Super God Gene 2159-2162
ตอนที่ 2159
หานเซิ่นฟันใส่ราชาแมลงปีศาจที่อยู่ในสภาพปางตาย ด้วยการฟันของหานเซิ่น ราชาแมลงปีศาจก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา แต่มันยังไม่ตาย
หานเซิ่นใช้พลังมากขึ้นอีกและฟันใส่ราชาแมลงปีศาจซ้ำๆ หลังจากที่เขาฟันเจ้าแมลงไป 14 ครั้ง ในที่สุดเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมา
“ซีโน่เจเนอิคราชาแมลงปีศาจสีทองระดับราชันกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
หานเซิ่นผิดหวังกับผลลัพธ์ เนื่องจากราชาแมลงปีศาจกลายพันธุ์ตัวนี้ไม่ได้มอบวิญญาณอสูรให้กับเขา
‘ช่างเถอะ ยังไงมันก็มีอีก 23 ตัวให้เราได้ฆ่า’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองขณะที่หันกลับไปหาอสูรโลหะสีขาว
อสูรโลหะสีขาวกลืนร่างของราชาแมลงปีศาจเข้าไป จากนั้นมันก็พ่นคริสตัลของแมลงราชันปีศาจกลายพันธุ์ออกมา คริสตัลนั้นสวยงามยิ่งกว่าคริสตัลของระดับราชันทั่วๆไปเสียอีก
อสูรโลหะสีขาวดันคริสตัลระดับราชันกลายพันธุ์และระดับราชันให้กับตัวกินโลหะ ดูเหมือนว่าอสูรโลหะสีขาวตั้งใจจะมอบพวกมันให้กับตัวกินโลหะ
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่เคยเจอใครที่มีจิตใจกว้างขวางพอจะมอบของขวัญที่ล้ำค่าแบบนั้นให้กับเขามาก่อน แต่ตัวกินโลหะดูเหมือนจะกินคริสตัลแมลงระดับราชันเหล่านั้นไม่ได้ มันพยายามจะกัดลงไปที่ผิวของคริสตัล แต่ไม่ว่ามันจะพยายามสักแค่ไหน พวกมันก็ไม่แตกร้าว
“ถ้าในตอนนี้เขายังกินพวกมันไม่ได้ ทำไมไม่ให้ฉันเก็บพวกมันเอาไว้ก่อนล่ะ?” หานเซิ่นถามด้วยรอยยิ้ม
แต่อสูรโลหะสีขาวเมินเฉยต่อเขา มันเพียงแค่เอาคริสตัลแมลงทั้งหมดไปเก็บไว้ มันไม่มีแผนจะให้หานเซิ่นได้พวกมันไป
หานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากส่ายหัวด้วยความผิดหวัง หลังจากนั้นอสูรโลหะสีขาวก็เดินเข้าไปหาลูกบาศก์สีทองอีกลูกและส่งเสียงร้องใส่หานเซิ่น ราวกับจะบอกให้เขารีบเปิดพวกมันอีกลูก
หานเซิ่นต้องการจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงวิ่งเข้าไปที่ลูกบาศก์สีทองอีกลูกพร้อมกับเรียกวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงออกมา หลังจากนั้นเขาก็ปลดล็อครหัสผ่านของลูกบาศก์อีกลูกและเปิดมันออก
ฝูงแมลงสีม่วงบินออกมาจากลูกบาศก์อีกครั้ง และเหมือนกับก่อนหน้านี้อสูรโลหะสีขาวกลืนกินพวกมันทั้งหมดเข้าไปในคำเดียว แต่ครั้งนี้มันไม่ได้พ่นคริสตัลออกมา แต่หลังจากผ่านไปสักพักมันก็พ่นราชาแมลงออกมา และเหมือนกับก่อนหน้านี้แมลงตัวนั้นอยู่ในสภาพปางตาย
หานเซิ่นฟันใส่มัน มันเป็นการฟันที่รู้สึกสะใจกว่ากว่าปกติ การฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับราชัน ไม่ใช่สิ่งที่มาร์ควิสจะทำได้สำเร็จ นอกจากนั้นนี้ก็ไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคระดับราชันทั่วๆไปเท่านั้น มันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับราชันกลายพันธุ์
ตอนนี้หานเซิ่นยังอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับซีโน่เจเนอิคระดับราชัน และถึงแม้พวกมันจะอยู่ในสภาพปางตาย แต่มีดเขี้ยวผีสิงของเขาก็จำเป็นต้องฟันหลายต่อหลายครั้งกว่าจะฆ่ามันได้
“ซีโน่เจเนอิคราชาแมลงปีศาจสีทองระดับราชันกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
หานเซิ่นถอนหายใจ ครั้งนี้เขาก็ไม่ได้รับวิญญาณอสูรเช่นกัน เขาจำเป็นต้องเปิดลูกบาศก์ต่อไปเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ
ลูกบาศก์แต่ละลูกถูกเปิดออกตามๆกันไป และหลังจากที่ราชาแมลงปีศาจสีทองตัวที่ 7 ถูกสังหาร หานเซิ่นก็ได้ยินเสียงประกาศแจ้งว่าเขาได้รับวิญญาณอสูร
“ซีโน่เจเนอิคราชาแมลงปีศาจสีทองระดับราชันกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจกลายพันธุ์”
ด้วยความตื่นเต้น หานเซิ่นรีบตรวจเช็ควิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจกลายพันธุ์ที่เพิ่งจะได้มาทันที
“วิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจกลายพันธุ์ : ใบเสมา”
เมื่อได้เห็นมัน หานเซิ่นก็หัวเราะออกมา “ฮ่า! ฮ่า! ฉันได้รับอะไรก็ตามที่ต้องการจริงๆ! ความโชคดีของฉันกลับมาแล้ว”
ตอนนี้หานเซิ่นรอไม่ไหวที่จะเปิดลูกบาศก์ที่เหลืออยู่ อสูรโลหะสีขาวก็กำลังมีความสุขเช่นเดียวกัน มันตามหานเซิ่นไปและกินแมลงที่ออกมาอย่างร่าเริง
ราชาแมลงปีศาจกลายพันธุ์สีทองตัวต่อๆไปไม่ได้มอบวิญญาณอสูรให้กับเขา แต่ในขณะที่หานเซิ่นเริ่มคิดว่าอาจจะไม่ได้วิญญาณอสูรอีกแล้ว ราชาแมลงปีศาจกลายพันธุ์สีทองตัวสุดท้ายก็มอบมันให้กับเขา
หานเซิ่นยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็ไปเปิดลูกบาศก์สีเขียวต่อ
“ซีโน่เจเนอิคราชาแมลงปีศาจสีเขียวระดับราชันกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจกลายพันธุ์สีเขียว”
“เทพีแห่งโชคจะต้องหลงรักเราใช่ไหม?” หานเซิ่นปลาบปลื้ม เขาได้รับวิญญาณอสูรจากราชาแมลงปีศาจสีเขียวตัวแรกเลย นั่นทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาก
เมื่อเห็นว่าวิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจสีเขียวเป็นใบเสมาเหมือนกัน หานเซิ่นก็ดีใจอย่างมาก
แต่หลังจากนั้นบางสิ่งก็เปลี่ยนไป หานเซิ่นเปิดลูกบาศก์สีเขียวที่เหลืออยู่ให้กับอสูรโลหะสีขาว แต่เขาไม่ได้รับวิญญาณอสูรอีก ทุกครั้งที่เขาเชื่อว่าตัวเองจะได้รับวิญญาณอสูร เขาก็มักจะไม่ได้รับอะไร
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ดีใจที่ได้รับวิญญาณอสูรระดับราชันกลายพันธุ์ถึง 3 ดวง นั่นถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าแล้ว
อสูรโลหะสีขาวกลืนกินแมลงปีศาจทุกตัวเข้าไป แต่มันสามารถพ่นคริสตัลแมลงระดับราชันออกมาให้กับตัวกินโลหะได้ทุกเมื่อ แต่เนื่องจากตัวกินโลหะยังไม่สามารถกินพวกมันได้ ดังนั้นตอนนี้พวกมันจึงเป็นเหมือนของเล่นสำหรับตัวกินโลหะ
หานเซิ่นสรุปได้ว่าอสูรโลหะสีขาวสามารถเชื่อมต่อกับอีกมิติหนึ่งเพื่อเก็บคริสตัลแมลงทั้งหมดเอาไว้ได้
แต่ทว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับหานเซิ่น การได้รับวิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจถึง 3 ดวง ทำให้มีความสุขมากพอแล้ว
“มาดูสิว่าใบเสมาสีทองและสีเขียวจะแข็งแกร่งเหมือนกับใบเสมาสีฟ้าหรือเปล่า” หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจสีทองออกมา
หานเซิ่นเห็นแสงสีทองปรากฏขึ้นรอบตัวของเขา นอกจากสีที่แตกต่างกันแล้ว มันดูจะไม่มีความแตกต่างอะไรอย่างอื่น
หลังจากที่ตรวจเช็คใบเสมาสีเขียว เขาก็สังเกตได้ว่ามันเหมือนกัน ถึงแม้สีของพวกมันจะแตกต่างกันออกไป แต่พลังป้องกันของพวกมันเหมือนกับเป๊ะๆ
‘เราจะใช้ใบเสมาทั้งหมดนี้ร่วมกันได้ไหมนะ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เรียกใบเสมาราชาแมลงปีศาจทั้งหมดออกมา
เขาเรียกใบเสมาราชาแมลงปีศาจทุกอันพร้อมๆกัน แต่มีหนึ่งอันที่ไม่ทำงาน
ใบเสมาทั้ง 3 ที่หานเซิ่นเรียกออกมาคือใบเสมาสีฟ้า สีทองและสีเขียวอย่างละอัน อันที่เขาไม่สามารถเรียกออกมาได้ก็คือใบเสมาสีทองอันที่ 2
“เรียกวิญญาณใบเสมาสีเดียวกันออกมาไม่ได้ แต่สีที่แตกต่างกันใช้ร่วมกันได้”
หานเซิ่นประหลาดใจ เขาพบว่าใบเสมาราชาแมลงปีศาจ 3 สีร่วมกันนั้นแข็งแกร่งกว่าใบเสมาสีใดสีหนึ่งมาก
“วิญญาณอสูรใบเสมานี้รวมเข้าด้วยกันได้ แต่มันมีแมลงปีศาจกี่สีกันที่เบรกสกายสร้างขึ้นมา? ถ้ามันมีสีมากกว่านี้ บางทีเราอาจจะใช้พวกมันทั้งหมดร่วมกันได้ ซึ่งมันอาจจะทำให้เรามีพลังป้องกันระดับเทพเจ้าเลย”
แต่หานเซิ่นรู้ว่าโอกาสในเรื่องนั้นเป็นอะไรที่ต่ำ ถึงแม้มันจะมีสีอื่นอยู่ เขาก็อาจจะไม่โชคดีพอจะได้รับวิญญาณอสูรของพวกมัน
“ใบเสมาราชาแมลงปีศาจ 3 สีแข็งแกร่งมากพอแล้วสำหรับตอนนี้ มันเพียงพอที่จะต้านทานยอดฝีมือดับครึ่งเทพคนไหนๆ” หานเซิ่นรู้สึกมีความสุข
ตอนที่ 2160
ทุกเผ่าพันธุ์ที่ส่งทีมเข้าไปสำรวจเมทัลเวิลด์เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา ยอดฝีมือของพวกเขาได้มารออยู่ด้านนอกของดวงดาว แต่หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน มันก็ยังไม่มีมาร์ควิสคนไหนกลับออกมาเลยสักคน พวกเขาได้ส่งมาร์ควิสเข้าไปเพิ่มอีกเพื่อหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่พวกเขาก็ไม่กลับออกมาเช่นเดียวกัน
ทีมมาร์ควิสกลุ่มแรกที่พวกเขาส่งเข้าไปเพื่อสำรวจเมทัลเวิลด์สามารถกลับออกมาได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้มันกลับไม่มีมาร์ควิสคนไหนกลับออกมาได้เลย นั่นทำให้พวกเขาสับสนอย่างมาก
ถึงแม้มาร์ควิสหนึ่งร้อยคนจะไม่ใช่การสูญเสียที่ใหญ่หลวงอะไรสำหรับเผ่าพันธุ์ชั้นสูง แต่พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนกันอยู่ ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงส่งมาร์ควิสที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองเข้าไป นั่นทำให้ความสูญเสียจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเผ่าพันธุ์
อสูรโลหะสีขาวบอกหานเซิ่นถึงวิธีที่จะออกไปจากเมทัลเวิลด์ พายุแม่เหล็กที่ปกคลุมเมทัลเวิลด์จะสับเปลี่ยนสีฟ้าและสีแดง ซึ่งเวลาส่วนใหญ่จะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ แต่ทว่าทุกการสับเปลี่ยนสิบครั้ง มันจะมีช่องว่างที่พายุแม่เหล็กหยุดไปชั่วครู่ มันเป็นเวลาเดียวที่จะหนีออกไปจากดาวดวงนี้ได้
ในตอนที่เดม่อนและบุดด้าส่งคนเข้ามาในตอนแรก มันเป็นช่วงที่พายุแม่เหล็กนั้นหยุดไปพอดี นั่นเป็นเหตุผลที่ทำมให้พวกเขากลับออกไปได้
แต่ตอนนี้พวกเขาจำเป็นต้องรอจนกว่าพายุแม่เหล็กสีแดงและสีฟ้าผ่านไป ซึ่งมันต้องใช้เวลาอีกประมานหนึ่งเดือนครึ่ง มันยังคงมีเวลาก่อนที่พวกเขาจะออกไปจากที่นี่ได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้เร่งรีบอะไร
หานเซิ่นกำลังเพลิดเพลินกับผลประโยชน์จากการเป็นเพื่อนกับตัวกินโลหะ เขาสามารถดื่มเมทัลซีโน่เจเนอิคฟลูอิดเข้าไปทุกๆวัน นั่นทำให้เขายังไม่อยากเดินทางออกจากถ้ำ เขาต้องการดื่มมันเข้าไปให้ได้มากที่สุดเพื่อเพิ่มระดับวิชาเรื่องราวของยีน
หานเซิ่นได้ออกไปค้นหาอวี้เอียะและคนอื่นๆ พวกเขากำลังอาศัยอยู่กับดราก้อน บุดด้าและเดม่อนที่เหลือรอด พวกเขาเอาชีวิตรอดภายในถ้ำ ด้วยเหตุนั้นตอนนี้พวกเขาจึงไม่ได้อยู่ในอันตรายใดๆ แต่เสบียงของเขาก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ พวกเขาได้พยายามค้นหาหนทางออกอย่างเต็มที่ แต่น่าเสียดายที่พวกเขายังไม่พบหนทาง
หานเซิ่นยังไม่คิดจะไปพบกับพวกเขาในตอนนี้ เขาเลือกที่จะอาศัยอยู่กับอสูรโลหะสีขาวและดื่มเมทัลซีโน่เจเนอิคฟลูอิดต่อไป ขณะที่เขากำลังรอคอยการสับเปลี่ยนของพายุแม่เหล็ก เขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกวิชาเรื่องราวของยีน
ด้วยเหตุผลบางอย่างอสูรโลหะสีขาวไม่คิดจะออกไปจากเมืองแห่งนี้ หานเซิ่นไม่สามารถล่อหรือพาตัวของมันออกไปจากที่นี่ได้เช่นกัน
หานเซิ่นดูดซับเมทัลซีโน่เจเนอิคฟลูอิดเข้าไปเรื่อยๆ และหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน ในที่สุดเรื่องราวของยีนก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
มันกำลังจะพัฒนาสู่ระดับมาร์ควิส
“ในที่สุดมันก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!” หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้น เขาได้ใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อเพิ่มระดับของมัน และเขาก็สงสัยอยู่เสมอว่าพลังใหม่ของมันหลังจากที่พัฒนาสู่ระดับมาร์ควิสจะเป็นอะไรกันแน่
“มันจะพัฒนารูปร่างใหม่ขึ้นมาไหมนะ แน่นอนว่าถ้าพลังของมันไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างสมน้ำสมเนื้อ วิชาจีโนนี้ก็ไม่สมดุลเท่าไหร่ ทรัพยากรที่ถูกใช้ไปจนถึงตอนนี้ก็จะเป็นอะไรที่เสียเปล่า”
ชุดเกราะมนตราเริ่มส่องสว่างด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้ชุดเกราะมนตรานั้นส่องสว่างราวกับดวงอาทิตย์
ตูม!
ร่างกายของหานเซิ่นสั่นไหว หลังจากนั้นชุดเกราะก็หายไป มันเปลี่ยนไปอยู่ในร่างของหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น
หญิงสาวถูกห่อหุ้มด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่เส้นผมของเธอโบกสะบัดราวกับลำแสงของพระอาทิตย์ ปืนคู่ที่เธอถืออยู่ก็กำลังสว่างไสวเช่นกัน พวกมันสว่างซะจนหานเซิ่นไม่สามารถมองตรงๆได้
หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่ามีน้ำตกที่ไหลเชี่ยวกำลังพุ่งเข้ามาในร่างกาย ร่างกายของเขาเชื่อมต่อกับพลังงานของมนตราและเริ่มแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ตูม!
ในที่สุดแสงของมนตราก็ระเบิดราวกับภูเขาไฟ แสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ร่างกายของมนตราลอยอยู่ท่ามกลางแสงศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นไป และสัญญาประหลาดก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเธอ
หานเซิ่นไม่รู้ว่ามนตรากำลังประสบกับความเปลี่ยนแปลงแบบไหนกันแน่ เธอกำลังเรืองแสง แต่ไม่ได้สว่างไสวอะไรมาก เธออยู่ภายในลำแสงนั้นขณะที่เงาร่างของเธอมองเห็นได้อย่างชัดเจน
แสงศักดิ์สิทธิ์อัดแน่นไปที่หน้าผากและรวบรวมพลังของเธอ แสงสว่างทั้งหมดส่องลงมายังหน้าผากของเธอ ขณะที่มนตรายังคงดูเหมือนกับปกติ
“ร่างกายต่อสู้มนตราพัฒนาสู่ระดับมาร์ควิส”
หานเซิ่นได้ยินเสียงประกาศในหัว ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
ตอนนี้ร่างกายของเขาไร้เทียมทานในหมู่มาร์ควิสทั้งหมด แม้แต่ร่างกายของดราก้อนก็ไม่สามารถเทียบชั้นกับร่างกายของหานเซิ่นในตอนนี้ได้
สิ่งที่หานเซิ่นสับสนก็คือมนตราไม่ได้รับร่างใหม่หลังจากที่พัฒนาสู่ระดับมาร์ควิส หน้าผากของเธอถูกประทับด้วยสัญลักษณ์ประหลาด แต่เขาไม่รู่ว่าสัญลักษณ์นั้นหมายความว่าอะไรกันแน่
ตอนนี้สีหน้าของอวี้เอียะ ข่านและคนอื่นดูไม่สู้ดีนัก พวกเขาหาหนทางที่จะออกจากเมทัลเวิลด์มาโดยตลอด แต่ความพยายามทั้งหมดของพวกเขาล้มเหลว แถมเสบียงของพวกเขาก็ใกล้จะหมดเต็มที โดยปกติแล้วมันเป็นอะไรที่ปลอดภัยถ้าพวกเขาออกไปจากถ้ำในระหว่างพายุแม่เหล็กเป็นสีฟ้า แต่ครั้งนี้พวกเขาเจอเข้ากับแมลงปอโลหะ พวกเขาฆ่าพวกแมลงปอไป แต่พวกมันก็มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและไล่ตามไปที่ค่ายของพวกเขา
พวกเขาพึ่งพาทางเข้าถ้ำในการต่อสู้กับศัตรู ซึ่งในตอนแรกมันก็ได้ผลอยู่ แต่เมื่อมันมีระดับดยุกโผล่มา พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานศัตรูได้อีกต่อไป
“นี่มันแย่แล้ว! พวกเขาควรจะทอดทิ้งที่นี่ไปไหม?”
แมลงปอตัวหนึ่งกัดแขนของบุดด้าจนขาด เลือดพุ่งออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้อง
“เสบียงทั้งหมดของพวกเราอยู่ที่นี่ ถ้าพวกเราสูญเสียพวกมันไป พวกเราก็ไม่รอดอยู่ดี แถมมันมีซีโน่เจเนอิคอยู่จำนวนมากเกินไปที่จะเสี่ยงแยกกันหนี นั่นจะทำให้พวกเราทั้งหมดถูกฆ่า” ยวิ๋นอี้พูด
“แต่ถ้าพวกเราไม่หนีไปตอนนี้ พวกเราก็จะถูกฆ่าตายอยู่ที่นี่!”
มาร์ควิสของบุดด้าตะโกนกลับมา “แต่มันมีซีโน่เจเนอิคระดับดยุกอยู่ในหมู่พวกมันด้วย พวกเราต้านพวกมันเอาไว้ตลอดไม่ได้”
ดราก้อนเอทและอวี้เอียะยังคงเงียบสนิทขณะที่คนอื่นถกเถียงกัน พวกเขาทั้งคู่รู้ว่าไม่สามารถถอยกลับได้อีกแล้ว ถ้าพวกเขาไม่สามารถออกไปจากเมทัลเวิลด์ได้ พวกเขาทุกคนก็จะต้องตาย
พวกเขาพยายามฆ่าแมลงปอเท่าที่ทำได้แล้ว แต่มาร์ควิสบางคนเลือกที่จะบินหนีออกไปจากถ้ำ พวกเขาต้องการลองเสี่ยงดวงของตัวเองภายนอกถ้ำ
แต่เมื่อเหล่าแมลงปอสังเกตเห็นคนที่พยายามจะหนีไป พวกมันก็บินเข้ามาล้อมพวกเขาเอาไว้ มันไม่มีที่ไหนให้พวกเขาหนีไป พวกเขาต้องต่อสู้จนกระทั่งความเหนื่อยล้าเข้าครอบงำ และเมื่อถึงตอนนั้นร่างกายของพวกเขาก็จะถูกแมลงปอกัดกิน
ดราก้อนเอทคำรามขึ้นมา และดราก้อนคนอื่นที่เหลือก็ตามเขาออกมาจากค่าย แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่รอคอยอยู่ด้านนอก เขาก็รู้สึกสิ้นหวัง แม้แต่ร่างกายมังกรทองของเขาก็ไม่สามารถทำการต่อสู้ได้ตลอดการ
อวี้เอียะนำศิษย์ของปราสาทนภาออกไปเช่นเดียวกัน แต่ฝูงแมลงปอเข้ามาล้อมพวกเขาเอาไว้ มันไม่ที่ไหนให้พวกเขาหนีไปได้
ขณะที่ความสิ้นหวังเข้าครอบงำหัวใจของพวกเขา ก็มีบางสิ่งปรากฏขึ้นภายในฝูงของซีโน่เจเนอิค
ตอนที่ 2161
ตูม!
ขณะที่อวี้เอียะและคนอื่นกำลังต่อสู้อย่างหนัก พวกเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากระยะไกล มันมีแสงสว่างระเบิดขึ้นในหมู่ซีโน่เจเนอิคทั้งหมด
ฝูงของซีโน่เจเนอิคเริ่มปั่นป่วนราวกับว่าพวกมันกำลังกังวลต่ออะไรบางอย่าง
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
เกิดระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางฝูงของซีโน่เจเนอิค แมลงปอจำนวนมากถูกทำลายล้างในชั่วพริบตา มีเงาสีแดงปรากฏตัวออกมาจากฝุ่นควัน มันดูเหมือนกับคนๆหนึ่งที่กำลังถือปืนอาร์พีจีอยู่ เขายิงจรวดออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆนั้นถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ
เกิดระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสร้างควันรูปเห็ดขึ้นมา พื้นโลหะและแมลงปอถูกทำลายล้างอย่างเท่าเทียมกัน ขณะที่ร่างกายและเศษโลหะกระจัดกระจายไปทั่วดินแดน
เงาสีแดงเป็นเหมือนกับเครื่องจักรสังหาร มันเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็วคงที่ ขณะที่ยิงจรวดออกไปทำลายล้างทุกอย่างให้กลายเป็นผุยผง
บนไหล่ของเงาสีแดงมีเด็กผู้หญิงที่ดูอายุประมาท 6 ขวบนั่งอยู่ เธอมองไปรอบๆด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น
“หานเซิ่น!” เมื่อได้เห็นร่างกายนั้นอย่างชัดเจน อวี้เอียะและศิษย์ของปราสาทนภาก็อุทานด้วยความดีใจ
พวกเขาคิดว่าหานเซิ่นถูกอสูรโลหะสีขาวฆ่าไปแล้ว แต่แทนที่จะถูกฆ่าเขากลับปรากฏตัวขึ้นมาในตอนที่ทุกคนต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด
เมื่อเห็นว่าจรวดของหานเซิ่นสามารถระเบิดซีโน่เจเนอิคทั้งระดับมาร์ควิสและระดับดยุก มันเห็นได้ชัดว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่หายตัวไป ในสายตาของทุกคนมันดูเหมือนกับว่าเขาเพิ่งวิวัฒนาการสู่ระดับมาร์ควิสได้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นมันไม่มีทางที่เขาจะทำความเสียหายต่อซีโน่เจเนอิคพวกนั้นได้
หานเซิ่นมีแผนที่จะเข้าร่วมกับทีมของปราสาทนภาในตอนที่พายุแม่เหล็กหยุดไปแล้ว เพราะเขาต้องการอยู่ภายในถ้ำต่อเพื่อดื่มเมทัลซีโนเจเนอิคฟลูอิดให้มากที่สุด แต่เมื่อศิษย์ของปราสาทนภาตกอยู่ในอันตราย เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกมาจากเมืองไจแอนท์เมทัลก็อต
“นี่เขาเพิ่งจะกลายเป็นมาร์ควิสจริงๆอย่างนั้นหรอ?” เมื่อดราก้อนไนน์เห็นพลังทำลายล้างของหานเซิ่น เขาก็อึ้งไป เขาไม่อยากจะเชื่อว่ามาร์ควิสคนหนึ่งจะมีพลังมากถึงขนาดนั้น
ดราก้อนเอทก็เองตกใจเช่นกัน แม้แต่เขาก็ไม่กล้าจะรับจรวดพวกนั้นถึงร่างกายมังกรทองของเขาจะทำงานอยู่ก็ตาม มันยากจะเชื่อได้ว่ามาร์ควิสคนหนึ่งจะมีพลังถึงขนาดนั้น นอกจากนั้นแล้วมันยังเป็นการโจมตีระยะไกลที่สร้างความเสียหายในวงกว้างอีกด้วย
เมื่อเห็นซีโน่เจเนอิคระดับดยุกที่ถูกหานเซิ่นยิงร่วงลงมาจากท้องฟ้า สีหน้าของข่านก็ดูซีดเผือก “เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอะไรขนาดนี้ แถมมันยังมาจากคนที่เพิ่งจะกลายเป็นมาร์ควิสอีกด้วย ถ้าเขากลายเป็นมาร์ควิสเร็วกว่านี้ บางทีเขาอาจจะต่อกรกับดอลลาร์และไผ่เดียวดายได้”
“วิชาจีโนของเขาคืออะไรกันแน่? อะไรกันที่ทำให้เขาทรงพลังขนาดนั้น? ทั่วทั้งจักรวาลนี้ ข้ากลัวว่าหานเซิ่นจะมีวิชาจีโนที่สุดยอดที่สุด แม้แต่ดอลลาร์หรือไผ่เดียวดายก็ต่อสู้กับเขาไม่ได้” บุดด้ามาร์ควิสพูดอย่างตกตะลึง
ทุกคนที่ฟังอยู่ก็เห็นด้วยกับสิ่งที่บุดด้ามาร์ควิสคนนั้นพูด พลังนั้นเป็นบางสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นจากมาร์ควิสคนหนึ่งมาก่อน ถึงแม้ดราก้อนเอทจะใช้พลังเต็มที่ของเขาก็ไม่สามารถเทียบกับพลังของจรวดเพียงแค่ลูกเดียวได้
แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือการโจมตีนั้นสร้างความเสียหายในวงกว้าง มันทรงพลังจนยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนั้นมาจากมาร์ควิสคนหนึ่ง
ภายใต้การโจมตีของหานเซิ่น ซีโน่เจเนอิคที่ไร้ความกลัวเริ่มตัวสั่น หานเซิ่นเป็นเหมือนกับปืนใหญ่เดินได้ แม้แต่ซีโน่เจเนอิคระดับดยุกก็ยังถูกระเบิดเป็นชิ้นๆอย่างง่ายดายโดยจรวดพวกนั้น
ตูม! ตูม!
แรงระเบิดดังขึ้นจากทุกหนทุกแห่ง พื้นผิวของดวงดาวสั่นสะเทือนไม่หยุดราวกับว่ากำลังเกิดแผ่นดินไหว
ถ้ามันมีสิ่งที่จรวดหนึ่งลูกไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เขาก็แค่ต้องยิงอีกลูกหนึ่ง หานเซิ่นยิงจรวดออกไปราวกับว่ามันเป็นปืนกล
ตูม!
“มาร์ควิสซีโน่เจเนอิคถูกฆ่า”
เสียงประกาศดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนหานเซิ่นฟังไม่ออกว่ามันบอกอะไรบ้าง
นี่ไม่ใช่แค่พลังที่เขาได้รับจากการที่มนตรากลายเป็นระดับมาร์ควิสเท่านั้น นี่เป็นพลังที่หานเซิ่นรวมเข้ากับวิชาเบรกซิกซ์สกายที่เขาเพิ่งจะเรียนรู้
หลังจากที่มนตรากลายเป็นมาร์ควิสเรียบร้อยแล้ว หานเซิ่นไม่มีอะไรทำ ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาว่างไปกับการฝึกวิชาเบรกซิกซ์สกาย ศาสตร์ตงเสวียนและวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงนั้นทำให้เขาเรียนรู้วิชาเบรกซิกซ์สกายได้ง่ายขึ้นมาก
หานเซิ่นประยุกต์มันเข้าพลังของตัวเอง เพราะแม้แต่เขาก็ไม่สามารถทนรับพลังของเบรกซิกซ์สกายในระยะใกล้ได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงรวมมันเข้ากับการโจมตีระยะไกลของมนตรา
ด้วยเหตุนั้นมันจึงเป็นอะไรที่เข้าคู่กันอย่างสมบูรณ์แบบ จรวดและกระสุนที่เขายิงออกไปมีพลังของวิชาเบรกซิกซ์สกายอยู่ ถึงแม้หานเซิ่นจะเรียนรู้มันได้เพียงแค่ขั้นเดียว จรวดของเขาก็ทรงพลังขึ้นอย่างมาก ถึงขนาดที่แม้แต่ระดับดยุกก็ไม่สามารถทนต่อมันได้ พลังของจรวดทำลายล้างทั้งกองทัพซีโน่เจเนอิคในชั่วพริบตา
ดราก้อนเอทและอวี้เอียะต่างก็ถอยออกไป พวกเขาไม่ต้องการไปขวางทางหานเซิ่น
ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวหานเซิ่นระเบิดขึ้นมา ตอนนี้ซีโน่เจเนอิคที่ยังเหลือรอดอยู่เริ่มบินหนีไป ทั้งดินแดนแห่งนี้กลายเป็นเหมือนกับสุสานท่ามกลางขุมนรก
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เดินเข้าไปหาเหล่ามาร์ควิสอย่างสบายใจ ขณะที่มีเด็กสาวตัวน้อยนั่งอยู่บนไหล่ ดราก้อนเอทและคนอื่นๆรู้สึกหนาวขึ้นมา พวกเขาก้าวถอยไปด้านหลังอย่างช่วยไม่ได้
“อวี้เอียะ พวกเจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หานเซิ่นถาม
“พวก…เรา…ไม่เป็นไร” อวี้เอียะนั้นตกใจเกินกว่าที่จะตอบหานเซิ่นได้อย่างปกติ สมองของเขาหยุดทำงานไปชั่วครู่ แต่มันก็ค่อยเริ่มกลับมาทำงานเป็นปกติอีกครั้งหลังจากที่เขาถูกถาม
“อาจารย์หาน วิชาของอาจารย์เจ๋งสุดๆไปเลย!” ไวท์เรียลพูด
“นั่นมันสุดยอดที่สุด!”
“วิชานี้มันไร้เทียมทาน!”
“เขาระเบิดดยุกเป็นชิ้นๆอย่างง่ายดาย นี่มันบ้ามากๆ”
“ถ้าอาจารย์หานเป็นมาร์ควิสเร็วกว่านี้ ดอลลาร์ก็คงจะไม่ได้ขึ้นเป็นมาร์ควิสอันดับที่หนึ่งอย่างแน่นอน”
หลังจากที่ได้เห็นพลังของหานเซิ่นแล้ว พวกเขาก็รู้สึกเลื่อมใสเกินกว่าที่จะพูดกับหานเซิ่นเหมือนอยู่ในระดับเดียวกัน
ตอนที่ 2162
ผู้อาวุโสของปราสาทนภา ดราก้อน เดสทรอยเยอร์ บุดด้าและเดม่อนยังคงรออยู่ด้านนอกเมทัลเวิลด์ ตอนนี้มันผ่านมา 2 เดือนแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่เห็นพวกมาร์ควิสกลับออกมาเลยสักคนเดียว แต่ละวันผ่านไปโดยไม่มีวี่แววว่าคนของพวกเขาจะกลับออกมา ทำให้อารมณ์ของพวกเขาแย่ลงเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มยอมรับความจริงที่ว่าคนของพวกเขาอาจจะไม่กลับออกมาอีก
“บางสิ่งกำลังออกมาจากเมทัลเวิลด์” ดราก้อนคนหนึ่งพูดขึ้นมา
ขณะที่เขาพูดขึ้นมา ทุกคนก็หันไปมองทางดวงดาว ผู้อาวุโสที่รอคอยอยู่ด้านนอกดวงดาวเริ่มขยับเข้ามาใกล้ขึ้น ขณะที่จับจ้องไปทางพายุแม่เหล็กที่ปกคลุมพื้นผิวของเมทัลเวิลด์อยู่
มันมีใครบางคนออกมาจากก้อนเมฆ หลังจากนั้นคนต่อๆไปก็ตามกันออกมา พวกเขาทุกคนเป็นคนที่คุ้นเคย
“ดราก้อนเอท! มันคือดราก้อนเอท!” ดราก้อนราชันคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา
ผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์อื่นก็มีปฏิกิริยาที่เหมือนๆกัน เมื่อเห็นคนของพวกเขาออกมาจากพายุแม่เหล็ก
เมื่อคนสุดท้ายออกมาจากหมู่เมฆ ผู้อาวุโสของปราสาทนภาก็ดูดีใจอย่างมาก นั่นเป็นเพราะว่าทีมของปราสาทนภาออกมามากกว่าทีมของเผ่าพันธุ์อื่นรวมกันซะอีก ทีมของปราสาทนภารอดกลับออกมาได้ทั้งหมด ซึ่งต่างไปจากทีมของเผ่าพันธุ์อื่นที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ แม้แต่คนที่รอดชีวิตกลับออกมาได้ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
หานเซิ่นกับอวี้เอียะไปรายงานผู้อาวุโสของปราสาทนภาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเมทัลเวิลด์ เหล่าผู้อาวุโสดีใจที่เห็นว่ามาร์ควิสทั้งหนึ่งร้อยคนรอดชีวิตกลับมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บหนักหนาอะไร
“ดี พวกเจ้าทำได้ดีมากๆ มันไม่มีความจำเป็นอะไรที่พวกเจ้าต้องพูดมากกว่านั้น พวกเจ้าควรกลับไปที่บ้านและพักผ่อนให้หายเหนื่อยซะก่อน”
“ทราบแล้ว” หานเซิ่น อวี้เอียะและคนอื่นๆเตรียมเดินทางกลับพร้อมกับเหล่าผู้อาวุโส
แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าตัวเองถูกล้อมทุกด้านโดยพวกดราก้อน เดสทรอยเยอร์ บุดด้าและเดม่อน มันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีเจตนาจะปล่อยให้กลุ่มของปราสาทนภากลับไปง่ายๆ
“นี่มันหมายความว่ายังไง?” ผู้อาวุโสกรีนเครนมองพวกเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม สมาชิกของปราสาทนภาต่างก็ตั้งท่าเตรียมต่อสู้
ราชาคนหนึ่งของเดสทรอยเยอร์พูดด้วยความโกรธ ขณะที่มองหานเซิ่นและคนอื่น “ทุกเผ่าพันธุ์ที่เข้าไปในเมทัลเวิลด์ต่างก็มีผู้เสียชีวิต แต่พวกเจ้ากลับไม่สูญเสียใครเลย เจ้าใช้กลลวงอะไรมาทำร้ายมาร์ควิสของพวกเรา?”
มันเข้าใจได้ว่าทำไมพวกเดสทรอยเยอร์ถึงรู้สึกโกรธ ทุกเผ่าพันธุ์ยกเว้นเดสทรอยเยอร์มีมาร์ควิสกลับมาบ้าง แต่พวกเขาสูญเสียผู้คนไปทั้งหมด นั่นทำให้พวกเขาสับสนและโกรธ พวกเขาต้องการรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในเมทัลเวิลด์กันแน่
ถึงเผ่าพันธุ์อื่นจะไม่ได้โกรธเหมือนอย่างเดสทรอยเยอร์ แต่พวกเขาก็สูญเสียผู้คนไปมากเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ต้องการจะปล่อยให้หานเซิ่นกับคนอื่นไปจากที่นี่ง่ายๆเช่นเดียวกัน
ตอนนี้เมื่อทุกคนมาเพื่อหยุดคนของปราสาทนภา นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะหาความจริงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อผู้คนของปราสาทนภากลับไปถึงดินแดนของพวกเขาแล้ว การเจรจากับพวกเขาจะกลายเป็นเรื่องยาก ด้วยเหตุนั้นยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์อื่นๆจึงอยากจะได้คำตอบเดี๋ยวนี้
ผู้อาวุโสกรีนเครนหัวเราะหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เดสทรอยเยอร์ระดับราชันพูด
“ทีมของพวกเจ้าอ่อนแอ ความตายของพวกเจ้าจะมาเป็นธุระของพวกเราได้ยังไง?”
เดสทรอยเยอร์ระดับราชันถามต่อ “เจ้าจะบอกว่าเผ่าพันธุ์อื่นทั้งหมดไม่แข็งแกร่งเท่ากับเผ่าพันธุ์ของเจ้าอย่างนั้นหรอ? ถึงแม้มันจะเป็นความจริง มันก็ไม่มีทางที่คนของพวกเราจะตายทั้งหมด ขณะที่คนของพวกเจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเลยสักคน ถ้าพวกเจ้าไม่อธิบายในเรื่องนี้ พวกเราเดสทรอยเยอร์ก็จะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าไปจากที่นี่”
พวกเขาหวังว่าทางดราก้อนจะสนับสนุนพวกเขา เพราะทางเดสทรอยเยอร์ไม่สามารถหยุดผู้อาวุโสกรีนเครนได้ด้วยตัวเอง
“อธิบาย? ปราสาทนภาไม่ได้ติดค้างคำอธิบายอะไร” อาวุโสกรีนเครนพูด
ที่อาวุโสกรีนเครนบอกหานเซิ่นและคนอื่นว่าไม่ต้องพูดอะไรอีกก็เพราะเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้น จริงๆแล้วอาวุโสกรีนเครนก็คิดเหมือนกับคนอื่นๆ มาร์ควิสของปราสาทนภาต้องทำอะไรบางอย่าง ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางกลับออกมาโดยไม่เสียสมาชิกเลยสักคน ขณะที่ทีมของเผ่าพันธุ์อื่นๆมีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เดสทรอยเยอร์ระดับราชันกัดฟันและพูดขึ้นมา “อย่าได้คิดจะใช้อิทธิพลของปราสาทนภามาขู่ให้พวกเรากลัว ปราสาทนภาแข็งแกร่งก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าพวกเราในที่นี่อ่อนแอ ถ้าพวกเจ้าไม่ให้คำอธิบายกับข้า ก็อย่าหวังว่าจะได้ไปจากที่นี่”
“ผู้อาวุโสกรีนเครน ทำไมเจ้าไม่อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะจากไป?” หนึ่งในบุดด้าระดับราชันถาม
ดราก้อนระดับราชันก็พูดขึ้นมาเช่นกัน “ถ้ามาร์ควิสของปราสาทนภาไม่ได้เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ มันก็ไม่น่าจะมีปัญญาอะไรที่จะอธิบายให้พวกเราฟัง?”
ผู้อาวุโสกรีนเครนขมวดคิ้ว แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกมา ดราก้อนเอท ข่านและคนอื่นๆก็เดิมมาต่อหน้าราชันของพวกเขาเพื่อบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
นอกจากเดสทรอยเยอร์แล้ว เมื่อเผ่าพันธุ์อื่นๆได้ยินถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าของพวกเขาก็มืดมนยิ่งกว่าเดิม
อาวุธทั้งหมดของพวกเขาที่ชี้ไปที่ผู้คนของปราสาทนภา ตอนนี้เปลี่ยนไปชี้ที่เดสทรอยเยอร์แทน
“เดสทรอยเยอร์ ดูเหมือนว่าเป็นพวกเจ้าต่างหากที่จำเป็นต้องอธิบายตัวเอง” ดราก้อนราชันคนหนึ่งพูดด้วยเสียงที่เย็นชา
เผ่าพันธุ์อื่นก็มองไปที่พวกเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเช่นกัน ทางเดสทรอยเยอร์รู้สึกสับสน พวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ผู้อาวุโสกรีนเครนถามหานเซิ่นและอวี้เอียะเพื่อขอคำอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และเขาก็ต้องตกตะลึงไปหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด
เขาไม่ได้ตกใจที่เดสทรอยเยอร์ลอบกัดเผ่าพันธุ์อื่นๆ แต่เขาแปลกใจที่ได้ยินว่าหานเซิ่นต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคทั้งหมดตามลำพังและช่วยชีวิตทุกคนเอาไว้
มาร์ควิสทั้งหมดที่ถูกส่งเข้าไปต่างก็เป็นยอดฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่างดราก้อนเอท ดราก้อนไนนท์และข่าน ซึ่งแม้แต่พลังของพวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้านซีโน่เจเนอิคจำนวนมากได้ แต่หานเซิ่นกลับจัดการกับซีโน่เจเนอิคได้ด้วยตัวคนเดียว มันเป็นอะไรที่น่ากลัวเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น
ไร้เทียมทานเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนอย่างหานเซิ่น
ถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้ แต่มันก็มีมาร์ควิสจำนวนมากเป็นพยานถึงเรื่องนั้น พวกเขาทุกคนไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องแต่งเรื่องเพื่อโอ้อวดพลังของหานเซิ่น ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อในเรื่องนั้น
หลังจากเหตุการณ์นี้ หานเซิ่นก็ถูกพูดถึงในทุกหนทุกแห่ง ใครก็ตามที่ได้ยินเรื่องราวนี้ก็ได้รู้ว่าปราสาทนภาเป็นที่อยู่อาศัยของยอดฝีมือ 2 คน หนึ่งคือไผ่เดียวดาย อีกหนึ่งคือหานเซิ่น
และเนื่องจากอสูรโลหะสีขาวระดับเทพเจ้ายังอาศัยอยู่ในดวงดาว ทุกคนก็ยอมแพ้ที่จะยึดครองเมทัลเวิลด์มาเป็นของตัวเอง ส่วนเรื่องที่พวกเขามีแผนจะจัดการยังไงกับทางเดสทรอยเยอร์นั้น หานเซิ่นเองก็ไม่รู้
เนื่องจากหานเซิ่นพาสมาชิกของปราสาทนภาทุกคนกลับมาได้อย่างปลอดภัย เขาจึงได้รับรางวัลจากปราสาทนภา แต่พวกมันไม่ได้สำคัญอะไรอีกแล้ว เพราะข้อตกลงระหว่างอี๋ซากับปราสาทนภาคือการทำให้หานเซิ่นพัฒนาสู่ระดับมาร์ควิส ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นเป็นมาร์ควิสเรียบร้อยแล้ว เขาก็ต้องเดินทางกลับไปยังแนร์โรว์มูน
เพราะยังไงซะเขาก็ไม่ใช่ทายาทที่แท้จริงของปราสาทนภา ปราสาทนภาไม่สามารถมอบทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อทำให้เขาพัฒนาสู่ระดับดยุกได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น