Super God Gene 2155-2158
ตอนที่ 2155
หลังจากที่เตรียมพร้อมแล้ว หานเซิ่นก็พาเป่าเอ๋อและตัวกินโลหะไปที่เมทัลเวิลด์
หลังจากที่มาถึง หานเซิ่นไม่เสียเวลามองหาภัยอันตราย เขาอุ้มเป่าเอ๋อกับตัวกินโลหะเอาไว้และเทเลพอร์ตหนีไปจากบริเวณนั้นด้วยความเร่งรีบ
โชคดีสิ่งที่เขาเป็นกังวลมากที่สุดไม่เกิดขึ้นมา อสูรโลหะตัวน้อยไม่ได้ดักรอโจมตีเขาในตอนที่กลับมา
แต่เมื่อหานเซิ่นมองไปรอบๆ สีหน้าของเขาก็ซีดเผือก สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอาจจะไม่เกิดขึ้นก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการมาถึงของเขาจะผ่านไปโดยไม่มีใครเห็น แทนที่จะกลับลงไปในหลุมที่โผล่ออกมา อสูรโลหะตัวน้อยกลับนอนหลับอยู่บนซากปรักหักพัง
ซึ่งการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นปลุกให้อสูรโลหะตื่นขึ้นมา มันลุกขึ้นและหันมามองที่หานเซิ่น
“เวรเอ๊ย! ถ้ารู้แบบนี้ก็คงจะไม่เทเลพอร์ตหรอก” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่
ทันทีที่เห็นหานเซิ่น อสูรโลหะตัวน้อยก็ลุกขึ้น แต่เมื่อมันสังเกตเห็นตัวกินโลหะ ดวงตาของมันก็เบิกกว้าง ตัวกินโลหะของหานเซิ่นก็มองอสูรโลหะสีขาวด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน ตอนนี้อสูรโลหะสีดำกับสีขาวกำลังจ้องมองซึ่งกันและกัน
“มันได้ผล!” หานเซิ่นดีใจ
หลังจากที่อสูรโลหะสีขาวจ้องไปอีกฝ่ายสักพักหนึ่ง มันก็ส่งเสียงร้องออกมาเหมือนกับว่ามันกำลังพูดอะไรบางอย่าง หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่อย่างน้อยๆมันก็ฟังดูไม่เหมือนกับการข่มขู่
ตัวกินโลหะดิ้นออกจากแขนของหานเซิ่นและหล่นลงไปบนพื้น หลังจากนั้นมันก็ส่งเสียงร้องตอบอสูรโลหะสีขาว
อสูรโลหะสีขาวส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้งและเริ่มวิ่งเข้าไปหาตัวกินโลหะ
แน่นอนว่านี่ทำให้หานเซิ่นรู้สึกกังวล เขาต้องการอุ้มตัวกินโลหะขึ้นมาและวิ่งหนีไป แต่ตัวกินโลหะกลับวิ่งเข้าไปหาอสูรโลหะสีขาวแทน
หานเซิ่นรู้ว่าตัวกินโลหะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ฉลาดอะไร แต่มันก็สัมผัสถึงอันตรายได้ ซึ่งมันไม่มีทางจะวิ่งเข้าไปหาอันตรายแบบนั้น ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้เทเลพอร์ตหนีไปและมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างระมัดระวัง
อสูรโลหะสีดำและขาววิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้ากัน พวกมันต่างก็จ้องมองอีกฝ่าย ตัวกินโลหะมีขนาดตัวใหญ่กว่าอสูรโลหะสีขาว แต่พลังของมันอ่อนแอกว่ามาก นั่นคือสิ่งที่ทำให้หานเซิ่นเป็นกังวล
อสูรทั้ง 2 ร่ายโล่ป้องกันของตัวเอง โล่ของอสูรโลหะสีขาวนั้นโปร่งใส แต่โล่ป้องกันของตัวกินโลหะได้ผสมผสานกับพลังของวิชาคอนซูม ด้วยเหตุนั้นมันจึงมืดมัวกว่าเล็กน้อย
หลังจากนั้นอสูรโลหะสีขาวก็เดินวนรอบๆและดมกลิ่นของตัวกินโลหะ
“นี่พวกมันกำลังพูดคุยกันด้วยรหัสลับใช่ไหม?” หานเซิ่นรู้สึกกังวลอย่างมาก เขากังวลว่าอสูรโลหะสีขาวจะค้นพบว่าตัวกินโลหะไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน หรือบางทีมันอาจจะจู่โจมตัวกินโลหะ เนื่องจากเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่า
อสูรโลหะสีขาวเดินวนรอบๆตัวกินโลหะอยู่หลายรอบ และในที่สุดมันก็กระโดดขึ้น นั่นทำให้หัวใจของหานเซิ่นเกือบจะหยุดเต้น และในจังหวะที่เขากำลังจะเข้าไปช่วยตัวกินโลหะนั้น เขาก็รู้สึกตัวว่าจริงๆแล้วอสูรโลหะสีขาวตัวน้อยกระโดดลงไปในหลุมที่มันปรากฏตัวออกมาในตอนแรก
ตัวกินโลหะไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหน มันแค่มองไปทางที่อสูรโลหะสีขาวหายตัวไป
หานเซิ่นปาดเหงื่อบนหน้าผาก ถ้าอสูรโลหะสีขาวต้องการจะฆ่าตัวกินโลหะล่ะก็ เขาก็ไม่รู้ว่าจะช่วยพวกพ้องของเขาได้ไหม
“ทุกอย่างยังโอเคอยู่ แต่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป? นี่พวกมันจะจดจำกันได้ไหมนะ? หรือว่าบางทีพวกมันจำเป็นต้องพูดคุยกันมากกว่านี้?” หานเซิ่นครุ่นคิดอย่างเป็นกังวล
ขณะที่หานเซิ่นยังคงครุ่นคิดอยู่นั้น อสูรโลหะสีขาวก็กลับออกมาจากหลุม ร่างกายอันจ้ำม่ำของมันค่อยๆเดินต้วมเตี้ยมเข้าไปหาตัวกินโลหะ
หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าอสูรโลหะสีขาวกำลังคาบกิ่งโลหะที่มีความยาวประมาทแขนคนอยู่ บนกิ่งมีผลไม้โลหะอยู่หลายลูก เมื่ออสูรโลหะสีขาวเดินไปตรงหน้าตัวกินโลหะแล้ว มันก็วางกิ่งไม้นั้นลง
ตัวกินโลหะไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร ดังนั้นอสูรโลหะสีขาวจึงเดินเข้ามาใกล้ๆและส่งเสียงร้องอีกครั้ง
หลังจากนั้นตัวกินโลหะก็ก้มหัวและกลืนผลไม้ลูกหนึ่งเข้าไป
เมื่ออสูรโลหะสีขาวตัวน้อยเห็นตัวกินโลหะกินผลไม้เข้าไป มันก็วิ่งวนรอบๆอย่างร่าเริง มันไปหยุดอยู่ข้างๆตัวกินโลหะและใช้ร่างกายของมันลูบสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่กว่า มันดูมีความสุขอย่างมาก
ตัวกินโลหะกินผลไม้โลหะลูกที่เหลืออยู่เข้าไป และร่างกายของมันก็เริ่มเรืองแสงขึ้นมา หลังจากนั้นตัวกินโลหะก็ปลดปล่อยสสารประหลาดออกมา มันค่อยๆกลายเป็นชุดเกราะจีโนที่ห่อหุ้มร่างกายของมัน ก่อนที่จะละลายเข้าไปในร่างกายของมันอีก
“มันกำลังจะกลายเป็นบารอนหรอเนี่ย?” หานเซิ่นทั้งประหลาดใจและดีใจ
หานเซิ่นดีใจที่อสูรโลหะสีขาวมอบผลไม้โลหะให้กับตัวกินโลหะ มันทำให้ตัวกินโลหะวิวัฒนาการไปเป็นบารอนได้ในทันที ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกมันเป็นของดีอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเป็นแบบนั้นตอนนี้มันก็ไม่สามารถกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ได้อีกแล้ว
‘แต่เมทัลเวิลด์แห่งนี้เป็นอะไรที่เหมาะกับมันมากกว่าเป็นไหนๆ และมันก็ไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดียวในโกดังอีกต่อไปแล้ว’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
อสูรโลหะสีขาวดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตัวกินโลหะ ขณะที่ตัวกินโลหะกำลังอยู่ในระหว่างการวิวัฒนาการ อสูรโลหะสีขาวก็จ้องมองมาที่หานเซิ่นกับเป่าเอ๋อราวกับว่าพวกเขาเป็นหัวขโมย
“เจ้าคือคนนอกของที่นี่” นั่นเป็นสิ่งที่มันพยายามจะบอก ซึ่งมันทำให้หานเซิ่นรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
การวิวัฒนาการของตัวกินโลหะดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี ร่างกายใหม่ของมันดำมืดและเล็กลงกว่าเดิม แต่ร่างกายของมันก็ดูเป็นโลหะมากกว่าที่เคย
เมื่อเห็นว่าการวิวัฒนาการของตัวกินโลหะเสร็จสมบูรณ์แล้ว อสูรโลหะสีขาวก็เลียแก้มของตัวกินโลหะอย่างมีความสุข
แต่หานเซิ่นก็ยังคงกังวล ถ้าเขาไม่แน่ใจว่าตัวกินโลหะเป็นตัวผู้ล่ะก็ เขาก็คงจะคิดไปว่าอสูรโลหะสีขาวกำลังมองหาคนที่จะผสมพันธุ์ด้วยอยู่
“ตัวกินโลหะเป็นตัวผู้ ถ้าอสูรโลหะสีขาวเป็นตัวเมีย พวกมันก็จะผสมพันธุ์กันได้ แต่เจ้าอสูรโลหะสีขาวนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่รู้ว่ามันมีชีวิตอยู่มานานแค่ไหนแล้ว แบบนั้นมันจะไม่แก่เกินไปสำหรับตัวกินโลหะหรอกหรอ?” หานเซิ่นมองพวกมันอย่างแปลกๆ
ตัวกินโลหะนั้นเงียบๆ ไม่เหมือนกับอสูรโลหะสีขาวที่ดูกระตือรือร้น ขณะที่อสูรโลหะสีขาวส่งเสียงหลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ได้รับเสียงตอบกลับแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นอสูรโลหะสีขาวก็ดูมีความสุขอย่างมาก มันกลับลงไปในหลุมและนำผลไม้โลหะออกมามอบให้กับตัวกินโลหะเพิ่มอีก
“ว้าว! นี่มันกำลังจีบตัวกินโลหะอยู่อย่างนั้นหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นการเสียสละก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ พวกเราจะหนีไปจากเมทัลเวิลด์ได้หรือไม่ ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับนายแล้วตัวกินโลหะ แสดงเสน่ห์ของนายออกมา!” หานเซิ่นส่งเสียงเชียร์ตัวกินโลหะ
แต่มันเห็นได้ชัดว่าตัวกินโลหะไม่เข้าใจว่าหานเซิ่นจะบอกอะไร ทั้งหมดที่มันทำก็คือกินผลไม้ที่อสูรโลหะสีขาวนำออกมาให้ มันขี้เกียจถึงขนาดที่ไม่แม้แต่จะพูดคุยกับอีกฝ่าย
ตอนที่ 2156
อวี้เอียะกำลังยืนมองพายุแม่เหล็กสีแดงพร้อมกับขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียด
4 วันก่อน เนื่องจากอสูรโลหะที่น่าสะพรึงกลัวไล่ตามหานเซิ่นไป นั่นทำให้พวกเขาจะหนีออกมาจากเมืองได้สำเร็จ
หลังจากนั้นพวกเขาก็รู้ตัวว่าอสูรโลหะไม่คิดจะเดินทางออกจากเมืองเพื่อไล่ล่าพวกเขา
แต่ทว่าพวกเขาสูญเสียการติดต่อกับหานเซิ่นไป และหานเซิ่นก็เป็นหัวหน้าของพวกเขา ผู้อาวุโสได้สั่งให้พวกเขาคอยดูแลหานเซิ่น แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว มอนสเตอร์ตัวนั้นสามารถกินรูปปั้นโลหะที่แข็งแกร่งระดับราชันได้ราวกับเป็นอาหารว่าง ดังนั้นมันเป็นไปได้สูงว่าหานเซิ่นจะไม่รอด
“มันไม่ทีประโยชน์อะไรที่จะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกซะจากพวกเราจะหาหนทางหนีไปจากที่นี่ได้ พวกเราทั้งหมดก็ต้องตายเช่นกัน แบบนั้นพวกเราก็รายงานเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ไม่ได้” อวี้เอียะถอนหายใจออกมา
บุดด้า ดราก้อนและเดม่อนก็ซ่อนตัวอยู่ด้วยกัน หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น ถึงทั้ง 3 เผ่าพันธุ์จะรวมกัน พวกเขาก็ยังมีผู้คนน้อยกว่าทีมของปราสาทนภา ดังนั้นมันมีความแตกต่างระหว่างกองกำลังของพวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขาทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว และพวกเขาทั้งหมดก็จำเป็นต้องหาหนทางไปจากที่นี่ ด้วยเหตุนั้นอวี้เอียะจึงไม่สนใจจะรังแกเผ่าพันธุ์อื่น
ข่านและคนอื่นไม่ได้โง่ พวกเขารู้ว่าในตอนนี้ปราสาทนภาเป็นฝ่ายที่ควบคุมสถานการณ์ และอวี้เอียะก็เป็นหัวหน้าชั่วคราว ซึ่งพวกเขาไม่มีแผนจะก่อปัญหาที่ไม่จำเป็น
เพราะถ้าพวกเขาไม่สามารถหาหนทางหนีไปจากเมทัลเวิลด์ได้ พวกเขาทุกคนก็ต้องถูกขังอยู่ที่นี่ไปตลอด
สภาพแวดล้อมของเมทัลเวิลด์เป็นอะไรที่เลวร้ายสำหรับการอยู่อาศัย สิ่งมีชีวิตทั้งหมดทำขึ้นมาจากโลหะ ดังนั้นมันจึงไม่มีแหล่งอาหารสำหรับพวกเขา และถึงแม้พวกเขาจะมีเสบียงติดตัวมาด้วยจำนวนหนึ่ง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะหิวตาย
ตัวกินโลหะของหานเซิ่นดูเหมือนจะกำลังเล่นตัวอยู่ อสูรโลหะสีขาวพยายามจะเอาใจมันด้วยการทำตัวเป็นมิตรให้มากที่สุด แต่ตัวกินโลหะไม่ได้ตอบสนองอะไรมาก แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็สามารถบอกได้ว่ามันกำลังมีความสุข
หานเซิ่นและเป่าเอ๋อก็ได้รับของดีจากอสูรโลหะสีขาวเช่นกัน หานเซิ่นและเป่าเอ๋อไม่สามารถกินผลไม้โลหะได้ ด้วยเหตุนั้นอสูรโลหะสีขาวจึงมอบอะไรบางอย่างให้พวกเขาดื่ม
เมื่อหานเซิ่นดื่มของเหลวนั้นเข้าไป เขาก็สังเกตได้ว่ายีนของตัวเองเริ่มจะพัฒนาในทันที
อสูรโลหะสีขาวอยู่ใกล้ชิดกับตัวกินโลหะ และมันก็ลูบหัวของตัวกินโลหะซ้ำๆ ซึ่งนั่นทำให้หานเซิ่นสับสนอย่างมาก
สิ่งมีชีวิตภายในก็อตแซงชัวรี่มียีนของจักรวาลจีโน หานเซิ่นรู้ว่าคริสตัลไลเซอร์ได้นำสิ่งมีชีวิตของจักรวาลจีโนเข้ามาไปในก็อตแซงชัวรี่เพื่อทำการวิจัย นั่นทำให้สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ภายในก็อตแซงชัวรี่เกิดขึ้นมา
แต่สเตย์อัพเลทยังบอกเขาอีกว่าคริสตัลไลเซอร์ทำแบบนั้นก็เพื่อพัฒนาสายเลือดของคริสตัลไลเซอร์ ยีนทั้งหมดที่พวกเขาทำการวิจัยมีจุดประสงค์เพื่อใช้รวมเข้ากับเผ่าพันธุ์ของตัวเองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ในอดีตความแข็งแกร่งของคริสตัลไลเซอร์เทียบได้กับเผ่าพันธุ์ชั้นสูงในจักรวาลจีโน แต่พวกเขาต้องพึ่งพาเทคโนโลยีช่วย สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ได้ท้าชิงเผ่าพันธุ์ชั้นสูงเผ่าพันธุ์หนึ่งและถูกทำลายล้าง ในตอนนั้น พวกเขามีความแข็งแกร่งพอจะจับสิ่งมีชีวิตต่างๆเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่พวกเขาอ่อนแอ คริสตัลไลเซอร์ไม่ควรจะเอาชนะสิ่งมีชีวิตที่เป็นเจ้าของยีนของนกสีแดง โกลดเด้นโกรวเลอร์และตัวกินโลหะได้ นี่ยังไม่รวมถึงสิ่งมีชีวิตนานาชนิดภายในก็อตแซงชัวรี่
หานเซิ่นไม่สามารถจินตนาการได้ว่าคริสตัลไลเซอร์ทำเรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง
‘สเตย์อัพเลทเล่าว่าคริสตัลไลเซอร์ไม่ได้เป็นคนที่สร้างก็อตแซงชัวรี่ จริงๆแล้วมันอยู่มาตั้งแต่ก่อนที่คริสตัลไลเซอร์จะค้นพบมัน เนื่องจากทางเข้าของก็อตแซงชัวรี่อยู่ในเขตแดนของเซเคร็ด นั่นหมายความว่าเซเคร็ดเป็นคนที่สร้างก็อตแซงชัวรี่อย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
หานเซิ่นคิดว่านั่นอาจจะเป็นความจริง จากเรื่องราวที่เขาได้ยินมา มีเพียงแค่เซเคร็ดเท่านั้นที่มีพลังพอที่จะเก็บรวบรวมยีนของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังต่างๆ คริสตัลไลเซอร์ไม่สามารถทำแบบนั้นได้
นอกจากนั้นเซเคร็ดยังอยู่มาก่อนหน้าคริสตัลไลเซอร์ ซึ่งมันตรงกันกับเรื่องราวที่สเตย์อัพเลทบอกกับเขา คริสตัลไลเซอร์ต้องมาพบก็อตแซงชัวรี่ในภายหลังและปรับแต่งพวกมัน
ดังนั้นบางทีก็อตแซงชัวรี่อาจจะถูกสร้างขึ้นโดยเซเคร็ดจริงๆ แต่ทำไมกัน? ทำไมพวกเขาถึงต้องโยนยีนที่ทรงพลังเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่? สิ่งมีชีวิตอะไรที่กำเนิดภายในก็อตแซงชัวรี่? อะไรที่ถูกส่งเข้าไปในนั้น?
แมวเก้าชีวิตมีความเกี่ยวข้องกับทางเซเคร็ด และมันก็สามารถเข้าออกก็อตแซงชัวรี่ได้ตามใจชอบ แถมมันก็ดูเหมือนกับว่าแมวเก้าชีวิตกำลังวิจัยเกี่ยวกับผู้คนภายในก็อตแซงชัวรี่
ในอดีตมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นทำให้เซเคร็ดต้องล่มสลายง เขตแดนของเซเคร็ดกลายเป็นระบบอันรกร้างว่างเปล่า และด้วยเหตุผลบางอย่างคริสตัลไลเซอร์ไปพบทางเข้าก็อตแซงชัวรี่ และในตอนที่พวกเขาถูกทำลาย คริสตัลไลเซอร์ที่เหลือรอดก็ได้เข้าไปหลบภัยในก็อตแซงชัวรี่และยังคงดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับยีนของพวกเขาต่อไป
แต่หานเซิ่นไม่แน่ใจว่าคริสตัลไลเซอร์ทำการวิจัยทั้งหมดด้วยตัวเอง หรือพวกเขาแค่สานต่อการวิจัยที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยเซเคร็ดกันแน่
แต่ทั้งหมดนี่ก็เป็นแค่ทฤษฎีที่หานเซิ่นคิดขึ้นมาเท่านั้น มันยังไม่ได้มีอะไรมายืนยันข้อเท็จจริง
‘มีเพียงแค่แมวเก้าชีวิตเท่านั้นที่จะตอบคำถามของเราได้’ หานเซิ่นคิดด้วยความโมโห ทุกอย่างโยงไปที่เซเคร็ดและแมวเก้าชีวิต แต่หานเซิ่นยังขาดพลังที่จะเข้าไปสำรวจระบบรกร้างว่างเปล่าได้
ขณะที่หานเซิ่นครุ่นคิดอยู่นั้น ตัวกินโลหะก็เดินเข้ามาส่งเสียงร้องบอกหานเซิ่นและหันไปมองที่หลุมขนาดใหญ่
อสูรโลหะสีขาวยืนอยู่ข้างๆหลุม และดูเหมือนมันกำลังบอกให้พวกเขาเข้าไปข้างใน
ตัวกินโลหะเข้าไปก่อน และหานเซิ่นก็ตามเข้าไปพร้อมกับเป่าเอ๋อ เขาต้องการจะเห็นว่ารังของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าเป็นยังไง
ทางเข้าของหลุมใหญ่มหึมา แต่กำแพงนั้นลาดเอียงเหมือนกับกรวยขนาดใหญ่ที่แคบลงเรื่อยๆ และก้นของหลุมก็มีความกว้างแค่หนึ่งเมตรเท่านั้น
อสูรโลหะสีขาวและตัวกินโลหะเข้าไปข้างใน โดยที่หานเซิ่นกับเป่าเอ๋อตามไปจากด้านหลัง
หานเซิ่นคิดว่ามันเป็นถ้ำ แต่เมื่อมองลงไป เขาก็ต้องตกตะลึง
“เป็นไปได้ยังไง? ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” หานเซิ่นไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
ตอนที่ 2157
ภายในหลุมมีพื้นที่ว่างที่ดูคล้ายคลึงกับโกดังเก็บของ หานเซิ่นได้เห็นลูกบาศก์โลหะขนาดใหญ่ยักษ์หลายอันวางเรียงกันอยู่ พวกมันดูเหมือนกับตู้คอนเทนเนอร์ แต่พวกมันมีขนาดใหญ่กว่า
เมื่อหานเซิ่นเข้าไปดูใกล้ๆ เขาก็รู้สึกตัวว่าลูกบาศก์ถูกปกคลุมด้วยรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ยักษ์ เขาเคยเห็นหนึ่งในลูกบาศก์โลหะแบบเดียวกันภายในแนร์โรว์มูน ซึ่งมันก็คือลูกบาศก์สีฟ้าที่รีเบทได้รับมาจากโบราณสถานของลิกุ มันดูเหมือนกับลูกบาศก์ที่เขากำลังเห็นอยู่ในตอนนี้
เมื่อลูกบาศก์โลหะเปิดออก มันได้ปลดปล่อยแมลงปีศาจทองคำสีฟ้าออกมา พวกมันได้สร้างความเสียอันใหญ่หลวงต่อแนร์โรว์มูน และหานเซิ่นก็ได้รับวิญญาณใบเสมาราชาแมลงปีศาจมาเป็นการตอบแทน
นั่นเป็นเหตุการณ์และผลลัพธ์ที่หานเซิ่นไม่เคยลืม
หานเซิ่นนับลูกบาศก์ได้ทั้งหมด 24 ลูกวางอยู่ตรงหน้าของเขา
ลูกบาศก์ที่หานเซิ่นเคยเห็นทั้งลูกเป็นสีฟ้า แต่พวกมันสิบสองลูกนั้นเป็นสีทอง ในขณะที่อีกสิบสองลูกเป็นสีเขียว และในขณะที่สัญลักษณ์ของพวกมันทั้ง 2 สีคล้ายคลึงกัน แต่พวกมันแตกต่างไปจากสัญลักษณ์บนลูกบาศก์สีฟ้าที่หานเซิ่นเคยเห็นมาก่อน
ลูกบาศก์แต่ละลูกดูเหมือนจะมีรอยฝ่ามือที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ถ้ารอยฝ่ามือเป็นรหัสผ่าน ลูกบาศก์แต่ละลูกก็จะมีรหัสผ่านที่แตกต่างกันออกไป
‘โบราณสถานของเผ่าลิกุเกี่ยวข้องกับเบรกสกายอย่างนั้นหรอ? ถ้าแบบนั้นเบรกสกายก็ต้องมีหลากหลายสายเลือด’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
แต่หานเซิ่นไม่ได้กังวลว่าลูกบาศก์จะเปิดขึ้นมา เพราะพวกมันจะไม่เปิดออกจนกว่ารหัสผ่านฝ่ามือจะถูกตบในลำดับที่ถูกต้อง และถึงแม้พวกมันจะเปิดออก พวกแมลงปีศาจก็ไม่มีทางจะต่อกรกับอสูรโลหะสีขาวได้
เมื่อพูดถึงอสูรโลหะสีขาว ตอนนี้มันกำลังเดินเข้าไประหว่างลูกบาศก์ 2 ลูก หานเซิ่นตามมันไปขณะที่อุ้มเป่าเอ๋อเอาไว้ เมื่อเดินทางผ่านลูกบาศก์ หานเซิ่นก็ได้เห็นร่างของซีโน่เจเนอิคโลหะ ผลไม้โลหะและพืชโลหะ มันดูเหมือนจะเป็นบ้านของอสูรโลหะสีขาวจริงๆ
ไม่ไกลออกไปมีแท็งก์โปร่งใสที่มีขนาดใหญ่พอๆกับรถน้ำมัน แท็งก์ส่วนใหญ่นั้นว่างเปล่า ขณะที่เหลืออีก 5 แท็งก์เต็มไปด้วยของเหลวที่โปร่งใส
หานเซิ่นสรุปได้ว่าพวกมันเป็นของเหลวเดียวกับที่เขาและเป่าเอ๋อได้รับจากอสูรโลหะสีขาวก่อนหน้านี้
แท็งก์โปร่งใสทั้งหมดมีชื่อเขียนเอาไว้ด้วยภาษาสามัญของจักรวาลจีโน พวกมันอ่านได้ว่าเมทัลซีโน่เจเนอิคฟลูอิด บนแท็งก์ยังมีข้อมูลที่อธิบายถึงผลของของเหลว ถ้าสิ่งมีชีวิตโลหะดื่มของเหลวนั่นเข้าไป พวกมันจะกลายเป็นซีโน่เจเนอิคในทันที แต่ถ้าซีโน่เจเนอิคโลหะดื่มมันเข้าไป ของเหลวนี้ก็จะทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้น
มันมีอยู่เป็นร้อยๆแท็งก์ แต่ดูเหมือนอสูรโลหะสีขาวจะดื่มพวกมันเกือบทั้งหมดเข้าไป ทำให้ตอนนี้มันก็เหลือเพียงแค่ 5 แท็งก์เท่านั้น และหนึ่งในนั้นก็ไม่ได้เต็มแท็งก์อย่างที่ควรจะเป็น อสูรโลหะสีขาวตัวน้อยคงจะดื่มของเหลวในแท็งก์นั้นไปบ้างแล้ว
อสูรโลหะสีขาวพาตัวกินโลหะไปกินผลไม้โลหะเพิ่มอีก แถมมันก็นำเมทัลซีโน่เจเนอิคฟลูอิดมาให้ตัวกินโลหะอีกด้วย ขณะที่อสูรโลหะสีขาวกำลังเอาใจตัวกินโลหะอยู่นั้น หานเซิ่นก็นำแก้ว 2 แก้วออกมาตักเมทัลซีโน่เจเนอิคฟลูอิดให้กับตัวเองและเป่าเอ๋อ เซลล์ในร่างกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อดื่มของเหลวนี้เข้าไป
หานเซิ่นใช้เรื่องราวของยีนเพื่อดูดซับเมทัลซีโน่เจเนอิคฟลูอิดเข้าไป และในที่สุดเรื่องราวของยีนก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลง ซึ่งนั่นทำให้หานเซิ่นดีใจอย่างมาก
หานเซิ่นเดินไปรอบๆโกดังและเจอเข้ากับบางสิ่งที่แปลกประหลาด มันต้องเป็นบางสิ่งที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยเบรกสกาย แต่หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร และเขาก็ไม่รู้ถึงวิธีที่จะใช้มันเช่นเดียวกัน แต่เขาเห็นรอยกัดที่อสูรโลหะสีขาวทิ้งเอาไว้ เขาจึงคิดว่ามันอาจจะเป็นอาหารอย่างหนึ่ง
ภายในโกดังประกอบด้วยโลหะซะส่วนใหญ่ และดูเหมือนว่าลูกบาศก์โลหะเป็นสิ่งเดียวที่อสูรโลหะสีขาวไม่ได้กัดแทะ นั่นทำให้หานเซิ่นสงสัยว่าทำไมอสูรโลหะสีขาวถึงไม่กินลูกบาศก์พวกนั้น
หานเซิ่นเข้าไปใกล้ลูกบาศก์โลหะและรู้สึกว่าภายนอกของลูกบาศก์โลหะแต่ละลูกถูกปกคลุมด้วยบางสิ่ง มันเป็นเหมือนกับแผ่นของยางหรือขี้ผึ้ง แต่มันโปร่งใสและบางอย่างมาก หานเซิ่นจำเป็นต้องใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อมองมันชัดๆ
‘ถ้าเราไปบอกให้อสูรโลหะสีขาวช่วยกินพวกแมลงที่อยู่ภายในและเหลือราชาแมลงปีศาจปางตายเอาไว้จะได้ไหมน่ะ? แบบนั้นบางทีเราอาจะได้รับวิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจอีกด้วย’ หานเซิ่นคิด
หานเซิ่นพยายามคิดหาหนทางที่จะสื่อสารกับอสูรโลหะสีขาว พวกเขาไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถสื่อสารกันผ่านการพูดคุยได้ สุดท้ายแล้วเขาก็พยายามสื่อสารกับมันโดยใช้ท่าทาง ทำให้เขารู้ว่าอสูรโลหะสีขาวไม่ชื่นชอบพวกลูกบาศก์โลหะ เพราะกลิ่นและชั้นนอกของพวกมัน อสูรโลหะสีขาวไม่กล้ากัดพวกลูกบาศก์ ถ้าชั้นนอกของพวกมันยังอยู่
นอกจากนั้นพลังของหานเซิ่นก็ไม่เพียงพอที่จะกำจัดชั้นนอกออกไปได้ ถ้าเขาต้องการจะเปิดลูกบาศก์โลหะล่ะก็ เขาก็จำเป็นต้องตบฝ่ามือลงบนผิวของลูกบาศก์ในลำดับที่ถูกต้อง
‘เรื่องรหัสผ่านไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่เราจำเป็นต้องพูดกับเจ้าอสูรโลหะสีขาวก่อนเป็นอันดับแรก’ หานเซิ่นคิด
แต่หานเซิ่นไม่ได้รีบร้อนอะไร เขาเดินไปรอบๆโกดัง และเขาก็พบบางสิ่งที่ไม่ใช่โลหะ
มันเป็นหนังสือที่ถูกเก็บเอาไว้ในกล่องโลหะกล่องหนึ่ง อสูรโลหะสีขาวได้กัดแทะกล่องโลหะและเหลือหนังสือทิ้งเอาไว้
หนังสือดูเหมือนจะถูกทำขึ้นมาจากพลาสติกแทนที่จะเป็นกระดาษหรือผ้า แต่วัสดุของมันแข็งแรงกว่าพลาสติกจริงๆ หานเซิ่นลองเผาพวกมัน แต่พวกมันไม่มีปฏิกิริยาอะไรเมื่อสัมผัสกับเปลวไฟ
ภายในกล่องมีหนังสือทั้งหมด 6 เล่ม ขณะที่แต่ละเล่มมีขนาดที่ใหญ่โตเหมือนกับบ้านน้อยๆ พวกมันต้องเป็นของเบรกสกายที่เป็นเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมของที่นี่
หานเซิ่นบินขึ้นไปเพื่อจะดูว่าพวกมันเขียนอะไรเอาไว้ หนังสือทั้ง 6 เล่มมีชื่อว่าเบรกซิกซ์สกาย มันเป็นวิชาจีโนของเบรกกสาย
หานเซิ่นรู้สึกสนใจในวิชาจีโนของเบรกสาย ดังนั้นเขาจึงเริ่มอ่านมัน เขาค้นพบว่ามันเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างอันตราย มันใช้การกระแทกต่อสสารเพื่อสร้างแรงระเบิดขึ้นมา
หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่ามันเป็นวิชาจีโนที่อันตรายอย่างมาก แรงระเบิดสามารถทำร้ายได้ทุกคนแม้แต่ผู้ใช้เองก็ตาม ผู้ใช้อาจจะระเบิดตัวเองได้ถ้าไม่ระมัดระวังให้ดี นั่นเป็นอะไรที่โหดร้ายเกินไป
ตอนที่ 2158
“มันเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมาก แต่ฉันชอบแนวคิดของมัน”
หานเซิ่นจดจำเนื้อหาทั้งหมดของเบรกซิกซ์สกาย เขามีแผนที่จะเรียนรู้มันเมื่อมีเวลาว่าง มันเป็นวิชาจีโนที่สามารถใช้เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าได้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่หานเซิ่นกำลังต้องการ
แต่มันก็เป็นอะไรที่ยากจะเรียนรู้ มันเป็นวิชาจีโนที่จำเป็นต้องใช้ความแม่นยำอย่างมาก ซึ่งระดับความยากของมันสามารถเทียบได้กับวิชาผนึกมารของปราสาทนภา
ถ้าให้เปรียบเทียบ วิชาจีโนนี้ก็เหมือนกับระเบิดปรมาณูของมนุษย์ ถึงแม้ผู้ใช้จะเข้าใจถึงหลักการทำงานของมัน แต่การพยายามใช้มันโดยที่ไม่ให้ระเบิดตัวเองไปด้วยก็เป็นเรื่องยากอยู่ดี
แน่นอนว่าหานเซิ่นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องความแม่นยำ เพราะเขามีศาสตร์ตงเสวียนอยู่
แต่ถึงอย่างนั้นการฝึกมันก็จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ดี แถมในตอนนี้หานเซิ่นก็ยังมีวิชาอื่นที่จำเป็นต้องฝึกอีก ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยังไม่คิดจะเริ่มฝึกมันในตอนนี้
หานเซิ่นมองดูรอบๆโกดังต่อ แต่เขาไม่พบอะไรที่น่าสนใจ และในที่สุดเขาก็กลับมาสนใจที่ลูกบาศก์โลหะอีกครั้ง
หานเซิ่นเริ่มสื่อสารกับอสูรโลหะสีขาวอีกครั้ง ถึงแม้ระหว่างพวกเขาจะมีกำแพงภาษาขวางกั้นอยู่ก็ตาม แต่หานเซิ่นก็ใช้ความพยายามอย่างมากในการก้าวข้ามมัน และเขาก็ใช้ตัวกินโลหะเป็นเหยื่อล่อเพื่อยั่วให้อสูรโลหะสีขาวร่วมมือกันกับเขา
ในที่สุดหานเซิ่นก็สามารถยืนยันได้ว่าอสูรโลหะสีขาวจะเหลือราชาแมลงปีศาจในสภาพปางตายเอาไว้ให้กับเขา และหลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว หานเซิ่นก็เดินเข้าไปหาหนึ่งในลูกบาศก์โลหะ
อสูรโลหะสีขาวเคยกินแมลงปีศาจมาก่อน สิ่งเดียวที่มันไม่ชอบก็คือชั้นนอกของลูกบาศก์ เมื่อหานเซิ่นขอให้อสูรโลหะสีขาวเหลือยีนซีโน่เจเนอิคของแมลงปีศาจธรรมดาเอาไว้ เขาก็ถูกปฏิเสธในทันที แม้แต่การใช้ตัวกินโลหะล่อลวงก็ไม่สามารถเปลี่ยนจิตใจของมันได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงต้องยอมแพ้ในเรื่องนั้น
‘ด้วยราชาแมลงปีศาจ 24 ตัว นั่นควรจะทำให้เราได้รับวิญญาณอสูรราชาแมลงปีศาจอีกสักดวง เราต้องการแค่ดวงเดียวเท่านั้น’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองขณะที่ยืนอยู่ต่อหน้าลูกบาศก์โลหะสีทองลูกหนึ่ง
รหัสผ่านของลูกบาศก์โลหะแต่ละลูกนั้นแตกต่างกันออกไป และการจะระบุรหัสผ่านของพวกมันเป็นอะไรที่น่าปวดหัว การจะตบฝ่ามือไปบนผิวของลูกบาศก์ได้ในลำดับที่ถูกต้องนั้นเป็นอะไรที่มีโอกาสน้อยยิ่งกว่าการถูกลอตเตอรี่ซะอีก
แต่หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องพึ่งโชค ขณะที่เขาตรวจดูลูกบาศก์โลหะสีทอง แสงสีม่วงก็ไหลเข้ามาในดวงตาข้างขวาของเขา ม่านตาสีดำของเขากลายเป็นสีม่วง หลังจากนั้นมันก็แบ่งออกเป็น 4 มันกลายเป็นม่านตาสีม่วงที่ประกอบด้วย 4 กลีบ
นั่นคือวิญญาณอสูรที่หานเซิ่นได้รับมาจากการฆ่าเนตรมาร มันมีชื่อว่าผีเสื้อเนตรม่วงและมันก็เป็นวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้า
ถึงแม้มันจะไม่ใช่วิญญาณอสูรสำหรับการต่อสู้ แต่หานเซิ่นก็ยังหลงรักมัน เขาถือว่ามันเป็นเหมือนกับทรัพย์สินที่มีประโยชน์ แม้แต่อาวุธวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้ามันก็เป็นแค่อาวุธที่มีพลังระดับเทพเจ้าเท่านั้น ถึงแม้มันจะทำให้หานเซิ่นแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่มันก็ไร้ประโยชน์เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูระดับเทพเจ้าที่แท้จริง
แต่วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงนั้นต่างออกไป ถึงแม้จะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูระดับเทพเจ้า มันก็ยังเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากๆ
หานเซิ่นจ้องมองไปที่ลูกบาศก์สีทองด้วยดวงตาข้างขวาและกลีบทั้ง 4 ในดวงตาของเขาก็เริ่มหมุนวน มันดูแปลกประหลาดมากๆ ขณะที่กลีบกำลังหมุนนั้นดวงตาข้างขวาของหานเซิ่นก็เห็นในบางสิ่งที่เขาไม่เคยทำได้มาก่อน
มันแตกต่างไปจากแสงเทพของเนตรมาร ดวงตาข้างขวาของหานเซิ่นไม่ได้มีผลในการจำกัดการเคลื่อนไหวศัตรู แต่มันทำให้หานเซิ่นแยกแยะโครงสร้างของสิ่งต่างๆและวิเคราะห์มันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อหานเซิ่นมองไปที่ลูกบาศก์ด้วงดวงตาสีม่วง มันก็ดูเหมือนกับว่าเขากำลังมองดูลำดับการก่อกำเนิดของลูกบาศก์สีทองที่กำลังถูกย้อนกลับ เขาเห็นส่วนประกอบของมันถูกแยกออกไปทีละส่วนจนกระทั่งมันกลายเป็นแค่กองวัตถุดิบ หานเซิ่นเห็นทุกขั้นตอนที่สิ่งต่างๆถูกสร้างขึ้นมา ถ้ามันมีวัตถุดิบแบบเดียวกันอยู่ เขาก็สามารถสร้างของแบบเดียวกันขึ้นมาได้
แต่หานเซิ่นไม่ได้มีแผนที่จะสร้างลูกบาศก์โลหะขึ้นมา ด้วยกระบวนการทั้งหมดถูกคลี่คลายต่อหน้าของเขา หานเซิ่นก็เริ่มจดจำรหัสผ่านที่ถูกใส่ไว้ในลูกบาศก์
หลังจากนั้นเขาก็เรียกวิญญาณอสูรกลับไปและเริ่มใช้ฝ่ามือตบใส่รอยฝ่ามือบนลูกบาศก์
เมื่อฝ่ามือสุดท้ายของหานเซิ่นตบลงบนลูกบาศก์ เขาก็รีบถอยออกไปโดยไม่ลังเล เขาดึงเป่าเอ๋อและตัวกินโลหะเข้ามาใกล้ๆหลังจากนั้นก็เรียกใบเสมาราชาแมลงปีศาจออกมา
ลูกบาศก์สีทองเริ่มเปิดออก และไม่นานฝูงแมลงปีศาจสีทองก็พากันบินออกมา พวกมันแต่ละตัวมีขนาดใหญ่พอๆกับมนุษย์
หานเซิ่นมองไปที่แมลงปีศาจสีทองและสังเกตเห็นว่าพวกมันดูเกือบจะเหมือนกับแมลงปีศาจสีฟ้า ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นสายพันธุ์เดียวกัน
เมื่อได้เห็นแมลงปีศาจพวกนั้น อสูรโลหะสีขาวก็ดูดีใจอย่างมาก มันแค่ไม่ชอบชั้นนอกที่คลุมลูกบาศก์อยู่เท่านั้น พวกแมลงเป็นอะไรที่ค่อนข้างเอร็ดอร่อยสำหรับมัน
ก่อนที่แมลงปีศาจสีทองจะแพร่กระจายออกไป อสูรโลหะสีขาวก็เปิดปากของมันออกและกลืนกินแมลงทั้งฝูงเข้าไปในคำเดียว
“เฮ้! เฮ้! ไหนนายบอกว่าจะเหลือราชาแมลงปีศาจสีทองเอาไว้ให้กับฉันไง แต่นายกลับกินพวกมันทั้งหมดเข้าไป!” หานเซิ่นตะโกนอย่างไม่พอใจ
มอนสเตอร์จอมตะกละกินแมลงทั้งหมดเข้าไป หานเซิ่นใช้ความพยายามอย่างมากในการเปิดลูกบาศก์ แต่เขากลับไม่ได้รางวัลอะไรตอบแทน
ขณะที่หานเซิ่นกำลังเรียกร้องอยู่นั้น อสูรโลหะสีขาวก็เปิดปากและพ่นอะไรบางอย่างออกมา
มันคือคริสตัลแมลงสีทองหลายลูก พวกมันเรืองแสงสีทองอร่ามเหมือนกับอัญมณีที่หายาก ซึ่งพวกมันจะต้องเป็นยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน
นอกจากคริสตัลแมลงสีทองแล้ว มันยังมีแมลงปีศาจสีทองตัวหนึ่งถูกพ่นออกมาด้วยเช่นกัน ร่างกายของมันละลายไปครึ่งหนึ่งและอวัยวะภายในของมันก็ไหลออกมาทั่วร่าง มันดิ้นไปมาอยู่กับพื้นราวกับว่ามันจะขาดใจได้ทุกเมื่อ
“ขอบคุณ” หานเซิ่นรู้สึกอย่างมาก เขารีบใช้มีดเขี้ยวผีสิงฟันใส่ราชาแมลงปีศาจสีทองพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง ‘มอบวิญญาณอสูรให้กับฉัน มอบวิญญาณอสูรให้กับฉัน! ถึงแม้วิญญาณอสูรของราชาแมลงตัวนี้จะเหมือนกับวิญญาณอสูรดวงที่ฉันมีอยู่ แต่มันก็ยังคงเป็นวิญญาณอสูรที่ดี ฉันจะได้มอบมันให้กับภรรยาและลูก พวกมันจะช่วยให้พวกเขาปลอดภัยจากภายอันตรายใดๆ มันจะมีแค่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่เป็นภัยต่อพวกเขา’
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น