Super God Gene 2074-2078

ตอนที่ 2074

 

ภาชนะสัมบูรณ์

“แล้วของที่หนูดูดเข้าไปในน้ำเต้าอยู่ที่ไหนล่ะ? พ่อขอดูพวกมันหน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นถามเป่าเอ๋อ


 


“พวกมันถูกย่อยไปนานแล้ว” เป่าเอ๋อพูดพร้อมกับกระพริบตาอีกครั้ง


 


หานเซิ่นอึ้งจนเกือบจะพูดไม่ออก “แต่หนูเพิ่งจะบอกพ่อว่าหนูปล่อยพวกมันออกมาได้”


 


เป่าเอ๋อดูไม่พอใจเล็กน้อย “หนูทำได้ แต่หนูต้องรู้ก่อนว่าชิ้นไหนจำเป็นต้องเก็บเอาไว้ ไม่อย่างนั้นพวกมันก็จะถูกน้ำเต้าย่อยสลาย”


 


‘น้ำเต้าของเป่าเอ๋ออาจจะจับคลาวด์บีสต์สีแดงนั่นได้ แต่เป่าเอ๋ออยู่ในก็อตแซงชัวรี่มาโดยตลอด และเรายังไม่เห็นเธอวิวัฒนาการเลย ดังนั้นเธอคงจะไม่เหนือไปกว่าบารอนคนหนึ่ง มันไม่มีทางที่เธอจะดูดคลาวด์บีสต์ระดับมาร์ควิสเข้าไปในน้ำเต้าได้’ หานเซิ่นคิด


 


เป่าเอ๋อดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เธอตบมือและน้ำเต้าก็ปรากฏขึ้นมาระหว่างพวกเขา เธอพูดกับหานเซิ่น


“พ่ออยากจะได้อะไรอย่างนั้นหรอ? น้ำเต้าของหนูทรงพลัง และมันดูดได้ทุกสิ่งทุกอย่าง”


 


“พ่อจะบอกหนูในภายหลัง” หานเซิ่นลูบหัวของเป่าเอ๋อ หลังจากนั้นเขาก็เทเลพอร์ตกลับไปที่ปราสาทนภา หานเซิ่นต้องหาโอกาสพาเป่าเอ๋อมาที่นี่เพื่อที่เขาจะได้ทดสอบพลังของน้ำเต้า


 


ถึงเป่าเอ๋อจะกินยีนซีโน่เจเนอิคที่หานเซิ่นมอบให้เข้าไปเป็นจำนวนมาก แต่เธอก็ยังไม่ถูกขับไล่ออกไปจากก็อตแซงชัวรี่ ด้วยเหตุนั้นเธอคงจะไม่แข็งแกร่งอะไรมาก


 


หานเซิ่นเอาชิ้นส่วนซีโน่เจเนอิคที่สะสมเอาไว้มาต้มในหม้อ ยีนซีโน่เจเนอิคเกือบจะเยอะเกินไปที่จะใส่ลงในหม้อได้หมด เมื่อเขากินพวกมันทั้งหมดเข้าไป เสียงประกาศก็ดังขึ้น


 


‘ยีนระดับมาร์ควิส +1‘


 


เนื้อทั้งหม้อหนักอย่างน้อย 100 กิโลกรัม และถึงหานเซิ่นจะมีวิชาคอนซูมอยู่ แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกแน่นท้องที่ต้องกินพวกมันทั้งหมดเข้าไปในคราวเดียว เขาไม่คิดว่าจะกินอะไรได้อีกในวันนั้น


 


“ดูเหมือนว่าเราควรจะล่าเฉพาะยีนซีโน่เจเนอิคขนาดเล็กๆ” ขณะที่หานเซิ่นกำลังพูดกับตัวเอง ใครบางคนก็มาที่เกาะของเขา


 


หานเซิ่นเดินออกไปข้างนอกและเห็นไวท์เรียลกำลังขี่นกที่ร่างกายเป็นไม้อยู่ เมื่อหานเซิ่นก้าวออกไปข้างนอก ไวท์เรียลก็บินลงมาบนเกาะ


 


“หานเซิ่น เจ้ารีบมากับข้าเร็วเข้า!” ไวท์เรียลกระโดดลงจากนกและลากมือของหานเซิ่นไป


 


“มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอย่างสับสน


 


ขณะที่พวกเขากำลังจะขึ้นหลังนก ไวท์เรียลก็พูดต่อ “หัวหน้าของพวกเราเชิญเจ้าไปที่สวนวิถีนภา เขาต้องการให้เจ้าช่วยพวกเราสกัดมีดขนนกโลหิต”


 


“เขาขอให้ข้าไปช่วย? แต่ข้าไม่ถนัดเรื่องพวกนั้น แล้วข้าจะช่วยอะไรได้?”


หานเซิ่นตกใจ เพราะสิ่งที่เขารู้ว่าไม่น่าจะเทียบได้กับความรู้และประสบการณ์ของคนที่ทำงานอยู่ในสวนวิถีนภา


 


ถ้าไป๋อี้ซานอยู่ที่นี่ บางทีเขาอาจจะช่วยในการวิจัยได้ แต่หานเซิ่นแค่รู้นิดหน่อยเท่านั้น แถมวิชาจีโนของก็อตแซงชัวรี่และวิชาจีโนของจักรวาลจีโนยังมีความแตกต่างกันอีก


 


“เจ้าไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว! เจ้าลบเลือดซีโน่เจเนอิคออกจากมีดได้สำเร็จ เจ้าเก่งในเรื่องนี้ พวกรีบไปกันเถอะ หัวหน้าและคนอื่นๆกำลังรอเจ้าอยู่”


ไวท์เรียลดันหานเซิ่นขึ้นไปบนหลังนก หลังจากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่สวนวิถีนภา


 


เมื่อไปถึง หานเซิ่นก็อธิบายให้พวกเขาฟังว่าที่ลบรอยเลือดออกจากมีดขนนกโลหิตได้นั้นเป็นเพราะวิชาจีโนที่เข้ากันได้ดีเท่านั้น เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการสกัดสมบัติ


 


หัวหน้าฝ่ายวิจัยยิ้มและพูด “อย่าได้กังวล หานเซิ่น พวกเราเชิญเจ้ามาที่นี่ก็เพื่อให้เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสกัด ถ้าพวกเราพบเลือดบางส่วนที่หลงเหลืออยู่ขณะที่กำลังสกัดมัน พวกเราจำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากเจ้า ไม่อย่างนั้นการทำงานของพวกเราก็จะสูญเปล่า”


 


หานเซิ่นบอกพวกเขาไปว่าบนมีดไม่เหลือเลือดอยู่แม้แต่หยดเดียว แต่พวกเขาก็ยังคงกังวลว่ามันอาจจะมีเลือดหลงเหลืออยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงขอให้หานเซิ่นอยู่ต่อ


 


โชคดีที่ทางสวนวิถีนภาไม่ได้ขออะไรมากไปกว่านั้น ดังนั้นหานเซิ่นจึงแค่นั่งอยู่ในห้องและคอยฟังคำสั่งจากหัวหน้าฝ่ายวิจัย


 


เนื่องจากหานเซิ่นไม่มีอะไรทำ ดังนั้นเขาจึงฝึกวิชากายหยก พร้อมกับยังดูขั้นตอนการสกัดมีดขนนกโลหิตไปด้วย ซึ่งทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรมากมาย


 


มีดขนนกโลหิตถูกใส่เข้าไปในหลอดภาชนะที่ทำขึ้นมาจากคริสตัล ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าพวกเขาจะใช้เทคนิคการตีเหล็กและการหลอมเพื่อเปลี่ยนใบมีดของมัน


 


แต่เขาคิดผิด พวกเขาใส่มีดเข้าไปในภาชนะและเอาอากาศออกมา หลังจากนั้นพวกเขาก็ลดอุณหภูมิให้ต่ำที่สุด


 


ขณะที่อุณหภูมิต่ำลง มีดขนนกโลหิตก็ดูเหมือนจะตกผลึก แต่ท้ายที่สุดทั้งมีดก็กลายเป็นคริสตัล


 


หนึ่งในคนของสวนวิถีนภาใช้เครื่องมือบางอย่างเพื่อตรวจเช็คมีดขนนกโลหิตและขมวดคิ้ว


“อุณหภูมิยังต่ำไม่พอ พวกเรายังปลุกพลังของมีดขนนกโลหิตไม่ได้”


 


หลังจากผ่านไป 4 วัน หานเซิ่นก็ได้ยินคำพูดแบบนั้นซ้ำๆเป็นพันๆครั้ง พวกเขาพยายามจะลดอุณหภูมิของมีด แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่เคยลดอุณหภูมิได้ต่ำเพียงพอ


 


หานเซิ่นไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องการลดอุณหภูมิของมัน แต่เขาได้เห็นวิชาจีโนลับธาตุน้ำแข็งมากมาย พวกมันต่างเป็นวิชาที่น่ากลัว อุณหภูมิที่ต่ำเกินไปทำให้วัสดุอื่นๆแหลกสลาย แต่มีดเล่มนั้นดูจะไม่เป็นอะไร


 


“ภาชนะคริสตัลนั่นไม่ธรรมดาจริงๆ มันทนต่อความหนาวเย็นอันน่าเหลือเชื่อโดยไม่แตกสลายได้ยังไงกัน” หานเซิ่นพูดกับตัวเองเบาๆ


 


แต่ไวท์เรียลนั้นหูดีและได้ยินที่หานเซิ่นพูด เขาจึงพูดอย่างภาคภูมิใจ


“หานเซิ่น เจ้าพูดถูกแล้วที่บอกว่าภาชนะนี่ไม่ธรรมดา นี่เป็นสิ่งของระดับเทพเจ้าชิ้นเดียวของสวนวิถีนภาแห่งนี้”


 


“ภาชนะนั่นเป็นสิ่งของระดับเทพเจ้า?” หานเซิ่นตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น เขารู้ว่ามันทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นถึงระดับเทพเจ้า


 


“ชื่อของมันคือภาชนะสัมบูรณ์ สมบัติขั้นสูงหลายชิ้นของพวกเราต่างถูกสกัดภายในภาชนะสัมบูรณ์ และกว่าครึ่งหนึ่งของอาวุธระดับราชันในปราสาทนภาถูกทำขึ้นในนี้” ไวท์เรียลพูดอย่างจริงจัง


 


หานเซิ่นคิดที่จะถามอะไรบางอย่างอีก แต่หัวหน้าฝ่ายวิจัยพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ตรึงเครียด


“ดูเหมือนว่าพลังของพวกเราจะลดอุณหภูมิได้ไม่ต่ำพอ ผู้อาวุโสตง เจ้าไปที่เมืองหยกขาวและเชิญเขามาที่นี่”


 


“เขาจะยอมมาอย่างนั้นหรอ?” ผู้อาสุโสตงดูหดหู่

 

 

 


ตอนที่ 2075

 

สารสกัดไชลด์คอมไบน์

“บอกเขาว่าพวกเรายินดีจะมอบสารสกัดไชลด์คอมไบน์ให้กับเขา” หัวหน้าฝ่ายวิจัยพูด


 


“มันจะไม่เสียเปล่าอย่างนั้นหรอที่จะมอบสารสกัดไชลด์คอมไบน์ให้กับเขา?” ผู้อาวุโสตงและคนอื่นดูแปลกใจ


 


“พวกเจ้ารู้วิธีอื่นที่จะลดอุณหภูมิของมีดขนนกโลหิตให้ถึงระดับที่จำเป็นหรือเปล่าล่ะ?” หัวหน้าฝ่ายวิจัยหันไปมองทุกคน แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา


 


“ไปได้แล้ว” หัวหน้าฝ่ายวิจัยถอนหายใจออกมา


 


ผู้อาวุโสตงไม่ได้พูดอะไรอีก เขากัดฟันและออกจากห้องวิจัยไป


 


“สารสกัดไชลด์คอมไบน์คืออะไรอย่างนั้นหรอ?”


หานเซิ่นถามไวท์เรียล เขาไม่ได้สนใจคนที่หัวหน้าฝ่ายวิจัยจะเชิญมา เพราะเห็นได้ชัดว่ามันต้องเป็นคนที่ชำนาญในพลังธาตุน้ำแข็ง และนอกจากนั้นหานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก


 


แต่สารสกัดไชลด์คอมไบน์ฟังดูเป็นของที่ล้ำค่า หานเซิ่นจึงรู้สึกสนใจขึ้นมา


 


ไวท์เรียลกระซิบบอกหานเซิ่น “สารสกัดไชลด์คอมไบน์คือสูตรยาที่พวกเราวิจัยขึ้นมา มันใช้ชิ้นส่วนซีโน่เจเนอิคระดับสูงมากมายเพื่อผลิต และมันจำเป็นต้องผ่านการปรุงยาที่ซับซ้อนอย่างมาก มันช่วยในการวิวัฒนาการ ถ้าระดับราชันได้ดื่มสารสกัดไชลด์คอมไบน์เข้าไปเป็นประจำ มันก็มีโอกาสสูงที่จะเขากลายเป็นระดับเทพเจ้า”


 


“มันสุดยอดขนาดนั้นเลย?” หานเซิ่นตกตะลึง มันเป็นอะไรที่น่าตกใจที่ราชันคนหนึ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้เพียงแค่กินยานี่เข้าไป


 


“มันจำเป็นต้องใช้ดวงอย่างมาก แต่ตามหลักทฤษฎีมันเป็นไปได้ ในอีกด้านหนึ่งการจะพัฒนาดยุกคนหนึ่งไปเป็นระดับราชันน่ะหรอ? นั่นมันง่ายมากๆ จากการทดลองของพวกเรา เพียงแค่ดื่มสารสกัดไชลด์คอมไบน์เข้าไปสิบขวด มันก็มากพอที่จะทำให้ดยุกคนหนึ่กลายเป็นราชันแล้ว” ไวท์เรียลโอ้อวด


 


“ไม่แปลกใจเลยที่ปราสาทนภาแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ พวกเจ้าใช้มันพัฒนาราชันขึ้นมาได้กี่คนแล้ว?” หานเซิ่นถาม


 


“หนึ่ง” ไวท์เรียลยกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว หานเซิ่นอึ้งไป ดังนั้นไวท์เรียลจึงพูดต่อ


“ต้องขอบอกเอาไว้ก่อนว่าวัตถุดิบในการทำสารสกัดไชลด์คอมไบน์นั้นหาได้ยากมาก พวกเราผลิตมันขึ้นมาได้เพียงแค่ 20 ขวดเท่านั้น พวกเราใช้พวกมันบางส่วนไปในการทดลองและใช้อีกสิบขวดเพื่อพัฒนาดยุกคนหนึ่งให้กลายเป็นราชัน ตอนนี้พวกมันจึงเหลืออยู่เพียงแค่ 7 ขวด”


 


หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ถ้ามันเป็นสิ่งที่ผลิตออกมาเป็นจำนวนมากไม่ได้ แล้วการคิดค้นมันขึ้นมาจะไปมีประโยชน์อะไร?’


 


ไวท์เรียลดูเหมือนจะอ่านความคิดของหานเซิ่นได้


“ถึงพวกเราจะผลิตสารสกัดไชลด์คอมไบน์ออกมาเป็นจำนวนมากไม่ได้ แต่ด้วยการปรับเปลี่ยนหลายๆอย่าง พวกเราก็สร้างยาที่ใช้ได้ผลกับคนทั่วๆไป ถ้าเจ้าดื่มมันเข้าไปมากๆ จากมาร์ควิสก็จะกลายเป็นดยุกได้เลย”


 


เนื่องจากคนๆนั้นยังมาไม่ถึง ขั้นตอนการสกัดจึงหยุดชะงักไป และเมื่อผู้อาวุโสตงกลับมาถึง เขาก็พาใครบางคนมาด้วย ซึ่งคนคนนั้นก็คืออวี้ซ่านซิน


 


“มิสเตอร์อวี้!” หานเซิ่นรีบโค้งคำนับให้กับเขา


 


“ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?” อวี้ซ่านซินกำลังอุ้มสุนัขตัวหนึ่งอยู่ แต่มันดูไม่กระปี่กระเป่าเท่าไหร่ หางของมันตกและขนของมันก็กระเซิงไม่เรียบร้อย


 


หานเซิ่นเคยเห็นสุนัขที่เป็นแบบนี้ มันดูเหมือนกับสุนัขขาดอาหารที่พบได้ทั่วไปตามท้องถนน แต่น่าแปลกที่ยอดฝีมืออย่างอวี้ซ่านซินจะแบกสิ่งมีชีวิตที่ตกอยู่ในสภาพแย่ขนาดนั้นเข้ามา บางทีมันอาจจะเป็นซีโน่เจเนอิคระดับสูง เพียงแต่มันดูเหมือนกับสุนัขเท่านั้น บางทีมันอาจจะเป็นถึงระดับราชันหรือครึ่งเทพเลยก็เป็นได้


 


“ข้าถูกขอให้มาช่วยเหลือในการสกัดมีดขนนกโลหิต” หานเซิ่นพูด


 


“อย่างนี้นี่เอง แล้วพวกเขาจ่ายให้เจ้าเท่าไหร่กัน?” อวี้ซ่านซินถามด้วยรอยยิ้ม


 


“นั่นเป็นสิ่งที่สมาชิกของปราสาทนภาควรจะทำ” หานเซิ่นรีบตอบ เขาไม่ได้รับรางวัลอะไร และเขาก็ถูกลากตัวมาที่นี่โดยไวท์เรียล


 


อวี้ซ่านซินตบไหล่ของหานเซิ่นและยิ้ม “เจ้ากับข้าเหมือนกันเลย พวกเราต่างเป็นคนดี”


 


ก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดอะไรอีก อวี้ซ่านซินก็หันไปหาหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพูด


“หัวหน้า เจ้ายินดีจะจ่ายค่าเหนื่อยในการมาที่นี่ของข้าใช่ไหม?”


 


“อย่าได้กังวล ข้าจะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่พวกเราได้ตกลงกันไว้” หัวหน้าฝ่ายวิจัยพูด


 


“ถ้าอย่างนั้นก็มอบมันให้กับข้าซะตอนนี้ ข้าจะไม่ทำงาน นอกซะจากข้าจะได้ค่าเหนื่อยแล้ว” อวี้ซ่านซินยื่นมือของเขาออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะขี้เหนียวอย่างน่าประหลาดใจ


 


“มอบมันให้กับเขา” หัวหน้าฝ่ายวิจัยกัดฟันและสั่งผู้อาวุโสตง


 


ผู้อาวุโสตงดูเจ็บปวด เขาเปิดกล่องออก ซึ่งข้างในมีขวดอยู่ทั้งหมด 7 ขวด แต่ละขวดบรรจุของเหลวอยู่ 200 มิลลิลิตร ผู้อาวุโสตงหยิบมันขึ้นมาขวดหนึ่งอย่างระมัดระวังและส่งมันให้กับอวี้ซ่านซิน แต่อวี้ซ่านซินรีบหยิบขึ้นมาอีก 4 ขวดก่อนที่จะรับอีกหนึ่งขวดจากมือผู้อาวุโสตง


 


“ทั้งหมด 5 ขวด ข้าจะไม่รับมากหรือน้อยไปกว่านั้น” อวี้ซ่านซินพูด


 


หานเซิ่นมองดูสารสกัดไชลด์คอมไบน์ในมือของอวี้ซ่านซิน มันเป็นของเหลวที่โปร่งใสและไม่ได้ดูพิเศษอะไร


 


“เฒ่าหวัง นี่เป็นของดีมากๆ” อวี้ซ่านซินพูดกับสุนัขของเขา เขาเปิดขวดๆหนึ่งออกและเทมันลงในภาชนะ


 


สุนัขลุกขึ้นมาและเลียสารสกัดไชลด์คอมไบน์เข้าไป เมื่อหมดแล้วมันก็เลียปากของตัวเองขณะที่พูดออกมา


“ปากของข้ายังไม่ชุ่มชื่นพอ เจ้าควรจะมอบมันให้กันข้าอีก”


 


อวี้ซ่านซินเปิดยาอีกขวดหนึ่งและเทมันให้กับสุนัขที่ชื่อเฒ่าหวัง


 


เฒ่าหวังเลียสารสกัดไชลด์คอมไบน์เข้าไปอีกครั้ง


 


“เจ้าช่วยหยุดใช้มันทิ้งขว้างแบบนั้นได้ไหม!”  ผู้อาวุโสตงตะโกนออกมา เขาไม่สามารถเก็บความโกรธเอาไว้ได้


 


“หัวหน้า นี่เขามีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรอ? ขวดยาพวกนี้เป็นของข้า ข้าควรจะใช้มันยังไงก็ได้ไม่ใช่หรอ?” อวี้ซ่านซินมองไปที่หัวหน้าฝ่ายวิจัย


 


หัวหน้าฝ่ายวิจัยยกมือขึ้นเพื่อบอกให้ผู้อาวุโสตงหยุดพูด หลังจากนั้นเขาก็หันมาพูดกับอวี้ซ่านซิน


“เจ้าก็ได้ของไปแล้ว ตอนนี้เจ้าควรจะทำงานให้กับพวกเรา หลังจากที่เจ้าทำงานเสร็จ ถึงแม้เจ้าจะเทยาพวกมันลงในถังขยะ มันก็จะไม่มีใครพูดอะไรอีก”


 


อวี้ซ่านซินยิ้ม เขาเปิดขวดยาอีก 2 ขวดและเทมันให้กับเฒ่าหวัง เฒ่าหวังดื่มมันเข้าไปจนหมด อวี้ซ่านซินไม่คิดจะแสดงความเคารพต่อหัวหน้าฝ่ายวิจัย เขาคิดที่จะใช้สารสกัดไชลด์คอมไบน์ให้หมดซะก่อน


 


“ดูเหมือนว่าเฒ่าหวังจะอิ่มแล้ว ขวดสุดท้ายนี่ถึงจะเก็บเอาไว้ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร เจ้าเอามันไปเถอะ” อวี้ซ่านซินโยนสารสกัดไชลด์คอมไบน์ขวดสุดท้ายให้กับหานเซิ่น


 


หานเซิ่นรับมันเอาไว้ เขาประหลาดใจที่อวี้ซ่านซินมอบบางสิ่งที่มีค่าให้คนอื่นง่ายๆ หานเซิ่นอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่อวี้ซ่านซินยืดเส้นยืดสายและพูดขึ้นมาก่อน


“เอาล่ะ ถึงเวลาทำงานแล้ว”


 


เขาเดินไปที่ภาชนะสัมบูรณ์และยื่นมือออกไปสัมผัสมัน นักวิจัยทุกคนต่างมองดูเขาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล


 


เมื่ออวี้ซ่านซินวางมือลงบนภาชนะคริสตัล มันก็เกิดรูให้มือของเขาผ่านเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นภาชนะก็หดตัวรอบๆแขนของเขาและกลายเป็นภาชนะที่ปิดสนิทอีกครั้ง


 


อวี้ซ่านซินจับไปที่มีดขนนกโลหิต หลังจากนั้นมันก็มีเสียงที่เหมือนกับการหักของน้ำแข็งดังขึ้นมา

 

 

 


ตอนที่ 2076

 

ตั้งท้องจากการลูบ?

น้ำแข็งค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วมีดขนนกโลหิต และมันก็ดูเหมือนกับว่าทุกสิ่งในภาชนะกำลังจะถูกแช่แข็ง มันแตกแขนงออกไปราวกับเป็นเส้นเลือด


 


‘อวี้ซ่านซินคงจะเป็นครึ่งเทพสินะ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีทางที่เขาจะแช่แข็งสูญญากาศแบบนั้นได้’ หานเซิ่นประหลาดใจ


 


น้ำแข็งแพร่กระจายภายในภาชนะและแช่แข็งแม้แต่ช่องว่ายภายในนั้น สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ถูกแช่แข็งทั้งหมด ทำให้ดูเหมือนกับลูกคริสตัลน้ำแข็งที่สมบูรณ์แบบ


 


ภาชนะสัมบูรณ์เรืองแสงออกมา และบางสิ่งดูเหมือนจะกำลังเคลื่อนไหวภายในน้ำแข็ง มันกำลังต่อต้านพลังอันหนาวเย็นเอาไว้


 


โชคดีที่ภาชนะสัมบูรณ์เป็นสมบัติระดับเทพเจ้า ด้วยเหตุนั้นถึงแม้พลังของอวี้ซ่านซินจะทรงพลัง แต่ความหนาวเย็นก็ไม่ได้รั่วไหลออกมาจากภาชนะ


 


อวี้ซ่านซินดึงมือของเขาออกมา ขณะที่สีหน้าของเขายังคงดูเหมือนปกติ มือของเขาไม่มีร่องรอยของความหนาวเย็นอยู่เลย


 


“งานของข้าเสร็จแล้ว ไปกันเถอะเฒ่าหวัง”


อวี้ซ่านซินพูด เมื่อเขาเดินผ่านหานเซิ่น อวี้ซ่านซินก็พูดออกมาเบาๆ


“ทำไมเจ้ายังมัวยืนนิ่งอยู่ที่นี่อีก? อย่ารบกวนการทำงานของพวกเขา”


 


หานเซิ่นจึงเดินตามอวี้ซ่านซินออกไป


 


นักวิจัยในสวนวิถีนภากลับไปทำงานของตัวเอง บางคนเห็นหานเซิ่นเดินตามอวี้ซ่านซินออกไป แต่ไม่มีใครคิดจะหยุดเขาเอาไว้


 


“มิสเตอร์อวี้มีความบาดหมางกับหัวหน้าฝ่ายวิจัยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอย่างสงสัย


 


“เรียกข้าว่าอวี้ซ่านซิน” อวี้ซ่านซินอุ้มเฒ่าหวังขึ้นมาขณะที่เดินออกไป


“พวกเราไม่ได้มีความบาดหมางอะไรกัน ข้าแค่ไม่ชอบวิธีที่พวกเขาทำ”


 


“พวกเขาทำอะไรอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอีกครั้ง


 


“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสารสกัดไชลด์คอมไบน์ทำขึ้นมาจากอะไร?” อวี้ซ่านซินมองไปที่ขวดยาในมือของหานเซิ่นและถามขึ้นมา


 


“ข้าไม่รู้ จริงๆแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินชื่อของสิ่งนี่” หานเซิ่นพูด


 


“สารสกัดไชลด์คอมไบน์นั้นใช้ซีโน่เจเนอิคทารกที่ยังไม่เกิดนับพันเป็นวัตถุดิบ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญหาเช่นเดียวกับข้าและเจ้า” อวี้ซ่านซินมองหานเซิ่นและยิ้ม


 


หานเซิ่นยกสารสกัดไชลด์คอมไบน์ขึ้นมาเพื่อจะมองดูชัดๆ


“วัตถุดิบพวกนี้มาจากไหน?”


 


“พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสมาชิกของสวนวิถีนภาจับตัวมา พวกเขาจะทำการทดสองกับพวกมัน เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนั้น?”


อวี้ซ่านซินถาม เขาสังเกตเห็นว่าหานเซิ่นไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมาก ซึ่งทำให้เขารู้สึกสนใจ


 


“ข้าเป็นคนบาปด้วยมือที่เปื้อนเลือด ข้าคงจะไปตัดสินพวกเขาไม่ได้” หานเซิ่นส่ายหัวของเขา


 


อวี้ซ่านซินหัวเราะ เขาตบไหล่ของหานเซิ่นและพูด “นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ข้าเกลียดชังคนแบบนั้น แต่พวกเขาก็เป็นคนที่ทำให้ปราสาทนภาแข็งแกร่งอย่างทุกวันนี้ ข้าแค่ไม่ชอบมัน แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ข้าเป็นแค่คนไร้ความสำคัญของที่นี่เท่านั้น”


 


หลังจากนั้นอวี้ซ่านซินก็จากไปขณะที่อุ้มเฒ่าหวังอยู่ เขาหายตัวไปในหมู่เกาะลอยฟ้าสักแห่ง


 


“ทำไมเขาถึงบอกเรื่องนั้นกับข้า?”


หานเซิ่นมองไปที่สารสกัดไชลด์คอมไบน์ในมือและถอนหายใจออกมา เขาไม่ใช่คนที่มีคุณธรรมสูงส่งอะไร และเขาก็ฆ่าชีวิตมามากมาย แต่หลังจากที่อวี้ซ่านซินพูดเกี่ยวกับวัตถุดิบของยาขวดนี้ เขาก็ไม่คิดว่าจะบังคับตัวเองให้ดื่มมันเข้าไปได้


 


‘ช่างเถอะ เราแค่ต้องมอบมันให้กับคนอื่น’ หานเซิ่นเก็บสารสกัดไชลด์คอมไบน์เข้าไปในกระเป๋าและเดินทางไปยังเขตบริการสาธารณ


 


หานเซิ่นต้องการรู้เกี่ยวกับกฎของปราสาทนภา ถ้าเขาต้องการพาเป่าเอ๋อมาที่นี่อย่างถูกต้อง เขาจำเป็นต้องไปที่เขตบริการสาธารณ หานเซิ่นถามพนักงานที่นั่นว่าเขาจะนำครอบครัวมาที่ปราสาทนภาได้ยังไง และปรากฏว่าขั้นตอนของมันง่ายกว่าที่หานเซิ่นคาดคิด


 


การเลื่อนขั้นเป็นอาจารย์ของหานเซิ่นมีประโยชน์ต่างๆมากมาย ด้วยฐานะอาจารย์ เขาสามารถเชิญครอบครัวมาอยู่ที่นี่ร่วมกับเขาได้


 


แต่ที่น่ารำคาญก็คือถ้าหานเซิ่นบอกว่าเป่าเอ๋อเป็นลูกสาวของเขา พวกเขาก็จะทำการทดสอบดีเอ็นเอ


 


‘ดูเหมือนว่าเรายังพาเป่าเอ๋อมาที่ปราสาทนภาไม่ได้’ หานเซิ่นรู้สึกหดหู่


 


หนทางเดียวของหานเซิ่นก็คือทำประโยชน์ต่อปราสาทนภามากกว่านี้เพื่อเลื่อนไปขั้นที่สูงกว่า แบบนั้นเขาก็อาจจะขออนุญาตจากผู้นำปราสาทนภาได้ แต่การพยายามทำแบบนั้นดูไม่น่าจะเป็นไปได้


 


แต่เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็ทำให้หานเซิ่นเกิดสงสัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของเป่าเอ๋อขึ้นมา เขาให้บับเบิลลอกเลียนแบบเขาและนอนอยู่ในห้อง ขณะที่เขากลับเข้าไปในสหพันธ์เพื่อหาเป่าเอ๋อ เขาเกือบที่จะซื้อดาวทั้งดวงเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการทดสอบดีเอ็นเอ เขาต้องการจะดูว่ายีนของเธอจะดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตไหนหรือเปล่า


 


เครื่องมือสำหรับการทดสอบดีเอ็นเอของสหพันธ์ค่อนข้างทันสมัย แต่เป่าเอ๋อออกมาจากน้ำเต้า ดังนั้นมันจึงไม่มีใครรู้ว่ายีนของเธอเป็นแบบไหนกันแน่


 


หานเซิ่นเดินไปตรงหน้าเครื่องทดสอบยีนและวางเส้นผมของเป่าเอ๋อลงไป


 


ไม่นานหลังจากนั้นผลการทดสอบก็อออกมา ผลทดสอบถูกปริ้นลงบนแผ่นกระดาษ และสิ่งที่หานเซิ่นเห็นก็ทำให้ดวงตาของเขาเบิกว้าง


 


ผลทดสอบดีเอ็นเอบอกว่าเขาและเป่าเอ๋อเป็นพ่อลูกกัน


 


“เครื่องจักรนี่มันเสียแล้วหรือยังไงกัน? นี่ข้าเพิ่งจะซื้อมันมาเองนะ ใครกันที่เป็นผู้ผลิตของห่วยๆแบบนี้? อ้า ฉันเข้าใจแล้ว ข้าคือกลุ่มสตาร์รี่นี่เอง ข้าจะไปบ่นกับหนิงเยวี่ยทีหลัง”


หานเซิ่นไม่เชื่อผลการทดสอบ ดังนั้นเขาจึงทำการทดสอบอีกครั้งกับเครื่องทดสอบดีเอ็นเออีกเครื่อง แต่ผลที่ออกมาก็เกือบที่จะทำให้ลูกตาของเขาหลุดออกมา ผลการทดสอบในทุกครั้งเหมือนกันหมด ซึ่งทุกเครื่องต่างบอกว่าเขาและเป่าเอ๋อเป็นพ่อลูกกัน


 


“นี่เป็นไปไม่ได้” หานเซิ่นสาบานว่าเขาไม่เคยมีอะไรกับน้ำเต้ามาก่อน ดังนั้นเขากับเป่าเอ๋อจะมีความสัมพันธ์ทางยีนต่อกันได้ยังไง?


 


หานเซิ่นอ่านรายงานอย่างละเอียดและพบว่ายีนของเป่าเอ๋อเหมือนกับของเขา 99.99 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นนอกซะจากพวกเขาจะเป็นพ่อลูกกันแล้ว มันก็ไม่มีคำอธิบายอย่างอื่น


 


“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน?” หานเซิ่นมองเป่าเอ๋อที่ดูไร้เดียงสาและไม่รู้เรื่องอะไร


 


“น้ำเต้าตั้งท้องจากการลูบคำอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นจำได้ว่าหลังจากที่เขาเก็บน้ำเต้ามา เขาก็เล่นกับมันอยู่บ่อยๆ เขาไม่สามารถคิดหาคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้หานเซิ่นต้องยอมรับว่าเป่าเอ๋อเป็นลูกสาวของเขาจริงๆ


 


หานเซิ่นรีบทำลายผลการทดสอบทั้งหมดและอุ้มเป่าเอ๋อขึ้นมาบนไหล่


“เป่าเอ๋ออย่าไปบอกแม่นะว่าพวกเรามาที่นี่”

 

 

 


ตอนที่ 2077

 

กลับไปที่แนร์โรว์มูน

หานเซิ่นส่งใบคำร้องไปที่เขตบริการสาธารณเพื่อให้ทางปราสาทนภาอนุญาตให้เขารับลูกสาวมาที่นี่ ไม่นานเขาก็ได้รับอนุญาต ดังนั้นหานเซิ่นจึงเดินทางออกจากประสาทนภาและกลับไปที่ดาวอุปราคาเพื่อรับเธอมาที่นี่


 


หานเซิ่นเดินทางอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ดึงดูดความสนใจของคนอื่น การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อมาที่จักรวาลจีโน และพาเธอไปพบกับอี๋ซา


 


อี๋ซารู้สึกชื่นชอบเป่าเอ๋อ และเธอก็อนุญาตให้เป่าเอ๋ออยู่บนดาวเบลด ขณะที่หานเซิ่นกลับไปที่ดาวอุปราคา


 


หานเซิ่นรู้ว่าอี๋ซามีเจตนาที่จะตรวจสอบที่มาของเป่าเอ๋อ ถึงรีเบทจะไม่ได้มีกฎที่เข้มงวดอย่างปราสาทนภา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ปล่อยให้ใครบางคนที่ไม่รู้ที่มาไปไหนมาไหนในเขตแดนของพวกเขาง่ายๆ แถมเป่าเอ๋อก็ไม่ได้เป็นผู้อพยพจากต่างแดนทั่วๆไป


 


แต่หานเซิ่นไม่ได้กังวลอะไร เป่าเอ๋อนั้นเฉลียวฉลาด และเขาก็แน่ใจว่าเธอจะไม่มีปัญหาอะไร


 


เมื่อกลับไปที่ดาวอุปราคา เขาก็พบว่าเซี่ยชิง กู่ชิงเฉิงและคนอื่นๆวิวัฒนาการเป็นเอิร์ลกันหมดแล้ว แม้แต่ซีโร่ สปิริตเชฟ หานเมิ่งเอ๋อ นางฟ้าและหวังอวี่ฮังก็วิวัฒนาการเป็นเอิร์ลแล้วเช่นกัน


 


พวกพ้องของหานเซิ่นมีวิชาจีโนที่ง่ายต่อการเพิ่มระดับขึ้น และพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องฝึกวิชาจีโนหลายตัวในเวลาเดียวกันอีกด้วย ซึ่งเมื่อรวมกับทรัพยากรมากมายบนดาวอุปราคา มันก็ทำให้พวกเขาวิวัฒนาการได้อย่างรวดเร็ว


 


“หานเซิ่น พวกเรากลายเป็นเอิร์ลกันหมดแล้ว และทรัพยากรของดาวอุปราคานี้ก็ไม่ได้เหนือไปกว่าระดับมาร์ควิส ดังนั้นพวกเราจึงอยากจะออกเดินทางไปฝึกฝนที่โลกภายนอก” เซี่ยชิงพูดกับหานเซิ่น


 


กู่ชิงเฉิงและคนอื่นๆเองก็รู้สึกเหมือนกัน หานเซิ่นตกลงให้พวกเขาไปฝึกฝนที่อื่น แต่หานเซิ่นก็ได้มอบหมายหน้าที่ในการรับสมัครคนเพิ่มให้กับพวกเขาด้วย แบบนั้นหานเซิ่นก็จะนำคนจากสหพันธ์มาเพิ่ม เมื่อพวกเขาเดินทางกลับมา


 


บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเครื่องหมายนกสีทอง แต่ประชากรในฐานทัพของหานเซิ่นตอนนี้ดูเหมือนจะวิวัฒนาการเป็นระดับบารอนกันหมดแล้ว


 


“หานเซิ่น ข้าได้ยินเรื่องที่เจ้าฆ่าชารอนและดราก้อนเธอร์ทีน แถมยังเอาชนะดราก้อนไนน์ในทะเลโบราณหวนคืนอีก… ชื่อของเจ้าตอนนี้ดังไปทั่วทั้งจักรวาลจีโน! ตอนนี้ทุกคนต่างรู้ว่าราชินีแห่งมีดมีลูกศิษย์อัจฉริยะที่ชื่อหานเซิ่นอยู่”


แบล็คสตีลมาหาหานเซิ่นที่ดาวอุปราคา เขาพูดต่อ “แต่น่าเสียดายที่ท่านพ่อของข้าไม่อนุญาตให้ข้าเดินทางออกจากแนร์โรว์มูน จนกว่าข้าจะกลายเป็นดยุก ข้าอยากจะออกไปผจญภัยร่วมกับเจ้าจริงๆ”


 


“ถ้าเจ้าอยากฝึกฝนล่ะก็ แนร์โรว์มูนก็เหมือนกับสถานที่อื่นๆ มันมีความแตกต่างเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น เมื่อเทียบกับสิ่งที่ข้าต้องทำแล้ว ข้าอยากจะอยู่ในแนร์โรว์มูนมากกว่าซะอีก ถ้าข้าเลือกได้ ข้าก็จะขออยู่ที่นี่” หานเซิ่นหัวเราะ


 


“อย่าพูดแบบนั้น ถึงยังไงซะข้าก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี”


แบล็คสตีลถอนหายใจ “อีกอย่างหนึ่งรีเบคก้ากำลังจะจัดปาร์ตี้ต้อนรับ ที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อเชิญเจ้าไปเข้าร่วม”


 


“ข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนในสวนจันทราเท่าไหร่นัก ทำไมพวกเขาถึงคิดจะเชิญข้าไปด้วยล่ะ?” หานเซิ่นประหลาดใจ


 


แบล็คสตีลกรอกตา “ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เจ้ามีชื่อเสียงโด่งดังและกลายเป็นแบบอย่างของทุกคนในแนร์โรว์มูน ตอนนี้ไม่มีใครคิดจะเป็นศัตรูกับเจ้าอีกแล้ว เมื่อไม่มีความบาดหมางอะไรต้องกังวล บางทีเจ้าควรจะไปเข้าร่วมงานปาร์ตี้กับพวกเขา?”


 


“ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าก็จะทำตามคำแนะนำของเจ้า” หานเซิ่นยิ้ม


 


เขาเดินทางไปที่ดาวกงล้อจันทราพร้อมกับแบล็คสตีล ที่นั่นรีเบคก้า ตู้ลี่เส่อและทายาทของเหล่าราชันคนอื่นต่างมารวมตัวกัน


 


การรวมตัวกันในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนที่ทุกคนต่างดูถูกและไม่คิดจะพูดกับหานเซิ่น ตอนนี้หานเซิ่นเป็นเหมือนกับดาราดังที่เป็นจุดสนใจของทุกคน ทายาทของราชันทุกคนต่างก็พูดอย่างมีมารยาท หานเซิ่นได้พูดคุยกับคนอื่นๆในคืนนี้มากกว่าตลอดเวลาที่เขาเข้าอาศัยอยู่ในแนร์โรว์มูนก่อนหน้านี้ซะอีก


 


หานเซิ่นได้อันดับที่หนึ่งในการสอบของปราสาทนภา และเขาก็เสมอกับไผ่เดียวดาย แถมเขายังฆ่าชารอนกับดราก้อนเธอร์ทีนและเอาชนะดราก้อนไนน์อีก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้หานเซิ่นถูกยกย่องว่าเป็นที่หนึ่งในหมู่คนรุ่นใหม่ของจักรวาลจีโน


 


ถึงแม้หานเซิ่นมีโอกาสต่ำที่จะได้กลายเป็นราชัน แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีใครต้องการเป็นศัตรูกับเขา


 


“มันก็แค่ชื่อเสียงชั่วคราว ทั้งหมดนี่จะเป็นอะไรที่สูญเปล่าถ้าเขากลายเป็นราชันไม่ได้” แซดไนท์นั่งดื่มอยู่ที่มุมๆหนึ่ง


 


ราชาไนท์ริเวอร์มีความบาดหมางกับหานเซิ่นมากที่สุด และแซดไนท์เองก็เช่นกัน เขาไม่ชอบใจที่หานเซิ่นกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง


 


“เจ้าพวกนี้ไม่รู้จักมองการไกลจริงๆ พวกเขาเห็นแต่ชื่อเสียงของหานเซิ่นในตอนนี้ พวกเขาไม่ได้สนใจถึงความยากที่หานเซิ่นจะพัฒนาวิชาจีโนของเขา มันไม่มีวันที่เขาจะกลายเป็นราชันได้ มันน่าขำที่ตอนนี้พวกเขาประจบหานเซิ่นแบบนั้น”


แซดดไนท์ได้ยินเสียงดังขึ้นมา และเมื่อเขาหันไปมอง เขาก็เห็นรีเบทหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา


 


แซดไนท์ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้จักชายหนุ่มคนนี้ บางทีมันอาจจะเป็นเพราะชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้เป็นคนที่มีชื่อเสียงอะไร ชายหนุ่มพูดต่อ


“แซดไนท์ ชื่อของข้าคือวิคโด ข้าจะขอคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัวหน่อยได้ไหม?”


 


“คุยอะไร?” แซดไนท์มองเขาด้วยความดูถูก


 


“ข้ามีหนทางที่จะทำให้เจ้าเอาชนะหานเซิ่นและชิงเอาชื่อเสียงของเขามาเป็นของตัวเอง เจ้าสนใจไหม?” วิคโดพูด


 


“เจ้าทำแบบนั้นได้?” แซดไนน์ขมวดคิ้ว แต่เขาดูจะไม่ได้สนใจในคำกล่าวอ้างของชายหนุ่มคนนี้มากนัก


 


“ข้าไม่ใช่คนสำคัญอะไร มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เจ้าต้องประทับใจในตัวของข้า แต่เจ้ารู้จักสิ่งนี้ใช่ไหม?” วิคโดนำโทรศัพท์ของเขาออกมาและเปิดวิดีโอให้แซดไนท์ดู


 


เมื่อแซดไนท์เห็นมัน เขาก็ดูอึ้งไปชั่วขณะ “เจ้าได้มันมาจากไหน?”


 


“ถ้าเจ้าสนใจ พวกเรามาคุยกันต่อหลังจากที่งานปาร์ตี้จบลงแล้ว” วิคโดยิ้ม


 


หลังจากที่งานเลี้ยงสิ้นสุด รีเบคก้าและตู้ลี่เส่อก็ไปส่งหานเซิ่นที่ยานอวกาศ


 


“หานเซิ่น ถ้าพวกเราเคยทำอะไรที่ทำให้เจ้าไม่พอใจ มันก็เป็นเพราะว่าพวกเราโง่เขลา ได้โปรดอย่าถือสาพวกเรา”


รีเบคก้าพูด หลังจากนั้นเธอก็มอบกล่องๆหนึ่งให้กับหานเซิ่น “นี่เป็นของขวัญที่พวกเราอยากให้เจ้ารับเอาไว้ ข้าหวังว่าเจ้าจะยกโทษให้กับพวกเราที่ปฏิบัติกับเจ้าอย่างไม่เป็นธรรมในอดีต”


 


“ไม่เป็นอะไร แม้แต่เพื่อนในบางครั้งก็ยังทะเลาะกัน และข้าก็ยังใหม่ในแนร์โรว์มูนแห่งนี้ ข้ายังไม่รู้จักพวกเจ้าดีพอ” หานเซิ่นพูด


 


“ถึงอย่างนั้นก็โปรดรับนี่ไปด้วย พวกเรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม?” รีเบคก้ายิ้มและส่งกล่องไม้ให้กับหานเซิ่น


 


“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณ” หานเซิ่นรับกล่องไม้มาและยิ้มให้กับพวกเขา

 

 

 


ตอนที่ 2078

 

ฝ่ามือ

เมื่อกลับถึงดาวอุปราคา หานเซิ่นก็เปิดกล่องออกและเห็นการ์ดสำหรับเก็บข้อมูล


 


หานเซิ่นเสียบมันเข้าไปในคอมพิวเตอร์เพื่อดูข้อมูลที่อยู่ข้างใน และเขาก็ได้พบว่าไฟล์ทั้งหมดเป็นข้อมูลของวิชาที่ชื่อแสงจันทร์ ในไฟล์อธิบายเอาไว้ว่าวิชากงล้อจันทราที่หานเซิ่นได้เรียนรู้ไปแล้ว นั้นเป็นส่วนหนึ่งของวิชาแสงจันทร์ ราชากงล้อจันทราเขียนคำอธิบายเอาไว้อย่างละเอียด และเขายังอ้างอิงวิชาต่างๆและประสบการณ์ประกอบไปด้วย


 


จนถึงตอนนี้หานเซิ่นยังไม่สามารถประยุกต์ใช้วิชากงล้อจันทราได้ นั่นเป็นเพราะเขาได้เรียนรู้เพียงแค่ระดับพื้นฐานของวิชาเท่านั้น ซึ่งต่างจากวิชาจันทราที่เขาสามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นข้อมูลนี้จึงเป็นอะไรที่มีค่าสำหรับเขามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นอะไรที่มีประโยชน์ที่ได้รู้เกี่ยวกับประสบการณ์และเทคนิคของราชากงล้อจันทรา


 


ข้อมูลส่วนสุดท้ายคือคำอธิบายเกี่ยวกับวิชาจันทราของราชากงล้อจันทรา ซึ่งนั่นทำให้มันมีความหมายต่อหานเซิ่นมากยิ่งขึ้นไปอีก


 


“นี่เป็นของขวัญที่มีค่าอย่างยิ่งจากราชากงล้อจันทรา”


หานเซิ่นรู้ว่าของขวัญแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่รีเบคก้าและน้องสาวจะมอบให้ใครก็ได้ ราชากงล้อจันทราต้องเห็นชอบด้วยอย่างแน่นอน


 


หานเซิ่นอยู่บนดาวอุปราคาต่ออีก 2 วัน เป่าเอ๋อควรจะกลับมาหาเขาตั้งแต่ 2 วันก่อน แต่อี๋ซาถูกใจในตัวเป่าเอ๋อและต้องการให้เธออยู่ที่ปราสาทต่ออีกสัก 2-3 วัน


 


หานเซิ่นไม่รู้ว่าอี๋ซาชอบเป่าเอ๋อจริงๆ หรือว่าเธอค้นพบความจริงอะไรบางอย่างกันแน่ แต่ถึงยังไงมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขาแค่ต้องรอให้เธอกลับมา


 


เมื่อราชาชาโดว์กลับมา แนร์โรว์มูนก็กลายเป็นจุดสนใจของหลายๆฝ่าย ราชาชาโดว์ ราชาไนท์ริเวอร์ ราชากงล้อจันทราและราชินีแห่งมีดเพิ่งจะไปสำรวจสถานโบราณของเผ่าพันธุ์ชั้นสูง


 


ในระหว่างการสำรวจ ของสำคัญชิ้นหนึ่งถูกขุดขึ้นมา และเมื่อมันถูกเปิดเผยออกมา ผู้คนทั่วทั้งแนร์โรว์มูนต่างก็รู้สึกตื่นเต้น


 


โบราณสถานแห่งนั้นเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าในสมัยโบราณ มันมีสิ่งของมีค่าอยู่มากมาย รวมถึงวิชาจีโนที่ทรงพลังด้วย


 


แต่เนื่องจากเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นวิชาจีโนจึงถูกส่งไปยังสถานวิจัยของแนร์โรว์มูนที่เทียบได้กับสวนวิถีนภา


 


สิ่งที่พวกเขานำกลับมาเป็นกำแพงโลหะขนาดใหญ่ นักวิจัยของรีเบทคาดเดาว่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าในอดีตได้ฝึกวิชาจีโนกับกำแพงนี้ โดยใช้มันเป็นเหมือนกับกระสอบทราย


 


มันอาจจะฟังดูเหมือนเป็นเครื่องมือธรรมดาๆ แต่กำแพงไหนที่สามารถทนต่อพลังระดับเทพเจ้าได้โดยไม่ถูกทำลายถือเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ มันต้องถูกสร้างขึ้นมาจากวัตถุหายาก ด้วยเหตุนั้นทางรีเบทจึงเชื่อว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง


 


มันมีรอยบุบรูปฝ่ามืออยู่บนกำแพงมากมาย ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามันเป็นผลจากวิชาจีโนของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า มันเป็นวิชาจีโนที่น่ากลัวและรอยฝ่ามือยังคงแฝงจิตวิญญาณของยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามาถึงทุกวันนี้ ผู้คนมากมายในแนร์โรว์มูนต่างก็ไปดูมัน และหลายๆคนก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากมัน


 


หานเซิ่นไม่มีอะไรทำบนดาวอุปราคา เขาจึงเริ่มรู้สึกเบื่อ ถ้าอี๋ซาไม่ได้ต้องการให้เป่าเอ๋ออยู่ที่ปราสาทต่อล่ะก็ ปานนี้เขาคงจะพาเป่าเอ๋อไปที่ปราสาทนภาแล้ว หานเซิ่นอยากจะรีบกลับไปจับวิญญาณหยกในสถานหยกขาวต่อ


 


หานเซิ่นพานางฟ้า หานเมิ่งเอ๋อและซีโร่ไปดูกำแพงโลหะนั่น เมื่อไปถึงหานเซิ่นก็ได้รู้ว่าทำไมทางรีเบทถึงไม่ปกปิดการมีอยู่ของมัน


 


มันเป็นลูกบาศก์โลหะสีฟ้าที่ยาวกว่าหนึ่งพันเมตร เมื่อหานเซิ่นไปยืนอยู่ใกล้ๆมัน มันก็ดูใหญ่โตราวกับภูเขา การจะซ่อนสิ่งที่ใหญ่โตแบบนี้เป็นเรื่องยาก


 


บนผิวของลูกบาศก์โลหะสีฟ้ามีรอยฝ่ามืออยู่ทั่วไปหมด บางรอยตื้น บางรอยลึก ซึ่งฝ่ามือแต่ละรอยมีทั้งหมด 5 นิ้วเหมือนกับของมนุษย์ แต่พวกมันมีขนาดใหญ่กว่า


 


“นี่น่ะหรอโบราณวัตถุที่ถูกค้นพบ?” หานเซิ่นพูดขณะที่ตรวจสอบรอยฝ่ามือ


 


“ใช่แล้ว สิ่งนี้ถูกค้นพบในโบราณสถานของเผ่าลิกุ เมื่อตัดสินจากกระดูกของพวกเขา พวกเขาน่าจะสูงถึง 100 เมตร”


รีเบคก้าเดินเข้ามาพร้อมกับตู้ลี่เส่อและคนอื่นๆ


 


แซดไนท์เองก็อยู่ในกลุ่มด้วยเช่นกัน เขามองหานเซิ่นด้วยความดูถูก


 


“อย่างนี้นี่เอง” หานเซิ่นพยักหน้า เขามองไปที่รอยฝ่ามือและรู้สึกได้ถึงสัมผัสประหลาด


 


ขณะที่หานเซิ่นมองไปที่รอยฝ่ามือ เขาก็รู้สึกราวกับว่าฝ่ามือพวกนั้นสามารถทำลายล้างทั้งกาแล็คซี่ได้เลย


 


“ลิกุระดับเทพเจ้าทรงพลังอย่างมาก ไม่รู้ว่าลูกบาศก์โลหะสีฟ้านี้อยู่มานานแค่ไหนแล้ว แต่จิตวิญญาณที่ใส่เข้าไปในฝ่ามือพวกนี้เป็นอะไรที่น่าตกใจ” หานเซิ่นพูด


 


“หานเซิ่น ถ้าเจ้าค้นพบอะไรบางอย่าง ทำไมเจ้าไม่แบ่งปันมันให้พวกเราได้เรียนรู้ไปด้วยล่ะ?” ตู้ลี่เส่อถามพร้อมกับกระพริบตา


 


หานเซิ่นส่ายหัว “ข้าไม่ได้ศึกษารอยฝ่ามือพวกนี้ ข้าแค่รู้สึกได้ถึงความหมายที่แฝงอยู่เท่านั้น”


 


หลังจากที่หานเซิ่นพูดแบบนั้น ก็มีเสียงใครบางคนพูดขึ้นมา


“หานเซิ่น เจ้าจะถ่อมตัวเกินไปแล้ว อัจฉริยะอย่างเจ้าแค่จำเป็นต้องมองเท่านั้น เจ้าต้องรู้อะไรมากกว่านั้นสิ”


 


หานเซิ่นหันหาคนที่พูดและเห็นว่าเขาคือแซดไนท์ที่เป็นลูกชายของราชาไนท์ริเวอร์


 


แซดไนท์ถูกอัดโดยเซี่ยชิง ดังนั้นเป็นไปได้สูงที่เขาจะยังเกลียดชังหานเซิ่นกับเซี่ยชิง แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจอะไรการสบประมาทของเขา


 


“ข้าโง่เขลา ข้ามองไม่เห็นอะไร ถ้าเจ้าเห็นอะไรบางอย่างล่ะก็ บางทีเจ้าก็ควรจะบอกพวกเรา?” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม


 


ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แซดไนท์ต้องการ เขาพูด “ข้าได้ดูคร่าวๆแล้ว ข้าจึงมีความคิดเห็นที่จะแบ่งปันให้กับเจ้า”


 


รีเบคก้าและคนอื่นๆดูประหลาดใจ แซดไนท์เป็นคนที่มีพรสวรรค์และชาญฉลาด แต่พวกเขาไม่เชื่อว่าแซดไนท์จะเหนือไปกว่าหานเซิ่น มันไม่มีทางที่เขาจะเห็นถึงสิ่งที่หานเซิ่นไม่เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาแค่มองดูคร่าวๆ


 


แซดไนท์สามารถบอกได้ว่าคนอื่นดูไม่เชื่อเขา ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจหานเซิ่นยิ่งกว่าเดิม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นรอยฝ่ามือนี้เช่นเดียวกับคนอื่น แต่เขามีความรู้เกี่ยวกับพวกมัน มันไม่ใช่สิ่งที่เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่ตราบใดที่เขาทำให้หานเซิ่นอับอายได้ เรื่องอื่นไม่สำคัญ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน ตอนที่ 1-2088 (จบบริบูรณ์)

The Great Ruler หนึ่งในใต้หล้า (update ตอนที่ 1-1554)

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ (update ตอนที่ 1-1122)