Super God Gene 2131-2134
ตอนที่ 2131
ภายในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน นักสู้ 2 คนปรากฏตัวท่ามกลางทะเลทราย คนหนึ่งสวมชุดเกราะสีทอง ขณะที่อีกคนสวมใส่ชุดเกราะสีม่วงขาว รูปร่างของพวกเขาดูคล้ายคลึงกัน
“มันกำลังจะเริ่มแล้ว!” ทุกคนรู้สึกโล่งใจอย่างมาก หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับไผ่เดียวดาย ขุนนางหลายคนกลัวว่าเหตุการณ์แบบเดียวกันอาจจะเกิดขึ้นกับการต่อสู้รอบสุดท้าย
เนตรมารมองหานเซิ่นด้วยความสนใจอย่างมากและถามขึ้นมา
“เผ่าพันธุ์ที่แท้จริงของเจ้าคืออะไรกัน?”
“มนุษย์” หานเซิ่นตอบอย่างสงบนิ่งและจ้องกลับไปที่เนตรมาร
เนตรมารถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดราวกับก้นบึ้งของขุมนรก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคยจากชายคนนี้
“เจ้าเป็นมนุษย์จริงๆอย่างนั้นหรอ? นั่นก็เป็นชื่อที่ดีอยู่”
เนตรมารพึมพำบางอย่าง หานเซิ่นได้ยินที่เนตรมารพูด แต่เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายหมายความว่าอะไรกันแน่
เนตรมารก็ไม่คิดจะอธิบายเช่นกัน เขามองกลับมาที่หานเซิ่นและยิ้ม
“เหรียญของเจ้าเป็นอะไรที่น่าสนุกดี เจ้าจะว่าอะไรไหมถ้าข้าขอดูมันหน่อย?”
“ตามที่เจ้าต้องการ” หานเซิ่นยกมือขวาขึ้นและทำให้เหรียญปรากฏขึ้นในระหว่างนิ้วทั้ง 2 หลังจากนั้นเขาก็ดีดมันออกไปหาเนตรมาร
เนตรมารไม่ได้พยายามหลบหลีกเหรียญที่เข้ามา แต่เขารับเหรียญด้วยฝ่ามือข้างขวาของเขาแทน
เหรียญเข้าไปติดบนฝ่ามือของเนตรมารและร่างกายของเขาก็เริ่มจมลงไปในทราย
“เป็นเหรียญที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้! มันไม่ได้แค่มีความสามารถในการกดศัตรูเท่านั้น แต่มันยังมีความสามารถในการปิดผนึกอีกด้วย ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันยังมีวิชาจีโนที่ข้าไม่รู้จักอยู่ด้วย” เนตรมารยกมือขึ้นมาเพื่อจะดูเหรียญชัดๆ ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจมันอย่างแท้จริง
เนตรมารรู้ว่าแรงกดดันและพลังในการปิดผนึกของเหรียญทรงพลังเช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังปล่อยให้เหรียญมาติดบนตัวเพื่อจะได้มองดูมันอย่างใกล้ชิด
ถ้าเป็นคนอื่นทำอะไรแบบนี้ มันอาจะเป็นอะไรที่เสี่ยง แต่สำหรับเนตรมาร มันดูเหมือนเป็นเรื่องปกติทั่วไป
“เป็นวิชาจีโนที่ประหลาดจริงๆ มันทั้งหนักหน่วง กีดกั้นอากาศ กดดันและปิดผนึกในเวลาเดียวกัน” เนตรมารพึมพำกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆกำมือเพื่อบดขยี้เหรียญนั้น
ผู้ชมที่ดูอยู่ตกตะลึงกับเรื่องนั้น หลังจากที่ดอลลาร์เอาชนะดราก้อนเอทได้ เหรียญก็ถูกเชื่อกันว่าไม่สามารถถูกทำลายได้ แต่มันถูกทำลายอย่างง่ายดายโดยเนตรมาร
“เนตรมารน่ากลัวจริงๆ! แม้แต่เหรียญของดอลลาร์ก็ไม่ได้ผลกับเขา”
“นี่มันน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว เขามีชีวิตอยู่มาเป็นเวลายาวนานเกินไป ชายคนนี้เป็นเหมือนกับเทพเจ้า!”
“เหรียญของดอลลาร์ก็ไม่ได้ผลหรอเนี่ย? ถ้าเป็นแบบนั้นในสายตาของข้า มันก็ดูเหมือนว่าดอลลาร์ไม่มีโอกาสจะชนะการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว”
“เนตรมารน่ากลัวเกินไปจริงๆ”
ท่ามกลางความตกตะลึงที่เนตรมารบดขยี้เหรียญได้อย่างง่ายดาย ทันใดนั้นเนตรมารก็เริ่มเคลื่อนไหว แต่เขาไม่ได้จู่โจมหานเซิ่น เขาโยนเศษเหรียญขึ้นบนอากาศ และทำให้พวกมันลอยตัวต่อหน้าของเขา
หลังจากนั้นเนตรมารก็กระดิกนิ้วของเขา ชิ้นส่วนของเหรียญถูกปกคลุมด้วยแสงสีม่วง และพวกมันก็เริ่มจะแหลกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยยิ่งกว่าเดิม
เหรียญถูกบดขยี้เป็นผุยผงสีทองขณะที่อาบด้วยแสงสีม่วง ผงธุลีสีทองยังคงลอยอยู่ตรงหน้าของเนตรมาร
“เหรียญของเจ้ายังไม่สมบูรณ์แบบ ในชีวิตหนึ่ง ข้าเคยเป็นหนึ่งในดราก้อนมาก่อน ซึ่งในเวลาช่วงเวลานั้นข้าได้เรียนรู้ผนึกมังกรของพวกเขา และข้าก็เคยเป็นหนึ่งในเอมตี้เช่นกัน ข้าจึงได้เรียนรู้ถึงพลังสุญญากาศ และในอีกชีวิตหนึ่งข้าได้เป็นคนของเดสทรอยเยอร์ ข้าจึงได้เรียนรู้วิธีใช้พลังต้องห้าม”
เนตรมารดูเหมือนกำลังพูดกับตัวเอง ขณะที่เขาเคลื่อนไหวนิ้วมือ ผุยผงสีทองก็เริ่มมารวมกันอยู่ที่นิ้วของเขาและก่อตัวกลับไปเป็นรูปร่างเดิม
เหรียญใหม่ถูกสร้างขึ้นมา แต่เหรียญนี้แตกต่างไปจากเหรียญที่หานเซิ่นสร้างขึ้นเล็กน้อย นอกจากบนเหรียญจะมีตัวเลขแล้ว มันยังมีรอยสลักสีม่วงที่ดูคล้ายคลึงกับดอกไม้อยู่ด้วย
เนตรมารยกเหรียญใหม่ขึ้นมา มันดูเหมือนกับผลงานศิลปะ เขายิ้มให้กับมัน
“ดอลลาร์? เจ้าคิดยังไงกับเหรียญนี้?” เนตรมารพูดก่อนที่จะดีดเหรียญไปใส่หานเซิ่น
ผู้ชมทั้งหมดตกตะลึง การแยกส่วนวิชาจีโนของคู่ต่อสู้และทำการปรับแต่งมันท่ามกลางการต่อสู้เป็นสิ่งที่มีแต่เทพเจ้าเท่านั้นที่จะทำได้ แน่นอนว่าเนตรมารอาจจะไม่เห็นว่านี่เป็นการต่อสู้ด้วยซ้ำ และเขาก็แค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเหรียญของดอลลาร์เท่านั้น
“นี่มันมากเกินไปแล้ว! คนอย่างเนตรมารควรจะถูกห้ามจากการเข้าร่วมบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน เผ่าพันธุ์อื่นๆไม่มีทางต่อกรกับเขาได้เลย”
“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง? มันควรจะมีกฎอยู่ และนี่ก็ควรจะเป็นการฝ่าฝืนกฎนั้น”
“ต่อหน้าเนตรมาร มันไม่มีวิชาจีโนไหนที่เป็นความลับ เจ้านั่นเกิดใหม่ในเผ่าพันธุ์ต่างๆ ดังนั้นมันยากจะบอกได้ว่าเขาเรียนรู้วิชาจีโนมามากขนาดไหนแล้ว”
“เขาเป็นเทพเจ้า”
ขณะที่ทุกคนกำลังตกใจกับเรื่องนี้ หานเซิ่นก็มีปฏิกิริยาแบบเดียวกันกับเนตรมาร เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกเหรียญที่เข้ามา ทั้งหมดที่เขาทำก็คือใช้ฝ่ามือรับเหรียญนั้น
ตูม!
เมื่อหานเซิ่นจับเหรียญนั้น พื้นทรายรอบๆก็สั่นสะเทือนและจมลงไปกว่าครึ่งเมตร
เนตรมารยิ้มให้กับหานเซิ่น “นี่อาจจะเป็นเหรียญของเจ้า แต่เจ้าไม่ควรจับมันอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนั้น ตอนนี้มันเป็นของข้าแล้ว”
“ดอลลาร์ใช้อารมณ์มากเกินไป เขาไม่ควรพยายามรับมันกลับมา”
“โอ้ ไม่นะ! ดอลลาร์กำลังถูกแรงกดดันของเหรียญเล่นงานซะเอง! นี่การต่อสู้จะจบลงเพียงเท่านี้อย่างนั้นหรอ?”
“ดูเหมือนพลังของเหรียญจะน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเมื่อถูกปรับแต่งโดยเนตรมาร”
“เนตรมารทรงพลังเกินไป มันไม่มีหวังที่ดอลลาร์จะเอาชนะอะไรแบบนั้นได้”
ทุกคนตกตะลึง แม้แต่หัวหน้าของสวนวิถีนภาก็ดูขื่นขม
“ดูเหมือนพวกเราจะไม่ได้เห็นอะไรมากกว่านี้! คนอย่างเนตรมารไม่ควรมาอยู่ในการต่อสู้ระดับมาร์ควิสจริงๆ”
เนตรมารยังคงยิ้มให้กับหานเซิ่น แต่ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา ผู้ชมที่ดูอยู่เองก็ตกใจเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นดอลลาร์ใช้มือบดขยี้เหรียญที่ถูกปรับแต่งขึ้นมาใหม่ของเนตรมาร
“มันเป็นการปรับแต่งที่น่าสนใจ แต่มันแข็งทื่อเกินไป มันดูเหมือนจะทรงพลังขึ้นก็จริง แต่มันก็ขาดความหมายและความรู้สึกดั้งเดิมไป” หานเซิ่นพูดขณะที่บดขยี้เหรียญในมือ
“โอ้ เจ้าไม่คิดว่ามันดีพออย่างนั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็แสดงให้ข้าดูหน่อยว่าจะหลีกเลี่ยงการทำให้มันดูแข็งทื่อได้ยังไง” เนตรมารพูด
แต่หานเซิ่นไม่ได้ตอบ เขาโยนเหรียญขึ้นไปบนอากาศ หลังจากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวนิ้วมือที่ย้อมด้วยแสงสีทอง
ตอนที่ 2132
นิ้วของหานเซิ่นเป็นเหมือนกับอุกกาบาตที่พุ่งข้ามอวกาศมาสู่เหรียญ หานซิ่นทำแบบเดียวกันกับที่เนตรมารทำก่อนหน้านี้ เขาแยกส่วนเหรียญและรวมเข้าด้วยกันเป็นสิ่งใหม่
เนตรมารประหลาดใจที่เห็นว่าหานเซิ่นสามารถบดขยี้เหรียญที่เขาปรับแต่งขึ้นใหม่เป็นผุยผง และภาพอันน่าตกใจนั้นก็ทำให้ผู้ชมอึ้งไป
“ไม่มีทาง! ดอลลาร์มีพลังแบบนั้นด้วยอย่างนั้นหรอ?”
“จริงหรอเนี่ย? เนตรมารทำบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ และตอนนี้ดอลลาร์ก็ทำแบบเดียวกัน?”
“การต่อสู้ครั้งนี้ดูเหมือนจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งแล้ว”
สิ่งต่างๆเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ผู้ชมจะตามทัน พวกเขาจ้องอย่างไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่หานเซิ่นแยกส่วนวิชาจีโนและเริ่มสร้างมันขึ้นมาใหม่ให้เหมาะสมต่อความต้องการของเขา
นิ้วทั้งหมดของหานเซิ่นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเศษเล็กเศษน้อยของเหรียญก็ค่อยๆผสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเหรียญใหม่
แต่เหรียญที่ประกอบขึ้นมาใหม่ดูต่างไปจากเหรียญที่เนตรมารสร้างขึ้นมา มันดูทองอร่ามและรอยแกะสลักสีม่วงก่อนหน้านี้ก็หายไปจนหมด และยิ่งไปกว่านั้นตัวเลขบนเหรียญก็เปลี่ยนเป็นเลข 3 แทนที่จะเป็นเลขหนึ่ง
ติ๊ง!
เมื่อหานเซิ่นประกอบเหรียญใหม่เสร็จแล้ว เขาก็ดีดมันออกไปหาเนตรมาร แสงสีทองถูกยิงเข้าไปหาเนตรมารด้วยความเร็วสูง
เนตรมารขมวดคิ้วและยกมือขึ้นมารับเหรียญนั้น แต่เมื่อเขาสัมผัสเหรียญในครั้งนี้ เขาก็ถอยหลังไป 4 ก้าวก่อนที่จะหยุดตัวเองเอาไว้ได้ และในทุกก้าวเขาก็ทิ้งรอยเท้าลึกเอาไว้เบื้องหลัง ทรายรอบๆตัวของเขากำลังจมลงไป
“ว้าว! ดอลลาร์ทำมันได้จริงๆด้วย เหรียญนั้นทรงพลังขึ้นมาก ตอนนี้เห็นได้ชัดว่านี่คือวิธีการที่พวกเขาทั้งคู่จะต่อสู้กัน”
“ในวันนี้ข้าได้เรียนรู้อะไรมากมายเลย”
“การต่อสู้ในครั้งนี้อาจจะโด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนระดับมาร์ควิส”
“พวกเขาฝึกวิชาจีโนแบบไหนกันแน่? เรื่องแบบนี้ควรจะมีแค่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่ทำได้”
“นั่นก็ยังขึ้นอยู่กับว่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนนั้นมีพรสวรรค์ในด้านวิชานั้นๆหรือเปล่า ถ้าพวกเขาไม่มี พวกเขาก็จะทำในสิ่งที่ทั้ง 2 คนกำลังทำอยู่ในตอนนี้ไม่ได้”
“ทำไมวิธีการต่อสู้ของพวกเขาถึงได้แตกต่างจากวิธีการต่อสู้ของพวกเรา?”
“นี่คือการต่อสู้ของยอดฝีมือที่แท้จริง”
เนตรมารจับเหรียญเอาไว้ในมือ ถุงมือของเขาบุบเข้าไปจากแรงกระแทกอันหนักหน่วง และการถือเหรียญเอาไว้ในมือก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป เนตรมารไม่ได้พูดหยอกล้ออีกแล้วเช่นกัน เขาทำให้เหรียญลอยอยู่เหนือนิ้วมือและย้อมพวกมันด้วยแสงสีม่วง จนในที่สุดเหรียญก็แตกหัก
หลังจากที่เหรียญถูกแยกส่วนและประกอบขึ้นใหม่ ตัวเลขบนเหรียญก็เพิ่มเป็นเลข 4
เนตรมารขว้างเหรียญกลับไปหาหานเซิ่น และหานเซิ่นก็เอื้อมมือไปรับมันมา แต่เขาไม่ได้ถูกผลักถอยไปด้านหลังเหมือนกับเนตรมาร เขารับเหรียญมาราวกับว่ามันเป็นแค่เหรียญธรรมดาๆที่ไม่ได้มีพลังอะไรเลยสักนิด
หานเซิ่นใช้ความสามารถในการมองเห็นโครงสร้างลำดับในการแยกส่วนเหรียญ แต่เนตรมารใช้วิธีการที่ต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง เนตรมารนั้นพึ่งพาความสามารถของเขาเพื่อรู้สึกและควบคุมพลังในความแม่นยำที่สูง
หานเซิ่นมองทะลุถึงธรรมชาติของเนตรมารและรู้สึกตัวว่าพวกเขาทั้งคู่จริงๆแล้วแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การที่เนตรมารสามารถทำลายพลังของเหรียญด้วยการแยกส่วนนั้นเป็นอะไรที่มหัศจรรย์ ถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่ล้าหลัง แต่นั่นก็เป็นวิธีการที่ทำให้เขาสามารถสร้างเหรียญขึ้นมาใหม่ได้
เนตรมารเกิดใหม่ในหลายๆเผ่าพันธุ์ และเขาก็กลายเป็นระดับเทพเจ้าได้สำเร็จอยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่เขาได้เรียนรู้และแสดงออกมาในตอนนี้เป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถใช้ความรู้ที่สะสมมาแยกส่วนและสร้างเหรียญขึ้นใหม่ได้
แต่ความสามารถของเขาพึ่งพาความรู้ระดับเทพเจ้า มาร์ควิสทั่วๆไปไม่สามารถเข้าใจสิ่งต่างๆได้อย่างลึกซึ้งถึงระดับนั้น ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นจาก ความสามารถเกิดใหม่ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดของเนตรมาร
ขณะที่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่มอบความแข็งแกร่งที่น่าเหลือเชื่อให้กับเนตรมาร แต่หานเซิ่นก็เห็นถึงข้อเสียที่ทุกคนมองไม่เห็น
ซึ่งมันก็คือเรื่องที่เนตรมารไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างลำดับของเหรียญได้จริงๆ เขาแค่ใช้ความรู้และความรู้สึกเพื่อสร้างเหรียญขึ้นมาใหม่เท่านั้น ดังนั้นถึงเขาจะสร้างโครงสร้างลำดับขึ้นมาได้ แต่มันก็ยังขาดความละเอียดอ่อนไป
ถ้าเทคนิคในการสร้างวิชาจีโนขึ้นใหม่ของหานเซิ่นมีความแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ เนตรมารก็จะมีความแม่นยำเพียงแค่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ความแตกต่างของมันอาจจะเล็กน้อยและยากที่จะมองเห็นได้ แต่มันก็ยังคงมีอยู่และนั่นหมายความว่าเนตรมารไม่ได้สมบูรณ์แบบ
ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่รังเกลียดที่จะทำการต่อสู้ด้วยวิธีแบบนี้ ซึ่งความจริงแล้วมันทำให้เขาดีใจด้วยซ้ำ แต่ไม่นานเนตรมารก็รู้ตัวว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาก็ไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นได้
เนตรมารไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นได้ถ้าปราศจากความสามารถในการอ่านโครงสร้างลำดับ ดังนั้นเขาพบว่าตัวเองจำเป็นต้องใช้ความรู้ระดับเทพเจ้าเพื่อปรับแต่งเหรียญทุกครั้งที่เขาสร้างมันขึ้นใหม่ ซึ่งในสายตาของหานเซิ่น มันก็เหมือนกับว่ามียอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนหนึ่งมาช่วยเขาปรับแต่งเหรียญด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นทำให้เขายินดีที่จะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
พวกเขาทั้งคู่ขว้างเหรียญกลับไปกลับมา และในการขว้างแต่ละครั้งตัวเลขที่แสดงบนเหรียญก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งในทุกครั้งที่ตัวเลขเพิ่มขึ้น พลังในการขว้างก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยเช่นกัน
ทุกครั้งที่เนตรมารรับเหรียญที่ถูกขว้างมา พื้นรอบๆเท้าของเขาก็จะสั่นสะเทือน แต่ทางด้านหานเซิ่นสามารถรับเหรียญได้อย่างง่ายดายราวกับว่าเขาไม่ได้รับผลจากเหรียญเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นบอกเนตรมารว่าไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของเหรียญ และถึงแม้เขาจะสร้างเหรียญขึ้นมาใหม่ได้ มันก็ขาดหัวใจที่แท้จริงของวิชาไป เนตรมารสามารถใช้เหรียญเพื่อโจมตีใส่คู่ต่อสู้ได้ก็จริง แต่เขาไม่สามารถใช้มันได้ดีอย่างที่คิด
ถึงแม้เขาจะสร้างเหรียญที่มีแรงกดดันอันหนักหน่วงแบบเดียวกับหานเซิ่นได้ แต่มันไม่ได้เหมือนกับเหรียญที่หานเซิ่นสร้างขึ้นซะทีเดียว เพราะเหรียญของหานเซิ่นสามารถสะสมพลังได้
ตูม!
เมื่อเนตรมารรับเหรียญครั้งต่อไป ตัวเลขบนเหรียญคือเลข 10 สีม่วงบนชุดเกราะของเขาเข้มขึ้น แต่มันดูเหมือนกับว่าสีม่วงกำลังดิ้นรนต่อน้ำหนักมหาศาล
ในตอนนี้ผู้ชมทุกคนอึ้งไป เมื่อเห็นว่าเนตรมารกำลังถูกไล่ต้อนโดยดอลลาร์
“ไม่ว่าเจ้าจะพยายามลอกเลียนผลงานของข้าสักกี่ครั้ง เจ้าก็ควรจะรู้ว่าเหรียญนั่นยังเป็นของข้าอยู่ดี” หานเซิ่นพูดขณะที่จ้องไปยังคู่ต่อสู้ของเขา
เนตรมารมองกลับมาที่หานเซิ่น ดอกไม้กระดูกสีม่วงบนชุดเกราะของเขาเริ่มจะบานออกราวกับดอกไม้จริงๆ พลังที่เข้มขึ้นและแปรปรวนยิ่งกว่าเดิมเริ่มปะทุขึ้นมาจากร่างกายของเขา
“น่าสนใจ” จู่ๆเนตรมารก็ยิ้มออกมาอย่างน่าขนลุก มือของเขากำเหรียญเอาไว้แน่น และภายในแสงสีม่วง เหรียญก็ถูกบดขยี้จนกลายเป็นผุยผง ผงธุลีสีทองร่วงหล่นลงจากนิ้วมือของเขา
“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำเกินไป” เนตรมารมองตรงไปที่หานเซิ่น ขณะที่ดอกไม้กระดูกบนชุดเกราะของเขายังคงบานออกเรื่อยๆ
ตอนที่ 2133
เมื่อดอกไม้บนชุดเกราะของเนตรมารบานออก พลังของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นจนน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ตอนนี้เขาดูน่ากลัวยิ่งกว่าร่างมังกรทองของดราก้อนเอทซะอีก
“ดูเหมือนความรู้และการควบคุมของเจ้าจะเหนือกว่าข้า แต่แล้วมันจะยังไง ต่อหน้าพละกำลังที่เหนือชั้น เจ้าก็ไม่มีทางจะก้าวข้ามได้ สุดท้ายแล้วเจ้าจะพ่ายแพ้อยู่ดี” เนตรมารมองหานเซิ่นอย่างเลือดเย็น
“อะไรเนี่ย? นี่เจ้ายอมรับว่าตัวเองด้อยวิชา เลยอยากจะขอเปลี่ยนมาชกต่อยธรรมดา ๆ แทน?”
“พละกำลังและวิชาการต่อสู้เป็น 2 สิ่งที่ไม่เคยแยกออกจากกันได้ ความรู้และความสามารถในการควบคุมพลังของเจ้าน่าประทับใจก็จริง แต่เจ้าจะประยุกต์ใช้มันในการต่อสู้จริงๆได้หรือเปล่า? เพียงแค่คำพูดนั้นไร้ประโยชน์” เนตรมารพูดขณะที่พลังของเขายังคงเพิ่มขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเข้ามาลองดูด้วยตัวเอง” หานเซิ่นพูด
“ฮ่า นี่เป็นสิ่งที่ข้ากำลังต้องการอยู่เลย” ร่างกายของเนตรมารพุ่งเข้าหาหานเซิ่นราวกับเงาสีม่วง
ตอนนี้ร่างกายของเนตรมารเปลี่ยนเป็นเครื่องจักรสังหาร ดอกไม้สีม่วงเริ่มปรากฏบนแขนขาของเขา พวกมันโอนเอนราวกับว่ามีชีวิตจริงๆ และจุดประสงค์อย่างเดียวของพวกมันก็คือดึงดูดความสนใจของหานเซิ่น
หานเซิ่นรู้ว่าเนตรมารไม่ใช่คนที่เขาจะประมาทได้ ดังนั้นเขาจึงใช้พลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับเนตรมารอย่างจริงจัง และเขาก็มีแผนที่จะใช้ท่าตบขั้นสุดยอดด้วยเช่นกัน
วิชาการต่อสู้ของเนตรมารลื่นไหลอย่างไม่น่าเชื่อ พวกมันสับเปลี่ยนกันไปมาอย่างต่อเนื่อง เนตรมารมีเทคนิคมากมายจากทั้งของดราก้อน บุดด้า เดสทรอยเยอร์และอื่นอีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถใช้ทุกวิชาได้อย่างเชี่ยวชาญ และในขณะที่แต่ละวิชามีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เขาก็สามารถรวมพวกมันเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
ทุกเทคนิคถูกใช้อย่างงดงาม และทุกการโจมตีจะตามมาด้วยการเปลี่ยนสไตล์ที่คาดไม่ถึง
ยอดฝีมือที่ชมการต่อสู้อยู่ต่างก็สับสนกับสิ่งที่ได้เห็น โดยเฉพาะอย่างนิ่งคนที่รู้สึกว่าพวกเขากำลังได้เห็นเทคนิคในตำนานของเผ่าพันธุ์ตัวเอง
ส่วนทางด้านหานเซิ่นต่อสู้ในวิธีที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง วิชาการต่อสู้ของเขาดูเรียบง่าย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็มีความลึกซึ้งที่คนนอกไม่อาจจะเข้าใจได้
หลังจากที่มองดูท่วงท่าของเขาหลายต่อหลายท่า ผู้ชมก็เริ่มเข้าใจว่าเขากำลังใช้การเตะและต่อยในรูปแบบไหน
มันไม่สำคัญว่าเนตรมารจะเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีมากสักแค่ไหน เมื่อหานเซิ่นสัมผัสมัน พลังของเนตรมารก็จะแหลกสลายเป็นผุยผง ท่าตบขั้นสุดยอดสามารถทำลายทุกโครงสร้างลำดับที่มันได้สัมผัส
ทันใดนั้นร่างกายของเนตรมารก็แยกออกเป็น 2 และทั้ง 2 ร่างก็จู่โจมหานเซิ่นพร้อมๆกัน ซึ่งมันไม่ได้เป็นแค่ภาพมายาเช่นกัน ทั้ง 2 ร่างเป็นร่างของเนตรมารจริงๆ และพวกมันทั้ง 2 ก็แข็งแกร่งเท่ากัน
“วิชาด็อพเพิลเก็งเงอร์! นั่นเป็นเทคนิคที่มีเพียงแค่เดสทรอยเยอร์เท่านั้นที่เรียนรู้มันได้?” ทุกคนแปลกใจกับสิ่งที่เห็น
ในวินาทีต่อมา พวกเขาก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิม เมื่อร่างทั้ง 2 ของเนตรมารแยกออกอีกครั้ง ตอนนี้มันมีเนตรมารอยู่ถึง 4 คนในสนามประลอง
วิชาด็อพเพิลเก็งเงอร์เป็นเทคนิคที่สามารถแย่งร่างของคนๆหนึ่งออกเป็น 3 เนื่องจากเผ่าเดสทรอยเยอร์มี 3 หน้าและ 6 แขน
แต่เนตรมารไม่ใช่เดสทรอยเยอร์ เขาไม่ได้มี 3 หน้าและ 6 แขน ดังนั้นเขาจึงสามารถแยกร่างออกได้ถึง 4 ร่าง นั่นเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว
แต่หานเซิ่นยังไม่ได้ตอบสนองด้วยวิชาพิเศษอะไร ถึงจะตกอยู่ในวงล้อมของคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งถึง 4 คน แต่หานเซิ่นก็ยังคงสงบจิตใจได้ เนตรมารกดดันหานเซิ่นจากทุกทิศทางด้วยเทคนิคที่แตกต่างกันออกไป ขุนนางที่ดูการต่อสู้อยู่ต่างก็สับสนถึงสิ่งที่ได้เห็น แต่มีอย่างหนึ่งที่พวกเขาสามารถเข้าใจได้ ซึ่งมันก็คือเรื่องที่เนตรมารยังไม่ได้เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ
“ดอลลาร์น่าสะพรึงกลัวจริงๆ”
“เจ้าจำไม่ได้หรือว่าดอลลาร์คือคนที่มองทะลุวิชาต่างๆน่ะ แม้แต่พลังพิชิตมารของดราก้อนก็ไม่ได้ผลกับเขา”
“เขาแข็งแกร่งจริงๆ มนุษย์นี่มาจากไหนกันแน่? นี่พวกเขาจะไม่น่ากลัวเกินไปอย่างนั้นหรอ? อย่าบอกนะว่ามนุษย์ทุกคนเป็นแบบนี้น่ะ?”
“ไม่มีทาง ถ้ามนุษย์ทุกคนแข็งแกร่งขนาดนี้ พวกเขาจะไม่มีชื่อเสียงได้ยังไงกัน? ข้าเชื่อว่าดอลลาร์นั้นต้องเป็นยอดฝีมือเผ่ามนุษย์คนแรกในรอบหลายล้านปี”
“ดอลลาร์ฝึกวิชาจีโนแบบไหนกันแน่? โดยปกติแล้วนักสู้คนหนึ่งจะมีธาตุที่เป็นจุดอ่อนของตัวเองอยู่ แต่นี่มันไม่สำคัญว่าคู่ต่อสู้จะใช้วิชาจีโนแบบไหน เขาก็ทำลายมันได้ในชั่วพริบตา นี่มันน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว”
ในปราสาทนภา กระเรียนพันขนและคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึง ยวิ๋นซู่อีดึงแขนของยวิ๋นฉางคงและถาม
“ท่านพ่อ ดอลลาร์กำลังใช้วิชาอะไรกันแน่? ทำไมวิชาทั้งหมดที่เนตรมารใช้ถึงไร้ผล?”
“พ่อเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน” ยวิ๋นฉางคงส่ายหัวของเขา
เมื่อได้ยินอย่างนั้นพี่น้องยวิ๋นและกระเรียนพันขนก็เบิกตากว้าง ถึงแม้ดอลลาร์จะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขาก็เป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เขาทำนั้นแม้แต่ราชันอย่างยวิ๋นฉางคงก็ไม่สามารถเข้าใจได้ ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่น่าตกใจอย่างมาก
เนตรมารขมวดคิ้วขณะที่เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้น เขารู้ว่าพลังของตัวเองเหนือกว่าหานเซิ่นมาก แต่ทุกครั้งที่พลังของเขาเผชิญหน้ากับมนุษย์คนนี้ พลังของเขาก็จะแตกสลาย ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ
“นี่เขาแยกส่วนพลังของคู่ต่อสู้ในระหว่างที่ต่อสู้กันจริงๆ?”
เนตรมารเริ่มคิดว่าดอลลาร์เป็นสัตว์ประหลาดจากสมัยดึกดําบรรพ์ที่ผ่านการชีวิตมาอย่างยาวนานเช่นเดียวกับตัวเอง สำหรับเขาแล้วมันไม่มีเหตุผลอื่นที่จะมาอธิบายถึงความสามารถของหานเซิ่นได้
ถึงแม้เนตรมารจะมีความสามารถในการแยกส่วนพลังเหมือนกัน แต่เขาไม่สามารถใช้มันในการต่อสู้จริงๆได้ เนื่องจากเขาจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อต้องตรวจสอบพวกมันก่อน
ปัง!
หานเซิ่นชกหนึ่งในร่างแยกของเนตรมาร และร่างกายนั้นก็สลายกลายเป็นผุยผง
การคาดการณ์ของศาสตร์ตงเสวียน และการเคลื่อนไหวของวิชาหมากล้อมสวรรค์ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ตอนนี้หานเซิ่นคือคนที่กำลังควบคุมการต่อสู้
ทันใดนั้นเนตรมารก็ถอยห่างออกไปในทันที และร่างด็อพเพิลเก็งเงอร์ก็กลับมาสู่ร่างหลักของเขา ขณะที่ผู้คนกำลังคาดเดาว่าเนตรมารจะทำอะไรต่อไป หน้าผากของเขาก็เริ่มเปิดออก ดวงตาที่ 3 ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา
ยวิ๋นฉางคงและเผ่านภาทุกคนกรีดร้องด้วยความตกใจ
“ดวงตานภา! เนตรมารเกิดใหม่เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์นภาหรอเนี่ย!”
“นั่นอธิบายว่าทำไมข้าถึงไม่เห็นเนตรมารทั้ง 4 ของเนตรมาร พวกมันอยู่ในดวงตานภาบนหน้าผากของเขานี่เอง”
“ว้าว! เขากำเนิดใหม่เป็นหนึ่งในเผ่านภา นั่นหมายความว่าเนตรมารไม่ได้ต่อสู้ด้วยพลังที่แท้จริง สำหรับเผ่านภา การเปิดดวงตาที่ 3 หมายความว่าการต่อสู้มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น”
“ดูเหมือนว่าเนตรมารจะโกรธขึ้นมาแล้ว”
“ดอลลาร์จะต่อกรกับเนตรมารที่เปิดดวงตานภาได้หรือเปล่านะ?”
หานเซิ่นมองดวงตาที่ 3 ของเนตรมาร มันดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก และด้วยเหตุผลบางอย่างตอนนี้เมื่อรับรู้ว่าเนตรมารเป็นหนึ่งในเผ่านภา สัมผัสอันคุ้นเคยที่เขารู้สึกก่อนหน้านี้ก็เพิ่มสูงขึ้น
“ต่อหน้าพลังที่แท้จริง วิชาของเจ้าก็ไม่มีความหมายอะไร”
เมื่อเนตรมารเปิดดวงตานภา พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แสงสีม่วงในดวงตานภาของเขาลุกโชติช่วงและส่งต่อไปสู่ดอกไม้สีม่วงทั่วชุดเกราะของเขา เปลวไฟห่อหุ้มทั้งร่างกายของเนตรมาร
ตอนที่ 2134
เมื่อเห็นเนตรมารถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟสีม่วง หานเซิ่นก็ขมวดคิ้ว ในตอนที่ชาวนภาเปิดดวงตานภาของพวกเขานั้น ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จะกระโดดขึ้นไปหนึ่งขั้น ซึ่งธรรมดาพลังของเนตรมารก็อยู่เหนือระดับมาร์ควิสไปมากแล้ว และตอนนี้เมื่อดวงตานภาเปิดออก พลังของเขาก็เทียบได้กับดยุกที่แข็งแกร่งที่สุด
มันยากที่จะบอกได้ว่ามาร์ควิสคนหนึ่งมีพลังที่ยิ่งใหญ่แบบนั้นได้ยังไง
ผู้ชมมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเนตรมารอีกต่อไป ทั้งหมดที่พวกเขาสัมผัสได้ก็คือเสียงเท่านั้น ร่างกายของเนตรมารหายลับไปจากตำแหน่งนั้นและไปปรากฏตัวตรงหน้าหานเซิ่นในชั่วพริบตา
เนตรมารเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่มาร์ควิสไหนจะทำได้ และมันก็ว่องไวเกินกว่าที่ผู้ชมจะมองตามได้ทัน
เมื่อเนตรมารเริ่มเคลื่อนไหว หานเซิ่นก็เคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน เขาชกหมัดออกไปข้างหน้า และเมื่อเนตรมารมาปรากฏตัวตรงหน้าของเขา หมัดของหานเซิ่นก็ปะทะเข้ากับพลังที่คู่ต่อสู้เตรียมตัวจะปลดปล่อยออกมา
หานเซิ่นชกหมัดใส่ดอกบัวสีม่วงและสลายมันกลายเป็นผุยผง
แต่ถุงมือของหานเซิ่นก็แตกกระจายและมีเลือดไหลออกมาจากผิวหนังของเขา
ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เนตรมารขมวดคิ้ว เขาประหลาดใจที่หานเซิ่นสามารถสลายพลังของเขาได้ ทั้งๆที่ตอนนี้เขามีพลังมหาศาล
พลังของเนตรมารในตอนนี้เหนือกว่าหานเซิ่นมาก แต่ท่าตบขั้นสุดยอดเพียงแค่จำเป็นต้องทำลายจุดเล็กน้อยจุดหนึ่งเพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่จะนำไปสู่การพังทลายของโครงสร้างลำดับ ดังนั้นนอกซะจากพลังของหานเซิ่นจะไม่เพียงพอในการทำลายจุดอ่อนของโครงสร้างลำดับนั้นๆ มันก็ไม่มีเหตุผลที่ท่าตบขั้นสุดยอดจะพลาด อย่างน้อยๆตอนนี้หานเซิ่นก็สามารถทำลายโครงสร้างลำดับได้อยู่
แต่สิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับหานเซิ่นก็คือความเร็วของเนตรมาร เพราะแม้แต่หานเซิ่นเองก็ไม่สามารถมองตามการเคลื่อนไหวของเนตรมารได้ทัน เขาจำเป็นต้องใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อคาดเดาตำแหน่งที่เนตรมารจะปรากฏตัว และใช้หมากล้อมสวรรค์เพื่อโต้กลับการโจมตีของอีกฝ่าย
ถ้าหานเซิ่นรอให้เนตรมารเคลื่อนไหวก่อนที่จะตอบสนองล่ะก็ มันจะสายเกินไปในการป้องกัน เนตรมารเคลื่อนไหวรอบๆตัวหานเซิ่นราวกับภูตผี ขณะที่ดอกไม้สีม่วงแว็บวับอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่หานเซิ่นชกใส่ ดอกไม้สีม่วงดอกหนึ่งก็จะสลายไป เหล่าผู้ชมที่ดูการต่อสู้อยู่พบว่ามันยากที่จะเข้าใจได้ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แน่นอนว่าหลายๆคนสังเกตเห็นว่าเนตรมารเคลื่อนไหวรวดเร็วเกินกว่าที่ควรจะเป็นไปได้ แต่นอกจากเรื่องนั้นแล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถบอกอะไรเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างดอลลาร์และเนตรมารได้เลย
“ท่านพ่อ นี่มันมีประโยชน์อะไรด้วยหรอที่พวกเขาต่อสู้กันรวดเร็วถึงขนาดนี้?” ยวิ๋นซู่อีถามด้วยความสับสน
ยวิ๋นฉางคงถอนหายใจและพูด “ถ้าไผ่เดียวดายปรากฏตัวในการต่อสู้ เขาก็อาจจะเอาชนะดอลลาร์ไม่ได้อยู่ดี”
พี่น้องยวิ๋นและคนอื่นรู้สึกตกใจ เพราะไผ่เดียวดายเป็นเหมือนกับเทพเจ้าสำหรับพวกเขา
ยวิ๋นฉางคงพูดต่อ “ความเร็วและพลังของดอลลาร์ด้อยกว่าเนตรมาร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังป้องกันตัวเองได้ และมันก็ไม่ใช่ว่าเขากำลังถูกบดขยี้ แค่ความจริงในเรื่องนี้ก็ทำให้เขาเป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
“ความเร็วและพลังของเขาด้อยกว่าเนตรมารอย่างนั้นหรอ? ลูกมองตามไม่ทัน ลูกเลยสันนิษฐานไปว่าพวกเขาทัดเทียมกัน” ยวิ๋นซู่อีพูดด้วยความสับสน
“ดูผิวเผินมันเหมือนจะเป็นอย่างนั้น แต่ความจริงแล้วดอลลาร์ยังเทียบชั้นกับความเร็วของเนตรมารไม่ได้ และที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นพลังของเขาก็ด้อยกว่าเช่นกัน” ยวิ๋นฉางคงพูด
“ถ้าอย่างนั้นทำไมมันถึงดูเหมือนกับว่าพวกเขาสูสีกันล่ะ?” ยวิ๋นซู่อีถาม
“นั่นคือสิ่งที่ทำให้ดอลลาร์น่าทึ่ง” ยวิ๋นฉางคงหยุดไปชั่วครู่
“ถึงแม้ลูกจะมองไม่เห็นมัน เนื่องจากความเร็วของการต่อสู้ แต่ดอลลาร์เคลื่อนไหว ก่อนที่เนตรมารจะโจมตี มันดูเหมือนกับว่าเขารู้ว่าเนตรมารจะทำอะไร ก่อนที่อีกฝ่ายจะเคลื่อนไหวซะอีก เขาจะโจมตีออกไปในตำแหน่งที่เนตรมารจะเคลื่อนที่ไป นั่นคือเหตุผลที่การต่อสู้เป็นไปอย่างสูสี”
พี่น้องยวิ๋นและคนอื่นๆหันความสนใจกลับไปที่การต่อสู้ และพยายามทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่กระเรียนพันขนเองก็ตกตะลึงเช่นเดียวกับคนอื่น
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่หาได้ในตำราไร้อักษรหรอกหรอ? หรือว่าดอลลาร์จะเป็นหนึ่งในชาวนภาที่ฝึกตำราไร้อักษร?”
“ไม่ใช่ เขาไม่ได้ใช้ตำราไร้อักษร ถึงแม้มันจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่ แต่พวกมันไม่เหมือนกัน” ยวิ๋นฉางคงส่ายหัว
“ถึงแม้ดอลลาร์จะคาดเดาการเคลื่อนไหวของเนตรมารได้ แต่เขารักษาความสมดุลของการต่อสู้ได้ยังไง ถ้าพลังของเขาด้อยกว่า?” ยวิ๋นซู่ซางไม่เข้าใจในเรื่องนี้
“ต้องขอยอมรับว่าข้าเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน แต่ดอลลาร์ต้องมีวิชาบางอย่างที่ใช้ต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง” ยวิ๋นฉางคงพูด
ทุกเผ่าพันธุ์พยายามอย่างเต็มที่ที่จะวิเคราะห์การต่อสู้ระหว่างดอลลาร์และเนตรมาร ในตอนแรกพวกเขาแค่ต้องการวิจัยพลังเหรียญเท่านั้น แต่ตอนนี้ความสามารถที่ดอลลาร์แสดงออกมานั้นมันเหนือกว่าที่พวกเขาคิดว่าเอาไว้ในตอนแรก
แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่ดูการต่อสู้อยู่ก็รู้สึกหลงใหลในการต่อสู้นี้
การต่อสู้ด้วยพละกำลังล้วนๆจะน่าสนใจเฉพาะผู้ชมทั่วๆไป แต่การใช้เทคนิคที่ล้ำลึกในการต่อสู้เป็นบางสิ่งที่แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็อยากจะเห็น
ม่านตาทั้ง 4 ในดวงตานภาของเนตรมารส่องสว่างขึ้นมา และความเร็วกับพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก ทำให้หานเซิ่นรู้สึกลำบากในการตามพลังและความเร็วของคู่ต่อสู้
ท่าตบขั้นสุดยอดนั้นทรงพลัง ศาสตร์ตงเสวียนกับหมากล้อมสวรรค์เองก็เช่นกัน แต่เมื่อความต่างระหว่างความแข็งแกร่งมีมากเกินไป ประสิทธิภาพของพวกมันก็ลดลง
แต่ทว่าหานเซิ่นยังคงสงบนิ่ง ถึงแม้บาดแผลบนหมัดของเขาจะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หมัดของเขาบาดเจ็บหนักถึงขนาดที่กระดูกเผยออกมาให้เห็นผ่านผิวหนังที่ฉีกขาด ซึ่งความเสียหายที่เขาได้รับเกิดจากการที่เขาทำลายโครงสร้างลำดับของคู่ต่อสู้
มันเหมือนกับการดึงสายเบ็ด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันสิ่งที่เรียวและแข็งแบบนั้นโดยไม่ทำร้ายมือตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นจิตใจของหานเซิ่นก็ยังไม่สั่นคลอน
ภายใต้ภัยคุกคามจากเนตรมารที่เพิ่มสูงขึ้น หานเซิ่นก็ใช้งานศาสตร์ตงเสวียนเกิดขีดจำกัด และแรงกดดันนี้ก็ส่งผลให้ศาสตร์ตงเสวียนของเขาไปถึงระดับมาร์ควิส
เมื่อออร่าศาสตร์ตงเสวียนของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง กาลเวลาเองก็กลายเป็นสิ่งที่สามารถเห็นได้
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่หานเซิ่นสามารถเห็นการเวลา ไม่ใช่แค่รู้สึกถึงมัน
ก่อนหน้านี้หานเซิ่นเห็นแค่การเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ตอนนี้เขากำลังเห็นไทม์ไลน์
ในสายตาของคนปกติ คนหนึ่งคนกำลังเดินอยู่ มันก็เป็นแค่คนหนึ่งคน แต่ในสายตาของหานเซิ่น คนหนึ่งคนที่กำลังเดินอยู่ปรากฏเป็นภาพเงาของคนๆนั้นเดินต่อแถวติดๆกันไปเป็นทางยาว
เวลาหนึ่งวินาทีก่อนหน้า 2 วินาทีก่อนหน้า 3 วินาทีก่อนหน้า ไทม์ไลน์ขยายออกแบบ 3 มิติ และทำให้หานเซิ่นมองเห็นตัวเลือกที่เขาไม่เคยคำนึงถึงก่อนหน้านี้
ขณะที่ศาสตร์ตงเสวียนกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลง ไทม์ไลน์ที่เขามองเห็นก็ขยายออกไปในทุกทิศทาง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น