Super God Gene 2183-2186

ตอนที่ 2183

 

ทั้งเมืองสตีลกำลังตกอยู่ในความโกลาหล ดยุกและมาร์ควิสทั้งหมดมารวมกันอยู่ในเมือง ทำให้บรรยากาศภายในเมืองตึงเครียดอย่างมาก ซึ่งแต่ละเผ่าพันธุ์ต่างสงสัยกันและกัน

 

สุดท้ายคนทรยศก็ยังไม่ถูกพบ และนั่นหมายความว่าหานเซิ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอยู่ที่นั่นต่อไป

 

ถึงแม้ทางรีเบทจะพยายามเจรจา แต่ทางเดสทรอยเยอร์ก็ยังคงยืนกรานว่าจะไม่ให้ใครออกไปจากดาวโซดิถ้าคนทรยศยังไม่ถูกพบ ทุกเผ่าพันธุ์จะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปออกไป และนั่นรวมถึงรีเบทด้วย

 

หานเซิ่นเชื่อว่ามันมีคนคอยช่วยเหลือคนทรยศอยู่ด้วย เขาคิดว่าความโกลาหลในตอนนี้เป็นความจริงใจของใครบางคนเพื่อช่วยเหลือให้คนทรยศหนีไป แต่มันยากจะตัดสินความจริงของเรื่องนี้ เพราะมันไม่มีเบาะแสอะไร ดังนั้นการจะบอกว่าคนทรยศทำงานคนเดียวหรือไม่เป็นเรื่องที่ยืนยันได้ยาก

 

และนั่นก็เป็นเหตุผลที่แต่ละเผ่าพันธุ์ต่างสงสัยซึ่งกันและกัน

 

วันต่อมา หลังจากที่หานเซิ่นออกมาจากห้อง เขาก็พบว่าร้านอาหารเต็มไปด้วยยอดฝีมืออีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้เขาไม่สามารถหาที่นั่งได้ และในจังหวะที่เขากำลังจะนำอาหารกลับไปกินที่ห้อง เฟเธอร์หญิงเมื่อวันก่อนก็เรียกเขา

“ทำไมพวกเราไม่มานั่งกินด้วยกันล่ะ?”

 

หานเซิ่นหันไปมองและเห็นว่าเธออยู่ตามลำพัง ถึงแม้คนอื่นกำลังจับตามองเธอ แต่มันก็ไม่มีใครกล้าไปนั่งข้างๆเธอ

 

หานเซิ่นรู้ว่านั่นเป็นเพราะเธอเป็นบุคคลที่น่าสงสัย ทำให้ไม่มีใครต้องการไปนั่งกับเธอ พวกเขาหวาดกลัวยอดฝีมือคนอื่นมากกว่าที่จะหวาดกลัวผู้หญิงคนนั้น

 

แต่หานเซิ่นไม่สนใจเรื่องนั้น เขาได้มีปฏิสัมพันธ์กับเธอไปแล้วเมื่อวันก่อน ดังนั้นการนั่งกับเธออีกครั้งจะไม่สร้างความแตกต่างอะไร

 

ในตอนที่หานเซิ่นและพวกพ้องของเขานั่นลง หญิงสาวจากเอ็กซ์ตรีมคิงก็เดินเข้ามาในร้านอาหาร ผู้คนยังคงไม่รู้ว่าเธอมาจากเอ็กซ์ตรีมคิง แต่ พลังตบของเธอทำให้ผู้คนหวาดกลัว

 

ผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงที่เพิ่งเข้ามาในร้านอาหารไม่สามารถหาที่นั่งให้กับตัวเองได้ ดังนั้นเธอจึงเดินไปยังโต๊ะที่เคยใช้ในวันก่อน

 

แต่ในวันนี้มีดราก้อนหลายคนกำลังนั่งอยู่ และในหมู่ของพวกเขาก็มีดราก้อนซิกซ์อยู่ด้วย

 

เมื่อทุกคนเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปหาดราก้อนซิกซ์ ทุกคนก็รู้ในทันทีว่ากำลังจะได้ดูอะไรที่น่าสนุก

 

เมื่อผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงเดินไปถึงที่โต๊ะ เธอก็พูดกับพวกเขาตรงๆ

“ข้าจะอนุญาตให้พวกเจ้ามีโอกาสได้ไปจากที่ตรงนี้”

 

ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะพูดออกไปแบบนั้น เพราะยังไงซะมันก็ไม่มีใครในที่นี่กล้าพูดกับดราก้อนซิกซ์ซิกซ์แบบนั้น ทุกคนรู้สึกสนใจอย่างมากว่าดราก้อนซิกซ์จะมีปฏิกิริยาอย่างไร

 

ดราก้อนซิกซ์กรอกตาและหันมามองผู้หญิงคนนั้น “ทำไมข้าต้องทำแบบนั้นด้วย?”

 

ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้พูดอะไรอีก เธอแค่ชกหมัดออกไป

 

ดราก้อนซิกซ์ยกหมัดขึ้นและตอบโต้หมัดของหญิงสาวด้วยพลังพิชิตมารของเขา พลังของทั้ง 2 ปะทะกัน

 

แต่พวกเขาทั้งคู่ดึงหมัดของตัวเองกลับก่อนที่จะปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา มันดูเหมือนจะเสมอกัน เนื่องจากไม่มีฝ่ายไหนกระเด็นถอยหลังออกไป

 

แต่ดวงตาของดราก้อนซิกซ์เบิกกว้าง เขายืนขึ้นและพูด “ไปกันเถอะ”

 

หลังจากนั้นเขาและพวกพ้องก็รีบจากไป ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นได้นั่งทานอาหารบนโต๊ะๆนั้นตามลำพัง

 

ทุกคนมองดูอย่างเงียบๆ ขณะที่ผู้หญิงคนนั้นสั่งอาหารของเธอ ไม่มีใครเข้าใจได้ว่าทำไมดราก้อนซิกซ์ถึงยอมมอบโต๊ะของเขาให้กับเธอ นี่ทำให้ผู้คนรู้สึกสงสัยในตัวผู้หญิงคนนั้นยิ่งกว่าเดิม

 

หานเซิ่นรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมาจากเอ็กซ์ตรีมคิง ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าทำไมดราก้อนซิกซ์ถึงยินดีเดินจากไป นอกจากนั้นหานเซิ่นยังคิดว่าดราก้อนซิกซ์จงใจเลือกที่นั่งตรงนั้นก็เพื่อทดสอบเธอ แต่หลังจากหมัดนั้นดูเหมือนว่าดราก้อนซิกซ์จะรับรู้ว่าเธอเป็นใคร ด้วยเหตุนั้นเขาจึงถอยไปแต่โดยดี

 

ในขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น บาร์ก็ยกมีดกระดูกขึ้นและวิ่งเข้าไปหาหานเซิ่นพร้อมกับตะโกน “วันนี้คือวันตายของเจ้า!”

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว ถ้าบาร์เข้ามาจู่โจมเขาแบบนี้ มันก็หมายความว่าชายคนนั้นพบหนทางที่จะต้านทานพลังในการแช่แข็งของเขาแล้ว หานเซิ่นไม่ได้หวาดกลัวอะไรต่อบาร์ แต่เขาคิดว่านี่เป็นอะไรที่น่ารำคาญ

 

แถมเมืองสตีลยังถูกปิดล้อม ทำให้เขาไม่สามารถหนีไปจากที่นี่ได้

 

“บาร์ อย่าได้อวดดีจนเกินไป ที่นี่เป็นเขตแดนของรีเบท” ผู้จัดการชาวรีเบทขมวดคิ้ว

 

“แล้วยังไง?” หลังจากที่บาร์พูดแบบนั้น เขาก็ฟันใส่หานเซิ่นขณะที่แสงสีแดงดำห่อหุ้มมีดกระดูก

 

ทั้งร้านอาหารตกอยู่ในความโกลาหล ทุกคนที่อยู่ในวิถีของมีดแสงพยายามวิ่งหนีออกไป

 

แต่หานเซิ่นยังคงนั่งอยู่ในที่เดิมและไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน เขาชักปืนพกออกมาและยิงใส่บาร์

 

มีดกระดูกฟันถูกกระสุนที่เข้ามา ทำให้กระสุนถูกหยุดไป นอกจากนั้นมีดแสงยังคงพุ่งต่อไปข้างหน้า มันตัดผ่านร้านอาหารและก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนจนสิ่งก่อสร้างแห่งนี้ถล่มลงมา

 

หานเซิ่นหลบมีดแสงของบาร์ ขณะที่เขาทำอย่างนั้นเขาก็นำปืนมาจ่อที่ตัวของบาร์ หลังจากนั้นเขาก็ยิงออกไปโดยไม่รีรอ

 

บาร์ไม่ถนัดการตั้งรับ เขาไม่แม้แต่จะพยายามป้องกันตัวเอง ด้วยเหตุนั้นกระสุนจึงพุ่งเข้าไปถูกตัวเขาอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นน้ำแข็งจากกระสุนก็เริ่มแพร่ขยายไปทั่วร่างของเขา

 

แต่ครั้งนี้ที่คอของบาร์มีสร้อยคอสีเงินอยู่ อัญมณีบนสร้อยคอเริ่มเรืองแสงที่ดูเหมือนกับเปลวไฟออกมา มันละลายพลังน้ำแข็งและป้องกันเขาจากการถูกแช่แข็ง

 

“สร้อยคอไลท์ไฟร์ซีด!” บางคนตะโกนขึ้นมาเมื่อจดจำสร้อยคอที่บาร์กำลังสวมใส่อยู่ได้

 

เมื่อบาร์เห็นว่าสร้อยคอได้ผล เขาก็ยิ้มออกมา หลังจากนั้นเขาก็มองหานเซิ่นด้วยความโกรธ เขากวัดแกว่งมีดกระดูกและตะโกนขึ้นมา

“ข้าจะกินเจ้า!”

 

หานเซิ่นเปิดใช้งานวิชาโลหิตชีพจรก่อนที่จะเรียกปีกมังกรออกมา เขากระพือปีกเพื่อเทเลพอร์ตหนีไปจากการโจมตีที่เข้ามา

 

บาร์ส่งเสียงคำราม เขายกมีดกระดูกขึ้นและวิ่งตามหานเซิ่นไป ขณะที่ดวงตาของเขาลุกโชติช่วงด้วยดวงไฟ

 

ทั้งร้านอาหารตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนเริ่มเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังต่อสู้กัน และในขณะที่ทุกคนกำลังต่อสู้กันอย่างชุลมุน โรงแรมก็ถูกทำลายเป็นชิ้นๆอย่างรวดเร็ว

 

ไม่มีใครรู้ว่าดราก้อนซิกซ์กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้เขาชกหมัดเข้าใส่เฟเธอร์หญิงที่เคยนั่งอยู่กับหานเซิ่น

 

เฟเธอร์หญิงกระพือปีกและหลบหลีกการโจมตีที่เข้ามา ดราก้อนซิกซ์ไม่สามารถจับตัวเธอเอาไว้ได้

 

แต่มันก็เหมือนกับว่าเขาจงใจที่จะไม่ตามเฟเธอร์หญิงคนนั้นไป เพราะดราก้อนซิกซ์ปล่อยให้แสงสีเขียวที่ห่อหุ้มหมัดของเขาพุ่งต่อไปหาซีโร่และคนอื่นๆ

 

ซีโร่และคนอื่นสามารถหลบหลีกหมัดนั้นได้ แต่มันก็มีคนอีกหลายคนที่เข้ามาจู่โจมพวกเธอ

 

หานเซิ่นหนีออกไปด้านนอกเพื่อต่อสู้กับบาร์ และในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น ผู้คนรู้สึกสงสัยในตัวหญิงสาวที่อยู่รอบๆเขา และพวกเขาก็ต้องการจะทดสอบพวกเธอ หานเซิ่นไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

 

เพราะหานเมิ่งเอ๋อ นางฟ้าและซีโร่ต่างก็ไม่ใช่คนทรยศที่พวกเขากำลังตามหา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้สำคัญอะไร ถ้าพวกพ้องของหานเซิ่นถูกฆ่าได้ นั่นเป็นเรื่องเดียวที่สำคัญสำหรับคนอื่น ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้พวกหานเซิ่นเพิ่งจะได้รับศัตรูใหม่เพิ่มมาเป็นฝูง 

 

 

ตอนที่ 2184

 

หานเซิ่นต้องการจะกลับไปช่วย แต่บาร์กำลังไล่ล่าเขาอยู่ บาร์ไม่คิดจะปล่อยให้หานเซิ่นกลับไปหาเพื่อนๆของเขาได้

 

ดราก้อนซิกซ์โจมตีพลาดเป้าไป แต่เขาไม่หยุดอยู่แค่นั้น เขาวิ่งเข้าหาเฟเธอร์หญิงพร้อมกับแสงพิษที่รั่วไหลออกมาจากหมัดของเขา เขาเป็นเหมือนกับมังกรพิษจริงๆ

 

แต่เฟเธอร์หญิงก็หลบหลีกการโจมตีที่เข้ามาได้อย่างงดงามราวกับนักเต้น เธอเป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง แต่เธอสามารถรับมือกับดราก้อนซิกซ์ที่เป็นระดับดยุกได้เป็นอย่างดี เขาไม่สามารถโจมตีถูกร่างกายเธอได้แม้แต่ครั้งเดียว

 

เดสทรอยเยอร์ระดับดยุกหลายคนมุ่งตรงเข้าไปหานางฟ้า พวกเขาดูเลือดเย็นและโหดเหี้ยม มันเห็นได้ชัดว่าพวกเขามีแผนที่จะฆ่าเธอ

 

ขณะที่การโจมตีกำลังพุ่งเข้ามาหากลุ่มของหานเซิ่น ทันใดนั้นก็มีแสงสีฟ้าส่องสว่างขึ้นมาจากหานเมิ่งเอ๋อ และสร้างโล่ป้องกันนางฟ้า ซีโร่ จิ้งจอกเงินและอสูรกาแล็กซี่

 

ปัง!

 

เหล่าเดสทรอยเยอร์ระดับดยุกจู่โจมใส่โล่สีฟ้า แต่ไม่มีการโจมตีที่สามารถทำอะไรมันได้

 

“นางกำลังใช้สมบัติของหานเซิ่น!” หนึ่งในเดสทรอยเยอร์ระดับดยุกขมวดคิ้ว พวกเขารู้ว่าโล่ป้องกันของหานเซิ่นสามารถป้องกันได้แม้แต่พลังระดับราชัน ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงรู้ในทันทีว่าการโจมตีของพวกเขาไม่สามารถทำอะไรโล่ป้องกันนั้นได้

 

“ดี! ถ้าพวกนางมีสมบัตินี้อยู่ นั่นก็หมายความว่าหานเซิ่นไม่มีอะไรที่จะใช้เพื่อป้องกันตัวเอง ในที่สุดพวกเราก็มีโอกาสที่จะฆ่าหานเซิ่นแล้ว!”

เดสทรอยเยอร์ระดับดยุกพูดขึ้นมาอย่างเหี้ยมโหด เขารีบมุ่งหน้าไปหาหานเซิ่นที่ตอนนี้กำลังต่อสู้กับบาร์อยู่

 

“ถอยออกไป! เขาเป็นของข้า!” บาร์ตะโกนและกวัดแกว่งมีดกระดูกเข้าใส่เหล่าดยุกที่เข้ามา

 

เหล่าเดสทรอยเยอร์ระดับดยุกเกือบจะถูกฟันโดยบาร์ พวกเขาทั้งหมดจึงต้องพากันถอยออกไป ซึ่งทำให้พวกเขาทั้งแปลกใจและโกรธ

 

“บาร์! นี่เจ้ากำลังทำอะไร?” เดสทรอยเยอร์ระดับดยุกคนหนึ่งตะโกนใส่บาร์

 

“ข้าบอกแล้วยังไงว่าเขาเป็นของข้า” บาร์พูดขณะที่เคลื่อนที่เข้าไปโจมตีหานเซิ่น เหล่าเดสทรอยเยอร์จึงหยุดชะงักไป

 

“ไม่ต้องไปสนใจเขา! หาตัวคนทรยศก่อน” เดสทรอยเยอร์ระดับดยุกสั่ง

 

“รับทราบ” กลุ่มของเดสทรอยเยอร์รับคำสั่งในทันที พวกเขาทุกคนรีบลงไปค้นหาผู้หญิงที่อยู่ภายใน

 

เดสทรอยเยอร์ไม่ใช่แค่เผ่าพันธุ์เดียวที่ทำแบบนี้ ทุกคนเริ่มโจมตีใส่ผู้หญิงทุกคนที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ตัวเอง พวกเขาทุกคนต่างก็ต้องการจะหาตัวคนทรยศให้ได้

 

ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่หานเซิ่นคาดคิดเอาไว้ ทุกคนเชื่อว่าคนทรยศเป็นผู้หญิงจริงๆ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นคนเผ่าพันธุ์ไหน ทำให้ผู้หญิงทุกคนตกเป็นเป้าหมาย

 

ตอนนี้ทั้งเมืองเปลี่ยนเป็นสนามรบที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ความโกลาหล โชคดีที่พวกพ้องของหานเซิ่นมีการป้องกันจากใบเสมาราชาแมลงปีศาจ และเนื่องจากมันไม่มียอดฝีมือระดับราชันอยู่ที่นี่ ดังนั้นมันจึงไม่มีใครสามารถทำลายใบเสมาราชาแมลงปีศาจของพวกเธอได้ เฟเธอร์หญิงยังคงตกอยู่ภายใต้การจู่โจมอย่างบ้าคลั่งของดราก้อนซิกซ์ และตอนนี้คนอื่นๆก็เล็งเป้าไปที่เธอด้วยเช่นกัน เพราะยังไงเธอก็เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด

 

บาร์จู่โจมหานเซิ่นด้วยความโกรธ แต่หานเซิ่นก็พึ่งพาความสามารถในการเทเลพอร์ตเพื่อหลบหลีกการโจมตีที่เข้ามา แต่เขาไม่ได้ตอบโต้กลับไป เนื่องจากเขาไม่อยากเสี่ยงทำให้ชายที่บ้าคลั่งแข็งแกร่งยิ่งไปกว่านี้

 

พลังน้ำแข็งไม่ได้ผลกับบาร์อีกแล้ว หานเซิ่นได้ยิงกระสุนออกไปหลายลูก แต่มันไม่ได้แช่แข็งบาร์ พลังแช่แข็งจะทำงานก็ต่อเมื่อพวกมันถูกเป้าหมาย แต่ตอนนี้สร้อยคอของบาร์ป้องกันน้ำแข็ง พลังในการแช่แข็งจึงไม่ได้ผล

 

‘สร้อยคอไลท์ไฟร์ซีดเป็นหนึ่งในสมบัติระดับเทพเจ้าของเดสทรอยเยอร์ใช่ไหม? ไม่อยากเชื่อเลยว่าทางเดสทรอยเยอร์จะให้บาร์ใช้มัน นี่พวกเขาอยากจะให้เราตายมากขนาดนั้นเลยหรอ?’ หานเซิ่นคิดขณะที่หลี่ตามองไปที่สร้อยคอ

 

หานเซิ่นรู้ว่าสมบัติที่มีชื่อเสียงที่สุดของเดสทรอยเยอร์คือสร้อยคอไลท์ไฟร์ซีด แหวนดาร์กอาย และรูปปั้นเคออส

 

ที่คอของบาร์ดูเหมือนจะประดับไปด้วยสร้อยคอไลท์ไฟร์ซีดเดียวกันนั้น

 

ชีวิตเริ่มด้วยไฟและก็จบลงด้วยไฟ สร้อยคอไลท์ไฟร์ซีดในตำนานมีแสงแห่งไฟ มันเป็นหนึ่งในสมบัติธาตุไฟที่ทรงพลังที่สุด

 

ตำนานบอกว่าครั้งหนึ่งเดสทรอยเยอร์ระดับเทพเจ้าเคยใช้สร้อยคอนี้เผาผลาญทั้งระบบจักรวาลหนึ่ง มันเป็นสิ่งของที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมากถ้าเรื่องเล่านั้นเป็นความจริง

 

แต่บาร์เป็นเพียงแค่ดยุกคนหนึ่ง เขาไม่สามารถใช้พลังของสร้อยคอได้อย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มากพอที่จะปกป้องผู้สวมใส่จากพลังน้ำแข็ง นอกซะจากว่าหานเซิ่นจะเป็นระดับราชัน ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีทางที่เขาจะแช่แข็งบาร์ได้

 

หานเซิ่นกระพือปีกและเทเลพอร์ตถอยห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตร เขายกปืนขึ้นมาและยิงใส่เดสทรอยเยอร์ที่อยู่ใกล้เคียง

 

ปัง! ปัง!

เสียงระเบิดดังขึ้นทุกหนทุกแห่ง และเดสทรอยเยอร์ระดับดยุกก็ถูกระเบิดกลายเป็นเถ้าถ่าน

 

หานเซิ่นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อหลบการโจมตีของบาร์ ขณะเดียวกันเขาก็ยิงปืนใส่เดสทรอยเยอร์ทุกคนที่เคลื่อนที่ผ่าน ซึ่งทำให้จำนวนคนตายของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

“หานเซิ่น สู้กับข้า!” บาร์คำรามออกมา แต่เขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดหานเซิ่นได้

 

เดียร็อบเบอร์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นดยุกของเดสทรอยเยอร์ถูกระเบิดกลายเป็นจุณโดยหานเซิ่น เขารีบพุ่งเข้าไปหานเซิ่นพร้อมกับยกหมัดขึ้นมา

 

ใบหน้าผู้ชายที่เป็นตัวแทนถึงแสงเริ่มสว่างขึ้นมา หมัดของเขาดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าด้วยแสงแห่งเทพ

 

หานเซิ่นกระพือปีกและหายตัวไป เขาหลบหลีกหมัดที่เข้ามาและยิงปืนใส่เดียร็อบเบอร์

 

ใบหน้าผู้หญิงของเดียร็อบเบอร์เป็นตัวแทนของความมืด เธอปลดปล่อยแสงแห่งความมืดออกมา นิ้วมือทั้งสิบเป็นเหมือนกับมีดที่ตัดกระสุนของหานเซิ่น

 

กระสุนระเบิดออก แต่พลังแห่งความมืดสร้างหลุมดำที่ไร้ก้นบึ้งขึ้นในอากาศและดูดกลืนกระสุนเข้าไป พวกมันถูกลบล้างจากการส่งผลใดๆ

 

“เดียร็อบเบอร์! เขาเป็นของข้า” บาร์ตะโกนด้วยความโกรธ

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ฆ่าเขาให้ได้ก่อนข้า” เดียร็อบเบอร์พูด ใบหน้านกตรงกลางของเขาเป็นตัวแทนของเคออส และมันก็ปลดปล่อยแสงสว่างออกมา

 

พลังที่รั่วไหลออกมาแพร่ขยายออกไปครอบคลุมในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร และเมื่อหานเซิ่นพยายามจะกระพือปีกมังกรเพื่อเทเลพอร์ตหนีไป เขาก็รู้ตัวว่าไม่สามารถเทเลพอร์ตได้อีกแล้ว

 

บาร์คำรามออกมา เขากระหน่ำโจมตีใส่หานเซิ่นด้วยการกวัดแกว่งมีดกระดูก เขาไม่ได้พยายามจะบังคับให้เดียร็อบเบอร์ถอยออกไปเหมือนกับดยุกคนอื่น

 

ตอนนี้เดียร็อบเบอร์ก็เข้ามาโจมตีใส่หานเซิ่นด้วยเช่นกัน แขนทั้ง 6 ของเขาปลดปล่อยพลัง 3 อย่างเพื่อทำลายล้างหานเซิ่น

 

เดียร็อบเบอร์ยังคงปลดปล่อยพลังเคออสออกไปรอบๆตัว ทำให้ความสามารถในการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป

 

การเผชิญหน้ากับดยุกถึง 2 คน ทำให้หานเซิ่นตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ หานเซิ่นพึ่งพาความเร็วเพื่อหลบการโจมตีที่เข้ามา แต่ที่สุดแล้วมันก็ไม่เพียงพอที่จะหลบการโจมตีของบาร์และเดียร็อบเบอร์

 

‘ถ้าเป็นดยุกล่ะก็ เราก็คงจะไม่ต้องหวาดกลัวพวกเขาทั้งคู่ แต่ตอนนี้เรายังเป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง และพลังของเราก็ด้อยกว่าดยุกอย่างเดียร็อบเบอร์’ หานเซิ่นพยายามคิดหาวิธีที่จะจัดการกับศัตรู

 

“คนทรยศ! นางคือคนทรยศ!” ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหลัง มันดึงดูดความสนใจของทุกคนที่อยู่ที่นี่ 

 

 

ตอนที่ 2185

 

ความสนใจของทุกคนถูกดึงไปทางเสียงตะโกน แม้แต่หานเซิ่นเองก็ไม่เว้น เสียงนั้นดังมาจากดราก้อนซิกซ์ เขากระอักเลือดออกมาและมีรอยสีดำที่เหมือนกับฝ่ามือของผู้หญิงเผาไหม้อกของเขา

 

รอยฝ่ามือนั้นเผาไหม้เกล็ดมังกรของดราก้อนซิกซ์และประทับบนอกของเขาด้วยรอยสีดำ

 

“พลังของเดสทรอยเยอร์!” บางคนตะโกนขึ้นมา หลังจากนั้นทุกคนก็กระโดนเข้าไปหาเฟเธอร์หญิง แม้แต่เดียร็อบเบอร์ที่กำลังโจมตีใส่หานเซิ่นก็หันไปหาเธอแทน

 

นอกจากเดสทรอยเยอร์แล้ว คนเดียวที่ใช้พลังของเดสทรอยเยอร์เพื่อสร้างความเสียดายต่อดราก้อนซิกซ์ได้แบบนั้นจะต้องเป็นคนทรยศของเดสทรอยเยอร์

 

ดราก้อนซิกซ์ไล่ล่าเฟเธอร์หญิงไปอย่างไม่ลดละ

 

ตอนนี้ทุกคนต่างมุ่งหน้าไปหาเฟเธอร์หญิงคนนั้น มีเพียงแค่บาร์คนเดียวเท่านั้นที่หมกมุ่นอยู่กับหานเซิ่น

 

แน่นอนว่าหานเซิ่นรู้สึกหดหู่กับเรื่องนี้ แต่ต้องขอบคุณที่เมื่อเดียร็อบเบอร์จากไปแล้ว หานเซิ่นก็สามารถใช้พลังในการเทเลพอร์ตได้อีกครั้ง

 

หานเซิ่นเทเลพอร์ตหนีไปใกล้ๆกับสิ่งก่อสร้าง และก่อนที่บาร์จะไล่ตามมาได้ทัน หานเซิ่นก็รีบเข้าไปในสิ่งก่อสร้างนั้น เมื่อบาร์ถล่มสิ่งก่อสร้างเพื่อหาตัวหานเซิ่น เขาก็พบว่าหานเซิ่นหายตัวไปแล้ว

 

“หานเซิ่น! ออกมานี่เดี๋ยวนี้!” บาร์กวัดแกว่งมีดกระดูกอย่างบ้าคลั่งและทำลายสิ่งก่อสร้างเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่เขาก็หาตัวหานเซิ่นไม่เจอ

 

หานเซิ่นไม่มีอารมณ์จะรับมือกับคนบ้าที่เป็นอมตะ หลังจากที่ล่องหนน้อยใช้พลังกับตัวของเขา ร่างกายของเขาก็โปร่งใสอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นเขาก็แอบหนีไปต่อหน้าต่อตาของบาร์

 

ตอนนี้ทุกคนต่างก็ต้องการจะล่าคนทรยศของเดสทรอยเยอร์  พลังที่น่ากลัวมากมายถูกปล่อยเข้าไปหาเฟเธอร์หญิงคนนั้น แต่เธอก็เล็ดลอดผ่านพวกมันด้วยความสง่างามอย่างเหลือเชื่อ

 

ถึงแม้จะเป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง เธอก็เทเลพอร์ตผ่านดยุกและมาร์ควิสที่ไล่ล่าเธอแบบตรงๆได้ แม้แต่เดียร็อบเบอร์ก็ไม่สามารถหยุดเธอได้

 

หัวนกของเดียร็อบเบอร์เรืองแสงและปล่อยสนามพลังเคออสออกมา

 

แต่แปลกที่ความสามารถในการเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รับผลอะไรจากพลังของเดียร็อบเบอร์ เธอยังคงเทเลพอร์ตและไม่มีใครสามารถทำอะไรเธอได้

 

“นี่พวกเจ้าโง่หรือยังไง! พวกเจ้าคิดว่าข้าเป็นคนทรยศของเดสทรอยเยอร์จริงๆอย่างนั้นหรอ? ดราก้อนซิกซ์ใช้ฝ่ามือใส่ตัวเอง เขาทำร้ายตัวเอง! มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้า!” เฟเธอร์หญิงพูดหลังจากที่หลบการโจมตีได้สำเร็จ

 

“โกหก! นี่เจ้าคิดจริงๆหรือว่าพวกเราจะเชื่อ?” เดสทรอยเยอร์คำรามออกไป

 

“ถ้าข้าเป็นคนทรยศจริงๆ ทำไมข้าต้องทำให้มันดูโจ่งแจ้งด้วย?”

เฟเธอร์หญิงยิ้มและกางแขนอย่างโอ้อวด เธอไม่ทำการหลบหลีก เธอปลดปล่อยแสงออกมาจากปลายนิ้วโดยเล็งไปที่เดสทรอยเยอร์คนนั้น

 

เดสทรอยเยอร์ระดับดยุกยกแขนทั้ง 6 ขึ้นมาและปลดปล่อยพลังที่แตกต่างกัน 3 อย่างออกไป เขาใช้แสงแห่งเทพ 3 สีเพื่อโต้ตอบ

 

แต่แสงแห่งเทพของเธอทำลายแสงแห่งเทพ 3 สีและประทับเดสทรอยเยอร์ดยุกคนนั้นด้วยเครื่องหมายประหลาด ทันใดนั้นเดสทรอยเยอร์คนนั้นก็ถูกเปลี่ยนเป็นร่างขนาดเล็ก กระดูกและเนื้อของเขาถูกย่อส่วนและบีบอัดเข้าด้วยกัน ร่างกายที่สูง 3 เมตรของเขาเปลี่ยนเป็นบางสิ่งที่เล็กยิ่งกว่าก้อนน้ำตาล

 

“เครื่องหมายของเวรี่ไฮ! นางเป็นคนของเวรี่ไฮ!” สีหน้าของทุกคนซีดเผือก ผู้คนที่กำลังไล่ล่าผู้หญิงคนนั้นหยุดชะงักไป พวกเขาเริ่มถอยออกห่างจากเธอ

 

เดียร็อบเบอร์ดูเหมือนรู้สึกตัวถึงเรื่องบางอย่าง เขารีบหันไปหาดราก้อนซิกซ์ แต่ดราก้อนซิกซ์ได้หายตัวไปเรียบร้อยแล้ว

 

“ดราก้อนซิกซ์อยู่ที่ไหน?” เดียร็อบเบอร์ถามหนึ่งในดราก้อนที่ยังอยู่ที่นี่

 

“ข้าไม่รู้…เมื่อครู่เขายังอยู่ที่นี่อยู่เลย…” ดราก้อนคนนั้นก็คิดว่ามีอะไรผิดปกติเช่นเดียวกัน

 

ตอนนี้ทุกเผ่าพันธุ์เริ่มรู้สึกตัวว่าผู้หญิงคนนั้นมาจากเวรี่ไฮ เครื่องหมายที่เธอใช้ใส่เดสทรอยเยอร์ดยุกคนนั้นเป็นวิชาของเวรี่ไฮ ซึ่งคนของเวรี่ไฮไม่มีทางเป็นคนทรยศไปได้

 

แต่ดราก้อนซิกซ์ถูกพลังของเดสทรอยเยอร์เข้าไปจริงๆ ถ้าพลังนั้นไม่ได้มาจากผู้หญิงคนนั้นล่ะก็ เขาก็คงจะใช้มันใส่ตัวเองจริงๆ

 

แต่ดราก้อนซิกซ์เป็นเผ่าดราก้อน เขาไม่สามารถใช้พลังของเดสทรอยเยอร์ได้ นอกซะจากว่าเขาคือคนทรยศคนนั้น

 

แต่ตอนนี้เขาหายตัวไปแล้ว เขาฉวยโอกาสหนีไปในระหว่างความโกลาหล และมันก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปที่ไหน บางทีเขาอาจจะหนีออกไปจากเมืองสตีลแล้วก็ได้

 

เดียร็อบเบอร์มองไปที่เฟเธอร์หญิงและโค้งคำนับ “ขออภัยในความเสียมารยาทของพวกเรา พวกเราจะทำการขออภัยอย่างเป็นทางการในภายหลัง ท่านพอจะบอกพวกเราได้ไหมว่าคนทรยศนั้นหนีไปทางไหนกัน?”

 

ดราก้อนซิกซ์ตัวปลอมใส่ร้ายเธอ ดังนั้นเธอจะต้องเห็นว่าเขาหนีไปทางไหน

 

“ในตอนที่พวกเจ้าโจมตีข้า เขาหนีไปทางนั้น”  เฟเธอร์หญิงชี้นิ้วออกไปในทิศทางของประตูเมือง

 

ทุกคนรีบมุ่งหน้าไปทางนั้นโดยไม่ลังเล ดราก้อนซิกซ์ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ขณะที่หนีไป และพวกเขาก็ตามรอยดราก้อนซิกซ์ไปจบถึงภูเขา

 

ผู้หญิงคนนั้นมองดูทุกคนเดินทางออกจากเมืองไป พวกเขาต้องการหาตัวคนทรยศ แต่พวกเขาก็ยังอยากจะหนีไปจากเธอด้วย ความคิดที่ว่าพวกเขาทุกคนได้ทำการโจมตีใส่คนจากเวรี่ไฮ ทำให้พวกเขารู้สึกขนลุกไปทั้งตัว พวกเขาหวังจากใจจริงว่าเธอจะให้อภัยพวกเขา

 

แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้แสวงหาการแก้แค้น เธอบินขึ้นสู่ท้องฟ้าแทน

 

สิ่งที่เกิดขึ้นภายในเมืองสตีลถูกจับตามองโดยผู้คนบนยานอวกาศ พวกเขาเห็นผู้หญิงเผยตัวเองว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกของเวรี่ไฮ ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีใครเข้าไปหยุดเธอจากการออกไปจากดาวโซดิ

 

เผ่าพันธุ์อันดับที่หนึ่งของจักรวาลก็คือเวรี่ไฮที่ลึกลับ พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งและลึกลับที่สุด แม้แต่เผ่าพันธุ์อย่างเอ็กซ์ตรีมคิงและแอนเชี่ยนท์ก็อตก็ยังหวาดกลัวพวกเขา

 

เมื่อเครื่องหมายเวรี่ปรากฏขึ้น เรื่องร้ายก็มักจะตามมา นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต หลายเผ่าพันธุ์ถูกทำลายโดยมือของเวรี่ไฮ

 

เดียร็อบเบอร์และผู้ติดตามของเขาค้นหาทั้งภูเขา ซึ่งในที่สุดพวกเขาก็พบกับดราก้อนซิกซ์และเริ่มทำการจู่โจมในทันที

 

“นี่พวกเจ้าตาบอดอย่างนั้นหรอ? ข้าจะเป็นคนทรยศไปได้ยังไง? พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าเผ่าจิ้งจอกประกอบไปด้วยผู้หญิงเท่านั้น? พวกเขาจะอ่อนแอลงถ้าเปลี่ยนร่างเป็นผู้ชาย นี่ข้าดูเหมือนกับผู้หญิงหรือยังไง?” ดราก้อนซิกซ์ตะโกน

 

เดียร็อบเบอร์เห็นว่าพลังพิชิตมารของดราก้อนซิกซ์เป็นของจริง ดังนั้นเขาจึงถามขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นเจ้ามาทำอะไรที่นี่? ทำไมเจ้าถึงวิ่งหนี ถ้าเจ้าไม่ใช่คนทรยศ?”

 

“ข้าไม่ได้วิ่งหนี! ข้าได้รับบาดเจ็บไม่เห็นหรือยังไง ข้าแค่มองหาสถานที่ที่จะรักษาตัวเอง!” ดราก้อนซิกซ์ตะโกนด้วยความโกรธ

 

“เจ้าจะบอกว่าเจ้าคือดราก้อนซิกซ์ตัวจริงอย่างนั้นสินะ? ถ้าอย่างนั้นเจ้าพิสูจน์ตัวเองได้หรือเปล่า?” ข่านถาม สถานการณ์ทั้งหมดนี้ดูผิดปกติ

 

หลังจากนั้นร่างกายของดราก้อนซิกซ์ก็เริ่มปกคลุมด้วยเกล็ดพิษ เขาดูเหมือนกับมังกรพิษที่อยู่ในร่างมนุษย์ เขาหายใจออกมาเป็นแก๊สพิษก่อนที่จะพูดขึ้นมา “ไม่ว่าจิ้งจอกสาวคนนั้นจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน นางก็ลอกเลียนแบบร่างซีโน่เจเนอิคมังกรพิษของข้าไม่ได้”

 

“โอ้ไม่นะ!” เดียร็อบเบอร์รู้สึกตัวขึ้นมา และเมื่อเขากลับไปที่เมืองสตีล ผู้หญิงจากเวรี่ไฮคนนั้นก็ได้หายตัวไปแล้ว 

 

 

ตอนที่ 2186

 

ยานธุรกิจขนาดเล็กลำหนึ่งกำลังบินผ่านอวกาศตามเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ ทันใดนั้นผู้คนบนยานธุรกิจก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางยานอวกาศของพวกเขา ยานอวกาศถูกหยุดและเปิดประตูให้เธอเข้ามาข้างใน

 

ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในยานอวกาศ และไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ได้ห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง

 

ภายในห้องฟเธอร์หญิงเริ่มเปลี่ยนรูปร่างของตัวเอง รูปลักษณ์เฟเธอร์ของเธอเริ่มจางหายไป หางสีขาวงอกออกมาจากด้านหลังของเธอและร่างกายของเธอก็ดูโค้งเว้ายิ่งกว่าเดิม ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน มันดูคมและสละสลวยขึ้น

 

หลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็หยิบเอาวัตถุทรงลูกบาศก์ออกมาจากกระเป๋า ซึ่งมันคือเครื่องหมายของเวรี่ไฮ

 

ผู้หญิงคนนั้นโยนเครื่องหมายเวรี่ไฮลงกับพื้น และเครื่องหมายของเวรี่ไฮก็เริ่มสั่นไหว มันสั่นอยู่สักพักจนกระทั่งจบลงด้วยเสียงปัง ผู้หญิงที่เหมือนกับจิ้งจอกปรากฏตัวออกมา เธอดูเหมือนกับผู้หญิงที่งดงามคนนั้นไม่มีผิด เว้นแต่เธอดูเด็กกว่าเล็กน้อย

 

จิ้งจอกสาวยืดเส้นยืดสายก่อนที่จะลุกขึ้นมา เธอพูดขึ้นด้วยความดีใจ

“พี่สาว พวกเรารอดมาได้! พวกเราหลอกคนพวกนั้นได้สำเร็จ”

 

ถ้าเดียร็อบเบอร์มาอยู่ที่นี่ล่ะก็ เขาก็คงจะรู้สึกโกรธอย่างมาก การฆ่าเดสทรอยเยอร์ระดับดยุกคนหนึ่งด้วยเครื่องหมายของเวรี่ไฮนั้นเป็นเพียงแค่กลอุบาย ทุกคนเสียท่าต่อภาพมายาของจิ้งจอกสาวทั้ง 2

 

มันน่าเสียดายที่ยอดฝีมือระดับราชันถูกกักอยู่ภายนอกซีโน่เจเนอิคสเปชซิกซ์สตาร์ ถ้าพวกเขาได้มาเห็นกลลวงของจิ้งจอกสาวทั้ง 2 ด้วยตาตัวเอง พวกเขาก็จะรู้ว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้น

 

แต่ยอดฝีมือระดับราชันถูกบังคับให้มองดูจากระยะไกลออกไป ซึ่งพี่น้องจิ้งจอกก็คาดหวังให้เป็นแบบนั้นเช่นกัน เพราะการแสดงของพวกเธอจะหลอกได้แค่ดยุกและมาร์ควิสเท่านั้น

 

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าถึงเผ่าพันธุ์พวกนั้นอาจจะแกล้งทำเป็นว่าตัวเองแข็งแกร่งเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเรา แต่พวกเขาจะหมอบคลายราวกับหนอนเมื่ออยู่ต่อหน้าเวรี่ไฮ เพียงแค่เห็นเครื่องหมายของเวรี่ไฮก็ทำให้พวกเขากลัวจนตัวสั่นแล้ว” พี่สาวคนโต ไป๋หลินยิ้ม

 

น้องสาวคนเล็ก ไป๋ฟูพูด “โชคดีที่พวกเขาไม่อนุญาตให้พวกระดับราชันเข้าไปในซีโน่เจเนอิคสเปชซิกซ์สตาร์ ไม่อย่างนั้นล่ะก็พวกเราก็คงจะหลอกพวกเขาแบบนั้นไม่ได้”

 

“พวกเราจะเปลี่ยนร่างเป็นอิโปต่อและตรงไปที่ดาวอิโป หลังจากนั้นพวกเราจะไปเยี่ยมเผ่าดราก้อน จากนั้นก็…” เสียงของไป๋หลินตัดขาดไปและดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง มันมีหมัดตรงมาที่หาพวกเธอ มันพุ่งเข้ามาราวกับแสงเลเซอร์และทำลายยานอวกาศ

 

แสงสีเทาเข้าปกคลุมพี่น้องทั้ง 2 ขณะที่พวกเธอหนีออกจากยาน ผู้หญิงที่ดูภาคภูมิคนหนึ่งลอยตัวอยู่ในอวกาศใกล้ๆกับซากยานอวกาศที่พังทลาย และมองมาที่พวกเธอด้วยสายตาเย็นชา

 

เมื่อพี่น้องจิ้งจอกเห็นผู้หญิงคนนั้น พวกเธอก็ดูหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม อีกฝ่ายคือผู้หญิงที่พวกเธอเคยเห็นภายในร้านอาหารในเมืองสตีล

 

พวกเธอไม่ได้คาดคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะออกมาจากการปิดล้อมดวงดาวเพื่อไล่ล่าพวกเธอ

 

“มอบเดสทรอยเยอร์ไบเบิลให้กับข้า” ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างเรียบๆขณะที่จ้องไปที่พี่น้องจิ้งจอก

 

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร พวกเราจะมีเดสทรอยเยอร์ไบเบิลได้ยังไง?” ไป๋หลินหัวเราะ

 

สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เธอยังคงลอยตัวอยู่ที่เดิมและจ้องมาที่พวกเขา เธอพูดขึ้นอย่างช้าๆ “พวกเจ้าและดราก้อนซิกซ์แสดงได้ดี แต่ตอนนี้ข้าจับพวกเจ้าได้แล้ว และข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้านำไบเบิลเดสทรอยเยอร์ไปส่งให้กับดราก้อน ข้าจะให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับพวกเจ้าที่จะมอบมันมาให้กับข้า”

 

หลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ยกมือของเธอขึ้น และพลังมหาศาลเริ่มมารวมกันรอบๆ

 

“เจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าตัวคนเดียว มันไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเจ้าจะจับพวกเราทั้งคู่ได้” ไป๋หลินขมวดคิ้ว

 

“ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเจ้าไม่ลองทดสอบดูล่ะ?” ผู้หญิงคนนั้นชกหมัดของเธอเข้าไปใส่ไป๋หลิน

 

ไป๋หลินกับไป๋ฟูเคลื่อนไหวพร้อมๆกัน และร่างกายของพวกเธอก็ดูเหมือนจะหายไปในความมืดมิดของอวกาศ แต่ไม่นานพวกเธอก็รู้สึกตัวว่าถึงจะพยายามหลบหลีกมันสักแค่ไหน พวกเธอก็ไม่สามารถหนีจากหมัดนั้นได้

 

มันเหมือนกับว่าหมัดของผู้หญิงคนนั้นพุ่งมาจากทุกทิศทุกทางพร้อมๆกัน และบ่อยครั้งขณะที่พวกเธอกำลังจะรอดจากสถานการณ์อันตรายไปได้โดยการเปลี่ยนแปลงเผ่าพันธุ์เพื่อซ่อนตัว แต่วิชานั้นจะไม่ช่วยอะไรพวกเธอในสถานการณ์นี้ หมัดนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอจะหลบหลีกได้

 

ปัง!

 

ไป๋หลินและไป๋ฟูรวมพลังกันเพื่อต่อสู้กับหมัดที่กำลังเข้ามา แต่สุดท้ายพวกเธอก็ถูกชก พวกเธอกระเด็นไปในอวกาศโดยทิ้งรอยเลือดเอาไว้เป็นทางยาว พวกเธอชนเข้ากับหนึ่งในดาวเคราะห์น้อย และทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ

 

พรสวรรค์พิเศษทำให้พวกเธอรอดจากการโจมตีของเหล่าดยุกได้ แต่ตัวของพวกเธอเองไม่ใช่ดยุก พวกเธอมีพลังแค่ระดับมาร์ควิสเท่านั้น

 

ไป๋หลินกัดฟันพยุงตัวเองขึ้นมา อกของเธอเริ่มเปล่งประกายด้วยแสงสีดำ แสงสีดำไหลมารวมกันที่หมัดของเธอ และเธอพุ่งก็ไปข้างหน้าเพื่อชกใส่ผู้หญิงที่ลึกลับคนนั้น

 

ถ้าเดสทรอยเยอร์อยู่ที่นี่ พวกเขาจะระบุได้ว่าแสงสีดำเป็นพลังจากเดสทรอยเยอร์ไบเบิล แต่ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าไป๋หลินใช้พลังในการเปลี่ยนร่างของเธอเพื่อใช้พลังของเดสทรอยเยอร์ไบเบิลได้ยังไง

 

ปัง!

 

แต่ถึงอย่างนั้นไป๋หลินก็ถูกส่งกระเด็นออกไปอีกครั้ง เธอขดตัวด้วยความเจ็บปวดหลังจากที่ใช้เดสทรอยเยอร์ไบเบิล และใบหน้าของเธอก็ดูเต็มไปด้วยความตกใจ

“นี่มัน… นี่เจ้าเพิ่งจะใช้หมัดเอ็กซ์ตรีมคิงอย่างนั้นหรอ?”

 

ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าไม่ความจำเป็นต้องตอบ และเธอก็ยกหมัดของเธอขึ้นอีกครั้ง

 

ไป๋หลินกัดฟันของเธออีกครั้ง หลังจากนั้นเธอก็ไอบางอย่างออกมา เธอพ่นแสงสีดำออกมา ซึ่งมันพุ่งไปลอยอยู่ในอวกาศตรงหน้าศัตรูของเธอ

 

“นั่นเป็นของเจ้าแล้ว” ไป๋หลินพูด หลังจากนั้นเธอก็ลากไป๋ฟูออกไปจากบริเวณนั้น “ไปกันเถอะ”

 

ผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงขมวดคิ้วขณะที่มองทั้ง 2 คนบินจากไป พลังของพวกเธอถือว่าธรรมดาๆ แต่พวกเธอรวดเร็วอย่างมาก หลังจากนั้นผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงก็เคลื่อนที่เข้าไปตรวจสอบแสงสีดำนั้น

 

แสงสีดำตรงหน้าเธอจริงๆแล้วก็คือหนังสือหินสีดำ มันดูเก่าแก่และปกของมันก็ถูกประทับไปด้วยสัญลักษณ์รูปสามเปลี่ยม มันไม่ได้มีอะไรพิเศษอย่างอื่น มันทั้งดูหยาบและเสื่อมสภาพ มันดูเหมือนกับผลงานของเผ่าพันธุ์ยุคดึกดําบรรพ์

 

คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนังสือหินเก่านี้ จริงๆแล้วก็คือเดสทรอยเยอร์ไบเบิลที่มีชื่อเสียง

 

แต่ผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงรู้ว่าวัตถุนี้คืออะไร ถึงแม้เผ่าพันธุ์ของเธอจะเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล แต่ทรัพยากรของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังมีจำกัดอยู่ดี สมบัติระดับเทพเจ้าแบบเดสทรอยเยอร์ไบเบิลถือว่าเป็นอะไรที่หาได้ยาก

 

การเก็บเดสทรอยเยอร์ไบเบิลมาครอบครองถือเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของนาง หลังจากนั้นเธอค่อยตามไปปิดชีวิตของพี่น้องจิ้งจอกทีหลัง

 

เมื่อผู้หญิงคนนั้นกำลังจะสัมผัสกับเดสทรอยเยอร์ไบเบิล เธอก็หยุดชะงักไป เธอขมวดคิ้วและมองไปที่เดสทรอยเยอร์ไบเบิล ซึ่งมันไม่ได้ลอยอยู่ในอวกาศอย่างที่เธอคิดเอาไว้

 

“เผยตัวออกมา!” ผู้หญิงคนนั้นพูดขณะที่จ้องไปที่เดสทรอยเยอร์ไบเบิล

 

หลังจากนั้นเงาของคนๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นข้างๆเดสทรอยเยอร์ไบเบิล มือที่สวมชุดเกราะสีทองยื่นออกไปคว้าหนังสือหินสีดำมาไว้ในกำมือ