้ แต่สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดก็คือการทดสอบกับต้นไม้จีโน
นั่นเป็นการทดสอบที่ตรงไปตรงมาเกินไป ดอกไม้จะบานขึ้นตามพลังที่คนๆหนึ่งมี และผู้คนจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างง่ายดาย
หานเซิ่นแข็งแกร่งเกินกว่ามาร์ควิสทั่วๆไปมาก และถึงเขาจะจงใจทำผลงานได้แย่ในการทดสอบอื่น แต่การหยดเลือดลงไปบนต้นไม้ของเขาจะต้องมีดอกไม้ที่บานขึ้นมามากกว่าคนอื่นๆแน่ การพยายามแกล้งเพื่อให้ไม่ผ่านการทดสอบอื่น ๆ ก็จะกลายเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์
โชคดีที่หานเซิ่นมีวิธีที่จะรับมือกับต้นไม้นั่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กังวลจนเกินไป
เมื่อใกล้จะถึงตาของหานเซิ่น ราชาไนท์ริเวอร์ก็ยิ้มเยาะกับตัวเอง
“ฮ่าๆ เมื่อเจ้าต้องไปจากที่นี่ นั่นก็หมายความว่าข้าจะรับแสงจันทร์จากคางคกหยกระดับเทพเจ้าไปแต่เพียงผู้เดียว”
การทดสอบของแต่ละระดับนั้นต่างกันออกมา การทดสอบแรกของระดับมาร์ควิสคือการทดสอบการต่อสู้ หานเซิ่นจะต้องต่อสู้และเอาชนะหุ่นยนต์ตัวหนึ่งให้ได้ หุ่นยนต์นั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยอัศวินระดับดยุกคนหนึ่ง ความแข็งแกร่งของมันอยู่ในระดับมาร์ควิส ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่เหมาะสมในการใช้ทดสอบวิชาการต่อสู้ของคนในระดับนั้น
ระบบนับคะแนนจะขึ้นไปถึงหนึ่งร้อย และถ้าหานเซิ่นต้องการผ่านการทดสอบ เขาก็ต้องได้รับ 90 คะแนนขึ้นไป แต่การทดสอบจะดำเนินต่อไปถึงแม้ผู้เข้าทดสอบจะไม่ผ่านหนึ่งในการทดสอบ พวกเขายังต้องรับการทดสอบต่อไปเพื่อถูกประเมินผลได้อย่างถูกต้อง
แม้คนที่ทำผลงานได้แย่ในบางการทดสอบก็ยังคงมีโอกาสที่จะถูกรับเลือก
ด้วยระดับพลังของหานเซิ่น ผู้คนของแนร์โรว์มูนคิดว่าเขาจะสามารถเอาชนะหุ่นยนต์ได้อย่างง่ายดาย
แต่เมื่อหานเซิ่นเริ่มต่อสู้ ปากของราชาทุกคนก็เปิดกว้าง แม้แต่ราชากงล้อจันทราเองก็ยังรู้สึกแปลกใจ
น่าตื่นตาตื่นใจ! มันน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก!
การต่อสู้ของหานเซิ่นกับหุ่นยนต์เป็นเหมือนการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยมีมา ถ้าผู้ชมไม่ได้รู้ถึงพลังที่แท้จริงของหานเซิ่นล่ะก็ พวกเขาก็คงจะรู้สึกประทับใจกับมัน
หานเซิ่นดูเหมือนกับคนที่มีความทุ่มเทอย่างหนัก แต่มีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ เขายืนยัดต่อสู้อย่างไม่ลดละและไม่ว่าเขาจะต้องล้มไปสักกี่ครั้ง เขาก็จะเข้าไปหาคู่ต่อสู้อย่างไร้ซึ่งความกลัว ในขณะที่ตัวของหานเซิ่นอาบไปด้วยเลือด เขาก็ไม่ร้องโอดโอย และในที่สุดเขาก็เอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้ในที่สุด เขาชนะการต่อเหมือนกับภาพยนตร์ที่จะเป็นกำลังใจต่อคนอื่นที่ได้ชม
การต่อสู้ของหานเซิ่นเป็นอะไรที่จะทำให้ขุนนางสาวหลายคนมีน้ำตา พวกเขาจะตะโกนออกมา
“หานเซิ่น เจ้าสุดยอดที่สุด!”
แต่ผู้คนในแนร์โรว์มูนที่รู้ถึงความแข็งแกร่งของหานเซิ่นกลับมีสีหน้าที่แปลกๆ
หานเซิ่นเป็นคนที่ปฏิบัติกับราชาไนท์ริเวอร์ราวกับสุนัขที่น่ารำคาญตัวหนึ่ง เขาเอาชนะคนของเผ่าพันธุ์ดราก้อนได้ และเขาก็ถูกบอกว่าเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกับไผ่เดียวดาย แต่ตอนนี้เขากลับลำบากลำบนที่จะเอาชนะหุ่นยนต์ที่เป็นแค่ระดับมาร์ควิส ผู้คนของแนร์โรว์มูนจึงคิดว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
“เจ้านั่น! นี่มันจะมากเกินไปแล้ว!” ราชาไนท์ริเวอร์โกรธกับความสามารถที่หานเซิ่นแสดงออกมา แต่เขาพยายามจะสงบอารมณ์ของตัวเองเอาไว้
“เอาแบบนั้นก็ได้ แกล้งทำอย่างนั้นต่อไปเถอะ ดูสิว่าเจ้าจะหลอกต้นไม้จีโนได้ยังไง”
ขณะที่มองดูการต่อสู้ ราชาอัศวินไอซ์บลูก็ขมวดคิ้ว เขาหันมาถามราชากงล้อจันทรา “เขาเป็นลูกศิษย์ของอี๋ซาจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
ราชาไนท์ริเวอร์ไอออกมา “เขาเพิ่งจะวิวัฒนาการเป็นมาร์ควิสได้ไม่นาน ดังนั้นฟอร์มของเขาจึงยังไม่ค่อยดีนัก”
“เขาเป็นคนที่มีความทุ่มเทดี แต่เขาดูด้อยพลังอย่างมาก นี่อี๋ซาสอนเขายังไงกัน?”
หลังจากที่ได้เห็นหานเซิ่นใช้วิชามีดเขี้ยวดาบ ราชาอัศวินไอซ์บลูก็คิดว่าฝีมือของเขาดูแย่มากๆ
“เอิ่ม อี๋ซาเป็นคนที่ยุ่งมากๆ นางจึงได้ส่งเขาไปอยู่ที่ปราสาทนภาระยะหนึ่ง…” ราชากงล้อจันทรารู้สึกหดหู่
ราชาอัศวินไอซ์บลูหยุดถามแค่นั้น เขาคิดว่าอี๋ซาจะต้องมีเหตุผลที่รับหานเซิ่นมาเป็นลูกศิษย์ เขาเชื่อว่าหานเซิ่นอาจจะยอดเยี่ยมในเรื่องอื่นก็ได้
การทดสอบของเอ็กซ์ตรีมคิงสามารถตรวจวัดศักยภาพที่คนๆหนึ่งมีอยู่ได้อย่างแม่นยำ การทดสอบของพวกเขาสามารถแสดงพรสวรรค์ของคนๆหนึ่งออกมา แต่ความสามารถที่หานเซิ่นแสดงออกมานั้นทำให้ผู้คนของแนร์โรว์มูนอย่างจะเป็นบ้า
พวกเขารู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของหานเซิ่น พวกเขารู้ดีว่าหานเซิ่นน่ากลัวถึงขนาดไหน แต่ตอนนี้หานเซิ่นกลับดูเหมือนกับชายที่มีความทุ่มเทแต่ไม่มีพรสวรรค์
เขาทุ่มเทอย่างหนักในการทดสอบ แต่ผลทดสอบของเขาแย่มากๆ
สีหน้าของราชากงล้อจันทราดูตรึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องที่ยากจะไม่หัวเราะออกมาเมื่อมองไปที่ใบหน้าของเขาในตอนนี้
“ดูเหมือนว่าอี๋ซาจะไม่มีผู้สืบทอด” ราชาอัศวินไอซ์บลูถอนหายใจ หานเซิ่นดูเหมือนเป็นคนที่มุมานะดี แต่ทว่าพรสวรรค์ของเขากลับแย่อย่างมาก
มีเพียงแค่ราชาไนท์ริเวอร์ที่ยิ้มเยาะใส่หานเซิ่นโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา เขากำลังรอดูว่าหานเซิ่นมีแผนที่จะผ่านการทดสอบกับต้นไม้จีโนยังไง
ผลการทดสอบจากต้นไม้จีโนนั้นแม่นยำเสมอ ดังนั้นการแสแสร้งของเขาจะใช้ไม่ได้ผล การทดสอบกับต้นไม้จีโนจะเผยพลังที่แท้จริงของเขาออกมา บางทีนั่นอาจจะทำให้ราชาอัศวินไอซ์บลูโกรธ
ตอนที่ 2208
การทดสอบสุดท้ายคือต้นไม้จีโน หานเซิ่นยืนอยู่ตรงหน้ามันและเฉือนนิ้วของตัวเอง เขาปล่อยให้หยดเลือดไหลลงไปบนต้นไม้จีโน
ขณะที่ทุกคนกำลังมองดูเลือดของหานเซิ่นหยดลงบนต้นไม้จีโน ราชาไนท์ริเวอร์ก็จับจ้องไปที่หานเซิ่นตาไม่กระพริบ เขาต้องการทำให้แน่ใจว่าหานเซิ่นจะไม่เล่นตุกติกอะไรในการทดสอบนี้
ต้นไม้จีโนสามารถวัดระดับพลังของคนๆหนึ่งได้อย่างแม่นยำ ถ้าหานเซิ่นหยดเลือดของตัวเองลงไปบนต้นไม้จีโน ดอกไม้ก็จะบานออกมาจำนวนเท่ากับระดับความแข็งแกร่งของเขา
หานเซิ่นได้ใช้เวลาศึกษาเกี่ยวกับต้นไม้จีโนอยู่เป็นเวลาพอสมควร และเขาก็ค้นพบอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ
การทำงานของต้นไม้จีโนเป็นอะไรที่ค่อนข้างเรียบง่าย ต้นไม้จีโนเป็นเหมือนกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากน้ำมันเบนซิน และยีนภายในเลือดของทุกคนก็เป็นเหมือนกับน้ำมันเบนซิน ยิ่งพลังยีนภายในเลือดของคนๆนั้นมีมากเท่าไหร่ ต้นไม้จีโนก็จะกำเนิดไฟฟ้าได้มากขึ้นเท่านั้น ในกรณีของต้นไม้นี้มันจะแสดงออกมาด้วยจำนวนของดอกไม้
พลังจีโนของหานเซิ่นสูงกว่ามาร์ควิสธรรมดาทั่วไปมาก ซึ่งมาร์ควิสทั่วๆไปนั้นจะทำให้ดอกไม้บานขึ้นมาได้ประมานหนึ่งแสนดอก
หานเซิ่นเชื่อว่าพลังของตัวเขาเองสามารถทำให้ดอกไม้บานขึ้นมาได้หลายแสนดอกอย่างง่ายดาย
ถ้าเขาไม่อยากผ่านการทดสอบ เขาก็ต้องลดจำนวนดอกไม้ที่จะบานขึ้นมา แต่นี่เป็นสิ่งที่ทำได้ยากเพราะผลลัพธ์ที่ออกมานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังที่พวกเขาใช้
แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงยีนของตัวเองได้ หรืออย่างน้อยๆถ้ามีคนแบบนั้นอยู่จริง มันก็มีอยู่ไม่มากนัก ในตอนที่บุดด้าระดับเทพเจ้าที่มีชื่อว่าเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าเปลี่ยนหานเซิ่นให้กลายเป็นมดตัวหนึ่งนั้น เขาได้แสดงถึงพลังในการเปลี่ยนแปลงยีนที่หาได้ยากออกมา
วิชาโลหิตชีพจรของหานเซิ่นสามารถเปลี่ยนแปลงยีนได้เช่นเดียวกัน แต่มันแตกต่างไปจากวิชาจีโนของเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่า วิชาโลหิตชีพจรจะควบคุมยีนของตัวเองเป็นหลัก มันไม่สามารถเปลี่ยนยีนของสิ่งมีชีวิตอื่นๆได้อย่างวิชาจีโนของเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่า
มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับหานเซิ่นที่จะใช้วิชาโลหิตชีพจรเพื่อควบคุมยีนภายในเลือดตัวเอง ซึ่งเขาเคยทำแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง
ราชาไนท์ริเวอร์มองดูหานเซิ่นหยดเลือดลงบนต้นไม้จีโน และเมื่อมันเกิดขึ้น ดอกไม้ก็เริ่มบานขึ้นมา
ขณะที่ดอกไม้กำลังผลิบาน มันก็เหมือนกับการมองดูสายลมพัดผ่านทุกหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้นับพัน
แต่เมื่อดอกไม้หยุดผลิบาน ราชาไนท์ริเวอร์ก็เบิกกว้าง “เพียงแค่หนึ่งหมื่นดอก? นั่นเป็นไปไม่ได้!”
มันไม่มีทางที่เลือดของหานเซิ่นจะทำให้ดอกไม้บานขึ้นมาได้เพียงแค่หนึ่งหมื่นดอก เพราะแม้แต่มาร์ควิสที่อ่อนแอที่สุดก็สามารถทำให้ดอกไม้บานขึ้นมาหนึ่งหมื่นดอกได้เลย แต่ทุกคนรู้ว่าแม้แต่มาร์ควิสที่แข็งแกร่งที่สุดของรีเบทก็ไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นในการต่อสู้ได้
ราชาอัศวินไอซ์บลูดูไม่ประหลาดใจกับเรื่องนั้น เพราะยังไงซะผลลัพธ์ที่ออกมาก็ตรงกับผลการทดสอบอื่นๆ
ราชาอัศวินไอซ์บลูคิดว่าอี๋ซาคงจะรับหานเซิ่นมาเป็นลูกศิษย์เพราะความทุ่มเทอย่างหนักของเขา แต่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน พรสวรรค์และพลังของเขาก็ดูแย่มากๆ
จุดประสงค์เดียวของหน่วยอัศวินไอซ์บลูคือต่อสู้ มันไม่ใช่โรงเรียนสำหรับการฝึกฝัน ดังนั้นราชาอัศวินไอซ์บลูจึงล้มเลิกความคิดที่จะรับหานเซิ่น ถ้าหานเซิ่นขาดพลัง มันก็ไม่สำคัญว่าเขาจะเป็นลูกศิษย์ของอี๋ซาหรือไม่ ราชาอัศวินไอซ์บลูจะไม่อนุญาตให้คนที่ไร้พรสวรรค์เข้าร่วมกับหน่วนอัศวินไอซ์บลู
และมันยังเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสมต่ออัศวินคนอื่นที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา นอกจากนั้นมันก็จะทำให้ตัวหานเซิ่นเองตกอยู่ในอันตรายด้วย
เมื่อเห็นหานเซิ่นเดินออกไปบ ราชาไนท์ริเวอร์ก็ดูแย่ เขาเชื่ออย่างสนิทใจว่าหานเซิ่นต้องเล่นตุกติกบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เห็นหานเซิ่นหยดเลือดลงบนต้นไม้จีโนกับตาตัวเอง เขารู้ว่ามันควรจะไม่มีหนทางที่หานเซิ่นจะเล่นตุกติกอะไรได้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความไม่พอใจ ขณะที่เขาคิดหาหนทางที่จะหยุดหานเซิ่น
แต่เขาไม่กล้าพูดออกมาว่าหานเซิ่นเล่นไม่ซื่อ การพูดออกไปแบบนั้นจะเป็นอะไรที่ดึงความสนใจมากเกินไป ถ้าเขาขอให้หานเซิ่นเข้ารับการทดสอบอีกครั้งและผลที่ออกมายังเหมือนเดิมโดยที่ไม่มีใครมองลูกไม้ของหานเซิ่นออก นั่นจะถือว่าราชาไนท์ริเวอร์กำลังดูหมิ่นราชาอัศวินไอซ์บลู
ราชากงล้อจันทราเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน เขาไม่รู้ว่าหานเซิ่นสามารถหลอกต้นไม้จีโนได้ยังไง
ขณะเดียวกันหานเซิ่นก็แกล้งทำเป็นหดหู่ เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและถอนหายใจออกมา เขาเดินไหล่ตกออกจากลานกว้างเทพจันทราและกลับไปที่ดาวอุปราคา ในระหว่างทางเขาคิดกับตัวเองด้วยความพึงพอใจ ‘ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องไปเข้าร่วมกับเอ็กซ์ตรีมคิงอีกแล้ว’
เมื่อการทดสอบสิ้นสุด และที่สุดแล้วก็มีเพียงแค่รีเบท 2 คนเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบ ราชาอัศวินไอซ์บลูไม่พอใจกับผลที่ออกมาเลยสักนิด หลังจากที่อ่านรายงานจบ เขาก็ถอนหายใจออกมา
“ทำไมเจ้าถึงได้ถอนหายใจ?” มิสเตอร์ไวท์ถามราชาอัศวินไอซ์บลูด้วยรอยยิ้ม
ราชาอัศวินไอซ์บลูยิ้มแห้งๆออกมา “ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงอย่างอี๋ซาจะรับลูกศิษย์แบบนั้น นี่จะเป็นจุดจบของวิชามีดเขี้ยวดาบ ข้าคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นวิชามีดที่ยอดเยี่ยมแบบนั้นอีกแล้ว”
มิสเตอร์ไวท์ยิ้มและพูด “ถ้าเจ้ารู้สึกเศร้าเกี่ยวกับเรื่องนั้นล่ะก็ มันไม่มีความจำเป็น”
“หมายความว่ายังไง?” ราชาอัศวินไอซ์บลูถามด้วยความสับสน
มิสเตอร์ไวท์ยิ้มและพูด “นั่นก็เพราะอี๋ซามีลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยม สักวันหนึ่งเขาอาจจะก้าวข้ามนางก็ได้”
ราชาอัศวินไอซ์บลูจ้องมองไปที่มิสเตอร์ไวท์ด้วยความสับสนและถาม “จะบอกว่าอี๋ซายังมีลูกศิษย์อีกคนอย่างนั้นหรอ?”
“ลองดูอะไรนี่” มิสเตอร์ไวท์พูดพร้อมส่งจอมอนิเตอร์
ขณะที่ราชาอัศวินไอซ์บลูก้มมองที่หน้าจอ สีหน้าของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็เงยหัวเข้ามาและหลี่ตามองไปที่มิสเตอร์ไวท์ “นี่ข้าถูกหลอก”
หานเซิ่นเข้าไปฝึกฝนในปราสาทนภาและต่อสู้กับมาร์ควิสที่ยอดเยี่ยมที่สุดของที่นั่นจนได้รับสมญานามปรมาจารย์มีดและดาบมา มันไม่มีทางที่เขาจะมีระดับความแข็งแกร่งแค่ดอกไม้หมื่นดอกไปได้
ปราสาทนภาไม่มีทางจะได้รับชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่แบบนั้นมาได้ถ้าศิษย์ของพวกเขาอ่อนแอแบบนั้น
มิสเตอร์ไวท์คิดอยู่ชั่วครู่และพูดขึ้นมา “บางทีเขาอาจจะมีปัญหาของตัวเองที่ทำให้เขามาเข้าร่วมกับพวกเราไม่ได้”
“ข้าไม่สนใจว่าเหตุผลของเขาจะเป็นอะไร เขาเป็นของข้า”
ราชาอัศวินไอซ์บลูโมโห แต่หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาและพูด “เจ้านี่ยอดเยี่ยมจริงๆ นี่เขาหลอกข้าซะสนิทเลย บุคลิกภาพของเขาแตกต่างไปจากอี๋ซาอย่างเห็นได้ชัด ข้าประหลาดใจที่นางเลือกลูกศิษย์แบบนั้น”
“ก่อนอื่นพวกเราต้องไปสืบก่อนว่าทำไมเขาถึงไม่อยากจะเข้าร่วมกับหน่วยอัศวินไอซ์บลู” มิสเตอร์ไวท์พูด
“นั่นมันง่ายมาก พวกเราก็แค่ไปถามเขา” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูดพร้อมกับยักไหล่
หลังจากนั้นราชาอัศวินไอซ์บลูและมิสเตอร์ไวท์ก็แอบไปที่ดาวอุปราคา ที่นั่นพวกเขาพบหานเซิ่นกำลังนั่งทำบาร์บิคิวอยู่กับหญิงสาวหลายคน เขากำลังพูดคุยและหัวเราะออกมา เขาไม่ได้ดูเศร้าเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนที่ 2209
หานเซิ่นกำลังผ่อนคลายตัวเองด้วยเครื่องดื่มคุณภาพและอาหารร้อนที่เพิ่งปิ้งเสร็จ แต่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ทรงพลังกำลังตรงมาทางเขา
“หานเซิ่น เจ้ากล้าดียังไงที่มาหลอกลวงข้าแบบนั้น!” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูด แขนของเขากำลังกอดอดอยู่ และข้างๆเขาคือชายในชุดสีเขียว
หานเซิ่นรู้สึกกังวลขึ้นมาในทันที แต่สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง
“ราชาอัศวิน ทำไมท่านถึงได้พูดอะไรแบบนั้น? ข้าจะไปหลอกลวงท่านได้ยังไง?”
เมื่อราชาอัศวินไอซ์บลูเห็นว่าหานเซิ่นยังคงเยือกเย็นถึงแม้อยู่ต่อหน้าคนที่ทรงพลังอย่างเขา เขาก็รู้ในทันทีว่าตัดสินหานเซิ่นผิดไปอย่างมหัน ชายหนุ่มคนนี้หลอกเขาแล้วจริงๆ แม้แต่ดยุกก็จะหมอบลงไปกับพื้นเมื่ออยู่ต่อหน้าออร่าที่เป็นอันตรายแบบนั้น มันมีแค่คนที่พิเศษเท่านั้นถึงจะยังคงความเยือกเย็นภายใต้สถานการณ์แบบนี้ได้
“ถ้าข้าบอกว่าเจ้าหลอกลวง ก็แสดงว่าเจ้าหลอกลวง ถึงแม้เจ้าจะไม่มีเจตนาเล่นตุกติกในการทดสอบ ข้าก็จะถือว่าเจ้าหลอกลวงอยู่ดี”
ราชาอัศวินไอซ์บลูเข้าไปหาหานเซิ่นด้วยพลังชีวิตที่น่าสะพรึงกลัว
ราชาอัศวินไอซ์บลูนำเหล่าอัศวินเดินทางไปทั่วระดับจักรวาลเคออสมาเป็นเวลากว่าศตวรรษ และเขาฆ่าสิ่งมีชีวิตภายในนั้นมามากมายนับไม่ถ้วน เขาเป็นชายที่น่ากลัวอย่างมาก นอกจากนั้นเขายังมีอำนาจจิตของสิ่งมีชีวิตระดับครึ่งเทพ แม้แต่ราชันคนหนึ่งก็ยังต้องยำเกรงต่อตัวตนของเขา
หานเซิ่นถอนหายใจออกมาและพูด “ถ้าอย่างนั้นท่านต้องการจะทำอะไรกับข้า?”
ถึงแม้มันจะฟังดูสิ้นหวัง แต่ราชาอัศวินไอซ์บลูรู้ว่าจริงๆแล้วหานเซิ่นไม่ได้หวาดกลัว ราชาอัศวินไอซ์บลูค่อนข้างประหลาดใจกับความเยือกเย็นของหานเซิ่นอย่างมาก
“ข้าจะฆ่าเจ้า” ราชาอัศวินไอซ์บลูชักดาบของเขาออกมาอย่างรวดเร็วถึงขนาดที่คนอื่นๆไม่แม้จะได้เห็นตอนที่มันออกมาจากฝัก ก่อนที่พวกเขาจะกระพริบตา แสงสีฟ้าก็พุ่งลงบนหัวของหานเซิ่นแล้ว
ดาบใหญ่สีฟ้าหยุดอยู่เหนือเส้นผมของหานเซิ่นไปเพียงแค่หนึ่งนิ้ว แต่หานเซิ่นไม่ได้แสดงความเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าแม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดที่เขาทำก็คือมองไปที่ราชาอัศวินไอซ์บลูกับมิสเตอร์ไวท์และพูด
“ถ้าพวกท่านไม่รังเกลียดที่จะร่วมวงกับข้า ข้าจะนำไวน์และเนื้อมาให้กับพวกท่าน พวกท่านจะรับพวกมันไว้ในฐานะการขออภัยได้ไหม?”
ราชาอัศวินไอซ์บลูรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้า เขาจ้องมองไปที่หานเซิ่นด้วยสายตาที่เมินเฉย
“เจ้ารู้ว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้าอย่างนั้นหรอ?”
“ไม่” หานเซิ่นตอบ
ถึงแม้ราชาอัศวินไอซ์บลูต้องการจะฆ่าเขาจริงๆ เขาก็ไม่สามารถทำได้ ดาบของเขาจะเจอกับใบเสมาราชาแมลงปีศาจไม่ใช่เนื้อหนังของหานเซิ่น
ราชาอัศวินไอซ์บลูเก็บดาบใหญ่ของเขาเข้าฝักและหันไปหามิสเตอร์ไวท์ หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงข้างๆกองไฟและถามขึ้นมา
“ทำไมเจ้าถึงไม่เข้าร่วมกับหน่วยอัศวินไอซ์บลูของพวกเรา? บอกเหตุผลมาและข้าอาจจะปล่อยเจ้าไป”
หานเซิ่นนั่งลงและเริ่มอธิบายโดยไม่ได้ปกปิดรายละเอียดใดๆ เขาบอกราชาอัศวินไอซ์บลูเกี่ยวกับความบาดหมางระหว่างเขากับราชาไนท์ริเวอร์ หลังจากนั้นก็จบด้วยการพูดว่า “ถ้าข้าไป ราชาไนท์ริเวอร์จะนำภัยมาสู่เพื่อนๆและครอบครัวของข้าที่อยู่ที่นี่”
ราชาอัศวินไอซ์บลูหัวเราะและพูด “นั่นมันเรื่องที่ง่ายมาก ข้าจะออกคำสั่งบังคับให้ราชาไนท์ริเวอร์เข้าร่วมกับหน่วยอัศวินไอซ์บลู”
“มันจะไม่ง่ายกว่าหรอที่จะปล่อยข้าไป? ทำไมถึงต้องลำบากทำอะไรแบบนั้นด้วย”
หานเซิ่นพึมพำอย่างหดหู่ การรับราชันคนหนึ่งเข้าร่วมหน่วยอัศวินไอซ์บลูถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้ทำอะไรแบบนั้นเพียงเพื่อจะรับมาร์ควิสคนหนึ่งไปด้วย
ราชาอัศวินไอซ์บลูรับขวดไวน์ไปจากหานเซิ่นและรินให้กับตัวเอง
“หน่วยอัศวินไอซ์บลูรับผิดชอบในการเก็บกวาดดาวดวงหนึ่งในระบบจักรวาลเคออส แต่ดาวดวงนี้มีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่หลายตัว พวกมันปรากฏตัวขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง และพวกเราก็ขาดกำลังพลที่มากพอจะต่อกรกับพวกมัน ถ้าอี๋ซาไม่สละตัวเองเพื่อซื้อเวลาให้กับพวกเราล่ะก็ อัศวินไอซ์บลูทั้งหมดก็คงจะไม่รอด พวกเราเป็นหนี้นางอย่างมาก ดังนั้นหนี้ของพวกเราจงตกมาที่เจ้า”
“ถ้าท่านต้องการจะจ่ายหนี้ของนางจริงๆล่ะก็ ปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่”
หานเซิ่นไม่อยากจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยอัศวินไอซ์บลู เขาเกลียดที่ต้องถูกจำกัด หน่วยอัศวินไอซ์บลูเป็นเหมือนกับกองกำลังอย่างเป็นทางการ ดังนั้นมันต้องมีกฎระเบียบเป็นจำนวนมาก
ราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ตอบ เขาชนแก้วกับมิสเตอร์ไวท์ และหลังจากที่ดื่มจนหมดแก้ว เขาก็พูดกับหานเซิ่น “เครื่องดื่มนี้เยี่ยมไปเลย เจ้าจะนำมันติดตัวไปได้ในตอนที่พวกเราจากไป”
เมื่อเห็นหานเซิ่นดูหม่นหมอง ราชาอัศวินไอซ์บลูก็หันไปยิ้มกับมิสเตอร์ไวท์ มิสเตอร์ไวท์ยิ้มตอบและพูด
“อย่าได้กังวล ถ้าราชาอัศวินไอซ์บลูต้องการจะรับตัวเจ้าไป เขาก็จะเตรียมทุกสิ่งทุกอย่าง ราชาไนท์ริเวอร์จะไปด้วยเช่นกัน และพวกเราจะคอยจับตาดูแนร์โรว์มูนเอาไว้”
หานเซิ่นพูดอย่างจริงจัง “ถ้าเป็นแบบนั้น ข้าก็จะไม่บ่นอะไรมาก แต่ข้ามีเงื่อนไขสำคัญอยู่ข้อหนึ่ง ถ้าพวกท่านยอมรับเงื่อนไขข้อนี้ ข้าก็จะเข้าร่วม แต่ถ้าพวกท่านไม่ยอมรับ ข้ากลัวว่าพวกท่านต้องพาร่างของข้ากลับไปแทน”
“เงื่อนไขอะไร?” ราชาอัศวินไอซ์บลูถามด้วยความสงสัย
“ข้าต้องการให้พวกเขาไปกับข้าในฐานะส่วนหนึ่งของทีม พวกท่านจะแยกพวกเราออกจากกันไม่ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม” หานเซิ่นชี้ไปที่หานเมิ่งเอ๋อและคนอื่นๆ
ราชาอัศวินไอซ์บลูส่ายหัวของเขา “หน่วยอัศวินไอซ์บลูมีกฎอยู่ ถ้าพวกเขาไม่ผ่านการทดสอบ พวกเขาก็จะเข้าร่วมไม่ได้”
“ข้าเองก็ไม่ผ่านการทดสอบเหมือนกัน ดังนั้นข้าก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วม ได้โปรดปล่อยข้าไป” หานเซิ่นพูด
ราชาอัศวินไอซ์บลูมองตาหานเซิ่น “เจ้ารู้ไหมว่ากำลังพยายามปล่อยโอกาสแบบไหนไป? ข้าเข้าใจในความยากลำบากของเจ้า ร่างกายและวิชาจีโนของเจ้าจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก อี๋ซาจากไปแล้วและแนร์โรว์มูนก็จะไม่มอบอะไรให้กับเจ้าอีก โอกาสเดียวที่เจ้ามีอยู่ก็คือไปที่ระบบจักรวาลเคออสกับข้า”
หานเซิ่นแค่มองไปที่ราชาอัศวินไอซ์บลูโดยไม่พูดอะไร เขายืนกรานต่อการตัดสินใจของเขา
ราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ต้องการจะประนีประนอม เขามีกฎอยู่และคำขอหานเซิ่นก็เป็นอะไรที่มากเกินไป
ภาพของทั้งคู่แข็งทื่อไปโดยไม่มีฝ่ายไหนยอมถอย แต่ทันใดนั้นมิสเตอร์ไวท์ก็ยิ้มออกมา “หน่วยอัศวินไอซ์บลูมีกฎอยู่ และคำขอของหานเซิ่นก็เป็นอะไรที่มากเกินไป”
ก่อนที่หานเซิ่นจะพูดอะไรได้ มิสเตอร์ไวท์ก็พูดต่อ “พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกับหน่วยอัศวินไอซ์บลูโดยตรง แต่ข้าใช้สิทธิเพิ่มองครักษ์อีกได้ องครักษ์ของข้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน่วยอัศวินไอซ์บลู มันจึงไม่มีกฎอะไรมาก ดังนั้นถ้าพวกเจ้าต้องการ พวกเจ้าก็จะมาเป็นส่วนหนึ่งในทีมของข้าได้”
“มิสเตอร์ไวท์ เจ้าจะทำแบบนั้นได้ยังไง? องครักษ์ของเจ้าจำเป็นต้องเป็นระดับราชันขึ้นไป” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูด
“พวกเขาเป็นองครักษ์ของข้า และข้ามีอิสระที่จะเลือกใครก็ได้ที่ข้าต้องการถูกไหม?” มิสเตอร์ไวท์ยิ้ม
หานเซิ่นมองไปที่ราชาอัศวินไอซ์บลูและมิสเตอร์ไวท์ด้วยความสับสน
ตอนที่ 2210
ราชาไนท์ริเวอร์คิดว่าหานเซิ่นไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเข้าร่วมกับทางเอ็กซ์ตรีมคิง แต่เมื่อเขาดูรายชื่อคนที่ได้เข้าร่วมในวันต่อมา เขาก็เห็นชื่อของหานเซิ่นอยู่บนนั้น นั่นทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างมาก
ชื่อของหานเซิ่นเพิ่งจะถูกเติมลงไปในวันนั้น การได้เห็นชื่อของหานเซิ่นทำให้ราชาไนท์ริเวอร์ต้องการจะร้องตะโกนออกมาด้วยความปลาบปลื้ม
“ดี! นี่เป็นไปอย่างที่ข้าหวังเอาไว้” ราชาไนท์ริเวอร์พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเก็บความดีใจของเขาเอาไว้
ถ้าหานเซิ่นไปแล้ว มันไม่ใช่แค่ตำหนักเย็นเท่านั้นที่ราชาไนท์ริเวอร์จะได้ เขาสามารถยึดครองดาวอุปราคาอย่างไร้การขัดขวาง เขาสามารถลบร่องรอยทุกอย่างของหานเซิ่นออกไปจากในแนร์โรว์มูน
ตลอดหลายวันต่อมา ราชาไนท์ริเวอร์รู้สึกมีความสุขขณะที่เขารอคอยเวลาที่หานเซิ่นจะถูกพาตัวไปโดยหน่วยอัศวินไอซ์บลู
การรับสมัครยังคงดำเนินต่อไป และยอดฝีมือบนดาวอุปราคาก็เริ่มเก็บข้าวของของพวกเขา มันดูเหมือนว่าหานเซิ่นกำลังจะจากไปจริงๆ ราชาไนท์ริเวอร์แทบจะรอให้ถึงวันที่ 15 ของเดือนไม่ไหวเพื่อที่เขาจะได้ดูดซับแสงจันทร์ทั้งหมดที่ต้องการ
หน่วยอัศวินไอซ์บลูจะจากไปในวันที่ 14 ซึ่งเขาจะสามารถไปดูดซับแสงจันทร์ได้ในวันถัดไป เขามีความสุขอย่างมาก
ขณะที่หานเซิ่นกำลังเก็บข้าวของ เขาก็เริ่มรวางแผนการ
เป่าเอ๋อ นางฟ้า ซีโร่ หานเมิ่งเอ๋อ หานเหยียน หวงฟูจิ้ง จีชิง จิ้งจอกสีเงิน ล่องหนน้อยและอสูรกาแล็คซี่ก็จะไปกับกลุ่มของอัศวินด้วยเช่นเดียวกัน แต่พวกเขาไม่ได้ถูกรับเข้าไปเป็นสมาชิกในหน่วยอัศวินไอซ์บลู พวกเขาจะถูกรับเข้าไปในฐานะองครักษ์ที่มีหน้าที่ปกป้องมิสเตอร์ไวท์แทน
มันเห็นได้ชัดว่ามิสเตอร์ไวท์เป็นบุคคลสำคัญ แต่นอกเหนือจากเรื่องนั้นแล้ว หานเซิ่นไม่รู้ว่ามิสเตอร์ไวท์มีตำแหน่งอะไรในสังคมของเอ็กซ์ตรีมคิงกันแน่ หานเซิ่นรู้แค่ว่าเหล่าอัศวินไอซ์บลูเรียกมิสเตอร์ไวท์ในฐานะกุนซือ แต่แม้แต่ครึ่งเทพอย่างราชาอัศวินไอซ์บลูก็ยังดูจะนับถือเขาอย่างมาก
ไม่อย่างนั้นล่ะก็ หานเซิ่นก็ไม่มีทางจะได้รับอนุญาตให้พาคนของเขาติดไปด้วยมากมายแบบนี้
คนที่พวกเขาทิ้งเอาไว้เบื้องหลังบนดาวอุปราคาคือเหล่าคนที่ไม่สามารถเติบโตในระดับจักรวาลเคออสได้ นางฟ้าและคนอื่นๆพัฒนาได้อย่างเต็มที่บนดาวอุปราคา ดังนั้นการไปที่ระบบจักรวาลเคออสจะทำให้พวกเขาพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นไปอีก
หานเซิ่นต้องการฝึกผึ้งราชินีชาโดว์ให้เชื่อง แต่เขาไม่มีเวลาอีกแล้ว ดังนั้นสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฆ่าผึ้งราชินีในรังของมัน
ไม่อย่างนั้นหลังจากที่เขาและคนที่แข็งแกร่งที่สุดจากไปแล้ว มันจะไม่มีใครคนอื่นที่คอยควบคุมผึ้งราชินีอีก ฐานทัพจะเผชิญกับปัญหาอีกครั้ง ถ้าผึ้งราชินีเริ่มวางไข่ได้เป็นจำนวนมาก
“ซีโน่เจเนอิคผึ้งราชินีชาโดว์ระดับดยุกกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรผึ้งราชินีชาโดว์”
หานเซิ่นดีใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับวิญญาณอสูรของผึ้งราชินีชาโดว์ เขามองเข้าไปในจิตเพื่อตรวจสอบว่ามันเป็นวิญญาณอสูรแบบไหน
วิญญาณอสูรของผึ้งชาโดว์ปกตินั้นเป็นวิญญาณอสูรลูกธนูพิษ ดังนั้นการได้รับวิญญาณอสูรลูกธนูพิษก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร
ผึ้งราชินีชาโดว์กลายพันธุ์: วิญญาณอสูรสัตว์เลี้ยง (วิวัฒนาการได้)
หานเซิ่นตกใจเมื่อได้เห็นข้อมูลของมัน แต่ก็ผิดหวังเช่นเดียวกัน วิญญาณอสูรสัตว์เลี้ยวจำเป็นต้องพัฒนาสู่โหมดต่อสู้ซะก่อน แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะมาเลี้ยงวิญญาณอสูรสัตว์เลี้ยง
แต่หลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับมันดูดีๆแล้ว ดวงตาของหานเซิ่นก็เป็นประกายขึ้นมา เขารู้สึกตัวว่าวิญญาณอสูรสัตว์เลี้ยงผึ้งราชินีชาโดว์นั้นแตกต่างออกไป
มันสามารถวางไข่ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าหานเซิ่นสามารถเลี้ยงมันจนเข้าสู่โหมดต่อสู้ได้ มันก็จะสามารถวางไข่เพื่อให้กำเนิดผึ้งจากซากศพบนสนามรบ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความจริงที่ว่ามันสามารถวิวัฒนาการได้ ถ้าผึ้งราชินีชาโดว์วิวัฒนาการไปสู่ระดับราชัน แบบนั้นมันก็ควรจะให้กำเนิดผึ้งชาโดว์ระดับราชันได้เช่นกัน
เมื่อหานเซิ่นคิดเกี่ยวกับการที่มีผึ้งชาโดว์ระดับราชันบินอยู่ทุกหนทุกแห่ง เขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก
“ฉันต้องเลี้ยงวิญญาณอสูรสัตว์เลี้ยงตัวนี้” หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรผึ้งราชินีชาโดว์ออกมาอย่างร่าเริง
ผึ้งราชีนิคริสตัลสีแดงตัวหนึ่งเริ่มบินวนรอบๆตัวหานเซิ่น มันดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่สงบนิ่งมากๆ และมันก็มีขนาดเล็กอีกด้วย มันมีขนาดเล็กกว่าผึ้งราชินีชาโดว์ดั้งเดิมมาก มันมีขนาดพอๆกับกำปั้นของคนเท่านั้น ดูเหมือนกับว่ามันจำเป็นต้องเข้าสู่โหมดต่อสู้ก่อนที่มันจะกลายเป็นผึ้งราชินีเต็มตัว
หานเซิ่นยังไม่ถึงระดับดยุก ดังนั้นเขาไม่สามารถกลืนกินยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ของผึ้งราชินีได้ เขาจึงต้องเก็บมันเอาไว้ก่อน
หานเซิ่นตัดสินใจโทรไปหาเซี่ยชิงและบอกเพื่อนเก่าของเขาว่าเขาต้องเข้าร่วมกับทางเอ็กซ์ตรีมคิง หานเซิ่นยังบอกพวกเขาอีกว่าตัวเองอาจจะไม่ได้กลับมาที่ดาวอุปราคาอีก
หลังจากที่ทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว การรับสมัครผู้คนสำหรับหน่วยอัศวินไอซ์บลูก็มาถึงจุดสิ้นสุด จากผู้คนทั้งหมดของแนร์โรว์มูน มียอดฝีมือเพียงสิบกว่าคนเท่านั้นที่ถูกเลือก พวกเขาส่วนใหญ่เป็นรีเบทระดับเอิร์ลและมาร์ควิส โดยที่มีดยุกคนหนึ่งถูกเลือกไปด้วยเช่นกัน
ในวันที่หน่วยอัศวินไอซ์บลูจะจากไป หานเซิ่นก็พาพวกพ้องของเขามาเพื่อลงทะเบียน
ราชาไนท์ริเวอร์กำลังยิ้มราวกับคนบ้า และเมื่อเขาเห็นหานเซิ่นพาครอบครัวและพวกพ้องทั้งหมดมาด้วย เขาก็หัวเราะและพูด
“หานเซิ่น เจ้าควรจะทิ้งพวกเขาเอาไว้ที่นี่! ข้ายินดีจะดูแลเพื่อนๆและครอบครัวของเจ้า”
หานเซิ่นมองไปที่ราชาไนท์ริเวอร์และยิ้มออกมา “ขอบคุณ แต่ไม่ล่ะ พวกเขาจะไปกับข้าเพื่อเข้าร่วมกับหน่วยอัศวินไอซ์บลู”
ราชาไนท์ริเวอร์มองเขาด้วยความดูถูก “เจ้าคิดว่าหน่วยอัศวินไอซ์บลูคืออะไร? เจ้าคิดว่าจะพาใครไปเข้าร่วมด้วยก็ได้อย่างนั้นหรอ?”
ราชาแบล็คมูนและราชากงล้อจันทราก็ไม่รู้ว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไรอยู่เช่นกัน มันเป็นเรื่องยากสำหรับคนๆหนึ่งที่จะเข้าร่วมกับหน่วยอัศวินไอซ์บลู ดังนั้นการนำครอบครัวและเพื่อนๆไปด้วยยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
แต่หานเซิ่นไม่ใช่คนที่จะพูดอะไรขึ้นมามั่วๆ เขาต้องมีเหตุผลบางอย่างถึงพูดออกมาแบบนั้น
“ท่านพูดถูก ข้าจะพาใครไปก็ได้ถ้าต้องการ และไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น ข้าจะพาท่านไปด้วยถ้าต้องการ” หานเซิ่นยิ้มให้กับราชาไนท์ริเวอร์
“นั่นเป็นมุขที่ไม่ตลกเลยสักนิด” ราชาไนท์ริเวอร์พูด แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
หานเซิ่นหันหลังให้กับราชาไนท์ริเวอร์และเคลื่อนที่เพื่อไปเข้าร่วมกับหน่วยอัศวินไอซ์บลูพร้อมกับพวกพ้องของเขา
ราชากงล้อจันทราและราชาไนท์ริเวอร์มองดูหานเซิ่นพาทั้งครอบครัวของเขาขึ้นไปบนยานอวกาศของอัศวินไอซ์บลู เขาพาแม้กระทั่งเด็กคนหนึ่งเข้าไปด้วย นอกจากนั้นมันดูเหมือนว่าราชาอัศวินไอซ์บลูไม่ว่าอะไรเขาที่ทำแบบนั้น รีเบทที่เห็นเบิกตากว้าง พวกเขาไม่สามารถเชื่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ได้
นี่นั้นเป็นหนึ่งในหน่วยอัศวินทั้งสิบของเอ็กซ์ตรีมคิง ทุกคนรู้ดีว่ามันยากขนาดไหนที่จะถูกเกณฑ์เข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเขา ทุกคนอยากจะส่งลูกหลานของตัวเองไปเข้าร่วมกับพวกเขา แต่มันก็มีแค่คนที่ผ่านการทดสอบเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกับพวกเขาได้
ผู้คนของหานเซิ่นไม่แม้แต่จะเข้าร่วมการทดสอบ และยิ่งไปกว่านั้นมันก็ยังมีเด็กอยู่ในกลุ่มของพวกเขาด้วย แต่พวกเขาสามารถไปเข้าร่วมกับหน่วยอัศวินไอซ์บลูได้อย่างไร้การกีดขวาง นี่ทำให้คนอื่นที่เห็นประหลาดใจอย่างมาก
ราชาไนท์ริเวอร์ดูตกตะลึง หานเซิ่นพาครอบครัวทั้งหมดไปด้วย แบบนั้นถึงเขาจะยึดครองดาวอุปราคามาได้ เขาก็ไม่สามารถแก้แค้นหานเซิ่นได้อยู่ดี
ราชาไนท์ริเวอร์กัดฟันของเขา แต่หลังจากนั้นจู่ๆราชาอัศวินไอซ์บลูก็พูดขึ้นมา
“ราชาไนท์ริเวอร์ ในตอนนี้ข้าจำเป็นต้องการผู้คน ข้าจะให้เจ้าเข้าร่วมกับอัศวินไอซ์บลูและทำงานเพื่อเอ็กซ์ตรีมคิง!”
ทุกคนในแนร์โรว์มูนตกตะลึง ราชาไนท์ริเวอร์เองก็เช่นกัน เขาฝืนยิ้มออกมา “ขอบคุณท่านมาก แต่…”
ก่อนที่ราชาไนท์ริเวอร์จะสามารถพูดประโยคของเขาจบ ราชาอัศวินไอซ์บลูก็เผยใบเกณฑ์ทหารให้กับเขาพร้อมกับพูด
“นี่คือคำสั่งตรงจากผู้ปกครองของเอ็กซ์ตริมคิง นี่เจ้าคิดที่จะสละสิทธินี้อย่างนั้นหรอ?”
“ข้าน้อยมิกล้า!” ราชาไนท์ริเวอร์ดูแย่ เขาทั้งตกตะลึงและโกรธ เขาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นก็หันไปเห็นหานเซิ่นกำลังยิ้มมาให้กับเขา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น