Super God Gene 2127-2130

ตอนที่ 2127

 

ไผ่เดียวดายไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแค่เอื้อมมือไปหาดาบหยกของเขา


 


ไม่มีใครรู้ว่าเนตรมารจะมาเกิดใหม่เป็นคนเผ่านภา และมันก็ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะปลอมตัวเพื่อแอบเข้ามาในปราสาทนภาแบบนี้


 


ไผ่เดียวดายไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะใครกล้าแอบเข้ามาในปราสาทเหมือนกับชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้ เพราะแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ยากจะฝ่าเข้ามาในปราสาทนภาได้


 


เมื่อไผ่เดียวดายเปิดประตูเข้ามา เขาก็รู้สึกว่าตัวเลือกของเขาหายไปทันที และทางเลือกเดียวของเขาก็คือต่อสู้กับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า


 


แต่ที่นี่คือปราสาทนภา ถ้าพวกเขาต่อสู้กันไม่ว่าไผ่เดียวดายจะชนะหรือแพ้ ผู้คนของปราสาทนภาก็คงจะรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แบบนั้นไผ่เดียวดายก็ไม่คิดว่าเนตรมารจะหนีรอดออกไปจากปราสาทนภาได้


 


ตอนนี้เนตรมารเป็นเพียงแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง และถึงจิตใจของเขาจะอยู่ในระดับเทพเจ้า แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหนีออกจากปราสาทนภาโดยไม่ถูกสังเกตเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่กับเขาด้วย


 


ไผ่เดียวดายแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเนตรมารจะทำอะไรที่บ้าระห่ำแบบนี้ มันยากที่จะเชื่อได้ว่าเขาจะแอบเข้ามาในปราสาทนภาเพียงเพื่อจะประลองกับไผ่เดียวดาย


 


แน่นอนว่ามันไม่มีทางที่ไผ่เดียวดายจะรู้ได้ว่าเนตรมารต้องการอะไร แต่นั่นไม่เป็นไร เพราะถ้าเขาเอาชนะเนตรมารได้ ทุกอย่างก็จะกระจ่างแจ้งออกมา


 


ไผ่เดียวดายไม่ได้ใช้ดาบหยกในการฝึกฝน มันไม่ปลดปล่อยแสงระยิบระยับหรือลมปราณดาบออกมา แต่แรงกดดันที่มันปลดปล่อยออกมาก็มากพอที่จะนำพลังงานที่สงบไปสู่เนตรมาร


 


เนตรมารเพียงแค่ยืนขึ้นโดยไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เขามองตรงไปที่ดวงตาของไผ่เดียวดาย


 


พวกเขาทั้งคู่ไม่เคลื่อนไหว และมันก็ไม่มีการต่อสู้ที่มองเห็นได้เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา พวกเขาทั้งคู่แค่จ้องหน้ากัน


 


เมื่อเวลาผ่านไป บ้านไม้ไผ่ก็ดูเหมือนกับว่าถูกแช่แข็งในการเวลา เนตรมารและไผ่เดียวดายยืนนิ่งอย่างเงียบสงบราวกับก้อนหิน


 


พวกเขาสังเกตกันและกันอย่างละเอียดโดยรอคอยช่องโหว่เพียงแค่เล็กน้อย แต่ยิ่งเวลาผ่านไป พวกเขาก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถพ่ายแพ้ให้กับอีกฝ่ายหนึ่งได้ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าการโจมตีที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาในครั้งแรกจะเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขาเช่นกัน มันจะไม่มีโอกาสครั้งที่ 2


 


ด้วยเหตุนั้นจึงไม่มีฝ่ายไหนเคลื่อนไหว และมันก็ไม่มีฝ่ายไหนที่พบโอกาสที่พวกเขากำลังมองหาอยู่


 


“เนตรมาร ข้าหิวแล้ว” เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเนตรมารพูดออกมาพร้อมกับดึงแขนของเขา


 


แต่หลังจากการดึงนั้น สถานการณ์ที่ถูกแช่แข็งก็เปลี่ยนไป


 


การต่อสู้ของเนตรมารและไผ่เดียวดายเป็นอะไรที่สูสี ความผิดพลาดเพียงแค่นิดเดียวก็จะนำไปสู่ความพ่ายแพ้


 


เด็กผู้หญิงดึงแขนของเนตรมาร แต่เนตรมารทำให้แน่ใจว่าตัวเขาจะไม่ถูกรบกวน แต่โชคร้ายสำหรับเขาที่มันสร้างความผันผวนเล็กๆในพลังชีวิตของเขา ไผ่เดียวดายยกดาบหยกของเขาขึ้นและเทเลพอร์ตไปตรงหน้าเนตรมาร


 


มันเป็นดาบที่ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้ เนตรมารทำพลาด และเขาก็รู้ตัวว่าไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีที่เข้ามาได้ เขากำลังจะพ่ายแพ้และมันก็ไม่มีอะไรที่เขาจะทำเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่น่าเศร้าได้


 


แต่ในวินาทีต่อมา เนตรมารก็ดึงเด็กผู้หญิงเข้ามาตรงหน้าดาบของไผ่เดียวดาย


 


มันเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์ ดาบของไผ่เดียวดายสามารถตัดร่างของเด็กผู้หญิงก่อนที่จะตัดร่างของเนตรมารไปด้วย


 


แต่ถึงอย่างนั้นดาบของไผ่เดียวดายก็หยุดชะงักไป เขาไม่ใช้ดาบตัดผ่านร่างของเด็กผู้หญิง เขาดึงดาบกลับและจับตัวของเด็กผู้หญิงคนนั้น


 


ในจังหวะนั้นเนตรมารพุ่งตรงเข้าหาไผ่เดียวดายเพื่อคว้าหัวใจของเขา


 


ไผ่เดียวดายทำพลาดเช่นเดียวกับเนตรมารเนื่องจากยั้งมือเอาไว้ ทำให้ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาถูกสับเปลี่ยนกัน การโจมตีที่กำลังเข้ามาไม่ใช่สิ่งที่ไผ่เดียวดายจะป้องกันได้ ตอนนี้ไผ่เดียวดายกำลังเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ซะเอง


 


แต่ดวงตาของไผ่เดียวดายยังคงกระจ่างใส ดวงตานภานภาบนหน้าผากของเขาเปิดออกและเรืองแสงสีแดงออกมา หลังจากนั้นพละกำลังและพลังของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก


 


“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าก็เป็นชาวนภาเช่นกัน?”


เนตรมารยิ้มอย่างวิกลจริต ดวงตาดวงที่ 3 ของเขาเปิดออกเช่นกัน แต่ภายในดวงตานภาของเขามีรูม่านตาสีม่วง 4 รู พวกมันดูเหมือนกับดอกไม้น้อยๆ


 


เมื่อเนตรมารเปิดดวงตาที่ 3 ของตัวเอง ไผ่เดียวดายก็ไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน เขาแค่ยกดาบหยกขึ้นมา


 


แต่ในจังหวะนั้นเด็กผู้หญิงที่ไผ่เดียวดายคว้าตัวมาก็ยกมือของเธอขึ้น มือของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและเธอก็ตบฝ่ามือใส่อกของไผ่เดียวดาย ในขณะเดียวกัน 4 เนตรมารสีม่วงของเนตรมารก็เรืองแสงขึ้นมา


 


ไผ่เดียวดายโยนเด็กผู้หญิงออกไปและใช้ดาบหยกป้องกันมือของเนตรมารเอาไว้ แต่มืออีกข้างของเนตรมารเข้ามาสัมผัสที่หัวของเขาเรียบร้อยแล้ว พลังนั้นพรั่งพรูเข้าไปในสมองของไผ่เดียวดายราวกับสายฟ้า


 


ไผ่เดียวดายมองไปที่คู่ต่อสู้ด้วยสายตาที่เย็นชา ขณะที่เนตรมารก็จ้องกลับไปที่ไผ่เดียวดายด้วย 4 เนตรมาร ดวงตาสีม่วงที่ดูเหมือนกับดอกไม้ทั้ง 4 เริ่มจะหมุน หลังจากนั้นพลังของ 4 เนตรมารก็บุกเข้าไปในดวงตานภาของไผ่เดียวดาย


 


“ถึงแม้จะประสบกับฝันร้ายมา แต่เจ้าก็ยังไม่เรียนรู้ถึงความโหดเหี้ยม เจ้าทำให้ตัวเองพ่ายแพ้เอง” เนตรมารยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ขณะที่ดวงตาสีแดงของไผ่เดียวดายเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง ไม่นานดวงตาสีแดงก็กลายเป็นดวงตาที่มีรูม่านสีม่วงทั้ง 4 เหมือนกับของเนตรมาร


 


ร่างกายของเนตรมารล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น และเหลือเพียงแค่ไผ่เดียวดายที่ยังยืนอยู่ แต่ตอนนี้ดวงตานภาของเขามีรูม่านตาสีม่วงที่ดูเหมือนกับดอกไม้ 4 ดอก


 


ไผ่เดียวดายปิดดวงตานภาของเขาและมองไปที่ร่างของเนตรมาร เขาพูดออกมาอย่างเลือดเย็น


“มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย เขาแข็งแกร่ง แต่เขากลับพลาดท่าให้กับบางสิ่งที่ง่ายๆอย่างอารมณ์ความรู้สึกซะได้”


 


“เขาจะฆ่าข้าได้ แต่ทำไมเขาถึงได้โยนข้าออกไปแทนที่จะฆ่าข้าล่ะ?” เด็กผู้หญิงมองไผ่เดียวดายด้วยความสับสน


 


“นั่นเป็นแค่หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาโง่เขลา” เนตรมารพูดอย่างเลือดเย็น


 


ไม่นานหลังจากนั้นแสงสว่างก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าด้านบน เหล่ายอดฝีมือระดับราชันของปราสาทนภาต่างพากันมาที่เกาะ


 


“ไผ่เดียวดายเกิดอะไรขึ้นที่นี่?” เหล่าราชามองร่างที่อยู่บนพื้น ก่อนที่จะหันมาถามไผ่เดียวดาย


 


“ชายคนหนึ่งมาที่นี่และพยายามลอบสังหารข้า” ไผ่เดียวดายพูด


 


ไม่นานหลังจากนั้นเหล่าราชาก็นำร่างของเนตรมารไป และวันต่อมาไผ่เดียวดายที่ตอนนี้คือเนตรมารก็พาเด็กผู้หญิงเดินทางออกจากปราสาทนภา 

 

 


ตอนที่ 2128

 

เมื่อถึงวันที่ดอลลาร์และไผ่เดียวดายต้องต่อสู้กัน ยอดฝีมือมากมายต่างหันมาสนใจการต่อสู้ในครั้งนี้ พวกเขาให้ความสนใจมันมากกว่าการต่อสู้ของราชันคนไหนๆ


 


“เจ้าคิดว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ?”


 


“ข้าคิดว่าไผ่เดียวดายจะเป็นฝ่ายชนะ เจ้าก็รู้ว่าปราสาทนภาไม่ใช่แค่ธรรมดาๆ และไผ่เดียวดายก็เป็นมาร์ควิสที่เก่งกาจที่สุดของพวกเขา มาร์ควิสธรรมดาไม่มีทางจะต่อกรกับคนอย่างเขาได้ และถึงดอลลาร์จะแข็งแกร่งก็จริง แต่พรสวรรค์ของเขาเรียบง่ายเกินไป นอกจากร่างกายที่แข็งแกร่งและเหรียญแล้ว เขาก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ”


 


“นั่นก็จริง ด้วยเทคนิคไม่กี่อย่างที่ดอลลาร์มี มันเป็นไปได้ยากที่เขาจะเป็นฝ่ายชนะ ยอดฝีมืออย่างไผ่เดียวดายไม่มีทางจะพ่ายแพ้ต่อวิชาจีโนเพียงแค่วิชาเดียว เขาแข็งแกร่งเกินไป”


 


“พวกเจ้ารู้ได้ยังไงว่าดอลลาร์ไม่มีวิชาจีโนอื่นซ่อนอยู่อีก ในเมื่อพวกเรายังไม่เคยได้เห็น?”


 


การสนทนาที่ร้อนแรงดำเนินต่อไป และไม่นานบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนก็ส่องแสงบนฝากฟ้า และทันที่ที่มันทำอย่างนั้นผู้เข้าแข่งขันทุกคนก็ถูกเทเลพอร์ตเข้าไปข้างใน


 


“ไผ่เดียวดาย ครั้งนี้พวกเรามาต่อสู้กันจริงๆ!”


หานเซิ่นปรากฏตัวท่ามกลางทะเลทรายแห่งหนึ่ง เขาเริ่มมองไปรอบๆเพื่อหาคู่ต่อสู้ แต่เขามองไม่เห็นไผ่เดียวดายเลย


 


หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขารู้จักไผ่เดียวดายดี และเขาก็รู้ว่าคนอย่างไผ่เดียวดายไม่มีทางซ่อนตัว ไผ่เดียวดายจะต่อสู้กับคู่ต่อสู้แบบตรงไปตรงมาโดยไม่เล่นลูกไม้ตุกติก


 


หานเซิ่นพยายามมองไปรอบๆ แต่เขาก็ไม่เห็นร่องรอยของไผ่เดียวดายเลย


 


ผู้ชมเองก็สับสนกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน พวกเขาพยายามสังเกตรอบๆอย่างละเอียด แต่พวกเขาก็ไม่เห็นร่องรอยของไผ่เดียวดายเช่นเดียวกัน


 


ทันใดนั้นมิติรอบๆตัวหานเซิ่นก็บิดเบือนและส่งเขากลับออกมาจากบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน โดยที่กระดาษการเข้าสมัครของเขายังคงอยู่ดี


 


หานเซิ่นรู้ตัวอย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น ไผ่เดียวดายตัดสินใจไม่เข้าร่วมการต่อสู้ ทำให้หานเซิ่นได้รับชัยชนะโดยอัตโนมัติ


 


ทุกคนต่างก็แปลกใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่เป็นการต่อสู้ที่ผู้คนคาดหวังมากที่สุด แต่ไผ่เดียวดายกลับตัดสินใจยอมแพ้


 


ข่าวลือเริ่มแพร่สะพัดออกไปทั่วจักรวาลราวกับไฟป่า บางข่าวลือบอกว่าดอลลาร์เองก็เป็นหนึ่งในชาวนภา และนั่นเป็นเหตุผลที่ไผ่เดียวดายตัดสินใจไม่ต่อสู้กับเขา


 


มันยังมีข่าวลืออื่นอีกด้วย บางข่าวลือบอกว่าดอลลาร์ได้ทำข้อตกลงกับทางปราสานภา และเพราะข้อตกลงนั้นทำให้ไผ่เดียวดายต้องสละสิทธิ์จากการแข่งขัน


 


ข่าวลือที่บ้ายิ่งไปกว่านั้นบอกว่าดอลลาร์มีความสัมพันธ์แบบคู่รักกับไผ่เดียวดาย และไผ่เดียวดายก็ถอนตัวเพื่อให้คนรักของเขาจะได้เข้ารอบต่อไป


 


หานเซิ่นไม่ได้สนใจอะไรข่าวลือพวกนั้น แต่เขาพบว่าตัวเองรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา ไผ่เดียวดายไม่ใช่คนที่จะทอดทิ้งการต่อสู้แบบนี้ ดังนั้นมันต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ทำให้เขาไม่สามารถมาเข้าร่วมการต่อสู้ได้


 


หานเซิ่นตัดสินใจโทรไปหาอี๋ซาและบอกให้เธอรู้ว่าเขายังปลอดภัยดี หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อไปหาปราสาทนภาเพื่อบอกให้พวกเขารู้เช่นเดียวกัน และหานเซิ่นก็ถามพวกเขาเกี่ยวกับไผ่เดียวดาย


 


แต่หานเซิ่นก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาบอก ทางปราสาทนภาไม่รู้ว่าทำไมไผ่เดียวดายถึงถอนตัวจากการต่อสู้ และไผ่เดียวดายก็หายตัวไปตั้งแต่หลายวันก่อน ทำให้ทางปราสาทนภาไม่สามารถติดต่อกับเขาได้


 


และที่น่าแปลกที่สุดก็คือถึงคนที่แอบลอบเข้ามาในบ้านของไผ่เดียวดายจะเป็นชาวนภาก็จริง แต่มันไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเขาอยู่ในบันทึกของปราสาทนภาเลย


 


“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขารู้ว่ามันต้องมีเรื่องร้ายบางอย่างเกิดขึ้นกับไผ่เดียวดาย มันน่าตกใจที่ปราสาทนภาไม่สามารถหาร่องรอยหรือเบาะแสที่อยู่ของไผ่เดียวดายได้


 


หลังจากที่ได้การพูดคุยกับผู้นำของปราสาทนภา หานเซิ่นก็บอกเรื่องราวของตัวเองออกไปและบอกต่อไปว่าจะหาทางกลับไปที่ปราสาทนภาด้วยตัวเอง


 


บนดวงดาวที่ดูดึกดำบรรพ์ เนตรมารกำลังนั่งอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่ง เขากำลังตกปลาอยู่ที่ริมแม่น้ำ เด็กผู้หญิงนั่งอยู่ข้างๆเขาขณะที่มองลงไปในแม่น้ำ


 


ทันใดนั้นสายเบ็ดกระตุก และเนตรมารก็ดึงดันเบ็ดพร้อมกับกระชากปลาออกมาจากน้ำ


 


“อาหารกลางวัน” เนตรมารยิ้มให้กับเด็กผู้หญิง


 


เด็กผู้หญิงยิ้ม แต่หลังจากที่เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขา เธอก็ดูตกใจ เธอชี้ไปที่เขาและพูด “เลือด!”


 


เนตรมารขมวดคิ้วและเช็ดหน้าผากของตัวเอง ตอนนี้ดวงตาดวงที่ 3 ของเขาเริ่มจะมีเลือดไหลออกมา


 


“เจ้านี่ไม่รู้จักเลิกราจริงๆ” เนตรมารพูดพร้อมกับเช็ดเลือดออกไป


 


‘เจ้ายังดูดซับร่างกายและพลังของเขาได้ไม่หมดอีกอย่างนั้นหรอ?” เด็กผู้หญิงถาม


 


“ข้ารวมตัวเองเข้ากับร่างกายและพลังของเขาแล้ว แต่ว่า…” เนตรมารหยุดไปกะทันหัน


 


“แต่ว่าอะไร?” เด็กผู้หญิงถาม


 


“แต่ว่าจิตใจของเขาแข็งแกร่งเกินไป และไม่มีอะไรที่ข้าจะทำได้ ข้าคิดว่ามันคงจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก”


เนตรมารยักไหล่และพูดต่อ “แต่มันไม่เป็นอะไร เพราะยังไงร่างกายและพลังของเขาก็ตกเป็นของข้าแล้ว การขัดขืนทางจิตใจของเขาเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ และมันจะถูกบดขยี้ในที่สุด”


 


เด็กผู้หญิงหันกลับมามองแม่น้ำและเท้าคางด้วยมือทั้ง 2 ข้างของเธอ


 


ทุกคนคิดว่าการตัดสินใจถอนตัวของไผ่เดียวดายเป็นอะไรที่แปลกประหลาด แต่ถึงอย่างนั้นการแข่งขันในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนก็ยังดำเนินต่อไป ตอนนี้ทุกระดับถูกคัดจนเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียงแค่ 16 คน


 


หานเซิ่น อี๋ซา เสี่ยวฮวาและเซี่ยชิงเข้ามาถึงรอบสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งพวกเขาแข่งขันในระดับที่ต่างกันออกไป


 


การต่อสู้รอบต่อไปของหานเซิ่นไม่ได้ยากจนเกินไป เขามีร่างกายที่แข็งแกร่งและวิชาเหรียญอยู่ เขาเอาชนะหนึ่งในเดสทรอยเยอร์และผ่านเข้าไปสู่รอบ 8 คนสุดท้าย


 


มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเสี่ยวฮวาหรืออี๋ซาเช่นกัน พวกเขาเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร


 


แต่สถานการณ์ของเซี่ยชิงดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก คู่ต่อสู้ของเขาเป็นหนึ่งในเดสทรอยเยอร์เช่นกัน และเอิร์ลเดสทรอยเยอร์คนนั้นก็มีชื่อเสียงไม่ได้ด้อยไปกว่าไผ่เดียวดายเลย


 


ทั้งเดสทรอยเยอร์และนภาเป็นหนึ่งสิบเผ่าพันธุ์สูงสุด ดังนั้นแม้แต่สมาชิกระดับเอิร์ลของพวกเขาก็แข็งแกร่งมากๆ


 


เซี่ยชิงใช้หนังสือของเขาเพื่อสร้างร่างเลียนแบบเอิร์ลเดสทรอยเยอร์ขึ้นมา แต่ไม่ว่าเขาจะวาดอะไรออกมา เขาก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ สิ่งมีชีวิตไหนๆที่เขาวาดขึ้นมาถูกทำลายล้างอย่างรวดเร็วโดยเอิร์ลเดสทรอยยเยอร์คนนั้น


 


เอิร์ลเดสทรอยเยอร์นั้นมี 3 หัวและ 6 แขน เขาใช้พลังแสง ความมืดและเคออส ร่างกายของเขาแข็งแกร่งเทียบได้กับหานเซิ่นในตอนที่ยังเป็นระดับเอิร์ล แถมวิชาจีโนของเขาก็น่ากลัวมากๆอีกด้วย ทำให้พลังในการวาดรูปของเซี่ยชิงดูไร้ประโยชน์ไปเลย


 


“เซี่ยชิงคนนั้นฝีมือไม่เลว แต่เขายังด้อยกว่าเอิร์ลโอโดก้าอยู่”


 


“อาวุธจีโนของเขาเป็นอะไรที่แปลกประหลาด แต่ดูเหมือนว่ามันจะเอาชนะโอโดก้าไม่ได้”


 


“ดูเหมือนว่าโอโดก้าจะได้อันดับหนึ่งของระดับเอิร์ล”


 


ผู้คนที่ดูการต่อสู้ในระดับเอิร์ลอยู่สามารถบอกได้ว่าเซี่ยชิงเป็นฝ่ายที่กำลังเสียเปรียบ


 


ปัง!


 


หมัดที่ทรงพลังของโอโดก้าทำลายภาพวาดของเซี่ยชิง หลังจากนั้นมันก็พุ่งต่อไปหาใบหน้าของเซี่ยชิง ทำให้เซี่ยชิงและหนังสือถูกส่งกระเด็นออกไปชนกับภูเขาที่อยู่ใกล้ๆ จนทำให้ครึ่งหนึ่งของภูเขาถล่มลงมา


 


“พอกันที” เซี่ยชิงพยุงตัวเองขึ้นมาจากเศษหิน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา


 


เขาเลิกวาดภาพและโยนหนังสือออกไป หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นชุดเกราะที่สวมร่างกายของเขา


 


“เจ้ายังคิดจะสู้ต่ออีกงั้นหรอ?” โอโดก้ามองเซี่ยชิงอย่างผิดหวัง


 


“การต่อสู้ครั้งนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น” แสงสีเงินปะทุออกมาจากร่างกายของเซี่ยชิงราวกับภูเขาไฟ 

 

 


ตอนที่ 2129

 

“อลู-อลู-อลู!”


พายุหมัดที่บ้าคลั่งเป็นอะไรที่ยากจะหยั่งถึง ดวงตาของเซี่ยชิงลุกเป็นไฟเรืองด้วยแสงสีเงิน หมัดสีเงินที่เขาชกออกไปนั้นไร้เทียมทาน และโอโดก้าก็ไม่มีโอกาสที่จะปัดป้องหมัดอันบ้าคลั่งที่ตรงเข้ามาหาเขา


 


ด้วยเหตุนั้นโอโดก้าจึงล้มเลิกความคิดที่จะป้องกันและใช้พลังธาตุแสง ความมืดและเคออสรวมกันเพื่อทำลายล้างเซี่ยชิง


 


แต่เซี่ยชิงที่บ้าคลั่งไม่ได้สนใจอะไรในสิ่งที่คู่ต่อสู้พยายามจะทำ ตอนนี้เขาต้องการอัดโอโดก้าให้เละจนไม่สามารถแยกตัวเองกับโคลนพบพื้นได้ เซี่ยชิงเมินเฉยต่อการโจมตีของโอโดก้าและปล่อยให้ตัวเองถูกโจมตี


 


ตอนนี้ทั้งเซี่ยชิงและโอโดก้ามุ่งมั่นกับการจู่โจมอย่างเต็มกำลัง การต่อสู้ที่โหดร้ายและดุเดือดที่สุดในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น


 


หมัดทั้ง 6 ของโอโกก้ากระหน่ำชกเข้าใส่เซี่ยชิงด้วยพลังที่น่ากลัว และในขณะเดียวกันเซี่ยชิงก็ใช้พลังของตัวเองอัดโอโดก้าอย่างไม่หยุดยั้ง


 


โชคร้ายที่โอโดก้าที่มี 6 หมัดนั้นได้เปรียบ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเซี่ยชิงที่มีหมัดแค่ 2 หมัดจะอ่อนแอกว่า เพราะยิ่งเขาได้รับความเสียหาย เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น


 


โอโดก้าบ้าคลั่งและร้องตะโกนใส่คู่ต่อสู้ที่ไม่ยอมลดละ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลจากความพิโรธของคู่ต่อสู้ เขาอดไม่ได้ที่จะปล่อยเสียงตะโกนออกมา เนื่องจากความเจ็บปวดที่ได้รับ


 


บาดแผลของทั้งคู่ถูกสะสมเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เลือดกระเด็นผ่านอากาศราวกับกรีบดอกไม้ แต่มันก็ยังไม่มีฝ่ายไหนที่คิดจะถอย พวกเขาชกใส่คู่ต่อสู้ซ้ำอย่างบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ


 


“โอ้พระเจ้า! นี่มันไม่ใช่การแข่งขันแล้ว นี่มันการนองเลือด!”


 


“นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว พวกเขาทั้งคู่หัวรุนแรงเกินไป”


 


“นี่สิการต่อสู้ที่แท้จริง ข้าหลงรักการต่อสู้แบบนี้!”


 


“ข้าต้องขอยอมรับว่านี่มันค่อนข้างน่าสนใจ มันสะใจมากกว่าที่ได้เห็นการต่อสู้แบบซึ่งๆหน้าแบบนี้”


 


ผู้ชมกระหายที่เห็นมากกว่านี้ การต่อสู้ที่ดุเดือดกระตุ้นความการหายเลือดที่ไม่รู้จักพอของพวกเขา ระดับความตื่นต้นของผู้ชมเพิ่มขึ้นถึงขีดสูงสุด


 


ปัง!


 


โอโดก้าและเซี่ยชิงกระเด็นออกจากกัน หนึ่งในพวกเขาชนเข้ากับภูเขา ขณะที่อีกคนร่วงลงบนพื้นโล่ง


 


พวกเขาทั้งคู่บาดเจ็บหนัก แขนของโอโดก้าถูกทำลาย และพวกมันบางส่วนก็ถูกฉีกจนขาด ขณะที่ส่วนอื่นถูกห้อยโดยเส้นเอ็น มันมีเพียงแค่ 2 ข้างเท่านั้นที่ยังอยู่ดี แต่ถึงแบบนั้นพวกมันก็เต็มไปด้วยบาดแผล


 


ใบหน้าทั้ง 3 ของเขาบูดบวมและบิดเบี้ยว และหนึ่งในดวงตาของเขาถูกบดขยี้ เลือดไหลท่วมร่างทั้งของเขา


 


เซี่ยชิงเองก็ไม่ได้ดีกว่าคู่ต่อสู้ ขาของเขาหัก ไหล่ข้างขวาของเขาหลุด ดวงตาทั้ง 2 ข้างของเขาแตกละเอียด และกระดูกซี่โครงทั้งหมดของเขาแตกร้าวหรือไม่ก็หัก ด้วยจำนวนเลือดที่อาบร่างของเขา อย่างเดียวที่เขาสามารถูกเรียกได้ก็คือมนุษย์เลือด


 


แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นพลังชีวิตของเซี่ยชิงก็ไม่ได้อ่อนแอลงไปเลย ความจริงแล้วมันกลับเติบโตขึ้นไปอีก เขาพยุงตัวเองขึ้นมาและเรืองแสงด้วยแสงสีเงิน แสงสว่างนั้นห่อหุ้มทั้งร่างกายของเขาราวกับเปลวไฟที่หิวกระหาย


 


โอโดก้าดูมืดมัวไปเลยเมื่อเทียบกันแล้ว หลังจากที่พยุงตัวเองกลับขึ้นมา เขาก็รวบรวมพลังไปที่หมัดของเขาอีกครั้ง


 


ขณะที่พลังของโอโดก้าเพิ่มขึ้น พลังสีขาวและดำก็ดูเหมือนกับหยินหยาง พลังประหลาดบางอย่างทำให้พวกมันอยู่ในความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ


 


เมื่อเห็นโอโดก้าและเซี่ยชิงต่างรวบรวมพลังทั้งหมดของตัวเอง ผู้ชมก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ด้วยสภาพของพวกเขาทั้งคู่ การรวบรวมพลังมากมายขนาดนั้นก็หมายความว่านั่นจะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของพวกเขา


 


“เจ้าแข็งแกร่ง แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ยังคงอ่อนแอกว่าข้า ตอนนี้เจ้าควรจะยอมแพ้ ถ้าเจ้ายังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป” หมัดของโอโดก้าชาร์จพลังจนถึงจุดสูงสุด ขณะที่เขาพูดออกมา


 


พลังที่น่ากลัวทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวเขาสั่นสะเทือน มิติรอบๆดูเหมือนจะบิดเบี้ยวภายใต้พลังสีดำและขาวบนหมัดของเขา


 


“ต้องขออภัยด้วย ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าหมายความว่าอะไร พจนานุกรมของข้าดูเหมือนจะขาดคำบางคำไป และข้าคิดว่าสิ่งที่เจ้าเพิ่งจะพูดออกมาอยู่ในหมู่คำพวกนั้น”


เลือดไหลออกมาจากดวงตาของเซี่ยชิง เขายิ้มออกมาอย่างแปลกๆและเปลวไฟสีเงินก็ขับเคลื่อนเขาออกไปข้างหน้า


 


“แสง ความมืดและเคออส ร่วมกันพวกมันเป็นธาตุที่เสถียรภาพที่สุด มันคือแสงเทพที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลจีโนแห่งนี้ เมื่อเจ้ารับการโจมตีครั้งนี้ เจ้าก็จะกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำ บอกตามตรงข้าชื่นชอบเจ้า และข้าก็อยากให้เจ้าได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าเจ้าสาบานว่าจะเข้าร่วมกับเดสทรอยเยอร์ ข้าจะปล่อยให้เจ้าเป็นฝ่ายชนะ” โอโดก้าพูดอย่างช้าๆ


 


“หนทางเดียวที่ข้าจะปล่อยให้ตัวเองได้รับชัยชนะก็คือข้าต้องทำลายล้างคู่ต่อสู้ตรงหน้าให้สิ้น แสดงความสามารถทั้งหมดของเจ้าออกมาและอย่าได้ออมมือเด็ดขาด”


เซี่ยชิงพูด เพลิงสีเงินเป็นเหมือนกับลาวาสุดท้ายของพวกเขาไฟที่เตรียมพร้อมที่จะปะทุ


 


“ถ้าเจ้าอยากจะตายล่ะก็ ข้าจะทำให้สมหวังเอง” พลังของโอโดก้าระเบิดออก ขณะที่เขาชกหมัดเข้าใส่เซี่ยชิง


 


พลังสีขาวและดำประสานเข้าด้วยกัน มันดูเหมือนกับว่าสามารถทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางได้


 


เพียงแค่คลื่นกระแทกจากพลังก็มากพอที่จะฉีกผืนดินและท้องฟ้าในระยะหลายไมล์


 


“ปืนใหญ่เซี่ยชิงลูกสุดท้าย” ชุดเกราะบนร่างกายของเซี่ยชิงแตกสลายภายใต้พลังของตัวเอง เขายืนอยู่บนสนามประลองด้วยร่างกายท่อนบนที่เปื่อยเปล่า พร้อมกับรอยยิ้มที่ชั่วร้อย ดวงตาของเขามีเลือดไหลออกมา และถึงจะมองไม่เห็น แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของคู่ต่อสู้ หมัดของเขาถูกปลดปล่อยออกไป


 


หมัดสีเงินกลายเป็นลูกบอลแห่งแสง ขณะที่มันพุ่งออกไปข้างหน้าและชนเข้ากับพลังสีขาวและดำ


 


ตูม!


 


พลังที่น่ากลัวทั้ง 2 ปะทะกัน และผลลัพธ์ก็คือการระเบิดที่คล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดจากระเบิดไฮโดรเจน แรงระเบิดขนาดใหญ่ยักษ์ดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่กำลังเกิดซูเปอร์โน แสงสว่างที่เกิดขึ้นนั้นเจิดจ้าเกินกว่าที่ใครจะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างในได้


 


เมื่อแสงสว่างมัวลงไป สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงแค่เหวลึกขนาดใหญ่ ภายในหลุมลึกมีเพียงคนๆเดียวที่ยังยืนอยู่ ส่วนอีกคนนอนกองอยู่กับพื้นและไม่สามารถลุกกลับขึ้นมาได้


 


เซี่ยชิงมองดูโอโดก้าที่พยายามจะลุกขึ้นมาจากพื้น เขาสะบัดผมสีเงินของเขาก่อนที่จะพูดออกมา “เจ้าน่ะแข็งแกร่ง แต่เจ้ายังคงอ่อนแอกว่าข้า และเนื่องจากตอนนี้ดูเหมือนเจ้าจะเข้าใจถึงพลังของข้าแล้ว ข้าจะไว้ชีวิตของเจ้า กลับไปฝึกอีกสักร้อยปีและกลับมาหาข้าใหม่ บางทีหลังจากนั้นเจ้าอาจจะมีโอกาส 0.0001 เปอร์เซ็นต์ที่จะเอาชนะข้าได้”


 


“ข้าจะกลับมา” โอโดก้าไม่สามารถลุกขึ้นได้ เขาฉีกกระดาษของตัวเองและค่อยๆหายไปจากสนามประลอง


 


“ข้าไร้เทียมทานไม่ว่าข้าจะไปที่ไหน!” เซี่ยชิงเสยผมของเขาและหายตัวไป


 


ปัง!


 


ทันทีที่เซี่ยชิงเทเลพอร์ตกลับออกมาจากบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน ร่างกายที่บาดเจ็บของเขาก็ล้มลงไปกับพื้น ความต้องการเอาชนะคือสิ่งเดียวที่ผลักดันให้เขายังยืนอยู่ได้ 

 

 


ตอนที่ 2130

 

เซี่ยชิงบาดเจ็บและเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรอบต่อไปได้ ดังนั้นสุดท้ายเขาจึงติดอันดับท๊อป 8 เท่านั้น แต่ทว่าผู้คนที่ได้ดูการต่อสู้ของเขากับโอโดก้าเชื่อว่าหนึ่งในพวกเขาควรจะได้รับอันดับที่หนึ่ง แต่โชคร้ายที่พวกเขาทั้งคู่ต้องมาเจอกันเร็วเกินไป ซึ่งไม่ว่าฝ่ายไหนจะพ่ายแพ้หรือชนะ พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่สามารถต่อสู้ในรอบต่อไปได้


 


การต่อสู้จัดอันดับดำเนินต่อไปด้วยผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจ ในการต่อสู้รอบ 4 คนสุดท้ายของระดับราชัน อี๋ซาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ซึ่งนั่นทำให้หลายคนต่างประหลาดใจ ด้วยเหตุนั้นเธอจึงแค่ติดท๊อป 4 เท่านั้น


 


หานเซิ่นไม่มีโอกาสได้เห็นมัน ดังนั้นเขาไม่แน่ใจว่าอะไรทำให้เธอแพ้ แต่ถึงจะพูดแบบนั้น เขาก็ได้ยินมาว่ามันมีเรื่องประหลาดบางอย่างเกิดขึ้นในระหว่างการประลอง


 


เสี่ยวฮวาผ่านเข้าไปสู่รอบสุดท้ายได้อย่างง่ายดาย พลังเซเคร็ดทำให้เขาสามารถควบคุมอวกาศและกาลเวลาได้ ซึ่งมันไม่มีไวเคานต์คนไหนสามารถเอาชนะเทคนิคแบบนั้นในสนามประลองได้


 


ไม่มีใครในระดับไวเคานต์ที่แข็งแกร่งไปกว่าเสี่ยวฮวา ดังนั้นมันเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้อันดับที่หนึ่ง


 


ถ้าไม่ใช่เพราะเนตรมาร หานเซิ่นก็คงจะได้รับชัยชนะในการต่อสู้ระดับมาร์ควิสง่ายๆเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เนตรมารยังอยู่ที่นี่และมันก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าหานเซิ่นจะเป็นฝ่ายชนะ


 


หานเซิ่นได้ดูการต่อสู้ของเนตรมารอย่างใกล้ชิด ชายคนนั้นน่าสะพรึงกลัวจริงๆ หานเซิ่นคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเนตรมาร แต่มันคืออะไรนั้นหานเซิ่นก็ไม่สามารถบอกได้


 


หานเซิ่นโทรไปหาอี๋ซาเพื่อปรึกษาถึงความกังวลของเขา และเขาก็ยังต้องการปลอบเธอหลังจากความพ่ายแพ้ด้วย


“ท่านราชินี ข้าจะกลับไปที่แนร์โรว์มูนในอีกไม่กี่วัน”


 


อี๋ซานั่งไคว้ขาอยู่บนบัลลังก์อย่างสบายๆ เธอมองหานเซิ่นผ่านวิดีโอด้วยรอยยิ้มและพูด


“เจ้าจะกลับมาเพื่อปลอบใจข้าอย่างนั้นหรอ?”


 


“ไม่ใช่อย่างนั้น ท่านราชินีเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุด ข้าแค่รู้สึกคิดถึงท่านเท่านั้น” หานเซิ่นรู้สึกว่าตัวเองยังขาดทักษะในการปลอบโยน


 


อี๋ซายังคงยิ้มและมองไปที่หานเซิ่น “มีก้าได้มอบข้อเสนอที่ใจกว้างเพื่อแลกเปลี่ยนกับชัยชนะของพวกเขา ตอนนี้พวกเราจึงทำในสิ่งที่จำเป็น เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้?”


 


หานเซิ่นประหลาดใจกับเรื่องนี้ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิดว่าอี๋ซาจะทำเลยสักนิด


 


อี๋ซายังคงยิ้มและพูดต่อ “รีเบทเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง แต่พวกเราไม่ได้เหมือนกับปราสาทนภา พวกเราไม่ได้มีใครที่เป็นระดับเทพเจ้า พวกเราจึงจำเป็นต้องทำข้อตกลงเพื่อแข่งขันกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ ดังนั้นพวกเราจึงต้องยอมเสียบางสิ่ง นั่นคือสิ่งที่มันควรจะเป็น”


 


หานเซิ่นเข้าใจว่าเธอยอมแพ้ ถึงแม้เธออยากจะได้รับชัยชนะก็ตาม เธอไม่ได้พ่ายแพ้ให้กับคู่ต่อสู้จริงๆ แต่เธอพ่ายแพ้ให้กับการเมือง


 


“กลับไปที่ปราสาทนภา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องมาสนใจ เจ้าแค่ต้องกลายเป็นราชันให้ได้ และหลังจากนั้นเจ้าถึงจะถูกเล่นในเกมส์การเมือง ในขณะนี้เจ้าไม่ใช่แม้แต่เบี้ยบนกระดาน” อี๋ซาพูดหลังจากนั้นก็วางสายไปอย่างกะทันหัน


 


หานเซิ่นรู้ว่าระดับของตัวเองยังต่ำเกินไป แต่เรื่องราวของยีนเป็นอะไรที่ยากเกินไป เขาเคยคิดที่จะยอมแพ้กับมันและหันไปให้ความสนใจในการพัฒนาวิชาจีโนอื่นสู่ระดับราชันแทน


 


การต่อสู้รอบสุดท้ายของระดับมาร์ควิสกำลังจะเริ่มขึ้น ซึ่งชื่อของดอลลาร์และเนตรมารเป็นที่ติดปากของทุกๆคน มันเป็นหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้


 


ถึงแม้ดอลลาร์จะแสดงการโจมตีที่ทรงพลังออกมา แต่ดราก้อนเอทเป็นคู่ต่อสู้เพียงคนเดียวที่เขาเอาชนะด้วยพลังกำลังอย่างแท้จริง การถอนตัวของไผ่เดียวดายทำให้ผู้คนมากมายต่างก็รู้สึกผิดหวัง


 


ซึ่งเมื่อเทียบกับผลงานตลอดหลายชีวิตของเนตรมารแล้ว เนตรมารยังดูน่าประทับใจกว่ามาก ด้วยเหตุนั้นคนส่วนใหญ่จึงคิดว่าเนตรมารจะเป็นฝ่ายที่ชนะการต่อสู้ เพราะยังไงซะเนตรมารก็เคยเป็นเทพเจ้ามาหลายครั้งและเขาก็เคยเห็นสิ่งต่างๆมามากมาย


 


แต่ถึงอย่างนั้นขุนนางหลายคนก็ยังคงเชื่อว่าดอลลาร์จะเป็นฝ่ายชนะ ขุนนางหลายคนนั้นหลงรักเหรียญของดอลลาร์ และจนถึงตอนนี้ดอลลาร์ก็พิสูจน์ว่าเหรียญสามารถเอาชนะได้ทุกสิ่งทุกอย่าง หลายคนนั้นจึงหลงรักมัน


 


ในสถานีที่จัดเดิมพันบนดวงดาวแห่งหนึ่ง มีมอเตอร์ไซค์ที่ดูสกปรกคันหนึ่งขับมาจอด ชายที่ขี่มันมาเดินเข้ามาข้างในและวางกระเป๋าที่หนักอึ้งลงบนโต๊ะ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดกระเป๋าออก รอยยิ้มก็ฉีกกว้างบนใบหน้าของพวกเขา หนึ่งในพนักงานรีบพูดขึ้นมา


 


“ท่านลูกค้า ใครกันที่ท่านต้องจะเดิมพัน?”


 


“อัตราต่อรองของดอลลาร์เท่าไร?” ชายคนนั้นถาม


 


“1 ต่อ 84” เจ้าหน้าที่ตอบ หลังจากนั้นเขาก็มองชายที่ขี่มอเตอร์ไซค์อย่างแปลกๆ


 


คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเนตรมารจะเป็นฝ่ายชนะ ดังนั้นมันจึงไม่มีใครคิดจะเดิมพันกับดอลลาร์


 


“ข้าขอเดิมพันว่าดอลลาร์จะเป็นฝ่ายชนะ” ชายคนนั้นพูดขณะที่ดันแว่นกันแดนของเขา


 


ถ้าชายคนนั้นยินดีจะมอบเงินจำนวนมากให้แบบฟรีๆ มันก็ไม่มีพนักงานคนไหนจะปฏิเสธเขา พนักงานจึงรีบรับเงินมาและมอบใบเสร็จให้กับชายคนนั้น


 


“โง่จริงๆ นี่เขาใช้เงินทั้งหมดของตัวเองเดิมพันข้างดอลลาร์เนี่ยนะ ทั้งจักรวาลต่างก็รู้ดีว่าเนตรมารไม่มีทางแพ้”


พนักงานพูดหลังจากที่เห็นชายคนนั้นขี่มอเตอร์ไซค์จากไปแล้ว


 


หวังอวี่ฮังเก็บใบเสร็จเอาไว้ในที่ปลอดภัยและเดินทางไปล่าซีโน่เจเนอิคต่ออย่างร่าเริง


 


เมื่อการต่อสู้รอบสุดท้ายเริ่มต้นขึ้น ทุกคนก็สามารถมองดูมันได้ ยกเว้นแต่คนที่ยังต้องทำการต่อสู้อยู่


 


ในอดีตการต่อสู้ที่ผู้ชมให้ความสนใจมากที่สุดจะเป็นการต่อสู้ระดับราชัน แต่ในปีนี้มันต่างออกไป ระดับมาร์ควิสและไวเคานต์ได้รับความสนใจพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับมาร์ควิส การต่อสู้ระหว่างดอลลาร์และเนตรมารได้รับความสนใจมากกว่าการต่อสู้ของระดับราชันซะอีก


 


ส่วนระดับไวเคานต์ได้รับความสนใจเนื่องจากเสี่ยวฮวา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรมากกว่าดูการต่อสู้ของเขา เพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่ามันจะมีไวเคานต์คนไหนที่สามารถล้มเสี่ยวฮวาที่มีพลังของเซเคร็ดได้


 


“มันกำลังจะเริ่มแล้ว! ดอลลาร์จะต่อสู้กับเนตรมารได้นานสักแค่ไหนกัน?”


ดราก้อนเอทและดราก้อนไนน์มองดูภาพบนบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนอย่างใจจดใจจ่อ ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่การต่อสู้รอบสุดท้ายของระดับมาร์ควิส


 


“ถ้าศิษย์พี่ไผ่เดียวดายไม่หายตัวไป มันก็คงจะเป็นเขาที่ได้ต่อสู้กับเนตรมาร” ภายในปราสาทนภา กระเรียนพันขนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา


 


ตอนนี้ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักวิจัย พวกเขาสนใจอย่างมากที่จะได้เห็นวิชาของทั้งดอลลาร์และเนตรมาร เพราะแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถมีชีวิตตลอดไป แต่เนตรมารกลับสามารถเกิดใหม่ได้ซ้ำๆ ทุกคนจึงอยากรู้ความลับของเขา


 


“หวังว่าดอลลาร์จะต่อกรกับเนตรมารได้นานพอที่จะเปิดเผยความลับของเขา” หัวหน้าสวนวิถีนภามองไปที่บัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนอย่างตั้งใจ


 


“ระหว่างเหรียญของดอลลาร์และความลับของเนตรมาร พวกเราจะต้องได้เรียนรู้อะไรบางอย่างในวันนี้” นักวิจัยอีกคนพูดขึ้นมา


 


“ข้าอยากจะรู้ความลับการไปเกิดใหม่ของเนตรมารจริงๆ”  หัวหน้าของสวนวิถีนภาพูดซ้ำๆ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)